The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านโนนกอก

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by chanathippojit281, 2023-11-01 23:19:52

ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านโนนกอก

ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านโนนกอก


๑ ชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ขับเคลื่อนด้วยพลังบวร บ้านโนนกอก หมู่ที่ ๑๘ ตำบลหนองนาคำ อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี ประวัติบ้านโนนกอก บ้านโนนกอก แต่เดิมเป็นกลุ่มหนึ่งของบ้านหนองนาคำ ซ ึ่ งมีกลุ่มคนจากจังหวัดอุบลราชธานี จังหวัด ชัยภูมิ อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี และประเทศลาว เข้ามาก่อตั้งบ้านเรือน เมื่อปี พ.ศ.๒๓๙๗ ได้นำเอาวัฒนธรรมผ้าทอในถิ่นนั้นเข้ามาด้วย ในปีพ.ศ.๒๕๔๗ ทางราชการได้มีการแบ่งแยกหมู่บ้าน จ ากบ้ า นห นอง นา ค ำ ตั้ ง เป็ นห มู่ บ้ า นโน นกอก ชา ว บ้ า นโน นกอกมี ฝี มื อกา ร ท อผ้ าแต่ ดั้ ง เดิ ม มีลายผ้าทอมีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวทอไว้ใช้ในครัวเรือนและทางพุทธศาสนา ไม่ได้มีการไว้เพื่อจำหน่าย ในปัจจุบันพบว่าคนรุ่นใหม่ไม่มีการทอผ้าไว้ใช้เอง วัฒนธรรมการทอผ้าได้เลือนหายไป ในปี พ.ศ.๒๕๕๖ น า ย อ ภิ ช า ติ พ ล บั ว ไ ข ห รื อ ค รู ต้ น ซึ่ ง เ ป็ น ลู ก ห ล า น ช า ว บ้ า น โ น น ก อ ก ได้นำการทอผ้าจากภูมิปัญญาดั้งเดิมของชาวบ้านโนนกอกจากผู้สูงอายุในหมู่บ้านและในตำบลหนองนาคำ และ ได้ทดลองการทอผ้าแบบโบราณจนเกิดความชำนาญ โดยได้เริ่มทอผ้าย้อมสีธรรมชาติที่มีอยู่ในท้องถิ่น เช่น เปลือกไม้ ใบไม้ต่างๆ ที่มีในหมู่บ้าน เทคนิคการทอจากปกติ๒ ตะกอเป็น ๓ และ ๔ ตะกอ ในปัจจุบันเป็นที่ชื่นชอบและนิยม จึงได้เกิดแนวคิดจัดตั้งกลุ่มทอผ้าโบราณบ้านโนนกอก เพื่อขยายงานทอผ้าให้กว้างขวางข ึ้ น ท ี่ สำคัญจะได้สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชุมชน นายอภิชาติ พลบัวไข ผู้ใหญ่บ้านโนนกอก เล่าว่า แต่ก่อนไม่ได้มีการทอผ้ามา 20 ปี และเริ่มสูญหายไป จึงอยากฟื้ นฟูการทอผ้าของชุมชน ช่วงแรกยังไม่มีตลาด เน ื่ องจากลวดลายยังไม่สวยและยังดูไม่มีเอกลักษณ์ จนสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดอุดรธานีเข้ามาแนะนำ หลังจากเริ่มศึกษาค้นหาวิธีของตัวเองจนค้นพบวิธีการย้อมผ้า ด้วยบัวแดง เอกลักษณ์ที่สำคัญของชุมชน หลังจากที่โพสต์ลง สื่อโซเชียล มีลูกค้ามาบอกว่าสวย จึงเริ่มขายทาง online มากขึ้นจนถึงปัจจุบัน ทำให้ชาวบ้านมีอาชีพ มีรายได้เพิ่มขึ้น และความเป็นอยู่ดีขึ้น อัตลักษณ์ของชุมชนบ้านโนนกอก ทอผ้าโบราณ ตำนานโนนกอก แพรวพรรณย้อมดอก บัวแดงล้ำค่า เสน่ห์ขิดไหม ก้าวไกลทั่วหล้า สืบสานภูมิปัญญา งามล้ำผ้าไทย การขับเคลื่อนชุมชนบ้านโนนกอก สู่“ชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ขับเคลื่อนด้วย พลังบวร ต้นแบบ” ไม่จำกัดว่าเป็นบทบาทเฉพาะของศาสนสถาน หรือ“วัด” เท่านั้น แต่การมีส่วนร่วมจากคน ทุกภาคส่วน “ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมรับประโยชน์” 3 ฝ่าย “บ-ว-ร” 1)“บ้าน” กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ปราชญ์ชาวบ้าน และบุคลากรจากเอกชน 2) “วัด” ผู้นำทางศาสนา 3) “โรงเรียน” หรือ “ส่วนราชกา”ร ผู้บริหารโรงเรียน สถานศึกษา มหาวิทยาลัย ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ร่วมส่งเสริม “ชุมชนคุณธรรม” แก่เด็ก เยาวชน และประชาชน ให้สามารถดำเนินชีวิตได้อย่าง มีคุณธรรม มีความพอเพียง มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกัน และมีวิถีชีวิตตามกรอบวัฒนธรรมอันดีงามของชาติ


๒ วิธีการขับเคลื่อนชุมชน ๑. การแต่งต ั้ งคณะกรรมการขับเคลื่อนชุมชนคุณธรรม ๒. การฝึกพัฒนาอาชีพ – ของที่ระลึก ให้แก่เด็กเยาวชน นักเรียน นักศึกษา ๓. จัดนิทรรศการ/จำหน่ายผลิตภัณฑ์ของชุมชน ๔. การส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม การน้อมนำหลักธรรมทางด้านศาสนา ๕. การน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การรวมกลุ่มอาชีพในชุมชน เช่น ปลูกผักปลอด สารพิษ กลุ่มออมทรัพย์การทำบัญชีครัวเรือน ๖. การถ่ายทอดภูมิปัญญาการทอผ้าขิดโบราณ , การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน วงกลองยาวอีสาน ๗. การสืบสาน ส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น ตามฮีต ๑๒ ๘. การรวมกลุ่มจิตอาสาทำความดีด้วยหัวใจ เทิดทูนสถาบัน ชาติศาสนาและพระมหากษัตริย์ ๙. การอนุรักษ์ส ิ่ งแวดล้อม การใช้ทรัพยากรในพื้นที่ให้คุ้มค่า ๑๐. การจัดการแหล่งเรียนรู้ฐานการเรียนรู้ด้านศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ ชุมชนจากการท่องเที่ยวในมิติวัฒนธรรม ๑๑. การประชุม ติดตามและประเมินผลการดำเนินงาน


๓ ปัญหาและอุปสรรค ๑. รับนักท่องเที่ยวจำนวนไม่เกิน ๑๐๐ คน เพราะการดูแลไม่ทั่วถึง ๒. ขาดแคลนมัคคุเทศก์การใช้ภาษาต่างประเทศ ๓.ขาดบุคลากร ฝ่ายจัดทำข้อมูลสารสนเทศ การประชาสัมพันธ์ ผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมของชุมชน กลุ่มทอผ้าโบราณบ้านโนนกอก นำเอาภูมิปัญญาการทอผ้าแบบดั้งเดิมจากลวดลายลายจากหมอนขิด อีสานการประยุกต์ขิดลายนาคซึ่งเป็นลายขิดดั้งเดิมในท้องถิ่นผสมกับลายกนกประตูโบสถ์วัดหนองนาคำ ลายขอเล็บแมว และลายขอขิดเกียง ซึ่งเป็นลายดั้งเดิมของบ้านโนนกอก โดยนำสายบัวแดง ดอกบัวแดง และเกสร บัวแดง มาย้อมเส้นไหมที่ใช้ทอ ซึ่งดอกบัวแดงที่นำมาย้อมเกิดขึ้น ในลำห้วยเชียงรวง ที่ไหลผ่านหมู่บ้านโนนกอก ซึ่งจะออกดอกท ั้ งปีจึงทำให้เกิดเป็นที่มาของชื่อลวดลาย มาผสมผสานแนวคิดสร้างสรรค์โดยการนำเอาสายบัวแดง และดอกมาทำเป็นสีย้อมผ้าออกมาเป็นผ้าหมี่ขิดย้อมสีธรรมชาติซึ่งถือว่าเป็นอัตลักษณ์ท้องถิ่นของชุมชนโนนกอก ที่ยังใช้กี่ทอผ้าแบบด ั้ งเดิม (หูก) ในการทอผ้า ผ้าคลุมไหล่แม่แบบขิดเกียง ในการพัฒนาจากแบบร่าง การร่างแบบขิดเกียงผืนนี้ใช้เทคนิคการทอผ้า แบบโบราณ คือการคำนวณเส้นยืนบนแผ่นหูกแบบด้นสด ไม่มีการสร้างกราฟแต่อย่างใด นำภูมิปัญญาดั้งเดิม มาให้ในการเก็บลายจึงได้ลายผ้าตามจินตนาการที่สวยงาม


๔ โครงการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย (CPOT) จังหวัดอุดรธานีประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐


๕ การออกแบบผ้าคลุมไหล่แม่แบบขิดเกียง ลายผ้าในหมอนขิดโบราณจะมีลายผ้าท ี่ แตกต่างกันออกไป แต่ละลายก็จะมีความหมายต่างกัน ลายผ้านั้น จะเกิดจากจิตนาการของช่างทอผ้าในแต่ละคน เช่น ลายหอปราสาทผึ้ง ลายนาคชูสน ลายดอกแก้ว ลายขอแมงงอด ลายตะเภาหลงเกาะ ลายขิดเกียง ฯลฯ ขิดเกียง ในบางท้องถิ่นจะเรียกขิดกาบ ขิดบายศรีแต่ในหมู่บ้านโนนกอกจะเรียกว่าเกียงด้วยเหตุที่ไป เปรียบเทียบกับเกียงฉาบปูน เหตุผลในการที่เลือกลายขิดเกียงมาเป็นแบบในการทำลายบนผืนผ้า ลายขิดเกียงจะเป็นลายท ี่ สามารถไปเป็น ส่วนประกอบของลายขิดต่าง ๆ ได้ เช่น ลายยอดหอปราสาทก็ยังมีขิดเกียงเป็นส่วนประกอบ ลายนาค ลายขอเล็บ แมว ลายปีกนก เป็นต้น ส่วนมากจะปรากฎลายขิดเกียงเป็นส่วนประกอบของผ้าขิดในแต่ละผืน จึงได้เกิด แนวความคิดท ี่ จะสร้างสรรค์ลายผ้าที่มีส่วนประกอบของลายขิดเกียง มาประกอบในแต่ละลายผ้าว่ามีความสวยงาม เพียงใด และลายขิดเกียงนี้ยังนำไปผสามผสานกับลายผ้าต่าง ๆ ได้อย่างลงตัวและสวยงาม สามารถเป็นลายต้นแบบ ให้กับช่างทอผ้าขิดพื้นบ้านได้ ผ้าขิดไหมโบราณบ้านโนนกอก สร้างสรรค์ด้วยการนำแบบมาจาก หน้าบันอุโบสถวัดศรีทัศน์ ตำบลหนองนาคำ อำเภอเมืองอุดรธานีสร้างสรรค์ตามจินตนาการแต่ก็ยังคงไว้ซงึ่ ภูมิปัญญาท้องถิ่นดั้งเดิม เทคนิคพิเศษ การทอผ้าจะใช้เทคนิคการเก็บลายบนตะกอยาว และตะกอลอย การเก็บลายเทคนิคนี้จะทำให้ สามารถทอลายผ้าซ้ำได้ โดยที่ไม่ต้องเริ่มเก็บลายใหม่ เพราะในอดีตช่างทอผ้าจะเก็บลายอยู่ตลอดเวลาทำให้การ ทอผ้าแต่ละผืนใช้เวลานานมากกว่าจะทอเสร็จ ปัจจุบันได้คิดค้นการทอผ้าขิดให้ได้เร็ วขึ้นคือการเก็บลาย ใส่ตะกอยาว หรือตะกอลอยเทคนิคนี้ สามารถทอลายผ้าซ้ำได้โดยไม่ต้องเก็บลายใหม่อยู่ตลอดเวลา ข ั้ นตอนการทำงาน จะเริ่มต้นที่การเตรียมเส้นไหมบ้านท ี่ได้คุณภาพ นำมาฟอกด้วยด่างธรรมชาติจากเหง้ากล้วย และย้อมด้วยสีธรรมชาติจากดอกบัวแดงและสายบัวแดงการขึ้นเส้นยืนก็จะยังคงไว้ซ ึ่ งภูมิปัญญาท้องถิ่นคือการขึ้น เส้นยืนที่ละ ๔ เส้น ทุกขั้นตอนของการทอผ้าจะยังคงไว้ซึ่งการทอแบบโบราณทุกขั้นตอนจะไม่มีเครื่องจักรมา ทุ่นแรงจึงทำให้ผ้าคลุมไหล่ไหมแม่แบบขิด เกียงเป็นผ้าที่มีความประณีตสวยงาม


๖ การย้อมสีจากดอกบัวแดง ๑. ดอกบัวแดงมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ๒. นำดอกบัวแดงที่หั่นแล้วไปตากแดดประมาณ 1 วัน ๓. นำดอกบัวแดงไปต้มกับน้ำเปล่าดอกบัวแดง 1 กิโลกรัมต่อน้ำ 1 ลิตรต้ม 2 ชั่วโมง ๔. กรองน้ำดอกบัวแดงด้วยผ้าขาวบาง ๕. ถ้านำดอกบัวแดงที่ได้ไปต้มอีกครั้ง ๖. นำฝ้ายหรือไม้ที่แช่น้ำไว้1 ชั่วโมง ลงไปยอมใช้เวลา 1 ชั่วโมงไหมฝ้าย 1 กิโลกรัมต่อน้ำบัวแดง 20 ลิตร ๗. นำเส้นไหม-ฝ้าย ที่ย้อมดอกบัวแดง พร้อมน้ำดอกบัวแดง เทลงในโอ่งเล็ก แล้วทิ้งไว้จนกว่าน้ำจะเย็น สีท ี่ได้จากการย้อมดอกบัวแดง คือสีน้ำตาลทอง การย้อมสีจากสายบัวแดง 1. นำสายบัวแดงมาหั่นเป็นชิ้นขนาดประมาณ 5-6 เซนติเมตร 2. นำสายบัวแดงไปตากแดดประมาณ 1 วัน 3. นำสายบัวแดงไปต้มกับน้ำเปล่า -สายบัวแดง 1 กิโลกรัมต่อน้ำเปล่า 2 ลิตร ต้ม 2 ชั่วโมง ๔. กรองน้ำสายบัวแดงด้วยผ้าขาวบาง 5. นำน้ำสายบัวแดงที่ได้กลับไปต้มอีกครั้ง 6. นำไหม-ฝ้าย ที่แช่ไว้ 1 ชั่วโมงลงไปย้อม 1 ชั่วโมง -เส้นไหม หรือเส้นฝ้าย 1 กิโลกรัมต่อน้ำบัวแดง 20 ลิตร 7. นำเส้นไหม เส้นฝ้าย ที่ย้อมบัวแดง พร้อมนำสายบัวแดง ใส่โอ่งเล็กแล้วทิ้งไว้จนเย็นสี ท ี่ได้จากย้อมสายบัวแดง คือ สีเทาเงิน การประกอบร่างผลิตภัณฑ์ ๑. การร่วมรวมลายผ้าจากหมอนขิด ที่มีอยู่ในหมู่บ้านโนนกอก มาเป็นต้นแบบในการสร้างสรรค์ผลงาน การรวบรวมลายจากหมอนขิดทำให้ได้เห็นถึง วัฒนธรรมในการทอผ้าของคนรุ่นเก่าในการสร้างสรรค์ลายขิดจนเกิด เป็นตำนานเล่าขาน ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ ๒. การเตรียมเส้นใยไหม เส้นไหมจะใช้ไหมไทยที่ผ่านตรานกยูงพระราชทานสีทองจากศูนย์หม่อนไหม เฉลิมพระเกียรติอุดรธานี นำมาฟอกกาวด้วยการใช้ด่างธรรมชาติจากการเผ่าเหง้ากล้วยแล้วนำขี้เถ้ามาผสมน้ำแล้ว กรองเพื่อจะได้น้ำด่างธรรมชาติ ขั้นตอนต่อไปนำเส้นไหมมาย้อมด้วยดอกบัวแดงตากแห้ง และสายบัวแดงตากแห้ง เพื่อทำเส้นพุ่ง ส่วนเส้นยืนจะย้อมด้วยครั้งผสมคราม ในทุกขั้นตอนจะใช้วิธีแบบโบราณ การกวักไหมใส่อัก การค้น เครือหรือขึ้นเส้นยืน การปั่นหลอดก็จะใช้วิธีทำด้วยมือทั้งหมด ในขั้นตอนน ี้ จะทำให้ได้เรียนรู้การใช้ธรรมชาติให้เกิด ประโยชน์ เรียนรู้ถึงภูมิปัญญาดั่งเดิม ทำให้รู้ว่าการทอผ้าแบบโบราณที่ค่อยๆทำแต่ละขั้นตอน และใส่ใจใน รายละเอียดทุกๆขั้นตอน จะทำให้ได้ผ้าขิดไหมท ี่ สวยงามและประณีตท ี่ สุด ๓. ปัญหาในการประกอบสร้าง ด้วยความชำนาญในการทอผ้าที่มีอยู่ และทุกขั้นตอนจะทำด้วยความใส่ ใจในรายละเอียด จึงทำให้ไม่มีปัญหาในหารประกอบสร้าง แต่ได้ประสบการณ์ใหม่ๆเกิดขึ้นนั้นก็คือ การที่เก็บ


๗ ลายขิดเกียง ๑๒ ลายอยู่ในช่องเดียวกัน เพราะผ้าขิดแต่ก่อนจะเก็บเพียงลายเดียวอยู่ในช่องเดียว การสร้างสรรค์ ผ้าแม่แบบขิดเกียง ๑๒ ลาย ได้ท ั้ งความรู้ถึงภูมิปัญญาดั้งเดิม และได้เรียนรู้ท ี่ จะสร้างสรรค์เพิ่มเติมก่อเกิด ผลิตภัณฑ์ใหม่ขึ้นมา แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งภูมิปัญญาและวัฒนธรรมท้องถิ่นไว้ได้อย่างลงตัว การเก็บรายละเอียดผลิตภัณฑ์ ในการส่งต่องานให้กับช่างทอผ้านั้น ปัญหาจะเกิดในครั้งแรกคือ ช่างทอยังไม่เข้าใจในลายผ้า และ เทคนิคการทอจึงทำให้ผ้าทอมีปัญหา ทอลายเพี้ยนไปจากเดิมและความละเอียดของผืนผ้า การแก้ปัญหาก็คือการ ตรวจผลงานเก็บลายละเอียด ขั้นตอนน ี้ จะต้องทำความเข้าใจกับช่างทอให้ละเอียด ให้ช่างทอทำความเข้าใจในลายผ้า และเทคนิคการ ทอผ้าในรูปแบบนี้จนเกิดความเข้าใจ แนะนำไปที่ละขั้นตอนอย่างละเอียด ทำให้ช่างทอเห็นถึงการใส่ใจใน รายละเอียดของการทอผ้า เมื่อเกิดปัญหาก็ค่อยๆแก้ปัญหาไปที่ละขั้นตอน ให้กำลังใจช่างทอเมื่อเกิดปัญหาขึ้น ผลดีของการเก็บรายละเอียดทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีความประณีตมีคุณภาพ มีคุณค่าน่าครอบครอง ผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย (CPOT) ประเภทสร้างสรรค์รางวัลเหรียญเงิน ปี ๒๕๖๐ รายการ ผ้าไหมคลุมไหล่ แม่แบบขิดเกียงย้อมบัวแดงและสายบัวแดง


๘ แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์: ผ้าคลุมไหล่จากขิดเกียงในหมอนขิดอีสาน ที่มีอยู่ในหมู่บ้านนำมา ผสมผสานแนวความคิดตามจินตนาการ จึงได้ก่อเกิดผ้าไหมลายขิดเกียง ๑๒ ลายในผืนผ้า เพื่อท ี่ จะได้เป็นผ้า ต้นแบบในการเก็บลาย เพื่อคนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้ต่อไป ผ้าลายสายธารนาคเชียงนาครวง ย้อมสีจากดอกบัวแดงและสายบัวแดง ผ้าลายสายธารนาคเชียงนาครวง ย้อมสีจากดอกบัวแดงและสายบัวแดง ได้รับรางวัล CPOT หรือ การจัดระดับคุณภาพมาตรฐานผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทยระดับเหรียญทองประจำปี2559 จากกระทรวงวัฒนธรรม โดยการประยุกต์ขิดลายดั้งเดิมในท้องถิ่นผสมกับลายกนกประตูโบสถ์ขอเล็บแมวและลายขอเกียงซึ่งเป็นลายดั้งเดิม ของหมู่บ้านโนนกอก ได้นำมาผสมผสานและออกแบบรายใหม่โดยนำสายบัวแดงและดอกบัวแดง มาย้อมเส้นไหมที่ ใช้ทอซึ่งดอกบัวแดงที่นำมาย้อมเกิดขึ้นในลำห้วยเชียงรวงที่ไหลผ่านหมู่บ้านโนนกอก จึงทำให้เป็นที่มาของชื่อ ลวดลายของผ้าสายธารนาคเชียงรวง ผ้าขิดไหมหรือผ้ามัดหมี่ เป็นผ้าย้อมสีธรรมชาติที่ภูมิปัญญาด ั้ งเดิมค้นควา้ไว้ คือ สีแดงจากครั่งและสีจากเปลือกมะม่วง คิดค้นใหม่สีเงิน ได้จากสายดอกบัวแดงตากแห้ง สีทอง ได้จากดอกบัว แดงตากแห้ง สีชมพูได้จากดอกบัวแดงสด ผ้าคลุมไหล่ ผ้าขิดฝ้าย ลายจากผ้าห่อพระคัมภีร์ใบลานโบราณ (ผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย ประเภทอนุรักษ์) แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์จากสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดอุดรธานีท ี่ได้สืบค้นปริวรรตข้อมูลใบลานเก่า ของ พระครูพิพฒน์วิทยาคม (หลวงพ่อเจริญ ฐานยุตฺโต) วัดโนนสว่าง อำเภอหนองวัวซอ พบว่า ลายบนผืนผ้าห่อ พระคัมภีร์ใบลานโบราณ มีความเก่าและงดงามมาก จึงขออนุญาตถ่ายภาพมาเป็นต้นแบบ นำมาให้กลุ่มทอผ้าโบราณ บ้านโนนกอก แกะลวดลายและคิดประยุกต์ลายขึ้น เพื่อต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าขิดฝ้าย ลายจากผ้าห่อ พระคัมภีร์ใบลานโบราณที่มีคุณค่า


๙ ผ้าห่อพระคัมภีร์ใบลานโบราณ วัดโนนสว่าง ผ้าขิดฝ้าย ลายจากผ้าห่อพระคัมภีร์ใบลานโบราณ ศาสนสถาน /โบราณสถาน (แหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ใกล้คียง) "พระธาตุโพนทอง” ตั้งอยู่ ติดถนนอุดรธานี-สกลนคร ตำบลหนองนาคำ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี เป็นที่สักการะบูชา ของชาวขอม ในสมัยน ั้ น ถือเป็น "วัด" ที่มีความสำคัญ เนื่องจากมีพระพุทธรูปท ี่โดดเด่นและสวยงามอยู่หลายองค์ มีตำนานเล่าขานว่า สมัยพุทธกาล มีพระอรหันต์จำนวน 8 รูป เดินทางมุ่งหน้าไปกราบนมัสการอัฐิธาตุ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยัง "ภูกำพร้า" (พระธาตุพนม) อ.พระธาตุพนม จ.นครพนม หลังจากที่เดินทางกลับมา เกิดอาการอาพาธหนัก ท่านรู้ว่า ตนเองจะมรณภาพ จึงได้ปักกลดนั่งสมาธิและได้ดับขันธ์ปรินิพพาน ณ บริเวณ ที่ก่อตั้งพระธาตุโพนทองแห่งนี้ พระธาตุโพนทอง มีลักษณะเป็นรูปแปดเหลี่ยม ฐานกว้าง ๘ เมตร ความสูงจากฐานถึงยอดสูง ๑๐ เมตร เดิมเป็นที่บรรจุอัฐิพระอรหันต์พร้อมมีการบรรจุพระพุทธรูปทองคำไว้ข้างใน ทุกวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7 ชาวขอมโบราณที่อยู่ใกล้บริเวณพระธาตุโพนทอง จะมารวมตัวกัน เพื่อจุด บ ั้งไฟบูชาองค์พระธาตุเป็นประจำทุกปีโดยเชื่อว่าจะเกิดส ิ่ งมหัศจรรย์ข ึ้ นรอบองค์พระธาตุโดยจะมีลูกแก้วส่อง ประกายวนเวียนไปรอบองค์พระธาตุซึ่งชาวบ้านถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทำให้ชาวบ้านพากันทำบั้งไฟจุดบูชาขอพร จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นอกจากน ี้ พระพุทธรูปทองคำ ได้ถูกอัญเชิญไปประดิษฐานยังสถานท ี่ ต่างๆแต่การเคลื่อนย้าย ทำให้ เกวียนใช้บรรทุกหักไปถึง 7 เล่ม ในเวลาเดียวกัน ชาวบ้านหนองนาคำ ได้นำเอาพระพุทธรูปทองคำ จำนวน 3 องค์ ใหญ่ หน้าตักกว้าง 50 เซนติเมตร สูง 100 เซนติเมตรไปประดิษฐานไว้ที่วัดศรีทัศน์บ้านหนองนาคำ ปัจจุบัน ประชาชนชาวตำบลหนองนาคำ ตำบลหนองบัว ตำบลหนองขอนกว้าง และชาวจังหวัด อุดรธานียังคงกราบไหว้ขอพร และจัดงานประเพณีท้องถิ่น สัตยาธิษฐาน สืบสานประเพณีไหว้สา พระธาตุโพนทอง


๑๐ แหล่งเรียนรู้เชิงเกษตรของชุมชน (แหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงในพื้ นที่ใกล้เคียง) สวนตาลคู่ ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 333 ริมห้วยเชียงรวง บ้านนาหวาน ม.11 ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ. อุดรธานีของนายอำนาจ ผการัตน์อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร-กาญจนบุรี-อุดรธานี-สกลนคร เป็นศูนย์เรยนรู้ อินทผลัม ท ี่ใหญ่ท ี่ สุดในจังหวัดอุดรธานี เปิดสวนให้คำปรึกษาการปลูก จำหน่ายต้นกล้า ผลสด และผลิตภัณฑ์แปร รูปอินทผลัม เป็นศูนย์รวมองค์ความรู้เกษตรกรรมแบบ 4.0 การปลูกพืชหลายชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การปลูก มะนาวในวงท่อ แหล่งกิ่งพันธุ์มะนาว 10 สายพันธุ์ และการแปรรูปมะนาว และสวนอินทผลัม จากที่เริ่มด้วยสาย พันธุ์จากเมล็ด มาเป็นพันธุ์“บาฮี” จากการเพาะเนื้อเยื่อ 450 ต้น


๑๑ สรุปผลงานโครงการ/กิจกรรม ที่โดดเด่นของชุมชนคุณธรรมบ้านโนนกอก ร่วมกับ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดอุดรธานี ปี2559 ๑. ผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย CPOT ปี๒๕๕๙ เหรียญทอง รายการ ผ้าขิดไหมย้อมสายบัวแดง ๒. เป็นผู้ทำคุณประโยชน์ต่อกระทรวงวัฒนธรรม รางวัล “วัฒนคุณาธร”กลุ่มทอผ้าโบราณบ้านโนนกอก ๓. เป็นเจ้าภาพพานบายศรีสู่ขวัญ งานเฉลิมฉลองเมืองอุดรธานีสู่ปีท ี่ ๑๒๔ ปี ปี๒๕๖๐ ๑. รางวัล ผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย CPOT ปี ๒๕๖๐ เหรียญเงิน รายการผ้าคลุมไหล่แม่แบบขิดเกียงย้อมดอกบัวแดงและสายบัวแดง ๒. การขับเคลื่อนชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ต้นแบบ ๓. เป็นบุคคลต้นแบบ การอนุรักษ์การแต่งผ้าไทยในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ บ้านโนนกอก ๔. เป็นเจ้าภาพพานบายศรีสู่ขวัญ งานเฉลิมฉลองเมืองอุดรธานีสู่ปีท ี่ ๑๒๕ ปี ปี2561 ๑. การขับเคลื่อนชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ต้นแบบ ๒.ขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม จังหวัดอุดรธานีสาขางานช่างฝีมือดั้งเดิม ประเภทผ้าและผลิตภัณฑ์จากผ้า รายการ “ผ้าขิดไหมสายบัวแดง” บ้านโนนกอก ตำบลหนองนาคำ อำเภอเมืองอุดรธานีจังหวัดอุดรธานี ๓. เป็นวิทยากรบรรยาย ตามโครงการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย CPOT ๔. เป็นวิทยากรบรรยาย ตามโครงการครอบครัวอบอุ่นชุมชนเข้มแข็ง ๕. เป็นเจ้าภาพพานบายศรีสู่ขวัญ งานเฉลิมฉลองเมืองอุดรธานีสู่ปีท ี่ ๑๒๖ ปี ปี2562 ๑. การขับเคลื่อนชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ต้นแบบ ๒. การจัดงานประเพณีวันลอยกระทง บ้านโนนกอก ๓. เป็นเจ้าภาพพานบายศรีสู่ขวัญ งานเฉลิมฉลองเมืองอุดรธานีสู่ปีท ี่ ๑๒๗ ปี ๔. โครงการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย CPOT (ผ้าคลุมไหล่ ลายจากผ้าห่อพระคัมภีร์ใบลานโบราณ) ปี2563 ๑. เป็นเจ้าภาพพานบายศรีสู่ขวัญ งานเฉลิมฉลองเมืองอุดรธานีสู่ปีท ี่ ๑๒๘ ปี ๒. การจัดงานประเพณีวันลอยกระทง บ้านโนนกอก ๓. โครงการพัฒนาต่อยอดทุนทางวัฒนธรรม ตามรอยศาสตร์พระราชาเพื่อชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน (บวร On Tour) ของชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ขับเคลื่อนด้วยพลังบวร จังหวัดอุดรธานีประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 3.1 ค้นหาเสน่ห์ชุมชน ระดมความคิดเห็นคันหาเสน่ห์ความโดดเด่นของชุมชน เช่น เทศกาล ประเพณีศิลปะการแสดง อาหาร การแต่งกาย ภาษา พิธีกรรม ความเชื่อ ฯลฯ


๑๒ 3.2 จัดทำเส้นทางท่องเที่ยว และกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว เช่น แหล่งท่องทาง วัฒนธรรม/ธรรมชาติศูนย์เรียนรู้ทางการเกษตรศิลปะวัฒนธรรม ฐานการเรียนรู้ 3.3 พัฒนาโรงทอผ้าเป็นศูนย์เรียนรู้ต้อนรับนักท่องเที่ยวแบบญาติมิตร ความสะอาด ความ ปลอดภัย เอาใจใส่ เสริมกิจกรรมการมีส่วนร่วมของนักท่องเที่ยว 3.4 พัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน ตราสัญลักษณ์ผลิตภัณฑ์ที่สะท้อนอัตลักษณ์ของชุมชน/ บรรจุภัณฑ์ท ี่ สวยงาม เป็นมิตรต่อส ิ่ งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์ของฝาก ของที่ระลึกของชุมชน 3.5 จัดส ิ่ งอำนวยความสะดวก เช่น จุดบริการนักท่องเที่ยว ป้ายชุมชนคุณธรรม/ บวร O Tourแผ่นพับ แผ่นปลิว แสดงข้อมูลเส้นทางและ หรือแผนที่ท่องเที่ยว 3.6 ปรับสภาพแวดล้อมชุมชนให้สะอาด เรียบร้อย สวยงาม เช่น การจัดการขยะ ปรับภูมิทัศน์แหล่งท่องเที่ยวจุดเช็คอิน การสั่งซื้อสินค้าชุมชนผ่านระบบออนไลน์ 3.7 การบริหารจัดการท่องเที่ยวเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ของชุมชน และการ แบ่งหน้าท ี่ ความรับผิดชอบ การรวมกลุ่ม การแบ่งปันผลประโยชน์ 3.8 ร่วมจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ทางสื่อโซเชียล Youtube.com อาทิเช่น ๑. เปิดตำนานกับเผ่าทอง EP.137 ตอน อุดรธานี(บ้านโนนกอก) 2/4 https://www.youtube.com/watch?v=yj5tUiyONFM


๑๓ ๒. คนไทย หัวใจไม่ท้อ.. CH.5 ( 28 ธ.ค.2562 ) | บ้านโนนกอก อ.เมือง จ.อุดรธานี https://www.youtube.com/watch?v=5IQemvWC8UI&t=420s ๓. รายการเที่ยวละไม ไทยแลนด์เวิลด์.. CH.3 ( 10 พ.ย.2562 ) | บ้านโนนกอก | บ้านนา คาเฟ่อ.เมือง จ.อุดรธานีhttps://www.youtube.com/watch?v=8gpi_bvqKwE&t=925s


๑๔ ๔. วันท ี่ 18 ก.ย.63 เวลา 18.00 น. เพจ “กองทุนพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์” เผยแพร่คลิปวีดีโอ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ทรงทำคลิปวีดีโอร่วมกับพระสหาย และทีมงานกองทุนฯ ตอนท ี่ 2 Ep.1 องค์หริภา ประทานคลิปเสด็จตามหาผ้ามัดย้อมสีกลีบบัว ชาวเน็ตช ื่ นชม สนุกได้ความรู้.https://www.youtube.com/watch?v=34QppKJ4N0c&t=130s


๑๕ ปี2564 ๑. การขับเคลื่อนชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง "บวร On Tour" ๒.กิจกรรมการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย ภายใต้โครงการการยกระดับและ ส่งเสริมการท่องเที่ยวยุคก่อนประวัติศาสตร์ กิจกรรมการมีส่วนร่วมของนักท่องเที่ยว การมัดย้อมผ้า สีธรรมชาติ ทำข้าวเกรียบ (ข้าวเคียบ) การบีบข้าวปุ้นร้อน การประดิษฐงานใบตอง ขันหมากเบ็ง


๑๖ การทอผ้าลายขิด การย้อมฝ้าย สีจากดอกบัวแดง และสายบัวแดง นายอภิชาติพลบัวไข ผู้ใหญ่บ้าน และที่ปรึกษากลุ่มทอผ้าโบราณบ้านโนนกอก โทรศัพท์093-5478285 ********************************************* สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดอุดรธานี โทรศัพท์ 042 2478๐๒ โทรสาร ๐๔๒ ๒๑๒ ๕๓๘ e-mail : [email protected] นางสาวชลดา พิทักษ์สฤษดิ์ นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ กลุ่มกิจการพิเศษ มือถือ 081-8747252


๑๖


Click to View FlipBook Version