สรุปองค์ความรู้การบริหารราชการ ของ นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช
ค ำน ำ สรุปองค์ควำมรู้กำรบร ิหำรรำชกำรของ นำยอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่ำรำชกำร จังหวัดนครศร ีธรรมรำช ฉบับนี้ เป็นด ำร ิของ นำยสุทธิพงษ์ จุลเจร ิญ ปลัดกระทรวงมหำดไทย ที่ได้เล็งเห็นถึงควำมรู้ควำมสำมำรถในกำรอุทิศกำยใจปฏิบัติรำชกำรด้วยควำมวิร ิยะอุตสำหะ เพื่อ บ ำบัดทุกข์ บ ำรุงสุขแก่ประชำชนชำวจังหวัดนครศร ีธรรมรำช โดยกำรน้อมน ำหลักปรัชญำของ เศรษฐกิจพอเพียง และหลักกำรทรงงำนของพระบำทสมเด็จพระบรมชนกำธิเบศร มหำภูมิพลอดุลย เดชมหำรำช บรมนำถบพิตร แนวพระรำชด ำร ิของพระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัว “ประเทศชำติมั่นคง ประชำชนมีควำมสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสำนในพระรำชปณิธำน ภำยใต้ปรชัญำของเศรษฐกิจพอเพียง” พระรำชด ำร ิสมเด็จพระกนิษฐำธิรำชเจ้ำ กรมสมเด็จพระเทพรัตนรำชสุดำฯ สยำมบรมรำชกุมำร ี “บ้ำนนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และ “ทำงนี้มีผล ผู้คนรักกัน” และพระด ำร ิสมเด็จพระเจ้ำลูกเธอเจ้ำฟ้ำ สิร ิวัณณวร ีนำร ีรัตนรำชกัญญำ “หมู่บ้ำนยั่งยืน” (Sustainable Village) รวมทั้งเป้ำหมำยกำรพัฒนำ อย่ำงยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ของสหประชำชำติหลัก “บ ำบัดทุกข์ บ ำรุงสุข” ของกระทรวงมหำดไทย และ “Change for good” ของนำยสุทธิพงษ์ จุลเจร ิญ ปลัดกระทรวงมหำดไทยมำใช้ในกำรบร ิหำรรำชกำร เป็นแบบอย่ำงที่ดีส ำหรับข้ำรำชกำรและ ประชำชนทั่วไปได้ศึกษำ และน ำควำมรู้ไปปรับใช้ในกำรท ำงำนและใช้ชีวิต ศูนย์ศึกษำและพัฒนำชุมชนนครศร ีธรรมรำช สถำบันกำรพัฒนำชุมชน กรมกำรพัฒนำชุมชน และส ำนักงำนพัฒนำชุมชนจังหวัดนครศร ีธรรมรำช ในฐำนะคณะจัดท ำสรุป องค์ควำมรู้กำรบร ิหำรรำชกำรของ นำยอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดนครศร ีธรรมรำช มี ควำมรู้สึกยินดี และภูมิใจต่อกำรได้เป็นส่วนหนึ่งในกำรถ่ำยทอดควำมส ำเร็จในกำรบร ิหำรงำน รำชกำร เพื่อเป็นแบบอย่ำงของข้ำรำชกำรผู้ซึ่งเป็นคนท ำงำนของพระรำชำ ในกำรบ ำบัดทุกข์ บ ำรุง สุขในกำลภำยภำคหน้ำต่อไป คณะผู้จัดท ำ ศูนย์ศึกษำและพัฒนำชุมชนนครศร ีธรรมรำช เมษำยน 2566
สารบัญ เรื่อง หน้า ค าน า สารบัญ ส่วนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของจงัหวัดนครศรธีรรมราช..…………………………….………………..1 ส่วนที่ 2 ประวัติผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช...........................................10 ส่วนที่ 3 กิจกรรมและโครงการเด่น.......................................................................14 ส่วนที่ 4 สรุปผล.......................................................................................................34
ส่วนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของจังหวัดนครศร ีธรรมราช ตราประจ าจังหวัด ค าขวัญ นครศร ีธรรมราช เมืองประวัติศาสตร์ พระธาตุทองค า ชื่นฉ่าธรรมชาติ แร่ธาตุอุดม เคร ื่องถมสามกษัตร ิย์ มากวัดมากศิลป์ครบสิ้นกุ้งปู ข้อมูลทั่วไป ชื่ออักษรไทย นครศร ีธรรมราช ชื่ออักษรโรมัน Nakhon Si Thammarat ชื่อไทยอื่นๆ นคร, เมืองคอน ต้นไม้ประจ าจังหวัด แซะ ดอกไม้ประจ าจังหวัด ราชพฤกษ์ ข้อมูลสถิติ ➢ พื้นที่ 9,942.5 ตร.กม. ➢ ประชากร 1,556,903 คน (พ.ศ. 25๖๔) ศูนย์ราชการ ➢ ที่ตั้ง ศาลากลางจังหวัดนครศร ีธรรมราช ถนนราชด าเนิน ต าบลในเมือง อ าเภอเมือง นครศร ีธรรมราช จังหวัดนครศร ีธรรมราช 80000 ➢ โทรศัพท์ (+66) 0 7535 6952 ➢ โทรสาร (+66) 0 7535 6531
ห น ้ า | 2 นครศร ีธรรมราช เป็นเมืองโบราณที่มี ความส าคัญทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง การปกครอง และศาสนามากที่สุดเมืองหนึ่ง ในภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นครศร ีธรรมราชมีชื่อเสียงเป็น ที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง มาไม่น้อยกว่า 1,800 ปี มาแล้ว หลักฐานทางโบราณคดี และหลักฐานทาง เอกสารที่ปรากฏในขณะนี้ยืนยันได้ว่านครศร ีธรรมราช มีก าเนิดมาแล้วตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 7 เป็นอย่างน้อย จากประวัติ ศาสตร์อันยาวนานแห่ง น ค ร ศ ร ีธ ร ร ม ร า ช ส า ม า ร ถ ป ร ะ ม ว ล ไ ด้ ว่ า "นครศร ีธรรมราช" ได้ปรากฏชื่อในที่ต่าง ๆ หลายชื่อตาม ความรู้ความเข้าใจ ที่สืบทอด กันมา และส าเนียงภาษา ของชนชาติต่าง ๆ ที่เคยเดินทางผ่านในระยะเวลาที่ ต่างกัน เช่น ตามพลิงคม ตามพรลิงค์ มัทธาลิงคม ตามพลิงเกศวร โฮลิง โพลิง เชียะโท้ว โลแค็ก (Locae) สิร ิธรรมนคร ศร ีธรรมราช ลิกอร์(Ligor) ละคอน คิวตูตอน สุวรรณปุระ ปาฏลีบุตร (Pataliputra) และเมืองนคร เป็นต้น ค าว่า "นครศร ีธรรมราช" น่าจะมาจากสร้อยพระนามของปฐมกษัตร ิย์ผู้ครองนครศร ีธรรมราช คือ พระเจ้าศร ีธรรมาโศกราช ค านี้ แปลความได้ว่า "นครอันงามสง่าแห่งพระราชาผู้ทรงธรรม" และธรรมของราชา แห่งนครนี้ก็คือ ธรรมแห่งพระพุทธศาสนา ถ้าจะล าดับความเป็นมาของนครศร ีธรรมราชจากหลักฐานโบราณคดี และประวัติศาสตร์ที่สืบค้น ได้ในขณะนี้ พบว่ามีภูมิหลังอันยาวนานนับตั้งแต่ยุคหินกลาง ในราว 8,350 - 11,000 ปีที่ล่วงมา จากหลักฐาน มีการพบเคร ื่องมือหินที่มีตัวขวานยาวใหญ่ (บางคนเร ียกว่าระนาดหิน ) ที่อ าเภอท่าศาลา ในยุคโลหะ ได้พบ หลักฐานทางโบราณคดี คือ กลองมโหระทึกส าร ิด 2 ใบ ที่บ้านเกตุกาย ต าบลท่าเร ือ อ าเภอเมือง และที่คลอง คุดด้วน อ าเภอฉวาง นอกจากนี้ในบร ิเวณพื้นที่อ าเภอสิชลปัจจุบัน ยังมีร่องรอยโบราณสถาน และโบราณวัตถุ เกี่ยวเนื่องในศาสนาพราหมณ์ ซึ่งมีอายุเก่าแก่ที่สุดในนครศร ีธรรมราช เช่น พระพุทธรูปส าร ิด ศิลปะแบบ อมราวดีของอินเดีย และเศียรพระพุทธรูปศิลปะแบบคุปตะอินเดีย เป็นต้น จากหลักฐานเหล่านี้ แสดงให้เห็น ว่าในช่วงนี้นครศร ีธรรมราชได้รับอิทธิพลวัฒนธรรมมาจากอินเดียอย่างมากมาย ทั้งในด้านศาสนา ความเชื่อ อักษร ภาษา ประเพณี และการปกครอง จนกลายเป็นพื้นฐานวัฒนธรรมนครศร ีธรรมราชมาถึงปัจจุบันนี้ พุทธศตวรรษที่ 17 - 19 เป็นช่วงที่นครศร ีธรรมราชมีความเจร ิญรุ่งเร ืองสูงสุด ภายใต้การ ปกครองของราชวงศ์ศร ีธรรมาโศกราช ปัจจัยส าคัญที่ก่อให้เกิดความเจร ิญรุ่งเร ืองน่าจะเนื่องมากจากการเป็น สถานีการค้าส าคัญของคาบสมุทรไทย เป็นจุดพักถ่ายซื้อสินค้าระหว่างตะวันออกกับตะวันตกที่ดีที่สุดในเวลา นั้น ประกอบกับบร ิเวณหาดทรายแก้วอันเป็นศูนย์กลางของชุมชน เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสาร ีร ิกธาตุของ พระพุทธองค์ความศรัทธาและ ความเลื่อมใสในบวรพุทธศาสนาจึงเป็นปัจจัยชักน าให้ผู้คนจากทุกสารทิศ
ห น ้ า | 3 ในภาคใต้เข้ามาตั้งถิ่นฐานในนครศรธีรรมราชอย่างหนาแน่น ในราว พ.ศ. 1700 เศษ ราชวงศ์ศรธีรรมาโศกราช ก็สามารถจัดการปกครองหัวเมืองรายรอบ ได้ส าเร็จถึง 12 เมือง เร ียกว่า เมืองสิบสองนักษัตร คือ 1. เมืองสายบุร ี ตราหนู 2. เมืองปัตตานี ตราวัว 3. เมืองกลันตัน ตราเสือ 4. เมืองปาหัง ตรากระต่าย 5. เมืองไทรบุร ี ตรางูใหญ่ 6. เมืองพัทลุง ตรางูเล็ก 7. เมืองตรัง ตราม้า 8. เมืองชุมพร ตราแพะ 9. เมืองปันทายสมอ(กระบี่) ตราลิง 10. เมืองสระอุเลา (สงขลา) ตราไก่ 11. เมืองตะกั่วป่า ถลาง ตราหมา 12. เมืองกระบุร ี ตราหมู จากหลักฐานต านานเมืองนครศร ีธรรมราช ต านานพระบรมธาตุนครศร ีธรรมราช ตลอดถึง วรรณกรรมเร ื่องพระนิพพานสูตรทุกส านวน ต่างยืนยันให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความรุ่งเร ืองไพศาลของ นครศร ีธรรมราช ในยุคดังกล่าวและสามารถควบคุมหัวเมือง อื่น ๆ ได้ทั่ว ถึงคาบสมุทรมีแสนยานุภาพเกร ียง ไกรถึงขนาดกร ีธาทัพไปตีลังกาถึงสองครั้ง เหนือสิ่งอื่นใดราชวงศ์ศรธีรรมาโศกราช ได้สถาปนาพระพุทธศาสนาลัทธลิ ังกาวงศ์ขึ้นอย่างมั่นคง ในนครศร ีธรรมราช มีการบูรณะพระเจดีย์เดิมให้เป็นทรงระฆังคว่าอันเป็นศิลปะลังกาจนนครศร ีธรรมราช กลายเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรม เป็นเมืองแม่แห่งวัฒนธรรมที่ได้ถ่ายทอดศิลปวัฒนธรรมไปยังหัวเมืองอื่น ๆ รวมทั้งสุโขทัยซงึ่ ในเวลานั้นเพิ่งเรม่ิก่อตัวขึ้นเป็นราชธานีทางภาคเหนือตอนล่างใหม่ๆ ในช่วงแรกของการตั้งกรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี คือสมัยสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก มหาราช ได้แต่งตั้งอุปราช (พัฒน์) บุตรเขยของพระเจ้านครศร ีธรรมราช (หนู) ขึ้นเป็น เจ้าพระยา นครศร ีธรรมราช เจ้าพระยานครนครศร ีธรรมราช (พัฒน์) รับราชการมาจนถึงปลาย รัชสมัยรัชกาลที่ 2 จึงได้ กราบทูลลาออกจากต าแหน่งด้วยเห็นว่าชราภาพมากแล้ว พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยจึงได้โปรด เกล้าฯ แต่งตั้งพระบร ิรักษ์ภูเบศร ผู้ช่วยราชการเมืองนครศร ีธรรมราชเป็นเจ้าเมืองนครศร ีธรรมราช ต่อมา กระท าความดีความชอบในราชการจนได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าพระยานครศร ีธรรมราช คนทั่วไป รู้จักในนาม เจ้าพระยานครน้อย เจ้าพระยานครศร ีธรรมราช (น้อย) ตามหลักฐานทางราชการกล่าวว่า เป็นบุ ต ร เจ้าพระยานครศร ีธรรมราช (พัฒน์) แต่คนทั่วไปทราบกันว่าเป็นโอรสพระเจ้ากรุงธนบุร ี เจ้าพระยานครศร ีธรรมราชผู้นี้มีความสามารถปราบปรามหัวเมืองมลายูได้สงบราบคาบ เป็นนักการทูตที่ส าคัญคนหนึ่ง โดยเฉพาะการเจรจากับอังกฤษในสมัย รัชกาลที่ 2 - 3 ได้ท าให้เมือง นครศร ีธรรมราช มีอิทธิพลต่อหัวเมืองมลายูเป็นที่น่านับถือย าเกรงแก่บร ิษัทอังกฤษซึ่งก าลังแผ่อิทธิพลทาง
ห น ้ า | 4 การค้าขายและทางการเมืองในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้เจ้าพระยานครศร ีธรรมราช (น้อย ) ยังเป็นผู้มีฝีมือในทางช่างหลายอย่าง เช่น ฝีมือในทางการต่อเร ือจนได้รับสมญาว่าเป็น "นาวีสถาปนิก" และ ในสมัยรัชกาลที่ 4 เจ้าพระยา นครศร ีธรรมราช (น้อย) ก็ได้ถวายพระแท่นถมทอง และ พระราชยานถมอีกด้วย ภายหลังที่เจ้าพระยานครศร ีธรรมราช (น้อย ) ถึงแก่อสัญกรรมเจ้าเมืองนครศร ีธรรมราชคนถัดมา คือเจ้าพระยานครศร ีธรรมราช (น้อยกลาง) ผู้บุตรไม่เข้มแข็งเท่าที่ควรเป็นเหตุให้หัวเมืองกระด่างกระเดื่อง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงแก้ไขจัดการปกครองหัวเมืองปักษ์ใต้โดยให้มีการปกครอง เป็นมณฑล นครศร ีธรรมราชจึงเป็นมณฑลหนึ่งของประเทศไทย โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระยาสุขุม นัยวินิต (ปั้ นสุขุม ) เป็นข้าหลวงเทศาภิบาลมณฑลนครศร ีธรรมราช ใน พ.ศ. 2439 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวได้มีการเปลี่ยนแปลง การบร ิหารราชการ แผ่นดินด้านการปกครองหัวเมืองอีกครั้งหนึ่งในรัชกาลนี้ โปรดฯ ให้มีการแต่งตั้งต าแหน่งอุปราชปักษ์ใต้ขึ้น เพื่อปกครองหัวเมืองปักษ์ใต้ทั้งหมด ในการนี้ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งสมเด็จเจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมหลวงลพบุร ีราเมศวร์ด ารงต าแหน่งอุปราชปักษ์ใต้ จนกระทั่งได้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ. 2475 จึงได้ยุบมณฑลนครศร ีธรรมราช ลงเป็นจังหวัดหนึ่งของราชอาณาจักรไทย และด ารงฐานะดังกล่าวเร ื่อยมาจนปัจจุบัน นครศร ีธรรมราชมีประวัติอันยาวนานมากก่อนกรุงสุโขทัย ซึ่งถือว่าเป็นราชธานีแรกของไทย มีความเจร ิญรุ่งเร ืองทางพุทธศาสนา และศาสนาพราหมณ์ ศิลปวัฒนธรรม เช่น ประติมากรรม สถาปัตยกรรม จิตรกรรม ช่างฝีมือพื้นบ้าน การละเล่น และขนบธรรมเนียมประเพณีอันเป็นมรดกทางวัฒนธรรมจึงมีมาก ซึ่งชาวเมืองยังยึดถือปฏิบัติกันอยู่ในปัจจุบัน นครศร ีธรรมราชจึงมีอารยธรรมและศิลปวัฒนธรรมที่เป็น เอกลักษณ์ของชาติบ้านเมืองมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้” ลักษณะภูมิประเทศ ลักษณะภูมิประเทศของจังหวัดนครศร ีธรรมราช แบ่งได้เป็น 3 ส่วน คือ 1. บร ิเวณเทือกเขาตอนกลาง ได้แก่บร ิเวณเทือกเขานครศร ีธรรมราช มีอาณาเขตตั้งแต่ตอนเหนือของจังหวัดลงไปถึง ใต้สุด ได้แก่ อ าเภอสิชล อ าเภอขนอม อ าเภอท่าศาลา อ าเภอเมืองนครศร ีธรรมราช อ าเภอลานสกา อ าเภอ พรหมคีร ี อ าเภอร่อนพิบูลย์ อ าเภอชะอวด อ าเภอจุฬาภรณ์ และอ าเภอพระพรหม ในเขตเทือกเขานี้มีภูเขา สูงสุดในจังหวัด คือ เขาหลวง ซึ่งสูงประมาณ 1,835 เมตร เหนือระดับน้าทะเล 2. บร ิเวณที่ราบชายฝั่ งด้านตะวันออก ได้แก่บร ิเวณเทือกเขาตอนกลางไปทางตะวันออกถึงฝั่ งทะเลอ่าวไทย จ าแนกได้เป็น 2 ตอน คือ ตั้งแต่อ าเภอเมืองนครศร ีธรรมราช ลงไปทางใต้ ที่มีความกว้างจากบร ิเวณเทือกเขาตอนกลางไปถึง ชายฝั่ งทะเลระยะทางประมาณ 95 กิโลเมตร ได้แก่ อ าเภอปากพนัง อ าเภอเชียรใหญ่ อ าเภอหัวไทร และอ าเภอ ชะอวด และอีกบร ิเวณหนึ่ง คือตั้งแต่อ าเภอท่าศาลาขึ้นไปทางทิศเหนือ อ าเภอที่อยู่ในเขตพื้นที่ราบด้านนี้คือ อ าเภอขนอม อ าเภอสิชล อ าเภอท่าศาลา 3. บร ิเวณที่ราบด้านตะวันตก ได้แก่บร ิเวณที่ราบระหว่างเทือกเขานครศร ีธรรมราช และเทือกเขาบรรทัด ซึ่งมีลักษณะ เป็นเนินเขาอยู่เป็นแห่งๆ อ าเภอที่อยู่ที่ราบด้านนี้ คือ อ าเภอพิปูน อ าเภอทุ่งใหญ่ อ าเภอฉวาง อ าเภอนาบอน อ าเภอบางขัน อ าเภอถ้าพรรณรา และอ าเภอทุ่งสง สายน้าส าคัญ ได้แก่ แหล่งต้นน้าของแม่น้าตาปี
ห น ้ า | 5 ลักษณะภูมิอากาศ จังหวัดนครศร ีธรรมราช ตั้งใกล้เส้นศูนย์สูตรมีภูเขาและเป็นคาบสมุทรทั้ง 2 ด้าน คือ ด้านตะวันออกเป็นทะเลจีนใต้ มหาสมุทรแปซิฟิก ด้านตะวันตกเป็นทะเลอันดามันมหาสมุทรอินเดีย ท าให้นครศร ีธรรมราชได้รับอิทธิพลลมมรสุมจากมหาสมุทรอินเดีย และพายุหมุนเขตร้อน จากทะเลจีนใต้ สลับกัน ลักษณะฤดูกาล จังหวัดนครศร ีธรรมราช มี 2 ฤดู คือ 1. ฤดูร้อน อยู่ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ - เมษายน มีอากาศร้อนตลอดฤดูกาล 2. ฤดูฝน แบ่งเป็น 2 ช่วง ได้แก่ 2.1 ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม - ตุลาคม เป็นช่วงที่ได้รับอิทธิพลลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ 2.2 ตั้ งแต่ เดื อ น พ ฤศ จิก า ย น - ม ก รา ค ม เป็ น ช่วงที่ ไ ด้ รับ อิ ทธิพ ล ลม มรสุม ตะวันออกเฉียงเหนือช่วงนี้ฝนตกหนาแน่น ที่ตั้ง ขนาด และอาณาเขต จังหวัดนครศร ีธรรมราช ตั้งอยู่ทางตอนกลางของภาคใต้ ห่างจากกรุงเทพมหานคร 780 กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 9,942,502 ตร.กม หร ือประมาณ 6,2 4,064 ไร่ มีพื้นที่มากเป็น อันดับ 2 ของภาคใต้และเป็นอันดับที่ 16 ของประเทศ หร ือประมาณ ร้อยละ 1.98 ของ พื้นที่ทั้งประเทศ ที่ตั้ง ของตัวจังหวัดตั้งอยู่ประมาณละติจูด 9 องศาเหนือและลองติจูด 100 องศาตะวันออก มีอาณาเขตติดต่อกับ จังหวัดต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ ❖ ทิศเหนือ ติดต่อกับจังหวัดสุราษฎร์ธานี ❖ ทิศใต้ ติดต่อกับ จังหวัดสงขลา จังหวัดพัทลุง จังหวัดตรัง ❖ ทิศตะวันออก ติดต่อกับอ่าวไทยเป็นชายฝังทะเล มีความยาวตั้งแต่ตอนเหนือ ของอ าเภอขนอมลงไปทางใต้ของอ าเภอหัวไทร ประมาณ 225 กิโลเมตร ❖ ทิศตะวันตก ติดต่อกับจังหวัดสุราษฎร์ธานีและจังหวัดกระบี่ ประชากร จังหวัดนครศร ีธรรมราช มีประชากรจ านวน 1,556,903 คน แยกเป็นชาย 770,686 คน หญิง 786,217 คน 559,490 ครัวเร ือน อ าเภอที่มีประชากรมากที่สุด ได้แก่ อ าเภอเมืองนครศร ีธรรมราช จ านวน 271,657 คน 107,338 ครัวเร ือน และอ าเภอที่มีประชากรน้อยที่สุด คือ อ าเภอถ้าพรรณรา จ านวน 19,269 คน 7,168 ครัวเร ือน (ข้อมูล ณ เดือน พฤษภาคม ๒๕๖๔) การปกครอง จังหวัดนครศร ีธรรมราช แบ่งเขตการปกครองตามลักษณะพื้นที่ออกเป็น 23 อ าเภอ 165 ต าบล 1,552 หมู่บ้าน แยกได้ตามตารางข้างล่างนี้ ๑. อ าเภอเมืองนครศร ีธรรมราช ๒. อ าเภอพรหมคีร ี ๓. อ าเภอลานสกา ๔. อ าเภอฉวาง
ห น ้ า | 6 ๕. อ าเภอพิปูน ๖. อ าเภอร่อนพิบูลย์ ๗. อ าเภอสิชล ๘. อ าเภอขนอม ๙. อ าเภอหัวไทร ๑๐. อ าเภอบางขัน ๑๑. อ าเภอเชียรใหญ่ ๑๒. อ าเภอชะอวด ๑๓. อ าเภอท่าศาลา ๑๔. อ าเภอทุ่งสง ๑๕. อ าเภอนาบอน ๑๖. อ าเภอทุ่งใหญ่ ๑๗. อ าเภอปากพนัง ๑๘. อ าเภอถ้าพรรณรา ๑๙. อ าเภอจุฬาภรณ์ ๒๐. อ าเภอพระพรหม ๒๑. อ าเภอนบพิต า ๒๒. อ าเภอช้างกลาง ๒๓. อ าเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครศร ีธรรมราช มีส่วนราชการส่วนภูมิภาค จ านวน 34 ส่วนราชการ และอ าเภอ 23 อ าเภอ ส่วนราชการส่วนกลาง 97 หน่วยงานและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จา นวน 185 แห่ง ประกอบด้วย องค์การบร ิหารส่วนจังหวัด 1 แห่ง เทศบาล 54 แห่ง (แยกเป็นเทศบาลนคร 1 แห่ง เทศบาลเมือง 3 แห่ง และเทศบาลต าบล 50 แห่ง) และองค์การบร ิหารส่วนต าบล 130 แห่ง รายได้ประชากรและผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด รายได้ประชากร เศรษฐกิจโดยทั่วไปของจังหวัดขึ้นอยู่กับผลผลิตทางด้านการเกษตร และการค้า อาชีพหลัก คือการท าสวนยางพารา ปาล์มน้ามัน ท าไร่ การปลูกผลไม้ ท าสวนมะพร้าว การประมง และการเลี้ยงสัตว์ จากการส ารวจของส านักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ปี 2562 ประชากรมีรายได้ เฉลี่ยต่อคนต่อปี เท่ากับ 109,050 บาท ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP) ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP) ปี 2562 เท่ากับ 180,727 ล้านบาท ประชากรรายได้ เฉลี่ยต่อคนต่อปี 119,589 บาท เป็นอันดับที่ 7 ของภาคใต้ เป็นล าดับที่ 37 ของประเทศ รายได้สาขา เกษตรกรรมมูลค่า 47,263 ล้านบาท ปัจจุบัน แม้จังหวัดนครศร ีธรรมราชจะมีฐานะเป็น จังหวัด แต่เป็นจังหวัดที่มีประชากรมาก ที่สุดในภาคใต้และได้ชื่อว่าเป็นเมือง “สองธรรม” คือเป็นศูนย์กลางด้านอารยธรรม และธรรมชาติของภาคใต้มี
ห น ้ า | 7 ธรรมชาติทั้ง เขา ป่า นา เล ที่อุดมสมบูรณ์มากเพราะมีเทือกเขาหลวงพาดผ่านเป็นแนวยาวในพื้นที่ด้านทิศ ตะวันตก กว่า 200 กิโลเมตร ส่วนด้านทิศตะวันออกจดทะเลอ่าวไทย เป็นแนวยาวกว่า 156 กิโลเมตร ยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด 1. เป้าหมายการพัฒนาจังหวัด (วิสัยทัศน์) “นครแห่งอารยธรรม น่าอยู่น่าเที่ยว การเกษตรและอุตสาหกรรมยั่งยืน” ค าจากเป้าหมายการพัฒนา หมายถึง นครแห่งอารยธรรม นครศร ีธรรมราช เมืองที่มีความหลากหลายทางศาสนา พหุวัฒนธรรม พลเมืองอยู่ร่วมกันอย่างเอื้ออาทร มีสถาบันการเร ียนรู้ทั้งในและนอก ระบบเป็นแหล่งบ่มเพาะบุคคล มีประเพณี ศิลปะ และวัฒนธรรมที่สืบ ทอดอย่างยาวนาน น่าอยู่น่าเที่ยว เมืองที่ปลอดภัยจากอาชญากรรม อุบัติภัย ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ชุมชนเข้มแข็ง เป็นที่อยู่อาศัยชั้นดี และประชาชนมีความสุข มีสุขภาพ อนามัยดี ชุมชนมีความมั่นคงทางอาหารสูง เป็นเมืองอาหารปลอดภัย เมืองสีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เมืองพลังงานสะอาด เมืองที่มี การจดัการทรพัยากรธรรมชาติน ้ า การบรหิารจดัการสิ่งแวดล้อมอย่าง ยั่งยืน เมืองที่มีระบบสาธารณูปโภค ระบบคมนาคมที่เชื่อมโยงทั้งทาง บก ทางราง ทางน้า ทางอากาศอย่างครบวงจร ระบบโลจิสติกส์ ได้มาตรฐาน ประชาชน มีความเป็นเจ้าบ้านที่ดี และเป็นคนมีอัธยาศัย ไมตร ีที่ดี เป็นเมืองแห่งท่องเที่ยวที่อบอุ่น การเกษตรและอุตสาหกรรมยั่งยืน นครศร ีธรรมราชมีฐานเศรษฐกิจเข้มแข็งจากภายในจังหวัด เป็นแหล่ง การผลิตทางการเกษตรที่มีความสมดุลของระบบนิเวศ และ สภาพแวดล้อม มุ่งเน้นการผลิตที่มีคุณภาพ ปลอดภัย มีมาตรฐาน และ เพิ่มมูลค่า ตรงตามความต้องการของผู้บรโิภค และน านวัตกรรม เทคโนโลยีอันทันสมัยมาประยุกต์ใช้ ส่งผลให้เกษตรกร ประชาชนชาว จังหวัดนครศร ีธรรมราช มีงาน อาชีพ รายได้ การบร ิหารจัดการด้าน โครงสร้างพื้นฐานการผลิตทางการเกษตรที่มีประสิทธิภาพสูงสุดใน เร ื่อง ดิน น้า และระบบชลประทาน รวมทั้งการจัดสรรที่ดินท ากิน เป็นเมืองที่เน้นการจัดการด้านการส่งเสร ิมการผลิตพืช สัตว์ ประมง การพัฒนาศักยภาพเกษตรกรสู่ Smart Farmer การพัฒนาองค์กร เกษตรกร ให้เข้มแข็งการบร ิหารจัดการฟาร์มสู่ Smart Farm ระบบ การวางแผนการผลิต เพื่อการสร้างมูลค่าผ่านการแปรรูปและ การพัฒนาตลาดสินค้าเกษตร ที่มีความยั่งยืนและเชื่อมโยงเคร ือข่าย ด้านการตลาดทั้งภายในและภายนอกประเทศ มีการแปรรูปเพิ่มคุณค่า มูลค่าสินค้าเกษตรสร้างผลตอบแทนเชิงเศรษฐกิจ และการประยุกต์ใช้
ห น ้ า | 8 ค าจากเป้าหมายการพัฒนา หมายถึง นวัตกรรมด้านการเกษตรคู่ขนานภูมิปัญญาท้องถิ่น เศรษฐกิจเติบโต จากการท่องเที่ยว เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ นิเวศน์ป่าเขา และทางทะเล และการท่องเที่ยวทางพุทธศาสนา เศรษฐกิจจากฐานการค้า การลงทุน การบร ิการ และอุตสาหกรรม ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่เติบโต และแข่งขันได้ 2. พันธกิจ 2.1 เพิ่มขีดความสามารถการบรหิารจดัการภาคเกษตร เชื่อมโยงความหลากหลายทางธุรกิจและ อุตสาหกรรมของจังหวัด บนพื้นฐานการสนับสนุนจากระบบโลจิสติกส์และบร ิหารจัดการด้านการตลาด 2.2 พัฒนาการท่องเที่ยวให้มีคุณภาพ เติบโตอย่างเข้มแข็งมั่นคงบนพื้นฐานการจัดการความ หลากหลายของทรัพยากร 2.3 เพิ่มขีดความสามารถการบรหิารจดัการทรพัยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมและพลังงาน 2.4 ยกระดับความสามารถการเร ียนรู้ กระจายการเร ียนรู้บนเคร ือข่ายชุมชนและส่งเสร ิมการ สร้างชุมชนต้นแบความพอเพียง 2.5 พัฒนาคน องค์กร ระบบสวัสดิการสังคม และความมั่นคงบนพื้นฐานการบร ิหารกิจการ บ้านเมืองที่ดี 2.6 พัฒนาส่งเสร ิมสนับสนุนศิลปะ ประเพณี และวัฒนธรรม 3. จุดยืนการพัฒนาของจังหวัดของจังหวัด จากข้อมูลการวิเคราะห์ศักยภาพของจังหวัด และก าหนดทิศทางการพัฒนายุทธศาสตร์ใน ภาพรวมของจังหวัดนครศร ีธรรมราช ได้ก าหนดจุดยืนการพัฒนาของจังหวัด 3 ประเด็น ดังนี้ 3.1 เมืองสืบสานศิลปวัฒนธรรม สงบสุข น่าเที่ยว 3.2 เมืองเกษตรนวัตกรรม และอุตสาหกรรมสีเขียว 3.3 ศูนย์กลางการคมนาคมขนส่ง และกระจายสินค้าของภาคใต้ 4. วัตถุประสงค์ของเป้าหมายการพัฒนา 4.1 เพิ่มรายได้จากการเกษตรสรา้งมูลค่าเพิ่มผลผลิต และอุตสาหกรรมโดยควบคู่กับการ ยกระดับมาตรฐานคุณภาพ 4.2 เพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว 4.3 ทรพัยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้รบัการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน 4.4 ชุมชนเข้มแข็งตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 4.5 ศาสนา ประเพณี ศิลปะ และวัฒนธรรมมีการสืบสานอย่างต่อเนื่อง 5. ประเด็นการพัฒนาของจังหวัด 5.1 การบร ิหารจัดการเกษตรและอุตสาหกรรมสู่มาตรฐานครบวงจรและเป็นมิตรกับ สิ่งแวดล้อม ๕.๒ การพัฒนาการท่องเที่ยวบนพื้นฐานธรรมะ ธรรมชาติ ศิลปะ และวัฒนธรรม
ห น ้ า | 9 ๕.๓ การบรหิารจดัการทรพัยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ๕.๔ การพัฒนาคน ชุมชน สังคมให้น่าอยู่ และเข้มแข็งตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๕.๕ การรักษาความมั่นคงและความสงบเร ียบร้อย ๕.๖ การส่งเสร ิมศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม
ห น ้ า | 10 ส่วนที่ 2 ประวัติผู้ว่าราชการจังหวัดนครศร ีธรรมราช ชื่อ – สกุล : นายอภินันท์ เผือกผ่อง วันเดือนปีเกิด : เกิดวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2506 ภูมิล าเนา : อ าเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี การศึกษา : ❖ ปร ิญญาตร ีรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามค าแหง และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมมาธิราช ❖ ปร ิญญาโท รัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบร ิหารศาสตร์ การฝึกอบรม : ❖ นายอ าเภอรุ่นที่ 46 (พ.ศ. 2543) ❖ นักปกครองระดับสูง รุ่น 52 (พ.ศ. 2550) ❖ ฝ่ายอ านวยการ กองอาสารักษาดินแดน รุ่น 17 (พ.ศ. 2552) ❖ ผู้น าการบร ิหารการเปลี่ยนแปลง รุ่น 4 (พ.ศ. 2561) ❖ วปอ. 61 (พ.ศ. 2561) ❖ จิตอาสา 904 หลักสูตรหลักประจ า รุ่น 4/62 (พ.ศ. 2562) การรับราชการ : ❖ ปลัดอ าเภอ อ าเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล (พ.ศ. 2531) ❖ บุคลากร กองการเจ้าหน้าที่ กรมการปกครอง (พ.ศ. 2533 - 2535) ❖ ผู้ช่วยจ่าจังหวัดสุราษฎร์ธานี(พ.ศ. 2536 - 2539) ❖ ปลัดอ าเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง อ าเภอพระพรหม จังหวัดนครศร ีธรรมราช (พ.ศ. 2540) ❖ ผู้ช่วยจ่าจังหวัดนครศร ีธรรมราช (พ.ศ. 2541) ❖ ปลัดอาวุโส อ าเภอพรหมคีร ี (พ.ศ. 2543) ❖ ปลัดอาวุโสอ าเภอท่าศาลา (พ.ศ. 2544) ❖ ปลัดอาวุโสอ าเภอทุ่งสง (พ.ศ. 2545) ❖ หัวหน้ากิ่งอ าเภอชา้งกลาง (พ.ศ. 2546) ❖ หัวหน้ากลุ่มปกครองจังหวัดสงขลา (พ.ศ. 2547) ❖ นายอ าเภอเชียรใหญ่ (พ.ศ. 2548) ❖ นายอ าเภอบางขัน (พ.ศ. 2549) ❖ นายอ าเภอลานสกา (พ.ศ. 2550) ❖ นายอ าเภอพุทไธสง (พ.ศ. 2555) ❖ นายอ าเภอพยัคฆภูมิพิสัย (พ.ศ. 2556) ❖ นายอ าเภอบางบัวทอง (พ.ศ. 2557) ❖ ปลัดจังหวัดพระนครศร ีอยุธยา (พ.ศ. 2558) ❖ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่(พ.ศ. 2559) ❖ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม (พ.ศ. 2561)
ห น ้ า | 11 ❖ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา (พ.ศ. 2562) ❖ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม (พ.ศ. 2564) ❖ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย (พ.ศ. 2565) ❖ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศร ีธรรมราช (พ.ศ. ๒๕๖๕) เคร ื่องราชย์อิสร ิยาภรณ์ : ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.) รางวัล ดีเด่น : ❖ ข้าราชการพลเร ือนดีเด่น พ.ศ. 2536 และ 2548 รับครุฑทองค า จากนายกรัฐมนตร ี ❖ ผู้มีผลงานด้านยาเสพติดดีเด่น พ.ศ. 2557 รับโล่จากนายกรัฐมนตร ี นายอภินันท์เผือกผ่อง ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งโยกย้าย จากผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทยให้มาด ารงต าแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดจังหวัดนครศร ีธรรมราช เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน 1. หลักความคิดในการท างาน 1.1 เทิดทูนสถาบันหลักของชาติคือสถาบันชาติศาสนา พระมหากษัตร ิย์ เมื่อมีการประชุม สัมมนา หรอืรวมตัวกันเกิน 30 คน ก่อนเรม่ิกิจกรรมจะให้ทุกคนร่วมร้องเพลงชาติสวดมนต์ไหว้พระ และร้อง เพลงสรรเสร ิญพระบารมีก่อนด าเนินกิจกรรมทุกครั้ง รวมทั้งมีการสอดแทรกการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับ สถาบันพระมหากษัตรยิ์และประวัติศาสตรพ์ ื้นถิ่น 1.2 น้อมน าแนวพระราชด าร ิหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และหลักการทรงงานของใน หลวงรัชกาลที่ 9 และแนวพระราชด าร ิในหลวงรัชกาลที่ 10 “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขใน สิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรชัญาของเศรษฐกิจพอเพียง” พระราชด ารสิมเด็จพระกนิษฐาธริาช เจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมาร ี“บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และ “ทางนี้มีผล ผู้คน รักกัน” และพระด าร ิสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิร ิวัณณวร ีนาร ีรัตนราชกัญญา “หมู่บ้านยั่งยืน” (Sustainable Village) รวมทั้งเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ของสหประชาชาติหลัก “บ าบัดทุกข์บ ารุงสุข” ของกระทรวงมหาดไทย และ “Change for good” ของ นายสุทธิพงษ์ จุลเจร ิญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นต้น 1.3 มองประชาชนเสมือนเป็นญาติพี่น้องของตนเอง ท างานติดดิน ลงพื้นที่เยี่ยมเยียน ประชาชนและประสานการท างานกับภาคีทุกกลุ่มในพื้นที่แบบเชิงรุกทุกวัน
ห น ้ า | 12 ๒. กรอบแนวทางการปฏิบัติราชการ ๒.๑ “ท าทันที” นายอภินันท์ เผือกผ่อง เดินทางมารับต าแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครศร ีธรรมราช เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2565 (วันเสาร์) ตอนเช้ามีพี่น้องชาว นครศร ีธรรมราชกว่า 2,500 คนมารอต้อนรับในการกล่าว พบปะประชาชนผู้มาต้อนรบัได้กล่าวสิ่งที่ส าคัญไว้2 ส่วน คือ วิสัยทัศน์ในการพัฒนาจังหวัดให้“เป็นเมือง น่าอยู่ น่าเที่ยว และ น่าลงทุน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและเพื่อประโยชน์สุข ของพี่น้องประชาชน” และ ส่วนที่สอง คือ จะท างาน “ทั้ง 365 วัน” โดยไม่มีวันหยุด ซึ่งเป็นเวลา 1 ปีของอายุราชการที่เหลืออยู่ และในภาคบ่ายของวันที่ 1 ตุลาคม 2565 ได้ เดินทางลงพื้นที่ปฏิบัติงานทันทีที่ชุมชนคีร ีวง อ าเภอลานสกา เพื่อเยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชนกลุ่มโอทอป (OTOP) วันที่ 2 ตุลาคม 2565 (วันอาทิตย์) ลงพื้นที่เยี่ยมเยียน โคก หนอง นา โมเดลที่อ าเภอเมือง นครศร ีธรรมราช และอ าเภอทุ่งสง และวันที่ 3 ตุลาคม 2565 ภาคเช้าประชุม คณะกรมการจังหวัด และ 7 ภาคีเคร ือข่ายเพื่อจัดท าแนวทางการพัฒนาจังหวัดร่วมกันทันที ๒.๒ ท างานแบบ “ต้องรองเท้าสึก ก่อนกางเกงขาด” ตามพระโอวาทของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาด ารงราชานุภาพ องค์ปฐมเสนาบดีของกระทรวงมหาดไทย คือออกท างานเยี่ยมเยียนพื้นที่ทุกวัน วันละหลายกิจกรรมในหลายพื้นที่ จังหวัดนครศร ีธรรมราชมี 23 อ าเภอได้เดินทางออกมอบแนวทาง การปฏิบัติงานแก่ 7 ภาคีเคร ือข่ายของทั้ง 23 อ าเภอครบ เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 และออกพื้นที่ เยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชน ทุกวัน ๆ และหลายกิจกรรม ไม่เว้นยามค่าคืน เสาร์– อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ นอกเวลาราชการ ส่วนการเซ็นงานส่วนใหญ่จะน ามาเซ็นตอนค่าที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัด
ห น ้ า | 13 ๒.๓ ใช้จวนผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นสถานที่ปฏิบัติ ราชการนอกเวลาราชการ เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามา ใช้บร ิการได้ตั้งแต่เช้ามืดยันดึก มาดื่มกาแฟ รับประทาน อาหารพูดจาหาร ือปรับทุกข์ร้องทุกข์ได้ตลอดเวลา บางวันมีกลุ่มต่าง ๆ และประชาชนมาเยี่ยมเยียน ตั้งแต่ เวลา 07.00 – 23.00 น. และมีการมาร่วมท า โคก หนอง นา โมเดล ในพื้นที่ 200 ตารางวาหลังจวน ซึ่งท าส าเร็จ แล้วได้ผลผลิตมีผู้มาศึกษาดูงานแล้วหลายพันคน น าผลผลิตมาแบ่งปันเพื่อนข้าราชการไปรับประทาน และ เหลือบางส่วนน าไปวางจ าหน่ายในห้างสรรพสินค้า เช่น ร้านโกล์เด้นสยาม เป็นต้น
ห น ้ า | 14 ส่วนที่ 3 กิจกรรมและโครงการเด่น กิจกรรมและโครงการเด่น ๓.๑ ศูนย์เร ียนรู้ @ จวนผู้ว่า โคก หนอง นา โมเดล นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศร ีธรรมราช ได้ปรับพื้นที่ว่างเปล่าที่ขาด ความอุดมสมบูรณ์โดยการใช้แรงงานคนมาร่วมเอามื้อเอาแรงและพัฒนาดินด้วยปุ๋ยหมักและมูลสัตว์จนเกิด ความอุดมสมบูรณ์มีการปลูกผักและพืชสมุนไพรกว่า 40 ชนิดเลี้ยงไก่ 10 ตัว เลี้ยงปลา 3 ชนิดได้แก่ ปลาหมอ ในนาข้าว ปลาชะโอน ปลานิลในหนองน้า มีการเกี่ยวข้าวด้วยระบบธรรมชาติการสีข้าว ปัจจุบันได้ปลูกข้าวเป็น รุ่นที่ 2 โดยมีกลุ่มต่าง ๆ อาทินักเร ียน นักศึกษา มาศึกษาดูงาน ไม่น้อยกว่า 1,000 คน ซึ่ง “โครงการศูนย์ เร ียนรู้ @ จวนผู้ว่า โคก หนอง นา โมเดล” เกี่ยวข้องกับ SDGs เป้าหมายที่ 2 เร ื่อง ยุติความหิวโหย บรรลุ มั่นคงทางอาหาร และยกระดับโภชนาการและส่งเสร ิมเกษตรกรรมที่ยั่งยืน ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีเป้าหมายการพัฒนาประเทศคือ “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข เศรษฐกิจพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สังคมเป็นธรรม ฐานทรัพยากรธรรมชาติยั่งยืน” โดยมีแผนปฏิบัติราชการ การพัฒนาทักษะและขีดความสามารถของผู้น าชุมชนในการเป็น ผู้น าการเปลี่ยนแปลง (Change Agent) และมีทักษะในด้านการบร ิหารจัดการเคร ือข่ายให้มีสมรรถนะสูง ส่งเสร ิมให้ชุมชนสามารถบร ิหารจัดการทุนชุมชนให้เกิดคุณค่า และมูลค่าทางเศรษฐกิจจากฐานทรัพยากร วิถีชีวิตและอัตลักษณ์ของชุมชน ในการสร้างงาน สร้างอาชีพและรายได้แก่ชุมชน เพื่อให้เศรษฐกิจชุมชนมีความ เข้มแข็งและเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ได้น้อมน าหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงลงสู่การปฏิบัติอย่างเป็น ขั้นตอนตามกลไกลการขับเคลื่อนสืบสานศาสตร์พระราชาเพื่อการปฏิรูปประเทศ ด้วยการจัดท าโครงการที่ ประยุกต์กับแนวคิดการพัฒนาพื้นที่และการออกแบบเชิงภูมิสังคมไทยเพื่อการพึ่งตนเองและรองรับภัยพิบัติใน รูปแบบ “โคก หนอง นา โมเดล” สร้างการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้เหมาะสมกับหมู่บ้านในภูมิสังคมต่าง ๆ เพื่อสร้างงานสร้างรายได้ให้กับครัวเร ือนและชุมชนในระดับพื้นฐาน
ห น ้ า | 15 ศูนย์เร ียนรู้ @ จวนผู้ว่า โคก หนอง นา โมเดล ในจวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครศร ีธรรมราชเป็น การส่งเสร ิมการเร ียนรู้การน้อมน าปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงประยุกต์สู่การปฏิบัติ โดยให้ความส าคัญกับการ บร ิหารจัดการดิน น้า อาหาร และพลังงานสมดุลและยั่งยืน ใช้การบร ิหารจัดการพื้นที่ตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” อย่างเป็นขั้นตอน ให้ผู้สนใจสามารถน าความรู้ที่ได้ไปพัฒนา และออกแบบพื้นที่ หาแหล่งน้า หร ือปรับปรุงพื้นที่รองรับน้าฝน เพื่อน าน้านั้นมาใช้ในการฟื้ นฟูและปรับปรุงคุณภาพของดิน เพื่อสร้างความหลากหลายทางชีวภาพ ในทรัพยากรดิน ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับภูมิสังคม สอดคล้อง กับเป้าหมายของวันดินโลก ที่สามารถตอบสนอง และกระตุ้นให้เกิดการรณรงค์ เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับดิน สร้างความตระหนักถึงความส าคัญของดินอย่างต่อเนื่องจร ิงจังในทุกระดับ ขั้นตอนการด าเนินการ/ขั้นตอนการพัฒนา 1) สร้างและออกแบบพื้นที่โดยศูนย์กสิกรรมธรรมชาติทุ่งสงและเคร ือข่าย 2) ด าเนินการขุดปรับพื้นที่ตามแบบ ระหว่างวันที่ ๒2 – ๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๕ โดยใช้พลังของ จิตอาสาจากพื้นที่โซน (เขา ป่า นา เล) โซนละ ๑ วัน ๆ ละ ๕๐ คน ในรูปแบบเอามื้อสามัคคีโดยไม่ใช้เคร ื่องจักร ในการขุดปรับพื้นที่ 3) การด าเนินการปรับภูมิทัศน์และ งานปลูกพืช – ผัก ในแปลง ระหว่างวัน ที่ ๑ – ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ 4) การพัฒนาพัฒนาเป็นศูนย์เร ียนรู้ @ จวนผู้ว่า โคก หนอง นา โมเดล
ห น ้ า | 16 ผลการด าเนินงาน/ผลสัมฤทธขิ์องงาน 1) สร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร ได้แก่ พืช ผัก ปลา นา ข้าว 2) สรา้งความมั่นคงทางสิ่งแวดล้อม ชว่ยลดปรมิาณขยะที่เป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม 3) ส่งเสร ิมการคัดแยกขยะ น าขยะมา recycle สร้างสมดุลในพื้นที่แปลง 4) สร้างภูมิคุ้มกันทางสังคมเกิดเป็นศูนย์เร ียนรู้ขนาดพื้นที่ ๓๕ x ๓๐ เมตร (๑,๐๕๐ ตร.ม.) ตามหลักเกษตรทฤษฎีใหม่ โคก หนอง นา โมเดล เพื่อให้คนในพื้นที่ชุมชนเมืองเข้ามาศึกษาเร ียนรู้โดยจะมีการ เปิดศูนย์เร ียนรู้ฯ ทุกวันที่ ๑๐,๒๐,๓๐ ของเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๕ – มกราคม ๒๕๖๖ วันละประมาณ ๒๐ คน โดยมี “ครูพาท า” เป็นวิทยากรให้บร ิการในการให้ความรู้ ประโยชน์ที่ประชาชนได้รับ/ จังหวัดได้รับทั้งเชิงปร ิมาณ/ตัวเลข และเชิงคุณภาพ เชิงปร ิมาณ 1) มีสถานที่เร ียนรู้พื้นที่ชุมชนเมือง ให้ประชาชนเข้ามาศึกษา และน าไปต่อยอดได้ประมาณ ๑๘๐ คน เชิงคุณภาพ 1) เกิดพื้นที่เร ียนรู้ชุมชนต้นแบบ ระดับครัวเร ือน ที่สามารถเป็นต้นแบบในการเร ียนรู้ 2) เกิดแกนน าการพัฒนาสามารถฝึกอบรมและถ่ายทอดความรู้ได้โดยครูพาท า 3) กลุ่มเป้าหมายที่เข้ารว่มโครงการมีรายได้เฉลี่ยเพิ่มขึ้น
ห น ้ า | 17 ดร.กณพ เกตุชาติ นายกเทศมนตร ี น ค รน ค รศ ร ีธรรม รา ช ก ล่ า วว่ า เทศ บ า ล น ค ร นครศร ีธรรมราชมีพื้นที่ว่างในบร ิเวณทุ่งท่าลาด และ พร้อมด าเนินการขุดแปลง โคก หนอง นา เป็นแปลง เร ียนรู้ในเขตเทศบาล ในพื้นที่ 200 ตาราวา จะมีการ เอามื้อสามัคคีขุดดินโดยใช้แรงงานคน ไม่ใช้ เคร ื่องจักรกล จึงน าคณะผู้น าชุมชนมาดูต้นแบบตาม แนวทางและรูปแบบที่ท่านผู้ว่าอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศร ีธรรมราช ขุดในจวน ณ แปลงโคก หนอง นา @ จวนผู้ว่าเมืองนคร โดยภายใต้โครงการส่งเสร ิมการเร ียนรู้การน้อมน าหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อน ามาปรับใช้ในรูปแบบของ โคก หนอง นา โมเดล เป็นแหล่งเร ียนรู้นอกสถานที่ของ นักเร ียน สามารถปลูกพืชต่าง ๆ ไว้ในพื้นที่ ผสมผสานเกษตรทฤษฎีใหม่ เข้ากับภูมิปัญญาพื้นบ้านที่อยู่อย่าง สอดคล้องกับธรรมชาติในพื้นที่นั้น ๆ ของเทศบาลนครนครศร ีธรรมราชโดยมีดาบต ารวจนิรันดร์ พิมล ที่ปร ึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดนครศร ีธรรมราช ด้านโครงการอันเนื่องมาจากพระราชด าร ิและเศรษฐกิจพอเพียง และครูพาท าของเคร ือข่ายกสิกรรมธรรมชาติได้ออกแบบและวางผัง โคก หนอง นา โมเดล ณ โคก หนอง นา โมเดล เทศบาลนครนครศร ีธรรมราช (สวนสมเด็จพระศร ีนคร ินทร์ 84, ทุ่งท่าลาด) พื้นที่ขนาด 1 ไร่ โดยมีการ จัดกิจกรรมเอามื้อสามัคคีพร้อมด้วย สมาชิกสภาเทศบาล หัวหน้าส่วนราชการ เคร ือข่ายชุมชนในเขตเทศบาล เคร ือข่ายจิตอาสาพระราชทานนครศร ีธรรมราช (ภาค 4 รุ่นที่ 2/66) และเจ้าหน้าที่กองสวัสดิการสังคม ภายใต้ โครงการส่งเสร ิมการเร ียนรู้การน้อมน าหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อน ามาปรับใช้ในรูปแบบของ โคก หนอง นา โมเดล ให้เป็นแหล่งเร ียนรู้ของจังหวัดนครศร ีธรรมราช ดาบต ารวจนิรันดร์พิมล ที่ปร ึกษาผู้ว่าราชการ จังหวัดนครศร ีธรรมราช ด้านโครงการอันเนื่องมาจาก พระราชด าร ิและเศรษฐกิจพอเพียง ได้เปิดเผยว่า การได้รับ โอกาสเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของคณะท างานขับเคลื่อนเพื่อให้ เกิดพื้นที่เร ียนรู้“โคก หนอง นา โมเดล” ในจวนผู้ว่าถือว่า เป็นเกียรติอย่างยิ่ง เนื่องจากศูนย์กสิกรรมธรรมชาติทุ่งสง ซึ่งเป็นศูนย์ฝึกอบรมให้แก่เกษตรกรและกลุ่มผู้สนใจ ด าเนินการฝึกอบรมและด าเนินงานเพื่อขยายผลองค์ความรู้ ศาสตร์พระราชาและหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงให้กับประชาชนทั่วไป ดังนั้นถือว่าการขับเคลื่อน โคก หนอง นาโมเดลในจวนผู้ว่าในพื้นที่บ้านของพ่อเมืองนครศร ีธรรมราช แสดงให้เห็นว่าพ่อเมืองของเรา ตระหนัก ตื่นตัว และเล็งเห็นว่าศาสตร์พระราชา เป็นแนวทาง ทางรอด และที่พึ่งให้แก่ปวงชนชาวไทย เมืองนครศร ีธรรมราชเป็นเมืองแห่งการเร ียนรู้เป็นเมืองที่มีวัฒนธรรมและมีความศร ีวิไลตั้งแต่ในอดีตจนถึง ปัจจุบัน ฉะนั้นการท าพื้นที่เร ียนรู้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจวนผู้ว่า เป็นการประกาศค าสอนของพ่อหลวงให้จาร ึก ไว้บนแผ่นดินของชาวนครศร ีธรรมราช
ห น ้ า | 18 นายกิตติพงษ์ รองเดช นายอ าเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศร ีธรรมราช เปิดเผยว่า ท่านได้เข้าไป มีส่วนร่วม การด าเนินงาน ศูนย์เร ียนรู้ @ จวนผู้ว่า โคก หนอง นา โมเดล ตั้งแต่เรม่ิการวางแผน วางผัง วางคน วางงาน และได้น าพี่น้อง เกษตรกรชาวอ าเภอเชียรใหญ่ไปร่วมด าเนินการด้วยผ่าน กิจกรรมเอามื้อสามัคคี ในการขุดหนอง ท าโคก ท าคันนา ปลูก ต้นไม้ตามพื้นที่ ที่มีการออกแบบตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์ สู่ โคก หนอง นา โมเดล ผลจากการน าพี่น้องเกษตรกรชาว อ าเภอเชียรใหญ่ไปร่วมด าเนินการผ่านกิจกรรมเอามื้อสามัคคี ณ ศูนย์เร ียนรู้ฯ จวนผู้ว่าราชการจังหวัด นครศร ีธรรมราช พี่น้องประชาชนได้ซึมซับ วิธีการด าเนินการออกแบบ การขุด โคก หนอง นา โมเดล ท าไปด้วย เร ียนรู้ไปด้วยเกิดการขยายผลไปสู่ผู้น าท้องที่ท้องถิ่น และประชาชน เพื่อท าให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่มี คุณภาพชีวิตที่ดีโดยท างานร่วมกับทางส านักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครศร ีธรรมราช ซึ่งน าทีมโดยนายจตุพล ศร ีด า พัฒนาการจังหวัดนครศร ีธรรมราช ซึ่งนายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศร ีธรรมราช และ นางพิชานันท์ เผือกผ่อง ประธานแม่บ้านมหาดไทย ได้น้อมน าหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาด าเนินการ โดยใช้หลักคิดไว ท าไว ผู้น าต้องท าก่อน ท่านเลยท า โคก หนอง โมเดล ในพื้นที่จวนผู้ว่าฯ ให้เป็นพื้นที่ต้นแบบ ให้เกิดการขยายผลไปสู่ผู้น าท้องที่ท้องถิ่น และประชาชนให้เกิดความส าเร็จเห็นผลเป็นรูปธรรมต่อไป นายกิตติพงษ์ รองเดช นายอ าเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศร ีธรรมราช ได้กล่าวว่า “การขยาย ผลการขับเคลื่อนงานในการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ โคก หนอง นา โมเดล ไปสู่ผู้น าท้องที่ท้องถิ่น และประชาชน เพื่อท าให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่มีคุณภาพชวีติ ที่ดีผมได้น าหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปท าที่บ้านพักของผม เช่น การปลูกผัก การเพาะเห็ด เลี้ยงปลา ปลูกพืชสมุนไพร ฯลฯ ซึ่งผมปลูกผักมากกว่า 30 ชนิด เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับพี่น้องประชาชน และได้น า ผลผลิตไปให้สมาชิกอาสารักษาดินแดน แจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชน โดยเน้นหลักแนวคิดผู้น าต้องท าก่อน สร้างความส าเร็จ สร้างความยั่งยืนโดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ได้จัดท าโครงการผู้น าต้องท าก่อน โดยให้ก านัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจ าต าบล ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรก านันท าในเร ื่องหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงที่บ้านของตนเองและจัดให้มีการประกวด หลังจากนั้นให้ขยายผลลงสู่พี่น้องประชาชน ทุกครัวเร ือน ทุกคน และขับเคลื่อนหนึ่งต าบล หนึ่งหมู่บ้านยั่งยืน (sustainable village) ซึ่งอ าเภอเชียรใหญ่มี
ห น ้ า | 19 10 หมู่บ้าน โดยให้ทุกหมู่บ้านได้น้อมน าหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้โดยให้ทุกหมู่บ้าน มีโครงการหลัก คือโครงการบ้านนี้มีรักปลูกผักกินเอง และโครงการทางนี้มีผลผู้คนรักกัน ในหมู่บ้านสนับสนุน ให้มีกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต มีชุด ชรบ. เป็นต้น และที่ส าคัญคนในหมู่บ้านต้องรู้รักสามัคคี และผมตั้งมั่น ว่าจะขับเคลื่อนงานอย่างเต็มก าลังความสามารถและจะใช้ 7 ภาคีเคร ือข่ายเข้ามาร่วมขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย เดียวกันรวมถึงการประชาสัมพันธ์ผลการด าเนินงานในการน าหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ ในชีวิตประจ าวัน ซึ่งทั้งหมดนี้คือหลักแนวคิด หลักการขับเคลื่อนฯ การสร้างความยั่งยืนให้กับหมู่บ้าน ให้กับ ชุมชน ของอ าเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศร ีธรรมราช ที่ได้ขยายต่อแนวทางศูนย์เร ียนรู้@ จวนผู้ว่า โคก หนอง นา โมเดล ของท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครศร ีธรรมราชครับ” นายประสิทธิ์สุวรรณา ผู้อ านวยการวิทยาลัย เกษตรและเทคโนโลยีนครศร ีธรรมราช กล่าวว่าตามที่นาย อภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศร ีธรรมราช ทดลองใช้ที่ดินบร ิเวณหลังจวน ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ ๒๕๐ ตารางวา ท าโคก หนอง นาเล็ก ๆ โดยมีกลุ่มชุมชนต่าง ๆ มา ช่วยกันท า โดยปลูกพืชผักหลากหลายชนิด ปลูกผลไม้ ปลูก พืชสมุนไพร ปลูกไม้เศรษฐกิจ ปลูกข้าว เลี้ยงไก่ และเลี้ยง ปลา ใชร้ะยะเวลาประมาณ ๓ เดือน ขณะนี้เรม่ิมีผลผลิตแล้ว ไก่ไข่วันละ ๑๐ ฟอง ข้าวออกรวง ก าลังจะเก็บเกี่ยว ได้รับประทานผักปลอดสารพิษไปหลายมื้อแล้ว จากค ากล่าวที่ว่า “ผู้น าต้องท าก่อน” เป็นการท าให้เห็นเพื่อเป็น แบบอย่างให้ชาวนครศร ีธรรมราชได้เห็นว่า โครงการที่เกิดขึ้นนี้ สามารถท าได้จร ิง เพราะพืชผักสมุนไพรที่ปลูก พันธุ์ปลา ไก่ ที่เลี้ยง ใช้ทานกันอยู่ทุกบ้าน ซึ่งสามารถดูแลและเลี้ยงดูได้ง่าย เมื่อผลผลิตที่ได้เหลือกินเหลือใช้ สามารถน าไปขายเกิดการสรา้งรายได้ที่เพิ่มขึ้นให้แก่ครวัเรอืน ท าให้ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้อีกช่องทางหนึ่ง ศูนย์การเร ียนรู้ @ จวนผู้ว่านครศร ีฯ โคก หนอง นา โมเดล ประกอบด้วยโซนที่ ๑ พืชผักครัวไทย โซนที่ ๒ คัน นาทองค า โซนที่ ๓ สมุนไพรคู่เร ือน โซนที่ ๔ ป่า ๕ ระดับ และผู้ออกแบบได้ออกแบบตามภูมิสังคม คือลุงดาบ โดยดาบต ารวจนิรันดร์ พิมล ประธานศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ (ที่ปร ึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดนครศร ีธรรมราช) ร่วมกับนายวัชระ ธรรมปัญญาสกุล พัฒนาการจังหวัดนครศร ีธรรมราช นายจตุพล ศร ีด า ผู้อ านวยการกลุ่มงาน ส่งเสร ิมการพัฒนาช (ต าแหน่ง ณ วันที่ ๖ มกราคม ๒๕๖๖) และคณะ นายประสิทธิ์สุวรรณา ผู้อ านวยการ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีนครศร ีธรรมราช และ ผู้บร ิหาร ได้น าคณะครู และนักเร ียน นักศึกษา มาร่วม ด าเนินการ และเร ียนรู้ด้วยการปฏิบัติงานจร ิง ในพื้นที่ บร ิเวณบ้านพักผู้ว่าราชการจังหวัดนครศร ีธรรมราช และ ด าเนินการศูนย์การเร ียนรู้ @ จวนผู้ว่านครศร ีฯ โคก หนอง นา โมเดล ในวันที่ ๖ - ๗ มกราคม ๒๕๖๖ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีนครศร ีธรรมราช ได้น า รูปแบบโคก หนอง นาโมเดล (ศูนย์การเร ียนรู้ @ จวน ผู้ว่านครศร ีฯ โคก หนอง นา โมเดล) น าไปประยุกต์ใช้ ต่อยอด และพัฒนายังพื้นที่ของวิทยาลัยฯ ให้เป็นแหล่งเร ียนรู้ให้แก่นักเร ียน นักศึกษา และประชาชนผู้สนใจ
ห น ้ า | 20 วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีนครศร ีธรรมราชร่วมกับสถาบันอาชีวศึกษาเกษตรภาคใต้ โดยมีศิษย์เก่า พัฒนา ชุมชนจังหวัด หน่วยงานภาครัฐและเอกชน และปราชญ์ชาวบ้านผู้ที่ประสบความส าเร็จ ได้มาร่วมกันประชุม ระดมความคิดเพื่อหาร ือออกแบบ และวางแผนการด าเนินงานเพื่อจัดตั้ง “กองทุนการศึกษาอาชีวศึกษาเกษตร เพื่อผู้ด้อยโอกาส” เพื่อสร้างศูนย์เร ียนรู้ทางด้านการเกษตรส าหรับ นักเร ียน นักศึกษา เกษตรกร และประชาชน ที่สนใจ และเพื่อสร้างต้นแบบการเกษตรแบบผสมผสานในรูปแบบ โคก- หนอง -นา “ เกษตรควนพลอง เมืองนครโมเดล ” ณ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีนครศร ีธรรมราช นายสมบูรณ์ จงกล (ลุงหม้อ) เจ้าของแปลงพื้นที่ขนาด ๑ ไร่ ที่เข้าร่วมโครงการ พัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง กิจกรรมพัฒนาศูนย์ เร ียนรู้ทฤษฎีใหม่รูปแบบโคก หนอง นา หมู่ที่ ๒ ต าบลก าแพงเซา อ าเภอเมืองนครศร ีธรรมราช ครูพาท าที่ได้มาร่วมกิจกรรมเอามื้อ โคก หนอง นา @ จวนผู้ว่าฯ กล่าวว่า ต้องขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัด นครศร ีธรรมราช ได้รเิร่มิท าโครงการโคกหนองนา @จวนผู้ว่าฯ ให้คนในจังหวัดได้ดูได้เป็นต้นแบบเป็น ศูนย์เร ียน พ่อเมืองผู้น าของจังหวัดได้ท าให้เป็น แบบอย่าง ผู้น าต้องท าก่อน ซึ่งถือเป็นแบบอย่างที่ดีมาก "ผมจ าได้ที่ทางผู้ว่าได้เชิญแกนน าเข้าไปร่วมแล้วเปิด วีดีทัศน์เร ื่องการท าโคก หนอง นา และได้มีการเปิดประเด็นว่าผู้น าต้องท าก่อน ซึ่งหากผู้น าไม่เป็นผู้รเิรม่ิ ท าก่อน แล้วตัวผู้น าจะไปส่งต่อหร ือน าร่องให้ผู้อื่นท าตามได้อย่างไร เพราะฉะนั้นผู้น าต้องเป็นผู้รเิรม่ิในการเดิน ในการเปิดประเด็นงานที่จะท า ต้องใจกว้างมีการเปิดใจ หากมาเชียร์ให้ผมท าแต่ในขณะที่ผู้น าไม่เรม่ิท าให้ ดูก่อนมันก็ไม่ใช่ และผมรู้สึกปลื้มใจที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศร ีธรรมราชมีใจเต็มร้อยในการท าแปลง โคก หนอง นา เหมือนกับลุงหม้อ และยังลงมาให้ก าลังใจลุงถึงแปลง ท าให้ลุงได้รู้ว่าผู้สูงวัยใจเต็มร้อยอย่างลุงนี้ยังมี ความส าคัญกับชุมชน ที่ผมยังมีแรงท าอยู่ได้นะทุกวันนี้ก็เพราะหัวใจเปี่ยมไปด้วยความรักและเทิดทูนใน ในหลวงรัชกาลที่ 9 อีกทั้งทางส านักงานพัฒนาชุมชนอ าเภอเมืองนครศร ีธรรมราช และส านักงานพัฒนาชุมชน จังหวัดนครศร ีธรรมราชลงมาช่วยในการขับเคลื่อนทุกรูปแบบ ให้ค าปร ึกษาให้ค าแนะน า สร้างคนสร้างงาน เมื่อผมไปบรรยายเป็นครูพาท ายังสถานที่ต่าง ๆ ผมจะตอบเสมอว่า สิ่งที่ผมท าอยู่ทุกวันนี้ก็เพื่อชุมชน เพื่อท าให้ คนรุ่นหลังได้ดูว่าลุงหม้อถึงจะอายุ75 ปีแล้วก็ยังท าได้แล้วท าไมเด็ก ๆถึงท าไม่ได้
ห น ้ า | 21 ๓.๒ สภากาแฟสร้างมิตรสัมพันธ์กับกภาคีเคร ือข่าย “จิบกาแฟสร้างมิตรสัมพันธ์” พร้อมก าหนด จัดขึ้นเดือนละ 1 ครั้งในการขับเคลื่อนจังหวัดนครศร ีธรรมราชร่วมกัน ซึ่งเป็นการพูดคุยรับฟังความคิดเห็น ร่วมกัน เพื่อพบปะสังสรรค์ หาร ือร่วมกันในการด าเนินงานขับเคลื่อนจังหวัดนครศร ีธรรมราชร่วมกันให้หัวหน้า ส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ได้พบปะพูดคุยกันแบบไม่เป็นทางการ เป็นการประสานงานให้เกิดความร่วมมือระหว่างกันในการพัฒนาจังหวัดนครศร ีธรรมราช ๓.๓ มาตรการเร่งด่วน 9 ประการ ในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด 1) ฟื้ นฟูผู้ป่วยจิตเวชจากการใช้สารเสพติดแห่งแรกของประเทศ ตั้งแต่ วันที่ 26 ตุลาคม 2565 (ขณะนั้นไม่มีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนและงบประมาณ) โดยได้ก าหนดขั้นตอน แนวทางปฏิบัติ ของจังหวัดและใช้เงินบร ิจาคจากผู้มีจิตศรัทธา ด าเนินการไปก่อนโดยไม่รองบประมาณของทางราชการ ขณะนี้ ด าเนินการฟื้ นฟูไปแล้ว 241 คน และปัจจุบัน ส านักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 8 ได้เห็น ความส าคัญและสนับสนุนงบประมาณแล้ว 2) การจับกุมผู้ค้า 2,835 ราย ของกลางยาบ้า 3,596,488 เม็ด เฮโรอีน 4 กิโลกรัม ยาไอซ์ 6,552.21 กรัม ยาอี 3,996 เม็ด กัญชา 319 กิโลกรัม สูงที่สุดในภาคใต้ 3) ฝึกอบรมชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ต้านยาเสพติด หมู่บ้านละ 15 คน ด าเนินการไปแล้วทั้งหมด 6,486 คน 4) ตรวจสอบปัสสาวะ เจ้าหน้าที่ของรัฐทุกฝ่าย 19,046 คน ด าเนินการไปแล้ว 18,965 คน ด าเนินการปลดผู้เกี่ยวข้องออกจากต าแหน่ง 3 คน
ห น ้ า | 22 5) ขึ้นป้ายประชาสัมพันธ์แจ้งเบาะแสทั่วพื้นที่จังหวัด 274 ป้าย 6) ตรวจสอบอาวุธปืน ผู้ได้รับอนุญาตไปแล้วทั้ง 23 อ าเภอ หากเกี่ยวข้องกับยาเสพ ติด ด าเนินการตามกฎหมายทันที 7) ก าหนดเป้าหมายสร้างหมู่บ้านชุมชนเข้มแข็งต้านยาเสพติด ทุกหมู่บ้าน เน้นย้า พิเศษ หมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดินต้องด าเนินการอย่างมีประสิทธิผลสูงสุด 8) บ าบัดผู้เสพโดยศูนย์ฟ้ืนฟูสภาพทางสังคมเรม่ิด าเนินการตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ. 2566 ในทุกอ าเภอ 9) การส่งผู้ผ่านการบ าบัดฟื้ นฟูเข้าศึกษาต่อ ณ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี นครศร ีธรรมราช อ าเภอช้างกลาง อ าเภอละ 10 คน รวมทั้งฝึกอาชีพด้านเศรษฐกิจพอเพียงทุกคน ๓.๔ โครงการสร้างบ้าน ปันสุข พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ยากไร้จังหวัดนครร ีธรรมราช ร่วมกับ สมาคมแม่บ้านมหาดไทย ด าเนินการไปแล้ว 24 หลัง โดยไม่ใช้งบประมาณของทางราชการ จากเงินของผู้มีจิต ศรัทธาบร ิจาค จ านวน 2 ล้านบาท ซื้อวัสดุให้และใช้แรงงานราษฎรจิตอาสาในท้องถิ่นรว่มก่อสรา้งแบบเอามื้อ เอาแรง เสร็จแล้วร่วมเป็นก าลังใจมอบบ้านพร้อมของกินของใช้ภายในบ้านและช่วยเหลือด้านอาชีพ สร้างรายได้การศึกษาลูก และอื่น ๆ ตามสภาพปัญหาอย่างครบวงจรและต่อเนื่อง ๓.๕ โครงการตักบาตรหน้าวัดพระบรมธาตุ วรมหาวิหาร ทุกวันอาทิตย์ นายอภินันท์เผือกผ่อง ผู้ว่า ราชการจังหวัดนครศร ีธรรมราช น าข้าราชการ ประชาชน พุทธศาสนิกชน ร่วมกันตักบาตรทุกวันอาทิตย์ ทั้งนี้ได้มีการ รณรงค์ให้มีการแต่งชุดผ้าไทยใส่โจงกระเบน ซึ่งท่านได้สวน ใ ส่ เป็ น ต้ อ งตั วอ ย่ า ง ที่ ดี ใ น ทุ ก วั น อ า ทิ ต ย์ จังห วั ด นครศร ีธรรมราชมีประวัติศาสตร์ความเป็นมานับพันปี เป็น พื้ น ที่ แ ห่ ง ก า ร ห ล อ ม ร ว ม พ ลั ง ค ว า ม ศ รัท ธ า ข อ ง พุทธศาสนิกชนมาอย่างยาวนาน มีพระมหาธาตุเป็นพุทธ สถานที่ส าคัญสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นอารยธรรม และวิถีชีวิตของพุทธศาสนิกชนภายในจังหวัด และด้วย เอกลักษณ์ที่กล่าวมานี้ ท าให้จังหวัดนครศร ีธรรมราช ร่วมจัดกิจกรรม เพื่อสืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงาม เสร ิมสร้างศักยภาพด้านการท่องเที่ยวชุมชน ที่แสดงออกถึงศิลปะ ประเพณีวัฒนธรรมอันงดงาม พร้อมทั้ง ส่งเสร ิมความรักความสามัคคีของคนในชุมชน ให้มีความสุข มีความภาคภูมิในมรดกธรรม ตลอดจนเป็นสิร ิ มงคลแก่ตนเองและครอบครัว เพื่อให้สมกับความเป็นอารยธรรมของคนนครศร ีธรรมราช อันหมายถึง ความเจร ิญด้วยความดีงาม
ห น ้ า | 23 "ด้วยจุดเด่นของจังหวัดนครศร ีธรรมราชที่มีวัดในพระพุทธศาสนามากกว่า 600 วัด ซึ่งมีวัดที่มี ชื่อเสียงเป็นที่เคารพเลื่อมใสศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศไทยและทั่วทุกมุมโลกต่างเดินทางมา สักการะบูชาเป็นจ านวนมาก หร ืออาจเร ียกได้ว่าครั้งหนึ่งในชีวิตต้องมาสักการะพุทธสถานที่เมืองคอน ประกอบกับจังหวัดนครศร ีธรรมราช มุ่งเน้นในการส่งเสร ิมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนโดยใช้ ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมด้านการแต่งกายมาเป็นเคร ื่องมือที่ส าคัญ เพราะนครศร ีธรรมราช มีความโดดเด่น ด้านเอกลักษณ์การแต่งกายด้วยผ้าพื้นถิ่นมาตั้งแต่โบราณ อันส่งผลให้เกิดการกระตุ้นเม็ดเงินเศรษฐกิจฐานราก จึงเป็นที่มาของกิจกรรม "สวมใส่ชุดไทยพื้นถิ่นนครศรธีรรมราช ตักบาตรทุกเช้าวันอาทิตย์ที่วัดพระบรมธาตุ" ที่ได้ด าเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ในทุกเช้าวันอาทิตย์ โดยมีวัตถุประสงค์ส าคัญ หลายประการคือ เป็นการสืบ สานรักษาประเพณี วัฒนธรรมอันดีงามของพุทธศาสนิกชนให้สืบทอดจากรุ่นปู่ย่าตายายมายังลูกหลาน ได้เข้า วัดท าบุญตักบาตร รักษาศีล ปฏิบัติธรรม น า ย อ ภิ นั น ท์ เผื อ ก ผ่ อ ง ก ล่ า วต่ อ อี กว่า นอกจากนี้ กิจกรรมดังกล่าว เพื่อเสร ิมสร้างคุณธรรม จร ิยธรรม พัฒนาคุณภาพชีวิต น าหลักค าสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธ เจ้าไปปรบั ใช้ในการท างานเพิ่มความเป็นสิรมิงคลกับให้กับพี่ น้ อ ง ป ร ะ ช า ช น ต ล อ ด จ น ทุ ก ส่ ว น ร า ช ก า ร ใ น จั ง ห วั ด นครศร ีธรรมราช อีกทั้งร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสร ิมวัดพระ มหาธาตุสู่มรดกโลกด้วย อีกทั้งยังสามารถน ามาส่งเสร ิมการ ท่องเที่ยวของจังหวัดได้ ประกอบกับจังหวัดนครศร ีธรรมราชได้ ยึดหลักการ partnership ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ข้อที่ 17 โดยมีคณะสงฆ์เป็นภาคีเคร ือข่ายส าคัญ ตาม หลัก "บวร" ด้วยความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคีเคร ือข่าย ในอนาคต จังหวัดนครศร ีธรรมราชจะเป็นเมืองที่มีภาพลักษณ์ ในด้านการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมเฉกเช่นเดียวกับ เมืองหลวง พระบาง สปป.ลาว เมืองมรดกโลก ที่ผู้คนต่างสวมใส่ชุด พื้นเมือง มาท าบุญตักบาตร ด้วยอากัปกิร ิยาที่ส ารวม ด้วยจิตใจที่สงบ ท าบุญตักบาตรด้วยความเคารพนบนอบ
ห น ้ า | 24 ประพฤติปฏิบัติตนเหมาะสมกับความเป็นชาวพุทธ เพื่อด ารงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนาให้คงอยู่คู่กับผืนแผ่นดิน และคู่กับโลกใบนี้ตลอดไป ๓.6 โครงการผู้ว่าชวนเข้าวัดเดือนละ 2 ครั้ง สัญจรไปทุกอ าเภอในวันพระใหญ่เดือนละ 2 ครั้ง มีเด็กและเยาวชนรวมรวมทั้งพุทธศาสนิกชนร่วมกิจกรรมครั้งละไม่ต่ากว่า 500 คน ส าหรับกิจกรรม “ผู้ว่าพาเข้าวัด ปฏิบัติบูชา ตามรอยพระสัมมาฯ สู่นครบวรสุข”เป็น โครงการที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศร ีธรรมราช ส่งเสร ิมให้พุทธศาสนิกชนในจังหวัดนครศร ีธรรมราช ได้เข้าวัด สดับรับฟังค าสอนทางพระพุทธศาสนา ส่งเสร ิมให้เป็นคนดีมีคุณธรรม จร ิยธรรม น าหลักศีล 5 มาปฏิบัติใน ชีวิตประจ าวัน สร้างสังคมมีศีล มีสุข อีกทั้งเป็นการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวของจังหวัดตามสโลแกน “มาน๊ะ มานคร มาหาศรัทธา” ๓.7 โครงการเยี่ยมเยียนโคก หนอง นา โมเดล ยามเย็น “โม้ฉาว ยามเย็น” โดยมีส านักงาน พัฒนาชุมชนจังหวัดนครศร ีธรรมราชเป็นเจ้าภาพ ตระเวนไปทุกพื้นที่สัปดาห์ละ 1 แห่ง เพื่อก้าวไปสู่ความส าเร็จ ศูนย์เร ียนรู้ โคก หนอง นา พัฒนาชุมชนโดยมีพัฒนาการจังหวัด เกษตรและสหกรณ์จังหวัด เกษตรจังหวัด ผู้น าท้องที่ท้องถิ่น และพี่น้องประชาชนกว่า 100 คน ทั้งได้พูดคุยแลกเปลี่ยนเร ียนรู้ร่วมกันในการขับเคลื่อน กิจกรรมส าคัญได้แก่ การปลูกผักสวนครัว สร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร ตามโครงการ "บ้านนี้มีรัก ปลูกผัก กินเอง" และ "ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน" การเร ียนรู้ โคก หนอง นา โมเดล
ห น ้ า | 25 ๓.8 โครงการจิตอาสาปลูกป่า 500,000 ต้น โดยตั้งเป้าจะปลูกต้นไม้ทั่วทั้งจังหวัดครอบคลุม 23 อ าเภอ ทั้งป่าบก ป่าชายเลน และป่าจาก เพื่อสร้างจังหวัดนครศร ีธรรมราชเป็นจังหวัดที่สภาพแวดล้อมดี ที่สุดในประเทศไทย ๓.9 โครงการคนนคร วินัยจราจร 100 เปอร์เซ็นต์รณรงค์สวมหมวกนิรภัย 100 เปอร์เซ็นต์ เมาไม่ขับ ไม่ขับรถเร็ว ไม่ขับรถตัดหน้ากระชั้นชิด ไม่ขับรถสวนเลน และมีน้าใจในการขับรถบนท้องถนน ๓.10 โครงการนครสะอาด และสวยด้วยสองมือเรา ไม่ทิ้งขยะเกลื่อนกลาด ทิ้งในที่ทิ้งเท่านั้น ลดปร ิมาณขยะ ไม่ใช้พลาสติกและโฟม คัดแยกขยะ และน าขยะไปใช้ประโยชน์ขยะเปียก 100 เปอร์เซ็นต์การ ใช้ซ้า การร ีไซเคิล การใช้วัสดุธรรมชาติและ หัวใจส าคัญสร้างประชาสัมพันธ์การรับรู้ให้มีจิตส านึก “เจอขยะที่ไหน เก็บที่นั่น” ส าหรับกิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นกิจกรรมพิเศษ คือ มีกิจกรรมร่วมเดินเก็บขยะบร ิเวณทางเดินโดยรอบ และในสนามหน้าเมืองด้วย ตามโครงการ “นครสะอาดด้วยสองมือเรา (The clean Nakon by our hands Project)” ของผู้ว่าฯ ซึ่งมีการรณรงค์ไปทั่วทั้งจังหวัด โดยมีนายอ าเภอ ก านัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้บร ิหารองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้บร ิหารสถานศึกษา และภาคีเคร ือข่ายทุกภาคส่วนเป็นแกนน าในการด าเนินการในระดับ พื้นที่
ห น ้ า | 26 ๓.11 โครงการผู้ว่าชวนเดิน ทุกเช้าวันเสาร์ 06.00 น. สนามหน้าเมืองนครศร ีธรรมราช “ออก ก าลังกายไปด้วยเก็บขยะในสนามไปด้วย” โดยนายอภินันท์เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศร ีธรรมราช พร้อมด้วยพี่น้องประชาชนผู้รักสุขภาพ ร่วมกิจกรรมเดิน-ว่งิ ออกก าลังกายเพื่อเสร ิมสร้างสุขภาพที่ดีอย่าง ต่อเนื่องที่สนามหน้าเมือง นครศร ีธรรมราช เสร็จแล้วร่วมรับประทานน้าชากาแฟกับผู้ว่าที่จวนผู้ว่าแจกเสื้อ สมาชิกไปแล้ว 500 คน ๓.12 โครงการ ถนนสวย คลองสวย ด้วยดอกไม้จ านวน 29 สาย ที่ส าคัญ คือ ถนนชายทะเล สายขนอม-สิชล ปลูกต้นราชพฤกษ์และทองอุไร โดยพี่น้องประชาชนร่วมบร ิจาคต้นไม้และจิตอาสาร่วมปลูก เป็นระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร ถือเป็นถนนที่มีธรรมชาติสวยที่สุดในภาคใต้และคลองหน้าเมือง เป็นคลองที่มี น้าสะอาด และมีดอกไม้สวยงาม ๓.13 โครงการรณ รงค์สวมผ้าไทย ใส่ให้สนุก สวมผ้าพื้นถิ่นนครศรธีรรมราช ผ้ายก ผ้าบาติก ผ้ามัดย้อม สัปดาห์ละ 6 วัน ในทุกโอกาสที่ออกจากบ้าน จนกลุ่มผ้าทั้ง 123 กลุ่มในพื้นที่ผลิตและจ าหน่าย สร้างอาชีพและรายได้จ านวนมาก
ห น ้ า | 27 ๓.14 ขับเคลื่อนวัดพระมหา ธา ตุ วรมหาวิหารขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ซึ่งได้มีการ ด าเนินการมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2554 แต่ยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากยังขาดงบประมาณในการด าเนินการและ เอกสารไม่สมบูรณ์จึงได้จัดตั้งกองทุน "คนละ 9 บาท ยกพระบรมธาตุสู่มรดกโลก" ซึ่งมีเป้าหมายรวบรวม เงินให้ได้จ านวน 15 ล้านบาท ส าหรับการจัดกิจกรรมดังกล่าว เป็นความร่วมมือระหว่างกลุ่มผู้มีจิตศรัทธาและคณะ ขับเคลื่อนวัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร เพื่อขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลก ได้พยายามเดินหน้าเพื่อสนับสนุนและ ขับเคลื่อนการน าเสนอวัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร เพื่อขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลก ผ่านกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้ ครบถ้วนตามข้อก าหนดของทางคณะกรรมการฯ พิจารณา ซึ่งในข้อก าหนดดังกล่าวคือการจัดตั้งกองทุนเพื่อการบร ิหารจัดการแหล่งมรดกโลก โดย กองทุนดังกล่าวต้องมีวงเงินทุนหมุนเวียน 15 ล้านบาท เบื้องต้นทางผู้เกี่ยวข้องในระดับพื้นที่ได้ด าเนินกิจกรรม ใน 2 ลักษณะเพื่อจัดตั้งกองทุนดังกล่าว ประกอบด้วย การประชาสัมพันธ์เพื่อเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบร ิจาค เงินสมทบทุนกองทุนคนละ 9 บาท ยกพระบรมธาตุจังหวัดนครศร ีธรรมราช สู่มรดกโลก และการเปิดให้ผู้สนใจ ได้เช่าบูชาวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่จังหวัดนครศร ีธรรมราช ได้จัดสร้างขึ้น โดยวัตถุมงคลดังกล่าวใช้ชื่อรุ่น “เลื่อนมรดกโลก ทรัพย์รุ่งเร ื่อง” เบื้องต้นก าหนดการจัดสร้างไว้ 2 รูปแบบ จ านวนรูปแบบละ 100,000 เหร ียญ รวม 200,000 เหร ียญ ประกอบด้วย เนื้อวัตถุมงคล 4 ชนิด ได้แก่ เนื้อทองค า เนื้อเงิน เนื้อทองแดงรมมันปูและเนื้อนวโลหะ โดยรายได้จะน าไปใช้ส าหรับกองทุน สนับสนุนการขับเคลื่อนวัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร สู่มรดกโลก เพื่อการส่งเสร ิมท านุบ ารุงศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม และเพื่อการสงเคราะห์อุปถัมภ์เด็ก คนชรา ผู้ด้อยโอกาส รวมถึงเพื่อกิจกรรมสาธารณประโยชน์และ การกุศล ขณะนี้มีผู้ร่วมบร ิจาคร่วมเป็นเจ้าภาพในการ บูรณะซ่อมแซมวิหารต่าง ๆ ภายในวัดและการปรับปรุงด้าน กายภาพ รวมเป็นเงนิทั้งสิ้น 10,192,746.81 บาท โดยจะต้องด าเนินการด้านเอกสารและการปรับปรุงภูมิทัศน์ ให้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2566 เพื่อเสนอต่อ คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก และคณะรัฐมนตร ีต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเสนอต่อองค์การ ยูเนสโกได้ใน เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567
ห น ้ า | 28 ๓.15 โครงการจัดท าถังขยะเปียกลดโลกร้อน เป็นหนึ่งในกิจกรรมเพื่อลดภาวะโลกร้อนควบคู่ กับการจัดการขยะอย่างยั่งยืนที่เป็นรูปธรรม ปลูกฝังให้ทุกคนเห็นคุณค่าของทรัพยากรที่มีอยู่อย่างประหยัด ภายหลังจากกระทรวงมหาดไทยได้ประกาศเจตนารมณ์"76 จังหวัด 76 ค ามั่นสัญญา เพื่อการพัฒนา เพื่อความเท่าเทียม เพื่อความยั่งยืน เพื่อคนไทยกว่า 69 ล้านคน ร่วมกับสหประชาชาติโลกนี้เพื่อเรา" ซึ่งจังหวัดนครศร ีธรรมราชได้มีการขับเคลื่อนกิจกรรมต่าง ๆ ของจังหวัดนครศร ีธรรมราช โดยให้ทุกหน่วยงานและทุกภาคีเคร ือข่ายร่วมยึดหลักเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ซึ่งที่ผ่านมา จังหวัดนครศร ีธรรมราช ได้สร้างการเร ียนรู้และความเข้าใจในการคัดแยกขยะ ทั้ง 4 ประเภท ได้แก่ ขยะเปียก ขยะทั่วไป ขยะร ีไซเคิล และขยะอันตราย ควบคู่กับการให้ความรู้ในด้านการก าจัดขยะอย่างถูกวิธีเพื่อลด ปร ิมาณขยะและปลูกฝังให้ทุกคนเห็นคุณค่าของทรัพยากรที่มีอยู่อย่างประหยัด มีความใส่ใจในสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายให้ทุกครัวเร ือนในจังหวัดนครศร ีธรรมราช มีการจัดท าถังขยะเปียกหร ือขยะ อินทร ีย์ไว้ใช้ในครัวเร ือน เพื่อชว่ยเพิ่มปร ิมาณแร่ธาตุในดิน ลดปร ิมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นตัวแปร ส าคัญที่ท าให้เกิดภาวะโลกร้อน ช่วยลดปร ิมาณขยะที่จะเข้าสู่กระบวนการจัดการขยะขององค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น รวมทั้งเพื่อลดมลภาวะที่เกิดจากการเน่าเสียของขยะเปียก นอกจากนี้ยังเป็นการลดรายจ่ายและเพิ่ม รายได้จากการปลูกผักสวนครัว ทั้งนี้ในการท าถังขยะเปียกลดโลกร้อน จะมีการ เจาะก้นถัง แล้วขุดหลุมขนาดความลึก 2 ใน 3 ส่วน ของความสูงของภาชนะ จากนั้นน าภาชนะที่เตร ียมไว้ ไปใส่ในหลุมที่ขุดน าไปฝังดิน มีฝาปิดด้านบนเพื่อ ควบคุมปร ิมาณอากาศและสภาวะแวดล้อมไม่ให้ อากาศถ่ายเทออกไปจากตัวถังได้ง่าย เพื่อใช้ส าหรับ ใส่ขยะที่ย่อยสลายได้ง่าย อาทิเศษอาหาร เศษผัก ผลไม้ใบไม้และเศษหญ้า ที่เหลือมาเทใส่ในถังที่ฝัง ไว้และปิดฝาภาชนะให้มิดชิด จุลินทร ีย์ในดิน ไส้เดือน ในดิน จะท าการย่อยเศษอาหารในภาชนะให้กลายเป็นปุ๋ย (ระยะเวลาขึ้นอยู่กับปร ิมาณขยะเปียก) เมื่อปร ิมาณ เศษอาหารถึงระดับเดียวกับพื้นดินที่ขุดไว้ให้เอาดินกลบแล้วย้ายถังไปท าตามขั้นตอนเดิมที่จุดอื่นต่อไป
ห น ้ า | 29 ๓.16 โครงการรณรงค์เที่ยวเมืองนคร 5 ล้านคน “มาน๊ะ มานคร มาหาศรัทธา” โครงการส่งเสร ิมการท่องเที่ยว ยกระดับจากเมืองรองที่เคยมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวสูงสุด 3.8 ล้านคนสู่เมืองหลัก เป้าหมายปีพ.ศ. 2566 ตั้งไว้อย่างท้าทาย ต้อนรับนักท่องเที่ยวกว่า 5 ล้านคนโดยจัดท าแผนปฏิบัติการ การท่องเที่ยวปีพ.ศ. 2566 ตั้งคณะท างานรับผิดชอบการ ขับเคลื่อนในแต่ละด้านแบบบูรณาการในภาพรวมของจังหวัด ก าหนดเส้นทางการท่องเที่ยวที่ชัดเจน ทั้งสายมูสายธรรมชาติ และสายชุมชนเชิงเกษตร รวมทั้งก าหนดการแต่งกายที่เป็นเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ของจังหวัด เช่น นุ่งโจง กระเบน ใส่เสื้อผ้าพื้นถิ่น ได้แก่ผ้าทอ ผ้ายก ผ้าบาติก หรอืผ้ามัดย้อม เป็นต้น ๓.17 โครงการยกย่องเชิดชูเกียรติคนดี “คนดีศร ีนคร” โดยมอบโล่และใบประกาศเกียรติคุณแก่ผู้ท า คุณงามความดีเพื่อยกย่องเชิดชูผู้เสียสละเพื่อส่วนรวม มีความ กตัญญูมีความกล้าหาญ มีส านึกที่ดีและเป็นการจุดประกายให้ ประชาชนชาวนครศร ีธรรมราชได้ตระหนักถึงความส าคัญของ การท าความดีชี้ให้เห็นว่าการท าความดีเป็นสิ่งที่น่ายกย่อง น่า ภาคภูมิใจ ควรจะได้รับการเชิดชูให้เป็นตัวอย่างที่ดีแก่สังคม ต่อไป โดยได้ก าหนดมอบรางวัล“คนดีศร ีนคร” ในวันที่ 11 เมษายน 2566 ๓.18 โครงการ "นคร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม" ดีที่สุดในประเทศไทย มีอ าเภอลานสกาเป็น อ าเภอต้นแบบ ซงึ่ผู้ว่าราชการจังหวัดในขณะด ารงต าแหน่งนายอ าเภอลานสกา ได้รเิรม่ิพัฒนาพื้นที่อ าเภอลาน สกาจากหมู่บ้านเล็ก ๆ กลางหุบเขา เป็นพื้นที่ที่อากาศดีที่สุด ในประเทศไทย (The best Ozone in Thailand) โดยได้มีการเผยแพร่สร้างแลนด์มาร์คประชาสัมพันธ์และจัดกิจกรรมส่งเสร ิมการท่องเที่ยวอย่าง ต่อเนื่องตลอดมาจนถึงปัจจุบัน
ห น ้ า | 30 ๓.19 โครงการเยี่ยมเยียนสถาบันอุดมศึกษา ในพื้นที่ทั้ง 14 แห่ง เพื่อแลกเปลี่ยน เร ียนรู้บูรณาการการท างานร่วมกันระหว่างภาควิชาการและผู้มีทักษะ ด้านการปฏิบัติงาน น าองค์ความรู้มา ประยุกต์ใช้ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม และเชื่อมโยงมิตรสัมพันธ์กับภาคีเคร ือข่าย สถาบันการศึกษาในพื้นที่ ทั้งนี้เพื่อร่วมบูรณาการการท างานร่วมกันระหว่างองค์ความรู้ด้านวิชาการจาก สถาบันการศึกษา และทักษะ ประสบการณ์จากการปฏิบัติงานโดยตรงของส่วนราชการและหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยให้มีการน าองค์ความรูท้างด้านวชิาการที่เกี่ยวข้องกับการประกอบสัมมาชพี ในท้องถิ่น และการ ร่วมกันอนุรักษ์ฟื้ นฟูวัฒนธรรม ประเพณีและน าอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของแต่ละถิ่นเพื่อประชาสัมพันธ์ส่งเสร ิม การท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้แก่ท้องที่ ๓.20 โครงการผู้ว่าพบปะภาคีเคร ือข่ายรอบจวน ในเช้าวันเสาร์หร ือวันอาทิตย์ จะร่วมพบปะ พูดคุยแลกเปลี่ยนเสร ิมพลังใจสร้างชีวิตเป็นสุขกับกลุ่ม ชมรมต่าง ๆ ที่มีการรวมตัวกันรอบจวนผู้ว่าราชการ จังหวัดด้วยบรรยากาศที่เป็นกันเองและอบอุ่น โดยผู้ว่าราชการจังหวัดได้ร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มด้วย เช่น ชมรม กายบร ิหารโยคะ นครศร ีธรรมราช ชมรมผู้สูงอายุ นครศร ีธรรมราช ชมรมคนรักสุขภาพก าแพงเมืองเก่า นครศร ีธรรมราช ชมรมวุฒิอาสาธนาคารสมอง เป็นต้น
ห น ้ า | 31 ๓.2 1 โ ค รงก า รผู้ ว่ า พ บ ป ระ ช า ช น ร่วม จัด รา ย ก า รวิทยุ ใ น วั น ศุ ก ร์แล ะ วั น เส า ร์ เวลา 08.00 – 09.00 น. และรายการโทรทัศน์ “รายการระเบียงใต้” ในวันศุกร์เวลา 17.30 – 18.00 น. เพื่อ พบปะ ประชาสัมพันธ์และสื่อสารข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ให้กับพี่น้องประชาชนในจังหวัดนครศร ีธรรมราชซึ่ง ประชาชนสามารถแจ้งปัญหาความต้องการ ให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดทราบผ่านทางรายการได้ ๓.22 การอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และธรรมชาติมุ่งเน้นการป้องกันและปราบปรามผู้กระท า ความผิดบุกรุกท าลายทรัพยากรธรรมชาติจับกุมด าเนินคดีผู้กระท าความผิดอย่างจร ิงจัง เช่น กรณีบุกรุกป่า สงวนแห่งชาติป่าเขาขาว ต าบลเขาขาว อ าเภอทุ่งสงด าเนินคดี 2 ราย กรณีบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองกรุง หยัน ต าบลกรุงหยัน อ าเภอทุ่งใหญ่ด าเนินคดี 3 ราย กรณีบุกรุกป่าสงวนแห่งป่าควนแก้ว ป่าคลองตม และป่า ทุ่งลานแซะอ าเภอชะอวด ด าเนินคดี 1 ราย และกรณีบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองเหลง ต าบลทุ่งใส อ าเภอสิชล ๓.23 จัดตั้งชุดเฉพาะกิจผู้ว่าราชการจังหวัด โดยได้ด าเนินการปิดล้อม และตรวจค้น 127 ครั้ง ผลการ ด าเนินการจับกุมผู้กระท าความผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่า ไม้ 9 ราย จับกุมผู้กระท าความผิดฐานหลบหนีเข้าเมือง 42 ราย จับกุมผู้ค้ายาเสพติด 2,835 รายจับกุมผู้กระท า ความผิดกฎหมายเกี่ยวกับการพนัน 48 ราย
ห น ้ า | 32 ๓.24 โครงการอ าเภอบ าบัดทุกข์บ ารุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน จังหวัดนครศร ีธรรมราช เป็นอันดับที่ 1 ในการน าเข้าข้อมูลเผยแพร่ในระบบ MOI WARROOMกิจกรรมการประชุม/อบรม และ กิจกรรม/โครงการบ าบัดทุกข์บ ารุงสุข ๓.25 ลงพื้นที่นั่งบัญชาการเหตุการณ์เร ืออับปางจากพายุคลื่นลมแรงในทะเลชายฝั่ งอ าเภอ ปากพนัง อ าเภอสิชล อ าเภอท่าศาลา และอ าเภอเมืองนครศร ีธรรมราช โดยการบร ิหารสถานการณ์ฉุกเฉินเร ื่อง ของภัยพิบัติจะมีโมเดลในการบรหิารตั้งแต่ระดับต าบล คือ ท้องถิ่น นายอ าเภอเป็นผู้อ านวยการระดับอ าเภอ ผู้ว่าราชการจังหวัดในระดับจังหวัด นายธีระพงศ์ ช่วยชู นายอ าเภอปากพนัง จังหวัดนครศร ีธรรมราช ระบุว่า ส าหรับเหตุวาตภัยที่เกิดขึ้นได้ เกิดอย่างฉับพลัน อากาศได้มีความเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลา เพียงไม่กี่นาที ได้เกิดคลื่นลมแปรปรวนพายุลมหัวด้วนซัด รุนแรงจากอ่าวนครศร ีธรรมราช ซัดเข้าหาฝั่ งใน 3 อ าเภอคือ อ าเภอปากพนัง อ าเภอเมือง อ าเภอท่าศาลา ได้มีหย่อมเมฆ ซึ่งได้ดึงดูดความร้อนในบร ิเวณรอบข้างทั้งหมดให้เข้ามาอยู่ใน ความเย็น ท าให้เกิดพายุขึ้นมาอย่างกระทันหัน ซึ่งไม่ได้มีการ พยากรณ์อากาศในเร ื่องนี้ จึงท าพี่น้องชาวประมงชายฝั่ ง เร ือประมงขนาดเล็กไม่สามารถทราบภัยอันตรายนี้ได้ จึงออกไปท ามาหากินหาปลาตามปกติ เมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. ได้เรม่ิมีกระแสครน่ืแรง นอกจากลมที่มีความรุนแรงแล้ว ยังส่งผลให้คลื่นยกตัวเข้าซัดเร ือประมง พื้นบ้านจ านวนมากได้ล่มกลางทะเล เร ือประมงจึงได้ทยอย เข้าฝั่ ง แต่เนื่องจากเกิดขึ้นเร็วมากเร ือประมงไม่ สามารถเข้าฝั่ งได้ หมดในระยะเวลาอันสั้น หลังจากนั้นเวลา 09.00 น. ได้ รับแจ้งจากก านัน ต าบลแหลมตะลุมพุกว่ามีสถานการณ์คลื่อนยกตัว ลมกรรโชกแรง เกิดเร ือล่มในพื้นที่
ห น ้ า | 33 เมื่อได้รับแจ้งจากพื้นที่ทางศูนย์อ านวยการ ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยอ าเภอปากพนังจึงได้รายงาน ไ ป ยั งน า ย อ ภิ นั น ท์ เผื อ ก ผ่ อ ง ผู้ ว่ า รา ช ก า รจั ง ห วั ด นครศร ีธรรมราช ท่านผู้ว่าฯ ได้มอบหมายให้นายอ าเภอเป็นผู้ บัญชาการเหตุการณ์ จึงได้แจ้งไปยังส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และส่งก าลังคนไปในพื้นที่ท าให้ทราบว่ามีเร ือในทะเล 40 - 50 ล า มีคนนับร้อยที่ยังอยู่ในทะเลที่จะต้องช่วยให้เข้า ฝั่ งมาให้ได้ มิเช่นนั้นจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ หลังจากนั้น ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ต ารวจน้า ชาวประมงชายฝั่ ง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้าไปช่วยเหลือ รวมทั้งราษฎรจิตอาสา ขณะนั้นมีเร ือจมไปแล้ว 8 ล า ประชาชน 20 กว่าคนที่ลอยตัวอยู่ในทะเล ท่านผู้ว่าราชการ จังหวัดได้เดินทางมาด้วยตัวเอง และได้ขอเฮลิคอปเตอร์จากกองทัพอากาศ และเร ือจากกองทัพเร ือมา ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ช่วงเวลาก่อนเที่ยงถึงบ่าย ซึ่งเราเร ียกว่า “ปฏิบัติการ 6 ชั่วโมง” สามารถช่วยเหลือ ชีวิตพี่น้องประชาชนได้เกือบทั้งหมด ยกเว้น 1 ราย ที่ได้เสียชีวิตไปก่อนหน้านั้นแล้ว ไม่เกิดการสูญเสียเพิ่ม หลังจากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดได้เข้าบัญชาการ จนกระทั่วเวลา 18.00 น. สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ คือ ช่วยเหลือชีวิตได้ทุกคน และเวลา 22.00 น. เราสามารถปฏิบัติภารกิจอย่างสมบูรณ์ กระบวนการเยียวยาผู้ประสบเหตุ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดก็ได้มีค าสั่งไปยังทางกรมป้องกันและ บรรณเทาสาธารณภัย ส ารวจในเร ื่องค่าใช้จ่ายในการท าศพ และการเยียวยาผู้ประสบภัยในส่วนของการ เยียวยาเร ือประมงจิตอาสาที่เข้าไปช่วยผู้ประสบภัย ทางอ าเภอปากพนังเองจะมีการจัดงานจิบน้าชาเพื่อเยียวยา เร ือประมงจิตอาสาฮีโร่ ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2566 นี้
ห น ้ า | 34 ส่วนที่ 4 สรุปผล ผลสัมฤทธจิ์ากการปฏิบัติหน้าที่ในต าแหน่งผู้ว่าราชการจงัหวัด “ต าแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัด เปร ียบเสมือนนายกรัฐมนตร ีของจังหวัด” การท างานจึงต้องมีการบร ิหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งเชิงรุก และเชิงรับอย่างเหมาะสม เพื่อดูแลพี่น้องประชาชนได้ดีที่สุด สรุปได้ดังนี้ 4.1 มีความจงรักภักดีต่อสถาบันหลักของชาติสูงสุดและแสดงออกในทุกโอกาส เช่น มีกิจกรรมร้องเพลงชาติสวดมนต์ไหว้และร้องเพลงสรรเสร ิญพระบารมีทุกครั้งเมื่อมีการรวมตัว ท ากิจกรรมเกิน 30 คน การจัดท ากิจกรรมจิตอาสาพัฒนาทุกสัปดาห์และในทุกโอกาสส าคัญ และการน้อมน า แนวพระราชด ารขิองทุกพระองค์แปลงไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมและบังเกิดผลสัมฤทธสิ์ูงสุด เป็นต้น 4.2 มี Passion และความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าในการ “บ าบัดทุกข์บ ารุงสุข” ให้กับประชาชนอย่างเต็มที่ด้วยความขยัน หมั่นเพียร และเสียสละ ทั้งความคิดรเิรม่ิแรงกายและทรพัย์สินเงนิ ทองโดยยึดผลประโยชน์ส่วนรวม และประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชนเป็นหลักมากกว่าผลประโยชน์ส่วนตัว เป็นแบบอย่าง ที่ดีในการประพฤติและปฏิบัติตามหลักการที่ว่า “ผู้น าต้องเป็นแบบอย่าง และท าก่อน” 4.3 ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางในการปฏิบัติหน้าที่ (People Oriented) มอง ประชาชนทุกคนเป็นญาติติดดิน มีแผนการเชิงรุก ออกไปพบปะเยี่ยมเยียนประชาชนกลุ่มต่าง ๆ อย่างไม่เป็น ทางการอยู่เป็นนิจทุกวัน ๆ ละหลายกิจกรรม โดยไม่ต้องรอให้เขาเชิญมา (มีแผนออกไปเอง) 4.4 อ่อนน้อมถ่อมตนต่อพี่น้องประชาชนคนดีในทุกโอกาส แต่พร้อมยืนหยัด เป็นหลัก ที่พึ่งพิง ให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ ที่ปฏิบัติหน้าที่บังคับใช้กฎหมายอย่างสุจร ิตกับคนไม่ดี คนที่ท าผิด กฎหมายส าคัญ และคนที่เอารัดเอาเปร ียบพี่น้องประชาชนโดยไม่หวั่นเกรงต่ออิทธิพลใด ๆ ทั้งสิ้น 4.5 ท างานเป็นทีมและสร้างทีมงานที่ดีและแข็งแกร่ง ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เช่น “Morning Brief” กับผู้บร ิหารจังหวัดทุกเช้าวันอังคาร พร้อมรับประทานอาหารเช้าร่วมกัน เพื่อสร้าง ความสัมพันธ์ที่ดีเพื่อมอบหมายงานติดตามความคืบหน้าของงาน และการสั่งการงานเร่งด่วนส าคัญ รวมทั้งเป็น ก าลังใจ และสร้างขวัญก าลังใจ ในการท างาน “คนท างานดีต้องได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าคนอื่น” กิจกรรมสภา กาแฟสร้างมิตรสัมพันธ์กิจกรรมเยี่ยมเยียนสถาบันการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย กิจกรรมเยี่ยมเยียน 7 ภาคี เคร ือข่ายทั้ง 23 อ าเภอ กิจกรรมสร้างหมู่บ้านชุมชนเข้มแข็งยั่งยืน (Sustainable Village) เป็นต้น 4.6 มีวสิัยทัศน์และความคิดรเิรม่ิในการท างาน บูรณาการทุกภาคส่วนรว่มคิด ร่วมท า และร่วมรับผิดชอบในการท างาน ผ่านเวทีการประชุมต่าง ๆ ทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ 4.7 มีการมอบหมายงานให้แก่รองผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการ จังหวัด อย่างเหมาะสม หากเป็นงานส าคัญและงานพื้นที่ถ้าบร ิหารเวลาได้ผู้ว่าราชการจังหวัดจะปฏิบัติเอง โดย มีงานตามค าเชิญประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์และงานเชิงรุกที่คิดรเิรม่ิเองประมาณ 50 เปอรเ์ซน็ต์ ดังนั้น “ผู้ว่าราชการจังหวัด” ที่ดีจึงควรเป็นทั้งนักปกครอง นักพัฒนา และนักบร ิหาร ในบุคคล เดียวกันที่ต้องมีทั้งความรู้ความสามารถ และความประพฤติเป็นแบบอย่าง มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีประสานงานได้ ทุกภาคส่วน “เป็นผู้ประสานสิบทิศ” ที่สามารถบร ิหารการพัฒนาจังหวัดให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีได้อย่างเป็น รูปธรรมให้พี่น้องประชาชนมีความรักใคร่ ศรัทธา และร่วมปฏิบัติงานอย่างเต็มใจ และพึงพอใจสูงสุด
ชื่อเอกสาร สรุปองค์ความรู้การบริหารราชการของ นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ประเภทเอกสาร เอกสารวิชาการ ขนาดหนังสือ เอ 4 จ านวน 34หน้า ที่ปรึกษา นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นายจตุพล ศรีด า พัฒนาการจังหวัดนครศรีธรรมราช นางอนัญญา หลังสตา ผู้อ านวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์การพัฒนาชุมชน นายอรรถพงษ์ อยู่เกตุ ผู้อ านวยการศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนนครศรีธรรมราช ว่าที่ ร.ต.สมโชค จักร์หรัด นักวิชาการพัฒนาชุมชนช านาญการพิเศษ คณะผู้จัดท า 1) นางกาญจนา อร่ามวิทย์ นักทรัพยากรบุคคลช านาญการ 2) นายปิยพงศ์ ตุลาธร นักทรัพยากรบุคคลช านาญการ 3) นางสาวรัศม์ณิศชาช์ ศรีสุขใส นักทรัพยากรบุคคลช านาญการ 4) นางสาวชลธิรา คนซื่อ นักวิชาการพัฒนาชุมชนช านาญการ 5) นายไววิทย์ หนูเอก นักทรัพยากรบุคคลช านาญการ 6) นายสูเปียน กาโฮง นักทรัพยากรบุคคล 7) นางสาวมริสา มณีโชติ นักทรัพยากรบุคคล 8) นางสาวบุษยมาส คุ้มนุ้ย นักทรัพยากรบุคคล ภาพ 1) นางกาญจนา อร่ามวิทย์ นักทรัพยากรบุคคลช านาญการ 2) นางสาวชลธิรา คนซื่อ นักทรัพยากรบุคคลช านาญการ 3) นางสาวมริษา มณีโชติ นักทรัพยากรบุคคล 4) นางสาวบุษยมาส คุ้มนุ้ย นักทรัพยากรบุคคล ทาน ว่าที่ ร.ต.สมโชค จักร์หรัด นักวิชาการพัฒนาชุมชนช านาญการพิเศษ เรียบเรียง/พิมพ์ นางสาวรัศม์ณิศชาช์ ศรีสุขใส นักทรัพยากรบุคคลช านาญการ ออกแบบปก นางสาวรัศม์ณิศชาช์ ศรีสุขใส นักทรัพยากรบุคคลช านาญการ ปีที่พิมพ์ พ.ศ.2566