The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by เปิ้ล เปิ้ล., 2024-05-29 08:45:42

FOLDED PLATE (2)_clone

FOLDED PLATE (2)

FFOOLLDDEEDDPPLLAATTEEThis papers are part of : ARCHITECTURE CONCEPT DESIGN FOLDED PLATE


The Baroque refers not to an essence but rather to an operative function, to a trait. THE FOLD Leibniz and the Baroque by Gilles Deleuze Sydney Opera House by Jørn Utzon, Peter Hall 1973 It endlessly produces folds. It does not invent things: there are all kinds of folds coming from the East, Greek, Roman, Romanesque, Gothic, Classical folds. ... Yet the Baroque trait twists and turns its folds, pushing them to infinity


สารจากผู้จัด จั ทำ เอกสารเล่มล่นี้เป็นป็ส่วนหนึ่งของรายวิชา ARCHITECTURE CONCEPT DESIGN ของ ผศ. อัคอัรพงศ์ อนุพันพัธ์พธ์งศ์ เพื่อพื่เป็นป็การศึกษา ค้นค้คว้าและทำ การสรุปรุเกี่ยกี่วกับกัเรื่อรื่ง Folded Plate โดยมีสมีารตั้งตั้ต้นต้จาก หนังสือ Achitecture Concept หรือรืแนวความคิดคิในงานสถาปัตปัยกรรม โดยมีกมีารอ้าอ้งอิงอิเอกสารและหนังสือความรู้ต่รู้ าต่งๆ มาเสริมริ จากที่หที่นังสือได้อด้ธิบธิายไว้ โดยมีทั้มีงทั้เรื่อรื่งความเป็นป็มาของ การพับพัระนาบ แนวคิดคิพื้นพื้ฐานของการกำ เนิดการพับพัและยังยัมีกมีารกล่าล่วอ้าอ้งอิงอิถึงถึ ศิลปะสมัยมั Baroque โดยหน้าที่ขที่องเอกสารฉบับบันี้คือคืผู้อ่าอ่นมีคมีวาม เข้าข้ใจในเรื่อรื่งของการพับพัอย่าย่งแท้จท้ริงริและสามารถนำ ชิ้นชิ้ส่วนหรือรืองค์ปค์ระ ของความรู้ต่รู้ าต่งๆ ไปปรับรั ใช้แช้ละประยุกยุต์ใต์ช้ใช้นงานออกแบบได้ ผศ. อัคอัรพงศ์ อนุพันพัธ์พธ์งศ์ 1. นาย ปิยปิวัฒน์ สังฆพรหม No.66030256 2. นางสาว อนัญญา ไทยวรสิทธิ์ No.66030200 3. นางสาว ภาสินี เจียจีมจันจัทร์ No.66030139 4. นางสาว ธมลวรรณ มุ่งมุ่ เขื่อขื่งกลาง No.66030072 5 นางสาว ภีรภีดา สินศุภกิจกิ No.66030141 รายชื่อชื่ผู้จัดจัทำ เสนอ


1 ความเป็น ป็ มา


FOLDED PLATE ความเป็น ป็ มา 2 ภาพที่ 1.1 ภาพทางซ้าซ้ย Gottfried leibniz ภาพที่ 1.3 ภาพตัวตัอย่าย่ง Postmodern Architecture อาคาร The Guggenheim Museum Bilbao ความเป็น ป็ มา อย่าย่งไรก็ตก็าม สถาปนิกและนักออกแบบอาจเป็นป็กลุ่มลุ่ แรกๆ ที่รที่ะบุบบุทบาทสำ คัญคัของการพับพัเป็นป็กระบวนการค้นค้หา แบบรูปรูร่าร่ง สถาปนิกรู้จัรู้กจัคำ ว่าว่ folding จากงานวิชวิาการทาง ด้าด้นคณิตศาสตร์ ของกอทท์ฟท์รีดรีวิลวิเฮล์มล์ ไลบ์นิบ์ นิซ (ค.ศ. 1646 – 1716)เป็นป็นักคณิตศาสตร์ชร์าวเยอรมันมัและเป็นป็คนแรกที่ใที่ช้คำช้คำว่าว่ ฟังฟัก์ชั่ก์นชั่สำ หรับรัอธิบธิายปริมริาณที่เที่กี่ยกี่วข้อข้งกับกัเส้นส้ โค้งค้และยังยั กล่าล่วถึงถึเรื่อรื่งการเชื่อชื่มต่อต่กันกัของระนาบและพื้นพื้ผิวต่าต่งๆ อันอั เป็นป็คณิตศาสตร์สร์มัยมั ใหม่ ต่อต่มาในช่วช่งปลายศตวรรตที่ 20 นักปรัชรัญาชาวฝรั่งรั่เศส Gilles Deleuze ได้หด้ยิบยิเอางานของ Leibniz มาต่อต่ยอดและอธิบธิายในหนังสือสื THE FOLD Leibniz and the Baroque ซึ่งซึ่มีคมีวามละเอียอีดและซับซัซ้อซ้นมากขึ้นขึ้และใน หนังสือสืมีกมีารกล่าล่งถึงถึศิลศิ ปะแบบ Baroque โดยศิลศิ ปะแบบ Baroque เป็นป็การแต่งต่เติมติลวดลายต่าต่ง ๆ นานาให้ดู วิจิวิตจิร อลังลัการ โดยลวดลายที่ใที่ช้ส่ช้วส่นใหญ่ คือคืลายใบไม้ ดอกไม้ ช่อช่ ดอกไม้ เส้นส้สายที่ใที่ช้ ส่วส่นมากจะใช้เช้ส้นส้ โค้งค้ที่ อ่ออ่นช้อช้ย แต่จต่ะใช้ การจัดจัวางให้มีลัมีกลัษณะสมมาตร “There are souls down below, sensitive, animal; and there even exists a lower level in the souls. The pleats of matter surround and envelop them. When we learn that souls cannot be furnished with windows opening onto the outside, we must first, at the very least, include souls upstairs, reasonable ones,who haveascended to the other level.” “ซึ่งซึ่มีแมีนวความคิดคิและความเชื่อชื่ ในเรื่อรื่งของดวงวิญวิญาณ ที่มีที่ลำมีลำดับดัขั้นขั้ที่ถูที่กถูห่อหุ้มและออบล้อล้มด้วด้ยรอยจีบจีและผนวกกับกั การไร้จุร้ดจุสิ้นสิ้สุดสุของเส้นส้ โค้งค้ที่อที่ยู่ใยู่ นงานสถาปัตปัยกรรมสมัยมันั้นนั้” ภาพที่ 1.4 ภาพแสดงรูปรูตัดตัของโบสถ์ ภาพที่ 1.5 ภาพแสดงภายในของโบสถ์ ภาพที่ 1.2 ภาพทางขวา Gilles Deleuze


2 การพับ พั ระนาบ


FOLDED PLATE การพับพั (Fold) แนวคิดคิเรื่อรื่งการพับพัมีคมีวามหมายหลาย อย่าย่ง โดยธรรมชาติแติล้วล้ส่วส่นใหญ่เญ่กี่ยกี่วข้อข้งกับกัรูปรูร่าร่งเฉพาะ เช่นช่การย่นย่หรือรืรอยจีบจีและอาจพบได้หด้ลายระดับดัตั้งตั้แต่กต่ารพับพั ของบ้าบ้น ไปจนถึงถึการคลี่ใลี่บของต้นต้ ไม้ ผ้าที่พที่บในจิตจิกรรมฝา ผนังของอียิอี ปยิต์พิต์สูพิจสูน์ว่าว่เมื่อมื่นานมาแล้วล้มนุษยชาติก็ติทำก็ทำรอยพับพั ด้วด้ยมือมืและ ญี่ปุ่ญี่นปุ่ กระดาษพับพัมีคมีวามหมายศักศัดิ์สิดิ์ทสิธิ์ใธิ์นญี่ปุ่ญี่นปุ่ โบราณ และถูกถูเรียรีกว่าว่ origami การพับ พั ระนาบ 4 การพับพัระนาบ ระนาบ (Plane) องค์ปค์ระกอบหนึ่งทางสภาปัตปัยกรรม จากจุดจุเป็นป็เส้นส้จากเส้นส้เป็นป็ระนาบ ระนาบมีคมีวามกว้าว้ง ยาว แต่ ไม่มีม่คมีวามลึกลึระนาบเป็นป็ตัวตักำ หนดขอบและเขตแดนของก้อก้น ปริมริาตร แผ่นระนาบจึงจึเป็นป็องค์ปค์ระกอบสำ คัญคั ในการออกแบบ ทางสถาปัตปัยกรรม อาคารพาณิชย์ BACARDI CUBA 1958 โดย Mies vander Rohe มีคมีวามคล้าล้ยคลึงลึกับกัผลงานอื่นอื่ๆ ของ Mies โครงการสำ หรับรัพิพิพิธพิภัณภัฑ์ Schweinfurt Schäffer และ Neue Nationalgalerie ในกรุงรุเบอร์ลิร์นลิ โดดเด่นด่ ด้วด้ยการใช้รช้ะนาบขนาดใหญ่ สี่เสี่หลี่ยลี่มจัตุจัรัตุสรั Mies แสดงให้เห็น แนวคิดคิและวิธีวิกธีารทำ งานของเขาอย่าย่งชัดชัเจนด้วด้ยแนวคิดคิ "น้อย แต่มต่าก" Mies ใช้หช้ลักลัการเดียดีวกันกัของ open space เป็นป็ผล งานชิ้นชิ้หนึ่งที่แที่สดงให้เห็นขอบเขตและการรับรัรู้ขรู้ อง ระนาบเหนือ ศรีษรีะ (overhead plate) และที่ว่ที่าว่ง (space) ภาพที่ 2.1 อาคารพาณิชย์ BACARDI CUBA 1958 ระนาบ (Plane) การพับพั (Fold) ภาพที่ 2.2 ภาพตัวตัอย่าย่งของสิ่งของที่มีที่ลัมีกลัษณะของการย่นย่และรอยจีบจี ภาพที่ 2.3 ภาพแสดงขั้นขั้ตอนการพับพัเครื่อรื่งบินบิกระดาษ


FOLDED PLATE การพับ พั ระนาบ 5 2.1 การพับพัระนาบ (Folded Plane) การพับพัระนาบให้เกิดกิโครงสร้าร้งและรูปรูแบบที่ห่ที่ ห่อหุ้มที่ ว่าว่งนั้นนั้บางครั้งรั้เราเรียรีกมันมัว่าว่ origami architecture มี การนำ เสนอแบบจำ ลองของ ทรงกระบอกที่ถูที่กถูกดและเสียสีรูปรู เราเรียรีกมันมัว่าว่ Daimond pattern เพราะจากการทดลองพบ ว่าว่พื้นพื้ผิวของมันมัมีรูมีปรูทรงคล้าล้ยเพชร มีหมีลายการทดลองและ รูปรูแบบนำ เสนอสำ หรับรัการพับพัและการเปลี่ยลี่นแปลงที่ทำที่ทำให้ เกิดกิที่ว่ที่าว่งจากการพับพั โดยที่แที่นวคิดคิพื้นพื้ฐานมันมัมาจากแนว แกน 2 แกน โดยที่เที่ส้นส้แกนทั้งทั้สองสามารถสร้าร้งรูปรูทรงที่ซัที่บซั ซ้อซ้นและ เป็นป็เส้นส้อ้าอ้งอิงอิให้อีกอีแกนหนึ่ง โดยที่รูที่ ปรูแบบหนึ่งจะ เป็นป็เส้นส้อ้าอ้งอิงอิให้กับกัอีกอีรูปรูแบบหนึ่ง โดยที่รูที่ ปรูร่าร่งยังยัสามารถ ปรับรั ให้เข้าข้กับกัเงื่องื่นไขต่าต่งๆ และขอบเขตเฉพาะของโครงการ ได้ เช่นช่สามารถเพิ่มพิ่ความกว้าว้งของลอนที่ขที่อบเพื่อพื่เสริมริขอบ ของโครงสร้าร้งแผ่นพับพั ภาพที่ 2.4 ภาพแสดงแนวการพับพัแกน x แกน y ภาพที่ 2.6 Mlura Ori Pattern นักวิทวิยาศาสตร์ชร์าวญี่ปุ่ญี่นปุ่ อีกอีท่าท่นหนึ่งคือคื Miura Ori ได้ พยายามออกแบบแผงพลังลังานแสงอาทิตทิย์ (Solar Cell) ที่ สามารถพับพัเก็บก็ ได้เด้พื่อพื่ ประโยชน์พื้นพื้ที่สำที่สำหรับรัการขนส่งส่ซึ่งซึ่ ได้ ออกแบบการพับพัระนาบอีกอีแบบหนึ่งขึ้นขึ้มา โดยใช้เช้ทคนิคการ พับพักลับลัด้าด้น (reverse fold) ทั้งทั้ ในแนวแกนตั้งตั้และแกนนอน ทำ ให้ได้ผด้ลเป็นป็ โครงสร้าร้งขอบเส้นส้ซิกซิแซกที่ส่ที่วส่นรองรับรัการ พับพัเก็บก็และยืดยืออกได้ ซึ่งซึ่มีเมีอกลักลัษณ์เฉพาะแตกต่าต่งจาก diamond pattern ของ yoshimura ภาพที่ 2.5 การสร้าร้ง Profile line เพื่อพื่ทดลองสร้าร้งระนาบพับพั ภาพที่ 2.7 Daimond Pattern


FOLDED PLATE การพับ พั ระนาบ 6 2.2 สถาปัตปัยกรรมการพับพัระนาบ (Folded Plane Architecture) Folded plate structures การพับพัระนาบ เป็นป็เทคนิค ทางการออกแบบชนิดหนึ่งที่ไที่ด้รัด้บรัอิทอิธิพธิลแนวความคิดคิมาจาก ทางวิศวิวกรรมโครงสร้าร้ง เป็นป็การพยายามหาแนวทางใหม่ๆม่ ใน การออกแบบโดยที่ต้ที่อต้งการหนีเสาและคานและความต้อต้งการที่ จะสร้าร้ง พื้นพื้ที่ว่ที่าว่งขึ้นขึ้มาในงานสถาปัตปัยกรรม อีกอีทั้งทั้ ในช่วช่งปี ศตวรรษที่ 19 ได้มีด้กมีารเกิดกิขึ้นขึ้ของวัสวัดุก่ดุอก่สร้าร้งและเทคนิคใหม่ๆม่ เช่นช่คอนกรีตรีและเหล็กล็ทำ ให้รูปรูแบบทางสถาปัตปัยกรรมเชิงชิ วิชวิาการที่เที่ ป็นป็อยู่ใยู่ นปัจปัจุบัจุนบัเกิดกิคำ ถาม เห็นได้ชัด้ดชัว่าว่การสร้าร้งและ การออกแบบวัตวัถุไถุด้รัด้บรัแรงผลักลัดันดัจากกระบวนการผลิตลิของ งานทางด้าด้นสถาปัตปัยกรรม แนวคิดคิพื้นพื้ฐานในการก่อก่สร้าร้ง ประเภทนี้คือคืการมุ่งมุ่ มั่นมั่ที่จที่ะให้ได้คด้วามสูงสูเชิงชิสร้าร้งสรรค์แค์ละ ความแข็งข็แกร่งร่ที่มที่ากขึ้นขึ้รวมถึงถึลดน้ำ หนักสุทสุธิขธิององค์ ประกอบโครงสร้าร้ง ความแข็งข็แรงและความแข็งข็ของโครงสร้าร้ง แบบพับพันั้นนั้ทำ ได้กด้ารออกแบบโครงสร้าร้งที่เที่หมาะสมเป็นป็หลักลั โรงเก็บก็เครื่อรื่งบินบิที่สที่นามบินบิ Orly ในปารีสรี ในแง่ เทคโนโลยี โครงสร้าร้งพับพันี้ทำ จากองค์ปค์ระกอบสำ เร็จร็รูปรูโดยมี โครงสร้าร้งเน้นย้ำ ซึ่งซึ่เป็นป็งานวิศวิวกรรมที่โที่ดดเด่นด่ ในยุคยุนั้นนั้จาก การประยุกยุต์ใต์ช้โช้ครงสร้าร้งรับรัแรงอัดอันี้ Eudene Freyssinet ได้รัด้บรัการขนานนามว่าว่เป็นป็ "บิดบิาแห่ง คอนกรีตรีอัดอัแรง โครงสร้าร้งแบบพับพั ได้กด้ลายเป็นป็เครื่อรื่งถ่วถ่ง สมดุลดุให้กับกั โครงสร้าร้งโครงที่มีที่น้ำมี น้ำหนักมาก ซึ่งซึ่มีน้ำมี น้ำหนักสุทสุธิสูธิงสู มากและคุ้มคุ้ ค่าค่คุ้มคุ้ ราคา สำ หรับรัระยะสูงสูสุดสุ25 ม. เท่าท่นั้นนั้ โครงสร้าร้งแบบพับพัถือถืเป็นป็ โครงสร้าร้งที่คุ้ที่มคุ้ ค่าค่ที่สุที่ดสุโดยใช้วัช้สวัดุ น้อยกว่าว่เนื่องจากมีคมีวามแข็งข็สูงสูในระนาบที่มีที่กมีารโค้งค้งอสูงสูสุดสุ ในทิศทิทางของระยะ Josef Albers ได้แด้นะนำ การพับพั ในหลักลัสูตสูรเบื้อบื้งต้นต้ของ แผนกการออกแบบที่ Bauhaus ในยุคยุศตวรรตที่ 20 โดยการ ให้ใช้กช้ระดาษมาบิดบิหรือรืม้วม้นให้เกิดกิรูปรูทรงต่าต่งๆโดยที่ไที่ม่ อนุญาติใติห้มีกมีารตัดตักระดาษ การพับพัเป็นป็กระบวนการที่ง่ที่าง่ย ที่สุที่ดสุและไม่แม่พงที่สุที่ดสุในการเปลี่ยลี่นรูปรูจึงจึเป็นป็การเริ่มริ่ต้นต้ที่ดีที่ ดี เยี่ยยี่ม จุดจุสอนสถาปัตปัยกรรมและการออกแบบ กระบวนการนี้ ช่วช่ยให้ได้รูด้ ปรูทรงสามมิติมิที่ติรที่วดเร็วร็และง่าง่ยดาย ภาพที่ 2.10 josef Albers ภาพที่ 2.9 โรงเก็บก็เครื่อรื่งบินบิ ในปารีสรี ภาพที่ 2.8 รูปรูแบบของ Folded plate structures ภาพที่ 2.11 ภาพจำ ลองของการพับพักระดาษ


3 อาคารตัว ตั อย่า ย่ ง


1629 St. Andreas, Düsseldorf สถาปัตปัยกรรมภายในยุคยุBaroque สถาปัตปัยกรรมภายในยุคยุBaroque นั้นนั้เน้นการ ออกแบบโดยมีส่มีวส่นโค้งค้การต่อต่เนื่องกันกัของโครงสร้าร้ง 2 โครงสร้าร้ง มีกมีารพับพั โค้งค้ที่ต่ที่อต่กันกั ไปเรื่อรื่ยๆ มีส่มีวส่นเว้าว้โค้งค้ ไม่ เน้นความเป็นป็เลขาคณิต FOLDED PLATE ของตัวตั โบสถ์นั้ถ์ นั้นั้ไม่ไม่ด้มด้าจาก ภายนอกแต่เต่ ป็นป็ภายในของตัวตั โบสถ์ โดยโบสถ์Aถ์ ndreas, Düsseldorfนั้นนั้มีกมีารออกแบบเสาให้เชื่อชื่มกันกัด้วด้ยเพดานโค้งค้ ข้าข้งในพื้นพื้ชั้นชั้ 2 ในการที่จที่ะขึ้นขึ้ ไปยังยัชั้นชั้ 2 จำ เป็นป็ต้อต้งเดินดิขึ้นขึ้ บันบั ไดวนที่เที่ชื่อชื่มติดติกับกัเสา โดยเสาทุกทุต้นต้จะเชื่อชื่มต่อต่ ไปยังยั เพดานโค้งค้ข้าข้งบนสุดสุของตัวตั โบสถ์ ในส่วส่นของเพดานบนสุดสุ นั้นนั้จะมีกมีารพับพัตัวตัจีบจี ให้มีคมีวามนูนเว้าว้เข้าข้ออกของตัวตัเพดาน เพื่อพื่ ให้เกิคกิวามสวยงาม สถาปัตปัยกรรมในยุคยุBaroque มีกมีารเกิดกิขึ้นขึ้ร่าร่วๆศตวรรษที่ 17 - กลางศตวรรษที่ 18 โดยคำ ว่าว่ Baroqueนั้นนั้มากจากไข่มุข่กมุที่บิที่ดบิเบี้ยบี้ว ทำ ให้ได้เด้ห็น ความแวววาว ละสายตายาก สะท้อท้นไปสู่กสู่ ารออกแบบ สถาปัตปัยกรรมภายนอกและภายใน มีคมีวามซับซัซ้อซ้น มีเมีสามาก เกินกิความจำ เป็นป็ข้าข้งบนซุ้มซุ้ ทางเข้าข้ไม่จำม่จำเป็นป็ต้อต้งเป็นป็วงกลม FOLDED PLATE ภาพที่ 3.3 ภาพแสดงอาคารภายนอก St. Andreas, Düsseldorf ภาพที่ 3.4 ภาพแสดงภายในของโบสถ์ St. Andreas, Düsseldorf ภาพที่ 3.2 ภาพแสดงภายในของโบสถ์ St. Andreas, Düsseldorf ภาพที่ 3.1 ภาพแสดงภายในของโบสถ์ St. Andreas, Düsseldorf อาคารตัว ตั อย่า ย่ ง 8


FOLDED PLATE 9 1978 House XIa House Xla ผลงานของ Eisenman ที่ไที่ด้แด้สดงแนวคิดคิ ของการเชื่อชื่มต่อต่กันกัอย่าย่งไร้รร้อยต่อต่ของระนาบ โดยได้ใด้ช้แช้นวคิดคิ หนึ่งของศาสตร์หร์นึ่งในคณิตศาตร์ ซึ่งซึ่ ในปัจปัจุบัจุนบัเราเรียรีกมันมัว่าว่ โทโพโลยี (topology) เป็นป็คุณคุสมบัติบัทติางรูปรูร่าร่งของวัตวัถุต่ถุาต่ง ๆ ที่ไที่ม่แม่ ปรเปลี่ยลี่นภายใต้กต้ารดึงดึยืดยืหด บีบบี (โดยไม่มีม่กมีารฉีกฉีการ เจาะ หรือรืการเชื่อชื่มติดติใหม่)ม่ โดยเรียรีกคุณคุสมบัติบัเติหล่าล่นี้ว่าว่ความ ไม่แม่ ปรผันทางโทโพโลยี ในตัวตัของอาคารจะเหมือมืนกับกัมีขมีวดแก้วก้ ไคลน์สองอันอัวาง ทับทักันกัอยู่ โดยที่จที่ะมีช่มีอช่งว่าว่งตรงกลางอยู่ภยู่ ายในและภายนอก ของตัวตับ้าบ้นพยายามที่จที่ะทำ ให้ไม่รู้ม่สึรู้ กสึถึงถึรอยต่อต่ของระนาบ โดยที่ Eisenman ต้อต้งการที่จที่ะเล่นล่กับกัสภาวะ ภายนอก และ ภายใน “ภายนอก” โดยที่จที่ะมีกมีารใช้วัช้สวัดุที่ดุมีที่คมีวามแข็งข็และกระจก ส่วส่น “ภายใน” จะมีกมีารปลดปล่อล่ยของพื้นพื้ที่ทที่างสถาปัตปัยกรรม ออก ส่วส่นที่ไที่ม่คม่วรมองข้าข้มของบ้าบ้นหลังลันี้คือคืการไหลของ ระนาบลงไปในดินดิ โดยนี่เป็นป็ grounded project หลังลัแรกของ Eisenman และตามมาด้วด้ย CANNAREGIO TOWN SQUARE 1978 และ House ElEven Odd 1980 By Peter Eisenman โดย Eisenman ได้ใด้ช้ขช้วดแก้วก้ ไคล์ใล์นการเป็นป็แบบจำ ลอง ในการออกแบบโดยที่ภที่าพสเก็ตก็ของขวดแก้วก้ ไคลน์ที่แที่สดงให้ เห็นถึงถึการไหลของพื้นพื้ผิวแก้วก้ที่ไที่ม่มีม่จุมีดจุสิ้นสิ้สุดสุเป็นป็เหมือมืนกับกั ระนาบที่ไที่ร้รร้อยต่อต่ โดยที่ภที่ายในและภายนอกเชื่อชื่มถึงถึกันกั ภาพที่ 3.7 CANNAREGIO TOWN SQUARE 1978 ภาพที่ 3.8 ภาพแสดง DIAGRAM CONCEPT ภาพที่ 3.6 ภาพแสดงโมเดลแบบจำ ลองของอาคาร ภาพที่ 3.5 ภาพแสดงรูปรูแบบ DIAGRAM ที่ไที่ร้รร้อยต่อต่ของระนาบ อาคารตัว ตั อย่า ย่ ง


อาคารตัว ตั อย่า ย่ ง 10 FOLDED PLATE 1976 White U House by Toyo Ito WHITE U เป็นป็บ้าบ้นที่ TOYO ITO ออกแบบเพื่อพื่พี่สพี่าวที่สูที่ญสูเสียสีสามีขมีองตัวตัเอง ไป โดยอยากให้พื้นพื้ที่ขที่องบ้าบ้นสามารถสนุก ได้ใด้กล้ชิล้ดชิกับกัดินดิและหญ้าญ้แต่ยัต่งยัคงความ เป็นป็ส่วส่นตัวตั ไว้อว้ยู่ โดยพี่สพี่าวอยากได้บ้ด้าบ้นรูปรูทรงตัวตั L เพื่อพื่ ให้ครอบครัวรั ได้พด้บปะใกล้ชิล้ดชิ กันกั โดยบทสนทนาของพี่สพี่าวและโตโยอิโอิต้นั้ต้ นั้นั้ให้ความสำ คัญคักับกัคุณคุค่าค่บ้าบ้นในเชิงชิ สัญสัลักลัษณ์ของพื้นพื้ที่มที่ากกว่าว่การใช้สช้อยของพื้นพื้ที่ใที่นบ้าบ้น ดังดันั้นนั้บ้าบ้นรูปรูตัวตั L จึงจึเปลี่ยลี่น เป็นป็บ้าบ้นรูปรูตัวตั U ใช้โช้ครงสร้าร้งเป็นป็คอนกรีตรีมีกมีารออกแบบการเล่นล่แสง โดยการ ออกแบบบ้าบ้นหลังลันี้เน้นให้คนในครอบครัวรั ได้ใด้กล้ชิล้ดชิกันกัและทำ ให้สนิทกันกัยิ่งยิ่ขึ้นขึ้ การออกแบบบ้าบ้นหลังลันี้ส่วส่นโค้งค้ของปลายทั้งทั้ 2 ข้าข้งออกแบบให้ค่อค่ยๆถูกถูบีบบี จากห้องครัวรัห้องน้ำ ห้องนอนของแม่ และสิ้นสิ้สุดสุที่ห้ที่ ห้องนอนของลูกลูสาว เนื่องจากตัวตั บ้าบ้นเป็นป็รูปรูทรงเฉพาะ พื้นพื้ที่ใที่ช้สช้อยบางส่วส่นจึงจึ ไม่จำม่จำเป็นป็ต้อต้งมีผมีนังกั้นกั้ โดยการนั่งเล่นล่ การรับรั ประทานอาหารและการนั่งสมาธิเธิป็นป็พื้นพื้ที่อที่เนกประสงค์ แสงที่เที่ข้าข้มาภายในบ้าบ้น จะเน้นเป็นป็ช่อช่งเปิดปิที่ถูที่กถูกำ หนดไว้ รูปรูทรงเพียพีงไม่กี่ม่ช่กี่อช่งทำ ให้เกิดกิเงาเพื่อพื่สร้าร้งพื้นพื้ที่ เหมือมืนหน้าจอที่ฉที่ายชีวิชีตวิของผู้อยู่อยู่ าศัยศั ภาพที่ 3.9 ภาพแสดงอาคาร White U House ภาพที่ 3.10 ภาพแสดงภายในอาคาร ภาพที่ 3.11 ภาพแสดงแปลนพื้นพื้อาคาร ภาพที่ 3.12 ภาพอาคาร White U House


FOLDED PLATE อาคารตัว ตั อย่า ย่ ง 11 By 3Gatti Architecture Studio โลกของรถยนต์ตัต์ดตักันกักับกั โลกมนุษย์แย์ละโลกอินอิทรีย์รีย์ ทำ ให้เกิดกิโครงสร้าร้งเปลือลืกโลกใหม่ ที่นี่ที่ นี่ทุกทุอย่าย่งมุ่งมุ่ ไปที่ รถยนต์ รถคือคืจุดจุเด่นด่การออกแบบที่เที่ ป็นป็เอกลักลัษณ์ด้วด้ยทาง ลาดที่คที่ดเคี้ยคี้วแทนที่จที่ะเป็นป็พื้นพื้ช่วช่ยให้ผู้เยี่ยยี่มชมสามารถขับขั รถของตนเองผ่านระดับดัต่าต่งๆ ของอาคารเพื่อพื่ชมนิทรรศการ 2006 Automobile museum in nanjing โครงสร้าร้งหลักลัของอาคารเป็นป็ทางลาดแบบเกลียลีวซึ่งซึ่มี ฉากกั้นกั้เป็นป็กระจกแบ่งบ่ส่วส่นภายนอกออกจากภายใน ในส่วส่น ภายในที่สที่งวนไว้สำว้สำหรับรัคนเดินดิเท้าท้ความลาดเอียอีงจะค่อค่ยเป็นป็ ค่อค่ยไป ในขณะที่ด้ที่าด้นนอกและด้าด้นข้าข้งชั้นชั้มีไมีว้สำว้สำหรับรัการ สัญสัจรของรถยนต์ ขั้นขั้แรกผู้เยี่ยยี่มชมจะขับขัรถขึ้นขึ้ ไปบนทางลาดเกลียลีวเพื่อพื่ดู รถยนต์ตต์ามลำ ดับดัเวลาตั้งตั้แต่สต่มัยมั ใหม่ไม่ ปจนถึงถึวินวิเทจ จากนั้นนั้ พวกเขาสามารถสัมสัผัสประสบการณ์การเดินดิลงไปตามส่วส่น จัดจัแสดงตามลำ ดับดัเวลาย้อย้นกลับลั โดยเริ่มริ่จากรถโบราณที่ชั้ที่นชั้ บนสุดสุและปิดปิท้าท้ยด้วด้ยรถยนต์สต์มัยมั ใหม่ที่ม่ด้ที่าด้นล่าล่ง การ ออกแบบนี้ให้มุมมุมองที่แที่ตกต่าต่งกันกัของรถยนต์แต์ละ ประสบการณ์ที่ดื่ที่มดื่ด่ำ ในการขึ้นขึ้และลงผ่านคอลเล็คล็ชั่นชั่ ประเภทของอาคารมีกมีารพัฒพันาตามลำ ดับดั โดยมี โครงสร้าร้งคล้าล้ยคลึงลึกับกัภาพยนตร์ที่ร์ตัที่วตัเอกคือคืรถยนต์ ใน ความเป็นป็จริงริผู้เยี่ยยี่มชมในฐานะผู้ชมภาพยนตร์ จะต้อต้ง ปฏิบัฏิติบัตติามเส้นส้ทางทางกายภาพและทางจิตจิใจตามที่สที่ถาปนิก ของพิพิพิธพิภัณภัฑ์กำ หนดไว้ทีว้ลทีะเฟรม ภาพที่ 3.13 ภาพแสดง DIAGRAM CONCEPT ภาพที่ 3.14 ภาพแสดงลำ ดับดัการใช้งช้านภายในอาคาร ภาพที่ 3.15 ภาพแสดงทางสัญจรภายในอาคาร ภาพที่ 3.16 ภาพแสดง DIAGRAM CONCEPT ภาพที่ 3.17 ภาพแสดงแบบจำ ลอง 3D


อาคารตัว ตั อย่า ย่ ง 12 FOLDED PLATE 2008 OSLO OPERA HOUSE by Snøhetta เป็นป็การออกแบบโรงละครที่ไที่ด้รัด้บรัแรงบันบัดาลใจมาจาก สภาพแวดล้อล้มของประเทศนอร์เร์วย์แย์ละความสุนสุทรีย์รีรย์วมถึงถึ การให้ความสำ คัญคัด้าด้นศิลศิ ปะของชาวนอร์เร์วย์ ตัวตัอาคาร สร้าร้งขึ้นขึ้ติดติกับกัทะเลสาบทำ ให้ช่วช่งฤดูหดูนาวทะเลสาบจะแข็งข็ตัวตั จนกลายเป็นป็ผืนเดียดีวกับกัพื้นพื้ที่ขที่องOslo opera โดยส่วส่นตัวตั ของภายนอกตัวตัอาคารจะมีทมีางลาดเอียอีงสูงสูที่คที่ดไปยังยัด้าด้น บนยอดของอาคารภายนอก สามารถออกไปเดินดิเล่นล่ภายนอก ทำ ให้เวลาที่เที่ราเดินดิออกไปยังยัทางลาดเอียอีงภายนอกของตัวตั อาคารที่คที่ดไปยังยัยอดอาคารจะเห็นมุมมุมองของOslo operaที่ แตกต่าต่งกันกัออกไปทุกทุ ๆก้าก้วที่เที่ดินดิและแตกต่าต่งกันกั ไปทุกทุ ๆช่วช่ง เวลา ภายในของตัวตัอาคารนั้นนั้เป็นป็ทางเชื่อชื่มที่เที่ชื่อชื่มกันกัเป็นป็ เกลียลีวแบ่งบ่แต่ลต่ะชั้นชั้ต่าต่งกันกัออกไปเผื่อความสะดวกแก่กก่ารเดินดิ ทางไปยังยัที่นั่ที่ นั่งของผู้รับรัชมแต่ลต่ะชั้นชั้ ในส่วส่นของที่นั่ที่ นั่งนักดนตรี ในโรงละครจะเป็นป็พื้นพื้ที่ที่ที่ยุที่บยุลงไปด้าด้นล่าล่งเพื่อพื่ ไม่ใม่ห้บนบังบัการ มองเห็นละครเวทีจทีากผู้รับรัชม นอกจากนี้Oslo opera นั้นนั้ สถาปนิกได้อด้อกแบบหน้าต่าต่งให้มีคมีวามสูงสูถึงถึ 15 เมตร แต่มีต่กมีาร ลดใช้เช้สาและโครงเหล็กล็ ให้น้อยที่สุที่ดสุจึงจึเป็นป็ความท้าท้ทายอย่าย่ง มาก นอกจากนั้นนั้ตัวตักระจกเองก็มีก็คมีวามแข็งข็แรงเป็นป็พิเพิศษ สถาปนิกได้เด้ลือลืกกระจกหนาพิเพิศษที่มีที่คมีวามใสมากมาใช้อีช้กอีด้วด้ย ภาพที่ 3.18 ภาพแสดงอาคาร OSLO OPERA HOUSE ภาพที่ 3.19 ภาพแสดงตัวตัอาคารในยามค่ำ คืนคื ภาพที่ 3.20 ภาพแสดงภายในโถงทางเข้าข้โรงละคร ภาพที่ 3.21 ภาพแสดงภายในโรงละคร


FOLDED PLATE ภาพที่ 3.22 ภาพแสดง SITE ที่ตั้ที่งตั้ โครงการ ภาพที่ 3.23 ภาพแสดงแบบจำ ลอง 3D ภาพที่ 3.24 ภาพแสดงตัวตัอาคารทางฝั่งทะเลสาบ อาคารตัว ตั อย่า ย่ ง 13


ภาพที่ 3.25 ภาพแสดงรูปรูตัดตั โครงสร้าร้งของอาคาร ภาพที่ 3.26 ภาพแสดงแปลนพื้นพื้ชั้นชั้ ใต้ดิต้นดิภาพที่ 3.27 ภาพแสดงแปลนพื้นพื้ชั้นชั้หนึ่ง ภาพที่ 3.28 ภาพแสดงแปลนพื้นพื้ชั้นชั้สอง ภาพที่ 3.29 ภาพแสดงแปลนพื้นพื้ชั้นชั้สาม อาคารตัว ตั อย่า ย่ ง 14


Lucky Knot ได้รัด้บรัแรงบันบัดาลใจจากหลักลัการของ แหวน Mobius ที่พูที่พูดถึงถึระนาบที่่ไที่่ม่มีม่ที่มีสิ้ที่นสิ้สุดสุไม่มีม่ขมีอบต่อต่ของ ระนาบ รวมถึงถึศิลศิ ปะการผูกปมแบบจีนจี ในศิลศิ ปะพื้นพื้บ้าบ้นของจีนจี ที่มีที่กมีารตกแต่งต่ โบราณ ปมเป็นป็สัญสัลักลัษณ์ของโชคและความ เจริญริรุ่งรุ่ เรือรืง” จอห์น แวน เดอ วอเตอร์ หุ้นส่วส่นของสถาปนิก NEXT ปักปักิ่งกิ่กล่าล่วว่าว่สะพานแห่งนี้มีเมีสน่ห์ดึงดึดูดดูจากการผสม ผสานระหว่าว่งประเพณีและความทันทัสมัยมั By NEXT ARCHITECTS The Lucky Knot Bridge In Changsha, China (2016) Lucky Knot สะพานคนเดินดิเหล็กล็แห่งใหม่ใม่นเมือมืง ฉางซา ซึ่งซึ่เป็นป็เมือมืงใหญ่ขญ่องจีนจีมีคมีวามยาว 185 เมตร สูงสู 24 เมตร สะพานนี้เป็นป็ โครงการสำ คัญคั ในการพัฒพันา พื้นพื้ที่สที่าธารณะของพื้นพื้ที่ และได้รัด้บรัการออกแบบโดยคำ นึง ถึงถึกิจกิกรรมสันสัทนาการ ระบบนิเวศ และกิจกิกรรมการท่อท่ง เที่ยที่วเป็นป็หลักลั “The Lucky Knot เป็นป็มากกว่าว่สะพานและ เชื่อชื่มโยงระหว่าว่งสองฝั่งฝั่แม่น้ำม่ น้ำความสำ เร็จร็อยู่ที่ยู่ กที่ารนำ วัฒวันธรรมมารวมกันกัและในการผสมผสานของ ประวัติวัศติาสตร์ เทคโนโลยี ศิลศิ ปะ นวัตวักรรม สถาปัตปัยกรรม FOLDED PLATE ภาพที่ 3.30 ภาพแสดงThe Lucky Knot Bridge In Changsha, China (2016) ภาพที่ 3.33 ภาพแสดงการก่อก่สร้าร้งสะพาน ภาพที่ 3.34 ภาพ 3D แสดงตัวตัอย่าย่งสะพาน อาคารตัว ตั อย่า ย่ ง 15 ภาพที่ 3.31 ภาพแสดง DIAGRAM CONCEPT ภาพที่ 3.32 ภาพแสดงรูปรูตัดตั โครงสร้าร้งสะพาน


FOLDED PLATE อาคารตัว ตั อย่า ย่ ง 16 2023 architect by Jeanne Gang Richard Gilder Center for Science, Education, and Innovation at the American Museum of Natural History GilderCenter ส่วนสำ คัญคัของแนวทางการออกแบบของ เรา คือคืการทำ ให้ผู้คนทุกทุวัยสามารถรู้สึรู้ สึกสบายใจ ดังดันั้นนั้เราจึงจึ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าภายในพื้นพื้ที่มีที่ที่มีนั่ที่ นั่งกว้างตลอดจนแนว สายตาที่แที่ตกต่าต่งกันกัเพื่อพื่ ให้ทุกทุคนสามารถมองเห็นและเชื่อชื่มต่อต่ กับกันิทรรศการได้ ซึ่งซึ่กันกัและกันกัและสวนสาธารณะด้าด้นนอก “ ฉันฉัเริ่มริ่คิดคิถึงถึบรรยากาศที่ทำที่ทำให้คุณคุรู้สึรู้ สึกแบบนั้นนั้และมองไปที่ การก่อก่ตัวตัทางธรรมชาติปติระเภทต่าต่งๆ ในธรณีวิทยา และค้นค้คว้า ว่าพวกมันมัถูกถูสร้าร้งขึ้นขึ้มาอย่าย่งไร” เราตรวจสอบเพื่อพื่ ให้แน่ใจว่าว่ ได้จัด้ดจัมุมมุมองจากบันบั ไดกลางใน อดิเดิทรียรีมให้มีคมีวามสอดคล้อล้งกับกัแกนถนนตะวันวัออก-ตะวันวัตก อันอัแข็งข็แกร่งร่ของแมนฮัตฮัตันตัเป็นป็หนึ่งในสถานที่สที่าธารณะไม่กี่ม่ กี่ แห่งในนิวยอร์กร์ซิตี้ซิที่ตี้ทุที่กทุคนสามารถออกไปเที่ยที่วข้าข้งในได้อด้ย่าย่ง สะดวกสบายและอยู่ติยู่ ดติกับกัตารางแมนฮัตฮัตันตั ในแง่นั้ง่ นั้นั้การ ออกแบบได้เด้ชื่อชื่มโยงผู้คนเข้าข้กับกัเมือมืงที่พที่วกเขาอยู่แยู่ ละยิ่งยิ่ไป กว่าว่นั้นนั้ด้วด้ยโครงสร้าร้งที่เที่ ป็นป็ลักลัษณะของการทำ ร้าร้ยระบบของ เสาและคานและสอดคล้อล้งกันกั Folded Planeที่มีที่กมีารเคลื่อลื่นที่ไที่ม่ สิ้นสิ้สุดสุเปรียรีบเสมือมืนความรู้วิรู้ ทวิยาศาสตร์ที่ร์ ไที่ม่มีม่ที่มีสิ้ที่นสิ้สุดสุ “I started thinking of landscapes that make you feel that way and looked at different kinds of natural formations in geology and researched how they’re made.” Jeanne Gang กล่าล่วถึงถึแนวคิดคิ ในการออกแบบ ภาพที่ 3.35 ภาพแสดงโฮโลแกรมการเชื่อชื่มต่อต่ภานในอาคาร ภาพที่ 3.36 ภาพแสดงรูปรูตัดตัภายใน ภาพที่ 3.37 ภาพแสดงภายในอาคาร ภาพที่ 3.38 โมเดลตัวตัอย่าย่งอาคาร


FOLDED PLATE อาคารตัว ตั อย่า ย่ ง 17 หันหน้าไปทางถนนโคลัมลับัสบัที่ 79 th Street Jeanne Gang พิพิพิธพิภัณภัฑ์ประวัติวัศติาสตร์ธร์รรมชาติอติเมริกัรินกั ขนาด 230,000 ตารางฟุต มูลมูค่าค่ 465 ล้าล้น ดอลลาร์ ได้รัด้บรัการประกาศในปีสปีร้าร้ง 2014 เป็นป็อาคารเชื่อชื่มกับกัพิพิพิธพิภัณภัฑ์แมลง และเปิดปิ ให้เข้าข้ชมในปี 2023 โดยสร้าร้งการเชื่อชื่มต่อต่ 33 จุดจุระหว่าว่งอาคาร พิพิพิธพิภัณภัฑ์ 10 หลังลัเพื่อพื่เชื่อชื่มโยงทั้งทั้ วิทวิยาเขต และสร้าร้งทางเข้าข้ใหม่ทม่างฝั่งฝั่ตะวันวั ตกของพิพิพิธพิภัณภัฑ์ที่ Columbus Avenue และ 79th Street เน้นรองรับรัการทำ งาน ด้าด้นส่งส่เสริมริการศึกศึษาวิทวิยาศาสตร์ใร์นระบบ โรงเรียรีน รวมทั้งทั้สนับสนุนการเรียรีนรู้ขรู้ อง ครอบครัวรัและผู้ใหญ่ โครงสร้าร้งที่โที่ดดเด่นด่ของมันมัถูกถูสร้าร้งขึ้นขึ้ โดย การพ่นพ่คอนกรีตรีลงบนเหล็กล็เส้นส้ โดยตรง โดยไม่ต้ม่อต้งใช้แช้บบหล่อล่แบบดั้งดั้เดิมดิ ในเทคนิค ที่เที่รียรีกว่าว่ "ช็อช็ตครีตรี" ซึ่งซึ่ ประดิษดิฐ์ขึ้ฐ์นขึ้ ในช่วช่ง ต้นต้ทศวรรษ 1900 โดยนักธรรมชาติวิติทวิยา แห่งพิพิพิธพิภัณภัฑ์และศิลศิ ปินปินักสตัฟตั ฟ์ คาร์ลร์เอคลีย์ลีย์ ภาพที่ 3.39 ภาพแสดง SITE ที่ตั้ที่งตั้ โครงการ ภาพที่ 3.40 ภาพภายในอาคาร ภาพที่ 3.41 Jeane Gang


FOLDED PLATE เอกสารอ้า อ้ งอิงอิก เอกสารอ้าอ้งอิงอิ THE FOLD Leibniz and the Baroque Gilles Deleuze https://www.academia.edu/4252451/Deleuze_The_Fold_Leibniz_and_the_Baroque Memoirs 4. Folded Plates by Milo Ketchum circa 1990 https://www.ketchum.org/milo/Memoir4.html Folded structures in modern architecture https://www.researchgate.net/publication/281395871_Folded_structures_in_modern_architecture Baroquian Folds: Leibniz on Folded Fabrics and the Disruption of Geometry https://link.springer.com/referenceworkentry/10.1007/978-3-319-70658-0_93-1 From Folds to Structures https://www.researchgate.net/publication/282461993_From_Folds_to_Structures_a_Review#pf2 The Eisenman-Deleuze Fold https://www.academia.edu/2011373/The_Eisenman_Deleuze_Fold White U (HOUSE) Toyo Ito https://architectuul.com/architecture/white-u-house St. Andreas, Düsseldorf https://en.wikipedia.org/wiki/St._Andreas,_D%C3%BCsseldorf The Lucky Knot Bridge In Changsha, China (2016) https://weather.com/travel/news/lucky-knot-bridge-china https://www.archdaily.com/798261/lucky-knot-next-architects


FOLDED PLATE เอกสารอ้า อ้ งอิงอิข https://news.harvard.edu/gazette/story/2023/09/architect-jeanne-gang-on-soaring-gilder-center-design/ https://www.businessinsider.com/american-museum-of-natural-history-new-wing-coming-in-2020-photos-2017-1? r=US&IR=T&IR=T%2F#the-projects-chief-architect-jeanne-gang-demonstrated-the-model-during-an-event-at-theamerican-museum-of-natural-history-on-wednesday-morning-2 https://www.aiany.org/architecture/featured-projects/view/richard-gilder-center-for-science-education-andinnovation-at-the-american-museum-of-natural-history/ https://www.thekommon.co/american-museum-of-natural-history/ Richard Gilder Center for Science, Education, and Innovation at the American Museum of Natural History Automobile museum in nanjing (2006) https://www.archdaily.com/66446/automobile-museum-in-nanjing-3gatti-architecture-studio https://www.dezeen.com/2010/06/21/automobile-museum-by-3gatti-architecture-studio/


4 สรุป รุ Folded Plate เป็นป็เทคนิคหนึ่งในการก่อก่สร้าร้งที่มีที่แมีนวคิดคิของความต้อต้งการที่จที่ะ หนีระบบ เสาและคาน และการเชื่อชื่ต่อต่การของแผ่นระนาบ ของผนัง พื้นพื้และ หลังลัคา เป็นป็การไหลของพื้นพื้ผิว ฟังฟัชั้นชั้ก์ และความรู้สึรู้ กสึของทั้งทั้ทางสถาปัตปัยกรรม ความเชื่อชื่และ ความรู้สึรู้ กสึ “หวังวัว่าว่เอกสารเล่มล่นี้จะทำ หน้าของมันมั ได้อด้ย่าย่งสมบูรบูณ์แบบ”


By plukky chompu pleple pream snow


Click to View FlipBook Version