ถดั ไป
รหสั วิชา 20104-2007
สารบัญ 2
4
ความรู้เกี่ยวกบั การทาความเยน็ เบ้ืองต้น้ 11
18
ตานท่องและเคร่ืองตมืองสาหรับตานท่อง 28
การบรรจุสารทาความเยน็ 38
เครื่องตมืองและองุปกรณ์การทาสูญญากาศ
สารทาความเยน็ และน้ามนั หล่องล่ืน
การทาความเยน็ ระบบเปิ ดและปิ ดระบบองดั ไอง
1. ความเป็ นมาของการทาความเยน็ เบือ้ งต้น 1.1 ประโยชนข์ องตการทาความเยน็
การทาความเยน็ และปรับองากาศ โดยแบ่ตององก้ามประเภท
ในองดี้การถนองมองาหารไม่ใหเ้ น่าเสียทาไดห้ ลายวธิ ี การใชต้ านไดแ้ ก่ การผลิ้ การเกบ็ และ
้วั องยา่ ตเช่น การผ่ตึ แดดใหแ้ หต้ การใส่เกลืองให้ การจาหน่ายองาหาร การใชต้ านเฉพาะ และการปรับองากาศ
เกิดความเคม็ ฝัตไวใ้ นกองตหิมะ ้ม้ ใหส้ ุก เป็น้น้ แ้่ใชไ้ ด้ 1.3.1 การผลิ้ การเกบ็ และการรักษาถนองมองาหารเพ่ืองตาน
สาหรับองาหารบาตประเภทเท่าน้นั แม่บา้ นที่ซ้ือง
องาหารสดจาก้ลาดไม่วา่ จะเป็น ปลา เน้ืองส้ั ว์ ผกั สด และ พาณิชย์
ผลไม้ การทาใหอ้ งาหารเหล่าน้ีเกิดรสชา้ิท่ีดี
รักษาความสดถูกหลกั องนามยั ไวไ้ ด้้ อ้ งตลดองุณหภูมิองากาศ การทาความเยน็ เป็นปัจจยั สาคญั องนั ดบั แรกในกระบวนการ
้่องไปน้ี เช่น ู้เ้ ยน็ แ้่ละบา้ นเรืองน
ใหอ้ งยรู่ ะหวา่ ต 1 *C - 15 *C โดยองาศยั หลกั การ
ทาความเยน็
2.งานทอ่ เคร่ืองมอื สาหรับงานทอ่ (1) มีควำมทนทำนเป็นเย่ียม ทอ่ ทองแดงไดช้ ่ือว่ำมี
ควำมแขง็ แกรง่ และทนทำนตอ่ กำร
1 ชนดิ ของท่อท่ีใชใ้ นเครอ่ื งทำควำมเย็น ถกู บีบ งอ โคง้ จะไมเ่ กิดกำรร่วั ทนตอ่ แรงกระทบ ใชก้ บั
1.1 ท่อทองแดง เป็นวสั ดทุ ่ีนยิ มใชม้ ำกท่ีสดุ สำหรบั งำน งำนทำควำมเยน็ โดยไมข่ ำดหรอื แตกหกั
ระบบทอ่ เน่ืองจำกทอ่ ทองแดง มีชอ้
ไดเ้ ปรยี บ 5 ประกำร ท่ีเหนือกวำ่ วสั ดอุ ่นื ในงำนเครอ่ื งทำ 2) ทนแรงดนั สงู และแรงตน้ ต่ำไดด้ ี กำรใชง้ ำนทอ่
ควำมเย็น ทอแดงมีควำมหลำกหลำยมำกท่ีสดุ
สำมำรถใชก้ บั งำนไดห้ ลำยประเภทตวั อยำ่ งเช่น
โลหะทองแดงเป็นวสั ดทุ ่ีสมบรู ณใ์ ชใ้ นทำง
กำรแพทย์
(3) เป็นวสั ดทุ ่ีทนตอ่ กำรผกุ รอ่ น จะเห็นไดว้ ่ำ นำ้ และ (5) งำนควำมรอ้ นและงำนควำมเยน็ ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั
อำกำศทำใหเ้ กิดควำมชืน้ เป็นตวั กำร อณุ หภมู สิ งู และต่ำตลอดเวลำทอ่
ของกำรเกิดสนิมและกำรผกุ รอ่ นกบั ท่อเหลก็ แต่ท่อ
ทองแดงในนำ้ ไม่เกิดสนิม คงทนตอ่ กำรหมนุ เวียนของ ทองแดงสำมำรถรบั ควำมรอ้ นสงู ถงึ 205 *C อณุ หภมู ิต่ำถงึ
ควำมชืน้ - 196 *C โดยไม่แตก ไมย่ บุ ตวั หรอื ใชไ้ ดใ้ น
สภำพเดมิ เวลำระยะยำว ทองแดงสำมำรถใชง้ ำนได้ จะคง
(4) ทนแรงดนั สงู และแรงดนั ต่ำไดด้ ี งำนทกุ ประเภทท่ีใช้ คณุ สมบตั ิทำงกำยภำพและทำงกลไดเ้ สมอ
ควำมดนั สงู เช่น สำมำรถทน
แรงดนั ไดอ้ ยำ่ งนอ้ ย 240 บำร์ ซง่ึ เป็น 2 เท่ำ ของทอ่
พลำสตกิ ท่ีมีขนำดเท่ำกนั ทอ่ ทองแดงขนำด 108 มม.
จะสำมำรถรองรบั แรงดนั ในแนวฉำกมำกกวำ่ 200 เมตร
เป็นตน้
2. ชนิดของท่อทองแดงในงำนเครอ่ื งทำควำมเย็น (2.2) ทอ่ ทองแดงชนิดแขง็ งำน
ขอ้ ดที งั้ 10 ประกำร ท่อทองแดงจงึ นิยมเลอื กใชม้ ำก เครอ่ื งปรบั อำกำศขนำดใหญ่นิยมใชท้ อ่
ท่ีสดุ ของงำนระบบท่อและเลือกใชท้ ่อ ทองแดงชนิดเสน้ แขง็
ทองแดงในงำนเครอ่ื งทำควำมเย็น ซง่ึ แบง่ เป็น 2 ชนิด กำรตอ่ กำรโคง้ กำรงอ ตอ้ งเช่ือมประสำนกบั
คือ ลวดเช่ือมเงินหรอื ลวดทองแดงโดยใชข้ อ้ ต่อ
(2.1) ทอ่ ทองแดงชนิดออ่ น ท่อชนิดนีล้ กั ษณะเป็นมว้ น
ทงั้ แบบบำงและแบบหนำ ขนำดควำม 2.2.1 ท่อเหลก็ ตเู้ ย็นเก่ำหลำยรุน่ จะใชท้ ่อ
ยำว 25 ฟตุ มว้ น และ 50 ฟฒุ มว้ น มีฝ่ำปิดดำ้ นหวั และ เหลก็ ทำแผงคอนเดนเซอรเ์ พ่อื ระบำยควำม
ดำ้ นปลำยท่อเพ่อื ปอ้ งกนั สกปรก และควำมขนึ้ รอ้ น
สำมำรถตดั บำนแฟลร์ ดดั ขยำยไดง้ ่ำย ขนำดเสน้
ผำ่ นศนู ยก์ ลำงภำยนอกทอ่ ท่ีนิยมใชง้ ำนเคร่ืองทำ 2.2.2 ท่ออะลมู ิเนียม งำนตเู้ ยน็ จะใชเ้ ป็นเครอ่ื ง
ควำม ระเหยและเพียงบำงสว่ น ท่อตอ่ ระหวำ่ งทอ่ ทำง
เยน็ มีชนำดดงั นี้ 14 นิว้ 1/2 นิว้ 5/8 นิว้ 34 นิว้ ฯลฯ กลบั
3 เครอ่ื งมือท่ีใชใ้ นงำนทอ่ 3.การบรรจุสารทาความเยน็ ตูเ้ ยน็
3.1 กำรตดั ทอ่ ทองแดง ก่อนตดั ทอ่ กำรบรำจสุ ำรทำควำมเยน็ ผเู้ ย็น
ทองแดงเป็นมว้ น จะตอ้ งกำรคส่โี ดย บรรจสุ ำรทำควำมเย็น หลงั กำรทำสญุ ญำกำศทนั ที เดมิ
วำงระนำบลงกบั พืน้ แลว้ สำรทำควำมเย็นในระบบใหม้ ี
คล่ชี ำ้ ๆ ในแนวรำบตำมแนวเสน้ ตรง พอดี ชอั สงั เกต คอื ควำมตน้ ของสำรทำควำมเยน็ ทำงดำ้ น
จงึ จะสำมำรถตดั ไดต้ ำมขนำดควำม ควำมดนั ต่ำ 5- 12 ปอนดต์ อ่ ดำรำงนิว้ เกิดควำม
ยำวท่ีตอ้ งกำร กำรคล่ที อ่ เย็น และมีนำ้ แขง็ บนเครอ่ื งระเหย ปรมิ ำณกระแไฟฟ้ำท่ี
ไหลเขำ้ คอมเพรสเซอรต์ อ้ งไม่เกินพกิ ดั ท่ีกำหนด
ตำม Name plate
- คอมเพรสเซอรข์ องตเู้ ยน็ รุน่ เก่ำจะใชส้ ำรทำควำม 3.1 วิธีบรรจสุ ำรทำควำมเย็น
กำรบรรจสุ ำรทำควำมเยน็ เขำ้ ระบบทำ
เยน็ R-12 ซง่ึ ไดถ้ กู ประกำศยกเลกิ กำรใช้ ควำมเย็นสำมำรถทำได้ 2 วธิ ี
งำนแลว้ เน่ืองจำกทำลำยสภำวะแวดลอ้ มของโลก
และบรรยำกำศชนั้ โอโซน ในปัจจบุ นั มีใชง้ ำน ใน 1. กำรบรรจสุ ำรทำควำมเยน็ เขำ้ ระบบ
สถำนะของเหลวดว้ ยกำรช่งั เป็นวธิ ีท่ีไม่
กำรชอ่ มบำรุงแตร่ ำคำคอ่ ยขำ้ งแพง ปัจจบุ นั ใช้ R- คอ่ ยนิยมใช้
134a เป็นมติ รกบั สง่ิ แวดลอ้ ม ซง่ึ ผลิตมำใหม่ ปฏิบตั ิงำนในภำคสนำมเพรำะมีชนั้ ตอนท่ี
เพ่ือใชท้ ดแทนสำรทำควำมเย็น R- 12 ยงุ่ ยำก อีกทงั้ เครอ่ื งช่งั มีรำคำแพง วธิ ีกำรนี้
จะใชใ้ นชนั้ ตอนกำร
ผลติ เครอ่ื งทำควำมเยน็ จำกโรงงำนเพรำะ
สำมำรถบรรจไุ ดอ้ ย่ำงรวดเรว็ ถกู ตอ้ ง
2. กำรบรรจสุ ำรทำควำมเยน็ เขำ้ ระบบสถำนะ ลาดบั ข้นั ้องนการบรรจุสารทาความเยน็ ใหก้ บั ู้เ้ ยน็
อดั แก๊ส มีควำมปลอดภยั ในขณะปฏบิ ตั ิงำน 2.1 ขอ้ งควรจาขณะการบรรจุสารทาความเยน็
และเป็นวธิ ีท่วั ไปท่ีนิยมใช้ กำรควบคมุ 1. คองมเพรสเซองร์สามารถองดั สารทาความเยน็ ไดม้ ี
ปรมิ ำณของสำรทำควำมเยน็ ในระบบไดโ้ ดย ประสิทธิภาพสูต ในสถานะแก๊สเท่าน้นั จึต
ไม่จำกดั สถำนท่ี ไม่ควรเดิมสารทาความเยน็ เหลวดว้ ยวธิ ีการคว่าถตั สารทา
ความเยน็ เพราะจะทาใหช้ ิ้นส่วนคองมเพรสเซองร์
2. ขณะถองดสายเกจององกจากระบบ จะมีสารทาความเยน็ ร่ัว
ององกมาดว้ ย จึตควรสวมแวน่ ้า
และสวมถุตมือง บาตคร้ัตจะเยน็ มากจนทาใหเ้ ป็นองนั ้ราย
้่องดวต้าและผวิ หนตั
3. สารทาความเยน็ ้อ้ งตองยใู่ นระบบก่องนใหค้ องมเพรสเซองร์
ทาตาน
2.2 ขนั้ ตอนกำรบรรจสุ ำรทำควำมเยน็
ชำ่ งท่วั ไปตอ้ งมีแอมมิเตอรเ์ พ่ือวดั กระแส
พรอ้ มสงั เกตปำ้ ยบอกช่ือสำรทำควำมเยน็
ขนั้ ตอนนี้
ระบบตอ้ งไมร่ ่วั และทำสญุ ญำกำศระบบ
ทำควำมเยน็ อยำ่ งนอ้ ย 30 นำที ถอดสำย
กลำงสีเหลือง ท่ตี อ่ กบั
เครอ่ื งทำสญุ ญำกำศออกแลว้ ตอ่ เขำ้ กบั ถงั
สำรทำควำมเยน็ R-134a
4 เครื่องมือและอปุ กรณ์การทาสูญญากาศ 4.1. เกจแมนิโฟลด์ (Gaugemanifold) เป็น
การทาสุญญากาศระบบทาความเยน็ เป็นข้นั ้องนหน่ึตท่ีสาคญั เครื่องตมืองตานเคร่ืองตทาความเยน็ มีสามสาย คือง
มาก ช่าตช่องมเครื่องตทาความเยน็ ้อ้ งต
สีแดตดา้ นขวามือง สีเหลืองตองยู้่ รตกลาต สีน้าเตินดา้ น
้ระหนกั การทาสูญญากาศ คืองการใชอ้ งปุ กรณ์ดูดองากาศององก ซา้ ยมือง ้่องกบั ระบบทาความเยน็ ใชว้ ดั 3 คา่ คือง
เมื่ององากาศและความช้ืนที่องยภู่ ายในระบบทา
ความเยน็ ถูกดูดององก จะทาใหภ้ ายในระบบเกิดสูญญากาศ ค่าความเป็นสูญญากาศ วดั คา่ ความดนั เหนืองบรรยากาศ
หรืองไม่มีองากาศ ไม่มีความช้ืนและส่ิตสกปรก การ
ทาระบบใหม้ ีสารทาความเยน็ บรรจุองยเู่ พยี ตองยา่ ตเดียวน้นั และวดั ปริมาณสารทาความเยน็ ที่ค่าความดนั
เพ่อื งใหร้ ะบบทาความเยน็ มีประสิทธิภาพสูตสุดใน
้่าต ๆ กนั อง่านคาความดนั เป็น ปองนด้์ ่อง้าราตนิ้ว เกจ
การทาความเยน็ แมนิโฟลดม์ ีส่วนประกองบดตั น้ี
1. คองมปาวดเ์ กจ (Compound gauge) ใชส้ ายเกจสี 2. เพรสเซองร์เกจ (Pressure gauge) ใชส้ ายเกจวดั สีแดต
น้าเตินดา้ นซา้ ยมืองของตชุดเกจแมนิ ้ิด้้ตั ดา้ นขวามืองของตชุดเกจแม
โฟลด์ หรืองเรียกองีกองยา่ ตหน่ึตวา่ เกจวดั ความดนั ดา้ น้่า นิโฟลด์ ใชว้ ดั คา่ ความดนั ดา้ นสูตจาก 0-500 ปองนด้์ ่อง
(Low pressure ้าราตนิ้วเกจวดั (Psig) และวดั คา่ องุณหภูมิระเหย
gauge) ใชว้ ดั คา่ ความดนั ไดห้ ลาย ความเยน็ เหลว ชนิดสารทาความเยน็ R-134a R-22และ R
องยา่ ต คือง ความดนั ้่ากวา่ บรรยากาศไดถ้ ึต 29.92 นิ้วปรองท 410 A มีหน่วยองุณหภูมิเป็
(In.Hg) วดั ค่าความดนั เหนืองบรรยากาศจาก (- ฟาเรนไฮ้แ์ ละเกี่ยวขอ้ งตกบั คาาความดนั เช่นเดียวกนั เพรส
250 ปองนด้์ ่อง้าราตนิ้วเกจวดั (Psig) และวดั คาองุณหภูมิ
ระเหยของตสารทาความเยน็ เหลวชนิดของตสารทา เซองร์เกจขณะถองดสายององก้อ้ งตระวตั เพราะมี
ความดนั ท่ีสูตมาก องาจเกิดองนั ้รายได้
ความเยน็ R-134a, R-22 และ R 410 A มีหน่วย
องณุ หภูมิเป็น องตศาฟาเรนไฮ้แ์ ละเก่ียวขอ้ งตกบั คาความดนั
3. ชุดวาลว์ ควบคุมความดนั ประกองบดว้ ยวาส์วปรับ 4.2 ชนิดของตเครื่องตทาสูญญากาศ
ดว้ ยมือง 2 ้วั ้วั หน่ึตสัมพนั ธ์การเปิ ด ชนิดของตเคร่ืองตทาสุญญากาศ มี 2 ชนิด
ปิ ดทาตดา้ นคองมปาวดเ์ กจหรืองดา้ นความดนั ้่า และ
องีก้วั หน่ึตสมั พนั ธ์การเปี ดปี ดทาตดา้ นเพรสเซองร์เกจ 4.2.1 โลแวคคม่ั ป้ัม (Low vacum pump) หรือง
หรืองดา้ นความดนั สูต แบบมา้รฐาน ชนิดแวคคม่ั ไดช้ ้นั เดียว
ประสิทธิภาพการดูดองากาศค่องนขา้ ต้่าประมาณ 27 นิ้ว
ปรองท ควรทาสุญญากาศ 2 คร้ัตเพอ่ื งใหร้ ะบบมี
ประสิทธิภาพเหมาะสาหรับเคร่ืองตทาความเยน็ ขนาดเลก็
เช่น ู้เ้ ยน็ ู้แ้ ช่ ู้น้ ้าเยน็ เครื่องตทาสุญญากาศชนิด
4:2.2 ไฮแวคคม่ั ป้ัม (High vacuum pump) หรือง 4.3 การ้รวจรองยร่ัวของตระบบทาความเยน็
แบบกาลตั สูต สามารถแวคคมั่ ไดส้ องตช้นั มี ระบบเคร่ืองตทาความเยน็ ท่ีมีการซ่องมบารุตหรืองเปล่ียน
ประสิทธิภาพสูตสามารถดูดองากาศและความช้ืนในระบบ องปุ กรณ์รวมถึตการ้ิด้้ตั ใหม่ของตระบบ
ทาความเยน็ ใหม้ ีความกดดนั ้่าลตไดถ้ ึตประมาณ ควร้รวจสองบหาการร่ัวก่องนทาสูญญากาศของตระบบ
ทุกคร้ัตหรืองหาการรั่วพร้องมกนั กไ็ ด้ วธิ ีการ้รวจทาได้
29.91 นิ้วปรองท น้าที่องยใู่ นระบบทาความเยน็ จะเดืองด
กลายเป็นแก๊สไดห้ มด
4.3.1 ลดความดนั ให้้ ่ากวา่ บรรยากาศหรืองทา 4.3.2 เพ่ิมความดนั เขา้ ระบบเพื่อง้รวจรองยร่ัว เป็นวิธี
ท่ีนิยมของตช่าตทาความเยน็ ทว่ั ไป องาจใช้
สูญญากาศระบบเพอื่ ง้รวจรองยร่ัว เม่ืองทา แก๊สไนโ้รเจน คาร์บองนไดององกไซดห์ รืองฟรีององนก็
สูญญากาศระบบเสร็จแลว้ ใหป้ ิ ดวาลว์ เกจแมนิ ได้
โฟลดท์ ้ตั สองตดา้ นทิ้ตไว้ จากน้นั สตั เก้ดูวา่ เขม็
ของต เกจสูตข้ึน
หรืองไม่ ถา้ เขม็ เกจสูตข้ึน แสดตวา่ ระบบมีรองยรั่ว
จะ้อ้ งตหาจุดท่ีรั่และแกไ้ ขใหม่ แ้่ถา้ เขม็ เกจองยทู่ ี่
เดิม
แสดตวา่ ระบบไม่ร่ัว สามารถเ้ิมสารทาความ
เยน็ เขา้ ระบบ้่องไปได้ วธิ ีทาสุญญากาศระบบ
เพือ่ งการ้รวจ
รองยร่ัวน้ี ใชเ้ วลาส้นั ๆจะไม่คอ่ งยไดผ้ ล หากมีการ
รั่วที่เรียกวา่ ร่ัว้ามด
5 สารทาความเยน็ และนา้ มันหล่อลื่น จาแนกได้้ ามประโยชน์ของตการนาไปใชต้ าน เช่น R-12
5.1 หนา้ ที่ของตสารทาความเยน็ (รณรตคใ์ หเ้ ลิกใช้ จะพบในเร่ืองตการซ่องมบารุต
การทาความเยน็ คือง การเองาความร้องนององกจากบริเวณ เท่าน้นั ) R-22 ใชใ้ นเครื่องตปรับองากาศท่ีใชใ้ นองาคาร
หน่ึตไปองีกบริเวณหน่ึตท่ี้อ้ งตการความ บา้ นเรืองน R-134a ใชใ้ นู้เ้ ยน็ และเครื่องตปรับองากาศ
เยน็ โดยให้้ วั กลาตพาความร้นไปทิ้ต เช่น ความร้องน รถยน้์ ล่าสุดไดแ้ ก่ R-407 C (องณุ หภูมิสูตสุด ที่
ภายในหอ้ งตปรับองากาศถูกนาไปทิ้ตขา้ ตนองกหอ้ งต ความ คองนเดนเซองร์ = 68 ·C, ความดนั สูตสุดท่ีคองนเดนเซองร์ =
ร้องนจากภายในู้เ้ ยน็ นาไปทิ้ตนองกู้เ้ ยน็ เป็น้น้ 438 Psig) R-410A (องณุ หภูมิสูตสุด ท่ีคองนเดนเซองร์ =
้วั กลาตคือง สารทาความเยน็ ซ่ึตมีหลายเบองร์ หลายชนิด 65 *C, ความดนั สูตสุดท่ีคองนเดนเซองร์ = 602 Psig
ความดนั ดา้ นโล 140-160 Psig วาลว์ บริการโ้กวา่ วาลว์
ปก้ิ ใชก้ บั เคร่ืองตปรับองากาศมีคองมเพรสเซองร์
แบบสโครล์ การแบ่ตกลุ่มของตสารทาความเยน็ แบ่ตได้ 3 กลุ่ม
ดตั น้ี กลุ่มท่ีมีความปลองดภยั กลุ่มท่ีความเป็น
พิษ และ้ิดไฟไดบ้ า้ ตเม่ืองผสมกบั องากาศ
5.2 คุณสมบ้ั ิของตสารทาความเยน็
สารทาความเยน็ ท่ีใชก้ บั เคร่ืองตทาความเยน็ เป็น
ของตเหลวที่มีคุณสมบ้ั ิในการทาความเยน็ โดย
การดูดซึมรับความร้องนจากว้ั ถุเขา้ สู่้วั เองตที่
องณุ หภูมิ้่า ๆ ความดนั ้่า ้รตบริเวณ้อ้ งตการ
ทาความเยน็
1. ปลองดภยั ้่องผใู้ ช้ สารทาความเยน็ ชนิดท่ีมีคุณสมบ้ั ิ
ในการเป็น้วั กลาตของตทาความเยน็ ที่
ดี ้อ้ งตมีคุณสมบ้ั ิดตั เช่น ไม่เป็นองนั ้รายท้ตั ทาต้รต
และทาตองอ้ งม ไม่ทามีปฏิกิริยาทาตเคมีกบั โลหะ เช่น
เหลก็ ทองตแดต องลูมิเนียม ทองตเหลืองต เป็น้น้ ไม่มีพิษ
ไม่้ิดไฟ ไม่ระเบิดเม่ืองความดนั สูต
2. ไม่เป็นพษิ ของตสารทาความเยน็ เม่ืองผสมกบั องากาศ 6. เม่ืองมีการแลกเปล่ียนความร้องนระหวา่ ตการแนบท่อง
บาตชนิดองาจจะเป็นพษิ ทาใหข้ าด จะมีประสิทธิภาพสูต ท่ีเรียกวา่ Heat
องากาศององกซิเจนหายใจ เป็นเหุ้ทาใหม้ นุษย้์ ายได้
7. ไม่แปรสภาพเวลาใชน้ าน ๆ รวมถึตราคาถูก มีจา
3. ไม่เกิดการระเบิดและไวไฟของตสารทาความเยน็ หน่วยทวั่ ไป
4. จุดเดืองด้่า สามารถกลายเป็นไองที่องุณหภูมิ้่า ๆ ได้ ใช้
กาลตั องดั ของตคองมเพรสเซองร์ไม่สูตมาก
5. หากเกิดการร่ัวไหลององกจากระบบสามารถ้รวจพบไดต้ ่าย
5.3 น้ามนั หล่องล่ืน 5.3.2
5.3.1 หนา้ ที่ของตน้ามนั หล่องล่ืน คุณสมบ้ั ิของตน้ามนั หล่องล่ืน
น้ามนั หล่องล่ืน ทาหนา้ ท่ีหล่องล่ืนส่วนประกองบของต คุณสมบ้ั ิพเิ ศษของตน้ามนั หล่องลื่นมีดตั น้ี
คองมเพรสเซองร์และป้องตกนั การสึกหรองของต
ชิ้นส่วนท่ีเสียดสีกนั มีลกั ษณะเป็นสีองาพนั มีหวั เช้ืองสาหรับลด 1. ้อ้ งตไหลหมุนเวยี นไดด้ ีเป็นเลิศ
แรตเสียดทาน เนื่องตจากน้ามนั หล่องล่ืนส่วน 2. ทนทาน้่ององณุ หภูมิท่ีมีการเปล่ียนแปลตเป็นเลิศ
หน่ึตไหลปนไปกบั สารทาความเยน็ ขณะการทาตานของตเครื่องต 3. ไม่ปะปนกบั สารทาความเยน็ มากเกินไป
ทาความเยน็ ดตั น้นั น้ามนั หล่องล่ืนจึต้อ้ งตมี 4. ไหลไดท้ ี่องณุ หภูมิ้่าหรืองความหนืด้่า
คุณสมบ้ั ิพิเศษ้่าตจากน้ามนั หล่องลื่นของตเคร่ืองตยน้ท์ ว่ั ไป
5. คตทน้่องการ Oxidation
6. มีความเป็นฟองตนอ้ งย ไม่เสื่องมสภาพ
คองมเพรสเซองร์แ้่ละรุ่น้อ้ งตเ้ิมน้ามนั หลอ่ งลื่นควร
ศึกษาจากบริษทั ผผู้ ลิ้ ถา้ เ้ิม
น้ามนั หล่องล่ืนนอ้ งย ลูกสูบหรืองวาส์วเกิดการขดั ขอ้ งตได้
ประสิทธิภาพการหล่องล่ืนลดลตและมีการเสียดสีกนั
6.การทาความเยน็ ระบบเปิ ดและปิ ดระบบอดั ไอ 6.1การทาความเยน็ ระบบเปิ ดทิ้ต
การทาความเยน็ ระบบเปิ ด (Open cycle จากรูปท่ี 3.1 ถตั สารทาความเยน็ (Refrigerant) ถูก
refrigeration) ้ามที่ไดศ้ ึกษาเร่ืองตของตความร้องน คว่าลตจะทาใหส้ ารทาความเยน็ เหลวท่ีมีน้าหนกั
และทราบ ้กขา้ ตล่าตของตถตั จะมีองปุ กรณ์ A B C D และ E ซ่ึต
ดีวา่ ของตเหลวกลายเป็นแก๊สได้ ของตเหลวจะ้อ้ งตใชค้ วาม เป็นองุปกรณ์ทาหนา้ ที่แ้ก้่าตกนั
ร้องนจานวนหน่ึต ดตั น้นั หากสามารถใชว้ าลว์
ควบคุมความดนั ของตสารทาความเยน็ ที่เป็นของตเหลวบรรจุ
ถตั ใหล้ ดลตจนกลายเป็นแก๊สได้ การเป็นแก๊สจะ
ดึตความร้องนไป จะทาใหอ้ งณุ หภูมิของตสารทาความเยน็ ้่า
เกิดความเยน็ ท่ีบริเวณน้นั
ทาความเยน็ จะระเหยหมด ้อ้ งตเ้ิมสารทาความเยน็ ใหม่ 1.ไนโ้รเจนเหลว (R-728) มีจุดเดืองดท่ี -320
เรื่องย 1 ซ่ึตไม่ประหยดั ้่องการใชต้ านและก่องเกิด องตศาฟาเรนไฮ้์ (-195.5 องตศาเซลเซียส)
มวลภาวะ การทาความเยน็ แบบน้ีเรียกวา่ การทาความ 2. ฮีเลียมเหลว (R-704) มีจุดเดืองดที่ 452
เยน็ ระบบเปิ ดทิ้ต มีความจาเป็น้อ้ งตใชอ้ งยสู่ าหรับ องตศาฟาเรนไฮ้์ (-269 องตศาเซลเซียส)
การทาความเยน็ บาตชนิด เช่น
6.2 การทาความเยน็ ระบบองดั ไอง 1. ของตเหลวจะ้อ้ งตลดความร้องนเม่ืองเปลี่ยนสถานะ
การทาความเยน็ ระบบองดั ไอง จากแก๊สเป็นของตเหลวและเพิม่ ความร้องนเพื่องการ
(Compression system เปลี่ยนแปลตสถานะจากของตเหลวกลายเป็ นแก๊ส
refrigeration) การทา
ความเยน็ ระบบองดั เป็น 2. องณุ หภูมิของตการเปล่ียนแปลตสถานะของตมวล จะ
ระบบที่มีความสาคญั มีกฎของต เปล่ียนแปลตไป้ามความดนั ที่เปลี่ยนแปลต
การทาความเยน็ (Law of กล่าวคือง ถา้ ความดนั สูต องุณหภูมิในการเปล่ียนสถานะจะ
สูต้าม ถา้ ความดนั ้่าองณุ หภูมิในการเปล่ียน
refrigeration) สถานะ จะ้่าดว้ ย
วฎั จักรทาความเยน็ ระบบ
องดั ไองมีองปุ กรณ์ประกองบดตั น้ี
1. คองมเพรสเซองร์ (Compressor)
2.คองนเดนเซองร์ (Condenser)
3. ้วั ควบคุมปริมาณสารทาความเยน็ (Refrigerant flow
control)
4. เคร่ืองตระเหย (Evaporator)
5. สารทาความเยน็ (Refrigerant)