The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

กาจัดการเรียนรู้ Active learningด้วยกระบวนการวิทย์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by tri-hexane, 2022-04-12 14:23:07

กาจัดการเรียนรู้ Active learningด้วยกระบวนการวิทย์

กาจัดการเรียนรู้ Active learningด้วยกระบวนการวิทย์

รายงานผลกิจกรรม workshop
เตรียมครูสู่ชุมชนการเรียนรู้ ครั้งที่ 2
การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์
ที่มุ่งเน้นให้เด็ก “คิดได้ ทาเปน็ เห็นคุณค่า”

วันที่ 22 มกราคม 2565

นางสาวกอมารียะ สาแม
ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการ

โรงเรียนบ้านม้างอน
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 3

กระทรวงศึกษาธิการ

บันทกึ ข้อความ

ส่วนราชการ โรงเรียนบา้ นมา้ งอน 122 หม่ทู ่ี 5 ตาบลนาทบั อาเภอจะนะ จังหวัดสงขลา

ท่ี พเิ ศษ/2565 วันท่ี 24 มกราคม 2565

เรือ่ ง รายงานผลกิจกรรม workshop เตรยี มครสู ชู่ มุ ชนการเรียนรู้ คร้ังท่ี 2 การจัดการเรยี นรแู้ บบ Active
Learning ดว้ ยกระบวนการวิทยาศาสตร์ที่มงุ่ เน้นให้เด็ก “คิดได้ ทาเป็น เห็นคณุ คา่ ”

เรียน ผ้อู านวยการโรงเรียนบา้ นม้างอน

ตามที่สานักพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และพันธกิจสังคม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้จัดกิจกรรม
workshop เตรียมครูสู่ชุมชนการเรียนรู้ คร้ังที่ 2 การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ด้วยกระบวนการ
วิทยาศาสตร์ที่มุ่งเน้นให้เด็ก “คิดได้ ทาเป็น เห็นคุณค่า” ข้ึนในวันเสาร์ท่ี 22 มกราคม 2565 เวลา 09.00 น. –
12.00 น. ผ่านโปรแกรม Zoom นัน้

ข้าพเจ้า นางสาวกอมารียะ สาแม ตาแหน่งครู วิทยฐานะครูชานาญการโรงเรียนบา้ นม้างอน ได้เข้าร่วม
กจิ กรรมดงั กล่าวh จานวน 3 ชวั่ โมง ข้าพเจา้ ขอรายงานผลกิจกรรมดงั เอกสารแนบ

จงึ เรียนมาเพื่อโปรดทราบ

ลงช่ือ...................................................
(นางสาวกอมารียะ สาแม)

ตาแหน่งครูโรงเรยี นบา้ นมา้ งอน

ความคดิ เหน็ ของผ้อู านวยการโรงเรียน
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................... .............
....................................................................................................................................................................................

ลงชือ่ ..................................................................
(นางสารภี อ่อนรอด)

ตาแหน่ง ผอู้ านวยการโรงเรยี นบ้านม้างอน

ภาคผนวก

เน้อื หาการอบรม

วิทยากร ผู้ช่วยศาสตราจารยอ์ มั พร ศรประสทิ ธ์ิ

ข้นั ตอนการจัดกิจกรรมโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ (แนวทาง มอ.)

1. ตัง้ กติกาในการเรยี นร้รู ว่ มกนั เชน่ ฟงั ใหจ้ บแล้วค่อยตอบ ยกมอื ก่อนตอบ เมื่อเพ่อื นตอบใหต้ ้งั ใจฟัง เพ่อื
สรา้ งคุณลกั ษณะของผู้เรียนท่ีดี

2. ทบทวนความรปู้ ระสบากรณ์เดิม
3. ให้ผู้เรยี นสังเกต สารวจอปุ กรณ์ เชน่ ลักษณะ สี ขนาด พ้นื ผิว เปน็ ตน้ เพอื่ นักเรียนจะได้เห็นความ

แตกต่างกอ่ นทดลองและหลังทดลอง อีกทง้ั เป็นการฝกึ ภาษาของผ้เู รยี นอีกด้วย
4. ครูจาลองสถานการณ์และให้ผเู้ รียนคาดคะเน ตัง้ สมมตุ ิฐาน และจดบนั ทึก
5. ทดลอง ลงมือปฏิบตั ิ และบันทึกการทดลอง ปรากฏการณ์ที่เกิดข้นึ อยา่ งละเอียด
6. ให้ผู้เรยี นแลกเปลีย่ นข้อมูลและความคิดกับเพอ่ื น
7. สรปุ ความรทู้ ไี่ ด้จากการทดลองโดยการวาดรปู หรอื เขียน
8. นาเสนอผลการทดลอง

วทิ ยากรไดส้ าธติ การสอน เร่อื ง อากาศ โดยมกี ิจกรรมดงั นี้

อปุ กรณท์ ่ีต้องเตรยี ม

กจิ กรรมท่ี 1

อุปกรณ์ ถงุ พลาสตกิ

กระบวนการจัดกิจกรรม

1. ผสู้ อนใหผ้ ู้เรยี นวางถงุ พลาสติกลงบนโตะ๊ และสังเกตถุงพาสติก จากน้นั ใหน้ ักเรยี นช่วยกนั ตอบ คาตอบที่ได้
เช่น

- ใส
- เรียบ
- แบน
- มีหู 2 ข้าง
- กน้ ถงุ ปิดสนทิ
2. ผู้สอนให้นักเรียนคาดคะเนคาตอบหากใหน้ ักเรยี นโบกถุงไปมา และมัดปากถงุ ถงุ จะเป็นอยา่ งไร และใหบ้ นั ทึก
คาตอบ ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันตอบ คาตอบทไ่ี ด้ เชน่
- ถุงพองโตกว่าเดมิ
- ถุงหนกั กวา่ เดิม
3. ผ้สู อนใหน้ กั เรยี นโบกถุงไปมา และใช้มือปิดปากถุงใหส้ นิท สงั เกตปรากฏการณ์ทเี่ กดิ ข้ึน และจดบนั ทกึ ผลการ
ทดลอง ให้นักเรยี นชว่ ยกนั ตอบ คาตอบท่ีได้ เชน่
- ถงุ มรี ูปทรง
- ถุงใสเหมอื นเดิม
- มีบางอยา่ งอยใู่ นถุง แตม่ องไมเ่ ห็น
4. ผ้สู อนบอกนักเรยี นว่า บางอย่างท่ีมองไม่เหน็ แต่สัมผัสได้ อยู่ท่วี ่างๆ มีชอ่ื เรยี กวา่ อากาศ

กิจกรรมที่ 2
อุปกรณ์ 1. กะละมังใสน่ ้าประมาณ 2/3 ของความสงู กะละมัง

2. ลูกปิงปอง
3. ขวดพลาสติกขนาดประมาณ 1 ลติ ร ตดั สว่ นที่เปน็ ทรงกระบอก โดยวดั ระยะหา่ งจากส่วนบนสดุ ของฝา

ปิดประมาณ 6 นวิ้ (ใชส้ ่วนทมี่ ฝี าปิด)
กระบวนการจดั กิจกรรม

1. ผู้สอนใหน้ ักเรยี นสงั เกตน้าในกะละมัง แลว้ บันทึกสิ่งที่สงั เกตเห็น ใหน้ กั เรียนช่วยกันตอบ คาตอบท่ีได้
เชน่
- ระดับน้าเทา่ กนั
- นา้ นงิ่
- น้าใส
- น้าสีเดยี วกบั สีของกะละมัง
- ในน้าไมม่ ีทว่ี ่าง
- น้าไมแ่ ยกจากกัน
- น้ามี 2 วง คอื วงดา้ นบนผวิ นา้ และวงด้านล่าง

2. ใหผ้ ู้เรยี นบอกลักษณะของขวด แล้วบนั ทกึ ส่ิงทสี่ ังเกตเห็น ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตอบ คาตอบที่ได้ เชน่
- ใส
- ในขวดมที ี่ว่าง
- ปากขวดมีฝาปดิ แตอ่ ีกด้านเปดิ
- ใส

3. ใหน้ ักเรยี นบอกลักษณะของลกู ปิงปอง แล้วให้นักเรียนช่วยกันตอบ
- ทรงกลม
- ลื่น
- น้าหนกั เบา
- ขนาดเล็ก

4. ครูจาลองสถานการณ์ใหน้ ักเรียนคิดว่า ถา้ หากนกั เรยี นนาลกู ปิงปองวางบนผิวนา้ จะเกดิ อะไรขน้ึ
พร้อมท้ังจดบนั ทึกสิง่ ท่ีคาดคะเน ใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั ตอบ คาตอบท่ีได้ เชน่

- ลูกปิงปองจะเปยี กนา้
- ลูกปิงปองจะอย่ไู มน่ ิ่ง
-นา้ ไม่แยกจากกนั
5. ผ้สู อนใหน้ ักเรยี นวางลกู ปิงปองลงบนผวิ น้าแลว้ บันทึกผลการทดลองอยา่ ละเอียด ให้นักเรียนชว่ ยกนั
ตอบ คาตอบท่ีได้ เชน่

- นา้ กระเพอื่ มแตไ่ ม่แยกจากกัน
- ลกู ปงิ ปองค่อยๆ เคล่ือนท่ี และไปหยดุ ที่ขอบกะละมัง
- บริเวณทลี่ ูกปงิ ปองเคล่อื นท่ีนา้ จะเปน็ หลมุ
- ลูกปิงปองอยบู่ นน้า ไม่จมน้า
6. ผสู้ อนใหน้ กั เรียนคาดคะเนว่า ถา้ นาขวดท่ีตัดไว้มาครอบลกู ปงิ ปองท่อี ยบู่ นผิวนา้ แลว้ ค่อยๆ กดขวดลง
ไปในแนวตรง ช้าๆ จนขวดแตะก้นกะละมัง จะเกดิ อะไรขนึ้ จากน้นั ให้นักเรียนช่วยกันบอกสิ่งท่เี ขาคาดคะเน
คาตอบที่ได้ เช่น
- น้าจะแยกจากกนั
- ลกู ปงิ ปองจะลอยขึ้น
7. ครูใหน้ ักเรียนนาขวดท่ีตดั ไว้มาครอบลูกปิงปองท่ีอยู่บนผิวน้าแลว้ ค่อยๆ กดขวดลงไปในแนวตรง ช้าๆ
จนขวดแตะก้นกะละมัง พร้อมท้ังจดบนั ทึกการทดลองอยา่ งละเอียด จากนัน้ ใหน้ ักเรียนชว่ ยกันบอกสิง่ ท่เี ขาจด
บนั ทกึ คาตอบท่ีได้ เช่น
- ลกู ปิงปองอยกู่ ้นกะละมัง

- ระดับน้าสูงกว่าเดิม

- ลูกปิงปองอย่นู งิ่ ไม่ขยบั

- ระดบั นา้ ในขวดจะค่อยๆ ลดลง

- นา้ อยนู่ อกขวด ข้างในขวดไมม่ ีนา้ อยู่

- ในขวดว่างเปล่าแตน่ า้ เขา้ ไปไม่ได้

- ในขวดนา่ จะมีอะไรบางอยา่ ง

8. ครใู ห้นกั เรยี นชว่ ยกันสรุปบทเรยี น ว่า อากาศต้องการท่ีอยู่

9. ครจู าลองสถานการณ์ให้นักเรยี นคดิ วา่ ถา้ นาขวดทปี่ ิดฝาแนน่ ครอบลูกปงิ ปองจนถึงก้นกะละมงั ใชม้ ือ
ข้างหน่งึ จับขวดไว้ และใชม้ ืออกี ข้างค่อยๆ คลายฝาขวดออกชา้ ๆ นกั เรียนคิดว่าจะเกดิ อะไรข้ึน จากน้นั ใหน้ ักเรยี น
ช่วยกนั บอกสงิ่ ทเี่ ขาคาดคะเน คาตอบท่ีได้ เชน่

- น้าจะเขา้ ไปในขวด
- ลกู ปงิ ปองจะค่อยๆ เคลื่อนท่ี
- อากาศออกไปอยู่ขา้ งนอก
- ระดบั นา้ ในขวดและในกะละมังเท่ากนั
10. ครใู ห้นกั เรยี นนาขวดท่ีปิดฝาแน่นครอบลูกปงิ ปองจนถึงกน้ กะละมัง ใช้มอื ข้างหนง่ึ จับขวดไว้ และใช้
มืออกี ข้างค่อยๆ คลายฝาขวดออกช้าๆ สงั เกตปรากฏการณ์ท่เี กิดขน้ึ อยา่ งละเอยี ดและจดบันทกึ
- เมื่อเราเปิดฝา อากาศออกไปนอกขวด

- ในขวดมีทีว่ ่าง นา้ เขา้ มาแทนท่ี
ความรคู้ อื นา้ และอากาศต้องการท่ีอยู่

บทบาทของครูผู้สอน
1. ครเู ป็นผตู้ ้งั คาถามกระต้นุ ความคิดของนักเรียน นักเรียนเป็นผ้หู าคาตอบดว้ ยตวั เอง ครูใชค้ าถาม

ปลายเปดิ ไม่ชีน้ า
2. ครตู ้องเตรียมตวั ก่อน เพื่อทคี่ รูจะไดร้ ้วู ่าจะเกิดอะไรขึน้ และจะได้ใช้คาถามไดเ้ หมาะสม
3. หลงั จากที่ครูถามนักเรียนแลว้ ครคู วรเวน้ จังหวะให้เวลานกั เรยี นไดค้ ดิ ครูต้องรู้จักรอ
4. ทุกครัง้ ทน่ี กั เรยี นตอบ ครูควรทวนคาตอบของนักเรยี นให้เพ่ือนนักเรยี นคนอ่นื ฟงั ดว้ ย เพ่ือทน่ี ักเรยี น

จะได้รสู้ ึกวา่ ความคดิ ของเขามคี ณุ ค่า รูส้ กภูมิใจและอยากตอบ
5. ครตู ้องเปน็ นักสังเกต เป็นผู้ฟังท่ีดี และเป็นผู้ส่ือสารทีด่ ี
6. การใหค้ าสงั่ ต้องให้เป็นลาดับข้นั ตอน ใชภ้ าษาที่เหมาะสมกับวยั ของเด็ก ไม่ใช้ศัพทว์ ทิ ยาศาสตร์

ประโยชน์จากการเข้าร่วม workshop
1. ขนั้ ตอนกระบวนการสอนวิทยาศาสตรแ์ บบ active learning
2. ไดแ้ ลกเปล่ียนเรียนร้รู ะหว่างเพอ่ื นครตู ่างโรงเรยี น ต่างจังหวัด
3. แบบอยา่ งท่ีดีในการสอน
4. การใช้ภาษาที่ถูกต้อง ถูกอักขระ เช่น เสยี ง ร ล
5. ครตู ้องมสี ตริ ตู้ ัวตลอดเวลา ไม่ใชอ้ ารมณ์
6. รปู แบบการสอนทสี่ ามารถเปล่ียนทศั นคติเด็กหลงั หอ้ ง และรปู แบบการสอนที่ทาใหเ้ ด็กทุกคนสามารถ

มีสว่ นร่วมในการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้

ประมวลภาพ




Click to View FlipBook Version