The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

มหัศจรรย์ถ้ำภูผาเพชร

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pafan027, 2023-05-08 22:44:56

มหัศจรรย์ถ้ำภูผาเพชร

มหัศจรรย์ถ้ำภูผาเพชร

มหัศจรรย์ ถ ้ำภูผำเพชร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสงขลา สตูล สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ


“มหัศจรรย์ถ ้าภูผาเพชร” เป็นการนำเสนอเรื่องราวที่เกี่ยวกับ ความรู้ ความสวยงามที่ธรรมชาติสร้างขึ้นและการอนุรักษ์“ถ ้า” สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสงขลา สตูล หวัง เป็นอย่างยิ่งว่า หนังสือ “มหัศจรรยถ ้าภูผาเพชร” เล่มนี้จะเป็น หนังสือประกอบการอ่านเพิ่มเติมการเรียนประวัติศาสตร์ท้องถิ่น จังหวัดสตูล อีกทั้งเป็นสื่อในการประกอบในการศึกษาแหล่งเรียนรู้ แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษา เกิดความภาคภูมิใจในธรรมชาติของ ท้องถิ่นที่มีคุณค่า เกิดความรักและหวงแหนถิ่นกำเนิด ขอขอบพระคุณท่านผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษาสงขลา สตูล รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาสงขลา สตูล ผู้อำนวยการโรงเรียน รองผู้อำนวยการ โรงเรียนทุกท่าน คณะศึกษานิเทศก์และผู้ให้การสนับสนุน ความอนุเคราะห์ข้อมูลในเรื่องที่ต่างๆมา ณ โอกาสนี้ คณะจัดทำ ค ำน ำ


เรื่อง หน้า การเดินทางศึกษาถ ้าภูผาเพชร 1 เรียนรู้..ก่อนเที่ยวถ ้าภูผาเพชร 4 ความเป็นมา 8 ชวนชมมหัศจรรย์โถงถ ้าภูผาเพชร 11 บูรณาการเรียนรู้ 29 บรรณานุกรม 35 คณะผู้จัดทำ 37 สำรบัญ


การเดินทาง.. ศึ กษา ถ ้าภูผาเพชร


กำรเด ิ นทำง..ศึ กษำ..ถำ ้ ภผาำเชรร ู หน้ำ 2 ถ ้าภูผาเพชร ตั้งอยู่ในหมู่ที่ 9 บ้านควนดินดำ ตำบลปาล์มพัฒนา อำเภอมะนัง จังหวัดสตูล อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอ 27 กิโลเมตร ตามถนนที่ลาดยางตลอดสายจนถึง บริเวณถ ้าตั้งอยู่บนเทือกเขาหินปูน ในเขตทิวเขานครศรีธรรมราช ซึ่งเรียกว่า เขา บรรทัด ปากถ ้าหันไปทางทิศตะวันออก ทางขึ้นไม่ค่อยลาดชันนัก ความสูงจากพื้น ราบถึง ปากถ ้าประมาณ 50 เมตร ใช้เวลาในการเดินทางจากพื้นราบถึงจุดเข้าถ ้า ประมาณ 20 นาที ถ ้าภูผาเพชรเป็นถ ้าขนาดใหญ่ที่สุดของเมืองไทย และใหญ่ติด อันดับที่ 4 ของโลกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะที่คือ มีช่องทางเข้าอยู่บนหน้าผา ช่องเล็ก แต่เมื่อเข้าไปด้านในจะเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดสตูลมี เนื้อที่ภายในถ ้ากว่า 50 ไร่ หรือ 20,000 ตารางวา กว้างใหญ่มโหฬารธรรมชาติได้ รังสรรค์ไว้อย่างอัศจรรย์เพดานถ ้าสูงโปร่งมีหินงอกหินย้อยที่สวยงาม ซึ่งมีอายุมากกว่า100 ล้านปี


เวลำเข้ำถ ้ ำ ภผา ู ำเชรร หน้ำ 3 เปิดให้เข้าชมในเวลา 08.30- 16.00 น. โดยต้องมีเจ้าหน้าที่ไปด้วย ทุกกลุ่ม ภายในถ ้ามีไฟฟ้าส่องสว่าง แต่ควรมีไฟฉายไปด้วย ที่ปากถ ้ามีไฟ ฉายสำหรับให้เช่า แต่ในวันหยุด นักขัตฤกษ์นักท่องเที่ยวมาเที่ยวกันมาก ไฟฉายอาจจะไม่เพียงพอ ลานจอดรถ กว้างขวาง สามารถจอดได้หลายสิบคัน


..เรียนรู้.. ก่อน..เที่ยวถ ้าภูผาเพชร


การเที่ยวถ ้านับเป็นกิจกรรมหนึ่งที่มีความน่าตื่นเต้น บาง แห่งก็เข้าชมได้สะดวก และไม่ลึกมากเหมาะสำหรับมือใหม่ แต่ บางแห่งอาจมีความยากลำบากในการเข้าถึง และยังต้องรักษา ธรรมชาติไว้ไม่ให้เกิดความเสียหายต่อถ ้าอีกด้วย ดังนั้นจึงมี ข้อแนะนำในการไปเที่ยวถ ้า ดังนี้ 1 .การแต่งกาย ควรสวมเสื้อผ้าที่รัดกุม รองเท้าหุ้มส้น หมวก สำหรับกันหยดน ้า มูลค้างคาว และโขดหินต่าง ๆ อุปกรณ์เที่ยวถ ้า ไฟฉายหรือตะเกียงเป็นอุปกรณ์สำคัญ เพราะช่วยให้มองเห็น ทางเดินและสิ่งต่างๆ ได้ชัดเจน แต่ห้ามใช้คบไฟหรือเทียนไข เพราะ จะทำให้เกิดควันหรือเขม่าไฟลอยไปจับตามผนังถ ้า และหินงอก หินย้อยได้ 2. ช่วงเวลาเที่ยวถ ้า สามารถเที่ยวได้ตลอดปีแต่สำหรับถ ้าที่ มีน ้าไหลลอด จะเข้าได้เฉพาะฤดูแล้งเท่านั้น หากทางเข้าถ ้าอยู่ ติดกับทะเล อาจจะต้องพิจารณาช่วงเวลาน ้าขึ้น-ลงด้วย หน้ำ 5 เรยีนร้ ู..ก่ อนเที ย ่ วถ ้ ำ


1. ไม่จับ แตะ สัมผัส หินงอกหินย้อยหรือสิ่งที่เกิดจากการ สะสมตัวของหินปูน เพราะนอกจากจะเกิดการแตกหักแล้ว ไขมัน จากผิวหนังมนุษย์จะหยุดยั้งการสะสมของหินปูน 2. ไม่ขีดเขียนผนัง โขดหินหรือสิ่งต่าง ๆ ในถ ้า 3. ไม่ออกนอกเส้นทางที่จัดทำไว้ เพราะสร้างความเสียหายและ อาจหลงทางได้ไม่แยกตัวออกจากกลุ่ม 4. ไม่นำสิ่งต่าง ๆ ออกนอกถ ้า 5. ไม่ทิ้งขยะไว้ในถ ้า เพราะภายในถ ้ามีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่หลาย ชนิด การที่มีวัตถุแปลกปลอมจากภายนอก อาจทำให้ระบบนิเวศ ในถ ้าเปลี่ยนแปลงไป 6. ทำตัวให้อุ่น และแห้งให้มากที่สุด เลือกเสื้อผ้าที่ไม่ดูดซับ น ้า เช่น ผ้าร่มต่าง ๆ 7. ควรผ้าเช็ดหน้า หรือทิชชูเปียก 8. ควรพกยาดม ยาหม่องขนาดเล็กติดตัว เผื่อมีอากาศหายใจ ไม่ทัน หรือวิงเวียนศีรษะ หน้ำ 6 ข้ อปฏ ิบตัิในกำรเที ย ่ วถ ้ ำ


หน้ำ 7 ข้ อปฏ ิบตัิในกำรเที ย ่ วถ ้ ำ


ความเป็นมา.. ถ ้าภูผาเพชร


ชื่อ เดิมขอ งถ ้าภูผา เพช ร คือ“ถ ้า ลอด ถ ้า ยา ว ห รือ ถ ้า เพชร” เนื่องจากถ ้ามีความยาว มีลักษณะคดเคี้ยว แบ่งเป็นหลาย ตอนภายในถ ้ามีหินงอก หินย้อย เมื่อกระทบกับแสงไฟผนังถ ้ามี ประกายแวววาวเหมือนเพชร จึงเป็นที่มาของชื่อ ถ ้าเพชร มาก่อน ภายหลังชื่อเต็มอย่างเป็นทางการเรียกว่า ถ ้าภูผาเพชร ตามประวัติ ก ล ่ า ว ว ่ า เ มื่ อ ป ี พ . ศ . 2517 ค ร อ บ ค รั ว ข อ ง น า ย ช ่ ว ง และนางแดง รักทองจันทร์ ได้ย้ายเข้ามาอาศัยบริเวณถ ้ายาว เป็นครอบครัวแรก ล่วงมาปีพ.ศ. 2535 มีพระธุดงค์รูปหนึ่งมาตั้ง สำนักบริเวณถ ้ายาว อยู่ได้หนึ่งปี ก็จากไป ก่อนจากไปท่าน ได้บอกชาวบ้านว่าได้เห็นทางเข้าไปในถ ้ายาว มีถ ้าน้อยใหญ่อีก หลายถ ้า บางถ ้ามีพื้นที่กว้างขวางสวยงาม กระทั่งปี พ.ศ.2540 นายศักดิ์ชัย บุญคง สมาชิกสมาชิก องค์การบริหารส่วนตำบลปาล์มพัฒนา ได้ทำการสำรวจร่วมกับ ทางราชการและประชาชนชาว อำเภอมะนัง จึงได้เปิดโฉมหน้า ถ ้าภูผาเพชรให้คนทั่วไปได้รู้จัก โดยทั่วกัน ดังทุกวันนี้ หน้ำ 9 ควำมเป็ นมำ


หน้ำ 10 ภายในคูหาด้านทิศตะวันตกของถ ้าพบหลักฐานโบราณคดี เช่น ชิ้นส ่วนกระดูกมนุษย์ ชิ้นส ่วนกระดูกสัตว์ เปลือกหอย กระดอง เต่า เศษภาชนะดินเผา และภาชนะทรงพาน จากการสำรวจถ ้าภูผาเพชร วันที่ 16 – 19 มกราคม 2559 พบว่า ภายในถ ้าภูผาเพชรยังสามารถพบเศษภาชนะดินเผาอยู่บ้าง และ ปัจจุบันโบราณวัตถุที่เคยพบถูกเก็บรักษาอยู่ที่ องค์การบริหารส่วน ตำบลปาล์มพัฒนา จังหวัดสตูลแต่ไม่ได้มีการวิเคราะห์หรือศึกษาใน กระบวนการต่อไป ข้อมูลทางธรณีวิทยาระบุว่า ถ ้าภูผาเพชร มีลักษณะเป็นหินปูน เนื้อดินสีเทาดำ จัดอยู ่ในกลุ ่มหินทุ ่งสงยูคออร์โดวิเชียน (มีอายุ ประษณ 488-444 ล้านปี ออร์โดวิเชียน เป็นยุคที่ 2 ของมหายุค พาลีโอโซนิก) หลักฐำนทำงโบรำณคด ี


ชวนชม.. มหัศจรรย์โถงถ ้าภูผาเพชร


หน้ำ 12 เส้นทำง..ส ู ่โถงถ ้ ำ หลังจากที่กินอะไรรองท้องนิดหน่อยแล้ว เราก็อาจจะต้องมีน ้าติด ตัวไปด้วยสักขวด ตอนนี้ก็เดินไปตามทางป้ายบอก ก ่อนที่จะถึง บันไดขึ้นถ ้าจะมีซุ้มเจ้าหน้าที่อยู่ 1 ซุ้ม เป็นสถานที่สำหรับเช่าไฟ ฉาย อันละ 20 บาท จ่ายค่าเข้าชมคนละ 30 บาท จากนั้นเป็นทางเดินตรงเข้าไปในป่าไม่กี่เมตรก็จะเห็นบันได มีประมาณ 300 กว่าขั้น จำนวนที่แน่นอนนั้นจำไม่ได้ ระดับความ สูงจากพื้นที่เชิงเขา 50 เมตร แต่เพราะต้องขึ้นบันไดไปเรื่อยๆ จึง ทำให้รู้สึกว่ามันสูงกว่านั้นมาก เดินไปแค่ 50ขั้น มีศาลาให้นั่งพัก


หน้ำ 13 ถ ้าภูผาเพชร มีความยาว 536.6 เมตร กว้าง 50 เมตร ปากทางเข้าถ ้ามีลักษณะค่อนข้างแคบ ต้องมุดลอดเข้าไปในตัว ถ ้า ซึ่งมีลักษณะเป็นโพลง หลายคนคงคิดว่า ถ ้าน่ากลัว ทั้งมืด ทั้ง เหม็น เข้าไปก็ไม่เห็นจะมีอะไร ไม่อยากเข้าไป แต่ใครจะรู้ว่า ภายในถ ้าแห่งนี้ จะมีความสวยงามจากธรรมชาติ ที่ควรค่าแก่การ เยี่ยมชม ยิ่งใหญ่ กว้างขวาง และสวยงาม โดยมีหินย้อย หินน ้า ไหลจากเพดานถ ้า กลายเป็นห้องต่าง ๆ เมื่อเดินลงมาตามบันได เรื่อยๆ ตอนนี้เรามาอยู่บริเวณโคนเสาหินคู่ ตรงป้ายจะเขียนชื่อ บอกเอาไว้ เสาหินขนาดที่หลายคนช ่วยกันโอบถึงจะรอบนี้ชื่อ ว่า เสาค ้าสุริยัน


ห้องเสาค ้าสุริยัน เป็นห้องที่มีเสาหินที่สูงและโดดเด่น มี หินงอกทรงสูงที่มีลักษณะคล้ายเมอร์ไลอ้อน ที่เป็นสัญลักษณ์ ของประเทศสิงคโปร์ จากที่ทราบกันแล้วว่า เสาหิน เกิดจากหินย้อยและหินงอกที่ โตมาชนกัน ซึ่งภายในถ ้าแห่งนี้มีเพดานที่สูงมาก เมื่อหินงอก หินย้อยมาชนกัน ทำให้เสาหินที่เกิดขึ้นมีความสูงและโดดเด่น มาก หน้ำ 14 ห้ องเสำค ้ ำ สร ุ ยินั


ถ้าให้หินย้อย และหินงอกเกิดในเวลาพร้อมกันและ อัตราการหยดของน ้าจากเพดานถ ้า มีอัตราที่ต ่าจะเกิดหินย้อยยาว มากกว่าความสูงของหินงอกในทางตรงกันข้ามถ้าอัตราการหยด ของน ้าจากเพดานถ ้าในอัตราสูง จะเกิดหินงอกสูงมากกว่า ความ ยาวของหินย้อย ด้านตรงข้ามของเสาหินค ้าสุริยันที่มีสะพานทางเดินทอด ผ่านระหว่างกลางเป็นพังผืดหินย้อย หินย้อยที่เกิดเป็นกระจุก ติดกันไปหมดแบบนี้พบเห็นได้บ่อยภายในถ ้าหลายแห่ง ปกติ มักจะเกิดเป็นรูปร่างคล้ายๆ กับหัวช้าง จนบางทีก็มี 3 หัว ติดกัน ก็ดูคล้ายกับช้างเอราวัณไปเลยก็มี อย่างในกลุ่มนี้ก็ดูเหมือนจะมี ส่วนที่เหมือนหัวช้างเอามากๆ อยู่ 1 จุด หน้ำ 15


ห้องหัวพญานาค เป็นห้องที่อยู่บริเวณเดียวกันกับห้องเสาค ้า สุริยัน มีม่านหินย้อย และหินน ้าไหลที่มีรูปร่างเหมือนกับหัว พญานาค เนื่องจากปริมาณส่วนประกอบทางเคมี และความต่อเนื่องของ น ้าที่ ซึมไหล ทำให้เกิดม่านหินย้อยในแต่ละช่วงเวลามีความ แตกต่างกัน แถบแร่แคลไซต์จึงมีสีต่างกัน เป็นผลจากปริมาณ ของอนุภาคของธาตุอื่นที่ละลายในน ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งปริมาณ ของอนุภาคเหล็ก ถ้าปริมาณอนุภาคเหล็กที่ละลายในน ้ามีมาก จะ ทำให้แถบแร่แคลไซต์มีสีน ้าตาลแดง ถ้าปริมาณอนุภาคของ เหล็กมีน้อย จะทำให้แถบแร่แคลไซต์มีสีครีมถึงสีส้มจาง หน้ำ 16 ห้ องหั วชญำนำค


ห้องม ่านเพชร เป็นห้องที่มีหินน ้าไหลลักษณะคล้าย ผ้าม่านมีแร่แคลไซต์ที่มีความสะอาดสีขาว และเป็นประกายที่ สวยงามมาก หินน ้าไหลในห้องแห่งนี้ มีลักษณะการตกผลึกพอกเป็น ชั้น ๆ ด้านนอกจะมีลักษณะกลมมน โดยส่วนล่างเกิดเป็นแบบ ม่านหินย้อย บริเวณผิวของหินน ้าไหลจะเรียบๆ คล้ายกับกระดาษ บริเวณผิวของหินน ้าไหล มีลักษณะเป็นหลั่นขนาดเล็ก (พื้นที่แบบขั้นบันไดขนาดเล็ก) ประกอบด้วยทำนบและแอ่ง น ้าขนาดเล็กในหน่วยเซนติเมตร (ทั้งกว้างและลึก) มีชื่อเรียกว่า ไมโครเกาเออร์ (microgour) หน้ำ 17 ห้ องมำ่นเชรร


ห้องเห็ด เป็นห้องที่เชื่อมต่อกับห้องปะการัง มีหินงอกทรงสูง เกิดจากเพดานถ ้าสูงใหญ่ เมื่อน ้าหยดลงมาด้านล่าง ทำให้เกิดการ กระจายของน ้าที่มีตะกอนคาร์บอเนต ทำให้เกิดเป็นรูปร่างคล้ายเห็ด ยักษ์จำนวนมาก เรียกลักษณะนี้ว่า สแปร์ตเทอร์ไมท์ (Splattermites) หน้ำ 18 ห้ องเห็ ดและปะกำรงั


หน้ำ 19 หินงอก เกิดจากตะกอนหินปูนที่จับตัวเป็นแท่งสูง ขึ้น ไปจากพื้นถ ้าไปหาเพดานถ ้า หยดน ้าจากเพดานถ ้าผ ่าน ปลายหลอดกาแฟหรือปลายหินย้อยและหยดน ้ากระทบพื้น ภายในถ ้า เมื่อหยดน ้ากระทบพื้น น ้าจะแผ่ไหลเป็นแผ่นน ้า บางๆ ที่ไหลอย่างช้า ๆ ทุกทิศทาง หรือเคลือบอยู่บนผิวหิน งอก น ้าก็จะเกิดการสูญเสียก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จึงทำให้แร่ แคลไซต์สะสมตัวและค่อยๆสูงขึ้นจากพื้นถ ้า ห้องปะการัง เป็นห้องที่มีหินงอกและหินน ้าไหล เกิดจาก การสะสมตัวของสารประกอบคาร์บอเนตที่แสดง เป็นเม็ด ๆ คล้ายต้นของปะการัง


ห้องวังค้างคาวเป็นห้องที่มีความสูงมากที่สุดภายในถ ้าแห่ง นี้ โดยมีความสูงกว่า 50 เมตร ในช่วงฤดูฝนจะมีค้างคาว อาศัยอยู่จำนวนมาก มีหินงอก หินน ้าไหล และเสาหินขนาด ใหญ่จำนวนมากลักษณะคล้ายกับโดม มีหินงอกที่เกิดด้านบน หินที่ถล่มในอดีตเหมือนมองแล้วคล้ายกับพระพุทธรูป และ รูปร่างต่าง ๆ มากมาย โถงแห่งนี้ นอกจากจะมีความสวยจากประติมากรรมต่าง ๆ มากมายแล้ว บริเวณพื้นถ ้าเราจะพบกับหลุมยุบ ซึ่งสามารถ บอกได้ว่า บริเวณใต้พื้นถ ้าปัจจุบัน ยังมีโพรงลึก ที่เกิดจากการ ละลายของหินปูน เราจึงควรระมัดระวังในการเดินเพิ่มขึ้น เนื่องจากเราอาจสะดุดหลุม ทำให้ขาพลิกได้ นอกจากนี้ไม่ควร เข้าใกล้มากนัก และคอยสังเกตขนาดของหลุมบ่อยๆ ห้ องวงัคำ ้งคำวและโดมศิลำเชรร หน้ำ 20


หน้ำ 21 โคมศิลาเพชร เป็นหินงอกลักษณะคล้ายโคมไฟสีเหลือง ขนาดใหญ ่ยังมีน ้าละลายแคลเซียมคาร์บอเนตไหลผ ่าน เพดานถ ้ามาทับถม


ห้องดอกบัวคว ่า เป็นห้องที่บริเวณด้านหลังมีหินน ้าไหล และหินย้อยทรงดอกบัวขนาดใหญ่ และมีหินงอกแท่งเล็ก ๆ ทรงสูงจำนวนมากบริเวณด้านหน้าคล้ายถ้วยรางวัล กลุ่มหินย้อยพบได้บ่อยภายในถ ้า เกิดจากการเติบโตของ หินย้อยที่เกิดใกล้กัน การเกิดกลุ่มหินย้อยเกิดจากการตกผลึก ของแร่แคลไซต์ จากน ้าหยดไหลไปยังบริเวณที่หินย้อยโตมา ชนกัน เมื่อการตกผลึกของแร่แคลไซต์เกิดขึ้นบริเวณดังกล่าว หินย้อย 2 แท่ง ที่ติดกันจะกลายเป็นหินย้อยรูปร่างใหม่ 1 แท่ง รูปร่างของหินย้อยที่ซับซ้อนต่อมาเป็นผลจากการหยดไหลของ น ้าบริเวณผิวของกลุ่มหินย้อย เมื่อเวลาผ่านไปส่งผลทำให้เกิด รูปร่างของกลุ่มหินย้อยที่หลากหลาย หน้ำ 22 ห้ องดอกบวัคว ่ ำ


ห้องลานเพลิน เป็นห้องที่มีหินน ้าไหลขนาดใหญ่ โดยจะ ไหลลงมาบริเวณด้านหน้า ทำให้เกิดเป็นทำนบหินขนาดใหญ่ ลักษณะคล้ายกับขั้นบันไดไล่ระดับความสูงลงมาด้านล่างเรื่อย ๆ นอกจากนี้ลองสังเกตบนผนัง จะพบตะกอนโบราณสูงจากพื้นถ ้า ปัจจุบันประมาณ 9 เมตร หน้ำ 23 ห้ องลำนเชล ิ น


ห้องอ่างศิลาเล็กและกระบองเพชร (ห้องอ่างศิลาเล็ก) อ่างศิลา น้อยเกิดการตกผลึกของแร่แคลไซต์คลุมพื้นผิว และผนังถ ้าบน ผนังถ ้ายังมีการแตกของเพดานถ ้าทำให้เกิดหินย้อยและรวมทั้ง หินย้อยแบบหลอดโซดา เป็นห้องที่มีทำนบหินขนาดเล็กบริเวณ เพดานมีลักษณะโค้งเว้าเข้าไปในหินที่ไม่เท่ากัน เกิดจากใน อดีตทางน ้าไหล และละลายเพดานไม่เท่ากัน นอกจากนี้บนเพดานยังแสดงรอยแตกจำนวนมาก ทำให้ เมื่อน ้าหยดลงมาเราจะเห็นหินย้อยเกิดตาบริเวณรอยแตก และ บางบริเวณจะพบหลอดหินย้อยเกิดที่ปลายของหินย้อย ส่วนบริเวณพื้นด้านล่างจะพบหินงอก ทั้งขนาดเล็ก และ ขนาดใหญ่ เมื่อเพดานมีรอยแตกและมีน ้าไหลซึมลงมาก หินปูนก็จะถูก ละลาย พร้อมกับการตกผลึกใหม่ลักษณะยาวๆ คล้ายกับหลอดหิน ย้อยเมื่อเวลาผ่านไปหลอดก็จะมีความยาวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และเริ่ม พัฒนากลายเป็นหินย้อยขนาดใหญ่ขึ้น แต่สำหรับบางแห่งหิน ย้อยได้หักลงทั้งจากธรรมชาติเองและการกระทำของมนุษย์ เราก็ สามารถพบหลอดหินย้อยเกิดบริเวณปลายของหินย้อยได้ หน้ำ 24 ห้ องอำ่งศล ิำเล็ก


ห้องอ่างศิลาใหญ่ เป็นห้องที่แสดงลักษณะของทำนบหิน ที่มีขนาดใหญ่ โดยทำนบมีระดับไล่ลงไปทางโพรงถ ้าด้านล่าง ซึ่งเป็นโถงถ ้าที่มีน ้าไหลผ่าน นอกจากนี้บริเวณเพดานมีหิน ย้อย จำนวนมากด้วย อ่างศิลาใหญ่ (Rimstone Pools) เกิดจากน ้าที่ไหลลงมา ตามความลาดชัน ชั้นน ้าบางมากบนพื้นที่ค ่อนข้างใหญ ่มี พื้นผิวขนาดใหญ ่ เนื่องจากพื้นผิวขนาดใหญ ่ทำให้น ้า สูญเสียคาร์บอนไดออกไซด์สู่บรรยากาศในถ ้าและเป็นผลให้ แคลไซต์ตกตะกอนเกิดทำนบน ้าขนาดใหญ ่ติดต ่อลดหลั่น กันลงมา น ้าไหลบนผนังถ ้า บริเวณที่มีความชันมากน ้าจะไหล เร็ว แคลไซต์จะตกผลึกได้มากขึ้น เมื่อเวลาผ ่านไปทำนบ หินปูนสูงมากขึ้น ทำให้เกิดแอ่งน ้า บริเวณต้นน ้า ถ้าเรา สังเกตดี ๆ จะพบกับเม็ดตะกอนกลม ๆ เล็ก ๆ จำนวนมากอยู่ บริเวณด้านในทำนบหินปูน เม็ดตะกอนเหล่านี้ เกิดจากการ พอกของสารประกอบคาร์บอเนต เรียกว่า ไข่มุกถ ้า ห้ องอำ่งศล ิำใหญ่ หน้ำ 25


ลานแสงมรกต เป็นที่โล่งกว้าง เกิดจากการถล่มลงมาของ เพดานด้านบน ที่มีรอยแตกจำนวนมาก ทำให้มีแสงส่องลงมา ภายในถ ้าคล้ายรูปหัวใจ เรียกว่า “ปล่องแสง” และเพดาน ถ ้าที่ถล่มลงมานั้น เราจะเรียกว่า “หินถล่ม” หรือ Rockfall เมื่อเวลาผ่านไปก็จะเกิด “สาหร่ายและไลเค่น” (algae & Lichen) ในบริเวณดังกล่าวเราจึงเห็นว่ามีสีเขียวคล้ายกับ มรกตจึงเรียกว่า ลานแสงมรกต นอกจากนี้ บริเวณผนังด้าน ซ้ายมือยังพบกับซากดึกดำบรรพ์ทะเลโบราณด้วย หน้ำ 26 ลำนแสงมรกต


หน้ำ 27


ห้องพญานาคพันเป็นห้องด้านในสุดของถ ้าภูผาเพชร ปรากฎร่องรอยน ้าโบราณ แสดงให้เห็นชัดเจน สันนิษฐานว่า เป็นระดับน ้าในอดีตที่ท่วมแช่ขังพื้นที่โถงนี้เป็นเวลายาวนาน มากและเมื่อถ ้ามีการวิวัฒนาการเกิดการยกตัวของแผ่นดินหรือ การทรุดตัวของของแผ่นดินรวมทั้งการเปลี่ยนแปลงของเส้นทาง น ้า ร่องรอยนี้ยังปรากฎให้เห็นอย่างชัดเจนจนถึงปัจจุบัน จาก ภาพ คือ บริเวณที่เป็นเส้นขนานกับพื้นถ ้า นอกจากนี้ ด้าน ในยังมีหินน ้าไหล และกลุ่มหินย้อยขนาดใหญ่ บริเวณพื้นทางเดินก ่อนถึงห้องพญานาคพัน พื้นจะมี ลักษณะเป็นตะปุ่มตะป ่า ตามความเชื่อของชาวบ้าน สิ่งนี้ คือ เกล็ดพญานาค แต่ถ้าในทางวิทยาศาสตร์ บริเวณพื้นที่เกิด จากการไหลของน ้าหลายทิศทางตัดกัน ทำให้เกิดเป็นร่องที่ เกิดจากทางน ้าและเหลือเป็นตะปุ่มตะป ่าบนพื้นถ ้าขึ้น หน้ำ 28 ห้ องชญำนำคนับชัน


บูรณาการเรียนรู้..


หน้ำ 30 ณ ถ ้าภูผาเพชร อยู ่ใน จังหวัดสตูล ถือเป็นดินแดน แห่ง ฟอสซิล เพราะก้อนหิน แ ถ บ ทุ ก ที่ เ ป ้ น หิ น ปู น หินดินดาน จะพบซากดึกดำ บรรพ์ของสัตว์โบราณในยุค สมัยนั้น เช่น สโตมาโตไลต์ หรือ เรียกว่า หินสาหร่าย บูรณำกำรเรยีนร้ ..ู ประวัต ิศำสตร์วิ ทยำศำสตร์ แกรปโตไลท์“รอยเขียน บนหิน” เป็นสัตว์ทะเลขนาด เล็กกี่งมีกระดูกสันหลัง เป็น สัตว์ทะเลขนาดเล็กที่อยู่รวมกัน เป็นกลุ ่ม ดำรงชีพโดยการ ลอยตัวในน ้าทะเล กินแพลงก์ ตอน ลำตัวของมันจ ะอ ยู ่ใน ปล่องท่อสั้นๆ เชื่อมต่อกัน ไทรโลไบท์ “ฟอสซิล แ ม ง ด า ท ะ เ ล โ บ ร า ณ ” มี มากกว่า 20000 สปีชีส์จาก การสำรวจธรณีวิทยาของจ.สตูล เป็นจังหวัดที่พบไทรโลไบท์ จำนวนมากและหลากหลาย สายพันธุ์ที่สุด


หน้ำ 31 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานมีนโยบาย สำคัญในเรื่องการจัดการเรียนการสอนบูรณาการห้องเรียนรวม รายวิชา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสงขลา สตูลเห็น ความสำคัญจึงได้สร้างความตระหนัก และส่งเสริม สนับสนุนให้ สถานศึกษาได้จัดกิจกรรมบูรณาการห้องเรียนเรียนรวมจาก แหล่งเรียนรู้ภายในจังหวัดให้แก่นักเรียน ซึ่งจังหวัดสตูลเป้น จังหวัดแห่ง ธรณีวิทยา และมรดกโลก โดยครั้งนี้โรงเรียนปาล์ม พัฒนวิทย์ จังหวัดสตูลได้จัดกิจกรรมบูรณาการประวัติศาสตร์และ วิทยาศาสตร์ รวมทั้งสาขาวิชาอื่นๆ โดยออกแบบให้นักเรียน ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์“ถ ้าภูผาเพชร” , วิทยาศาสตร์เกี่ยวกับ ธรณีวิทยาและพืชที่อยู่ในบริเวณถ ้าภูผาเพชร ผ่านกระบวน ค้นคว้าความรู้จากการสำรวจสถานที่จริง ใช้เทคโนโลยีในการ ค้นหาชนิดของพืช กระบวนการกลุ่มในการรวบรวมข้อมูล และ นำเสนอผลการค้นคว้า


หน้ำ 32


หน้ำ 33 บูรณำกำรเรยีนร้ ..ู


สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสงขลา สตูลส ่งเสริม สนับสนุนให้ สถานศึกษาได้จัดกิจกรรมบูรณาการห้องเรียนเรียนรวมวิชาจากแหล่งเรียนรู้ ภายในจังหวัดให้แก่นักเรียนทั้ง 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสงขลา และสตูล ผ่านการนิเทศ ติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา ตั้งแต ่หลักสูตร โครงสร้างหลักสูตร รายวิชาบูรณาการหรือรายวิชาเพิ่มเติม กิจกรรมบูรณา การ โดยใช้แหล่งเรียนรู้ เน้นทักษะการปฏิบัติจริง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริบท ท้องถิ่นของสถานศึกษา ที่ส ่งเสริมให้นักเรียนเกิดทักษะการเรียนรู้ใน ศตวรรษที่ 21 มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ รักถิ่นฐานบ้านเกิด และมีงานทำ สิ่งสำคัญนักเรียนมีความสุข ตามที่จุดเน้นของสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาสงขลา สตูล คือ ครูและนักเรียนมีความสุขกับการเรียนการสอน หน้ำ 34


บรรณานุกรม


หน้ำ 36 กรมทรัพยากรธรณี. (2560). คู่มือผู้เล่นเรื่องธรณี ถ ้าเลสเตโกดอน ฉบับหินประดับถ ้า. ชัยพร ศิริพรไพบูลย์. รวมคำศัพท์เรื่องถ ้า คาสต์ และคำศัพท์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง (Cave, Kirst and Other Related Terms), สำนัก อนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรน ้าบาดาล กรมทรัพยากรน ้าบาดาล ปรับปรุงล่าสุด 1 มกราคม 2552). ชัยพร ศรีพรไพบูลย์. ข้อมูลงานนำเสนอ เรื่อง การสำรวจถ ้า : โอกาสทองของนักธรณีวิทยาไทยบรรยายพิเศษ ณ กรมทรัพยากรธรณี. (27 กันยายน 2554). ชัยพร ศิริพรไพเราะ ข้อมูลงานนำเสนอเรื่อง หินปูน : การกำเนิด การพัฒนา และการอนุรักษ์บรรยายพิเศษ ณ กรมทรัพยากรธรณี (27 กันยายน 2554). รัสรินทร์ศิริภัทรภูรินนท์และคณะ.(2558). รายงานผลการสำรวจ และจัดทำแผนผังถ ้าภูผาเพชร สำนักงานทรัพยากรธรณีเขต 4 กรม ทรัพยากรธรณี https://en.mahidol.ac.th/index.php/2022-05-25-10-38- 37/53-sdg/2022-04-11-04-09-38/277-2022-04-27-07-43- 27?fbclid=IwAR2DGuvmAn_B9aY5c84GcNla95WJFQkICYFaXSw9En7cNvmcq37P6n-40k https://www.touronthai.com/article/3501?fbclid=IwAR3 hieuZEavjaHHeOJhxJ7g6p4Ps4bMlm63DMDTWohvab49fcW K6edjCO8A บรรณำนุกรม


คณะจัดท า


หน้ำ 38 ที่ปรึกษา 1. นายประสิทธิ์ หนูกุ้ง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสงขลา สตูล 2. นางนฤนันท์ เพชรสุวรรณ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสงขลา สตูล 3. นายการุณ ชูช่วย รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสงขลา สตูล ผู้จัดทำ 1. นางสาวเนตรทราย คงอนุวัฒน์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสงขลา สตูล 2. นางสาวประจวบ พุทธวาศรี ผู้อำนวยการกลุ่มนิเทศ ติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา 3. นางเหมือนฝัน เกื้อหนุน ศึกษานิเทศก์ สพม.สงขลา สตูล 4. นางสาวใกล้รุ่ง สำเภาทอง ศึกษานิเทศก์ สพม.สงขลา สตูล 5. นายเอนก อมราพิทักษ์ รองผู้อำนวยการโรงเรียนปากจ่าวิทยา 6. นางรัตนันต์ สมพงศ์ รองผู้อำนวยการโรงเรียนระโนดวิทยา 7. นางสาวเครือศรี ศิริภักดี รองผู้อำนวยการโรงเรียนระโนดวิทยา 8. นางสาวกุลธิดา วงศ์วาทยกร รองผู้อำนวยการโรงเรียนควนเนียงวิทยา 9. นางสุนัยน์ราห์ เพียรกิจ รองผู้อำนวยการโรงเรียนควนเนียงวิทยา 10. นางสุไรหย้า หลีสันมะหมัด รองผู้อำนวยการโรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย 11. นางนันทวรรณ พันธ์เพชร รองผู้อำนวยการโรงเรียนหาดใหญ่รัฐประชาสรรค์ ผู้จัดพิมพ์ 1. นางสาวพิมพิลาศ ชุมวงศ์ เจ้าหน้าที่ธุรการ สพม.สงขลา สตูล 2. นางสาวกนกพรรณ คงแก้ว นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา 3. นางสาวสรินธร วีระกุล นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา 4. นางสาวทิพเกสร เจียมตระกูล นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา คณะจัดท ำ


สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสงขลา สตูล สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ มหัศจรรย์ถ ้ำภูผำเพชร


Click to View FlipBook Version