The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอนเรื่อง รูปร่าง ลักษณะและจำนวนโครโมโซม ใช้ประกอบการประเมินภาค ค สังกัด สพฐ.

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pannipa phoka, 2022-03-13 12:09:24

แผนการสอน พรรณิภา พ่อค้า

แผนการสอนเรื่อง รูปร่าง ลักษณะและจำนวนโครโมโซม ใช้ประกอบการประเมินภาค ค สังกัด สพฐ.

40

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฎบิ ตั ิงานรายบุคคล

พฤติกรรม รายการประเมิน/ระดับคะแนน

ท่ี มวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ มั่นในการทางาน หมายเหตุ
ชอ่ื -สกุล
432143214321

เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงช่ือ.......................................................ผสู้ ังเกต
ดีมาก = 4 (....................................................)
ดี = 3 .............../............../...............
พอใช้ = 2
ปรบั ปรงุ = 1

41

เกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบสังเกตพฤตกิ รรมการปฏิบัตงิ านรายบุคคล

คณุ ลักษณะท่พี ึง ระดบั คุณภาพ
ประสงค์
4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรุง)
1. มวี นิ ัย
แต่งกายถกู ระเบียบ แต่งกายถกู ระเบียบ แต่งกายถูกระเบยี บ แตง่ กายไมถ่ กู
2. ใฝเ่ รียนรู้
และประพฤตติ น และประพฤติตนตาม และประพฤตติ นตาม ระเบียบและไม่
3. มงุ่ มั่นในการ
ทางาน ตามข้อตกลงของ ข้อตกลงของ ขอ้ ตกลงของ ประพฤติตนตาม

ครผู ู้สอน เข้าเรียน ครูผสู้ อน เข้าเรียน ครูผู้สอน เข้าเรียน ขอ้ ตกลงของ

ตรงต่อเวลาและส่ง ตรงตอ่ เวลาและส่ง ตรงตอ่ เวลาและส่ง ครูผสู้ อนเข้าเรียน

งานในเวลาท่ี งานในเวลาที่กาหนด งานในเวลาทีก่ าหนด สายและส่งงานเกิน

กาหนดทุกครัง้ ประมาณร้อยละ 80 ประมาณรอ้ ยละ 50 เวลาทีก่ าหนดทุกครง้ั

นักเรียนมีความใสใ่ จ นกั เรยี นมคี วามใสใ่ จ นักเรียนมีความใส่ใจ นกั เรยี นไม่มคี วามใส่

กระตือรอื รน้ ชอบ กระตือรือรน้ ชอบ กระตอื รือร้นชอบ ใจกระตือรอื ร้นและ

ซักถามทุกครั้ง ซักถามบ่อยครั้ง ซักถามบางครั้ง ซักถาม

มีความเพียร มคี วามเพียรพยายาม มีความเพยี รพยายาม ไมม่ ีมีความเพยี ร

พยายามในการ ในการเรยี นรู้ และ ในการเรยี นรู้ และ พยายามในการ

เรียนรู้ และ เข้าร่วมกิจกรรมการ เข้ารว่ มกจิ กรรมการ เรียนรู้ และเข้ารว่ ม

เขา้ รว่ มกจิ กรรมการ เรียนรตู้ ่าง ๆ เรียนรตู้ า่ ง ๆ กิจกรรมการเรยี นรู้

เรียนรู้ตา่ ง ๆ เป็น ประมาณร้อยละ 80 ประมาณร้อยละ 50 ตา่ ง ๆ

ประจา

42

บนั ทกึ ผลหลังการสอน
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่.ี ........................เรอ่ื ง.................................................................................................
ผลการเรียนรู้

1. กจิ กรรมการเรียนการสอนท่ีกาหนดไว้ในแผนการจัดการเรียนรู้ เป็นกิจกรรมที่เหมาะสม กับวัยของผู้เรียน
และเหมาะสมกับสาระการเรียนรสู้ ามารถจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน

 ไดต้ ามเวลาท่ีกาหนดทุกกิจกรรม

 ไม่ทันตามเวลาท่ีกาหนดในกจิ กรรมเน่ืองจาก..................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................

2. การจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนคร้งั นี้ นกั เรียนทกุ คนไดร้ ว่ มกิจกรรมและเรยี นรู้ อย่างมคี วามสขุ
3. กิจกรรมช่วยให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจตรงตามสาระการเรียนรู้ เกิดคุณลักษณะที่ พึงประสงค์และมี
ทักษะกระบวนการตามท่ีจดุ ประสงค์กาหนด
4. สอ่ื การเรยี นการสอนทกี่ าหนดในแผนการจัดการเรียนรูไ้ ดใ้ ช้ส่ือหลายอย่าง เป็นส่ือ ท่ีเหมาะสมกับวัยผู้เรียน
สอดคลอ้ งกับเนื้อหาสามารถใชป้ ระกอบการจดั กิจกรรมการเรียนการสอน ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ช่วยให้ผู้เรียนเรียนรู้อย่าง
สนกุ สนานและเข้าใจบทเรียนได้เร็วยิ่งข้ึน
5. การวัดผลประเมินผลในการจัดการเรียนการสอนครั้งนี้ครอบคลุมพฤติกรรม ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ท่ี
กาหนดในแผนการจัดการเรยี นรู้ ผลการวัดผลและประเมนิ ผลสรุปได้ ดงั นี้
5.1 ด้านความรู้ความเขา้ ใจ (K)

- นกั เรียนผา่ นจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรูข้ ้อที่ .............................
- นกั เรียนทผ่ี ่านจดุ ประสงคต์ ามเกณฑ์ร้อยละ.....................................จานวน...................................คน
เลขที่ .............................................................................................คิดเป็นร้อยละ..................................
- นักเรียนทีไ่ ม่ผ่านจดุ ประสงค์ จานวน............คน
เลขท่ี .............................................................................................คิดเป็นร้อยละ..................................
และได้ดาเนนิ การแกป้ ัญหา คอื .…………………………………………………………………………………………………

 สอนเสริม  มอบงานให้ทาเพมิ่ เติม  ทารายงาน  อ่ืน ๆ...................
5.2 ดา้ นทักษะกระบวนการ (P)

- นักเรียนทผ่ี า่ นทักษะกระบวนการตามเกณฑร์ อ้ ยละ............................จานวน................................คน
เลขท่ี .............................................................................................คิดเป็นร้อยละ..................................
- นักเรียนทไี่ ม่ผ่านทกั ษะกระบวนการ จานวน............คน
เลขที่ .............................................................................................คิดเป็นร้อยละ..................................

43

5.3 ด้านคา่ นิยม (A)
- นักเรยี นที่มคี า่ นิยมตามเกณฑร์ ้อยละ จานวน............คน
เลขท่ี .............................................................................................คิดเป็นร้อยละ..................................
- นักเรียนทตี่ ้องปรบั เปลย่ี นค่านยิ ม จานวน............คน
เลขท่ี .............................................................................................คิดเป็นร้อยละ..................................
และได้ดาเนินการปรับเปล่ียนค่านิยม (แจงรายละเอียดของการปรับเปล่ียนค่านิยม)

คอื …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
...................................................................................... .................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………....

นวตั กรรมทใ่ี ชใ้ นการจดั การเรียนการสอน
การจัดการเรียนการสอนในครั้งน้ีได้จัดทาส่ือการเรียนการสอนท่ีเป็นนวัตกรรม คือ (Power Point เร่ือง

…....................... , เอกสารประกอบการสอน เรือ่ ง .............................. , เกม ............................... , ฯลฯ )
ระบชุ ื่อนวตั กรรม
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

วิจัยในช้นั เรยี น
ในการแก้ปัญหานักเรียนที่ไม่ผ่านด้านความรู้ความเข้าใจ ด้านทักษะกระบวนการ (ด้านค่านิยม) จึงได้

ทาการศึกษาค้นคว้าวิจัยในช้ันเรียนเรื่อง ......................................................................................................................
ผลท่ีได้จากการวจิ ยั ปรากฏวา่ นกั เรยี น ............................................................................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ปญั หาและอุปสรรค……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
แนวทางการแก้ไขปญั หา……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ลงช่ือ..........................................................ผู้สอน
(นางสาวพรรณภิ า พ่อค้า)

...................../........................../.................

44

ภาคผนวก

 ใบความรู้
 ใบกิจกรรมท่ี 1
 แนวคาตอบใบกิจกรรมท่ื 1

45

ใบความรูท้ ี่ 1
รปู รา่ ง ลักษณะ และจานวนโครโมโซม

นักเรียนได้ทราบมาแลว้ วา่ เซลล์ท่ียังไม่มีการแบ่งเซลล์น้ัน โครโมโซมจะมีลักษณะเป็นเส้นเล็กยาวขดพันกันอยู่
ภายในนวิ เคลยี สเรียกว่า โครมาทิน เม่ือมีการแบ่งเซลล์ โครโมโซมจะจาลองตัวเองเป็นเส้นที่เหมือนกันทุกประการใน
ระยะอินเตอร์เฟส แลว้ จึงขดสั้นและหนาขึน้ สามารถเหน็ ไดอ้ ยา่ งชัดเจนที่สุดในระยะเมทาเฟส จากการย้อมด้วยสีย้อม
DNA เช่น สแี อซโี ทคารม์ นี หรอื ฮีมาทอซิลิน เป็นต้นสิ่งมีชีวิตชนิดหน่ึงอาจมีโครโมโซมที่มีรูปร่างแบบเดียวหรือหลาย
แบบกไ็ ด้ นักเรยี นสามารถศึกษาโครโมโซมแบบต่าง ๆ ไดด้ ังภาพ ขา้ งลา่ ง

ภาพที่ 1 ภาพโครงสร้างโครโมโซม
(ท่มี า : https://static.trueplookpanya.com)
เมื่อมีการแบ่งเซลล์โครโมโซมแต่ละแท่งจะประกอบด้วย 2 โครมาทิด (Chromatid) ท่ีเหมือนกันซ่ึงเกิดจาก
การทโ่ี ครโมโซมจาลองตัวเองขนึ้ โดยโครมาทดิ ท้ังสองจะติดกันตรงเซนโทรเมียร์ (Centromere) ที่ตาแหนง่ ต่าง ๆ ทา
ใหโ้ ครโมโซม มีรูปรา่ งหลายแบบ โดยโครโมโซมมีรปู ร่าง 4 แบบ ดังนี้

ภาพท่ี 2 ลกั ษณะของโครโมโซมขณะแบ่งเซลลแ์ บบไมโทซิส
(ทีม่ า : http://file.siam2web.com/mygene/pun/2010113_82119.jpg)

46
1. เมตาเซนตรกิ (Metacentric) คอื โครโมโซมทม่ี ีจุดเช่อื มอยตู่ รงกลางและทาให้แขนท้ังสองด้านที่ย่ืนออกมา
คอ่ นขา้ งเทา่ กัน
2. ซบั เมตาเซนตริก (Submetacentric) คือ โครโมโซมท่ีมีจุดเช่ือมต่อค่อนไปด้านใดด้านหน่ึง ทาให้แขนของ
โครโมโซมยืน่ ออกมาไม่เท่ากัน
3. อะโครเซนทริก (Acrocentric) คือ โครโมโซมที่มีจุดเชื่อมต่ออยู่บริเวณเกือบจะปลายสุด ซึ่งทาให้แขนของ
โครโมโซมดา้ นหน่ึงย่ืนออกมาเปน็ ส่วนเล็ก ๆ
4. เทโลเซนทริก (Telocentric) คือ โครโมโซมทีม่ ีจดุ เชื่อมตอ่ อยบู่ ริเวณปลายสดุ ของแขนโครโมโซม

ภาพที่ 3 ตาแหน่งของเซนโทรเมยี ร์
(ท่ีมา : https://www.scimath.org/images/uploads/C3.jpg)
ในสง่ิ มชี วี ิตทีเ่ ซลล์ร่างกาย มโี ครโมโซม 2 ชดุ เรยี กว่า ดิพลอยด์ เชน่ คน โดยโครโมโซมชุดหนึง่ ได้รับมาจากพ่อ
อีกชุดหนงึ่ ไดร้ บั มาจากแม่ เมื่อมีการแบ่งเซลลแ์ บบไมโอซสิ โครโมโซมทีเ่ ปน็ คกู่ นั จะมาเขา้ คู่กนั แล้วแยกออกจากกันไปสู่
เซลล์ลูกที่สร้างขึ้น เม่ือเสร็จสิ้นการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส โครโมโซมในเซลล์ลูกที่ เกิดขึ้นจะลดลงคร่ึงหน่ึงเรียกว่า
แฮพลอยด์ โดยทั่วไปแล้วสงิ่ มชี ีวติ แตล่ ะสปีชสี จ์ ะมีจานวนโครโมโซมคงทีด่ งั ตารางขา้ งล่างน้ี

ตารางท่ี 1 จานวนโครโมโซมในเซลล์ร่างกายของส่ิงมชี วี ิตตา่ ง ๆ
(ทมี่ า : http://www.thaischool1.in.th)

ช่อื ..........................................................................ชั้น..................เลขที่................. 47

ใบกจิ กรรมท่ี 1

เรอ่ื ง รูปรา่ ง ลกั ษณะ และจานวนโครโมโซม

คาช้แี จง : ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามต่อไปน้ีให้ถกู ต้องสมบรู ณ์ (คะแนนเต็ม 10 คะแนน)
1. ในเซลล์ของส่งิ มีชวี ิตจะพบโครโมโซมอยู่ทบ่ี รเิ วณ..........................................................................................................
2. โครโมโซมทมี่ ลี ักษณะคล้ายเส้นด้ายบาง ๆ เรยี กว่า ......................................................................................................
3. โครโมโซมจากภาพมรี ปู รา่ งแบบใด

.............................................................................................

.............................................................................................

.............................................................................................

.............................................................................................

4. เม่อื นาเซลล์ใบกลว้ ยและเซลล์มะเขอื เทศมาศกึ ษาพบว่า มีจานวนโครโมโซม 22 แท่งและ 24 แท่ง ตามลาดับแต่เมื่อ
นาละอองเรณมู าศึกษาจะพบจานวน โครโมโซมเทา่ กับ.................................แทง่ และ...............................แท่ง ตามลาดับ
ใชข้ ้อมูลจากภาพโครโมโซมของคนตอบคาถามขอ้ 5-7

5. โครโมโซมในภาพเป็นเพศ......................โดยดจู ากโครโมโซมคทู่ ่.ี ..............ซึ่งโครโมโซมคู่นี้เรียกว่า................................
6. โครโมโซมซ่ึงมีลักษณะเหมือนกันทั้งเพศชายและเพศหญงิ คอื โครโมโซมค่ทู .ี่ .................................................................

เรียกโครโมโซมเหล่าน้ีวา่ ...............................................................................................................................................

48
7. เซลล์ไข่และเซลล์ผวิ หนังของคนในภาพมจี านวนโครโมโซมเท่ากันหรอื ไม่.....................................................................
คือ.......................................................................................................................................................................................
8. สารพันธกุ รรมทม่ี ีลักษณะเป็นเกลยี วคู่ เรียกว่า ............................และบางส่วนของสารนี้ทาหน้าท่ีเป็นหน่วยควบคุม
ลกั ษณะทางพันธุกรรม เรียกว่า .........................................................................................................................................
9. แบบของโครโมโซมเพศชายคือ......................................................................................................................................

แบบของโครโมโซมเพศหญงิ คอื ......................................................................................................................................
10. โครโมโซมในเซลล์ร่างกายจะมรี ปู ร่างลักษณะเหมือนกันเป็นคู่ ๆ เรยี กว่า...................................................................

กจิ กรรมมจี านวน 10 ข้อ นักเรียนตอบถูกตอ้ ง ................................ ขอ้

........................................................
(นางสาวพรรณภิ า พอ่ คา้ )
(ผ้ตู รวจ)

เกณฑก์ ารประเมิน
คะแนนระหว่าง 9 - 10 อย่ใู นเกณฑ์ ดมี าก
คะแนนระหวา่ ง 7 - 8 อยใู่ นเกณฑ์ ดี
คะแนนระหวา่ ง 5 - 6 อยู่ในเกณฑ์ พอใช้
คะแนนระหวา่ ง 0 - 4 อยู่ในเกณฑ์ ปรบั ปรงุ แกไ้ ข

49

แนวคาตอบใบกจิ กรรมท่ื 1

เรอ่ื ง รูปรา่ ง ลักษณะ และจานวนโครโมโซม
คาชแ้ี จง : ให้นักเรยี นตอบคาถามต่อไปนใ้ี ห้ถูกต้องสมบูรณ์ (คะแนนเต็ม 10 คะแนน)
1. ในเซลล์ของสง่ิ มีชีวิตจะพบโครโมโซมอยู่ทบ่ี รเิ วณ.............นวิ เคลยี ส..........................................................................
2. โครโมโซมทม่ี ีลักษณะคล้ายเส้นด้ายบาง ๆ เรยี กว่า ................โครมาทิน......................................................................
3. โครโมโซมจากภาพมีรปู ร่างแบบใด

................................Metacentric......................................

...........................Submetacentric...................................

....................................Acrocentric....................................

.....................................Telocentric...................................
4. เม่ือนาเซลล์ใบกล้วยและเซลล์มะเขอื เทศมาศกึ ษาพบว่า มจี านวนโครโมโซม 22 แท่งและ 24 แท่ง ตามลาดับแต่เม่ือ
นาละอองเรณูมาศึกษาจะพบจานวน โครโมโซมเทา่ กับ............11.............แทง่ และ..........12.........แท่ง ตามลาดับ
ใชข้ อ้ มลู จากภาพโครโมโซมของคนตอบคาถามขอ้ 5-7

5. โครโมโซมในภาพเปน็ เพศ....................ชาย...................โดยดจู ากโครโมโซมคู่ที่....................23....................................
ซ่ึงโครโมโซมคู่นี้เรียกว่า...........................SEX Chromosome......................................................................................

50

6. โครโมโซมซ่ึงมีลักษณะเหมอื นกันท้ังเพศชายและเพศหญิงคอื โครโมโซมค่ทู ่ี.............................1-22.............................
เรียกโครโมโซมเหล่านี้วา่ .................. โครโมโซมร่างกาย หรือออโตโซม........................................................................

7. เซลล์ไข่และเซลล์ผิวหนังของคนในภาพมีจานวนโครโมโซมเทา่ กันหรือไม่......ไม่เท่ากัน คือเซลล์ไข่มจี านวนโครโมโซม
23 แทง่ เซลลผ์ ิวหนงั มี 46 แทง่ .........................................................................................................................................
8. สารพันธุกรรมท่ีมีลักษณะเป็นเกลียวคู่ เรียกว่า .....ดีเอ็นเอ (DNA).....และบางส่วนของสารนี้ทาหน้าท่ีเป็นหน่วย
ควบคมุ ลกั ษณะทางพันธกุ รรม เรียกว่า ...............ยนี .........................................................................................................
9. แบบของโครโมโซมเพศชายคอื .................. 44 + XY.....................................................................................................

แบบของโครโมโซมเพศหญิงคอื ....................44 + XX...................................................................................................
10. โครโมโซมในเซลล์ร่างกายจะมีรปู ร่างลักษณะเหมือนกันเปน็ คู่ ๆ เรยี กว่า...........ฮอมอโลกัสโครโมโซม......................

51


Click to View FlipBook Version