แผนบริหารความเสี่ยง สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
คำนำ ตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 หมวด ๔ การบัญชี การรายงานและการตรวจสอบ มาตรา 79 กำหนดให้หน่วยงานของรัฐจัดให้มีการตรวจสอบภายใน การควบคุมภายในและการบริหารจัดการความเสี่ยง โดยให้ถือปฏิบัติตามมาตรฐานและหลักเกณฑ์ กระทรวงการคลังว่าด้วยมาตรฐานและหลักเกณฑ์ปฏิบัติการบริหารจัดการความเสี่ยง สำหรับ หน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2562 กำหนดให้หน่วยงานของรัฐจัดทำแผนบริหารจัดการความเสี่ยง เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของหน่วยงานของรัฐแล้วรายงานให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐทราบ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้ดำเนินการจัดทำแผนบริหาร ความเสี่ยงของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยมีการ วิเคราะห์ความเสี่ยง จัดลำดับความเสี่ยงและวิธีจัดการความเสี่ยงของสำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งจะช่วยให้การดำเนินงานตามภารกิจหลักของสำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น รวมทั้ง มีความเพียงพอ เหมาะสมและบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 13 มีนาคม 2566
สารบัญ หน้า บทที่ 1 บทนำ - หลักการและเหตุผล 1 - วัตถุประสงค์ของแผนบริหารจัดการความเสี่ยง 1 - เป้าหมาย 1 - วิธีการดำเนินการ 1 บทที่ 2 บททั่วไป - นโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2 - โครงสร้างการแบ่งส่วนราชการสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 6 บทที่ 3 การดำเนินการบริหารจัดการความเสี่ยง - ความหมายและคำจำกัดความเกี่ยวกับการบริหารความเสี่ยง 7 - แนวทางการดำเนินงาน 8 - การดำเนินงานตามกระบวนการบริหารจัดการความเสี่ยง 9 ภาคผนวก - คำสั่งคณะทำงานจัดทำแผนบริหารจัดการความเสี่ยงของสำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ที่ 99 /2566 สั่ง ณ วันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2566 17 - เกณฑ์การให้คะแนนความเสี่ยง 20 - ระดับความเสี่ยง 26
บทที่ 1 บทนำ หลักการและเหตุผล การบริหารความเสี่ยงเป็นเครื่องมือทางกลยุทธ์ที่สำคัญตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยจะ ช่วยให้การบริหารงานและการตัดสินใจด้านต่างๆ เช่น การวางแผน การกำหนดกลยุทธ์ การติดตามควบคุม และวัดผลการปฏิบัติงาน ตลอดจนการใช้ทรัพยากรต่างๆ อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ลดการสูญเสียและโอกาสที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่องค์กร ภายใต้สภาวะการดำเนินงานของทุกๆ องค์กรล้วน แต่มีความเสี่ยง กล่าวคือ ความไม่แน่นอนที่จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานหรือเป้าหมายขององค์กร จึงจำเป็นต้องมีการจัดการความเสี่ยงเหล่านั้นอย่างเป็นระบบ โดยการระบุความเสี่ยงว่ามีปัจจัยเสี่ยงใดบ้าง ที่กระทบต่อการดำเนินงานหรือเป้าหมายขององค์กร วิเคราะห์ความเสี่ยงจากโอกาสและผลกระทบ ที่เกิดขึ้น จัดลำดับความสำคัญของปัจจัยเสี่ยงแล้วกำหนดแนวทางในการจัดการความเสี่ยง โดยต้องคำนึง ความคุ้มค่าในการจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสม สำหรับหน่วยงานของรัฐ ต้องคำนึงถึงเหตุผลและความจำเป็นของการบริหารจัดการความเสี่ยงของ ภาครัฐ ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 หมวด 4 การบัญชี การรายงานและการตรวจสอบ มาตรา 79 กำหนดให้หน่วยงานของรัฐจัดให้มีการตรวจสอบภายใน การควบคุมภายในและการบริหารจัดการความเสี่ยง โดยให้ถือปฏิบัติตามมาตรฐานและหลักเกณฑ์ ที่กระทรวงการคลังกำหนด วัตถุประสงค์ของแผนบริหารจัดการความเสี่ยง 1. เพื่อให้การปฏิบัติตามกระบวนการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง 2. เพื่อลดโอกาสและผลกระทบของความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน เป้าหมาย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานมีการปฏิบัติตามกระบวนการบริหารจัดการความเสี่ยง อย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง สามารถลดโอกาสและผลกระทบของความเสี่ยงลงอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ วิธีการดำเนินการ 1. ศึกษาข้อมูล วิเคราะห์ สังเคราะห์ ปัญหา อุปสรรคการดำเนินงาน 2. คณะกรรมการบริหารจัดการความเสี่ยงกำหนดนโยบายและแนวทางในการดำเนินงาน และระดมความคิดจากคณะทำงานจัดทำแผนบริหารจัดการความเสี่ยง 3. เสนอแผนบริหารจัดการความเสี่ยงต่อเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 4. สื่อสารแผนบริหารจัดการความเสี่ยงและเผยแพร่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 5. ติดตามประเมินผลและรายงาน
บทที่ 2 บททั่วไป สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นส่วนราชการสังกัดกระทรวงศึกษาธิการตั้งขึ้นตาม กฎกระทรวง พ.ศ.2564 มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ดังนี้ 1. จัดทำข้อเสนอนโยบาย แผนพัฒนาการศึกษา มาตรฐานการจัดการศึกษาและหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน 2. กำหนดหลักเกณฑ์ แนวทาง และการดำเนินการเกี่ยวกับการสนับสนุนทรัพยากร การจัดตั้งจัดสรรทรัพยากร และบริหารงบประมาณอุดหนุนการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน 3. พัฒนาระบบการบริหาร และส่งเสริม ประสานงานเครือข่ายข้อมูลสารสนเทศ การนำเทคโนโลยีสารสนเทศไปใช้ในการเรียนการสอน รวมทั้งการส่งเสริม นิเทศ การบริหารและการจัดการศึกษา 4. ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 5. พัฒนานวัตกรรมทางการศึกษา ประสาน ส่งเสริม สนับสนุน และกำกับดูแลการจัดการศึกษา ขั้นพื้นฐาน การศึกษาเพื่อคนพิการ ผู้ด้อยโอกาสและผู้มีความสามารถพิเศษและประสาน ส่งเสริม การจัดการศึกษา ขั้นพื้นฐานของเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น บุคคล ครอบครัว องค์กรชุมชน องค์กรเอกชน องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา สถานประกอบการ และสถาบันสังคมอื่นของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 6. ดำเนินการเกี่ยวกับงานเลขานุการของคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 7. ปฏิบัติงานอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ และความรับผิดชอบ ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือตามที่รัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย วิสัยทัศน์ สร้างคุณภาพผู้เรียน สู่สังคมอนาคตอย่างยั่งยืน พันธกิจ 1. จัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของมนุษย์ 2. พัฒนาสถานศึกษาให้มีความปลอดภัยแก่ผู้เรียน 3. ส่งเสริมความเป็นเลิศของผู้เรียนให้เต็มศักยภาพ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน 4. พัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้มีสมรรถนะตามหลักสูตร และทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 5. สร้างโอกาส ความเสมอภาค ลดความเหลื่อมล้ำ ให้ผู้เรียนทุกคนได้รับบริการทางการศึกษา อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม 6. พัฒนาผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษา ให้มีความเชี่ยวชาญในการจัดการศึกษา ที่ตอบสนองทิศทางการพัฒนาประเทศ 7. จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยยึดหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง 8. พัฒนาระบบการบริหารจัดการศึกษาทุกระดับ และจัดการศึกษาโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Technology)
3 นโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 1. ด้านความปลอดภัย 1.1 พัฒนาสถานศึกษาให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยของผู้เรียนทุกคน พร้อมเสริมสร้างระบบและกลไก ในการดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มข้น ให้กับผู้เรียนครู และบุคลากรทางการศึกษา จากโรคภัยต่างๆ ภัยพิบัติ และภัยคุกคามทุกรูปแบบ 1.2 ส่งเสริมการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาวะที่ดีและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 1.3 สร้างภูมิคุ้มกัน การรู้เท่าทันสื่อและเทคโนโลยี ในการดำเนินชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) และชีวิตวิถีปกติต่อไป (Next Normal) 2. ด้านโอกาสและการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา 2.1 ส่งเสริม สนับสนุน ให้เด็กปฐมวัยที่มีอายุ 3 – 6 ปีทุกคน เข้าสู่ระบบการศึกษา สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้และการดูแลปกป้อง เพื่อให้มีพัฒนาการครบทุกด้าน โดยการมีส่วนร่วม ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 2.2 จัดการศึกษาให้ผู้เรียนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้เข้าถึงโอกาส ความเสมอภาค และได้รับการพัฒนาให้มีสมรรถนะสำหรับการศึกษาต่อ และการประกอบอาชีพในอนาคตให้สอดคล้อง กับความต้องการของตลาดงานและการพัฒนาประเทศ 2.3 จัดการศึกษาให้ผู้เรียนที่มีความสามารถพิเศษ ได้รับโอกาสในการพัฒนาเต็มศักยภาพ 2.4 ส่งเสริมให้เด็กพิการและผู้ด้อยโอกาส ให้ได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพและจัดหาทางเลือก ในการเข้าถึงการเรียนรู้ การฝึกอาชีพ เพื่อให้มีทักษะในการดำเนินชีวิต สามารถเพิ่งตนเองได้ 2.5 พัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศของนักเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นรายบุคคล เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการบริหารจัดการศึกษา โดยเฉพาะการดูแลและป้องกันไม่ให้นักเรียนหลุดออกจากระบบ การศึกษา และช่วยเหลือเด็กตกหล่น เด็กออกกลางคันให้กลับเข้าสู่ระบบ 3. ด้านคุณภาพ 3.1 ส่งเสริม สนับสนุน สถานศึกษาที่มีความพร้อม ให้นำหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐานที่เน้นสมรรถนะไปใช้ตามศักยภาพของสถานศึกษา ให้สามารถออกแบบหลักสูตรที่เหมาะสม กับความต้องการและบริบท 3.2 พัฒนาผู้เรียนให้เกิดสมรรถนะที่เหมาะสมตามช่วงวัย สามารถจัดการตนเอง มีการคิดขั้นสูง มีความสามารถในการสื่อสาร สามารถจัดระบบและกระบวนการทำงานของตนเอง และร่วมกับผู้อื่น โดยใช้การรวมพลังทำงานเป็นทีม เป็นพลเมืองที่ดี มีศีลธรรม และอยู่ร่วมกับธรรมชาติ และวิทยาการอย่างยั่งยืน รวมทั้งมีความจงรักภักดีต่อสถานบันหลักของชาติ ยึดมั่นการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 3.3 จัดการศึกษาให้ผู้เรียนมีทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 นำไปสู่การมีอาชีพ มีงานทำ และส่งเสริมความเป็นเลิศของผู้เรียนให้เต็มศักยภาพ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน 3.4 ส่งเสริม และพัฒนาระบบการวัดและประเมินผลคุณภาพผู้เรียน ให้ควบคู่การเรียนรู้ นำไปสู่การพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียนเป็นรายบุคคล รวมทั้งส่งเสริมการนำระบบธนาคาร หน่วยกิตมาใช้ในการเทียบโอนผลการเรียนรู้และประสบการณ์ต่างๆ ของผู้เรียนในสถานศึกษา 3.5 พัฒนา ส่งเสริม ผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ครูและบุคลากรทางการศึกษา รวมทั้งบุคลาการสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้มีสมรรถนะตามมาตรฐานตำแหน่ง และมาตรฐานวิชาชีพ
4 4. ด้านประสิทธิภาพ 4.1 เพิ่มประสิทธิภาพกการบริหารจัดการศึกษา โดยการกระจายอำนาจและใช้พื้นที่เป็นฐาน ที่มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนเป็นสำคัญ ตามหลักธรรมภิบาล 4.2 นำเทคโนโลยีดิจิทัลและการจัดการฐานข้อมูลมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหาร จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน และการเรียนรู้ของผู้เรียน 4.3 ส่งเสริม สนับสนุนการพัฒนาโรงเรียนคุณภาพ ใช้พื้นที่เป็นฐาน ใช้นวัตกรรม ในการขับเคลื่อนบริหารจัดการโดยใช้ทรัพยากรร่วมกัน และแสวงหาการมีส่วนร่วมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทุกระดับเพื่อให้ประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม 4.4 ส่งเสริม สนับสนุน การจัดการศึกษาที่มีคุณภาพในโรงเรียนที่มีวัตถุประสงค์เฉพาะ โรงเรียนที่ตั้งในพื้นที่ลักษณะพิเศษ และโรงเรียนในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา 4.5 เพิ่มประสิทธิภาพการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา และปรับกระบวน การนิเทศ ติดตามและประเมินผลการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้สอดรับกับชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) และชีวิตวิถี ปกติ (Next Normal) จุดเน้นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 1. เร่งแก้ปัญหากลุ่มผู้เรียนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 โดยเพิ่มโอการในการเข้าถึงการศึกษา ฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss Recovery) ให้กับผู้เรียนทุกระดับ รวมทั้งลดความเครียดและสุขภาพจิตของผู้เรียน 2. เสริมสร้างระบบและกลไกในการดูแลความปลอดภัยนักเรียน ด้วยระบบมาตรฐาน ความปลอดภัย กระทรวงศึกษาธิการ (MOE Safety Platform) 3. ส่งเสริมเด็กปฐมวัยที่มีอายุ 3 – 6 ปี และผู้เรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานเข้าถึงโอกาส ทางการศึกษา และป้องกันการหลุดออกจากระบบ รวมทั้งช่วยเหลือเด็กตกหล่น เด็กออกกลางคัน และเด็กพิการ ที่ค้นพบจากการปักหมุดบ้านเด็กพิการให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษา 4. พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาที่เน้นสมรรถนะและการจัดทำกรอบหลักสูตร รวมทั้งจัดกระบวน การเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมืองและศีลธรรม ให้เหมาะสมตามวัยนักเรียน 5. จัดการอบรมครูโดยใช้พื้นที่เป็นฐาน ควบคู่กับการให้ความรู้ด้านการวางแผนและการสร้าง วินัยด้านการเงินและการออม เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินครู 6. ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการเรียนการสอนที่เน้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วม และมีปฏิสัมพันธ์กับกิจกรรมการเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติที่หลากหลายรูปแบบ (Active Learning) มีการวัด และประเมินผลในชั้นเรียน เพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน (Assessment for Learning) ทุกระดับ 7. ยกระดับคุณภาพของนักเรียนประจำพักนอน สำหรับโรงเรียนที่อยู่บนพื้นที่สูง ห่างไกล และถิ่นทุรกันดาร 8. มุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้ทุกระดับ 9. เพิ่มประสิทธิภาพการบริการจัดการศึกษา โดยการกระจายอำนาจและใช้พื้นที่เป็นฐาน เพื่อสร้างความเข้มแข็ง โดยการจัดสรรกรอบวงเงินงบประมาณ (Block Grant) ตามหลักธรรมาภิบาล ให้กับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา
5 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานมีหน่วยงานตามกฎกระทรวงว่าด้วยการแบ่งส่วนราชการ พ.ศ. 2566 ดังนี้ 1. สำนักอำนวยการ 2. สำนักการคลังและสินทรัพย์ 3. สำนักติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน 4. สำนักทดสอบทางการศึกษา 5. สำนักเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน 6. สำนักนโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐาน 7. สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ 8. สำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา 9. สำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติการ 10. สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา 11. กลุ่มพัฒนาระบบบริหาร 12. กลุ่มตรวจสอบภายใน เพื่อประสิทธิภาพการบริหาร จึงแบ่งงานภายในสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นสำนักภายใน จำนวน 10 สำนัก ได้แก่ (1) สำนักพัฒนาการศึกษาเขตพัฒนาพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ (2) สำนักพัฒนา กิจกรรมนักเรียน (3) สำนักบริหารงานการมัธยมศึกษาตอนปลาย (4) ศูนย์ความปลอดภัย สำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (5) สำนักงานกองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวัน (6) สำนักนิติการ (7) สำนักงานบริหารพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา (8) ศูนย์บริหารงานการพัฒนาศักยภาพบุคคลเพื่อความเป็นเลิศ (9) หน่วยศึกษานิเทศก์ (10) สำนักบริหารงานความเป็นเลิศด้านวิทยาศาสตร์ศึกษา
กลุ่มตรวจสอบภายใน (ตสน.) สำนักงานคณะกรร โ (สพป. 2 สพป. 183 เขต โครงสร้างการแบ่ง 8 หมายถึง หน่วยงานที่ตั้งขึ้นเป็นการภายใน ศูนย์ขับเคลื่อนโครงการ โรงเรียนคุณภาพประจำ ตำบล (ศรต.) สำนักพัฒนาการศึกษาเขตพัฒนาพิเศษ จังหวัดชายแดนภาคใต้ (สพก.จชต.) สำนักพัฒนากิจกรรมนักเรียน (สกก.) สำนั หมายถึง หน่วยงานลักษณะเขตพื้นที่ หมายถึง สถานศึกษา 12 หมายถึง หน่วยงานตามกฎกระทรวง 2 หมายถึง หน่วยงานการศึกษาตามประกาศ ศธ. สำนักอำนวยการ (สอ.) สำนักการคลังและสินทรัพย์ (สคส.) สำนักเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน (สทร.) สำนักน สำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา (สนก.) สำนักพัฒนาระบ 1 หมายถึง กลุ่มที่ขึ้นตรงเลขาธิการหรือรองเลขาธิการ สำนักนิติการ (สน.) สำนักงานบริหารพื้นที่ นวัตกรรมการศึกษา (สบน.) ศูนย์บริหารงานการพัฒนา ศักยภาพบุคคลเพื่อความเป็นเลิศ (HCEMC)
กลุ่มพัฒนาระบบบริหาร (กพร.) รมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียน 29,871 โรง 27,414 โรง / สพม. 2,358 โรง / สศศ. 99 โรง) สพม. 62 เขต งส่วนราชการ สพฐ. โรงเรียนเฉพาะ ความพิการ (48 โรง) โรงเรียนศึกษา สงเคราะห์ (51 โรง) ศูนย์การศึกษาพิเศษ เขตการศึกษา 13 ศูนย์ ศูนย์การศึกษาพิเศษจังหวัด 64 ศูนย์ ักบริหารงานการมัธยมศึกษา ตอนปลาย (สมป.) สำนักงานกองทุนเพื่อโครงการ อาหารกลางวัน (สกว.) ศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและ ช่วยเหลือนักเรียน (ฉก.ชน.) สำนักติดตามและประเมินผลการจัด การศึกษาขั้นพื้นฐาน (สตผ.) สำนักทดสอบทางการศึกษา (สทศ.) นโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สนผ.) สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ (สศศ.) บบบริหารงานบุคคลและนิติการ (สพร.) สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา (สวก.) สำนักบริหารงานความเป็นเลิศ ด้านวิทยาศาสตร์ศึกษา (สบว.) (หน่วยงานการศึกษา) หน่วยศึกษานิเทศก์ (ศนฐ.) (หน่วยงาน การศึกษา) 6
บทที่ 3 การดำเนินการบริหารจัดการความเสี่ยง ความหมายและคำจำกัดความเกี่ยวกับการบริหารจัดการความเสี่ยง ความเสี่ยง (Risk) หมายถึง ความเป็นไปได้ที่เหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งอาจเกิดขึ้นและ เป็นอุปสรรคต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ การบริหารจัดการความเสี่ยง หมายถึง กระบวนการบริหารจัดการเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นและส่งผล กระทบต่อหน่วยงานของรัฐสามารถดำเนินงานให้บรรลุวัตถุประสงค์ของหน่วยงาน รวมถึงเพื่อเพิ่มศักยภาพ และขีดความสามารถให้หน่วยงานของรัฐ ประเภทของความเสี่ยง จำแนกได้เป็น 6 ด้าน ดังนี้ 1. ความเสี่ยงด้านกลยุทธ์ คือ ความเสี่ยงที่เกิดจากการกำหนดแผนกลยุทธ์ที่ไม่เหมาะสม หรือความ เสี่ยงเกิดจากการนำกลยุทธ์ไปใช้ไม่ถูกต้อง 2. ความเสี่ยงด้านการเงิน คือ ความเสี่ยงเกี่ยวกับการบริหารจัดการด้านการเงิน เช่น ความเสี่ยง เกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินไม่ถูกต้อง การรับเงินไม่ถูกต้อง เป็นต้น 3. ความเสี่ยงด้านการดำเนินงาน คือ ความเสี่ยงที่เกิดจากกระบวนการทำงานที่ไม่มีประสิทธิผล หรือไม่มีประสิทธิภาพ 4. ความเสี่ยงด้านการปฏิบัติตามกฎหมาย คือ ความเสี่ยงที่หน่วยงานไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หลักเกณฑ์ ประกาศ มติคณะรัฐมนตรี รวมถึงกฎ/นโยบาย/คู่มือ/แนวทางการปฏิบัติงาน ของหน่วยงาน 5. ความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ คือ ความเสี่ยงที่เกิดจากเทคโนโลยีสารสนเทศ 6. ความเสี่ยงด้านความน่าเชื่อถือขององค์กร คือ ความเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียง ความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อถือขององค์กร
8 แนวทางการดำเนินงาน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานดำเนินการวิเคราะห์ความเสี่ยงตามมาตรฐาน COSO (The Committee of Sponsoring Organizations of the Tread way Commission ) เป็นกรอบ การวิเคราะห์ความเสี่ยงของหน่วยงาน ดังนี้ โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1. วิเคราะห์องค์กร หน่วยงานต้องวิเคราะห์ทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอกองค์กร โดยใช้เครื่องมือการวิเคราะห์ องค์กร เช่น SWOT Analysis PESTLE Analysis เป็นต้น 2. การกำหนดนโยบายการบริหารจัดการความเสี่ยง ผู้บริหารเป็นผู้กำหนดนโยบายจัดการความเสี่ยงอาจระบุถึงวัตถุประสงค์ บทบาทหน้าที่ความ รับผิดชอบความเสี่ยงที่ยอมรับได้ขององค์กร 3. การระบุความเสี่ยง การระบุเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นที่มีผลกระทบต่อวัตถุประสงค์ของหน่วยงานทั้งในด้านบวกและด้านลบ 4. การประเมินความเสี่ยง หน่วยงานจะต้องกำหนดเกณฑ์การประเมิน การให้คะแนนความเสี่ยง การพิจารณาความเสี่ยง ในภาพรวมและการจัดลำดับความเสี่ยง การวิเคราะห์ องค์กร การกำหนด นโยบาย การระบุ ความเสี่ยง การประเมิน ความเสี่ยง การตอบสนอง ความเสี่ยง การติดตามและ ทบทวน การสื่อสารและ การรายงาน
9 5. การตอบสนองความเสี่ยง หน่วยงานจะต้องมีกระบวนการตัดสินใจของฝ่ายบริหารในการจัดการความเสี่ยงที่อาจจะ เกิดขึ้น โดยการจัดการต้นเหตุของความเสี่ยง ทางเลือกวิธีการจัดการความเสี่ยง และทรัพยากรที่ต้องใช้ในการ บริหารจัดการความเสี่ยง 6. การติดตามและทบทวน หน่วยงานจะต้องมีการกระบวนการติดตามและทบทวนเพื่อให้มีความเชื่อมั่นว่าการบริหาร จัดการความเสี่ยงที่มีอยู่ยังคงมีประสิทธิผล 7. การสื่อสารและการรายงาน หน่วยงานควรมีช่องทางการสื่อสารทั้งภายในและภายนอก การดำเนินงานตามกระบวนการบริหารจัดการความเสี่ยง สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานมีการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการความเสี่ยง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 โดยแสดงรายละเอียดการปฏิบัติตามแนวทางการขับเคลื่อนระบบการบริหาร จัดการความเสี่ยง ดังนี้ ๑. แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการความเสี่ยงของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อกำหนดนโยบาย วางแผนและติดตามระบบบริหารจัดการความเสี่ยงของหน่วยงานและคณะทำงานจัดทำ แผนบริหารจัดการความเสี่ยงของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๒. ประชุมคณะทำงานจัดทำแผนบริหารจัดการความเสี่ยง เพื่อจัดทำแผนบริหารความเสี่ยง ๓. มีการวิเคราะห์และจัดลำดับความเสี่ยงที่ส่งผลกระทบหรือสร้างความเสียหายหรือความล้มเหลว หรือลดโอกาสที่บรรลุเป้าหมายในการบริหารงานและจัดลำดับความสำคัญของปัจจัยเสี่ยงของสำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๔. มีการจัดการความเสี่ยงโดยการจัดทำแผนบริหารความเสี่ยง มีการกำหนดมาตรการควบคุม ความเสี่ยง และกำหนดมอบหมายผู้รับผิดชอบ ๕. มีการดำเนินการตามแผนบริหารความเสี่ยง โดยมีการติดตามและรายงานผลตามแผนบริหาร ความเสี่ยงต่อเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 6. การรายงานผลการดำเนินการตามแผนบริหารความเสี่ยง ในการบริหารจัดการความเสี่ยงของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้มอบหมายให้ หน่วยงานในสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานส่วนกลาง แต่ละสำนักและสำนักเทียบเท่า ได้วิเคราะห์ความเสี่ยงแล้ว จึงนำมาประมวลผลเป็นการวิเคราะห์ความเสี่ยงของสำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อบริหารจัดการความเสี่ยง ดังนี้
10 การวิเคราะห์ความเสี่ยงของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีสำนักที่เกี่ยวข้องได้ วิเคราะห์ประมวลความเสี่ยง โดยพบว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความเสี่ยง 2 ด้าน คือ ด้านการดำเนินงาน และด้านการปฏิบัติตามกฎหมาย มีรายละเอียดดังนี้ ด้านการดำเนินงาน กิจกรรม ชื่อความเสี่ยง สาเหตุ/ตัวผลักดันความเสี่ยง ผลกระทบ 1. การตรวจ ประเมินคุณภาพ สื่อการเรียนรู้ของ เอกชน การดำเนินงานเบิกจ่าย ค่าตอบแทนการตรวจ ประเมินคุณภาพ สื่อการเรียนรู้ของ เอกชนให้แก่กรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิ ไม่เป็นไป ตามการดำเนินงาน ๑. สพฐ. เก็บเงินค่าตรวจประเมิน คุณภาพสื่อฯ ทุกรายการ จาก สำนักพิมพ์เอกชน ๒. สพฐ. แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิทาง วิชาการจากหน่วยงานภายนอก เป็นกรรมการตรวจประเมิน คุณภาพฯ กรรมการดำเนินการ ตรวจประเมินคุณภาพตามเกณฑ์ คุณภาพฯ เสร็จเรียบร้อย และ สพฐ. อนุญาตให้ใช้สื่อการเรียนรู้ใน สถานศึกษาได้ ๓. สวก. ไม่สามารถเบิกจ่ายเงิน ค่าตอบแทนการตรวจให้กรรมการ ได้ เนื่องจากถูกตัดลดงบประมาณ ด้านการดำเนินงาน กรรมการทวงถาม ค่าตอบแทนการตรวจ ประเมินคุณภาพ สื่อการเรียนรู้ ที่ควรจะได้ ตามการดำเนินงานของ กรรมการ 2. การติดตาม ตรวจสอบโครงการ ในระบบติดตาม และประเมินผล แห่งชาติ (eMENSCR) การขับเคลื่อน ยุทธศาสตร์ชาติและ แผนการปฏิรูปประเทศ สู่การปฏิบัติภายใต้ โครงการผ่านระบบ ติดตามและประเมินผล แห่งชาติ (eMENSCR) ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ของยุทธศาสตร์ชาติ และตัวชี้วัดความสำเร็จ ของโครงการที่กำหนด 1. บุคลากรขาดความรู้ ความเข้าใจ ในการวิเคราะห์และประเมิน ความสำเร็จในเรื่องการจัดทำ โครงการที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการพิจารณา จัดสรรงบประมาณ 2. บุคลากรขาดความตระหนัก ไม่เห็นความสำคัญ ขาดความรู้ ความเข้าใจในเรื่องการนำเข้าข้อมูล ในระบบติดตามและประเมินผล แห่งชาติ (eMENSCR) ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ของยุทธศาสตร์ชาติและ ตัวชี้วัดความสำเร็จของ โครงการ ตามแผนปฏิบัติ ราชการ ของ สพฐ.แผนปฏิบัติ การของสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษา ทำให้ส่งกระทบต่อ การจัดทำคำของบประมาณ ในปีงบประมาณถัดไป
11 กิจกรรม ชื่อความเสี่ยง สาเหตุ/ตัวผลักดันความเสี่ยง ผลกระทบ 3. การดูแล ช่วยเหลือนักเรียน ความเสี่ยงกับเด็ก นักเรียน ไม่สามารถแก้ไขปัญหา ต่างๆ ได้เอง ด้านนโยบาย แนวทางในการดำเนินงานยังไม่ลงสู่ การปฏิบัติเนื่องจาก สถานการณ์ ปัญหาเด็กและเยาวชน ในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปอย่าง รวดเร็ว ทำให้มิติ ของปัญหามีความซับซ้อนมากขึ้น ด้านบุคลากร ขาดบุคลากรด้านการแนะแนวและ การให้คำปรึกษานักเรียน รวมไปถึง ครูจิตวิทยาโรงเรียน ส่งผลให้ระบบ การดูแลช่วยเหลือนักเรียนไม่ เข้มแข็ง ด้านการดำเนินงาน ขาดการสร้างการรับรู้การเข้าถึง และการปฏิบัติ การใช้งาน Platform ของระบบ MOE Safety Center ให้กับเด็ก นักเรียน ผู้ปกครองนักเรียน ด้านเครือข่าย ขาดการพัฒนาและเชื่อมโยง ฐานข้อมูลระบบสารสนเทศการ ดูแลช่วยเหลือนักเรียน กับระบบ School Health Hero และระบบ Data Management Center : DMC แ ล ะ ร ะ บ บ MOE Safety Center ที่ครอบคลุมทุกมิติของ ปัญหา นักเรียนที่ไม่ได้รับการดูแล ช่วยเหลือขาดความ ปลอดภัยในการดำเนินชีวิต
12 ด้านการปฏิบัติตามกฎหมาย กิจกรรม ชื่อความเสี่ยง สาเหตุ/ตัวผลักดันความเสี่ยง ผลกระทบ 1. ระบบการ จัดการด้านข้อมูล ส่วนบุคคลที่ จำเป็นในการ ปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติ คุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 การควบคุมข้อมูลส่วน บุคคลเพื่อป้องกันการ รั่วไหล หรือละเมิดข้อมูล ส่วนบุคคล ซึ่งจะส่งผล กระทบต่อสิทธิและ เสรีภาพของเจ้าของ ข้อมูล 1. บุคลากรขาดความรู้และความ ตระหนักเกี่ยวกับ พรบ.คุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 2. ไม่มีมาตรการควบคุมการรั่วไหล และละเมิดของข้อมูล ด้านกฎหมาย ภัยคุกคามและเหตุการณ์ ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
13 การกำหนดแผนบริหารความเสี่ยง จากเกณฑ์ความเสี่ยงของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงกำหนดแผนบริหาร ความเสี่ยง 4 กิจกรรม ดังนี้ 1. ด้านการดำเนินงาน 1.1 กิจกรรม การตรวจประเมินคุณภาพสื่อการเรียนรู้ของเอกชน ชื่อความเสี่ยง การดำเนินงานเบิกจ่ายค่าตอบแทนการตรวจประเมินคุณภาพสื่อการเรียนรู้ของเอกชน ให้แก่กรรมการ ไม่เป็นไปตามการดำเนินงาน ระดับผลกระทบ ระดับองค์กร ผู้รับผิดชอบ ผู้อำนวยการสำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา วิธีจัดการความเสี่ยง ๑. ชี้แจง สร้างความเข้าใจ แก่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ถึงความจำเป็นขององค์กร ๒. บริหารจัดการการใช้งบประมาณในกิจกรรมอื่น เพื่อให้มีเงินงบประมาณสำหรับจ่าย ค่าตอบแทนให้แก่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิให้ได้มากที่สุด ๓. ในไตรมาสที่ ๔ ของปีงบประมาณ ขออนุมัติใช้งบประมาณจากงบพัฒนานโยบายของ สพฐ. จ่ายค่าตอบแทนให้แก่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิได้ครบตามจำนวน ตัวชี้วัดความเสี่ยง เบิกจ่ายค่าตอบแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิได้ตามกำหนด ร้อยละ 80 ค่าเป้าหมาย สำนักดำเนินการตรวจประเมินคุณภาพสื่อการเรียนรู้ของเอกชน ครบ ๑๐๐% วิธีการติดตามและการรายงาน ๑. การลงทะเบียนสื่อการเรียนรู้ที่สำนักพิมพ์เอกชนส่งเข้ามาตรวจประเมินคุณภาพ ๒. สื่อการเรียนรู้ที่ผ่านการตรวจประเมินคุณภาพ และได้รับใบอนุญาต / ประกันคุณภาพแล้ว ได้นำขึ้นเผยแพร่ออนไลน์ในบัญชีกำหนดสื่อการเรียนรู้สำหรับเลือกใช้ในสถานศึกษา หมายเหตุ ๑. ปีงบประมาณ ๒๕๖๕ สวก. ได้ขออนุมัติใช้เงินงบประมาณจากงบพัฒนานโยบายของ สพฐ. จำนวน ๖๓๙,๑๒๐ บาท เพื่อใช้จ่ายเป็นค่าตอบแทนให้แก่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิดังกล่าว ๒. สวก. ได้โทร. สอบถามกลุ่มบริหารเงินนอกงบประมาณและเงินสวัสดิการ สคส. แล้ว ขณะนี้มีเงินสวัสดิการเหลืออยู่เพียง ๑ แสนเศษ 1.2 กิจกรรม : การติดตาม ตรวจสอบโครงการในระบบติดตามและประเมินผลแห่งชาติ(eMENSCR) ชื่อความเสี่ยง : การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศสู่การปฏิบัติภายใต้โครงการผ่าน ระบบติดตามและประเมินผลแห่งชาติ (eMENSCR) ไม่เป็นไปตามเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติและตัวชี้วัด ความสำเร็จของโครงการที่กำหนด ระดับผลกระทบ : ระดับองค์กร ผู้รับผิดชอบ : สำนักติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน วิธีจัดการความเสี่ยง 1. มีการกำหนดนโยบายระดับองค์กร ระดับหน่วยงานทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคที่ชัดเจน 2. พัฒนาอบรมให้ความรู้ สร้างความตระหนักให้กับบุคลากรในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐานผ่านช่องทางต่าง ๆ ทั้งในส่วนของผู้รับผิดชอบโครงการ ผู้อนุมัติข้อมูลโครงการ และผู้นำ เข้าข้อมูลโครงการ และมีการติดตามผลหลังเสร็จสิ้นการพัฒนาเป็นระยะ ๆ และต่อเนื่อง 3. ประเมินผลการดำเนินงานโครงการและสะท้อนผลการประเมินไปยังผู้รับผิดชอบโครงการ
14 ตัวชี้วัดความเสี่ยง 1. ร้อยละของโครงการของหน่วยงานในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่ได้รับงบประมาณ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 มีผลสัมฤทธิ์ต่อตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการ 2. ร้อยละของโครงการของหน่วยงานในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่ได้รับงบประมาณ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 มีผลสัมฤทธิ์ต่อเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ ค่าเป้าหมาย 1. บุคลากรในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานสามารถวิเคราะห์โครงการ ได้ถูกต้องและสามารถนำเข้าข้อมูลโครงการในระบบติดตามและประเมินผลแห่งชาติ (eMENSCR) ได้ภายใน ระยะเวลาที่กำหนด 2. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานสามารถขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ ได้ตามเป้าหมายที่กำหนด วิธีการติดตามและการรายงาน 1. กำกับ ติดตามผลการดำเนินงานเป็นรายไตรมาส และจัดทำรายงานผลการดำเนินงานรอบ 6 เดือน และรอบ 12 เดือน 2. ประเมินผลการดำเนินงานโครงการเมื่อเสร็จสิ้นโครงการหรือสิ้นปีงบประมาณ และจัดทำ รายงานการประเมินผลการดำเนินงานโครงการ รวมทั้งสะท้อนผลการประเมิน 1.3 กิจกรรม : การดูแลช่วยเหลือนักเรียน ชื่อความเสี่ยง : ความเสี่ยงกับเด็กนักเรียนไม่สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้เอง ระดับผลกระทบ : ระดับองค์กร ผู้รับผิดชอบ : ผู้อำนวยการศูนย์ความปลอดภัย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน วิธีจัดการความเสี่ยง : 1. กำหนดแนวทางปฏิบัติให้มีความชัดเจนกับสถานการณ์ปัญหาเด็กและเยาวชนในปัจจุบัน ให้ครอบคลุมทุกมิติของปัญหาที่มีความซับซ้อน 2. เน้นย้ำ และกระตุ้นถึงการนำแนวทางในการดำเนินงานด้านการดูแลช่วยเหลือนักเรียน สู่การปฏิบัติในสถานศึกษาให้มากที่สุด 3. เพิ่มบุคลากรด้านการแนะแนวและการให้คำปรึกษานักเรียน รวมไปถึงครูจิตวิทยาโรงเรียน ให้มากขึ้น เพื่อให้สามารถ ป้องกันแก้ไขปัญหา ส่งเสริม พัฒนาและการดูแลช่วยเหลือนักเรียน รวมไปถึงการส่ง ต่อ ให้เท่าทันกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว 4. ชี้แจง ทำความเข้าใจร่วมกัน สร้างการรับรู้ถึงแนวทางการดำเนินงานการเข้าถึง และการปฏิบัติการใช้งาน Platform ของระบบ MOE Safety Center ให้กับเด็กนักเรียน ผู้ปกครองนักเรียน โดยกำหนดแนวทางการดำเนินงานที่ชัดเจน ครอบคลุมเป็นแนวปฏิบัติเดียวกัน 5. สร้างความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับเครือข่ายที่จะมาสนับสนุนช่วยเหลือการดูแลช่วยเหลือ นักเรียน โดยพัฒนาและเชื่อมโยงฐานข้อมูลระบบสารสนเทศการดูแลช่วยเหลือนักเรียน กับระบบ School Health Hero และระบบ Data Management Center : DMC และระบบ MOE Safety Center ให้ครอบคลุม ทุกมิติของปัญหา เพื่อให้ได้ข้อมูลและรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล รวมไปถึงรับทราบปัญหาของนักเรียน สามารถนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์หาแนวทางในการส่งเสริม พัฒนา ป้องกันแก้ไขและดูแลช่วยเหลือ คุ้มครอง นักเรียนให้ได้รับความปลอดภัย
15 ตัวชี้วัดความเสี่ยง : ผู้เรียน มีความรู้ความเข้าใจ และทักษะเพื่อรับมือกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ทุกรูปแบบ และทุกประเภท เพื่อสามารถดูแลตนเองจากภัยอันตราย ท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางสังคม (ร้อยละ 100) ค่าเป้าหมาย : ศูนย์ความปลอดภัย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ดำเนินการดูแลช่วยเหลือ นักเรียน (ร้อยละ 100) วิธีการติดตามและการรายงาน : บุคลากร/เจ้าหน้าที่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ซึ่งปฏิบัติงานด้านการ คุ้มครองนักเรียน รายงานผลการดูแลช่วยเหลือนักเรียน มายังศูนย์ความปลอดภัย สำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน และให้ผู้อำนวยการสำนักดำเนินการตรวจสอบและรายงานต่อเลขาธิการคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน 2. ด้านการปฏิบัติตามกฎหมาย กิจกรรม : ระบบการจัดการด้านข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ชื่อความเสี่ยง : การควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อป้องกันการรั่วไหล หรือละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของเจ้าของข้อมูล ระดับผลกระทบ : ระดับองค์กร ผู้รับผิดชอบ : ผู้อำนวยการสำนักเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน วิธีจัดการความเสี่ยง : 1. แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของหน่วยงานเป็นไปตามมาตรา 42 พรบ.คุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 2. สำรวจรวบรวมระบบที่หน่วยงานภายใน สพฐ. มีการจัดเก็บและประชุมชี้แจงจัดทำบันทึกใน การจัดกิจกรรมประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อสร้างความตระหนักเกี่ยวกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 3. จัดทำมาตรการป้องกัน กำกับ ติดตาม และประเมิน เกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล 4. มีการบันทึกกิจกรรมการประมวลผลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล (Ropa) ตัวชี้วัดความเสี่ยง : สพฐ. สามารถดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปตามพระราชบัญญัติ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ค่าเป้าหมาย : สพฐ. ใช้ระบบบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลครบทุกสำนักงานส่วนกลาง วิธีการติดตามและการรายงาน : 1. รายงานผลการใช้งานระบบจากโปรแกรมการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล 2. เอกสารกฎหมายที่เกี่ยวกับแนวปฏิบัติเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
ภาคผนวก
17
18
19
20 เกณฑ์การให้คะแนนความเสี่ยง ด้านผลกระทบ กิจกรรม ระดับคะแนน 5= สูงมาก 4=สูง 3= ปานกลาง 2=ต่ำ 1=ต่ำมาก ด้านการดำเนินงาน 1. การตรวจ ประเมิน คุณภาพ สื่อการเรียนรู้ ของเอกชน ๑. มีผลกระทบ ต่อชื่อเสียง ความเชื่อมั่น และความ น่าเชื่อถือของ องค์กรใน ระดับสูงมาก ๑. มีผลกระทบ ต่อชื่อเสียง ความเชื่อมั่น และความ น่าเชื่อถือของ องค์กรใน ระดับสูง ๑. มีผลกระทบ ต่อชื่อเสียง ความเชื่อมั่น และความ น่าเชื่อถือของ องค์กรในระดับ ปานกลาง ๑. มีผลกระทบ ต่อชื่อเสียง ความเชื่อมั่น และความ น่าเชื่อถือของ องค์กรในระดับ ต่ำ ๑. มีผลกระทบ ต่อชื่อเสียง ความเชื่อมั่น และความ น่าเชื่อถือของ องค์กรในระดับ ต่ำมาก ๒. มีผลกระทบ ต่อกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิ ร้อยละ ๑๐๐ ๒. มีผลกระทบ ต่อกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิ ร้อยละ ๙๐-๙๙ ๒. มีผลกระทบ ต่อกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิ ร้อยละ ๘๐-๘๙ ๒. มีผลกระทบ ต่อกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิ ร้อยละ ๗๐-๗๙ ๒. มีผลกระทบ ต่อกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิ น้อยกว่า ร้อยละ ๖๙ 2.การติดตาม ตรวจสอบ โครงการใน ระบบติดตาม และประเมินผล แห่งชาติ (eMENSCR) 1. ผลการ ดำเนินงาน โครงการที่ได้รับ จัดสร งบประมาณใน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของหน่วยงานใน สังกัดสำนักงาน คณะกรรมการ การศึกษาขั้น พื้นฐานบรรลุ ตามเป้าหมายของ ยุทธศาสตร์ชาติ น้อยกว่าร้อยละ 40.00 1. ผลการ ดำเนินงาน โครงการที่ได้รับ จัดสร งบประมาณใน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของหน่วยงานใน สังกัดสำนักงาน คณะกรรมการ การศึกษาขั้น พื้นฐานบรรลุ ตามเป้าหมายของ ยุทธศาสตร์ชาติ ร้อยละ 40.00 - 59.99 1. ผลการ ดำเนินงาน โครงการที่ได้รับ จัดสรร งบประมาณใน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของหน่วยงานใน สังกัดสำนักงาน คณะกรรมการ การศึกษา ขั้นพื้นฐานบรรลุ ตามเป้าหมายของ ยุทธศาสตร์ชาติ ร้อยละ 60.00 - 89.99 1. ผลการ ดำเนินงาน โครงการที่ได้รับ จัดสร งบประมาณใน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของหน่วยงานใน สังกัดสำนักงาน คณะกรรมการ การศึกษา ขั้นพื้นฐานบรรลุ ตามเป้าหมายของ ยุทธศาสตร์ชาติ ร้อยละ 80.00 - 99.99 1. ผลการ ดำเนินงาน โครงการที่ได้รับ จัดสร งบประมาณใน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของหน่วยงานใน สังกัดสำนักงาน คณะกรรมการ การศึกษา ขั้นพื้นฐานบรรลุ ตามเป้าหมายของ ยุทธศาสตร์ชาติ ร้อยละ 100
21 ด้านผลกระทบ กิจกรรม ระดับคะแนน 5= สูงมาก 4=สูง 3= ปานกลาง 2=ต่ำ 1=ต่ำมาก 2.การติดตาม ตรวจสอบ โครงการใน ระบบติดตาม และประเมินผล แห่งชาติ (eMENSCR) ข้อมูลพื้นฐาน ทางการศึกษา 2. ผลการ ดำเนินงาน โครงการที่ ได้รับจัดสรร งบประมาณใน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของหน่วยงาน ในสังกัด สำนักงาน คณะกรรมการ การศึกษา ขั้นพื้นฐานมี ผลสัมฤทธิ์ต่อ ตัวชี้วัด ความสำเร็จ ของโครงการ น้อยกว่าร้อย ละ 40.00 2. ผลการ ดำเนินงาน โครงการที่ ได้รับจัดสรร งบประมาณใน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของหน่วยงาน ในสังกัด สำนักงาน คณะกรรมการ การศึกษาขั้น พื้นฐานมี ผลสัมฤทธิ์ต่อ ตัวชี้วัด ความสำเร็จ ของโครงการ ร้อยละ 40.00 - 59.99 2. ผลการ ดำเนินงาน โครงการที่ ได้รับจัดสรร งบประมาณใน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของหน่วยงาน ในสังกัด สำนักงาน คณะกรรมการ การศึกษา ขั้นพื้นฐาน บรรลุตาม ตัวชี้วัด ความสำเร็จ ของโครงการ ร้อยละ 60.00 - 89.99 2. ผลการ ดำเนินงาน โครงการที่ ได้รับจัดสรร งบประมาณใน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของหน่วยงาน ในสังกัด สำนักงาน คณะกรรมการ การศึกษา ขั้นพื้นฐาน บรรลุตาม ตัวชี้วัด ความสำเร็จ ของโครงการ ร้อยละ 80.00 - 99.99 2. ผลการ ดำเนินงาน โครงการที่ ได้รับจัดสรร งบประมาณใน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของหน่วยงาน ในสังกัด สำนักงาน คณะกรรมการ การศึกษา ขั้นพื้นฐาน บรรลุตาม ตัวชี้วัด ความสำเร็จ ของโครงการ ร้อยละ 100 3. การดูแล ช่วยเหลือ นักเรียน มีปัจจัยเสี่ยงที่ จะส่งผลต่อการ ดูแลช่วยเหลือ นักเรียน เพิ่มขึ้น นอกเหนือจาก ปัจจัยเสี่ยง 4 ด้าน (ด้าน นโยบาย บุคลากร การดำเนินงาน และเครือข่าย) มีปัจจัยเสี่ยง 4 ด้าน (ด้านนโยบาย บุคลากร การ ดำเนินงาน และเครือข่าย) มีปัจจัยเสี่ยง 3 ด้าน (ด้าน นโยบาย บุคลากร การ ดำเนินงาน และเครือข่าย) มีปัจจัยเสี่ยง 2 ด้าน (ด้าน นโยบาย บุคลากร การ ดำเนินงาน และเครือข่าย) มีปัจจัยเสี่ยง 1 ด้าน (ด้าน นโยบาย บุคลากร การ ดำเนินงาน และเครือข่าย)
22 ด้านผลกระทบ กิจกรรม ระดับคะแนน 5= สูงมาก 4=สูง 3= ปานกลาง 2=ต่ำ 1=ต่ำมาก ด้านการปฏิบัติตามกฎหมาย 1. ระบบการ จัดการด้าน ข้อมูลส่วนบุคคล ที่จำเป็นในการ ปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติ คุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เจ้าของ ข้อมูลพบ ความ ยากลำบาก อย่างมาก หรือไม่ให้ ความสำคัญ ความร่วมมือ ในการ ดำเนินการ บันทึก ROPA ข้อมูล ส่วนบุคคลที่ จำเป็นใน การปฏิบัติ พระราชบัญ ญัติคุ้มครอง ข้อมูลส่วน บุคคล พ.ศ. 2562 เจ้าของข้อมูลพบ ความยากลำบาก หรือเสียหายมาก อย่างมีนัยสำคัญ หรือรู้สึกว่าไม่ คุ้มค่าในการที่เขา จะต้องบันทึก ROPA โดย ปราศจากปัญหา (เช่น ระยะเวลา ในการกรอก ข้อมูลใหม่ การถูก รบกวน ความ กลัว ขาดความ เข้าใจ ความเครียด) เจ้าของข้อมูล อาจมีความรู้สึก ไม่สะดวก หรือ รำคาญเพิ่มขึ้น มากในการที่เขา จะต้องบันทึก ROPA โดย ปราศจากปัญหา (เช่น ระยะเวลา ในการกรอก ข้อมูลใหม่ การถูกรบกวน ความกลัว ขาด ความเข้าใจ ความเครียด) เจ้าของข้อมูลอาจ มีความรู้สึกไม่ สะดวก หรือ รำคาญเพิ่มขึ้น เล็กน้อยในการที่ เขาจะต้องบันทึก ROPA โดย ปราศจากปัญหา (เช่น ระยะเวลาใน การกรอก ข้อมูลใหม่ การถูก รบกวน ความ กลัว ขาดความ เข้าใจ ความเครียด) เจ้าของข้อมูล ตระหนักถึง ความสำคัญและให้ ความร่วมมือในการ บันทึก ROPA เกี่ยวกับกิจกรรมที่ เกี่ยวข้องกับข้อมูล ส่วนบุคคลที่จำเป็น ในการปฏิบัติ พระราชบัญญัติ คุ้มครองข้อมูลส่วน บุคคล พ.ศ. 2562
23 ด้านโอกาส กิจกรรม ระดับคะแนน 5= สูงมาก 4=สูง 3= ปานกลาง 2=น้อย 1=น้อยมาก ด้านการดำเนินงาน 1. การตรวจ ประเมิน คุณภาพ สื่อการเรียนรู้ ของเอกชน โอกาสเกิดมากกว่า ร้อยละ ๙๐ ที่กรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิ ได้รับค่าตอบแทน ไม่เป็นไปตาม การดำเนินงาน โอกาสเกิด ร้อยละ 70-89 ที่กรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิ ได้รับค่าตอบแทน ไม่เป็นไปตาม การดำเนินงาน โอกาสเกิด ร้อย ละ 40-69 ที่ กรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิ ได้รับค่าตอบแทน ไม่เป็นไปตาม การดำเนินงาน โอกาสเกิด ร้อยละ 20-39 ที่กรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิ ได้รับค่าตอบแทน ไม่เป็นไปตาม การดำเนินงาน โอกาสเกิดน้อยกว่า ร้อยละ 19 ที่กรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิได้รับ ค่าตอบแทน ไม่เป็นไปตาม การดำเนินงาน 2. การติดตาม ตรวจสอบ โครงการใน ระบบติดตาม และประเมินผล แห่งชาติ (eMENSCR) โอกาสที่โครงการ ของสำนักงาน คณะกรรมการ การศึกษาขั้น พื้นฐานได้รับ อนุมัติงบประมาณ ตามวงเงิน งบประมาณ ที่ขอรับการ จัดสรร น้อยกว่า ร้อยละ 70.00 โอกาสที่โครงการ ของสำนักงาน คณะกรรมการ การศึกษาขั้น พื้นฐานได้รับ อนุมัติงบประมาณ ตามวงเงิน งบประมาณ ที่ขอรับการ จัดสรร ร้อยละ 70.00 - 79.99 โอกาสที่โครงการ ของสำนักงาน คณะกรรมการ การศึกษาขั้น พื้นฐานได้รับ อนุมัติงบประมาณ ตามวงเงิน งบประมาณ ที่ขอรับการ จัดสรร ร้อยละ 80.00 – 89.99 โอกาสที่โครงการ ของสำนักงาน คณะกรรมการ การศึกษาขั้น พื้นฐานได้รับ อนุมัติงบประมาณ ตามวงเงิน งบประมาณ ที่ขอรับการ จัดสรร ร้อยละ 90.00 – 99.99 โอกาสที่โครงการ ของสำนักงาน คณะกรรมการ การศึกษาขั้น พื้นฐานได้รับ อนุมัติงบประมาณ ตามวงเงิน งบประมาณ ที่ขอรับการ จัดสรร ร้อยละ 100
24 ด้านโอกาส กิจกรรม ระดับคะแนน 5= สูงมาก 4=สูง 3= ปานกลาง 2=น้อย 1=น้อยมาก 3. การดูแล ช่วยเหลือนักเรียน โอกาสเกิด มากกว่า ร้อยละ 79 ที่นักเรียน ไม่ได้รับการ ดูแลช่วยเหลือ โอกาสเกิดร้อยละ 60 – 79 ที่นักเรียนไม่ได้รับ การดูแลช่วยเหลือ โอกาสเกิดร้อยละ 40 – 59 ที่นักเรียนไม่ได้รับ การดูแลช่วยเหลือ โอกาสเกิดร้อยละ 20 - 39 ที่นักเรียนไม่ได้รับ การดูแลช่วยเหลือ โอกาสเกิด น้อยกว่า ร้อยละ 20 ที่นักเรียน ไม่ได้รับการ ดูแลช่วยเหลือ ด้านการปฏิบัติตามกฎหมาย 1. ระบบการ จัดการด้านข้อมูล ส่วนบุคคลที่ จำเป็นในการ ปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติ คุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โอกาสเกิดภัย คุกคามหรือ การรั่วไหล ของข้อมูล นี้มีโอกาสบ่อย มาก พบได้ ตลอดเวลา หรือสม่ำเสมอ (จำนวน มากกว่า 5 ครั้ง/ปี) โอกาสเกิดภัย คุกคามหรือการ รั่วไหลของข้อมูล นี้มีโอกาสบ่อย มาก พบได้ ตลอดเวลา หรือ สม่ำเสมอ (จำนวน 3 - 4 ครั้ง/ปี) โอกาสเกิดภัย คุกคามหรือการ รั่วไหลของข้อมูล นี้มีโอกาสบ่อย มาก พบได้ ตลอดเวลา หรือ สม่ำเสมอ (จำนวน 2 ครั้ง/ ปี) โอกาสเกิดภัย คุกคามหรือการ รั่วไหลของข้อมูล นี้มีโอกาสบ่อย มาก พบได้ ตลอดเวลา หรือ สม่ำเสมอ (จำนวน 1 ครั้ง/ ปี) โอกาสเกิดภัย คุกคามหรือ การรั่วไหล ของข้อมูล นี้มีโอกาสบ่อย มาก พบได้ ตลอดเวลา หรือสม่ำเสมอ (ไม่เกิดขึ้นเลย ใน 1 ปี)
25 การให้คะแนนความเสี่ยง รหัส ชื่อความเสี่ยง โอกาส ผลกระทบ ระดับ ความเสี่ยง ลำดับ ความเสี่ยง 1 การดำเนินงานเบิกจ่าย ค่าตอบแทนการตรวจ ประเมินคุณภาพสื่อการ เรียนรู้ของเอกชนให้แก่ กรรมการ ไม่เป็นไปตาม การดำเนินงาน ๓ ๔ ๑๒ 1 2 การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ชาติและแผนการปฏิรูป ประเทศสู่การปฏิบัติภายใต้ โครงการผ่านระบบติดตาม และประเมินผลแห่งชาติ (eMENSCR) ไม่เป็นไปตาม เป้าหมายของยุทธศาสตร์ ชาติและตัวชี้วัดความสำเร็จ ของโครงการที่กำหนด 3 4 12 2 3 ความเสี่ยงกับเด็ก นักเรียนไม่สามารถ แก้ไขปัญหาต่างๆ ได้เอง 3 4 12 3 4 การควบคุมข้อมูลส่วน บุคคลเพื่อป้องกันการ รั่วไหล หรือละเมิด ข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งจะ ส่งผลกระทบต่อสิทธิ และเสรีภาพของเจ้าของ ข้อมูล 3 4 12 4
3 26 ระดับความเสี่ยง ต่ำ ปานกลาง สูง สูงมาก 1 - 3 4 - 8 9 - 14 15 - 25 การจัดลำดับความเสี่ยงโดยพิจารณาจากโอกาสและผลกระทบ 1,2,3,4 1 2 3 4 5 ผลกระทบโอกาส 5 4 3 2 1