ใบงานกิจกรรมที่ 3

1

โรงเรยี นเบญจมราชทู ศิ จังหวัดปัตตานี
กำหนดการสอน กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น

รหัสวชิ า ก 33904 กิจกรรมแนะแนว เวลา 1 คาบ/สปั ดาห์
ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 6
ผสู้ อน นางมัสรา หงษส์ ัมฤทธ์ิ

1. คำอธิบายรายวชิ า
กจิ กรรมแนะแนวชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 6 มเี นื้อหาวชิ าให้นักเรียนไดเ้ รยี นรู้และศึกษาเกย่ี วกับการยอมรบั

ผลการกระทำของตนเอง ความพึงพอใจและภาคภูมิใจในเอกลักษณ์และความสามารถของตนเอง การ
ตัดสนิ ใจเลอื กแนวทางศึกษาต่อเพื่อการประกอบอาชีพตามทีต่ นเองสนใจ ถนัด และสอดคล้องกับตลาด
แรงงาน การเลอื กศกึ ษาคน้ คว้าเพ่ือนำข้อมูลทผี่ ่านการวิเคราะหไ์ ปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชน์ สามารถใชเ้ ทคโนโลยี
ในการเรยี นรแู้ ละการเลอื กสรรขอ้ มูลท่ีก่อประโยชนต์ อ่ ตนเองและสงั คม การรว่ มตัดสนิ ใจแก้ปัญหาทเ่ี กิด
ขนึ้ กับชมุ ชนและสงั คม การเรียนร้สู ืบสานภูมิปัญญาทอ้ งถน่ิ สูก่ ารประยกุ ต์ใช้ในการพฒั นาอาชพี ในชมุ ชน การ
คดิ ในทางท่ีดี และมชี วี ิตอยู่อยา่ งสรา้ งสรรค์ เรยี นร้วู ิธีเอาชนะอปุ สรรคและมีความมุ่งม่นั ในการทำงาน รจู้ กั
การทำงานเป็นทมี สามารถปรบั ตวั และมคี วามพร้อมสู่สังคมที่กวา้ งขวางข้ึน

2. ผลการเรียนรู้
1. มคี วามรู้และข้อมลู พ้นื ฐานรวมท้ังการใช้เทคโนโลยีในการแสวงหาข้อมูลเพม่ิ เติมเก่ยี วกับการศึกษา

ตอ่ อาชีพ และการพัฒนาตน พร้อมก้าวสูอ่ าเซียนและสากล
2. สามารถสงั เกต สำรวจ ประเมนิ และวเิ คราะห์ตนเองด้านความสามารถ ความถนดั ความสนใจ

เพอ่ื น มาพัฒนาตนเองได้
3. มีทักษะกระบวนการคิดวิเคราะห์ แกป้ ัญหา การตัดสินใจเลือกส่งิ ต่างๆอยา่ งเหมาะสม มี

ประสทิ ธิภาพ
4. มเี จตคติท่ีดีตอ่ ตนเองและอยู่รว่ มกบั ผ้อู ่ืนในสงั คมไทยพรอ้ มก้าวส่ปู ระชาคมอาเซียน และสากล ได้

อย่างมีความสุข
5. มที ัศนคติทีด่ ีตอ่ สัมมาชีพ เรยี นรู้โลกของงานอาชพี วิเคราะหแ์ ละเตรยี มตัวสู่อาชพี ทีเ่ หมาะสมกับ

ตนและเรียนรู้การอยู่อยา่ งพอเพยี ง
6. พฒั นาตนเองโดยเสรมิ สรา้ งคณุ ธรรมจริยธรรม คา่ นิยมที่ดแี ละมีคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

2

3. ตารางการเรยี นร้รู ายวิชาแนะแนว

สปั ดาห์ คาบท่ี สาระการเรียนรู้ ภาระงาน หมายเหตุ
ที่

1 1 ปฐมนิเทศ - อภิปราย 17-23 พ.ค. 65
- แบบวัดความรู้ก่อนเรียน 23 พ.ค – 6 มิ.ย.65
2-4 2-4 คน้ หาตนเอง - ใบงาน /อภิปราย
5-7 5-7 คน้ หาความจริง 7 - 27 ม.ิ ย 65
- ใบงาน /อภปิ ราย 28 มิ.ย – 11 ก.ค.65
8-9 8-9 คน้ หาความถนัด - mind map
- ใบงาน /อภิปราย 12 - 25 ก.ค. 65
10-11 10-11 ค้นหาอาชพี - แบบวัดพหุปญั ญา 26 ก.ค. - 8 ส.ค. 65
- ใบงาน /อภปิ ราย
12-13 12-13 คน้ หาหนทาง - แบบวดั อาชีพ 9 - 29 ส.ค. 65
- ใบงาน /อภิปราย 30 ส.ค.-19 ก.ย. 65
14-16 14-16 คน้ หาความสำเรจ็ - แบบวดั อาชพี
17-19 17-19 คน้ พบตัวเอง - ใบงาน /อภปิ ราย 20 -26 ก.ย. 65
20 20 ปจั ฉมิ นิเทศ - wheel of life
- ใบงาน /อภิปราย
- แบบวดั ความรู้
- แบบประเมนิ
- แบบวัดความรู้หลังเรียน

4. การวดั และการประเมณิ ผล
สัดสว่ นการประเมนิ

1. ผู้เรยี นมีเวลาเรยี นไม่น้อยกว่า 80%
2. ผเู้ รยี นเขา้ ร่วมกจิ กรรมแนะแนวในช้ันเรียนและทำชิน้ งาน/ภาระงาน ดว้ ยความตงั้ ใจและงาน มี
คุณภาพผา่ น
เกณฑป์ ระเมิน ไม่น้อยกว่า 60%

5. เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
1. ผู้เรียนเขา้ ห้องเรียน น่ังเรียนอย่างต้งั ใจทำกจิ กรรมท่ีกำหนด เรยี บรอ้ ยครบถ้วน (ผ่านเกณฑ์)
2. ผู้เรียนเข้าหอ้ งเรียน นัง่ เรยี นอยา่ งตง้ั ใจ ทำกิจกรรมที่กำหนด เรียบรอ้ ยครบถ้วน เสรจ็ ตาม เวลาที่

กำหนด (ผ่านระดับด)ี

3

3. ผเู้ รียนเข้าห้องเรียน นงั่ เรียนอยา่ งตัง้ ใจ ทำกจิ กรรมที่กำหนด เรยี บร้อยครบถ้วน เสร็จตามเวลาท่ี
กำหนด ครบทุกช้นิ ( ผ่านระดบั ดเี ยย่ี ม )

ผา่ นการประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 8 ขอ้ ( ประเมินในภาพรวม )
ผา่ นการประเมินการอา่ น คดิ วเิ คราะหแ์ ละเขยี น ( ประเมนิ ในภาพรวม ) สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
( ประเมินในภาพรวม )
- ความสามารถในการส่อื สาร
- ความสามารถในการคดิ
- ความสามารถในการแก้ปัญหา
- ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

4

ก 33904 กิจกรรมแนะแนว แผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ที่ 3 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6
ภาคเรียนที่ 1 ชือ่ กิจกรรม คน้ หาความจรงิ เวลา 3 ชั่วโมง

ปีการศึกษา 2565

มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวัด
มาตรฐานที่ 1 ผู้เรยี นรูจ้ ัก เขา้ ใจ รกั และเหน็ คุณค่าในตนเองและผู้อนื่
ตวั บ่งชที้ ี่ 1.1 ผูเ้ รียนรจู้ ัก เขา้ ใจ รัก และเหน็ คุณค่าในตนเอง และพัฒนาตนเองอย่างต่อเน่ือง
มาตรฐานที่ 2 ผเู้ รยี นสามารถวางแผนชวี ิตในด้านการศึกษา ดา้ นอาชีพ และด้านส่วนตวั และ

สังคม
ตวั บง่ ชท้ี ่ี 2.1 ผเู้ รียนสามารถศึกษา วเิ คราะห์ ตดั สนิ ใจ แก้ปัญหา และวางแผนดา้ นการศกึ ษา
ตัวบง่ ชท้ี ่ี 2.2 ผู้เรียนสามารถคิดวเิ คราะห์ ตัดสินใจ แกป้ ัญหา และวางแผนดา้ นอาชีพ
ตัวบ่งชีท้ ่ี 2.3 ผ้เู รียนสามารถคดิ วเิ คราะห์ ตัดสนิ ใจ แกป้ ัญหา และวางแผนด้านสว่ นตัวและสงั คม

สาระสำคัญ
การท่เี ราเปดิ เผยตวั เองมากเพียงใด ก็จะทำใหเ้ ราเรยี นรู้ที่จะเข้าใจตนเอง ยอมรบั สภาพความเป็น

จริงท่ีเกดิ ขึ้น การรจู้ กั ตนเองจะรวมไปถึงการรับรูแ้ ละรจู้ ักความสามารถของตัวเราเอง ซ่ึงจะต้องรู้วา่ เราเป็น
คนอย่างไร ถนัดอะไร สนใจอะไร ชอบอะไร และที่สำคญั เรารู้จักอารมณ์ตนเองจะนําไปส่กู ารควบคุมอารมณ์
และการแสดงออกท่ีเหมาะสมต่อไป ซง่ึ การท่ีจะรจู้ ักตนเอง รอู้ ารมณข์ องตนเองได้ ต้องเรม่ิ จากการรูต้ ัว หรอื
การมสี ติ การรจู้ ักตนเองเป็นรากฐานของการสรา้ งความเช่ือมัน่ ในตนเอง เพราะการรจู้ ักตนเองหมายรวมถึง
ขีดความสามารถของตัวเรารขู้ ้อจํากดั ของตวั เองเรา อะไรที่ทำได้ อะไรท่เี กนิ ฝัน การรู้จกั คนทำให้เราเขา้ ใจ
ผู้อื่นไดม้ ากข้นึ เราจะพบว่ามีบางเรื่องทเี่ ราคลา้ ยคนอืน่ และมีอีกหลายเรอ่ื งท่ีแตกต่างกนั เช่น เจตคติ
ความคดิ ความเช่ือ ประสบการณ์ ฯลฯ ซ่งึ ส่ิงเหล่านี้เองที่ ผลกั ดนั ให้เรามีพฤติกรรมหรอื การแสดงออกตา่ งกัน
คนแต่ละคนบางครั้งไมร่ ู้จักตนเองและบอกลกั ษณะของตนเองไม่ได้ เพราะคนไม่เคยหันมามองตนเอง
วเิ คราะห์ตนเอง ถา้ หากเรารู้จกั มองตนเอง วเิ คราะหต์ นเอง ก็จะทำใหว้ ิเคราะห์ตนเอง เข้าใจตนเอง และ
บอกใหผ้ ู้อ่ืนร้จู ักลกั ษณะของตนเองได้ เม่ือเราไดเ้ ขา้ ใจปัจจัยตา่ งๆเหลา่ นี้ กจ็ ะทำให้เกิดการยอมรบั และเขา้ ใจ
ผู้อน่ื ในสังคมได้อย่างมีความสุข การร้จู ักตนเองอย่างแท้จริงจะส่งผลให้ นกั เรยี นได้ทราบถึงความสามารถท่ี
แท้จริงของตนเอง การตัง้ เป้าหมายและวางแผนการเรียนที่ดนี ั้น จะช่วยสง่ เสรมิ ให้ประกอบอาชีพที่ตนเอง
ถนัดและชอบได้อย่างมีความสุข

เน้อื หาสาระ
การสาํ รวจความถนัด ความสนใจ ความชอบในรายวิชาทีเ่ หมาะสมกับตวั ตนของตนเอง

5

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. สำรวจผลการเรยี นของตนเอง(ช้นั ม.4 -5)
2. ระบุรายวิชาท่ีทำคะแนนได้ดี และมีความสขุ ในการเรยี น
3. รู้จกั นำผลการเรยี นมาวเิ คราะหค์ วามถนดั รายวชิ าใหส้ อดคลอ้ งกับคณะ/สาขาท่ี สนใจ
4. บอกคณุ ลักษณะตวั ตนของตนเองได้
5. รู้จักวางแผนการเรยี นเพ่ือไปสู่เป้าหมาย

สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
1. ความสามารถในการส่อื สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์
2. ซื่อสตั ย์สจุ ริต
3. มวี นิ ัย
4. ใฝเ่ รยี นรู้
5. อย่อู ยา่ งพอเพียง
6. ม่งุ มน่ั ในการทำงาน
7. รักความเป็นไทย
8. มจี ติ สาธารณะ

วธิ ีดำเนินกิจกรรม

ช่ัวโมงแรก

ขน้ั นําเข้าสูบ่ ทเรยี น
1. ครตู งั้ คำถามวา่ “ผูเ้ รียนได้ผลการเรียนในเทอมทีผ่ ่านมาเท่าใดและพอใจกบั ผลการเรียนหรอื ไม่”
2. นกั เรียนศกึ ษาใบคำสง่ และใบแจ้งจดุ ประสงค์การเรยี นรูใ้ นชุดการสอนกจิ กรรมแนะแนวเพอื่
พัฒนาทกั ษะการตัดสนิ ใจเลือกอาชพี และศกึ ษาตอ่ ในระดบั อุดมศึกษา สำหรบั ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ชดุ ท่ี 2
ค้นหาความจริง

6

3. นักเรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี น จำนวน 10 ข้อ โดยใช้เวลาในการทำ 10 นาที จากน้ันนักเรยี น
รว่ มกนั ตรวจคาํ ตอบจากเฉลยแบบทดสอบก่อนเรียนในภาคผนวกท้ายเล่มเพ่ือประเมินความรูพ้ ืน้ ฐานก่อน
เรียนร่วมกัน

ขนั้ สอน
4. นักเรยี นศึกษาใบความรู้ เรื่อง การวิเคราะห์ผลการเรียนและการปรับปรุงผลการเรียน
5. นกั เรยี นเข้าระบบงานทะเบียนและวัดผล https://sgs6.bopp-obec.info/sgss/security/
signin.aspx เพือ่ ตรวจสอบผลการเรยี นเฉล่ีย 4 ภาคเรียน (ปพ.1)
6. นกั เรียนทำใบงานท่ี 2.1 เพ่อื วิเคราะห์ผลการเรยี นเฉลีย่ ในรายวิชาทีถ่ นัด สนใจ และชอบ และ
สรปุ ความเขา้ ใจในการทำกิจกรรม
7. นกั เรยี นทำใบงานท่ี 2.2 พรอ้ มวเิ คราะห์สรปุ

ชั่วโมงที่สอง

8. ครูสนทนากบั ผู้เรียนวา่ ในแต่ละคร้งั เวลาเรามองดตู วั เองในกระจกเงา เราพดู กับตนเองว่า
อยา่ งไรโดยครสู ุ่มตัวอยา่ งคำตอบจากนักเรยี น 2-3 คน

9. นักเรยี นศึกษาใบความรู้ เรอื่ ง ความจริงของตวั ตน
10. นกั เรียนทำใบงานท่ี 2.3 เรือ่ ง การมองตนเองในกระจกเงา โดยกจิ กรรมในใบงานน้นั ใหผ้ ู้เรียน
ทำเคร่อื งหมาย✓จากน้นั นําใบงานของตนเองให้เพ่ือนคนที่นั่งขา้ งๆ จำนวน 2 คน โดยให้เพอ่ื นคนที่ 1 ทำ
เครือ่ งหมาย  และเพื่อนคนท่ี 2 ทำเครือ่ งหมาย ในชอ่ งทม่ี ีความเห็น ความรู้สกึ ตรงกันกับลกั ษณะ
ของตวั เรา ตามความคดิ เห็นของเพื่อน
11. นกั เรยี นนำใบงานของตนเองกลบั มาพจิ ารณาสรุป หากข้อใดที่เพ่ือนมีความเหน็ ความรู้สึก
ตรงกนั กับทน่ี กั เรียนลงความเห็นไวแ้ สดงว่านกั เรยี นแสดงภาพของตนเองออกมาตรงกับสิ่งทเ่ี พ่ือนอีก 2 คน
มองเหน็ แตถ่ ้ามขี ้อใดไมต่ รงกนั กับความเหน็ ความรู้สกึ ของเพ่ือน ใหน้ ักเรยี นนําขอ้ นน้ั ๆ โดยเฉพาะขอ้ ที่เรา
มองว่าจริงทสี่ ดุ ให้นํามาพดู คุยทำความเข้าใจกบั เพื่อนว่าเพราะเหตใุ ดเราจงึ มองตนเองเช่นนั้น และเพราะเหตุ
ใดเพ่ือนซึง่ มองตัวเราเปน็ อกี แบบหนึง่

ช่ัวโมงทส่ี าม
12. นกั เรยี นทุกคนทบทวนใบความรู้ เรอื่ ง ความจริงของตวั ตน จากนน้ั ใหน้ ักเรียนเขียนบรรยาย

ลกั ษณะตัวตนของตนเอง เช่น บุคลกิ ภาพ ความสามารถ ความถนดั นสิ ัยใจคอ เป็นต้น ลงในใบงานที่ 2.4
เร่ือง ฉันที่เปน็ อยู่ จากนนั้ นักเรียนแตล่ ะคนบอกลักษณะทีด่ ีงามของตนเองให้เพื่อนในกลุ่มได้รบั ฟัง

13. นกั เรียนตอบคำถามทา้ ยบทเป็นรายบุคคล
ขน้ั สรุป

14. นักเรยี นในกล่มุ ชว่ ยกันสรุปใจความสำคัญที่ได้จากการทำกจิ กรรมลงในใบสรปุ ความรู้ และ
นําเสนอ เพื่อเป็นการสรุปความรู้ร่วมกัน

7

15. นักเรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรยี นจำนวน 10 ขอ้ โดยใช้เวลาในการทำ 10 นาที จากนนั้
นักเรยี นร่วมกนั ตรวจคาํ ตอบจากเฉลยทา้ ยเล่ม เพอื่ ประเมินความรหู้ ลงั เรียนร่วมกัน

16. เม่อื ปฏบิ ตั กิ ิจกรรมเรยี บร้อยแลว้ หวั หนา้ ห้องเก็บรวบรวมชุดการสอนกจิ กรรมแนะแนวเพอื่
พัฒนาทกั ษะการตัดสินใจเลือกอาชีพและศกึ ษาตอ่ ในระดับอดุ มศึกษาส่งครูผสู้ อน

สื่อ/อปุ กรณ์

ชดุ การสอนกิจกรรมแนะแนวเพอ่ื พฒั นาทักษะการตัดสินใจเลือกอาชพี และศึกษาต่อใระดับอุดม
ศกึ ษา สำหรับชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 ชุดท่ี 2 คน้ หาความจริง

การประเมนิ ผล

ผลงาน (ชนิ้ งาน/ภาระงาน)
1. แบบทดสอบกอ่ นเรียน
2. การนาํ เสนองานจากการทำกิจกรรม และใบสรุปความรู้
3. ใบงาน
4. แบบตอบคําถามทา้ ยบท
5. แบบทดสอบหลังเรียน

วิธีประเมิน
1. การทำแบบทดสอบก่อนเรียน
2. สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่
3. การตรวจใบงาน
4. การตรวจแบบตอบคําถามท้ายบท
5. การทำแบบทดสอบหลงั เรียน

เคร่อื งมอื
1. แบบประเมินผลการทดสอบก่อนเรยี น
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่
3. แบบประเมินผลการทำใบงาน
4. แบบประเมินผลการทำแบบตอบคาํ ถามท้ายบท

เกณฑ์
1. ประเมนิ ผลจากการทำแบบทดสอบก่อนเรยี น ระดับคณุ ภาพ 3 (ด)ี ขนึ้ ไป
2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ ระดับคณุ ภาพ 3 (ด)ี ข้นึ ไป
3. ประเมินผลงานจากการทำใบงาน ระดับคณุ ภาพ 3 (ดี) ขึ้นไป
4. ประเมนิ ผลงานจากการทำแบบตอบคําถามท้ายบท ระดับคณุ ภาพ 3 (ดี) ขึ้นไป
5. ประเมินผลจากการทำแบบทดสอบหลังเรียน ระดับคุณภาพ 3 (ด)ี ขน้ึ ไป

8

ใบงานท่ี 2.1
เร่ือง แบบวิเคราะห์ผลการเรียน ประกอบการจัดกจิ กรรม เรื่องค้นหาความจริง

ชอื่ -สกุล......................................................................................................... ชนั้ ม.6/...........เลขที่...............
เกรดเฉลี่ยสะสม .................... สาขาวิชาทีส่ นใจศึกษาต่อ ..................................................................................
คำชแ้ี จง ให้ผ้เู รยี นเขียนชือ่ รายวิชา โดยจดั ลำดบั มากท่สี ดุ ไปหาน้อยที่สุด หลังจากน้ันวิเคราะห์รายวชิ าทถ่ี นัด สนใจ
และชอบ ว่ามคี วามสอดคล้องกบั สาขาที่นักเรยี นเลือกหรอื ไม่ โดยโยงเสน้ ในรายวชิ าท่ตี รงกันหรอื สอดคลอ้ งกนั
1. ฉนั เรยี นวิชานีไ้ ด้ดี (เรยี งลำดบั สาระวิชาที่ได้ GPAสงู ไปหาต่ำ) โดยพจิ ารณาจาก ปพ.1 (4 เทอม) ในระบบ SGS

ถนัด 2. วิชานส้ี อดคล้องกบั สาขาทฉี่ ันเลือกศึกษาตอ่
1........................... สอดคลอ้ ง
2...........................
3...........................

3. ฉันทุ่มเท ตั้งใจในการเรียนวชิ านอี้ ยา่ งหนัก

1........................... สนใจ 1...................................
2........................... 2...................................
3........................... 3..................................
4..................................
5..................................

4. ฉนั สนกุ /มคี วามสุขที่ได้เรียนวชิ าน้ี 5. ฉนั มักกังวลกับวิชานี้ เรียนไมค่ อ่ ยดี

ชอบ ไม่ถนัด

1........................... 1...........................
2........................... 2...........................
3........................... 3...........................

9

ใบงานที่ 2.2
เร่อื ง ความคาดหวังของฉนั ประกอบการจดั กิจกรรม เรื่องการร้จู ักตนเอง

ชื่อ-สกุล....................................................................................................... ชั้น.ม.6/............. เลขท.่ี .........

คำช้แี จง ให้ผเู้ รียนเขียนชอื่ รายวิชา ที่เรยี นในภาคเรียนปัจจุบัน (เฉพาะรายวิชาทีม่ ีการออกผลการเรียนเป็นเกรด)

ชื่อวิชา หน่วยกติ GPA ∑ (หนว่ ยกติ xGPA)

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16

รวม
GPAX

แนวทางสู่ความสำเรจ็ .......................................................................................................................................
............................................................................................. ................................................................ ..................

10

ใบงานท่ี 2.3
เรอ่ื ง การมองตนเองในกระจกเงา

ช่อื -สกุล..........................................................................ชั้น................................เลขท.่ี ...........................

คำชแี้ จง ใหผ้ ้เู รียนทำเคร่อื งหมาย ✓ลงในชอ่ งทตี่ รงกบั ความเปน็ จรงิ มากที่สุด แล้วเวียนให้เพื่อนคนท่นี ง่ั
ขา้ งๆ คนแรกทำเครอื่ งหมาย  และเวียนใหเ้ พื่อนคนทส่ี อง ทำเคร่ืองหมาย ลงในชอ่ งที่ตรงกับตวั
นกั เรียนทส่ี ุด

ลกั ษณะของฉัน จรงิ ท่ีสุด จริงเปน็ ไม่จรงิ เปน็ ไมจ่ รงิ เลย
1. อยา่ งนอ้ ยฉันกฉ็ ลาดเทา่ คนสว่ นมาก สว่ นมาก สว่ นมาก
2. สนุกรา่ เริง
3. ข้ีบน่
4. พูดมาก
5. มนี ำ้ ใจ
6. ชอบซบุ ซบิ นนิ ทาเรื่องของผู้อ่ืน
7. เป็นที่พ่ึงของตนเองได้
8. ซื่อสัตยต์ ่อเพือ่ น
9. สะเพร่า
10. ลำบากในการทำอะไรตามตารางท่ีกำหนด
11. สามารถไว้ใจได้
12. มกั มีปัญหาอย่เู สมอ
13. ชอบออกคำส่งั คนที่อยูร่ อบขา้ ง
14. เสยี งดงั
15. มเี สน่ห์
16. ตรงตอ่ เวลา
17. ขอี้ ิจฉา
18. กลวั การพดู คุยกบั คนแปลกหนา้
19. หงุดหงิดอยู่เสมอ
20. เปน็ ผฟู้ ังท่ีดี
21. ชอบเอาใจผู้อืน่
22. กวา้ งขวางในสงั คมเพ่ือนตา่ งเพศ
23. กวา้ งขาวงในสงั คมผู้ชาย

11

ลักษณะของฉัน จริงทีส่ ดุ จริงเป็น ไมจ่ ริงเป็น ไมจ่ ริงเลย
สว่ นมาก สว่ นมาก
24. ผ้อู นื่ ชอบนำปญั หามาระบายใหฟ้ ัง
25. ชอบทำตวั ใหเ้ ทา่ เทียมผู้อน่ื
26. โกรธง่าย
27. มักกลา่ วคำขอโทษอย่เู สมอ
28. เหน็ แกต่ ัว
29. ชอบอยูต่ ามลำพัง
30. มที ่าทางเปน็ มติ รต่อผู้อ่ืน
31. คิดถึงคนอ่ืนก่อนคิดถึงตัวเอง
32. เปน็ คนสนุก ๆ ใคร ๆ ก็อยากอย่ดู ว้ ย
33. มักมองผอู้ ่ืนกอ่ นคดิ ถึงตัวเอง
34. ไม่ชอบให้ใครวิจารณ์ตนเอง
35. จิตใจออ่ นไหวถูกทำรา้ ยโดยง่าย
36. มักปา้ ยความผิดใหผ้ ูอ้ ่นื
37. โกรธเมือ่ ผู้อื่นไมเ่ ห็นดว้ ย
38. ตอ้ งการเปน็ ทหี่ นึ่งอยู่เสมอ
39. ไมม่ คี วามม่ันใจในตนเอง

จากการประเมนิ ตนเองของขา้ พเจา้ และเพ่ือนพบว่า *_*

สงิ่ ทฉ่ี นั ประเมินตนเองไมต่ รงกบั เพ่ือน สิง่ ท่ีฉนั และเพื่อนประเมินตรงกัน

(ข้อ)………………………………………………………………… (ขอ้ )…………………………………………………………………
……………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………..

12

ใบงานที่ 2.4
เรื่อง ฉนั ทเี่ ป็นอยู่

ช่ือ-สกลุ
.......................................................................
ช้ัน........................เลขที.่ ...........................

คำชแ้ี จง ให้นกั เรยี นวาดภาพที่แทนตนเองในกรอบที่กำหนด และเขียนอธิบายลักษณะตัวตนของนักเรยี น
เช่น บุคลิกภาพ รูปลักษณ์ทส่ี ังเกตได้ อปุ นสิ ยั ความสามารถ นำ้ เสยี ง การพูดจา เป็นตน้

1. ตัวตนท่นี ักเรียนมองเห็นเปน็ อยา่ งไร
…………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………..……………………………………………………………

2. ตวั ตนที่คนอน่ื มองเหน็ เป็นอยา่ งไร
………………………………………………………………………………………..……………………………………………………………
………………………………………………………………………………………..……………………………………………………………
………………………………………………………………………………………..……………………………………………………………
………………………………………………………………………………………..……………………………………………………………
………………………………………………………………………………………..……………………………………………………………

3. ตวั ตนในอนาคตทนี่ กั เรยี นอยากใหเ้ ปน็
………………………………………………………………………………………..……………………………………………………………
………………………………………………………………………………………..……………………………………………………………
………………………………………………………………………………………..……………………………………………………………
………………………………………………………………………………………..……………………………………………………………

สรุปลักษณะท่ดี งี ามของตัวเอง
………………………………………………………………………………………..………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………..………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………..………………………………………………………………

13

แบบตอบคาํ ถามทา้ ยบท
ชดุ ท่ี 3 ค้นหาความจริง

คําชแี้ จง ใหน้ ักเรยี นตอบคาํ ถามลงในชอ่ งว่างทกี่ ำหนด ให้ได้ใจความสมบูรณ์และถกู ต้อง (10 คะแนน)
1. วธิ ที บี่ ุคคลจะรู้จกั ตนเองได้ชดั เจนคืออะไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. การท่ีบคุ คลจะร้จู กั ตัวเองไดน้ ้ัน จะต้องรูจ้ ักตนเองอย่างนอ้ ยทีล่ กั ษณะ และอะไรบ้าง
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. การวิเคราะห์ตนเอง หากนักเรยี นเป็นผทู้ ม่ี ใี จไมเ่ ปน็ กลาง เขา้ ขา้ งตนเองมากเกินไปจะส่งผลอย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. ตัวตนทีเ่ ราตอ้ งการจะเปน็ (Ideal wet) มคี วามแตกตา่ งอย่างไรกับตวั ตนท่เี ป็นจริง (Real set)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
5. เพราะเหตุใดลกั ษณะทางกายของนักเรยี นแตล่ ะคนจึงกำหนดมากไมไ่ ด้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
6. จากข้อ 5. จะพบวา่ วยั รนุ่ ในปัจจบุ ันไดไ้ ปทำศลั ยกรรมเป็นจำนวนมาก เพราะไมพ่ ึงพอใจในรูปร่าง หน้าตา
ของตนเอง แต่ในความเป็นจริงแล้ววธิ ีทเี่ ป็นทางออกท่ีดคี ืออะไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
7. ส่งิ ใดทท่ี ำใหบ้ ุคคลรอบข้างรู้สึกอบอนุ่ และเป็นมติ รไดเ้ สมอ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
8. การแต่งกายสำหรบั ผทู้ ่ีอยู่ในวยั เรยี น นักเรียนคดิ ว่าควรเป็นอย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
9. มารยาทของเดก็ ไทยทีจ่ ะต้องตดิ ตวั เสมอคืออะไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
10. การแสดงออกของบคุ คลจะเปน็ อย่างไรน้ัน ย่อมมาจากสิ่งใดเปน็ สำคัญ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

14

ใบสรปุ ความรู้

คำสง่ั ใหน้ ักเรียนทุกคนในกลุ่มช่วยกันสรุปใจความสำคญั ที่ไดจ้ ากการทำกิจกรรมและการศึกษาเนือ้ หาในใบ
ความรู้ ลงในใบสรุปความรู้

.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................