สอนโดย
พ.ต.ท.สมชาย แสงดาว
อาจารย์ (สบ๒) กล่มุ งานอาจารย์ ศฝร.ภ.๓
โดย : พ.ต.ท.สมชาย แสงดาว
อาจารย์ (สบ๒) ศฝร.ภ.๓
ขอบเขตเน้อื หา
1) ความเปน็ มาของการส่งเสรมิ ให้ประชาชนมีสว่ นรว่ ม
ในกจิ การตารวจ
2) การมสี ว่ นรว่ มในการตรวจสอบและตดิ ตามการ
บริหารงานตารวจ
3) บทสรปุ และขอ้ เสนอแนะ
วตั ถปุ ระสงค์ของวชิ า
1) เพอ่ื ให้มีความร้คู วามเป็นมาของการสง่ เสริมให้ประชาชนมี
ส่วนรว่ มในกจิ การตารวจ
2) เข้าใจถึงการตรวจสอบและตดิ ตามการบริหารงานตารวจ
3) เขา้ ใจแนวทางการการสง่ เสรมิ ให้ประชาชน ชมุ ชนทอ้ งถ่ิน
และองคก์ รมีส่วนร่วมในกจิ การตารวจ
ววิ ัฒนาการปอ้ งกันปราบปรามโจรผูร้ ้ายในอดตี -ปจั จบุ นั
กรงุ สุโขทัย กรุงศรอี ยุธยา กรุงธนบรุ ี
พระรามาธิบดที ี่ ๑
กฎหมายลักษณะ กฎหมายตรา
พระเจา้ อ่ทู อง โจร สามดวง
พระอัยการ กองเพลงิ หนา้ บา้ น หลงั ผลดั เปลยี่ นอย่ยู าม
ลักษณะโจร บ้าน แล้วใหผ้ ลดั เปลี่ยน ตรวจตรา
กฎหมายโจร ๓ กนั นั่งยาม ใหม้ ีเคร่ืองสญั ญาณสาหรับ
เสน้ ๑๕ วา เรียกคนมาช่วยเหลอื
มีกลองสัญญาณไว้ด้วย
(๑๕๐ เมตร) จงทกุ บา้ น
วิวัฒนาการปอ้ งกนั ปราบปรามโจรผรู้ า้ ยในอดตี -ปัจจบุ นั
สมยั กรุงรัตนโกสนิ ทร์ตอนต้น
ร.๔ , ร.๕ ร.๔ ร.๕
ประชาชนมีบทบาท จัดต้งั กองตารวจ จัดตั้งกระทรวงนคร
ปอ้ งกนั อาชญากรรม บาล กองโปลิส
ตารวจจะมีบทบาทตอ่ เมื่อไดร้ บั พระบรมราชโองการ
เปน็ ครัง้ คราว กรณีมผี ู้รา้ ยชกุ ชุมเทา่ นนั้
ดา้ นของตารวจ
ระเบยี บบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ
การเดนิ ทางของอาชญากรรมทวั่ ประเทศในรอบปี พ.ศ. 2550: จากสถานที่เกดิ
เหตุ ส่กู ระบวนการยุตธิ รรม
สถานที่เกิดเหตุ การรายงานเหตุ สถานีตารวจ ศาลยตุ ิธรรม
เกดิ อาชญากรรม มกี ารรายงาน ตร. มีการจับกุม/ มกี ารยื่นฟ้อง
410,438 ราย (13.5%)
(100%) (34.8%) ต้ังข้อหา
12
(15.8%)[email protected]
การสารวจขอ้ มลู สถติ อิ าชญากรรมท่ัวประเทศ ในรอบปี พ.ศ. 2550:
อาชญากรรมท่ไี ม่มกี ารรายงาน (ตัวเลขมืด หรอื dark figure)
www.thaicvs.org
[email protected] 13
กรอบแนวทางการปฏิบตั ิการปอ้ งกันอาชญากรรมท่มี ีประสทิ ธภิ าพ
มตคิ ณะรฐั มนตรี เมื่อวันองั คารที่ 24 มกราคม 2560
เนื่องจากรอ้ ยละ 66 ผู้ตกเป็นเหย่อื ไมไ่ ดแ้ จ้งความต่อเจา้ หน้าทีต่ ารวจและ
ไมไ่ ดถ้ ูกนาเข้าสกู่ ระบวนการยตุ ิธรรม
ลดปัญหาอาชญากรรมและความปลอดภยั ความหวาดกลวั ของประชาชน
ประชาชนต้องมีความเช่อื มัน่ ในความปลอดภยั ในชีวิตและทรพั ยส์ นิ ไม่นอ้ ย
กว่าร้อยละ 80
ต้องมีความพึงพอใจต่อระบบการปอ้ งกันอาชญากรรมรอ้ ยละ 80
อาชญากรรมลดลงไมน่ อ้ ยกว่า รอ้ ยละ 10
การเดนิ ทางของอาชญากรรมทัว่ ประเทศ ควรเป็นอย่างไร : จากสถานที่
เกิดเหตุ สกู่ ระบวนการยตุ ิธรรม
สถานทเี่ กิดเหตุ การรายงานเหตุ สถานีตารวจ ศาลยตุ ธิ รรม
เกดิ อาชญากรรม มีการรายงาน ตร. มีการจับกุม/ มกี ารย่ืนฟอ้ ง
(100%) ตั้งข้อหา (100%) (100%)
[email protected] 15
ยุทธศาสตร์ที่ 2 ปรับรปู แบบการทางานให้มลี กั ษณะ
เชงิ บรู ณาการ เกดิ การแสวงหาความรว่ มมอื และสร้างเครอื ข่าย
กบั ฝ่ายตา่ งๆ รวมท้งั เปดิ อกาสใหป้ ระชาชนเข้ามามีสว่ นร่วม
ประชาชนเปน็ ศนู ย์กลาง ตอ้ งทาอย่างไร
ก่อนเรมิ่ ดาเนนิ การ
รับฟังความคิดเห็น
ตอ้ งวิเคราะห์ผลดผี ลเสยี
โปรงใส่ ตรวจสอบได้
-เมอื่ เกิดปัญหาต้องแก้ปญั หาโดยเรว็
การปฏบิ ัติราชการให้ถอื ว่าเป็นเรอื่ งเปิดเผย
เว้นแตก่ าหนดเป็นความลบั ไดเ้ ท่าท่ีจาเป็นอย่างยิง่ เช่น
เพ่อื ประโยชนใ์ นการรกั ษาความม่ันคงของประเทศ
ความม่ันคงทางเศรษฐกจิ
การรักษาความสงบเรยี บร้อยของประชาชน
การคมุ้ ครองสิทธิส่วนบคุ คล
สาเหตทุ ป่ี ัญหาทอ่ี าชญากรรมไม่ลดลงตามเป้าหมาย
มาตรการในการป้องกันอาชญากรรม ยังไม่มปี ระสิทธภิ าพเทา่ ท่คี วร
ไมค่ วรมอบหนา้ ทค่ี วามรบั ผดิ ชอบในเรอ่ื งการป้องกันอาชญากรรม
ใหก้ ับสานกั งานตารวจแหง่ ชาติไว้เพยี งหนว่ ยเดยี ว
การปอ้ งกนั อาชญากรรม ตอ้ งอาศยั ความรว่ มมือจากหน่วยงานต่างๆทัง้ หนว่ ยงาน
ภาครัฐเอกชนและประชาชนโดยบูรณาการร่วมกนั ท้งั ใน ด้านกาลังคน งบประมาณ
วสั ดอุ ปุ กรณ์
แนวทางในการปอ้ งกันอาชญากรรมทมี่ ีประสิทธิภาพ 6 ดา้ น
1. การปอ้ งกันอาชญากรรมโดยสภาพแวดล้อม
2. การปอ้ งกันอาชญากรรมโดยการมีสว่ นรว่ มของประชาชน
3. การปอ้ งกนั อาชญากรรมโดยการป้องกันการกระทาผิดซ้า
4. การป้องกันอาชญากรรมโดยการเฝ้าระวังกล่มุ เสยี่ งท่ีมโี อกาสกระทา
ความผดิ
5. การป้องกันอาชญากรรมโดยลดโอกาสการตกเป็นเหยื่อ
6. การพัฒนาคุณภาพบคุ ลากรในการปอ้ งกันอาชญากรรม
การปอ้ งกันอาชญากรรมโดยการมสี ่วนร่วมของประชาชน
และการสร้างจติ สานกึ ให้เกิดความรับผดิ ชอบต่อสงั คมมี 5 มาตรการ
1. เน้นการสรา้ งชมุ ชนใหเ้ ข้มแข็งในการปอ้ งกันอาชญากรรม
2. การรบั ทราบสถานการณป์ ญั หาอาชญากรรมการใหข้ อ้ เสนอแนะเพอ่ื นาไปสู่
การวางแผนป้องกนั และแก้ไขปญั หา
3. ให้สมาชิกในชมุ ชนมีสว่ นร่วมในการปอ้ งกนั อาชญากรรม
4. ส่งเสริมเครือข่ายตา่ งๆ
5. จดั กิจกรรม เพ่ือกระตุ้นและสง่ เสรมิ การสรา้ งจติ สานึก
ปอ้ งกนั และแก้ไขปญั หาอาชญากรรมกับหนว่ ยงานของรฐั
พ.ร.บ.ตารวจแหง่ ชาติ พ.ศ. 2547
มาตรา 7,16,17,18 (6) และ 19
มาตรา 7 “ใหส้ านักงานตารวจแหง่ ชาตสิ ่งเสรมิ
ให้ท้องถน่ิ และชมุ ชน มีสว่ นร่วมในกิจการตารวจ”
เพื่อป้องกันและปราบปรามการทาความผิดทางอาญา
รกั ษาความสงบเรยี บรอ้ ย
รกั ษาความปลอดภัยของประชาชน
ตามความเหมาะสม และความต้องการ
ของแต่ละพ้ืนที่
พ.ร.บ.ตารวจแหง่ ชาติ พ.ศ. 2547
มาตรา 18 (6)
ใหม้ ีคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบรหิ ารงาน
ตารวจสานกั งานตารวจแหง่ ชาติจังหวดั และสถานีตารวจ
ต่างๆ เพื่อตรวจสอบ ติดตาม
3. ลกั ษณะของการมีสว่ นร่วมในกิจการตารวจไดแ้ ก่
รปู แบบการมีสว่ นร่วม
รูปแบบการมสี ่วนรว่ มของประชาชนทั่วไป
เครือข่ายชมุ ชนปฏิบตั ิการ
อาสาสมคั รตารวจบ้าน อาสาจราจร
รปู แบบแนวรว่ ม รปู แบบแนวร่วม
กลุ่มเป้าหมาย กลุม่ เป้าหมาย
บทบาทหน้าที่ บทบาทหนา้ ที่
วิธีดาเนินการ วธิ ีดาเนนิ การ
รูปแบบการมสี ่วนรว่ ม
รปู แบบการมีส่วนร่วมของประชาชนท่วั ไป(ต่อ)
เครอื ข่ายชมุ ชนแนวรว่ ม
วตั ถุประสงค์ ขอบเขตดาเนนิ งาน
รูปแบบแนวรว่ ม
กลมุ่ เปา้ หมาย
บทบาทหนา้ ที่
วิธีดาเนนิ การ
รูปแบบการมสี ว่ นร่วม(ต่อ)
การมีส่วนร่วมขององค์กร การมสี ่วนร่วมของ
รปภ.เอกชน
เครือขา่ ยชมุ ชนแนวรว่ ม เครือขา่ ยชมุ ชนแนวรว่ ม
วัตถปุ ระสงค์ ขอบเขตดาเนนิ งาน วตั ถปุ ระสงค์ ขอบเขตดาเนินงาน
รูปแบบแนวร่วม รปู แบบแนวร่วม
บทบาทหน้าที่ บทบาทหนา้ ท่ี
วธิ ีดาเนินการ วิธดี าเนินการ
การจัดสภาพทว่ั ไปในลักษณะเสริมสรา้ ง
ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งบคุ คล
ตารวจไม่มสี ภาพเป็นผู้รับผดิ ชอบหลักใน ง่ายตอ่ การควบคุมตรวจตราโดยไม่ละเมิด
การปอ้ งกันอาชญากรรมอีกต่อไป สทิ ธิเสรภี าพส่วนบุคคล
ตารวจจะมีบทบาทเปน็ ฝา่ ยวางแผน รวมท้งั มงุ่ สนับสนุนส่งเสรมิ ให้สมาชิกใน
สนบั สนนุ และใหค้ าปรกึ ษาแกช่ มุ ชนในการ ชมุ ชนมสี ่วนร่วมในการป้องกนั ชวี ิตและ
ปอ้ งกนั อาชญากรรม ทรพั ย์สนิ ท้ังของตนเองและบคุ คล
เสนอแนะให้มีการปรับบทบาทใหม่ของตารวจ ตารวจมบี ทบาทในสว่ นที่เกีย่ วข้องกบั ปญั หา
ท้องที่ทง้ั หมดตามแนวทฤษฎชี มุ ชนสัมพนั ธ์ อาชญากรรม
ทฤษฎีชุมชนสัมพันธ์
คอื ให้บคุ ลากรตารวจทั้งหมดในแต่ละองค์กร หนั เหพฤตกิ รรมไปสู่
การมปี ฏิสัมพนั ธ์กับสภาพแวดลอ้ ม เพอ่ื ทจ่ี ะได้รับการสนบั สนุนจาก
ประชาชนและสภาพแวดลอ้ มอ่ืน ๆ ภายนอกองค์กร ในลักษณะท่ีจะ
เอือ้ อานวยต่อการบรรลุถงึ วตั ถุประสงค์และเปา้ ประสงค์
หลักขององค์กรตารวจ
“หมายถึงความสมั พนั ธ์ระหว่างองค์กรตารวจและชุมชน
รวมถึงความสัมพันธเ์ ฉพาะบคุ คลกบั ทง้ั ความสมั พันธ์ของกลุม่ ”
ทฤษฎีชุมชนสมั พนั ธ์
• ตารวจมีบทบาทในชุมชนในการป้องกันอาชญากรรม
นโยบาย
เปน็ ฝ่ายวางแผน
สนบั สนุนและใหค้ าปรึกษา
การมปี ฏิสมั พันธ์กบั สภาพแดลอ้ ม
ความหมายของทฤษฎีตารวจชุมชนสัมพันธ์
มจี ุดมงุ่ หมายรว่ มกนั คอื
“สรา้ งความสมั พันธอ์ นั ดีต่อกนั
”ระหวา่ งตารวจและประชาชน
เป็นผลการวจิ ยั ของนกั อาชญาวิทยากล่มุ ชิคาโกหรือสานกั
นเิ วศวทิ ยา ของ โรเบริ ์ต อี พาร์ค (Robert E.Park)
อาชญากรรมเป็นปรากฏการณถ์ าวรตามลักษณะท้องท่ี บรเิ วณใดเกดิ
อาชญากรรมขึ้นบ่อยครง้ั ก็คงจะเกิดขน้ึ ซ้าแลว้ ซ้าอกี อยู่เชน่ นนั้
บางแหง่ แมผ้ ู้อยอู่ าศัยจะสบั เปลี่ยนหมุนเวยี นกันไปตามกาลเวลา โดย
บุคคลต่างเช้อื ชาติ ตา่ งศาสนากนั ก็ตาม สถิติอาชญากรรมในพนื้ ที่
ดังกล่าวก็ยงั คงสูงเช่นเดิม
การขาดระเบยี บของสงั คม สาเหตุเบอ้ื งตน้ ของ
อาชญากรรม
กาหนดแนวทางตารวจชมุ ชนสมั พนั ธต์ ามทฤษฎนี ี้คอื
ส่วนประกอบของงานชุมชนสมั พนั ธ์ ๓
๑. การ
ประชา
สมั พนั ธ์
๒. การ
ให้บริการ
ชุมชน
๓. การเขา้ ไปมสี ว่ น
รว่ มในกิจกรรมต่างๆ
ในชมุ ชน
๑. การพบปะเย่ยี ม
เยียนและร่วมกิจกรรม
๗. การตดิ ตาม ๒. การศึกษาและ
วเิ คราะหส์ ภาพปัญหา
ประเมนิ ผลและ
ชมุ ชน
ปรับปรุงแก้ไข ขั้นตอนการ
๓. การประชมุ วางแผน
ดาเนนิ งาน ชมส. ๗ รว่ มกับผู้นาชมุ ชนและ
๖. การจดั ระบบประสาน ประชาชน
ความร่วมมอื ระหว่าง
ตารวจกบั ประชาชน
๕. การแนะนาใหค้ วามรู้ ๔. การเตรยี มการจดั
เกี่ยวกบั การปอ้ งกันตนเอง ระบบงานและประเมนิ
และชมุ ชน ความพร้อม
จดุ ม่งุ หมายของตารวจชมุ ชนสัมพันธ์
•ส่งเสริมรว่ มแรงรว่ มใจ ระหวา่ งตารวจและประชาชน
•เพ่อื อปุ ถมั ภป์ รับปรุงการตดิ ต่อสอ่ื สาร
•ให้ชุมชนรับผิดชอบชมุ ชนเอง
•เพือ่ ชว่ ยเหลอื ตารวจ และผู้นาชุมชน
• คุ้มครองประชาชนโดยเทา่ เทยี มกนั
•กาหนดแนวทาการแกป้ ญั หาชุมชน
๕. ทฤษฎกี ารตารวจชุมชน
การเขา้ ไปฝงั ตวั ในที่ชมุ ชนเป็นระยะเวลาอันยาวนาน แทนการไปถงึ ทเ่ี กดิ
เหตุอยา่ งรดเรว็
สง่ เสริมสนบั สนุนเพ่ือแกท้ ตี่ ้นเหตขุ องอาชญากรรมดัวยความรว่ มมือ
ระหวา่ งตารวจกบั ชมุ ชน
หลกั การ ตารวจคือประชาชน ประชาชนคอื ตารวจ
เกณฑใ์ นการวัดจากการทางานของตารวจ ๕ ระดบั จากน้อยไปหามาก คอื
1. ตารวจสนใจชมุ ชนเฉพาะเวลาประชาชนแจ้งความเท่าน้ัน
2. ตารวจแนะนาการปอ้ งกนั อาชญากรรมแก่ชมุ ชน
3. ประชาชนแจ้งขา่ วสารแก่ตารวจเสมอ
4. ตารวจนาชาวบ้านรว่ มคดิ รว่ มทาแก้ปัญหาชมุ ชน
5. ชุมชนป้องกนั อาชญากรรมดว้ ยชุมชนเอง โดยตารวจเป็นแกน/สนับสนนุ
หลักการตารวจชมุ ชนยังสอดคล้องกบั
ทุกแนวคดิ มวี ตั ถุประสงคใ์ ห้ แนวคดิ ชมุ ชนเขม้ แข็ง
ครอบครัว ชุมชนมีความสามารถ
ในการพึง่ พาตนเองได้
เศรษฐกิจพอเพยี ง หรอื พลังแผ่นดิน
ต่อต้านยาเสพติด
หลกั การตารวจชุมชน มี ๒ ขอ้ ใหญ่
ตารวจเป็นหุ้นส่วน
กับประชาชน
เกาะติดพืน้ ที่อย่างทัว่ ถึง
แกต้ น้ เหตอุ าชญากรรม
หรือความไม่เป็น
ระเบียบในชมุ ชน
บัญญัติ ๑๐ ประการของตารวจชุมชน
1) การนาหลักการนม้ี าทางานทกุ สายงาน(ทกุ คนเปน็ ตารวจชมุ ชน)
2) การกระจายอานาจใหต้ ารวจผูป้ ฏิบตั ิ
3) การเกาะตดิ พนื้ ท่ีจนคนุ้ เคยไมส่ ับเปล่ียนกาลังบ่อย
4) ใชพ้ ลังความร่วมมือจากประชาชนและอาสาสมัคร
5. ใช้ผสู้ นับสนุน สนับสนุนงบประมาณ
หรือใหด้ าเนนิ การแบบอาสาสมัคร
บญั ญตั ิ ๑๐ ประการของตารวจชมุ ชน(ต่อ)
6.การบงั คับใชก้ ฎหมาย
7.เน้นการป้องกันอาชญากรรมดีกว่ารอให้เหตุเกิด เชน่ การจดั สายตรวจ,เพอื่ นบา้ นเตือนภยั
8. ใช้เทคนคิ การแกป้ ัญหา
9. การเป็นหุ้นส่วนและสรา้ งความร่วมมอื ระหว่างตารวจและชมุ ชน รบั ผดิ ชอบรว่ มกัน
10.ตารวจต้องบรู ณาการกบั หนว่ ยงานที่เกี่ยวขอ้ ง กับสถานท่ีตา่ งๆรับผิดชอบ
เทคนคิ การส่งเสรมิ ใหป้ ระชาชน ชมุ ชน องค์กรม์ ีสว่ นรว่ ม
• ตารวจต้องนาประชาชนในชุมชนร่วมแก้ไขปญั หา ตามทช่ี มุ ชนร้องขอ
การสร้างความสัมพันธ์อันดีหรอื การแสวงหาความร่วมมือ
ตดั ผม ร้องเพลง ทาบญุ เปลยี นยางรถ
เขียนปา้ ย
ฯลฯ
เทคนคิ การแกป้ ญั หาของตารวจชมุ ชน
การสารวจปัญหา อาชญากรรม
อาชญากรรมที่เกดิ ขน้ึ บ่อย
ผลของอาชญากรรมน้นั
กาหนดความจาเป็นเร่งด่วน
ปญั หานัน้ เกิดขึน้ บ่อยเทา่ ใด กนิ ระยะเวลาเทา่ ใด
ระดมความคิด การจดั ลาดบั ความเรง่ ดว่ น
เลอื กปัญหาทจ่ี ะตอ้ งตรวจสอบแก้ไขตามลาดับ
การจดั การแกไ้ ขปญั หา
วธิ ีจัดการ
อาจดูจากท่อี ื่น กาหนดแผน กาหนด
ผูร้ ับผดิ ชอบ วัตถปุ ระสงค์
4.รายงานผลให้ชมุ ชน การประเมินผล
และผู้เก่ยี วขอ้ งทราบ
2.เปรียบเทยี บสถิติ
3.บรรลตุ ามแผนหรือไม่ กอ่ น/หลัง
เพราะอะไร
1.ตามแผน
ปรบั แผนหรอื ไม่ หรอื ไม่