วิชาระบบเสียง

ระบบเสียงโมโน

รปู ท่ี 9 การเชอ่ื มตอ่ แบบโมโน

ระบบเสียงสเตอริโอ

รปู ท่ี 10 การเชอ่ื มต่อแบบสเตอรโิ อ

ระบบเสียงดอลบี เซอรร์ าวด์

รปู ท่ี 11 รปู แบบระบบเสยี งดอลบี เซอรร์ าวด์

ระบบเสียงดอลบี เซอรร์ าวด์ โพร – ลอจิก

รปู ท่ี 12 รปู แบบระบบเสยี งดอลบี เซอรร์ าวด์ โพร – ลอจกิ

ระบบเสียงดอลบี ดิจิตอล เอซีสาม

รปู ท่ี 13 รปู แบบระบบเสยี งดอลบี ดจิ ติ อล เอซสี าม

ระบบเสียงดอลบี ดิจิตอล เซอรร์ าวด์ อีเอก็ ซ์

รปู ท่ี 14 ระบบเสยี งดอลบี ดจิ ติ อล เซอรร์ าวด์ อเี อก็ ซ์

ระบบเสียง DTS - ES

รปู ท่ี 15 ระบบเสยี ง DTS – ES ทล่ี อกมาจากดจิ ติ อล เซอรร์ าวด์ EX

ระบบเสียง SDDS

รปู ท่ี 15 ระบบเสยี ง SDDS ทเ่ี น้นดา้ นลาโพง

หนว่ ยที่ 4 ระบบเสียงเพ่ือการบนั เทิงนอก
อาคาร



ระบบเสยี ง
ภายนอกอาคาร

สายสญั ญาณ

ไมโครโฟน

มกิ เซอร ์

ตา่ แหน่งของลาโพงมอนิเตอร ์

สายนาสญั ญาณ การตรวจสภาพอปุ กรณ์

สายสญั ญาณ

รปู ที่ 1 การตรวจซอ่ มสาย

ไมโครโฟน

รปู ที่ 2 การตรวจซอ่ มไมโครโฟน

มกิ เซอร ์

รปู ที่ 3 รปู แบบการเชอื่ มตอ่ ของ

การเตรยี มงาน

ไปดสู ถานทจี่ รงิ ในการจดั งาน
ตาแหน่งมกิ เซอร ์
ตาแหน่งของลาโพง
ตาแหน่งลาโพงมอนิเตอร ์
สายนาสญั ญาณ

สายนา
สญั ญาณ

รปู ที่ 4 สายนาสญั ญาณแบบมลั ติ
คอร ์

ตาแหน่งการควบคมุ เสยี ง

ลาโพง L เวที ลาโพง R

แหน่งควบคมุ เสยี ง
มกิ เซอร ์

รปู ที่ 5 ตาแหน่งการควบคมุ เสยี ง

ตาแหน่งการควบคมุ เสยี ง

การดาเนินงานในการตดิ ตงั้

ตดิ ตงั้ ลาโพง Line Array ตดิ ตง้ั ไมโครโฟนชนิดตา่ งๆ
ตดิ ตง้ั ลาโพง PA ทใี่ ชใ้ นการแสดงบนเวที
ตดิ ตง้ั ลาโพงมอนิเตอรบ์ นเวที
มกิ เซอรจ์ ะอยหู่ นา้
เวที

หน่วยที่ 6 มกิ เซอร ์

ประเภทของมกิ เซอร ์

ประเภทของมกิ เซอรแ์ บง่ ออกไดเ้ ป็ น 2 แบบใหญ่ ๆ ไดแ้ ก่

• แบบโมดลู าร ์ (Modular)
• แบบนอนโมดลู าร ์ (non-modular)

มกิ เซอรแ์ บบโมดูลาร ์

มกิ เซอรแ์ บบนอนโมดูลาร ์

ความรูพ้ นื้ ฐานของมกิ เซอร ์

เนื่องจากมกิ เซอรม์ ปี ่ มุ ปรบั มากมาย ผูท้ จี่ ดั ระบบเสยี งมอื ใหม่คง
จะสบั สนพอสมควร สงิ่ เหลา่ นีจ้ ะตอ้ งใหผ้ ูม้ ปี ระสบการณแ์ นะนาจงึ จะ
ปรบั ปรงุ ตา่ ง ๆ ไดอ้ ยา่ งถกู วธิ ี

มกิ เซอรเ์ป็ นอปุ กรณป์ รงุ แตง่ สญั ญาณอนิ พุตจากแหลง่ ตา่ ง ๆ
เพอื่ มาปรบั ปรงุ แตง่ ผสมกบั สญั ญาณตา่ ง ๆ จะไดเ้ ป็ นสญั ญาณทถี่ กู
ปรงุ แตง่ เรยี บรอ้ บแลว้

อนิ พุต

ทางเขา้ ของสญั ญาณจากแหลง่ ตา่ ง ๆ จะตอ้ งเขา้ “มกิ เซอร”์ เพอื่ ให ้
มกิ เซอรด์ าเนินการตามขน้ั ตอนการทางานของมกิ เซอร ์ เชน่

1. อนิ พุตแจ็ค (Input jack) 10. อนิ เสริ ท์ แจ็ค (insert-jack)
2. สวติ ซเ์ลอื กไมค ์ ไลน์ เทปอนิ พุต 11. อคิ วอไลเซอร ์ (Equalizer)
3. เกน (gain) 12. อคี วิ บายพาส (EQ bypass)
4. พคี มเิ ตอร ์ (peak meter) 13. เฟดเดอร ์ (Fader)
5. แฟนทอ่ ม (phantom) 14. คอนโทรลรมู เลฟเวล (control room
6. เฟส (phase) level)
7. โลวพ์ าสฟิ ลเตอร ์ (Low-pars- 15. โซโล (solo)
filter) 16. โซโลเลเวล (solo level)
8. ไฮพาสฟิ ลเตอร ์ (High pass- 17. ออกซไี ลอะรี (Auxiliary)
filter) 18. ปรี (Pre)

อนิ พตุ

19. พอรต์ (Port) 27. เอฟเฟ็ ค รเี ทริ น์ (Effect Return)
20. ไดเรกตเ์ อาตพ์ ตุ (direct 28. สเตอรโิ อมาสเตอรเ์ฟเดอร ์ (Stereo
output) Master Fader)
21. เฮดโฟนคอนโทรล (head phone 29. กรปุ ๊ หรอื บสั เอาตพ์ ุต เฟเดอร ์ (Group
control) of buss output faders)
22. โทรออกซลิ เลเตอร ์ (tone 30. สเตอรโิ อบสั อนิ พุต (Stereo buss
oscillator) Input )
23. แพน (Pan) 31. ออกซไี ลอะรี เซนด ์ มาสเตอร ์
24. กรปุ ๊ หรอื บสั (Group or bus) (Auxiliary Send Masters)
25. เลอื กแทรค็ เสยี ง (Track 32. ทอลค์ แบ็ก (Talk back)
Selected)
26. เอฟเฟคเซนต ์ (Effect Send)



ป่ ุมปรบั ตา่ ง ๆ บนมกิ เซอร ์







หน่วยที่ 7
อปุ กรณป์ รุงแตง่ เสยี ง

ยา่ นความถเี่ สยี ง

มาทาความเขา้ ใจในเรอ่ื งการแบง่ ยา่ นความถเ่ี สยี งทต่ี อบสนองต่อการไดย้ นิ ของคนเรา ตามหลกั
ความถเ่ี สยี งทม่ี นุษยส์ ามารถไดย้ นิ อยคู่ อื

ความถี่ที่อย่รู ะหว่าง 20 เฮิรตซ์ (20Hz) ถงึ 20 กิโลเฮิรตซ์ (20KHz)

แต่ความเป็นจรงิ แลว้ ความสามารถของหมู นุษยไ์ มไ่ ดย้ นิ ในความกวา้ งตลอดตงั้ แต่ 20 Hz ถงึ
20KHz โดยเฉพาะความถส่ี งู ตงั้ แต่ 10KHz ขน้ึ ไป มคี นสว่ นน้อยสามารถไดย้ นิ

เครอ่ื งปรงุ แต่งเสยี งจงึ จดั กล่มุ ยา่ นความถท่ี ต่ี อบสนองต่อการไดย้ นิ ของคนเราเพ่อื ประโยชน์ต่อการ
สรา้ งอุปกรณ์ปรงุ แต่งเสยี งและนามาใช้

ยา่ นความถเี่ สยี ง

1. ความถต่ี ่า (เสยี ทมุ้ ) ประมาณ 20 Hz - 200 Hz
2. ความถก่ี ลาง (เสยี งกลาง) ประมาณ 200 Hz – 5 KHz
3. ความถส่ี งู (เสยี งแหลม) ประมาณ 5 KHz ขน้ึ ไป

อคิ วอไลเซอร ์(Equalizers)

การแบง่ ยา่ นทางความถ่ี 7 ยา่ น
1. เสยี งทมุ้ ยา่ นต่า
2. เสยี งทมุ้ ยา่ นกลางต่า
3. เสยี งกลางยา่ นต่า
4. เสยี งกลาง
5. เสยี งกลางยา่ นสงู
6. เสยี งสงู ยา่ นต่า
7. เสยี งสงู ยา่ นสงู

รูปท่ี 1 ปุ่มปรบั อคี วิ

กราฟฟิ คอคิ วอไลเซอร ์(Equalizers)

กราฟิคอคี วิ ทน่ี ิยมใชอ้ ยา่ งกวา้ งขวาง ทงั้ เครอ่ื งเสยี งในบา้ นและหอ้ งบนั ทกึ เสยี ง และ
งานระบบเสยี งสาธารณะ กราฟฟิคอคี วิ ถา้ แบบ 10 แบนด์ หมายถงึ จากความถต่ี ่าถึงความถ่ี
สงู (20 Hz - 20 KHz ) ถกู แบง่ ความถท่ี ต่ี อ้ งการยก 10 แบนด์

รูปท่ี 2 กราฟฟิคอีควิ

อปุ กรณไ์ ดนามกิ สโ์ ปรเซสเซอร ์

อุปกรณ์ประเภทไดนามกิ สโ์ ปรเซสเซอร์ (Dynamic Processors) หมายถงึ อปุ กรณ์
ทค่ี วบคมุ สญั ญาณทงั้ แอมพลจิ ดู (Amplitude) และไดนามกิ ส์ (Dynamics) ของสญั ญาณ
ซง่ึ จะทาหน้าท่ี ดงั น้ี

1. ป้องกนั สญั ญาณไมใ่ หเ้ กดิ อาการแตกพรา่ เพย้ี น (Distortion)
2. ลดอาการเสยี งรบกวนทป่ี นมากบั สญั ญาณ (Noises)
3. เพมิ่ มวลของสญั ญาณตามทก่ี าหนด (Dynamic range)
เชน่ คอมเพรสเซอร์ (Compressor) , นอยสเ์ กต (Noise Gate )

คอมเพรสเซอร ์

คอมเพรสเซอร์ ทำหนำ้ ท่ีปรบั ระดบั คงท่ีของสญั ญำณ เครอ่ื งมือชนดิ นีจ้ ะปรบั ระดบั
ควำมดงั ของสญั ญำณไวร้ ะดบั หนง่ึ เม่ือสญั ญำณเขำ้ มำมำกหรอื นอ้ ย สญั ญำณเอำตพ์ ตุ จะ
คงท่ีระดบั ท่ีตงั้ ไวต้ ลอดเวลำ

รูปท่ี 3 คอมเพรสเซอร์

คอมเพรสเซอร ์(Compressor)

รูปที่ 4 หลักการทางานของคอมเพรสเซอร์

นอยสเ์ กต (Noise Gate)

รปู ท่ี 5 นอยสเ์ กต

เอคโค่ (Echoes)

เอคโค่เป็นกำรเลียนแบบเสียงธรรมชำติ เม่ือเรำรอ้ งตะโกนในหุบเขำเรำจะไดย้ ินเสียง
สะทอ้ นกลบั เสียงรอ้ งเสียงเดยี วอำจจะไดย้ ินเสียงสะทอ้ นกลบั หลำย ๆ คำซำ้ ๆ กัน เช่น คำพดู
วำ่ ไปจะไดย้ ินเสียงคำว่ำ ไป-ไป-ไป-ไป ควำมดงั ของเสียงจะคอ่ ย ๆ ลดลงเร่อื ย ๆ จนในท่ีสดุ จะ
เงียบ

รปู ท่ี 6 หลกั การทางานของเอคโคใ่ นสมยั กอ่ น

เอคโค่ (Echoes)

รปู ท่ี 7 เครื่องเอคโค่

รเี วริ บ์ (Reverberation)

รีบเวิร์บก็เป็นการเลียนแบบเสียงธรรมชาติอีกแบบหนึ่ง เช่น เสียงพูดหรือคุยกันในห้อง
โถงใหญ่หรือในโบสถ์ เสยี งสว่ นหนง่ึ จะวิง่ ตรงสผู่ ฟู้ ัง อกี ส่วนหน่งึ จะวิ่งสะท้อนไปรอบ ๆ ห้อง รีเวิร์บ
นิยมใชก้ ับเครือ่ งดนตรี เช่น กตี าร์

รูปที่ 8 เคร่ืองรเี วริ ์บ

รเี วริ บ์ (Reverberation)

รีบเวิร์บก็เป็นการเลียนแบบเสียงธรรมชาติอีกแบบหนึ่ง เช่น เสียงพูดหรือคุยกันในห้อง
โถงใหญ่หรือในโบสถ์ เสยี งสว่ นหนง่ึ จะวิง่ ตรงสผู่ ฟู้ ัง อกี ส่วนหน่งึ จะวิ่งสะท้อนไปรอบ ๆ ห้อง รีเวิร์บ
นิยมใชก้ ับเครือ่ งดนตรี เช่น กตี าร์

รูปที่ 8 เคร่ืองรเี วริ ์บ

รเี วริ บ์ (Reverberation)

รูปท่ี 9 หลักการของเคร่อื งรเี วริ บ์

ดเี ลย ์ (Delay)

รปู ที่ 9 หลักการของเครื่องรเี วริ บ์



เครอื่ งเล่นระบบเสยี ง

1. เครอ่ื งเล่นเทป คาสเซต (Tape Cassette)

จะมกี ารทางานอยู่ 2 ลกั ษณะคอื
1. ทาหน้าทเ่ี ลน่ เทป
2. ทาหน้าทบ่ี นั ทกึ เทป