ก
ธรรมนูญโรงเรยี นหนองพระพิทยา
พุทธศักราช ๒๕๖๔
ปที ีพ่ ิมพ์ พ.ศ. ๒๕๖๔
จดั พมิ พ์โดย โรงเรยี นหนองพระพิทยา
สานกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษาพษิ ณุโลก อุตรดติ ถ์
สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พื้นฐาน
กระทรวงศึกษาธกิ าร
ข
ประกาศโรงเรยี นหนองพระพทิ ยา
เรือ่ ง การใช๎ธรรมนูญโรงเรียนหนองพระพิทยา พุทธศกั ราช ๒๕๖๔
…………………………………….
ตามทส่ี านักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน มีนโยบายให๎สถานศึกษาจัดทา
ธรรมนูญโรงเรียนเพ่ือรวบรวมระเบียบ ข๎อกาหนด รวมท้ังแนวปฏิบัติของสถานศึกษาไว๎ให๎
เป็นเครอ่ื งมอื ในการสรา๎ งความเขา๎ ใจกบั บุคคลที่เก่ียวข๎องสามารถปฏิบัติตนได๎อยํางถูกต๎อง
และเหมาะสมกับระเบียบปฏิบัติ วัฒนธรรมประเพณีและขนบธรรมเนียมอันดีงามของ
สถานศึกษาแตํละแหํงเป็นสาคัญ ในการน้ี โรงเรียนได๎ดาเนินการจัดทาธรรมนูญโรงเรียน
ให๎เปน็ ไปตามเจตนารมณ์และนโยบายดังกลําวแล๎ว
โรงเรียนหนองพระพิทยา โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้น
พ้ืนฐานโรงเรียนหนองพระพิทยา ตามมติการประชุมคร้ังท่ี 2/2564 เม่ือวันท่ี 12
กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ ให๎โรงเรียนประกาศใช๎ธรรมนูญโรงเรียนหนองพระพิทยา
พทุ ธศักราช ๒๕๖๔ ต้งั แตปํ กี ารศกึ ษา ๒๕๖๔ เปน็ ต๎นไป
ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๔
(นายนคเรศ นิลวงศ์)
ผอู๎ านวยการโรงเรียนหนองพระพทิ ยา
ค
คานา
โรงเรียนหนองพระพิทยา มีประวัติศาสตร์ด๎านการจัดการศึกษามาจนถึงปัจจุบันเป็นเวลา
๔๓ ปี โรงเรียนมีความประสงค์ท่ีจะรวบรวมประวัติการจัดต้ังโรงเรียนหนองพระพิทยา รวมทั้งความ
มํุงหมาย หลักเกณฑ์ระเบียบ และแนวทางในการบริหารจัดการโรงเรียนให๎สอดคล๎องกับบริบทความ
เป็นโรงเรียนประจาตาบลหนองพระ และเหมาะสมกับการเป็นโรงเรียนที่มํุงมั่นพัฒนานักเรียนให๎เป็น
คนดีมคี ณุ ธรรมจริยธรรมมีวินัย มีความรู๎ความสามารถ มีความรักสามัคคีในหมูํคณะ ร๎ูจักการเสียสละ
ประโยชน์สํวนตนเพื่อสํวนรวม มีความพอเพียง มีความกตัญญูกตเวที จงรักภักดีตํอชาติศาสนา
พระมหากษัตริย์ เป็นพลเมืองท่ีดีของสังคมท้ังในปัจจุบันและอนาคตพร๎อมชํวยกันพัฒนาชาติ
บ๎านเมอื งใหเ๎ จริญรงุํ เรืองมนั่ คงตอํ ไป จงึ จัดทา “ธรรมนูญโรงเรยี นหนองพระพิทยา” ฉบับน้ีข้ึนเพื่อให๎
โรงเรียนใช๎เป็นคูํมือและแนวทางการบริหารจัดการภารกิจของโรงเรียนให๎บรรลุตามวัตถุประสงค์
เพอ่ื ให๎โรงเรียนใหม๎ คี วามเจรญิ มัน่ คงสถาพรสบื ไป
อน่ึงธรรมนูญโรงเรียนน้ีได๎จัดทาข้ึนเป็นครั้งแรกซึ่งอาจมีการแก๎ไขเพ่ิมเติมได๎ในอนาคต
เพ่อื ให๎เกิดความสอดคลอ๎ งกับบรบิ ทของสงั คม ประเทศชาตแิ ละประโยชนข์ องโรงเรยี นเปน็ สาคญั
โรงเรียนขอขอบคุณทุกทํานท่ีมีสํวนเก่ียวข๎องในการรํางธรรมนูญโรงเรียนนี้ให๎สาเร็จตาม
ความมํุงหมาย เพ่ือนาไปใช๎ให๎เกิดประโยชน์และความเจริญรํุงเรืองมั่นคงสถาพรของโรงเรียนหนอง
พระพทิ ยาตลอดไป
โรงเรียนหนองพระพิทยา
ง ค
ง
สารบัญ 1
๑๑
คานา ๑๑
สารบัญ ๑๒
ขอ้ มูลทั่วไปโรงเรยี นหนองพระพิทยา ๑๓
หมวดท่ี 1 บททว่ั ไป ๑๘
หมวดท่ี 2 นโยบายโรงเรยี น ๒๖
หมวดที่ 3 รปู แบบการจัดการศึกษา ๒๗
หมวดที่ 4 ครู และบุคลากรทางการศึกษา ๒๘
หมวดที่ 5 นกั เรยี น
หมวดท่ี 6 คณะกรรมการสถานศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน
หมวดที่ 7 วฒั นธรรมโรงเรียนหนองพระพิทยา
หมวดท่ี 8 การประกาศใช๎ธรรมนูญโรงเรียน
ข้อมูลท่ัวไปโรงเรียนหนองพระพทิ ยา
สภาพทว่ั ไปของโรงเรยี นหนองพระพิทยา
โรงเรียนหนองพระพิทยา สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษาพิษณุโลก อุตรดิตถ์
สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร เปิดสอนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่
1 ถึงระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 6 เขตพ้ืนท่ีบริการของโรงเรียนได๎แกํ ตาบลหนองพระ, ตาบลพันชาลี,
ตาบลทาํ หม่ืนราม และตาบลแมํระกา โทรศัพท์ 06-3128-2555
อีเมล [email protected] เวบ็ ไซต์โรงเรียน www.nongpra.ac.th
ประวัติโดยย่อของโรงเรยี นหนองพระพิทยา
โรงเรียนหนองพระพิทยา เดิมเป็นโรงเรียนมัธยมประจาตาบล สังกัดกรมสามัญศึกษา
กระทรวงศกึ ษาธิการ ประกาศจัดต้ังเม่ือวันท่ี 25 เมษายน พ.ศ. 2521 โดยการนาของนายบุญสํง
สุขตะ กานนั ตาบลหนองพระในสมัยน้ัน และได๎รับบริจาคที่ดินเพื่อเป็นสถานท่ีต้ังโรงเรียน รวมเน้ือท่ี
ทั้งหมด 38 ไรํ 3 งาน 50.6 ตารางวา
ทต่ี ้งั ของโรงเรยี นหนองพระพทิ ยา
โรงเรียนหนองพระพิทยา ต้ังอยํูริมทางหลวงหมายเลข 11 ถนนสายวังทอง - เขาทราย –
สากเหล็ก บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 16 หมูํท่ี 6 บ๎านหนองโพธิ์ทะเล ตาบลหนองพระ อาเภอวังทอง
จงั หวัดพิษณุโลก 65130 มีเนื้อที่ดงั น้ี
แปลงที่ ๑ มีทต่ี ง้ั เป็นอาคารเรียน อาคารฝึกงาน หอประชุม สนามฟุตบอล และสนามฟุตซอล
เป็นท่ีดินท่ีได๎รับบริจาคจากนางสายบัว นายประสิทธ์ิ พงษ์พันธ์ จานวน ๓2 ไรํ, นายบุญเกิด หอม
จําย จานวน 2 ไรํ, นางเม้ียน ดอนบุญมา จานวน ๒ งาน, นายเริ่ม หอมอํอน จานวน ๑ งาน, นาย
ลอ๎ ม หอมอํอน จานวน ๑ งาน รวม ๓๕ ไรํ หลักฐานทะเบียนทร่ี าชพัสดุ แปลงหมายเลขที่ พล.339
แปลงท่ี ๒ เป็นที่ดินท่ีได๎รับบริจาคจากนายพํวงนางเมี้ยน ดอนบุญมา จานวน 3 ไรํ 3 งาน
50.6 ตารางวา หลักฐานทด่ี ินเลขท่ี (โฉนด) ๕๓๒๗ ทะเบียนท่ีราชพัสดุ แปลงหมายเลขที่ พล.506
อยํตู ิดกับแปลงท่ี ๑
สัญลักษณ์ของโรงเรียนหนองพระพิทยา เปน็ รูปพระพิรุณเหยียบเมฆ
2
สีประจาโรงเรียนหนองพระพทิ ยา
ฟูา – ขาว
ฟาู หมายถึง มคี วามรกู๎ วา๎ งไกล
ขาว หมายถงึ คณุ ธรรมจรยิ ธรรม
ปรชั ญา ของโรงเรยี นหนองพระพิทยา
ความรู๎เกิดจากการศึกษา ปญั ญาเกิดจากประสบการณ์
คตพิ จน์ ของโรงเรยี นหนองพระพิทยา
“สุขา สงั ฆัสสะ สามัคคี” แปลวาํ ความสามคั คีของหมูํคณะนาสุขมาให๎
อัตลกั ษณ์ ของนักเรียนโรงเรยี นหนองพระพิทยา
นักเรียนโรงเรียนหนองพระพิทยา “มคี วามพอเพยี ง”
เอกลักษณ์ ของโรงเรยี นหนองพระพิทยา
องค์กรพอเพียงที่ทนั สมัย พร๎อมใหบ๎ ริการดว๎ ยวถิ ใี หมํ วิถีคุณภาพ
วิสัยทัศน์
โรงเรียนดใี กล๎บา๎ นที่ทันสมัย เสริมสรา๎ งทกั ษะเด็กไทยสมูํ าตรฐานระดับสากลบนพ้ืนฐาน
ความเป็นไทย
บทเพลงและทานองมารช์ โรงเรียนหนองพระพิทยา
เนือ้ ร๎อง และทานอง : ชชั วาล แกว๎ กล๎า
------------------------------------------------------------
ธงสฟี ูาขาวเดํนสกาวเล่อื งลอื ไปไกล ไมํวาํ ท่ีไหนสะบดั ไกวดูงามสงํา
ธงสีฟูาขาวของเราในทอ๎ งนภา ดูเป็นสงําสมนามวาํ หนองพระพทิ ยา
ความสามคั คีกลมเกลยี วเป็นเกลยี วเชดิ ชู เพื่อให๎ ใครใครร๎ชู วนดูเราทุกๆสิง่
มาสมคั รสมานสามคั คีเหมอื นดังสายพณิ รักสแี ละถนิ่ สถาบนั อนั สงาํ งาม
*การเรยี นและกีฬาเรากา๎ วหน๎าไมํแพใ๎ ครใคร เราภาคภูมใิ จแมผ๎ ูใ๎ ดจะมาชิงเดํนเปน็ ตอ๎ งแพ๎เรา
**โรงเรยี นหนองพระพิทยาวชิ ากา๎ วไกล มุํงใฝคุ วามรู๎กตัญญูเชดิ ชคู ุณธรรม
โรงเรยี นหนองพระพิทยาวิชากา๎ วล้า พวกเราจงนาความภมู ิใจให๎แกํ น.พ.
* , **
3
ข้อมูลพ้นื ฐานของโรงเรยี นหนองพระพิทยา (ข้อมลู ปีการศึกษา 2564)
ท่ี อาคาร แบบ จานวน ปีที่สร้าง งบประมาณ หมาย
(หลงั ) พ.ศ. (บาท) เหตุ
11 216ค. (6 หอ๎ งเรียน) 1 2524 1,200,000
2,374,200
2 2 CS213A (11 ห๎องเรยี น) 1 2528 8,383,800
3 3 216ล./กรมสามัญศึกษา 1 2539 - 3,500,000
556,300
(16 หอ๎ งเรียน) 2540 556,300
112,000
4 หอประชุม 100/27 1 2543 175,000
218,000
5 โรงฝึกงาน คหกรรมศิลป์ 1 2528 395,000
356,000
6 โรงฝกึ งาน อุตสาหกรรมศิลป์ 1 2528 49,000
70,000
7 บา๎ นพักครู 202ก. 1 2523 150,000
8 บา๎ นพักครู 202ก./กรมสามญั 1 2524
9 บา๎ นพกั ครู 202ก./กรมสามัญ 1 2526
10 บา๎ นพักครู 204(แฝด)/กรมสามัญ 1 2527
11 บา๎ นพักครู 203/27 1 2534
12 ส๎วมนักเรียน กรมสามัญ (6 ทีน่ งั่ ) 1 2521
๑๓ ส๎วมนักเรียน กรมสามัญ (6 ทน่ี งั่ ) 1 2525
14 ส๎วมนักเรยี น ค.ส.ล. (6 ทนี่ ่งั ) 1 2553
ทาเนียบผบู้ รหิ ารโรงเรยี นหนองพระพทิ ยา
ลาดบั ที่ ชือ่ – สกลุ ปที ี่ พ.ศ. ทด่ี ารงตาแหน่ง
1 นายสมพร ขุนพลิ ึก 2521 – 2522
2 2522 – 2533
3 นายบญุ ชู ทองมี 2533 – 2537
4 2538 – 2545
5 นายธรรมนญู คงระเรื่อย 2546 – 2552
6 2553 – 2559
7 นายสมพงษ์ พงษ์ชยั สิทธ์ิ 2559 – 2562
8 2563 – ปจั จุบนั
นายวันชยั เชียงแสน
นายประชมุ ปิน่ สกุล
นายธนู เมฆี
นายนคเรศ นิลวงศ์
4
โครงสรา้ งการบรหิ ารงานโรงเรียนหนองพระพทิ ยา
ผู้อานวยการโรงเรียน คณะกรรมการสถานศกึ ษา
รองผู้อานวยการโรงเรยี น โรงเรยี นหนองพระพทิ ยา
ผู้ช่วยผูอ้ านวยการโรงเรียน
ฝ่ายบริหารงาน ฝา่ ยบริหารงาน ฝา่ ยบริหารงานแผน ฝ่ายบริหาร ฝ่ายบริหารงานกจิ การ
วิชาการ บุคคล งานและงบประมาณ งานท่ัวไป นักเรียน
1. งานสารบรรณและ 1. งานสารบรรณฝุายฯ 1. งานสารบรรณและ 1. งานสารบรรณและ 1. งานกจิ การนักเรยี น
สารสนเทศฝุายฯ 2. งานบคุ คล สารสนเทศฝาุ ยฯ ธุรการโรงเรียน 2. งานสํงเสรมิ
3. งานคณะกรรมการ
2. งานหลักสูตร 2. งานนโยบายและ 2. งานอาคารสถานทแ่ี ละ ประชาธปิ ไตย
3. งานนิเทศกากับติดตาม สถานศกึ ษา แผนงาน สงิ่ แวดลอ๎ ม 3. งานระบบดแู ล
4. งานเลขานกุ าร
การจดั การเรยี นการสอน 3. งานการเงนิ 3. งานโสตทัศนปู กรณ์ ชวํ ยเหลอื นกั เรยี น
4. งานกิจกรรมพัฒนา 4. งานบัญชี 4. งานเวรประจาวันและ
5. งานพัสดุและ
ผเ๎ู รยี น (ในหลักสูตร) เวรรกั ษาความปลดภยั
5. งานทะเบียนนักเรยี น สนิ ทรพั ย์ 5. งานอนามัยและ
6. งานวัดผล ประเมนิ ผล 6. งานควบคมุ ภายใน
7. งานพัฒนาสอื่ นวัตกรรม 7. งานกิจการรา๎ นคา๎ โภชนาการ
6. งานประชาสัมพันธ์
และงานวจิ ัย และร๎านอาหารใน 7. งานสงํ เสริมคณุ ธรรม
8. งานสารสนเทศและ ICT โรงเรียน
9. งานประกันคณุ ภาพ 8. งานระดมทรัพยากร จริยธรรม
8. งานกจิ กรรมนอก
การศกึ ษา
10. งานแนะแนว หลกั สูตร
11. งานพฒั นาแหลํงเรียนร๎ู 9. งานสวสั ดิการครู
10. งานยานพาหนะ
และภมู ปิ ญั ญา
12. งานห๎องสมดุ โรงเรยี น
13. งานหวั หนา๎ กลุํมสาระ 11. งานสมั พนั ธช์ ุมชน
การเรียนรู๎
5
เกียรตปิ ระวตั ิโรงเรยี นหนองพระพทิ ยา
ปีการศึกษา 256๐
๑. รางวลั เสมา ป.ป.ส. ประเภทผลงานดเี ดํน ระดับทอง โครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยา
เสพตดิ และอบายมุข ปีการศกึ ษา 2560 จากกระทรวงศกึ ษาธกิ าร
ปกี ารศึกษา 2561
๑. สถานศึกษาแบบอยํางในการจัดกระบวนการเรียนร๎ูเพ่ือพัฒนาคุณภาพการศึกษาสํู
Thailand 4.0 ตามโครงการพฒั นาระบบบรหิ ารจัดการและสํงเสรมิ การมสี วํ นรวํ มในการจัดการศึกษา
จาก สพม. 39
๒. รางวัลสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข ประเภทผลงานดีเดํน ระดับเพชร
ประจาปีการศกึ ษา 2561 จากกระทรวงศึกษาธกิ าร
ปกี ารศึกษา 2562
๑. รางวัลระดับคุณภาพดีเย่ียม โครงการห๎องเรียนนําอยูํ การเรียนรู๎ก๎าวไกลปีการศึกษา
2562 จาก สพม. 39
ปีการศึกษา 2563
๑. สถานศึกษาคุณภาพยอดเยี่ยม กิจกรรมห๎องเรียนนําอยูํ การเรียนรู๎ก๎าวไกลวิถีใหมํ New
Normal “โรงเรียนสุขภาพดี นักเรียนมีความสุข” (Back to Healthy School) ปีการศึกษา 2563
จาก สพม. 39
๒. โรงเรียนแกนนาโครงการสร๎างจิตสานึกและความรู๎ในการผลิตและบริโภคที่เป็นมิตรกับ
สง่ิ แวดลอ๎ ม ประจาปี 2563 ประเภทโรงเรยี นขนาดเลก็ จาก สพม. 39
3. รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 การประกวดผลงานการปฏิบัติท่ีเป็นเลิศ (Best Practice)
ตามโครงการสร๎างจิตสานึกและความร๎ูในการผลิตและบริโภคท่ีเป็นมิตรกับส่ิงแวดล๎อม ประจาปี
2563 ประเภทโรงเรียนขนาดเล็ก จาก สพม. 39
4. โรงเรียนคุณธรรม สพฐ. ระดบั ๑ ดาว ตามโครงการสร๎างความเขม๎ แขง็ เครือขํางโรงเรียนดี
มีทีย่ ืน จาก สพม. 39
5. โรงเรยี นคณุ ธรรม สพฐ. ระดับ ๒ ดาว ตามโครงการสร๎างความเข๎มแข็งเครือขํายโรงเรียน
ดีมที ่ยี ืน จาก สพม. 39
6
แผนผงั โรงเรยี น แสดงทตี่ ้งั อาคารเรียนและอาคารประกอบ พ.ศ. 2564
บรบิ ทของโรงเรียนหนองพระพิทยา
๑. จดุ แขง็ (Strengths)
ดา้ นยทุ ธศาสตร์ (Strategy)
๑.๑ สถานศกึ ษามีการกาหนดวสิ ัยทัศน์ พันธกจิ เปาู หมาย และกลยทุ ธท์ ช่ี ดั เจน สอดคล๎อง
กับนโยบาย แนวทางของสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และสพม.
๑.๒ ไดร๎ ับความรวํ มมือจากภาคเี ครอื ขําย
ดา้ นโครงสรา้ งองค์การบริหารงานของสถานศึกษา (Structure)
๑.๓ สถานศึกษามโี ครงสรา๎ งการบริหารงานชดั เจน
ดา้ นระบบองคก์ าร (System)
๑.๔ สถานศกึ ษามีกฎระเบยี บ และหลกั เกณฑใ์ นการปฎิบตั ิงานท่ีชดั เจน
๑.๕ โรงเรยี นนาระบบ ICT มาใช๎ในการปฎิบตั งิ านและการตดิ ตํอสื่อสารทางออนไลน์
ด้านทกั ษะของบคุ ลากร (Skill)
๑.๖ บุคลากรมีทกั ษะและประสบการณ์ในการจดั กิจกรรมการเรยี นรู๎ และบริหารจัดการชัน้
เรยี น
๑.๗ บุคลากรมีการพัฒนาตนเองในรูปแบบท่ีหลากหลาย (การอบรม การศึกษาดูงาน การ
แลกเปลี่ยนเรียนร๎ู เปน็ ต๎น)
ด้านคณุ คา่ ร่วมในองคก์ าร (Shared Values)
๑.๘ ครมู ีจติ สานึกในความเป็นครู
๑.๙ ครแู ละบุคลากรมีความรักในองค์กร รวํ มมือพฒั นาโรงเรียนอยํางเตม็ ศกั ยภาพ
๑.๑๐ ครมู ีสมั พันธภาพท่ดี ี และมสี วํ นรวํ มสํงเสรมิ สนับสนุนกจิ กรรมตํางๆ ของชุมชน
7
ดา้ นบุคลากร (Staff)
๑.๑๑ มกี ารทางานเป็นทีม ชวํ ยเหลอื ซง่ึ กันและกนั
๑.๑๒ มีความมํุงมัน่ ทางานด๎วยความรับผดิ ชอบอยํางเตม็ ความสามารถ
ด้านรปู แบบการนาองคก์ าร (Style)
๑.๑๓ ผ๎ูบรหิ ารเปน็ ผน๎ู าในการทางาน เป็นแบบอยาํ งท่ีดี
๑.๑๔ ผบู๎ ริหารมอบหมายงานบุคลากรตรงตามความถนัดและสนใจ
๑.๑๕ ผ๎ูบริหารมคี ณุ ธรรมจรยิ ธรรมและใช๎หลักธรรมาภิบาลในการบรหิ ารงาน
๒. จุดออ่ น (Weaknesses)
ดา้ นยุทธศาสตร์ (Strategy)
๒.๑ ขาดการกากับติดตามอยํางตอํ เนื่อง
ดา้ นโครงสรา้ งองค์การบริหารงานของสถานศึกษา (Structure)
๒.๒ ครูรับผดิ ชอบงานหลายหน๎าทท่ี าให๎ขาดความชดั เจนและประสทิ ธิภาพ
๒.๓ ครูบางสํวนปฏิบัตงิ านไมํเตม็ ท่ี
๒.๔ ขาดการนิเทศตดิ ตามอยํางตอํ เนื่อง
ด้านระบบองคก์ าร (System)
๒.๕ ขาดการนาระเบียบไปใช๎อยํางเตม็ รปู แบบ
๒.๖ การใชร๎ ะบบ ICT ยังไมํเต็มศักยภาพครอบคลุมทุกกลุํมบรหิ ารงาน
๒.๗ อปุ กรณ์ดา๎ น ICT ไมํเพียงพอกับครูและนักเรียน
๒.๘ โรงเรียนมภี าระด๎าน IT เพอื่ การจัดการเรยี นการสอนสูงมาก
ด้านทกั ษะของบคุ ลากร (Skill)
๒.๙ ครแู ละบุคลากรบางสวํ นขาดความรู๎ความชานาญด๎าน ICT
๒.๑๐ ครูบางสํวนขาดทกั ษะภาษาอังกฤษเพ่ือการสื่อสาร
๒.๑๑ ครบู างสวํ นยังใช๎วธิ กี ารสอนแบบเดมิ ๆ
๒.๑๒ ครบู างสวํ นขาดความรค๎ู วามเขา๎ ใจในการทาวิจัยชน้ั เรียน
ดา้ นคุณคา่ ร่วมในองค์การ (Shared Values)
๒.๑๓ ครูบางสวํ นปฏบิ ัติหนา๎ ทไ่ี มํเตม็ ศักยภาพเนือ่ งจากขาดความร๎คู วามสามารถเฉพาะทาง
ด้านบุคลากร (Staff)
๒.๑๔ ครมู นี อ๎ ย ทาใหต๎ ๎องรับผดิ ชอบงานหลายด๎าน
๒.๑๕ ครูบางสํวนปฏบิ ตั ิหน๎าท่ีไมเํ ต็มศักยภาพทีไ่ ดร๎ ับมอบหมาย
ด้านรูปแบบการนาองค์การ (Style)
๒.๑๖ งบประมาณในการบริหารงานไมเํ พียงพอ
๒.๑๗ ขาดการกากับ ตดิ ตาม และประสานงานอยาํ งตํอเน่อื ง
8
๓. โอกาส (Opportunities)
ดา้ นลูกคา้ (ผรู้ ับบริการ) (Customer)
๓.๑ ผปู๎ กครองใหค๎ วามสาคญั และรํวมมือกบั ทางโรงเรยี นเป็นอยํางดี
๓.๒ นักเรยี นในเขตบริการมีความตอ๎ งการศึกษาตอํ
ดา้ นสถานการณท์ างการเมือง (Political)
๓.๓ กระทรวงมนี โยบายยกระดับมาตรฐานการจดั การศึกษาของโรงเรยี น
๓.๔ เขตพ้ืนทก่ี ารศึกษากากับ ดแู ลติดตาม ประสานงาน ให๎ความชวํ ยเหลืออยํางใกลช๎ ิด
๓.๕ องคก์ ารบริหารสวํ นท๎องถ่ินสนบั สนุนอยาํ งดี
ด้านสภาพเศรษฐกจิ (Economic)
๓.๖ โรงเรยี นไดร๎ บั การสนับสนุนจากชมุ ชน องค์กร และหนํวยงานอ่ืน
ด้านสภาพแวดลอ้ ม (Environment)
๓.๗ ชมุ ชนมคี วามรักสามคั คี
๓.๘ ชุมชนมีการอนรุ ักษ์ศลิ ปวัฒนธรรมและประเพณีท๎องถิ่น
๓.๙ มภี มู ิปญั ญาท๎องถนิ่ และแหลํงเรียนร๎ทู ห่ี ลากหลาย
ดา้ นสภาพสังคม (Social)
๓.๑๐ สภาพสังคมอยํูอยาํ งสงบสขุ ชวํ ยเหลอื เก้ือกลู กัน
๓.๑๑ ผนู๎ าชุมชนเหน็ ความสาคญั ของการศึกษา
๓.๑๒ ผป๎ู กครองรวํ มมอื กบั ทางโรงเรียนดูแลนักเรียนอยํางใกลช๎ ดิ
ดา้ นเทคโนโลยี (Technological)
๓.๑๓ รัฐบาล กระทรวง ให๎ความสาคัญตํอการนาเทคโนโลยีมาใช๎ในการจัดการศึกษา
๓.๑๔ โรงเรยี นได๎รบั การสนบั สนุนอุปกรณค์ อมพวิ เตอร์จากชมุ ชน ชมรมศิษยเ์ กาํ
องคก์ ารบริหารสํวนท๎องถิ่น และหนวํ ยงานตํางๆ
๔. อปุ สรรค (Threats)
ดา้ นลกู คา้ (ผู้รับบรกิ าร) (Customer)
๔.๑ ผู๎ปกครองมคี ํานยิ มในการสงํ บตุ รหลานเขา๎ เรียนในเมือง
๔.๒ นกั เรยี นในเขตบรกิ ารมจี านวนนอ๎ ย
ดา้ นสถานการณ์ทางการเมือง (Political)
๔.๓ มกี ารเปล่ยี นแนวนโยบายบอํ ย เน่ืองจากการเปลย่ี นรัฐบาลหรือผบู๎ รหิ าร
๔.๔ นโยบายการจดั สรรงบประมาณไมเํ หมาะสม เชํน งบประมาณเก่ยี วกบั ทวิศกึ ษาควร
จดั เปน็ งบอุดหนุนเพ่ิมเติม
ด้านสภาพเศรษฐกิจ (Economic)
๔.๕ ผ๎ูปกครองสํวนใหญมํ อี าชพี รับจ๎าง ฐานะยากจน รายได๎ไมแํ นํนอน
ดา้ นสภาพแวดล้อม (Environment)
๔.๖ มีสิง่ แวดลอ๎ มที่เปน็ สอื่ ยว่ั ยุ เชํน รา๎ นเกมส์ รา๎ นอินเทอร์เนต็ สํงผลกระทบตํอคุณภาพการ
เรยี นร๎ขู องนักเรียน และมีความเสยี่ งตํอการดารงชีวติ
9
๔.๗ มีการใช๎สารเคมที างการเกษตรและโรงงานอตุ สาหกรรมสงํ ผลกระทบตํอสขุ ภาพของ
นกั เรยี น
๔.๘ บา๎ นพกั ของนกั เรียนอยหูํ ํางไกลจากโรงเรียน การคมนาคมไมสํ ะดวก และไมํมรี ถโดยสาร
ประจาทาง
ดา้ นสภาพสังคม (Social)
๔.๙ ปัญหาการหยําร๎างของผปู๎ กครอง
๔.๑๐ ผปู๎ กครองสวํ นใหญํไมํมเี วลาดูแลบตุ รหลานเทาํ ท่ีควร เนือ่ งจากต๎องไปทางานตาํ งถิน่
นักเรียนสํวนใหญอํ ยูํกบั ผูส๎ ูงอายุ มคี วามแตกตํางระหวํางวยั เกดิ ความไมเํ ข๎าใจซ่งึ กันและกนั
๔.๑๑ ผป๎ู กครองขาดความร๎คู วามเขา๎ ใจเกยี่ วกบั แนวทางทางในการศึกษาตอํ
ดา้ นเทคโนโลยี (Technological)
๔.๑๒ ส่ืออปุ กรณ์ที่ได๎รบั ไมเํ พียงพอกบั จานวนนักเรียน
๔.๑๓ สือ่ อปุ กรณท์ ่ีมีอยํู เกํา ใช๎งานมานานไมสํ ามารถใช๎งานได๎เตม็ ประสทิ ธิภาพ
๔.๑๔ ระบบส่ือสารทางอินเทอรเ์ นต็ ยงั ไมมํ คี วามพร๎อม ใช๎งานได๎ไมสํ มบูรณ์
๔.๑๕ โรงเรยี นต๎องรับภาระคาํ ใช๎จาํ ยสงู เก่ยี วกบั การบริการอนิ เทอร์เน็ต
รูปแบบการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนหนองพระพทิ ยา
ปัจจยั นาเข้า (Input) : 4M (บคุ ลากร)
M1 - Man (งบประมาณ)
M2 - Money (ส่อื วสั ดุ หลกั สตู ร แหลํงเรยี นรู๎ อาคารสถานท่ี)
M3 - Material (การบรหิ ารจดั การและนโยบายของกระทรวง, สพฐ., สพม.พลอต
M4 - Management และโรงเรยี น)
10
กระบวนการ (Process) : NONGPRA PLUS
N - Not Greedy (ยึดหลกั คดิ เศรษฐกิจพอเพยี ง)
O - Opportunity (กระจายความเทย่ี ง ความเสมอภาคถว๎ นถิ่นฐาน)
N - Negotiation (รํวมประสาน สมคั รสมานสามัคคี)
G - Growth (สรา๎ งสรรคม์ ี นวตั กรรมนากา๎ วไกล)
P - Precept (ปกติวสิ ยั ด๎วยศลี ดี มีประกอบ)
R - Rational (ร๎ผู ดิ ชอบช่วั ดี มเี หตผุ ล)
A - Are Immune (ไตรํตรองตน เตรยี มพรอ๎ มพลันทนั ยุคการณ์)
P - Participation (หลกั บรหิ าร การจัดการแบบมีสวํ นรวํ ม)
L - Leader Change (สวมบทบาท ผนู๎ าการเปล่ยี นแปลง)
U - Use IT (รท๎ู นั แหลํง เทคโนโลยีวิถใี หมํ)
S - Start Project (เด็กคิดไกล ตอํ ยอดสง่ิ ใหมํสูํอนาคตสดใส)
ผลผลิต/ผลลัพธ์ (Output) : 4M
M1 - Modern Students (นกั เรยี นยุคใหมํเรียนร๎ูวิชาการ วิชาชีพ วชิ าชวี ติ )
M2 - Modern Teachers (ครจู ัดการเรยี นการสอนวิถีใหมํ)
M3 - Modern Management (นวัตกรรมการบรหิ ารทันสมัย)
M4 - Modern Stakeholders (ใสใํ จประสทิ ธิภาพ)
11
หมวดที่ 1
บททั่วไป
มาตรา 1 นิยามศพั ท์
1. “โรงเรียน” หมายถึง โรงเรียนหนองพระพิทยา สังกัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา
มัธยมศกึ ษาพษิ ณุโลก อุตรดิตถ์ สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร
๒. “ครู” หมายถึง ครู และบุคลากรทางการศึกษาท่ีปฏิบัติการสอนของโรงเรียนหนองพระ
พทิ ยา
๓. “นกั เรียน” หมายถงึ นักเรียนปจั จบุ ันของโรงเรียนหนองพระพทิ ยา
๔. “คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพ้ืนฐาน” หมายถึง คณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพื้นฐาน
ของโรงเรียนหนองพระพทิ ยา
๕. “ธรรมนูญโรงเรียน” หมายถึง เอกสารหลักฐาน เป็นข๎อกาหนดท่ีกาหนดขึ้นของโรงเรียน
หนองพระพิทยา โดยความเห็นชอบคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐานโรงเรียนหนองพระพิทยา มี
บุคคลท่ีเป็นผู๎แทนที่เก่ียวข๎องเป็นคณะกรรมการดาเนินการจัดทา ได๎แกํ ผ๎ูบริหารโรงเรียน ครู
คณะกรรมการสถานศึกษา ผู๎ทรงคุณวุฒิ เครือขํายผู๎ปกครอง ศิษย์เกํา และนักเรียน เพื่อให๎โรงเรียน
นาไปใชเ๎ ปน็ กรอบในการบริหารภารกจิ ใหเ๎ กดิ ประสิทธิภาพ และมีประสทิ ธิผลเปน็ ไปตามจุดประสงค์ของ
โรงเรียน
๖. ธรรมนญู โรงเรยี นใหม๎ ีผลตง้ั แตวํ ันท่โี รงเรียนประกาศใช๎เปน็ ตน๎ ไป
มาตรา ๒ ธรรมนูญโรงเรียนหนองพระพิทยา พุทธศักราช ๒๕๖๔ มีเจตนาเพื่อรวบรวมระเบียบ
ขอ๎ บงั คบั นโยบาย หรอื แนวปฏิบัติที่เป็นวัฒนธรรมขององค์กร หากมีมาตราใดหรือข๎อความใดขัดกับ
ข๎อกฎหมายท่ที างราชการกาหนด ใหถ๎ ือปฏิบัตติ ามขอ๎ กฎหมายนั้น ๆ เป็นสาคัญ
หมวดท่ี 2
นโยบายโรงเรียน
มาตรา ๓ วตั ถปุ ระสงค์ของโรงเรียน
1. เพอื่ พัฒนาคุณภาพผเ๎ู รียนตามมาตรฐานการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน
2. เพอ่ื พัฒนาครูและบุคลากรทางการศกึ ษาเข๎าสมํู าตรฐานวชิ าชีพ
3. เพอื่ พัฒนาระบบการบรหิ ารจัดการศึกษาด๎วยวิถใี หมํ วิถีคณุ ภาพอยํางมีประสิทธภิ าพ
มาตรา ๔ โรงเรียนกาหนดเปูาหมายให๎นักเรียนได๎รับการพัฒนาศักยภาพทางด๎านความรู๎
ความสามารถอยํางสูงสุดตามมาตรฐานของโรงเรยี น ดงั ตอํ ไปน้ี
๑. สถานศึกษาพอเพียงต๎นแบบ
๒. สถานศกึ ษาสขี าว ปลอดยาเสพติดและอบายมขุ
๓. โรงเรียนคณุ ธรรม
12
มาตรา ๕ โรงเรียนกาหนดแนวทางเพ่ือยกระดบั คุณภาพการศกึ ษา ท้งั ดา๎ นผเู๎ รยี น ดา๎ นกระบวนการ
บริหารและการจัดการ และด๎านกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เนน๎ ผเ๎ู รยี นเปน็ สาคัญ เพือ่ ความ
เปน็ เลิศและมาตรฐานสากลโดยมีกลยทุ ธ์ ดังน้ี
กลยุทธท์ ่ี ๑ พฒั นาคณุ ภาพผู๎เรียนตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน
กลยุทธท์ ่ี ๒ สงํ เสริมใหผ๎ ู๎เรียนมีคุณธรรม จรยิ ธรรม คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ สามารถ
ดารงตนอยํูบนพน้ื ฐานความเป็นไทยตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
กลยุทธ์ที่ ๓ พฒั นาครแู ละบุคลากรทางการศึกษาตามมาตรฐานวิชาชีพ
กลยทุ ธ์ที่ ๔ สํงเสรมิ กระบวนการจัดการเรยี นการสอนที่เน๎นผูเ๎ รียนเปน็ สาคญั
กลยุทธ์ท่ี ๕ พฒั นาระบบบริหารการจดั การแบบมีสวํ นรวํ มดว๎ ยนวตั กรรมและเทคโนโลยี
อยํางมีประสิทธภิ าพ
กลยุทธท์ ี่ ๖ เสรมิ สรา๎ งสภาพแวดลอ๎ มทางกายภาพและสงั คมทีเ่ อื้อตํอการจดั การเรียนรู๎
มาตรา ๖ โรงเรียนจัดกิจกรรมบริการทางวิชาการเพ่ือสํงเสริมคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนและ
สังคม โดยการจัดใหม๎ กี ารเปิดบ๎าน (Open House) “มหกรรมวิชาการประจาปี”
หมวดท่ี 3
รูปแบบการจัดการศกึ ษา
มาตรา ๗ โรงเรียนมีรูปแบบการจัดการศึกษาเพื่อมํุงพัฒนานักเรียนให๎มีสมรรถนะอันประกอบด๎วย
ความร๎ู ทักษะในศตวรรษท่ี 21 และเจตคติทดี่ ี ให๎สูงขึ้นกํอนการพัฒนา เกิดเป็นสมรรถนะประจาของ
นักเรียนแตํละคนทีส่ งํ ผลตํอคุณภาพชีวิตที่ดี ปรับตัวให๎เข๎ากับสภาวการณ์ท่ีเปล่ียนแปลงไปของโลกได๎
อยาํ งสมบรู ณ์แบบ
มาตรา ๘ โรงเรียนจัดการจัดการศึกษาสาหรับนักเรียน ต้ังแตํระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึง
มัธยมศึกษาปีที่ 6 การจัดแผนการเรียนในแตํละระดับชั้น เป็นไปตามหลักสูตรสถานศึกษาโดยอิง
หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 และปรับปรุงพุทธศักราช 2560 จานวน
นกั เรยี นตอํ หอ๎ งเป็นไปตามกฎกระทรวงศกึ ษาธิการ
มาตรา ๙ หลักสูตรสถานศึกษา
โรงเรียนจัดการบริหารหลักสูตรอิงหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช
2551 และปรับปรุงพุทธศักราช 2560 ดาการจัดการเรียนรู๎อยํางเน๎นให๎เกิดประสิทธิผลและ
ประสิทธิภาพสูงสุดตามวัตถุประสงค์การจัดการศึกษาของโรงเรียน เพ่ือให๎นักเรียนได๎รับการพัฒนา
สมรรถนะอันประกอบด๎วย ความรู๎ ทักษะในศตวรรษท่ี 21 และเจตคติที่ดี ให๎สูงข้ึน โดยหลักสูตร
สถานศึกษา มีองคป์ ระกอบดังนี้
1. หลกั สตู รกลมุํ สาระการเรยี นร๎ู ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน
2. หลักสตู รรายวชิ าเพม่ิ เตมิ (ทอ๎ งถ่นิ ) ใหเ๎ ปน็ ไปตามเปูาหมายของโรงเรยี นกาหนด
13
3. กิจกรรมพัฒนาผ๎เู รียน ประกอบดว๎ ย
3.1 กิจกรรมลูกเสอื /กจิ กรรมนักศกึ ษาวิชาทหาร
3.2 กิจกรรมชุมนุม/ชมรม
3.3 กจิ กรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์ (จติ อาสา)
3.4 กิจกรรมแนะแนว
มาตรา ๑๐ โรงเรียนตอ๎ งให๎การสนับสนนุ การจดั การศึกษาเพ่ือรองรบั การเปลยี่ นแปลงในอนาคต โดย
การพัฒนา และนาระบบเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร มาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาระบบ
บริหารจัดการ และระบบการจัดการเรียนร๎ูของผ๎ูเรียน ให๎ทันยุคสมัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด ท้ังนี้
ต๎องคานงึ ถึงความเหมาะสมของบรบิ ทโรงเรียน สภาวการณ์ ณ ปจั จุบันดว๎ ย
มาตรา 1๑ โรงเรียนต๎องมีการวิจัยหลักสูตรหรือวิจัยสถาบันอยํางน๎อยปีละ 1 เรื่อง เพื่อนา
ผลการวจิ ยั มาปรับปรงุ พฒั นา คุณภาพของโรงเรยี นอยํางตํอเนอื่ ง
มาตรา 1๒ โรงเรียนต๎องมีระบบดูแลชํวยเหลือนักเรียน เพ่ือเป็นเครื่องมือในการกากับติดตามและ
ชํวยเหลือนักเรยี นอยาํ งมปี ระสทิ ธิผล และเกดิ ประสิทธิภาพท่ดี ี พฒั นาระบบอยํางย่ังยืน
มาตรา 1๓ โรงเรียนต๎องมีระบบรักษาความปลอดภัยสาหรับนักเรียน ครู และบุคลากร และจัด
ส่ิงแวดล๎อมท่ีเอื้อตํอการจัดการเรียนการสอน จัดให๎มีจุดรวมพลการประสานงานที่รวดเร็วกับ
หนวํ ยงานทเ่ี กี่ยวข๎องเมอื่ เกดิ กรณฉี กุ เฉิน
หมวดที่ ๔
ครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา
มาตรา ๑๔ คุณสมบัติของผู๎อานวยการโรงเรยี นหนองพระพิทยา
1. มคี วามจงรักภักดีในสถาบนั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์
๒. มีความร๎ู มีทักษะ มีความสามารถในการบริหารจัดการและมีความรอบรู๎มีความแมํนยา
ในกฎระเบยี บของทางราชการ
3. มีวิสัยทัศน์ในการบริหารการศึกษาให๎ทันสมัยทันกับการเปล่ียนแปลงในโลกยุคปัจจุบัน
และมีความสามารถในการตัดสินใจได๎อยํางถูกต๎องรวดเร็วและกล๎าตัดสินใจปฏิบัติตามนโยบายของ
กระทรวงศึกษาธกิ าร
4. มีความรบั ผดิ ชอบ มีระเบยี บวินัย และประพฤตติ นเปน็ แบบอยํางที่ดแี กํผใ๎ู ต๎บังคับบัญชา
มีบุคลิกภาพที่เหมาะสม มมี นษุ ยธรรมท่ดี ตี ํอผร๎ู ํวมงาน และมีความจรงิ ใจตอํ ผูร๎ วํ มงาน
5. มีความยุติธรรม มีความสุจริตโปรํงใสและเที่ยงธรรมรักษาผลประโยชน์ของสํวนรวม มี
ความเสยี สละ มีภาวะผนู๎ าและมีมนษุ ยสัมพันธ์ทีด่ เี ป็นท่ยี อมรบั ของผท๎ู เี่ ก่ยี วขอ๎ ง
14
6. มคี วามรคู๎ วามเขา๎ ใจในการบรหิ ารจัดการสถานศึกษา สามารถปรับใช๎ศาสตร์และศิลป์ใน
การบรหิ ารจัดการ วางแผนพฒั นาโรงเรยี นเพ่ือสร๎างองคก์ รแหงํ การเรียนรู๎
7. มกี ารบรหิ ารงานแบบประชาธิปไตย โดยรํวมกันคิดรํวมพัฒนาด๎านการศึกษาทางานเป็น
ทีมและสํงเสรมิ ให๎ทกุ คนทกุ ฝุายมสี วํ นรํวมในการคดิ การตัดสินใจ ลงมอื ทาและรับผิดชอบรํวมกัน เพ่ือ
มงุํ พฒั นาคณุ ภาพการศึกษา
มาตรา ๑๕ ผอู๎ านวยการโรงเรียนมีบทบาทหน๎าที่ ดงั ตํอไปน้ี
๑. วางแผนการจดั การศกึ ษาและปฏิบตั งิ านของโรงเรียนใหเ๎ ปน็ ไปตามกฎหมาย กฎระเบียบ
ขอ๎ บงั คับของทางราชการ
๒. กาหนดวธิ ดี าเนินงานและติดตามผลด๎านวิชาการ งบประมาณ บุคลากร กิจการนักเรียน
และบรหิ ารทว่ั ไป
๓. จัดทาและพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา สํงเสริมพัฒนาคุณภาพด๎านการศึกษาในด๎านการ
เรยี นการสอน การวดั ผลการศกึ ษาให๎เปน็ ไปตามหลักสูตร
๔. ปฏิบัติหน๎าท่ีรับผิดชอบดาเนินงานเกี่ยวกับงานที่ได๎รับมอบหมายตําง ๆ ท่ีกาหนดเป็น
อานาจหน๎าท่ที ่ตี อ๎ งปฏิบัติ
๕. ควบคุมดูแล ปกครอง จัดระบบงานโรงเรียนจัดทามาตรฐานการปฏิบัติงาน ขอบขําย
ภาระงาน มอบหมายงานใหเ๎ หมาะสมกับความรูค๎ วามสามารถของบคุ ลากร
๖. ติดตามให๎คาปรึกษา แก๎ปัญหา และนิเทศครูและบุคลากรทางการศึกษา นักเรียนให๎
สามารถปฏิบัติตามหนา๎ ท่ีได๎อยํางถูกตอ๎ งครบถว๎ น
๗. ดูแลสวัสดิภาพความเป็นอยํูของครูและบุคลากรทางการศึกษา นักเรียนและสํงเสริม
สนบั สนุนใหม๎ ีการพฒั นาตนเองอยํางตํอเนอ่ื ง
๘. สงํ เสริมและสรา๎ งความสมั พนั ธ์ระหวํางโรงเรียน ผ๎ปู กครองและชมุ ชน
๙. เขา๎ รํวมประชุมคณะกรรมการตาํ ง ๆ ตามท่ไี ดร๎ ับการแตํงตั้ง
๑๐. จัดให๎มีการวิเคราะห์ วิจัย ประเมินผลและรวบรวมข๎อมูล จัดทารายงานประจาปีของ
สถานศึกษา จัดทาสถิติตําง ๆ เป็นสารสนเทศท่ีสาคัญ โดยนาเทคนิคและวิธีการใหมํ ๆ มาใช๎เพ่ือ
ปรับปรุงการเรียนการสอนและพฒั นาโรงเรยี นให๎ได๎มาตรฐานเป็นที่นยิ ม
๑๑. ประสานงานกับหนํวยงานอื่นๆ ท้ังภาครัฐและเอกชน เพื่อประโยชน์ของโรงเรียนและ
ชุมชน
๑๒. ดาเนินการตามความเห็นชอบและข๎อเสนอแนะของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้น
พ้นื ฐานของโรงเรยี นหนองพระพทิ ยา
๑๓. ปฏิบัติหน๎าท่ีอนื่ ๆ ตามท่ไี ด๎รับมอบหมาย
มาตรา ๑๖ รองผู๎อานวยการโรงเรยี นมบี ทบาทหน๎าท่ี ดงั ตํอไปน้ี
๑. ปฏิบัติหน๎าที่รองผู๎อานวยการสถานศึกษา โดยปฏิบัติงานตามที่ได๎รับมอบจาก
ผู๎อานวยการสถานศึกษาในการชํวยบริหารกิจการของสถานศึกษา การวางแผนการปฏิบัติงาน การ
ควบคุม กากับ ดูแลเกี่ยวกับการบริหารงานวิชาการ บริหารงบประมาณ บริหารงานบุคคล บริหาร
ทวั่ ไป ความสมั พันธ์กบั ชมุ ชน และงานอ่ืนที่เกี่ยวขอ๎ งหรอื ทไี่ ด๎รบั มอบหมาย
15
๒. บรหิ ารกจิ การของสถานศกึ ษาให๎เปน็ ไปตามกฎหมาย ระเบยี บ ขอ๎ บงั คบั นโยบายและ
วัตถปุ ระสงค์ของสถานศกึ ษา
๓. วางแผนพัฒนาการศกึ ษา ประเมิน และรายงานผลการจดั การศึกษา
๔. จัดทาและพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา การจัดกระบวนการเรียนรู๎ การพัฒนาสื่อ
นวตั กรรมและเทคโนโลยกี ารศึกษา การนเิ ทศ และการวดั ผลประเมนิ ผล
๕. สํงเสริมและจัดการศึกษาให๎กับผ๎ูเรียนทุกกลํุมเปูาหมายทั้งในระบบ นอกระบบและตาม
อัธยาศัย
๖. จัดทาระบบประกันคุณภาพการศกึ ษา
๗. การบริหารการเงนิ การพัสดุและทรัพย์สนิ
๘. วางแผนการบรหิ ารงานบคุ คล การเสรมิ สรา๎ งประสิทธิภาพในการปฏิบัตงิ านวนิ ยั และการ
รักษาวินยั การดาเนนิ การทางวินัย และการออกจากราชการ
๙. จัดทามาตรฐานและภาระงานของครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา
ประเมนิ ผลการปฏบิ ัติงานตามมาตรฐานของครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา
๑๐. สํงเสริมและสนับสนุนครูและบุคลากรทางการศึกษาใหม๎ กี ารพฒั นาอยํางตอํ เน่ือง
๑๑. ประสานความรํวมมือกับชุมชนและท๎องถิ่นในการระดมทรัพยากรเพ่ือการศึกษาและ
ให๎บรกิ ารวชิ าการแกํชมุ ชน
๑๒. จัดระบบควบคุมภายในสถานศึกษา
๑๓. จดั ระบบดูแลชวํ ยเหลือนักเรียน
๑๔. ปฏิบตั ิหนา๎ ที่อืน่ ๆ ตามท่ไี ดร๎ บั มอบหมายจากผ๎อู านวยการโรงเรียน
มาตรา ๑๗ คณุ สมบัตขิ องครแู ละบุคลากรทางการศึกษา
๑. มุงํ มนั่ พัฒนา และสํงเสรมิ การเรียนรู๎ทกั ษะและนิสัยท่ถี กู ตอ๎ งดีงามแกนํ ักเรียน
๒. สามารถปฏบิ ตั กิ ิจกรรมทางวิชาการเกย่ี วกบั การพฒั นาวชิ าชพี ครู
๓. มีจติ วญิ ญาณของความเปน็ ครทู ด่ี ี ให๎บริการด๎วยความจรงิ ใจและเสมอภาค
๔. มีความรู๎ความสามารถ มีความเสียสละ อุทิศตนเป็นประโยชน์แกํนักเรียนด๎วยความเต็ม
ใจ
๕. มีจิตใจชํวยเหลือเก้ือกูลซึ่งกันและกันอยํางสร๎างสรรค์ โดยยึดม่ันในคุณธรรมและ
เสริมสร๎างความสามคั คใี นหมํคู ณะ
๖. สามารถปฏิบัติหน๎าท่ีในการจัดการเรียนการสอนแกํนักเรียนและมีหน๎าที่ในการอบรม
บํมนิสัยนักเรียนให๎นกั เรยี นเป็นคนดี มีคณุ ธรรม
๗. สามารถประพฤติตนเป็นแบบอยาํ งที่ดแี กํนกั เรยี น ทั้งทางกาย วาจา ใจ
๘. ไมํเปน็ ผ๎ทู แี่ สวงหาผลประโยชนใ์ ด ๆ ทง้ั ทางตรงและทางออ๎ มจากโรงเรยี น นักเรยี นและ
ผูป๎ กครองนักเรียน
16
มาตรา ๑๘ ครูมีบทบาทหน๎าท่ี ดงั ตํอไปนี้
๑. ศกึ ษาหาความรู๎วธิ กี ารสอน วิธปี ระเมนิ ผล การใชส๎ อื่ การเรยี นการสอน หนังสือเรียนและ
คํมู อื การเรียนการสอนตามหลักสตู ร
๒. ปฏิบัติงานในหน๎าท่ีให๎ได๎ผลตามนโยบายของสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้น
พน้ื ฐาน
๓. ประพฤติปฏบิ ตั ิตนตามระเบียบวนิ ัยของทางราชการอยาํ งเครงํ ครัด
๔. จัดกจิ กรรมการเรียนการสอนและอบรมบํมนิสัยนักเรียนอยํางเต็มความรู๎ความสามารถ
๕. พัฒนาและปรับปรุงการเรียนการสอนใหม๎ ปี ระสทิ ธิภาพอยํางตํอเน่ือง
๖. สํงเสริมและเผยแพรํการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น
ประมุข
๗. ปลกู ฝงั วัฒนธรรม คาํ นิยมและเอกลักษณไ์ ทย
๘. สํงเสรมิ ความสามัคคีในหมคํู ณะครู บคุ ลากรทางการศึกษา นกั เรียนและผ๎ูทเี่ กย่ี วขอ๎ ง
มาตรา ๑๙ บทบาทและหนา๎ ท่ขี องผป๎ู กครองนักเรียนโรงเรยี นหนองพระพิทยา
ผู๎ปกครองนักเรียนมีความเข๎าใจในระบบการจัดการศึกษาของโรงเรียนและยินยอมปฏิบัติ
ตามระเบยี บของโรงเรียนทุกประการ ดงั น้ี
๑. ให๎ความรํวมมือสนบั สนนุ กิจกรรมด๎านการศกึ ษาของโรงเรียน
๒. ศกึ ษาและเข๎าใจวัฒนธรรม กฎระเบยี บของโรงเรียนหนองพระพทิ ยา
๓. ดูแลเอาใจใสํ กาชับ ติดตามบุตรหลานในอุปการะให๎ปฏิบัติตามกฎระเบียบ และ
ธรรมนญู ของโรงเรยี น
๔. มีความพร๎อมในการสนับสนุนคําเลําเรียนของบุตร และคําใช๎จํายอ่ืนๆ ที่เกี่ยวเนื่องด๎าน
การศกึ ษา
มาตรา ๒๐ โรงเรียนควรจัดหาเจ๎าหน๎าท่ีและบุคลากร เพ่ือปฏิบัติหน๎าท่ีท่ีไมํเก่ียวข๎องกับการจัดการ
เรียนการสอนโดยตรง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ การบริการและสนับสนุนการเรียน
การสอนให๎มีคณุ ภาพและประสิทธภิ าพมากยงิ่ ขนึ้ ดงั ตาแหนงํ งานและคณุ สมบตั ิขั้นตน๎ ดังนี้
๑. เจ้าหนา้ ท่ีงานธุรการ
ปฏบิ ตั หิ น๎าที่
๑.๑ งานธุรการสารบรรณ การรับ – สํง และลงทะเบียนหนงั สือราชการให๎ถูกตอ๎ งตาม
ระเบียบของงานสารบรรณ รําง – พิมพ์โต๎ตอบหนังสือราชการให๎ถูกต๎องตามระเบียบงานสารบรรณ
และทันตามกาหนดเวลา
1.2 ประสานงานผู๎ที่เก่ียวข๎องในการให๎ข๎อมูลเกี่ยวกับหนังสือราชการ เพ่ือให๎การ
ดาเนินงานทันกาหนดเวลา และจัดเก็บเอกสาร หลักฐานทะเบียนและหนังสือราชการตํางๆ รวมทั้ง
ระบบ E-Office
1.3 การจัดทาเอกสารหนงั สอื ราชการของฝุายงานตํางๆของโรงเรียน
17
1.4 งานประสานงาน การติดตํอสื่อสารกับหนํวยงานสํวนราชการอื่นๆ ชุมชนและ
ทอ๎ งถิ่น การใหบ๎ ริการแกํประชาชนหรอื ผ๎ูมาขอรับบริการ หรอื ติดตํอราชการ
1.5 งานอื่น ๆ ท่ีผู๎บังคบั บญั ชามอบหมาย
2. นักการภารโรง
ปฏิบัติหนา๎ ที่
2.1 ปฏิบตั งิ านในการเปดิ – ปิดอาคารเรียน ทาความสะอาดหอ๎ งสานักงาน ดูแลบริเวณ
อาคารสถานทใี่ ห๎สะอาดพร๎อมใชง๎ าน
2.2 ดูแล ซํอมแซมวัสดุอุปกรณ์ ครุภัณฑ์ และอาคารสถานท่ีให๎อยํูในสภาพที่พร๎อมใช๎
งานได๎
2.3 บารุง ดูแล และพัฒนาอาคารสถานที่และสภาพแวดล๎อม ภูมิทัศน์เพื่อสร๎าง
บรรยากาศแหลํงการเรียนรู๎ของสถานศึกษาให๎อยูํในสภาพม่ันคง ปลอดภัย เหมาะสมพร๎อมที่จะใช๎
ประโยชนแ์ ละเอ้ือตํอการจัดการเรียนการสอน
2.4 อยูํเวรยามสถานท่ีราชการ
2.5 ดูแลรถยนต์ของโรงเรียนให๎อยูํในสภาพพร๎อมใช๎งานและสามารถขับรถยนต์ในการ
พาข๎าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตลอดจนนานักเรียนในการเดินทางไปราชการและติดตํอ
ราชการตาํ งๆ
2.6 งานอ่ืน ๆ ท่ีได๎รับมอบหมาย
3. พนักงานทาความสะอาด
ปฏบิ ตั หิ นา๎ ที่
3.๑ ดแู ลทาความสะอาดภายในและภายนอกอาคาร ห๎องพักครู ห๎องน้าหอ๎ งสุขาให๎
สะอาดเรยี บรอ๎ ย
3.๒ ดแู ล บารุงรักษาตน๎ ไมส๎ นามหญ๎าของโรงเรียนให๎สวยงาม
3.๓ ดแู ล รักษาวัสดุครุภณั ฑ์ในสวํ นพ้ืนทีง่ านที่รับผิดชอบ
3.๔ ปฏิบัตงิ านอืน่ ท่ไี ด๎รบั มอบหมายๆ
มาตรา ๒๑ สทิ ธิของครแู ละบุคลากรของโรงเรยี นหนองพระพิทยาพงึ ได๎รับ ดังตอํ ไปนี้
๑. บุตรทกุ คนมสี ิทธ์เิ ขา๎ เรยี นในโรงเรยี นหนองพระพทิ ยา
๒. ได๎รับสวสั ดกิ ารของโรงเรียนหนองพระพิทยาอยํางเสมอภาคเทาํ เทียมกนั
มาตรา ๒๒ โรงเรียนเปิดโอกาสให๎ร๎านค๎าเอกชนบริการจาหนํายสินค๎าและบริการที่มีคุณภาพและ
ราคายตุ ธิ รรม เพอื่ อานวยความสะดวกและบรกิ ารครู บคุ ลากรทางการศกึ ษา และนักเรียน
มาตรา ๒๓ โรงเรียนต๎องจัดให๎มีการพัฒนาครูและบุคลากรให๎มีความร๎ูความสามารถในการปฏิบัติ
หนา๎ ที่ให๎มปี ระสทิ ธิภาพมากขึ้น อยํางน๎อย ๑ รายการตอํ ปี ดงั นี้
๑. การศึกษาดูงาน
๒. การสัมมนาทางวชิ าการ
18
๓. การอบรมเชิงปฏบิ ตั กิ ารในเรอ่ื งท่ีจาเป็นตํอครูทุกคน
๔. การสนับสนนุ ในด๎านการทาผลงานทางวิชาการ
หมวดท่ี 5
นกั เรยี น
มาตรา 24 คณุ สมบตั พิ นื้ ฐานของผู๎ทจ่ี ะสมคั รเขา๎ โรงเรยี นหนองพระพิทยา
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1
๑. เป็นนักเรียนท่ีจบการศึกษาในระดับช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 หรือเทียบเทําตามหลักสูตร
การศกึ ษาของกระทรวงศึกษาธกิ าร
๒. มคี วามประพฤตเิ รียบร๎อย มีระเบียบวนิ ัย อยูรํ วํ มกับผ๎อู ื่นได๎เปน็ อยํางดี
๓. ผู๎ปกครองมีความพร๎อมที่จะให๎การสนับสนุนคําใช๎จํายในการจัดการเรียนการสอน
นอกเหนือหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพ่ือสํงเสริม และพัฒนาคุณภาพการศึกษาให๎นักเรียนเกิน
มาตรฐานรัฐ และคาํ ใช๎จํายอื่นๆ ที่โรงเรียนกาหนด ตลอดเวลาท่ีศกึ ษาอยูํโรงเรยี น
๔. ผ๎ูปกครองมีความพร๎อมในการรํวมดูแลความประพฤติของนักเรียนกับทางโรงเรียน
ตลอดเวลาทกี่ าลงั ศกึ ษา
ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4
๑. เป็นนักเรียนท่ีจบการศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 หรือเทียบเทําตามหลักสูตร
การศกึ ษาของกระทรวงศึกษาธกิ าร
๒. มีความประพฤติเรียบร๎อย มีระเบียบวินัย อยํูรํวมกับผู๎อื่นได๎เป็นอยํางดี และสามารถ
ประพฤติตนตามระเบยี บของโรงเรียนได๎
๓. ผู๎ปกครองมีความพร๎อมท่ีจะให๎การสนับสนุนคําใช๎จํายในการจัดการเรียนการสอน
นอกเหนอื หลักสตู รการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน เพ่อื สงํ เสริมและพัฒนาคุณภาพการศึกษาให๎นักเรียน
มาตรา 25 โรงเรียนจัดให๎มีสภานักเรียน ซ่ึงได๎มาโดยการได๎รับเลือกมาจากนักเรียนและครูภายใน
โรงเรียน เพ่ือเป็นผ๎ูแทนของนักเรียน เป็นสื่อกลางเพ่ือความเป็นประชาธิปไตย รักษาสิทธิและหน๎าที่
ของนักเรียนโดยไมํขัดกับระเบียบและนโยบายของโรงเรียน กาหนดแผนการปฏิบัติกิจกรรมเชิง
สรา๎ งสรรคแ์ ละเปน็ ประโยชน์ตอํ โรงเรียน สงั คมและประเทศชาติ โดยตอ๎ งมคี ุณสมบัติดังตอํ ไปน้ี
๑. เป็นผู๎ที่ยึดม่ันในระบอบประชาธิปไตย และจงรักภักดตี ํอสถาบันชาติ ศาสนา
พระมหากษัตริย์
๒. เปน็ นกั เรยี นโรงเรียนหนองพระพทิ ยาอยํางถูกต๎องตามกฎหมาย
๓. ผูส๎ มคั รจะต๎องลงสมัครตามระเบียบสภานกั เรียนโรงเรียนหนองพระพิทยา
๔. เปน็ ผูท๎ ี่กาลงั ศกึ ษาอยใูํ นระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4 ในขณะมีการเลือกต้ัง
๕. ไมมํ ผี ลการเรยี นเป็น ๐, ร, มส หรือ มผ
19
๖. ไดร๎ บั ความยินยอมจากคุณครูประจาช้นั /ครูทป่ี รึกษา และผ๎ูปกครองใหเ๎ ข๎าสมคั รรบั
เลอื กตั้งประธานสภาและสมาชกิ สภานกั เรียน
๗. เปน็ ผ๎มู ีคุณธรรมและมีความเป็นกลางในการดาเนินนโยบาย
๘. เปน็ ผ๎ูทีร่ กั และเทดิ ทนู ในเกียรตขิ องโรงเรียนอยาํ งจริงใจ
มาตรา 26 นักเรียนต๎องไดร๎ ับการพัฒนาจากทางโรงเรยี นและผูท๎ ่ีมีสวํ นเก่ียวข๎องเพ่ือให๎มีคุณลักษณะ
อนั พงึ ประสงค์ ดงั นี้
๑. มีวินยั
๒. ใฝุเรียนร๎ู
๓. อยอํู ยํางพํอเพียง
๔. ระเบยี บ เรยี บรอ๎ ย รกั สะอาด
๕. มงํุ มน่ั ในการทางาน
๖. ความเปน็ ผนู๎ า
๗. เจตคตเิ ชิงบวก
๘. ความซอ่ื สตั ย์สุจริต
๙. ความกตัญญูกตเวที
๑๐. การอํอนน๎อมถอํ มตน
๑๑. ความรับผิดชอบ
๑๒. มีจิตสาธารณะ
๑๓. ความสามัคคี
๑๔. รกั ความเปน็ ไทย
๑๕. จงรักภกั ดตี อํ สถาบันพระมหากษตั ริย์
มาตรา 27 นักเรยี นต๎องแตํงกายใหถ๎ กู ตอ๎ งตามระเบยี บของโรงเรยี น ดงั น้ี
เคร่อื งแบบนกั เรียนชาย ช้ันมัธยมศึกษาตอนตน้
1. เสื้อ
1.1 ผา๎ ขาวเนอื้ เกลี้ยง ไมํบางเกินไป ไมํมลี วดลาย
1.2 เส้ือแบบคอเชิต้ อกตลอด มีสาบกว๎าง 4 ซ.ม. ใช๎กระดุมสขี าวกลมแบน 6 เม็ด
1.3 แขนส้นั แบบพบั เหนอื ศอก ปลายแขนพบั เขา๎ ประมาณ 1.5 ซ.ม. เดินตะเขบ็ เดยี ว
1.4 มสี าบตํอไหลํตะเข็บเดียว ไมํมีจบี ข๎างหลงั
1.5 มกี ระเป๋าแบนราวนม เบยี่ งซา๎ ย ๑ กระเป๋า พอเหมาะกับขนาดของเส้อื
1.6 อกเส้ือด๎านขวาปัก อักษร น.พ. ตามแบบและขนาดของโรงเรียน เลขประจาตัวถัด
ลงมา ตวั เลขตอ๎ งเป็นเลขไทย อกเสื้อดา๎ นซา๎ ยปกั ช่ือ-สกลุ และปักเลขชน้ั นกั เรียนเหนอื ชื่อ-สกุล
1.7 ขนาดของเสอ้ื ไมํรัดรูป หรอื หลวมเกินไป ใหห๎ ลวมพอสมควร
1.8 ชายเสอ้ื สอดไวใ๎ นกางเกงใหเ๎ รยี บรอ๎ ย
20
2. กางเกง
2.1 ใช๎ผา๎ สกี ากี(ผ๎าโทเล)
2.2 ดา๎ นหนา๎ มีจบี ด๎านละ 2 จีบ
2.3 ขาส้ันเพียงเหนือเขํา เม่ือยืนตรงปลายขากางเกงวัดจากหัวเขําข้ึนไป ไมํต่ากวํา
ก่งึ กลางเขาํ ไมํเกิน 5 ซ.ม. ปลายขาพบั เขา๎ ในกวา๎ ง 5 ซ.ม. เดนิ ตะเขบ็ เดียว
2.4 มีกระเปา๋ ข๎างตรงตามแนวตะเข็บกางเกงข๎างละ 1 กระเป๋าไมมํ ีกระเป๋าหลัง
2.5 ลกั ษณะผาํ ตรงหน๎า ติดซิปซํอนไวข๎ า๎ งใน
2.6 เม่อื สวมใหข๎ อบกางเกงอยูใํ นสะดือสวมทบั ชายเสอื้ ให๎เรยี บร๎อย
3. เข็มขัด
3.1 ใช๎หนังสนี ้าตาลกว๎าง 2.5-4 ซ.ม. ยาวพอสวมไปถงึ หวํ งกางเกงหํวงที่ 2 ได๎
3.2 หวั เขม็ ขดั เป็นโลหะสีทอง สเี่ หลยี่ มผนื ผา๎ ตามแนวต้งั ขนาดพอเหมาะกับเขม็ ขดั
3.3 สายเข็มขัดไมํต๎องแตํงปลาย ไมํมีลวดลาย ไมํมีหมุด หรือสิ่งอื่นใดเป็นสํวนประดับ
เจาะรูเพื่อสอดเขม็ เดยี วแถวเดยี ว
3.4 ปลอกหนงั ขนาดกว๎างพอเหมาะกบั เข็มขัด สาหรับสอดปลายเข็มขัด
3.5 เวลาคาดสอดเขา๎ หวํ งกางเกงให๎เรยี บร๎อย
3.6 นักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาตอนตน๎ อนโุ ลมใหใ๎ ช๎เข็มขัดลกู เสือได๎
4. ถงุ เท้า
4.1 ถุงเท๎าสีน้าตาลเทํานั้น มีความยาว 3 นิ้วขึ้นไปจากกึ่งกลางตาตุํมและยาวไมํเกิน
กง่ึ กลางขาทํอนลาํ ง โดยให๎พับขอบหลงมา 2 พับ
4.2 ไมํมลี วดลาย อนุญาตใหใ๎ ชแ๎ บบลกู ฟกู ไดเ๎ ป็นสนี ้าตาลสเี ดยี ว
5. รองเทา้
5.1 ใชร๎ องเทา๎ ห๎มุ สน๎ สนี ้าตาล ทาดว๎ ยหนังหรือผา๎ ใบมเี ชอื กร๎อย
5.2 ไมหํ ุม๎ ขอ๎ ไมหํ ุ๎มตาตุํม
5.3 ไมํมลี วดลาย
5.4 รองเทา๎ ผา๎ ใบสขี าวมีเชือกรอ๎ ย ไมํมีลวดลาย ใช๎ในช่ัวโมงพละศกึ ษาเทาํ นัน้
เครอ่ื งแบบนักเรียนหญงิ ช้ันมัธยมศกึ ษาตอนปลาย
1. เสอื้
1.1 ใช๎ผ๎าขาวเกลยี้ ง ไมมํ ลี วดลาย ไมบํ างเกนิ ไป
1.2 เสอื้ แบบคอพับในตัว นึกพอให๎สวมศีรษะได๎สะดวก สาบตลบเข๎าข๎างใน มีปกขนาด
10-20 ซ.ม. ใชผ๎ ๎า 2 ชัน้ แบบเข๎าถ้า
1.3แขนสั้นเพียงเหนือศอกปลายแขนเจ็บเล็กน๎อยปลายแขนประกอบด๎วยผ๎า 2 ชั้น
กวา๎ ง 30 ซ.ม.
21
1.4 ความยาวและขนาดของเส้ือพอเหมาะกับตัว ชายเส้ือด๎านลํางพับไมํเกิน 3 ซ.ม.
และติดกระเป๋าขา๎ งลาํ งด๎านขวามือ
1.5 อกเส้ือด๎านขวาปักอักษรยํอ น.พ. เลขประจาตัวอยํูถัดลงมาเป็นตัวเลขไทย อกเสื้อ
ดา๎ นซา๎ ยปัก ชื่อ-สกุล บนชอ่ื ปกั เลขชน้ั เรยี นเหนอื ชือ่ -สกุล
1.6 เสื้อชั้นใน ใช๎ผ๎าสีขาว คอกระเช๎า หรือเส้ือบังทรง (ในกรณีใสํเส้ือยกทรง) เอวยาว
ชนดิ เดยี วกันหา๎ มใสํเส้ือคอกลมพับใน
2. กระโปรง
2.1 ใช๎ผา๎ กรมทําเขม๎ เน้อื เรียบแบบธรรมดาไมํมีลวดลาย
2.2 มีจีบพับจีบหันออกนอกท้ังขวาและซ๎ายข๎างละ 3 จีบเย็บพับจีบจากเอวลงมา 6-
12 ซ.ม.
2.3 ความยาวของกระโปรงเพียงใต๎เขําวัดกลางลูกสะบ๎าลงมาประมาณ 5 ซ.ม.และไมํ
สงู กวํากึ่งกลางลกู สะบ๎า
2.4 ด๎านลํางพับยาวไมํเกิน 3 ซ.ม.ขอบกระโปรงสะเอวพับยาว 3 ซ.ม. ให๎อยํูในแนว
สระเอวถ๎ามีกระเปา๋ ให๎มีตามแนวตะเข็บด๎านลาํ งเทาํ นั้น
3. ถุงเท้า
3.1 ถุงเท๎าส้ันสีขาว ไมํมีลวดลายขอบสีตํางๆ ความยาวไมํต่ากวํา 3 นิ้ว จากก่ึงกลาง
ตาตุํม และไมํยาวเกนิ ครง่ึ ของทอํ นลาํ ง
3.2 อนุญาตใหใ๎ ชแ๎ บบลกู พูดได๎ แตํต๎องไมมํ ีลวดลาย
4. รองเท้า
4.1 รองเทา๎ แบบหุม๎ สน๎ หุม๎ ปลายเทา๎ หวั มล ชนดิ มีสายรัดหลงั เทา๎ หรือรองเท๎าผ๎าใบสี
ดา
4.2 หนังมันสีดา ไมํมลี วดลาย
4.3 สงู ไมเํ กนิ 3 ซ.ม.
4.4 รองเท๎าผ๎าใบสีขาว มีเชือกร๎อย เป็นแบบพลศึกษา ให๎ใช๎เฉพาะช่ัวโมงพละศึกษา
เทํานนั้
เคร่ืองแบบนักเรียนชาย ชน้ั มัธยมศึกษาตอนปลาย
1. เสื้อ
1.1 ผา๎ ขาวเนอ้ื เกล้ียงไมบํ างเกนิ ไปไมมํ ลี วดลาย
1.2 เส้อื แบบคอเชติ้ อกตลอดมีสระกว๎าง 4 ซ.ม. ใชก๎ ระดุมสขี าวกลมแบน 6 เม็ด
1.3 แขนสนั้ แขนพบั เหนอื ศอกปลายแขนพบั เข๎าประมาณ 1.5 ซ.ม. เดินตะเขบ็ เดียว
1.4 มสี าบตํอไหลํตะเขบ็ เดียว ไมมํ จี บี ขา๎ งหลัง
1.5 มกี ระเป๋าแบนราวนม เบีย่ งซา๎ ย 1 กระเป๋า พอเหมาะกับขนาดของเสื้อ
22
1.6 อกเสอ้ื ดา๎ นขวาปักอกั ษร น.พ. ตามแบบและขนาดของโรงเรียน เลขประจาตัวถัดลง
มา ตวั เลขตอ๎ งเปน็ เลขไทย อกเส้อื ดา๎ นซ๎ายปัก ชื่อ-สกุล และปกั เลขชน้ั นกั เรียนเหนือ ชื่อ-สกลุ
1.7 ขนาดของเสอื้ ไมรํ ดั รปู หรือหลวมเกินไปให๎หลวมพอสมควร
1.8 ชายเสอื้ สอดไวใ๎ นกางเกงให๎เรยี บรอ๎ ย
2. กางเกง
2.1 ใชผ๎ า๎ สีกรมทําสีเข๎ม (เป็นผ๎าเสรทิ หรือโทเล)
2.2 ดา๎ นหน๎ามีจบี ด๎านละ 2 จบี
2.3 ขาส้ันเพียงเหนือเขํา เม่ือยืนตรงปลายขากางเกงวัดจากหัวเขําขึ้นไปไมํต่ากวํา
ก่ึงกลางเขําไมํเกนิ 5 ซ.ม. ปลายขาพับเข๎าในกว๎าง 5 ซ.ม. เดินตะเข็บเดยี ว
2.4 มกี ระเปา๋ ข๎างตรงตามแนวตะเขบ็ กางเกงข๎างละ 1 กระเปา๋ ไมมํ ีกระเป๋าหลงั
2.5 ลกั ษณะผาํ ตรงหน๎า ติดซิปซํอนไว๎ข๎างใน
2.6 เมื่อสวมให๎ขอบกางเกงอยํูในสะดอื สวมทบั ชายเสอื้ ให๎เรียบร๎อย
3. เข็มขัด
3.1 ใชห๎ นังมนั สีดากว๎าง 2.5 - 4 ซ.ม. ยาวพอสวมปลายถงึ หวํ งกางเกงหวํ งที่ 2 ได๎
3.2 หวั เขม็ ขดั เปน็ สเ่ี หลยี่ มผืนผา๎ แบบทาด๎วยโลหะสีเงนิ ขนาดพอเหมาะกับเข็มขดั
3.3 หวั เขม็ ใช๎ชนิดหวั ขัดเขม็ เดียวไมมํ ีการตกแตํงหรือขีดเปน็ ลาย
3.4 สายเข็มขัดไมํต๎องแตํงปลาย ไมํมีลวดลาย ไมํมีหมุด หรือส่ิงอื่นใดเป็นสํวนประดับ
(เขม็ ขัดของวทิ ยาลัยสารพัดชาํ ง อนุญาตใหใ๎ ช๎เฉพาะวนั ท่ีเรียนโปรแกรมทวศิ กึ ษาเทํานนั้ )
3.5 ปลอกหนังสีเดียวกับเข็มขัด ขนาดกว๎างพอเหมาะกับเข็มขัด สาหรับสอดปลายเข็ม
ขดั
3.6 เวลาคาดเข็มขัดใหส๎ อดเขา๎ หํวงกางเกงให๎เรียบรอ๎ ย
4. ถงุ เท้า
4.1 ถุงเท๎าสีขาว หรือถุงเท๎าที่มีพ้ืนกันเปื้อนสีเทาหรือสีดาเทําน้ัน ความยาวไมํน๎อยกวํา
3 นว้ิ จากกงึ่ กลางตาตํมุ และยาวไมเํ กนิ ก่งึ กลางขาทอํ นลาํ งโดยให๎พับขอบลงมา 2 พบั
4.2 อนญุ าตให๎ใช๎แบบลูกฟูกไดไ๎ มํมลี วดลาย
5. รองเท้า
5.1 ใชร๎ องเท๎าหุม๎ สน๎ สีดา ทาด๎วยหนังหรือผ๎าใบมีเชอื กรอ๎ ย
5.2 ไมํหุม๎ ข๎อ ไมํหมุ๎ ตาตุมํ
5.3 ไมํมลี วดลาย
5.4 รองเท๎าผ๎าใบสีขาวมเี ชือกรอ๎ ย ไมมํ ลี วดลาย ใชใ๎ นชว่ั โมงพละศึกษาเทําน้นั
23
เคร่ืองแบบนกั เรยี นหญงิ ช้นั มธั ยมศึกษาตอนปลาย
1. เสอ้ื
1.1 ใช๎ผ๎าขาวเกลีย้ ง ไมบํ างเกนิ ไป ไมมํ ีลวดลาย
1.2 เสือ้ แบบคอเชติ้ ผําอกตลอด ทอี่ กสาบเข๎าข๎างใน มกี ระดุมสขี าวกลมแบน 6 เม็ด
1.3 แขนสั้นเพียงเหนอื ศอก ปลายแขนจีบเลก็ น๎อยประกอบด๎วยผา๎ 2 ชน้ิ กวา๎ ง 3 ซ.ม.
1.4 ความยาวของเส้ือ ยาวสามารถสอดชายเสือ้ ไวใ๎ นกระโปรงได๎
1.5 ขนาดของเสื้อไมํรดั รูป หรือหลวมเกินไป ใหห๎ ลวมพอสมควร
1.6 ด๎านขวาปักอักษรยํอ น.พ. เลขประจาตัวอยูํถัดลงมาตามแบบที่โรงเรียนกาหนด
ตัวเลขเป็นเลขไทย อกเสื้อดา๎ นซา๎ ยปกั ช่ือ-สกลุ บนชือ่ ปักเลขช้ันนักเรยี นเหนอื ชื่อ-สกุล
1.7 เส้ือช้ันในใช๎ผ๎าสีขาว คอกระเช๎า หรือเส้ือบังทรงสีขาว (ในกรณีใสํเสื้อยกทรง)เอว
ยาวชนดิ เดียวกนั หา๎ มใสเํ สอ้ื ยดื คอกลมทบั ใน
2. กระโปรง
2.1 ใชผ๎ ๎ากรมทาํ เข๎ม เนื้อเรียบ แบบธรรมดา ไมํมลี วดลาย
2.2 มีจีบพับจีบออกนอกทัง้ ขวา และซ๎าย ข๎างละ 3 จีบ เย็บพับจีบจากเอวลงมา 6-12
ซ.ม.
2.3 ความยาวของกระโปรงเพียงใตเ๎ ขํา วัดกลางลูกสะบ๎าลงมาประมาณ 5 ซ.ม. และไมํ
สงู กวําก่งึ กลางลกู สะบา๎
2.4 ด๎านลํางพับยาวไมํเกิน 3 ซ.ม. ขอบกระโปรงสะเอวพับยาว 3 ซ.ม. เมื่อสวมใสํให๎
อยํูในแนวสะเอว ถ๎ามกี ระเป๋าให๎มีตามแนวตะเขบ็ ด๎านลาํ งเทํานน้ั
3. เข็มขดั
3.1 ใช๎เขม็ ขดั หนังสีดา ขนาดกว๎าง 2.5 ถงึ 4 ซ.ม. ยาวพอสวํ นปลายทมี่ ปี ลอกเข็มขัด
3.2 หัวเข็มขัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ๎า ทาด๎วยโลหะแตํหุ๎มด๎วยหนังสีดา ขนาดพอกับเข็ม
ขัด
3.3 หวั เขม็ ขัดและสายเขม็ ขดั ไมมํ ีลวดลาย ไมํมีการตกแตํง ไมํมีหมุดหรือสิง่ ประดับ
3.4 มีปลอกหนังสเี ดียวกบั เข็มขดั ขนาดพอเหมาะกบั เขม็ ขดั
3.5 นาชายเสือ้ สอบเข๎าไวใ๎ นกระโปรงใหเ๎ รียบรอ๎ ยและคาดเข็มขัด
4. ถุงเทา้
4.1 ถุงเท๎าสีขาว หรือถุงเท๎าท่ีมีพ้ืนกันเป้ือนสีเทาหรือสีดาเทํานั้น ความยาวไมํน๎อยกวํา
3 นิว้ จากก่งึ กลางตาตมุํ และยาวไมํเกินก่งึ กลางขาทอํ นลาํ งโดยใหพ๎ บั ขอบลงมา 2 พบั
4.2 อนุญาตให๎ใชแ๎ บบลกู ฟกู ได๎ ไมมํ ลี วดลาย
24
5. รองเท้า
5.1 รองเท๎าแบบห๎ุมส๎น หุ๎มปลายเท๎า หัวมน ชนิดมีสายรัดหลังเท๎า หรือรองเท๎าผ๎าใบสี
ดา
5.2 หนงั มันสดี า ไมมํ ลี วดลาย
5.3 สน๎ สูงไมเํ กนิ 3 ซ.ม.
5.4 รองเท๎าผ๎าใบสีขาวมีเชือกร๎อยเป็นแบบพลศึกษา ให๎ใช๎เฉพาะชั่วโมงพละศึกษา
เทาํ นั้น
มาตรา 28 นกั เรียนตอ๎ งปฏบิ ตั ติ นระหวํางเปน็ นักเรียนของโรงเรยี นหนองพระพทิ ยา ดังนี้
1. บทบาทหน๎าทีข่ องนักเรยี นตํอโรงเรียน
๑.๑ นกั เรียนพึงระลึกเสมอวําตนเป็นนักเรียนจะต๎องประพฤติตนให๎เป็นไปตามระเบียบ
ของโรงเรียน
๑.๒ นักเรียนจะตอ๎ งมผี ู๎ปกครองที่ถกู ตอ๎ งตามประกาศกระทรวงศกึ ษาธิการ พ.ศ. 2522
ถ๎านกั เรยี นเปล่ียนผูป๎ กครองใหมใํ หน๎ ักเรียนพาผป๎ู กครองใหมํมาทาการมอบตัวนักเรยี นใหมํดว๎ ย
๑.๓ นกั เรยี นต๎องมาโรงเรียนตามกาหนดเวลาของโรงเรยี นอยาํ งสมา่ เสมอ การหยุดเรียน
ด๎วยสาเหตุใดก็ตามจะต๎องปฏิบัติตามระเบียบการลา และการออกนอกโรงเรียนควรขออนุญาตตาม
ระเบียบใหถ๎ กู ตอ๎ ง
๑.๔ นักเรียนถึงปฏิบัติตนเป็นคนดี มีความขยันหมั่นเพียร ซ่ือสัตย์ สุจริต มีกิริยา วาจา
สุภาพอํอนโยน มสี ัมมาคารวะตํอบิดามารดา ตํอครู อาจารย์และบุคคลท่ัวไป
๑.๕ พงึ ระลกึ เสมอวําหน๎าที่หลักของนักเรียนคือ การเรียนรู๎ ไมํทะเลาะวิวาทในระหวําง
เพอ่ื นนักเรยี นในโรงเรียนเดยี วกัน และเพอ่ื นนักเรียนตํางโรงเรยี น
๑.๖ นักเรียนใช๎เวลาวํางให๎เกิดประโยชน์แกํตนเอง ครอบครัว และหมํูคณะ ชํวยกัน
สํงเสริมและสนบั สนุนกจิ กรรมตํางๆ ของโรงเรยี น
๑.๗ การมาโรงเรียนในวันหยุด นักเรียนจะต๎องแตํงกายให๎สุภาพเรียบร๎อยและจะต๎อง
ได๎รับอนุญาตจากผู๎ปกครองทุกคร้ัง ท้ังนี้โรงเรียนจะมีหนังสือแจ๎งให๎ผ๎ูปกครองทราบ นักเรียนชํวย
รักษาทรัพย์สิน ทรัพย์สมบัติของโรงเรียน มิให๎ทาลายแตกหักถ๎าเกิดความเสียหายเกิดขึ้น นักเรียน
จะตอ๎ งรบั ผิดชอบและชดเชยแกํโรงเรียน
๑.๘ นักเรยี นจะต๎องหมน่ั ศกึ ษาค๎นคว๎าหาความรู๎เพิ่มเติมดว๎ ยตนเองอยํูเสมอ
๑.๙ นักเรียนท่ขี ับขรี่ ถมอเตอรไ์ ซคม์ าโรงเรียนจะต๎องสวมหมวกนิรภัยหรือหมวกกันน็อค
และจะตอ๎ งนามาจอดภายในโรงรถทโี่ รงเรียนจดั ให๎
๑.๑๐ นกั เรียนจะต๎องใหค๎ วามสาคญั ตํอการอนุรักษ์ศิลปะขนบธรรมเนียมประเพณี และ
วัฒนธรรม อนรุ กั ษส์ ง่ิ แวดล๎อมของโรงเรียนและชมุ ชน
25
๑.๑๑ นักเรียนจะต๎องตระหนักถึงโทษของสารเสพติด และหลีกเลี่ยงการใช๎สารเสพติด
ทกุ ชนิด
๑.๑๒ นักเรยี นจะต๎องมคี วามรู๎เร่ืองโรคเอดส์ และสามารถปูองกันโรคได๎
๑.๑๓ นักเรียนหญิงและนักเรียนชายต๎องไมํแสดงพฤติกรรมในทางช๎ูสาว เชํน กอดกัน
ตบกนั นอนหนนุ ตัก หากพบ จะบนั ทึกและเชิญผู๎ปกครองมารับทราบพฤติกรรมเพื่อแก๎ปญั หาดังกลาํ ว
๑.๑๔ นกั เรียนจะตอ๎ งประพฤติชอบดว๎ ยกายวาจาใจ
2. บทบาทและหน้าที่ของนักเรียนตอ่ เพ่ือนนกั เรยี นในโรงเรียน
๒.๑ นักเรียนพึ่งรักษาความสามัคคใี นหมคํู ณะ
๒.๒ นักเรียนมีความสุภาพออํ นโยน
๒.๓ นักเรียนต๎องมคี วามเอือ้ เฟือ้ เผ่อื แผซํ ่งึ กนั และกนั
๒.๔ นักเรียนตอ๎ งใหเ๎ กยี รตกิ นั ฉันพีน่ ๎อง
๒.๕ นกั เรยี นต๎องมคี วามส่อื สัตย์ตอํ กนั
๒.๖ นกั เรียนต๎องมคี วามรับผิดรบั ผดิ ชอบรํวมกนั
๒.๗ นกั เรียนตอ๎ งเปน็ ผูน๎ าและผตู๎ ามทีด่ ี
๒.๘ นกั เรยี นต๎องอยรูํ วํ มกนั ในสังคมประชาธิปไตยไดอ๎ ยาํ งมีความสุข
๒.๙ นักเรียนต๎องเปน็ ผม๎ู ีน้าใจนักกฬี าอยาํ งแท๎จรงิ
๒.๑๐ นกั เรียนตอ๎ งใหก๎ ารชํวยเหลือเรอ่ื งการเรยี นซ่ึงกนั และกนั
มาตรา 29 นักเรียนต๎องดาเนินการเร่ืองการลาหยุด การขาดเรียน การมาสาย การออกนอกบริเวณ
โรงเรียน ดงั นี้
การลากจิ ลาป่วย
๑. ต๎องมีใบลาถึงครูที่ปรึกษาทุกครั้ง พร๎อมทั้งมีลายเซ็นของผ๎ูปกครอง(ซ่ึงลงไว๎ในวันมอบ
ตัว) ในวนั ทนี่ ักเรียนมาโรงเรียนวนั แรกหลังจากลา
๒. ถา๎ นักเรียนหยดุ เรียนไปแล๎วเกิน 3 วัน โดยทางโรงเรียนไมํทราบสาเหตุ ทางโรงเรียนจะ
ตดิ ตํอขอทราบเหตผุ ลโดยตรงกับผ๎ปู กครอง ซึ่งผ๎ูปกครองจะต๎องนาหนังสือการติดตํอของทางโรงเรียน
มาพบกบั ฝุายปกครองของโรงเรียนทนั ที เมือ่ ได๎รบั หนังสอื
การขาดเรียน
๑. หา๎ มนกั เรียนขาดเรียนโดยเด็ดขาด
๒. การขาดเรียนเป็นปกติถือวาํ “เปน็ ความประพฤตทิ ีไ่ มเํ หมาะสมกบั สภาพนักเรียน”
๓. การขาดเรียนติดตํอกันเกนิ 7 วัน โดยไมํทราบสาเหตุ หรือผ๎ปู กครองไม๎แจง๎ ให๎ทาง
โรงเรียนทราบ ทางโรงเรียนจะมีหนังสือถึงผ๎ูปกครองเพื่อแจ๎งเหตุผลให๎ทราบ ถ๎าหลังจากโรงเรียนมี
หนงั สือไปถึงผปู๎ กครองแล๎ว 7 วัน ผ๎ูปกครองยังไมํแจง๎ เหตุผลใหท๎ ราบ หรอื ไมมํ าติดตํอกับทางโรงเรียน
โรงเรียนจะถือวํานักเรียนไมํมีความประสงค์ท่ีจะเรียนตํอไป โรงเรียนจะจาหนํายช่ือออกจากโรงเรียน
เพราะขาดเรียนนาน
26
การมาสาย
๑. การมาสายเป็นประจา “เป็นความประพฤติท่ีไมํเหมาะสมกับสภาพนักเรียน” นักเรียน
ทุกคนต๎องมาใหท๎ นั เวลาเขา๎ แถว
๒. นักเรียนทุกคนต๎องมาถึงโรงเรียนกํอนเวลา 07.50 น. ถ๎ามาหลังนี้ถือวํามาสายและ
จะตอ๎ งถกู ตดั คะแนน
มาตรา 30 การลงโทษนักเรียนให๎เป็นไปตามระเบียบโรงเรียนซ่ึงเป็น ไปตามระเบียบ
กระทรวงศึกษาธกิ ารวาํ ดว๎ ยการลงโทษนกั เรยี นและนักศึกษา พ.ศ. 2555 ดงั นี้
๑. วาํ กลาํ วตักเตือน
๒. ตัดคะแนนความประพฤติ และบาเพ็ญประโยชน์สาธารณะ
๓. ทาทัณฑบ์ น (ผูป๎ กครองรับทราบ)
๔. ปรับเปลีย่ นพฤตกิ รรมโดยผ๎ูปกครองรบั ทราบ
๔.๑ เข๎าคํายพัฒนาคณุ ธรรมจรยิ ธรรมเพอ่ื ปรบั เปลย่ี นพฤติกรรม
๔.๒ ย๎ายสถานศกึ ษาเพอ่ื ปรับเปลย่ี นพฤตกิ รรมด๎านสังคมและสิ่งแวดล๎อมทด่ี ี
หมวดท่ี 6
คณะกรรมการสถานศกึ ษาศึกษาข้ันพน้ื ฐาน
มาตรา 3๑ คณะกรรมการสถานศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน มีองคป์ ระกอบ ดังนี้
๑. ประธานกรรมการ (มาจากกรรมการผทู๎ รงคุณวฒุ )ิ
๒. กรรมการท่เี ปน็ ผ๎ูแทนผู๎ปกครอง
๓. กรรมการทเี่ ป็นผูแ๎ ทนครู
๔. กรรมการทเี่ ป็นผ๎ูแทนองค์กรชุมชน
๕. กรรมการท่ีเป็นตัวแทนองค์กรปกครองสวํ นท๎องถ่นิ
๖. กรรมการที่เป็นผ๎แู ทนศษิ ย์เกํา
๗. กรรมการท่เี ปน็ ผ๎ูแทนพระภิกษุสงฆ์หรอื ผ๎ูแทนองค์กรศาสนาในพืน้ ท่ี
๘. กรรมการผ๎ทู รงคุณวฒุ ิ
๙. ผ๎อู านวยการสถานศึกษาเปน็ กรรมการและเลขานุการ
มาตรา 3๒ คณะกรรมการสถานศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน มีบทบาทหนา๎ ที่ ดังตํอไปนี้
๑. ให๎ความเหน็ ชอบ หลักสตู รสถานศึกษา และให๎ข๎อเสนอแนะในการพัฒนาหลักสูตรสถาน
ศึกษาใหส๎ อดคล๎องกบั หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน และความต๎องการของผ๎ูเรียน ชมุ ชน
และท๎องถนิ่
๒. ให๎ข๎อเสนอแนะ และสํงเสรมิ สนบั สนุนในการจดั บรรยากาศ สภาพแวดล๎อม กระบวน
การเรียนรู๎ แหลํงเรียนรู๎ ภูมิปญั ญาทอ๎ งถ่นิ ฯลฯ เพอ่ื การปรับปรงุ และพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา
ของสถานศึกษาอยํางตํอเนือ่ ง
27
๓. ให๎ความคิดเห็น เกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของข๎าราชการครูและบุคลากรทางการ
ศึกษาในสถานศกึ ษาตํอผูบ๎ ริหารสถานศกึ ษา
๔. ให๎ความเห็นชอบ แผนปฏิบัติการประจาปีและให๎ข๎อเสนอแนะเกี่ยวกับการจัดตั้ง และ
การใช๎งบประมาณของสถานศกึ ษา
๕. ให๎ความเห็นชอบ และเสนอแนะในการออกระเบียบข๎อบังคับ ประกาศและแนวปฏิบัติ
เก่ียวกับการบริหารการเงินและการจัดหารายได๎จากทรัพย์สินของสถานศึกษา หรือปฏิบัติหน๎าท่ีอ่ืน
เกย่ี วกับเร่อื งน้ตี ามทก่ี ฎหมาย ระเบียบประกาศ ฯลฯ กาหนด
๖. ให๎ความเห็นชอบ ข๎อเสนอแนะและให๎คาปรึกษาในการจัดทาแผนพัฒนาการศึกษาของ
สถานศึกษาให๎สอดคล๎องกับนโยบายและแผนของกระทรวงศึกษาธิการ สานักงานคณะกรรมการ
การศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน เขตพน้ื ทก่ี ารศึกษา ชุมชนและทอ๎ งถิ่น
๗. ใหค๎ วามเห็นชอบ เสนอแนะและใหค๎ าปรึกษา สนับสนุนเกี่ยวกับการระดมทรัพยากรเพ่ือ
การศึกษาที่มีคุณภาพรวมทั้งปกครองดูแลบารุงรักษา และจัดหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินของ
สถานศึกษาตามท่กี ฎหมาย ระเบยี บ ประกาศ ฯลฯ กาหนด
๘. ปฏิบัติหน๎าท่ีอ่ืนเก่ียวกับกิจการของสถานศึกษาตามท่ีกฎหมาย ระเบียบ ประกาศ ฯลฯ
กาหนดให๎เปน็ อานาจหน๎าทข่ี องคณะกรรมการสถานศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน
๙. ปฏิบัติหนา๎ ที่อ่นื ๆ ตามทีไ่ ดร๎ บั มอบหมายจากหนวํ ยงานต๎นสงั กัด
หมวดที่ ๗
วฒั นธรรมโรงเรยี นหนองพระพทิ ยา
มาตรา 3๓ โรงเรียนหนองพระพิทยา เป็นโรงเรียนประจาตาบลหนองพระ มีรูปแบบการบริหารเป็น
องค์คณะ เพือ่ ให๎นักเรยี นมสี มรรถนะอันประกอบด๎วย ความร๎ู ทักษะในศตวรรษที่ 21 และเจตคติที่ดี
ให๎สูงข้ึนกํอนการพัฒนา เกิดเป็นสมรรถนะประจาของนักเรียนแตํละคนท่ีสํงผลตํอคุณภาพชีวิตที่ดี
ปรับตัวให๎เข๎ากับสภาวการณ์ที่เปล่ียนแปลงไปของโลกได๎อยํางสมบูรณ์แบบ โดยผํานกิจกรรม
ดังตํอไปน้ี
1. กจิ กรรมวนั สาคัญของชาติ ศาสนา และพระมหากษัตรยิ ์ ได๎แกํ
1.1 วันคล๎ายวันพระราชสมภพ (พระบาทสมเด็จพระเจ๎าอยํูหวั และพระราชินี)
๑.๒ วนั คลา๎ ยวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดชบรมนาถ-
บพิตร (วนั ที่ ๑๓ ตุลาคม)
๑.๓ วันปยิ มหาราช (วันท่ี ๒๓ ตุลาคม)
1.4 วันมหาธีรราชเจา๎ (วนั ท่ี ๒๕ พฤศจิกายน)
1.๕ วนั พํอแหงํ ชาติ (วนั ที่ ๕ ธนั วาคม)
1.๖ วันแมํแหงํ ชาติ
1.7 วนั สาคัญทางพุทธศาสนา วันมาฆบชู า วนั วสิ าขบูชา วนั อาสาฬหบูชา และ วนั
เขา๎ พรรษา
28
2. วันสาคญั ของโรงเรียน ไดแ๎ กํ
2.1 วนั ไหวค๎ รู
2.2 วนั แขงํ ขันกีฬาสี
2.3 วนั สาคญั ตามกิจกรรมของกลํุมสาระการเรียนร๎ู
หมวดท่ี 8
การประกาศใช้ธรรมนูญโรงเรียน
มาตรา 3๔ ให๎โรงเรียนจดั พมิ พ์ต๎นฉบับธรรมนูญโรงเรียนหนองพระพิทยา อยํางน๎อยจานวน ๕ ฉบับ
มีข๎อความถูกต๎องตรงกัน เพื่อเป็นเอกสารหลักฐานแหํงธรรมนูญโรงเรียนนี้ รวมถึงหากมีการแก๎ไข
เพิ่มเตมิ ธรรมนญู โรงเรียนน้ีในภายหลงั ใหจ๎ ัดพมิ พข์ อ๎ ความการแก๎ไขเพ่มิ เตมิ ธรรมนูญโรงเรียนข้ึนใหมํ
ตํางหาก หรือการแก๎ไขเพิ่มเติมข๎อความจากธรรมนูญฉบับเดิมแล๎วจัดพิมพ์ขึ้นใหมํทั้งฉบับ โดยให๎
กาหนดวาํ เป็นฉบับแกไ๎ ขเพิ่มเติมพทุ ธศักราช.......... และเปน็ ลขิ สทิ ธ์ิของทางโรงเรียน
มาตรา ๓๕ ให๎เป็นหน๎าที่ของกลุํมบริหารบุคคล มีหน๎าท่ีเผยแพรํธรรมนูญโรงเรียนให๎กับครูและ
บุคลากรทางการศึกษาท่ีบรรจุหรือย๎ายมาใหมํ นักเรียน ผ๎ูปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาข้ัน
พื้นฐาน และบุคคลที่เก่ียวข๎อง ผํานทางหนังสือส่ิงพิมพ์ เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (E-book) หรือการ
นิเทศโดยตรง ตามความเหมาะสม
มาตรา ๓๖ ให๎โรงเรียนโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ประกาศใช๎
ธรรมนญู โรงเรยี น รวมถงึ หากมีการแก๎ไขเพ่มิ เติมธรรมนูญโรงเรียนซ่ึงอาจมีขึ้นในภายหลัง โดยให๎มีผล
ตั้งแตํวันท่ีประกาศใช๎เป็นธรรมนูญโรงเรียน และให๎โรงเรียนประกาศเป็นที่ทราบโ ดยท่ัวกัน
โรงเรยี นหนองพระพทิ ยา
หมู่ ๖ ตาบลหนองพระ อาเภอวงั ทอง จงั หวดั พษิ ณุโลก ๖๕๑๓๐
โทร ๐๖๓ ๑๒๘ ๒๕๕๕ www.nongpra.ac.th