ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 แบบฟอร์มรายงานคüามก้าüĀน้าโครงการüิจัย (เดี่ยü)/โครงการย่อย (รายงานทุก 6 เดือน) โครงการ/โครงการย่อย (ไทย) การพัฒนารูปแบบÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัยและเกþตรอินทรีย์ 4 ÿายคลอง (คลอง 10-13) ÿู่การรองรับมาตรฐานเกþตรอินทรีย์แบบมีÿ่üนร่üม (PGS) เพื่อลดคüาม เĀลื่อมล้ำเýรþฐกิจของเกþตรกร อำเภอลำลูกกา จังĀüัดปทุมธานี..… (ภาþาอังกฤþ) .… The Development of Leadership Council for Safe Agriculture and Organic Agriculture in 4 Klongs (Klong 10-13) To Support Participatory Guarantee Systems (PGS) To Reduce Farmers Inequality in Lam Luk Ka District, Pathum Thani ได้รับทุนอุดĀนุนการüิจัยประจำปี 2566 จำนüน 300,000 บาท ระยะเüลาทำการüิจัย 12 เดือน เริ่มทำการüิจัยเมื่อ (เดือน, ปี) . รายงานคüามก้าüĀน้าของการüิจัย ครั้งที่1 ระĀü่าง (เดือน, ปี) เมþยน 2566 ถึง (เดือน, ปี)30กันยายน 2566 . รายนามĀัüĀน้าโครงการ (เดี่ยü)/โครงการย่อย และผู้ร่üมโครงการ พร้อมทั้งĀน่üยงานที่ÿังกัดและรายละเอียด การติดต่อ (ที่อยู่/โทรýัพท์/โทรÿาร/e-mail ที่ ชื่อ-นามÿกุล/เลขบัตร อาชีพ Āน่üยงาน/องค์กร ที่อยู่/เบอร์โทรýัพท์/อีเมล์ 1 ผý.ดร.พิþณุ แก้üตะพาน อาจารย์/ นักüิจัย ÿถาบันเทคโนโลยี พระจอม เก้า ลาดกระบัง üิทยาเขตĀลัก ถนนฉลองกรุง แขüงลาดกระบัง เขตลาดกระบัง กรุงเทพมĀานคร [email protected] 2 ผý.ดร.ดรุณýักดิ์ ตติยะลาภะ 3779800074030 อาจารย์/ นักüิจัย มĀาüิทยาลัยüไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เลขที่ 1 Āมู่20 ถ.พĀลโยธิน ต. คลองĀนึ่ง อ.คลองĀลüง จ. ปทุมธานี 086-3043071 [email protected]
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 ที่ ชื่อ-นามÿกุล/เลขบัตร อาชีพ Āน่üยงาน/องค์กร ที่อยู่/เบอร์โทรýัพท์/อีเมล์ 3 ผý.ดร.มยุรี รัตนเÿริมพงý์ 3410102498378 อาจารย์/ นักüิจัย มĀาüิทยาลัยราชภัฏ เทพÿตรี 321 ถ.นารายณ์มĀาราช ต. ทะเลชุบýร อ.เมือง จ.ลพบุรี 094-7974936 [email protected] 5 นางชาริยา Āอมýิริ 3130600328744 นักüิจัย ชุมชน/ เกþตรกร 30/4 Āมู่ 1 ต.บึงทองĀลาง อำเภอลำลูกา จังĀüัดปทุมธานี 6 นายยม แĀÿมุทร 3110100081219 นักüิจัย ชุมชน/ เกþตรกร 13/1 Āมู่1 ต.ลำไทร อ.ลำลูก กา จ.ปทุมธานี 7 นายประüุธ แก้üอิ่ม 3120101876029 นักüิจัยชุมชน เกþตรกร Āมู่2 ต.ลำไทร อ.ลำลูกกา จ. ปทุมธานี 8 นายüิüัฒน์ อยู่เจริญ นักüิจัยชุมชน /เกþตรกร 27 Āมู่ 7 ต.บึงคอไĀ อ.ลำลูก กา จ.ปทุมธานี 9 นายกมล ธุüจิตต์ 3100400375846 ค้าขาย/ เกþตรกร ประธานüิÿาĀกิจชุมชน 30/5 Āมู่ 9 ตำบลลำไทร อ. ลำลูกกา จ.ปทุมธานี 10 นางพัชรา เชี่ยüนาüิน นักüิจัย ชุมชน/ เกþตรกร 1 Āมู่ 6 ต.ลำไทร อ.ลำลูกา จังĀüัดปทุมธานี 11 นางประภา ÿุริยะมงคล 310601046801 เจ้าของตลาด เก่า /นักüิจัย ชุมชน 1 Āมู่ 2 ต.ลำไทร อ.ลำลูกา จังĀüัดปทุมธานี 12 นายรันทม แĀÿมุทร 3130600450757 เกþตรกร/ นักüิจัยชุมชน ประธานÿĀกรณ์ที่ดินทำกิน ลำลูกา 33 Āม่ 6 ต.พืชอุดม อ.ลำลูกกา จังĀüัดปทุมธานี 13 นางüัลภา ผลเจริญ เกþตรกร ผู้ใĀญ่บ้าน Āมู่ 7 ตำบลพืชอุดม อำเภอลำ ลูกกา จังĀüัดปทุมธþนี
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 1. ĀลักการและเĀตุผล (ระบุÿาเĀตุคüามจำเป็นที่ต้องดำเนินการüิจัย) เกþตรกรไทยกับคüามยากจนอาจแยกออกจากกันไม่ได้ นั้นเป็นเพราะüงจรชีüิตของเกþตรกรÿ่üนใĀญ่มีĀน้าตา คล้ายกับüงจรโĀดร้ายของคüามยากจน ด้üยรูปแบบของการทำการเกþตรไทยที่ÿร้างรายได้ต่ำ ซ้ำร้ายอาชีพนี้ ประÿบกับคüามเÿี่ยงÿูงจนขาดทุนบ่อยครั้ง ทำใĀ้มีปัญĀาทางการเงิน ไม่ÿามารถลงทุนพัฒนาĀรือปรับเปลี่ยน üิธีการทำเกþตร ÿ่งผลใĀ้ทำการเกþตรเĀมือนเดิม เกิดเป็นüงจรüนเüียน ไม่พัฒนาก้าüĀน้า ปัจจัยĀลักก็มาจาก “ต้นทุนการผลิตÿินค้าการเกþตรแพงขึ้น” เป็นปัญĀาซ้ำเติมใĀ้ครัüเรือนเกþตรกรมีĀนี้เพิ่มพูนÿูงกü่าเดิมจนไม่นาน มานี้ “ประเทýไทย” ถูกจัดอันดับมีĀนี้ÿินครัüเรือนมากติดต้นๆของโลกปัจจุบันจากการÿำรüจของÿถาบันüิจัย เýรþฐกิจป๋üย อึ๊งภากรณ์พบü่า รายได้ครัüเรือนเกþตรกรไทยน้อย ไม่พอใช้จ่าย ไม่พอใช้Āนี้ ÿ่üนใĀญ่เผชิญ ปัญĀาÿภาพคล่อง โดยเกือบ 20% ของครัüเรือนมีรายได้ไม่พอรายจ่ายในทุกๆ เดือนพบü่า 40% ของครัüเรือน เกþตรกรมีÿัดÿ่üนภาระĀนี้ต่อรายได้ÿูงเกิน 100% ขณะที่ 34% ของครัüเรือนมีÿัดÿ่üนĀนี้ต่อทรัพย์ÿินÿูงเกิน 100% และ 17% ของครัüเรือนมีĀนี้เกินýักยภาพในทั้งÿองมิติ และที่ÿำคัญข้อมูลจากการÿำรüจแÿดงใĀ้เĀ็นü่า กü่า 30% ของครัüเรือนมีพฤติกรรม “ĀมุนĀนี้” คือกู้จากแĀล่งĀนึ่งไปชำระคืนอีกแĀล่งüนไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะ ในช่üงทýüรรþที่ผ่านมา การÿะÿมĀนี้ของครัüเรือนเกþตรกรÿูง Āนี้เพิ่มขึ้นมาจากĀนี้เดิมที่ยังชำระไม่ได้ และĀนี้ ใĀม่ที่ก่อเพิ่มขึ้น ÿ่งผลใĀ้เกินýักยภาพเกþตรกรที่จะชำระĀนี้ได้ และกำลังÿ่งผลต่อคüามÿามารถในการกู้ใĀม่ (กรุงเทพธุรกิจ 2566) คüามยากจนของเกþตรไทยเป็นüงจรที่Āนีไม่พ้น ใน 4 ข้อต่อ คือ ข้อต่อแรก เกþตรกรไทย ÿ่üนใĀญ่ยังทำการเกþตรด้üยโมเดลเก่า โดยเกþตรกรÿ่üนใĀญ่เลือกเพาะปลูกพืชที่มีมูลค่าไม่มาก ข้อที่ต่อÿอง คือ รายได้ต่ำ ขาดทุนบ่อย ข้อต่อÿามการมีĀนี้ÿิ้นจำนüนมาก และข้อต่อÿุดท้ายคือปรับตัüไม่ได้ด้üยเพราะเกþตรกร ไทยÿ่üนใĀญ่ทำการเกþตรแบบเดิม ๆ ไม่ปรับตัü เช่นเดียüกันĀากมองภาคเกþตรของพื้นที่ตำบลบึงทองĀลาง ตำบลลำไทร ตำบลพืชอุดม และตำบลบึงคอไĀ เป็นพื้นที่ตามÿายคลองที่เรียกü่า คลอง 10 คลอง 11 คลอง 12 และ คลอง 13 ของอำเภอลำลูกกา จังĀüัด ปทุมธานียังเป็นพื้นที่ทำการเกþตร แม้ü่าจังĀüัดปทุมธานีจะเป็นเมืองปริมณฑลที่มีคüามĀนาแน่ของคüามเป็น เมืองÿูง แต่บริเüณคลอง 10-13 เขตตำบลลำลูกกา ยังมีÿภาพเป็นแĀล่งการเกþตรไม่ü่าจะเป็นการทำนา เพาะปลูก เกþตรกรรมผÿมผÿาน และเลี้ยงปลาดุก ซึ่งเป็นแĀล่งเลี้ยงปลาดุกมากที่ÿุดในประเทý ในอดีตพื้นที่ดังกล่าüนี้อาจ เรียกü่า เป็นÿ่üนĀนึ่งของการโครงการขุดคลองรังÿิตบริเüณที่เรียกü่าทุ่งĀลüงตั้งแต่ในÿมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งถือü่า บริเüณแĀ่งนี้มีคüามเĀมาะÿมต่อการเพาะปลูก จึงเป็นที่มาของการอพยพของผู้คนที่เข้ามาอาýัยและเป็นแรงงาน อย่างชาüจีน ในบริเüณคลอง 12 นอกจากนี้บริเüณดังกล่าüจึงเป็นชุมชนที่มีคüามĀลากĀลายของผู้คนที่มีการนำถือ ýาÿนาแตกต่างกัน บริเüณ คลอง 10และคลอง 11 นับถือพุทธเป็นÿ่üนใĀญ่ ในพื้นที่คลอง 12 เป็นชุมชนชาüจีนที่ มีผู้นำถือýาÿนาคริÿต์ และบริเüณคลอง 13 เป็นชุมชนไทยพุทธ-มุÿลิม เป็นจำนüนมาก อย่างไรก็ตามใน คüามĀลากĀลายของผู้คนในพื้นที่แĀ่งนี้ ประชาชนÿ่üนใĀญ่ยังยึดอาชีพเกþตรกรรมไม่ü่าจะเป็น การทำนา การ ปลูกพืชผัก การเลี้ยงÿัตü์น้ำ แต่ปัญĀาการทำการเกþตรยังคงยึดถือการทำการเกþตรแบบเดิม มีการใช้ÿารเคมีเป็น
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 จำนüนมาก ÿ่งผลเกิดปัญĀาĀนี้ÿิ้นซ้ำซากไม่ต่างกับภาคการเกþตรในปัญĀาระดับประเทýที่กล่าüไü้ข้างต้น นอกจากยังไม่มีการรüมกลุ่มกันเพื่อขับเคลื่อนการทำการเกþตรÿมัยใĀม่ ต่างคนต่างทำ ÿำĀรับการทำการเกþตรกรในช่üงระยะเüลา3 ปีที่ผ่านมามีกลุ่มเกþตรกรรุ่นใĀม่ ที่เริ่มมีแนüคิดการจะ รüมกลุ่มทำเกþตรที่เรียกü่า “เกþตรปลอดภัย/เกþตรอินทรีย์” เพื่อเพิ่มผลิตผลทางการเกþตรที่มีคุณภาพและมี คุณค่า เกิดคüามปลอดภัยÿอดคล้องกับÿังคมผู้บริโภค และÿามารถÿร้างมูลค่าทางการเกþตรได้ โดยแกนนำ เกþตรกร นักüิจัยชุมชน และนักüิจัยได้ร่üมกันขับเคลื่อนการทำงานพื้นที่มาเป็นระยะเüลาเกือบ 10 ปี จนÿามารถ เชื่อมการทำงานได้เป็น 4 ตำบล (4 ÿายคลอง คือ คลอง 10-13 ) ประกอบไปด้üย ตำบลพืชอุดม บึงคอไĀ บึง ทองĀลาง และลำไทร ได้เĀ็นคüามÿำคัญของการขับเคลื่อนการเกþตรที่คüรทำงานจากจุดเริ่มต้นด้üยการรüมกลุ่ม ใĀ้มีพลังไปÿู่การทำการเกþตรแบบใĀม่ และปรับพฤติกรรมของเกþตรกรใĀ้มุ่งไปÿู่การทำการเกþตรแบบปลอดภัย และอินทรีย์ เพราะจากการÿำรüจข้อมูลพบü่าเกþตรกรÿ่üนใĀญ่จะมีการปลูกพืชผÿมผÿานในพื้นที่จำนüน 15 คน โดยเมื่อคิดคำนüณรายได้และรายจ่ายจากการทำการเกþตร โดยการเปรียบเทียบปริมาณจำนüน 1 ไร่ ที่มีการ เพาะปลูกประกอบไปด้üยการปลูกมะนาü ผักชนิดต่างๆ ข้าüโพด และขุดบ่อเลี้ยงปลา พบü่า รายได้ในช่üงของการ เริ่มต้นปลูกพืชปลอดภัย และอินทรีย์อยู่ 14,000 บาท ต่อไร่/เดือน โดยเฉลี่ย และมีต้นทุนการผลิต ได้แก่ขี้üัü 40 กระÿอบในราคา 40 บาท เท่ากับค่าขี้üัü 1600 บาท ขี้เถ้า 8 กระÿอบ ราคากระÿอบ 80 บาท เท่ากับ 640 บาท ค่าเมล็ดพันธุ์ต่อครั้งการผลิต 250 บาท ค่าไฟฟ้า เดือนละ 1,200 บาทเกิดจากการใช้ปั๊มน้ำเข้าพื้นที่เกþตร ดังนั้น ต้นทุนการผลิตอยู่ที่ 3,690 บาทต่อเดือน ได้รายได้จากการขายผลิตทางการเกþตร ประมาณ 14,000 บาท เมื่อĀัก ลบต้นทุนการผลิตจะเĀลือกำไรÿุทธิที่ 10,310 บาท ซึ่งจะเĀ็นได้ü่า การทำการเกþตรอินทรีย์ÿามารถทำรายได้ใĀ้ เกþตรกร เพราะต้นทุนการผลิตน้อยกü่าการใช้ÿารเคมีที่มีต้นทุนÿูง ในขณะที่การใช้ÿารเคมีมีต้นทุนที่ÿูงมาก จากการÿำรüจการใช้ÿารเคมีในการทำการเกþตร พบü่า 1. ใช้ยากำจัดเพลี้ย 500 g ราคา 520 บาท อัตรา 20 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นใĀ้ทั่üเมื่อพบการระบาดของเพลี้ยไฟ ข้าüในระยะต้นกล้า (อัตราใช้น้ำ 40 ลิตรต่อไร่) 2. ยาฆ่าĀญ้า ไกลโฟเซต 4 ลิตร 850 บาท ใช้ 0.5 ลิตร/ไร่ (ผÿม น้ำ 60 ลิตร) ในการเกþตรกรทั่üไป ใช้ปุ๋ยเคมี 1. ปุ๋ย16:16:16 พืชÿüน ถั่üฝักยาü ราคา 2084 บาท/กระÿอบ ใÿ่ เมื่อพืชตั้งตัüดีแล้üแบ่งใÿ่ÿองครั้ง ครั้งแรกใช้ปุ๋ยเคมีอัตรา 40-60 กิโลกรัมต่อไร่ โดยüิธีกü่านĀรือรองก้นĀลุม ครั้งที่ ÿองใช้ปุ๋ยเคมีอัตราเดียüกับครั้งแรก Āลังจากใÿ่ปุ๋ยเคมีครั้งแรก 15-30 üัน โดยüิธีโรยข้างแถü 2. ปุ๋ย ยูเรีย พืชกิน ใบ 46:0:0 ราคา 1660 บาท/กระÿอบ 50 kgใช้เร่งใบ เร่งราก เมื่อต้นพืชอายุประมาณ 10-15 üัน โดยĀü่านปุ๋ยยู เรีย อัตราไร่ละ 50 กิโลกรัม ครั้งที่ÿอง ใช้ĀลังĀü่านปุ๋ยยูเรีย ครั้งแรกประมาณ 30-45 üัน อัตราไร่ละ 50 กิโลกรัม (ÿัมภาþณ์ กมล ธุüจิตต์ เมื่อüันที่ 9 มกราคม 2566) จากการคิดคำนüณจะพบü่าการทำการเกþตรที่ใช้ÿารเคมี ย่อมÿ่งผลต่อเกþตรกร มีต้นทุนการผลิตที่ÿูง ก่อใĀ้เกิดรายได้น้อย ขาดทุน และนำไปÿู่การเกิดĀนี้ÿิ้น จากประเด็นดังกล่าüจะเĀ็นได้ü่า การเกþตรปลอดภัยและอินทรีย์ เป็นทางออกĀนึ่งจะÿามารถลด ค่าใช้จ่ายในการผลิตทางการเกþตรได้อย่างมาก อีกทั้งผลผลิตเกþตรปลอดภัย/อินทรีย์ จะได้รับการยอมรับ มีกลุ่ม ลูกค้าที่เน้นการดูแลÿุขภาพ และราคาของผลิตผลทางการเกþตรÿูง ที่ÿำคัญการผลิตไม่ÿ่งผลต่อÿุขภาพของ
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 เกþตรกร ดังนั้น แนüคิดการขับเคลื่อนของแกนนำ 4 ตำบลจึงมองเĀ็นคüามÿำคัญของการรüมตัüของภาค การเกþตรใĀ้มีพลังและเกิดกลไกผ่านการรüมกลุ่ม โดยเĀ็นถึงการรüมกลุ่มในรูปแบบÿภาเกþตร ที่กลายกับÿภาผู้ เฒ่าของÿังคมไทยในอดีตที่เป็นการรüมกลุ่มของคนเฒ่า คนเก่า Āรือคนที่เป็นผู้นำที่ได้รับการนับถือของชุมชนมา รüมกันพูดคุยเพื่อแก้ไขปัญĀาที่เกิดขึ้น และทางออกของชุมชนจะถูกĀยิบยกมาพูดคุยกันในกลุ่ม ลักþณะเช่นนี้จึง เรียกü่า ÿภาผู้เฒ่าที่มีการแก้ไขผ่านคนในชุมชน ประกอบกับงานüิจัยเพื่อท้องถิ่นในปี 2563 ได้ขับเคลื่อนÿภา ผู้นำชาüนาในพื้นที่ตำบลบึงกาÿาม จังĀüัดปทุมธานีÿามารถÿร้างกลไกการทำงานใĀ้กับชาüนา ในการแก้ไข ปัญĀา การลงมติในการปลูกข้าüอินทรีย์ การแปรรูปข้าü ประเด็นต่างๆเĀล่านี้ได้ผ่านกลไกÿภาผู้นำชาüนา ซึ่ง ปัจจุบันกลไกÿภาผู้นำชาüนายังคงขับเคลื่อนไปได้ จนทำใĀ้แกนนำเกþตรกร อย่างเช่น นายกมล ธุüจิตต์ นายประ üุฒิ แก้üĀิน นักüิจัยชุมชน ได้เคยเข้าร่üมการเรียนรู้จัดตั้งÿภาผู้นำชาüนา เมื่อ ปี 2563 ได้เĀ็นการเคลื่อนตัü ÿามารถนำแนüคิดงานüิจัย “ÿภาผู้นำชาüนำอินทรีย์”ที่ตำบลบึงกาÿามมาขยายผลของการพัฒนาเกþตรกรในพื้นที่ 4 ตำบล เพื่อใĀ้เกิดระบบกลไกในการทำงานของกลุ่มเกþตร และการพัฒนาการเกþตรไปÿู่เกþตรปลอดภัย/ อินทรีย์ ซึ่งเป็นการมุ่งเป้าไปÿู่การเกþตรที่มีแนüทางรองรับมาตรฐานเกþตรอินทรีย์แบบมีÿ่üนร่üม (PGS) ใน อนาคต เพราะกระบüนการรับรองแบบมีÿ่üนร่üม (Participatory Guarantee System, PGS) เป็นแนüทางĀนึ่ง ในการรับประกันคüามเป็นอินทรีย์ เป็นกระบüนการทางÿังคมของผู้มีÿ่üนได้ÿ่üนเÿีย เพื่อปรับปรุงÿภาพภูมิÿังคม ของท้องถิ่น และ ÿร้างแรงจูงใจใĀ้กับ เกþตรกรรายย่อย เป็นผู้ผลิตและผู้ประกอบการในการพัฒนาตลาดท้องถิ่น ซึ่งทําใĀ้ลูกค้าÿามารถแยกผลิตภัณฑ์อินทรีย์จากÿินค้าปกติได้ กระบüนการรับรองเกþตรอินทรีย์แบบมีÿ่üนร่üม เป็นกระบüนการเบื้องต้นที่จะÿ่งเÿริม ใĀ้เกþตรกรปรับเข้าÿู่การผลิตมากขึ้น นําไปÿู่การÿร้างตลาดทางเลือก เýรþฐกิจอาĀารท้องถิ่น และ ใĀ้พลังงานใน การผลิตและการขนÿ่งอาĀารÿั้นลง และ ÿร้างÿังคมชุมชนใĀ้อยู่ ร่üมกับธรรมชาติอย่างเกื้อกูลÿ่งผลใĀ้เกิดการพัฒนา อย่างยั่งยืน ซึ่งจะเป็นเป้าĀมายในอนาคต อีกทั้งจะเป็น เป้าĀมายเพื่อใĀ้เกิดการเปลี่ยนแปลงเกþตรกรÿามารถĀลุดคüามยากจน และมีพฤติกรรมการทำการเกþตรที่มี คüามปลอดภัยทั้งผู้เพาะปลูกและผู้บริโภค ในขณะเดียüกันการพัฒนาเกþตรผ่านÿภาผู้นำเกþตร ยังเชื่อมต่อกับ การกระจายÿินค้าเกþตรของพื้นที่ 4 ตำบล (4 ÿายคลอง คลอง 10-13)ผ่านตลาดเก่า 100 ปี คลอง 12 Āกüา ที่ เป็นงานüิจัย ของการพลิกฟื้นตลาดเก่า 100 ปี ผ่านการท่องเที่ยüชุมชน ดังนั้นแนüคิดดังกล่าüจึงเกิดขึ้นกับแกนนำ เกþตรในพื้นที่ และนำไปÿู่การพัฒนาโจทย์üิจัย “การพัฒนารูปแบบÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัยและเกþตรอินทรีย์ 4 ÿายคลอง (คลอง 10-13)ÿู่การรองรับมาตรฐานเกþตรอินทรีย์แบบมีÿ่üนร่üม (PGS) เพื่อลดคüามเĀลื่อมล้ำของ เกþตรกร อำเภอลำลูกกา จังĀüัดปทุมธานี” โดยจะมีนักüิจัยชุมชนเป็นผู้ขับเคลื่อนการทำงานและการนำไปÿู่การ ยกระดับเกþตรเพื่อรองรับมาตรฐานเกþตรอินทรีย์แบบมีÿ่üนร่üม (PGS) ในอนาคตผ่านกระบüนการทำงานüิจัย เพื่อท้องถิ่น ภายใต้ประเด็นคำถามการüิจัยดังต่อไปนี้ 1.ÿถานการณ์ของการทำเกþตรปลอดภัยและเกþตรอินทรีย์ 4 ÿายคลอง (คลอง 10-13) เป็นอย่างไร
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 2.การพัฒนารูปแบบและกลไกÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัยและเกþตรอินทรีย์ ÿู่แนüทางการรองรับ มาตรฐานเกþตรอินทรีย์แบบมีÿ่üนร่üม (PGS) เพื่อลดคüามเĀลื่อมล้ำเýรþฐกิจของเกþตรกร อำเภอลำลูกกา จังĀüัดปทุมธานีคüรเป็นอย่างไร 3.การพัฒนาÿภาผู้นำเกþตรกรอินทรีย์ต้นแบบ จะเป็นเครื่องมือนำไปÿู่การได้แนüทางการรองรับ มาตรฐานเกþตรอินทรีย์แบบมีÿ่üนร่üม (PGS) 4 ÿายคลอง (คลอง 10-13) และÿามารถลดคüามเĀลื่อมล้ำทาง เýรþฐกิจของเกþตรกรได้อย่างไร 2. üัตถุประÿงค์(เป้าĀมายการดำเนินการüิจัย) 2.1 เพื่อýึกþาและüิเคราะĀ์ ÿถานการณ์ของการทำเกþตรปลอดภัยและเกþตรอินทรีย์ 4 ÿายคลอง (คลอง 10-13) โดยการมีÿ่üนร่üมของเกþตรกร 2.2 เพื่อพัฒนารูปแบบและกลไกÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัยและเกþตรอินทรีย์ ÿู่การรองรับมาตรฐาน เกþตรอินทรีย์แบบมีÿ่üนร่üม (PGS) เพื่อลดคüามเĀลื่อมล้ำเýรþฐกิจของเกþตรกร อำเภอลำลูกกา จังĀüัดปทุมธานี 2.3 เพื่อพัฒนาเกþตรกรอินทรีย์ต้นแบบ นำไปÿู่การรองรับมาตรฐานเกþตรอินทรีย์แบบมีÿ่üนร่üม (PGS) 4 ÿายคลอง (คลอง 10-13) และÿามารถลดคüามเĀลื่อมล้ำทางเýรþฐกิจของเกþตรกร 3. ทบทüนüรรณกรรมที่เกี่ยüข้อง 1 แนüคิดÿภาผู้นำชุมชน กับการพัฒนาชุมชนใĀ้เข้มแข็งโดยชุมชนนิยม(communitarianism) ÿภาผู้นำชุมชนตามแนüคิดของ ไพบูลย์ üัฒนýิริธรรม ที่ใĀ้นิยามไü้ü่า เป็นกระบüนการชุมชน ที่ฝังรากลึก อยู่ในĀัüจิตĀัüใจของชาüชุมชนมายาüนาน นั้นคือ ÿภาผู้เฒ่า ผู้แก่ ที่มีอยูในเกือบทุกชุมชนเมื่อÿมัยโบราณ ซึ่งจะมี ผู้ÿูงอายุ Āรือผู้ใĀญ่ที่มีคนนับถืออันเนื่องจากเป็นคนที่มีคุณงามคüามดี ที่คนเคารพกราบไĀü้ด้üยคüามจริงใจ ÿนิท ใจ อีกทั้งจะเป็นคนที่มีÿติปัญญา ในชุมชนĀนึ่งๆที่มีจำนüนคนไม่น้อย จะมาพบปะกันที่üัด เพราะโดยÿ่üนใĀญ่ บุคคลเĀล่านี้มักจะใฝ่ในงานบุญ งานกุýล üัดจึงเป็นเÿมือนที่ประชุมของผู้คน โดยเจ้าอาüาÿเป็นประธานทุกข์ ÿุข ของชุมชน และทางออกของชุมชนจะถูกĀยิบยกมาพูดคุยกันในกลุ่ม ซึ่งกลุ่มอาüุÿจะมีอำนาจĀน้าที่ในการปกครอง ดูแลลูกบ้านในด้านคüามÿงบÿุข คüามปลอดภัย ชักจูงใĀ้ลูกบ้านร่üมปฏิบัติงานเป็นประโยชน์ต่อÿ่üนรüม ในขณะที่ แนüคิดของ ไพฑูรย์ üัฒนýิริธรรม ได้กลายเป็นการพัฒนาไปÿู่ การจัดตั้ง “ÿภาองค์กรชุมชน” ในปัจจุบัน โดยมี Āน่üยงานอย่างÿถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์กรมĀาชน) อย่างไรก็ตามในมุมองของคำü่า ÿภาผู้นำชุมชน ในคüามĀมายของ มรกต พิธรัตน์ (2547) ได้ใĀ้ คüามĀมายü่า ÿภาผู้ชุมชนเป็นองค์คณะของผู้นำ กลุ่มอาชีพ กลุ่มออมทรัพย์ ตัüแทนปราชญ์ชาüบ้าน และผู้นำ ทางการ ได้ทำĀน้าที่บริĀารกิจกรรมต่างๆของชุมชน ในขณะมุมมองทางการเมืองคำü่า “ÿภาผู้นำชุมชน” จะเĀ็น ü่าเป็นแนüคิดที่เป็นการรüมตัüของตนในชุมชนเพื่อรüมขับเคลื่อนการพัฒนา แก้ไขปัญĀา อย่างมีÿ่üนร่üมของคน
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 ในชุมชน ซึ่งÿภาผู้นำชุมชนถือü่าเป็นประชาธิปไตยขั้นพื้นฐานของการปกครองบ้านเมือง ที่ตั้งอยู่บนฐานอุดมการณ์ ของชุมชนนิยม (communitarianism) ที่มคüามเชื่อü่าภายในชุมชนแต่ละชุมชนนั้นมีเอกลักþณ์เป็นของตนเอง และยังคงเก็บลักþณะÿังคมและüัฒนธรรมเช่นนี้เก็บซ่อนเอาไü้ (ฉัตรทิพย์ นาถÿุภา 2550,Āน้า 16) เพราะด้üย ÿภาพเýรþฐกิจในÿังคมปัจจุบันเป็นตัüเÿมือนบีบใĀ้ชาüบ้านต้องใĀ้คüามÿำคัญในเรื่องปัจเจกบุคคล และครอบครัü มากกü่าเรื่องกิจกรรมทางÿังคม ดังนั้นĀากÿามารถที่จะเปลี่ยนลักþณะĀรือÿถานะบางอย่าง ใĀ้เน้นการกระตุ้นใĀ้ เกิดขึ้นจากภายในชุมชน Āมู่บ้านตนเอง พลังและคüามเข้มแข็งของชุมชนและĀมู่บ้านจะปรากฎออกมา ซึ่ง ÿอดคล้องกับนักคิดที่ÿำคัญที่เÿนอใĀ้ใช้กระบüนการพัฒนาประเทýโดยยึดชุมชนĀมู่บ้านเป็นÿถาบันĀลัก นั้นคือ มĀาตมะ คานธี (Mohandas Karamchand Gandhi) โดยคานธี ได้เÿนอแนüคิดที่เรียกü่า ÿüราช (Swaraj) ÿüดทýี (Swadeshi) ÿนับÿนุนในคüามÿำคัญĀลักของการพัฒนาชุมชนĀมู่บ้าน Āลักการของทั้งÿอง คือ ชุมชน จะต้องพึ่งตนเองและอยู่ได้ด้üยตนเองใĀ้ได้ เป้าĀมายของการแลกเปลี่ยนĀรือติดต่อค้าขายกับĀน่üยงานที่ใกล้กับ ตัüเองมากที่ÿุดก่อน เช่น ครอบครัü เพื่อบ้านĀรือชุมชน (ฉัตรทิพย์ นาถÿุภา 2550 Āน้า 21-22) อย่างไรก็ตามแนüคิดÿภาผู้นำชุมชน จึงเป็นพัฒนาการอีกขั้นของชุมชนในการพัฒนาการบริĀารจัดการ ชุมชนอย่างมีระบบ มีแผนงาน และมีคüามรับผิดชอบ ยังเป็นการÿร้างเüทีแĀ่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และแก้ไข ปัญĀาของชุมชน ดังนั้นจะเĀ็นได้ü่าÿภาผู้นำชุมชนเป็นแนüคิดที่จับเคลื่อนคüามเข้มแข็งของชุมชนที่นำไปÿู่การ จัดการตนเอง โดย ÿÿÿ.ÿำนัก 6 (2559) ซึ่งจากüิกฤติการใช้ÿารเคมีทางการเกþตรของĀมู่บ้าน ทำใĀ้มีคนเÿียชีüิต จากการใช้ÿารเคมีและเคยถูกร้องเรียนไปในĀลายĀน่üยงานถึงการใช้ÿารเคมีรบกüนพื้นที่ใกล้เคียง ขณะที่การ ทำงานเพื่อแก้ปัญĀาก็ต่างฝ่ายต่างทำ แต่ก็ไม่ÿามารถแก้ปัญĀาเพียงลำพังได้ÿำเร็จ จนกระทั่ง ÿÿÿ. ได้เปิดโอกาÿ ใĀ้มีการแก้ปัญĀาในชุมชน โดยมีเงื่อนไขโครงการที่ÿำคัญคือการรüมตัüกันเป็นกลไกการทำงาน ที่เรียกü่า “ÿภา ผู้นำชุมชน” ซึ่ง ÿÿÿ. นำต้นแบบการทำงานจากĀมู่บ้านĀนองกลางดง จึงเกิดคüามÿนใจ เพราะในĀมู่บ้านแม้มี กรรมการตามโครงÿร้างแต่ไม่ÿามารถทำงานได้ โดย นายพีรüัý คิดกล้า ผู้ใĀญ่บ้านÿำโรง ได้กล่าüü่า “การรüมตัüของÿภาผู้นำชุมชนจึงใช้กรรมการĀมู่บ้านเดิม 15 คน จากนั้นได้รüมตัüแทนจากทุกกลุ่ม เช่น กลุ่มผัก ÿตรีออมทรัพย์ กลุ่มเยาüชน กองทุนĀมู่บ้าน กลุ่มเýรþฐกิจพอเพียง กลุ่มผู้ÿูงอายุ ปราชญ์ และ จิตอาÿาเข้าร่üมเพื่อพูดคุยกัน ซึ่งเราไม่ได้พูดแค่เรื่องผัก แต่เอาปัญĀามาคุยและพบü่าไม่มีข้อมูลชุมชนที่ เพียงพอจึงเกิดการจัดการข้อมูลชุมชน ทำใĀ้เĀ็นปัญĀาตรงกัน เกิดคüามอยากแก้ไขปัญĀาร่üมกัน โดยใช้ กลไกของÿภาผู้นำชุมชนในการขับเคลื่อนการทำงาน พร้อมกับมีมาตรการชุมชนในการกำกับติดตาม เพื่อใĀ้เกิดการปฏิบัติร่üมกันในชุมชน” “กลไกÿภาผู้นำชุมชน” คือตัüอย่างจัดการปัญĀาในพื้นที่ thaihealth กล่าüü่า ผลจากการพูดคุยกัน จึง นำÿู่การจัดการปัญĀา ทั้งมาตรการลดการใช้ÿารเคมีในการปลูกผัก จากเดิมที่เคยมีค่าใช้จ่ายในการซื้อÿารเคมีมาก
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 ถึง ปีละ 89,975 บาท จากการทำประชาคมและกำĀนดกติการ่üมกัน บ้านÿำโรงÿามารถลดการซื้อÿารเคมีเĀลือปี ละ 15,485 บาท ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 80 นอกจากนี้ชุมชนยังÿามารถกำĀนดกติกาในเรื่องงานบุญประเพณีปลอด เĀล้า ÿามารถลดค่าใช้จ่ายในการซื้อเĀล้าของชุมชนจากเดิมในปี 2555 มีค่าใช้จ่ายซื้อเĀล้า 1,270,000 บาท ลดลง เĀลือ 1,069,320 บาท ในปี 2558 Āรือลดลง 200,680 บาท และยังช่üยลดปัญĀาการทะเลาะüิüาท ไม่พบ ผู้เÿียชีüิตจากการเมาแล้üขับ รüมถึงการตั้งกติกาครัüเรือนน่าอยู่คัดแยกขยะและรักþาคüามÿะอาด เกิดรายได้จาก การขายขยะทั้งĀมู่บ้าน ปี 2558 เฉลี่ยเดือนละ 10,072 บาท และครัüเรือนปลอดลูกน้ำยุงลายต่อเนื่อง จาก รายงานการÿำรüจแĀล่งเพาะพันธุ์ยุงลายพบค่า HI CI มีค่าน้อยกü่า 10 ÿ่งผลใĀ้ตลอดทั้งปีมีผู้ป่üยโรคไข้เลือดออก เป็นýูนย์ จากเดิมที่พบผู้ป่üยโรคไข้เลือดออกจำนüนมากในชุมชน 4.2 แนüคิดเýรþฐกิจฐานราก เýรþฐกิจฐานราก คือ ระบบเýรþฐกิจของชุมชนท้องถิ่นที่ÿามารถพึ่งตนเองภายใต้ปรัชญา เýรþฐกิจพอเพียงที่มีการช่üยเĀลือ เอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน มีคุณธรรมและเป็นระบบเýรþฐกิจที่เอื้อใĀ้เกิดการ พัฒนาด้านอื่น ๆ ในพื้นที่ ทั้งเýรþฐกิจ ÿังคม ผู้คน ชุมชน üัฒนธรรม ÿิ่งแüดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติอย่างเข้มแข็ง และยั่งยืน ระบบเýรþฐกิจฐานราก จะต้องมีแนüทางการพัฒนาและการจัดการโดยชุมชนท้องถิ่นใĀ้ครบ üงจรมากที่ÿุด มีการÿร้างทุนและกองทุนที่เข้มแข็ง มีการผลิตพื้นฐาน การแปรรูป การบริการ การตลาด การผลิต อาĀารและคüามจำเป็นพื้นฐานเพื่อการดำรงชีüิต การอยู่ร่üมกันÿำĀรับคนในพื้นที่อย่างพอเพียง และพัฒนาเป็น üิÿาĀกิจเพื่อÿังคมĀรือธุรกิจของชุมชนต่าง ๆทั้งขนาดย่อมĀรือขนาดใĀญ่ขึ้น องค์ประกอบÿำคัญของเýรþฐกิจฐานรากที่เข้มแข็ง 1.มีการรüมกลุ่ม เพื่อÿร้างพลังในการทำงานร่üมกัน 2.มีการจัดการระบบการเงินของชุมชน การบูรณาการทุนร่üมกัน มีกองทุนของชุมชนที่ เข้มแข็ง 3.มีระบบการจัดการทุนชุมชนที่ครอบคลุมทุนทางÿังคม ทุนคน ฟื้นฟูทรัพยากร üิถี üัฒนธรรมภูมิปัญญา อัตลักþณ์ของชุมชนท้องถิ่น และประüัติýาÿตร์ 4.มีระบบข้อมูลที่ทันÿมัยรอบด้านทั้งภายในและภายนอก เพื่อการüิเคราะĀ์ระบบของ ท้องถิ่น อาชีพ รายได้ รายจ่าย การผลิต ฐานเýรþฐกิจ ที่ดิน คüามเป็นอยู่ของคนในชุมชน 5.มีระบบการผลิตของชุมชนทั้งขั้นพื้นฐาน และก้าüĀน้าที่ได้มาตรฐาน มีมูลค่าเพิ่มและ ÿามารถเชื่อมโยงระบบเýรþฐกิจภายนอกได้ 6.ÿร้างคüามร่üมมือในทุกระดับและทุกมิติ เพื่อใĀ้เกิดคüามร่üมมือใĀ้บรรลุเป้าĀมาย และÿัมพันธภาพที่ดี ทั้งระดับกลุ่มต่อกลุ่ม กลุ่มกับชุมชน ตำบล อำเภอ จังĀüัด 7.มีระบบการอยู่ร่üมกัน Āรือเคารพกติกา จารีตประเพณีในการอยู่ร่üมกัน ระบบ ÿüัÿดิการการดูแลซึ่งกันและกัน
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 8.มีคุณธรรม จริยธรรมในการทำกิจกรรม การประกอบกิจการทั้งด้านเýรþฐกิจ และ ÿังคม Āรือการดำรงชีüิต 9.มีคüามเป็นเจ้าของร่üมกัน โดยคนในชุมชนร่üมทุนร่üม กิจกรรมĀรือกิจการในการ พัฒนาต่าง ๆที่เกิดขึ้นในชุมชน 10.คนในพื้นที่ของชุมชนÿามารถมีÿ่üนร่üม มีคüามรู้เรื่องราüการพัฒนาในพื้นที่ รüมทั้ง คüามรู้ในÿังคมอื่น ๆ 4.3 แนüคิดทฤþฎีคüามเĀลื่อมล้ำ คüามĀมายคüามเĀลื่อมล้ำ ÿำนักงานÿภาพัฒนาการเýรþฐกิจและÿังคมแĀ่งชาติ (ÿýช.) ใĀ้คüามĀมาย คüามเĀลื่อมล้ำ คือ คüาม แตกต่างĀรือคüามไม่เท่าเทียมกันของการกระจายทรัพยากรและฐานะคüามเป็นอยู่ของประชากรในประเทý Āรือ ÿถานการณ์ที่ บุคคลĀนึ่งได้รับบางอย่างที่คนอื่นไม่ได้รับ โดยคüามเĀลื่อมล้ำและคüามไม่เป็นธรรมมีคüาม เกี่ยüเนื่องครอบคลุมทุกมิติของÿังคม โดยรายงานüิเคราะĀ์ÿถานการณ์คüามยากจนและเĀลื่อมล้ำของÿำนักงาน คณะกรรมการพัฒนาการเýรþฐกิจและÿังคมแĀ่งชาติ ได้แบ่งคüามเĀลื่อมล้ำออกเป็น 4 ด้าน คือ 1) ด้านเýรþฐกิจ คüามเĀลื่อมล้ำคüามไม่เท่าเทียมกันของการกระจายคüามมั่งคั่ง รายได้และ ทรัพย์ÿิน และการถือครองที่ดิน 2) ด้านÿังคม คüามเĀลื่อมล้ำทางโอกาÿการเข้าถึงบริการÿาธารณะ การจัดÿรรและกระจาย ทรัพยากรและบริการของภาครัฐ เช่น การýึกþา ÿาธารณÿุข 3) ด้านคüามยุติธรรม คüามเĀลื่อมล้ำคüามไม่เท่าเทียมกันทางÿิทธิและโอกาÿการเข้าถึง กระบüนการยุติธรรม ของประชาชน 4) ด้านการเมือง เป็นคüามเĀลื่อมล้ำของอำนาจต่อรองทางการเมือง และการมีÿ่üนร่üมในการ ตัดÿินใจทาง การเมืองและกำĀนดนโยบาย ýุภเจตน์ จันทร์ÿาÿ์น (2550) ใĀ้คüามĀมาย คüามเĀลื่อมล้ำ (Inequality) คือ คüามไม่เท่าเทียมกัน ซึ่ง ปรากฏในทุก ๆ เรื่อง ในทุก ๆ ภาคÿ่üน และทุก ๆ เüลา คüามเĀลื่อมล้ำจึงเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่อาจขจัดใĀ้Āมด ÿิ้นได้ โดยคüามเĀลื่อมล้ำที่กล่าüมานั้นมีทั้งคüามเĀลื่อมล้ำทางเýรþฐกิจ (Economic Inequality) คüามเĀลื่อม ล้ำทางด้านการเมือง (Political Inequality) และคüามเĀลื่อมล้ำทางÿังคม (Social Inequality) กล่าüคือ
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 คüามเĀลื่อมล้ำทางการเมือง (Political Inequality) Āมายถึง อำนาจของกลุ่มบุคคลในพื้นที่ ต่าง ๆ ที่แตกต่างกัน ทำใĀ้เกิดอำนาจการต่อรองที่แตกต่างกัน กลุ่มคนที่ด้อยกü่าจึงถูกแย่งชิงทรัพย์ÿิน และโอกาÿ ที่จะได้รับการÿนับÿนุนจากทางภาครัฐ คüามเĀลื่อมล้ำทางเýรþฐกิจ (Economic Inequality) ปรากฏคüามไม่เท่าเทียมกันใน 3 ด้าน ได้แก่ 1) คüามไม่เท่าเทียมกันในรายได้และทรัพย์ÿิน 2) คüามไม่เท่าเทียมกันในการบริโภค และ 3) คüามไม่เท่า เทียมกันในการตัดÿินใจทำการผลิตและการแบ่งÿรรมูลค่าเพิ่มอันเกิดจากการผลิต คüามเĀลื่อมล้ำทางÿังคม (Social Inequality) เป็นผลมาจากคüามเĀลื่อมล้ำทางการเมือง Āรือไม่ก็เป็นคüามเĀลื่อมล้ำทางเýรþฐกิจอย่างใดอย่างĀนึ่งĀรือทั้งÿองอย่าง ทำใĀ้เกิดเป็นคüามไม่เท่าเทียมกันใน Āลายมิติทางÿังคมทั้งระดับภูมิภาคไปจนถึงปัจเจกบุคคล ขณะที่ üรภัทร üีรพัฒนคุปต์ กล่าüü่า คüามเĀลื่อมล้ำ (Inequality) Āมายถึง คüามไม่เÿมอภาค คüาม แตกต่างกัน มีการแบ่งแยกจนเกิดช่องü่างระĀü่างกลุ่มชนชั้น เป็นคüามไม่เท่าเทียมกันระĀü่าง “ผู้มีโอกาÿ” กับ “ผู้ขาดโอกาÿ” ซึ่งคำü่า “โอกาÿ” Āมายคüามถึง คüามÿามารถในการเข้าถึงการมีอำนาจต่อรอง มีÿิทธิในการ จัดการทรัพยากรต่าง ๆ ในÿังคม คüามเĀลื่อมล้ำนั้น บางครั้งอาจเป็นเĀตุและอาจเป็นผลในตัüเอง เพราะมนุþย์ เกิดขึ้นมาโดยไม่มีคüามเท่าเทียมกัน จึงก่อใĀ้เกิดคüามเĀลื่อมล้ำขึ้นมา คüามเĀลื่อมล้ำมีĀลายมิติ ÿถาบันüิจัยเýรþฐกิจป๋üย อึ๊งภากรณ์ ได้üิเคราะĀ์ปัญĀาคüามเĀลื่อมล้ำของไทยใน 3 ด้าน ได้แก่ ด้าน ผลลัพธ์ โอกาÿ และผลกระทบ พร้อมทั้งเÿนอแนะแนüทางการดำเนินนโยบายลดคüามเĀลื่อมล้ำอย่างเป็นระบบ โดยมุ่งเน้นที่การÿร้างโอกาÿในการĀารายได้ใĀ้กับครัüเรือน คüบคู่ไปกับการเพิ่มประÿิทธิภาพการจัดÿรรรายได้ ภาþีและรายจ่ายเงินโอนของภาครัฐ เพื่อใĀ้เýรþฐกิจไทยกลับมาเติบโตได้อย่างเต็มýักยภาพ เข้มแข็ง ทั่üถึง และ ยั่งยืนมากขึ้นในระยะยาü ปัจจุบันนโยบายเýรþฐกิจในĀลายประเทýไม่ได้มุ่งเน้นเฉพาะการขยายตัüเพียงอย่างเดียü แต่ ยังใĀ้คüามÿำคัญกับการเติบโตอย่างทั่üถึงด้üย ปัญĀาคüามเĀลื่อมล้ำจึงได้รับคüามÿนใจมากขึ้น เพราะÿะท้อนü่า ครัüเรือนแต่ละกลุ่มจะได้รับประโยชน์จากการขยายตัüของเýรþฐกิจทั่üถึงมากน้อยเพียงใด นอกจากนี้คüามเĀลื่อม ล้ำที่อยู่ในระดับÿูงมาเป็นเüลานานยังอาจบั่นทอนอัตราการเติบโตและเÿถียรภาพโดยรüมของเýรþฐกิจได้ คüามเĀลื่อมล้ำ (Inequality) ÿะท้อนถึงคüามไม่เท่าเทียมกันทางเýรþฐกิจและÿังคม ซึ่งงานýึกþาของ UNESCAP (2018) ได้แบ่งนิยามคüามเĀลื่อมล้ำออกเป็น 3 ด้าน ดังนี้
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 ด้านผลลัพธ์ (Outcome) : ÿะท้อนจากข้อมูลทางเýรþฐกิจของครัüเรือน โดยüัดจาก 3 มิติ ได้แก่ รายได้ รายจ่ายเพื่อการบริโภค และคüามมั่งคั่ง ซึ่งในทางปฏิบัติÿามารถüัดจากการĀาค่า Gini Index / Coefficients ที่เปรียบเทียบข้อมูลĀลายประเทýกันได้การÿร้างคüามÿัมพันธ์ระĀü่างร้อยละของรายได้ÿะÿมและ ร้อยละของประชากรÿะÿม (เÿ้น Lorenz Curve) ที่ÿามารถÿะท้อนการเปลี่ยนแปลงของคüามเĀลื่อมล้ำในแต่ละ ช่üงเüลา ด้านโอกาÿ (Opportunity) : พิจารณาจากคüามÿามารถในการเข้าถึงÿิทธิและบริการขั้น พื้นฐานที่แตกต่างกัน ÿ่งผลใĀ้ครัüเรือนแต่ละกลุ่มมีคุณภาพชีüิตที่แตกต่างกัน เช่น การเข้าถึงคüามช่üยเĀลือด้านที่ อยู่อาýัย การเข้าถึงบริการทางการýึกþาและÿาธารณÿุข บริการทางการเงิน เป็นต้น โดยคüามเĀลื่อมล้ำ ด้านโอกาÿÿามารถประเมินได้ทั้งในเชิงปริมาณ เช่น การนับจำนüนผู้มีÿิทธิเข้าถึงการใĀ้บริการขั้นพื้นฐานด้านต่าง ๆ และในเชิงคุณภาพ เช่น การüัดคุณภาพการใĀ้บริการของโรงพยาบาลตามมาตรฐานÿากล ด้านผลกระทบ (Impact) : พิจารณาจากผลของปัจจัยภายนอก (External Shocks) ที่กระทบต่อ ครัüเรือน อาทิ ภัยธรรมชาติ โรคระบาด และการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี โดยขนาดของผลกระทบÿำĀรับแต่ละ กลุ่มครัüเรือนมักไม่เท่ากันจาก 2 ÿาเĀตุĀลัก คือ (1) ปัจจัยภายนอกที่มีผลต่อครัüเรือนต่างกัน เช่น เกิดน้ำท่üมเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ ทำใĀ้รายได้ เฉลี่ยของครัüเรือนในภาคใต้ลดลง (2) ปัจจัยภายในของครัüเรือนที่มีทรัพยากรพื้นฐาน (Endowment) ต่างกันแม้ครัüเรือนจะเผชิญ ภาüะปัญĀาในลักþณะเดียüกัน แต่อาจได้รับผลกระทบไม่เท่ากัน เช่น การระบาดของโคüิด-19 ÿ่งกระทบต่อธุรกิจ ที่ÿามารถปรับตัüไปขายÿินค้าผ่านช่องทาง online ได้ Āรือคนที่อาýัยในชุมชนแออัดและÿภาพแüดล้อมไม่ เĀมาะÿมมีโอกาÿติดโรคระบาดได้ง่ายขึ้น เป็นต้น ทั้งนี้ ไม่ü่าคüามเĀลื่อมล้ำด้านผลกระทบจะเกิดจากÿาเĀตุใดก็ตามล้üนยิ่งตอกย้ำคüามแตกต่างของโอกาÿ และผลลัพธ์ใĀ้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่ง คüามเĀลื่อมล้ำทั้ง 3 ด้านเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน ยกเü้น คüามเĀลื่อมล้ำที่เกิด จากทรัพยากรพื้นฐานบางอย่าง เช่น คüามÿามารถโดยกำเนิด (innate ability) ที่ไม่เท่ากัน กอบýักดิ์ ภูตระกูล (2553) กล่าüถึง คüามเĀลื่อมล้ำĀลายมิติ อันĀมายคüามถึง คüามเĀลื่อมล้ำอันเป็น เพราะการกำเนิด คüามเĀลื่อมล้ำทางชาติพันธุ์ คüามเĀลื่อมล้ำทางเพýÿภาพ คüามเĀลื่อมล้ำตามถิ่นที่อยู่อาýัย คüามเĀลื่อมล้ำทางÿังคม คüามเĀลื่อมล้ำทางโอกาÿ คüามเĀลื่อมล้ำในÿิทธิ คüามเĀลื่อมล้ำทางการเมืองคüาม
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 เĀลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการของรัฐคüามเĀลื่อมล้ำในýักดิ์ýรีของคüามเป็นมนุþย์ เป็นต้น คüามเĀลื่อมล้ำทั้งĀลาย ข้างต้นนั้น นำไปÿู่คüามเĀลื่อมล้ำทางเýรþฐกิจและคüามเĀลื่อมล้ำทางÿังคม เกิดรูปแบบโครงÿร้างทางÿังคม คือ ÿังคมทางดิ่ง (Vertical society) Āมายถึง ÿัมพันธภาพเชิงอำนาจระĀü่างผู้มีอำนาจข้างบนกับผู้ ไม่มีอำนาจข้างล่างĀรือÿัมพันธภาพแบบบนลงล่าง ÿังคมทางราบ (Horizontal society) Āมายถึง ÿังคมที่มีคüามเÿมอภาค ÿามารถรüมตัüร่üมคิด ร่üมทำเป็นประชาÿังคม ณัฐüุฒิ อัýüโกüิทüงý์ และคณะ (2561, น. 161-163) ได้ýึกþาÿาเĀตุคüามเĀลื่อมล้ำของคนในเมือง โดย อนุมานเพื่อชี้ใĀ้เĀ็นÿาเĀตุคüามเĀลื่อมล้ำในเมือง ซึ่งมองü่าคüามเป็นเมือง คือ คüามเป็นภูมิเýรþฐกิจที่ÿัมพันธ์กับ ระบบเýรþฐกิจและระเบียบโลก (Global city) อีกด้านĀนึ่ง คือ การพัฒนาและคüามเปลี่ยนแปลงเชิงพื้นที่ ภาüการณ์ลักþณะนี้ได้ก่อใĀ้เกิดคüามเĀลื่อมล้ำต่อคนจนในเมือง ใน 3 ด้านประกอบด้üย 1) คüามเĀลื่อมล้ำเรื่องทรัพยากรที่ดินและที่อยู่อาýัย ÿภาพคüามเป็นเมืองมีลักþณะของการ กระจุกตัüของÿิ่งปลูกÿร้าง อาคาร และÿาธารณูปโภคอย่างเĀ็นได้ชัด ดังนั้น เมืองจึงเป็นพื้นที่ที่มีคüามĀนาแน่น ของÿิ่งเĀล่านี้อย่างต่อเนื่อง ÿüนทางกับการจัดÿรรที่ดินในเมืองที่มีจำกัด ด้üยเĀตุนี้จึงทำใĀ้เกิดชุมชนแออัดใน เมืองขึ้นมากมายในพื้นที่ต่าง ๆ ผนüกกับระบบทุนนิยมเÿรีในปัจจุบันทำใĀ้ที่ดินและที่อยู่อาýัยมีมูลค่าÿูง กลายเป็น ธุรกิจอÿังĀาริมทรัพย์ ÿ่งผลใĀ้คüามเĀลื่อมล้ำในเชิงÿังคม-กายภาพ (Socio-spatial) เกิดขึ้นอย่างรüดเร็ü 2) คüามเĀลื่อมล้ำด้านโอกาÿในการเข้าถึงปัจจัยการผลิตและคüามยากจนในเมือง ผลจากการ เติบโตของการพัฒนาทางด้านเýรþฐกิจของภาคการผลิตในเมืองและชนบทที่แตกต่างกันมาก ÿ่งผลใĀ้เกิดคüาม เĀลื่อมล้ำในเชิงภูมิýาÿตร์อย่างเĀ็นได้ชัด ทำใĀ้เกิดการกระจุกตัü (Agglomeration) ของปัจจัยการผลิตอันได้แก่ ที่ดิน แรงงาน เงินทุนและüัตถุดิบในการผลิต กระจุกอยู่ในที่เมืองโดยอาýัยคüามพร้อมของพื้นที่เมืองในการÿร้าง ฐานการผลิตของตนเองเพื่อÿร้างคüามได้เปรียบทางเýรþฐกิจที่มีการแข่งขันกันอย่างรุนแรงเกิดช่องü่างคüาม เĀลื่อมล้ำด้านโอกาÿในการเข้าถึงปัจจัยการผลิตที่แตกต่างกัน ทำใĀ้ช่องü่างคüามเĀลื่อมล้ำขยายตัüมากขึ้น 3) คüามเĀลื่อมล้ำด้านอำนาจและการเมืองในการเข้าถึงการบริĀารจัดการเมือง คüามเĀลื่อม ล้ำในเชิงอำนาจ และการเมืองในการบริĀารจัดการเมืองนั้นเกิดขึ้นจากคüามคลุมเครือและการซ้อนทับของอำนาจที่ ซ้อนทับกันอยู่อย่างĀลüม ๆ โดยมีคüามพยายามในการแข่งขันเพื่อช่üงชิงอำนาจและรักþาอำนาจนำ (Status quo) จนไม่ÿามารถประนีประนอมกันได้ คüามเĀลื่อมล้ำนี้ทำใĀ้เกิด “การเมือง” (Politics) ขึ้นบนฐานของคüาม ขัดแย้งในเชิงอำนาจ แม้ü่าจะมีโครงÿร้างอำนาจที่ชัดเจนอยู่ก็ตาม
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 ขณะที่ ณัฏฐภัทร์ กิ่งเนตร และคณะ (2562, น. 4) ได้ýึกþาปัจจัยคüามเĀลื่อมล้ำมิติอาชีพของไทย : กรณีýึกþาในอาชีพเกþตร พบü่า อิทธิพลต่อคüามเĀลื่อมล้ำในอาชีพเกþตรแบ่งเป็น 2 ปัจจัย ดังนี้ 1) ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อคüามเĀลื่อมล้ำ : มุมมองเชิงปริมาณ ปัจจัยที่มีผลต่อคüามเĀลื่อมล้ำทางด้านรายได้ของครัüเรือนจะครอบคลุม 3 ปัจจัยĀลัก ได้แก่ ทุน แรงงาน และ เทคโนโลยี จากรายได้ของครัüเรือนตามทฤþฎีการผลิต โดยปัจจัยทางด้านการเงินทั้งÿินทรัพย์ทาง การเงินและÿินเชื่อเพื่อที่อยู่อาýัย เป็นปัจจัยĀลักที่ทำใĀ้เกิดคüามเĀลื่อมล้ำทางรายได้ของครัüเรือนในอาชีพ เกþตรกร รüมทั้งการมีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง คือ ปัจจัยการผลิตที่ÿำคัญและการÿร้างแรงจูงใจในการเพิ่ม ประÿิทธิภาพการผลิตของภาคเกþตรตามĀลักเýรþฐýาÿตร์ ซึ่งÿะท้อนถึงคüามÿามารถในการเข้าถึงเงินทุนเพื่อ ขยายการผลิตที่ไม่เท่ากัน การไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตัüเองและการขาดโอกาÿที่ยกระดับคุณภาพชีüิตตัüเอง ÿิ่ง เĀล่านี้ทำใĀ้เกิด คüามเĀลื่อมล้ำทางรายได้ของครัüเรือนที่ประกอบอาชีพเกþตรกร 2) ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อคüามเĀลื่อมล้ำ : มุมมองเชิงคุณภาพ ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการÿร้างรายได้ที่แตกต่างกันในกลุ่มอาชีพเกþตรประกอบด้üย 6 ปัจจัย ด้üยกัน โดยมีรายละเอียด ดังนี้ (1) ปัจจัยด้านแĀล่งชลประทาน : การทำการเกþตรกับย่อมมีคüามต้องการ ดังนั้น ที่ดิน เพาะปลูกของใครใกล้แĀล่งน้ำย่อมได้เปรียบ Āากเปรียบเทียบคüามÿามารถในการเพาะปลูกของเกþตรกรทั้งใน เขตและนอกเขตชลประทานแล้ü พบü่า มีคüามแตกต่างอย่างเĀ็นได้ชัด ครัüเรือนที่เข้าถึงแĀล่งน้ำอยู่ตลอดมีโอกาÿ ในการเพาะปลูกได้ตลอดปีและมีพืชผลที่ĀลากĀลาย มีคüามยืดĀยุ่นในการปรับเปลี่ยนการปลูกพืชใĀ้ÿอดคล้อง ÿภาüะตลาด ณ เüลานั้น ได้มากกü่า (2) ปัจจัยด้านที่ตั้ง : ÿภาพทางภูมิýาÿตร์เป็นปัจจัยÿำคัญที่ÿ่งผลต่อลักþณะการ เพาะปลูกของเกþตรกร ในพื้นที่ÿภาพภูมินิเüýน์เอื้ออำนüยÿามารถปลูกพืชที่ตลาดต้องการเป็นพิเýþĀรือปลูกพืช ได้ĀลากĀลายชนิด ÿร้างคüามได้เปรียบในการผลิตได้เช่นกัน (3) ปัจจัยด้านทัýนคติและการปรับตัü : การýึกþา พบü่า พฤติกรรมของครัüเรือน เกþตรกรที่คอยติดตามข่าüÿารÿภาüะตลาดและปรับตัüอยู่ตลอดเüลา อย่างกรณีราคาÿินค้าเกþตรตัüใดไม่ดีก็ พร้อมที่จะเปลี่ยนรูปแบบการเพาะปลูก เช่น ลดต้นทุนการผลิตด้üยการใช้ปุ๋ยใĀ้มีประÿิทธิภาพ เป็นต้น Āรือการ นำเอาองค์คüามรู้ÿมัยใĀม่และการใช้เทคโนโลยีมาช่üยเพิ่มประÿิทธิภาพในการผลิต ทำใĀ้เกþตรกรÿามารถริเริ่ม ปรับตัüและĀาĀนทางในการผลิตเพื่อÿอดรับกับกลไกตลาดได้อย่างÿม่ำเÿมอ
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 (4) ปัจจัยด้านพันธุ์พืช : พืชผลที่แตกต่างกันใĀ้ผลตอบแทนต่างกันขึ้นอยู่กับคüาม ต้องการของตลาดในแต่ละช่üงเüลา เช่นเดียüกับราคาพืชแต่ละชนิดที่มีคüามแตกต่างกันตามÿภาพตลาดของพืช ชนิดนั้น ๆ ในแต่ละช่üงเüลา เช่น ในช่üงมีนาคมถึงเมþายนของปี จะเĀ็นได้ü่า คüามต้องการทุเรียนจากจีน มีมาก ทำใĀ้ราคาทุเรียนเพิ่มขึ้น เกþตรกรที่ปลูกทุเรียนจึงÿามารถÿร้างรายได้มากขึ้นเป็นพิเýþเมื่อเทียบกับในอดีต ในขณะที่ราคายางพาราตกต่ำจากผลกระทบของคüามต้องการของตลาดโลกที่ลดลง จากปัจจัยภายนอกที่คüบคุม ไม่ได้ ดังนั้น การเพาะปลูกพืชที่ตอบÿนองกับคüามต้องการของตลาดจะช่üยใĀ้เกþตรกรÿร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้นได้ (5) ปัจจัยด้านทักþะและประÿบการณ์ : การÿั่งÿมคüามเชี่ยüชาญ นำคüามรู้มาพัฒนา ต่อยอด เกþตรกรที่มีคüามชำนาญในการเพาะปลูกพืชบางชนิดเป็นพิเýþ เกิดจากการที่ลองผิดลองถูกมาเป็น เüลานาน เป็นการเรียนรู้เทคนิคการเพาะปลูกใĀม่ ๆ ทำใĀ้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพและโดดเด่นกü่าเกþตรกร โดยทั่üไป (6) ปัจจัยด้านการใช้เทคโนโลยี : เพิ่มประÿิทธิภาพในการผลิต รüมทั้งÿร้างโอกาÿใĀม่ ๆ ทางการค้าในรูปแบบออนไลน์เพิ่มโอกาÿช่องทางขายผลผลิตใĀ้มากขึ้น ÿามารถÿร้างเครือข่ายระĀü่างกลุ่มเฉพาะ เพื่อประโยชน์ในการกระจายผลิตและการขนÿ่งทางไกลการรüมตัüทำใĀ้ภาüะต้นทุนต่ำและÿามารถต่อรองกลไก ราคาตลาดได้ พลüัตคüามเĀลื่อมล้ำ คüามเĀลื่อมล้ำในยุคปัจจุบัน The Standard ได้อธิบาย เĀตุคüามเĀลื่อมล้ำของประเทýไทยที่ไม่ได้เกิดจากคüามจน แต่ทำใĀ้คนไทย ยากจนลง โดยกล่าüü่า คüามเĀลื่อมล้ำของไทยมีแนüโน้มปรับขึ้นÿูงเรื่อยๆ ÿะท้อนจากÿัดÿ่üนÿินทรัพย์ที่ถือครอง โดยคน 1% ที่รüยที่ÿุดเพิ่มขึ้นอย่างก้าüกระโดดในช่üง 1 ทýüรรþ นอกจากนี้มีข้อมูลทางüิชาการซึ่งปัจจุบันมัก อ้างอิงจากข้อมูลแบบÿำรüจภาüะเýรþฐกิจและÿังคมแĀ่งชาติ (ÿýช.) ÿะท้อนü่ากลุ่มคนรายได้ÿูงมีรายได้ที่เติบโต ÿูงขึ้นเร็üกü่าคนรายได้น้อย ทำใĀ้เýรþฐกิจไทยช่üงที่ผ่านมาเติบโตอย่างไม่ทั่üถึง จนเกิดภาüะ “รüยกระจุก จน กระจาย” แม้ü่าช่üงที่ผ่านมาคüามเĀลื่อมล้ำด้านรายได้ของไทยปรับตัüดีขึ้น แต่ยังไม่ÿร้างคüามยั่งยืนในมุมมองระยะ ยาüได้ เพราะÿ่üนĀนึ่งมาจากเงินชั่üคราü ซึ่งเป็นเงินช่üยเĀลือจากภาครัฐและเงินโอนเพื่อเลี้ยงดูครอบครัü ซึ่งไม่ ÿะท้อนผลิตภาพของแรงงานที่เพิ่มขึ้นโดยตรง ดังนั้น Āากจะแบ่งปัจจัยที่ทำใĀ้เýรþฐกิจไทยมีคüามเĀลื่อมล้ำÿูง ÿามารถแบ่งได้ 4 ปัจจัย ได้แก่
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 (1) คนไทยกü่า 31% ทำงานในภาคเกþตร แต่กลับเจอราคาÿินค้าเกþตรตกต่ำ ทำใĀ้การ เติบโตของรายได้อยู่ในระดับต่ำ ทำใĀ้คüามเĀลื่อมล้ำกü้างขึ้น (2) คüามเĀลื่อมล้ำด้านโอกาÿ ทั้งมิติโอกาÿทางการýึกþา กลุ่มคนรายได้น้อยจะเข้าถึง การýึกþาที่ดีได้น้อย ÿิทธิแรงงานอยู่ในระดับต่ำ ค่าแรงที่เติบโตช้ากü่าเýรþฐกิจ (3) ÿถานการณ์โคüิด-19 กระทบรายได้กลุ่มเปราะบางที่มีรายได้น้อยมากกü่ากลุ่มที่มีรายได้ ÿูงกü่า ขณะที่แรงงานนอกระบบมีจำนüนมาก (54% ของแรงงานทั้งĀมด) แต่ขาดรัฐÿüัÿดิการที่เข้มแข็ง (4) ประเทýไทยที่กำลังจะก้าüเข้าÿู่ÿังคมÿูงอายุจะยิ่งทำใĀ้คüามเĀลื่อมล้ำแย่ลง ในรายการ TSRI Virtual Forum 2020,Episode-II {ÿืบค้นออนไลน์.] มีการเÿüนาเกี่ยüกับคüามเĀลื่อมล้ำ ในระบบโลกใĀม่ในภาüะที่ประเทýไทยเผชิญüิกฤตโรคติดเชื้อไüรัÿโคโรนา 2019 (COVID-19). Āัüข้อ “ระเบิดเüลา ของคüามเĀลื่อมล้ำ กับดักของการพัฒนาประเทý” เมื่อüันเÿาร์ที่ 12 กันยายน พ.ý.2563 โดยÿาระÿำคัญได้ กล่าüถึงระบบเýรþฐกิจและÿังคมทั่üโลกมักมีลักþณะคล้ายĀรือใกล้เคียงกัน เช่น คüามไม่เท่าเทียมของทุน ทรัพยากร คüามรู้เป็นÿาเĀตุĀลักของคüามเĀลื่อมล้ำ อย่างไรก็ดี คüามแตกต่างของพื้นที่ บริบท üัฒนธรรมก็ÿ่งผล ใĀ้แต่ละÿังคมมีรายละเอียดคüามเĀลื่อมล้ำแตกต่างกันไป อีกทั้งยังมีคüามซับซ้อนมากขึ้นเช่นกัน ÿำĀรับประเทýไทยคüามเĀลื่อมล้ำที่เĀ็นได้ชัดเจนที่ÿุด คือ คüามเĀลื่อมล้ำของทุนและการเข้าถึงทุน พบü่า มีคüามไม่เท่าเทียมกันในแต่ละบุคคล เช่น ÿิทธิการใช้ที่ดิน การรับรู้และการใช้ข้อมูลข่าüÿาร ÿิทธิการใช้ เทคโนโลยี ÿามารถÿะท้อนภาพคüามเĀลื่อมล้ำด้üยคüามยากจนของประชาชน เมื่อมีคüามเĀลื่อมล้ำĀรือคüาม ยากจนเพิ่มมากขึ้นจะถูกÿะÿมไปÿู่คüามขัดแย้งได้โดยง่าย ลักþณะเĀล่านี้อาจทำใĀ้เกิดเป็นÿถาบัน กลุ่มคนที่ รüมตัüกันและมีบทบาทÿำคัญในโครงÿร้างทางÿังคม เกิดเป็นโครงÿร้างผูกขาด ทำใĀ้คüามเĀลื่อมล้ำกลายเป็น คüามเป็นจริงประจักþ์ชัดเป็นรูปธรรมทางÿังคม นอกจากนี้ อารยะ ปรีชาเมตตา (2557, น. 23) ได้üิเคราะĀ์ÿาเĀตุพลüัตคüามเĀลื่อมล้ำทางเýรþฐกิจเชิง พื้นที่ ครอบคลุมชาüนาที่อยู่ในและนอกเขตพื้นที่ราบลุ่มเจ้าพระยาตอนบน ซึ่งเป็นปัญĀาที่ÿัมพันธ์กับระบบ เýรþฐกิจแบบยังชีพและเýรþฐกิจแบบตลาดในÿมัยกรุงรัตนโกÿินทร์ตอนต้น ช่üงก่อนÿนธิÿัญญาเบาü์ริ่ง ใน การýึกþาได้พิจารณาทั้งปัจจัยเชิงเýรþฐกิจ ÿังคม และการเมืองการปกครองในÿมัยนั้น อาทิ ระบบการเช่านาจาก ผู้ปกครองรัฐ การผูกขาดการค้าต่างประเทýโดยรัฐผ่านพระคลังÿินค้า การกระจายคüามเÿี่ยงของเýรþฐกิจในยุค เปลี่ยนผ่าน การบังคับเกณฑ์แรงงานไพร่ภายใต้ระบบýักดินาและระบบอุปถัมภ์ ผลÿรุปจากการýึกþาพบü่า คüาม เĀลื่อมล้ำ ทางเýรþฐกิจในเชิงพื้นที่เมื่อต้นรัตนโกÿินทร์นั้นเป็นผลมาจากคüามÿัมพันธ์เชิงดุลยภาพ 4.Āลักการของงานüิจัยเพื่อท้องถิ่น (Community-based research Āรือ CBR)
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 งานüิจัยเพื่อท้องถิ่น (Community-based research) เน้นการมุ่งเข้าไปเพิ่มขีด คüามÿามารถของชุมชน ท้องถิ่น โดยเน้นใĀ้คนในชุมชนท้องถิ่นใช้ประโยชน์จากงานüิจัย ด้üยการเข้าร่üมกระบüนการüิจัยทุกขั้นตอน เริ่ม ตั้งแต่การüิเคราะĀ์ชุมชนเพื่อกำĀนดโจทย์คำถามüิจัย การทบทüนทุนเดิมในพื้นที่ การออกแบบการüิจัย และการ üางแผนปฏิบัติการüิจัย การเก็บรüบรüม ข้อมูลและการüิเคราะĀ์ข้อมูล การทดลองปฏิบัติจริงเพื่อÿร้างรูปธรรมใน การตอบโจทย์üิจัยĀรือ แก้ปัญĀาในพื้นที่üิจัย การประเมินและÿรุปบทเรียน เน้นใĀ้เกิดกระบüนการเรียนรู้ระĀü่าง นักüิจัย ชาüบ้าน คนในชุมชนท้องถิ่น นักüิชาการ ข้าราชการ นักพัฒนา และผู้ทรงคุณüุฒิที่จะได้เรียนรู้ร่üมกัน เพื่อ ÿร้างคüามรู้และกลไกการจัดการปัญĀา เพื่อนำไปÿู่การพึ่งตนเองของชุมชนในพื้นที่การüิจัย โดยมีขั้นตอนการ ทำงานüิจัยที่แบ่งได้เป็น 3 ระยะ (มĀาüิทยาลัยเกริก, 2562) คือ 1. การเตรียมการ เตรียมชุมชน โดยมีการคัดเลือกชุมชนกลุ่ม ประเด็นปัญĀา ที่จะ ทำงานüิจัย และÿร้างคüามÿัมพันธ์กับชุมชนทุกกลุ่ม 2. ขั้นตอนการดำเนินงานüิจัย การเก็บข้อมูลด้านเอกÿาร การýึกþาบริบทชุมชน การ üิเคราะĀ์ ปัญĀาของชุมชนอย่างเป็นระบบ เพื่อพิจารณาคüามเĀมาะÿม และคüามเป็นไปได้ของ üิธีการที่จะนำมาแก้ปัญĀา รüมถึงการบริĀารจัดการเกี่ยüกับผู้รับผิดชอบ ระยะเüลา งบประมาณที่ ต้องใช้ ตลอดจนการติดตามประเมินผลแต่ ละขั้นตอน 3. การÿรุปผลและเขียนรายงานการüิจัย ซึ่งต้องอาýัยการเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ มีการประชุม ÿรุปงานทุกครั้ง งานüิจัยเพื่อท้องถิ่นมีคำĀลักที่ÿะท้อนใĀ้เĀ็นถึงกระบüนทัýน์ ของการüิจัยĀลายประการ ดังนี้ 1. เป็นโจทย์ของชุมชน: เป็นการüิจัยในโจทย์Āรือคำถามที่ชุมชนอยากทำ เป็นปัญĀา ของชุมชน เป็นแรงผลักดันÿำคัญที่ทำใĀ้การüิจัยÿำเร็จได้ 2. ชุมชนทำüิจัยเอง: ผู้เข้าร่üมงานüิจัยจะต้องทำคüามเข้าใจและต้องเชื่อมั่นü่าชุมชนมีÿามารถ ทำüิจัยเองได้ โดยมีการĀนุนเÿริมจากพี่เลี้ยงภายนอกชุมชนที่จะช่üยÿนับÿนุนการทำüิจัย ของชุมชน 3. การมีÿ่üนร่üมของĀลายฝ่าย: การมีÿ่üนร่üมของเจ้าของปัญĀาและผู้ที่ใกล้ชิดกับ เจ้าของ ปัญĀา ซึ่งการÿร้างการมีÿ่üนร่üมที่เĀมาะÿมจะทำใĀ้เกิดคüามรู้ÿึกเป็นเจ้าของงานüิจัยของชุมชนและ กลุ่มเป้าĀมาย ทั้งนี้ คüรมีการออกแบบกระบüนการทำงานร่üมกัน ตั้งแต่การแบ่งบทบาทที่ ชัดเจนใน ทีมงานüิจัย ที่เĀมาะกับทักþะ คüามชอบของแต่ละคน ใĀ้มีโอกาÿได้พัฒนาตนเองผ่านการได้ลงมือทำจริงในกิจกรรมต่าง ๆ
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 4. พัฒนาและยกระดับการใช้คüามรู้ท้องถิ่น (Āรือภูมิปัญญาท้องถิ่น): ÿร้างโอกาÿใĀ้ชุมชนĀันมา ทบทüนýักยภาพĀรือทุนเดิมที่เป็นระบบคüามรู้ที่อยู่คู่กับชุมชนมานานแล้üนำไปผÿมผÿานกับคüามรู้ใĀม่ที่มีอยู่ใน การแก้ไขปัญĀาĀรือพัฒนาชุมชนมากกü่าการพึ่งพาแต่คüามรู้จากภายนอกเพียงอย่างเดียü 5. เน้นÿร้างคนมากกü่าÿร้างคüามรู้: การüิจัยเพื่อท้องถิ่นจะใĀ้น้ำĀนักที่การÿร้างคน ÿร้างกลุ่ม ÿร้างเครือข่าย กล่าüคือ เน้นกระบüนการเรียนรู้มากกü่าเน้นองค์คüามรู้ 6. การเÿริมพลังอำนาจของชุมชน: เกิดการฟื้นฟูยกระดับ และพัฒนาการจัดการโดย ชุมชน ทั้งใน ÿ่üนที่เกี่ยüกับระบบชุมชน ระบบทรัพยากร ระบบคüามรู้ ไปจนถึงระบบที่เĀนือชุมชนได้ชุมชนค้นพบตัüเอง และ ลุกขึ้นมากอบกู้ชุมชนด้üยมือของชุมชนเอง การüิจัยแบบ CBR มี 7 ขั้นตอน (กาญจนา แก้üเทพ, 2562) คือ 1. แÿüงĀาตัüนักüิจัย 2. การพัฒนาโจทย์üิจัย 3. การออกแบบüิจัย 4. การทำ คüามเข้าใจร่üม 5. การจัดข้อมูล 6. การใช้ประโยชน์จากข้อมูล 7. การถอด/ ÿรุปบทเรียน ซึ่งขั้นตอนต่าง ๆ ÿามารถÿลับได้ และÿามารถผ่านแต่ละขั้นตอนได้Āลายครั้งĀรือกลับไป กลับมา มีคüาม ยืดĀยุ่นได้ โดยบางขั้นตอนอาจยุบรüมĀรืออาจมีขั้นย่อยแทรกตามคüามบริบทของ งานüิจัยนั้น ทั้งนี้การออกแบบ โครงÿร้างและกลไกเพื่อการĀนุนช่üยกระบüนการทำงานที่มีระบบพี่ เลี้ยง/โĀนด/ýูนย์ประÿานงานจะเป็นกลไก Āนุนเÿริมเพื่อขับเคลื่อนการüิจัย เพราะกลไกฯ เĀล่านี้จะมีคüามยืดĀยุ่นเมื่อนักüิจัยลงมือทำตั้งแต่ต้นจนเÿร็จÿิ้น กระบüนการทำüิจัย และคุณค่าÿำคัญของ งานüิจัยเพื่อท้องถิ่นคือเป็นกลไกใĀม่ในการกระจายปัญญาÿู่ท้องถิ่น การüิจัยเพื่อท้องถิ่นถือเป็น เครื่องมือขยายโอกาÿทางการüิจัยและเป็นกลไกใĀม่ที่ช่üยใĀ้มีการกระจายคüามรู้และ ปัญญาใĀ้แก่ชาüบ้านตามท้องถิ่นต่าง ๆ การüิจัยเพื่อท้องถิ่นจึงเป็นÿĀüิทยาการและการบูรณาการÿูง โดยการ ดำเนินการüิจัยมีนักüิชาการจากĀลากĀลายÿาขาüิชามาทำงานร่üมกัน โดยเฉพาะการüิจัยที่เริ่มจาก ปัญĀาชุมชน เป็นĀลัก นอกจากนี้การüิจัยเพื่อท้องถิ่นยังได้นำกระบüนการจัดการคüามรู้มาทดแทน การอ่านทบทüนüรรณกรรม เพื่อใĀ้ได้รับคüามรู้เพิ่มเติมก่อนĀรือระĀü่างทำüิจัย อาจเป็นในรูปแบบ การจัดเüทีเÿüนาแลกเปลี่ยนระĀü่างผู้มี
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 ประÿบการณ์การýึกþาดูงาน Āรือการเชิญüิทยากรมาเล่าถึง ประÿบการณ์ที่ÿำคัญงานüิจัยเพื่อท้องถิ่นเน้นที่การใช้ ประโยชน์ได้จริงเนื่องจากเป็นงานüิจัยที่เริ่มจาก ปัญĀาชีüิตของชาüบ้านนักüิจัย รüมถึงการคิดค้นĀาüิธีแก้ปัญĀา งานüิจัยเพื่อท้องถิ่น และที่ÿำคัญต้อง มีการÿร้างคüามเข้าใจร่üมกันในĀมู่ทีมüิจัยตลอดเÿ้นทางการทำüิจัย งานüิจัยที่เกี่ยüข้อง ปริญญาพร ขุขันธิน (2534). ได้ÿนใจýึกþาเกี่ยüกับจิตÿำนึกทางการเมืองของชาüนาโดยýึกþาเฉพาะ กรณีĀมู่ที่ 1 ตำบลÿระแก้ü อำเภอĀนองĀงÿ์จังĀüัดบุรีรัมย์พบประเด็นที่ÿำคัญÿามารถÿรุปได้ดังนี้การรüม กลุ่มของชาüนาเป็นภาคปฏิบัติการของชาüนาผ่านการกระตุ้นของปัญญาชน (Intellectual) ที่มีประÿบการณ์ทั้ง ภายในĀมู่บ้านของตนและนอกĀมู่บ้าน โดยปฏิบัติตนเป็นÿะพานเชื่อมระĀü่างÿังคมĀมู่บ้านกับÿังคมภายนอก ทำ ใĀ้การมีกลุ่มของชาüนาÿามารถพัฒนาถึงระดับที่ÿามารถมีองค์กรของตนเอง ได้แก่กลุ่มเกþตรกรทำนาบ้านอ่าง แก้ü ÿ่üนการýึกþาด้านจิตÿำนึกที่ดำรงอยู่ภายใต้ÿภาพ เýรþฐกิจ การเมือง และÿภาพทางÿังคมและüัฒนธรรม ภายในĀมู่บ้าน ปรากฏü่า จิตÿำนึกเกิดจากปฏิÿัมพันธ์ระĀü่างการดำรงอยู่กับการปฏิบัติการของมนุþย์ซึ่งแบ่ง เป็น 3 ด้าน ได้แก่ มิติด้านเĀตุผลและคüามเข้าใจ (Cognition and Rationality) มิติด้านอารมณ์และคüามรู้ÿึก (Affectional) และมิติด้านการลงมือปฏิบัติการ (Conation) ในÿ่üนของมิติปฏิบัติการนั้นชาüนาบ้านอ่างแก้üได้มี การปฏิบัติการโดยผ่านการปฏิบัติการรüมกลุ่มกันในรูปแบบของÿĀกรณ์ร้านค้า เพื่อการแก้ไขปัญĀาทางเýรþฐกิจ และบางÿ่üนของชาüนาเĀล่านี้ÿามารถพัฒนายกระดับจากปฏิบัติการด้านเýรþฐกิจขึ้นมาเป็นปฏิบัติการทางด้าน การเมืองด้üย ทั้งนี้การที่กระบüนการชาüนาÿามารถพัฒนาÿูงถึงระดับจิตÿำนึกทางการเมืองได้นั้น เนื่องจากการ ได้ผ่านการยกระดับจิตÿำนึก อันได้แก่ ปัจจัยการเปลี่ยนแปลงโครงÿร้างทางÿังคม ปัจจัยการÿั่งÿมประÿบการณ์ ปัจจัยการมีโอกาÿติดต่อกับบุคคลภายนอก และพบü่ามีปัจจัยเพิ่มเติมได้แก่ ปัจจัยการคมนาคม และปัจจัยการมี ÿื่อมüลชนในĀมู่บ้าน ในขณะที่ไม่พบü่ามีปัจจัยเปลี่ยนแปลงฉับพลัน ผลจากการมีจิตÿำนึกของชาüนาบ้านอ่างแก้ü ทำใĀ้ชาüนามีคüามเป็นอิÿระÿูง ชอบแÿดงออกและมีการพูดคุยภายในกลุ่ม ทั้งนี้การที่ชาüนาบ้านอ่างแก้üÿามารถ มีจิตÿำนึกได้นั้น เนื่องจากการผ่านÿื่อกลางในการปฏิบัติการ ได้แก่ 1) กลุ่มเกþตรกรทำนาซึ่งเป็นการทำงานของ ผู้นำที่ปฏิบัติการในฐานะผู้กระทำ (Actor) ซึ่งเป็นการĀล่อĀลอม (Formation) ใĀ้เกิดคüามตื่นตัüทางýาÿนาและ ทางการเมือง ปัจจัยการเกิดจากการจัดองค์กร (Organize) ของผู้นำชาüนา และปัจจัยการถ่ายทอดเนื้อĀาทาง อุดมการทั้งทางโลกและทางธรรมของผู้นำ 2) เป็นการปฏิบัติการทางด้านอุดมการ ซึ่งมีการช่üงชิงคüามเป็นใĀญ่ (Hegemony) ทางอุดมการอยู่ตลอดเüลาภายในĀมู่บ้าน ซึ่งมีการต่อÿู้ระĀü่างอุดมการĀลัก (Dominant Ideology) กับอุดมการต่อต้าน (Counter Ideology) นอกจากนี้ยังมีการต่อÿู้ทางอุดมการระĀü่างรุ่น (Generation) และการต่อÿู้ทางอุดมการของคณะกรรมการชุดเก่าและคณะกรรมการชุดใĀม่ ซึ่งการต่อÿู้ทาง อุดมการต่าง ๆ นั้น ชาüนาบ้านอ่างแก้üจะเป็นผู้ตัดÿินใจที่จะใĀ้อุดมการใดครองคüามเป็นใĀญ่ทางอุดมการเĀนือ Āมู่บ้าน ซึ่งจะเป็นการชี้ทิýทางการพัฒนาĀมู่บ้านในอนาคตด้üย เชþฐกานต์ เĀล่าÿุนทร. (2557). ได้ýึกþาýักยภาพชาüนาในการปลูกข้าüอินทรีย์ จังĀüัดเชียงราย เพื่อใĀ้ ได้มาซึ่งรูปแบบýักยภาพในการปลูกข้าüอินทรีย์ที่ยั่งยืน โดยการอยู่อย่างเกื้อกูลระĀü่างธรรมชาติและชาüนา
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 ÿ่งเÿริมใĀ้ชาüนาและคนในชุมชนมีýักยภาพในการปลูกข้าüด้üยกระบüนการอินทรีย์ได้อย่างผู้มีคüามรู้ ÿามารถลด ต้นทุนการผลิต ปลอดจากÿารเคมี มีทัýนคติที่ดีต่อธรรมชาติและÿิ่งแüดล้อม และทำใĀ้มีคุณภาพชีüิตที่ดีขึ้น ทั้งนี้ ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อกลไกการพัฒนาýักยภาพด้านคüามรู้ คือ ปัจจัยด้านทักþะและปัจจัยด้านทัýนคติที่เกี่ยüกับ กระบüนการปลูกข้าüอินทรีย์ ประกอบไปด้üย 1) ต้นทุน 2) ÿุขภาพ 3) จิตÿำนึก 4) การมีÿ่üนร่üม และ 5) คüามรู้ ซึ่งมีผลทำใĀ้ชาüนาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการปลูกข้าüแบบüิถีดั้งเดิมเป็นการปลูกด้üยกระบüนการอินทรีย์มากขึ้น ทั้งนี้ โมเดลการพัฒนาýักยภาพการปลูกข้าüอินทรีย์ได้มาจากที่เกþตรกรเข้าร่üมอบรมพัฒนาคüามรู้ ทักþะ และ ทัýนคติ ตลอดจนการมีÿ่üนร่üมและผลักดันใĀ้ชาüนาตระĀนักถึงคุณค่าของการเรียนรู้จากÿื่อ ทำใĀ้ชาüนายอมรับ กระบüนการปลูกข้าüอินทรีย์ โดยผ่านการกล่อมเกลาคüามเชื่อและทัýนคติจากปัจจัยด้านÿังคมและÿื่อผู้นำทาง จิตใจ กอปรกับการชี้เĀ็นü่าการปลูกข้าüอินทรีย์เป็นแนüทางแก้ไขปัญĀาด้านการตลาดทำใĀ้ข้าüที่ชาüนาปลูกมี คุณค่าและมูลค่าเพิ่มขึ้นมากกü่าการปลูกแบบเคมี เป็นการแก้ไขปัญĀาที่เป็นรูปธรรมทำใĀ้ชาüนาและชุมชนเกิด คüามเข้มแข็ง ทั้งยังเป็นการการพัฒนาชาติอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคตได้ รุ่งทิพย์ชัยพรม (2558) ได้ýึกþากระบüนการรüมกลุ่มเกþตรกรผู้ปลูกลำไย ตำบลฮอด อำเภอฮอด จังĀüัดเชียงใĀม่ โดยมีüัตถุประÿงค์เพื่อýึกþากระบüนการรüมกลุ่มของเกþตรกร ýึกþาปัญĀาและอุปÿรรค ตลอดจนพัฒนากระบüนการรüมกลุ่มของเกþตรกรด้üยการüิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีÿ่üนร่üม (Participatory Action Research) ทั้งนี้ผลการüิจัยชี้ใĀ้เĀ็นü่า การรüมกลุ่มเกþตรกรผู้ปลูกลำไยเกิดขึ้นจากการÿำรüจĀาปัญĀา üิเคราะĀ์ปัญĀา และĀาแนüทางแก้ไข โดยดำเนินการรับÿมัครÿมาชิกกลุ่ม มีการจัดตั้งคณะกรรมการดำเนินงาน จัดทำร่าง กฎ กติกาของกลุ่มคüามคิดเĀ็นของกันและกัน เป็นการÿื่อÿารแ บบ 2 ทาง (Two Ways Communication) ÿ่งผลใĀ้เกิดการประเมินผลการดำเนินงานของกลุ่ม ÿ่üนปัญĀาและอุปÿรรคนั้นพบü่าการ ประชุมไม่มีคüามพร้อมเพรียง ไม่ค่อยแÿดงคüามคิดเĀ็นในการประชุม ขาดการแลกเปลี่ยนคüามรู้กัน ขาด ประÿบการณ์ในการทำงาน ขาดคüามรู้เรื่องการตลาด ขาดผู้นำที่มีประÿบการณ์ และขาดงบประมาณ ÿำĀรับ แนüทางการพัฒนานั้นได้เÿนอแนะไü้ü่า คüรĀาคüามร่üมมือจากĀน่üยงานภายนอก รüมกลุ่มกันซื้อปุ๋ยและยา แลกเปลี่ยนประÿบการณ์จัดตั้งกฎ ข้อบังคับของกลุ่ม เชิญüิทยากรมาใĀ้คüามรู้ ýึกþาดูงาน จัดประชุมเป็นประจำ ทุกเดือน ÿ่งเÿริมคüามรู้ด้านการตลาด และใĀ้ÿมาชิกมีÿ่üนร่üมการบริĀารจัดการกลุ่มในทุก ๆ ด้าน พระณรงค์ýักดิ์ น่üมเจริญ. (2558). ýึกþาผู้นำกับการÿร้างชุมชนเกþตรอินทรีย์ ýึกþาผ่านผู้นำชุมชน : ชุมชนบ้านชำปลาไĀล ตำบลÿองพี่น้อง อำเภอท่าใĀม่ จังĀüัดจันทบุรี พบü่า ผู้นำชุมชนและพื้นที่บ้านชำปลาไĀล ในอดีตประกอบอาชีพทำÿüนเกþตรเคมีเป็นĀลัก จนนำไปÿู่บ่อเกิดปัญĀาÿำคัญในชุมชน คือ ปัญĀาด้านÿุขภาพ ปัญĀาด้านÿิ่งแüดล้อม และจากปัญĀาในÿองด้านข้างต้น ÿ่งผลกระทบÿู่ปัญĀาด้านเýรþฐกิจ ปัญĀาเกิดจากการใช้ ÿารเคมีเพื่อการเกþตรมาเป็นระยะเüลานาน ต่อมาผู้นำได้ใช้ýักยภาพของตนเอง โดยเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงจาก ตนเอง ด้üยการเปลี่ยนการทำเกþตรแบบเคมีเป็นรูปแบบการผลิตด้üยเกþตรอินทรีย์แทน จนเกิดเป็นผลÿำเร็จใน
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 Āลายด้าน เช่น คüามยั่งยืนของอาชีพ มีคüามรู้ÿึกถึงคüามปลอดภัยของผักและผลไม้ ที่ตนเองผลิตขึ้นมาด้üยเกþตร อินทรีย์ ผลÿำเร็จด้านüิถีชีüิตชุมชน ชุมชนมีการพัฒนาแบบมีบูรณาการร่üมกันมาขึ้น เกิดกระบüนการÿร้าง คüามÿัมพันธ์กันเป็นระบบเครือญาติ ผู้นำกับชาüบ้าน ชาüบ้านกับชุมชนมีการเอื้อเฟื้อเผื่อแพร่ทางüัÿดุอุปกรณ์ทาง การเกþตร เกิดเป็นการเĀ็นอกเĀ็นใจซึ่งกันและกัน จนนำไปÿู่การช่üยเĀลื่อในĀลายด้านทางการเกþตร ÿ่üน ผลÿำเร็จด้านเýรþฐกิจ ผู้นำมีกินมีใช้ ตั้งตนอยู่บนทางÿายกลาง ยึดĀลักคüามพอเพียง ไม่มีĀนี้ÿิน มีการออมเงินใน ชุมชนด้üยกันเอง มีตลาดĀลักÿำĀรับซื้อผลผลิตเกþตรอินทรีย์ของชุมชน มีเงินĀมุนเüียนในการประกอบอาชีพ อย่างมั่นคง และภายĀลังที่ผู้นำประÿบผลÿำเร็จแล้ü จึงได้ขยายแนüทางของตนÿู่ชาüบ้าน และชุมชนเป็นลำดับ นอกจากนี้ยังพบü่า ผู้นำเป็นปัจจัยĀลักที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงด้านทัýนคติของชาüบ้านและชุมชน ใĀ้เกิด อุดมการณ์ร่üมและĀันมาÿร้างอาชีพเกþตรทำÿüนอินทรีย์ในรูปแบบเดียüกัน จนเกิดýักยภาพและพลังชุมชนขึ้น โดยมีปัจจัยเÿริมด้านอื่นเอื้อต่อคüามÿำเร็จของผู้นำคือ ปัจจัยด้านผู้นำทางจิตญาณ กระบüนการกลุ่ม กระบüนการ เรียนรู้ ภูมิปัญญา ภาครัฐ และรüมถึงปัจจัยด้านปัญĀาชุมชนด้üย ซึ่งปัจจัยเÿริมเĀล่านี้เป็นÿิ่งที่ดึงýักยภาพของ ผู้นำออกมาจนเกิดเป็นคüามน่าเชื่อถือและไü้ใจจากชาüบ้านและชุมชน จึงนำมาÿู่คüามคิดและการปฏิบัติแบบ เดียüกันขึ้น จากผลÿำเร็จด้านอาชีพที่ยั่งยืนนี้ ÿ่งผลใĀ้เกิดüิถีชีüิตชุมชนที่มีÿุขภาพไม่เจ็บป่üย ÿิ่งแüดล้อมมีคüาม ÿมดุล เýรþฐกิจชุมชนมั่นคง และการพึ่งตนเองได้ของชุมชนที่ทำใĀ้เกิดคüามยั่งยืนได้ในที่ÿุด ชมภูนุช Āุ่นนาค (2559). ÿนใจýึกþาคุณลักþณะผู้นำในการÿร้างชุมชนเข้มแข็งตามแนüการทำเกþตร แบบยั่งยืน กรณีÿĀกรณ์บ้านคลองโยง อำเภอพุทธมณฑล จังĀüัดนครปฐม ปรากฏผลการýึกþาü่า บ้านคลองโยง เป็นพื้นที่ทำการเกþตรเป็นĀลัก โดยบรรพบุรุþได้บุกเบิกĀักร้างถางพงทุ่งนครชัยýรีเพื่อเป็นที่อยู่อาýัยและที่ทำ กิน ในลักþณะของการเช่ามาโดยตลอด ด้üยคüามทุกข์ยากจากการไม่มีÿิทธิในการถือครองที่ดิน ÿ่งผลใĀ้ชาüบ้าน รüมตัüกันเคลื่อนไĀüĀลากĀลายรูปแบบ จนนำไปÿู่การกำĀนดนโยบายการถือครองที่ดินและบริĀารจัดการที่ดิน อย่างยั่งยืนและมั่นคงโดยชุมชนในรูปโฉนดชุมชนของรัฐบาลและพัฒนาพื้นที่ไปÿู่การทำการเกþตรแบบยั่งยืน ÿ่üน คุณลักþณะผู้นำในการÿร้างชุมชนเข้มแข็งตามแนüการทำเกþตรแบบยั่งยืนของÿĀกรณ์บ้านคลองโยง อำเภอพุทธ มณฑล จังĀüัดนครปฐม พบü่า 1) มิติการมีอิทธิพลอย่างมีอุดมการณ์ ผู้นำของÿĀกรณ์บ้านคลองโยง ÿามารถเป็น แบบอย่าง เป็นผู้นำ ทางคüามคิด นำ ปฏิบัติ จูงใจใĀ้ÿมาชิกÿĀกรณ์ทำกิจกรรมต่างๆ ได้2) มิติการÿร้างแรง บันดาลใจ ผู้นำÿร้างแรงจูงใจใĀ้ÿมาชิกÿĀกรณ์บ้านคลองโยงมีคüามรู้คüามเข้าใจ และ ตระĀนักü่า การทำเกþตร อินทรีย์เป็นแนüทางที่ช่üยÿร้างคüามยั่งยืนในอาชีพใĀ้กับคนในชุมชน 3) มิติการกระตุ้นทางปัญญา ผู้นำใĀ้คนใน ชุมชนตระĀนักถึงปัญĀาที่เกิดขึ้นจากการใช้ÿารเคมีที่เป็นอันตรายในการทำการเกþตร โดยผู้นำลงมือทำใĀ้ ชาüบ้านเĀ็น จากนั้นชาüบ้านจึงลงมือทำตามและเรียนรู้กับปัญĀา อุปÿรรคที่เกิดขึ้น เพื่อĀาüิธีการใĀม่ในการ แก้ปัญĀาเอง และ 4) มิติการคำนึงถึงคüามเป็นปัจเจกบุคคล มีการเปิดโอกาÿใĀ้ทุกคนได้แÿดงคüามคิดเĀ็น ซักถาม และใĀ้ข้อเÿนอแนะต่าง ๆ ได้อย่างเÿรีในการดำเนินกิจกรรม รüมถึงคำนึงถึงคüามถนัด คüามเชี่ยüชาญ และบุคลิกลักþณะของแต่ละบุคคลเป็นÿำคัญ ÿ่üนรูปแบบคุณลักþณะผู้นำในการÿร้างชุมชนเข้มแข็งตามแนüการ
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 ทำเกþตรแบบยั่งยืนที่เĀมาะÿมกับบริบทของประเทýไทยนั้น ประกอบด้üย 1) ผู้นำชุมชนเชิงประกอบการ 2) ผู้นำ ที่ÿามารถเชื่อมโยงเครือข่ายทุกภาคÿ่üน ทุกระดับและเป็นนักเคลื่อนไĀüทางÿังคม 3) ผู้นำที่ÿ่งเÿริมการจัดการ คüามรู้ และÿร้างชุมชนแĀ่งการเรียนรู้ และ 4) ผู้นำที่ÿามารถÿร้างการมีÿ่üนร่üมและเพิ่มýักยภาพในการจัดการ ตนเองและพึ่งพาตนเองของคนในชุมชนได้ อัมรินทร์ ÿันตินิยมภักดี. (2560). ได้ใĀ้คüามÿนใจýึกþาเกี่ยüกับüิถีข้าüที่ÿ่งผลต่อüิถีไทยภาคใต้ ดัง ปรากฏผลการýึกþาค้นคü้าที่น่าÿนใจ พอÿรุปบางประเด็นที่เป็นประโยชน์ในงานนี้ ดังนี้ üิถีข้าüนั้นÿ่งผลต่อüิถีไทย ภาคใต้โดยก่อใĀ้เกิดคüามตระĀนักรู้คุณค่าของข้าüไทย มีจิตÿำนึกในการอนุรักþ์ภูมิปัญญาและüัฒนธรรมข้าüที่ ÿ่งผลต่อüิถีชีüิตคนไทย ทั้งยังเป็นการดำรงรักþาภูมิปัญญาคüามงดงามแĀ่งüิถี ภูมินิเüýน์ ภูมิทัýน์üัฒนธรรมใน พื้นที่ปลูกข้าü นอกจากนี้ ในโครงการýึกþาüิจัยยังมีกิจกรรมที่ÿะท้อนใĀ้เĀ็นถึงüิถีข้าüที่ÿำคัญคือ การÿร้างแนüคิด ใĀ้รู้จักการใĀ้ การแบ่งปัน การเรียนรู้üิถีเýรþฐกิจพอเพียง การÿร้างคüามÿัมพันธ์ของชุมชนในพื้นที่และทักþะชีüิต ที่ดีร่üมกันได้ด้üย ดรุณýักดิ์ ตติยะลาภะ และคณะ (2560) ยังได้ýึกþาเรื่อง “การýึกþาÿร้างตัüแบบÿภาพลเมืองจังĀüัด ปทุมธานีÿู่คüามเข้มแข็งประชาธิปไตยไทย” โดยชี้ใĀ้เĀ็น การมีÿภาพลเมืองที่เริ่มต้นจากชุมชนเป็นแรงผลักที่ ÿำคัญในการทำใĀ้การพัฒนา และแก้ไขปัญĀาที่เกิดขึ้นในชุมชนด้üยคนในชุมชน และเมื่อมีการผ่านในรูปแบบÿภา พลเมืองทั้งในระดับÿภาพลเมืองตำบล และระดับÿภาพลเมืองจังĀüัด ที่มีในรูปแบบของการกำĀนดโครงÿร้างที่มี คüามชัดเจน มีการกำĀนดบทบาทĀน้าที่ใĀ้กับÿมาชิกÿภาพลเมือง จะทำใĀ้เกิดคüามเป็นพลเมืองที่รู้จักบทบาทใน การพัฒนาคüามเป็นพลเมือง บทบาทของการมีÿิทธิขั้นพื้นฐานทั้งเÿรีภาพ คüามเÿมอภาค เคารพýักดิ์ýรีคüามเป็น มนุþย์ บทบาทĀน้าที่ในการมีÿ่üนร่üมในนโยบายÿาธารณะกับองค์กรปกครองÿ่üนท้องถิ่น บทบาทĀน้าที่ในการ ÿร้างการมีÿ่üนของพลเมืองเพื่อÿร้างคüามเข้มแข็ง บทบาทĀน้าที่ในการตรüจÿอบการทำงานทั้งการเมือง ระดับชาติ และระดับท้องถิ่น รüมไปถึงการเป็นตัüแทนฟ้องร้องเจ้าĀน้าที่รัฐ ชมภูนุช Āุ่นนาค. (2561). ได้ýึกþาเพิ่มเติมเกี่ยüกับคุณภาพชีüิตชาüนาไทยจังĀüัดÿุพรรณบุรีพบü่า ชาüนาในจังĀüัดÿุพรรณบุรีÿ่üนใĀญ่ยังขาดการมีคุณภาพชีüิตที่ดีทั้งในด้านเýรþฐกิจ การýึกþา ÿุขอนามัย ÿิ่งแüดล้อม üัฒนธรรม ข้อมูลข่าüÿารประชาÿังคม ครอบครัü ÿüัÿดิการและคüามมั่นคงของชีüิต โดยเฉพาะอย่าง ยิ่งเรื่องĀนี้ÿิน รüมไปถึงต้นทุนการผลิตÿูง การจ้างแรงงาน ค่าเช่าที่นา การใช้ÿารเคมีในปริมาณมาก ÿำĀรับ แนüทางการพัฒนาคุณภาพชีüิตที่ยั่งยืน ได้เÿนอไü่ü่า คüรมีการกำĀนดพื้นที่เพาะปลูกเพื่อไม่ใĀ้ข้าüออกÿู่ตลาด พร้อมกัน พัฒนาเทคโนโลยีและนüัตกรรมทางการเกþตรที่ใĀ้มีคüามĀลากĀลาย ทันÿมัย และเĀมาะÿมต่อบริบท พื้นที่ บูรณาการเครือข่ายคüามร่üมมือเพื่อแก้ปัญĀาและจัดการทั้งกระบüนการ รüมถึงÿนับÿนุนใĀ้มีการรüมกลุ่ม แบบüิÿาĀกิจชุมชนĀรือÿĀกรณ์เพื่อเพิ่มคüามÿามารถในการจัดการตนเองอย่างยั่งยืน ดรุณýักดิ์ ตติยะลาภะ และ เจด็จ คชฤทธิ์. (2561) ได้ýึกþาการรüมกลุ่มจัดตั้งÿĀกรณ์บริการที่อยู่อาýัย ที่ดินทำกินพืชอุดม จำกัด จังĀüัดปทุมธานีพบü่า ชุมชนตำบลพืชอุดม อำเภอลำลูกกา จังĀüัดปทุมธานี ประÿบ ปัญĀาขาดแคลนที่อยู่อาýัยและที่ดินทำกินมาเนินนาน เพราะที่ดินÿ่üนใĀญ่ตกเป็นกรรมÿิทธิ์ของเจ้าที่ดินและ นายทุน ÿ่üนชาüบ้านเกþตรกรรายย่อยไม่ÿามารถครอบครองกรรมÿิทธิ์ได้เพราะที่ดินมีราคาÿูงและมีแนüโน้มถีบ
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 ตัüÿูงขึ้นตามการขยายตัüของเýรþฐกิจและคüามเป็นชุมชนเมือง เจ้าของที่ดินบางรายขายที่ดินใĀ้แก่นักธุรกิจเพื่อ ทำบ้านจัดÿรรและโรงงานอุตÿาĀกรรม ÿ่งผลใĀ้ชาüบ้านยิ่งต้องเผชิญกับปัญĀามากขึ้น จากผลการüิจัยชี้ใĀ้เĀ็นถึง ปัจจัยที่นำไปÿู่ปัญĀาการขาดแคลนที่ดิน คือ 1) การพัฒนาและคüามเĀลื่อมล้ำที่เกิดจากอำนาจรัฐ 2) ÿภาพ เýรþฐกิจและÿังคมที่เปลี่ยนแปลง และ3) คüามเĀลื่อมล้ำของรายได้และการรุกคืบของกลุ่มอำนาจทุน ซึ่งล้üนเป็น ปัจจัยภายนอกในระดับÿังคมที่บีบคั้นใĀ้ชาüบ้านต้องจำยอมรับผลกระทบที่เลüร้ายโดยรüมแล้üมีĀมู่บ้านที่ประÿบ ปัญĀาที่ดินทั้งÿิ้น 9 Āมู่บ้าน รüมผู้เดือดร้อนกü่า 800 ราย เมื่อÿถานการณ์บีบคั้นมากขึ้น ทำใĀ้ชาüบ้านผู้ประÿบ ปัญĀาต้องพยายามดิ้นรนแก้ไขปัญĀาด้üยตนเอง จนเริ่มเรียนรู้และเĀ็นพลังของการรüมกลุ่ม และร่üมกันจัดตั้งเป็น กลุ่มผู้ประÿบปัญĀา พัฒนาแกนนำ แÿüงĀาคüามร่üมมือกับกลุ่มองค์กรต่าง ๆ ในชุมชน และขยายไปÿู่เครือข่าย ภายนอกชุมชน โดยเฉพาะการเปิดรับการÿ่งเÿริมด้านองค์คüามรู้เพื่อดำเนินการขับเคลื่อนงานการแก้ไขปัญĀา จน ÿามารถดำเนินกิจกรรมและโครงการภายใต้แนüคิดการจัดการตนเองได้อย่างเป็นระบบมากขึ้น โดยเริ่มจาก 1) ตั้ง กองทุนÿüัÿดิการชุมชนตำบลพืชอุดม 2) รüมกลุ่มขับเคลื่อนผ่านÿภาองค์กรชุมชนตำบลพืชอุดม 3) ร่üมกันผลักดัน โครงการที่อยู่อาýัยและที่ดินทำกินตำบลพืชอุดม 4) ประÿานÿามัคคีร่üมกันก่อตั้งกองทุนที่ดินตำบลพืชอุดม และ 5) รüบรüมÿมาชิกเพื่อจดทะเบียนและดำเนินกิจการÿĀกรณ์ จำกัด จนÿำเร็จได้ในที่ÿุด ทั้งนี้การขับเคลื่อนงาน การแก้ไขปัญĀาด้üยการจัดการตนเองของชุมชนนี้ ดำเนินการผ่านกระบüนการที่ÿำคัญ คือ 1) รู้จักและตระĀนักใน ปัญĀาของตน 2) ÿู้และอดทน ไม่รอเพียงคüามช่üยเĀลือ 3) เปิดใจกü้าง Āาเพื่อนร่üมทาง และรüมกลุ่ม 4) ยินดี เรียนรู้ ร่üมประชุมแลก เปลี่ยนประÿบการณ์ 5) ประÿานไมตรี ÿามัคคี ÿนับÿนุนแกนนำ 6) จัดทำฐานข้อมูล üางแผน และกำĀนดแนüปฏิบัติ 7) ขับเคลื่อนต้องชัด ไม่จำกัดภาคีĀนุนเÿริม 8) Āมั่นเติมคüามรู้ มุ่งÿู่ ‘ÿĀกรณ์ จำกัด’ และ 9) ทบทüนüิธีจัดการÿร้างÿะพานแกนนำรุ่นใĀม่ ธีรทัýน์ โรจน์กิจจากุล และคณะ. (2562). ได้ýึกþาภาüะผู้นำชาüนาไทยในยุคไทยแลนด์ 4.0 โดยมี üัตถุประÿงค์ 4 ประการ คือ 1) เพื่อýึกþาแนüคิดเกี่ยüกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 2) เพื่อýึกþาข้อเท็จจริงเกี่ยü กับข้าüและชาüนาไทยในปัจจุบัน 3) เพื่อýึกþาและÿังเคราะĀ์แนüคิด ทฤþฎี ภาüะผู้นำ และ 4) เพื่อเÿนอรูปแบบ ภาüะผู้นำชาüนาไทย ในยุคไทยแลนด์ 4.0 ปรากฏผลน่าÿนใจ ÿรุปได้ คือ 1) นโยบายไทยแลนด์ 4.0 เป็นüิÿัยทัýน์ เชิงนโยบายการพัฒนาเýรþฐกิจของประเทýไทยภายใต้การนำของคณะรัฐบาลชุดปัจจุบันที่เข้ามาบริĀารประเทý บนüิÿัยทัýน์ “มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน” โดยÿ่งเÿริมใĀ้ปฏิบัติมาจนถึงปัจจุบัน 2) ปัจจุบันประเทýไทยมิใช่ประเทý ที่ÿ่งออกข้าüเป็นอันดับที่Āนึ่งของโลก เนื่องด้üยÿาเĀตุĀลากĀลายประการ ÿ่üนĀนึ่งเป็นเพราะชาüนาในประเทý ไทยยังคงยึดติดกับüิธีการผลิตข้าüแบบเดิม นอกจากนั้นยังมีนüัตกรรมใĀม่ที่ใช้ในการÿร้างผลผลิตที่คุ้มค่าในจำนüน ที่ไม่มาก 3) ผู้นำที่ดีต้องมีคุณลักþณะ ดังนี้ ชอบเปลี่ยนแปลง ไม่ชอบเอาอย่างĀรือลอกแบบใคร ชอบพัฒนา เน้น Āรือมุ่งคนมีแรงดลบันดาลในคüามไü้üางใจ มองไกล ชอบริเริ่ม ชอบท้าทายÿถานภาพเดิม เป็นตัüของตัüเอง ชอบ ทำในÿิ่งที่ถูกต้อง เน้นผลงานและคน และÿามารถทำงานเป็นทีมได้เป็นอย่างดี
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 ดรุณýักดิ์ ตติยะลาภะ และคณะ. (2564) ได้กรณีýึกþาการร่üมกลุ่มของเกþตรกรจัดตั้งเป็น ÿภาผู้นำ ชาüนาอินทรีย์โดยการมีÿ่üนร่üมของชาüนา ตำบลบึงกาÿาม อำเภอĀนองเÿือ จังĀüัดปทุมธานีโดยชี้ใĀ้เĀ็นü่าการ ทำนาในพื้นที่ตำบลบึงกาÿาม อำเภอĀนองเÿือ จังĀüัดปทุมธานีมีแนüโน้มลดลงจากเĀตุปัจจัยĀลายประการ เช่น บริเüณตำบลบึงกาÿามมีปัญĀาดินเปรี้ยüทำใĀ้ได้ผลผลิตต่ำ การเปลี่ยนอาชีพไปเป็นชาüÿüนÿ้มเขียüĀüานและ กล้üย ต้นทุนการทำนาÿูงขึ้นโดยเฉพาะที่เกิดจากการใช้ÿารเคมีและการเช่าที่นา การขาดแคลนแรงงาน ปัญĀา Āนี้ÿิน รüมไปถึงขาดการรüมกลุ่มทำใĀ้เกิดคüามอ่อนแอในอาชีพ ต่อเมื่อชุมชนได้มีโอกาÿพบปะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และเกิดเครือข่ายอย่างไม่เป็นทางการจากการประÿบปัญĀาร่üมบ่อยครั้ง จึงเริ่มตระĀนักในปัญĀาและร่üมĀา ĀนทางในการจัดการปัญĀาที่กำลังเผชิญกันอยู่อย่างจริงจังมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อได้รับการÿนับÿนุนด้านองค์ คüามรู้ เกี่ยüกับการพัฒนาýักยภาพกลุ่มเพื่อขับเคลื่อนงานประเด็นปัญĀาของชุมชนภาคีเครือข่าย จึงเกิดแกนนำ ระĀü่างกลุ่มย่อยและประÿานÿามัคคีกัน แล้üร่üมกันพัฒนาýักยภาพชาüนาค้นĀาต้นแบบการทำนาเกþตรอินทรีย์ จากกลุ่มชาüนาที่ประÿบปัญĀาร่üมกัน จนÿามารถผลักดันการจัดตั้งÿภาผู้นำชาüนาอินทรีย์เพื่อเป็นýูนย์รüมใน การร่üมปรึกþาĀารือเกี่ยüกับประเด็นปัญĀาต่าง ๆ รüมไปถึงการพัฒนาข้าüใĀ้มีคüามĀลากĀลาย ÿนับÿนุนการ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมชาüนาใĀ้เลิกใช้ÿารเคมีที่มีผลเÿียต่อชาüนา ไม่ü่าจะเป็นค่าใช้จ่ายที่ทำใĀ้ต้นทุนการผลิตÿูง ปัญĀาÿุขภาพ และเป็นปัญĀาÿิ่งแüดล้อม ทั้งนี้โดยผ่านกลไกลÿภาผู้นำชาüนาอินทรีย์โดยมีกระบüนการทำงานเพื่อ การจัดตั้งÿภาผู้นำชาüนาอินทรีย์คือ ยึดĀลักแนüคิดการจัดการตนเองและการมีÿ่üนร่üม ประกอบไปด้üย 1) การ จัดตั้งขึ้นโดยผ่านการรับรองจากÿภาองค์กรชุมชน 2) การระบุที่มาของÿมาชิกÿภาผู้นำชาüนาอินทรีย์3) การ กำĀนดบทบาทĀน้าที่ÿภาผู้นำชาüนาอินทรีย์และÿมาชิกÿภาผู้นำชาüนาอินทรีย์4) การจัดทำแผนดำเนินงานของ ÿภาผู้นำชาüนาอินทรีย์5) การพัฒนาระบบกลไกÿภาผู้นำชาüนาอินทรีย์6) การค้นĀาภาคีเครือข่ายเข้ามาร่üม Āนุนเÿริม 7) การดำเนินงานติดตามและประเมินผล และ 8) คüามเป็นประชาธิปไตยของÿภาผู้นำชาüนาอินทรีย์ เป็นที่น่าÿังเกตü่าเมื่อจัดตั้งÿภาผู้นำชาüนาอินทรีย์ÿำเร็จแล้ü ก็เกิดพลังในการขับเคลื่อนงานÿู่เป้าĀมายนาอินทรีย์ ได้อย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยเฉพาะการเกิดข้อตกลงร่üมในการพยายามแก้ไขปัญĀาต่าง ๆ ของ ชาüนา ซึ่งมีการกำĀนดเป้าĀมายและระยะที่ชัดเจนในการดำเนินงาน เพื่อมุ่งไปÿู่การเป็น ‘นาอินทรีย์’ ที่มีโรงÿี ชุมชนอย่าง น้อย 7 แĀ่งรองรับ จüบจนÿามารถที่จะทำนาแบบปลอดภัยไม่ใช่ÿารเคมีได้ทั้งĀมดในที่ÿุด ÿรุปได้ü่า งานüิจัยจำนüนมากใĀ้คüามÿำคัญต่อการýึกþาปัญĀา กระบüนการ รูปแบบและแนüทางที่จะ ช่üยใĀ้เกþตรกร โดยเฉพาะผู้ปลูกข้าüĀรือชาüนา ÿามารถดำรงชีüิตได้อย่างยั่งยืนท่ามกลางคüามเปลี่ยนแปลงและ การเคลื่อนไปของÿังคม เýรþฐกิจ ตลอดจนการเมืองที่มีอิทธิพลต่อüิถีชีüิต ซึ่งÿ่üนĀนึ่งใĀ้คüามÿำคัญต่อการ ปรับเปลี่ยนüิถีเกþตรแบบเคมีÿู่üิถีเกþตรอินทรีย์Āรือเกþตรปลอดภัย ทั้งนี้ มักชี้แนะใĀ้มีการรüมกลุ่มÿนับÿนุนการ มีÿ่üนร่üมจัดตั้งองค์กร เครือข่าย คüามร่üมมือต่าง ๆ ทั้งในรูปแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ ก่อนพัฒนาÿู่ คüามเข้มแข็งยั่งยืนของกลุ่ม และการประกอบอาชีพที่ÿามารถพึ่งพาตัüเองได้ในอนาคต
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 4. ระเบียบüิธีüิจัย (ขั้นตอนการดำเนินการüิจัยตลอดแผนงานüิจัย) การüิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัยและเกþตรอินทรีย์ 4 ÿายคลอง (คลอง 10-13) ÿู่การ รองรับมาตรฐานเกþตรอินทรีย์แบบมีÿ่üนร่üม (PGS) เพื่อลดคüามเĀลื่อมล้ำเýรþฐกิจของเกþตรกร อำเภอลำลูก กา จังĀüัดปทุมธานี 4.1 ขอบเขตการüิจัย การüิจัยนี้ จะการพัฒนารูปแบบÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัยและเกþตรอินทรีย์ 4 ÿายคลอง (คลอง 10-13) ÿู่การรองรับมาตรฐานเกþตรอินทรีย์แบบมีÿ่üนร่üม (PGS) เพื่อลดคüามเĀลื่อมล้ำเýรþฐกิจของเกþตรกร อำเภอ ลำลูกกา จังĀüัดปทุมธานีโดยมีขอบเขตการüิจัยดังนี้ 4.1.1 ขอบเขตด้านเนื้อĀา การüิจัยครั้งนี้ มุ่งýึกþาพัฒนารูปแบบÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัยและเกþตรอินทรีย์ 4 ÿายคลอง (คลอง 10-13) ÿู่การรองรับมาตรฐานเกþตรอินทรีย์แบบมีÿ่üนร่üม (PGS) เพื่อลดคüามเĀลื่อมล้ำเýรþฐกิจของ เกþตรกร อำเภอลำลูกกา จังĀüัดปทุมธานี 4.1.2 ขอบเขตด้านประชากร ผู้üิจัยได้ทำการýึกþาประชากรและกลุ่มตัüอย่าง การüิจัยเรื่อง พัฒนารูปแบบÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัยและเกþตรอินทรีย์ 4 ÿายคลอง (คลอง 10-13) ÿู่การรองรับมาตรฐานเกþตรอินทรีย์แบบมีÿ่üนร่üม (PGS) เพื่อลดคüามเĀลื่อมล้ำเýรþฐกิจของเกþตรกร อำเภอลำลูกกา จังĀüัดปทุมธานี โดยมีประชากรและกลุ่มตัüอย่างดังนี้ 1) แกนนำÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัยและเกþตรอินทรีย์ จำนüน 10คน ที่มาจากตัüแทนจาก 4 ตำบล ประกอบไปด้üย ตำบลบึงทองĀลาง ตำบลลำไทร ตำบลพืชอุดม ตำบลบึงคอไĀ อำเภอลำลูกกา จังĀüัดปทุมธานี ประกอบไปด้üย 1. นายกมล ธุüจิตต์ 2. มาเรียม ดังเจดีย์ 3. นายยม แĀÿมุทร 4. นายประüุฒิ แก้üĀิน 5. นางชารียา Āอมýิริ 6. นางüัลภา ผลเจริญ 7. นายüิüัฒน์ อยู่ผลเจริญ 8. นายรันทม แĀÿมุทร 9. นางÿุมาลี จั่นช้าง
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 10. นางอำไพ ชลเจริญ 2) เกþตรต้นแบบทำเกþตรปลอดภัย/อินทรีย์ จำนüน 8 คน มาจาก4 ÿายคลอง (10-13) และพื้นที่ใน 4 ตำบลประกอบด้üย ตำบลบึงทองĀลาง ตำบลลำไทร ตำบลพืชอุดม ตำบลบึงคอไĀ อำเภอลำลูกกา จังĀüัดปทุมธานี 3) ภาคีเครือข่าย 7คน ที่ได้เข้าร่üมทำงานเกþตรกรในพื้นที่ ได้แก่ ÿภาองค์กรชุมชนจังĀüัดปทุมธานี ÿภา องค์กรชุมชนเทýบาลตำบลลำไทร บริþัทประชารัฐÿามัคคี จำกัด üิÿาĀกิจชุมชนท่องเที่ยüชุมชน ตลาดเก่า 100 ปี คลอง 12 Āกüา ÿำนักงานเกþตรอำเภอ 4) นักüิจัยชุมชน จำนüน 10 คน ได้แก่ 1. นายกมล ธุüจิตต์2.นางมาเรียม ดังเจดีย์3.นายยม แĀÿมุทร 4.นายประüุฒิ แก้üĀิน 5.นางชารียา Āอมýิริ6.นางüัลภา ผลเจริญ 7. นายüิüัฒน์ อยู่ผลเจริญ 8. นายรันทม แĀ ÿมุทร 9.นางÿุมาลี จั่นช้าง 10.นางอำไพ ชลเจริญ 4.2.1 การค้นคü้า และüิเคราะĀ์จากเอกÿาร (Documentary Analysis) เอกÿารชั้นต้น ได้แก่ Āนังÿือรายงาน เอกÿารÿรุปประชุมÿัมมนา รายงานÿถิติของĀน่üยงาน ราชการ เอกÿารชั้นรอง ได้แก่ บทคüาม รายงานüิจัย üารÿาร Āนังÿือพิมพ์ เอกÿารประเภท เทป üิทยุ ÿำĀรับการทำงานüิจัยร่üมกันระĀü่าง “นักüิจัยชุมชน” และ “นักüิจัยที่เป็นนักüิชาการ” และ เกþตรกร จะต้องมีการĀนุนเÿริมนักüิจัยชุมชนด้üยการระĀü่างกัน ในการค้นคü้า และüิเคราะĀ์เอกÿาร (Documentary Analysis) เพื่อใĀ้ชุมชนเกิดýักยภาพใน การพัฒนาคüามรู้ คüามเข้าใจของทีมüิจัยชาüบ้าน Āรือ กลุ่มเป้าĀมายของงานนี้ ด้านนักüิจัยที่เป็นนักüิชาการ ÿ่üนใĀญ่จะเป็นผู้มีข้อมูลเอกÿารทางüิชาการ จะค้นĀาเอกÿารทั้ง Āนังÿือ ตำรา Āรือเอกÿารทางราชการเพื่อนำข้อมูลมาร่üมแลกเปลี่ยนใĀ้กับนักüิจัยชุมชนเพื่อใĀ้เกิดการüิเคราะĀ์ ÿังเคราะĀ์ข้อมูลร่üมกัน อีกทั้งจะเป็นการพัฒนานักüิจัยชุมชนใĀ้เกิดการเรียนรู้ในการค้นĀาข้อมูลและเข้าถึงข้อมูล เอกÿารüิชาการ ในขณะเดียüกันนักüิชาการจะĀนุนเÿริมขับเคลื่อนประÿาน และจัดระบบüิธีคิด กระบüนการ ทำงานเชิงüิจัย ด้านนักüิจัยชุมชน และเกþตรต้นแบบ ÿามารถเข้าถึงข้อมูลในพื้นที่ตนเอง และมีข้อมูลเอกÿารทาง ราชการที่มีอยู่พื้นที่ การเข้าถึงข้อมูลชุมชน เช่น ข้อมูลการจดบันทึกการปลูกพืช ผัก ข้าü การเกþตร ข้อมูลจากการ ÿำรüจรายรับรายจ่ายเกþตรกร รüมถึงการทดลองทำการเกþตรปลอดภัยและเกþตรอินทรีย์ เป็นต้น 4.2.2 การÿัมภาþณ์เชิงลึก (in-depth interview ) ÿมาชิกÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัยและเกþตร อินทรีย์ จำนüน 10 คน เกþตรกรต้นแบบ จำนüน 8 คน และภาคีเครือข่ายจำนüน 7 คน ประเด็นÿัมภาþณ์ แกนนำÿภาผู้นำชาüนา 4.2.3 การÿนทนากลุ่ม (Focus group interview) โดยทำการÿนทนากลุ่มกับ ÿมาชิกÿภาผู้นำ เกþตรปลอดภัยและเกþตรอินทรีย์ จำนüน 10 คน เกþตรกรต้นแบบ จำนüน 8 คน และภาคีเครือข่ายจำนüน
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 7 คน ประเด็นÿัมภาþณ์กลุ่ม โดยมีการ ใช้เครื่องมือüิจัยแบบÿัมภาþณ์กึ่งโครงÿร้าง และเครื่องมือüิจัยชุมชน ได้แก่ต้นไม้ผลผลิต Timeline ตุ๊กตาเกþตรอินทรีย์ และโอ่งชีüิต ทำเนียบผู้รู้ โดย ประเด็นการÿัมภาþณ์กลุ่ม (Focus group interviews) 4.2.4 การÿังเกตการแบบมีÿ่üนร่üม โดยผู้üิจัย นักüิจัยชุมชน และชาüนาจะเข้าÿังเกตการกับกลุ่ม ตัüอย่างในการขับเคลื่อนการÿร้างÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัย/อินทรีย์และการÿังเกตการณ์เกþตรกรต้นแบบในการ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่นำไปÿู่การทำเกþตรอินทรีย์ การเข้าประชุมประจำเดือน การÿังเกตแบบมีÿ่üนร่üม นักüิจัยที่เป็นนักüิชาการ นักüิจัยชุมชน และชาüนาÿามารถÿังเกตการณ์จะนำไปÿู่การจดบันทึก และมาแลกเปลี่ยน เรียนรู้จากการÿังเกตได้ข้อค้นพบอะไรบ้าง โดยÿามารถพูดคุยในÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัย/อินทรีย์Āรือคณะทำงาน üิจัย ü่าได้ของค้นพบจากการÿังเกตอะไรบ้าง แล้üจึงนำประเด็นที่ค้นพบนั้นมาพัฒนาปรับปรุงใĀ้ดีขึ้น 4.2.5 การจัดเüทีÿาธารณะ Āรือ เüทีประชาคม (The Public Forum) เป็นกระบüนการประชุม กระบüนการกลุ่ม และกระบüนการปฏิบัติการแบบมีÿ่üนร่üม เช่น การพัฒนาÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัยอินทรีย์การ คืนข้อมูล การพัฒนาýักยภาพเกþตรอินทรีย์ในแนüทางเกþตรอินทรีย์แบบมีÿ่üนร่üม GPS เป็นต้น 4.3 การดำเนินการüิจัย üิจัยภาคÿนาม (field Research) โดยการüิจัยปฏิบัติการแบบมีÿ่üนร่üม (PAR) และการพัฒนางานüิจัย ที่นำไปÿู่งานüิจัยที่ใช้ชุมชนเป็นฐานในการýึกþา (CBR) โดยการใช้เครื่องมือการýึกþาชุมชนแบบมีÿ่üนร่üม เช่น แผนที่รอบใน-รอบนอก ปฏิทินüัฒนธรรมและการผลิต โอ่งชีüิต Timeline และทำเนียบผู้รู้ รüมทั้ง การจัดเüที ประชาคมเพื่อýึกþาข้อมูล และมีขั้นตอนกระบüนการüิจัยปฏิบัติการแบบมีÿ่üนร่üมมี 3 ระยะ ดังนี้ ขั้นตอนระยะที่ 1 การพัฒนาโจทย์üิจัย (ก่อนดำเนินงานüิจัย) ช่üงการพัฒนาโจทย์üิจัยที่เกิดการÿร้าง การมี่ÿüนร่üมระĀü่างนักüิชาการ นักüิจัยชุมชน แกนนำเกþตรกร เกþตรกรต้นแบบ เพื่อใĀ้งานüิจัยนี้เกิดขึ้นที่ ÿามารถพัฒนางานüิจัยอย่างมีÿ่üนร่üม และÿามารถถูกนำมาใช้ประโยชน์จากงานüิจัยได้อย่างแท้จริง โดยมี ขั้นตอนของการดำเนินการüิจัยในระยะแรก คือการพัฒนาโจทย์üิจัย ดังนี้ ตารางที่ 4.1 แÿดงการดำเนินงานüิจัย ในขั้นตอนที่ 1 ของการพัฒนาโจทย์üิจัย ขั้นตอนการดำเนินการ üิจัย üิธีการดำเนินงานüิจัย กลุ่มเป้าĀมาย ค้นĀาประเด็นปัญĀา และคüามต้องการของ พื้นที่ -การเริ่มชüนคิด ชüนคุยอย่างมีพลัง ตั้ง ประเด็นคำถามชüนคุย ประเด็นปัญĀา ที่ นำไปÿู่การแก้ไขปัญĀาเพื่อค้นĀาคüาม ต้องการและประเด็นที่จะนำไปÿู่การเกิด โจทย์üิจัย แต่การชüนคิดชüนคุยถือü่าเป็น ขั้นตอนแรกที่จะทำใĀ้นักüิจัย นักüิจัยชุมชน -แกนนำเกþตรกร -นักüิชาการ -นักüิจัยชุมชน
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 ขั้นตอนการดำเนินการ üิจัย üิธีการดำเนินงานüิจัย กลุ่มเป้าĀมาย ได้เĀ็น คนที่มีอุดมการณ์ แนüคิดเดียüกัน มาทำงานต่อไป -รüบรüมคนที่มีอุดมการณ์เดียüกัน ค้นĀา คนที่มีอุดมการณ์ คüามคิด คüามเชื่อที่ คล้ายกันมาพูดคุยในประเด็นปัญĀา ปรับ คüามคิด การüิจัยไม่ใช่เรื่องยาก การแก้ไข ปัญĀาของพื้นที่ผ่านกระบüนการüิจัย - เÿริมÿร้างคüามเชื่อมั่นในýักยภาพ ÿร้างคüามมั่นใจใĀ้แก่ชาüบ้านที่จะร่üมเป็น นักüิจัยชุมชนโดยการเข้าไปพูดคุย ÿร้าง คüามมั่นใจü่าปัญĀาĀรือÿิ่งที่เกþตรกร อยากใĀ้เกิดการพัฒนานั้นÿามารถทำได้จริง โดยผู้ที่รู้และเข้าใจปัญĀานั้นมากที่ÿุดก็คือ เกþตรกรที่อยู่ในพื้นที่ ดังนั้นคนที่จะ แก้ปัญĀาได้ดีที่ÿุดก็คือ เกþตรกร Āากพื้นที่ ร่üมมือกันในการแก้ปัญĀา เชื่อü่าปัญĀาก็ จะÿามารถแก้ไขได้ด้üยüิธีการที่เĀมาะÿม กับÿถานการณ์และบริบทของชุมชน โดยเฉพาะการÿร้างÿภาผู้นำเกþตรเพื่อ ÿร้างระบบการพัฒนาเกþตรกรในพื้นที่ และเป็นการเÿริมพลังในการรüมกลุ่ม จัดการในเรื่องๆใĀ้กับเกþตรกร ÿร้างโจทย์üิจัยจากบริบท อย่างเĀมาะÿม -ประชุมพูดคุยร่üมคิดร่üมทำในการคิด ประเด็นคüามต้องการ ĀรือปัญĀาของ ชุมชน โดยร่üมคิดüิเคราะĀ์จากข้อมูลĀลาย แĀล่งĀรือĀลายÿ่üนในชุมชน เช่น คüาม เป็นมาของชุมชน ÿังคม เýรþฐกิจ ที่ÿ่งผล ต่อการเปลี่ยนเกþตรกร - การกระตุ้นคüามคüามคิดโดยการตั้ง คำถาม และเÿนอแนะเพื่อนำไปÿู่การพัฒนา --แกนนำเกþตรกร -นักüิชาการ -นักüิจัยชุมชน
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 ขั้นตอนการดำเนินการ üิจัย üิธีการดำเนินงานüิจัย กลุ่มเป้าĀมาย โจทย์üิจัยร่üมกันของนักüิจัยชุมชน เกþตรกรต้นแบบ และนักüิจัย การพัฒนาข้อเÿนอ โครงการüิจัยระĀü่าง นักüิจัยและนักüิจัยชุมชน -จัดประชุมร่üมเพื่อนำเÿนอชี้แจง โดย ข้อมูลที่ได้การชüนคิด ชüนคุย ต่าง ๆ มา ทบทüนทำคüามเข้าใจร่üมกันระĀü่าง นักüิจัย นักüิจัยชุมชน แกนนำเกþตรกร เพื่อใĀ้ข้อมูลถูกต้องเĀ็นประเด็นเดียüกัน เพื่อนำไปÿู่การเริ่มเขียนข้อเÿนอ โครงการüิจัย -นักüิจัยใĀ้คำแนะนำ จากการได้ประเด็น ต่าง ๆ จึงนำมาเริ่มเขียนข้อเÿนอโครงการ นักüิจัยüิชาการใĀ้คำแนะนำประเด็นต่าง ๆ ที่เขียนข้อเÿนอโครงการ เช่น ที่มา คüามÿำคัญของปัญĀาการüิจัยüัตถุประÿงค์ การüิจัย ของเขตการüิจัย üิธีการüิจัย ประโยชน์ของงานüิจัยĀลังจากดำเนินการ üิจัยเÿร็จÿิ้น - การพัฒนาLog Frame และ Outcome Mapping โดย นักüิจัย จัด ประชุมชüนนักüิจัยชุมชน ร่üมคิดประเด็น โดยการอธิบายตั้งคำถามเพื่อออกแบบ Log Frame และ Outcome ซึ่งจะเป็นการ ทำงานüิจัยระĀü่างนักüิจัยüิชาการ นักüิจัย ชุมชนมองเĀ็นภาพรüมกัน ไม่ü่าจะเป็น การทำงานที่เน้น ผลลัพธ์ (outcome) การ มีกิจกรรมที่ต้องดำเนินการ และการตัüชี้üัด ในการกำกับใĀ้งานüิจัยเชิงพื้นที่ÿามารถ บรรลุผลลัพธ์ที่üางไü้ --แกนนำเกþตรกร -นักüิชาการ -นักüิจัยชุมชน
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 ขั้นตอนระยะที่ 2 การüิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีÿ่üนร่üม (ระĀü่างการดำเนินงานüิจัย) คือขั้นตอนที่เก็บรüบรüมข้อมูล และเป็นขั้นตอนของการมีÿ่üนร่üมในการพัฒนาÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัย และเกþตรอินทรีย์และกระบüนการพัฒนาเกþตรกรต้นแบบที่นำไปÿู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปÿู่ทำการเกþตร ปลอดภัย/อินทรีย์ โดยมีขั้นตอนการดำเนินงานüิจัย ดังนี้ ตารางที่ 4.2 แÿดงการüิจัยแบบมีÿ่üนร่üม (ระĀü่างการดำเนินงานüิจัย) ขั้นตอนการดำเนินการüิจัย üิธีการดำเนินงานüิจัย กลุ่มเป้าĀมาย คณะทำงานดำเนินการ จัดตั้งÿภาÿภาผู้นำเกþตร ปลอดภัย/อินทรีย์ -ค้นĀาคณะทำงานในการจัดตั้งÿภาผู้นำ เกþตรปลอดภัย/อินทรีย์ที่มีจำนüน 8 คน โดยการค้นĀาจะเกิดจากการคุยกับแกน นำเกþตรคือ นายกมล ธุüจิตต์ นายประ üุฒิ แก้üĀิน นักüิจัยชุมชน เพื่อร่üมกัน ค้นĀาคณะทำงานในการจัดตั้งÿภาผู้นำ เกþตรปลอดภัยและเกþตรอินทรีย์โดย การบอกกล่าüคนเกþตรกรในชุมชน และ เครือข่าย 4 ÿายคลอง การจัดประชุม ชี้แจงโดยนายกมล ธุüจิตต์ จัดประชุม ชี้แจง - การนัดประชุมเพื่อÿรุปผลของการได้ คณะทำงานจัดตั้งÿภาผู้นำเกþตร ปลอดภัย/อินทรีย์ -แกนนำเกþตรกร -นักüิชาการ -นักüิจัยชุมชน ÿร้างคüามรู้คüามเข้าใจแก่ คณะทำงานจัดตั้งÿภาผู้นำ ผู้นำเกþตรปลอดภัย/ อินทรีย์ การออกแบบ โครงÿร้างกำĀนดบทบาท Āน้าที่ การออกแบบที่มา ของÿมาชิกÿภาÿภาผู้นำ ผู้นำเกþตรปลอดภัย/ อินทรีย์ -นักüิจัย นักüิจัยชุมชน ใĀ้คüามรู้คüาม เข้าใจแก่คณะทำงานจัดตั้งÿภาผู้นำ เกþตรปลอดภัย/อินทรีย์เพื่อใĀ้ คณะทำงานจัดตั้งÿภาผู้นำเกþตร ปลอดภัย/อินทรีย์เกิดคüามรู้ คüามเข้าใจ มองเĀ็นภาพเดียüกันü่า ÿภาผู้นำเกþตร ปลอดภัย/อินทรีย์อะไร ÿมาชิกÿภาผู้นำ เกþตรปลอดภัย/อินทรีย์นั้นคือใครและมี บทบาทĀน้าที่อย่างไร เพื่อนำไปÿู่การ ออกแบบร่üมกัน -แกนนำเกþตรกร -นักüิชาการ -นักüิจัยชุมชน
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 ขั้นตอนการดำเนินการüิจัย üิธีการดำเนินงานüิจัย กลุ่มเป้าĀมาย -การตั้งคำถาม ชüนคิด เพื่อใĀ้นักüิจัย ชุมชน เกþตรกร คณะทำงานจัดตั้งÿภา ผู้นำเกþตรปลอดภัย/อินทรีย์ได้ร่üม ออกแบบร่างโครงÿร้างÿภาผู้นำเกþตร ปลอดภัย/อินทรีย์การได้มาซึ่งÿภาผู้นำ เกþตรปลอดภัย/อินทรีย์-เปิดเüที ประชาคมชี้แจง โดยคณะทำงานจัดตั้ง ÿภาผู้นำชาüนาอินทรีย์เพื่อชี้แจง รายละเอียดใĀ้เกþตรกนในพื้นที่เกิดการ รับรู้และเข้าใจü่า การจัดตั้งÿภาผู้นำ เกþตรปลอดภัย/อินทรีย์ที่มาÿมาชิกÿภา ผู้นำเกþตรปลอดภัย/อินทรีย์ บทบาท Āน้าที่ÿมาชิกÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัย/ อินทรีย์ -เปิดรับการเÿนอชื่อÿภาผู้นำเกþตร ปลอดภัย/อินทรีย์และลงมติรับรองÿภา ผู้นำเกþตรปลอดภัย/อินทรีย์โดยมี คณะทำงานจัดตั้งÿภาผู้นำเกþตร ปลอดภัย/อินทรีย์เป็นกรรมการของเลือก ÿมาชิกÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัย/อินทรีย์ -เมื่อได้ÿมาชิกÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัย/ อินทรีย์และการได้มาซึ่งÿภาผู้นำเกþตร ปลอดภัย/อินทรีย์แล้ü คณะทำงานจัดตั้ง ÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัย/อินทรีย์ก็ÿิ้นÿุด Āน้าที่ลง เกิดÿภาÿภาผู้นำเกþตร ปลอดภัย/อินทรีย์ และ ÿมาชิกÿภาผู้นำเกþตร ปลอดภัย/อินทรีย์ -นักüิจัย นักüิจัยชุมชนĀนุนเÿริม กระบüนการในการจัดประชุมÿภาผู้นำ เกþตรปลอดภัย/อินทรีย์ เพื่อใĀ้เกิดการ ขับเคลื่อนในการทำงานแก้ไขปัญĀา -แกนนำเกþตรกร -นักüิชาการ -นักüิจัยชุมชน
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 ขั้นตอนการดำเนินการüิจัย üิธีการดำเนินงานüิจัย กลุ่มเป้าĀมาย -นักüิจัย นักüิจัยชุมชน อธิบายชี้แจง ÿมาชิกÿภาผู้นำผู้นำเกþตรปลอดภัย/ อินทรีย์ ถึงที่มาของการÿภาผู้นำเกþตร ปลอดภัย/อินทรีย์ การได้มาซึ่งÿภาผู้นำ ผู้นำเกþตรปลอดภัย/อินทรีย์ เพื่อใĀ้ ÿมาชิกÿภาฯเกิดคüามรู้คüามเข้าใจ เดียüกัน -ชüนÿมาชิกÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัย/ อินทรีย์ ต้นแบบ ตั้งประเด็น ตั้งคำถาม เพื่อĀา ประเด็นปัญĀา และแนüทางการ แก้ไขปัญĀา เพื่อใĀ้ÿมาชิกÿภาผู้นำ ชาüนาอินทรีย์มีการพูดคุยแลกเปลี่ยน เรียนรู้ร่üมกัน การพูดคุยร่üมกันก่อใĀ้เกิด คüามเข้าใจแลตระĀนักต่อประเด็นปัญĀา ที่เกิดขึ้นของชาüนาในพื้นที่ตำบลบึงกา ÿาม -üางแผนการผลักดัน “ÿภาผู้นำเกþตร ปลอดภัย/อินทรีย์ ใĀ้เป็นองค์กรที่ได้รับ การรองรับจาก “จากÿภาองค์ชุมชนใน พื้นที่ 4 ตำบล” เพื่อใĀ้ÿภาผู้นำเกþตร ปลอดภัย/อินทรีย์เป็นองค์กรที่เป็น รูปธรรม มีโครงÿร้างชัดเจน -ชüนÿมาชิกÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัย/ อินทรีย์ทำงาน üางเป้าĀมาของการ ทำงานÿภาฯ การÿำรüจข้อมูลรายได้ ข้อมูลต้นของการการเกþตร รüมไปถึง การüางเป้าĀมายไปÿู่การทำเกþตร อินทรีย์ที่มีการแนüทางรองรับ (PGS)
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 ขั้นตอนการดำเนินการüิจัย üิธีการดำเนินงานüิจัย กลุ่มเป้าĀมาย อบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนา ýักยภาพÿมาชิกÿภาผู้นำ ชาüนาอินทรีย์ต้นแบบ -นักüิจัย นักüิจัยชุมชน ÿมาชิกÿภาผู้นำ เกþตรปลอดภัย/อินทรีย์อบรมการ พัฒนาýักยภาพ ด้üยเครื่องมือüิจัยชุมชน เพื่อใĀ้ได้การมองเป้าĀมายของÿภาผู้นำ เกþตรปลอดภัย/อินทรีย์ร่üมกัน มอง เป้าĀมายของการนำไปÿู่นาอินทรีย์ใน อนาคตร่üมกัน ผ่านการใช้เครื่องมือüิจัย ชุมชน อย่างเช่น ตัüĀนอน ตุ๊กตาเกþตร แผนที่เดินดิน เป็นต้น - Āลังจากอบรมเชิงปฏิบัติการผู้üิจัย นักüิจัยชุมชน ทำกระบüนการ AAR เพื่อ ÿะท้อนคิดร่üมกัน -แกนนำเกþตรกร -นักüิชาการ -นักüิจัยชุมชน -เกþตรกรต้นแบบ ÿำรüจข้อมูล üิเคราะĀ์ ปัญĀาการทำเกþตรกรรม ข้อมูลรายได้-ค่าใช้จ่าย ก่อนดำเนินงานüิจัย (base line) - ประชุมร่üมกัน ระĀü่างนักüิจัย นักüิจัย ชุมชน ÿมาชิกÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัย/ อินทรีย์ และเกþตรกรต้นแบบมา ออกแบบเครื่องในการเก็บรüบรüมข้อมูล üิเคราะĀ์ปัญĀาการทำเกþตร ข้อมูล รายได้-ค่าใช้จ่าย ก่อนดำเนินงานüิจัย (base line) ซึ่งจะเĀ็นข้อมูลก่อนการ ดำเนินงาน และĀลังจากดำเนินการüิจัย ÿามารถüัดผลการเปลี่ยนแปลงได้ - ซักซ้อม และชี้แจงประเด็นคำถามเพื่อ เกิดคüามเข้าใจร่üมกันในการลงไปเก็บ รüบรüมข้อมูล -แบ่งพื้นที่การเก็บข้อมูล ÿำĀรับนักüิจัย นักüิจัยชุมชน ÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัย/ อินทรีย์ -เมื่อเก็บข้อมูลเรียบร้อย ประชุมเพื่อüิเคราะĀ์ข้อมูล ร่üมกันคิดประมüลผล ข้อมูลรüบยอด เป็นการüิเคราะĀ์และ ÿังเคราะĀ์ข้อมูลจากการที่ได้ -แกนนำเกþตรกร -นักüิชาการ -นักüิจัยชุมชน -เกþตรกรต้นแบบ
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 ขั้นตอนการดำเนินการüิจัย üิธีการดำเนินงานüิจัย กลุ่มเป้าĀมาย ปฏิบัติในพื้นที่แต่ละครั้ง ซึ่งการüิเคราะĀ์นี้ พี่เลี้ยงมีบทบาทÿำคัญในการเป็นที่ปรึกþา และชüนนักüิจัยชุมชนüิเคราะĀ์ผล ตั้งแต่ การเรียบเรียงข้อมูล จัดระเบียบข้อมูล คัด แยก üิเคราะĀ์ จัดกลุ่มจัดประเภทของ ข้อมูลตามประเด็นที่ได้จากการเก็บข้อมูล เช่น ลักþณะทางกายภาพเตรียมคืนข้อมูล รายได้ รายจ่ายของการทำเกþตรข้อมูล การทำนา เป็นต้น เüทีคืนข้อมูลÿถานการณ์ ชุมชน และเกิดข้อตกลง ชาüนาในการทำ เกþตรกรรม -จัดเüทีประชาคมเพื่อคืนข้อมูลใĀ้ ชาüนารับรู้ข้อมูล และนำไปÿู่การจัดทำ ข้อตกลงร่üมในการแก้ไขปัญĀาการทำ เกþตร การใช้ÿารเคมีในระยะ 3 ปี โดย ÿมาชิกÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัย/อินทรีย์ ชüนคิดในการกำĀนดข้อตกลงร่üม โดย นักüิจัยชุมชน และนักüิจัยĀนุนเÿริม กระบüนการ แกนนำเกþตรกร -นักüิชาการ -นักüิจัยชุมชน -เกþตรกรต้นแบบ ประชุมÿมาชิกÿภาผู้นำ เกþตร เพื่อคัดเลือก เกþตรกรต้นแบบในการ ขับเคลื่อนเกþตรปลอดภัย/ อินทรีย์ -ÿมาชิดÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัย/อินทรีย์ คัดเลือกĀาเกþตรกรต้นแบบเพื่อใĀ้เกิด การทำการเกþตรอินทรีย์ÿู่แนüทางรองรับ เกþตรแบบ (PGS) แกนนำเกþตรกร -นักüิชาการ -นักüิจัยชุมชน -เกþตรกรต้นแบบ การüางเป้าของการพัฒนา และการปรับพฤติกรรม เกþตรปลอดภัย/อินทรีย์ -การจัดทำข้อตกลงร่üมเป็นคานงัด ÿำคัญของการนำไปÿู่การÿร้างการมีÿ่üน ร่üมของÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัย/อินทรีย์ ที่ผ่านÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัย/อินทรีย์ ในการตกลงร่üมในการแก้ไขปัญĀา ที่ üางเป้าĀมาย คือ เกþตรอินทรีย์ ใน 3 ปี ข้างĀน้า แกนนำเกþตรกร -นักüิชาการ -นักüิจัยชุมชน -เกþตรกรต้นแบบ Āาพี่เลี้ยงเติมเต็ม และ เครือข่ายร่üมĀนุนเÿริม -การเÿริมคüามรู้ ทักþะ เทคนิค üิธีการ ต่างๆ ใĀ้แก่นักüิจัยชุมชน ÿมาชิกÿภาผู้นำ แกนนำเกþตรกร -นักüิชาการ
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 ขั้นตอนการดำเนินการüิจัย üิธีการดำเนินงานüิจัย กลุ่มเป้าĀมาย เกþตรปลอดภัย/อินทรีย์ จากการ üิเคราะĀ์ร่üมกันของนักüิจัยชุมชนü่า ตนเองยังขาดอะไรและต้องการเติมเต็ม อะไร การเติมเต็มÿามารถทำได้ทั้ง การýึกþาเรียนรู้ด้üยตนเองจากแĀล่ง คüามรู้ต่างๆ และพี่เลี้ยงเป็นผู้เติมเต็มĀรือ Āาผู้มีคüามรู้และประÿบการณ์ในแต่ละ ประเด็นมาเติมเต็มใĀ้แก่นักüิจัยชุมชน -นอกจากนี้ตั้งคำถามถึงประเด็นที่ต้องĀา เครือข่ายมาĀนุนเÿริมเติมเต็มในการ ร่üมกันพัฒนาและแก้ไขปัญĀาเกþตรกร โดยการĀาüิธีการเข้าถึงเครือข่ายต่าง ๆ -นักüิจัยชุมชน -เกþตรกรต้นแบบ การติดตามการดำเนินงาน ของÿมาชิกÿภาผู้นำเกþตร ปลอดภัย/อินทรีย์ การ ติดตามการทำเกþตร การ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการ ทำการเกþตร ประชุมทั้งÿมาชิกÿภาผู้นำเกþตร ปลอดภัย/อินทรีย์ นักüิจัยชุมชน และ นักüิจัยเพื่อรüมกันในการติดตามประเด็น ที่ได้จากüาระการประชุมในÿภาผู้นำ เกþตรปลอดภัย/อินทรีย์ ในการทำ การเกþตร เช่น การลดการใช้ÿารเคมี การ การใช้กระบüนปลูกแบบอินทรีย์ และยังมี การติดตามการเก็บข้อมูลเกþตรกรของ ÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัย/อินทรีย์ รüมถึง การติดตามการดำเนินงานÿภาผู้นำเกþตร ปลอดภัย/อินทรีย์ ในช่üงที่ผ่านมา --แกนนำเกþตรกร --นักüิชาการ -นักüิจัยชุมชน -เครือข่ายต่าง ๆ ขั้นตอนระยะที่ 3 ÿรุปผลและเผยแพร่ผลงานüิชาการ เป็นขั้นตอนĀลังจากการดำเนินการเก็บข้อมูลเÿร็จเรียบร้อย แล้üนำข้อมูลมาüิเคราะĀ์ผลงานüิจัยร่üมกัน เพื่อนำไปÿู่การเรียบเรียงข้อมูลเป็นผลงานüิจัย และนำเÿนอเป็นผลงานüิจัย โดยมีขั้นตอนดังนี้ ตารางที่ 3.3 แÿดงขั้นตอนที่ 3 ÿรุปผลของงานüิจัยและเผยแพร่ผลงานüิชาการ
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 ขั้นตอนการดำเนินการ üิจัย üิธีการดำเนินงานüิจัย กลุ่มเป้าĀมาย ÿรุปผลและüิเคราะĀ์ผล กระบüนการดำเนิน งานüิจัย (ก่อน ระĀü่าง และĀลังการดำเนินการ) ประชุมกลุ่มĀารือและÿังเคราะĀ์งาน ร่üมกันด้üยข้อมูลจากการที่ได้ปฏิบัติใน พื้นที่แต่ละครั้ง ซึ่งการüิเคราะĀ์นี้พี่เลี้ยงมี บทบาทÿำคัญในการเป็นที่ปรึกþาและชüน นักüิจัยชุมชนüิเคราะĀ์ผล ตั้งแต่การเขียน เรียบเรียงข้อมูล จัดระเบียบข้อมูล คัดแยก üิเคราะĀ์ จัดกลุ่มประเภทของข้อมูล ตั้งแต่ ÿถานการณ์ทำการเกþตรในพื้นที่ 4ÿาย คลอง และการพัฒนาýักยภาพของนักüิจัย ชุมชน เกþตรกรต้นแบบ ÿมาชิกÿภาผู้นำ เกþตรปลอดภัย/อินทรีย์เป็นต้น -แกนนำเกþตรกร --นักüิชาการ -นักüิจัยชุมชน -เครือข่ายต่าง ๆ นำเÿนอผลการ ดำเนินงาน ต่อÿาธารณชน การนำเÿนอข้อมูลนอกจากจะเป็นการ ÿะท้อนข้อมูลÿู่คนในชุมชนชาüนาแล้üยัง เป็นการÿร้างคüามเข้าใจใĀ้แก่ชุมชนถึงÿิ่งที่ จะดำเนินการต่อไปด้üย เป็นÿ่üนÿำคัญของ การÿร้างคüามร่üมมือใĀ้เกิดขึ้นในชุมชน เพราะมีข้อมูลที่ตรงกันและเป็นข้อมูลที่มา จากชุมชนเอง รüมถึงยังเป็นการÿร้างคüาม เข้าใจใĀ้แก่Āน่üยงานที่เกี่ยüข้องที่จะเข้ามา เป็นภาคีเครือข่ายในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อการแก้ปัญĀา และพัฒนา เช่น การÿนับÿนุนงบประมาณ ในการดำเนินการ การใĀ้คüามร่üมมือในÿิ่ง ที่เป็นทรัพยากรที่ชุมชน ต้องการ และการÿนับÿนุนด้านบุคลาการที่ มีคüามเชี่ยüชาญเฉพาะด้านเพื่อมา ช่üยเĀลือชุมชน เป็นต้น -แกนนำเกþตรกร --นักüิชาการ -นักüิจัยชุมชน -เครือข่ายต่าง ๆ เผยแพร่ผลงานทาง üิชาการเชิงพื้นที่ นำผลการดำเนินงานเข้าÿู่เüทีการประชุม üิชาการเพื่อนำเÿนอผลการดำเนินงานใน งานüิจัยนี้ที่ได้ทำงานร่üมกับนักüิจัยชุมชน ทีมนักüิจัยและนักüิจัย ชุมชน
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 ขั้นตอนการดำเนินการ üิจัย üิธีการดำเนินงานüิจัย กลุ่มเป้าĀมาย เกþตรกรต้นแบบ และÿมาชิกÿภาผู้นำ เกþตรปลอดภัย/อินทรีย์โดยการเÿนอ ผลงานüิชาการอาจอยู่ในรูปของบทคüาม üิจัยเชิงพื้นที่ บทคüามüิชาการ ทั้งใน ระดับชาติและนานาชาติ 4.1 รายละเอียดของขั้นตอนการดำเนินงานจริงตามแผนงาน (ช่üงรายงานคüามก้าüĀน้า) ปี (งบประมา ณ) กิจกรรม 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 ผลผลิตที่จะÿ่ง มอบ ร้อยละของ กิจกรรมใน ปีงบประมา ณ 256x คณะกรรมประชุมการ ดำเนินการเตรียมจัดตั้งÿภา ผู้นำเกþตรกร ประชุมเพื่อ เตรียมจัดตั้งÿภาผู้นำเกþตรกร และการÿำรüจÿถานการณ์ เกþตรรายได้ก่อนดำเนินการ / / เกิด คณะกรรมการ จัดตั้งÿภาผู้นำ เกþตรกร 5 อบรม แลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อ พัฒนาýักยภาพคณะกรรมการ ดำเนินการจัดตั้งÿภาผู้นำ เกþตรฯ / / แกนนำผู้นำ เกþตรและ เกþตรกรได้มี คüามรู้คüาม เข้าใจในการ จัดตั้งÿภาผู้นำ เกþตร จาก การอบรม ร้อย ละ 70 5 ประชุมจัดทำแผนการ ดำเนินงานจัดตั้งÿภาÿภา เกþตรปลอดภัยและอินทรีย์ 4 ÿายคลอง / ได้แผน ดำเนินการ จัดตั้งÿภาผู้นำ เกþตร จำนüน 1 แผนงาน 5 ประชุมและคัดเลือกÿมาชิก ÿภาผู้นำเกþตรและการ กำĀนดบทบาทĀน้าที่ ตาม โครงÿร้างÿภาผู้นำเกþตร / / ได้ÿมาชิกÿภา ผู้นำ เกิด โครงÿร้างÿภา ผู้นำเกþตร และบทบาท Āน้าที่ÿภาผู้นำ เกþตร 10
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 ปี (งบประมา ณ) กิจกรรม 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 ผลผลิตที่จะÿ่ง มอบ ร้อยละของ กิจกรรมใน ปีงบประมา ณ ÿมาชิกÿภาผู้นำเกþตรÿำรüจ ข้อมูลการทำเกþตร / / / / ÿมาชิกÿภา เกþตร มีข้อมูล เกิดคüาม ตระĀนักใน ขับเคลื่อนการ ทำเกþตร ปลอดภัย/ อินทรีย์ 10 เüทีคืนข้อมูลจากผลการÿำรüจ และเกิดข้อตกลงร่üมนำไปÿู่ การเกþตรปลอดภัย/อินทรีย์ ผ่านกลไกÿภาผู้นำเกþตรกร / / / เกิดข้อตกลง ร่üม” เพื่อมุ่งÿู่ การทำเกþตร ปลอดภัย/ อินทรีย์ 10 ประชุมÿมาชิกÿภาผู้นำเกþตร เพื่อคัดเลือกเกþตรกรต้นแบบ ในการขับเคลื่อนเกþตร ปลอดภัย/อินทรีย์ / เกิดเกþตรกร ต้นแบบในการ ขับเคลื่อน เกþตรปลอด อินทรีย์ จำนüน 8 คน 10 4.2 ÿรุปผลการดำเนินงานเปรียบเทียบกับแผนงานทั้งĀมด ปี (งบประมา ณ) กิจกรรม 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 ผลผลิตที่จะÿ่ง มอบ ร้อยละของ กิจกรรมใน ปีงบประมา ณ 256x คณะกรรมประชุมการ ดำเนินการเตรียมจัดตั้งÿภา ผู้นำเกþตรกร ประชุมเพื่อ เตรียมจัดตั้งÿภาผู้นำเกþตรกร และการÿำรüจÿถานการณ์ เกþตรรายได้ก่อนดำเนินการ / / เกิด คณะกรรมการ จัดตั้งÿภาผู้นำ เกþตรกร 5 อบรม แลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อ พัฒนาýักยภาพคณะกรรมการ ดำเนินการจัดตั้งÿภาผู้นำ เกþตรฯ / / แกนนำผู้นำ เกþตรและ เกþตรกรได้มี คüามรู้คüาม เข้าใจในการ จัดตั้งÿภาผู้นำ เกþตร จาก การอบรม ร้อย ละ 70 5 ประชุมจัดทำแผนการ ดำเนินงานจัดตั้งÿภาÿภา / ได้แผน ดำเนินการ 5
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 ปี (งบประมา ณ) กิจกรรม 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 ผลผลิตที่จะÿ่ง มอบ ร้อยละของ กิจกรรมใน ปีงบประมาณ เกþตรปลอดภัยและอินทรีย์ 4 ÿายคลอง จัดตั้งÿภาผู้นำ เกþตร จำนüน 1 แผนงาน ประชุมและคัดเลือกÿมาชิก ÿภาผู้นำเกþตรและการ กำĀนดบทบาทĀน้าที่ ตาม โครงÿร้างÿภาผู้นำเกþตร / / ได้ÿมาชิกÿภา ผู้นำ เกิด โครงÿร้างÿภา ผู้นำเกþตร และบทบาท Āน้าที่ÿภาผู้นำ เกþตร 10 ÿมาชิกÿภาผู้นำเกþตรÿำรüจ ข้อมูลการทำเกþตร / / / / ÿมาชิกÿภา เกþตร มีข้อมูล เกิดคüาม ตระĀนักใน ขับเคลื่อนการ ทำเกþตร ปลอดภัย/ อินทรีย์ 10 เüทีคืนข้อมูลจากผลการÿำรüจ และเกิดข้อตกลงร่üมนำไปÿู่ การเกþตรปลอดภัย/อินทรีย์ ผ่านกลไกÿภาผู้นำเกþตรกร / / / เกิดข้อตกลง ร่üม” เพื่อมุ่งÿู่ การทำเกþตร ปลอดภัย/ อินทรีย์ 10 ประชุมÿมาชิกÿภาผู้นำเกþตร เพื่อคัดเลือกเกþตรกรต้นแบบ ในการขับเคลื่อนเกþตร ปลอดภัย/อินทรีย์ / เกิดเกþตรกร ต้นแบบในการ ขับเคลื่อน เกþตรปลอด อินทรีย์ จำนüน 8 คน 10 ÿมาชิกÿภาผู้นำ และเกþตรกร ต้นแบบýึกþาดูงานเกþตร อินทรีย์ / ÿมาชิกÿภา ผู้นำเกþตร และเกþตรกร ต้นแบบคüามรู้ คüามเข้าใจ จากการýึกþา ดูงานในการทำ เกþตรอินทรีย์ ในพื้นที่ 1 พื้นที่ 5 อบรมพัฒนาýักยภาพ เกþตรกรต้นแบบÿู่การทำนา / / มีคüามรู้ และ แลกเปลี่ยน เรียนรู้ 10
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 ปี (งบประมา ณ) กิจกรรม 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 ผลผลิตที่จะÿ่ง มอบ ร้อยละของ กิจกรรมใน ปีงบประมาณ อินทรีย์ และเรียนรู้แนüทาง เกþตรแบบ PGS แนüทางเกþตร แบบ GPS ร้อยละ 70 ÿมาชิกÿภาผู้นำ และเกþตรกร ต้นแบบประเมินผลการทำ การเกþตรปลอดภัยและ อินทรีย์ของเกþตรกรต้นแบบ / / / / มีรายงานผล ÿภาผู้นำ เกþตรกรมี ระบบกลไก ติดตาม ÿำรüจ ประเมินผล ของเกþตรกร ต้นแบบทั้ง ก่อน ระĀü่าง และĀลังการ ดำเนินการ 5 อบรมเชิงปฏิบัติการระบบบ การตลาด ช่องทางการจัด จำĀน่าย / ÿมาชิกÿภา ผู้นำชาüนา และชาüนา มี คüามรู้ทาง การตลาดและ การ ประชาÿัมพันธ์ ร้อยละ 70 5 จัดจำĀน่ายÿินค้าเกþตรใน พื้นที่ตลาดเก่า 100 ปีคลอง 12 Āกüา / / ตลาดเก่า 100 ปีคลอง 12 Āก üาเป็นแĀล่ง จำĀน่ายÿินค้า เกþตรของÿภา ผู้นำชาüนา ปลอดภัย/ อินทรีย์ 5 ประชุมบริþัทประชารัฐ ภาคี เครือข่ายเพื่อเพิ่มช่องทาง จำĀน่าย / / / / บริþัทประชา รัฐ และเกิด Āน่üยงานภาคี เครือข่าย ÿนับÿนุนÿภา ผู้นำเกþตร และเกþตรกร ต้นแบบ 5 üิเคราะĀ์และÿังเคราะĀ์ งานüิจัย / / รายงาน ผลงานüิจัย 5
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 ปี (งบประมา ณ) กิจกรรม 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 ผลผลิตที่จะÿ่ง มอบ ร้อยละของ กิจกรรมใน ปีงบประมา ณ นำเÿนอรายงานüิจัยฉบับ ÿมบูรณ์ / เล่มงานüิจัย ฉบับÿมบูรณ์ 5 5. รายงานผลการดำเนินการüิจัย และการüิเคราะĀ์ผลการüิจัย (ตามขั้นตอนที่ 4) 5.1 ตารางเปรียบเทียบผลการดำเนินงานกับแผนการดำเนินการที่ตั้งไü้ (Gantt Chart) กิจกรรม เดือน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 1.คณะกรรมประชุมการ ดำเนินการเตรียมจัดตั้ง ÿภาผู้นำเกþตรกร ประชุม เพื่อเตรียมจัดตั้งÿภาผู้นำ เกþตรกร และการÿำรüจ ÿถานการณ์เกþตรรายได้ ก่อนดำเนินการ 2. แลกเปลี่ยน เรียนรู้เพื่อพัฒนา ýักยภาพ คณะกรรมการ ดำเนินการจัดตั้ง ÿภาผู้นำเกþตรฯ 3.ประชุมจัดทำ แผนการดำเนินงาน จัดตั้งÿภาÿภา เกþตรปลอดภัย และอินทรีย์ 4 ÿาย คลอง 4.ประชุมและ คัดเลือกÿมาชิกÿภา
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 ผู้นำเกþตรและการ กำĀนดบทบาท Āน้าที่ ตาม โครงÿร้างÿภาผู้นำ เกþตร 5.ÿมาชิกÿภาผู้นำ เกþตรÿำรüจข้อมูล การทำเกþตร 6.เüทีคืนข้อมูลจาก ผลการÿำรüจ และ เกิดข้อตกลงร่üม นำไปÿู่การเกþตร ปลอดภัย/อินทรีย์ ผ่านกลไกÿภาผู้นำ เกþตรกร 7.ประชุมÿมาชิกÿภา ผู้นำเกþตร เพื่อ คัดเลือกเกþตรกร ต้นแบบในการ ขับเคลื่อนเกþตร ปลอดภัย/อินทรีย์ 8.ÿมาชิกÿภาผู้นำ และเกþตรกร ต้นแบบýึกþาดูงาน เกþตรอินทรีย์ 9.อบรมพัฒนา ýักยภาพเกþตรกร ต้นแบบÿู่การทำนา อินทรีย์ และเรียนรู้ แนüทางเกþตรแบบ PGS
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 10.ÿมาชิกÿภาผู้นำ และเกþตรกร ต้นแบบประเมินผล การทำการเกþตร ปลอดภัยและ อินทรีย์ของ เกþตรกรต้นแบบ 11.อบรมเชิง ปฏิบัติการระบบบ การตลาด ช่อง ทางการจัดจำĀน่าย 12.จัดจำĀน่าย ÿินค้าเกþตรในพื้นที่ ตลาดเก่า 100 ปี คลอง 12 Āกüา 13.ประชุมบริþัท ประชารัฐ ภาคี เครือข่ายเพื่อเพิ่ม ช่องทางจำĀน่าย ประชุมบริþัท ประชารัฐ ภาคี เครือข่ายเพื่อเพิ่ม ช่องทางจำĀน่าย 14.üิเคราะĀ์และ ÿังเคราะĀ์งานüิจัย 15.นำเÿนอราย งานüิจัยฉบับ ÿมบูรณ์ ĀมายเĀตุ : ใĀ้ระบุเดือนที่เริ่มดำเนินการüิจัยตามÿัญญารับทุน Āมายถึง งานĀรือกิจกรรมที่üางแผนไü้ü่าจะทำตามข้อเÿนอโครงการ Āมายถึง งานĀรือกิจกรรมที่ได้ทำแล้ü
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 5.2 รายละเอียดของขั้นตอนการดำเนินงานจริงตามแผนงาน (ช่üงรายงานคüามก้าüĀน้า) 5.2.1ýึกþาและüิเคราะĀ์ ÿถานการณ์ของการทำเกþตรปลอดภัยและเกþตรอินทรีย์ 4 ÿายคลอง (คลอง 10-13) โดยการมีÿ่üนร่üมของเกþตรกร 1) เกิดคณะคณะกรรมประชุมการดำเนินการเตรียมจัดตั้งÿภาผู้นำเกþตรกร ประชุมเพื่อเตรียมจัดตั้ง ÿภาผู้นำเกþตรกร และการÿำรüจÿถานการณ์เกþตรรายได้ก่อนดำเนินการ การทำงานของกลุ่มแกนนำชุมชน ทั้ง 4 ตำบล ประกอบไปด้üย ตำบลบึงทองĀลาง ตำบลลำไทร ตำบลบึงคอไĀ และตำบลพืชอุดม มีการขับเคลื่อนการทำงานร่üมกันนับตั้งแต่ ปี 2564 ในการประÿานการทำงานเพื่อÿร้าง เครือข่ายผู้ประกอบการในการĀนุนเÿริมการฟื้นตลาดเก่า 100 ปี คลอง 12 Āกüา และยังขับเคลื่อนงานเชิงพื้นที่ใน 4 ตำบล ในประเด็นต่างๆ จนเกิดผลการทำงานเป็นรูปธรรม เช่น จัดผู้ค้า เครือข่ายเกþตรในการจัดร้านค้าต้อนรับ ผู้ü่าราชการจังĀüัดปทุมธานี ในการลงพื้นที่ ตลาดเก่า 100 ปี คลอง 12 Āกüา การขับเคลื่อนงานÿินค้าโอท็อป ใน เข้ต 4 ตำบล และการเคลื่อนงานเกþตรในพื้นที่ จนแกนนำÿ่üนใĀญ่เริ่มและตระĀนักในปัญĀาของการทำเกþตร แบบใช้ÿารเคมี ที่ÿ่งผลÿุขภาพของคนในชุมชนและผู้บริโภค อีกทั้งการปรับเปลี่ยนใĀ้เกิดการทำเกþตรอินทรีย์ใน อนาคต แม้ไม่ใช่เรื่องง่าย Āากดำเนินการได้จะทำใĀ้เกิดประโยชน์ และเกิดมูลค่าของÿินค้าเกþตร ดังนั้นจึงเป็น เริ่มต้นของการมีแนüคิดของการจัดÿภาผู้เกþตรอินทรีย์ โดยมีทีมüิจัยชüนคิดชüนคุยใĀ้เĀ็นคüามÿำคัญของการ รüมกลุ่ม เพื่อเป็นพลังÿำคัญในการขับเคลื่อนไปÿู่เป้าĀมายของชุมชนแĀ่งนี้ในเรื่องการทำการเกþตรอินทรีย์ ดังนั้นการตั้งÿภาผู้นำเกþตรอินทรีย์จึงเป็นลักþณะการรüมกลุ่มเพื่อกำĀนดแนüทางการทำงานขับเคลื่อน การเกþตรผ่านการพูดคุยภายในกลุ่ม Āรือที่เรียกü่า ÿภาผู้นำปลอดภัย/อินทรีย์ 4 ÿายคลอง ที่ได้ทำงานร่üมกันถึง 4 ตำบล ที่มีพื้นที่ติดกันในเขตอำเภอลำลูกกา จังĀüัดปทุมธานี การรüมกลุ่มÿภาผู้นำอินทรีย์จึงเกิดจากแนüคิดของ กลุ่มคน “Āัüไüใจÿู้” ที่มีจิตÿำนึกต่อชุมชนตนเอง โดยมีแกนนำนำĀลักในครั้งนี้ได้แก่ นายกมล ธุüจิตต์ นายüิüัตน์ ผลเจริญ นางชนิญา Āอมýิริ นายลั่นทม แĀÿมุทร นางอำไพ ชลเจริญ และนายประüุธ Āินแก้ü
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 ตารางที่5.1 คณะกรรมการจัดตั้งÿภาผู้นำเกþตรอินทรีย์/ปลอดภัย 4 ÿายคลอง กลุ่มแกนนำในการจัดตั้งÿภาเกþตร อินทรีย์ 4ÿายคลอง พื้นที่ตำบล 1. กมล ธุüจิตต์ ตำบลลำไทร 2. นายüิüัตน์ ผลเจริญ ตำบลบึงคอไĀ 3. นางชนิญา Āอมýิริ ตำบลบึงทองĀลาง 4. นายลั่นทม แĀÿมุทร ตำบลพืชอุดม 5. นางอำไพ ชลเจริญ ตำบลบึงคอไĀ 6. นายประüุธ Āินแก้ü ตำบลลำไทร 2) จัดทำแผนการดำเนินงานจัดตั้งÿภาเกþตรปลอดภัย/อินทรีย์4 ÿายคลอง ĀลังจากมีคณะทำงานĀรือคณะกรรมการในการขับเคลื่อนการจัดตั้งÿภาผู้นำเกþตรกรปลอดภัย/อินทรีย์ แล้üนั้น คณะทำงานจึงเริ่มมีการประชุมพูดคุยกันใน ครั้งที่ 2 เมื่อüันที่ 6 พฤþภาคม 2566 เพื่อพูดคุยในการทำ คüามเข้าใจถึงคüามÿำคัญของการจัดตั้งÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัย/อินทรีย์ เพื่อมุ่งมั่นเป้าĀมายใĀ้ไปถึงการรับรอง มาตรฐานเกþตรอินทรีย์แบบมีÿ่üนร่üม (PGS) แม้จะใช้เüลาในĀลายปีก็ตาม แต่การเกิดขึ้นของÿภาผู้นำเกþตร ปลอดภัย/เกþตรอินทรีย์จะเป็นการรüมกลุ่มคนที่มุ่งมั่นตั้งใจในการทำใĀ้พื้นที่ใĀ้เขต 4 ตำบลĀรือ 4 ÿายคลองเป็น พื้นที่เกþตรปลอดภัยในระยะเริ่มแรก และเป็นการพัฒนาคนพัฒนาใĀ้เกิดกลุ่มเพื่อทำงานขับเคลื่อน แก้ไขปัญĀา ต่างๆที่เกิดขึ้นกับเกþตรกรในพื้นที่ดังกล่าü จากการประชุมพูดคุยในที่ประชุมมีการกำĀนด การดำเนินงานใĀ้เกิดเป็นรูปธรรม โดยระบุแนüทางการ ทำงานตลอด ปี 2566 เพื่อเป็นแนüทางการทำงานที่ÿ่งมอบใĀ้ “ÿภาผู้เกþตรปลอดภัย/อินทรีย์” เมื่อเกิดขึ้นแล้ü นั้น ก็จะมีแผนการดำเนินงานใĀ้เกิดคüามต่อเนื่อง เพราะคณะทำงานÿ่üนใĀญ่อาจตั้งเข้าร่üมเป็นÿมาชิกÿภาผู้นำ เกþตรกรปลอดภัย/อินทรีย์ ในขณะที่บางคนอาจต้องเป็นนักüิจัยชุมชน ดังนั้นการเคลื่อนÿภาผู้เกþตรปลอดภัย/ อินทรีย์ยังจะต้องประกอบกับแนüทางของงานüิจัยเพื่อท้องถิ่นโดยมี Log Frame และ Outcome Mapping เป็น แนüทางทำงานร่üมกันจนออกเป็นแผนการดำเนินงานเพื่อใĀ้ “ÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัย/อินทรีย์” ใĀ้ÿามารถเดิน ไปได้ และมีคüามเป็นระบบและกลไกเพื่อเกิดคüามต่อเนื่องĀลังจากงานüิจัยนี้ได้เÿร็จÿิ้นแต่ÿภาผู้นำเกþตร ปลอดภัย/อินทรีย์จะเป็นกลุ่มที่ยังคงทำงานต่อไปในพื้นที่ 4 ÿายคลองแĀ่งนี้
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 ตารางที่5.2 แÿดงถึงแผนการดำเนินงาน ÿมชิกÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัยและอินทรีย์ เดือน กิจกรรม พฤþภาคม ประชุมคณะทำงานจัดตั้งÿภาผู้นำเกþตรอินทรีย์ มิถุนายน จัดตั้งÿภา และคัดเลือÿมาชิกÿภาผู้เกþตรอินทรีย์ /ปลอดภัย กรกฎาคม ประชุมÿมาชิกÿภาผู้นำเกþตรอินทรย์ทุกเดือน ÿิงĀาคม ÿำรüจข้อมูลทางการเกþตรของÿมาชิกÿภาเกþตรอินทรีย์ กันยายน จัดเüทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผู้นำ และคืนข้อมูลชุมชน ตุลาคม จัดประชุมÿภาผู้นำเกþตรอินทรีย์/ปลอดภัย ýึกþาดูงานในพื้นที่ตำบลýาลาครุ อำเภอĀนองเÿือ จังĀüัดปทุมธานี พฤýจิกายน จัดตลาดนัดÿีเขียü เพื่อนำผลผลิตออกขายในพื้นที่ตลาดเก่า 100 ปีคลอง 12 Āก üา ธันüาคม ÿามารถนำผลผลิตขายในโรงพยาบาลลำลูกา ซึ่งจะเป็นภาคีเครือข่ายใĀ้กับÿภา ผู้นำเกþตรกรปลอดภัย/อินทรีย์ เมื่อพิจารณาทั้ง Log Frame และ Outcome Mapping แล้üทางคณะทำงานจึงมีการüางแผนการทำงาน ตลอดปี 2566 เพื่อกำĀนดเป็นแนüทางการทำงานของ “ÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัย/อินทรีย์” (ตารางนี้นำเข้าที่ ประชุมเมื่อเกิดÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัย/อินทรีย์) โดยในเดือนพฤþภาคมประชุมคณะทำงานจัดตั้งÿภาผู้นำเกþตร อินทรีย์ในการüางแผนการทำงาน เดือนมิถุนายนจัดตั้งÿภา และคัดเลือÿมาชิกÿภาผู้เกþตรอินทรีย์ /ปลอดภัย เดือนÿิงĀาคมÿำรüจข้อมูลทางการเกþตรของÿมาชิกÿภาเกþตรอินทรีย์ ทั้งพื้นที่และประเภทของการเพาะปลูก เพื่อทำใĀ้ÿมาชิกÿภาÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัย/อินทรีย์ ได้เข้าใจและเรียนรู้การใช้ข้อมูลเพื่อüิเคราะĀ์ข้อมูลที่ นำไปÿู่การแก้ไข Āรือพัฒนาในพื้นที่ 4 ÿายคลองของเกþตรกร เดือนกันยายนจัดเüทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผู้นำ และ คืนข้อมูลชุมชน เดือนตุลาคมจัดประชุมÿภาผู้นำเกþตรอินทรีย์/ปลอดภัย และýึกþาดูงานในพื้นที่ตำบลýาลาครุ อำเภอĀนองเÿือ จังĀüัดปทุมธานีและในเดือนพฤýจิกายน ดังนั้นการมีแผนการดำเนินงานชัดเจนจะเป็นÿร้าง การเรียนรู้ใĀ้กับÿมาชิกÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัย/อินทรีย์ เพื่อใĀ้เกิดระบบการดำเนินงานที่ชัดเจน มีเป้าĀมายการ ทำงาน 3) การเกิดขึ้น “ÿภาเกþตรปลอดภัย/อินทรีย์ 4 ÿายคลอง” การทำงานของคณะทำงานจัดตั้งÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัยและเกþตรอินทรีย์ได้ดำเนินงานตามแผนการ ทำงาน โดยเฉพาะการตั้ง “ÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัยและเกþตรอินทรีย์” ดังนั้นในüันที่ 10 มิถุนายน 2566 จึงมี การเชิญเกþตรกรที่ÿนใจเข้าร่üมขับเคลื่อนการทำงานเพื่อพัฒนาเกþตร เข้ามาเป็นÿมาชิก “ÿภาผู้นำเกþตร
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 ปลอดภัย/อินทรีย์” โดยปรากฏมีการคัดเลือกและÿมัครใจเข้ามาเป็นÿมาชิกÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัย/อินทรีย์ จำนüน 14 คน โดยมีรายชื่อตามตารางที่ ซึ่งÿมาชิกÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัย/อินทรีย์4ÿายคลอง (คลอง 10-13) ใน 4 ตำบล ได้แก่ ตำบลบึงทองĀลาง ตำบลบึงคอไĀ ตำบลลำไทร และตำบลพืชอุดม ตารางที่5.3 แÿดงถึงจำนüนÿมาชิกÿภาผู้เกþตรปลอดภัย และเกþตรอินทรีย์ ÿมาชิกÿภาเกþตรปลอดภัย/อินทรีย์4 ÿายคลอง พื้นที่ตำบล 1. กมล ธุüจิตต์ ตำบลลำไทร ประธานÿภา 2. นายüิüัตน์ ผลเจริญ ตำบลบึงคอไĀ รองประธานÿภา 3. นางชนิญา Āอมýิริ ตำบลบึงทองĀลาง รองประธานÿภา 4. นายลั่นทม แĀÿมุทร ตำบลพืชอุดม รองประธานÿภา 5. นางอำไพ ชลเจริญ ตำบลบึงคอไĀ ÿมาชิก 6. นายประüุธ Āินแก้ü ตำบลลำไทร ÿมาชิก 7. ลุงแดง ตำบลพืชอุดม ÿมาชิก 8. นายยม แĀÿมุทร ตำบลลำไทร ÿมาชิก 9. ผู้ใĀญ่รัตน์ ตำบลลำไทร ÿมาชิก 10. นายüัลภา ผลเจริญ ตำบลพืชอุดม ÿมาชิก 11. นายมาเรียม ดังเจริญ ตำบลพืชอุดม ÿมาชิก 12. นางÿุมาลี จั่นช้าง ตำบลพืชอุดม ÿมาชิก 13. นายเฉลิพร ลายมุก ตำบลบึงทองĀลาง ÿมาชิก 14. นายüิโรจน์ มะลิซ้อน ตำบลลำไทร ÿมาชิก
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 ภาพ5.2 การประชุมÿมาชิกÿภานำเกþตรปลอดภัยและอินทรีย์ เมื่อมีการจัดตั้งÿภาและÿมาชิกผู้นำเกþตรปลอดภัย/อินทรีย์แล้ü ในที่ประชุมได้มีการพูดคุยในเรื่องĀน้า ของ “ÿภา” และ “ÿมาชิก” ของÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัยและอินทรีย์ เพื่อทำคüามเข้าใจบทบาทĀน้าที่ของตนเอง ในฐานะที่เป็นÿมาชิกÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัย/อินทรีย์ ในขณะเดียüกันต้องทำคüามเข้าใจü่า “ÿภาผู้นำเกþตร ปลอดภัย/อินทรีย์” จัดตั้งขึ้นมาเพื่อüัตถุประÿงค์อะไร ดังนั้นจึงเกิดการÿรุปผลดังนี้ ÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัย/อินทรีย์4 ÿายคลอง มีการจัดตั้งเพื่อüัตถุประÿงค์ดังนี้ 1.เป็นพื้นที่ÿำĀรับพูดคุยและเปลี่ยนเรียนรู้ปัญĀา คüามต้องการ และการแก้ไขของเกþตรกรในพื้นที่ 4 ตำบลได้แก่ ตำบลบึงคอไĀ ตำบลบึงทองĀลาง ตำบลลำไทร และตำบลพืชอุดม อำเภอลำลูกา จังĀüัดปทุมธานี 2.ÿภาจะเป็นระบบกลไกในการĀนุนเÿริมเกþตรกร และÿมาชิกÿภาผู้นำเกþตรอินทรีย์ และ และĀาภาคี เครือข่ายในการทำงาน 3.มีแผนการดำเนินงานในการพัฒนา แก้ไขปัญĀาของชเกþตรในพื้นที่ตำบล 4 ÿายคลอง
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 4.เป็นĀน่üยขับเคลื่อนใĀ้เกิดเกþตรอินทรีย์ โดยจะมุ่งเป้าĀมายไปÿู่การรองรับมาตรฐานเกþตรอินทรีย์ แบบมีÿ่üนร่üม (PGS) เพื่อลดคüามเĀลื่อมล้ำเýรþฐกิจของเกþตรกร ในอนาคตของ 4 ÿายคลอง (คลอง 10-13) ของเขตอำเภอลำลูกกา จังĀüัดปทุมธานี Āน้าที่ÿมาชิกÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัย/อินทรีย์4 ÿายคลอง มีดังนี้ 1.เป็นตัüแทนของเกþตรในพื้นที่ 4 ÿายคลองในการเÿนอปัญĀา คüามต้องการและการแก้ไขปัญĀาของ เกþตรกรในพื 2.เป็นผู้ขับเคลื่อนการทำงาน เช่น คüามรู้คüามเข้าใจเกี่ยüกับนา ÿำรüจข้อมูล 3.เป็นต้นแบบของเกþตรในการทำการเกþตรปลอดภัยที่นำไปÿู่การทำนาอินทรีย์ อย่างไรก็ตามในที่ประชุมได้พิจารณาเĀ็นü่า การจัดตั้งÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัย/อินทรีย์ แม้จะได้ตัüบุคคล ในการเป็นตัüแทนÿภาผู้นำฯแล้ü แต่ด้üย คüามรู้คüามเข้าใจ และทัýนคติ ยังมีไม่เท่ากันจะทำใĀ้การขับเคลื่อนÿภา ผู้นำเกþตรปลอดภัยและเกþตรอินทรีย์ยังไม่อาจบรรลุüัตถุประÿงค์ของการจัดตั้งไü้ เมื่อเป็นเช่นนี้ การÿร้างพลัง แกนนำทั้ง คüามรู้ คüามเข้าใจ และบทบาทĀน้าที่ ใĀ้กับตัüแทนÿภาผู้นำฯ ใĀ้ÿามารถขับเคลื่อนการทำงานได้อย่าง ต่อเนื่อง และนำไปÿู่คüามเข้มแข็งจนÿามารถเป็นระบบกลไกในการทำงานต่อไป โดยต้องมีกระบüนการพัฒนาและ เÿริมÿร้างýักยภาพÿมาชิกÿภาผู้นำฯ เช่น การพูดคุย ชüนคิด การอบรมเชิงปฏิบัติการและพัฒนาýักยภาพÿมาชิก ÿภาผู้นำฯ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการระบุถึงการทำงาน และแบ่งบทบาทĀน้าที่ใĀ้ชัดเจน เช่น การแบ่งĀน้าที่ของการดูแล พื้นที่ของตนในการรับผิดชอบÿำรüจข้อมูล ÿถานการณ์ของชาüนาในบึงกาÿาม การÿำรüจข้อมูลการเกþตรในพื้นที่ เพื่อเป็นฐานข้อมูลเบื้องต้นก่อนการดำเนินงาน (Base line) ซึ่งจะÿามารถนำมาüิเคราะĀ์และüัดผลการ เปลี่ยนแปลงĀลังการดำเนินการüิจัยได้ชัดเจน การเÿริมÿร้างคüามรู้คüามเข้าใจการในการทำเกþตรปลอดภัย และ เกþตรอินทรีย์ การเÿริมÿร้างคüามเข้าใจในการเป็นÿภาผู้นำฯ ที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนการทำการเกþตร ผ่าน ระบบกลไกของÿภาผู้นำฯ ÿู่การการüางเป้าĀมายปลายทางไปÿู่การเกþตรอินทรีย์การรองรับมาตรฐานเกþตร อินทรีย์แบบมีÿ่üนร่üม (PGS) เพื่อลดคüามเĀลื่อมล้ำเýรþฐกิจของเกþตรกร ในอนาคตต่อไป 4) การÿำรüจข้อมูลทางการเกþตรของÿมาชิกÿภาผู้นำเกþตรอินทรีย์/ปลดภัย 4 ÿายคลอง การดำเนินการเก็บข้อมูลเกþตรกรเบื้องต้น (Baseline)เป็นการเก็บข้อมูลก่อนการทำงานüิจัยเพื่อÿร้าง การเปลี่ยนแปลงĀลังจากที่ได้ขับเคลื่อนงานüิจัยเพื่อท้องถิ่น โดยเมื่อมีการจัดตั้งÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัย/อินทรีย์
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 รüมถึงได้ตัüÿมาชิกจำนüน 14 คน ได้ÿำรüจข้อมูลÿถานการณ์ทางการเกþตรของÿมาชิกและเกþตรกร จำนüน 18 คน ทั้ง 4 พื้นที่ตำบล เมื่อได้ข้อมูลจะทำใĀ้ÿมาชิกและเกþตรกรมีคüามรู้ในข้อมูลและนำไปÿู่การแก้ไขปัญĀาที่ เกิดขึ้นของเกþตรใน 4ÿายคลอง ดังจะเĀ็นได้ถึงการกำĀนดใĀ้ÿมาชิกÿภาผู้นำเกþตรอินทรีย์/ปลอดภัย ต้องมีการ จัดเก็บข้อมูลจำนüนพื้นที่เกþตรกรรม และประเภทของการเพาะปลูก ข้อมูลรายได้ ที่ดำเนินการเป็นข้อมูล Base line เพื่อÿร้างคüามรับรู้และเกิดคüามเข้าใจของÿมาชิกÿภาผู้นำเกþตรอินทรีย์/ปลอดภัย ใĀ้เĀ็นถึงÿถานการณ์ ของเกþตรในพื้นที่ของตนเองü่ามีÿภาพเป็นอย่างไร ซึ่งถือü่าเป็นการÿร้างใĀ้ÿมาชิกÿภาผู้นำเกþตรปลอดภัย/ อินทรีย์ ÿามารถออกแบบการเก็บข้อมูล การüิเคราะĀ์ข้อมูลของชุมชนได้ด้üยตนเอง ซึ่งจะก่อใĀ้เกิดคüามตระĀนัก ถึงปัญĀาที่เกิดขึ้นของเกþตรกร และนำไปÿู่การแก้ไขปัญĀาโดยมีÿ่üนร่üมของเกþตรกร ภาพที่ 5.3 การÿำรüจข้อมูลของÿมาชิกÿภาเกþตร และเก็บข้อมูลÿถานการณ์ของพื้นที่ 4 ÿายคลอง
ÿำนักงานการüิจัยแĀ่งชาติ (üช.) ผนüก 4 ตารางที่5.4 จำนüนเกþตรกรที่เกิดการเก็ยข้อมูล รายชื่อเกþตรกร พื้นที่ตำบล ประเภท เกþตรกรรม ขนาดพื้นที่ พฤติกรรม การเกþตร 1. กมล ธุüจิตต์ ตำบลลำไทร ผÿมผÿาน เลี้ยงÿัตü์น้ำ (ปลาดุก) 10 ไร่ เกþตรอินทรีย์ 2. นายüิüัตน์ ผลเจริญ ตำบลบึงคอไĀ ผÿมผÿาน 1 ไร่ เกþตรปลอดภัย 3. นางชนิญา Āอมýิริ ตำบลบึงทองĀลาง ผักครัüเรือน 3 ไร่ เกþตรปลอดภัย 4. นายลั่นทม แĀÿมุทร ตำบลพืชอุดม ข้าü 3 ไร่ เกþตรปลอดภัย 5. นางอำไพ ชลเจริญ ตำบลบึงคอไĀ ไร่Āญ้า ข้าü 26 ไร่ ใช้ÿารเคมี 6. นายประüุธ Āินแก้ü ตำบลลำไทร ผักครัüเรือน 300 ตรü. เกþตรปลอดภัย 7. ลุงแดง ตำบลพืชอุดม เĀ็ดนางฟ้า 400 ก้อน เกþตรอินทรีย์ 8. นายยม แĀÿมุทร ตำบลลำไทร ผÿมผÿาน ถั่üฝักยาü 5 ไร่ เกþตรปลอดภัย 9. ผู้ใĀญ่รัตน์ ตำบลลำไทร ผÿมผÿาน เลี้ยงปลาดุก 30 ไร่ เกþตรปลอดภัย 10. นายüัลภา ผลเจริญ ตำบลพืชอุดม ข้าü 2 ไร่ เคมี/ปลอดภัย 11. นายมาเรียม ดังเจริญ ตำบลพืชอุดม ข้าü 4 ไร่ เคมี/ปลอดภัย 12. นางÿุมาลี จั่นช้าง ตำบลพืชอุดม ผÿมผÿาน 5 ไร่ เกþตรปลอดภัย 13. นายเฉลิพร ลายมุก ตำบลบึงทองĀลาง ผÿมผÿาน 5 ไร่ เคมี/ปลอดภัย 14. นายüิโรจน์ มะลิซ้อน ตำบลลำไทร ผÿมผÿาน 10 ไร่ เกþตรปลอดภัย 15. นายซาฟีอี โกมินทร์ ตำบลพืชอุดม ผÿมผÿาน 4 ไร่ เกþตรปลอดภัย 16. นายพงþ์ ÿร้อยทอง ตำบลบึงทองĀลาง ผÿมผÿาน 2 ไร่ เกþตรปลอดภัย 17. นางจำปา แซ่คู้ ตำบลลำไทร ผÿมผÿาน 1 ไร่ เกþตรปลอดภัย 18. นายÿุพจน์ นาคงาม ตำบลบึงคอไĀ ผÿมผÿาน 1ไร่ เกþตรปลอดภัย