The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

003-หลักสูตร-สาขาวิชาพุทธศาสตร์เพื่อการพัฒนา-31-10-62 (รวมวิทยาเขต)-แก้ไขล่าสุด

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by sunchait65, 2023-01-08 01:14:15

003-หลักสูตร-สาขาวิชาพุทธศาสตร์เพื่อการพัฒนา-31-10-62 (รวมวิทยาเขต)-แก้ไขล่าสุด

003-หลักสูตร-สาขาวิชาพุทธศาสตร์เพื่อการพัฒนา-31-10-62 (รวมวิทยาเขต)-แก้ไขล่าสุด

46

PH 1005 สมั มนาพระสุตตันตปิฎกศกึ ษา 3(3-0-6)
Seminar on Suttantapitaka Studies
สัมมนำประวัติ อรรถำธิบำย กำรตีควำม และจุดเด่นของพระสูตรบำงสูตร
วเิ ครำะห์หลักธรรม แนวคดิ เชิงปรัชญำสงั คมและปรัชญำวัฒนธรรม ตำมท่ีปรำกฏในคัมภีร์ พระสุตตันตปิฎก
(เล่ม 9–33) และกำรบูรณำกำรกับงำนวจิ ยั
Seminar on the history, explanation, interpretation and main points
of some Suttas, analysis of Dhamma doctrines, the method of thinking on social
philosophy and cultural philosophy as appeared in Tighanikaya and Macchimanikaya in
Suttantapitaka (Book 9-33) and integration with research.

PH 1006 สัมมนาพระอภิธรรมปิฎกศกึ ษา 3(3-0-6)

Seminar on Abhidhammapitaka Studies

สัมมนำประวัติ และสำระสำคัญของพระอภิธรรม จำกคัมภีร์ธรรมสังคณี วิภังค์

ธำตุกถำ บุคคลบัญญัติ กถำวัตถุ ยมกและปัฏฐำนในพระอภิธรรมปิฎก (เล่ม 34-45) และคัมภีร์อภิธัมมัตถ

สงั คหะ และกำรบูรณำกำรกบั งำนวิจัย

Seminar on history and the important essences of Abbidhamma from

Dhammasangana, Vibhanga, Thatukatha, Puggalapannati, and Kathavatthu in Abhidham-

mapitaka (book 34-45) and Abhidhammasangatha and integration with research.

PH 1007 สมั มนาอรรถกถาพระไตรปฎิ ก 3(3-0-6)

Seminar on Tipitaka Commentaries

สัมมนำประวัติ ลักษณะ ของอรรถกถำแห่งพระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก และพระ

อภิธรรมปิฎก วิธีกำรอธิบำย กำรตีควำมพระวินัย กำรตีควำมธรรมะ ในคัมภีร์อรรถกถำวินัยปิฎกและคัมภีร์อรรถ

กถำพระสุตตันตปิฎก และกำรสัมมนำเก่ียวกับเนื้อหำสำระของอรรถกถำพระอภิธรรมปิฎก ตลอดถึงกำรบูรณำ

กำรกบั งำนวจิ ยั

Seminar on history and nature of Vinayapitaka, Suttantapitaka and

Abhidhamma-pitaka commentaries, the explanation and interpretation of Vinaya ( Discipline) ,

Dharma ( Teachings) in those commentaries, seminar on contents of Abhidhamma-pitaka and

integration with research.

PH 1008 จติ วิทยาตามแนวพุทธศาสตร์ 3(3-0-6)
Psychology in Buddhistic Approach
ธรรมชำติ ลกั ษณะองคป์ ระกอบ ประเภทและหนำ้ ทีข่ องจิตตำมหลัก
พระพุทธศำสนำควำมสัมพนั ธ์ระหวำ่ งจติ กับกำย ตำมท่ีปรำกฏในอภธิ รรมปิฎก
General characteristics of mind, analysis of the relation between mind
and body as appeared in Abhidhamma.

PH 1009 ศกึ ษาศาสตร์ตามแนวพุทธศาสตร์ 3(3-0-6)
Education in Buddhistic Approach
ปรชั ญำ กำรจัดกำรศึกษำ นโยบำยกำรศึกษำ จิตวิทยำกำรเรยี นรู้ กำรวัดและกำร
ประเมินผล กำรศึกษำตำมแนวพุทธศำสตร์
Philosophy, principles, curriculum and testing and estimation of the
result of education on the method of the Buddhism.

จดั ทำโดยคณะศำสนำและปรัชญำ มหำวิทยำลัยมหำมกฏุ รำชวิทยำลยั

47

PH 1010 สังคมวิทยาตามแนวพุทธศาสตร์ 3(3-0-6)
Sociology in Buddhistic Approach
ควำมหมำย ขอบเขต และวิธีกำรของสังคมวิทยำ สังคมวิทยำตำมแนวพุทธศำสตร์
เปรียบเทียบกับแนวควำมคิดพ้ืนฐำนทำงสังคมวิทยำว่ำด้วยกำรเปล่ียนแปลงทำงสังคม กำรแบ่งช่วงช้ันทำงสังคม
สถำบนั ทำงสังคมปัญหำทำงสังคมและกำรแก้ปัญหำทำงสังคม

The meaning, scope, and method of sociology, sociology in

Buddhistic approach compared with the way of social fundamental thought on the social

change, social classification, social institute and social problems.

PH 1011 เศรษฐศาสตรต์ ามแนวพุทธศาสตร์ 3(3-0-6)

Economics in Buddhistic Approach

ทรรศนะท่ัวไปทำงเศรษฐศำสตร์เศรษฐศำสตร์ตำมแนวพุทธศำสตร์ว่ำด้วยกำรผลิต

กำรบรโิ ภค วภิ ำคกรรม ระบบเศรษฐกิจ นโยบำยเศรษฐกิจ กำรลงทนุ กำรออมทรัพย์และกำรแกป้ ัญหำเศรษฐกิจ

General view on economics, economics in Buddhistic approach on

the production, consumption, Vibhagakamma ( Division of income) , economic system,

economic policy, investment, saving and solution of the economic problems.

PH 1012 รฐั ศาสตรต์ ามแนวพุทธศาสตร์ 3(3-0-6)

Politics in Buddhistic Approach

ควำมหมำย ขอบเขต และวิธีกำรของรัฐศำสตร์ รัฐศำสตร์ตำมแนวพุทธศำสตร์ที่

ปรำกฏในพระไตรปิฎก โดยเฉพำะในพระวินัยปิฎกและพระสุตตันตปิฎก แนวควำมคิดพื้นฐำนทำงรัฐศำสตร์

เปรียบเทยี บกับแนวพุทธศำสตร์ ประชำธิปไตยในพุทธศำสตร์

The meaning, scope and method of politics, politics in Buddhist

approach from Tipitaka, particular Vinayapitaka and Suttantapitaka, concept on the basis of

politics by comparison with Buddhism, democracy in Buddhism.

PH 1013 มงคลสตู รศกึ ษาเพื่อการพัฒนา 3(3-0-6)

Mangalatthadipani Studies for Development

แนวควำมคิด เนื้อหำสำระ หลักธรรม คำสอนในมังคลัตถทีปนี กำรนำไปประยุกต์ใช้

ในกำรพัฒนำชีวิตและสงั คมได้อย่ำงเหมำะสม

The method of thought, the essence, Dhamma principle, teachings in

Mangaladipani and application of one’s life and society development.

PH 1014 มลิ ินทปัญหา 3(3-0-6)

Questions of King Milinda

ประวัติ หลักคำสอนของพระพุทธศำสนำ และวิธีกำรสนทนำโต้ตอบระหว่ำงพระ

เจ้ำมิลินท์และพระนำคเสนในคัมภีร์ มิลินทปัญหำ สำมำรถนำหลักกำรไปประยุกต์ใช้ในกำรเผยแผ่

พระพทุ ธศำสนำได้

History of Buddhist teaching and the conversation between KING

MILINDA and NAGASENA THERA in MILINDAPANHA scripture (Questions of King Milinda) to

be able to apply those principles in the extension of the Buddhism.

จดั ทำโดยคณะศำสนำและปรัชญำ มหำวทิ ยำลัยมหำมกฏุ รำชวิทยำลัย

48

PH 1015 ภาษาองั กฤษสาหรบั พุทธศาสตร์เพ่อื การพัฒนา 3(3-0-6)

English for Buddhist Studies for Development

ธรรมะและกำรพัฒนำด้วยภำษำอังกฤษ กำรอธิบำยธรรมะกับกำรพัฒนำด้วย

ภำษำองั กฤษพร้อมท้ังศัพทภ์ ำษำอังกฤษท่เี กย่ี วข้องกับธรรมะและกำรพัฒนำ

Dhamma and development in English, the explanation of Dhamma

and development in English including English vocabularies on Dhamma and development

PH 1016 ระเบียบวิธวี จิ ัยทางพุทธศาสตร์เพ่ือการพฒั นา 3(3-0-6)

Research Methodology on Buddhist Studies for Development

ระเบียบวิธีวิจัย กำรสุ่มตัวอย่ำง กำรเก็บรวบรวมข้อมูล กำรวิเครำะห์ข้อมูล กำร

ตีควำมหมำยข้อมูล กำรสรุปผลของงำนวิจัย กำรนำเสนอผลงำนวิจัย และกำรนำวิธีวิจัยมำใช้ในกำรศึกษำ

ค้นคว้ำเพ่อื พัฒนำด้ำนสงั คม ศำสนำและวฒั นธรรม

Research methodology, random sample, collection of data, analysis

of data, interpretation of data, summary of the result of research, the proposal of the

result of research and the application of the research methodology for social, religion and

cultural development.

PH 1017 พระพุทธศาสนากับโลกปัจจุบัน 3(3-0-6)

Buddhism and the Present World

บทบำทและสถำนภำพของพระพุทธศำสนำในโลกปัจจุบัน บทบำทขององค์กรและ

บุคลำกรพระพุทธศำสนำกำรตีควำมคำสอนของพระพุทธศำสนำ ปัญหำท่ีเกิดข้ึนในวงกำรพระพุทธศำสนำ

ปัญหำภำยนอกท่ีมีผลกระทบต่อควำมเจริญและควำมเส่ือมของพระพุทธศำสนำแ ละพระพุทธศำสนำใน

บรบิ ทอำเซียน

The role and the status of Buddhism in the present world, the role

of the organization and the Buddhist personnel, the interpretation of Buddhist teachings,

the problem arising in the Buddhist circle and the external problem with the impact to the

growth and decline of the Buddhism.

PH 1018 พระพุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์ 3(3-0-6)

Buddhism and Science

เปรียบเทียบระบบกำรแสวงหำควำมจริงของพระพุทธศำสนำและวิทยำศำสตร์

และควำมสอดคลอ้ งกันระหวำ่ งพระพุทธศำสนำกับวิทยำศำสตรใ์ นแงม่ มุ ต่ำง ๆ

Comparison of the system of seeking truth of the Buddhism and

science and the agreement of the Buddhism and science in the different aspects.

PH1019 การพฒั นาทรพั ยากรมนุษยต์ ามแนวพทุ ธศาสตร์ 3(3-0-6)
Human Resources Development on Buddhist Concept
แนวควำมคิด ทฤษฎี และหลักกำรในกำรบริหำรทรัพยำกรมนุษย์ จิตวิทยำที่
เก่ียวกับธรรมชำติของบุคคล กำรจูงใจ ขวัญกำลังใจและควำมพึงพอใจ ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงบุคคล กำร
ติดต่อส่ือสำรในกำรทำงำน กำรนำหลักจิตวิทยำมำประยุกต์ใช้ในกำรสรรหำคัดเลือกบุคคล กำรประเมินผล
งำน กำรวิเครำะห์งำนและกำรฝึกอบรม ตลอดจนกำรบริหำรทรัพยำกรมนุษย์ในภำครัฐ ภำคธุรกิจและ
เอกชน และกำรนำหลกั พุทธศำสตรม์ ำประยกุ ต์ใช้

จัดทำโดยคณะศำสนำและปรชั ญำ มหำวิทยำลยั มหำมกฏุ รำชวิทยำลัย

49

The concept, theory and principles in human resources
development, psychology dealing with natures of personnel, motivation, morale and
satisfaction, interpersonal relation, communication at work, introduction of psychological
principles for application in personnel selection, assessment, work analysis and training as
well as human resources management in business and private sectors and application of
Buddhist Principles.

PH 1020 พทุ ธจรยิ ศาสตร์เพื่อการพัฒนา 3(3-0-6)
Buddhist Ethics for Development
พุทธศำสตร์และจริยศำสตร์คืออะไร ควำมสัมพันธ์ของพุทธจริยศำสตร์เพ่ือกำร
พัฒนำกับศำสตร์อ่ืน ๆ รำกฐำนทำงจิตวิทยำของพุทธจริยศำสตร์ ควำมรู้สึกทำงศีลธรรม กำรตัดสินทำง
ศีลธรรม กฎภำยนอกที่เป็นมำตรฐำนแห่งศีลธรรม แนวคิดเร่ืองสุขนิยม ประโยชน์นิยม สำมัญสำนึก เหตุผล
นิยม จริยศำสตร์ว่ำด้วยเรื่องบุคลิกภำพ ว่ำด้วยเร่ืองลักษณะพ้ืนฐำนของสภำพบังคับทำงศีลธรรม ว่ำด้วย
เรื่องพันธกรณีย์ทำงศีลธรรม ปัจเจกชนและสังคมว่ำด้วยเร่ืองสิทธิและหน้ำที่ คุณธรรม และพุทธจริยศำสตร์
เพือ่ กำรพฒั นำในอดุ มคติทำงพุทธศำสนำ
What the Buddhist Studies and Ethics are, the relationship of Buddhist
ethics for development and other sciences, psychological base on Buddhist ethics, Moral
sense, Moral judgment, external rules that are moral standards, concepts of happiness,
popularity, benefits, popularity, common sense, rationalism, ethics in personality, regarding
the basic characteristics of moral, conditions on moral, individuals and societies on the
rights and duties of morality and Buddhist ethics for the development of Buddhist ideals.

PH 1021 การโค้ชชีวิตและการปฏิบัติงานตามหลักพุทธศาสตร์ 3(3-0-6)
Life and Performance Coaching on the Buddhist Concept
กำรพัฒนำทรัพยำกรบุคคล กำรสร้ำงแรงบันดำลใจให้บรรลุเป้ำหมำยชีวิต กำร

เสรมิ สร้ำงศักยภำพและควำมสำมำรถของบุคคลในกำรปฏิบตั ิงำน ตำมหลักภำวนำ 4 อรยิ วฒั ิธรรม 5 และหลัก
ไตรสกิ ขำ

Personel development, inspirtation creation of successful life and
performance, personel’ s potential and ability in Poformance based on Bavana 4,
Ariyawatthidhamma 5 and Trisikkha.

PH 1022 ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพุทธศาสตร์ 3(3-0-6)

Efficiency Economics on the Buddhist Concept

ควำมหมำยและควำมสำคัญ ของหลักปรัชญำเศรษฐกิจพอเพียง หลักธรรมอันเป็น

หลักกำรแห่งเศรษฐกิจพอเพียงตำมแนวพุทธ หลักธรรมอันเป็นวิธีกำรแห่งเศรษฐกิจพอเพียงตำมแนวพุทธ

หลักธรรมอันเป็นแนวปฏิบัติกำรแห่งเศรษฐกิจพอเพียงตำมแนวพุทธ หลักกำรครอบครัวเข้มแข็งตำมแนวพุทธ

หลักกำรสงั คมเข้มแข็งตำมแนวพุทธ

The meaning and significance of Efficiency economics, principle of

Efficiency Economics on the Buddhist concept, principle of mean of Efficiency Economics on the

Buddhist concept, principle of practice of Efficiency Economics on the Buddhist concept,

principle of stable family, principle of permanent organization on the Buddhist concept.

จดั ทำโดยคณะศำสนำและปรชั ญำ มหำวทิ ยำลัยมหำมกฏุ รำชวทิ ยำลัย

50

PH 1023 พิธกี รรมในพระพุทธศาสนา 3(3-0-6)

Ceremonies in Buddhism

ควำมหมำย ควำมสำคัญของพิธีกรรมในพระพุทธศำสนำ พิธีกรรมในกำรบำเพ็ญ

ทำน พิธีกรรมในกำรบำเพ็ญศีล พิธีกรรมในกำรบำเพ็ญภำวนำ พิธีกรรมกำรทอดกฐิน พิธีกรรมกำรบรรพชำ

อปุ สมบท พิธีกรรมกำรผูกพทั ธสีมำฝงั ลูกนิมติ พิธีกรรมกำรบำเพ็ญกศุ ลอน่ื ๆ ท่ีควรรคู้ วรทรำบ

Meaning and significance of Buddhist Ceremonies, charity ceremony,

precept-observation ceremony, mind-development ceremony, kathina ceremony, ordination

ceremony, ceremony of boundary damacation, other significant ceremonies of Buddhism.

PH 1024 การพัฒนาจติ ในพระไตรปิฎก 3(3-0-6)

Mind Development in Tipitaka

รูปแบบข้ันตอน กำรพัฒนำจิตใจที่มำในพระไตรปิฎก รวมทั้งกำรฝึกพัฒนำจิตใจ

ตำมรูปแบบของสำนักต่ำง ๆ ที่โดดเด่นในประเทศไทย เช่น สำนักอำนำปำนสติ สำนักอำนำปำนสติภำวนำ

พุทโธ สำนักยุบหนอ พองหนอ สำนักเคล่ือนไหว เป็นต้น เพื่อกำรพัฒนำจิตใจนี้ขยำยไปสู่สังคมและสำมำรถ

ปรับประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้

Formats and steps of mental development in the Tripitaka, and

training for mind development according to the format of various offices to propagate to

society and the application them in daily life.

PH1025 วฒั นธรรมท้องถิ่นเพอื่ การพฒั นา 3(3-0-6)

Local Culture for Development
รูปแบบวัฒนธรรมของชุมชนต่ำง ๆ ประเพณีนิยม วิถีประชำ ปทัสฐำน อำรยธรรม
สื่อพ้ืนบ้ำน ท่ีสืบทอดกันต่อมำ วิเครำะห์ขนบธรรมเนียมประเพณี ศำสนำ ท่ีจะเป็นปัญหำต่อกำรพัฒนำ หำ
วิธีแก้ไข โดยอำศัยหลักแห่งกัลยำมิตร ใช้ควำมละมุนละม่อม ในกำรขัดเกลำชุมชนน้ัน ๆ ได้พัฒนำไปในทำงที่
เจรญิ ยง่ิ ขึ้น

Cultural formats of various communities, traditions, people ways of

lives, standard, civilization, indigenous media succeeded from on generation to the next.

Analysis of tradition, custom, religion which is likely to be problematic to the development,

seeking for method for resolution based on the principles of good friendship, using humble

amiability in shaping such a community to develop in a more prosperous direction.

PH1026 สขุ ภาวะทางสงั คมตามแนวพุทธศาสตร์ 3(3-0-6)

The Buddhist Concept of Social Health

หลักกำรทำงพุทธศำสนำ ที่เน้นมิติกำรพัฒนำทำงสังคม ระบบโครงสร้ำง

ควำมสัมพันธ์ของคนในสังคม บทบำทหน้ำท่ีของคนในสังคม กำรอยู่ร่วมกันในมิติทำงพุทธศำสนำ โดย

เน้นกำรจัดทำเป้ำหมำย ตัวชี้วัดควำมสุขชุมชนตำมแนวทำงพุทธศำสนำ กระบวนกำรมีส่วนร่วมของชุมชน

ทอ้ งถ่ิน ยกระดบั สกู่ ำรพฒั นำสงั คมใหร้ ว่ มเยน็ เปน็ สุข

Buddhist principles with emphasis on the dimension of social

development on the structural system on creation of relations of the people in the

society, the roles and duties of the people in the society, mutual living in Buddhist

dimension with emphasis on preparation of goals, community happiness indicators

จดั ทำโดยคณะศำสนำและปรชั ญำ มหำวทิ ยำลัยมหำมกฏุ รำชวิทยำลยั

51

according to Buddhist guidance, participatory process of local communities, upgrading
social development for peace and happiness.

3) หมวดวชิ าฝกึ ประสบการณ์ 6 หน่วยกติ

PH 1027 การฝกึ ภาคสนาม 6(270)

Field experience

ศึกษำกำรปฏบิ ัตงิ ำนในสถำนทฝ่ี กึ งำนทเ่ี หมำะสมในลกั ษณะพนักงำนช่ัวครำวตำม

โครงงำนทไ่ี ด้รับมอบหมำยตลอดจนกำรจัดทำรำยงำนและกำรนำเสนอ

To study on the work training in suitable workplace as a temporary

employee according to the assigned project including report writing and presentations.

4) หมวดวิชาเลือกเสรี 6 หน่วยกิต
นักศึกษำสำมำรถเลือกเรียนรำยวิชำที่เปิดสอนในมหำวิทยำลัยมหำมกุฏรำชวิทยำลัย ไม่น้อยกว่ำ
จำนวน 6 หนว่ ยกติ โดยไมซ่ ำ้ กับรำยวชิ ำท่ีเคยศึกษำมำแล้ว ตำมควำมเหน็ ชอบของหัวหน้ำภำควิชำนัน้ ๆ

จดั ทำโดยคณะศำสนำและปรัชญำ มหำวทิ ยำลยั มหำมกฏุ รำชวทิ ยำลยั

52

3.2 อาจารย์ผ้สู อน
3.2.1 อาจารยป์ ระจาหลกั สูตร มหาวทิ ยาลยั มหามกุฏราชวทิ ยาลยั ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม

ลาดับ ชื่อ-ฉายา-นามสกลุ ตาแหน่งวิชาการ คุณวุฒิสาขาวชิ าเอก สาเร็จจาก ปที จี่ บ
1 พระศรรี ชั มงคลบณั ฑิต รองศำสตรำจำรย์ ศน.ม. (พุทธศำสน์ศกึ ษำ) ม.มหำมกฏุ รำชวทิ ยำลัย 2545
(อรณุ กำ้ นจักร) (สำขำวิชำพทุ ธศำสตร์) ป.ธ.9 (เปรยี ญธรรม 9 ประโยค) คณะสงฆ์ไทย 2536
2 พระมหำเอกชยั อำจำรย์ ศน.ม. (พุทธศำสนศ์ ึกษำ) ม.มหำมกฏุ รำชวทิ ยำลยั 2560
สุชโย (คำลือ) ป.ธ. 9 (เปรียญธรรม 9 ประโยค) คณะสงฆไ์ ทย 2558
3 พระเจรญิ อำจำรย์ ศน.ม. (พุทธศำสนำและปรชั ญำ) ม.มหำมกฏุ รำชวทิ ยำลยั 2559
ทนฺตจติ โฺ ต (คำงคำ) ศน.บ. (ปรัชญำ) ม.มหำมกฏุ รำชวิทยำลยั 2556
4 นำยอำนำจ อำจำรย์ ศน.ม. (พทุ ธศำสน์ศึกษำ) ม.มหำมกฏุ รำชวทิ ยำลยั 2552
ศรบี รรเทำ ศน.บ. (ภำษำอังกฤษ) ม.มหำมกฏุ รำชวทิ ยำลัย 2536
5 นำยกำธร อำจำรย์ M.A. (Philosophy) Kurukshetra University 2546
เพียเอีย ศน.บ. (ภำษำอังกฤษ) ม.มหำมกฏุ รำชวทิ ยำลัย 2539

3.2.2 อาจารย์ประจาหลกั สูตร มหาวทิ ยาลยั มหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย ต.อ้อมใหญ่
อ.สามพราน จ.นครปฐม
ลาดับ ช่อื -ฉายา-นามสกลุ ตาแหนง่ วชิ าการ คณุ วฒุ ิสาขาวิชาเอก สาเรจ็ จาก ปที ่จี บ
1 นำยภำษติ สุขวรรณดี ผ้ชู ว่ ยศำสตรำจำรย์ ศน.ม. (พุทธศำสนศ์ กึ ษำ) ม.มหำมกฏุ รำชวิทยำลัย 2553
(สำขำวชิ ำพุทธศำสตร์) พธ.บ. (พระพทุ ธศำสนำ) ม.มหำจุฬำลงกรณรำช 2551
วทิ ยำลัย
2 พระบุญเสริม อำจำรย์ ศน.ม. (พุทธศำสนศ์ ึกษำ) ม.มหำมกฏุ รำชวิทยำลัย 2552
ปภสฺสโร (จันทรภ์ กั ด)ี ศน.บ. (พทุ ธศำสตร)์ ม.มหำมกฏุ รำชวิทยำลยั 2549
3 พระวิเชยี ร อำจำรย์ ศศ.ม. (ศำสนำเปรียบเทยี บ) ม.มหดิ ล 2556
อธปิ ญุ ฺโ (แสนศรี) ศน.บ. (พทุ ธศำสตร)์ ม.สุโขทยั ธรรมำธริ ำช 2550
น.บ. (นติ ิศำสตร์) ม.สโุ ขทัยธรรมำธิรำช 2556
ร.บ. (ทฤษฎแี ละเทคนคิ ทำง ม.รำมคำแหง 2558
รฐั ศำสตร์)
ร.บ. (กำรปกครอง) ม.มหำมกฏุ รำชวิทยำลัย 2558
4 นำยสุดใจ ภกู งลี อำจำรย์ M.A. (Buddhist studies) Magadh University 2545
ศน.บ. (ภำษำองั กฤษ) ม.มหำมกฏุ รำชวิทยำลยั 2542
5 นำยวิญญู กนิ ะเสน อำจำรย์ ศน.ม.(พุทธศำสนศ์ กึ ษำ) ม.มหำมกฏุ รำชวทิ ยำลัย 2550
อ.บ. (บรรณำรกั ษศ์ ำสตร์) ม.ศิลปำกร 2541

3.2.3 อาจารยป์ ระจาหลกั สตู ร มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวทิ ยาลยั วทิ ยาเขตลา้ นนา ต.พระสิงห์ อ.เมอื ง จ.เชยี งใหม่

ลาดับ ชอ่ื -ฉายา-นามสกลุ ตาแหน่งวชิ าการ คุณวฒุ ิสาขาวชิ าเอก สาเรจ็ จาก ปีทจี่ บ

1 พระสญั ชยั ำณวีโร อำจำรย์ พธ.ด. (พุทธศำสตรดุษฎบี ณั ฑิต) ม.มหำจฬุ ำลงกรณรำช 2562
(ทิพย์โอสถ) วทิ ยำลยั
ศน.ม. (พทุ ธศำสนำและปรัชญำ) ม.มหำมกฏุ รำชวิทยำลยั 2550
ศน.บ. (พทุ ธศำสตร์) ม.มหำมกฏุ รำชวิทยำลัย 2545
2 พระมหำปณุ ณ์สมบตั ิ อำจำรย์ ศศ.ม. (พทุ ธศำสนศกึ ษำ) ม.ธรรมศำสตร์ 2544
ปภำกโร (บุญเรอื ง) ศน.บ. (ภำษำองั กฤษ) ม.มหำมกฏุ รำชวทิ ยำลัย 2540
3 พระมหำเจรญิ อำจำรย์ ศน.ม. (พุทธศำสนำและปรัชญำ) ม.มหำมกฏุ รำชวทิ ยำลัย 2556
กตปุญฺโ (กระพลิ ำ) ศน.บ. (พทุ ธศำสตร)์ ม.มหำมกฏุ รำชวิทยำลยั 2549
4 นำยสมติ ไธร อำจำรย์ ศศ.ม. (พทุ ธศำสนศึกษำ) ม.ธรรมศำสตร์ 2551
อภิวฒั นอมรกุล ศน.บ. (ภำษำอังกฤษ) ม.มหำมกฏุ รำชวทิ ยำลยั 2547
5 นำยกมล บตุ รชำรี อำจำรย์ ศน.ม. (พุทธศำสนำและปรัชญำ) ม.มหำมกฏุ รำชวิทยำลัย 2542
ศน.บ. (ภำษำอังกฤษ) ม.มหำมกฏุ รำชวทิ ยำลยั 2535

จดั ทำโดยคณะศำสนำและปรัชญำ มหำวทิ ยำลัยมหำมกฏุ รำชวทิ ยำลยั

53

3.2.4 อาจารย์ประจาหลักสตู ร มหาวิทยาลัยมหามกฏุ ราชวิทยาลัย วทิ ยาเขตศรีลา้ นชา้ ง ต.กุดปอ่ ง อ.เมอื ง จ.เลย

ลาดบั ชอื่ -ฉายา-นามสกุล ตาแหนง่ วชิ าการ คุณวฒุ ิสาขาวชิ าเอก สาเรจ็ จาก ปที ี่จบ

1 พระครปู รยิ ัตสิ ำทร อำจำรย์ Ph.D. (Buddhist Studies) University of Delhi 2552
(วรำวธุ รำชำ)
กศ.ม. (จิตวทิ ยำกำรศึกษำ) ม.มหำสำรคำม 2546

2 พระมหำวเิ ชียร ศน.บ. (ภำษำอังกฤษ) ม.มหำมกฏุ รำชวทิ ยำลยั 2536
อำจำรย์ Ph.D. (Buddhist Studies) University of Delhi 2553

ธมฺมวชโิ ร (สำยศรี) ศศ.ม. (ศำสนำเปรยี บเทียบ) ม.มหิดล 2543

3 พระมหำจิณกมล อำจำรย์ ศน.บ. (ภำษำองั กฤษ) ม.มหำมกฏุ รำชวทิ ยำลัย 2540
อภริ ตโน (เปน็ สขุ )
ศน.ม. (พทุ ธศำสนศ์ ึกษำ) ม.มหำมกฏุ รำชวิทยำลัย 2551
พธ.บ. (พระพุทธศำสนำ) ม.มหำจฬุ ำลงกรณรำช 2558

วิทยำลยั

4 นำยเตชทัต อำจำรย์ ศน.บ. (ภำษำองั กฤษ) ม.มหำมกฏุ รำชวิทยำลยั 2544
ปักสงั ขำเนย์
ศน.ม. (พทุ ธศำสน์ศึกษำ) ม.มหำมกฏุ รำชวิทยำลัย 2550
5 นำยทวศี กั ดิ์ ใครบุตร ศน.บ. (พทุ ธศำสตร์) ม.มหำมกฏุ รำชวทิ ยำลยั 2547
อำจำรย์ ศศ.ม. (พทุ ธศำสนศึกษำ)
ม.ธรรมศำสตร์ 2544

ศน.บ. (สังคมวิทยำ) ม.มหำมกฏุ รำชวทิ ยำลัย 2537

3.2.5 อาจารย์ประจาหลกั สตู ร มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วทิ ยาเขตศรธี รรมาโศกราช ต.นาพรุ

อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช

ลาดบั ช่ือ-ฉายา-นามสกุล ตาแหนง่ วิชาการ คุณวุฒิสาขาวิชาเอก สาเรจ็ จาก ปที จ่ี บ
2559
1 พระครูบวรชัยวฒั น์ อำจำรย์ ปร.ด. (ปรัชญำและศำสนำ) ม.เซน็ ตจ์ อรน์ 2551
(วันชัย เลือดไทย)
ศศ.ม. (นโยบำยและกำร ม.ทกั ษนิ 2549
2559
วำงแผนสังคม) 2549
2544
2 พระมหำวชิ ำญ บธ.บ. (บริหำรธรุ กจิ ) ม.เกษมบณั ฑิต 2537
อำจำรย์ ศน.ด. (พทุ ธศำสนำและปรชั ญำ) ม.มหำมกฏุ รำชวทิ ยำลัย 2521
2562
กนตฺ สีโล (กำเหนิดกลับ) ศศ.ม. (สนั สกฤต) ม.ศิลปำกร
2559
ศน.บ. (ปรชั ญำ) ม.มหำมกฏุ รำชวิทยำลยั 2545
3 พระครูปรยิ ัตวิ ฒุ ิธำดำ อำจำรย์ M.A. (Philosophy) 2542
(ภิญโญ พลพงศำ) Madras University

4 พระอนุรักษ์ ศน.บ. (ปรัชญำ) ม.มหำมกฏุ รำชวิทยำลัย
อนรุ กฺขโิ ต อำจำรย์ พธ.ม. (พระพุทธศำสนำ)
ม.มหำจฬุ ำลงกรณรำช
วิทยำลัย

5 นำยเอกชัย แซล่ มิ้ ศน.บ. (พทุ ธศำสตร์) ม.มหำมกฏุ รำชวทิ ยำลยั
อำจำรย์ ศน.ม. (พุทธศำสนศ์ ึกษำ)
ม.มหำมกฏุ รำชวิทยำลัย

ศน.บ. (พทุ ธศำสตร์) ม.มหำมกฏุ รำชวิทยำลยั

จดั ทำโดยคณะศำสนำและปรชั ญำ มหำวทิ ยำลัยมหำมกฏุ รำชวทิ ยำลยั

54
4. องคป์ ระกอบเกี่ยวกบั ประสบการณภ์ าคสนาม (การฝกึ งานหรือสหกจิ ศึกษา)

ฝึกปฏิบัติในสถำนประกอบกำร หนว่ ยงำนภำครัฐและเอกชน
4.1 มาตรฐานผลการเรยี นรู้ของประสบการณภ์ าคสนาม

4.1.1 มคี วำมรแู้ ละทกั ษะด้ำนกำรปฏบิ ตั งิ ำนในสถำนประกอบกำร
4.1.2 มีทกั ษะกำรทำงำนด้ำนกำรวำงแผน กำรจัดกำร และกำรติดตอ่ สื่อสำร
4.1.3 มกี ำรพัฒนำด้ำนมนษุ ยสมั พนั ธ์ คุณธรรม จรรยำบรรณ จริยธรรมและกำรทำงำนเป็นทีม
4.2 ช่วงเวลา
กำรฝึกปฏิบตั ติ ำมระเบยี บมหำวิทยำลยั มหำมกุฏรำชวทิ ยำลยั ว่ำด้วยสหกจิ ศกึ ษำ พ.ศ. 2559 สถำนประกอบกำร ท่ี
ดำเนินกำรเกี่ยวกับสำธำรณะประโยชน์ หน่วยงำนอ่ืนๆ หรือสถำนทีท่ ี่มหำวิทยำลัยกำหนด โดยปฏบิ ัติในภำคกำรศึกษำที่ 2
ชน้ั ปีที่ 4 ระยะเวลำรวม 270 ชั่วโมง (45 x 6 = 270 ช่ัวโมง)
4.3 การจัดเวลาและตารางสอน
วันจนั ทร์-วนั ศกุ ร์ เวลำเป็นไปตำมตำรำงเรียนตำรำงสอนท่ีมหำวิทยำลยั กำหนด

5. ข้อกาหนดเกี่ยวกับการทาโครงงานหรอื งานวจิ ยั (ถ้าม)ี
- ไมม่ ี

จัดทำโดยคณะศำสนำและปรัชญำ มหำวิทยำลัยมหำมกฏุ รำชวิทยำลยั

55

หมวดท่ี 4 ผลการเรยี นรู้ กลยุทธก์ ารสอนและการประเมินผล

1. การพัฒนาคณุ ลักษณะพิเศษของนักศึกษา

ระบุคุณลักษณะพิเศษของนักศึกษำที่เป็นควำมคำดหวังหรือเป้ำหมำยเฉพำะของหลักสูตรน้ี พร้อม

ทง้ั ระบุกลยุทธ์หรอื กิจกรรมกำรดำเนนิ กำรที่จะส่งผลให้เกิดคณุ ลักษณะพเิ ศษดังกลำ่ ว

คณุ ลกั ษณะพิเศษ กลยุทธ์หรือกิจกรรมการดาเนินการ

1.1 ควำมคดิ วิเครำะห์และสรำ้ งสรรค์ กลยุทธ์หรือกิจกรรมกำรดำเนินกำรเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ ด้วย
กำรเรียนรู้ผ่ำนกำรทำงำน (Work-based Learning) กำรเรียนรู้
ผ่ำนโครงงำน (Project-based Learning) กำรเรียนรู้ผ่ำนกำร
แ ก้ ปั ญ ห ำ (Problem-based Learning) ก ำรเรี ย น รู้ ผ่ ำ น
กระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์หรือวิธีวิจัย (Research-based
Learning) กำรเรียนรู้ผ่ำนกำรส่ือสำรอย่ำงสร้ำงสรรค์ กำรเรียนรู้
แบบข้นั บนั ได เช่น กำรต้งั ประเดน็ คำถำม/สมมติฐำน (Learning to
Question) กำรสืบค้นควำมรู้จำกแหล่งเรียนรู้และสำรสนเทศ
(Learning to Search) ก ำรส รุ ป อ งค์ ค วำม รู้ (Learning to
Construct) กำรสื่อสำรและกำรนำเสนออย่ำงมีประสิทธิภำพ
(Learning to Communicate) กำรบริกำรสังคมและจิตสำธำรณะ
(Learning to Serve)
1.2 ควำมสำมำรถดำ้ นคอมพิวเตอรแ์ ละเทคโนโลยี -จัดกำรเรียนกำรสอนในรำยวิชำที่เกี่ยวข้องกับกำรวิเครำะห์ข้อมูล
สำรสนเทศ สถติ แิ ละสำรสนเทศเพอ่ื กำรศกึ ษำคน้ ควำ้
-จัดกำรเรียนกำรสอนในรำยวิชำท่ีเก่ียวกับเทคโนโลยีสำรสนเทศ
เพื่อกำรส่ือสำร เพ่ือกำรประชำสัมพันธ์ นำเสนองำนวิชำกำรต่อ
สังคม
-มอบงำนให้นักศึกษำค้นคว้ำผ่ำนระบบเครือข่ำยอินเทอร์เน็ตและ
คอมพวิ เตอร์
-ให้อำจำรย์และนักศึกษำมีปฏิสัมพันธ์กำรเรียนรู้ผ่ำนโปรแกรม
คอมพวิ เตอร์
1.3 ควำมสำมำรถดำ้ นกำรใชภ้ ำษำอังกฤษ - จัดโครงกำรสอนเสริมภำษำองั กฤษ
- รำยวิชำภำษำอังกฤษสำหรับพุทธศำสตร์เพื่อกำรพัฒนำเป็นกำร
ฝึกให้นักศกึ ษำใช้ภำษำองั กฤษในกำรเรยี นกำรสอน
- ฝึกฝนกำรอ่ำนวำรสำรวิชำกำรภำษำอังกฤษสอดแทรกตำม
รำยวชิ ำตำ่ ง ๆ
1.4 กำรวำงแผนกำรทำงำน กำรตดิ ตอ่ ส่ือสำร กำร - จัดกำรเรียนกำรสอนโดยแบง่ นกั ศึกษำทำงำนกนั เป็นกลุ่ม หรอื ส่ง
ทำงำนรว่ มกัน มมี นษุ ยสมั พนั ธ์ คณุ ธรรม นกั ศกึ ษำไปฝึกปฏบิ ัติงำนสถำนปฏิบัตธิ รรม หน่วยงำนภำครัฐและ
จรรยำบรรณและจรยิ ธรรม เอกชน เพ่ือเรียนรู้กำรวำงแผนกำรทำงำน ทำงำนร่วมกัน กำร
ทำงำนเป็นทีม กำรมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี มีคุณธรรม จรรยำบรรณ
จริยธรรม
- มกี ำรสอดแทรกคุณธรรม จรรยำบรรณและจรยิ ธรรมตำมรำยวชิ ำ
ต่ำง ๆ
- ส่งเสริมกำรกำรวำงแผนกำรทำงำน ทำงำนร่วมกัน กำรทำงำน
เปน็ ทีม กำรมมี นษุ ยสัมพนั ธท์ ่ดี ี มีคุณธรรม จรรยำบรรณ จริยธรรม
- มีอำจำรยท์ ีป่ รกึ ษำคอยดแู ล เอำใจใส่ ใหค้ ำแนะนำและคำปรึกษำ
ตำ่ งๆ
- นักศกึ ษำมโี อกำสรว่ มทำงำนบรกิ ำรให้กับชุมชนในโครงกำรตำ่ ง ๆ

จดั ทำโดยคณะศำสนำและปรัชญำ มหำวทิ ยำลยั มหำมกฏุ รำชวทิ ยำลยั

56

2. การพัฒนาผลการเรียนร้ใู นแต่ละดา้ น
2.1 หมวดศกึ ษาทั่วไป
2.1.1 คุณธรรมจริยธรรม
ผลการเรียนรู้ กลยุทธ์การสอน วิธกี ารวดั และประเมนิ ผล
1) มีหลักธรรมในกำรดำเนนิ ชีวิต 1) มีกำรสอนสอดแทรกหลักธรรม 1) ประเมนิ พฤติกรรมของผู้เรียนที่มี
2) มีวินัย เคำรพในกฎหมำยและ และปลูกฝังควำมมีระเบียบวินยั กำรใชห้ ลักธรรมกับชีวติ และควำมมี
สิทธิของคนอ่ืน ๆ 2) มีกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ ระเบยี บวินัย
3) มีจิตใจเสียสละ ประพฤติตน 3) จัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรเพ่ือ 2 ) ป ระ เมิ น ก ำรมี ส่ ว น ร่ว ม ใน
เกื้อกูลตอ่ สังคม พฒั นำคุณธรรมและจริยธรรม กจิ กรรมทำงสงั คม
3) ประเมินควำมรับผิดชอบตำม
บทบำทหน้ำที่ และงำนทม่ี อบหมำย
2.1.2 ความรู้
ผลการเรียนรู้ กลยทุ ธก์ ารสอน วธิ กี ารวัดและประเมินผล
1) รู้จักกฎเกณฑ์ทำงสังคม เคำรพ 1) กำรบรรยำยที่ ผู้ สอนเป็ นผู้ 1) ประเมินผลกำรเรียนรู้โดยกำรสอบ
กฎหมำย และเข้ำใจในบทบำทหน้ำที่ ถ่ำยทอด ทดสอบ ทดลองปฏิบัติ กำรนำเสนอ
ของตนเอง 2) กำรมอบหมำยงำนศึกษำค้นคว้ำ ผลงำนจำกกำรศึกษำค้นคว้ำ กำรใช้
2) มี ควำมรู้เท่ ำทั น เท คโนโลยี และกำรนำเสนอผลงำนจำกกำร สื่อ และประเมินควำมรู้จำกกำรเข้ำ
สำรสนเทศ และกำรใช้ ให้ เกิ ด คน้ ควำ้ ร่วมกิจกรรม
ประโยชน์สงู สุด 3) กำรศึกษำดูงำนนอกสถำนท่ี 2) ประเมินพฤติกรรมที่ผ่ำนกำร
3) เข้ำใจในหลักเกณฑ์ธรรมชำติของ กำรเข้ำร่วมกิจกรรมทำงสังคม และ เรียนรู้ ควำมมีระเบียบวินัย และกำร
มนุษย์ สงั คม และส่งิ แวดลอ้ ม ประชุมสมั มนำ เคำรพกฎหมำย
4) ตระหนักรู้ในคุณค่ำของศิลปะ 4) จัดประสบกำรณ์ เรียนรู้แบบ 3) ประเมินกำรมีส่วนร่วมและควำม
ภำษำและวัฒนธรรมทั้งของไทยและ บูรณำกำรสำระควำมรู้ทุกรำยวิชำ รบั ผิดชอบในกิจกรรม
ของประชำคมนำนำชำติ ผ่ำนเวทีกิจกรรมสรุปบทเรียนใน
5) รู้หลักกำรดำเนินชีวิตตำมแนวทำง รูปแบบของนิทรรศกำร ละครเวที
พระพทุ ธศำสนำ หรอื กิจกรรมตลำดนัดวชิ ำกำร
2.1.3 ทกั ษะทางปญั ญา
ผลการเรยี นรู้ กลยุทธก์ ารสอน วธิ กี ารวัดและประเมินผล
1) ฉลำดรู้ที่จะปฏิบัติตนให้เกื้อกูลต่อ 1) ฝึกกำรคิดวิเครำะห์เชิงเหตุผล 1) ประเมนิ กิจกรรม
สังคมและสง่ิ แวดล้อม ผ่ำนกิจกรรมและสถำนกำรณ์จริง 2) สังเกตพฤติกรรม กำรกระทำ และ
2) วิเครำะห์และประเมินสถำนกำรณ์ 2) มอบหมำยให้เข้ำร่วมกิจกรรม กำรแสดงออก
และสภำวกำรณ์ได้อย่ำงเหมำะสม ทำงสังคม ศำสนำ กิจกรรมวิชำกำร 3) ประเมินกำรใช้เทคโนโลยีเพื่อ
3) ฉลำดรู้ท่ีจะแสวงหำแนวทำงกำรและกำรศึกษำดูงำน กำรศกึ ษำและกำรติดต่อส่ือสำร
ทำงำนและดำรงชีวิตได้อย่ำงเป็น 3) จัดเวทีสรุปบทเรียนในแต่ละ
สุขและสรำ้ งสรรค์ กิจกรรมทีม่ อบหมำย
4) ฉลำดรู้ที่จะใช้เทคโนโลยีให้เป็น
ประโยชน์ต่อกำรศึกษำกำรทำงำน
และกำรติดต่อส่ือสำร

จัดทำโดยคณะศำสนำและปรัชญำ มหำวิทยำลยั มหำมกฏุ รำชวทิ ยำลัย

57

2.1.4 ทกั ษะความสมั พันธ์ระหวา่ งบคุ คลและความรบั ผดิ ชอบ
ผลการเรยี นรู้ กลยทุ ธก์ ารสอน วธิ ีการวัดและประเมนิ ผล

1) มภี ำวะผูน้ ำ รจู้ ักกำรใชเ้ หตุผล 1) กำหนดวิธีกำรเรียนกำรสอน 1) ประเมินผลจำกกำรทำงำนเป็น

ว ำ ง ต น ได้ อ ย่ ำ ง ถู ก ต้ อ ง ต ำ ม โดยเน้นกำรเรียนรแู้ บบเปน็ กล่มุ ทีมและกำรมสี ่วนรว่ มในกลุ่ม

กำลเทศะ 2) จัดให้มีกิจกรรมสัมพันธ์และ 2) ให้นักศึกษำประเมินตนเองและ

2 ) มี ค ว ำ ม เสี ย ส ล ะ บ ำ เพ็ ญ กำรทำงำนเป็นทมี เพ่อื นร่วมช้นั เรียน

ประโยชน์ต่อส่วนรวม 3) จัดกิจกรรมบำเพญ็ ประโยชน์ 3) อำจำรย์ผู้สอนมีกำรประเมิน

3) มีกำรสอดส่อง และป้องกัน พฤติกรรมของผ้เู รียน

ไม่ ให้ เกิ ด ก ำ ร ป ร ะ พ ฤ ติ มิ ช อ บ ใ น

องคก์ รและสังคม

4) รู้จักวำงแผนในกำรทำงำน และ

ดำเนินตำมแผนท่ีได้วำงไว้

2.1.5 ทักษะในการวเิ คราะห์เชงิ ตวั เลข การส่ือสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ
ผลการเรียนรู้ กลยุทธ์การสอน วิธีการวัดและประเมนิ ผล

1) มีควำมสำมำรถจัดกลุ่มควำมรู้ 1) จัดกำรเรียนกำรสอนในรำยวิชำ 1) ป ระเมิ น ผ ล ก ำรเรียน รู้โด ย

และคดิ วิเครำะห์ข้อมลู เชิงตัวเลขได้ ที่เกี่ยวข้องกับกำรวิเครำะห์ข้อมูล อำจำรย์ผู้สอน

2) มีควำมสำมำรถในกำรแสวงหำ สถิติ และเทคโนโลยีสำรสนเทศ 2) ประเมินผลจำกกำรศกึ ษำคน้ คว้ำ

ควำมรู้ กำรจัดเก็บ ประมวลผล เพอ่ื กำรศึกษำค้นคว้ำ ผ่ำนระบบเครือข่ำยอินเทอร์เน็ต

ข้อมูลและกำรนำเสนอข้อมูลผ่ำน 2) มอบหมำยงำนให้ศึกษำค้นคว้ำ และคอมพิวเตอร์

อุปกรณ์ทำงเทคโนโลยสี ำรสนเทศได้ ผ่ำนระบบเครือข่ำยอินเทอร์เน็ต 3) ประเมินกำรนำเสนอผลงำนจำก

3) มีควำมสำมำรถสื่อสำรได้อย่ำงมี และคอมพิวเตอร์ กำรค้น คว้ำผ่ำน สื่อเท คโน โลยี

ประสิทธิภำพ สำมำรถเลือกใช้ สำรสนเทศ

รูปแบบกำรส่ือท่ีสำรที่เหมำะสม

สำหรบั บคุ คลที่แตกตำ่ งกันได้

2.2 กลุม่ วชิ าเฉพาะ
2.2.1 คณุ ธรรม จรยิ ธรรม

ผลการเรยี นรู้ กลยทุ ธ์การสอน วธิ ีการวัดและประเมินผล

1) มีจติ สำนึกและตระหนักศึกษำใน 1) มีกำรสอนในบำงรำยวิชำใน 1) ประเมินผลกำรเรียนตำมรำยวิชำ

กำรปฏิบัติตำมจรรยำบรรณทำง หมวดศึกษำท่ัวไปและวิชำเฉพำะ และประเมนิ ผลกำรเขำ้ ร่วมกจิ กรรม

อำชพี พระพุทธศำสนำ 2) ประเมินพฤติกรรมโดยเพื่อน

2) มีวินัย ซ่ือสัตย์ และรับผิดชอบ 2) สอดแทรกกิจกรรมคุณธรรม นั ก ศึ ก ษ ำ อ ำ จ ำ ร ย์ ที่ ป รึ ก ษ ำ

ต่อตนเองและสงั คม และจริยธรรมในบำงรำยวิชำท่ีมี อำจำรยผ์ ้สู อน

3) มี จิ ต ส ำ ธ ำ ร ณ ะ รั ก แ ล ะ กำรเรียนกำรสอน 3) ประเมินคุณลักษณะบัณฑิต โดย

ภำคภูมิใจในท้องถิ่น สถำบัน และ 3) จัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรเพื่อ ผู้ใชบ้ ณั ฑติ

ประเทศชำติ พฒั นำคณุ ธรรมและจริยธรรม

จดั ทำโดยคณะศำสนำและปรัชญำ มหำวิทยำลัยมหำมกฏุ รำชวทิ ยำลยั

58

2.2.2 ความรู้

ผลการเรยี นรู้ กลยทุ ธก์ ารสอน วิธีการวัดและประเมินผล

1) มีควำมรู้ควำมเข้ำใจในหลักกำร 1) กำรสอ น ห ลำยรูป แ บ บ ใน 1) ประเมินผลกำรเรียนรู้โดยกำร

และทฤษฎีสำคัญในสำขำวิชำพุทธ รำยวิชำตำมหลักสูตร ได้แก่ กำร สอบ ทดสอบ ทดลองปฏิบัติ กำร

พุทธศำสตร์เพือ่ กำรพัฒนำ บรรยำย อภิปรำย กำรนำเสนอ นำเสนอผลงำนจำกกำรศึกษ ำ

2) มีทักษะและประสบกำรณ์กำร ก ำ ร จั ด กิ จ ก ร ร ม ก ำ ร เรี ย น รู้ คน้ คว้ำ และประเมินควำมรูจ้ ำกกำร

เรียนรู้ในสำขำวิชำพุทธศำสตร์เพ่ือ กำรศึกษำค้นคว้ำด้วยตนเอง กำร เข้ำรว่ มกจิ กรรม

กำรพัฒนำ สำมำรถปฏิบัติงำนใน เขยี นรำยงำน 2) ประเมินคุณลักษณะบัณฑิต โดย

สถำนกำรณต์ ่ำง ๆ ได้ 2) กำรฝึกปฏิบัติ กำรฝึกงำน กำร ผูใ้ ชบ้ ณั ฑิต

3 ) มี ค ว ำ ม รู้ ค ว ำ ม เข้ ำ ใจ ใ น ได้ฝึกกำรทำงำนเดย่ี วและเป็นกลุ่ม

พัฒนำกำรใหม่ ๆ ในสำขำวิชำพุทธ 3) กำรศึกษำดูงำนนอกสถำนท่ี กำร

ศำสตร์เพื่อกำรพัฒ นำ รวมถึง เข้ำร่วมกิจกรรมทำงสังคม และ

งำนวิจัยท่ีเกี่ยวข้องกับกำรแก้ไข ประชมุ สัมมนำในโอกำสต่ำง ๆ

ปัญหำและกำรต่อยอดองค์ควำมรู้

ในสำขำวิชำพุทธศำสตร์เพื่อกำร

พฒั นำ

4) ตระหนักศึกษำในธรรมเนียม

ปฏิบัติ กฎ ระเบียบ ข้อบังคับท่ี

เปล่ยี นแปลงตำมสถำนกำรณ์

5) มีควำมรู้ด้ำนพุทธศำสตร์เพื่อ

กำรพัฒนำ

2.2.3 ทักษะทางปญั ญา

ผลการเรยี นรู้ กลยุทธ์การสอน วธิ กี ารวดั และประเมินผล

1) สำมำรถค้นหำ ตีควำม และ 1) มอบหมำยให้ทำรำยงำน ทำ 1) ประเมินรำยงำน โครงงำนหรือ
ประเมินสำรสนเทศ เพื่อใช้ในกำร โครงงำน หรืองำนวิจัยตำมควำม งำนวจิ ยั ของผ้เู รยี น
2) ประเมินผลจำกรำยงำนกำรเข้ำ
พัฒนำควำมรู้และกำรแก้ปัญหำ สนใจของผู้เรียน
2) มอบหมำยให้เข้ำร่วมกิจกรรม รว่ มกิจกรรมต่ำง ๆ ของผเู้ รยี น
ทำงอำชีพได้อยำ่ งสร้ำงสรรค์
2) สำมำรถคิดวิเครำะห์และริเริ่ม ทำงสังคม กิจกรรมวิชำกำร และ 3) ประเมินผลจำกกำรนำเสนอ
ผลงำนผ่ำนเวทีสำธำรณะและในช้ัน
สร้ำงสรรค์ โดยใช้ควำมรู้และ กำรศกึ ษำดงู ำน
ป ร ะ ส บ ก ำรณ์ ข อ งต น ใน ก ำ ร 3) จัดเวทีสรุปบทเรียนในแต่ละ เรียน
4) ประเมินคุณลักษณะบัณฑิต โดย
แก้ปญั หำกำรทำงำนได้ กจิ กรรมที่มอบหมำย
3) สำมำรถวำงแผนกำรทำงำนและ 4) กำรนำเสนอผลงำน เพื่อรับกำร ผใู้ ชบ้ ัณฑติ

กำรบรหิ ำรจดั กำรงำนได้ ป ระ เมิ น ผ ล งำน น ำไป สู่ ก ำร

ปรบั ปรงุ งำนให้ถูกตอ้ ง

จดั ทำโดยคณะศำสนำและปรัชญำ มหำวทิ ยำลัยมหำมกฏุ รำชวทิ ยำลยั

59

2.2.4 ทกั ษะความสัมพันธ์ระหวา่ งบคุ คลและความรับผดิ ชอบ

ผลการเรยี นรู้ กลยทุ ธ์การสอน วธิ กี ารวัดและประเมินผล

1) มีภำวะผู้นำ รู้จักกำรใช้เหตุผล 1) กำหนดวิธีกำรเรียนกำรสอน 1) ประเมนิ ผลจำกกำรทำงำนเป็น

วำงตนไดอ้ ย่ำงถูกต้องตำม โดยเนน้ กำรเรยี นรู้แบบเปน็ กล่มุ ทมี และกำรมีสว่ นร่วมในกลุ่ม

กำลเทศะ 2) จดั ให้มีกจิ กรรมสมั พันธแ์ ละ 2) ให้นักศึกษำประเมินตนเองและ

2) มีควำมเสียสละ บำเพญ็ กำรทำงำนเปน็ ทีม เพอ่ื นร่วมช้ันเรยี น

ประโยชนต์ ่อส่วนรวม 3) จัดกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ 3) อำจำรย์ผสู้ อนมีกำรประเมิน

3) มีกำรสอดส่อง และป้องกนั ไมใ่ ห้ พฤติกรรมของผู้เรียน

เกดิ กำรประพฤติมิชอบในองค์กร

และสงั คม

2.2.5 ทกั ษะในการวิเคราะหเ์ ชงิ ตวั เลข การส่ือสารและเทคโนโลยสี ารสนเทศ

ผลการเรยี นรู้ กลยทุ ธก์ ารสอน วธิ กี ารวดั และประเมนิ ผล
1) มีควำมสำมำรถในกำรวิเครำะห์เชิง 1) มวี ิชำคอมพิวเตอร์เพ่อื กำรทำงำน 1) ประเมินผลกำรเรยี นร้จู ำกกำรเรียน
ตัวเลขในชีวิตประจำวันและในกำร และเทคโนโลยีสำรสนเทศและกำร รำยวิชำ โดยกำรสอบข้อเขียน สอบ
ปฏบิ ตั ิงำนในสำขำอำชพี ได้ เผยแผ่พระพุทธศำสนำ นอกจำกน้ี ภำคปฏิบัติ กำรทำ แบบฝึกหัด กำร
2) มีทักษะกำรใช้ภำษำไทยและ ยังมีรำยวิชำระเบียบวิธีวิจัยทำง ทำรำยงำน กำรนำเสนอผลงำน
ภำษำอังกฤษในกำรสื่อสำรอย่ำง ภำษำและรำยวิชำสถิติเบื้องต้น และ 2) ป ระเมิน ผลกำรเรียน รู้ด้ำน
สรำ้ งสรรค์ สอดแทรกตำมรำยวิชำตำ่ ง ๆ
ค อ ม พิ ว เต อ ร์ แ ล ะ เท ค โน โล ยี
3 ) มี ค ว ำ ม ส ำม ำร ถ ใน ก ำรใช้ 2) ฝึกกำรนำเสนอผลงำนโดยเน้น ส ำ ร ส น เท ศ ต ำ ม เก ณ ฑ์ ข อ ง
คอมพิวเตอร์และสำรสนเทศในกำร ควำมสำคัญของกำรใช้ภำษำ และ มหำวทิ ยำลัย
สื่อสำร กำรแสวงหำควำมรู้ด้วย บคุ ลิกภำพ
3) สังเกตพฤติกรรมกำรปฏิบัติงำน
ตนเอง กำรจัดเก็บและประมวลผล 3) มอบหมำยงำนค้นคว้ำองค์ ของนกั ศึกษำ
ข้อมู ลและกำรน ำเสน อข้อมู ล ควำมรู้ กำรเรียนรู้ด้วยตนเองผ่ำน

สำรสนเทศ ระบบ e-learning กำรทดสอบ

ควำมรู้พื้นฐำนด้ำนคอมพิวเตอร์

และเทคโนโลยีสำรสนเทศตำม

เกณฑข์ องมหำวิทยำลัย

จดั ทำโดยคณะศำสนำและปรชั ญำ มหำวิทยำลยั มหำมกฏุ รำชวทิ ยำลยั

60

3. แผนทีแ่ สดงการกระจายความรบั ผิดชอบมาตรฐานผลการเรียนรู้จากหลักสูตรสู่รายวิชา
(Curriculum Mapping)
พิจำรณำควำมเชื่อมโยงของผลกำรเรียนรู้ของหลักสูตรและของรำยวิชำ แสดงให้เห็นว่ำแต่ละ

รำยวิชำในหลักสูตร รับผิดชอบต่อผลกำรเรียนรู้ใดบ้ำง โดยระบุว่ำเป็นควำมรับผิดชอบหลัก หรือควำม
รับผิดชอบรอง ท้งั น้ี ผลกำรเรียนรูด้ งั ตำรำงทแี่ นบ มีควำมหมำยดงั น้ี

3.1 หมวดวชิ าศึกษาท่วั ไป
3.1.1 ดา้ นคณุ ธรรมจรยิ ธรรม
1) มีหลกั ธรรมในกำรดำเนินชีวิต
2) มีวนิ ยั เคำรพในกฎหมำย และสิทธิของคนอน่ื ๆ
3) มจี ติ ใจเสียสละ ประพฤติตนเกอ้ื กูลตอ่ สงั คม
3.1.2 ด้านความรู้
1) รจู้ กั กฎเกณฑ์ทำงสังคม เคำรพกฎหมำย และเขำ้ ใจในบทบำทหน้ำท่ีของตนเอง
2) มีควำมร้เู ท่ำทนั เทคโนโลยีสำรสนเทศ และกำรใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสดุ
3) เขำ้ ใจในหลักเกณฑธ์ รรมชำตขิ องมนษุ ย์ สังคม และสิ่งแวดล้อม
4) ตระหนักรู้ในคุณค่ำของศิลปะ ภำษำและวัฒนธรรมท้ังของไทยและของประชำคม
นำนำชำติ
5) รู้หลกั กำรดำเนนิ ชีวิตตำมแนวทำงพระพทุ ธศำสนำ
3.1.3 ด้านทักษะทางปญั ญา
1) ฉลำดรู้ทจ่ี ะปฏิบัติตนใหเ้ ก้ือกลู ต่อสงั คมและส่งิ แวดล้อม
2) วิเครำะห์ และประเมินสถำนกำรณแ์ ละสภำวกำรณ์ไดอ้ ย่ำงเหมำะสม
3) ฉลำดรทู้ จี่ ะแสวงหำแนวทำงกำรทำงำนและดำรงชีวติ ได้อยำ่ งเป็นสุขและสร้ำงสรรค์
4) ฉลำดรู้ท่ีจะใชเ้ ทคโนโลยีให้เปน็ ประโยชน์ตอ่ กำรศึกษำกำรทำงำนและกำร
ติดตอ่ สอ่ื สำร
3.1.4 ดา้ นทักษะความสัมพันธร์ ะหว่างบคุ คลและความรับผดิ ชอบ
1) มีภำวะผนู้ ำ รู้จกั กำรใชเ้ หตผุ ล วำงตนไดอ้ ย่ำงถูกต้องตำมกำลเทศะ
2) มคี วำมเสียสละ บำเพ็ญประโยชนต์ ่อส่วนรวม
3) มกี ำรสอดสอ่ ง และป้องกนั ไมใ่ หเ้ กิดกำรประพฤตมิ ิชอบในองค์กรและสังคม
4) รู้จักวำงแผนในกำรทำงำน และดำเนนิ ตำมแผนที่ไดว้ ำงไว้
3.1.5 ดา้ นทกั ษะในการวิเคราะหเ์ ชงิ ตัวเลข การส่ือสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ
1) มคี วำมสำมำรถจดั กลุม่ ควำมรู้ และคิดวเิ ครำะห์ข้อมลู เชิงตัวเลขได้
2) มคี วำมสำมำรถในกำรแสวงหำควำมรู้ กำรจัดเกบ็ ประมวลผลข้อมูลและกำรนำเสนอ
ขอ้ มลู ผำ่ นอุปกรณท์ ำงเทคโนโลยีสำรสนเทศได้
3) มคี วำมสำมำรถส่อื สำรได้อยำ่ งมปี ระสทิ ธิภำพ สำมำรถเลือกใชร้ ูปแบบกำรสอ่ื ท่สี ำรท่ี
เหมำะสม สำหรบั บุคคลทีแ่ ตกตำ่ งกันได้

จดั ทำโดยคณะศำสนำและปรชั ญำ มหำวิทยำลยั มหำมกฏุ รำชวิทยำลัย

แผนทแ่ี สดงการกระจายความรบั ผิดชอบตอ่ ผลการเร
ความรับผดิ ชอบหลกั 

รายวชิ า คณุ ธรรม
จรยิ ธรรม
กลมุ่ วิชาสงั คมศาสตร์ 12312
รายวชิ าบังคับเรียน
- GE1001 กำรตอ่ ตำ้ นกำรทุจรติ 
รายวิชาเลือกเรยี น
- GE1002 ทอ้ งถิน่ ศึกษำ 
- GE1003 มนุษยก์ บั กฎหมำย  
- GE1004 สันติศกึ ษำ  
- GE1005 กำรศึกษำเพื่อชีวิต 
- GE1006 ไทยศึกษำ 
- GE1007 มนุษยก์ บั หน้ำทีพ่ ลเมือง 
กลุ่มวิชามนษุ ยศาสตร์
รายวิชาบังคับเรยี น 
- GE2001มนษุ ย์กับกำรแสวงหำควำมรู้
รายวิชาเลือกเรียน 
- GE2002 พทุ ธจริยธรรมศกึ ษำ 
- GE2003 กำรวำงแผนชวี ติ

จดั ทำโดยคณะศำสนำและปรัชญำ มห

61

รยี นรู้จากหลกั สตู รสูร่ ายวชิ าหมวดวชิ าศกึ ษาท่วั ไป
 ความรบั ผดิ ชอบรอง

ทักษะความสัมพันธ์ ทักษะในการ
ความรู้ ทกั ษะทางปัญญา ระหว่างบุคคลและ วิเคราะห์

ความรับผดิ ชอบ เชงิ ตัวเลขฯ
34512341234123

       

     
     
      
    
      
  



 
 

หำวิทยำลัยมหำมกฏุ รำชวิทยำลยั

รายวิชา คณุ ธรรม
จรยิ ธรรม

12312

- GE2004 พุทธศลิ ป์และโบรำณคดี 

- GE2005 จิตวิทยำกับชีวิต 

กลุ่มวิชาภาษา

รายวิชาบังคับเรียน

- GE3001 ภำษำไทย  

- GE3002 ภำษำองั กฤษพื้นฐำน  

- GE3003 ภำษำองั กฤษเพือ่ กำรสื่อสำรและกำรสบื คน้     
รายวชิ าเลือกเรียน
- GE3004 กำรแปลอังกฤษ  
- GE3005 ภำษำองั กฤษเพื่อทกั ษะกำรศกึ ษำ     
- GE3006 ภำษำอำเซยี นเพอื่ กำรเรียนรวู้ ัฒนธรรม     
กล่มุ วิชาวิทยาศาสตรก์ ับคณติ ศาสตร์
รายวชิ าบังคับเรียน
- GE4001 สถติ เิ พื่อกำรวจิ ัย   

รายวชิ าเลือกเรียน

- GE4002 คอมพวิ เตอร์เพ่ือกำรทำงำน  

- GE4003 เทคโนโลยสี ำรสนเทศเพ่อื กำรศกึ ษำค้นคว้ำ     

- GE4004 วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี  

จดั ทำโดยคณะศำสนำและปรชั ญำ มห

62

ทกั ษะความสัมพนั ธ์ ทกั ษะในการ
ความรู้ ทกั ษะทางปัญญา ระหวา่ งบคุ คลและ วเิ คราะห์

ความรบั ผดิ ชอบ เชงิ ตวั เลขฯ
34512341234123
     
  

      
       
         
       
       
     

       

      
      
     

หำวทิ ยำลัยมหำมกฏุ รำชวิทยำลัย

63

3.2 หมวดวชิ าเฉพาะ
3.2.1 ด้านคุณธรรมและจรยิ ธรรม
1) มีจติ สำนึกและตระหนักศึกษำในกำรปฏิบัติตำมจรรยำบรรณทำงอำชพี
2) มีวนิ ยั ซือ่ สัตย์ และรบั ผดิ ชอบต่อตนเองและสังคม
3) มีจติ สำธำรณะ รักและภำคภมู ิใจในทอ้ งถิน่ สถำบนั และประเทศชำติ
3.2.2 ดา้ นความรู้
1) มีควำมรู้ควำมเขำ้ ใจในหลักกำรและทฤษฎีสำคัญในสำขำวชิ ำพุทธพุทธศำสตร์เพ่ือ
กำรพฒั นำ
2) มีทักษะและประสบกำรณ์กำรเรยี นร้ใู นสำขำวชิ ำพุทธศำสตรเ์ พือ่ กำรพัฒนำ สำมำรถ
ปฏบิ ตั งิ ำนในสถำนกำรณต์ ำ่ ง ๆ ได้
3) มคี วำมรู้ควำมเขำ้ ใจในพัฒนำกำรใหม่ ๆ ในสำขำวิชำพทุ ธศำสตรเ์ พื่อกำรพัฒนำ
รวมถึงงำนวิจัยทีเ่ กีย่ วข้องกบั กำรแก้ไขปัญหำและกำรต่อยอดองคค์ วำมรู้ในสำขำวชิ ำ
พทุ ธศำสตร์เพือ่ กำรพัฒนำ
4) ตระหนกั ศกึ ษำในธรรมเนยี มปฏบิ ตั ิ กฎ ระเบียบ ข้อบังคับทเ่ี ปลย่ี นแปลงตำม
สถำนกำรณ์
5) มีควำมร้ดู ำ้ นพทุ ธศำสตร์เพ่อื กำรพฒั นำ
3.2.3 ดา้ นทกั ษะทางปัญญา
1) สำมำรถคน้ หำ ตคี วำม และประเมนิ สำรสนเทศ เพือ่ ใชใ้ นกำรพฒั นำควำมรู้และกำร
แกป้ ญั หำทำงอำชพี ได้อย่ำงสรำ้ งสรรค์
2) สำมำรถคิดวิเครำะหแ์ ละรเิ รมิ่ สร้ำงสรรค์ โดยใชค้ วำมรูแ้ ละประสบกำรณ์ของตนใน
กำรแก้ปัญหำกำรทำงำนได้
3) สำมำรถวำงแผนกำรทำงำนและกำรบรหิ ำรจัดกำรงำนได้
3.2.4 ด้านทกั ษะความสัมพันธร์ ะหวา่ งบุคคลและความรับผดิ ชอบ
1) มภี ำวะผูน้ ำ รู้จกั กำรใชเ้ หตุผล วำงตนได้อย่ำงถกู ต้องตำมกำลเทศะ
2) มีควำมเสยี สละ บำเพ็ญประโยชน์ต่อส่วนรวม
3) มกี ำรสอดส่อง และป้องกนั ไม่ให้เกดิ กำรประพฤตมิ ชิ อบในองค์กรและสังคม
3.2.5 ดา้ นทักษะในการวเิ คราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสารและเทคโนโลยสี ารสนเทศ
1) มีควำมสำมำรถในกำรวิเครำะห์เชิงตัวเลขในชีวิตประจำวนั และในกำรปฏิบัติงำนใน
สำขำอำชพี ได้
2) มีทกั ษะกำรใช้ภำษำไทยและภำษำอังกฤษในกำรสื่อสำรอยำ่ งสร้ำงสรรค์
3) มีควำมสำมำรถในกำรใช้คอมพิวเตอร์และสำรสนเทศในกำรสื่อสำร กำรแสวงหำ
ควำมรดู้ ้วยตนเอง กำรจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลและกำรนำเสนอข้อมูลสำรสนเทศ

จดั ทำโดยคณะศำสนำและปรัชญำ มหำวทิ ยำลัยมหำมกฏุ รำชวทิ ยำลัย

แผนท่ีแสดงการกระจายความรับผดิ ชอบตอ่ ผลก
ความรบั ผดิ ชอบหลกั 

รายวชิ า คุณธรรม
จรยิ ธรรม

12312

1) หมวดวิชาเฉพาะกลุ่มวิชาพระพุทธศาสนา

รายวิชาบังคับเรียน

- BU5001 ประวตั ศิ ำสตร์พระพุทธศำสนำ 

- BU5002 พระไตรปฎิ กศกึ ษำ 1 

- BU5003 พระไตรปิฎกศกึ ษำ 2 

- BU5004 พระไตรปิฎกศึกษำ 3 

- BU5005 พทุ ธวถิ ีไทย 

- BU5006 ภำษำบำลเี พือ่ กำรค้นคว้ำพระพุทธศำสนำ     

- BU5007 ภำษำสันสกฤตเพ่อื กำรคน้ ควำ้ พระพุทธศำสนำ     

- BU5008 กำรปฏิบตั กิ รรมฐำน 

รายวิชาเลือกเรยี น

- BU5009 พระพทุ ธศำสนำมหำยำน 

- BU5010 ศำสนศกึ ษำ 

- BU5011 ภำษำองั กฤษเพอื่ กำรเผยแผ่พระพุทธศำสนำ     

- BU5012 วรรณกรรมทำงพระพทุ ธศำสนำของไทย 

- BU5013 เทคโนโลยีสำรสนเทศเพ่อื กำรเผยแผ่พระพทุ ธศำสนำ     

จดั ทำโดยคณะศำสนำและปรชั ญำ มห

64

การเรยี นรู้จากหลักสูตรสู่รายวิชาหมวดวชิ าเฉพาะ
 ความรบั ผิดชอบรอง

ทกั ษะ ทกั ษะในการ
วิเคราะห์
ความรู้ ทักษะทางปัญญา ความสัมพนั ธ์ เชงิ ตวั เลขฯ
ระหว่างบคุ คลและ

ความรับผดิ ชอบ

23451 2 3 1231 2 3

          
          
          
          
          
        
        
          

          
          
          
      -    
     

หำวทิ ยำลยั มหำมกฏุ รำชวิทยำลยั

รายวิชา คณุ ธรรม
จริยธรรม

12312

- BU5014 พระพทุ ธศำสนำกับวทิ ยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี     

- BU5015 พระพทุ ธศำสนำกับโลกำภวิ ตั น์ 

- BU5016 พระพุทธศำสนำกับกำรพฒั นำแบบยง่ั ยืน 

- BU5017 พระพุทธศำสนำในสังคมไทยร่วมสมยั 

- BU5018 กำรบริหำรกิจกำรพระพุทธศำสนำ 

กล่มุ วิชาเอกพุทธศาสตร์เพือ่ การพฒั นา

รายวชิ าบังคับเรียน

- PH1001 พทุ ธปรชั ญำเถรวำท 

- PH1002 พุทธปฏิภำณ 

- PH1003 วสิ ุทธิมรรค 

- PH1004 สัมมนำพระวนิ ัยปิฎกศกึ ษำ 

- PH1005 สมั มนำพระสุตตันตปฎิ กศึกษำ 

- PH1006 สมั มนำพระอภธิ รรมปิฎกศกึ ษำ 

- PH1007 สมั มนำอรรถกถำพระไตรปฎิ ก 

- PH1008 จติ วิทยำตำมแนวพทุ ธศำสตร์ 

- PH1009 ศกึ ษำศำสตร์ตำมแนวพุทธศำสตร์ 

- PH1010 สงั คมวิทยำตำมแนวพุทธศำสตร์ 

- PH1011 เศรษฐศำสตรต์ ำมแนวพทุ ธศำสตร์ 

- PH1012 รฐั ศำสตร์ตำมแนวพุทธศำสตร์ 

จัดทำโดยคณะศำสนำและปรัชญำ มห

65

ทกั ษะ ทกั ษะในการ
วเิ คราะห์
ความรู้ ทกั ษะทางปัญญา ความสมั พนั ธ์ เชิงตัวเลขฯ
ระหวา่ งบุคคลและ

ความรบั ผิดชอบ

23451 2 3 1231 2 3

     

          

     

     

     

          
          
     
          
          
          
     
     
         
         
          
          

หำวทิ ยำลยั มหำมกฏุ รำชวิทยำลัย

รายวชิ า คุณธรรม
จริยธรรม

12312

- PH1013 มงคลสูตรศึกษำ 

- PH1014 มลิ ินทปญั หำ 

- PH1015 ภำษำอังกฤษสำหรบั พุทธศำสตร์เพ่ือกำรพฒั นำ     

- PH1016 ระเบยี บวิธวี ิจัยทำงพุทธศำสตรเ์ พ่ือกำรพัฒนำ     

รายวชิ าเอกเลือก

- PH1017 พระพุทธศำสนำกบั โลกปัจจุบนั 

- PH1018 พระพุทธศำสนำกบั วิทยำศำสตร์ 

- PH1019 กำรพัฒนำทรพั ยำกรมนษุ ย์ตำมแนวพุทธศำสตร์     

- PH1020 พุทธจริยศำสตร์ 

- PH1021 กำรโค้ชชวี ิตและกำรปฏิบตั ิงำนตำมหลกั พทุ ธศำสตร์     

- PH1022 ปรชั ญำเศรษฐกิจพอเพยี งตำมแนวพุทธศำสตร์     

- PH1023 พิธกี รรมในพระพทุ ธศำสนำ 

- PH1024 กำรพัฒนำจติ ในพระไตรปฎิ ก 

- PH1025 วัฒนธรรมท้องถ่ินเพือ่ กำรพัฒนำ 

- PH1026 สขุ ภำวะทำงสังคมตำมแนวพทุ ธศำสตร์ 

- PH1027 กำรฝึกภำคสนำม 

จัดทำโดยคณะศำสนำและปรชั ญำ มห

66

ทกั ษะ ทักษะในการ
วิเคราะห์
ความรู้ ทกั ษะทางปัญญา ความสมั พนั ธ์ เชิงตวั เลขฯ
ระหวา่ งบคุ คลและ

ความรบั ผดิ ชอบ

23451 2 3 1231 2 3

          

          

          

          

          
          
          
          
          
     
         
          
          
          
          

หำวิทยำลัยมหำมกฏุ รำชวทิ ยำลัย

67

หมวดที่ 5 หลักเกณฑใ์ นการประเมนิ ผลนักศึกษา

1. กฎระเบยี บหรือหลักเกณฑใ์ นการใหร้ ะดบั คะแนน
เปน็ ไปตำมระเบียบมหำวิทยำลยั มหำมกุฏรำชวทิ ยำลัยว่ำดว้ ย
กำรศึกษำระดับปรญิ ญำตรี พ.ศ. 2559

2. กระบวนการทวนสอบมาตรฐานผลสัมฤทธข์ิ องนกั ศึกษา
2.1 การทวนสอบมาตรฐานผลการเรียนรขู้ ณะนกั ศึกษายงั ไมส่ าเรจ็ การศกึ ษา
กลยุทธ์ทใี่ ช้โดยปกติในกำรทวนสอบมำตรฐำนผลกำรเรยี นรู้ของนักศึกษำ อำจำรยผ์ ู้สอนในหลักสตู ร

ต้องทวนสอบผลสัมฤทธิอ์ ย่ำงน้อยร้อยละ 25 ของรำยวชิ ำทีเ่ ปดิ สอนในแต่ละปีกำรศึกษำ โดยมีวิธดี งั น้ี
2.1.1 กำรตรวจสอบกำรให้คะแนนจำกกระดำษคำตอบข้อสอบของนักศึกษำ กำรตัดเกรด

และงำนท่ีรับมอบหมำยให้เป็นไปตำมเกณฑ์ที่กำหนด โดยทั้งนี้ให้แต่งต้ังคณะกรรมกำรทวนสอบผลสัมฤทธิ์
ระดบั หลักสตู รข้ึนมำตรวจประเมินรำยวิชำทม่ี ผี ลกำรเรยี นผดิ ปกติ

2.1.2 กำรประเมนิ หลักสตู รโดยนกั ศกึ ษำและผสู้ ำเร็จกำรศึกษำ
2.1.3 กำรประเมินภำควิชำและหลกั สูตรโดยบคุ ลำกรภำยนอก
2.1.4 กำรรำยงำนเก่ียวกับทักษะของบัณฑิตโดยผู้ใช้บัณฑิตกำรทวนสอบมำตรฐำน
บำงส่วนอำจจะดำเนินกำรโดยสถำบันอุดมศึกษำอ่ืนๆที่มีควำมร่วมมือทำงกำรศึกษำ แต่จะมีกระบวนกำร
อยำ่ งไรนั้น ขนึ้ อยู่กบั รำยละเอยี ดของกำรจดั กำรและควำมมีประสิทธภิ ำพของกำรดำเนินกำรร่วมกัน
อยำ่ งไรก็ตำม หลักสูตรในสถำบนั อุดมศกึ ษำทีเ่ ปดิ สอนจะต้องรบั ผดิ ชอบในกำรทวนสอบมำตรฐำน
เพ่ือให้ม่ันใจว่ำจะรักษำมำตรฐำนไวไ้ ดอ้ ย่ำงสม่ำเสมอ
2.2 การทวนสอบมาตรฐานผลการเรียนรู้หลังจากนักศกึ ษาสาเร็จการศกึ ษา
2.2.1 มกี ำรสำรวจกำรได้งำนทำและกำรทำงำนตรงสำขำของบัณฑติ
2.2.2 มีกำรสำรวจควำมสำมำรถในกำรเข้ำศึกษำต่อในสถำบันท่ีเป็นที่ยอมรับทั้งในและ
ตำ่ งประเทศ

2.2.3 มีกำรประเมินหลักสูตรทุกๆ 5 ปี โดยผู้ทรงคุณวุฒิผู้สอน บัณฑิต ผู้ใช้บัณฑิตและ
กรรมกำรบริหำรหลกั สตู ร

2.2.4 มกี ำรประเมินบัณฑติ โดยผใู้ ช้บัณฑิต

3. เกณฑ์การสาเร็จการศกึ ษาตามหลักสูตร
3.1 กำรสำเรจ็ กำรศกึ ษำ
3.2.1 ตอ้ งเรียนใหค้ รบหนว่ ยกิตทรี่ ะบไุ วต้ ำมหลกั สูตร
3.2.2 ต้องไดร้ ะดบั คะแนนเฉลยี่ ไมต่ ่ำกวำ่ 2.00
3.2 เป็นไปตำมระเบยี บมหำวทิ ยำลัยมหำมกุฏรำชวิทยำลยั วำ่ ดว้ ยกำรศกึ ษำระดับปรญิ ญำตรี พ.ศ. 2559

จัดทำโดยคณะศำสนำและปรัชญำ มหำวทิ ยำลยั มหำมกฏุ รำชวทิ ยำลัย

68

หมวดที่ 6 การพัฒนาคณาจารย์
1. การเตรยี มการสาหรบั อาจารย์ใหม่

1.1 จัดหลักสตู รกำรอบรมสำหรับอำจำรยใ์ หม่ซึ่งอำจจดั ข้นึ ในระดับมหำวทิ ยำลยั หรือคณะ
1.2 กำรมอบหมำยให้มีอำจำรย์ทีป่ รึกษำทำหน้ำทใี่ หค้ ำแนะนำและเป็นท่ีปรึกษำในด้ำนกำรจัดกำรเรียน
กำรสอน
1.3 กำรชแ้ี จงและแนะนำหลักสูตร รำยวิชำในหลกั สูตร
1.4 กำรมอบหมำยใหอ้ ำจำรย์ใหม่ศึกษำค้นคว้ำ จัดทำเอกสำรที่เกีย่ วขอ้ งกับกำรสอน ในหัวข้อหนึ่งหรือ
หลำยหัวข้อท่ีอำจำรย์ใหม่มีควำมรู้และถนัด เพื่อทดลองทำกำรสอนภำยใต้คำแนะนำของอำจำรย์ท่ีปรึกษำ
หรือประธำนหลักสตู ร
1.5 กำรกำหนดให้อำจำรย์ใหม่เข้ำร่วมสงั เกตกำรณ์กำรสอนของอำจำรยใ์ นหลักสูตร
2. การพัฒนาความรแู้ ละทกั ษะให้แก่อาจารย์
2.1 การพฒั นาทักษะการจดั การเรยี นการสอน การวัดและการประเมนิ ผล

2.1.1 กำหนดให้อำจำรย์ต้องเข้ำรับกำรอบรมเพ่ือพัฒนำตนเองด้ำนกำรจัดกำรเรียนกำรสอน
กำรวัดและกำรประเมินผล ตำมควำมต้องกำรของอำจำรย์และเป็นไปตำมนโยบำยของมหำวิทยำลัย
ซ่ึงมหำวิทยำลัยมีกำรเปิดหลักสูตรอบรมเพ่ือพัฒนำอำจำรย์ในหัวข้อต่ำงๆ ท่ีเก่ียวข้องกับกำรจัดกำรเรียน
กำรสอน กำรวิจยั กำรผลิตผลงำนทำงวชิ ำกำร เปน็ ประจำทกุ ปี

2.1.2 กำรจัดให้มีกำรสอนแบบเป็นทีม ซึ่งจะส่งเสริมโอกำสให้อำจำรย์ได้มีประสบกำรณ์กำรสอน
รว่ มกบั คนอืน่ รวมถงึ กำรมโี อกำสไดเ้ ป็นผรู้ บั ผดิ ชอบรำยวชิ ำ ผู้ประสำนงำน และผรู้ ว่ มทมี กำรสอน

2.1.3 กำรสง่ เสริมหรอื สร้ำงโอกำสให้มีกำรแลกเปล่ียนเรียนรู้ประสบกำรณ์ด้ำนกำรจัดกำรเรยี นกำร
สอนระหว่ำงอำจำรย์ในหลักสูตร หรือทำวิจัยกำรเรียนกำรสอนที่สำมำรถนำไปเผยแพร่ในกำรประชุม
วิชำกำรที่มีกำรจดั กำรเรยี นกำรสอนในสำขำวิชำเดยี วกนั ของหลำยๆ สถำบัน

2.2 การพัฒนาวิชาการและวิชาชพี
2.2.1 กำรส่งเสริมให้อำจำรย์เข้ำร่วมกำรอบรม กำรประชุมสัมมนำในสำขำวิชำกำรที่จัดทั้งภำยใน

และภำยนอกมหำวิทยำลัย อย่ำงนอ้ ยปลี ะ 1 คร้งั
2.2.2 กำรส่งเสริมให้อำจำรย์ผลิตผลงำนทำงวิชำกำรในรูปแบบต่ำงๆ และกำรนำเสนอผลงำนใน

กำรประชุมวชิ ำกำรในสำขำวชิ ำกำรอยำ่ งนอ้ ยให้มีผลงำนกำรเขียนหรอื กำรนำเสนอปลี ะ 1 เรอ่ื ง

จดั ทำโดยคณะศำสนำและปรัชญำ มหำวิทยำลยั มหำมกฏุ รำชวิทยำลัย

69

หมวดท่ี 7 การประกันคุณภาพหลกั สูตร
1. การกากับมาตรฐาน

หลักสูตรมีกำรดำเนินงำนเกี่ยวกบั อำจำรย์ตำมประกำศกระทรวงศึกษำธิกำร เรื่อง เกณฑ์มำตรฐำน
หลักสตู รระดับปริญญำตรี พ.ศ. 2558 ดังน้ี

1.1 อาจารย์ผู้รบั ผดิ ชอบหลกั สตู ร
กำหนดให้มีอำจำรย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรจำนวน 5 คน มีคุณวฒุ ิตรงหรือสัมพันธก์ ับสำขำวิชำท่ีเปิด
สอนขั้นต่ำปริญญำโทหรือเทียบเท่ำท่ีมีตำแหน่งทำงวิชำกำรไม่ต่ำกว่ำผู้ช่วยศำสตรำจำรย์ และมีผลงำนทำง
วิชำกำรที่ได้รับกำรเผยแพร่ตำมหลักเกณฑ์ท่ีกำหนดในกำรพิจำรณำแต่งตั้งให้บุคคลดำรงตำแหน่งทำง
วิชำกำรอย่ำงน้อย 1 รำยกำรในรอบ 5 ปี ย้อนหลัง มีทำหน้ำท่ีในกำรบริหำรและพัฒนำหลักสูตรและกำร
เรยี นกำรสอน ต้งั แตก่ ำรวำงแผน กำรควบคมุ คณุ ภำพ กำรติดตำมประเมนิ ผลและกำรพัฒนำหลักสูตร
1.2 อาจารย์ประจาหลักสตู ร
กำหนดให้อำจำรย์ประจำหลกั สตู รมีคณุ วฒุ ิตรงหรือสัมพันธ์กบั สำขำวิชำทเี่ ปิดสอนข้นั ตำ่ ปริญญำโท
หรือเทียบเท่ำที่มีตำแหน่งทำงวิชำกำรไม่ต่ำกว่ำผู้ช่วยศำสตรำจำรย์ และมีผลงำนทำงวิชำกำรท่ีได้รับกำร
เผยแพร่ตำมหลักเกณฑ์ท่ีกำหนดในกำรพิจำรณำแต่งตั้งให้บุคคลดำรงตำแหน่งทำงวิชำกำรอย่ำงน้อย 1
รำยกำรในรอบ 5 ปี ย้อนหลัง
1.3 การปรบั ปรุงหลกั สูตรตามรอบระยะเวลาท่กี าหนด
กำรปรบั ปรุงหลักสตู รต้องไม่เกนิ 5 ปี จะตอ้ งปรับปรุงให้เสร็จและอนุมัติ/ ใหค้ วำมเห็นชอบโดยสภำ
มหำวทิ ยำลยั เพ่ือใหห้ ลกั สูตรใช้งำนในปีที่ 6 โดยมีระบบและกลไก ดงั น้ี

1.3.1 วางแผนพฒั นาหลกั สูตร
(1) รวบรวม วิเครำะหข์ อ้ มลู จำกวำงแผนและใหข้ อ้ คิดเหน็ เก่ยี วกบั กำรพฒั นำ
ปรบั ปรงุ หลกั สตู ร
(2) ศกึ ษำเอกสำร กฎหมำย ระเบยี บ ประกำศทเ่ี กี่ยวข้องกับกำรจดั ทำหลักสูตร
(3) แตง่ ตง้ั คณะกรรมกำรพฒั นำหลักสตู ร

1.3.2 ยกรา่ งหลกั สูตร
(1) ดำเนนิ กำรจดั ทำรำยละเอยี ดของรำ่ งหลักสูตร
(2) วิพำกษห์ ลกั สูตร

1.3.3 พจิ ารณาอนุมัติการเปิดหลักสตู ร
(1) นำสรุปผลกำรออกแบบระบบกำรเปิดหลักสูตรกำรศึกษำ เข้ำพิจำรณำเพ่ืออนมุ ตั ิ
กำรเปิดหลกั สูตรตอ่ สภำวิชำกำร มหำวทิ ยำลยั มหำมกุฏรำชวทิ ยำลยั
(2) นำเสนอหลักสตู รต่อ สภำวิชำกำร มหำวิทยำลัยมหำมกฏุ รำชวิทยำลัยเพอ่ื
รับทรำบกำรเปิดหลกั สตู ร
(3) นำเสนอหลักสตู รต่อ สภำมหำวทิ ยำลัยมหำมกฏุ รำชวทิ ยำลยั เพอื่ อนุมตั กิ ำรเปดิ
หลักสูตรเสนอหลักสตู รต่อ สกอ.
(4) เสนอหลักสูตรตอ่ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรอุดมศึกษำ (สกอ.)

1.3.4 ประกาศใชห้ ลักสตู ร
(1) สภำมหำวิทยำลัยมหำมกฏุ รำชวทิ ยำลยั พจิ ำรณำเห็นชอบกำรเปดิ ใชห้ ลกั สตู ร
(2) คณะกรรมกำรบรหิ ำรหลกั สูตร ประชำสมั พนั ธ์และเตรียมควำมพรอ้ มในกำรนำ
หลักสูตรไปใช้

1.3.5 นาหลกั สูตรไปใช้
(1) ประชุมช้แี จงอำจำรย์เกี่ยวกับกำรนำหลกั สตู รไปใชเ้ พือ่ เตรียมควำมพร้อมก่อน

จัดทำโดยคณะศำสนำและปรัชญำ มหำวทิ ยำลยั มหำมกฏุ รำชวทิ ยำลยั

70

เปดิ หลกั สตู ร
(2) ดำเนนิ กำรใช้หลกั สตู รตำมเกณฑม์ ำตรฐำนของหลักสตู ร
1.3.6 การกากับ/ ตดิ ตามการใชห้ ลักสูตร
(1) กำกับติดตำมกำรใช้หลกั สตู รและประเมินผลกำรใช้หลักสูตร
(2) สรุปผลปัญหำ อุปสรรค ในกำรใช้หลกั สูตร
1.3.7 การพัฒนาปรับปรงุ หลกั สตู ร
(1) วำงแผน เสนอแนวทำงกำรพฒั นำปรับปรุงหลักสูตร นำเสนอในที่ประชมุ คณะ
กรรมกำรบรหิ ำรหลักสูตร คณะกรรมกำรสภำวชิ ำกำร มหำวทิ ยำลัยมหำมกฏุ รำช
วิทยำลัย เพ่อื เสนอแผนกำรปรับปรุงหลกั สูตรต่อคณะกรรมกำรสภำมหำวทิ ยำลัย
มหำมกุฏรำชวทิ ยำลัย
1.3.8 ประเมนิ กระบวนการ
(1) มกี ำรประชุม/ ประเมินผล กำรประเมินกำรดำเนินงำนในแตล่ ะขน้ั ตอนเพ่ือนำไป
ปรับปรุงระบบ
1.3.9 จดั การความรู้
(1) ถอดบทเรียน/ จัดกำรควำมรู้ตำมกระบวนกำรจดั กำรควำมรู้
1.3.10 จัดทาแนวปฏบิ ตั ทิ ี่ดี
(1) มผี ลกำรปฏบิ ตั ทิ ่ดี ีมำกกวำ่ 1 วงรอบมำ จดั ทำเปน็ แนวปฏบิ ตั ทิ ด่ี ใี นกำรพฒั นำ
หลกั สูตร
1.4 การดาเนินงานให้เปน็ ไปตามตวั บง่ ช้ีผลการดาเนนิ งานเพอื่ การประกันคณุ ภาพหลักสูตรและ
การเรียนการสอนตามกรอบมาตรฐานคณุ วุฒริ ะดับอุดมศึกษาแหง่ ชาติ
อำจำรย์ผ้รู บั ผิดชอบหลกั สตู ร อำจำรย์ประจำหลักสตู ร คณะกรรมกำรบริหำรหลกั สูตรดำเนินงำนให้
เป็นไปตำมตัวบ่งชี้ผลกำรดำเนินงำน เพื่อกำรประกันคุณภำพหลักสูตร และกำรเรียนกำรสอนตำมกรอบ
มำตรฐำนคณุ วฒุ ิระดับอดุ มศกึ ษำแหง่ ชำติ

2. บัณฑติ
จัดให้มีกำรผลิตบัณฑิต หรือกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนให้ผู้เรียนมีควำมรู้ในวิชำกำรและ

วิชำชีพมีคุณลักษณะบัณฑิตตำมกรอบมำตรฐำนคุณวุฒิระดับอุดมศึกษำแห่งชำติ พ.ศ. 2552 คือเป็นผู้มี
ควำมรู้ มีคุณธรรม จริยธรรม มีควำมสำมำรถในกำรพัฒนำตนเอง สำมำรถประยุกต์ใช้ควำมรู้เพ่ือกำร
ดำรงชีวิตในสังคมได้อย่ำงมีควำมสุขท้ังร่ำงกำยและจิตใจมีควำมสำนึกและควำมรับผิดชอบในฐำนะพลเมือง
และพลโลก และมคี ณุ ลักษณะตำมอตั ลักษณ์ของมหำวทิ ยำลยั ดังน้ี

2.1 คุณภาพบณั ฑติ ตามกรอบมาตรฐานคุณวฒุ ริ บั อดุ มศึกษาแห่งชาติ
- มีกำรกำหนดทักษะกำรปฏิบัติงำนทำงวิชำชีพเป็นมำตรฐำนเฉพำะด้ำน ครอบคุลมผลกำรเรียนรู้
อย่ำงน้อย 5 ด้ำน
2.2 รอ้ ยละของบณั ฑติ ระดบั ปริญญาตรีทีไ่ ดง้ านทาหรอื ประกอบอาชีพอสิ ระภายใน 1 ปี
- โดยสำรวจจำกบัณฑิตที่สำเร็จกำรศึกษำตำมหลักสูตรระดับปริญญำตรี ภำคปกติ ได้งำนทำหรือมี
กจิ กำรของตนเองที่มีรำยไดป้ ระจำภำยในระยะเวลำ 1 ปี นับจำกวันท่ีสำเรจ็ กำรศกึ ษำ

3. นกั ศึกษา
กำรประกันคุณภำพหลักสูตรในองค์ประกอบด้ำนนักศึกษำเริ่มดำเนินกำรตั้งแต่ระบบกำรรับ

นักศึกษำกำรส่งเสริมและพัฒนำนักศึกษำและผลลัพธ์ท่ีเกิดข้ึนกับนักศึกษำภำยใต้กำรดำเนินกำรดังกล่ำวให้
พิจำรณำจำกตวั บ่งชี้ดังตอ่ ไปน้ี

จดั ทำโดยคณะศำสนำและปรชั ญำ มหำวิทยำลยั มหำมกฏุ รำชวทิ ยำลยั

71

3.1 กำรรบั นกั ศกึ ษำ
- มีระบบและกลไกกำรรับนักศกึ ษำ
- มกี ำรเตรียมควำมพร้อมกอ่ นเข้ำศึกษำ
3.2 กำรสง่ เสริมและพัฒนำนกั ศึกษำ
-มีกำรควบคมุ กำรใหค้ ำปรกึ ษำวิชำกำรและแนะแนวแกน่ กั ศกึ ษำปริญญำตรี
- มีกำรพฒั นำศกั ยภำพนกั ศึกษำและกำรเสรมิ สร้ำงทกั ษะกำรเรยี นร้ใู นศตวรรษที่ 21
3.3 ผลที่เกิดกบั นกั ศกึ ษำ
- มกี ำรทำรำยงำนกำรคงอยูข่ องนกั ศึกษำ
- มีกำรทำบัญชีรำยชอ่ื ผู้สำเรจ็ กำรศกึ ษำ
- มีกำรสำรวจควำมพึงพอใจและผลกำรจดั กำรข้อร้องเรียนของนกั ศึกษำ

4. อาจารย์
4.1 กำรบรหิ ำรและพฒั นำอำจำรย์
- มีระบบกำรรับและแตง่ ตัง้ อำจำรยป์ ระจำหลักสตู ร
- มรี ะบบกำรบรหิ ำรอำจำรย์
- มีระบบกำรส่งเสรมิ และพัฒนำอำจำรย์
4.2 คุณภำพอำจำรย์
- มีแผนกำรพฒั นำอำจำรยป์ ระจำหลกั สตู รใหม้ ีคณุ วฒุ ิปรญิ ญำเอก
- มีระบบกำรพัฒนำผลงำนวิชำกำรของอำจำรย์ประจำหลักสูตรท่ีดำรงตำแหนง่ ทำงวิชำกำร
- มีกำรสง่ เสรมิ ให้อำจำรยป์ ระจำหลกั สตู รมีผลงำนทำงวชิ ำกำร
4.3 ผลท่เี กิดกบั อำจำรย์
- มีกำรรำยงำนกำรคงอยขู่ องอำจำรย์
- มีกำรประเมินควำมพึงพอใจของอำจำรย์ต่อกำรบริหำรหลักสูตรและมีกำรรำยงำนผลกำร

ดำเนินงำน

5. หลกั สูตร การเรียนการสอน การประเมนิ ผลผเู้ รียน
5.1 สำระของรำยวชิ ำในหลกั สูตร
- มกี ำรออกแบบหลักสูตรและสำระรำยวชิ ำในหลกั สูตร
- มีระบบกลไกกำรปรับปรุงหลักสูตรให้ทันสมัยตอบสนองควำมต้องกำรของสังคมและสอดคล้อง

ตำมพนั ธกิจของมหำวิทยำลยั
5.2 กำรวำงระบบผสู้ อนและกระบวนกำรจัดกำรเรยี นกำรสอน
- มีกำรกำหนดผ้สู อน
-มีกำรประชุมวำงแผนเตรียมอำจำรย์ก่อนกำรเรียนกำรสอนและกำรกำหนดผู้สอนให้เป็นไปตำม

หลกั สูตร
- มีระบบกำรกำกับติดตำมและตรวจสอบกำรจัดทำแผนกำรเรียนรู้ (มคอ.3 และ มคอ.4) และกำร

จดั กำรเรยี นกำรสอน
-มีกำรจัดกำรเรียนกำรสอนในระดับปริญญำตรีที่มีกำรบูรณำกำรกับกำรวิจัย กำรบริกำรวิชำกำร

ทำงสงั คมและกำรทำนุบำรุงศลิ ปะและวฒั นธรรม
5.3 กำรประเมินผเู้ รยี น
- มีกำรประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ตำมกรอบมำตรฐำนคุณวุฒิระดบั อุดมศึกษำแห่งชำติ พ.ศ. 2552
- มีกำรตรวจสอบกำรประเมินผลกำรเรียนรู้ของนกั ศกึ ษำ
- มีกำรกำกับกำรประเมินกำรจัดกำรเรียนกำรสอนและประเมินหลักสูตร (มคอ.5 มคอ.6

และมคอ.7)

จดั ทำโดยคณะศำสนำและปรัชญำ มหำวิทยำลยั มหำมกฏุ รำชวทิ ยำลยั

72

5.4 ผลกำรดำเนินงำนหลกั สตู รตำมกรอบมำตรฐำนคุณวฒุ ิระดับอุดมศึกษำแห่งชำติ พ.ศ. 2552
-มผี ลกำรดำเนินงำนตำมตัวบง่ ช้ีกำรดำเนินงำนตำมกรอบมำตรฐำนคณุ วุฒิระดบั อุดมศึกษำที่ปรำกฏ
ในหลักสูตร (มคอ.2) หมวดที่ 7 ข้อ 7 ที่หลักสูตรแต่ละหลักสูตรดำเนินงำนได้ในแต่ละปีกำรศึกษำ อำจำรย์
ประจำหลักสูตรจะเป็นผู้รำยงำนผลกำรดำเนินงำนประจำปีในแบบรำยงำนผลกำรดำเนินกำรของหลักสูตร
(มคอ.7)

6. สง่ิ สนับสนุนการเรยี นรู้
- มีระบบกำรดำเนินงำนของคณะศำสนำและปรัชญำ โดยมีส่วนร่วมของอำจำรย์ประจำหลักสูตร

เพือ่ ใหม้ ีส่ิงสนับสนุนกำรเรยี นรู้ เชน่ ห้องเรยี น ห้องปฏบิ ัตกิ ำร ท่ีพักของนักศึกษำ และมีห้องใหค้ ำปรึกษำแก่
นกั ศกึ ษำ

- มีสิ่งสนับสนุนกำรเรียนรู้ท่ีเพียงพอและเหมำะสมต่อกำรจัดกำรเรียนกำรสอนเช่น มีห้องสมุด มี
ระบบสบื ค้นหนังสอื

- มีกระบวนกำรปรับปรงุ ตำมผลกำรประเมินควำมพึงพอใจของนักศึกษำละอำจำรย์ต่อสงิ่ สนับสนุน
กำรเรียนรู้

- มีระบบกำรดำเนินงำนของคณะศำสนำและปรัชญำ โดยมีส่วนร่วมของอำจำรย์ประจำหลกั สตู ร เพื่อให้
มีส่ิงสนับสนุนกำรเรียนรู้ เช่น ห้องเรียน ห้องปฏิบัติกำร ท่ีพักของนักศึกษำ และมีห้องให้คำปรึกษำแก่
นกั ศกึ ษำ

- มีสิ่งสนับสนุนกำรเรียนรู้ที่เพียงพอและเหมำะสมต่อกำรจัดกำรเรียนกำรสอนเช่น มีห้องสมุด มี
ระบบสบื คน้ หนังสือ

- มีชมรม Monk chat club เพื่อศึกษำเรียนรู้แลกเปล่ียนด้ำนภำษำ วิถีชีวิต ศิลปวัฒนธรรมกับ
ชำวต่ำงชำติ

- มีโบรำณสถำน วัดวำอำรำม ศูนย์กำรศึกษำเรียนรู้ทำงวัฒนธรรม เพ่ือเป็นแหล่งเรียนรู้และฝึก
ปฏิบตั ิ

- มีนักปรำชญ์ท้องถ่ิน ผู้เช่ียวชำญทำงด้ำนพระพุทธศำสนำและวัฒนธรรมให้ข้อมูลเป็นที่ปรึกษำ
เรยี นรู้

- มคี วำมหลำกหลำยทำงดำ้ นวัฒนธรรม เพอ่ื ตอบประเดน็ กำรเรยี นรใู้ นควำมแตกตำ่ ง
- มีกระบวนกำรปรับปรุงตำมผลกำรประเมินควำมพึงพอใจของนักศึกษำละอำจำรย์ต่อสิ่งสนับสนุน
กำรเรยี นรู้

7. ตัวบง่ ช้ีผลการดาเนนิ งาน (Key Performance Indicators)
หลกั สูตรศำสนศำสตรบณั ฑิต สำขำวิชำพทุ ธศำสตร์ มตี ัวบ่งช้ที ี่ 1 - 5 ต้องมีผลดำเนนิ กำรบรรลุตำม

เปำ้ หมำยติดต่อกนั ไมน่ อ้ ยกวำ่ 2 ปี และมจี ำนวนตวั บง่ ช้ี (ตัวบ่งชีท้ ่ี 6 - 12) ท่ีมีผลดำเนินกำรบรรลุเปำ้ หมำย
ไมน่ อ้ ยกวำ่ 80% ของตัวบ่งชี้รวม โดยพิจำรณำจำกจำนวนตัวบ่งชบ้ี ังคบั และตัวบ่งช้รี วมในแต่ละปี ดงั นี้

ลาดบั ตวั บง่ ชี้ผลการดาเนินงาน ปีท่ี 1 ปที ่ี 2 ปที ี่ 3 ปีท่ี 4 ปที ่ี 5

1. อำจำรย์ประจำหลักสูตรอย่ำงน้อยร้อยละ 80 มี

ส่วนร่วมในกำรประชุมเพ่ือวำงแผน ติดตำม และ     

ทบทวนกำรดำเนินงำนหลกั สตู ร

2. มีรำยละเอียดของหลักสูตร ตำมแบบ มคอ.2 ท่ี     
สอดคล้องกับกรอบมำตรฐำนคุณวุฒิแห่งชำติ หรือ

จดั ทำโดยคณะศำสนำและปรัชญำ มหำวทิ ยำลยั มหำมกฏุ รำชวิทยำลัย

73

มำตรฐำนคณุ วฒุ สิ ำขำ/สำขำวิชำ (ถ้ำมี)

3. มรี ำยละเอียดของรำยวชิ ำ และรำยละเอยี ดของ

ประสบกำรณ์ภำคสนำม (ถ้ำมี) ตำมแบบ มคอ.3 
และ มคอ.4 อยำ่ งน้อยกอ่ นกำรเปดิ สอนในแต่ละ

ภำคกำรศึกษำให้ครบทุกรำยวิชำ

4. จัดทำรำยงำนผลกำรดำเนินกำรของรำยวิชำ และ

ร ำ ย ง ำ น ผ ล ก ำ ร ด ำ เนิ น ก ำ ร ข อ ง ป ร ะ ส บ ก ำ ร ณ์

ภำคสนำม (ถ้ำมี) ตำมแบบ มคอ.5 และ มคอ.6     

ภำยใน 30วัน หลังส้ินสุดภำคกำรศึกษำท่ีเปิดสอน

ใหค้ รบทุกรำยวิชำ

5. จัดทำรำยงำนผลกำรดำเนินกำรของหลักสูตร ตำม     
แบบ มคอ.7 ภำยใน 60วนั หลังสนิ้ สุดปกี ำรศึกษำ

6. มีกำรทวนสอบผลสัมฤทธ์ิของนักศึกษำตำม

มำตรฐำนผลกำรเรียนรู้ ที่กำหนดในมคอ.3 และ     
มคอ.4 (ถ้ำมี) อย่ำงน้อยร้อยละ 25 ของรำยวิชำที่

เปดิ สอนในแตล่ ะปีกำรศึกษำ

7. มีกำรพัฒนำ/ปรบั ปรุงกำรจัดกำรเรียนกำรสอน กล

ยุทธ์กำรสอน หรือ กำรประเมินผลกำรเรียนรู้ จำก 
ผลกำรประเมินกำรดำเนินงำนท่ีรำยงำนใน มคอ.7

ปที ี่แลว้

8. อำจำรย์ใหม่ (ถ้ำมี) ทุกคน ได้รับกำรปฐมนิเทศหรือ     
คำแนะนำด้ำนกำรจัดกำรเรยี นกำรสอน

9. อำจำรย์ประจำทุกคนได้รับกำรพัฒนำทำงวิชำกำร     
และ/หรือวชิ ำชพี อย่ำงนอ้ ยปีละหนงึ่ คร้ัง

10. จำนวนบุคลำกรสนับสนุนกำรเรียนกำรสอน (ถ้ำมี)

ได้รับกำรพัฒนำวิชำกำร และ/หรือวิชำชีพ ไม่น้อย     

กว่ำร้อยละ 50 ตอ่ ปี

11. ระดับควำมพึงพอใจของนักศึกษำปีสุดท้ำย/บัณฑิต

ใหม่ท่ีมีต่อคุณภำพหลักสูตร เฉล่ียไม่น้อยกว่ำ 3.5 

จำกคะแนนเต็ม 5.0

12. ระดับควำมพึงพอใจของผู้ใช้บัณฑิตท่ีมีต่อบัณฑิต 
ใหม่ เฉลี่ยไม่น้อยกวำ่ 3.5 จำกคะแนนเต็ม 5.0

ตัวบง่ ชี้บังคบั (ข้อท่ี) 1-5 1-5 1-5 1-5 1-5

ตัวบ่งชตี้ ้องผ่านรวม (ข้อ) 9 10 10 11 12

จดั ทำโดยคณะศำสนำและปรชั ญำ มหำวิทยำลยั มหำมกฏุ รำชวิทยำลยั

74

หมวดที่ 8 การประเมินและปรบั ปรุงการดาเนินการของหลักสตู ร
1. การประเมินประสิทธิผลของการสอน

1.1 การประเมนิ กลยุทธ์การสอน
1.1.1 กำรประชุมร่วมของอำจำรย์ในกลุ่มวิชำเพื่อแลกเปล่ียนควำมคิดเห็น ขอคำแนะนำ

ขอ้ เสนอแนะจำกอำจำรย์ทม่ี ีควำมรแู้ ละประสบกำรณห์ รือเพอ่ื นรว่ มงำน
1.1.2 กำรแลกเปล่ียนโดยสนทนำกบั นักศึกษำ เพ่ือสะทอ้ นผลกำรจัดกำรเรียนกำรสอนในช่วงของ

กำรเรยี นแตล่ ะรำยวชิ ำ
1.1.3 กำรประเมินจำกผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนของนักศึกษำ เปรียบเทียบพัฒนำกำรหรือควำม

เปล่ียนแปลงทเ่ี กิดขึน้ จำกกำรใช้กลยุทธก์ ำรสอนทแี่ ตกต่ำงกนั
1.1.4 กำรทำวิจยั ในชั้นเรียนเพือ่ ประเมนิ ภำพรวมของกำรจัดกำรเรียนกำรสอนในแตล่ ะรำยวชิ ำหรือ

กลมุ่ รำยวิชำ
1.1.5 กำรประเมนิ รำยวชิ ำออนไลน์ของสำนกั ศึกษำทะเบียนและประมวลผล

1.2 การประเมินทักษะของอาจารยใ์ นการใชแ้ ผนกลยุทธ์การสอน
1.2.1 กำรประเมินประสทิ ธภิ ำพกำรสอนของอำจำรย์โดยนักศึกษำทกุ ภำคกำรศึกษำ ตำมระบบของ

คณะฯ และมหำวิทยำลัย
1.2.2 กำรประเมินกำรสอนของอำจำรย์โดยหัวหน้ำภำควิชำ หรือเพ่ือนร่วมงำน ตำมระบบกำร

ประเมินผลกำรปฏบิ ัติงำนประจำปีของอำจำรย์/ พนกั งำนสำยผู้สอน

2. การประเมินหลักสูตรในภาพรวม
2.1 กำรประเมนิ หลักสตู ร โดยนกั ศึกษำปจั จบุ นั และอำจำรย์ เพ่ือนำข้อมลู มำทบทวนและปรับปรงุ กำร

จัดกำรแผนกำรเรยี นกำรจัดกำรเรียนกำรสอนและเนอ้ื หำรำยวชิ ำทอ่ี ำจซำ้ ซ้อน ไม่ทันสมัยยำก/งำ่ ยเป็นตน้
2.2 กำรประเมินหลักสูตรโดยศิษย์เก่ำ เพื่อติดตำมผลกำรนำควำมรู้และประสบกำรณ์ท่ีได้รับจำก

กำรศึกษำในหลกั สตู รไปใช้ในกำรทำงำน
2.3 กำรประเมินผลโดยผใู้ ช้บัณฑิต เพ่ือสำรวจควำมพึงพอใจและควำมคิดเหน็ และข้อเสนอแนะจำกผู้ใช้

บัณฑิต เก่ียวกับคุณภำพของบัณฑติ ท่จี บจำกหลักสูตรน้ี

3. การประเมินผลการดาเนินงานตามรายละเอียดหลักสูตร
กำรประเมินผลกำรจัดกำรหลักสูตร ซึ่งเป็นไปตำมระบบกำรประเมินผลกำรจัดกำรหลักสูตร

มหำวิทยำลัยมหำมกุฏรำชวิทยำลัย ซ่ึงดำเนินกำรทุกส้ินปีกำรศึกษำ มีเกณฑ์กำรประเมินประกอบด้วย 13
ตัวบ่งชี้ของ สกอ. งำนที่ระบุในหมวดจะต้องผ่ำนเกณฑ์ 4 ข้อในด้ำนกำรกำกับมำตรฐำนหลักสูตรที่กำหนด
โดย สกอ. คณะกรรมกำรประเมินอย่ำงน้อย 3 คน ประกอบด้วยผูท้ รงคณุ วุฒิในสำขำวิชำอย่ำงน้อย 1 คน ท่ี
ได้รบั กำรแต่งตง้ั จำกมหำวิทยำลัยโดยมีเกณฑ์กำรประเมนิ ดังน้ี

จดั ทำโดยคณะศำสนำและปรชั ญำ มหำวิทยำลยั มหำมกฏุ รำชวิทยำลัย

เกณฑก์ ารประเมิน คะแนน2 75

คะแนน1 มีกำรดำเนนิ กำรครบ 13 ข้อตำม คะแนน3
ตวั บ่งชีผ้ ลกำรดำเนนิ งำน มีกำรดำเนินกำรครบทกุ ข้อ
มีกำรดำเนินกำรครบ 4 ข้อ ตำม
ตัวบ่งชี้ผลกำรดำเนินงำน

ทงั้ นม้ี หำวทิ ยำลยั ได้กำหนดใหท้ กุ หลักสูตรมีกำรพฒั นำหลักสตู รให้ทนั สมัยแสดงกำรปรับปรงุ ดัชนี
ด้ำนมำตรฐำนและคุณภำพกำรศึกษำเป็นระยะ ๆ อย่ำงน้อยทุก ๆ 3 ปี และมีกำรประเมินเพ่ือ
พฒั นำหลักสูตรอยำ่ งต่อเน่ืองทุก 5 ปี

4. การทบทวนผลการประเมินหลกั สูตรวางแผนปรับปรุงหลักสตู ร และแผนกลยทุ ธ์การสอน
4.1 อำจำรย์ประจำวิชำ อำจำรย์ผู้สอนนำผลกำรประเมินประสิทธิภำพกำรสอนของอำจำรย์โดย

นักศึกษำผู้บังคับบัญชำ และหรือเพ่ือนร่วมงำนแล้วแต่กรณีมำปรับปรุงและพัฒนำกำรจัดกำรเรียนกำรสอน
ในรำยวิชำที่ตนรบั ผดิ ชอบ

4.2 คณะกรรมกำรบริหำรหลักสูตรศิลปศำสตรบัณฑิต สำขำวิชำพุทธศำสตร์กับกำรพัฒนำนำผล
ประเมินตำมระบบกำรจัดกำรหลักสูตรของมหำวิทยำลัย ซ่ึงดำเนินกำรทุกส้ินปีกำรศึกษำมำทบทวนและ
วิเครำะห์พรอ้ มนำเสนอแนวทำงปรบั ปรงุ แก้ไขในจดุ ทม่ี ีข้อบกพร่อง สำหรบั ปกี ำรศึกษำถดั ไป

4.3 คณะกรรมกำรบริหำรหลักสูตรศิลปศำสตรบัณฑิต สำขำวิชำพุทธศำสตร์กับกำรพัฒนำ นำผลกำร
ประเมนิ ภำพรวมของหลักสูตรโดยนกั ศกึ ษำปจั จุบนั และอำจำรย์โดยศษิ ยเ์ ก่ำและโดยผใู้ ช้บณั ฑิต เพ่ือทบทวน
และพิจำรณำในกำรนำไปแก้ไขปรับปรุงหลักสูตรตำมรอบระยะเวลำที่กำหนดในระบบประกันคุณภำพ
กำรศกึ ษำของมหำวทิ ยำลยั

จดั ทำโดยคณะศำสนำและปรัชญำ มหำวทิ ยำลัยมหำมกฏุ รำชวทิ ยำลัย

ภำคผนวก ก 76
ภำคผนวก ข
ภำคผนวก ค ภาคผนวก
ภำคผนวก ง
ตำรำงเปรียบเทยี บหลกั สูตร
ประวัติและผลงำนทำงวชิ ำกำรของอำจำรย์ประจำหลักสูตร
คำส่งั แตง่ ตั้งรำยนำมคณะกรรมกำรพัฒนำหลักสูตรและวิพำกษห์ ลกั สตู ร
ระเบยี บมหำวิทยำลัยมหำมกฏุ รำชวทิ ยำลยั ว่ำด้วยกำรศกึ ษำระดับปริญญำตรี พ.ศ. 2559

จดั ทำโดยคณะศำสนำและปรชั ญำ มหำวทิ ยำลัยมหำมกฏุ รำชวิทยำลัย

77

ภาคผนวก ก

ตารางเปรยี บเทยี บหลกั สูตร

จัดทำโดยคณะศำสนำและปรัชญำ มหำวทิ ยำลยั มหำมกฏุ รำชวิทยำลัย

78

ภาคผนวก ข

ประวตั ิและผลงานทางวชิ าการ
ของอาจารย์ประจาหลกั สตู ร

จัดทำโดยคณะศำสนำและปรชั ญำ มหำวิทยำลยั มหำมกฏุ รำชวิทยำลยั

79

ภาคผนวก ค

คาสั่งแต่งตงั้ รายนามคณะกรรมการพัฒนาหลกั สตู ร
และวิพากษห์ ลกั สตู ร

จัดทำโดยคณะศำสนำและปรัชญำ มหำวิทยำลัยมหำมกฏุ รำชวทิ ยำลัย

80

ภาคผนวก ง

ระเบยี บมหาวทิ ยาลยั มหามกฏุ ราชวทิ ยาลยั
ว่าดว้ ยการศึกษาระดับปรญิ ญาตรี พ.ศ. 2559

จัดทำโดยคณะศำสนำและปรัชญำ มหำวทิ ยำลยั มหำมกฏุ รำชวิทยำลยั


Click to View FlipBook Version