The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การเป็นผู้ตัดสินฟุตบอลเบื้องต้น

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by got.2312, 2021-04-19 23:51:57

การเป็นผู้ตัดสินฟุตบอลเบื้องต้น

การเป็นผู้ตัดสินฟุตบอลเบื้องต้น

การเป็ นผ้ตู ดั สินฟุตบอลเบอื้ งตน้

ปัจจบุ นั กฬี าฟุตบอลเป็นกฬี าท่ีไดร้ บั ความนยิ มอย่างกวา้ งขวาง มกี ารเลน่ เลน่ ทกุ เพศ ทกุ วยั และทุก
สถานที่ ดงั จะเห็นไดจ้ ากมกี ารจดั การแขง่ ขนั ในระดบั ตา่ ง ๆ อย่างมากมาย และมีผเู้ ขา้ ชมการ แข่งขนั เป็น
จานวนมากในทุกระดบั ท่ีมีการแข่งขนั ซึง่ ในการแขง่ ขนั ในแต่ละครง้ั นน้ั ผตู้ ดั สนิ ฟตุ บอล นบั วา่ เป็นบุคคลที่
มีบทบาทสาคญั เป็นอยา่ งย่ิงทจ่ี ะทาใหเ้ กมการแข่งขนั สนกุ สนาน ตน่ื เตน้ เรา้ ใจ และ ดาเนินไปตามกฎ
กติกา และขอ้ บงั คบั ตา่ ง ๆ ดว้ ยความบริสทุ ธย์ิ ุติธรรม เรามาทาความเขา้ ในกตกิ าฟตุ บอลทจี่ ะนามาใชใ้ น
การแข่งขนั กตกิ าฟุตบอลมที งั้ หมด 17 ขอ้ ในการตดั สินฟุตบอลไดแ้ บ่งกติกาฟตุ บอลออกเป็น 5 ขนั้ ตอน
เป็นแนวท่ีจะตอ้ งปฏิบตั ดิ งั ตอ่ ไปนี้ ตอนที่1 เป็นแนวปฏบิ ตั ติ ามกติกาท่ีเกย่ี วกบั ส่งิ ทีต่ อ้ งทาก่อนการแขง่ ขนั
จะประกอบไปดว้ ย กตกิ าฟตุ บอลตง้ั แตก่ ตกิ าฯขอ้ ที่1-4

กติกาขอ้ ที่1 สนามแข่งขนั (The Field of Play)
กตกิ าขอ้ ที่2 ลกู บอล (The Ball)

กตกิ าขอ้ ท่ี3 จานวนผเู้ ลน่ (The Number of Players)

กตกิ าขอ้ 4 อปุ กรณข์ องผเู้ ล่น (Players, Equipment)
ตอนท่ี2 เป็นแนวปฏบิ ตั ติ ามกตกิ าเกย่ี วกบั อานาจหนา้ ที่ ประกอบไปดว้ ยกตกิ าฟตุ บอลขอ้ ที่ 5-6 มี
ดงั ต่อไปนี้
กติกาขอ้ ที่5 ผตู้ ดั สนิ (The Referee)
กตกิ าขอ้ ท่ี6 ผชู้ ่วยผตู้ ดั สนิ (The Assistant Referee)

ตอนท่ี3 เป็นแนวปฏิบตั ติ ามกตกิ าในขณะท่ีลกู บอลอย่ใู นการเล่น ประกอบไปดว้ ยกติกา ฟตุ บอลขอ้ ที่ 7-
10 มดี งั ต่อไปนี้ กติกาขอ้ ท่ี7 ระยะเวลาของการแขง่ ขนั (The Duration of the Match)
กตกิ าขอ้ ท่ี8 การเรมิ่ การแข่งขนั และการเร่มิ เลน่ ใหม่ (The Start and Restart of Play)

กตกิ าขอ้ ท่ี9 ลกู บอลอยู่ในและนอกการเลน่ (The Ball in and out of Play)

กตกิ าขอ้ ที่10 การนบั ประตู (The Method of Scoring)
ตอนท่ี4 เป็นแนวปฏิบตั ิตามกตกิ าทเ่ี ก่ยี วกบั เทคนคิ วธิ ีการใชก้ ตกิ า ประกอบไปดว้ ยกตกิ า ฟตุ บอลขอ้
ท่ี11-12 มดี งั ต่อไปนี้

กตกิ าขอ้ ท่ี11 การลา้ หนา้ (Offside)
กติกาขอ้ ที่12 การเลน่ ท่ีผดิ กตกิ าและเสยี มารยาท (Fouls and Misconduct)
ตอนที่5 เป็นแนวปฏบิ ตั ติ ามกตกิ าในการเริ่มเล่น ประกอบไปดว้ ยกตกิ าฟุตบอลขอ้ ที่ 13-17 มดี งั ต่อไปนี้
กตกิ าขอ้ ที่13 การเตะโทษ (Free Kick)
กตกิ าขอ้ ท่ี14 การเตะโทษ ณ จดุ โทษ (The Penalty Kick)
กตกิ าขอ้ ที่15 การทมุ่ (The Throw-in)
กติกาขอ้ ที่16 การเตะจากประตู (The Goal Kick)
กติกาขอ้ ที่17 การเตะจากมมุ คณุ สมบตั ิของผตู้ ดั สนิ (Referee Qualification) ผตู้ ดั สินท่ีดตี อ้ งมี
คณุ สมบตั ิต่าง ๆ มากมายหลายประการ แต่คณุ สมบตั ทิ เี่ ป็นหลกั สาคญั มี 3 ประการ ดงั ต่อไปนี้ ซงึ่ อาจ
เรยี กเพ่ือใหเ้ ขา้ ใจและจาไดง้ ่าย “3F หรือ K F C” ดงั นี้
1.รูแ้ ละเขา้ ใจกตกิ าเป็นอยา่ งดแี ละนาไปใช้ อยา่ งถูกตอ้ งยุติธรรมแก่ทง้ั สองฝ่าย
2.มสี มรรถภาพทางกายท่ดี ี
3.มีความม่นั คง หนกั แน่น กลา้ หาญในการ ตดั สนิ ใจ

บญั ญัติ 11 ประการของการเป็นผตู้ ดั สิน (Top Class Referee) ผตู้ ดั สินทด่ี คี วรยดึ ถอื การปฏิบตั ิตนตามสิง่ ท่ีกล่าว
ต่อไปนี้ เพอ่ื ใหเ้ กิดความสาเร็จในการ ปฏิบตั หิ นา้ ท่ีทีด่ ีและสมบูรณแ์ บบ ไม่วา่ จะเป็นผตู้ ดั สินระดบั ใดกต็ าม หรืออาจเรียก
ไดว้ า่ เป็นบญั ญัติ 11 ประการ ของการตดั สนิ มีดงั ต่อไปนี้
1. ควบคมุ สภาพความกดดนั ไดด้ ี (Handling Pressure) สามารถควบคุมความกดดนั ทม่ี ีตอ่ ตนเองในขณะ
ตดั สินไดเ้ ป็นอยา่ งดี เชน่ ความกดดนั จากผเู้ ล่น คนดู เป็นตน้
2. บุคลิกภาพ (Personality) มีบุคลิกภาพที่ดที งั้ การแตง่ กาย การแสดงออกตา่ ง ๆ เช่น การเดนิ การวิง่ การแสดง
สญั ญาณต่าง ๆ เป็นตน้
3. รูเ้ ท่าทนั กลยทุ ธข์ องผเู้ ลน่ (Tactical Awareness) รูแ้ ละเขา้ ใจวิธกี ารเล่นของผเู้ ล่น และ สามารถพิจารณาได้
เป็นอย่างดีกรณีผเู้ ลน่ แกลง้ หลอกในลักษณะตา่ ง ๆ เช่น แกลง้ เจ็บ แกลง้ กระโดด หรอื พุ่งลม้ เพ่อื ใหไ้ ดล้ กู โทษ เป็นตน้
4. ป้องกันปัญหากอ่ นท่ีจะมเี หตุเกดิ ขนึ้ (Preventing Problem) เป็นการสงั เกตและติดตาม มีสมรรถภาพทาง
กายที่ดี มคี วามม่นั คง หนกั แน่น กลา้ หาญในการ ตดั สินใจ เหตกุ ารณต์ ่าง ๆ อยา่ งใกลช้ ิด โดยเฉพาะกรณที ่ีลกู บอลอยู่

นอกการเลน่ และกาลงั จะมีการเริม่ เลน่ มกั จะมีการผลักดนั กระทบกระแทกกนั เช่น ในขณะเตะจากมมุ หรือขณะเตะโทษ
ผตู้ ดั สินตอ้ งคอยดู คอยเตอื นและระงบั เหตุใหไ้ ดก้ อ่ นท่ีจะมีการเตะเริม่ เล่น

5. มคี วามเชอ่ื ม่นั ในตนเอง (Confidence) ตอ้ งมคี วามเชอ่ื ม่นั ในตวั เองสูง กลา้ ตดั สินใจและ ปฏบิ ตั ิหนา้ ที่ตามท่ี
ตนเองเห็น ไมฟ่ ังเสียงจากผเู้ ล่นหรือผูช้ ม เช่น ในการตดั สนิ ใจใหใ้ บเหลอื ง-ใบแดง แกผ่ เู้ ลน่ การใหเ้ ป็นลกู โทษ ณ จดุ โทษ
เป็นตน้

6. มสี มาธทิ ี่ดี (Concentration) มีความม่งุ ม่นั สนใจในการตดิ ตามเกมการแขง่ ขนั ตลอดเวลา โดยไมล่ ะสายตา ไม่
สนใจส่งิ รอบขา้ งจนทาใหก้ ารติดตามเกมการแขง่ ขนั ไม่ทนั หรอื มองไม่เหน็ การเล่น ซงึ่ จะทาใหเ้ กิดปัญหาตามมา

7. ประยุกตก์ ารใชก้ ติกาการแข่งขนั ไดถ้ กู ตอ้ ง (Applying the Laws) เป็นการนาความรู้ เกยี่ วกับกติกาการ
แขง่ ขนั ไปใชใ้ นการตดั สนิ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ถูกจงั หวะ และถูกเวลา และการพิจารณา ใหไ้ ดเ้ ล่นลกู ไดเ้ ปรียบหรอื ไดป้ ระโยชน์
อยา่ ง 100% การให้ใบเหลือง-ใบแดงไดอ้ ย่างถูกตอ้ งตาม เหตุการณแ์ ละกติกา

8. การเคลื่อนท่ี (Mobility) มีความสามารถในการเคลอื่ นทไ่ี ดอ้ ยา่ งรวดเรว็ คล่องแคล่ววอ่ งไวใน ทุก ๆ ทิศทาง เชน่
การวิ่งไปขา้ งหนา้ การวิ่งถอยหลงั การสไลดด์ า้ นขา้ ง เป็นตน้

9. มสี มรรถภาพทางกายที่ดี (Physical Condition or Physical Fitness) มีความสามารถทาง สมรรถภาพ
ทางกายในดา้ นตา่ ง ๆ เป็นอยา่ งดี เพอ่ื ใชใ้ นการวิ่งตดิ ตามเกมการแขง่ ขนั ไดต้ ลอดการ แขง่ ขนั ไดแ้ กค่ วามสามารถดา้ น
ความอดทน ความแข็งแรง และความเรว็ ซงึ่ จะมแี บบทดสอบ สมรรถภาพทางกายสาหรบั ผู้ตดั สินโดยเฉพาะ เพือ่ ประเมิน
ความสามารถสมรรถภาพทางกาย

10. มปี ระสบการณ์ (Experience) การทาหนา้ ท่ีของผู้ตดั สินทด่ี ี นอกจากจะมคี วามรู้ ความสามารถที่ดีแลว้ ยงั ตอ้ ง
อาศยั การมีประสบการณท์ ่ดี ีดว้ ย ประสบการณจ์ ะไดจ้ ากการลงทาหนา้ ท่ี จากเกมการแขง่ ขนั จรงิ บ่อย ๆ หรอื ดูการทา
หนา้ ทต่ี ดั สนิ ของผูต้ ดั สินทา่ นอ่ืน ๆ จากสอ่ื ต่าง ๆ เป็นตน้

11. การทางานเป็นทมี (Teamwork) การทางานเป็นทีมโดยมคี วามสมั พนั ธ์กัน และความร่วมมือ ของกรรมการทงั้
4 คน ในเกมการแข่งขนั ถอื ว่าสาคัญมาก ตอ้ งมีการนัดแนะกันถึงแนวทางการปฏบิ ตั ิ หนา้ ที่กันกอ่ นปฏิบตั ิหนา้ ทที่ ุกครงั้

การใชส้ ญั ญาณนกหวีด (Whistle Signals)
นกหวีดเป็นอุปกรณส์ าคญั ของผู้ตดั สิน ซง่ึ ผตู้ ดั สนิ ควรทีจ่ ะทราบถึงลกั ษณะและวธิ ีการการใช้
ทถ่ี กู ตอ้ ง เพอ่ื ความเขา้ ใจใหเ้ ป็นไปในทศิ ทางเดียวกนั ซึ่งในแนวปฏิบตั จิ รงิ ควรมีการสนทนาทาความ
เขา้ ใจตกลงกันก่อนลงปฏิบตั ิหนา้ ทีท่ กุ ครงั้ เสียงสญั ญาณนกหวดี มีสญั ญาณเสียงหลกั อยู่ 3 เสียง คอื
1. เสยี งหนกั สน้ั แสดงถงึ ลกู บอลอย่นู อกการเล่น ในกรณลี ูกบอลออกเสน้ ขา้ ง หรอื เสน้ ประตู
เพอื่ ใหไ้ ดล้ กู ทุ่ม การเตะจากประตู หรือการเตะจากมมุ
2. เสยี งหนกั ยาว แสดงถึง การกระทาผิดกติกาตา่ ง ๆ ทีเ่ กิดขนึ้ เชน่ การกระทาผิดที่เป็นลูกโทษ
โดยตรง หรอื โดยออ้ ม การลา้ หนา้ รวมทง้ั การส่งั ให้มกี ารเรม่ิ เล่น เช่น การเข่ียเร่ิมเลน่ การเตะโทษ
โดยตรงหรอื โดยออ้ ม การเตะโทษ ณ จุดโทษ เป็นตน้
3. เสียงหนกั ยาวลากเสียง แสดงถงึ การใหเ้ ป็นประตูในขณะมกี ารทาประตไู ด้ ในปัจจบุ นั ถา้ หาก
มีลกู บอลเขา้ ประตูอย่างชดั แจง้ ไม่จาเป็นทจี่ ะตอ้ งเป่าให้สญั ญาณเป็นประตูกไ็ ด้ เพยี งแคช่ มี้ อื ไปที่จดุ
กึง่ กลางสนามกไ็ ด้
สาหรบั เสยี งอนื่ ๆ ทถี่ กู นามาใชจ้ ะเกิดจากการนาเสียงหลกั ท้งั 3 เสยี งดงั กล่าวขา้ งตน้ มา
ผสมผสานกนั ไดแ้ ก่
- เสียงหนกั สนั้ สนั้ แสดงถึง ส่งั ใหผ้ เู้ ล่นหยุดการเลน่ เช่น กรณที ี่มีการเปลีย่ นตวั หรอื ให้
สญั ญาณการทาผิดกติกาแลว้ ยงั คงเล่นตอ่ ไปอกี ไม่ยอมหยุด และใชใ้ นกรณสี ื่อสารกบั บุคคลอ่นื ๆ เช่น
เรียกเปลสนาม แพทย์ ผฝู้ ึกสอน และในกรณีปฏิเสธการเป็นประตู ซง่ึ ใชร้ ่วมกบั สญั ญาณมอื โบกไขวไ้ ป
มา เป็นตน้
- เสยี งหนกั ยาว ยาวลากเสียง แสดงถงึ หมดเวลาการแขง่ ขนั ในคร่งึ เวลาแรก
- เสียงหนกั ยาว สนั้ ยาวลากเสยี ง แสดงถึง หมดเวลาการแข่งขนั คร่งึ เวลาหลัง ซง่ึ นาเสียง
หลกั ทง้ั 3 เสยี งมาผสมผสานกนั
ขอ้ ปฏบิ ตั ใิ นการใชส้ ญั ญาณนกหวดี

การใชส้ ัญญาณนกหวีดมีขอ้ ควรปฏิบตั ิในการพิจารณาการใช้ ดงั นี้

ตอ้ งใช้ ควรใช้ ไมต่ อ้ งใช้
1.การเตะเร่ิมเล่น – คร่งึ เวลาแรก 1.การเตะโทษบริเวณหนา้ เขต โทษ 1.ลกู บอลออกนอกการเล่น อย่างชดั
- คร่งึ เวลาหลงั - เมอ่ื มีการทาประตู แจง้
โดยฝ่ ายรุก
ได้
2.การทาประตไู ด้ 2.ลกู บอลออกนอกการเล่นไม่ ชดั แจง้ 2.การเริ่มเลน่ ใหมโ่ ดยการเตะ จาก
ประตู เตะจากมมุ การท่มุ การปล่อย
3.การเตะโทษ ณ จดุ โทษ บอล
3.การเตะโทษบริเวณกลาง สนาม
4.การทาผิดกตกิ า หรือฝ่ายรบั ในแดน ตนเอง

การหาตาแหน่งและการเคลื่อนที่ (Position and Movement) การหาตาแหน่งและการเคลอ่ื นทีท่ ดี่ ี เป็นการ
ผสมผสานของสมรรถภาพทางกายดา้ น ความเรว็ และปฏิกิริยาตอบสนองในการหาพืน้ ท่ี ซึ่งสามารถมองเห็นเหตุการณก์ าร
เล่นไดใ้ กลท้ ่ีสดุ พอที่จะทาการปฏบิ ตั ไิ ดอ้ ยา่ งถกตอ้ ง และไดต้ ามความเป็นจริง ซึง่ ตอ้ งอาศยั หลกั การและปัจจัยตา่ ง ๆ ดงั
จะกลา่ วถงึ ต่อไปนี้
หลกั การที่ดีสาหรบั การหาตาแหน่งและการเคลื่อนที่

1.ทาอยา่ งถูกจงั หวะ

2. หลีกเล่ยี งการรบกวนการเล่น

3. รกั ษาตาแหนง่ ลกู บอลใหอ้ ยู่ระหว่างผตู้ ดั สนิ กบั ผู้ช่วยผตู้ ดั สิน ในพนื้ ท่ีการรุก

4. ปรบั ปรุงมมุ ของการมองสาหรบั ทงั้ ของผตู้ ดั สินและผชู้ ว่ ยผู้ตดั สิน
การหาตาแหน่งที่ดีตอ้ งการความสามารถในการอา่ นเกมท่ีดี
1. มีความรู้ (Knowledge) เกี่ยวกบั กตกิ าการแข่งขนั การเปรียบเทยี บการแข่งขนั ฯลฯ

2. ประสบการณ์ (Experience) ทาหนา้ ทผี่ ตู้ ดั สิน หรือชมการแข่งขนั บอ่ ย ๆ

3. จติ วทิ ยา (Psychology) สรา้ งสมั พนั ธภาพกับผเู้ ลน่ และเจา้ หนา้ ที่ทีม

4. สมรรถภาพทางกาย (Fitness) สามารถใชส้ มรรถภาพทางกายดา้ นต่าง ๆ ว่งิ ควบคุมการ แข่งขนั ไดต้ ลอดทง้ั การ
แข่งขนั

ปัจจยั หลกั ของการหาตาแหน่ง 1. มมุ (Angle) 2. ลกู บอล (Ball) 3. ความใกล้ (Close) แนวความคิดจากขอ้
1-3 เป็นการประยกุ ตใ์ ชโ้ ดยกระบวนการของ “ท่ใี ดการเลน่ จะถูกเลน่ ไป ท่ีใดเราสามารถไปเพ่ือใหเ้ กดิ มมุ มองที่ดที ี่สุด
ไปทีน่ น้ั ” สงิ่ สาคัญของความสามารถในการอ่านเกม คอื ยทุ ธวธิ ีการเลน่ แบบต่าง ๆ ทผ่ี เู้ ล่นนามาใชใ้ น การแข่งขนั ควรมี
การศึกษาวธิ ีการเล่นและทีมท่ีจะมีการตดั สนิ เพอ่ื นามาใชป้ ระโยชนใ์ นการหา ตาแหน่งและการเคลื่อนท่ขี ณะตดั สิน
ตอ่ ไป ทศิ ทางการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ีของผตู้ ดั สินและผชู้ ่วยผตู้ ดั สนิ ในการวงิ่ ขณะที่ติดตามควบคุมการเล่นของผตู้ ดั สินและ
ผชู้ ่วยผตู้ ดั สนิ โดยปกติจะใชร้ ะบบ การเคลือ่ นทีห่ าตาแหนง่ ทเ่ี รียกว่า “ระบบทแยงมุม (Diagonal System)” คอื
ผตู้ ดั สินจะพยายาม รักษาตาแหน่งใหต้ นเองมองเหน็ ลกู บอล ผเู้ ล่น และผชู้ ว่ ยผูต้ ดั สินทางดา้ นขวามอื ของตนเองอยู่
เสมอ ๆ ในการว่งิ ลกั ษณะทแยงมมุ จากมมุ สนามอีกดา้ นหนึ่งไปยงั อกี ดา้ นหนึง่ ใหค้ านึงถึงระยะห่างจากลกู บอลไมค่ วร
เกนิ 10-15 เมตร ถา้ ลกู บอลอยูใ่ กลผ้ ชู้ ว่ ยผู้ตดั สินอาจจะอยูห่ ่างจากลูกบอลไดไ้ มเ่ กิน 20 เมตร ส่วนผชู้ ่วยผตู้ ัดสนิ จะ
ว่งิ เคลื่อนที่ตามแนวเสน้ ขา้ ง จากเสน้ แบ่งแดนถึงเสน้ ประตูดา้ นทต่ี น รบั ผิดชอบ และยนื อยูใ่ นตาแหน่งเชค็ ลา้ หนา้ ใน
แนวขนานกับผเู้ ล่นคนท่ีสองนบั จากเสน้ ประตเู สมอ

ตาแหนง่ การยืนของผตู้ ดั สนิ ขณะเตะโทษนอกเขตโทษ (Position at Freekicks outside Penalty Area
) ในขณะท่ีผเู้ ล่นฝ่ายรุกไดเ้ ตะโทษโดยตรง หรอื โดยออ้ มบรเิ วณใกลเ้ ขตโทษของฝ่ ายรบั ผู้ ตดั สนิ และผูช้ ่วยผตู้ ดั สิน
สามารถเลือกตาแหนง่ การยนื ทเี่ หมาะสมและสมั พนั ธก์ ันได้ ดงั นี้

ผตู้ ดั สิน ผชู้ ว่ ยผตู้ ดั สิน
1.ยนื ใกลเ้ สน้ ประตู 1.ยนื เชค็ แนวการลา้ หนา้
2.ยนื เช็คแนวการลา้ หนา้ 2.ยนื เช็คทีเ่ สน้ ประตู
3.ยนื เช็คแนวกาแพงปอ้ งกนั 3.ยนื เชค็ แนวการลา้ หนา้
4.ยนื บริเวณที่มองเหน็ เหตกุ ารณท์ ี่คดิ ว่าลกู บอล จะถกู 4.ยนื เช็คแนวการลา้ หนา้
เล่นไปทนี่ น้ั

ภาพตารางจากคมู่ ือการตดั สนิ และผชู้ ขี้ าดกฬี าฟตุ บอล, 101, 2547.

ตาแหน่งที่ไมค่ วรยนื ของผตู้ ดั สนิ คือ ใกล้ ๆ กบั ตาแหนง่ ทม่ี กี ารเตะ เพราะจะยากตอ่ การ ติดตามการเลน่
และมองไมเ่ ห็นเหตกุ ารณก์ ารเล่นทเี่ กดิ ขนึ้ ตอ่ ไป ผตู้ ดั สนิ ตอ้ งสญั ญาณกบั ผชู้ ่วยผตู้ ดั สนิ เมอ่ื ตอ้ งการเป็น
ผเู้ ช็คแนวลา้ หนา้ เอง เพ่อื ใหผ้ ชู้ ว่ ยผู้ ตดั สนิ เคลือ่ นทไ่ี ปยงั เสน้ ประตู ทงั้ นี้ ตอ้ งมกี ารนดั แนะกนั ไวก้ อ่ นลง
ปฏิบตั หิ นา้ ท่เี พอ่ื ความสมั พนั ธก์ นั

การใหใ้ บเหลืองและใบแดง (Administration Yellow and Red Card)
การกระทาผิดกตกิ าของผเู้ ลน่ ตอ้ งถูกคาดโทษใหใ้ บเหลอื ง และใหใ้ บแดงใหอ้ อกจากการเล่น
มอี ย่างละ 7 ประการดงั นี้
ประพฤตติ นอยา่ งไมม่ นี า้ ใจนกั กีฬา
คดั คา้ นคาตดั สินโดยคาพูดหรือกริ ิยาทา่ ทาง
ทาผิดกติกาการแขง่ ขนั บ่อย ๆ

การคาดโทษและใหใ้ บเหลือง Caution and Yellow Card
.ชะลอการเร่ิมเลน่ ใหม่
ไม่ถอยในระยะทีร่ อ้ งขอ
เขา้ ไปสมทบในสนามโดยไม่ไดร้ บั อนุญาต
เจตนาออกจากสนามโดยไม่ไดร้ บั อนุญาต

ใหอ้ อกและใหใ้ บแดง Sent off and Red Card
กระทาผิดกตกิ าอยา่ งรา้ ยแรง
ประพฤติผิดกตกิ าอยา่ งรา้ ยแรง
ถมนา้ ลายรดใสค่ ่ตู ่อสหู้ รอื บุคคลอน่ื
ป้องกนั โอกาสการทาประตอู ย่างชดั แจง้ โดยเจตนา
เล่นลกู ดว้ ยมือ
ปอ้ งกนั โอกาสการทาประตอู ยา่ งชดั แจง้ โดยการ
กระทาผดิ กตกิ า
ใชว้ าจาดหู ม่ินเหยยี ดหยาม
ไดร้ บั ใบเหลืองเป็นครง้ั ทสี่ อง

ความแตกต่างระหว่างการกระทาผดิ กตกิ าอยา่ งรา้ ยแรง (Serious Foul Play) กบั การ ประพฤติ
ผิดกติกาอยา่ งรา้ ยแรง (Violent Conduct) มแี นวทางในการพจิ ารณาทแ่ี ตกต่างกนั ในการ ลงโทษ
ดงั นี้

การกระทาผิดกตกิ าอย่างรา้ ยแรง
Serious Foul Play

ทากับคตู่ อ่ สู้ เจตนา ลกู บอลอยู่ในการเลน่

การลงโทษ
โทษโดยตรง หรือ เตะโทษ ณ จดุ โทษ

+
ใหอ้ อก ใหใ้ บแดง

การเร่ิมเลน่ การเริม่ เลน่ ลกู บอลอยู่นอกการ ลกู บอลอย่ใู นการเลน่
เลน่

ขนึ้ อย่กู บั โทษโดยตรง

สถานการณท์ ี่ หรอื เตะ

เกิดขนึ้ ในการเล่น โทษ ณ จดุ โทษ

เชน่

- ทมุ่

- เตะจากประตู

- เตะจากมมุ ฯลฯ

การลงโทษ ใหอ้ อก ให้ การเริ่มเล่น กระทาผิดใน กระทาผดิ นอก
ใบแดง สนามแข่งขนั สนามแข่งขนั
ขนึ้ อยูก่ ับสถานการณ์
ท่ี เกดิ ขนึ้ ในการเล่น โทษโดยออ้ ม ผตู้ ดั สิน ปล่อย
เช่น - ทุม่ - เตะจาก บอล
ประตู - เตะจากมมุ +
ฯลฯ + ใหอ้ อก ให้ ใหอ้ อก ให้ +
ใบแดง ใบแดง ใหอ้ อก ให้
ใบแดง

การประพฤติผดิ กติกาอย่างรา้ ยแรง

Violent Conduct

กระทากบั คู่ตอ่ สู้ กระทากบั บุคคลอืน่
ผตู้ ดั สนิ ผชู้ ่วยผตู้ ดั สนิ เพอ่ื นรว่ มทีม

เจา้ หนา้ ที่ทีม ผชู้ ม ผู้ส่อื ขา่ วฯลฯ

ลกู บอลอยนู่ อกการเลน่ ลกู บอลอยู่ในการเล่น

อานาจในการให้ใบเหลอื งและใบแดง ผตู้ ดั สนิ มีอานาจในการใหใ้ บเหลอื งและใบแดงแก่ผเู้ ล่นได้
นบั ตง้ั แตเ่ ขา้ ส่สู นามแข่งขนั แลว้ คา วา่ “สนามแขง่ ขนั ” หมายถงึ สนามรูปสเ่ี หล่ยี มผนื ผา้ ไมใ่ ชบ่ ริเวณสถาน
ทต่ี งั้ ของสนามแขง่ ขนั น่นั คือ ผตู้ ดั สนิ จะใชใ้ บเหลอื งและใบแดงกบั ผเู้ ลน่ ไดน้ บั ตง้ั แตเ่ ขาไดน้ าผเู้ ลน่ ผา่ นเสน้
ขา้ งเขา้ ไปในสนามแข่ง ขนั แลว้ ทงั้ นี้ รวมทงั้ ในขณะกอ่ นเรม่ิ การแข่งขนั ขณะแขง่ ขนั ขณะพกั คร่งึ เวลา ใน
ระหว่างการต่อ เวลาพเิ ศษ และในขณะทาการเตะจากจดุ โทษเพือ่ หาผชู้ นะดว้ ยเช่นกนั ซงึ่ สามารถสรุปเป็น
การลงโทษ ทง้ั ตวั บุคคล คือผเู้ ลน่ เอง โดยการใหใ้ บเหลอื งหรอื ใบแดง และการลงโทษทีม โดยใหฝ้ ่ายตรง
ขา้ มได้ เตะโทษโดยตรง โดยออ้ ม เตะโทษ ณ จดุ โทษ หรือผตู้ ดั สนิ ทาการปลอ่ ยบอลได้ ดงั ตารางตอ่ ไปนี้

เวลา/สถานทที่ ่กี ระทา การลงโทษ ผเู้ ล่น การลงโทษทีม หมายเหตุ

ผิด/สถานการณ์ ไม่มี -เขียนรายงานแจง้
เหตุการณท์ เ่ี กดิ ขนึ้ -เปลีย่ น
1.ก่อนการแขง่ ขนั เรม่ิ ขนึ้ ไมม่ ี ผเู้ ล่นแทนได้ และเขยี น
รายงาน แจง้ เหตุการณท์ ี่
1.1 ก่อนเขา้ ไปใน ไมม่ ี ไม่มี เกิดขนึ้ -เหมือนขอ้ 1.2
ลงโทษ
สนามแข่งขนั ไม่มี -เรม่ิ เล่นใหมด่ ว้ ยการ
ปล่อยบอลของผูต้ ดั สิน
1.2 หลงั เขา้ ไปใน ลงโทษ ไมม่ ี -เริม่ เลน่ ตามแต่กรณที ่ี การ
สนามแขง่ ขนั แลว้ แตก่ อ่ นที่ ไมม่ ี เลน่ ไดห้ ยุดลง
ไม่มี -เขียนรายงานแจง้
ผตู้ ดั สินจะใหส้ ญั ญาณการ เหตุการณท์ ีเ่ กดิ ขนึ้

เรม่ิ เล่น 1.3 หลังการให้

สญั ญาณการเร่มิ เลน่ แต่ ลงโทษ
กอ่ นการเตะเริ่มเลน่

2. ระหว่างการแขง่ ขนั ลงโทษ
2.1 ความผิดเกดิ ขนึ้ ใน
สนามแข่งขนั ลงโทษ
2.2 ความผิดเกิดขนึ้ นอก
สนามแขง่ ขนั ลงโทษ
3.ระหว่างการเล่นหยุดลง
(รวมทง้ั ระหว่างพกั ครง่ึ ไม่มี
เวลา) ลงโทษ
4.หลงั จากหมดเวลาการ
แขง่ ขนั
5.เม่ือมกี ารเตะ ณ จุดโทษ
เพื่อหาผชู้ นะ

ตารางแสดงอานาจในการให้ใบเหลืองและใบแดง

วิธีการแสดงใบเหลอื งและใบแดง
ผตู้ ดั สินควรปฏิบัติตามวิธกี ารในการแสดงใบเหลืองและใบแดง ดงั นี้
1. แสดงให้เหน็ อยา่ งชัดเจน (Clear)
2. แสดงต่อหนา้ ผเู้ ล่น (Face to Face)
3. ไมแ่ สดงลกั ษณะก้าวรา้ วรนุ แรง (No Aggressive)
4. ให้ดว้ ยอาการสงบสุขมุ (Calm)
5. แสดงออกถึงความมนั่ ใจ (Confidence)

การพจิ ารณาลงโทษทีมและผเู้ ลน่
(Punishment for Team and Player)

การกระทำผดิ กติกาของผเู้ ลน่ จะนำไปสูก่ ารลงโทษทมี ซงึ่ กตกิ าการแข่งขันไดร้ ะบุไว้ 2 ประการใหญ่ ๆ คอื
โทษโดยตรง และโทษโดยออ้ ม โดยการกระทำผิดทเ่ี ป็นโทษโดยตรงในเขตโทษของตนเองจะเป็นการเตะโทษ

ณ จุดโทษ ซงึ่ สามารถสรปุ เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจในการพิจารณาดังน้ี

โทษโดยตรง
Direct Free

Kick

กระทาผดิ กตกิ า 10 ประการ
ตามทกี่ ตกิ าขอ้ 12 กาหนดไว้

1.ทากบั คตู่ ่อสู้ 2.ทาในสนามแขง่ ขนั 3.ทาในขณะลกู
บอลอยู่ในการเล่น

การลงโทษ

ทีม ผเู้ ลน่

โทษโดยตรง ณ จุดเกดิ เหตุ -เฉยหรอื เตอื น
หรอื -คาดโทษ ใหใ้ บเหลอื ง
เตะโทษ ณ จุดโทษ
-ใหอ้ อก ใหใ้ บแดง

จากแผนภูมขิ า้ งต้น หากขาดองค์ประกอบในการพจิ ารณาข้อใดขอ้ หนงึ่ ใน 3 ขอ้ คือทำกบั คูต่ ่อสู้ ทำใน
สนามแข่งขัน และทำในขณะทล่ี กู บอลอย่ใู นการเลน่ การลงโทษนั้นจะไม่ใช่การลงโทษโดยตรง เช่น

1+2 ขาด3 = ให้เรมิ่ เลน่ ตามกรณีทเ่ี กดิ ขึ้น เช่น ทมุ่ เตะจากประตู เตะจากมมุ ฯลฯ
1+3 ขาด2 = ให้เริ่มเล่นโดยการปล่อยบอล (Drop Ball)

2+3 ขาด1 = ใหเ้ รม่ิ เล่นโดยโทษโดยออ้ ม จากทซี่ ึ่งการกระทาผดิ ทเี่ กดิ ขนึ้

การลงโทษ

จากทซ่ี งึ่ การกระทา จากจุดทลี่ กู บอลอยู่
ผดิ เกดิ ขนึ้

การปลอ่ ยบอล

ความผิดตามกตกิ า ความผิดตามกรณี -ผเู้ ลน่ กระทำผดิ
ขอ้ 12 อน่ื ๆ กตกิ าข้อ 4 เรือ่ ง
-ผรู้ ักษาประตู -การลำ้ หน้าตามก การเปล่ียน
กระทำผดิ 4 ตกิ าข้อ11 อปุ กรณ์
ประการ -การเล่นลกู ซ้ำ
-การกระทาผดิ -ชนโดยชอบขณะ -ผเู้ ลน่ เขา้ ไป
ลูกบอลไม่อยู่ใน
10 ประการของ ระยะการเล่น สมทบ หรอื กลบั
-ชนผรู้ กั ษาประตู
โทษโดยตรง แต่ เขา้ ไปสมทบกบั
ยกเวน้ ถอื ลกู บอล
ทากบั บุคคลอืน่ ๆ ทมี ตนเอง โดยผู้
ไวใ้ นมือ กีดกนั
ทไ่ี ม่ใช่คตู่ ่อสใู้ น ตดั สนิ ยงั ไม่
การเลน่ หรอื
ขณะท่ีลกู บอลอยู่ อนญุ าต
ออกมานอกเขต
ในการเล่น และ
ประตู
อยู่ภายในสนาม

ความผิดพลาดของผู้ การปลอ่ ยบอล ผตู้ ัดสินส่งั หยดุ การ
ตดั สนิ ส่งั หยุดการเล่น
โดยไมม่ ีผกู้ ระทาผดิ Drop Ball เล่นชัว่ คราว เนอ่ื งจาก
-สภาพอากาศไม่
สิ่งรบกวนจาก อำนวย

ภายนอก เช่น คน -ไฟฟา้ ขัดข้อง
สัตว์ ฯลฯ เขา้ ไปใน -ลูกบอลชำรดุ
สนามแขง่ ขัน จะถูก -อปุ กรณ์การแข่งขนั

หรือไมถ่ ูกลกู บอลก็ ชำรุด
ตาม
-ผเู้ ลน่ บาดเจ็บหนกั

ขนั้ ตอนในการพจิ ารณาการลงโทษ
การลงโทษการกระทำผดิ ใด ๆ ของผเู้ ล่น สามารถพจิ ารณาดำเนินการตามขน้ั ตอนตา่ ง ๆ ไดด้ ังน้ี
1. สง่ั หยุดการเล่น
2. ลงโทษบุคคล อาจมกี ารลงโทษหรือไม่มีแลว้ แตค่ วามรนุ แรงและเจตนาของการกระทำ
ถา้ ไมม่ กี ารลงโทษผตู้ ดั สนิ อาจจะเฉย ๆ หรือวง่ิ เขา้ ไปหาผเู้ ล่นเพอ่ื พดู ตกั เตือน ถา้ จาเป็นตอ้ งใหใ้ บเหลือง
หรือใบแดงกจ็ ะแสดงตอ่ ผเู้ ล่นนนั้ ดงั นน้ั ในการลงโทษผเู้ ลน่ ผตู้ ดั สนิ อาจจะกระทาในสง่ิ ใดส่ิงหน่งึ ตอ่ ไปนี้

2.1. แสดงอาการเฉย เพราะเปน็ การกระทำผิดเลก็ นอ้ ยเปน็ ปกติ
2.2. เตอื นผเู้ ลน่
2.3. ใหใ้ บเหลือง
2.4. ให้ใบแดง

3. ลงโทษทมี เน่อื งจากผู้เล่นได้กระทำผิดกติกา ซงึ้ ขึ้นอยกู่ บั ลกั ษณะของการกระทำผิด
วงเวลาในการกระทาผิด และสถานทท่ี ก่ี ระทาผดิ ซึ่งจะลงโทษทีมไดด้ งั นี้

3.1. โทษโดยตรง หรือ เตะโทษ ณ จุดโทษ
3.2. โทษโดยออ้ ม
3.3. ปล่อยบอล (Drop Ball) กรณเี กิดเหตอุ ยู่นอกสนาม ในขณะท่ีลกู บอลอยู่ใน การเลน่ หรอื ไม่มฝี ่ายใด
กระทำผิด เชน่ มีผบู้ าดเจบ็ หนกั

3.4. ใหเ้ รมิ่ เล่นตามกรณที ่เี กดิ ขึน้ เนอ่ื งจากการกระทำผดิ ของผเู้ ลน่ นัน้ เกดิ ขึ้น
ในขณะลกู บอลอยู่นอกการเลน่ ซงึ่ เมอ่ื ทำการลงโทษบุคคลแล้วกใ็ ห้เร่ิมตามกรณที ลี่ กู บอลอยนู่ อกการเลน่
ขณะนนั้ เช่น เตะจากมุม เตะจากประตู เตะโทษ ณ จดุ โทษ ทุ่ม เป็นต้น

เวลาทเี่ กีย่ วขอ้ งกบั การแขง่ ขันฟตุ บอล
(Time in the Football Game)
การนับเวลาถอยหลังเป็นการเตรียมตัวของฝา่ ยต่าง ๆ ในการปฏบิ ัตหิ นา้ ที่ในวนั ที่มกี ารแขง่ ขันฟุตบอล เพอ่ื
เตรียมความพร้อมก่อนการแข่งขันจะเรมิ่ ขึ้น ในการแขง่ ขนั ในระดับนานาชาติ สหพนั ธฟ์ ตุ บอลนานาชาติ หรือ
ฟฟี ่า ได้กำหนดการนบั เวลาถอยหลงั ไวด้ ังน้ี (FIFA, 2000, PP.14-15)
รายการนบั ถอยหลัง กอ่ นเวลาการแขง่ ขนั
-เจา้ หนา้ ทร่ี ักษาความปลอดภัยตรวจสอบความพรอ้ มบริเวณสนามแข่งขัน 3.30 ชม.
-ผคู้ วบคุมการแขง่ ขนั ถงึ สนามการแขง่ ขัน 2 ชม.
-ผู้ตดั สนิ ผชู้ ่วยผู้ตัดสนิ และทมี ถงึ สนามแขง่ ขนั 1.30 ชม.
-แจกใบรายชือ่ ใหท้ มี 75 นาที
-ทีมอบอุ่นรา่ งกาย 45-20 นาที
-ตรวจสอบสนามครง้ั สดุ ท้าย 18 นาที
-ประกาศตอ้ นรับทมี 15 นาที
-ทีมรอทอ่ี ุโมงคท์ างออก 9 นาที
-เพลงฟฟี ่าขนึ้ เดินออกจากอโุ มงค์ 7 นาที
-เพลงชาติ 6 นาที
-ถา่ ยรปู 2 นาที
-เส่ยี งเหรยี ญ 1 นาที
-เรมิ่ การแข่งขนั 0 นาที

ข้อแนะนำของสหพันธ์ฟตุ บอลนานาชาติเกยี่ วกับการกำหนดเวลาทเ่ี ปน็ มาตรฐาน
(FIFA Introduces Standardised Timing)
สหพนั ธฟ์ ุตบอลนานาชาตไิ ด้กำหนดใหม้ กี ารใช้เวลาทเ่ี ป็นระบบมาตรฐานเดียวกนั ทเี่ กี่ยวกบั กรณตี ่าง ๆ เชน่
การทำประตูได้ การเปล่ียนตัว และเหตกุ ารณ์ต่าง ๆ ทเ่ี กดิ ขนึ้ ระหว่างการแข่งขัน ตวั อย่างเชน่ ถ้ามีผเู้ ลน่ ทำ
ประตไู ดใ้ นนาทที ี่ 32 กบั อีก 15 วนิ าที ให้ถือว่าเปน็ การทำประตูไดใ้ นนาทีท่ี 33 และเปน็ วิถที างใหมป่ ระการ
หนึง่ เพ่ือทำใหเ้ กิดความชัดเจนในการทำประตูไดใ้ นช่วงชดเชยเวลาของครงึ่ เวลาแรก โดยการใสเ่ ครือ่ งหมาย
(+) เพ่ิมไว้ เชน่ มีการทำประตูได้ในนาทที ี่ 45 กบั อีก 30 วินาที ของครึง่ เวลาแรกการทำประตูน้จี ะบันทึกวา่ ทำ
ไดใ้ นนาทที ี่ 46+ ถ้ามกี ารทำประตไู ด้ในนาทีแรกของครง่ึ เวลาหลงั จะบันทึกว่าทำไดใ้ นนาทที ี่ 46
ถา้ ในคร่งึ เวลาหลงั มกี ารชดเชยเวลาในช่วงทา้ ยการแข่งขนั ออกไปโดยท่ีไม่มีการต่อเวลาพิเศษ ถา้ มีการทา

ประตไู ดใ้ นนาทีท่ี 92 กบั อีก 45 วนิ าที จะบนั ทกึ ไวว้ ่าทาไดใ้ นนาทที ี่ 93 แตถ่ า้ ผลการแขง่ ขนั เสมอกนั

และมกี ารต่อเวลาพเิ ศษออกไปอกี การบนั ทึกประตทู ที่ าไดจ้ ะเป็นนาทที ี่ 93+ ทงั้ นเี้ พื่อแสดงใหเ้ ห็นวา่

หากมกี ารทาประตไู ดใ้ นครง่ึ เวลาแรกของการต่อเวลาพเิ ศษจะบนั ทกึ นาทีท่ี 91 จะทาใหเ้ กดิ ความแตกตา่ ง

กนั และทราบวา่ ทาประตไู ดเ้ ม่ือใด สาหรบั กรณกี ารเปลี่ยนตวั การทาผิดกติกาและเหตกุ ารณอ์ ื่น ๆ ท่ีตอ้ ง

บนั ทึกเวลากจ็ ะพิจารณาในลกั ษณะเดยี วกนั

การชดเชยเวลา (Extended Time)
การชดเชยเวลาเปน็ หนา้ ท่ีของผ้ตู ัดสินในการพจิ ารณาตัดสนิ ใจ ซงึ่ จะชดเชยเวลาทเ่ี สยี ไปจากเหตกุ ารณ์ตา่ ง ๆ
เชน่ การบาดเจบ็ ของผเู้ ล่น การเปลย่ี นตวั ฯลฯ ทง้ั นเ้ี พอ่ื ใหค้ รบเวลาของการเลน่ ครงึ่ ละ 45 นาที ตามกติกาท่ี
กำหนด ไมส่ ามารถระบุได้ว่าจะชดเชยเวลามากน้อยเพยี งใดแล้วแต่เหตุการณ์ต่าง ๆ ทีเ่ กิดขึน้
การชดเชยเวลาจะกระทำโดยผตู้ ัดสนิ ทอ่ี ยู่ในสนามแข่งขันเปน็ ผ้สู ง่ สญั ญาณมือ และใช้เสียงใหผ้ ู้ตัดสนิ คนที่4 ได้
ทราบในช่วงเวลาทีน่ ดั หมายกนั ไวก้ ่อนลงทำหนา้ ท่ี ปกตจิ ะอยใู่ นช่วงเวลานาทีที่ 43-44 ของแตล่ ะครึง่ ซง่ึ ผู้
ตดั สนิ คนท่ี4 ควรมองตามผูต้ ัดสินตลอดนบั ต้งั แต่ชว่ งนาทที ่ี 42 และอาจจะทำตวั เลข เชน่ 1, 2, 3 ไว้รอเปน็ ตน้
สว่ นผู้ตัดสินจะยกน้วิ มอื แสดงเวลาใหเ้ หน็ อย่างชัดเจน ไมจ่ ำเป็นตอ้ งปกปดิ ใคร และอาจจะใช้เสียงตะโกนบอก
เวลาด้วยก็ได้ ผ้ตู ดั สินคนที่4 จะแสดงป้ายตวั เลขทเ่ี ตรียมไว้แสดงกลบั ให้ผ้ตู ดั สนิ ได้ตรวจสอบความถูกตอ้ งอีก
ครั้ง เมื่อถูกตอ้ งแล้วผู้ตัดสินคนท่ี4 จะรอจนนาทที ่ี 44.30-44.45 ท้งั นี้แล้วแต่ระยะห่างระหวา่ งทน่ี งั่ กบั เส้นขา้ ง
ถ้าห่างมากกอ็ อกไปเร็วหนอ่ ย ถา้ ใกลก้ อ็ อกไปช้าได้ ภายหลงั เดนิ ออกไปบรเิ วณใกลเ้ ส้นขา้ งและเส้นแบ่งแดน
แล้วใหแ้ สดงป้ายบอกเวลาไปยงั ทน่ี ง่ั ผเู้ ล่นสำรองทมี ท่ี1 จากนั้นแสดงทางตรงดา้ นในสนาม แลว้ หนั ไปแสดงทาง
ที่น่ังผเู้ ล่นสำรองทมี ท่ี2 และหนั กลับมาทางสดุ ท้ายคือดา้ นทนี่ ั่งของบคุ คลสำคญั ซง่ึ รวมทง้ั ผูผ้ ตู้ ดั สอบผ้ตู ัดสนิ
แลว้ จงึ เอาป้ายลง ณ เวลานัน้ เวลาการแข่งขนั ปกตจิ ะหมดเวลา 45 นาทพี อดี
การปฏบิ ตั ติ ามวิธีการต่าง ๆ ดงั กล่าวขา้ งตน้ หากผตู้ ดั สินและผตู้ ดั สนิ คนที่4 มีการประสานความร่วมมือ
กนั เป็นอยา่ งดี และผตู้ ดั สนิ คนท่ี4 มกี ารควบคมุ การดาเนนิ การของตนเองเป็นอยา่ งดแี ลว้ โดยเฉพาะอย่าง
ยิ่งการนาป้ายแสดงการชดเชยเวลาลง และเวลาขณะนนั้ 45 นาทพี อดี จะแสดงใหเ้ หน็ ถงึ ความมสี มาธิ
และมงุ่ ม่นั ในการปฏิบตั หิ นา้ ทขี่ องตนเองไดเ้ ป็นอย่างดี

ภาพแสดงการเป่ าเริ่มการแข่งขนั

ภาพแสดงการเตะโทษโดยตรง
ภาพแสดงการเตะโทษโดยออ้ ม
ภาพแสดงการชแี้ ดนดา้ นซา้ ย

แสดงการช้ีแดนดา้ นขวา
แสดงการใหไ้ ดเ้ ปรียบ
แสดงการใหต้ ง้ั เตะจากประตู

แสดงการคาดโทษ (ใหใ้ บเหลือง)
แสดงการไล่ออก (ใหใ้ บแดง)

แสดงการเป่าหมดเวลาในคร่งึ เวลาเวลาแรก
แสดงการเป่าหมดเวลาในคร่งึ เวลาหลงั

สัญญาณของผู้ชว่ ยผู้ตัดสนิ
(Assistant Referee Signal)

แสดงการชแี้ ดนดา้ นขวา

แสดงการชแี้ ดนดา้ นซา้ ย

แสดงการใหต้ งั้ เตะจากมมุ
แสดงการใหต้ งั้ เตะจากประตู

แสดงการลา้ หนา้

แสดงการใหต้ ง้ั เตะจากจดุ ไกล
แสดงการใหต้ ง้ั เตะจากจุดใกล้

แสดงการเปลี่ยนตวั

สญั ญาณของผู้ตัดสินท่ี 4

แสดงการเปลย่ี นตวั
แสดงการทดเวลาพิเศษ

บทสรปุ
ฟตุ บอลเป็นเกมการแข่งขนั กฬี าท่ยี ิ่งใหญ่ เห็นไดจ้ ากมีการจดั การแข่งขนั ในระดบั ต่าง ๆ อย่าง
มากมาย มบี คุ คลมากมายเขา้ มาเก่ยี วขอ้ ง เช่น นกั กีฬา คนดู เจา้ หนา้ ที่ทมี ผบู้ รหิ ารทีม และท่ี
ขาดไมไ่ ดเ้ ลยกค็ ือผตู้ ดั สิน ผตู้ ดั สนิ นบั วา่ เป็นบุคคลท่ีมบี ทบาทสาคญั ยิ่งท่ีจะชว่ ยยกกระดบั การ
แข่งขนั ทาใหเ้ กมการแขง่ ขนั สนกุ สนาน ต่นื เตน้ เรา้ ใจ และดาเนนิ การแข่งขนั ดว้ ยความบรสิ ทุ ธิ์
ยตุ ธิ รรมกบั ทกุ ๆ ฝ่าย ผตู้ ดั สินเป็นผทู้ ่มี บี ทบาทสาคญั มอี านาจสงู สดุ เป็นผชู้ ขี้ าด ถา้ ผตู้ ดั สิน
ไม่เขา้ ใจกฎกตกิ า ไมม่ ีคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและความซ่อื สตั ยส์ จุ ริต เกมการแข่งขนั ก็จะออกมา
ไม่ถกู ใจ ไม่ถกู ตอ้ ง ผตู้ ดั สนิ ถอื เป็นองคก์ รสาคญั อยา่ งยง่ิ ท่ีจะชว่ ยพฒั นาขีดความสามารถของ
นกั กฬี าใหเ้ ทยี บเทา่ ในระดบั สากล สามารถเขา้ รว่ มการแขง่ ขนั ในระดบั นานาชาติไดอ้ ยา่ งเท่า
เทียม

เอกสารอา้ งองิ
กรมพลศกึ ษา. คูม่ อื ผ้ตู ัดสนิ กีฬาฟุตบอล. สำนกั งานกจิ การโรงพิมพ์ องค์การสงเคราะหท์ หารผ่าน
ศกึ
ในพระบรมราชูปถมั ภ์. กรุงเทพฯ : 2555.
การกีฬาแห่งประเทศไทย. คู่มือการตัดสินและช้ขี าดกฬี าฟตุ บอล. อรุณการพมิ พ์. กรงุ เทพฯ :
2547.
สมาคมฟตุ บอลแหง่ ประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์. กติกาการแข่งขันฟตุ บอลแก้ไขเพิ่มเตมิ ปี
ค.ศ. 2001 ม.ป.ป., ม.ป.พ., 2544. เอกสารอัดสำเนา.
FIFA. LAW of the Game. Zurich : Switzerland, 2000, PP.67.
Federation International De football Association. Laws of the Game.Zurich :

Switzerland, 2006.136


Click to View FlipBook Version