คำชี้แจง: ให้นักเรียนเติมเนื้อหาที่ถูกต้องลงในช่องว่าง “.................” ให้ถูกต้อง (๒ คะแนน) เรียงความ คือ กระบวนการในการใช้ภาษาผ่านงานเขียนอย่างเป็น ซึ่งเป็นศิลปะอย่างหนึ่งในการใช้ภาษา โดยการเรียบเรียงความคิด ความรู้สึก จินตนาการ ความเข้าใจ จากภาษาที่ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์และสละสลวยในการใช้ภาษา การเขียนเรียงความ เป็นการเขียนที่มีการเรียงลำดับขั้นตอนในการนำเสนอ ซึ่งประกอบด้วย ขั้นตอนการเขียน ดังนี้ ❖ ส่วนนำ หรือคำนำ หมายถึง การ หรือ ไม่ใช่การสรุปเรื่อง แต่เป็นการสะกดผู้อ่าน และเชื้อเชิญ ให้ผู้อ่านอยากอ่านให้จบทั้งเรื่อง (จึงจะถือว ่าเป็นส ่วนนำที่ดี) อาจจะเกริ่นด้วยบทกลอน คำคม คติธรรม สุภาษิต คำขวัญ หรือพระบรมราโชวาท (ระวังเปิดด้วยกลอนแล้วเกินบรรทัด) ซึ่งส่วนนำคิดเป็นร้อยละ ๒๐ ของกระดาษ A๔ (ประมาณ บรรทัด) ❖ ส่วนเนื้อเรื่อง หมายถึง การ เนื้อหาตามประเด็นต่าง ๆ โดยใช้หลัก มาสนับสนุน มักมีเพียง ๑ ย่อหน้า แต่ไม่เกิน ๔ ย่อหน้า โดยใช้กลวิธีให้คำนิยาม สร้างแนวคิด หรือผูกเรื่องราวให้สอดคล้องกับประเด็นตามลำดับอย่าง เหมาะสม (จากใหญ่ไปเล็กหรือเล็กไปใหญ่) รวมทั้งใช้คำอย่างมีลีลาทางภาษา (โวหารภาพพจน์ และโวหารการเขียน) พร้อมทั้งใช้ คำอย่างสละสลวย ซึ่งส่วนเนื้อเรื่องคิดเป็นร้อยละ ๖๐ ของกระดาษ A๔ (ประมาณ บรรทัด) ❖ ส่วนสรุป หมายถึง การ โดยเป็นการสรุปทั้งเรื่องให้จบภายในส่วนสรุป นิยมใช้คำว่า “จากที่กล่าวมานี้ จะเห็นได้ว่าจากที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นได้ว่า ท้ายที่สุดนี้จะเห็นได้ว่า ทั้งหมดที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า” (จะใช้หรือไม่ใช้ก็ได้) ซึ่งการปิดอาจจะจบด้วยบทกลอน คำคม คติธรรม สุภาษิต คำขวัญ (ระวังปิดด้วยกลอนแล้วเกินบรรทัด) ส่วนสรุปคิดเป็น ร้อยละ ๒๐ ของกระดาษ A๔ (ประมาณ บรรทัด) ตารางสัดส่วนโครงสร้างการเขียนเรียงความ (ควรเขียนให้ได้ ๑ หน้ากระดาษ เขียนไม่ต่ำกว่า ๒๕ บรรทัด ไม่เกิน ๓๐ บรรทัด) เกณฑ์สัดส่วนบรรทัด: ส่วนนำ (ร้อยละ ๒๐) เนื้อหา ๒๕-๒๖-๒๗ บรรทัด ส่วนนำไม่เกิน ๕ บรรทัด เนื้อหา ๒๘-๒๙-๓๐ บรรทัด ส่วนนำไม่เกิน ๖ บรรทัด เกณฑ์สัดส่วนบรรทัด: ส่วนเนื้อเรื่อง (ร้อยละ ๖๐) เนื้อหา ๒๕ บรรทัด ส่วนเนื้อหาไม่เกิน ๑๕ บรรทัด เนื้อหา ๒๖-๒๗-๒๘ บรรทัด ส่วนเนื้อหาไม่เกิน ๑๖ บรรทัด เนื้อหา ๒๙ บรรทัด ส่วนเนื้อหาไม่เกิน ๑๗ บรรทัด เนื้อหา ๓๐ บรรทัด ส่วนเนื้อหาไม่เกิน ๑๘ บรรทัด เกณฑ์สัดส่วนบรรทัด: ส่วนสรุป (ร้อยละ ๒๐) เนื้อหา ๒๕-๒๖-๒๗ บรรทัด ส่วนสรุปไม่เกิน ๕ บรรทัด เนื้อหา ๒๘-๒๙-๓๐ บรรทัด ส่วนสรุปไม่เกิน ๖ บรรทัด หลักการเขียนเรียงความ เคล็ดลับการเขียนเรียงความอย่างมืออาชีพ (Tip) ๓ ข้อ ขึ้น กลาง จบ คะแนนเนื้อหา / ๒ ส่วนเนื้อหา ส่วนสรุป ๒๐ % ๖๐ % ส่วนน า ๒๐ % โครงสร้างการเขียนเรียงความ ๑๐๐ % ส่วนเนื้อหา ส่วนสรุป ส่วนน า ชื่อ-สกุล...........................................................................................................................เลขที่.......................ห้อง.........................
ข้อพึงระวัง: หากเขียนเรียงความมากกว่า ๑ หน้ากระดาษ (ไม่นิยม) เพราะจะไม่ใช่เรียงความจะกลายเป็น “.....................” ให้ยึด ตามสัดส่วน: ส่วนนำ คิดเป็นร้อยละ ๒๐ เนื้อเรื่อง คิดเป็นร้อยละ ๖๐ และสรุป คิดเป็นร้อยละ ๒๐ (ร้อยละ ๒๐ นิยมใช้๕-๘ บรรทัด) ➢ เรียงความ หมายถึง งานเขียนอย่างประณีต มีลักษณะกระชับ ไม่ใช้คำฟุ่มเฟือย ใช้ภาษาระดับทางการหรือกึ่งทางการ อาจแสดงความคิดหรือความรู้สึกลงไปในบทความได้แต่ต้องมีเหตุและผมมารองรับเสมอ นิยมเขียนเพียง ๑ หน้า ➢ ความเรียง หมายถึง งานเขียนที่เน้นวิชาการ ใช้ภาษาระดับทางการ นิยมเขียนอ้างอิงเชิงวิชาการและเขียนมากกว่า ๑ หน้า ➢ การเขียน Sop หมายถึง งานเขียนที่มีรูปแบบมาจากการเข้ามหาวิทยาลัยต่างประเทศ มีรูปแบบตายตัว นิยมเขียนเพียง ๑ หน้า ❖ ม.๔-๖ ตามหลักการควรเขียนให้กระชับและได้ใจความภายใน หน้า (๑ หน้ามี ๓๒ บรรทัด) (ไม่ควรเกิน ๑ หน้า) โดยมีข้อกำหนด ดังนี้ จำนวน ๑ หน้า ต้องไม่ต่ำกว่า บรรทัด และไม่เกิน บรรทัด (ทุกระดับเขียนครึ่งบรรทัด) ม.๑-๓ ความยาวต้องไม่ต่ำกว่า ๒๐ บรรทัด และไม่เกิน ๒๕ บรรทัด ป.๔-๖ ความยาวต้องไม่ต่ำกว่า ๑๕ บรรทัด และไม่เกิน ๒๐ บรรทัด ➢ พิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์: หัวกระดาษและขอบซ้าย เว้นว่างไว้ ๑.๕ นิ้ว (๓.๘๑ ซม.) ขอบล่างและขอบขวาเว้นไว้ ๑ นิ้ว (๒.๕๔ ซม) ➢ เขียนด้วยลายมือ: หัวกระดาษและขอบซ้าย เว้นว่างไว้ ๑ นิ้ว (๒.๕ ซม.) ขอบล่างและขอบขวาเว้นไว้ ๐.๖ นิ้ว (๑.๕ ซม.) ➢ แนวคิดในการเขียนเรียงความ: เขียนจากใจ (คิดและเขียนอย่างโลกสวย) ➢ ตัวพิมพ์(กรณีใช้คอมพิวเตอร์) ให้ใช้ชนิดตัวพิมพ์แบบเดียวกันตลอดทั้งเล่ม โดยลักษณะแบบอักษร (Font) ที่ใช้ควร เป็นแบบมาตรฐาน ได้แก่TH SarabunPSK, Angsana new, Cordia new หัวข้อให้ใช้.........points ตัวเนื้อหา........points ➢ หากเป็นคำสันธานหรือบุพบท และ/หรือ/แต่/เพราะ/จึง/แม้/เพื่อ/ใน/เมื่อ/ของ ถ้ามีคำตามมามากกว่า ๕ คำ ให้เคาะ...........เคาะ และหากคำที่ตามมามีจำนวนคำน้อย ๕ คำ ให้ติดกับประโยคไม่เคาะ ทั้งนี้เน้นความเหมาะสมเป็นสำคัญ เช่น เขาชอบกินขนมและของหวาน ครูเป็นผู้ชี้แนวทางให้กับลูกศิษย์ให้เป็นคนดีและเป็นผู้ที่มีใจโอบอ้อมอารีต่อลูกศิษย์ ๏ การใช้ “และ” ไม่ควรใช้ซ้ำควรหลีกเลี่ยงเพื่อให้ภาษามีชั้นเชิง ได้แก่ นอกจากนี้/ทั้งนี้/อีกทั้ง/พร้อมทั้ง/พร้อมด้วย ฯลฯ ซึ่งการใช้ “และ” ใช้เมื่อต้องการให้ข้อความนั้นมีความสอดคล้องกัน โดยไม่ใช้และทุกตัวจะใช้เฉพาะข้อความ...............เท่านั้น เช่น ๏ เขาและน้า และป้า และอา และลุง และตา และยาย และคุณทวดไปงานไหมที่ขอนแก่น ✘ ไม่ถูกต้อง ๏ เขา น้า ป้า อา ลุง ตา ยาย และคุณทวดไปงานไหมที่ขอนแก่น ✓ ถูกต้อง คอมพิวเตอร์ ๑.๕ นิ้ว (๓.๘๑ ซม.) ลายมือ ๑ นิ้ว (๒.๕ ซม.) ประเภทงานเขียน จำนวนหน้า การเว้นขอบกระดาษ (นับทั้งกระดาษ) รูปแบบการเขียนเรียงความ หลักการใช้คำเชื่อม หลักการใช้ “และ” คอมพิวเตอร์ ๑.๕ นิ้ว (๓.๘๑ซม.)ลายมือ ๑ นิ้ว (๒.๕ซม.) คอมพิวเตอร์ ๑ นิ้ว (๒.๕๔ ซม)ลายมือ ๐.๖ นิ้ว (๑.๕ ซม.) คอมพิวเตอร์ ๑ นิ้ว (๒.๕๔ ซม) ลายมือ ๐.๖ นิ้ว (๑.๕ ซม.)
๏ การใช้ “เครื่องหมายวรรคตอน” เช่น ๆ (ไม้ยมก) ? (ปรัศนีย์) ! (อัศเจรีย์) มีหลักการคือ เคาะหน้า............เคาะหลัง............ ยกเว้น มักให้ติดตัวด้านหน้าแล้วเคาะ ๑ เคาะ เช่น , (จุลภาค) . (มหัพภาค) “” อัญประกาศ ฯ ไปยาลน้อย ; อัฒภาค / ทับ (ให้ชิด) ๏ การเคาะ “ระหว่างตัวหนังสือกับตัวเลข” หากปะปนกันให้แยกด้วยการเคาะเสมอ เช่น พ.ศ. ๒๕๖๕ เวลา ๑๙.๐๐ น. ๑๘ ปี ๏ การเคาะ “ระหว่างกลุ่มคำที่ยกตัวอย่าง” ได้แก่ เช่น อาทิ ได้แก่ ประกอบด้วย ฯลฯ ให้เคาะหน้า...........และเคาะหลัง........... ๏ การใช้ “กลุ่มคำที่ยกตัวอย่าง” ไม่มีคำว่า “อาทิเช่น” เนื่องจาก“อาทิ” ยกตัวอย่างเพียง ๑ อย่างเท่านั้น --> อาทิ กระดาษ และคำว่า “เช่น” มักยกตัวอย่างมากกว่า ๑ นิยมเป็นเลขคี่ ๓-๕-๖ ตัวอย่างเท่านั้น หากมากกว่า ๖ มักใช้คำว่า “ได้แก่” แทน หากไม่มียศให้ติดชื่อ เช่น นายประยุทธ์ จันทร์โอชา หากมียศให้เคาะ........เคาะเสมอ อาทิ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ความคิดสร้างสรรค์และต้องการให้คำสละสลวยย่อมทำให้เกิดการประดิษฐ์คำที่ฟุ่มเฟือยขึ้น ควรแก้โดยการตรวจทาน และสังเกตจากหากตัดความหมายยังคงเดิมถือว่าเป็นคำฟุ่มเฟือยควรตัดออก เพื่อให้ภาษากระชับไม่เยิ่นเย้อเพียงพอต่อ บรรทัดของกระดาษ ตัวอย่างคำฟุ่มเฟือย เช่น ทำการดำเนินการ มีการ มีความ ในส่วนของ แบบว่า ในรูปแบบของ ฯลฯ ➢ ห้าม ใช้ภาษาพูดในเรียงความและไม่ใช้คำศัพท์สแลง เพราะการเขียนเรียงความใช้ภาษาระดับทางการหรือกึ่งทางการ เช่น นะคะ ค่ะ คะ ครับ แล้วก็ แบบว่า คือว่า ประมาณนี้ อะไรยังไง ต๊าช จุก ๆ เกร๋ ➢ ห้าม เขียนอวดตัวเอง หากจะชมตัวเองต้องแนบเนียน เพราะจะทำให้เสียความน่าเชื่อถือ ➢ ไม่ควร เขียนโดยไม่ศึกษาข้อมูลควรร่างโครงร่างเนื้อหาก่อนลงมือเขียนและศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนเขียน ➢ ไม่ควร เขียนพาดพิงตีเตียนหรือทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสียเพราะอาจนำไปสู่การทะเลาะวิวาทและผิดต่ออาญาแผ่นดินได้ ➢ ไม่ควร ไม่ควรเขียนเรียงข้อ เช่น 1) การเป็นคนดี 2) การเป็นคนซื่อสัตย์ 3) การเป็นคนมีเมตตา 4) การเป็นคนมีวินัย ➢ เอกภาพ หมายถึง ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน หมายความว่าไม่ให้เขียนนอกเรื่องเด็ดขาด ➢ สัมพันธภาพ หมายถึง ความสัมพันธ์กัน ข้อความแต่ละข้อความหรือแต่ละย่อหน้าจะต้องมีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกัน ➢ สารัตถภาพ หมายถึง การเน้นสาระสำคัญของย่อหน้าแต่ละย่อหน้าและของเรื่องทั้งหมด มีความสร้างสรรค์ ➢ การใส่คำคม หมายถึง การสร้างเอกลักษณ์ในงานเขียนซึ่งเป็นกลวิธีโน้มน้าวจิตใจให้ผู้อ่านคล้อยตาม ➢ การสะกดคำให้ถูกต้อง หมายถึง งานเขียนที่มีคุณภาพต้องสะกดคำให้ถูกต้อง ➢ การใช้โวหารภาพพจน์ หมายถึง การใช้ชั้นเชิงทางภาษาให้มีถ้อยคำที่สละสลวย มักใช้อุปมาโวหาร (ดุจ ดั่ง เฉก เช่น) หลักการใช้เครื่องหมายวรรคตอน เว้นวรรคระหว่างตัวหนังสือกับตัวเลข เว้นวรรคระหว่างกลุ่มคำที่ยกตัวอย่าง เว้นวรรคระหว่างกลุ่มคำที่ยกตัวอย่าง หลักการใช้คำนำหน้า หลักการสังเกตคำฟุ่มเฟือย ข้อพึงระวัง ลักษณะของเรียงความที่ดี
ตารางการให้คะแนน (๓๐ คะแนน) กิจกรรมที่ ๑ เติมเนื้อหา (๒ คะแนน) --> ๒ คะแนน ตกแต่ง เนื้อหาถูกต้อง และครบถ้วน ๑ คะแนน เนื้อหาถูกต้อง และครบถ้วน ๐.๕ คะแนน เนื้อหาถูกต้อง กิจกรรมที่ ๒ ข้อสอบการเขียนเรียงความ (๕ คะแนน) กิจกรรมที่ ๓ การสรุปความรู้ เรื่อง การเขียนเรียงความ (๓ คะแนน) กิจกรรมที่ ๔ การเขียนเรียงความเพื่อศึกษาต่อหรือเรื่องที่อยากเขียน (๒๐ คะแนน) กิจกรรมที่ ๒: ให้นักเรียนเขียนเรียงความเรื่องการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา (สามารถเขียนในหัวข้อที่จะยื่นต่อมหาลัยได้) ให้นักเรียนเขียนด้วยลายมือลงในกระดาษรายงาน และพิมพ์ลงคอมพิวเตอร์ เพื่อรวบรวมเป็นเล่มประจำห้องมอบให้ทางโรงเรียน หากนักเรียนไม่จำเป็นต้องเขียนเรียงความส่งมหาลัย นักเรียนสามารถเขียนแนะนำตัวเองได้ พร้อมตั้งชื่อเรื่อง (๒๐ คะแนน) เกณฑ์การพิจารณาการมคะแนน หัวข้อ คะแนน ๑. การตั้งชื่อเรื่อง ๒ คะแนน ๒. การใช้ภาษา การเขียนถูกต้องตามอักขรวิธีและสะอาดเรียบร้อย ๓ คะแนน ๓. การเขียนส่วนนำ ๕ คะแนน ๔. การเขียนเนื้อเรื่อง ๕ คะแนน ๕. การเขียนส่วนสรุป ๕ คะแนน รวม ๑๐๐ คะแนน คำชี้แจง: ให้นักเรียนสรุปความรู้ที่ได้ลงใบกิจกรรม (๓ คะแนน) การสรุปความรู้ เรื่อง การเขียน เรียงความ รวมคะแนน / ๓
คำชี้แจง: ให้นักเรียนเลือกคำตอบเพียง ๑ คำตอบลงในแบบทดสอบ ๑. เหตุใดจึงควรมีการวางโครงเรื่องก่อนเขียนเรียงความ ก. เพื่อจะทำให้ตั้งชื่อเรื่องได้น่าสนใจ ข. เพื่อทำให้ภาษาได้ถูกต้องและเหมาะสม ค. เพื่อบรรยายเรื่องราวต่าง ๆ ให้ได้ครบ ๓ ย่อหน้า ง. เพื่อทำให้เกิดความสร้างสรรค์ทางภาษา จ. เพื่อวางขอบเขตและเรียงลำดับเรื่องให้สอดคล้องกัน ๒. ข้อใดเป็นประเด็นที่ไม่จำเป็นสำหรับการเขียนเรียงความ เรื่อง “โรงเรียนหนองเรือวิทยา” ก. ประวัติโรงเรียน ข. จำนวนครูและนักเรียน ค.พื้นที่ใช้สอยในโรงเรียน ง. ผลงานที่สร้างชื่อเสียง จ.รายได้ผู้ปกครอง ๓. การเขียนเรียงความ เรื่อง “เทคโนโลยีกับการศึกษา” ควรเน้นเรื่องใดมากที่สุด ก. การเรียนการสอนเกี่ยวกับเทคโนโลยี ข. การนำเทคโนโลยีมาช่วยในการเรียนการสอน ค. การชี้ให้เห็นความสำคัญของเทคโนโลยีในโรงเรียน ง. การพัฒนาเทคโนโลยีช่วยพัฒนาการศึกษา จ. ข้อดีและข้อเสียงของเทคโนโลยีกับการศึกษา ๔. หากเขียนเรียงความ เรื่อง “Soft Power ไทยในเวทีโลก” ข้อใดเหมาะสมที่จะเป็นประเด็นสำคัญในการเขียนความนำ ก. อาหารไทย ข. ศิลปะมวยไทย ค. การนวดแผนไทย ง. ผลิตภัณฑ์ผ้าไทย จ. มรดกทางวัฒนธรรมไทย ๕. ข้อความต่อไปนี้ควรเป็นส่วนใดของเรียงความ ประโยชน์จากแนวปะการังประการสุดท้าย ได้แก่ แหล่งทรัพยากรอาหาร ของมนุษย์ สิ่งมีชีวิตต่าง ๆ จำนวนมากในแนว ปะการังนั้นสามารถกินอาหารได้ เช่น ปลาชนิดต่าง ๆ ปลิงทะเล หอย กุ้ง และปลาหมึก ก. โครงเรื่อง ข. ส่วนนำ ค.ส่วนเรื่อง ง.ส่วนสรุป จ. ส่วนขยาย ๖. ข้อใดควรอยู่ในส่วนที่เป็นเนื้อเรื่องของเรียงความ เรื่อง "เด็กไทยยุคใหม่ไร้โรคเอดส์" ก. สถานการณ์โรคระบาดในประเทศไทย ข. เหตุการณ์ความรุนแรงของสถานการณ์ทั่วโลก ค. ความประพฤติและค่านิยมที่ผิดจนนำไปสู่การติดเชื้อเอดส์ ง. ความเชื่อมั่นในการรักษาโรคเอดส์ จ. การบอกข้อคิดเพื่อเด็กไทยยุคใหม่ไร้โรคเอดส์ ๗. ข้อใดคือเจตนาของผู้เขียน ผู้ที่เติบโตมาด้วยข้าวกันบาตรหรือรู้จักกันดีว่าเป็นเด็กวัด จะเข้าใจประเด็นสําคัญของการจัดงานวัดว่า เป็นการจัดกิจกรรม เพื่อลดช่องว่างทางสังคม เพราะกิจกรรมประกอบด้วยการทําบุญไหว้พระ ฟังเทศน์ และแสวงหาความสมดุลทางจิตใจ ๑. อธิบายให้เข้าใจ ๒. ชี้แจงความเป็นจริง ๓. บรรยายให้เห็นภาพ ๔. แสดงความคิดเห็น ๕. วิเคราะห์สถานการณ์ ๘. ข้อความต่อไปนี้ผู้พูดมีน้ำเสียงอย่างไร "โดยส่วนตัวของผมกินได้หมดไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์แปรรูปหรืออาหารสุก ๆ ดิบ ๆ เพราะถ้าจะเอาจริง มันก็มีเชื้อโรคอยู่แล้ว นั่นแหละ แต่ถ้าไม่คิดอะไรก็ไม่มีอะไร" ๑. ไม่วิตก ๒. ไม่เชื่อถือ ๓. ไม่ใส่ใจ ๔. ไม่ร้อนใจ ๕. ไม่กลัว ๙. ข้อความต่อไปนี้ผู้เขียนสะท้อนแนวคิดสำคัญเรื่องใด ดอกบัวงามแม้อยู่ในหนองคลองละหาน เมื่อนํามาขึ้นทิ้งบูชา ยิ่งงดงามกว่าเดิม ๑. ความเคารพ ๒. ความสดใส ๓. ความบริสุทธิ์ ๔. ความนอบน้อม ๕. ความดี ๑๐. ข้อความต่อไปนี้มีวัตถุประสงค์อย่างไร "มารยาทในสังคมที่ คนไทยทุกคนพึงมีทั้งในการแต่งกาย การพูดจา การรับประทานอาหารและการเข้าสังคม ซึ่งเป็นมารยาท พื้นฐานนําไปปรับใช้ได้กับทุกสถานการณ์ควรต้องใส่ใจปฏิบัติก่อนจะมีใครตําหนิว่าเราไม่มีมารยาท" ๑. ตักเตือน ๒. ตําหนิ ๓. ให้ข้อคิด ๔. สั่งสอน ๕. บอกกล่าว แบบทดสอบการเขียนเรียงความ (๕ คะแนน) รวมคะแนน / ๕ ชื่อ..................................................................................................................................เลขที่...........................ห้อง.....................