The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หน่วยที่ 3 การวิเคราะห์ปัญหาและการประเมินสถานการณ์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ยุวดี สินชัย, 2020-06-11 22:58:46

หน่วยที่ 3 การวิเคราะห์ปัญหาและการประเมินสถานการณ์

หน่วยที่ 3 การวิเคราะห์ปัญหาและการประเมินสถานการณ์

หน่วยที่ 3
การวิเคราะห์ปัญหาและการประเมนิ สถานการณ์

ปญั หา หมายถงึ ปรากฎการณ์ เหตกุ ารณ์ หรือประเดน็ ที่เป็นข้อสงสัย ข้อขดั ขอ้ ง หรือความสอดคล้องที่
ปรากฎขึน้ อาจเป็นอปุ สรรคหรอื ขัดขวางไมใ่ หเ้ กดิ ผลตามท่ีคาดหวังไว้

การคดิ แก้ปัญหา หมายถึง ความสามารถของสมองในการขจัดสภาวะความไมส่ มดลุ ที่เกดิ ขึน้ โดย
พยายามปรบั ตัวเองและสิ่งแวดล้อมใหผ้ สมกลมกลืนกลับเขา้ สสู่ ภาวะสมดุลหรอื สภาวะท่เี ราคาดหวงั

ในชีวิตประจำวนั ของคนเรานน้ั มักจะพบปญั หาต่าง ๆ มากมาย เชน่ ปญั หาสว่ นตัว ปัญหาเกี่ยวกับ
การท างานปัญหาทางสังคม ผูค้ ิดแก้ปญั หาจะตอ้ งศกึ ษาถงึ สาเหตุที่มาของ ปัญหา ซงึ่ จะมีลักษณะแตกต่างกนั
และจะพยายามคดิ ค้นหาวธิ กี ารที่เหมาะสมท่ีสุดเพือ่ จะแก้ไข การคดิ หาวิธีการอาจได้มาโดยการศึกษาหา
ความรูจ้ ากแหล่งต่าง ๆ การขอคำปรกึ ษาจากผทู้ ี่มี ประสบการณเ์ ก่ยี วกับเรอื่ งน้นั มากอ่ น แล้วจงึ ตัดสินใจเลอื ก
วิธที ีด่ ที ่ีสดุ ในการตัดสินใจนน้ั

ประเภทของปัญหา

ปญั หาอาจจดั แบ่งประเภทได้ดว้ ยหลายปจั จัย อาทิ

ประเภทของปัญหาแบ่งตามลักษณะทัว่ ไป-เฉพาะกจิ โดยพเี ตอร์ ดรักเกอร์ (Peter Drucker) แบง่ เปน็
4 ประเภทไดแ้ ก่ [1]

1. ปัญหาทั่วไปโดยแทจ้ รงิ - เกดิ ขนึ้ ไดบ้ ่อยและทั่วไปในหลายโอกาส ผู้ที่เกย่ี วข้องอาจสรา้ งแบบจำลอง
เพอื่ รบั มือกับปัญหา ปญั หาจึงสามารถแก้ไดโ้ ดยง่าย

2. ปญั หาทวั่ ไป แต่เฉพาะกิจในสถานการณเ์ อกเทศ - เมอ่ื แบบจำลองสำหรับรบั มือกบั ปญั หาไม่สามารถ
แกไ้ ขได้ จำเปน็ ตอ้ งมีการวเิ คราะห์เพม่ิ เติมเพือ่ แก้ปัญหาเปน็ เรอ่ื ง ๆ ไป ปญั หาลักษณะน้ีอาจเกดิ ซ้ำได้
อีกแต่รายละเอียดจะไมเ่ หมือนกัน

3. ปัญหาเฉพาะกิจโดยแท้จรงิ - รายละเอยี ดของปญั หาแตกต่างจากปัญหาอ่ืนโดยสน้ิ เชิง เกิดข้นึ ได้น้อย
และต้องการการวิเคราะห์อยา่ งสงู เมอื่ ปัญหาได้รับการแก้ไขอาจจะไมเ่ กดิ ปญั หาแบบเดมิ อีก

4. ปัญหาท่วั ไปทค่ี ดิ ไวล้ ว่ งหน้าเป็นปัญหาใหม่ - เป็นการเตรียมรับมือปัญหาทั่วไปทีจ่ ะเกิดขึน้ ในอนาคต
โดยผู้ท่ีเกยี่ วขอ้ ง แมป้ ญั หาน้นั จะยังไม่เกิด

ประเภทของปญั หาแบง่ ตามรากฐานกำเนิด โดยแดเนยี ล เทยากู (Daniel Theyagu) แบง่ เป็น 4
ประเภทไดแ้ ก่ [2]

1. ปญั หาทีม่ าจากคำถาม - เกิดข้ึนเมอ่ื มีคำถามท่ีต้องการคำตอบ และบางคร้งั มันกอ็ าจจะยากที่จะให้
คำตอบ เพราะอาจต้องรวบรวมขอ้ มลู และขอ้ เท็จจรงิ ท่เี กย่ี วข้อง เพอื่ นำมาตอบคำถามหรอื ตัดสินใจ

2. ปัญหาที่มาจากสถานการณ์ - เกิดข้ึนเมื่อสถานการณ์ปัจจบุ ันประสบสภาวะลำบาก ตอ้ งกระทำการ
อยา่ งใดอย่างหนง่ึ เพื่อแก้ปญั หา บางคร้งั ปัญหาเกิดขนึ้ เมอื่ จำเปน็ ต้องเลอื กสิง่ หนงึ่ และจำใจต้องละท้งิ
อีกสง่ิ หนงึ่ ซ่งึ ส่งิ ที่ถกู ละท้งิ ก็อาจจะเปน็ ปัญหาใหม่

3. ปญั หาที่มาจากการโน้มน้าว - การโน้มน้าวจูงใจจากเพื่อนร่วมงาน เจา้ นาย ลกู ค้า หรอื คนใน
ครอบครวั อาจกอ่ ให้เกดิ ปัญหา เนอ่ื งจากหากเหน็ ใจและทำตามการโน้มน้าว อาจจะส่งผลกระทบต่อ
ตัวเองหรอื ผู้ที่เกย่ี วขอ้ ง หรอื หากไม่ทำตามก็จะถกู ตำหนหิ รอื ถูกตราหนา้ จากเพอ่ื นรว่ มงาน ฯลฯ
ดงั กลา่ ว

4. ปญั หาท่มี าจากการแกป้ ญั หา - เปน็ ปญั หาท่จี ำเป็นต้องได้รบั การแกไ้ ขปัญหา หากไม่แกป้ ัญหาจะไม่
สามารถดำเนินงานตอ่ ไปได้ ควรมกี ารวางแผนเพอ่ื รบั มอื กบั ปญั หาเดมิ ท่อี าจเกดิ ข้นึ ได้ในอนาคต
ประเภทของปญั หาแบ่งตามความคงอยู่ โดยจแู รน (Juran) แบง่ เปน็ 2 ประเภทไดแ้ ก่ [3]

1. ปัญหาครง้ั คราว - เกิดขนึ้ ไมบ่ ่อย ไมส่ ามารถคาดการณไ์ ด้ แต่สามารถทำให้ปัญหาหมดไปได้
2. ปญั หาเรือ้ รัง - เกิดขน้ึ ไดต้ ลอดเวลา สามารถคาดการณ์ได้ อาจแกไ้ ขให้หมดไปไม่ได้แตส่ ามารถลดความ

รุนแรงใหน้ อ้ ยลงได้

ประเภทของปญั หาแบง่ ตามความซับซ้อน โดยเอเมอรี (F.E. Emery) และทริสต์ (E.L. Trist) แบ่งเป็น 4
ประเภทไดแ้ ก่ [4]

1. ปัญหาไมซ่ ับซ้อนและแก้ไดด้ ว้ ยตัวเอง - เป็นปญั หาท่งี ่ายต่อการจดั การและกำจดั ให้หมดส้ินไป ดว้ ย
พละกำลังท่ีตวั เองมีอยู่

2. ปญั หาไมซ่ ับซ้อนและตอ้ งรวมกลมุ่ เพือ่ แกป้ ัญหา - เปน็ ปญั หาที่ยากมากข้ึน ไมส่ ามารถแก้ได้ด้วย
พละกำลงั ของตวั เอง จำเป็นต้องมีการรวมกลุม่ กบั หนว่ ยอ่ืนเพ่ือแก้ปญั หารว่ มกนั

3. ปญั หาซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงไปตามวิสัย - เปน็ ปัญหาทีเ่ กดิ ข้นึ หลังจากหรือในระหวา่ งการแก้ปญั หา
อ่นื ซ่ึงผลลัพธ์ของการแกป้ ญั หากอ่ ให้เกิดปญั หาใหมต่ ามมา อาจตอ้ งมกี ารรวมกลมุ่ เพือ่ แก้ปัญหา

4. ปญั หาซับซ้อนและเปลย่ี นแปลงอยา่ งก้าวรา้ ว - เป็นปญั หาท่ีมีความซับซอ้ นมากที่สุด เน่ืองจากไม่

ลำดับขน้ั ตอนของวธิ กี ารคิดวิเคราะหเ์ พ่ือแก้ปญั หา

สามารถคาดการณ์ได้ มีความไม่แนน่ อนและความเส่ยี งสงู

การคิดวเิ คราะห์

เพอ่ื แก้ไขปญั หาอาจแบ่งออกไดเ้ ป็น 6 ขั้นตอน (ภาพท่ี 1) (Peter Tugwell 1983) ดังน้ี

1. การประเมินสถานการณ์
2. การศกึ ษาต้นเหตุของปญั หา
3. การคน้ หาวิธกี ารในการแกป้ ัญหา
4. การดำเนนิ การแกป้ ัญหา
5. การควบคุมกำกบั การดำเนินการตามแผน
6. การประเมนิ ผลการดำเนนิ การ

ภาพที่ 1 ลำดับขน้ั ตอนของวธิ ีการคิดวิเคราะห์เพือ่ แก้ปัญหา

ข้ันตอนท่ี 1 การประเมินสถานการณ์ เปน็ การวิเคราะห์ถึงสภาพ ขอบเขต ขนาดของปญั หา เช่น ประเมนิ
สถานการณ์ของโรคใดโรคหนึ่ง โดยใช้สถิติชีพ (Vital statistics) และดชั นอี นามยั (Health indices) ที่
เหมาะสม เป็นตน้ ตวั อย่าง เช่น ประเมนิ สถนาการณข์ องไขม้ าเลเรยี โดยการดอู ัตราเกดิ โรคในรอบปี (Annual
Parasits Incidece Rate) หรอื ดูอตั ราพบเช้อื ในฟลิ ม์ โลหติ (Slide Positive Rate) หรือดูจากแหล่งสะสมเช้อื
(Pool of infection) (Kaewsonthi & Harding 1987)

ข้ันตอนท่ี 2 การคน้ หาตน้ เหตุของปัญหา (Etiology or Causation) เปน็ การศึกษาถึงตน้ เหตุ หรือปัจจยั เสี่ยง
ที่อาจเป็นตน้ เหตขุ องปัญหา หรือโรคนนั้ ๆ โรคบางอย่างอาจมีสาเหตเุ ฉพาะทีช่ ัดเจน เช่น ไขเ้ ลอื ดออก วัณโรค
หรือมาลาเรีย เป็นตน้ แต่บางโรค อาจมตี น้ เหตุจากปจั จัยหลายอย่าง (Multiple causal factors) เชน่ ภาวะ
ขาดอาหาร มะเรง็ โรคเส้นเลอื ดสมอง เปน็ ต้น ซึง่ ปัจจัยเสย่ี งดังกล่าว อาจเนื่องมาจาก สาเหตุทางพนั ธกุ รรม
สงิ่ แวดล้อม สังคม วัฒนธรรม ความเช่อื ทส่ี ง่ ผลตอ่ พฤตกิ รรมผิด ๆ อันเออื้ อำนวยในการเกิดโรคหรือปัญหา
เนื่องมาจากการไปรับบริการ ทางการแพทย์

ขน้ั ตอนท่ี 3 การค้นหาวิธีการในการแกป้ ญั หา เมื่อทราบถงึ ปัญหาและต้นเหตุของปัญหาแล้ว ขั้นตอนตอ่ ไปก็
คือ การแสวงหาแนวทาง และเลอื กแนวทางท่เี หมาะสม ในการแก้ ปญั หานัน้ ๆ ซ่ึงเม่ือมที างเลอื กหลายทางก็
จำเปน็ ตอ้ งมีการประเมินทางเลอื กตา่ งๆ เพอ่ื ประกอบการตดั สินใจเลือกทางเลือกท่เี หมาะสม

การประเมินวิธีการในการแกป้ ัญหา (เช่น การประเมินยาใหม)่ มขี ั้นตอนในการ ศกึ ษาอยู่ 3 ขน้ั ด้วยกนั โดยใน
ขน้ั ตอนแรก เปน็ การประเมินว่ายานน้ั ดีจริงหรอื ไม่ (ประเมนิ เกี่ยวกับ Efficacy) ถ้าประเมนิ แลว้ วา่ ยานนั้ ดจี รงิ
กต็ อ้ งประเมินตอ่ ไปว่า ที่ดจี ริงน้ัน จะสามารถใชไ้ ดจ้ ริง ๆ ในทางปฏิบัติหรอื ไม่? (ประเมินเกี่ยวกับประสิทธิผล
= Effectiveness) และถ้าปรากฏว่ายานั้นดจี รงิ และใชไ้ ด้จรงิ ๆ ในทาง ปฏิบัติก็มาถึงการประเมินในข้ันตอน
สุดท้ายว่ายาน้นั คุ้มกับตน้ ทนุ ท่ลี งไปหรอื ไม่? (ประเมนิ ประสทิ ธภิ าพ = Efficiency) ในทางปฏบิ ตั ิ ผู้วิจัยอาจ
ประเมนิ ทั้ง 3 ขัน้ ตอนไปพรอ้ ม ๆ กันเลยกไ็ ด้

ขนั้ ตอนที่ 4 การดำเนนิ การแก้ปัญหา (Implementation) เป็นการดำเนนิ การโดยใช้ทางเลอื กท่ี เหมาะสม
ทีส่ ุดจากการประเมินในขน้ั ตอนท่ี 3 มาดำเนนิ การ เพือ่ จะทำให้เกิด ประโยชน์สูงสดุ ดว้ ยทรพั ยากรอนั จำกัดน้นั
ในข้ันตอนอาจจำเปน็ ต้องมีการวิจยั ทเ่ี รยี กว่า การวจิ ยั เชิงปฏบิ ตั กิ าร หรอื การวจิ ยั ข้นั ดำเนนิ การ
(Operational Research) เพ่ือหารูปแบบ (Model) ของบรกิ ารท่ี เหมาะสมสำหรบั การแกป้ ัญหานัน้

ขนั้ ตอนท่ี 5 การควบคุมกำกับการดำเนนิ การ (Monitoring) เปน็ การติดตามการปฏิบัติงานเป็นระยะ เพื่อ
เปรยี บเทยี บผลของการปฏิบตั งิ าน กบั วตั ถปุ ระสงค์ของแผนและการ เปน็ ไปตามขัน้ ตอนท่ีกำหนดในแผน ทั้งนี้
จะได้ทำใหก้ ารปฏิบัติงานเปน็ ไปตาม แผนท่ีกำหนด และสามารถแก้ปัญหาท่ีเกิดข้นึ ระหว่างการปฏิบตั ิงานได้

ข้ันตอนที่ 6 การประเมนิ ผล (Evaluation) เพอื่ ประเมินความสำเรจ็ ของการปฏบิ ตั งิ านและประเมินว่าขนาด
ของปัญหานน้ั ลดลงหรอื ไม่ หลงั จากได้ทำครบวงจรแลว้

การคิดวิเคราะห์ เพอื่ การแกป้ ญั หาทีใ่ ห้ผลดีควรจะเป็นระบบและครบวงจรทง้ั 6 ขนั้ ตอนดงั กลา่ วขา้ งต้น ไม่วา่
ปัญหาจะเปน็ รูปแบบใด แนวคดิ วิเคราะห์เพ่อื การแก้ปัญหาเป็นระบบเดยี วกนั

การวเิ คราะห์ SWOT (SWOT Analysis)
การวเิ คราะห์ SWOT หรอื การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมและศกั ยภาพเป็นเคร่ืองมือในการประเมนิ สถานการณ์
สำหรับการประกอบธุรกจิ ซ่งึ ช่วยให้ผู้บริหารรู้ถงึ จดุ แขง็ และจุดอ่อนจากสภาพแวดล้อมภายใน มองเห็นโอกาส
และอปุ สรรคจากสภาพแวดลอ้ มภายนอก ตลอดจนผลกระทบตอ่ การประกอบธุรกิจทกุ ประเภท

ความหมาย SWOT

จุดแขง็ (Strengths) : จุดเด่นหรือจดุ แขง็ (ขอ้ ไดเ้ ปรยี บ) เปน็ ผลมาจากปัจจัยภายใน เปน็ ขอ้ ดีท่ีเกิดจาก
สภาพแวดลอ้ มภายในบริษัท เช่น จดุ แขง็ ด้านการเงนิ และข้อไดเ้ ปรียบดา้ นการผลิต และดา้ นทรพั ยากรบคุ คล
โดยบรษิ ทั จะตอ้ งใชป้ ระโยชนจ์ ากจดุ แข็งในการกำหนดกลยทุ ธ์การตลาด

จุดออ่ น (Weaknesses) : จุดด้อยหรือจุดออ่ น ข้อเสียเปรียบเป็นผลมาจากปัจจัยภายใน เป็นปัญหาหรือ
ขอ้ บกพร่องทเี่ กิดจากสภาพแวดลอ้ มภายในต่าง ๆ ของบริษทั เชน่ การขาดเงนิ ทนุ นโยบายและทิศทาง การ
บริการท่ีไม่แน่นอน หรือบุคลากรท่ไี ม่มคี ณุ ภาพ ซึ่งบรษิ ทั จะตอ้ งหาวธิ ใี นการปรบั ปรงุ ใหด้ ขี นึ้ หรือขจดั ใหห้ มด
ไปอนั จะเป็นประโยชนต์ ่อบรษิ ัท

โอกาส (Opportunities) : เกิดจากปัจจัยภายนอก เป็นผลจากการที่สภาพแวดล้อมภายนอกของบรษิ ัทเออ้ื
ประโยชน์ หรอื ส่งเสริมการดำเนินงานของบรษิ ัท โอกาสแตกตา่ งจากจดุ แข็งตรงทโ่ี อกาสเปน็ ผลมาจาก
สภาพแวดลอ้ มภายนอก แตจ่ ดุ แข็งเปน็ ผลมาจากสภาพแวดลอ้ มภายใน ผปู้ ระกอบการทีด่ ีจะต้องแสวงหา
โอกาสอยเู่ สมอ โดยการวิเคราะหส์ ่ิงแวดลอ้ มภายนอกทเี่ ปลย่ี นแปลงอยเู่ สมอ ตลอดเวลา เช่น เศรษฐกิจ สังคม
การเมอื ง เทคโนโลยแี ละการแข่งขันในตลาด และใชป้ ระโยชน์จากโอกาสนั้น

อปุ สรรค (Threats) : เกดิ จากปัจจัยภายนอก เป็นขอ้ จำกัดที่เกดิ จากสภาพแวดล้อมภายนอกที่สง่ ผลเสียต่อ
ธรุ กิจ เช่น ราคาน้ำมันท่ีสงู ขนึ้ อตั ราดอกเบี้ยทีส่ งู ข้ึน สภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตวั ผู้ประกอบการจำเป็นตอ้ งปรับ
กลยทุ ธท์ างการตลาดให้สอดคลอ้ ง และพยายามขจัดอุปสรรคต่าง ๆ ท่เี กิดข้ึนให้ได้

การประเมนิ สภาพแวดล้อมภายใน
การวิเคราะหแ์ ละพิจารณาทรพั ยากรและความสามารถภายในบรษิ ัททกุ ๆ ด้านเพอื่ ท่ีจะระบจุ ดุ แขง็ และ
จุดออ่ นของธุรกิจ แหลง่ ทีม่ าเบ้อื งตน้ ของขอ้ มลู เพื่อการประเมนิ สภาพแวดลอ้ มภายใน คือระบบขอ้ มูลเพ่อื การ
บรหิ ารที่ครอบคลมุ ทกุ ด้าน ทั้งในดา้ นโครงสร้างระบบ ระเบียบ วิธีปฏบิ ัติงาน บรรยากาศในการทำงานและ
ทรพั ยากรในการบรหิ าร (คน เงนิ วัสดุ การจัดการ) รวมถงึ การพจิ ารณาผลการดำเนนิ งานที่ผ่านมาของบรษิ ัท
เพือ่ ท่ีจะเขา้ ใจสถานการณ์และผลกลยุทธก์ อ่ นหน้าน้ดี ว้ ย

การประเมนิ สภาพแวดลอ้ มภายนอก
ภายใต้การประเมินสภาพแวดล้อมภายนอกของบรษิ ทั ทำใหส้ ามารถคน้ หาโอกาสและอุปสรรค การดำเนินงาน
ของบรษิ ัททีไ่ ดร้ ับผลกระทบจากสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจทั้งในประเทศและระหว่างประเทศทเี่ กี่ยวกบั การ
ดำเนนิ งานของบริษัท เชน่ อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกจิ นโยบาย การเงนิ การงบประมาณ สภาพแวดลอ้ ม
ทางสังคม เชน่ ระดับการศกึ ษา การต้งั ถ่นิ ฐานและการอพยพของประชาชน ลักษณะชมุ ชน ขนบธรรมเนยี ม
ประเพณี คา่ นยิ ม ความเช่ือและวฒั นธรรม สภาพแวดลอ้ มทางการเมือง เชน่ บทบัญญตั กิ ฎหมายต่าง ๆ มติ
คณะรฐั มนตรี และสภาพแวดล้อมทางเทคโนโลยี หมายถงึ กรรมวธิ ใี หม่ ๆ และพฒั นาการทางด้านเครอ่ื งมือ
อปุ กรณท์ ่จี ะช่วยเพ่มิ ประสิทธภิ าพในการผลติ และการบรกิ าร

การวิเคราะหส์ ถานการณ์ (SWOT Analysis) การประกอบธรุ กิจในฟนิ แลนด์

จุดแข็ง
1. การจัดต้งั บรษิ ัทงา่ ยและกฎระเบียบไมซ่ ับซอ้ น
2. รัฐมีระบบการสนบั สนุนด้านเงินทุนสำหรับการเร่ิมประกอบธรุ กจิ
3. การประกอบธุรกิจมคี วามชดั เจน โปร่งใส และตรวจสอบได้

จุดออ่ น
1. ผู้ประกอบการควรมีความร้คู วามเข้าใจเกยี่ วกบั ภาษา และพฤตกิ รรมการบรโิ ภคของชาวฟินแลนด์
2. ผูป้ ระกอบการจะต้องมคี วามรคู้ วามเข้าใจในกฎหมายแรงงานของฟนิ แลนด์
3. มกี ฎหมายคุม้ ครองลูกจ้างทีน่ ายจ้างจำเปน็ ต้องปฏบิ ัตติ าม เช่น การทำประกนั สงั คมและ ประกนั สุขภาพ
รวมถึงประกนั อุบตั เิ หตจุ ากการจ้างงานซงึ่ ทำใหม้ ตี ้นทุนสูงในการประกอบธุรกจิ

โอกาส

1. การประกอบธุรกจิ ท่ีมเี อกลักษณค์ วามเปน็ ไทยจะดงึ ดูดลกู ค้าไดม้ ากกวา่ เนอ่ื งจากชาวฟนิ แลนด์ใหค้ วาม
สนใจประเทศไทยเป็นอยา่ งมาก
2. ธรุ กจิ สามารถเติบโต สรา้ งความม่ันคง และสรา้ งเงินหมนุ เวียนได้
3. ชาวฟนิ แลนดม์ รี ายได้ดี และกำลงั ซอ้ื สงู
4. การเลือกประกอบธรุ กจิ ในทำเลทดี่ ีจะสามารถสรา้ งเงนิ หมนุ เวยี นไดส้ ูงและมีลกู ค้าประจำ

อุปสรรค

1. ชาวฟนิ แลนด์มีความรอบคอบในการเลอื กทีจ่ ะบริโภคสนิ คา้ ราคาถกู ทม่ี ีปรมิ าณมาก
2. ชาวฟนิ แลนด์ไม่ใชจ้ ่ายฟุ่มเฟือย การประกอบธรุ กิจเกย่ี วกบั ปัจจัยในการดำรงชวี ติ เชน่ อาหาร เครอ่ื งนุง่ หม่
การสือ่ สาร เป็นสิ่งท่ชี าวฟนิ แลนด์ใหค้ วามสนใจมากกว่า
3. พื้นท่เี ชา่ ในทำเลย่านธุรกิจมีการแขง่ ขนั สงู ทำใหห้ าพื้นทท่ี มี ีศกั ยภาพดียากขึ้น หรอื อาจหาได้ในราคาที่สูง
เกนิ ไป
4. ผปู้ ระกอบการควรต้องรภู้ าษาท้องถ่ิน แม้วา่ ชาวฟนิ แลนดม์ ากกว่าร้อยละ 85 สามารถ สือ่ สารภาษาองั กฤษ
ได้ แต่ก็คาดหวังทจ่ี ะไดร้ บั การบรกิ ารและการส่ือสารในภาษาท้องถนิ่
การวิเคราะห์ SWOT (หรือ SWOT Matrix) เป็นเทคนคิ การวางแผนเชงิ กลยุทธ์ทางธรุ กิจท่บี ุคคลหรอื องคก์ ร
ใชใ้ นการระบุจุดแข็ง จุดออ่ น โอกาส และภัยคุกคามในแนวคิดหรอื โครงการกอ่ นดำเนินการ

อยา่ งไรก็ตาม มที ั้งขอ้ ดีและข้อเสยี ทเ่ี ก่ยี วข้องกับการวเิ คราะห์ประเภทน้ี ดงั นนั้ ก่อนท่จี ะใช้ SWOT เพ่อื ตัดสิน
แนวคดิ ทางธุรกิจหรือขอ้ เสนอแนะ น่ีคือขอ้ ดีและข้อเสยี ของกระบวนการนค้ี ุณควรพจิ ารณาและสิง่ ทีพ่ วกเขา
ส่งผลต่อธรุ กจิ ของคุณ

ขอ้ ดี

Zero cost: หนึ่งในข้อได้เปรียบทใี่ หญ่ท่ีสุดของการวิเคราะห์ SWOT คอื ไม่มตี น้ ทุนทเ่ี ก่ยี วข้อง เปน็ การ
วเิ คราะหท์ ่ีทกุ คนในธุรกิจสามารถทำไดอ้ ยา่ งสมเหตสุ มผลและไมจ่ ำเป็นตอ้ งมกี ารนดั หมายของผู้เชย่ี วชาญหรอื
ท่ีปรึกษา เป็นวิธที มี่ ปี ระสทิ ธิภาพในการวเิ คราะห์โครงการและข้อเสนอภายในบริษทั ในหน้าท่ีหรือ
อุตสาหกรรมใดๆ

ผลลัพธ์ที่สำคัญ: ประโยชน์ของการวิเคราะห์ SWOT คอื การระบจุ ดุ แขง็ จดุ ออ่ น โอกาส และภยั คุกคามใน
แนวคิดทีไ่ ด้รบั การวเิ คราะห์ ผลลัพธท์ ่ีดีเยี่ยมซึ่งเป็นส่ิงท่ีสำคัญมากสำหรบั บรษิ ทั คอื การเพมิ่ จดุ แข็งและลด
จดุ ออ่ นเพ่ือใหบ้ ริษทั สามารถใชป้ ระโยชน์จากโอกาสภายนอกท่รี ะบุไว้ข้างตน้ เพอ่ื เอาชนะภัยคกุ คามท่ีระบุได้
ในแงน่ ม้ี คี ่าท่ดี ใี นผลลัพธ์ทีส่ ามารถสรา้ งการวิเคราะห์ SWOT สำหรบั ธุรกจิ ได้

แนวคดิ ใหม่: ข้อดีอีกประการหนง่ึ ของการวิเคราะห์ SWOT คือการชว่ ยสรา้ งแนวคิดใหม่ๆในการดำเนนิ ธรุ กิจ
การตรวจสอบปัญหาที่ปรากฏในคอลัมนแ์ ละแถวของการวเิ คราะห์ SWOT ในฐานะสังคมจะไมเ่ พยี งเพ่ิมความ
ตระหนักถงึ ข้อดี (หรอื ข้อเสยี ) ท่อี าจเกิดขึ้นและภัยคกุ คามเทา่ นัน้ แตย่ ังสามารถชว่ ยใหเ้ ราสามารถตอบสนอง
ได้อยา่ งมีประสิทธิภาพมากขน้ึ ในอนาคต ของแผนการท่จี ะตอบโตต้ ามทีเ่ กิดข้ึน

ข้อเสยี

การส่งเรอ่ื งไม่สำคัญ: เนอื่ งจากการวิเคราะห์ SWOT โดยทัว่ ไปเป็นเรอื่ งง่ายในสถานที่ตั้งจึงมักไมไ่ ดร้ บั การ
วพิ ากษว์ ิจารณ์ หากบริษัทม่งุ เนน้ เฉพาะการจดั ทำบันทกึ เท่านนั้ อาจไม่เพียงพอที่จะมุง่ เนน้ ไปที่วิธกี ารเพ่ือ
บรรลวุ ตั ถปุ ระสงค์ มขี อ้ บกพร่องอนื่ ๆในการเขา้ ถงึ รายการเชน่ เดียวกับรายการท่ีอาจไมไ่ ดจ้ ัดลำดบั ความสำคญั
อย่างเหมาะสมโดยบริษัทตัวอยา่ งรายการข้อบกพร่องบางอยา่ งเช่นอาจดเู หมือนได้รับการรบั รองโดยรายการ
จุดแข็งจดุ อ่อนท่ยี าวนานขน้ึ แตก่ ็มีความสำคัญและต้องระบุดว้ ย

การวิจัยเพิ่มเติมทีจ่ ำเป็น: เพ่อื ให้การวิเคราะห์ SWOT ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริงจะต้องมกี ารขยายจุด
แขง็ จดุ อ่อน โอกาส และภัยคุกคามตา่ งๆ ตัวอยา่ งเชน่ บริษัทควรพจิ ารณาขนาดของจุดแขง็ และจุดออ่ นทม่ี กี าร
เปรยี บเทยี บกับคแู่ ข่งเพอ่ื กำหนดจุดแขง็ ทแ่ี ข็งแกร่งจรงิ ๆเปน็ อย่างไร การวเิ คราะห์ SWOT อยา่ งละเอยี ดควรดู
ทโี่ อกาสหรอื ขนาดของภยั คกุ คามเพ่อื ดวู า่ เกี่ยวข้องกบั จุดแขง็ และจุดออ่ นของบริษัทอย่างไร

ดังนน้ั การคำนึงถงึ ว่าการวเิ คราะห์ SWOT สามารถทำได้ง่ายและตรงไปตรงมา การวิจยั และการวเิ คราะหเ์ ป็น
สิง่ จำเปน็ โดยท่ัวไปเพ่อื ใหไ้ ดภ้ าพทสี่ มบูรณแ์ บบ

การวิเคราะห์ Subjective

สำหรบั การวเิ คราะห์เพื่อส่งผลต่อประสิทธิภาพของบรษิ ทั การตัดสินใจทางธรุ กจิ จะตอ้ งขน้ึ อยกู่ ับข้อมูลท่ี
นา่ เชอื่ ถือ ข้อมูลทีเ่ กย่ี วข้อง และข้อมูลที่สามารถเปรียบเทียบได้ อย่างไรกต็ ามการเก็บรวบรวมและวเิ คราะห์
ข้อมูล SWOT อาจเป็นกระบวนการเชงิ Subjective ท่ีสะทอ้ นถงึ ความลำเอยี งของบคุ คลที่ทำการวิเคราะห์
นอกจากน้ีขอ้ มูลทป่ี อ้ นเข้าสู่การวเิ คราะห์ SWOT ยังสามารถล้าสมยั ได้อยา่ งรวดเร็วเช่นกัน


Click to View FlipBook Version