รายงาน เร ื อ่ง เพลงลูกทุ่ง โดย เด็กหญิงกัญญ์ณณัฏฐ ์ กังวานรุ่งสกลุเลขที3่ นางสาวกลัยส์ดุา ซือ่สตัย์เลขที ่4 เสนอ คุณครู ดวงกมล จันทร ์ศิริ รายงานนี ้ เป็ นสว่นหนึ ่งของวชิาภาษาไทย ภาคเรยีนที ่๒ ปีการศกึษาที ่๒๕๖๕ วิทยาลัยนาฏศิลปสุพรรณบุรี สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์
รายงาน เรือ่ง เพลงลกูท่งุ โดย เด็กหญิงกัญญ์ณณัฏฐ ์ กังวานรุ่งสกลุเลขที3่ นางสาวกลัยส์ดุา ซือ่สตัย์เลขที ่4 เสนอ คุณครู ดวงกมล จันทร ์ศิริ รายงานนี ้ เป็ นสว่นหนึ ่งของวชิาภาษาไทย ภาคเรยีนที ่๒ ปีการศกึษาที ่๒๕๖๕ วิทยาลัยนาฏศิลปสุพรรณบุรี สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์
ค าน า รายงานเชิงนีจ้ดัท าขึน้ เพือ่ เป็ นสว่นหนึ ่งของวชิาภาษาไทย ชัน้ มธัยมศกึษาปีที ่3 เพือ่ ใหผู้ท้ ีส่นใจเรือ่งเพลงลูกทุ่ง ได้ศึกษาหา ความรเู้รือ่นเพลงลกูท่งุไดจ้ากรายงานนี ้ ผูจ้ดัท าหวงัวา่รายงานฉบบันีจ้ะใหค้วามรู้และเป็ นประโยชนแ์ก่ ผูอ้า่นทกุ ๆ ท่านทีก่า ลงัหาขอ้มูลเรือ่งนีอ้ยู่หากมขีอ้แนะน าหรอื ข้อผิดพลาดประการใด ผูจ้ดัท าขอนอ้มรบัไวแ้ละขออภยัมา ณ ทีน่ี ้ ด้วย
สารบัญ เรือ่ง หน้า ประวัติ 1 ยุคทอง 5 องค์ประกอบของเพลงลูกทุ่ง 12
1 ประวัติเพลง เพลงลูกทุ่ง คอืเพลงทีส่ะทอ้นวถิชีวีติ สภาพสงัคมอดุมคติ และวัฒนธรรมไทย โดยมีท่วงท านอง ค าร้อง ส าเนียง และ ลลีาการรอ้งการบรรเลงที ่ เป็ นแบบแผน มลีกัษณะเฉพาะซึ่ง ให้บรรยากาศ ความเป็ นลูกทุ่ง ขนุวจิติรมาตราบนัทกึ ไวใ้นหนังสอืเรือ่งของละคร และเพลง วา่เพลงลกูทุ่ง เป็นวงดนตรแีบบสากลที ่ เกดิขึน้ ในชว่งเวลาหลงัสงครามโลกครั ้ง ที ่2 ประมาณปีหรอืสองปีลกัษณะเพลงลกูทุ่งในระยะเริม่แรก มาจากการร ้องร า ท าเพลงของไทยดั ้งเดมิอาทิแหลเ่ทศน์สวดคฤหสัถ์จา อวด ลเิก (ทรงเครือ่ง) ลเิกลกูหมด (ไม่แตง่เครือ่ง) ลเิกบนัตน ลา ตดัเพลงขอทาน เพลงพืน้ เมอืงบางเพลง ฯลฯ โดยเพลงลกูทุ่งน ามาดดัแปลงแลว้ใสด่นตรี แบบสากล เป็ นลักษณะเพลงแบบใหม่ ส่วนค าว่า “เพลง ลูกทุ่ง” อาจารย์ จ านง รังสิกุล คิด ประดษิฐข์ ึน้ ใช้ เมือ่วนัที ่1 พฤษภาคม พ.ศ. 2507 เพลง ลูกทุ่งมีความ ชัดเจนจากเพลง ลูกกรุงโดย ประกอบ ไชยพพิฒัน์จดัรายการเพลงสถานีไทย โทรทศัน์ใชช้ ือ่ รายการว่า “เพลงลูกทุ่ง”
2 สุรพล สมบัติเจริญ ได้ท าให้เพลงลูกทุ่งอยู่ในความนิยม ในช่วงปี พ.ศ. 2506 –2513 จนเรียกได้ว่าเป็ นยุคทองของเพลงลูกทุ่ง ได้ เกดิการแขง่ขนัและยงัมนี ักรอ้งลกูท่งุเกดิขึน้ ใหม่หลายคน ต่อมา หลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 เพลงลูกทุ่งก็อยู่ในยุคเพลง เพือ่ชวีติเนือ้หาเพลงลกูท่งุไดส้อดแทรกเนือ้หาเพลงเพือ่ชวีติ โดย ในยคุนั ้นมเีพลงลกูท่งุเพือ่ชวีติเป็ นจา นวนมาก หลงัจากนั ้น ระหวา่ง พ.ศ. 2520–2528 วงดนตรเีพลงลกูท่งุไดเ้ขา้สรู่ะบบทนุมากขึน้มี การแสดงเพลงลกูท่งุมกีารประกวดประชนัการเตน้และเครือ่งแต่ง กายของหาง เครือ่งประกอบ จนในปัจจบุนัมศีลิปินลกูท่งุหนา้ใหม่ เข้าสู่วงการเพลงลูกทุ่งของค่ายเพลงหน้าใหม่ ตลาดเพลงลูกทุ่ง เป็ นตลาดใหญ่เพลงลกูท่งุไดร้บัความนิยมอกีครั ้ง และมกีารมอบ รางวัลทางดนตรีลูกทุ่งอยู่หลายรางวัล ส าหรับธุรกิจเพลง ลูกทุ่งในปัจจุบันถือเป็นตลาดใหญ่มที ั ้งคา่ย เล็ก ค่ายใหญ่ เป็ นจ านวนมาก โดยสัดส่วนของเงินในตลาดเพลง ลกูท่งุครอง คาดการณน์่าจะอย่ทูี ่ปีละ 1,000-1,500 ล้านบาท โดยมตีลาดหลกัอย่ทูีภ่าคอสีาน 50% ภาคเหนือและภาคกลาง 35% และภาคใต้15% และสดั สว่นการแบ่งตลาด มแีกรมมี ่ โกลด์ ครองส่วนแบ่งการตลาดเพลงลกูท่งุทั ่วประเทศ 65% สว่นอารส์ยาม 19% และอืน่ๆ 16% ซึ ่งธรุกจิเพลงลกูท่งุไดข้ยายไปสธู่รุกจิ ใกลเ้คยีงอย่างสือ่วทิยุโทรทศันแ์ละภาพยนตร์ ประวัติความเป็ นมาของเพลงลูกทุ่ง ขุนวิจิตรมาตรา บนัทกึ ไวใ้นหนังสอืเรือ่งของละครและเพลง วา่ เพลงลกูท่งุเป็ นวงดนตรแีบบสากลที ่ เกดิขึน้ ในชว่งเวลาหลงั สงครามโลกครั ้ง ที ่2 ประมาณปีหรอืสองปีลกัษณะเพลงลกูท่งุใน ระยะเริม่แรก มาจากการรอ้งรา ท าเพลงของไทยดั ้งเดมิอาทิแหล่ เทศน์สวดคฤหสัถ์จา อวด ลเิก (ทรงเครือ่ง) ลเิกลูกหมด (ไม่แต่ง
3 เครือ่ง) ลเิกบนัตน ลา ตดัเพลงขอทาน เพลงพืน้ เมอืงบางเพลง ฯลฯ โดยเพลงลูกทุ่งน ามาดัดแปลงแล้วใส่ดนตรีแบบสากล เป็ น ลักษณะเพลงแบบใหม่ การจัดประกวดเพลงแผ่นดินทองคา ครั ้งแรกโดย “ป. วรานนท”์กบั ทีมวิทยุกองพล 1 โดยโกชัย เสมา ช านาญ ฯลฯ ร่วมจัด จึงได้มี รางวลัเพลง “แผ่นเสยีงทองคา พระราชทาน” เกดิขึน้ เป็ นครั ้งแรก ปี พ.ศ. 2507 ในครั ้งเริม่ตน้มแีตป่ระเภทลกูกรงุสเุทพ สวลีไดร้บั รางวลัไปครองครั ้งที ่2 ปีพ.ศ. 2509 ไดม้กีารเพิมหมวดหมู่ลูกทุ่ง่ ขึน้ โดย “สมยศ ทศันพนัธ”์เป็ นคนแรกชนะดว้ยเพลง “ชอ่ทพิย์ รวมทอง” ถา้จะนับปีกา เนิดของเพลง แรกทีค่วรถอืเป็ นตน้กา เนิด “แนว ลูกทุ่ง” ก็น่าจะถือเอาเพลง “ขวัญของเรียม” แต่มีบางหลักฐาน บันทึกไว้ว่าเพลงแรก คือเพลง “โอ้เจ้าสาวชาวไร่” ผลงานประพันธ ์ ท านองและคา รอ้งของ ครเูหม เวชกร เมือ่พ.ศ. 2481 ขบัรอ้งโดย คา รณ สมับญุณานนท์เป็ นเพลงประกอบละครวทิยเุรือ่งสาวชาวไร่ ส่วนนักร ้องลูกทุ่งคนแรก สมควรยกให้ “ค ารณ สัมบุณณานนท์” เพลงลูกทุ่งยุคแรก ใน ยุคแรก ๆ เพลงลูกทุ่งและลูกกรุงยังถือว่าเป็ นเพลงกลุ่มเดียวกัน ยังไม่มีการแยกประเภทออกจากกัน มีนักร ้องเพลงไทยสากลได้ร ้อง เพลงประเภททีม่สีาระบรรยายถงึชวีติ ชาวชนบท หนุ่มสาวบา้นนา และความยากจน โดยรจู้กักนั ในชือ่“เพลงตลาด” หรอื “เพลง ชีวิต” โดยส่วนใหญ่นักร ้องเพลงตลาดหลายท่านจะประพันธ ์เพลง เองด้วย อาทิ ไพบูลย์ บุตรขัน ชะลอ ไตรตรองสอน พยงค์ มุกดา มงคล อมาตยกุล เบ็ญจมินทร ์ (ตุ้มทอง โชคชนะ) สุรพล สมบัติ เจรญิฯลฯ เป็ นตน้ สว่นวงดนตรทีี ่ เดน่ๆ ของเพลงแนวนี ้ไดแ้ก่วง ดนตรี “จุฬารัตน์” ของมงคล อมาตยกุล วงดนตรี “พยงค์ มุกดา” และ วงดนตรี“สรุพล สมบตัเิจรญิ ” นับไดว้า่วงดนตรที ั ้งสามนี ้ เป็ น
4 แหล่งก่อก าเนิดแยกตัวเป็ นวงดนตรีเพลงลูกทุ่ง จ านวนมากในเวลา ต่อมา ในระยะแรกทีย่งัไม่เรยีกกนัวา่ “นักรอ้งลกูท่งุ” นักรอ้งชายทีม่ี ชือ่ เสยีง เชน่คา รณ สมับณุณานนท์ชาญ เย ็ นแข นิยม มารยาท ก้าน แก้วสุพรรณ ชัยชนะ บุญนะโชติ ทูล ทองใจ ฯลฯ ส่วนนักร ้อง หญงิทีม่ชี ือ่ เสยีงเด่น ได้แก่ ผ่องศรี วรนุช ศรีสอางค์ ตรีเนตร เมือ่ปลายปีพ.ศ. 2507 เพลงลกูท่งุเริม่มคีวามชดัเจนมากขึน้ นับตั ้งแต่ ประกอบ ไชยพพิฒัน์นักจดัรายการเพลงทางสถานีไทย โทรทศันไ์ดต้ ั ้งชือ่รายการวา่ “เพลงลกูท่งุ” และตอ่มาในเดอืน กุมภาพันธ ์ พ.ศ. 2509 มีการจัดงานแผ่นเสียงทองค าพระราชทาน ในครั ้งทีส่อง ไดม้กีารพจิารณาการมอบรางวลัเพลงลกูท่งุเพิม่ โดย ได้ก าหนดความหมายของเพลงประกวดประเภท ค. (ลูกทุ่งหรือ พืน้ เมอืง) ไวว้า่คอื “เพลงทีม่ลีลีาการบรรเลงตลอดจนเนือ้รอ้ง ท านองเพลงและการขบัรอ้งไปในแนวเพลงพืน้จะเป็ นท านองเพลง ผสมหรือดัดแปลงมาจากทา นองเพลงไทยภาคตา่ง ๆ ซึ ่งเรยีกเพลง ประเภทนี ้วา่ “ลกูทงุ่” ” ซึ ่งในครั ้งนั ้นไดม้กีารมอบรางวลัแผ่นเสยีง ทองคา พระราชทานในฐานะนักรอ้ง ลกูท่งุชายยอดเยีย่ม โดย สม ยศ ทัศนพันธ ์ ได้รับรางวัลจากเพลง “ช่อทิพย์รวงทอง”ยุคทองของ เพลงลูกทุ่งสุรพล สมบัติเจริญ ได้ท าให้เพลงลูกทุ่งอยู่ในความนิยม ดว้ยเอกลกัษณ์ลลีา และ รปูแบบเฉพาะตวัอกีทั ้งยงัแตง่เพลงรอ้ง เองเป็ นสว่นใหญ่เขาเริม่ชวีติการรอ้งเพลงจากกองดรุยิางคท์หาร อากาศ สรุพลชอบใชเ้พลงจงัหวะรา วงในเพลงที ่ เขาแตง่ผลงาน เพลงของเขามลีลีาสนุกสนานครกึครืน้ เป็ นสว่นใหญ่เชน่เพลง เสียวไส้ เพลงของปลอม ฯลฯ ยคุของสรุพล สมบตัเิจรญิอาจกลา่วไดว้า่เป็ นชว่งเวลาที ่ เพลง ลูกทุ่งพัฒนามาถึงจุดสุดยอด เป็ นยุคทองของเพลงลูกทุ่ง อยู่ ระหว่างปี พ.ศ. 2506 –2513 ในชว่งนี ้สรุพล สมบตัเิจรญิ ไดอ้อก
5 ผลงานเพลงลูกทุ่งออกมาเป็ นจ านวนมากมาย นักแต่งเพลงรุ่นนีส้บื ทอดการแต่งเพลงมาจากครูเพลงในยุคต้น ตัวอย่างเช่นพีระ ตรีบุป ผา เป็ นศิษย์ของสมยศ ทัศนพันธ ์ ส่วนศิษย์ของวงดนตรีจุฬารัตน์ ได้แก่ พร ภิรมย์ สุชาติ เทียนทอง และชาย เมืองสิงห์ นักแต่งเพลง ทีส่า คญัท่านอืน่ๆ อาทิเพลนิพรหมแดน จิ ๋ว พจิติร สา เนียง ม่วง ทอง ฉลอง การะเกด ชาญชัย บัวบังศรี สมเสียร พานทอง ฯลฯ เจนภพ จบกระบวนวรรณ กล่าวไว้ในหนังสือ ดวลเพลงลูกทุ่ง ว่า “เพลงลกูท่งุเฟื ่องฟูสดุขดีในยคุสมยัของครสูรุพล สมบตัเิจรญิ (ประมาณปี 2504-2511) และหลังจากครูสุรพลถูกลอบยิงตายใน ขณะทีช่ือ่ เสยีงกา ลงัเกรยีงไกร หลงัจากนั ้นเพลงลกูท่งุก ็ พุ่งขึน้สู่ ความนิยมชมชอบของผูค้นทั ่วประเทศ ไม่วา่จะเป็ นชนบทหรอืใน เมือง” และยงัมนี ักรอ้งลกูท่งุเกดิขึน้ ใหม่หลายคน นักรอ้งเดน่ของยุคนี ้ ได้แก่ ไวพจน์ เพชรสุพรรณ เพลิน พรหมแดน พร ภิรมย์ ชาย เมืองสิงห์ ศรคีรี ศรีประจวบ ก้าน แก้วสุพรรณ ไพรวัลย์ ลูกเพชร ผ่องศรี วรนุช สุชาติ เทียนทอง ฯลฯ ยุคทองของเพลงลูกทุ่ง สุรพล สมบัติเจริญ ได้ท าให้เพลงลูกทุ่งอยู่ในความนิยม ด้วย เอกลักษณ์ ลีลา และ รูปแบบเฉพาะตัว อกีทั ้งยงัแต่งเพลงรอ้งเอง เป็ นสว่นใหญ่เขาเริม่ชวีติการรอ้งเพลงจากกองดรุยิางคท์หาร อากาศ สรุพลชอบใชเ้พลงจงัหวะรา วงในเพลงที ่ เขาแตง่ผลงาน เพลงของเขามลีลีาสนุกสนานครกึครืน้ เป็ นสว่นใหญ่เชน่เพลง เสียวไส้ เพลงของปลอม ฯลฯ
6 ยุคของสุรพล สมบัติเจริญ อาจกล่าวได้ว่าเป็ นชว่งเวลาที ่ เพลง ลูกทุ่งพัฒนามาถึงจุดสุดยอด เป็ นยุคทองของเพลงลูกทุ่ง อยู่ ระหว่างปี พ.ศ. 2506 –2513 ในชว่งนี ้สรุพล สมบตัเิจรญิ ไดอ้อก ผลงานเพลงลกูท่งุออกมาเป็ นจา นวนมากมาย นักแตง่เพลงรนุ่นีส้บื ทอดการแต่งเพลงมาจากครูเพลงในยุคต้น ตัวอย่างเช่นพีระ ตรีบุป ผา เป็นศิษย์ของสมยศ ทัศนพันธ ์ ส่วนศิษย์ของวงดนตรีจุฬารัตน์ ได้แก่ พร ภิรมย์ สุชาติ เทียนทอง และชาย เมืองสิงห์ นักแต่งเพลง ทีส่า คญัท่านอืน่ๆ อาทิเพลนิพรหมแดน จิ ๋ว พจิติร สา เนียง ม่วง ทอง ฉลอง การะเกด ชาญชัย บัวบังศรี สมเสียร พานทอง ฯลฯ เจนภพ จบกระบวนวรรณ กล่าวไว้ในหนังสือ ดวลเพลงลูกทุ่ง ว่า “เพลงลกูท่งุเฟื ่องฟูสดุขดีในยคุสมยัของครสูรุพล สมบตัเิจรญิ (ประมาณปี 2504-2511) และหลังจากครูสุรพลถูกลอบยิงตายใน ขณะทีช่ือ่ เสยีงกา ลงัเกรยีงไกร หลงัจากนั ้นเพลงลกูท่งุก ็ พุ่งขึน้สู่ ความนิยมชมชอบของผูค้นทั ่วประเทศ ไม่วา่จะเป็ นชนบทหรือใน เมอืง” และยงัมนี ักรอ้งลกูท่งุเกดิขึน้ ใหม่หลายคน นักรอ้งเด่นของ ยคุนี ้ไดแ้ก่ ไวพจน์เพชรสพุรรณ เพลนิพรหมแดน พร ภริมย์ชาย เมืองสิงห์ ศรคีรี ศรีประจวบ ก้าน แก้วสุพรรณ ไพรวัลย์ ลูกเพชร ผ่องศรี วรนุช สุชาติ เทียนทอง ฯลฯ ยุคแห่งการแข่งขัน ใน ช่วงปี พ.ศ. 2513–2515 ในวงการเพลงลูกทุ่งเองก็มีการ แขง่ขนักนัอย่างรนุแรง ทั ้งยงัเกดิการแขง่ขนัระหวา่งเพลงลกูกรงุ และเพลงลูกทุ่งสูง นักแต่งเพลงพยายามสร ้างเอกลักษณ์ประจ าตัว ของนักร ้องแต่ละคน มีนักร ้องเพลงลูกทุ่งบางคนได้สู่บทบาทการ แสดงภาพยนตร ์ บางคนถึงแสดงเป็ นตัวเอกโดยเฉพาะใน ภาพยนตรเ์พลง ภาพยนตรบ์างเรือ่งน าเพลงลกูท่งุมาประกอบเป็ น เพลงเอก อย่างเชน่เรือ่งมนตร์กัลกูท่งุประสบความสา เรจ ็ ท า รายไดเ้ป็ นอย่างดีน าแสดงโดยพระเอกขวญั ใจในยคุนั ้นคอืมติร
7 ชยับญัชา เพลงเอกชือ่ เดยีวกบัภาพยนตรป์ระพนัธโ์ดย ไพบลูย์ บตุรขนัภาพยนตรเ์รือ่งนีม้นี ักรอ้งเพลงลกูท่งุรว่มแสดงดว้ย ไดแ้ก่ บปุผา สายชล โดยขบัรอ้งเพลงดงัในภาพยนตรช์ือ่ยมพบาลเจา้ ขา เมือ่ภาพยนตร์เรือ่งมนตร์กัลกูท่งุประสบความสา เรจ ็ เป็ นอย่างมาก ท าให้มีการสร ้างภาพยนตร ์โดยมีการแสดงเพลงลูกทุ่งประกอบอีก หลายเรือ่งใน ลกัษณะเดยีวกนัอาจเรยีกไดว้า่เป็ น “ยคุของ ภาพยนตรเ์พลงลกูท่งุ” นักรอ้งที ่ เกดิจากภาพยนตรแ์นวนี ้และโดง่ ดังในวงการเพลงลูกทุ่งต่อมา ได้แก่ สังข์ทอง สีใส โดยเป็ นผู้ร ้อง เพลงประกอบภาพยนตรเ์รือ่ง โทน และแสดงคู่กับพระเอกไชยา สรุยินันักรอ้งคนอืน่ เชน่ระพนิภไูท เสกศกัดิ ์ภกู่นัทอง ศรครีีศรี ประจวบ สมัย อ่อนวงศ์ พนม นพพร ยุพิน แพรทอง ชาตรี ศรีชล กาเหว่า เสียงทอง กังวานไพร ลูกเพชร ฯลฯ และยังสร ้างนักแต่ง เพลงใหป้ระสบความสา เรจ ็ในชว่งนี ้อาทิกานท์การณุวงศ์ฉลอง ภสู่วา่ง ช. คา ชะอีพงษศ์กัดิ ์จนัทรกุขา สรุนิทร์ภาคศริิฯลฯ วง การดนตรีลูกทุ่งมีการประชันขันแข่งสูงมาก ซอยบุปผาสวรรค์ เริม่กลายมาเป็ นชมุชนคนลกูท่งุในชว่งนี ้ เองหลงัจาก เพลนิพรหม แดน ยา้ยเขา้มาอย่เูป็ นคนแรกเมือ่ปี2512 เพลงลกูท่งุยคุเพลงเพือ่ชวีติและการเมอืง หลงัเหตกุารณ์14 ตลุาคม พ.ศ. 2516 เกดิการเปลีย่นแปลงใน สงัคมไทยอย่างกวา้งขวาง ในวงการเพลงเกดิวงดนตรแีนวที ่ เรยีกวา่ “เพลงเพือ่ชวีติ” ส่วนเพลงลกูท่งุก ็ อย่ใูนยคุเพลงเพือ่ชวีติเชน่กนั เนือ้หาเพลงลกูท่งุไดส้อดแทรกเนือ้หาเพลงเพือ่ชวีติ โดยในยุคนั ้น มเีพลงลกูท่งุเพือ่ชวีติเป็ นจา นวนมาก นักรอ้งเพลงลกูท่งุมกั กลา่วถงึชวีติ ชนบทและความยากจนคน่แคน้อย่แูลว้เนือ้หาจะเนน้ ปัญหาชาวไรช่าวนาและกรรมกรใหโ้ดดเดน่มากยิ ่งขึน้ เพลงลกูท่งุ
8 ในยคุนั ้นเชน่เพลงขา้วไม่มขีาย หลงสู้ฟ้ าหน้าสู้ดิน เสียนาเสียนาง ั เราคนจน โอ้ชาวนา ฯลฯ ช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2516–2519 ได้เกิดปรากฏการณ์ใหม่ใน วงการเพลงลกูท่งุคอืการรอ้งเพลงลอ้เลยีนการเมอืง เพลงเหลา่นี ้ มักเป็ นการร ้องเพลงลูกทุ่งผสมบทพูด แฝงแง่คิดหรือการ วิพากษ์วิจารณ์ไว้อย่างคมคาย และสร ้างความบันเทิงข าขันให้แก่ ผูฟ้ ัง ผูท้ ี ่แตง่เพลงแนวนี ้ไวเ้ป็ นจา นวนมาก ไดแ้ก่ สงเคราะห์สมตัถ ภาพงษ์ซึ ่งสว่นใหญ่ขบัรอ้งโดย เพลนิพรหมแดน ตวัอย่างเชน่ เพลงกา นันผนัเงนิพรรกระสอบหาเสยีง ฯลฯ นักแตง่เพลงท่านอืน่ ๆ ทีป่ระสบความสา เรจ ็สงูในยคุนี ้ไดแ้ก่ ชลธีธารทอง ธงชยัเล็กก า พล โผผนิพรสพุรรณ สดใส รม่ โพธิท์อง กเู้กยีรตินครสวรรค์ นักแต่งเพลงส่วน ใหญ่จะแต่งเพลงส่วนใหญ่ให้กับนักร ้องเป็ น รายบุคคลไป ส่วนนักร ้องมักมีวงดนตรีของตนเอง ตลอดจนผลิต แผ่นเสยีงหรอืบนัทกึเทปจา หน่ายเอง นักรอ้งทีม่ชี ือ่ เสยีงในชว่งนี ้ ได้แก่ สายัณห์ สัญญา ศรเพชร ศรสุพรรณ สัญญา พรนารายณ์ บานเย ็ น รากแกน่น ้าออ้ย พรวเิชยีร ฯลฯ เป็ นตน้ หลงัเหตกุารณ์6 ตลุาคม พ.ศ. 2519 เพลงลกูท่งุแนวเพือ่ชวีติก ็ซา ลง บทเพลงมเีนือ้หากลบัมาบรรยายเรือ่งของความรกัความเศรา้ และความงามของสาวชาวไร่ชาวนาเช่นเดิม เช่น เพลงรักสาว ชาวไร่น ้าตาชายเหนือ สิน้ทางรกัฯลฯ และยิ ่งเมือ่ เศรษฐกจิพฒันา รดุหนา้มากขึน้กอ่ ใหเ้กดิการยา้ยถิน่ฐานประกอบอาชพีของชาว ชนบทเข้าสู่เมืองหลวง บทเพลงลูกทุ่งสะท้อนชีวิตและปัญหาของ บคุคลเหลา่นีซ้ึ ่งประกอบอาชพีเป็ นสาว ใช้สาวบาร์หมอนวด กรรมกร ลูกจ้าง ตลอดจนไปขายแรงงานในกลุ่มประเทศอาหรับ เชน่เพลงฉันทนาที ่รกัพารท์เนอรเ์บอรห์า้ สาวโรงทอรอรกัหนุ่ม กระเป๋ า ไอ้หนุ่มรถตุ๊กตุ๊ก ฯลฯ ปรากฏการณ์ใหม่ในวิวัฒนาการของเพลงลูกทุ่ง
9 ในช่วงเวลาระหว่าง พ.ศ. 2520–2528 วงการเพลงลูกทุ่งและลูก กรุงได้ก าเนิด นักร ้องเป็ นจ านวนมาก วงดนตรีเพลงลูกทุ่งได้เข้าสู่ ระบบทนุมากขึน้มกีารแสดงเพลงลกูท่งุมกีารประกวดประชนัการ เตน้และเครือ่งแต่งกายของหาง เครือ่งประกอบดว้ย นักแตง่เพลง แนวลกูทงุ่ในชว่งเวลานี ้ เชน่ ชลธีธารทอง ฉลอง ภสู่วา่ง คมัภรี ์ แสงทองวิเชียร ค าเจริญ ชัยพร เมืองสุพรรณ สุชาติ เทียนทอง ชวนชัย ฉิมพะวงศ์ ดอย อินทนนท์ ดาว บ้านดอน ฯลฯ นักรอ้งชายทีอ่ย่ใูนความนิยม เชน่ สายณัห์สญัญา เกรยีงไกร กรงุ สยาม สุรชัย สมบัติเจริญ ยอดรัก สลักใจ ศรชัย เมฆวิเชียร ศร เพชร ศรสุพรรณ พร ไพรสณฑ์ ฯลฯ นักรอ้งเพลงลกูท่งุหญงิที ่ไดร้บัการขนานนามวา่ราชนิีลกูท่งุใน ยคุ นีค้อืพุ่มพวง ดวงจนัทร์นักรอ้งหญงิที ่ไดร้บัความนิยมนอกจากพุ่ม พวงได้แก่ นันทิดา แก้วบัวสาย ดาวใต้ เมืองตรัง หงษ์ทอง ดาวอุดร สดศรี พรหมเสกสรร อ้อยทิพย์ ปัญญาธรณ์ ฯลฯ ตั ้งแตป่ระมาณปีพ.ศ. 2528 เป็ นตน้มา เกดิแฟชัน่การแสดง คอนเสริต์ของนักรอ้งแนวสตรงิ ซึ ่งเป็ นผลใหม้กีารแสดงคอนเสิร ์ต ขึน้ ในวงการเพลงลกูท่งุดว้ย พุ่มพวง ดวงจนัทร์ไดจ้ดัการแสดง คอนเสริต์ไดร้บัความนิยมอย่างสงูจดัขึน้ประมาณกลางปีพ.ศ. 2529 ที ่ เซน ็ ทรลัพลาซา่ ในขณะที ่ เพลง กระแซะ ของเธอมคีวาม โด่งดังอย่างมาก ในช่วงปี 2531-2535 เป็ นชว่งทีซ่บเซาสา หรบัวงการเพลงลกูท่งุ เพราะชว่งนี ้ เพลงสตรงิสมยัใหม่และวฒันธรรมทางดนตรจีาก ตา่งชาติเขา้หลั ่งไหลทะลกัมา ท าใหเ้กดิ ปรากฏการณใ์หม่ๆ ส าหรับวงการเพลงสตริง แต่เพลงลูกทุ่ง กลับไม่ค่อยมีอะไรใหม่ ๆ จนกระทั ่ง มบีทเพลง ๆ หนึ ่ง ทีท่ าใหล้กูท่งุฟื ้นคนื ชพี ใหม่และสง่า
10 งามมาได้คือ “สมศรี 1992” ของ “ยิ ่งยง ยอดบวังาม” เลยเกดิ กระแสเพลงลกูท่งุลกุฮอืขึน้มาอกีครั ้ง ในปี2535 และชว่งเวลา เดยีวกนัก ็ เกดิเพลงผสมผสาน ลกูท่งุ+สตรงิมาในสมยันี ้แตเ่รยีก เพลงสไตลน์ี ้วา่ “เพลงรว่มสมยั” เพราะยงัตดิคา รอ้งลกูท่งุแต่ ท านอง และดนตรี จะออกเหมือนเพลงจีน ๆ ค าร ้อง สไตล์เมียน้อย เมียเก็บ เช่นเพลง “ทางใหม่” ของ “นิตยา บุญสูงเนิน” แต่ดู โดยรวมลักษณะ ก็ไม่ใช่เพลงลูกทุ่ง และไม่ใช่เพลงสตริงวัยรุ่น และ ปี 2538-2542 เพลงลกูท่งุเริม่มกีารผสมผสานหลากหลายมาก ขึน้จนสไตล์แท้ๆ แบบลกูท่งุชาวบา้น แทบเลอืนหายไป เพลงลูกทุ่งในปัจจุบัน
11 ใน ปัจจบุนัตั ้งแตป่ ี2541 มศีลิปินลกูท่งุหนา้ใหม่เขา้สวู่งการเพลง ลูกทุ่งของค่ายเพลงหน้าใหม่ ตลาดเพลงลูกทุ่งเป็ นตลาดใหญ่ เพลงลกูท่งุไดร้บัความนิยมอกีครั ้ง เนื ่องมาจาก ไดม้กีารท าละคร มนต์รักลูกทุ่งของอาร ์เอส และฮิตติดตลาด ต่อมากับการกลับเข้า มาแจง้เกดิของ กอ๊ด จกัรพรรณ์อาบครบรุีกบัอลับัม้ เพลงทีน่ า เพลงเกา่มาท าใหม่เพลงลกูท่งุชดุสองที ่ไดร้บัความนิยมจากกลมุ่ นักฟังเพลงรนุ่ ใหม่ในกรงุเทพฯ และการเกดิขึน้ของเพลงลกูท่งุใน คลืน่ เอฟเอ ็ ม น าทมีบรหิารโดย วทิยา ศภุพรโอภาส นอกจากนีย้งัมี ศิลปินแนวสตรงิและแนวเพือ่ชวีติหลายคนทีห่นัมาท าเพลงลกูท่งุ ทดแทนการอิม่ตวัทีจ่ะสามารถอย่ใูนวงการอย่าง ทชัณ ตะกั ่วท่งุ ตอ้ม เรนโบว์เทยีรี ่ เมฆวฒันา เป็ นตน้ ในยคุกอ่นเพลงลกูท่งุจะเปิด เฉพาะในคลืน่ เอเอ ็ มเท่านั ้น ใน ปัจจบุนัทวีกี็ เริม่ เปิดกวา้งมากขึน้ เกมโชวเ์อานักร ้องเพลงลูกทุ่งไป เล่น ภาพยนตร ์ ละครเอาลูกทุ่งไปเล่น และกลายเป็ นธุรกิจกลุ่ม ใหญ่ขึน้ ครเูพลงบางคนถงึกบักลา่ววา่เพลงลกูท่งุในสมยันี ้ไม่เหมอืนเดมิ เพราะขาดเอกลกัษณข์องการขึน้ตน้เรือ่งราวตรงกลาง และตอน จบ โดยเฉพาะอย่างยิ ่งการขาดสมัผสันอก-ใน ตลอดจนการ เปรียบเทยีบ สว่นเนือ้หาของเพลงไปทางล ้าเสน้ ศลีธรรม เพลงใน ท านองนีอ้ย่างเชน่เพลง “เด ็ กมนัยั ่ว” ของยอดรกั “อกหกัซ ้าเฒ่า” ของ ไกรสร เรอืงศรี“เรยีกพี ่ไดไ้หม” ของ เสรยี ์รงุ่ สวา่ง
12 องค์ประกอบของเพลงลูกทุ่ง ท านองและจังหวะ มี เพลงลูกทุ่งหลายเพลงได้ดัดแปลงจากเพลงไทยเดิม ยังคงท านอง เดมิแตต่ดัการเอือ้นแบบเพลงไทยเดมิออกและใสค่า รอ้งลงไปแทนที ่ สว่นท านองก ็ มาจากเพลงพืน้บา้น พืน้ เมอืงของทกุ ๆ ภาค อย่าง ภาคกลางใช ้ท านองเพลงฉ่อย เพลงอีแซว เพลงล าตัด เพลงกลอง ยาว เพลงเรอืเพลงเกีย่วขา้ว ฯลฯ ภาคอสีานจะใชท้ านองเพลงลา หรอืหมอลา และเซิ ้ง ท านองลา ทีน่ิยมในเพลงลกูท่งุไดแ้ก่ลา เตย้ ลา เพลนิลา สารวนั สว่นท านองเพลงเซิ ้งนิยมเป็ นเซิ ้งบอ้งไฟ เพลงลูกทุ่งมักมีการน า ท านองจากการขับร ้องลิเกและท านองเพลง แหลม่าใช้การใชท้ านองเพลงลเิกซึ ่งเป็ นมหรสพพืน้บา้นโบราณ ของไทยมักไม่ใช ้ท านองเพลง ลิเกโดด ๆ แต่จะน ามาผสมผสานกับ ท านองเพลงสากลดว้ย สว่นท านองเพลงแหล่ที ่ เป็ นการแสดงธรรม เทศนา เพลงลูกทุ่งน ามาใช ้ในสองลักษณะ คือ ใช ้ท านองเพลงแหล่ ตลอดทั ้งเพลง และใชท้ านองแหลผ่ สมกบัท านองลเิกหรอืกบัท านอง เพลงสากล สา หรบันักรอ้งเพลงลกูท่งุที ่รอ้งเพลงท านองแหลท่ ี ่ เป็ นที ่ รู ้จักกันดีได้แก่ พร ภิรมย์ ไวพจน์ เพชรสุพรรณ และชินกร ไกร ลาศ และหลงัจากทีพ่ร ภริมย์เขา้สสู่มณเพศแลว้ก ็ คงเหลอืแต่ ไวพจนแ์ละชนิกรเท่านั ้นทีม่ชี ือ่ เสยีงในการ รอ้งเพลงท านองแหลม่า จนถงึปัจจบุนัซึ ่งทั ้งสองท่านมชี ือ่ เสยีงดา้นท าขวญันาคอกีดว้ย การโห่เป็ นลกัษณะอกี ประการหนึ ่งทีพ่บไดบ้่อยครั ้ง มสีองลกัษณะ คือ การโห่แบบไทยและการโห่แบบตะวันตก การโห่แบบไทย ปรากฏในเพลงทีม่ เีนือ้หากลา่วถงึการบวชนาค การแห่ขนัหมาก คอืเป็ นการโหป่ระกอบขบวน จะรอ้งวา่ “โห่……. (ฮิ ้ว) ” และอาจพบ ในเพลงที ่ เอย่ถงึการแห่วงดนตรดีว้ย เชน่รงุ่เพชร แหลมสงิห์รอ้ง โห่ในเพลง “ยกพลรุ่งเพชร”
13 “โห่โดรโีฮ” การโห่แบบนี ้ในเพลงลกูท่งุแสดงถงึอทิธพิลจากเพลง ลูกทุ่งตะวันตก คือมีลักษณะการโห่ การผิวปาก และการกู่ตะโกน แบบหนุ่มโคบาลหรอืคาวบอยในทุ่งหญา้เพลงลกูท่งุไทยที ่ใชก้าร โห่แบบตะวนัตกนี ้มกัพรรณนาชืน่ชมบรรยากาศความงามและ ความสงบของธรรมชาตทิอ้งท่งุเชน่เดยีวกนั สรา้งบรรยากาศที ่ สนุกสนาน ยังมีผู้แต่งเพลงลูกทุ่งบางท่านน าเอาท านอง เพลงต่างชาติเข้ามา เป็ นสว่นประกอบในเพลง โดยเฉพาะอย่างยิ ่งท านองเพลงของชาติ ในเอเซยีที ่ เกีย่วขอ้งหรอืคนุ้เคยกบัคน ไทย เชน่จนีอนิเดยีลาว ญีป่ ่นุเกาหลี คา รอ้งในแง่การ ใชภ้าษา ภาษาที ่ใชใ้นเพลงลกูท่งุมสีองรปูแบบคอื ภาษามาตรฐานและภาษาชาวบ้าน ภาษามาตรฐานมักจะใช ้กับ เพลงลกูท่งุทีก่ลา่วถงึเรือ่งราวนิทานชาดก นิทานเกีย่วกบัพุทธ ประวัติ ตลอดจนวรรณคดีลายลักษณ์ของไทย เช่น อิเหนา รามเกยีรติ ์กากีพระลอ ฯลฯ ทีม่ลีกัษณะคา ร ้อยกรอง มีความ งดงามของภาษา นอกจากนี ้ เพลงลกูท่งุที ่ใชภ้าษาใชภ้าษาหนังสอื ตามแบบแผน จะพรรณาชมธรรมชาติ ชีวิตอันสุขสงบในชนบท ความรักของหนุ่มสาว ความงามของสาว เพลง ลกูท่งุโดยสว่นมากจะใชภ้าษาชาวบา้น ภาษาที ่ใชใ้นเพลง ลกูท่งุจงึเป็ นภาษาพืน้ๆ แบบชาวบา้นทั ่วไป ง่ายต่อการเข้าใจ สอดคลอ้งกบั สภาพความเป็ นจรงิของชาวชนบท เนื ่องจากผูท้ ีฟ่ ัง เพลงลกูท่งุมกัเป็ นชาวบา้นและชาวชนบท กอปรทั ้งผูแ้ตง่เพลง ลกูท่งุสว่นใหญ่มกัมพี ืน้ เพมาจากชนบท มกีารศกึษานอ้ย การ รอ้งเพลงลกูท่งุบางเพลงยงัใชค้า รอ้งและศพัทส์า นวนที ่ เป็ นของ ทอ้งถิน่ เชน่ สา เนียงสพุรรณบรุีและสา เนียงถิน่ภาคต่าง ๆ อย่าง ภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคอีสานอีกด้วย การขับร ้องด้วยส าเนียง ถิน่ตา่ง ๆ นี ้ เป็ นลกัษณะเฉพาะของเพลงลกูท่งุเมือ่ เทยีบกบัเพลง ลูกกรุง กล่าวคือนักร ้องเพลงลูกกรุงจะออกเสียงให้ตรงตาม
14 วรรณยุกต์ของภาษามาตรฐาน ส่วนนักร ้องเพลงลูกทุ่งมักออกเสียง เพีย้นไปจากเสยีงวรรณยกุตข์องภาษามาตรฐาน และนักรอ้งบาง คนยงัมสี าเนียงทีต่ดิมากบัตวัมที ั ้งเจตนาทีจ่ะเพีย้นเสยีงเพือ่สรา้ง ความรสู้กึ ใหเ้ป็ นชนบทถิน่นั ้น ๆ ตามทีต่อ้งการ นักร ้องเพลงลูกทุ่ง ทีม่กีารรอ้งแบบเพีย้นสา เนียง เชน่ ชาย เมอืงสงิห์รงุ่เพชร แหลม สิงห์ ศรคีรี ศรีประจวบ ศรเพชร ศรสุพรรณ สายัณห์ สัญญา จีระ พันธ ์ วีระพงษ์ ฯลฯ เป็ นต้น สว่นสาระของคา รอ้งในเพลง ลกูท่งุนั ้นมคีณุค่าเกีย่วกบั สงัคมไทย และวิถีชีวิตของชาวชนบทไทยอย่างกว้าง ขวาง เพลงลูกทุ่งสะท้อน ให้เห็นความผูกพันอันแนบแน่นของชาวชนบทกับขนบธรรมเนียม ประเพณีความยดึมั ่นในพุทธศาสนา และความเชือ่ เรือ่งบญุกรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีรวมที ่ เพลงลกูท่งุกลา่วถงึ ไดแ้ก่ สงกรานต์ เข้าพรรษา การอุปสมบท ออกพรรษา การทอดกฐิน การ ทอดผ้าป่า ลอยกระทง การหมัน้การแตง่งาน ตลอดจนงานศพ สว่นขนบธรรมเนียมประเพณีทอ้งถิน่ทีป่รากฏในเพลงลกูท่งุไดแ้ก่ การถวายขวญัขา้ว การเลน่เพลงพืน้บา้น การเลน่กลองยาว งาน บญุพระเวศ บญุบั ้งไฟ งานชกัพร นอกจากสะทอ้นถงึสงัคมไทยและวถิ ชีวีติยงัมเีนือ้หาบรรยายถงึ สภาพแวดล้อมธรรมชาติของชนบทไทย การประกอบอาชีพ เกษตรกรรม เชน่ทอ้งท่งุไรน่า แม่น ้า ตน้ไม้สตัวต์่าง ๆ ตลอดจน สายลม แสงแดด แสงจนัทร์ดวงดาว ฯลฯ ประชากรทีก่ลา่วถงึใน เพลงมักเป็ นชาวชนบทหรือไม่ก็คนยาก คนจน บรรยายถึงความรัก การประกอบอาชพีลกัษณะบา้นเรอืนทีอ่ย่อูาศยัการแตง่กาย การ บรโิภคอาหาร สิ ่งบนัเทงิและในบางครั ้งเพลงลกูท่งุสะทอ้นถงึระบบ ความเชือ่และระบบคา่นิยมของประชากรเหลา่นี ้อาทิความเชือ่ ใน ไสยศาสตรแ์ละโหราศาสตร์คา่นิยมเกีย่วกบั สถาบนัชาติศาสนา พระมหากษตัรยิ ์คา่นิยมเชงิวตัถใุนเรือ่งความร ่ารวยและทรพัย์ สมบัติ ค่านิยมในฐานันดรภาพและอ านาจ ค่านิยมในชีวิตเมืองกรุง
15 คา่นิยมเรือ่งอบายมุขและสตรีและในเนือ้หาเพลงลกูท่งุบางสว่น ภาพพจนข์องสตรีจะถกูประณามเมือ่ เสยีพรหมจรรยห์รอืถกู หลอกลวง แตก่บัผูช้ายแลว้เห ็ นวา่การมอีนุภรรยาเป็ นเรือ่งโกเ้ก๋ เพลงลูกทุ่งบางเพลงยังเป็ นกระจกสะท้อนให้เห็นปัญหาในแง่มุมต่าง ๆ อนั สบืเนื ่องมาจากความยากจนและสภาวะธรรมชาติเชน่ สภา พนาแลง้นาลม่ภาวะหนีส้นิราคาสนิคา้เกษตรตกต ่า การเอารดั เอาเปรียบของนายทุนเงินกู้และพ่อค้าคนกลาง ฯลฯ สาระต่าง ๆ เป็ นการสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการ กระจายรายไดซ้ ึ ่งยงัคงเป็ นปัญหาหลักของสังคมไทย
บรรณานุกรม บา้นมหา เว ็ บไซตเ์พือ่การศกึษา ศลิปวฒันธรรม และภมูปิัญญา ทอ้งถิน่ (ม.ป.ป.) ประวัติความเป็ นมาของเพลงลูกทุ่ง สืบค้น 13 กุมภาพันธ ์ 2023 จาก https://www.baanmaha.com/