ฉบบั ท่ี 27/2565 ประจำเดอื นธนั วำคม 2565
วารสารสาระ...ดี
Saradee Saraburi
สวสั ดปี ี ใหม่ 2566
ศนู ยเ์ ทคโนโลยแี ละนวตั กรรมเกษตร จุฬาฯ - สระบุรี
AIC สวสั ดีรับปี เถาะ
การบม่ เพาะเกษตรอุตสาหกรรมล้าเลศิ ผล
เพ่ิมคุณคา่ เศรษฐกิจพชิ ิตจน
ประชาชนสระบุรีมีสขุ เอย
ภำยใตก้ ำรสนบั สนุนของคณะสัตวแพทยศำสตร์ จุฬำลงกรณ์มหำวิทยำลยั
วารสารสาระ...ดี
เผยแพรเ่ มอ่ื พ.ศ. ๒๕๖๓
กองบรรณาธกิ าร
กองบรรณำธิกำร ศ.กติ ติคุณ น.สพ.ดร.มงคล เตชะกำพุ
คณะผู้จดั ทำ รศ.น.สพ.ดร.กติ ตศิ ักด์ิ อัจฉรยิ ะขจร
วำ่ ที่ ร.อ.ภวตั ป้ นั บำรงุ กติ น์
ผศ.นสพ.ดร.ธีรวฒั น์ สว่ำงจันทร์อทุ ัย
สพ.ญ.ดร.นธิ ิรำ อนัคกลุ
นำงสำวศรำรัตน์ ทำนะมยั
ออกแบบและจัดทำ ดร.ภทั รำนิษฐ์ ตรีเพ็ชร์
https://www.facebook.com/AICCUSarburi
บทบรรณาธิการ
สวสั ดปี ใี หมค่ รบั
จบไปแล้วครับ สำหรับศึกฟุ ตบอลโลกที่ประเทศกำต้ำร์ โดยมีประเทศอำเจนติน่ำชนะแชมป์
เก่ำประเทศฝร่ังเศสไปอย่ำงสุดมัน ท้ำยสุดต้องต่อเวลำและยิงลูกโทษ สำหรับใคร ท่ีเป็นแฟน
ฟุ ตบอลคงจะไดอ้ มิ่ เอบิ กบั เกมส์ระดับโลกเชน่ น้ี ทีม่ ีกันส่ปี คี รั้งหน่งึ
ปีเก่ำผ่ำนไป ปีใหม่ก็มำถึง จำกปีเสือลำบำก ได้ผ่ำนไปยังทุลักทุเล ท่ีหลำยๆ ประเทศรวมท้ัง
ไทยเรำประสบปัญหำโรคโควิด น้ำมันรำคำแพง สงครำมยูเครนที่ปำเข้ำไปสิบกว่ำเดือน ยังไม่มี
ท่ำทีจะยุติ โดยกำรที่อำจมุ่งประโยชน์ส่วนตนมำกกว่ำส่วนรวม ส่งผลต่อประชำชนตำดำๆ ที่ล้ม
หำยตำยจำกไป
ปีกระตำ่ ย ดจู ะสดใสกวำ่ โดยพบวำ่ กำรประมำณเศรษฐกิจจะดีข้นึ อย่ำงน้อย จีดีพี กน็ ่ำจะโต
เกิน 3% จำกผลพวงของกำรท่องเท่ียวท่ีปีที่แล้ว ผ่ำนจำนวนสิบล้ำนคนไปเมื่อวันที่ 10 ธันวำคม
ที่ผ่ำนมำ ผู้คนหลั่งไหลมำเท่ียวประเทศไทยอย่ำงล้นหลำม ประมำณว่ำปีหน้ำเศรษฐกิจไทยจะไม่
ชะลอตวั คงเดนิ หน้ำโดยมเี ครอื่ งจกั รด้ำนกำรทอ่ งเท่ยี วมำเป็นตวั ผลกั ดนั
ในฉบับนี้ ผมได้นำเสนอบทควำมเรื่องเก่ียวกับ New S curve ท่ีประเทศไทยได้พยำยำม
สร้ำงจุดแข่งขันกับโลกด้วยนวัตกรรม โดยเฉพำะนวัตกรรมด้ำนอำหำรและกำรเกษตรที่เรำมี
ศักยภำพและควำมอุดมสมบูรณ์กว่ำบำงแห่งในโลก รวมท้ังได้รับควำมกรุณำจำก อำจำรย์
สัตวแพทย์หญิง ดร. ศรำวณี ขันมณี ได้เขียนบทควำมเร่ืองกำรนำเอำเทคโนโลยีท่ีเหมำะสมไป
พั ฒนำกำรเลี้ยงแพะแกะในจังหวัดน่ำน เพื่ ออำจนำไปเป็นต้นแบบกำรพั ฒนำเศรษฐกิจฐำนรำก
ต่อไปและที่ขำดไม่ได้คือ บทควำม นิทำนข้ำรำชกำร ว่ำที่ร้อยเอก ภวัต ป้ ันบำรุงกิตน์ ได้กรุณำส่ง
มำให้เป็นประจำ เป็นส่ิงเตือนใจให้เรำทุกคนประพฤติดี ปฏิบัติชอบ จึงจะทำให้สังคมอยู่อย่ำงมี
ควำมสุขทกุ ฝ่ำย
ประเทศไทยไดต้ ้ังทิศทำงด้ำนกำรเป็นประเทศช้ันนำด้ำนสินค้ำเกษตร เกษตรแปรรูปอำหำรทมี่ ี
มูลค่ำสูงและมีคุณค่ำในระบบอำหำรที่ยั่งยืน ศูนย์ AIC จึงเป็นแพลตฟอร์มท่ีรวมพลังของเหล่ำ
นักวิชำกำรในมหำวิทยำลัยและนอกมหำวิทยำลัยร่วมกับแต่ละจังหวัด รวมทั้งภำคเอกชนและภำค
ชุมชน ผลักด้นให้เข้ำสู่เป้ำหมำยได้ ในเดือนท่ีผ่ำนมำทำง AIC Saraburi ได้ส่งผู้แทนเข้ำร่วมฟงั
เกณฑ์กำรประเมิน PMQA 4.0 ซึ่งจังหวัดสระบุรีได้รับรำงวัลเลิศรัฐ 4 ปีติดต่อกัน รวมทั้งได้รับ
เชิญจำกบริษัทสระบุรีพั ฒนำเมือง จำกัด ร่วมประชุมกำหนดแผนและยุทธศำสตร์ของ Saraburi
Food Valley อีกด้วย
ตอ้ งขอขอบคุณทกุ ทำ่ นทไ่ี ดช้ ่วยนำนำวำ AIC Saraburi ไปในทิศทำงทมี่ ีเป้ำหมำยชดั เจน โดย
ปนี เี้ ปำ้ ประสงค์คือ กำรสรำ้ งควำมเข้มแขง็ ของภำคเี ครือขำ่ ย (Empower Network)
ผม และทีมงำน AIC Chula-Saraburi ขออำนวยพรปีใหม่ให้ท่ำนและ
ครอบครัวประสบควำมสุขตลอดไป
ดว้ ยควำมเคำรพ
ศำสตรำจำรย์ กติ ตคิ ณุ น.สพ. ดร. มงคล เตชะกำพุ
ผอู้ ำนวยกำร AIC-Chula-Saraburi
AIC-SARABURI
เมื่อวันที่ 15-16 ธนั วาคม 2565 ณ ห้องประชมุ หลวงพ่อสาเรจ็ ศักด์ิสิทธิ์ ชน้ั 3 ศาลากลาง
จังหวัดสระบุรี ศ.กิตติคุณ น.สพ.ดร.มงคล เตชะกาพุ ผู้อานวยการศูนย์ AIC สระบุรี และ
คุณศรารัตน์ ทานะมัย ได้รับเชิญจากจังหวัดสระบุรี เข้าร่วมโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่ อเพ่ิ ม
ประสิทธิภาพการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครฐั 4.0 ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2566 เพ่ือ
ช้ีแจงและทบทวนความรู้ความเข้าใจเคร่ืองมือประเมินสถานะองคก์ รของหน่วยงานภาครัฐในการเป็น
ระบบราชการ 4.0 ตามเกณฑ์คุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ 4.0 (PMQA 4.0) ร่วมกันประเมิน
สถานะขององคก์ รและจดั ทารายงานพัฒนาองค์กร
1
2
AIC-SARABURI
เม่ือวันท่ี 19 ธันวาคม 2565 ศ.กิตติคุณ น.สพ.ดร.มงคล เตชะกาพุ ผอ.ศูนย์ AIC-Chula-
Saraburi และ รศ.ดร. ชาลีดา บรมพิ ชัยชาติกุล รองผู้อานวยการ บพข. ได้มีการประชุมร่วมกับ
บ ริ ษั ท ส ร ะ บุ รี พั ฒ น า เ มื อ ง จ า กั ด ผ่ า น ก า ร ป ร ะ ชุ ม online เ รื่ อ ง Saraburi Food Valley
โครงการวิจัยการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนและการยกระดับพื้ นท่ี จังหวัดสระบุรี สู่การสร้าง
มาตรการส่งเสริมการลงทุน “อุตสาหกรรมความมั่นคงทางอาหาร” หรือ “หุบเขาอาหาร” ของ
ประเทศไทย
3
กวา่ จะไป New S Curve
ศาสตราจารย์ กิตตคิ ุณ น.สพ. ดร. มงคล เตชะกาพุ
ผู้อานวยการ AIC Chula-Saraburi
ประเทศไทยเรานด้ี ี ในน้ามปี ลา ในนามีขา้ ว แผ่นดนิ อุดมสมบูรณ์
แต่ในปัจจุบันดูจะไม่ค่อยเป็นจริงเสียเท่าไรนัก เพราะในน้าก็มีน้าเสีย ปลาอยู่ไม่
คอ่ ยได้ สว่ นนาข้าวนัน้ เลา่ กม็ ีปยุ๋ และยาฆ่าแมลงปนเป้ อื น
นับวัน ไทยแลนด์ จะอยู่ยากข้ึนทุกที เพราะโลกมีการแข่งขันที่หนักหน่วง รวดเร็ว
แบบอย่ากระพริบตา เราจึงอยูใ่ นคอมฟอตโซนอกี ตอ่ ไปไมไ่ ด้แล้ว
ความเป็นประเทศเล็กๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ ทาให้ได้เปรยี บและเสยี เปรยี บ
ประเทศใหญ่ แต่ส่ิงหน่ึงที่อาจวัดไม่ได้คือ นวัตกรรมไม่ได้ข้ึนกับขนาดของประเทศแต่อย่างใด
ดูประเทศสงิ คโปร์ เกาหลี ญี่ป่นุ เปน็ ตวั อย่าง
ประเทศไทยเรามีนักวิชาการท่ีเก่งไม่แพ้ ประเทศใดในโลก เพี ยงแต่สภาพแวดล้อม
(ecosystem) และวิธีการทางานท่ีบางครั้งอาจไม่เอื้อเท่าใดนัก ทาให้งานวิจัยหลายช้ินไม่ได้
นาไปตอ่ ยอดถึงนวตั กรรมขัน้ สงู ก็คอื ไปไมส่ ุด หยุดแคต่ รงน้นั
จากยทุ ธศาสตร์ประเทศชาติ 20 ปี ทีม่ ุ่งเน้นใหป้ ระเทศไทยแขง่ ขนั กบั โลกด้วยเทคโนโลยี
และนวัตกรรม ขับเคล่ือนเศรษฐกิจไทยสู่เวทีการแข่งขันระดับโลก แน่นอนด้วยแข่งด้วย
งานวิจัยและนวตั กรรมทีส่ รา้ งมลู คา่ เพิ่มให้แกส่ นิ คา้ และผลติ ภัณฑ์ อนั จะส่งผลถึงการกินดี อยู่
ดีของคนในประเทศ เป็นแนวทางของประเทศไทย 4.0 ท่ีเน้นอุตสาหกรรมท่ีสร้างมูลค่าด้วย
นวัตกรรม
(ที่มาข้อมูล ยทุ ธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมไทย 4.0 ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579))
4
ได้มีข้อเสนอที่ผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีที่มีท่านนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์
จันทร์โอชา ให้ผลักดันสิบอุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งจะเป็นกลไกขับเคล่ือนเศรษฐกิจเพ่ื ออนาคต (New
Engine of Growth) โดยหลัก ๆ แลว้ จะแบ่งเป็น 2 รปู แบบ ดังรปู ไดแ้ ก่
1. First s-curve: เปน็ การลงทนุ ในกลุ่มอุตสาหกรรมท่มี อี ยู่แล้วในประเทศ
2. New S-curve: เปน็ รูปแบบการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ท่ที ้าทาย
(ที่มา: https://sme.krungthai.com/sme/productListAction.action)
ซึ่งเชื่อกันว่าทั้ง 2 ส่วนน้ีจะสามารถขับเคล่ือนเศรษฐกิจได้อย่างก้าวกระโดด และช่วยต่อยอด
อตุ สาหกรรมเดิม เพ่ือเพิ่มรายไดข้ องประชากรไดม้ ากขน้ึ อีกด้วย
สาหรับจังหวัดสระบุรีเอง มีศักยภาพท้ังโครงสร้าง สภาพแวดล้อม รวมท้ังมีแหล่งสร้างนวัตกรรม
คือ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั อยู่ในพ้ืนท่ี เพียงแต่ขาดการรอ้ ยเรยี งใหเ้ ปน็ เร่อื งและแนวทางเดยี วกนั
…ต่างคนตา่ งคดิ ตา่ งคนตา่ งทา เลยตา่ งคนต่างไดผ้ ลลัพธ์ท่แี ตกตา่ งกัน...
ข้อเสนอแนะเชงิ นโยบาย คือ
1. ควรผลกั เปน็ ในแนวเดยี วกนั มานงั่ คดิ ดว้ ยกนั ทาดว้ ยกนั ในทศิ ทางเดยี วกนั
2. ควรเร่งการพัฒนาบุคลากรใน SME ใหเ้ ป็นตัวขบั เคล่อื น New S curve ของจงั หวัดให้ได้
3. ต้องพยายามให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในจังหวัดให้มองเห็นโอกาสในการขยาย/ต่อยอดของธุรกิ จ
ปรับเปลี่ยนมายเซตของตนเอง ว่าถ้าทาแบบเดิม ก็ได้แบบเดิม ว่ิงตามคน หรือจะสู้ว่ิงแซงคน
ไปข้างหนา้
4. ทางานแบบประสานทุกฝ่าย ผ่านความร่วมมือแบบ Quadruple helix (ส่ีฝ่าย) คือ ภาคจังหวัด
ภาคเอกชน ภาคการศึกษา และภาคประชาชน มีแนวทางในการทางานร่วมกัน และมีจุดเคล่ือนที่
เหมือนกนั
ถ้าต่างคนยงั ตา่ งทางาน เหมอื นลูกปัดคนละสี คนละเส้น ก็ยากท่จี ะผลักดัน คาถาม “ใครจะเป็นผรู้ ้อย
เรียงลูกปัดให้อยู่ในเส้นเดียวกัน” ท่ีจะช่วยให้เกิดความเจริญก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด ของเศรษฐกิจของ
คนในจงั หวัดสระบุรี เปน็ สงิ่ สาคญั ทย่ี ังหาไมเ่ จอ และน่าค้นหาย่งิ นัก
สิ่งท่ีผมอยากเห็น ในฐานะเป็นผู้อานวยการ AIC สระบุรี คือ การร่วมมือทุกภาคส่วน และการสร้าง
ความเข้มแข็งให้แก่ประชาคมในจังหวัดสระบุรี (Empower Saraburi) โดยใช้ฐานความรู้ ฐานงานวิจัยและ
สภาพแวดลอ้ มของจุฬาฯ ใหเ้ ปน็ ประโยชน์ตอ่ จงั หวัดให้มากท่สี ุด
5
แพะ-แกะ เปลี่ยนภูเขา
จากหอ้ งปฏิบัตกิ ารสู่ฟาร์มเกษตรกรผ้เู ลีย้ งแพะ-แกะจังหวดั นา่ น
โดย อาจารย์ สัตวแพทยห์ ญงิ ดร. ศราวณี ขันมณี
สานกั วชิ าทรพั ยากรการเกษตร จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั
การเลย้ี งแพะ-แกะของจังหวัดนา่ น...ท่ผี า่ นมา ในช่วงระยะเวลา 3-5 ปที ีผ่ า่ นมาเพ่ิ มข้ึนอยา่ งต่อเน่อื ง
จากหลายๆ ปัจจัยทั้งคุณสมบัติของแพะ-แกะ สถานการณ์ความต้องการของตลาด และการส่งเสริมของ
นโยบายภาครฐั โดยมกี ารเลย้ี งกระจายอยู่ในหลายๆ อาเภอ
จากการทางานวิจยั ในพ้ื นทเี่ ปน็ โครงการต่อเนอ่ื ง 2 ปี (2563-2565) จนถึงปัจจุบนั อา้ งอิงจากการ
ทางานภายใต้โครงการ “การพั ฒนาต้นแบบการเลย้ี งสัตวเ์ คย้ี วเอ้ืองขนาดเล็กของเกษตรกรรายย่อยเพ่ื อ
พั ฒนาเกษตรกรสู่การเป็นสมาร์ทฟาร์มเมอร์ (ปีท่ี 1) ” สู่ “โครงการการพั ฒนาเกษตรกรและพั ฒนาการ
เลย้ี งแพะ-แกะของจงั หวัดนา่ นอย่างยงั่ ยืน (ปที ี่ 2) ” ซึง่ รับการสนับสนนุ ทนุ วิจัยจากหน่วยให้ทุน บพท. ใน
พื้ นที่ 9 อาเภอ 15 ตาบล ส่งผลให้มีการเล้ียงแพะ-แกะเพ่ิ มข้ึนเกือบเท่าตัว จากจานวนเพี ยงหกร้อยตัว
เพ่ิ มเป็นกวา่ หน่งึ พั นตวั
การเล้ยี งแพะ-แกะเปน็ แบบ
ผสมผสานระหว่างการเลย้ี งใน
โรงเรือนและปลอ่ ยใหก้ ินตาม
ธรรมชาติ
เลีย้ งแพะ-แกะแบบชาวบ้าน
รูปแบบของการเลี้ยงแพะแกะเป็นแบบรายย่อย (Small holders) ปล่อยให้หากินตามธรรมชาติ
ขาดการปรับปรุงพั นธ์ุ โดยสายพั นธ์ุส่วนใหญ่เป็นพั นธ์ุพ้ื นเมือง ขาดการดูแลสุขภาพอย่างเป็นระบบ ใช้
การจัดการด้านสุขภาพเป็นรูปแบบจากประสบการณ์ของเกษตรกรเป็นหลัก ผลทาให้แพะ-แกะมีขนาดตัวเล็ก
และเจริญเติบโตช้า ใช้เวลาเล้ียงเป็นเวลานานกว่าจะถึงน้าหนักท่ีพ่ อค้าต้องการ คือประมาณ 25 กิโลกรัม
แม่แพะบางตัวเป็นแพะท้องว่าง เพราะไม่มีการตรวจการต้ังท้อง ผลจึงทาให้มีเงินหมุนเวียนจากการเล้ียง
แพะ-แกะน้อย เกษตรกรไม่มีการจดบันทึก และไม่สามารถหาต้นทุนในการผลิตได้ สรุปคือ เล้ียงแล้วไม่รู้ว่า
คมุ้ ทนุ หรือเปลา่
จากโจทย์ในพื้ นท่ี...สู่งานวิจัยทางวิชาการ โดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภายใต้การดาเนินงานของ
สานักวิชาทรัพยากรการเกษตร และคณะสัตวแพทยศาสตร์ ต้ังแต่ปี 2563 ในการพัฒนาการเล้ียงแพะ-แกะ
ของจังหวัดน่าน บนพื้ นฐานของการจัดการการผลิตปศุสัตว์ การตลาด การพั ฒนาผลิตภัณฑ์ และการใช้
เทคโนโลยีทางการสืบพั นธ์ุที่เหมาะสมเพ่ื อพั ฒนาปรับปรุงพั นธ์ุ ให้แพะ-แกะมีคุณภาพเพิ่ มมากขึ้น
หากจะกลา่ วถงึ เทคโนโลยีฯ เช่น การผสมเทยี ม ในแพะ-แกะ อาจเป็นเรอ่ื งท่ีไกลตัวและสิ่งใหม่สาหรับเกษตรกร
หรือแม้กระทั่งคนอื่นๆ แต่ต้องยอมรับว่าการผสมเทียมเป็นเทคโนโลยีพร้อมใช้ ได้รับการพิ สูจน์และทดสอบ
มาแล้ว ว่าสามารถใช้พั ฒนาสายพั นธ์ุแพะ-แกะของได้ไม่ยาก ดังน้ันการผสมเทียมไม่ใช่เร่ืองที่ไกลตัวอีก
ตอ่ ไป… 6
การพั ฒนาการเลี้ยงและพั ฒนาสายพั นธ์ุแพะ-แกะ จะเป็นไปด้วยความรวดเร็วข้ึนกว่าการผสม
ธรรมชาติท่ีมักมีปัญหาเลือดชิด เน่ืองจากเกษตรกรขาดพ่อพันธ์ุ หรือมีพ่อพันธุ์เพียงตัวเดียว เกิดปัญหา
ลู กผสม กับพ่ อ หรือแม่ผสมกับลูก หรือ พ่ี น้องจา กพ่ อเดียวผสมกันเอ ง ที่ภา ษา วิชาการ เรียกว่า
“Inbreeding”
เกษตรกร กลไกทีส่ าคัญ
ดังน้ัน กลไกท่ีสาคัญคือ “เกษตรกร” เน่ืองจากเป็นคนท่ีคลุกคลีกับแพะ-แกะของตัวเองอยู่
ตลอดเวลา เป็นคนทล่ี งมอื ปฏิบัติจริง หากพัฒนาให้เกษตรกรเข้าถึงความร้แู ละทกั ษะการเล้ยี งการจัดการที่
ถูกต้อง และเทคโนโลยีการพัฒนาปรับปรุงพันธ์ุอย่างง่าย เช่น การเหน่ียวนาให้เป็นสัด การผสมเทียมด้วย
น้าเชื้อพ่ อพั นธุ์ดี แล้วนามาปรับใช้ในฟาร์มของตัวเอง จะช่วยให้การกระจายพันธุกรรมท่ีดีเป็นไปได้เร็วเพิ่ ม
มากข้นึ ซง่ึ หมายความว่าลกู ทไ่ี ด้จะตวั ใหญ่ข้นึ โตไวขึน้ และขายได้ราคาตามทต่ี ลาดตอ้ งการ
ในช่วงระยะเวลาตัง้ แต่ปี พ.ศ. 2563 ปญั หาของการเล้ยี งแพะ-แกะ
(pain points) ที่สาคัญ 3 ประการ คอื
ขาดแคลนพั นธกุ รรมดี
ขาดแคลนอาหารหยาบในหนา้ แล้ง
ขาดการวางแผนการตลาด
ดังน้ันการพัฒนาการเล้ียงและสายพั นธ์ุแพะ-แกะจังหวัดน่าน จึงควรต้องเร่ิมจากการสนับสนุนพ่ อ
แม่พั นธ์ุดีให้เกษตรกรยืม เพ่ือใช้ในการยกระดับสายพันธ์ุในฝูงของตนเอง ร่วมกับการวางแผนการจัดการ
การเลี้ยง การจัดการอาหาร การจัดการสุขภาพ โดยท่ีเกษตรกรหัวก้าวหน้าและท่ีร่วมมือจะมีแนวคิดในการ
การพัฒนาโรงเรอื นให้มีความแข็งแรงและถกู สุขลกั ษณะมากขน้ึ
รว่ มคิด ร่วมทา ร่วมรับผดิ ชอบ
นอกจากน้ี จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย โดยสานกั วชิ าทรพั ยากรการเกษตร และคณะสัตวแพทยศาสตร์
ได้เติมองค์ความรู้ท่ีปัจจุบันสามารถทาได้ ผ่านส่ือออนไลน์ เช่น YouTube, Facebook และ Line เป็นต้น
และเนน้ รปู แบบการเรียนรแู้ บบมสี ่วนรว่ ม “รว่ มคดิ ร่วมทา รว่ มรบั ผดิ ชอบ” เกษตรกรเป็นผทู้ ่รี ู้จักพื้นที่ รู้จัก
ต้นทุนด้านต่างๆ ของตนเองและชุมชน และรู้ในเป้าหมายของของการเล้ียงแพะ-แกะดีท่ีสุด เพี ยงแต่ยัง
ไม่ไดจ้ ดั ระเบียบข้อมลู หรือความคิดอย่างเป็นกระบวนการ
ดงั น้นั เราจงึ เขา้ ไปชว่ ยตดิ ต้งั เครอ่ื งมือ ในทน่ี ้ีไม่ใช่ จอม เสียม หรอื เครอ่ื งมือทางการเกษตร แตเ่ ปน็
เคร่ืองมือทางความคิด เช่น ชวนคิดปฏิทินการผลิตทางการเกษตร เพ่ื อนาวัตถุดิบหรือของเหลือใช้ทาง
การเกษตรมาใช้เป็นอาหารสัตว์ได้ เช่น ต้นข้าวโพด ตันถ่ัวลิสง มันสาปะหลัง หรือการจัดการแปลงหญ้า
ตน้ กระถนิ ท่มี อี ยู่ในธรรมชาติ เปน็ ต้น
การทางานกับชุมชน ไม่มีสูตรลับตายตัว แต่ข้ึนกับความพยายามและการเข้าใจเข้าถึงตัวเกษตรกร
(EMPATHY) ผลสัมฤทธ์ิ ในปี 2563-2564 จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย โดยสานกั วชิ าทรพั ยาการการเกษตร
จึงมุ่งสู่การทางานในปี พ.ศ. 2565 การเลย้ี งแพะ-แกะเร่มิ ปรับเปล่ียนมีการหมุนเวียนสายพันธุ์หรอื แพะ-แกะ
พั นธุกรรมท่ีดีเข้า-ออกจังหวัดเพ่ิมข้ึน พบว่าเกษตรกรเร่ิมมีการปรับวิธีการเล้ียงและเห็นความสาคัญของ
การปรับปรุงพั นธุ์ เน่ืองจากลูกผสมท่ีเกิดจากการผสมพั นธุ์จากพ่ อท่ีมีพั นธุกรรมดี สามารถจาหน่ายได้
ราคาดีกว่าแต่ก่อน จึงได้มีการซ้ือพ่ อแม่พั นธุ์โดยเกษตรกรเองจากฟาร์มในจังหวัดอ่ืนๆ มีการเร่ิมสารอง
อาหารไว้ใชใ้ นหนา้ แลง้ เชน่ ข้าวโพดหมกั ฟางอัดฟอ่ น ในส่วนของการตลาดมีการคา้ ขายแพะ-แกะจากพ่อคา้
ในหลายๆ พื้ นท่ี เช่น อยุธยา เชียงราย พิ ษณุโลก โดยมีเกษตรกรเป็นผู้ประสานงาน และเป็นผู้ดาเนินการ
หลักในข้ันตอนการขาย ภายใต้ “กลุ่มเกษตรกรผู้เล้ียงแพะและแกะของจังหวัดน่าน”ที่เร่ิมก่อต้ังขึ้นเมื่อปี
พ.ศ. 2564 ด้วยพลังของผู้เล้ียงแพะ-แกะ จังหวัดน่าน โดยมี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นพ่ี เลี้ยงใน
การปฏิบัติ 7
การทาให้เกษตรกรเก่งข้นึ จ า ก ผ ล ข้ า ง ต้ น พ บ ว่ า เ ก ษ ต ร ก ร ใ ห้ ค ว า ม ส น ใ จ แ ล ะ
ต้องการท่ีจะใช้การผสมเทียมในการพั ฒนาปรับปรุงพั นธ์ุ
ปัจจัยที่สาคัญในการขับเคล่ือนการ แพะ-แกะของตนเอง โดยเล็งเห็นว่าสายพั นธ์ุมีผลต่ออัตรา
พั ฒ น า ป รั บ ป รุ ง พั น ธ์ุ คื อ เ กษ ต รก ร .. . มี การเจริญเติบโต น้าหนักแรกคลอด และการตลาด ทาให้มี
แนวคิดคือ “การทาให้เกษตรกรเก่งขน้ึ ” เก่ง แนวโนม้ หนั มาใช้การผสมเทียมมากขน้ึ แม้จะมคี วามเสี่ยงต่อ
คิดและวางแผนอย่างเป็นระบบ เก่งลงมือทา อัตราการผสมตดิ ทม่ี คี วามแปรปรวนอยูใ่ นชว่ งกว้าง
อยา่ งมีประสิทธภิ าพ เกง่ การตลาดในรปู แบบ
ท่ีหลากหลาย และเก่งในการแก้ปัญหาเฉพาะ “ขอ้ ค้นพบ” ในช่วง 2 ปที ่ผี ่านมา
หนา้ ทผ่ี ่านมาในเรอ่ื งของเทคโนโลยกี ารผสม 1) เกษตรกรมีการเข้าถึงแหล่งความรู้ เทคโนโลยี
เทียมกับการเลี้ยงแพะ-แกะ อาจเป็นเร่ืองท่ี และนามาปรบั ใชเ้ พ่ิมมากขน้ึ
เกษตรกรไม่คุ้นชินมากนัก หรือยังเป็นเร่ือง 2) กล้าท่ีจะลงทุนเม่ือมองเห็นช่องทางการตลาดที่
ไกลตัว เพราะการผสมเทียมประกอบด้วย ชัดเจน
หลายอย่าง เช่น ผผู้ สมเทียม อปุ กรณท์ ่ใี ช้ใน 3) มีการวางแผนการจัดการแบบประยุกต์ โดยมอง
การผสมเทียม ฮอร์โมนในการเหน่ียวนาให้ ในเชิงเศรษฐกิจ สังคม และส่ิงแวดลอ้ ม เพราะหันมาใชว้ ัสดุ
เป็นสัด น้าเชื้อพ่ อพั นธุ์ดี และองค์ความรู้ท่ี เหลอื ใช้ทางการเกษตรไม่เผาท้งิ เหมอื นในอดตี
เดิมมีอยู่ในสถาบันการศึกษาหรือหน่วยที่มี 4 ) ทั น ส มั ย ใ น ก า ร ส่ื อ ส า ร มี ก า ร ส่ ง ต่ อ ข้ อ มู ล
การวิจัย แต่ในปัจจุบันเราปรับเปล่ียนให้ ประสบการณ์ และซ้ือขายผา่ นทางกลมุ่ ไลน์
เทคโนโลยีและเกษตรกรเข้าใกล้กันมากขึ้น 5) เกิดนวัตกรรมการทาเตียงผสมเทียมท่ีแตกต่าง
เป็นเทคโนโลยีพร้อมใช้ท่ีไม่ซับซ้อน สามารถ กั น ใ น แ ต่ ล ะ พ้ื น ท่ี เ กิ ด พ้ื น ที่ ก า ร เ รี ย น รู้ ท่ี ส ร้ า ง ส ร ร ค์
เข้าถึงและนาไปใช้ได้ ในขณะน้ีในหลายๆ สิ่งประดษิ ฐ์ใหม่ๆ
พ้ื นที่ท่ีมีการเลี้ยงแพะ-แกะ เร่ิมมีการใช้การ จากท่ีกล่าวมาแล้วข้างต้น เป็นตัวอย่างของการ
ผ ส ม เ ที ย ม ร่ ว ม กั บ ก า ร เ ห นี่ ย ว น า ใ ห้ เ ป็ น สั ด ทางานของภาคมหาวิทยาลัยกับชุมชน ที่เป็นการสร้าง
เ ช่ น อ า เ ภ อ บ้ า น ห ล ว ง อ า เ ภ อ แ ม่ จ ริ ม ต้นแบบของการเล้ียงแพะ-แกะของจังหวัดน่าน ท่ีได้มีการ
อ า เ ภ อ ภู เ พี ย ง อ า เ ภ อ น า น้ อ ย แ ล ะ พั ฒนาท้ังคนและโฉมหน้าการเล้ียงท่ีเปล่ียนไปตามบริบท
อาเภอเมืองน่าน ภายหลังจากการเหน่ียวนา ของพ้ื นที่ การตลาด และกระแสท่ีมีอยู่ในปัจจุบัน จากเดิมที่
ให้เป็นสัดพบว่ามกี ารตอบสนอง 100% และ เล้ียงจากประสบการณ์เป็นการเล้ียงบนหลักของวิชาการ
อัตราการผสมติดอยู่ที่ 0-70% ขึ้นอยู่กับ มากขน้ึ บนหลักของการผลิตปศสุ ัตว์ “สายพันธ์ุ อาหาร และ
หลายปัจจัย เช่น ความสมบูรณ์ของแม่พันธุ์ การจดั การ” ที่มุ่งเนน้ การผลิตแพะ-แกะท่ีมคี ุณภาพ ตรงกับ
การดูแลหลัง การผสม คุณภาพน้าเช้ือ และ ความต้องการของตลาด ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้และ
ฤดกู าล เปน็ ต้น คณุ ภาพชีวติ ท่ดี ีขึ้น
ขอขอบคุณ ทุนวจิ ัยจาก หน่วยบริหารและจดั การทนุ ดา้ นการพัฒนาระดบั พ้ืนท่ี (บพท.)
ทไ่ี ดใ้ ห้ทนุ สนบั สนนุ ในการวจิ ัยอยา่ งต่อเน่อื ง
8
การจัดการอาหาร เชน่ กระถนิ ท่มี อี ย่ใู นธรรมชาติ และการนาตน้ ข้าวโพดท่เี หลือจากการเกบ็ เก่ยี ว
มาทาขา้ วโพดหมกั สารองใช้ในหน้าแลง้
รปู แบบการพัฒนาสายพันธ์ุโดยใชเ้ ทคโนโลยกี ารผสมเทียมดว้ ยน้าเชอ้ื พ่อพันธด์ุ ี
9
นิทานข้าราชการ
ตอน เจา้ แกะดา
โดย ว่าท่รี ้อยเอกภวตั ป้ ันบารงุ กติ น์
ณ ทุ่งหญ้าอันเขียวขจีแห่งหน่ึงในเมืองมะละกอ มีแกะฝูงใหญ่ฝูงหน่ึง ซึ่งถูกเล้ียง
โดยเจ้าของชาวมะละกอชอ่ื “แดงนอก” โดยแกมีอาชีพเลย้ี งแกะเพ่ือนาขนแกะไปขาย..
อยู่มาวันหนึ่งแกะผัวเมียคู่หน่ึงได้ตกลูกออกมาหน่ึงตัวลักษณะผิดแผกไปจากแกะ
ทั่วไป โดยมีขนสีดาสนิทท่ัวลาตัว พ่อแกะจึงตั้งช่ือให้ลูกของตนว่า “นิล” ทั้งพ่ อและแม่แกะ
พยายามเล้ียงดูนิลเป็นอย่างดี และได้พยายามถ่ายทอดประสบการณ์ต่างๆ อย่างเตม็ ทีโ่ ดย
มุ่งหวังให้ลูกของตนแข็งแกร่งและอยู่รอดในโลกนี้ได้อย่างมีความสุข ซ่ึงอยู่ภายใต้กฎ
สาคัญท่จี ่าฝูงกาหนดไว้ 4 ขอ้ คือ
ข้อท่ี 1 ห้ามไปไหนมาไหนตัวเดียว เพราะหากเกิดเหตุอะไรข้ึนจะไม่มีใครช่วยเหลือ หรือ
กลับมาแจง้ ข่าวใหแ้ กะตัวอื่นทราบได้
ข้อที่ 2 ห้ามเดินออกไปนอกร้ัวสีขาว เพราะข้างนอกร้ัวมีหมาป่าที่พร้อมจะจับแกะกินเป็น
อาหารเสมอ
ข้อที่ 3 หา้ มกินของทค่ี นอืน่ ให้ยกเวน้ นายแดงนอก เพราะอาจมยี าพิษผสมอยไู่ ด้
ข้อที่ 4 เวลานายแดงนอกพาไปกินหญ้านอกร้ัวสีขาวห้ามเดินออกไปไกลเกินกว่าระดับ
สายตาจะมองเห็นนายแดงนอกได้ เพราะหากมอี ันตรายใดๆ นายแดงนอกจะช่วยเหลือไม่
ทนั ...
เจ้านิล เป็นแกะท่ีมีความคิดเป็นของตัวเอง เฉลียวฉลาดและมักเรียนรู้จากสิ่งต่างๆ
รอบตัวมาปรับใช้กับตัวเองอยู่เสมอ และด้วยลาตัวมีสีดาผิดแผกแตกต่างจากแกะตัวอื่นๆ
เพ่ือนแกะหลายๆ ตวั เหน็ แลว้ มกั รู้สกึ ไม่ชอบใจนกั และไมค่ ่อยอยากชกั ชวนเข้าร่วมฝูงดว้ ย
เจ้านิลจงึ มเี พื่อนไมม่ ากนกั และหนึ่งในนั้นทเ่ี ป็นเพื่อนแทค้ ือแกะรนุ่ พี่ชือ่ “ปาก้า”
10
ครั้งหนึ่งพ่ี ปาก้าเดินมาคุยกับเจ้านิลและแนะนาเจ้านิลว่า ถ้าเจ้าอยากกินถั่ว เวลา
นายแดงนอกเดินมาให้ยกขาหน้าสองข้างข้ึนแล้วออกเสียงร้องเรียก 3 ครั้ง เจ้านิลลองเอาไป
ทาตามดูก็ปรากฏว่าได้ผลจรงิ ๆ ดังน้ัน เม่ือเจ้านิลอยากกินถั่วเมื่อใดจึงมักจะเดินไปหานายแดง
นอก แล้วทาท่าทางดังกล่าวซึ่งเจ้านิลก็จะสมประสงค์เสมอเช่นกัน และในทุกๆ วันศุกร์นายแดง
นอกจะพาฝูงแกะออกไปกินหญา้ ทีส่ วนยางนอกคอกเล้ียง
ครงั้ หน่งึ เมือ่ แกะอยู่กันทีส่ วนยางมีเพื่อนแกะฝงู หนึง่ มีหวั หนา้ ฝูงชื่อ “กี”
เจ้ากีชักชวนเจ้านิล (แม้ใจจะรู้สึกไม่ชอบใจเจ้านิลนักเพราะสีแตกต่างไปจากพวกพ้ อง)
มาร่วมฝูงและเริ่มนาเดินออกไปไกลจากฝูงใหญ่มากขึ้นทุกทีๆ เจ้านิลจึงหยุดถามเจ้ากีว่าเจ้าจะพา
พวกเราไปไหน เจ้ากี บอกว่าข้าจะพาพวกเจ้าไปกินรา..มันมีรสชาติที่อร่อยมาก มันอยู่ข้างคอกหมู
ของชาวนาตรงชายทุ่งนาข้างสวนยางข้างหน้านี้เอง เจ้านิลบอกกับเจ้ากีว่าเราไม่ควรไปนะ เพราะ
จ่าฝูงเคยสั่งห้ามแกะทุกตัวออกจากฝูงไกลเกินระดับสายตานายแดงนอกที่จะสามารถมองเห็นได้
เพราะอาจเกิดอันตราย และอกี อยา่ งขา้ งนอกมฝี งู หมาป่าทีค่ อยจ้องจะกนิ พวกเราอยู่เตม็ ไปหมด
เจ้ากีตอบกลับว่าไม่ต้องเป็นห่วงวันนี้ข้าดูบรรยากาศโดยรอบแล้วรู้สึกมั่นใจว่าปลอดภัย
แน่นอนตามข้ามาได้เลย..เพื่ อนแกะตัวอ่ืนๆ ไม่พอใจต่อคาทัดทานของเจ้านิล ประกอบกับด้วย
ความม่ันใจในตัวเจ้ากีบ้าง ด้วยความเกรงใจเจ้ากีบ้าง จึงพากันเดินตามเจ้ากีไปที่ชายทุ่งนา
ในขณะที่เจ้านิลเลือกที่จะไม่เดินตามไปและหันหลงั กลับมาหากินหญ้าอยู่กับฝงู ใหญ่ที่นายแดงนอก
ยนื คุมอยู่
ซักพั กใหญ่ก็มีเพื่อนแกะตัวหนึ่งที่ตามเจ้ากีไปน้ัน วิ่งหัวซุกหัวซุนลาตัวมีรอยฟกช้าเต็มไป
หมดกลับมารายงานจา่ ฝงู วา่ เพื่อนๆ ท่ตี ามเจ้ากไี ปทีช่ ายทงุ่ นาโดนหมาปา่ กัดตายหมดแลว้
จ่าฝูงจึงเรียกประชุมแกะทุกตัวและแจ้งข่าวพร้อมตักเตือนถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าทุกตัวควร
ปฏิบัติตามกฎ 4 ข้อ อยา่ งเคร่งครัด มิเชน่ น้นั จะต้องมีการสูญเสยี อกี เป็นแน่
11
นายแดงนอกเหน็ พฤติกรรมผิดปกติของแกะที่มารวมตัวกัน ประกอบกับได้ยินเสียงผิดปกติที่ดงั มา
จากชายทุ่งนาเมื่อครู่นี้ จึงลองนับแกะดูพบว่าแกะหายไป 7 ตัว และมั่นใจว่าคงมีหมาป่ามาทา
อันตรายกบั แกะของตนเองแลว้ อยา่ งแน่นอน จงึ ต้อนฝูงแกะที่เหลือท้ังหมดกลบั เขา้ คอกไป
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าเราควรประพฤติปฏิบัติตนอย่างไรจึงจะอยู่รอด
ปลอดภัย คนท่ีประพฤติปฏิบัติตนตามหลักการและใช้เหตุผลในการประกอบ
กิจจะปลอดภัยและเป็นสุขได้อย่างยั่งยืน เทคนิคใดๆ ทาแล้วดีกับตนและผู้อื่น
โดยไม่ผิดกฎระเบียบ หรือ หลักการ เมื่อเราเรียนรู้ได้ว่าดี ก็ควรนามาปรับใช้กับ
ตัวเรา... ส่วนตัวอย่าง หรือ การกระทาที่ไม่ดี ผิดกฎ ผิดระเบียบ ผิดหลักการ ก็มิควรที่เราจะ
นามายึดถือ หรือ ปฏิบัติตามใครคนใดคนหน่ึงเพียงเพราะการใช้ความรู้สกึ ของตนอย่างไร้เหตุไร้ผล
ขาดการใช้สติยง้ั คิด ขาดการใชป้ ัญญาไตรต่ รองอย่างรอบคอบ แลว้ ปล่อยใจเช่อื ม่ันตอ่ คนประเภท
นั้น หรือแค่เพี ยงเพราะเกรงใจและไม่อยากให้ใครคนหน่ึงคนน้ันรู้สึกไม่ดีกับตนและไม่รักตน หรือไม่
รับตนเข้าเป็นพวกพ้ องอย่างไร้เหตุผล รวมถึงไม่ควรมองคนแต่เพี ยงเปลือกนอกโดยขาดสติ
พิจารณาด้วยตวั ของตัวเองว่าใครดีใครเลวอย่างไร ใครประสงค์ดีใครประสงค์ร้าย..จนทาให้ตนขาด
โอกาสท่จี ะไดร้ บั สิง่ ดีๆ จากคนท่ตี นพลอยรสู้ ึกไม่ดีไมช่ อบตามคนอน่ื มาตัง้ แต่ต้น...
พฤติกรรมเหลา่ นี้จะนาภัยมาสตู่ นโดยไม่รตู้ ัว ทา่ นเข้ามาเป็นข้าราชการ ลูกจา้ ง และพนักงาน
ของทางราชการด้วยจิตสานึกรู้อยู่แกต่ นวา่ มาทางานเพื่อประชาชน จึงควรรู้จักที่จะเชื่อในส่ิงที่ควร
เชื่อ และตั้งม่ันหมั่นศึกษาเรียนรู้หลักการและหน้าท่ีที่ถูกต้องที่พึ งปฏิบัติ และนามาประพฤติปฏิบัติ
อย่างเคร่งครัด ในขณะเดียวกันควรรู้จักที่จะปฏิเสธต่อการกระทาที่ไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสมหรือผิด
หลักการ รวมท้ังไม่ให้การส่งเสริมสนับสนุน ทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อการกระทาที่ไม่ถูกต้อง
เหล่านั้น...สวสั ดี
12