วรรณกรรมลายลักษณ์
ประกอบการเรียนวิชา
ท๓๐๒๔๒ วรรณกรรมท้อง
ถิ่นทุ่งสง เรื่องชุมทางทุ่งสง
สโลแกน
ชุมทางทุ่งสง ดำรงอยู่นาน
ทั้งลูกและหลานสราญเริงรมย์
พดชมโร เมืองโบราณ
อาณาจักรดามพรลิงค์ ๑๒๑ ปี
เมื่อพูดถึง "พดชมโร" เชื่อว่าหลายคนอาจจะไม่รู้จัก
แต่หากพูดถึงอำเภอทุ่งสง บางท่านก็คงจะพอคุ้นหูอยู่บ้าง
แต่ก็อาจจะนึกไม่ออกว่า อำเภอนี้อยู่ที่ไหน "อำเภอทุ่งสง"
หรือที่เรียกกันติดปาก อีกชื่อหนึ่งว่า "ชุมทางทุ่งสง"
ประวัติความเป็นมาของชุมทางทุ่งสง
อำเภอทุ่งสง คือ ๑ ใน อำเภอที่มีความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่
ที่สุดอีกอำเภอหนึ่งของ จังหวัดนครศรีธรรมราช อดีตอาณาจักรดามพรลิงค์
หัวเมืองทางปักษ์ใต้ที่มีระบุในประวัติศาสตร์ของประเทศไทยมาตั้งแต่
ต้นกรุงศรีอยุธยา เหตุที่เรียกว่า ชุมทางทุ่งสง นั้นเป็นเพราะอำเภอทุ่งสง
เป็นเส้นทางรถไฟสายใต้ที่สำคัญอีกสาย
เมื่อครั้งสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ทรงโปรด
ให้คณะวิศวกรสร้างเส้นทางรถไฟ และในจุดทางแยกที่ไปตรังให้ระบุและปักหมุดไว้
ว่า "ชุมทางทุ่งสง"
ปัจจุบันอำเภอทุ่งสงแทบจะเรียกได้ว่าเป็น ศูนย์กลางการเดินทางรถไฟในภาค
ใต้ตอนกลาง ก่อนลงไปภาคใต้ตอนล่าง ทุกๆ การเดินรถไฟ จะต้องผ่านชุมทาง
ทุ่งสง
ชุมทางทุ่งสงเป็นจุดเปลี่ยนผลัดเวรพนักงานการรถไฟ จุดพักระหว่างการเดิน
ทาง จุดเชื่อมต่อที่สำคัญของการเดินทางโดยรถไฟ จุดเติมน้ำมันหัวรถจักร
เติมน้ำประปา และสิ่งอำนวยความสะดวก สาธรณูปโภคต่างๆ นอกจากนี้ที่สำคัญ
ยังเป็น จุดขนถ่ายกระจายสินค้า และศูนย์กลางการบริการรถไฟที่สำคัญ
อีกหลาย ๆ อย่าง
รูปชุมทางทุ่งสง
พิธีกรรมและความเชื่อ
ชุมทางทุ่งสงไม่มีพิธีกรรมแต่มีการเล่าต่อๆกันมาว่าเป็น เมือง
ศูนย์กลางคมนาคม เมืองกึ่งกลางคาบสมุทรแห่งนี้เกิดขึ้นเมื่อมีการ
สร้างทางรถไฟสายใต้โดยทางการรถไฟซึ่งมีการสร้างและเปิดใช้งาน
เป็นช่วง ๆ ตั้งแต่สมัยรัชการที่ 5 มาสำเร็จเสร็จสิ้นตลอดสาย และ
ในสมัยรัชกาลที่ 6 ได้เลือกทุ่งสงเป็นสถานีชุมทางใหญ่เป็นจุดรวม
และจุดจ่ายรถไฟของภาคใต้การเป็นชุมทางรถไฟทําให้จุดศูนย์กลาง
ของเมืองที่เคยอยู่บริเวณตลาดในย้ายไปอยู่ริมทางรถไฟและบริเวณ
โดยรอบปัจจุบันเรายังคงเห็นภาพความรุ่งเรืองในอดีตจากอาคาร
บ้านเรือนเก่าแก่ตามถนนรถไฟต่อมาการคมนาคมทางบกได้เข้ามามี
บทบาทมีการพัฒนาถนนเพื่อใช้ในการเดินทางโรงงานขนาดใหญ่ ๆ
เห็นว่าพื้นที่นี้มีวัตถุดิบในการผลิตมากมายเป็นทำเลทองให้เกิดการ
ตั้งโรงงานมากขึ้นทุ่งสงเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงอีกครั้งเมื่อเกิด
ทางหลวงหมายเลข 41 หรือทางหลวงสายเอเชียซึ่งเปิดใช้ในช่วงปี
พ.ศ. 2523 ถนนสายนี้ทำให้ทุ่งสงกลายเป็นชุมทางการคมนาคม
ทางรถยนต์มาจนถึงปัจจุบัน
ที่ตั้งของชุมทางทุ่งสง
ชุมทางทุ่งสงตั้งอยู่ที่ ถนนรถไฟ๒ ตำบลปากแพรก อำเภอทุ่งสง
จังหวัดนครศรีธรรมราช
สร้างขึ้นเพื่อ
เป็นจุดจอด แวะพัก เปลี่ยนขบวน สำหรับการเดิน รถไฟ มีการรับส่ง
ผู้โดยสาร หรือรับส่งสินค้า หรือทั้งสองอย่าง และเพื่อความสะดวกสบาย
ในการเดินทางของประชาชนในทุ่งสงไปจนถึงพื้นที่ใกล้เคียง
ทั้งยังเป็นสถานีชุมทางรถไฟ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของทางรถไฟ สายชุมทางทุ่งสง–
กันตัง ซึ่งแยกทางรถไฟสายกันตังออกจากทางรถไฟสายใต้ รวมถึงยังเป็นสถานีชุม
ทางรถไฟสายใต้แห่งที่สี่ ถัดมาจากสถานีรถไฟชุมทางตลิ่งชัน สถานีรถไฟชุมทาง
หนองปลาดุกและสถานีรถไฟชุมทางบ้านทุ่งโพธิ์ และเป็น ๑ ใน ๑๕ สถานีชุมทาง
รถไฟในประเทศไทย
รวมทั้งเป็นจุดพักขบวนรถสินค้าที่เดินทางมาจากสถานีรถไฟชุมทางบางซื่อ สถานี
รถไฟชุมทางหาดใหญ่ สถานีรถไฟปาดังเบซาร์และท่าเรือแหลมฉบัง รวมถึงเป็น
สถานีสำหรับการกระจายสินค้าจากสถานีชุมทางทุ่งสงไปยังพื้นที่ต่างๆ ในภาคใต้
นอกจากนี้มีสถานีตำรวจรถไฟทุ่งสง กองกำกับการ๓ กองบังคับการตำรวจรถไฟ
ซึ่งตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับสถานีอีกด้วย
วิธีการอนุรักษ์และเผยแพร่
ส่งเสริมไม่ให้มีการทำลายหรือทำให้รถไฟเกิดความชำรุด
ส่งเสริมให้มีกิจกรรมนั่งรถไฟฟรีในวันเด็กของทุกปี
เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับชุมทางทุ่งสงและเชิญชวนประชาชนโดย
เผยแพร่ผ่านทางโซเชียล
บทสรุป
อำเภอทุ่งสงหนึ่งในอำเภอที่มีความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ที่เก่า
แก่ที่สุดอีกอำเภอหนึ่ง เหตุที่เรียกว่าชุมทางทุ่งสงนั้นเป็นเพราะ อำเภอ
ทุ่งสงเป็นเส้นทางรถไฟสายใต้ที่สำคัญ
ปัจจุบันแทบจะเรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางการเดินทางรถไฟใน
ภาคใต้ตอนกลางชุมทางทุ่งสงยังเป็นจุดผลัดเปลี่ยนพนักงาน หยุด
พัก จุดเชื่อมต่อที่สำคัญในการเดินทาง จุดเติมน้ำมัน เติมน้ำ
ประปา และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ นอกจากนี้ที่สำคัญยังเป็น
จุดขนถ่ายกระจายสินค้า และศูนย์กลางการบริการที่สำคัญอีก
หลายๆอย่าง
เพราะฉะนั้นเราควรอนุรักษ์รักษาชุมทางทุ่งสงให้อยู่กับเราไปนานๆ
ประโยชน์ของการทำงาน
ทำให้รู้จักเกี่ยวกับชุมทางทุ่งสงมากขึ้น ได้รู้ถึงความเป็นมาในอดีตของ
ชุมทางทุ่งสง
แหล่งสืบค้นอ้างอิง
https://www.bloggang.com
https://www.bagindesign.com
สมาชิกในกลุ่ม
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่๕/๗
นายคีฑาวุธ ชูจันทร์ เลขที่๕
นางสาวปธิมาพร สุวรรณศรี เลขที่๓๑
นางสาวปิยะดา จริตงาม เลขที่๓๒
นางสาวแพรไพลิน เลิศพนารักษ์ เลขที่๓๓
นางสาวมนัสวรรณ สุดไกรไทย เลขที่๓๔