1
ประวตั แิ ฮนด์บอล
จัดทำโดย
นำงสำว ศศิวมิ ล ทำสีดำ
รหัสนักศึกษำ 63121890115
สำขำพลศึกษำ ช้ันปี ท่ี 1
เสนอ
อำจำรย์ ดร.ทพิ เนตร ปำสำ
รำยงำนเล่มนีเ้ ป็ นส่วนหน่ึงของกำรศึกษำวชิ ำ
ภำคเรียนท่ี 2 ปี กำรศึกษำ 2564
มหำวทิ ยำลยั รำชภฏั สุรินทร์
ก
คำนำ
รำยงำนเล่มนีเ้ ป็ นส่วนหนึ่งของรำยวชิ ำ สุขศึกษำ จกั ทำเร่ืองเกย่ี วกบั กฬี ำแฮนด์บอล มที ้งั
ประวตั คิ วำมเป็ นมำ กตกิ ำต่ำงๆ และอกี หลำยอย่ำงทเี่ กย่ี วกบั กฬี ำแฮนด์บอล หำกมขี อผดิ พลำด
ประกำรใดขออภยั ณ ทน่ี ี้
ศศิวิมล ทาสีดา
21 มีนาคม 2564
ข
สารบญั
คานา………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..ก
สารบัญ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………ข
เรื่อง หน้า
ประวิติกีฬาแฮนด์บอล…………………………………………………………………………………………………………………………………..1
ประวิติกีฬาแฮนด์บอลในประเทศไทย……………………………………………………………………………………………………….2
กติกาแฮนด์บอล……………………………………………………………………………………………………………………………………….3-10
ประโยนชใ์ นการเลน่ กีฬาแฮนดบ์ อล…………………………………………………………………………………………………………11
อา้ งอิง………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………12
1
ประวตั กิ ฬี ำแฮนด์บอล
กฬี ำแฮนด์บอล มีท่ีมาจากประเทศเยอรมนี โดยนาย Konrad Koch ครูพละศึกษาคนหน่ึงแต่
กย็ งั ไม่เป็นท่ีนิยมมากนกั จนกระทงั่ ปี พ.ศ. 2447 (ค.ศ. 1904) กีฬาแฮนดบ์ อลกถ็ ูกพฒั นาข้ึนใน
ทวปี ยโุ รป และกาหนดกติกาข้ึนโดยอา้ งอิงจากกติกาของกีฬาฟตุ บอลเป็นหลกั ซ่ึงเป็นการ
ดดั แปลงกีฬาฟตุ บอลมาเล่นดว้ ยมือแทน เดิมใชผ้ เู้ ล่นทีมละ 11 คน แต่ลดลงเหลือทีมละ 7 คน
แทน เนื่องจากผเู้ ล่นมีจานวนมากจนเกินไปทาใหเ้ ล่นไม่สะดวก จากน้นั จึงคอ่ ย ๆ แพร่หลาย
เร่ือยมา
ในปี พ.ศ. 2471 (ค.ศ. 1928) แฮนดบ์ อลถูกนาไปสาธิตในงานกีฬาโอลิมปิ ก และถกู บรรจุ
เขา้ เป็นหน่ึงในรายการการแข่งขนั กีฬาระดบั ชาติเมื่อปี พ.ศ. 2474 (ค.ศ.1931) และเป็นที่นิยม
อยา่ งแพร่หลายจนถูกบรรจุเขา้ เป็นชนิดกีฬาการแข่งขนั ในกีฬาโอลิมปิ ก เม่ือปี พ.ศ. 2479 (ค.ศ.
1936) ก่อนที่จะเจอกบั เหตุการณ์สงครามโลกคร้ังที่ 2 จนความนิยมลดลง
ต่อมาในปี พ.ศ. 2499 (ค.ศ. 1956) กไ็ ดม้ ีการแกไ้ ขกติกาแฮนดบ์ อลใหม่ ดว้ ยการนาเอา
กติกาของกีฬาฟตุ บอล และกีฬาบาสเกต็ บอลมาผสมกนั เพอื่ ฟ้ื นฟคู วามนิยมกีฬาแฮนดบ์ อลให้
กลบั มาอีกคร้ัง ปัจจุบนั กีฬาแฮนดบ์ อลกลายเป็นกีฬาที่นิยมกนั ไปทว่ั โลก
2
ประวตั แิ ฮนด์บอลในประเทศไทย
หลงั จากที่กีฬาแฮนดบ์ อลนิยมเล่นกนั อยา่ งแพร่หลายไปทวั่ โลกแลว้ ประเทศไทยกเ็ ร่ิม
นาเอากีฬาแฮนดบ์ อลเขา้ มาเมื่อปี พ.ศ. 2482 (ค.ศ. 1939) โดย อาจารยก์ อง วสิ ุทธารมย์ อดีต
อธิบดีกรมพลศึกษาในขณะน้นั ซ่ึงในตอนน้นั ยงั กติกาแฮนดบ์ อลยงั ตอ้ งมีผเู้ ล่นทีมละ 11 คน จึง
ทาใหไ้ ม่สะดวก และไม่เป็นท่ีนิยมในไทยมากนกั
จนกระทงั่ ปี พ.ศ. 2500 (ค.ศ. 1957) อาจารยช์ นิต คงมนต์ ไดบ้ รรจุกีฬาแฮนดบ์ อลเขา้ สอน
ในโรงเรียนฝึกหดั ครูพลานามยั และวทิ ยาลยั พลศึกษาอ่ืน ๆ ก่อนท่ีจะแพร่หลายไปยงั โรงเรียน
ต่าง ๆ จนกลายเป็นหลกั สูตรบงั คบั ของช้นั มธั ยมศึกษาตอนปลายเม่ือปี พ.ศ. 2518 (ค.ศ. 1975)
และใชก้ ติกาการแขง่ ขนั แบบสากลเม่ือปี พ.ศ. 2524 (ค.ศ. 1981) และเป็นที่นิยมในประเทศไทย
ในท่ีสุด
3
กติกาแฮนดบ์ อล
การแขง่ ขนั แฮนดบ์ อล ทีมชายและทีมหญิงอายตุ ้งั แต่ 18 ปี ข้ึนไป แบ่งเป็น 2 คร่ึง คร่ึงละ 30 นาที
พกั 10 นาที ถา้ คร่ึงแรกเล่นเกินเวลาที่กาหนดไวใ้ นคร่ึงหลงั กจ็ ะตอ้ งหกั เวลาท่ีเกินออกไป แลว้
เล่นจนเตม็ เวลา 30 นาทีของคร่ึงหลงั ถา้ ผลเสมอกนั ในช่วงเวลาปกติ ใหเ้ พิ่มเวลาพิเศษ หลงั จาก
พกั แลว้ 5 นาที เพือ่ เสี่ยงเลือกส่งหรือเลือกแดนสาหรับเวลาในการต่อเวลาพิเศษ โดยช่วงเวลาท่ี
เพิ่มจะแบ่งเป็น 2 คร่ึง คร่ึงละ 5 นาที (เปลี่ยนแดนกนั ในคร่ึง โดยไม่มีเวลพกั ) ถา้ ผลยงั เสมอกนั
อีก กใ็ หต้ ่อเวลาพิเศษในช่วงที่ 2 โดยใหเ้ สี่ยงเลือกส่งหรือเลือกแดน และการแขง่ ขนั จะไม่มีการ
พกั (ถา้ ผลจากการต่อเวลาพิเศษยงั เสมอกนั อยู่ ใหป้ ระยกุ ตก์ ติกาน้ีเพ่ือหาผชู้ นะ)
*ทีมท่ีเขา้ แข่งขนั
ตอ้ งส่งรายช่ือผเู้ ล่นทีมละ 12 คนลง (ผเู้ ล่น 6 คน ผรู้ ักษาประตู 1 คน) ที่เหลือเป็นผเู้ ล่นตวั สารอง
ขณะเริ่มแข่งขนั ทีมหน่ึงจะตอ้ งมีผเู้ ล่นไม่นอ้ ยกวา่ 5 คน เม่ือแข่งไปจะมีผเู้ ล่นนอ้ ยกวา่ 5 คนกไ็ ด้
การเปล่ียนตวั เขา้ ออกไดต้ ลอดเวลา เปล่ียนออกมาแลว้ กเ็ ปล่ียนกลบั ลงไปเล่นไดอ้ ีก โดยไม่ตอ้ ง
บอกผบู้ นั ทึกและผจู้ บั เวลา แต่จะตอ้ งรอใหผ้ เู้ ล่นในสนามออกจากสนามก่อน แลว้ กจ็ ะตอ้ งเขา้
ออกตรงบริเวณเสน้ เปลี่ยนตวั ของฝ่ ายตนเองเท่าน้นั ถา้ มีการเขา้ มาเกินผเู้ ล่นคนน้นั จะถูกสงั่ พกั
2 นาที และผเู้ ล่นในทีมน้นั จะตอ้ งออกจากสนาม 1 คน ใหเ้ หลือ 6 คน อยู่ 2 นาทีแลว้ แต่ผตู้ ดั สิน
จะกาหนดใหใ้ ครออก
* ผรู้ ักษาประตู
สามารถออกไปเล่นในสนามได้ และสามารถที่จะเปลี่ยนเป็นผรู้ ักษาประตูไดต้ ลอดเวลาแต่
จะตอ้ งเปล่ียนเส้ือกนั ดว้ ย เคลื่อนที่ไปในเขตประตูพร้อมกบั ลูกบอลไดโ้ ดยไม่มีขีดจากดั แต่จะ
พาลูกออกไปนอกเขตประตูไม่ได้ ถา้ ออกมานอกเขตแลว้ จะกลบั เขา้ เขตประตูพร้อมกบั ลูกบอล
ไม่ได้ ใหน้ บั เป็นประตู ถา้ ผเู้ ล่นเจตนาส่งลูกบอลกลบั เขา้ ประตูของตนกใ็ หน้ บั ประตูน้นั ดว้ ย
* การเล่นลูกบอล
4
1. อนุญาตใหผ้ เู้ ล่น ขวา้ ง จบั หยดุ ผลกั หรือตีลูกบอลดว้ ยมีท้งั สองได้ รวมท้งั แขน ศีรษะ ลาตวั
ตน้ ขา เข่า จบั ลูกบอลไวใ้ นมือเดียวหรือ 2 มือ จะทาไดไ้ ม่เกิน 3 วนิ าที หรือกา้ วไดไ้ ม่เกิน 3 กา้ ว
การพจิ ารณากา้ ว คือ
*ผเู้ ล่นยนื ดว้ ยเทา้ ท้งั 2 ขา้ งบนพ้นื แลว้ ยกเทา้ หน่ึงวางลงหรือเคล่ือนไปที่อ่ืน
*ผเู้ ล่นสมั ผสั พ้ืนเพียงเทา้ เดียว จบั ลูกบอลแลว้ ใชเ้ ทา้ ขา้ งหน่ึงสมั ผสั พ้นื
*กา้ วขากระโดดลงพ้ืนดว้ ยเทา้ เดียว และกระโจนดว้ ยเทา้ เดิมหรือสมั ผสั พ้นื ดว้ ยเทา้ อ่ืน
*กระโดดลงสมั ผสั พ้ืนดว้ ยเทา้ ท้ั 2 พร้อมกนั แลว้ ยกเทา้ ขา้ งหน่ึงแลว้ วางเทา้ น้นั ลง หรือเคลื่อน
เทา้ หน่ึงไปยงั ท่ีอ่ืน (ใหล้ ากเทา้ อีกขา้ งตามได)้
*ในขณะยนื หรือวง่ิ กระดอนลูกคร้ังหน่ึงและจบั ดว้ ยมือเดียวหรือ 2 มือ
*การเล้ียงลูกบอล กระดอนซ้าดว้ ยมือเดียวหรือกลิ้งบอล หลงั จากน้นั จึงจบั ลูกบอลหรือเกบ็ ลูก
บอลข้ึนมาดว้ ยมือเดียวหรือ 2 มือ
*ขณะที่จบั ลูกบอลดว้ ยมือเดียวหรือ 2 มือน้นั ทาไดภ้ ายใน 3 วนิ าที หรือจากกา้ วไม่เกิน 3 กา้ ว
การกระดอนลูกสามารถใชส้ ่วนต่างๆ ได้ เม่ือลูกบอลถูกผเู้ ล่นคนอื่นหรือถูกประตูผเู้ ล่นสามารถ
ที่จะปัด กระดอน และจบั ลกู บอลไดอ้ ีก
*ส่งบอลจากมือหน่ึงไปยงั อีกมือหน่ึง
2. เล่นลูกบอลในขณะท่ีกาลงั คุกเข่า นงั่ หรือนอนอยบู่ นพ้ืนไม่อนุญาตใหผ้ เู้ ล่นกระทาดงั น้ี
*ถกู ลูกบอลมากกวา่ 1 คร้ัง นอกจากลูกบอลไปถูกผเู้ ล่นอื่น หรือเสาประตู
*การพยายามครองลูกบอลพลาด (Fumbling) จะไม่ถูกลงโทษ
หมายเหตุ ลูกบอลพลาด หมายถึงการท่ีผเู้ ล่นพยายามท่ีจะจบั หรือหยดุ ลูกบอล แต่พลาดจากการ
ครอบครอง
5
*ถูกลูกบอลดว้ ยเทา้ หรือขาซ่ึงอยตู่ ่ากวา่ เข่าลงไปยกเวน้ ในกรณีที่คูต่ ่อสู้ไดข้ วา้ งลูกบอลมาถูกผู้
เล่น แต่อยา่ งไรกต็ าม การทาผดิ อยา่ งน้ีจะไม่ถูกลงโทษถา้ ไม่เป็นการทาใหเ้ กิดการไดเ้ ปรียบกบั ผู้
เล่นหรือทีมของเขา
*ทิ้งตวั ลงเล่นในขณะท่ีลูกบอลวางอยบู่ นพ้ืนหรือกาลงั กลิ้งอยู่ แต่กติกาขอ้ น้ีจะตอ้ งไม่นาไปใช้
กบั ผรู้ ักษาประตูในขณะท่ีอยใู่ นเขตประตูของตวั เอง
*เจตนาทาลูกบอลออกนอกเสน้ ขา้ งหรือเส้นประตู กติกาขอ้ น้ีจะตอ้ งไม่นาไปใชก้ บั ผรู้ ักษาประตู
ในขณะที่พยายามท่ีจะครอบครองลกู บอลพลาดภายในเขตประตู และลูกบอลไดอ้ อกไปทาง
เส้นประตูโดยตรง (ส่งจากประตู)
*ครอบครองลูกบอลอยภู่ ายในทีม โดยไม่พยายามที่จะรุกหรือทาประตู การเล่นในลกั ษณะน้ีจะ
ถูกลงโทษโดยใหส้ ่งลูกกินเปล่าจากจุดที่ลูกไดห้ ยดุ ลง
*การเล่นจะดาเนินต่อไปถา้ ลูกบอลถูกผตู้ ดั สินในสนาม
* การนบั ประตู
จะนบั เป็นประตู เม่ือลูกบอลท้งั ลูกไดผ้ า่ นเขา้ ไปในเส้นประตูโดยผทู้ าประตูและเพือ่ นร่วมทีมไม่
ทาผดิ กติกาก่อน ถา้ ลูกบอลจะเขา้ ประตูแน่นอนแต่บุคคลอื่นหรือส่ิงอื่นที่ไม่มีสิทธ์ิเขา้ ไปใน
สนามมาป้องกนั ไม่ใหล้ ูกบอลเขา้ ประตู ผตู้ ดั สินพิจารณาใหเ้ ป็นประตู เม่ือผตู้ ดั สินเป่ านกหวดี
ใหส้ ่งเริ่มเล่นต่อไปแลว้ ประตูท่ีไดจ้ ะเปลี่ยนแปลไม่ได้ ผทู้ ี่ทาประตูไดม้ ากกวา่ ถือวา่ เป็นผขู้ นะ
การแข่งขนั
หมายเหตุ ถา้ ท้งั 2 ทีมไดค้ ะแนนเสมอกนั ใหถ้ ือวา่ เสมอกนั
* การส่งเร่ิมเล่น
จะทาท่ีจุดก่ึงกลางสนามในในทิศทางใดกไ็ ดต้ อ้ งทาภายใน 3 วนิ าที ผเู้ ล่นฝ่ ายตรงขา้ มจะตอ้ งอยู่
ห่างจากผสู้ ่งเร่ิมเล่นอยา่ งนอ้ ย 3 เมตร (ยกเวน้ ผกู้ ระโดด)
* การส่งลูกเขา้ เล่น
6
ตอ้ งส่ง ณ บริเวณที่ลูกบอลออกโดยผสู้ ่งลูกเขา้ เล่นจะตอ้ งมีเทา้ ขา้ งหน่ึงอยบู่ นเส้นขา้ งจนกวา่ ลูก
จะหลุดมือแลว้ ผตู้ ดั สินไม่ตอ้ งใชส้ ญั ญาณนกหวดี
* ผรู้ ักษาประตูส่งลูก
จะตอ้ งส่งลูกบอลขา้ มเสน้ เขตประตูไม่ตอ้ งมีสญั ญาณนกหวดี จากผตู้ ดั สิน
* การส่งลูกกินเปล่า
1. การส่งลูกกินเปล่าจะกระทาในกรณีดงั น้ี
-การเปลี่ยนตวั ไม่ถูกตอ้ ง หรือเขา้ สู้สนามผดิ กติกา
-ผรู้ ักษาประตูทาผิดกติกา
-ผเู้ ล่นในสนามทาผดิ กติกาในเขตประตู
-เล่นลูกบอลโดยไม่ถูกตอ้ ง
-เจตนาทาใหล้ กู บอลออกนอกเสน้ ประตูหรือเสน้ ขา้ ง
-ถ่วงเวลาในการเล่น
-การฟาวลเ์ นื่องจากการเขา้ เล่นกบั คู่ต่อสู้
-การทาผดิ กติกาเก่ียวกบั การส่งเริ่มเล่น
-การทาผดิ กติกาเกี่ยวกบั การส่งเขา้ เล่น
-การทาผดิ กติกาเก่ียวกบั การส่งจากประตู
-การทาผดิ กติกาเก่ียวกบั การส่งลูกกินเปล่า
-การหยดุ เล่นโดยท่ีไม่มีการทาผดิ กติกา
-การทาผดิ กติกาเก่ียวกบั การยงิ ประตูโทษ
-การทาผดิ กติกาเกี่ยวกบั การโยนลูกของผตู้ ดั สิน
7
-ทาผดิ ระเบียบเกี่ยวกบั การส่ง
-การกระทาที่ไม่มีน้าใจเป็นนกั กีฬา
-การรุกราน
2. ส่ง ณ จุดที่ผดิ กติกาโดยไม่ตอ้ งมีสญั ญาณนกหวดี จากผตู้ ดั สิน ถา้ ฝ่ ายรุกไดส้ ่งลูกกินเปล่า และ
จุดที่ผดิ กติกาอยรู่ ะหวา่ งเส้นเขตประตูกบั เสน้ ส่งลูกกินเปล่าของฝ่ ายรับ การส่งน้ีใหส้ ่ง ณ จุดท่ี
ใกลท้ ี่สุดกบั จุดท่ีผดิ กติกานอกเสน้ ส่งลูกกินเปล่า
3. ในขณะที่ผเู้ ล่นฝ่ ายรุกอยใู่ นตาแหน่งพร้อมลูกบอลแลว้ เขาจะเล้ียงลูกบอลหรือวางลูกบอลลง
แลว้ เกบ็ ข้ึนมาอีกไม่ได้
4. ผเู้ ล่นฝ่ ายรุกจะตอ้ งไม่ถูกหรือขา้ มเสน้ ส่งลูกกินเปล่าของฝ่ ายตรงขา้ มในขณะท่ีทาการส่งลูก
กินเปล่า ผตู้ ดั สินจะตอ้ งจดั ตาแหน่งผเู้ ล่นฝ่ ายรุกท่ีเขา้ ไปอยใู่ นเส้นส่งลูกกินเปล่าใหถ้ ูกตอ้ ง
จากน้นั ผตู้ ดั สินจึงใหส้ ญั ญาณนกหวดี เพือ่ ส่งลูกกินเปล่า
5. ในขณะส่งลูกกินเปล่า ผเู้ ล่นฝ่ ายตรงขา้ มจะตอ้ งอยหู่ ่างจากจุดส่งลูกกินเปล่าอยา่ งนอ้ ย 3 เมตร
แต่อยา่ งไรกต็ าม ผเู้ ล่นฝ่ ายรับอาจยนื ใกลจ้ ุดนอกเส้นเขตประตูได้ ถา้ การส่งลูกกินเปล่าไดท้ าการ
ส่งบนเส้นส่งลูกกินเปล่า
6. ผตู้ ดั สินจะตอ้ งไม่ใหม้ ีการส่งลูกกินเปล่าในขณะท่ีฝ่ ายป้องกนั ทาผดิ กติกา ซ่ึงจะทาใหฝ้ ่ ายรุก
เกิดการเสียเปรียบ ถา้ การทาผดิ กติกาน้นั เป็นเหตุใหฝ้ ่ ายรุกเสียการครอบครองลูกบอล จะตอ้ งให้
ฝ่ ายรุกไดส้ ่งลูกกินเปล่าเป็นอยา่ งนอ้ ยถา้ มีการทาผดิ กติกา แลว้ ฝ่ ายรุกยงั คงครอบครองลูกบอล
ไดอ้ ีกคร้ัง จะตอ้ งไม่ใหม้ ีการส่งลูกกินเปล่า
7. ในกรณีที่การเล่นไดห้ ยดุ ลงโดยไมม่ ีฝ่ ายใดทาผดิ กติกา และมีทีมหน่ึงครอบครองลูกบอลอยู่
การเล่นจะเร่ิมใหม่โดยทีมที่ครอบครองลูกบอล ณ จุดที่การเล่นไดห้ ยดุ ลง โดยการส่งลูกกิน
เปล่าหรือการส่งตามขอ้ กาหนด และผตู้ ดั สินตอ้ งใหส้ ญั ญาณนกหวดี
8. ในขณะท่ีมีการตดั สิน ฝ่ ายท่ีกาลงั ครอบครองลูกบอลอยจู่ ะตอ้ งวางลูกบอลลงใกลๆ้ กบั ผเู้ ล่น
น้นั ทนั ที
* การยงิ ลูกโทษ
8
-ฝ่ ายรับจะตอ้ งอยหู่ ่างจากจุดยงิ ไม่นอ้ ยกวา่ 3 เมตร -ถา้ ในขณะท่ีมีการยงิ ลูกโทษ ผรู้ ักษาประตู
แตะหรือขา้ มเสน้ เขตผรู้ ักษาประตู (เสน้ 4 เมตร) ก่อนที่ลูกจะหลุดจากมือผยู้ งิ ลูกโทษ ใหท้ าการ
ยงิ ประตูลูกโทษใหม่ (ถา้ ลูกน้นั ไม่ไดป้ ระตู)
* การโยนลกู โดยผตู้ ดั สิน
เมื่อมีการทาผดิ กติกาพร้อมกนั โดยผเู้ ล่นท้งั 2 ทีม หรือหยดุ การเล่นโดยไม่มีฝ่ ายใดทา กระทาที่
จุดก่ึงกลางสนาม
* การสง่ั พกั 2 นาที
จะส่งเมื่อมีการเปล่ียนตวั ไม่ถูกตอ้ งหรือกระทาผดิ ซ้า ฯลฯ ถา้ คนเดิมถูกสง่ั พกั คร้ังท่ี 3 คนน้นั จะ
ถูกตดั สินออกจากการแข่งขนั ในการเตือนจะใหใ้ บเหลืองเพือ่ แสดงใหผ้ บู้ นั ทึกทราบ และให้
ใบแดงในกรณีที่ทาผดิ รุนแรงเกินกวา่ เหตุอื่นๆ อาจจะใหแ้ ก่ผเู้ ล่น
* ผตู้ ดั สิน 2 คน
สวมชุดสีดา ถา้ ความเห็นขดั กนั ยดึ ผตู้ ดั สินที่อยใู่ นสนามเป็นหลกั (ผตู้ ดั สินท่ีมีช่ือแรก) และมี
หนา้ ที่รับผดิ ชอบในการเกบ็ รวบรวมใบบนั ทึกท่ีสมบูรณ์ถูกตอ้ ง ผตู้ ดั สินสามารถยตุ ิการแข่งขนั
ได้ แต่อยา่ งไรกต็ าม จะตอ้ งดาเนินการแขง่ ขนั ต่อไปก่อนท่ีจะมีการตดั สินใหย้ ตุ ิการแข่งขนั
* การเขา้ เล่นกบั ฝ่ ายตรงขา้ ม
อนุญาตใหก้ ระทาดงั ต่อไปน้ี
*ใชม้ ือหรือแขนเพือ่ ประโยชน์ในการครอบครองลกู บอล
*แบมือเล่นลูกบอลจากคู่ต่อสูไ้ ดท้ ุกทิศทาง
*ใชล้ าตวั บงั คบั คู่ต่อสู้ ถา้ คู่ต่อสู้ไม่ไดเ้ ป็นฝ่ ายครอบครองลูกบอล
ไม่อนุญาตใหก้ ระทาดงั ต่อไปน้ี
*กีดกนั คู่ต่อสู้ดว้ ยมือ แขน หรือขา
*ผลกั คู่ต่อสู้ใหเ้ ขา้ ไปอยใู่ นเขตประตู
9
*ดึงหรือตีลูกบอลดว้ ยมือเดียวหรือ 2 มือใหอ้ อกจากมือคูต่ ่อสู้ที่ครอบครองลูกบอลอยู่
*ใชก้ าป้ันทุบลูกบอลจากคู่ต่อสู้
*ใชล้ ูกบอลทาใหค้ ูต่ ่อสู้เกิดอนั ตราย
*ทาใหผ้ รู้ ักษาประตูเกิดอนั ตราย
*ดึงคู่ต่อสู้ดว้ ยมือเดียวหรือ 2 มือ หรือผลกั คูต่ ่อสู้
*ทาฟาวลเ์ กี่ยวกบั การเขา้ เล่นกบั ฝ่ ายตรงขา้ ม จะถูกลงโทษโดยการส่งลูกกินเปล่า หรือใหย้ งิ ลูก
โทษ
*การทาฟาวลเ์ กี่ยวกบั การเขา้ เล่นกบั ฝ่ ายตรงขา้ ม การกระทาฟาวลใ์ นลกั ษณะดงั กล่าว เวน้ แต่
การเขา้ หาคู่ต่อสูโ้ ดยที่มิไดค้ รอบครองลูกบอลจะถูกลงโทษซ้าใหพ้ ิจารณาถึงการกระทาท่ีไม่มี
น้าใจเป็นนกั กีฬาดว้ ย
*การทาฟาวลท์ ี่ร้ายแรงเก่ียวกบั การเขา้ เล่นกบั ฝ่ ายตรงขา้ ม หรือลกั ษณะการกระทาท่ีไม่มีน้าใจ
เป็นนกั กีฬาจะตอ้ งถูกลงโทษโดยการตดั สิทธ์ิผเู้ ล่นคนน้นั
*ผเู้ ล่นที่ทาร้ายผอู้ ่ืนในสนามจะถูกไล่ออก
*การลงโทษ
1. การเตือนโดยไม่มีการบนั ทึก
2. การเตือนท่ีผตู้ ดั สินแจง้ ใหก้ บั ผจู้ บั เวลาและผบู้ นั ทึกทราบ โดยการใชบ้ ตั รสีเหลือง หมายเหตุ
การเตือนท้งั ทีมไม่ควรเกิน 3 คร้ัง ผเู้ ล่นคนอื่นๆ ทาผดิ อีกจะไม่มีการเตือน แต่จะใหเ้ ป็นการสงั่
พกั เท่าน้นั
3. การสงั่ พกั จะตอ้ งแสดงสญั ญาณมือใหผ้ เู้ ล่นที่เกี่ยวขอ้ ง ตลอดจนผบู้ นั ทึก ผจู้ บั เวลา ไดเ้ ห็น
อยา่ งชดั เจน (ชูมือขา้ งหน่ึงข้ึนและเหยยี ดนิ้วข้ึน 2 นิ้ว) การสงั่ พกั โดยปกติหยดุ พกั 2 นาที แต่ถา้
เป็นผเู้ ล่นคนเดิมถูกสงั่ พกั เป็นคร้ังที่ 3 ผเู้ ล่นคนน้นั จะถูกตดั สิทธ์ิออกจากการแขง่ ขนั
4. การตดั สิทธ์ิจากการแข่งขนั
10
-ผเู้ ล่นท่ีไม่มีสิทธ์ิเก่ียวขอ้ งเขา้ ไปในสนาม
-การทาผดิ อยา่ งร้ายแรงท่ีเกี่ยวกบั การเขา้ เล่นกบั คู่ต่อสู้
-กระทาโดยไม่มีน้าใจเป็นนกั กีฬา
-ถูกสง่ั พกั คร้ังที่ 3
-กา้ วร้าวเจา้ หนา้ ท่ีหรือผเู้ ล่นนอกสนามแข่งขนั
หมายเหตุ การตดั สิทธ์ิจากการแข่งขนั ผเู้ ล่นในสนาม จะตอ้ งทาคู่ไปกบั การสงั่ พกั 5. การไล่ออก
จากการแข่งขนั เมื่อมีการทาร้ายกนั ในสนาม
หมายเหตุ การทาร้าย คือการรุกราน โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ การทาต่อร่างกายผอู้ ่ืน เช่น ผเู้ ล่น ผตู้ ดั สิน
ผบู้ นั ทึก ผจู้ บั เวลา เจา้ หนา้ ที่ หรือผชู้ ม (การไล่ออกจากสนามผตู้ ดั สินจะใชส้ ญั ญาณ ยกมือไขว้
เหนือศีรษะ)
ผเู้ ล่นอ่ืนที่ถูกไล่ออกจากสนามจะไม่อนุญาตใหผ้ เู้ ล่นอ่ืนเขา้ แทน ผถู้ ูกไล่ออกจะตอ้ งออกจาก
สนามแข่งขนั และนอกบริเวณที่นงั่ ผเู้ ล่นสารอง
6. ถา้ ผรู้ ักษาประตูถูกสงั่ พกั ตดั สิทธ์ิ หรือไล่ออก จะอนุญาตใหเ้ ปลี่ยนตวั ผรู้ ักษาประตูสารองเขา้
แทนได้ ในกรณีน้ีผเู้ ล่นในสนามจะตอ้ งออกจากสนามแทน
7. การกระทาท่ีไม่มีน้าใจเป็นนกั กีฬา หรือการกา้ วร้าว จะพิจารณาโทษดงั น้ี
-การตดั สิทธ์ิก่อนการแข่งขนั ผเู้ ล่นในทีมน้นั จะไดเ้ ล่นโดยมีจานวนผเู้ ล่นเตม็ 12 คน
-การตดั สิทธ์ิระหวา่ งการแขง่ ขนั จะมีการเตือนก่อน และถา้ ทาการกา้ วร้าวซ้า จะถูกพิจารณา
ลงโทษตดั สิทธ์ิการแข่งขนั
-การตดั สิทธ์ิหลงั การแข่งขนั มีการเขียนรายงานใหท้ ราบ
11
ประโยชน์ของกฬี ำแฮนด์บอล
ประโยชน์ทางดา้ นร่างกาย
ช่วยเสริมสร้างสมรรถภาพทางดา้ นร่างกาย ทาใหก้ ลา้ มเน้ือแขง็ แรง
เสริมสร้างความคล่องแคล่ว ความออ่ นตวั ความอดทน
เสริมสร้างระบบประสาท การประสานงานร่วมกบั กลา้ มเน้ือ
ช่วยใหร้ ่างกายเจริญเติบโตเหมาะสมตามวยั
ช่วยการทางานของระบบต่างๆ ภายในร่างกาย โดยเฉพาะระบบการใชพ้ ลงั งาน
ประโยชน์ทางดา้ นจิตใจ
12
อ้ำงองิ
http://hilight.kapook.com/view/71962
https://kerriganrazy.wordpress.com/2012/03/03/