แผนการจัดการเรียนรู้ รหัสวิชา ท๒๑๑o๑ ผู้สอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา ต าแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชา ภาษาไทย (ท21๑๐๑) นางสาวนฤมล โมราชาติ เลขประจำตัวสอบ 192020055 กลุ่มวิชาเอกภาษาไทย ผู้สอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ก คำนำ แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาภาษาไทยพื้นฐาน (ท21๑๐๑) เล่มนี้ จัดทำขึ้นเพื่อใช้ประเมิน การแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคคลากรทางการศึกษา ประกอบ ไปด้วย หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560) ตัวชี้วัดรายวิชา ภาษาไทย คำอธิบายรายวิชา โครงสร้างรายวิชาภาษาไทย กำหนดการสอน แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชา ภาษาไทยพื้นฐาน ซึ่งเกิดจากการวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด โดยยึดหลักผู้เรียนเป็นสำคัญ เปลี่ยนบทบาทครูผู้สอนเป็นผู้ออกแบบการเรียนรู้ วิธีการและกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจ ที่คงทนมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ตามมาตรฐานหลักสูตร บูรณาการกับทักษะ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่า แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาภาษาไทยพื้นฐาน (ท21๑๐๑) เล่มนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นไปตามหลักการและบรรลุ จุดมุ่งหมายของหลักสูตร หากมีข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงแก้ไข ข้าพเจ้ายินดีรับฟังคำติชม และจะนำไปเป็น แนวทางแก้ไขในโอกาสต่อไป นฤมล โมราชาติ
ข สารบัญ เรื่อง หน้า คำนำ....................................................................................................... .................... ก สารบัญ................................................................................................... ..................... ข 1 หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560) 1 2 ตัวชี้วัดรายวิชาภาษาไทยพื้นฐาน (ท21๑0๑).…………..………………….…………………… 5 3 คำอธิบายรายวิชา....................................................................................................... . 9 4 โครงสร้างรายวิชาภาษาไทย........................................................................................ 10 5 กำหนดการสอน........................................................................................................... 11 6 แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาภาษาไทยพื้นฐาน (ท21๑0๑).................................... 13 สาระการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด…………………………………..…. 13 จุดประสงค์การเรียนรู้....................................................................................... 13 สาระสำคัญ....................................................................................................... 13 สาระการเรียนรู้................................................................................................ 13 สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน.............................................................................. 13 คุณลักษณะอันพึงประสงค์............................................................................... 14 กิจกรรมการเรียนรู้........................................................................................... 14 สื่อการเรียนรู้.................................................................................................... 15 การวัดและประเมินผลการเรียนรู้..................................................................... 16 บันทึกหลังสอน................................................................................................. 17 เกณฑ์การประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics)................................................ 18 แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรม....................................................... 19 7 ภาคผนวก.................................................................................................................... 21
๑ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐) วิสัยทัศน์ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคน ซึ่งเป็นกำลังของชาติให้เป็น มนุษย์ที่มีความสมดุลทั้งด้านร่างกาย ความรู้ คุณธรรม มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและ เป็นพลโลก ยึดมั่นในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความรู้และทักษะพื้นฐาน รวมทั้งเจตคติที่จำเป็นต่อการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพและการศึกษา ตลอดชีวิต โดยมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญบนพื้นฐานความเชื่อว่า ทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเอง ได้เต็มตามศักยภาพ หลักการ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีหลักการที่สำคัญ ดังนี้ ๑. เป็นหลักสูตรการศึกษาเพื่อความเป็นเอกภาพของชาติ มีจุดหมายและมาตรฐาน การเรียนรู้ เป็นเป้าหมายสำหรับพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีความรู้ ทักษะ เจตคติ และคุณธรรม บนพื้นฐานของความเป็นไทยควบคู่กับความเป็นสากล ๒. เป็นหลักสูตรการศึกษาเพื่อปวงชนที่ประชาชนทุกคนมีโอกาสได้รับการศึกษา อย่างเสมอภาค และมีคุณภาพ ๓. เป็นหลักสูตรการศึกษาที่สนองการกระจายอำนาจ ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา ให้สอดคล้องกับสภาพและความต้องการของท้องถิ่น ๔. เป็นหลักสูตรการศึกษาที่มีโครงสร้างยืดหยุ่นทั้งด้านสาระการเรียนรู้ เวลาและการจัด การเรียนรู้ ๕. เป็นหลักสูตรการศึกษาที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ๖. เป็นหลักสูตรการศึกษาสำหรับการศึกษาในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย สามารถเทียบโอนผลการเรียนรู้และประสบการณ์ จุดหมาย หลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี มีปัญญา มีความสุข มีศักยภาพใน การศึกษาต่อ และประกอบอาชีพจึงกาหนดเป็นจุดหมายเพื่อให้เกิดกับผู้เรียนเมื่อจบการศึกษา ขั้นพื้นฐาน ดังนี้ ๑. มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ เห็นคุณค่าของตนเอง มีวินัยและปฏิบัติ ตนตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ตนนับถือยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๒. มีความรู้ ความสามารถในการสื่อสาร การคิด การแก้ปัญหา การใช้เทคโนโลยีและมีทักษะ ชีวิต ๓. มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี มีสุขนิสัย และรักการออกกำลังกาย ๔. มีความรักชาติ มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ยึดมั่นในวิถีชีวิตและ การปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ๕. มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย การอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อม มีจิตสาธารณะที่มุ่งทำประโยชน์และสร้างสิ่งที่ดีงามในสังคม และอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในการพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนดซึ่งจะช่วยให้ ผู้เรียนเกิดสมรรถนะสำคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ดังนี้
๒ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะสำคัญ ๕ ประการ ดังนี้ ๑. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสารมีวัฒนธรรมในการใช้ ภาษาถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสารและประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมทั้งการเจรจาต่อรอง เพื่อขจัดและลดปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและ ความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใช้วิธีการสื่อสาร ที่มีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบที่มีต่อตนเอง และสังคม ๒. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิด อย่างสร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้ หรือสารสนเทศเพื่อการตัดสินใจเกี่ยวกับตนเองและสังคมได้อย่างเหมาะสม ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่เผชิญได้อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ประยุกต์ ความรู้มาใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหา และมีการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบ ที่เกิดขึ้นต่อตนเอง สังคมและสิ่งแวดล้อม ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนากระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ใน การดำเนินชีวิตประจำวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทำงานและการอยู่ ร่วมกันในสังคมด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและ ความขัดแย้งต่าง ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและ สภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ที่ส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือกและใช้เทคโนโลยีด้าน ต่าง ๆ และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคมในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การทำงาน การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ถูกต้องเหมาะสมและมีคุณธรรม คุณลักษณะอันพึงประสงค์ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข ในฐานะเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ดังนี้ ๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ๒. ซื่อสัตย์สุจริต ๓. มีวินัย ๔. ใฝ่เรียนรู้ ๕. อยู่อย่างพอเพียง ๖. มุ่งมั่นในการทำงาน ๗. รักความเป็นไทย ๘. มีจิตสาธารณะ นอกจากนี้ สถานศึกษาสามารถกำหนดคุณลักษณะอันพึงประสงค์เพิ่มเติมให้สอดคล้องตาม บริบทและจุดเน้นของตนเอง
๓ มาตรฐานการเรียนรู้ การพัฒนาผู้เรียนให้เกิดความสมดุล ต้องคำนึงถึงหลักพัฒนาการทางสมองและพหุปัญญา หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงกำหนดให้ผู้เรียนเรียนรู้ ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ดังนี้ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ภาษาต่างประเทศ ในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ได้กำหนดมาตรฐานการเรียนรู้เป็นเป้าหมายสำคัญของการ พัฒนาคุณภาพผู้เรียน มาตรฐานการเรียนรู้ระบุสิ่งที่ผู้เรียนพึงรู้ปฏิบัติได้ มีคุณธรรมจริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์เมื่อจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน นอกจากนั้นมาตรฐานการเรียนรู้ยังเป็นกลไก สำคัญในการขับเคลื่อนพัฒนาการศึกษาทั้งระบบ เพราะมาตรฐานการเรียนรู้จะสะท้อนให้ทราบว่า ต้องการอะไร จะสอนอย่างไร และประเมินอย่างไร รวมทั้งเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบเพื่อ การประกันคุณภาพการศึกษาโดยใช้ระบบการประเมินคุณภาพภายในและการประเมินคุณภาพ ภายนอก ซึ่งรวมถึงการทดสอบระดับเขตพื้นที่การศึกษา และการทดสอบระดับชาติระบบการ ตรวจสอบเพื่อประกันคุณภาพดังกล่าวเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยสะท้อนภาพการจัดการศึกษาว่าสามารถ พัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามที่มาตรฐานการเรียนรู้กำหนดเพียงใด ตัวชี้วัด ตัวชี้วัดระบุสิ่งที่นักเรียนพึงรู้และปฏิบัติได้ รวมทั้งคุณลักษณะของผู้เรียนในแต่ละระดับชั้น ซึ่งสะท้อนถึงมาตรฐานการเรียนรู้ มีความเฉพาะเจาะจงและมีความเป็นรูปธรรม นำไปใช้ในการ กำหนดเนื้อหา จัดทำหน่วยการเรียนรู้ จัดการเรียนการสอน และเป็นเกณฑ์สำคัญสำหรับการวัด ประเมินผลเพื่อตรวจสอบคุณภาพผู้เรียน ๑. ตัวชี้วัดชั้นปี เป็นเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียนแต่ละชั้นปีในระดับการศึกษาภาคบังคับ (ประถมศึกษาปีที่ ๑ – มัธยมศึกษาปีที่ ๓) ๒. ตัวชี้วัดช่วงชั้น เป็นเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (มัธยมศึกษาปีที่ ๔- ๖)
๔ สาระและมาตรฐานการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สาระที่ ๑ การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาใน การดำเนินชีวิตและมีนิสัยรักการอ่าน สาระที่ ๒ การเขียน มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวใน รูปแบบต่างๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่าง มีประสิทธิภาพ สาระที่ ๓ การฟัง การดู และการพูด มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และ ความรู้สึกในโอกาสต่างๆ อย่างมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์ สาระที่ ๔ หลักการใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลัง ของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ สาระที่ ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็น คุณค่าและนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง
๕ ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ สาระที่ ๑ การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหา ในการดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.๑ ๑. อ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว และ บทร้อยกรองได้ถูกต้องเหมาะสม กับเรื่องที่อ่าน การอ่านออกเสียง ประกอบด้วย - บทร้อยแก้วที่เป็นบทบรรยาย - บทร้อยกรอง เช่น กลอนสุภาพ กลอนสักวากาพย์ยานี ๑๑ กาพย์ฉบัง ๑๖ กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘ และโคลงสี่สุภาพ ๒. จับใจความสำคัญจากเรื่องที่อ่าน ๓. ระบุเหตุและผล และข้อเท็จจริง กับ ข้อคิดเห็นจากเรื่องที่อ่าน ๔. ระบุและอธิบายคำเปรียบเทียบ และคำที่มีหลายความหมายใน บริบทต่าง ๆ จากการอ่าน ๕. ตีความคำยากในเอกสารวิชาการ โดยพิจารณาจากบริบท ๖. ระบุข้อสังเกตและควา สมเหตุสมผล ของงานเขียนประเภทชักจูง โน้มน้าวใจ การอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ เช่น - เรื่องเล่าจากประสบการณ์ - เรื่องสั้น - บทสนทนา - นิทานชาดก - วรรณคดีในบทเรียน - งานเขียนเชิงสร้างสรรค์ - บทความ - สารคดี - บันเทิงคดี - เอกสารทางวิชาการที่มีคำ ประโยค และข้อความที่ต้องใช้บริบทช่วยพิจารณา ความหมาย - งานเขียนประเภทชักจูงโน้มน้าวใจเชิง สร้างสรรค์ ๗. ปฏิบัติตามคู่มือแนะนำวิธีการใช้ งานของเครื่องมือหรือเครื่องใช้ใน ระดับที่ยากขึ้น การอ่านและปฏิบัติตามเอกสารคู่มือ ๘. วิเคราะห์คุณค่าที่ได้รับจากการ อ่าน งานเขียนอย่างหลากหลายเพื่อ นำไปใช้แก้ปัญหาในชีวิต การอ่านหนังสือตามความสนใจ เช่น - หนังสือที่นักเรียนสนใจและเหมาะสมกับวัย - หนังสืออ่านที่ครูและนักเรียนกำหนดร่วมกัน ๙. มีมารยาทในการอ่าน มารยาทในการอ่าน
๖ สาระที่ ๒ การเขียน มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวใน รูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่าง มีประสิทธิภาพ ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.๑ ๑. คัดลายมือตัวบรรจงครึ่งบรรทัด การคัดลายมือตัวบรรจงครึ่งบรรทัดตาม รูปแบบการเขียนตัวอักษรไทย ๒. เขียนสื่อสารโดยใช้ถ้อยคำถูกต้อง ชัดเจน เหมาะสม และสละสลวย การเขียนสื่อสาร เช่น - การเขียนแนะนำตนเอง - การเขียนแนะนำสถานที่สำคัญๆ - การเขียนบนสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ๓. เขียนบรรยายประสบการณ์โดย ระบุ สาระสำคัญและรายละเอียด สนับสนุน การบรรยายประสบการณ์ ๔. เขียนเรียงความ การเขียนเรียงความเชิงพรรณนา ๕. เขียนย่อความจากเรื่องที่อ่าน การเขียนย่อความจากสื่อต่าง ๆ เช่น เรื่อง สั้น คำสอน โอวาท คำปราศรัย สุนทรพจน์ รายงาน ระเบียบ คำสั่ง บทสนทนาเรื่อง เล่า ประสบการณ์ ๖. เขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ สาระจากสื่อที่ได้รับ การเขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสาระ จาก สื่อต่าง ๆ เช่น - บทความ - หนังสืออ่านนอกเวลา - ข่าวและเหตุการณ์ประจำวัน - เหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ๗. เขียนจดหมายส่วนตัวและ จดหมาย กิจธุระ การเขียนจดหมายส่วนตัว - จดหมายขอความช่วยเหลือ - จดหมายแนะนำ การเขียนจดหมายกิจธุระ - จดหมายสอบถามข้อมูล ๘. เขียนรายงานการศึกษาค้นคว้า และโครงงาน การเขียนรายงาน ได้แก่ - การเขียนรายงานจากการศึกษาค้นคว้า - การเขียนรายงานโครงงาน ๙. มีมารยาทในการเขียน มารยาทในการเขียน
๗ สาระที่ ๓ การฟัง การดู และการพูด มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และความรู้สึกในโอกาสต่าง ๆอย่างมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์ ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.๑ ๑. พูดสรุปใจความสำคัญของเรื่องที่ฟัง และดู ๒. เล่าเรื่องย่อจากเรื่องที่ฟังและดู ๓. พูดแสดงความคิดเห็นอย่าง สร้างสรรค์เกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและดู ๔. ประเมินความน่าเชื่อถือของสื่อ ที่มีเนื้อหาโน้มน้าวใจ การพูดสรุปความ พูดแสดงความรู้ ความคิด อย่างสร้างสรรค์จากเรื่องที่ฟังและดู การพูดประเมินความน่าเชื่อถือของสื่อที่ มี เนื้อหาโน้มน้าว ๕. พูดรายงานเรื่องหรือประเด็นที่ ศึกษาค้นคว้าจากการฟัง การดู และการสนทนา การพูดรายงานการศึกษาค้นคว้าจาก แหล่ง เรียนรู้ต่าง ๆ ในชุมชน และท้องถิ่นของ ตน ๖. มีมารยาทในการฟัง การดู และการ พูด มารยาทในการฟัง การดู และการพูด สาระที่ ๔ หลักการใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของ ภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.๑ ๑. อธิบายลักษณะของเสียงใน ภาษาไทย เสียงในภาษาไทย ๒. สร้างคำในภาษาไทย การสร้างคำ - คำประสม คำซ้ำ คำซ้อน - คำพ้อง ๓. วิเคราะห์ชนิดและหน้าที่ของคำใน ประโยค ชนิดและหน้าที่ของคำ ๔. วิเคราะห์ความแตกต่างของภาษา พูด และภาษาเขียน ภาษาพูด ภาษาเขียน ๕. แต่งบทร้อยกรอง กาพย์ยานี ๑๑ ๖. จำแนกและใช้สำนวนที่เป็นคำ พังเพย และสุภาษิต สำนวนที่เป็นคำพังเพยและสุภาษิต
๘ สาระที่ ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็น คุณค่าและนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.๑ ๑. สรุปเนื้อหาวรรณคดีแลวรรณกรรม ที่อ่าน วรรณคดีและวรรณกรรมเกี่ยวกับ - ศาสนา - ประเพณี - พิธีกรรม - สุภาษิตคำสอน - เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ - บันเทิงคดี - บันทึกการเดินทาง - วรรณกรรมท้องถิ่น ๒. วิเคราะห์วรรณคดีและวรรณกรรม ที่อ่านพร้อมยกเหตุผลประกอบ ๓. อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและ วรรณกรรมที่อ่าน ๔. สรุปความรู้และข้อคิดจากการอ่าน เพื่อประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง การวิเคราะห์คุณค่าและข้อคิดจาก วรรณคดี และวรรณกรรม ๕. ท่องจำบทอาขยานตามที่กำหนด และบทร้อยกรองที่มีคุณค่าตาม ความสนใจ บทอาขยานและบทร้อยกรองที่มีคุณค่า - บทอาขยานตามที่กำหนด - บทร้อยกรองตามความสนใจ
๙ คำอธิบายรายวิชา ท ๒๑๑01 ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทยชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ จำนวน 1.5 หน่วยกิต ศึกษาและฝึกอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้องเหมาะสมกับเรื่องที่อ่าน จับใจความสำคัญจากเรื่องที่อ่าน ระบุเหตุและผล และข้อเท็จจริงกับข้อคิดเห็นจากเรื่องที่อ่าน ระบุ และอธิบายคำเปรียบเทียบและคำที่มีหลายความหมายในบริบทต่าง ๆ จากการอ่าน ตีความคำยาก ในเอกสารวิชาการ โดยพิจารณาจากบริบท ระบุข้อสังเกตและความสมเหตุสมผลของงานเขียน ประเภทชักจูงโน้มน้าวใจ ปฏิบัติตามคู่มือแนะนำวิธีการใช้งานของเครื่องมือหรือเครื่องใช้ในระดับ ที่ยากขึ้น วิเคราะห์คุณค่าที่ได้รับจากการอ่านงานเขียนอย่างหลากหลายเพื่อนำไปใช้แก้ปัญหาในชีวิต มีมารยาทในการอ่าน คัดลายมือตัวบรรจงครึ่งบรรทัด เขียนสื่อสารโดยใช้ถ้อยคำถูกต้อง ชัดเจน เหมาะสม และสละสลวย เขียนบรรยายประสบการณ์โดยระบุสาระสำคัญและรายละเอียด สนับสนุน เขียนเรียงความ เขียนย่อความจากเรื่องที่อ่าน เขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสาระ จากสื่อที่ได้รับ เขียนจดหมายส่วนตัวและจดหมายกิจธุระ เขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าและโครงงาน มีมารยาทใน การเขียน พูดสรุปใจความสำคัญของเรื่องที่ฟังและดู เล่าเรื่องย่อจากเรื่องที่ฟังและดู พูดแสดงความ คิดเห็นอย่างสร้างสรรค์เกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและดู ประเมินความน่าเชื่อถือของสื่อที่มีเนื้อหาโน้มน้าวใจ พูดรายงานเรื่องหรือประเด็นที่ศึกษาค้นคว้าจากการฟัง การดู และการสนทนา มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด อธิบายลักษณะของเสียงในภาษาไทย สร้างคำในภาษาไทย วิเคราะห์ชนิดและหน้าที่ ของคำในประโยค วิเคราะห์ความแตกต่างของภาษาพูดและภาษาเขียน แต่งบทร้อยกรอง จำแนกและ ใช้สำนวนที่เป็นคำพังเพยและสุภาษิต สรุปเนื้อหาวรรณคดี วรรณกรรมที่อ่าน วิเคราะห์วรรณคดีและ วรรณกรรมที่อ่านพร้อมยกเหตุผลประกอบ อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน สรุปความรู้และข้อคิดจากการอ่านเพื่อประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ท่องจำบทอาขยานตามที่กำหนดและบท ร้อยกรองที่มีคุณค่าตามความสนใจ กิจกรรมการเรียนรู้เป็นแบบบูรณาการภายในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยและกลุ่มสาระ การเรียนรู้อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยนำวรรณคดีและวรรณกรรมเป็นแกนกลาง ผู้เรียนจะได้เรียนรู้ วรรณคดีและวรรณกรรมสัมพันธ์กับหลักการใช้ภาษาและทักษะสื่อสาร เรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างกว้างขวาง กลมกลืนเป็นเอกภาพและเชื่อมโยงชีวิตจริง เพื่อให้ผู้เรียนมีพื้นฐานความรู้ด้านหลักภาษา พัฒนาทักษะการใช้ภาษาครบทุกด้าน และเรียนรู้คุณค่าที่สอดแทรกในวรรณคดีและวรรณกรรมไทย สามารถนำภาษาไทย รวมทั้งคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่ดีงามไปใช้ในชีวิตจริงได้ถูกต้อง เหมาะสม รหัสตัวชี้วัด ท ๑.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๕, ม.๑/๖, ม.๑/๗, ม.๑/๘, ม.๑/๙ ท ๒.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๕, ม.๑/๖, ม.๑/๗, ม.๑/๘, ม.๑/๙ ท ๓.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๕, ม.๑/๖ ท ๔.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๕, ม.๑/๖ ท ๕.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๕ รวมทั้งหมด ๓๕ ตัวชี้วัด
โครงสร้างรายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท 2110๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิชาภาษาไทย ภ สาระ/หน่วยการเรียนรู้ ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ข้อที่ สาระ สากล สาระ ท้องถิ ๑ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ โคลงโลกนิติ ท ๑.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๔, ม.๑/๕, ม.๑/๘, ม.๑/๙ ท ๒.๑ ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๙ ท ๓.๑ ม.๑/๓, ม.๑/๖ ท ๔.๑ ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๖ ท ๕.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๕ ๒ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒ สุภาษิตพระร่วง ท ๑.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๔, ม.๑/๕, ม.๑/๘, ม.๑/๙ ท ๒.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๖, ม.๑/๙ ท ๓.๑ ม.๑/๓, ม.๑/๖ ท ๔.๑ ม.๑/๒, ม.๑/๖ ท ๕.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๕ ๓ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ กาพย์พระไชยสุริยา ท ๑.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๔, ม.๑/๘, ม.๑/๙ ท ๒.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๙ ท ๓.๑ ม.๑/๕, ม.๑/๖ ท ๔.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๕ ท ๕.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๕ ๔ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ นิทานพื้นบ้าน ท ๑.๑ ม.๑/๒, ม.๑/๔, ม.๑/๘, ม.๑/๙ท ๒.๑ ม.๑/๗, ม.๑/๘, ม.๑/๙ ท ๓.๑ ม.๑/๒, ม.๑/๖ ท ๔.๑ ม.๑/๒ ท ๕.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔ รวม
๑๐ หน่วยกิต ๑.5 ประเภทพื้นฐาน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ะ ถิ่น สมรรถนะ ผู้เรียน อ่านคิด วิเคราะห์ เขียน คุณ ลักษณะ อันพึง ประสงค์ น้ำหนักคะแนน (๑๐๐ %) เวลา เรียน/ ชั่วโมง ก่อน กลาง ภาค กลาง ภาค หลัง กลาง ภาค ปลาย ภาค รวม ข้อ ๑-๕ ข้อ ๑-๕ ข้อ ๑-๘ 15 10 - - 25 15 ข้อ ๑-๕ ข้อ ๑-๕ ข้อ ๑-๘ 15 10 - - 25 11 ข้อ ๑-๕ ข้อ ๑-๕ ข้อ ๑-๘ - - 15 10 25 18 ข้อ ๑-๕ ข้อ ๑-๕ ข้อ ๑-๘ - - 15 10 25 16 25 20 25 30 100 60
๑๑ กำหนดการสอน วิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท๒๑๑๐1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๖๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต ที่ หน่วยการเรียนรู้/เรื่อง รหัสตัวชี้วัด จำนวน ชั่วโมง คะแนน หมายเหตุ ๑ โคลงโลกนิติ 1. ปริศนาศัพท์ลับปัญญา 2. ภาพสื่อศัพท์กับความเปรียบ 3. วิเคราะห์ความเปรียบแล้วเทียบความหมาย 4. วิเคราะห์คำพ้องต้องวินิจความหมาย 5. บริบทกำหนดชนิดและหน้าที่เสียงคำสัมพันธ์ กับความหมาย 6. วรรคทองคล้องใจ 7. กลวิธีการประพันธ์ในโคลงโลกนิติ 8. คำสอนนำชีวิตในโคลงโลกนิติ 9. พินิจปริศนาสุภาษิตคำพังเพย 10.วิจักษ์วรรณคดี 11.การเขียนบรรยายประสบการณ์ 12.การพูดแสดงความคิดอย่างสร้างสรรค์ 13.สรรกิจกรรม นำพัฒนาทักษะ 14.การเขียนกระทู้และการเขียนบันทึกการ เรียนรู้ ท ๑.๑ ม. ๑/๑, ม. ๑/๔, ม. ๑/๕, ม. ๑/๘, ม. ๑/๙ ท ๒.๑ ม. ๑/๒, ม. ๑/๓, ม. ๑/๙ ท ๓.๑ ม. ๑/๓, ม. ๑/๖ ท ๔.๑ ม. ๑/๒, ม. ๑/๓, ม. ๑/๖ ท ๕.๑ ม. ๑/๑, ม. ๑/๒, ม. ๑/๓, ม. ๑/๔, ม. ๑/๕ 15 25 2 สุภาษิตพระร่วง 1. ปริศนาอักษรไขว้ ไขศัพท์ไขความหมาย 2. คู่ศัพท์สัมพันธ์ความหมาย 3. จับคู่สุภาษิต พินิจความหมาย 4. อ่านได้ เข้าใจความ 5. จัดหมวดหมู่สุภาษิต 6. ฝึกคัดพัฒนาลายมือ 7. สุภาษิตจรรโลงจิตใจ 8. สรรกิจกรรม นำมาเขียน 9. สรรกิจกรรม นำมาพูด 10.วิจักษ์วรรณคดี 11.สืบค้นข้อมูล เพิ่มพูนความรู้ ท ๑.๑ ม. ๑/๑, ม. ๑/๒, ม. ๑/๔, ม. ๑/๕, ม. ๑/๘, ม. ๑/๙ ท ๒.๑ ม. ๑/๑, ม. ๑/๖, ม. ๑/๙ ท ๓.๑ ม. ๑/๓, ม. ๑/๖ ท ๔.๑ ม. ๑/๒, ม. ๑/๖ ท ๕.๑ ม. ๑/๑, ม. ๑/๒, ม.๑/๓, ม. ๑/๔, ม. ๑/๕ 11 25
๑๒ ที่ หน่วยการเรียนรู้/เรื่อง รหัสตัวชี้วัด จำนวน ชั่วโมง คะแนน หมายเหตุ 3 กาพย์พระไชยสุริยา 1. ปริศนาอักษรไขว้ ใช้ความหมายขยายวงศัพท์ 2. จับคู่ดูภาพ 3. อ่านได้ เข้าใจเรื่อง 4. สรุปความ ตามเนื้อเรื่อง 5. อักษรนำ-ควบแท้-ไม่แท้ ต่างกันแน่ที่อ่านออก เสียงพยัญชนะต้น 6. บทฝึกอ่านเขียน เรียนตามมาตรา 7. ไขปริศนาแม่ ก กา 8. ความหมายสัมพันธ์ สร้างสรรค์คำซ้อน 9. คำเดิมรวมกัน สร้างสรรค์คำประสม 10.ทำนองเสนาะ ไพเราะน่าฟัง 11.อ่านทำนอง สอดคล้องอารมณ์ 12.คัดลายมือ สื่อภาพวาด 13.สร้างสรรค์กาพย์ สื่อภาพในจินตนาการ 14.การพูดเสนอความรู้ 15.คิดวิเคราะห์และพูดเสนอความรู้ 16.ฝึกทักษะพัฒนาการคิด 17.วิจักษ์วรรณคดี 18.สืบค้นข้อมูล เพิ่มพูนความรู้ ท ๑.๑ ม. ๑/๑, ม. ๑/๒, ม. ๑/๔, ม. ๑/๘, ม. ๑/๙ ท ๒.๑ ม. ๑/๑, ม. ๑/๙ ท ๓.๑ ม. ๑/๕, ม. ๑/๖ ท ๔.๑ ม. ๑/๑, ม. ๑/๒, ม. ๑/๕ ท ๕.๑ ม. ๑/๑,ม. ๑/๒, ม. ๑/๓, ม. ๑/๔, ม. ๑/๕ 18 25 4 นิทานพื้นบ้าน 1. ปริศนาอักษรไขว้ ใช้ความหมายขยายวงศัพท์ 2. สรรคำได้ หากใช้ไวพจน์ 3. สังข์ทองของคนไทย 4. สังข์ทองกับวิถีชีวิตคนไทย 5. นิทานพื้นบ้านสะท้อนชีวิต 6. นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ 7. นิทานพื้นบ้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8. นิทานพื้นบ้านภาคกลาง 9. นิทานพื้นบ้านภาคตะวันออกและภาคใต้ 10.ย้อนคิดถึงนิทานพื้นบ้าน 11.สืบสานนิทานท้องถิ่น 12.อภิปรายข้อคิดจากนิทานท้องถิ่น 13.ค้นหาข้อมูลด้วยจดหมาย 14.การเขียนรายงานโครงงาน 15.โครงงานสืบสานนิทานพื้นบ้าน 16.นิทานพื้นบ้านสืบสานมรดกวัฒนธรรมไทย ท ๑.๑ ม. ๑/๒, ม. ๑/๔, ม. ๑/๘, ม. ๑/๙ ท ๒.๑ ม. ๑/๗, ม. ๑/๘, ม. ๑/๙ ท ๓.๑ ม. ๑/๒, ม. ๑/๖ ท ๔.๑ ม. ๑/๒ ท ๕.๑ ม. ๑/๑, ม. ๑/๒, ม. ๑/๓, ม. ๑/๔ 16 25
๑๓ แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 โคลงโลกนิติ เวลา ๑๕ ชั่วโมง แผนการเรียนรู้ที่ ๔ เรื่อง วิเคราะห์คำพ้องต้องวินิจความหมาย เวลา ๑ ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวนฤมล โมราชาติ วันที่....../................/......... มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของ ภาษาและพลังของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทย ไว้เป็นสมบัติของชาติ ตัวชี้วัด ท ๔.๑ ม. ๑/๒ สร้างคำในภาษาไทย จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวชี้วัด ๑. อธิบายลักษณะของคำพ้องความหมาย (K) ๒. วิเคราะห์ภาพและเขียนคำพ้องความหมายได้ถูกต้อง (P) ๓. เห็นความสำคัญของการนำคำพ้องความหมายไปใช้อย่างถูกต้อง (A) สาระสำคัญ คำพ้อง แบ่งเป็นคำพ้องรูปซึ่งเขียนเหมือนกัน อ่านออกเสียงต่างกัน คำพ้องเสียงเป็นคำที่ อ่านออกเสียงเหมือนกัน เขียนต่างกัน คำพ้องรูปพ้องเสียงเป็นคำที่เขียนและอ่านออกเสียงเหมือนกัน คำพ้องทั้ง ๓ ประเภทมีความหมายแตกต่างกัน การเข้าใจความหมายของคำพ้อง ต้องพิจารณาบริบทแวดล้อม จึงจะทราบความหมายอย่างถูกต้อง ส่วนคำพ้องความหมายหรือคำไวพจน์เป็นคำที่เขียนต่างกัน อ่าน ออกเสียงต่างกัน แต่ความหมายเหมือนกัน การนำคำไปใช้ต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับบริบท สาระการเรียนรู้ คำพ้องความหมาย (คำไวพจน์) สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการสื่อสาร - ทักษะการอ่าน - ทักษะการเขียน - ทักษะการฟัง การดู และการพูด ๒. ความสามารถในการคิด - การวิเคราะห์ - การสรุปความรู้ ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
๑๔ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีวินัย ตัวชี้วัดที่ ๓.๑ ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว โรงเรียนและสังคม ใฝ่เรียนรู้ ตัวชี้วัดที่ ๔.๑ ตั้งใจ เพียรพยายามในการเรียนและเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ ตัวชี้วัดที่ ๔.๒ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอก โรงเรียนด้วยการเลือกใช้สื่ออย่างเหมาะสม บันทึกความรู้ วิเคราะห์ สรุปเป็นองค์ความรู้ สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ มุ่งมั่นในการทำงาน ตัวชี้วัดที่ ๖.๑ ตั้งใจและรับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่การงาน ตัวชี้วัดที่ ๖.๒ ทำงานด้วยความเพียรพยายามและอดทนเพื่อให้งานสำเร็จตามเป้าหมาย ชิ้นงานหรือภาระงาน (หลักฐาน ร่องรอยแสดงความรู้) - ใบงานเรื่องคำพ้องความหมาย (คำไวพจน์) กิจกรรมการเรียนรู้ (กระบวนการเรียนรู้ ๕ ขั้นตอน : ๕ STEPs) ขั้นที่ ๑ การเรียนรู้ตั้งคำถาม (Learning to Question) ๑. ครูถามคำถามเพื่อทบทวนความรู้เดิมเรื่องคำพ้องด้วยคำถามดังนี้ ๑.๑ ครูนำบัตรคำ คำว่า ซ่อม / ส้อม, สระ / สระ ให้นักเรียนดู จากนั้นให้นักเรียน ช่วยกันสังเกตว่ามีคำใดที่ออกเสียงเหมือนกัน หรือเขียนเหมือนกัน ๑.๒ ครูให้นักเรียนอภิปรายข้อความที่อ่านว่ามีลักษณะเช่นไร แนวคำตอบ คำพ้องเสียง คำพ้องรูป (ตอบอิสระ) ๑.๓ ครูนำบัตรคำ คำว่า “วิหค” “สกุณา” “ปักษา” แล้วถามนักเรียนว่าคำเหล่านี้มี ความหมาย ว่าอย่างไร แนวคำตอบ แปลว่า นก ๒. ครูอธิบายนักเรียนว่าคำในภาษาไทย บางคำสามารถมีได้หลากหลายความหมาย หรือบาง คำมีความหมายเดียวกันก็สามารถเขียนได้หลายแบบ คำเหล่านี้เรียกว่า “คำพ้องความหมาย” หรือ “คำไวพจน์” ขั้นที่ ๒ การเรียนรู้แสวงหาสารสนเทศ (Learning to Search) ๓. ครูแบ่งนักเรียนออกเป็น ๔ กลุ่ม (คละเก่ง กลาง อ่อน) ๔. นักเรียนสแกนคิวอาร์โค้ดเอกสารประกอบการเรียน เรื่องคำพ้องความหมาย (คำไวพจน์) จากครู ๕. นักเรียนศึกษาเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง คำพ้องความหมาย (คำไวพจน์) ๖. ครูอธิบายให้นักเรียนฟังเรื่องคำพ้องความหมาย (คำไวพจน์) - ครูนำสื่อการเรียนรู้ (PowerPoint) เรื่องคำพ้องความหมาย (คำไวพจน์) ประกอบการอธิบาย (นักเรียนสามารถสแกนคิวอาร์โค้ด เรื่องคำพ้องความหมาย (คำไวพจน์) เพิ่มเติม ได้เมื่อต้องการทบทวนความรู้)
๑๕ ๗. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มทำกิจกรรมการเรียนรู้โดยการเล่มเกมขานไขไวพจน์ นักเรียน แต่ละกลุ่มเลือกแผ่นป้าย เกมขานไขไวพจน์กลุ่มใดตอบถูกต้องและได้คะแนนมากที่สุดกลุ่มนั้นจะเป็น กลุ่มที่ชนะ (นักเรียนสามารถสแกนคิวอาร์โค้ด เกมขานไขไวพจน์ ได้เมื่อต้องการทบทวนความรู้) ๘. ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยคำไวพจน์ ขั้นที่ ๓ การเรียนรู้เพื่อสร้างองค์ความรู้ (Learning to Construct) ๙. นักเรียนแต่ละกลุ่มอ่านออกเสียงคำกิจกรรมเกมขานไขไวพจน์ โดยให้นักเรียนออกเสียง พร้อมกันไปทีละคำ ๑๐. ครูแจกใบงาน เรื่อง คำพ้องความหมาย (คำไวพจน์) โดยให้นักเรียนแต่ละกลุ่มสแกน คิวอาร์โค้ด เรื่องคำพ้องความหมาย (คำไวพจน์) ๑๑. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำเสนอหน้าห้องเรียนและร่วมกันเฉลยใบงาน เรื่อง คำพ้องความหมาย (คำไวพจน์) ขั้นที่ ๔ การเรียนรู้เพื่อการสื่อสาร (Learning to Communicate) ๑๒. นักเรียนแต่ละกลุ่มบอกคำพ้องความหมาย หรือคำไวพจน์ที่เราพบเห็นในชีวิตประจำวัน เช่น พสุธา เป็นคำไวพจน์ของแผ่นดิน วานร เป็นคำไวพจน์ของลิง อัคคี เป็นคำไวพจน์ของ ไฟ ฤทัย เป็นคำไวพจน์ของใจ เป็นต้น ขั้นที่ ๕ การเรียนรู้เพื่อตอบแทนสังคม (Learning to Service) ๑๓. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปการเรียนรู้ เรื่อง คำพ้อง ซึ่งแบ่งเป็นคำพ้องรูปซึ่งเขียน เหมือนกัน อ่านออกเสียงต่างกัน ความหมายต่างกัน คำพ้องเสียงเป็นคำที่อ่านออกเสียงเหมือนกัน เขียนต่างกัน ความหมายต่างกัน และคำพ้องความหมายหรือคำไวพจน์เป็นคำที่เขียนต่างกัน อ่านออก เสียงต่างกัน แต่ความหมายเหมือนกัน การนำคำไปใช้ต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับบริบท ดังนั้นนักเรียนควรศึกษาในเรื่องคำไวพจน์ เพื่อนำไปใช้ในการแต่งคำประพันธ์ให้ถูกต้องตา ม ฉันทลักษณ์และได้ความหมาย ๑๔. ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็น โดยครูใช้คำถาม ดังนี้ - คำพ้องมีความสำคัญในภาษาไทยอย่างไร แนวคำตอบ ใช้ในการแต่งคำประพันธ์เพื่อให้มีการเล่นคำที่ไพเราะได้อย่างหลากหลาย ๑๕. ครูให้นักเรียนเล่มเกมจับคู่คำไวพจน์ โดยการให้นักเรียนนำโทรศัพท์มือถือขึ้นมาสแกน คิวอาร์โค้ดเพื่อเข้าไปเล่นเกมเป็นการทบทวนความรู้เพิ่มเติมและเกิดความสนุกสนานเพลิดเพลิน สามารถเล่นได้เมื่อมีเวลาว่าง สื่อการเรียนรู้ ๑. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ๒. เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง คำพ้องความหมาย (คำไวพจน์) ๓. ใบงาน เรื่อง คำพ้องความหมาย (คำไวพจน์) ๔. สื่อการเรียนรู้ (PowerPoint) เรื่องคำพ้องความหมาย (คำไวพจน์) ๕. เกมขานไขไวพจน์
๑๖ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ กิจกรรมที่ประเมิน เครื่องมือ/วิธีการ เกณฑ์การประเมิน ๑. อธิบายลักษณะของคำพ้อง ความหมาย (K) ใบงาน เรื่อง คำพ้อง ความหมาย (คำไวพจน์) ร้อยละ ๖๐ ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ ๒. วิเคราะห์ภาพและเขียนคำพ้อง ความหมายได้ถูกต้อง (P) เกมขานไขไวพจน์ ร้อยละ ๖๐ ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ ๓. เห็นความสำคัญของการนำคำ พ้องความหมายไปใช้อย่างถูกต้อง (A) แบบสังเกตพฤติกรรม การเข้าร่วมกิจกรรม ผ่านเกณฑ์ระดับดี ขึ้นไป
๑๗ บันทึกหลังสอน ๑. ผลการสอน ………………………………………………………………….……………………………………………………………..............… …………………………………….……………………………………………………………………………………………………..… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... ๒. ปัญหา/อุปสรรค ………………………………………………………………….……………………………………………………………..............… …………………………………….……………………………………………………………………………………………………..… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... ๓. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………….……………………………………………………………..............… …………………………………….……………………………………………………………………………………………………..… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... ลงชื่อ.....................................................ครูผู้สอน (นางสาวนฤมล โมราชาติ) วันที่........เดือน......................พ.ศ. ........... ๔. ข้อเสนอแนะของหัวหน้าสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ………………………………………………………………….……………………………………………………………..............… …………………………………….……………………………………………………………………………………………………..… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... ลงชื่อ........................................................................ (............................................................) วันที่................เดือน.........................พ.ศ. ................
๑๘ เกณฑ์การประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เรื่อง คำพ้องความหมาย (คำไวพจน์) เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๙ - ๑๒ ดี ๕ - ๘ พอใช้ ๐ - ๔ ปรับปรุง *** หมายเหตุผ่านเกณฑ์การประเมินระดับ ดี (๙ คะแนนขึ้นไป) เกณฑ์การ ประเมิน ระดับคะแนน ๔ ๓ ๒ ๑ ความถูกต้อง ของคำศัพท์ บอกคำพ้อง ความหมาย หรือคำไวพจน์ ได้ถูกต้อง ครบถ้วน ทั้ง ๑๕ คำ บอกคำพ้อง ความหมาย หรือคำไวพจน์ ได้ถูกต้อง ๑๑ - ๑๔ คำ บอกคำพ้อง ความหมาย หรือคำไวพจน์ ได้ถูกต้อง ๖ - ๑๐ คำ บอกคำพ้อง ความหมาย หรือคำไวพจน์ ได้ถูกต้อง ๑ - ๕ คำ การเขียนสะกด คำ เขียนสะกดคำ พ้องความหมาย หรือคำไวพจน์ ได้ถูกต้อง ครบถ้วน ทั้ง ๑๕ คำ เขียนสะกดคำ พ้องความหมาย หรือคำไวพจน์ ได้ถูกต้อง ๑๑ - ๑๔ คำ เขียนสะกดคำ พ้องความหมาย หรือคำไวพจน์ ได้ถูกต้อง ๖ - ๑๐ คำ เขียนสะกดคำพ้อง ความหมาย หรือคำไวพจน์ ได้ถูกต้อง ๑ - ๕ คำ ความสะอาด ชิ้นงานสะอาด สวยงาม มีรอยลบหรือ ขีดทับคำผิด 2 - 3 ที่ มีรอยลบหรือ ขีดทับคำผิด 4 - 5 ที่ ภาพรวมของ ชิ้นงาน ไม่สะอาด
๑๙ แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม คำชี้แจง ให้ทำเครื่องหมาย ลงในช่องรายการสังเกตพฤติกรรมที่นักเรียนปฏิบัติเลขที่ ชื่อ - สกุล รายการ รับผิดชอบ งานที่ได้รับ มอบหมาย (๒ คะแนน) รับฟังความ คิดเห็นของ ผู้อื่น (๒ คะแนน) นำเสนอ ผลงานได้ น่าสนใจ (๒ คะแนน) มีความคิด ริเริ่ม สร้างสรรค์ (๒ คะแนน) ทำงาน เสร็จ ตามเวลา ที่กำหนด (๒ คะแนน) เกณฑ์การประเมิน คะแนน ๙ - ๑๐ ระดับ ดีมาก คะแนน ๗ - ๘ ระดับ ดี คะแนน ๕ - ๖ ระดับ พอใช้ คะแนน ๐ - ๔ ระดับ ควรปรับปรุง ลงชื่อ ........................................... ผู้ประเมิน (นางสาวนฤมล โมราชาติ) วันที่........เดือน......................พ.ศ. ...........
๒๐ แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรม กลุ่มสาระการเรียนรู้....................................................................... รหัสวิชา........................... ภาคเรียนที่....................................ปีการศึกษา.......................................... ชั้น........................ คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน ในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องว่างที่ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ........................................ผู้สอน (นางสาวนฤมล โมราชาติ) วันที่........เดือน......................พ.ศ. ........... เลขที่ ชื่อ – สกุล พฤติกรรม / ระดับคะแนน มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน รวม ปฏิบัติ ตาม ข้อตกลง กฎเกณฑ์ ตรงต่อ เวลาใน การปฏิบัติ กิจกรรม ตั้งใจเรียน เอาใจใส่ และมี ความ เพียร พยายาม ในการ เรียนรู้ ทุ่มเท ทำงาน ไม่ย่อท้อ ต่อปัญหา และ อุปสรรค ตั้งใจและ รับผิดชอบ ในการ ทำงานให้ สำเร็จ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การประเมิน คะแนนเต็ม 15 คะแนน คะแนน 13 -15 หมายถึง ดี คะแนน 9 -12 หมายถึง ปานกลาง คะแนน 5 – 8 หมายถึง ปรับปรุง ผ่านเกณฑ์คุณภาพอยู่ในระดับ ดี
๒๑ ภาคผนวก
๒๒ ตัวอย่างสื่อการสอน ๑. เอกสารประกอบการเรียน เรื่องคำพ้องความหมาย (คำไวพจน์) คิวอาร์โค้ด เอกสารประกอบการเรียน (อิเล็กทรอนิกส์) ๒. ใบงาน เรื่อง คำพ้องความหมาย (คำไวพจน์) คิวอาร์โค้ด ใบงาน เรื่อง คำพ้องความหมาย (คำไวพจน์)
๒๓ ๓. เกมขานไขคำไวพจน์ คิวอาร์โค้ด เกมขานไขไวพจน์ 4. บัตรคำ
๒๔ 5. เกมจับคู่คำไวพจน์ คิวอาร์โค้ด เกมจับคู่คำไวพจน์
แผนการจัดการเรียนรู้