The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้านในตำบลอุโมงค์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by umjumjim, 2022-06-16 14:07:27

ชื่อบ้านนามเมืองในตำบลอุโมงค์

ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้านในตำบลอุโมงค์

ชื่อบ้านนามเมืองSEPTEMBER, 2023 | ISSUE: 4
ในตBำAบลAอุNโมUงMค์ONGบ้าน

น า ง อุ ทุ ม พ ร มู ล ริ น ต๊ ะ The Official Monthly Newsletter

ค รู โ ร ง เ รี ย น อ นุ บ า ล เ มื อ ง ลำ พู น

รูปชาวบ้านมาทำบุญที่แดนเมือง จาก http://www.umongcity.go.th/11/1/

น า ง อุ ทุ ม พ ร มู ล ริ น ต๊ ะ ผู้ จั ด ทำ
ค รู โ ร ง เ รี ย น อ นุ บ า ล เ มื อ ง ลำ พู น

ชื่อบ้านนามเมืองในตำบลอุโมงค์

คำ นำ

ตำบลอุโมงค์เป็นตำบลที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน
มีความหลากหลายในวัฒนธรรมแต่ละท้องถิ่น การเก็บบันทึกเรื่องราว
ประวัติศาสตร์ความเป็นมา จึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อนำส่งต่อถึงคนรุ่นหลัง
ให้ทราบถึงประวัติความเป็นมาของหมู่บ้าน ทำให้เกิดความผูกพัน จาก
คนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ เพื่อที่จะส่งผ่านสิ่งต่างๆ จากรุ่นสู่รุ่น ให้คน
รุ่นใหม่หวงแหนและภาคภูมิใจในชุมชนของตน

จากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในปีการศึกษาที่ผ่านมาใน
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19 )
ทำให้นักเรียนขาดแหล่งเรียนรู้และสื่อที่จะศึกษาค้นคว้า และโรงเรียนมี
แหล่งข้อมูลหรือสื่อจำนวนน้อยไม่เพียงพอกับจำนวนนักเรียน นอกจาก
นี้การให้นักเรียนได้สืบค้นจากสื่อเทคโนโลยี ยังเป็นการพัฒนาทักษะ
การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียนอีกดัวย

ดังนั้นข้าพเจ้าจึงได้จัดทำหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book)
รวบรวมประวัติความเป็นมาของหมู่บ้านในตำบลอุโมงค์ทั้งสิ้น
11 หมู่บ้านขึ้น เพื่อให้นักเรียน ผู้ปกครอง ผู้สนใจได้ศึกษา เรียนรู้
ด้วยตนเอง อันจะก่อให้เกิดความภาคภูมิใจในความเป็นคน “อุโมงค์”
และขอขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้เกิดหนังสืออิเล็กทรอนิกส์
“ชื่อบ้านนามเมืองในตำบลอุโมงค์" ในครั้งนี้

นางอุทุมพร มูลรินต๊ะ
ครูโรงเรียนอนุบาลเมืองลำพูน

หน้า ก

ตำ บ ล อุ โ ม ง ค์ ห น้ า
แ ผ น ที่ ตำ บ ล อุ โ ม ง ค์ 1
หมู่ที่ 1 บ้านอุโมงค์ 2
หมู่ที่ 2 บ้านกอม่วง 3
หมู่ที่ 3 บ้านสันกับตอง 4
หมู่ที่ 4 บ้านฮ่องกอก 5
หมู่ที่ 5 บ้านป่าเห็ว 6
หมู่ที่ 6 บ้านป่าลาน 7
หมู่ที่ 7 บ้านเชตวันหนองหมู 8
หมู่ที่ 8 บ้านไร่ 9
หมู่ที่ 9 บ้านป่าเส้า
หมู่ที่ 10 บ้านชัยสถาน 10
หมู่ที่ 11 บ้านแม่ร่องน้อย 11
อ้างอิง 12
13
14

หน้า ก

ชชืื่่ออบบ้้าานนนนาามมเเมมืือองงใในนตตำำบบลลออุุโโมมงงคค์์

ตําบลอุโมงค์

ตําบลอุโมงค์ มีประวัติความเป็นที่ยาวนาน และเป็นชุมชนดั้งเดิม
ด้านการปกครอง ในราว พ.ศ. 2459 ตําบลอุโมงค์ปกครองโดยขุนอุโมงค์ มนาทร
(นายแก้ว พันธุ์-อุโมงค์) ได้รับแต่งตั้งเป็นกํานันคนแรกของตําบลอุโมงค์
และหมื่นนรสุข จรุง (นายบุญตัน ยาวุฒิ) เป็นกํานันคนที่ ๒ โดยการแต่งตั้งชื่อ
เป็น “ขุน” หรือ “หมื่น” ต่อมาได้ยกเลิกการแต่งตั้งชื่อดังกล่าว ให้ใช้ชื่อบุคคลตาม

ปกติ อย่างไรก็ตามกํานันตําบลอุโมงค์ ได้รับการแต่งตั้งเรื่อยมาตามสภาพ

การเมืองแต่ละยุคแต่ละสมัย และได้ยกฐานะเป็นสุขาภิบาลตําบลอุโมงค์ เมื่อปี
พ.ศ. 2514 จากนั้น พ.ศ. 2542 ได้รับการยกฐานะ

เป็นเทศบาลตําบลอุโมงค์ จนถึงปัจจุบัน หมู่บ้านในตําบลอุโมงค์

มีทั้งหมด 11 หมู่บ้าน ดังนี้

ตำบลอุโมงค์มีพื้นที่ทั้งหมดจำนวน 20.09 หมู่ที่ 1 บ้านอุโมงค์
ตารางกิโลเมตร. ตั้งอยู่ทางทิศเหนือสุดของจังหวัด หมู่ที่ 2 บ้านกอม่วง
ลำพูน ระยะห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 10 หมู่ที่ 3 บ้านสันกับตอง
กิโลเมตร มีอาณาเขตติดต่อ ดังนี้ หมู่ที่ 4 บ้านฮ่องกอก
หมู่ที่ 5 บ้านป่าเห็ว
ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอสารภี หมู่ที่ 6 บ้านป่าลาน
จังหวัดเชียงใหม่ หมู่ที่ 7 บ้านเชตวันหนองหมู
หมู่ที่ 8 บ้านไร่
ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลเหมืองง่า หมู่ที่ 9 บ้านป่าเส้า
อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน หมู่ที่ 10 บ้านชัยสถาน
หมู่ที่ 11 บ้านแม่ร่องน้อย
ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลมะเขือแจ้
อำเภอเมืองจังหวัดลำพูน หหนน้้าา 11

ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลหนองช้างคืน
อำเภอเมืองจังหวัดลำพูน

ชื่อบ้านนามเมืองในตำบลอุโมงค์

รูปแผนที่ ตำบลอุโมงค์ อ้างอิงจาก https://www.umongcity.go.th/frmumongmap/

หน้า 2

ชื่อบ้านนามเมืองในตำบลอุโมงค์

หมู่ที่ 1 บ้านอุโมงค์

ความเป็นมาชุมชนบ้านอุโมงค์

ชุมชนบ้านอุโมงค์ มีอาณาเขตติดต่อกับอำเภอสารภี
จังหวัดเชียงใหม่ และมีสถานที่สำคัญของชุมชนคือหลักเขต
“แดนเมือง” และศาลหลักเมืองเป็นสัญลักษณ์แบ่งเขตแดน
กล่าวได้ว่าเป็นสถานที่สำคัญของชุมชนบ้านอุโมงค์ ซึ่ง
ประชาชนและผู้สัญจรเดินทางผ่านเส้นทางสาย 106
เชียงใหม่-ลำพูน จะให้ความเคารพ เช่น บีบแตรหรือยกมือ
ไหว้เมื่อขับรถผ่าน

ชุมชนบ้านอุโมงค์มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์
กล่าวคือในสมัยรัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระ
จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงได้รับสั่งให้ข้าราชบริพาร
มาปักหลักแดนเมือง เพื่อกำหนดเขตแดนแต่ละเมือง
(เขตจังหวัดในปัจจุบัน) และพระบาทสมเด็จ
พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) ขณะที่พระองค์
ท่านทรงดำรงพระยศเป็นมกุฎราชกุมาร ทรงเสด็จมา
ณ บ้านอุโมงค์ ข้าราชบริพารและประชาชนได้ร่วมกันตั้ง

พลับพลาที่ประทับใต้ต้นมะขาม ต้นมะขามต้นนั้ นในปัจจุบันยังปรากฏให้เห็นอยู่ ณ บริเวณ

หน้ าวัดอุโมงค์

อย่างไรก็ตาม ที่มาของคำว่า อุโมงค์ เป็นชื่อ
แปลงมาจากคําว่า โอ้งโม่ง เป็นคําพื้นเมือง แปล
ว่า เป็นหลุมเป็นบ่อ อยู่บริเวณหน้ าวัดอุโมงค์ บาง
ท่านบอกว่าอยู่ที่ใต้พระเจดีย์ภายในวัดมีอุโมงค์ มี
อุโมงค์อยู่ภายใน ต่อมามีพระธุดงค์รูปหนึ่ งได้
จาริกผ่านมาและพระธุดงค์ได้มีนิ มิตเห็นพญานาค
พิทักษ์รักษาสมบัติใต้อุโมงค์ไว้ ด้วยเกรงว่าจะมีผู้
ไปรบกวนอันอาจเป็นอันตราย จึงได้สร้างเจดีย์
ครอบอุโมงค์ไว้ สมัยต่อมาจึงมีการบูรณะเรื่อยมา
และพัฒนาจนเป็นวัดอุโมงค์ในปัจจุบัน

ประชากรชุมชนบ้านอุโมงค์มีจำนวน 1,734 คน โดยแยกเป็นชาย 839 คน หญิง 895 คน

มีจำนวนครัวเรือน 521 ครัวเรือน สภาพลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่อุดมสมบูรณ์เหมาะสำหรับ

ทำการเกษตร และมีน้ำอุดมสมบูรณ์ตลอดทั้งปี ประชาชนส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรม

ปลูกข้าว เกษตรระยะสั้นผักสวนครัว ปัจจุบันที่นาส่วนใหญ่กลายเป็นสวนลำไย ทำให้

ประชาชนมีรายได้จากผลผลิตลำไย หน้า 3

ชื่อบ้านนามเมืองในตำบลอุโมงค์

หมู่ที่ 2 บ้านกอม่วง

ค ว า ม เ ป็ น ม า ข อ ง ชุ ม ช น บ้ า น ก อ ม่ ว ง

บ้านกอม่วง เดิมนั้ นเรียก “บ้านปันปวก
นอกจากนั้ นในเขตบ้านกอม่วงยังมี
น้ำ” ซึ่งที่มาเกิดจากในสมัยก่อนเรียกตาม ต้นยางแฝดเป็นที่เคารพของชุมชน
ลำน้ำสองสายที่ไหลมาบรรจบกัน จนเกิด เล่ากันว่าในสมัยอดีตดินแดน แถบนี้ เต็ม
น้ำวนและมีปวก (ฟอง) ลอยฟู จึงเรียก ไปด้วยต้นยางป่า แต่ต่อมาคนเข้ามา
ตามกันมา ต่อมาจึงยึดเรียกตามวัดอันมี จับจองที่กันมากแต่ยังคงเหลือเพียงต้น
ต้นมะม่วงฮี้ต หรือมะม่วงขี้ย้า (มะม่วงป่า) ยางหลวงแฝดที่ประชาชนต่างเชื่อว่ามีสิ่ ง
เป็นมะม่วงต้นใหญ่อยู่หน้ าวัด วัดกอม่วง ศั กดิ์สิ ทธิ์สิ งสถิตอยู่
จึงได้ชื่อว่า บ้านกอม่วง และเป็นชื่อหมู่บ้าน
ในปัจจุบัน ลักษณะทางกายภาพของพื้นที่ ประชากรชุมชนบ้านกอม่วงมีจำนวน
เป็นที่ลุ่ม และทิศตะวันตกมีอาณาเขตติดต่อ ทั้งสิ้นประมาณ 788 คน 290 ครัวเรือน
องค์การบริหารส่ วนตำบลหนองช้างคืน ประชาชนส่ วนใหญ่ประกอบอาชีพ
เกษตรกรรม ทำไร่ ทำนา ปลูกพืชผักสวน
ชุมชนบ้านกอม่วง มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ครัว ในชุมชนแบ่งการปกครองเป็น
ที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ คือห้างนาเจ้าจักรคำ คำว่า 3 หมวด ได้แก่ บ้านฮ่อ ป่ายาง หน้ าวัด
“ห้างนาเจ้า” หมายถึง ห้างนาซึ่งเป็นของเจ้า (ปั่ นปวกน้ำ) ตามที่มาในอดีต
เมืองเชื้อเจ้า และในสมัยนั้ นมีการทำนาข้าว
กันมากเพราะนอกจากใช้เป็นสถานที่ พักข้าว
แล้วยังเป็นเสมือนที่เก็บข้าวที่จัดเก็บเป็นภาษี
ในสมัยนั้ นอีกด้วย ลักษณะทางภูมิศาสตร์
เป็นแหล่งที่มีความอุดมสมบูรณ์ เช่นเดียวกับ
ชุมชนบ้านอุโมงค์ ประชาชนมีความ
หลากหลายมีทั้งชาวฮ้อเข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่
โดยสันนิ ษฐานว่ามาจาก ดอยอ่างขาง
ดอยป่าคา ดอยสามหมื่น เป็นต้น

รู ปห้างนาเจ้า
จาก
http://www.umon
gcity.go.th/11/2/

หน้า 4

ชื่อบ้านนามเมืองในตำบลอุโมงค์

หมู่ที่ 3 บ้านสันกับตอง

ความเป็นมาความเป็นมาชุมชนบ้านสั นกับตอง

ชุมชนบ้านสันป่าตอง เป็นชุมชนที่มีตำนานเล่าขานกันถึงที่มาของชื่อบ้าน
เล่ากันว่า ในอดีตนั้ นพื้นที่ตั้งของหมู่บ้านมีต้นทองหลาง คนพื้นเมืองเรียกว่า

ต้นไม้ตอง ต้นไม้ตองจะขึ้นอยู่บนที่ดอนจึงเป็นที่มาของหมู่บ้านสันกับตอง และ
เรียกชื่อบ้านสันกับตองมาถึงปัจจุบัน ชุมชนบ้านสันกับตองเป็นหมู่บ้านที่ประชากร
นั บถือทั้งศาสนาคริสต์ และศาสนาพุทธ ซึ่งประชากรนั บถือศาสนาคริสต์ มีศูนย์
รวมศาสนสถาน คือ โบสถ์คริสต์ ที่ตั้งอยู่ที่บ้านสันกับตองเหนื อ อำเภอสารภี
จังหวัดเชียงใหม่ และประชากรที่นั บถือศาสนาพุทธมีศาสนสถานอยู่ที่ชุมชนบ้าน
สันกับตอง ตำบลอุโมงค์ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน คือ วัดศรีดอนทอง และ
ประชาชนที่นั บถือศาสนาดังกล่าวต่างมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันและมีกิจกรรมร่วม
กันเสมอมา

ชุมชนบ้านสันกับตองมีประชากรทั้งสิ้น 458 คน 156 ครัวเรือน ประชากรส่วน
ใหญ่ประกอบอาชีพทำไร่ ทำสวนลำไย งานฝีมือ งานไม้ เป็นต้น

หน้า5

ชื่อบ้านนามเมืองในตำบลอุโมงค์ หมู่ที่ 4 บ้านฮ่องกอก

ความเป็นมาของชุมชนบ้านฮ่องกอก

ชุมชนบ้านฮ่องกอกเป็นชุมชนเล็ก ๆ ตั้งอยู่ ต้นมะกอกขนาดใหญ่หลายสิบต้นขึ้นอยู่ ริมร่อง
บริเวณข้างริมฝั่ งลำน้ำกวง (ทิศตะวันตก) และมี น้ำ จึงเรียกชื่อว่า ฮ่องกอก คำว่า ฮ่องกอก ก็คือ
เหมืองพญาคำไหลผ่านกลางหมู่บ้าน ทำให้พื้นที่ ร่อง หรือ ร่องน้ำ คำว่า กอก ก็คือ ต้นมะกอก
มีความอุดมสมบูรณ์ เหมาะสำหรับทำการเพาะ นั่ นเอง บริเวณฝั่ ง ริมน้ำกวงของหมู่บ้านบ้าน
ปลูก ทำการเกษตร และเป็นแหล่งกำเนิ ดต้นไม้ ฮ่องกอกมักจะเป็นที่พักของเจ้านายฝ่ายเหนื อทั้ง
ชนิ ดหนึ่ งเรียกว่า “ต้นแหย่ง” เป็นไม้เศรษฐกิจ จากเชียงใหม่และลำพูน ด้วยความเป็นพื้นที่ที่เป็น
ที่สำคัญของชุมชน นำมาสานสาดแหย่ง (เสื่อ) เมืองท่า สังเกตได้จากชื่อต่างๆ เช่น บ้านท่าเจ้า
เป็นการสร้างรายได้ ของประชาชนในชุมชน ขาว ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของชุมชน เป็นต้น

ที่มาของชื่อหมู่บ้านฮ่องกอก มีการ ประชากรชุมชนบ้านฮ่องกอก มีจำนวนทั้ง
เล่าสื บต่อกันมาว่าสมัยก่อนบริเวณหมู่บ้านฮ่อ สิ้น 620 คน 238 ครัวเรือน สภาพทางภูมิศาสตร์
งกอกเป็นพื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำ ในฤดูฝน น้ำจะ เป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยต้น
ไหลหลากท่วมทุกปี พอถึงช่วงหน้ าแล้ง พื้นดิน แหย่ง ประชาชนในพื้นที่จึงนำมาสานเป็นสาด
ก็จะแห้งแล้ง สมัยนั้ นพื้นที่ดินยังไม่มีผู้คน แหย่งเพื่อจำหน่ ายสร้างรายได้ สาดแหย่ง จึงเป็น
จับจองกันมากนั ก ปล่อยให้เป็นที่ดินรกร้างว่าง สินค้าที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของชุมชน บางคน
เปล่า ผู้คนที่มีฐานะเป็น ลูกหลานเจ้านาย เรียกหมู่บ้านนี้ ว่า “บ้านแหย่ง”
หรือผู้มีอำนาจปกครองก็เข้ามาจับจองพื้นที่ดิน
ที่อยู่ใกล้แหล่งน้ำและใกล้ถนนหนทางที่
สามารถเข้ามาทำประโยชน์ ได้ ในสมัยก่อนจะมี
ร่องน้ำตามธรรมชาติ เมื่อถึงฤดูน้ำลด น้ำก็ขัง
เป็นแอ่งกว้างโดยทั่วไป ไม่สามารถนำที่ดินมา
ทำการเกษตรได้ เจ้าพญาคำได้เกณฑ์ชาวบ้าน
ให้ช่วยกันทำหมืองฝายและขุดร่องน้ำจากทิศใต้
ของตัวเมืองเชียงใหม่ลงมาทางทิศใต้ เพื่อเป็น
ทางระบายน้ำให้ไหลสะดวกเเละใช้ประโยชน์ ใน
การเกษตร เมื่อเจ้าพญาคำขุดลอกร่องน้ำไปถึง
บริเวณไหนก็จะเรียกสถานที่นั้ นๆตามสภาพที่
พบเห็น เมื่อขุดผ่านมาถึงหมู่บ้านฮ่องกอกจะพบ

รู ปต้นแหย่ง จาก http://www.umongcity.go.th/11/4/ หน้า 6
รู ปสาดแหย่ง จาก https://www.otoptraders.com/page/id/1596463975421603

หมู่ที่ 5 บ้านป่าเห็วชื่อบ้านนามเมืองในตำบลอุโมงค์ ความบ้เาป็นนปม่าาเชหุ็มวชน




ในอดีตชุมชนบ้านป่าเห็ว ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนั ก แต่เป็นที่รู้จัก
ของคนทั่วไปเพราะชื่อ “ป่าเห็ว” ปรากฏตามชื่อป้ายบอกทาง หรือชื่อ
สถานที่ต่างๆ เช่น แยกป่าเห็ว ถนนสายป่าเห็ว-ป่าลาน,เชตวัน-ป่าเห็ว,
ป่าเห็ว-ริมปิง, ตลาดป่าเห็ว เป็นต้น มีการเล่าสืบต่อกันว่าที่มาของชื่อ
ชุมชนบ้านป่าเห็วนั้ น ชื่อเดิมว่า “ป่าเหียว” จนกลายมาเป็นบ้านป่าเห็ว
ในปัจจุบัน ที่เป็นเช่นนี้ เพราะบริเวณที่ตั้งหมู่บ้านมีต้นเห็ว หรือต้น
เหียว หรือต้นตะเคียนหนู ซึ่งเป็นไม้ยืนต้นขึ้นอยู่จำนวนมาก จนกลาย
เป็นสัญลักษณ์ของชุมชนและเป็นที่รู้จักของผู้คนที่สัญจรไปมา ชุมชน
บ้านป่าเห็ว แบ่งการปกครองดูแลภายในชุมชนเป็น 3 หมวด ได้แก่
บ้านโฮ่ง- หล่ายเมือง, บ้านป่างิ้ว, บ้านกอม่วง แต่ละชื่อบ่งบอกถึง
ลักษณะพื้นที่ของแต่ละหมวด เป็นที่รู้จักกันภายในชุมชนเป็นอย่างดี

ประชากรชุมชนบ้านป่าเห็ว ทั้งสิ้น 1,084 คน ชาย 514 คน หญิง
570 คน 436 ครัวเรือน ส่วนใหญ่ ประกอบอาชีพการเกษตรสวนลำไย
เกษตรผสมผสาน อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของสำนั กงานเทศบาล
ตำบลอุโมงค์และเป็นสถานที่จัดกิจกรรม
งานเทศกาลชิมไวน์ กับไส้อั่วหละปูน และ
งานถนนคนเดินอุโมงค์ม่วนใจ๋ประเพณี
ปี๋ ใหม่เมือง ที่ยิ่งใหญ่เป็นประจำทุกปี

หน้า 7

ชื่อบ้านนามเมืองในตำบลอุโมงค์

หมู่ที่ 6 บ้านป่าลาน

ความเป็นมาชุมชนบ้านป่าลาน

ชุมชนบ้านป่าลานในอดีตนั้ น สืบต่อกันว่่า บริเวณอาณาเขตที่ตั้งของหมู่บ้านมี
ต้นไม้ลานขึ้นอยู่ทั่วไป ทำให้พื้นที่มีความร่มรื่น สวยงาม เป็นสัญลักษณ์ของชุมชน
และเป็นที่รู้จักของผู้สัญจรไปมา จากอดีตจนถึงปัจจุบัน ดังนั้ น ชื่อชุมชนจึงมีชื่อมา
จากชื่อต้นลาน ซึ่งอยู่ทางทิศเหนื อของวัดป่าลานในปัจจุบัน ประชากรในชุมชนบ้าน
ป่าลานส่วนใหญ่ทำการเกษตรหลายรูปแบบ ทั้งการเกษตรกรลำไย และเกษตรสวน
ครัวหลากหลาย การเพาะเห็ด สังเกตได้จากชุมชนมีความหลากหลายทางด้านศิลป
วัฒนธรรม และรูปแบบการดำเนิ นชีวิต ในชุมชนยังมีชนชาวยองด้วย จะเห็นว่าชุมชน
บ้านป่าลาน ประชากรส่วนหนึ่ งมีการใช้ภาษายองสำหรับการสื่อสารระหว่างกันใน
ชุมชนและกับชุมชนอื่นๆ ทำให้ชุมชนมีเสน่ ห์และเป็นเอกลักษณ์ของชุมชน

ชุมชนบ้านป่าลานมีประชากรทั้งสิ้ น 970 คน 326 ครัวเรือน ประชากรมีรายได้
หลักจากการทำการเกษตร และมีโรงเพาะเห็ดของชุมชน มีค่ายมวยที่สร้างชื่อนั กมวย
เป็นนั กกีฬามวยไทยสู่เวทีหลายระดับมากมาย ทั้งยังเป็นที่ตั้งของศูนย์เทคโนโลยี
สารสนเทศ (IT) ตำบลอุโมงค์ และศูนย์บริการสาธารณสุขตำบลอุโมงค์ อีกด้วย

หน้า 8

ชื่อบ้านนามเมืองในตำบลอุโมงค์

หมู่ที่ 7 บ้านเชตวัน หนองหมู

รูปองค์การตลาด สาขาลำพูน จาก
https://www.cmthainews.com/archives/5143

ความเป็นมาชุมชนบ้านเชตวัน หนองหมู

ชุมชนบ้านเชตวันหนองหมู จากคำบอกเล่าความเป็นมาของประวัติของชุมชน
กล่าวกันว่า ในอดีตชุมชนบ้านเชตวัน เดิมเรียกบ้านแสนตอ ตามชื่อวัดที่ชาวบ้านศรัทธา
ซึ่งต่อมาวัดได้รับการพัฒนาบูรณะ ได้ขุดค้นพบศิลาที่จารึกชื่อวัดว่า วัดเชตวัน จึงเปลี่ยน
มาเรียกชื่อวัดเป็นวัดเชตวันนั บแต่นั้ นตาม หลักฐานที่พบ นอกจากนี้ ยังมีชื่อที่เรียกต่อ
ท้ายคำว่าเชตวันว่า หนองหมู สาเหตุเนื่ องจากมีเรื่องเล่ากันมาต่อกันมาว่า บริเวณข้าง
คันดิน (ปัจจุบันคือถนนลำปาง-เชียงใหม่) เป็นแอ่งน้ำ จะมีหมูป่าจำนวนมาก มักจะลง
มาเล่นน้ำ และหาอาหาร ชาวบ้านจึงเรียกว่า หนองหมูป่า เปลี่ยนมาเป็นหนองหมูใน
ปัจจุบัน และเรียกรวมกับชื่อเดิมเป็น. “เชตวันหนองหมู”

ชุมชนบ้านเชตวันหนองหมูมีประชากรทั้งสิ้ น 1,675 คน ชาย 759 คน หญิง 916 คน
607 ครัวเรือน ประชาชนมีรายได้หลักมาจากการเกษตร และการค้าขายเป็นหลัก และ
ชุมชนบ้านเชตวันหนองหมูเป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ใจกลางตำบลอุโมงค์ ซึ่งส่วนหนึ่ งเป็นใจ
กลางแหล่งการค้า พาณิชยกรรม จึงเป็นเสมือนชุมชนเศรษฐกิจของชุมชนตำบลอุโมงค์
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นที่ตั้งขององค์การตลาดจังหวัดลำพูน (ตลาดกลาง)

หน้า 9

ชื่อบ้านนามเมืองในตำบลอุโมงค์

หมู่ที่ 8 บ้านไร่

รูปลำน้ำร่องเชี่ยว จาก
http://www.umongcity.go.th/11/8/

ความเป็นมาชุมชนบ้านไร่

ชุมชนบ้านไร่ มีที่มาของชื่อหมู่บ้านไร่นั้ นมีหลายความเชื่อ บ้างก็ว่า
เกิดจากที่ชุมชนอื่นมักจะมาปลูกไร่อยู่ที่พื้นที่หมู่บ้านแห่งนี้ จึงเรียกกันต่อมา
ว่า “บ้านไร่’’ ก็ว่าสมัยก่อนนั้ น บ้านไร่ เดิมเรียกบ้านไร่กอเติม เพราะในอดีต
พื้นที่ชุมชนบ้านไร่ มีต้นเติมซึ่งเป็นไม้ท้องถิ่นขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก ต่อมา
เมื่อมีการย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ของผู้คนมีการปลูกบ้านเรือนที่อยู่อาศัยจำนวน
มากขึ้น คำว่า “ต้นเติม’ ก็ค่อย ๆ เลือนหายไป นอกจากนั้ น บ้านไร่ยังมีแม่น้ำ
หรือลำน้ำปิงห่างไหลผ่านกลางหมู่บ้านทั้ง 3 หมวด คือ บ้านไร่ตะวันออก
บ้านไร่ตะวันตก และบ้านไร่พระบาท และเรียกชื่อลำน้ำดังกล่าวว่า “ลำน้ำร่อง
เชี่ยว’’ เป็นแม่น้ำสายหลักที่หล่อเลี้ยงวิถีชีวิตของประชาชน และชุมชนได้อาศัย
ในการทำการเกษตร อุปโภค บริโภค การประมง

ประชากรชุมชนบ้านไร่จำนวนทั้งสิ้น 1,453 คน 472 ครัวเรือน ประชากร
ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตร งานช่างฝีมือ ค้าขาย และสวนลำไย

หน้า 10

ชื่อบ้านนามเมืองในตำบลอุโมงค์

หมู่ที่ 9 บ้านป่าเส้ า

ความเป็นมาชุมชนบ้านป่าเส้ า

ชุมชนบ้านป่าเส้า นั บเป็นจุดใจกลางชุมชนตำบลอุโมงค์ชุมชนหนึ่ งในอดีตสมัยมหา
สงครามบูรพา สงครามโลกครั้งที่ 2 สถานี รถไฟป่าเส้า เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญแห่งหนึ่ ง
ในสถานการณ์เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศชาติให้พ้นประเทศล่าอาณานิ คม (ญี่ปุ่น)
เนื่ องจากสถานี รถไฟป่าเส้าตั้งอยู่ใกล้โกดังเก็บผลผลิตทางการเกษตรที่สำคัญ คือ ข้าว
และแร่ฟอสฟอรัส ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในกระบวนการแปรรูปเป็นเหล็ก สามารถนำ
มาใช้ในยามสงคราม และที่มาของคำว่าบ้านป่าเส้านั้ นเล่ากันว่า ในอดีตบริเวณหน้ าวัดป่า
เส้าในปัจจุบันมีต้นเส้าขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก จึงเป็นชื่อเรียกหมู่บ้านและวัดต่อกันมา
นอกจากนี้ บ้านป่าเส้ายังมีลำไยพันธุ์ดีหายาก และเป็นพันธุ์ที่มีชื่อเรียกของท้องถิ่นด้วย
ได้แก่ “เบี้ยวเขียวป่าเส้า’’ “เบี้ยวเขียวลุงตื้อ” นั บว่าเป็นลำไยพันธุ์ดีหายากของตำบลอุโมงค์
และจังหวัดลำพูน ปัจจุบันยังคงได้รับการพัฒนาพันธุ์ให้เกษตรกรได้ขยายและปลูกโดย
ทั่วไป

ประชากรชุมชนบ้านป่าเส้ามีจำนวน 1,453 คน 662 ครัวเรือน ประชากรส่วนใหญ่
ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ความสามารถในการแปรรูปหอมกระเทียม และสินค้าแปรรูป
จากผลผลิตการเกษตรอื่นๆ หลายชนิ ด

หน้า 11

ชื่อบ้านนามเมืองในตำบลอุโมงค์

หมู่ที่ 10 บ้านชัยสถาน

ความเป็นมาชุมชนชัยสถาน

ความเป็นมาของชุมชนบ้านชัยสถาน เล่ากันว่า รูปผังศูนย์การเรียนรู้ จาก
สมัยหนึ่ ง พระนางเจ้าจามเทวีผู้ครองนครหริภุญชัย https://www.facebook.com/Umon
ได้เสด็จมา ณ “บ้านยางก่ายเกิ้ง” โดยบรรยายว่าใน gAgricultural
อดีตนั้ นมีต้นยางขึ้นพาดก่ายอยู่อย่างหนาแน่ นทั่วไป
ต่อมาเมื่อทัพของพระนางจามเทวีตั้งทัพอยู่เป็นเวลา
นาน ครั้งพอถึงฤดูแล้ง ไม่มีแหล่งน้ำเพียงพอ จึงได้
ย้ายทัพไปตั้งแหล่งพื้นที่ใหม่ ด้วยเหตุดังกล่าว ชาว
บ้านจึงเรียกพื้นที่แห่งนั้ นว่า “หนองแล้ง” คำว่า
หนองแล้ง จึงเริ่มเป็นที่รู้จักกันในหมู่บ้าน และต่อ
มาได้มีการเปลี่ยนชื่อใหม่ว่า “ชัยสถาน” ซึ่งตั้งขึ้น
เพื่อเป็นเกียรติแก่พ่อท้าวชัยยะสัณฐาน (ต้นตระกูล
วงศ์สถาน) เป็นผู้อุปถัมภ์บูรณะวัด เป็นผู้ทำคุณ
ประโยชน์ ต่อพระศาสนา และส่วนรวม นอกจากนี้
ในอดีตชุมชนบ้านชัยสถานยังเป็นที่ตั้งของคุ้มเจ้า
ดลดารา (เจ้าน้ อยค้อน) เจ้าหนานเมือง-อิน ซึ่งเป็น
ผู้ที่ครองที่นาเกือบทั้งหมดของตำบลอุโมงค์ เว้น
ห้างเจ้าจักรคำที่บริเวณบ้านกอม่วง ซึ่งท่านทั้งสอง
ถือได้ว่าเป็นทายาทของเจ้าผู้ครองนครลำพูนใน
อดีต

ชุมชนบ้านชัยสถานมีประชากร 1,631 คน
554 ครัวเรือน ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ
หลักทั้งด้านเกษตรกรรม ผักสวนครัว ค้าขาย ทำ
สวนลำไย เป็นที่ตั้งของศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจ
พอเพียง ตำบลอุโมงค์ นอกจากนี้ ยังมีโรงรับซื้อของ
เก่าอยู่ทั่วไป จะเห็นได้ว่าชุมชนบ้านชัยสถาน มี
บุคลากรผู้มีความรู้ความสามารถด้านการจัดการ
ขยะได้ เป็นอย่างดี

หน้า 12

ชื่อบ้านนามเมืองในตำบลอุโมงค์

หมู่ที่ 11 บ้านแม่ร่องน้อย

ความเป็นมาชุมชนบ้านแม่ร่องน้ อย

ชุมชนบ้านแม่ร่องน้ อย มีชื่อมาจากลักษณะ รูปภาพลำเหมือง แม่ร่องน้ อย
ภูมิประเทศของชุมชน ซึ่งมีแม่น้ำร่องเชี่ยวไหลเข้ามา จาก http://umongcity.go.th/11/11/
สู่ชุมชนบ้านแม่ร่องน้ อย ไหลลงสู่ลำน้ำกวง ชุมชน
บ้านแม่ร่องน้ อย บางครั้งเรียกว่า บ้านต้า (บ้านท่า)
หมายถึง บริเวณเป็นท่าน้ำหรือท่าเทียบเรือ ท่าอาบ
น้ำ เป็นท่าน้ำซึ่งติดกับลำน้ำกวง ในอดีตเล่ากันว่า
บริเวณดังกล่าว เป็นทางขึ้นลงของเรือสะเปา เป็น
เรือสำเภาขนาดเล็กที่บรรทุกสิ นค้าต่างๆแล้วขนถ่าย
ลง ณ ท่าน้ำ ลำน้ำกวง จากนั้ น จึงมีการขนส่งสินค้า
เข้าตัวเมืองลำพูนอีกต่อหนึ่ ง ชุมชนบ้านแม่ร่องน้ อย
เริ่มเป็นชุมชนที่เข้มแข็งขึ้นมาหลังจากที่มีวัดแม่ร่อง
น้ อย ซึ่งตั้งชื่อเรียกตามชื่อหมู่บ้าน เป็นศูนย์รวม
จิตใจของชาวบ้านในชุมชน

ชุมชนบ้านแม่ร่องน้ อย มีประชากร 929 คน
349 ครัวเรือน ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ ทำ
เกษตร สวนพืชผัก ทำนาข้าว สวนลำไย นอกจากนี้
ยังเป็นแหล่งแรงงานที่มีฝีมือทั้งด้านงานก่อสร้าง
งานไม้ เป็นต้น พื้นที่ของชุมชนบริเวณริมถนนซุป
เปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่ - ลำปางส่วนหนึ่ งเป็นที่ตั้งของ
โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เช่น โรงงาน
บริษัทฟริโต-เลย์ (ประเทศไทย) ผลิตขนมเลย์ที่รู้จัก
กันทั่วไป บริษัทซี เค คาร์ตัน บริษัทฮองดา โชว์รูม
รถยนต์เชฟโลเลต เป็นต้น

เนื่ องจากเป็นที่ตั้งโรงงานอุตสาหกรรม
และมีพื้นที่เชื่อมกับเขตนิ คมอุตสาหกรรมลำพูนภาคเหนื อ ทำให้
ประชาชนมีกิจการหอพักสำหรับให้ผู้ทำงานในนิ คมอุตสาหกรรมเช่าพัก
ตลอดจนนั กเรียน นั กศึกษาที่เรียนวิทยาลัยเทคโนโลยีหมู่บ้านครู
(อยู่เขตองค์การบริหารส่ วนตำบลมะเขือแจ้)

หน้า 13

ชื่อบ้านนามเมืองในตำบลอุโมงค์

แ ห ล่ ง อ้ า ง อิ ง




ประวัติชุมชนเขตเทศบาล. สืบค้น 20 เมษายน 2565, จาก
http://www.umongcity.go.th/11/

สารานุกรมชื่อบ้านนามเมือง จากหริภุญชัยถึงลำพูน เล่มที่ 1. (2554).
เชียงใหม่: จรัสธุรกิจการพิมพ์.

สารานุกรมชื่อบ้านนามเมือง จากหริภุญชัยถึงลำพูน เล่มที่ 2. (2555).
ลำพูน: ณัฐพลการพิมพ์.

เอกสารประกอบหลักสูตรท้องถิ่นตำบลอุโมงค์. (2548). ม.ป.ท.
อุโมงค์ ส.ค.ส.2549 รวมประวัติความเป็นมา ภูมิปัญญา และกิจกรรม

เด่นของชุมชน. (2548). ม.ป.ท
http://www.umongcity.go.th.




หน้า 14


Click to View FlipBook Version