หนังสือ e-book

1

ผลงานกวนี พิ นธไ์ ทย

“เวลาท่เี หลืออยู่”

ฟาติน
นางสาวอามารนี า เต๊ะหมดั

ทศศ.๖๔๒ เลขท่ี ๓๗

2

3

ผลงานกวนี พิ นธไ์ ทย

“เวลาท่เี หลืออยู่”

ฟาติน
นางสาวอามารนี า เต๊ะหมดั

ทศศ.๖๔๒ เลขท่ี ๓๗

4

ก

คำนำ

หนงั สอื ”ผลงาน กวีนพิ นธ์ไทย” หนังสือเล่มนีเ้ ปน็ หนงั สือท่ีจัดทำข้ึนเพ่อื จดุ ประสงค์รวบรวมขอ้ มูล
และผลงานของฉันในรายวชิ ากวนี ิพนธไ์ ทย

ฉันหวงั วา่ หลงั จากทไ่ี ดจ้ ดั ทำหนงั สือเล่มนส้ี ำเรจ็ จะทำใหท้ ุกคนที่ไดเ้ หน็ ผลงานของฉันและรู้จกั ใน
ตวั ตนฉันมากขนึ้

หนงั สอื เล่มนส้ี ำเรจ็ ลุลว่ งไดด้ ี ฉันขอขอบคุณอาจารยร์ ่งุ รัตน์ ทองสกุล ท่ีได้แนะนำแนวทางในการ
จดั ทำหนงั สือเล่มนเี้ ปน็ อยา่ งดี และทำงานได้ตามจดุ ประสงคท์ ีก่ ำหนดไว้

ฟาตนิ
อามารนี า เต๊ะหมัด
( ๒๒ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๕ )

ข

สารบัญ

เรอ่ื ง หน้า

คำนำ………………………………………………………………………………………………………………………………….ก
สารบัญ……………………………………………………………………………………………………………………………….ข

กลอนแนะนำตวั ………………………………………………………………………………………………………………….๑
กลอนแปด………………………………………………………………………………………………………………………….๒
กลอนเปล่า…………………………………………………………………………………………………………………………๓
โคลงส่ีสุภาพ……………………………………………………………………………………………………………………….๔
กาพย์ยานี ๑๑…………………………………………………………………………………………………………………….๕
กาพย์ฉบัง ๑๖…………………………………………………………………………………………………………………….๖
กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘………………………………………………………………………………………………………….๗
นริ าศ………………………………………………………………………………………………………………………………….๘
ร่าย…………………………………………………………………………………………………………………………………….๙
อนิ ทรวิเชยี รฉันท์๑๑……………………………………………………………………………………………………………๑๒
เพลงตนั หยง……………………………………………………………………………………………………………………….๑๓
เพลงสอนน้อง…………………………………………………………………………………………………………..…………๑๔
บทคร…ู …………………………………………………………………………………………………………………..………….๑๖
วิเคราะหส์ นุ ทรยี ศาสตร์…………………………………………………………………………………………..……………๑๙

๑

กลอนแนะนำตวั

ตัวเรามนี ามวา่ อามารีนา เด็กนราทช่ี ่ืนชอบการเรยี นรู้
เดก็ ผ้หู ญงิ ทีช่ อบการต่อสู้ จงึ เรียนรู้และหาประสบการณ์

ฟาตนิ
นางสาวอามารนี า เต๊ะหมดั

๒

กลอนแปด

เรือ่ ง : เสยี งบรรเลงยามราตรี

เสยี งดนตรีบรรเลงกล่อมดวงจติ คะนงึ คดิ หาเธอทีห่ ่างหาย
เคยร่วมร้องขบั ขานแนบเคียงกาย มาเดียวดายอย่างนอี้ ยู่ทกุ วนั
เสยี งดนตรีบรรเลงไปถงึ เธอ เมื่อไดเ้ จอก็ขบั ร้องอยา่ งสุขสันต์
ดังคราก่อนเราทั้งสองเคยมกี นั อยา่ ได้หวัน่ เม่ือเราสองต้องลาจาก

ฟาตนิ
( ๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๔ )

๓

กลอนเปลา่

เรือ่ ง : ทะเลยามเยน็

มองทะเลคราใดใจสดชื่น
ระเริงรน่ื ชนื่ บานสขุ หรรษา
น้ำซัดหาดสาดกระเซน็ เย็นอรุ า
สดุ ขอบฟ้ากวา้ งไกลใจรญั จวน

ฟาติน
( ๒๔ ธนั วาคม ๒๕๖๔ )

๔

โคลงสีส่ ุภาพ

เรอ่ื ง : กว่าจะรกั

คนรักเคยชดิ ใกล้ หว่ งใย
รกั แคค่ ลุมครอบได้ ทั่วเจ้า
เอิบอิ่มอุ่นอบใจ คงมน่ั
เคยี งครู่ กั คอยเฝา้ เป่ารอ้ น คลายเยน็
เกินใคร
โออ้ กอาภพั แท้ เหว่หว้า
มีร่ืนเรงิ ฤทยั หล่นลวง
น้ำตาหลง่ั รินไหล จึ่งตอ้ ง หมองตรม
อนาถจิตคิดยิ่งลา้
ฟาติน
( ๐๒ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๕ )

๕

กาพยย์ านี ๑๑

เร่ือง : ธรรมชาติที่งดงาม

ธรรมชาตแิ สนงดงาม ฟ้าสคี รามสวยสดใส
ฝงู นกโบยบินไป เหล่าต้นไม้โยกไปมา
เขียวสสี นั งามนกั หนา
พืชผลหลากหลายพันธ์ แสนโสภาเม่อื ไดช้ ม
สดชืน่ รื่นอุรา กิง่ ก้านมที ่ีสวยสม
ยามช่นื ชมย่งิ สำราญ
ดอกไมห้ ลากหลายสี
ดอกไม้ไกวตามลม

ฟาติน
( ๖ มกราคม ๒๕๖๕ )

๖

กาพยฉ์ บงั ๑๖

เร่อื ง : ความเดียวดาย

ชวี ิตในทอ้ งทะเล บางครั้งวา้ เหว่
ชา่ งมีแตค่ วามอ้างว้าง
จติ ใจปลอ่ ยวาง
แตม่ องในมมุ ทีก่ วา้ ง
เพ่ือให้ชวี ติ มสี ุข ไดเ้ จอความสุข

ปลดเปลือ้ งในเร่ืองที่ทุกข์ ฟาติน
สายนำ้ ลา้ งทางสวา่ งใจ ( ๗ มกราคม ๒๕๖๕ )

๗

กาพยส์ รุ างคนางค์ ๒๘

เรือ่ ง : เจา้ นกนอ้ ย

รงั เจ้านกน้อย ใบแห้งเป็นร้อย หลดุ ลอยเคลื่อนย้าย

นกนอ้ ยเคว้งคว้าง ไกลหา่ งจุดหมาย เจา้ นกเดียวดาย เคลอ่ื นย้ายซุกตัว

เจ้านกตัวนี้ แขง็ แรงได้ที จงึ บินไปท่วั

สุดฟ้าแดนไกล ไม่หวั่นหวาดกลวั คน้ หาดีชัว่ จดุ หมายปลายทาง

ฟาติน
( ๗ มกราคม ๒๕๖๕ )

๘

นิราศสามจงั หวดั นิราศถึง การท่องเท่ียว ในวนั ว่าง
บนเสน้ ทาง สายใต้ ปตั ตานี
ใจเตม็ ตืน่ ชนื่ ฉ่ำ ไม่อำพราง เตรยี มทุกอยา่ ง สำหรบั เท่ียว นอกพื้นท่ี
ตระเตรยี มของ จำเปน็ เช่นของว่าง ใจเปรมปรีดิ์ เปน็ กนั มาก เลยทีเดยี ว
คอื ยะลา นราธิวาส ปัตตานี แหล่งเรยี นรู้ มีมากมาย ให้ทอ่ งเท่ยี ว
อยา่ งตานี ทีข่ ึ้นช่ือ แหลง่ มลายู เสอ้ื สีเขยี ว ท่ีนดั ไว้ กันต้นทาง
วนั ถัดไป เดนิ ทางชม ลม้ิ กอเหนี่ยว ว่ิงเร็วดี จนลืมแวะ ซอ้ื ไก่ย่าง
หา้ โมงครง่ึ รถเคลอ่ื นออก จากตานี ทุกเสน้ ทาง ถอื ว่าโคตร ประทบั ใจ
การทอ่ งเทีย่ ว ครั้งน้ี ดว้ ยรถราง
สามวันลอ่ ง ส่วี นั ชม สุดน่าอวย ทะเลสวย พริว้ เสนห่ ์ มีมาให้
อวยพอควร จนถึงที่ นัดกันไว้ โอ๊ยดใี จ ถงึ กบั รอ้ ง วา่ สุดโฮ
ขา้ วเกรยี บทอด เป็นของดี เมืองนรา รสโอชา แสนอร่อย โคตรอยา่ งโก้
ถงึ ทพี่ ัก สายมอ ซอยบโู ด ทกุ คนโม้ จนมานี ต้องห้ามปราม
ฮ่าฮ่าฮา่ จนั นภา เผลอตกหลมุ เราท้ังกลุม่ ต่างหัวเราะ เพ่ือนซุ่มซา่ ม
มคี วามสขุ กบั ผองเพื่อน ในทุกยาม เลยเวลา กต็ าม ดำเนนิ ไป
ถึงวันพรุ่ง พาชม กนั ถ้วนหนา้ ถงึ ชายหาด บางนรา แสนสดใส
มองคลน่ื น้ำ ที่พดั ซดั มาไกล เพือ่ นสนกุ ทา่ มฟ้าใส ในหัววัน
แล้วเวลา ดำเนนิ เลยลาล่วง มาถงึ ช่วง พลบค่ำ ก็สงั สรรค์
ถนนคนเดนิ ชักชวน ไปเที่ยวกัน หาของกนิ อรอ่ ยนั้น ยามราตรี
วันถดั มา เรามแี พลน ไปมัสยดิ ท่เี ขาฮติ เข้าเยย่ี มชม กันตรงน้ี
ยงิ่ ได้ทราบ เรอื่ งราวของ สถานท่ี งดงามดี สสี วยสด ชา่ งแปลกตา
มรู ณถี าม ความยาวนาน ของมสั ยดิ เพราะเห็นคดิ ความสำคัญ กบั ศาสนา
ฟาตินตอบ เพราะรู้ ความเปน็ มา ถึงศรทั ธา มสั ยิด สามร้อยปี
ผา่ นสกั พัก ก็แวะเล่น นำ้ ปาโจ ถงึ กับโห งดงามเหลือ อุทยานน้ี
ลงเลน่ น้ำ อยา่ ซุ่มซา่ ม นะคนดี อาจจะมี สิ่งเลวร้าย นั้นตามมา

ออกเดนิ ทาง ก็แวะเข้า ร้านโรตี ๙
จึงตอ้ งรอ รับประทาน แม้จะช้า
มณู ีชวน แวะเขา้ ชม พิกลุ ทอง ร้านแบดี ตีแปง้ เกง่ หนักหนา
จนสดุ ทา้ ย ไดเ้ ขา้ ชม กลว้ ยตานี ถงึ เหนอ่ื ยลา้ ต้องอดทน เพ่อื โรตี
เท่ยี วพอควร สำหรับเมือง นราธิวาส แวะชมของ สิ่งเกา่ แก่ ทว่ั ทกุ ที่
ออกจากเมือง นราธวิ าส เดนิ ทางกนั ออกเป็นหวี ให้ล้ิมลอง รสชาติมัน
ยะลานี้ ท่ขี ึ้นชอื่ ทะเลหมอก เมืองสะอาด ทแ่ี สน สุดสรา้ งสรรค์
ได้ไม่นาน เมฆหมอก ก็อำลา อยา่ งมงุ่ มนั่ เพ่ือเข้าสู่ เมืองยะลา
สบิ เอด็ โมง ช่วงสายของวนั นี้ รวมไปถึง สกายวอลค์ งามนกั หนา
และความหวิ จงึ บังเกดิ เหมือนท้องโลง่ ขน้ึ ชือ่ ว่า ทะเลหมอก เมืองเบตง
เม่อื เข้ารา้ น อาหาร ต่างกส็ ่ัง ความร้อนฉี่ อึดอดั ใจ ไม่ปลอดโปร่ง
และแมค่ ้า ทน่ี ี่ กเ็ อาใจ แมท้ างโค้ง กม็ ิอาจ ขวางเราได้
เมื่อได้ชิม อาหารก็ อรอ่ ยดี มีตวั กัง้ และปู ทีส่ ดใหม่
มีโอเลี้ยง กาแฟ และน้ำชา ชวนชิมได้ ณ ร้าน กะ๊ มีรา
ระหว่างรอ ฟาตนิ ก็หงดุ หงิด ทัง้ กหุ ลี ขนมจนี นำ้ ยาปา่
เมือ่ อาหาร มาถึง กนิ อยา่ งชิว ทก่ี ล่าวมา ทั้งหมด ยงั รอควิ
เมื่อทานเสร็จ ทกุ คน กล็ ุกออก ไดแ้ ตค่ ิด วา่ เมอ่ื ไหร่ จะหายหิว
คงอีกหน่อย เพราะยังไม่ ถงึ เวลา เหมอื นไดฟ้ วิ บรรยากาศ จากปลายนา
เมอ่ื รถมา กร็ ีบว่งิ กนั อย่างไว มูณบี อก รอสักพกั รถอาจชา้
รีบเกินไป จนสะดุด เลยนัง่ ขำ เลยเดนิ หน้า ซือ้ ของฝาก ร้านคณุ อมั้
ไมเ่ ปน็ ไร เพราะไดเ้ ก็บ บรรยากาศ โอย๊ ดีใจ มที รปิ ต่อ ทีห่ น้าถ้ำ
เพราะเป็นชว่ ง เลิกงานของ เจ้าหน้าท่ี อาจถงึ ค่ำ เพราะเปน็ ช่วง เย็นพอดี
วนั รงุ่ ข้นึ ก็ต้งั ใจ มงุ่ กลับบ้าน เดนิ ทางอาจ ย่งุ ยาก เลยช่วงนี้
ต้งั ใจวา่ จะกลับบา้ น ดว้ ยรถราง แต่ยงั ดี พอมีคน คอยนำทาง
ถึงสถานี รถไฟ ท่โี คกโพธิ์ แวะหยุดรา้ น เพอื่ ลงซ้อื อาหารวา่ ง
พืน้ ทกี่ ว้าง และได้รบั ลมธรรมชาติ
ก็เดินโม้ ไปจนถึง หนา้ ตลาด

แวะหยุดพกั กินอาหาร บรรยากาศ ๑๐
อีกทห่ี นง่ึ ไม่ควรพลาด สวนบายใจ
แต่ยงั มี ลุงขายน้ำ ร้านนา่ ชม ท่ีสะอาด สะดุดตา น่าชืน่ ชม
แวะทพี่ กั สายมอ ซอยจาโร สุดทางไป อากาศร้อน ต้องพกรม่
เดนิ ซอ้ื ของ เจอไก่ยา่ ง กับขา้ วเหนยี ว เปน็ นำ้ ส้ม รสชาติ สดชนื่ เชยี ว
เดนิ เขา้ หอ บงั เอิญเจอ รา้ นชาชัก ห้องอย่างโก้ ราคาดี ไม่เสยี เทย่ี ว
จันอยากกิน ของเผด็ เผด็ เชน่ พวกยำ ตอ้ งฝนื เคีย้ ว เพราะเน้อื ไก่ ถกู อุ่นซำ้
เมอ่ื เสรจ็ สิน้ การชอ้ ป ของคืนนี้ พอ่ คา้ ทกั มาจากไหน ชวนซอ้ื นำ้
ทกุ คนย้มิ แห้งแหง้ เดินเข้าซอย จึงไปซื้อ ส้มตำ ร้านป้าจอย
สามจังหวัด ชายแดนใต้ ไมน่ า่ กลวั ตา่ งคดิ หนกั เพราะตวั พี่ เหลอื งบนอ้ ย
อยากเชิญชวน ให้ทกุ คน มาเยีย่ มเยือน หนา้ อยา่ งหงอย แต่สุขใจ เพราะมีเพอ่ื น
อยา่ ฟังมว่ั จากขา่ วลือ คำเถ่ือนเถอ่ื น
เทย่ี วกบั เพื่อน หรือครอบครัว สุขใจเอย

เดอะพาวเวอร์พฟั เกลิ
(๒๘ มกราคม ๒๕๖๕)

๑๑

รา่ ยยาว
เรื่อง : บญุ คุณพอ่ แม่

ลกู นี้รักพ่อแม่ทีส่ ดุ ในชีวติ มอบความคดิ ใหเ้ รียนรู้เปน็ ครูสอน เออื้ อาทรรกั เมตตาคุ้มครองภัย

ดูแลใหม้ ีความสุขสดใส รักจริงใจไม่เคยสนิ้ สุดตลอดกาลน้นั แล

ฟาตนิ
( ๐๕ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๕ )

๑๒

อนิ ทรวเิ ชียรฉนั ท๑์ ๑
เร่อื ง : บญุ คุณพอ่ แม่

พ่อแมป่ ระเสรฐิ นัก อรุ ะรัก บ่ เหมอื นใคร
รักแท้ประทับใจ มลิ ะหา่ งเสนห่ า
อภบิ าลเสมอมา
เพอื่ ลกู เจรญิ นาน กรุณาตลอดกาล
ส่ังสอนและเมตตา ก็เพราะรักมหาศาล
หฤทยั มเิ ปลีย่ นแปลง
อาทรประจกั ษ์นัก
เวลาจะเน่ินนาน ฟาตนิ
( ๑๓ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๕ )

๑๓

ตนั หยงบหุ งา

ตันหยง ตันหยง หยงไหรละน้อง หยงดอกบหุ งา
ตวั นอ้ งน้ันมาจากเมืองนรา ชวนเทย่ี วปลายนาอากาศดี
สะอาดเพลินตาของมากมี
ตัวเมืองนารา เชิญมาที่น่จี ังหวดั นรา
ชวนเท่ยี วปลายนาอากาศดี
ฟาติน
( ๑๔ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๕ )

๑๔

เพลงสระในภาษาไทย

( ทำนองเพลง : เพลงรถไฟบ๊อบ )
ศิลปนิ :ไมร่ ะบชุ ่ือ

ช่อง : Kids Tv Thailand

สระในภาษาไทย จงจำไวใ้ หด้ ี เสยี งยาว เสยี งสัน้ นนั้ มี หลงั จากน้ีตอ้ งจำ อะ อา อิ อี อึ อือ อุ อู นา่ ดู นา่ จำ เอะ
เอ แอะ แอ ต้องจำ แลว้ ต้อง โอะ โอ เอาะ ออ เออะ เออ เอยี ะ เอยี เอือะ เออื อวั ะ อัว ตอ่ ตวั นหี่ นอ ฤ ฤา ฦ
ฦา แล้วรอ ต่อทา้ ย อำ ไอ ใอ เอา

สาระการเรยี นรูภ้ าษา : เสยี งสระในภาษาไทยมี ๓๒ เสียง ดังนี้
อะ อา อิ อี อึ อื อุ อู เอะ เอ เเอะ เเอ เอียะ เอยี เอือะ เออื
อวั ะ อัว โอะ โอ เอาะ ออ เออะ เออ
อำ ใอ ไอ เอา ฤ ฤา ฦ ฦา
เม่อื เวลาออกเสยี งสระ เชน่ อะ อา เอะ เอ เอียะ เอีย จะออกเสยี งแตกต่างกนั บางตวั ออกเสยี งสัน้ บาง
ตวั ออกเสยี งยาว บางตัวเหมอื นมสี ระสองเสียงกลำ้ กัน ดงั น้ัน จงึ จดั แบ่งเสยี งสระเปน็ พวกใหญ่ ๆ ได้ 5 พวก
ด้วยกนั คอื
- สระเสียงสน้ั ได้แก่ สระที่ออกเสียงสั้น คือ อะ อิ อึ อุ เอะ แอะ โอะ เอาะ เออะ เอียะ เอือะ อัวะ ฤ ฦ อำ
ไอ ใอ เอา
- สระเสยี งยาว ได้แก่ สระที่ออกเสยี งยาว คือ อา อี อื อู เอ แอ โอ ออ เออ เอยี เอือ อัว ฤา ฦา
- สระเดยี่ ว ไดแ้ ก่ สระท่ีเปลง่ เสียงออกมาเป็นเสียงเดยี ว ไม่มีเสยี งอ่นื ประสมมี 18 ตัวได้แก่ อะ อา อิ อี อึ
อื อุ อู เอะ เอ แอะ แอ เออะ เออ โอะ โอ เอาะ ออ
- สระประสม คือ สระทมี่ ีเสยี งสระเดีย่ ว ๒ ตวั ประสมกัน มี ๖ ตัวไดแ้ ก่
๑. เอยี ะ เสียง อิ กบั อะ ประสมกัน
๒. เอีย เสียง อี กบั อา ประสมกนั
๓. เอือะ เสยี ง อึ กับ อะ ประสมกนั
๔. เอือ เสียง อื กับ อา ประสมกนั
๕. อัวะ เสียง อุ กบั อะ ประสมกัน

๑๕

๖. อัว เสยี ง อู กับ อา ประสมกนั
สระเกนิ คือ สระที่มีเสยี งซ้ำกับสระเดีย่ ว ตา่ งกันก็แต่วา่ สระเกินจะมีเสยี งพยัญชนะประสมหรอื สะกดอยู่

ดว้ ย มี ๘ ตวั ได้แก่
๑. ฤ ฤา ฦ ฦา (รึ รือ ลึ ลอื ) มีเสียงพยญั ชนะ ร ล ประสมอยู่
๒. อำ มเี สยี ง อะ และพยัญชนะ ม สะกด
๓. ใอ ไอ มีเสยี ง อะ และพยัญชนะ ย สะกด (คือ อัย)
๔. เอา มเี สยี ง อะ และพยัญชนะ ว สะกด

บางตำราถือว่าภาษาไทยมี ๒๑ เสยี ง ทง้ั นี้ คือไมร่ วมสระเกินซึ่งถือว่าเปน็ หนว่ ยเสยี งในตวั เองโดยสมบูรณ์
อยู่แล้ว และไมร่ วมสระประสมเสยี งสัน้ คอื เอียะ เออื ะ อัวะ เน่อื งจากมีที่ใช้ในภาษาไทยนอ้ ยมาก และส่วน
ใหญจ่ ะเป็นคำเลียนเสยี งธรรมชาตซิ ง่ึ ไม่ได้ใช้สื่อความหมายอน่ื

บรรณานกุ รม
กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ. (๒๕๔๖). หนังสือเรยี นสาระการเรยี นรู้พ้ืนฐาน กล่มุ สาระการเรียนรู้

ภาษาไทย สารัตถสัมพันธ์ เล่มที่ ๑ ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๑ ช่วงชน้ั ท่ี ๓ (ม.๑-ม.๓). (พิมพค์ รั้งท่ี ๑). กรุงเทพฯ:
โรงพมิ พ์ครุ ุสภา. กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ. (๒๕๔๔). หนงั สอื เรยี นภาษาไทย ท ๒๐๓ ท ๒๐๔ หลัก
ภาษาไทย เลม่ ๒. (พิมพ์คร้ังที่ ๑๖). กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พ์คุรุสภา. กรมวิชาการ กระทรวงศกึ ษาธิการ. (๒๕๔๔).
หนงั สอื เรียนภาษาไทย ท ๓๐๕ ท ๓๐๖ หลักภาษาไทย เลม่ ๓. (พมิ พ์ครงั้ ที่ ๑๔). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ครุ ุสภา.
ประวีณา มชี อบธรรม. (๒๕๔๔). ภาษาไทย (บังคบั ). (พิมพ์ครั้งท่ี ๑). กรุงเทพฯ: โรงพมิ พ์ศนู ยห์ นงั สือ
เมืองไทย. พรทิพย์ แฟงสุต. (๒๕๔๔). รวมหลักภาษาไทย ม.ต้น. กรุงเทพฯ: สำนกั พมิ พ์ฟสิ กิ สเ์ ซน็ เตอร์ ยศ
พนัสสรณ์. (๒๕๓๖). ภาษาไทย ม.ตน้ (ฉบับเตรยี มสอบ). กรงุ เทพฯ: บริษัท สำนักพิมพ์แม็ค จำกัด. วสุณี
รกั ษาจันทร.์ หลกั ภาษาไทย ม.๑. กรุงเทพฯ: บรษิ ทั สำนักพิมพเ์ ดอะบุคส์ จำกัด. พจนานกุ รม ฉบับ
ราชบณั ฑติ ยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ http://rirs3.royin.go.th/dictionary.asp ศูนยส์ ารสนเทศ
ราชบณั ฑิตยสถาน
https://www.kroobannok.com/1684

เดอะพาวเวอร์พัฟเกิรล์
( ๑๘ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๕ )

๑๖

บทครูในดวงใจ

โคลง

เรอื่ ง : ลิลิตพระลอ

ที่มา : หนังสือภาษาไทยวรรณคดแี ละวรรณกรรม ม.๕

จำใจจำจากเจ้า จำจร

จำนริ าศแรมสมร แม่ร้าง

เพราะเพือ่ จักไปรอน อริราศแลแม่

จำทุกขจ์ ำเทวษว้าง สวาทวา้ หว่นั ถวลิ

( ไม่ปรากฏผู้แต่ง )

จากบทประพันธ์เรื่องโคลงลิลติ พระลอ เป็นกลบทอักษร ใชอ้ กั ษรเสยี งเดียวกนั ในวรรคแรกและ
วรรคทส่ี องคือ ใชเ้ สยี ง จ

กลอน

เรื่อง : ขุนชา้ งขนุ แผน ตอน ขุนชา้ งถวายฎีกา

ที่มา : หนังสือภาษาไทยวรรณคดีและวรรณกรรม ม.๕

จดุ เทยี นสะกดข้าวสารปราย ภูตพรายโดดเรอื นสะเทือนผาง

สะเดาะดาลบานเปิดหนา้ ต่างกาง ยา่ งเท้าก้าวข้ึนรา้ นดอกไม้

หอมหวนอวลอบบุปผชาติ เบิกบานก้านกลาดกิ่งไสว

เรณูฟรู อ่ นขจรใจ ย่างเทา้ กา้ วไปไม่โครมคราม

( สุนทรภู่ )

จากบทประพันธข์ ้างต้นคือ สนุ ทรยี ศาสตรด์ ้านความหมาย คือคำวา่ สะเดาะกลอน หมายถงึ ทำ
ใหก้ ลอนประตูหลุดออกมาได้ด้วยคาถาอาคม

๑๗

กาพย์

เรอ่ื ง : กาพยเ์ ห่เรือ ตอน เห่ชมดอกไม้

ที่มา : หนังสือภาษาไทยวรรณคดีและวรรณกรรม ม.๕

ชมดวงพวงนางแย้ม บานแสลม้ แยม้ เกสร

คิดความยามบังอร แยม้ โอษฐย์ ม้ิ พริ้มพรายงาม

จำปาหนาแน่นเน่อื ง คลี่กลบี เหลอื งเรืองอรา่ ม

คิดคะนึงถงึ นงราม ผวิ เหลืองกว่าจำปาทอง

( เจ้าฟ้าธรรมธเิ บศ )

จากบทประพันธ์นเี้ ป็นการเปรียบเทยี บรอยย้ิมของนางอันเป็นทร่ี กั กบั ดอกนางแยม้ วา่ เม่ือเหน็
ดอกนางแย้มบานสะพรั่งงดงามก็นึกถึงยามได้เหน็ รอยยิ้มของนาง

ฉันท์

เรื่อง : สามคั คีเภทคำฉนั ท์

ท่ีมา : หนงั สอื ภาษาไทยวรรณคดแี ละวรรณกรรม ม.๕

สามยอดตลอดระยะระยบั วะวะวับสลบั พรรณ

ช่อฟา้ ตระการกลจะหยนั จะเยาะยว่ั ทิฆัมพร

บราลีพลิ าสศุภจรญู นภศูลประภสั สร

หางหงส์ผจงพจิ ิตรงอน ดุจกวกั นภาลัย

( นายชิต บุรทตั )

จากบทประพนั ธน์ ีม้ ีการเลน่ เสยี งสมั ผสั สระในบางวรรคคอื วรรคทห่ี นึ่งคำว่า ระ-ยะระ วรรคที่
สองเปน็ การซ้ำคำคือคำวา่ วะ-วะ และวรรคทสี่ ามคือคำว่า หงส์-ผจง

๑๘

ร่าย

เรอ่ื ง : อเิ หนา

ที่มา : หนงั สือภาษาไทยวรรณคดีและวรรณกรรม ม.๕

เมอ่ื นัน้ สงั คามาระตาแข็งขัน

เห็นพวกพลไพรตี ีประจัญ โยธาขยนั้ หยดุ ย้ัง

พระกริว้ โกรธนักดังอคั คี แกวง่ กระบขี่ ข่ี ับมา้ ทีน่ ่ัง

โรมรุกบุกไปแตล่ ำพัง ไล่หลงั พวกพลเขา้ รณรงค์

( ไมป่ รากฏผู้แต่ง )

จากบทประพันธ์ข้างตน้ คือ สนุ ทรียศาสตรด์ ้านความหมายคือคำว่า สังคา เพีย้ นมาจากคำว่า
สังขะ หมายถึง หอยทะเลชนิดหน่ึง เปน็ ของสูงใช้ในพธิ ีพราหมณ์หลายอย่างมา

๑๙

วิเคราะห์สุนทรียศาสตร์จากบทประพนั ธป์ ระเภทกวีนิพนธ์
เร่ือง : หัวใจหอ้ งที่หา้

ผแู้ ตง่ : องั คาร จันทาทิพย์

พโิ รธวาทัง คือ รสแหง่ ความโกรธเปน็ บทตดั พ้อ บทแสดงความโกรธแสดงความหงึ หวง ประชดประชัน
เปรียบเปรย เสียดสีด้วยแฝงอารมณร์ กั ระคนแค้น

หินโหดหฤหรรษาทงุ่ เหย้ี ม สงั หาร
เลอื ดหลั่งเลือดเน้ือลาญ แหลกสู้

บทประพันธเ์ ร่ืองนีแ้ สดงถึงความโกรธทแ่ี ฝงไปดว้ ยความแค้นและรอวนั ท่ีจะเอาคนื

เสาวรจนี คอื รสแหง่ ความงามเป็นชมโฉมหรือชมความงาม ซึ่งสว่ นใหญ่เปน็ การชมความงามของตวั
ละคร

สวยแสนผเี ส้ือขยบั ปีกสยาย
สะพดั แรงลมปลาย ปีกน้อย

บทประพนั ธ์นเี้ ป็นการชมความงามของผเี สือ้ ท่ีงามทกุ ส่วน เช่น มปี ีกอันน้อย ๆ ปีมสี ีเป็นสรี ้งุ เป็นตน้

อตพิ จน์ คือ การกลา่ วเกนิ จริง ทำให้ผูอ้ ่านรสู้ ึกซาบซึ้ง เกิดความรู้สึก เกิดจนิ ตนาการ

ลมหอบนำ้ ข้ามน้ำ ฝนคะนึง
เขาขีดเทือก ผานึง ผ่านข้าม

จากบทประพนั ธน์ ้เี ปน็ การใช้อติพจน์ คือ กล่าวเกนิ จรงิ วา่ ลมหอบนำ้ ขา้ มน้ำ

อปุ มา คือ การเปรยี บเทียบสง่ิ หน่งึ วา่ เหมือนกบั อีกส่ิงหนึง่ อุปมาจะใช้ควบคู่กบั อปุ ไมย ซง่ึ อุปไมยก็คือ
เนอ้ื ความท่ีต้องการเล่า เช่น เหมือน ราว ราวกบั เปน็ ต้น

แสนไกลเหมือนฟ้าสูงสายรุ้งสวย อันอาจเอ้ือมจบั ด้วยความฝนั ใฝ่
อาจแตกตา่ งความจริงของดวงใจ ตา่ งคน ต่างใคร ตา่ งไขวค่ ว้า

จากบทประพนั ธ์ข้างตน้ เปน็ การใชอ้ ุปมา คือ แสนไกลเหมือนฟา้ สูงสายรุง้ สวย

๒๐

ทมี่ า : หนงั สอื หัวใจห้องท่หี ้า

๒๑

๒๒