The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เป็นหนังสือรวบรวมประวัติเกรเกอร์ เมนเดล
นักวิทยาศาสตร์ทางพันธุศาสตร์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by mookmiksuda22373, 2021-04-02 00:26:03

ประวัติ เกรเกอร์ เมนเดล (Gregor Mendel)

เป็นหนังสือรวบรวมประวัติเกรเกอร์ เมนเดล
นักวิทยาศาสตร์ทางพันธุศาสตร์

Keywords: เกรเกอร์

ประวัติ
เกรเกอร์ เมนเดล (Gregor Mendel)

จัดทำโดย นางสาว สดุ าพร ชาวดอน
รหสั นกั ศึกษา 6181118005

สารบญั หนา้
2
1.ประวัติ 4
2.ชีวิตสว่ นตวั 5
3.การทดลองครัง้ สำคญั ในประวตั ศิ าสตร์ 6
4.เสียชวี ติ 7
5.ผลงานดีเด่น

2

1.ประวัติ
เกรเกอร์ โยฮนั น์ เมนเดล (Gregor Johann Mendel) เกิดเมื่อวนั ท่ี 27 กรกฎาคม ค.ศ. 1822
ที่เมืองโมราเวีย ประเทศออสเตรยี บิดาของเขามีอาชีพเกษตรกร ในวัยเด็ก เมนเดลเป็น
เด็กฉลาดและเรียนดี แต่ต้องหยุดเรียนกลางคันเนื่องจากฐานะทางบ้านเริ่มมีปัญหา จน
ในทส่ี ดุ กต็ อ้ งลาออกจากโรงเรียน เพ่อื มาช่วยท่บี า้ นทำฟาร์ม

ต่อมาบิดาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตทำให้ฐานะทางบ้านย่ำแย่ยิ่งกว่าเดิม เป็นเหตุให้
ครอบครัวตัดสนิ ใจขายทด่ี นิ เพอื่ นำเงนิ มาใช้จ่ายและเปน็ ทุนการศกึ ษา กระนั้นเงินท่ไี ด้มา
ก็ยังไม่เพียงพอเมนเดลจึงเข้าบวชเป็นบวชเป็นเณรในสำนักออกัสทิเนียน ที่เมืองบรุนน์
ครั้งสอบเข้าโรงเรียนในเมืองบรุนน์หลายครั้งแต่ไม่เป็นผล จึงเข้าศึกษาต่อที่วิทยาลัย
โอลมุตซ์ ซง่ึ ภายหลังสำเร็จการศกึ ษา จึงเขา้ บวชเป็นบาทหลวงท่สี ำนักออกสั ทิเนียนและ
ได้รบั ฉายาว่า เกรเกอร์

ในเวลาเดยี วกันนนั้ เมนเดลไดส้ อบเพ่ือรับประกาศนยี บตั รวชิ าชีพครูแต่ปรากฏว่า
สอบตก เพราะได้คะแนนวิชาชีววิทยาต่ำกว่าเกณฑ์ อย่างไรก็ตาม เมนเดลก็ยังรักวิชา
วิทยาศาสตร์ และตั้งต้นไปเรียนคณิตศาสตร์กับวิชาวิทยาศาสตร์ต่อที่มหาวิทยาลัย
เวียนนา 2 ปี ก่อนจะได้เป็นอาจารยส์ อนหนงั สือให้แกน่ กั เรียนในเวลาต่อมา

3

การที่เมนเดลมีบิดาเป็นชาวไร่ ทำให้เขาชอบศึกษาการแพร่พันธุ์ชองพืชเป็นพิเศษเมื่อ
อายุได้ 34 ปี เมนเดลเอาต้นถั่วมาทดลองผสมพันธุ์เป็นครั้งแรก และใช้เวลาทดลอง
ต่อเนื่องถึง 7 ปี จนได้ผลวิเคราะห์เอกลักษณ์ที่สำคัญของต้นถั่วถึง 7 ประเด็นและการ
บันทึกข้อสังเกตต่างๆ ที่ได้จากการทดลองนี่เอง ทำให้เขาพบกฎพันธุกรรม และพัฒนา
ต่อไปจนกลายเป็นงานวจิ ยั เรอ่ื ง Experiments on Plant Hybridization

ปีค.ศ. 1865 เมนเดลนำรายงานผลการทดลองดังกล่าวซึ่งเกี่ยวกับการผสมพันธ์ุ
ต้นถัว่ ไปเสนอแกท่ ่ปี ระชมุ สมาคมธรรมชาตวิ ิทยาในเมอื งบรุนน์ อกี หนงึ่ ปีต่อมา งานวิจยั
ดังกล่าวก็ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Proceedings of the Natural History Society of
Brunn เผยแพร่ออกไปทั่วทวีปยุโรปและอเมริกา ขณะเดียวกัน เขาก็ส่งรายงานการฉบับ
นน้ั ไปให้คาร์ล นาเกลี ซ่งึ เปน็ ผูเ้ ชีย่ วชาญดา้ นการผสมพนั ธ์ุพืชอา่ นด้วย

กฎของเมนเดล ถือเป็นประวัติศาสตร์แห่งวงการพันธุศาสตร์ ที่ค้นพบข้อมูลการ
ถ่ายทอดทางพันธุกรรมจากรุ่นสู่รุ่น โดยเมนเดลได้ทดลองกับพืชตระกูลถั่ว และ
สงั เกตเหน็ ลักษณะเด่นบางอยา่ งของตน้ ถ่ัวรุ่นลูก เชน่ ความสงู

กฎแห่งการเลือดหรือกฎของเมลเดลนั้น จะมีทั้งลักษณะเด่น และลักษณะด้อย
เมอื่ พอ่ กบั แม่ท่มี ีลกั ษณะเดน่ มาผสมกัน กจ็ ะได้ลกู ซ่ึงมีลกั ษณะดอ้ ยมาผสมกนั ก็จะได้ลูก
ลักษณะด้อยมาผสมกัน ผลที่ได้ในรุ่นลูกคือ “เด่น” ทั้งหมด ขณะเดียวกันถ้านำไปผสม
กันในรุ่นกลานก็จะไดเ้ ดน่ แท้-ด้อยแท้-เด่นไม่แท้ในอัตราส่วน 1:1:2 จากคำอธบิ ายผลการ
ทดลองนี้ สง่ิ ที่เมนเดลเรียกวา่ “ลักษณะเด่น” ปัจจุบนั กค็ อื “ยีน”

หลังจากอ่านรายงานของเมนเดลนาเกลีมีข้อสงสัยและเคลือบแคลงผลสรุปของ
เมนเดลมากมาย เขาได้เสนอแนะให้เมนเดล ทดลองอีกครั้งโดยใช้พืชชนิดอื่นแทน แต่
เมนเดลไม่ได้ดำเนินการใดๆ ตามคำแนะนำดังกล่าวเพราะในปี ค.ศ.1868 นั้น เมนเดล
ได้รับการสถาปนาสมณศักดิ์เป็นเจ้าอาวาสประจำโบสถ์ท่ี Alt Brunn และภาระหน้าที่ใน
การบรหิ ารงานทำให้เขาไม่มเี วลาทำการทดลองเร่อื งการผสมพันธพ์ุ ชื อกี เลย

4

2.ชวี ติ สว่ นตวั

เกรเกอร์ เมนเดล เป็นชาวออสเตรีย เดิมชื่อโยฮันน์ เมนเดล เกิดเมื่อปี 1822 ที่เมือง
Heinzendorf ประเทศออสเตรีย ในครอบครวั เกษตรกรที่ค่อนข้างยากจน ในวัยเด็กเขา
ทำงานเป็นคนสวนและเรียนรู้การเลี้ยงผึ้ง เมนเดลเรียนมัธยมแถวบ้านเกิดและมีผลการ
เรียนที่ยอดเยี่ยม ปี 1840 เขาเข้าเรียนต่อในวิชาปรัชญาหลักสูตร 2 ปีที่มหาวิทยาลัย
Olomouc ซึ่งเขาก็ทำไดด้ โี ดยเฉพาะในวิชาฟสิ ิกส์และคณิตศาสตร์ แต่การเรียนก็เป็นไป
อย่างยากลำบากเพราะฐานะทางบ้านไม่ดีไม่สามารถสนับสนุนเขาได้ เมนเดลจึงต้องหา
เงินด้วยการสอนพิเศษ ประกอบกับเขาเกิดป่วยหนักจนต้องหยุดเรียนไปปีหนึ่งจึงเรียน
จบหลักสูตรในปี 1843เมนเดลตดั สินใจออกบวชเป็นพระในคณะออกัสติเนียนแห่งนิกาย
โรมันคาทอลิกเพราะมันสามารถทำให้เขาได้เรียนต่อโดยไม่ต้องจ่ายเงินเอง พอเป็น
นกั บวชเขาได้ช่ือว่า “เกรเกอร”์ โยฮนั น์ เมนเดลจึงกลายเป็นเกรเกอร์ เมนเดลตัง้ แตต่ อน
นั้น เขาย้ายไปอยู่ที่เมือง Brünn ฝึกฝนการเป็นบาทหลวงที่นั่น และได้ทำงานเป็นครู
ผู้ช่วยที่โรงเรยี นมธั ยมแหง่ หน่งึ ซ่ึงเขาประสบความสำเรจ็ ในการทำหน้าท่เี ปน็ ครูมาก

ปี 1850 เมนเดลเข้าสอบเพื่อรับใบรับรองการเป็นครูมัธยม แต่ปรากฏว่าเขาไม่ผ่านการ
สอบสัมภาษณ์ เมนเดลถูกส่งไปเรียนเพิ่มทางด้านวิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเวียนนา
เขาทุ่มเทเวลาศึกษาวิชาฟิสิกส์ภายใต้การดูแลของ Christian Doppler นักฟิสิกส์ชื่อดัง
ชาวออสเตรียและวิชาคณิตศาสตร์ นอกจากนี้เขายังได้ศึกษากายวิภาคศาสตร์และ
สรีรวิทยาของพืชและการใช้กล้องจุลทรรศน์เมนเดลเรียนจบกลับมาอยู่ที่วัดในเมือง
Brünn ในปี 1853 และได้ทำงานเป็นครูโรงเรียนมัธยมในเมือง Brünn อีกครั้ง แต่คราว
นี้เขาสอนอยู่นาน 14 ปี ในปี 1856 เมนเดลพยายามสอบเพื่อรับใบรับรองครูมัธยมอีก
ครั้ง แต่ก็ยังไม่ผ่านการสอบสัมภาษณ์เหมือนเดิมซึ่งทำให้เขาผิดหวังซ้ำสองจนประสาท
เสียไปพักใหญ่ แต่อย่างไรก็ตามเมนเดลยังคงเป็นครูที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง
นอกจากเป็นครูสอนหนังสือเมนเดลยังมีหน้าที่ดูแลสวนภายในวัดด้วย เขามีพื้นฐานการ
ปลูกพืชเป็นอย่างดีเนื่องจากเติบโตในครอบครัวเกษตรกรและยังได้ศึกษาสรีรวิทยาของ
พืชในระดบั สูงมาอีกดว้ ย การทำงานในสวนทำให้เขามโี อกาสได้สังเกตลักษณะต่างๆของ
พชื โดยเฉพาะอย่างยง่ิ เร่อื งการถา่ ยทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรมซง่ึ เขาสนใจเป็นพเิ ศษ

5

3.การทดลองครัง้ สำคญั ในประวัติศาสตร์

ปี 1854 เจ้าอาวาสอนุญาตให้เมนเดลทำการทดลองเพ่ือศึกษาการถา่ ยทอดลักษณะทาง
พันธุกรรมไปสู่รุ่นลูกหลานของพืชที่แปลงทดลองภายในวัดพื้นที่ราว 12 ไร่ เขาเลือกถ่ัว
ลนั เตาในการทดลองศึกษาตามวัตถุประสงค์ดังกล่าว เนอ่ื งจากถ่วั ลันเตามพี ันธท์ุ แ่ี ตกต่าง
หลากหลาย เพาะปลกู ได้ง่ายโตเรว็ ควบคมุ การผสมเกสรไดส้ ะดวก และการงอกใหม่ของ
เมล็ดมีโอกาสสำเร็จสูงมาก หลังจากทำการทดลองในเบื้องต้นแล้วเมนเดลจึงเลือกที่จะ
ทำการศึกษาลกั ษณะท่ีแตกต่างกันอย่างชดั เจนของถั่วลนั เตา 7 ลักษณะได้แก่ สีของดอก
(ม่วง – ขาว), ตำแหน่งของดอก (ติดกิ่ง – ปลายยอด), สีของเปลือกหุ้มเมล็ด (เหลือง –
เขยี ว), รูปร่างของเมลด็ (กลม – ย่น) , สีของฝัก (เขยี ว – เหลือง), รปู ร่างของฝัก (อวบ –
แฟบ) และความสงู ของตน้ (สงู – เตย้ี )

6

เมนเดลใช้เวลาระหว่างปี 1856 – 1863 รวมทั้งหมด 8 ปีทำการทดลองผสมพันธ์ุถ่ัว
ลันเตานับพันครั้ง ศึกษาติดตามการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมจากรุ่นสู่รุ่น เขา
ทำการศกึ ษาการถ่ายทอดพันธุกรรมทีละลักษณะก่อนจนเขา้ ใจดีแลว้ จงึ ทำการศึกษาการ
ถ่ายทอดหลายลกั ษณะพรอ้ มๆกนั เริ่มจากคดั เลอื กพ่อแม่พันธแ์ุ ท้ (pure-breeding) ที่มี
ลกั ษณะแตกตา่ งกนั มาทำการผสมเกสรข้ามพนั ธุ์ รุ่นลกู ของพอ่ แมพ่ ันธุแ์ ทเ้ รียกวา่ ลูกผสม
ชว่ งท่ี 1 หรอื F1 (first filial generation) จากนนั้ ทำการผสมพันธ์ุ F1 ดว้ ยกัน รุ่นหลาน
หรือลูกของ F1 เรียกว่า F2 (second filial generation)เมนเดลพบว่ารุ่น F1 จะมี
ลักษณะเหมือนกับพ่อหรือแม่เพียงลักษณะเดียวทั้งหมด เช่น พ่อแม่เป็นดอกสีม่วงกับ
ดอกสีขาว รุ่น F1 จะมีดอกสีม่วงทั้งหมด ส่วนรุ่น F2 เขาพบว่าอัตราส่วนของจำนวนตน้
ที่มีดอกสีม่วงต่อจำนวนต้นที่มีดอกสีขาวเท่ากับ 3 ต่อ 1 กรณีนี้ดอกสีม่วงเรียกว่า
ลักษณะเด่น (Dominant trait) ส่วนดอกสีขาวเรียกว่าลักษณะด้อย (Recessive trait)
เมนเดลทำการผสมพันธ์ุถั่วลันเตาต่างลักษณะหลากหลายรูปแบบและปลูกต้นถั่วไป
ทงั้ หมดราว 28,000 ต้น ได้ข้อสรปุ การถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธุกรรมท่ีต่อมากลายเป็น
พื้นฐานสำคัญของวิชาพันธุศาสตร์สมัยใหม่ที่เรียกกันว่า กฎของเมนเดล (Mendel’s
Laws)

4.เสียชวี ติ

เมนเดลเสียชีวิตด้วยโรคไตในวันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2427 วัย 61 ปีที่เบอรโ์ น จักรวรรดิ
ออสเตรีย-ฮังการี (ปัจจุบันอยู่ในเช็กเกีย)โดยในงานศพของเขามีเลออช ยานาเชค นัก
ประพันธ์ชาวเช็กมาบรรเลงออร์แกนหลังเสียชวี ิตของเขาไดม้ ีการเผางานของเมนเดลทกุ
อยา่ ง เพื่อเป็นสญั ญาณว่าขอ้ ถกเถยี งทางอนุกรมวิธานวทิ ยาส้นิ สุดลงแล้ว

7

5.ผลงานดีเดน่

เมนเดลได้เริม่ ทำการทดลองสง่ิ ตา่ ง ๆ ทีเ่ ขาสนใจเกี่ยวกับพันธ์พุ ชื มากมาย และเกิดความ
สงสยั เกี่ยวกับความแตกต่างกันของพืชนานาชนิดท่ีแตกต่างกัน ความแตกตา่ งเหล่าน้ี ทำ
ให้เมนเดลอดนึกสงสยั ไม่ได้ เมนเดลจึงเร่ิมต้นทำการทดลองเป็นคร้ังแรกในปี พ.ศ.2399
โดยเขาได้ทำการรวบรวมต้นถั่วมาหลาย ๆ พันธุ์นำมาผสมพันธุ์กัน ทั้งถั่วพันธุ์เดียวกัน
และถั่วต่างพันธุ์กัน เปน็ จำนวนแตกตา่ งกันถงึ 22 ชนิด เพื่อศึกษาลกั ษณะทั้งหมด เขาใช้
ระยะเวลาในการทดลองและศกึ ษาเป็นเวลารวม 8 ปเี ต็ม ในการทดลองประมาณ 1,000
กว่าครั้ง จนได้ข้อมลู มากเพียงพอ ในที่สุดปี พ.ศ.2408 เมนเดลจึงได้นำเสนอรายงานผล
การทดลองซง่ึ เกี่ยวข้องกับการผสมพนั ธุ์ต้นถัว่ ให้แก่ที่ประชมุ Natural History Society
ในกรุงบรูนน์(Brunn) และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ต่อมาคือในปี พ.ศ.2409 ผลงาน
ของเขาไดร้ ับการตพี ิมพ์เผยแพร่ออกไปทั่วทวปี ยุโรปและ อเมรกิ า แตน่ กั่ เ็ ป็นจุดเริ่มต้นท่ี
ไมม่ บี ุคคลใดไดส้ านตอ่ หรือนำความรู้นน้ั มาตอ่ ยอดหรือนำมากล่าวถึงอีก นานกว่า 34 ปี
จนกระทั่งในปี พ.ศ.2443 ได้มีนักวิทยาศาสตร์ 3 คน คือ ฮิวโก เดอ ฟรีส์ (Hugo de
Vries) นักพฤกษศาสตร์ชาวฮอล์แลนด์, คาร์ล คอร์เรนส์ (Carl Correns) นัก
พฤกษศาสตร์และนักพันธุศาสตร์ชาวเยอรมัน และ เอริช ฟอน แชร์มาค ไซเซเนกก์
(Erich von Tschermak-Seysenegg) นักวิทยาศาสตร์(agronomist) ชาวออสเตรีย ได้
ทำการทดลองผสมพันธุ์พืชชนิดอ่ืนๆ และได้ผลการทดลองตรงกับที่เมนเดลเคยได้
รายงานไว้ ทำใหเ้ มนเดลเป็นท่ีรู้จักในวงการพนั ธศุ าสตรน์ บั ต้ังแตน่ น้ั เป็นตน้ มา

8

อ้างองิ

https://www.takieng.com/stories/14028
https://www.scimath.org/lesson-biology/item/9429-2018-11-14-08-47-17
https://sites.google.com/a/samakkhi.ac.th/nak-withyasastr-lok-m-3-7/home/gregor-mendel


Click to View FlipBook Version