The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by thanyasupangaom28, 2021-05-22 12:00:49

เนื้อหา 3บท_clone

เนื้อหา 3บท

เรือ่ งที่ 1 ส่ิงมชี ีวติ กบั การดำรงชวี ติ

สิง่ มชี วี ิตรอบตวั เรามีหลายชนิด ซ่งึ สิ่งมชี วี ติ แตล่ ะชนดิ จะมีลกั ษณะสำคญั บางอย่างเหมือนกัน และมี
ลกั ษณะสำคญั บางอย่างแตกต่างกันไป โดยเราสามารถใช้ความเหมอื นและความแตกตา่ งของลักษณะต่างๆ ของ
สิ่งมชี ีวติ มาจดั กลุม่ สง่ิ มชี ีวติ ออกจากกนั ได้ 3 กลมุ่ คือ กลุ่มพืช กลมุ่ สตั ว์ และกลมุ่ ทไ่ี ม่ใชพ่ ชื และสตั ว์

สงิ่ มชี ีวติ ตา่ งๆ ในโลกถกู จำแนกออกเป็นหมวดหมู่ เพื่องา่ ยตอ่ การศึกษา โดยส่ิงมชี ีวิตท่มี ีลักษณะสำคัญ
ร่วมกันจะถูกจำแนกเอาไวใ้ นกลุม่ เดียวกัน ซ่ึงในการจำแนกพชื เราสามารถใชล้ ักษณะภายนอกของพชื ท่ีสังเกต
ไดม้ าเป็นเกณฑ์ในการจำแนกพืชออกเปน็ กลมุ่ เช่น ใชก้ ารมีดอก มาจำแนกพชื ได้เป็นพชื มดี อกและพชื ไม่มดี อก
เปน็ ต้น

สัตว์ตา่ งๆ มีมากมายหลายชนิด ในการจำแนกสตั วอ์ อกเป็นกลุ่มสามารถใชก้ ารมกี ระดูกสันหลังเปน็ เกณฑ์
จงึ จำแนกสัตว์ได้เปน็ สัตว์มกี ระดูกสันหลงั และสตั วไ์ มม่ ีกระดกู สันหลัง

สัตว์มีกระดูกสันหลงั มหี ลายกล่มุ ได้แก่ กลุ่มปลา กลุ่มสตั ว์สะเทนิ น้ำสะเทินบก กลุ่มสัตวเ์ ลือ้ ยคลาน กลุ่ม
นก และกลุ่มสตั วเ์ ล้ยี งลกู ด้วยน้ำนม ซึง่ สัตวแ์ ตล่ ะกลุ่มจะมลี ักษณะเฉพาะทสี่ งั เกตไดแ้ ตกต่างกันไป

พชื ดอกมีส่วนตา่ ง ๆ ทส่ี ำคญั ได้แก่ ราก ลำตน้ ใบ ดอก ผล และเมลด็ ซ่งึ สว่ นต่าง ๆ เหล่านี้จะทำหน้าท่ี
ต่างกนั ไป

• ราก เป็นโครงสรา้ งของพชื ทีอ่ ยใู่ ตด้ นิ และแผ่ขยายออกไป เพอ่ื ยดึ ลำตน้ ใหต้ ้ังอย่บู นดิน รากมี
หนา้ ท่ดี ูดนำ้ และแรธ่ าตุจากดนิ ขึ้นไปสู่ส่วนต่างๆ ของพืชโดยผ่านทางลำต้น

• ลำตน้ มหี น้าทลี่ ำเลยี งน้ำ แร่ธาตุ และอาหาร ไปเล้ยี งส่วนต่างๆ ของพืช โดยภายในลำต้นของพืช
มที อ่ ลำเลยี ง ซง่ึ ประกอบด้วยทอ่ ลำเลียงนำ้ และทอ่ ลำเลียงอาหาร เพอ่ื ลำเลยี งน้ำและแร่ธาตจุ าก
ดิน และลำเลยี งอาหารจากใบพชื

• ใบ เป็นโครงสร้างท่ีสำคัญของพืช ทำหนา้ ทสี่ รา้ งอาหาร และหายใจซึ่งเปน็ การแลกเปลี่ยนแก๊ส
เชน่ เดียวกบั คนและสัตว์ ใบของพชื ทำหนา้ ทค่ี ายนำ้ ซ่ึงการคายนำ้ มปี ระโยชนต์ ่อพชื เพราะช่วย
ทำใหเ้ กดิ การลำเลยี งนำ้ และแร่ธาตุอย่างตอ่ เนอื่ งใบพชื ทำหน้าทีส่ ร้างอาหาร โดยกระบวนการ
สงั เคราะห์ด้วยแสง ซงึ่ การสรา้ งอาหารของพชื จะเกดิ ข้นึ ได้ เม่อื มแี สง การสรา้ งอาหารของพืชจึง
เกดิ ขึน้ ในเวลากลางวนั โดยพืชจะใชแ้ กส๊ คาร์บอนไดออกไซด์จากอากาศ และคายแกส๊ ออกซิเจนสู่
อากาศ อาหารทพ่ี ืชสร้างข้ึนมาครงั้ แรกจะเป็นนำ้ ตาล แล้วจะถกู เปล่ยี นเปน็ แป้งเก็บสะสมไว้ใน
สว่ นต่างๆ ของพืช

• ดอก ของพืชทำหน้าท่ีสืบพันธุ์ ดอกของพชื โดยท่ัวไปประกอบด้วยส่วนต่างๆ ได้แก่ กลีบเล้ียง กลีบ
ดอก เกสรเพศผู้ และเกสรเพศเมีย ซงึ่ แต่ละสว่ นประกอบของดอกจะทำหนา้ ท่แี ตกตา่ งกนั

เรื่องท่ี 2 วสั ดแุ ละสาร

วัสดุมหี ลายชนดิ สามารถแบ่งออกเป็น โลหะ เซรามิก และพอลิเมอร์ ซึง่ แต่ละชนิดอาจมีสมบัตเิ หมอื นกนั หรอื
แตกต่างกนั

ความแข็งของวัสดุ คือ ความทนทานของวัสดุต่อการขดี วสั ดแุ ต่ละชนิดมีความแขง็ แตกต่างกัน วสั ดุท่ีมี
ความแข็งมาก เมอ่ื ขีดกบั วสั ดอุ นื่ จะไม่เกิดรอยบนวสั ดหุ รอื เกดิ รอยน้อย การเรียนรู้เก่ยี วกับสมบัตดิ ้านความแข็งของ
วัสดุ ทำใหน้ ำวสั ดตุ า่ งๆ มาใช้ทำสงิ่ ของเครื่องใชใ้ นชวี ิตประจำวันได้ตามสมบัตขิ องวสั ดนุ น้ั ๆ อยา่ งเหมาะสม

สภาพยืดหยุ่น คอื ลักษณะของวสั ดุที่เม่ือถูกแรงมากระทำแลว้ เกดิ การเปลย่ี นแปลงรูปรา่ งไป และ
สามารถกลบั คนื สสู่ ภาพเดมิ ได้เม่อื หยุดแรงกระทำตอ่ วัสดุนัน้ การเรยี นรู้เก่ียวกับสมบัตดิ า้ นสภาพยดื หยนุ่ ของวสั ดุ
ทำใหน้ ำวัสดุต่างๆ มาใช้ทำสงิ่ ของเครอ่ื งใช้ในชีวติ ประจำวันไดต้ ามสมบัตขิ องวสั ดุนน้ั ๆ อยา่ ง เหมาะสม

การนำความร้อนของวัสดุ คือ การถ่ายโอนความร้อนผ่านของแขง็ จากบริเวณที่มีอุณหภูมิสงู ไปยัง บริเวณ
ทีม่ ีอณุ หภมู ิตำ่ การเรียนรู้เกี่ยวกับสมบัติดา้ นการนำความร้อนของวัสดุ ทำให้นำวัสดุต่างๆ มาใช้ทำ สง่ิ ของเครือ่ งใช้
ในชีวติ ประจำวันได้ตามสมบัตขิ องวสั ดนุ ั้นๆ อย่างเหมาะสม

การนำไฟฟา้ ของวสั ดุ คือ สมบัติของวสั ดทุ ่ีพลังงานไฟฟ้าสามารถถา่ ยโอนผา่ นวสั ดุชนิดน้นั ได้ การเรยี นรู้
เกี่ยวกบั สมบตั ิดา้ นการนำไฟฟา้ ของวัสดุ ทำให้นำวสั ดตุ า่ งๆ มาใชท้ ำสิ่งของเคร่ืองใช้ในชีวติ ประจำวันได้ตามสมบัติ
ของวัสดุนั้นๆ อย่างเหมาะสม

สสารในชีวิตประจำวันมีมากมายหลายชนิด แต่ละชนิดมีสถานะท่ีแตกต่างกัน สสารบางชนดิ อย่ใู น สถานะของแขง็
ของเหลว หรอื แก๊ส

สมบัติของของแข็ง คือ มีมวล ตอ้ งการที่อยู่ สามารถสมั ผสั ได้ มีรูปรา่ งและปริมาตรคงที่ มอี นุภาคยึดกนั
อยา่ งหนาแนน่ เรยี งชิดกนั ไม่สามารถเคลอ่ื นทีไ่ ด้

สมบัตขิ องของเหลว คือ มมี วล ตอ้ งการทีอ่ ยู่ สามารถสมั ผสั ได้ มรี ูปร่างเปล่ียนแปลงตามภาชนะที่บรรจมุ ี
ปรมิ าตรคงท่ี มีอนภุ าคอยู่หา่ งกนั มากกว่าของแขง็ ทำใหเ้ คลื่อนไหวได้มากขน้ึ และระดบั ผวิ หนา้ ของของเหลวจะอยู่
ในแนวราบเสมอ

สมบตั ขิ องแกส๊ คอื มีมวล ตอ้ งการที่อยู่ สามารถสัมผัสได้ มีรูปรา่ งและปรมิ าตรเปล่ียนแปลงตามภาชนะที่
บรรจุ มอี นุภาคกระจายหา่ งจากกันมากกว่าของเหลว ทำให้เคลือ่ นท่ีไดท้ กุ ทศิ ทาง

เรอื่ งท่ี 3 ระบบสรุ ิยะและจกั รวาล

ระบบสรุ ยิ ะเปน็ ระบบของดวงดาวท่ีตั้งอยใู่ นดาราจกั รทางช้างเผอื กซ่งึ มดี วงอาทติ ย์เป็นศูนย์กลาง

ระบบสุริยะเปน็ ระบบทีม่ ดี วงอาทติ ย์เปน็ ศนู ย์กลาง และมดี าวบริวารโคจรอยู่โดยรอบ คอื ดาวเคราะห์
แปดดวง คือ ดาวพธุ ดาวศกุ ร์ โลก ดาวองั คาร ดาวพฤหสั บดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส และดาวเนปจนู นอกจากนี้ระบบ
สรุ ยิ ะยังมีดวงจนั ทร์ที่เป็นดาวบริวารของดาวเคราะห์ ดาวเคราะหแ์ คระ ดาวเคราะห์น้อย ดาวหาง อกุ กาบาต และ
วตั ถุขนาดเลก็ อ่ืนๆ ซง่ึ ดาวพธุ คอื ดาวเคราะหท์ ี่มคี าบการโคจรรอบดวงอาทติ ยส์ ั้นทสี่ ดุ และดาวเนปจนู คือ ดาวที่
มคี าบการโคจรรอบดวงอาทติ ย์ยาวทส่ี ดุ

การขนึ้ และตกของดวงจันทรเ์ กิดจากดวงจนั ทร์หมุนรอบตัวเองในทิศทางทวนเขม็ นาฬิกาเชน่ เดยี วกับโลก
โดยท่ีดวงจนั ทร์ใชเ้ วลาการโคจรรอบโลกนานกว่าเวลาท่โี ลกหมนุ รอบตัวเอง ซ่งึ ดวงจนั ทร์ปรากฏข้นึ ทางด้าน
ทศิ ตะวันออกและตกทางด้านทิศตะวันตกหมนุ เวยี นเปน็ แบบรูปซ้ำ ๆ

ดวงจันทรท์ ่ีมองเห็นหรอื รปู ร่างปรากฏของดวงจนั ทรบ์ นท้องฟ้าแตกตา่ งกนั ไปในแตล่ ะวัน โดยบางวัน
ดวงจันทร์จะมรี ปู ร่างปรากฏเปน็ เสี้ยว เต็มดวง หรอื บางวันมองไมเ่ ห็นดวงจันทร์เลย การเปลี่ยนแปลงเชน่ นี้เป็น
แบบรปู ซ้ำกนั ทุกเดือน


Click to View FlipBook Version