สลากภตั ผลไม้
มรดกภมู ปิ ญั ญาทางวฒั นธรรมจังหวัดนครปฐม
ประเพณีสลากภัตผลไม้เป็นประเพณีท่ีท�ำใน
ชว่ งฤดผู ลไม้ ราวเดอื น ๕ - ๗ (กำ� หนดวนั เวลาตามบรบิ ท
ท้องถิ่น) ชาวบ้านจะน�ำผลไม้แรกได้ ที่มีผลและขนาด
สวยงาม นำ� มาใสก่ ระจาดแลว้ ตดิ หมายเลข แลว้ ทำ� สลาก
ให้พระภิกษุในอารามจับสลาก หรืออาจท�ำไม้ติด
หมายเลขติดบนหยวกกล้วย วางหน้าพระแต่ละรูป
แล้วให้ชาวบ้านท่ีน�ำผลไม้ใส่กระจาดมาร่วมประเพณี
สลากภัตจับฉลาก โดยมากผลไม้ที่น�ำมาใช้ในประเพณี
สลากภัตของชาวอ�ำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
คือ มะม่วง จึงเรียกกันว่า “สลากภัตมะม่วง” ด้วย
สาระส�ำคัญของประเพณีสลากภัตคือเพ่ือให้ชาวบ้าน
ถวายสังฆทานแด่พระภิกษุโดยไม่เจาะจงรูปใดรูปหนึ่ง
ขณะเดียวกันก็เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชาวสวนท่ีน�ำ
ผลผลิตแรกได้มาถวายและอุทิศส่วนกุศลแด่บรรพบุรุษ
ท่เี คยปลูกไว้ หรอื เปน็ เจ้าของสวนเดมิ ทง้ั นี้ของทีน่ �ำมา
ร่วมในประเพณีสลากภัตน้ัน อาจมีผลไม้อ่ืน ๆ ได้ตาม
ความสะดวกและศรัทธาของพุทธศาสนิกชนท่ีมาร่วม
แต่พบว่าผลไม้ส่วนใหญ่ที่มีอยู่ประจ�ำทุกบ้านคือมะม่วง
จงึ นิยมน�ำมะมว่ งมาเป็นผลไม้หลักในประเพณสี ลากภัต
2 สลากภตั ผลไม้
สลากภตั ผลไม้
มรดกภมู ิปญั ญาทางวฒั นธรรม
มรดกภมู ปิ ัญญาทางวัฒนธรรมจงั หวดั นครปฐม 3
4 สลากภตั ผลไม้ ประเพณสี ลากภตั ผลไมว้ ดั สุวรรณาราม I ๒๙ เมษายน ๒๕๖๑
ประวตั คิ วามเป็นมา
ความเปน็ มาของประเพณีน้ีคอื สมัยคร้งั พุทธกาลได้เกิดทุพภิกขภยั ชาวบ้าน
หาอาหารมาถวายพระได้ยาก จึงกราบทูลพระพุทธเจ้าว่าหากมีอาหารจ�ำนวนน้อย
ไม่เพียงพอท่ีจะถวายอาหารแด่ภิกษุได้ครบทุกรูปจะถวายโดยให้ภิกษุจับสลากจะได ้
หรือไม่ พระพุทธเจ้าก็ทรงอนุญาต จึงเกิดมีประเพณีถวายอาหารแด่ภิกษุโดยวิธีการ
จับสลาก กรรมวิธีการจัดท�ำอาจต่างกันตามท้องถ่ิน ซ่ึงมิได้ก�ำหนดฤดูกาลก�ำหนด
ประเพณไี วช้ ดั เจนใหเ้ ปน็ ไปตามมตขิ องแตล่ ะทอ้ งถนิ่ ดงั ปรากฏความใน พทุ ธานญุ าตภตั ร
พระวินัยปฎิ ก เลม่ ที่ ๗ จุลวรรค ภาค ๒ ความวา่
[๓๒๔] ครง้ั นน้ั พระผมู้ พี ระภาคประทบั อยทู่ เ่ี มอื งอาฬวตี ามพระพทุ ธาภริ มย์ แลว้
เสด็จจาริกทางกรุงราชคฤห์ เสด็จจาริกโดยล�ำดับ ถึงกรุงราชคฤห์ทราบว่า พระองค์
ประทบั อยู่ณ พระเวฬวุ นั วหิ ารอนั เปน็ สถานทพี่ ระราชทานเหยอ่ื แกก่ ระแต เขตกรงุ ราชคฤห์
น้ัน ฯ
[๓๒๕] สมยั ตอ่ มา กรงุ ราชคฤหม์ ขี า้ วแพง ประชาชนไมส่ ามารถจะทำ� สงั ฆภตั ร แต่
ปรารถนาจะทำ� อทุ เทสภตั ร นมิ นั ตนภตั ร สลากภตั ร ปกั ขกิ ภตั ร อโุ ปสถกิ ภตั ร ปาฏปิ ทกิ ภตั ร
ภกิ ษทุ ง้ั หลายกราบทลู เรอื่ งนนั้ แดพ่ ระผมู้ พี ระภาค ๆ รบั สงั่ วา่ ดกู รภกิ ษทุ งั้ หลาย เราอนญุ าต
สงั ฆภตั ร อทุ เทสภตั ร นมิ นั ตนภตั ร สลากภตั ร ปกั ขกิ ภตั ร อโุ ปสถกิ ภตั ร ปาฏปิ ทกิ ภตั ร ฯ
มรดกภมู ปิ ญั ญาทางวัฒนธรรมจงั หวัดนครปฐม 5
พุทธานญุ าตใหส้ มมตภิ ตั ตุเทสก์
[๓๒๖] สมยั นัน้ พระฉพั พคั คยี ์รบั ภัตตาหารดี ๆ ไว้สำ� หรบั พวกตน ให้ภัตตาหาร
เลว ๆ แก่ภิกษุท้งั หลาย ภิกษุท้งั หลายกราบทลู เรอ่ื งน้นั แดพ่ ระผูม้ พี ระภาค ๆ รับส่งั ว่า
ดูกรภิกษทุ ้ังหลาย เราอนุญาตให้สมมตภิ กิ ษุที่ประกอบดว้ ยองค์ ๕ เปน็ ภัตตเุ ทสก์ คือ:-
๑. ไม่ถงึ ความลำ� เอยี งเพราะความชอบพอ
๒. ไม่ถงึ ความล�ำเอยี งเพราะความเกลียดชัง
๓. ไมถ่ งึ ความลำ� เอียงเพราะความงมงาย
๔. ไมถ่ ึงความลำ� เอยี งเพราะความกลวั และ
๕. รูจ้ กั ภตั รทแี่ จกแล้วและยังมิได้แจก ฯ
วิธสี มมติ
[๓๒๗] ดกู รภกิ ษทุ ง้ั หลาย กแ็ ล สงฆพ์ งึ สมมตอิ ยา่ งน้ี พงึ ขอรอ้ งภกิ ษกุ อ่ น ครน้ั แลว้
ภกิ ษผุ ฉู้ ลาด ผ้สู ามารถ พึงประกาศใหส้ งฆท์ ราบดว้ ยญัตติทุติยกรรมวาจา ว่าดงั นี:้ -
กรรมวาจาสมมติ
ท่านเจ้าขา้ ขอสงฆ์จงฟงั ข้าพเจ้า ถ้าความพร้อมพรง่ั ของสงฆ์ถึงท่แี ลว้ สงฆ์พึง
สมมตภิ ิกษุมีช่ือนีเ้ ปน็ ภตั ตเุ ทสก์ น้ีเป็นญัตติ
ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า สงฆ์สมมติภิกษุมีช่ือนี้เป็นภัตตุเทสก์ การ
สมมติภกิ ษมุ ชี ื่อนี้เป็นภัตตเุ ทสก์ ชอบแก่ท่านผใู้ ดท่านผูน้ นั้ พงึ เป็นผนู้ งิ่ ไมช่ อบแกท่ า่ น
ผูใ้ ด ทา่ นผู้นน้ั พึงพดู
ภิกษมุ ีชอื่ นี้ สงฆส์ มมตเิ ป็นภัตตเุ ทสก์แล้ว ชอบแกส่ งฆ์ เหตุน้นั จึงนง่ิ ข้าพเจา้
ทรงความน้ไี ว้ ด้วยอย่างน้ี ฯ
6 สลากภัตผลไม้
การต้งั สลากหนา้ พระภกิ ษุ แลว้ ให้ชาวบ้านจบั สลาก
วธิ แี จกภัตร
[๓๒๘] คร้ันนั้น พระภัตตุเทสก์มีความสงสัยว่า จะพึงแจกภัตรอย่างไรหนอ จึง
กราบทูลเรอื่ งนัน้ แด่พระผมู้ พี ระภาค ๆ รบั สงั่ ว่า ดกู รภิกษทุ งั้ หลาย เราอนุญาตให้เขยี น
ช่ือลงในสลากหรอื แผ่นผ้ารวมเข้าไว้ แลว้ จงึ แจกภัตร ฯ
ชอ่ื ประเพณสี ลากภตั ผลไมใ้ นประเทศไทยนั้น โดยท่ัวไปภาคกลางและภาคใต้
มกั เรียกเพียง ประเพณีสลากภัต สว่ นภาคเหนือเรียก ทานก๋วยสลาก ภาคอสี านเรยี ก
บุญข้าวสาก (สลาก) ในภาคกลางบางพื้นที่ท่ีปลูกผลไม้มักมีประเพณีสลากภัตผลไม้
บางแห่งที่มผี ลไม้บางชนดิ ทป่ี ลูกมากเป็นพิเศษในพ้นื ทมี่ กั ใช้ชือ่ ประเพณีสลากภัต แลว้
ตามดว้ ยชอื่ ผลไมช้ นดิ นนั้ ๆ ดงั เชน่ ทจี่ งั หวดั นนทบรุ ี และพน้ื ทฝี่ ง่ั ธนบรุ ี กรงุ เทพมหานคร
ทมี่ ปี ระเพณสี ลากภตั ทเุ รียน
มรดกภมู ปิ ญั ญาทางวฒั นธรรมจังหวัดนครปฐม 7
ใ น พ ร ะ ร า ช นิ พ น ธ ์ พ ร ะ ร า ช พิ ธี สิ บ ส อ ง เ ดื อ น
พระราชนพิ นธใ์ นพระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้
เจ้าอยหู่ วั ได้กล่าวถึงสลากภัตไวว้ ่า
๏ บัดนี้จะว่าด้วยการสลากภัตซึ่งเกิดข้ึนในรัชกาลที่ ๔ ข้าพเจ้าได้เคยจําได้ว่า
ได้ดูแห่สลากภัตไปวัดพระเชตุพน ท่ีพระที่น่ังสุทไธศวรรย์คร้ังหน่ึง มีกระบวน
เปน็ อนั มาก แตก่ ระบวนทง้ั ปวงนนั้ จาํ ไมไ่ ดห้ มดวา่ มอี ะไรบา้ ง ไปจาํ ไดอ้ ยสู่ องอยา่ ง
แต่ว่ามีสหัสเดชะขี่เกวียนตัวหน่ึง หัวโตสักเท่าตุ่มขนาดย่อม ๆ มีมือหลายมือ
ถอื อะไรตอ่ อะไรหลายอยา่ ง จาํ กไ็ มไ่ ดว้ า่ ถอื อะไรบา้ ง เหน็ แตเ่ วลาเกวยี นเดนิ แลว้
ส่ันหรก ๆ มาแต่ไกล ได้ต้ังตาดูแต่เหนือพลับพลา แล้วแลตามตลอดจนท้าย
พลับพลา อยู่ขา้ งจะชอบใจมากกว่าส่งิ อื่น อกี กระบวนหน่งึ นนั้ พเิ ภกคน ๆ เรา
แต่งเป็นโขน มลี ิงตามเป็นกองโต ถอื ผลไมต้ ่าง ๆ เขามีพิณพาทย์ตี พเิ ภกและ
ลิงนน้ั เตน้ ตามเพลงพิณพาทย์ออกสนกุ อีกอย่างหนึง่ ได้ดจู ําไว้ได้แตส่ องอยา่ ง
เทา่ นี้ จะไดม้ ปี ใี ดกไ็ มท่ ราบแน่ และไมไ่ วใ้ จตวั วา่ การทจี่ าํ ไวน้ นั้ จะถกู ตอ้ งหรอื ไม่
เที่ยวสอบถามใคร ๆ เขาดู เขาก็ว่ามีสลากภัตวัดพระเชตุพนจริง แต่จะมี
กระบวนเชน่ ข้าพเจา้ จาํ ไดห้ รอื ไมน่ ัน้ เขาไมท่ ราบหรือจําไมไ่ ด้ ก็ยงิ่ ออกหนกั ใจ
ขนึ้ กลวั วา่ จะไปเฟอื นเอาเลน่ โขนชกั รอกเมอ่ื พธิ นี ำ�้ ทพิ ยม์ าฝนั เหน็ ไปดอกกระมงั
แตย่ งั จาํ ไดแ้ นน่ อนนกั จงึ ไดค้ น้ ดจู ดหมายเหตเุ จา้ พระยาทพิ ากรวงศ์ กไ็ ดค้ วามวา่
8 สลากภตั ผลไม้
สลากภตั นน้ั ไดม้ เี มอื่ ปมี ะโรงอฐั ศก อายขุ า้ พเจา้ ไดส้ ามขวบเตม็ แตไ่ มม่ สี หสั เดชะ
ดังเช่นท่ีฝันเห็นไปน้ัน เป็นแต่พรรณนาความกว้าง ๆ ว่า “ของหลวงไปหน้า
แตง่ ละครขา้ งในหาบสลากภัตเป็นคู่ ๆ ถงึ ท่านท่ีตอ้ งเกณฑ์กค็ ิดทาํ ประกวดกัน
จดั หญงิ ศรี ษะจกุ และหญิงรนุ่ สาวมาตกแต่งให้นงุ่ ผ้ายกบา้ ง นงุ่ สงั เวียนบา้ ง ห่ม
เขม้ ขาบบา้ ง หาบสลากภตั เปน็ สแ่ี ถว แลว้ กม็ คี นถอื ส�ำรบั คาวหวาน เครอื่ งไทยทาน
เปน็ ขนมผลไมต้ ่าง ๆ ท่ีจะถวายพระสงฆ์ในสลากภัตนั้น ตามไปเบอื้ งหลังเปน็
อันมาก ลางแห่งก็แต่งเป็นละครยืนเคร่ืองและนางเป็นคู่ ๆ กันหาบสลากภัต
ลางแหง่ กแ็ ตง่ เปน็ ยกั ษบ์ า้ งลงิ บา้ ง ลางแหง่ กแ็ ตง่ เปน็ เสย้ี วกางแทงพสิ ยั ไปขา้ งหนา้
ลางแห่งก็แต่งเปน็ งิว้ รบกนั ลางแหง่ กแ็ ตง่ เปน็ นางต่างภาษา ทูนกระบุงสิ่งของ
เปน็ อนั มาก ลางแหง่ กจ็ ดั เปน็ รถและเกวยี นบรรทกุ สง่ิ ของเปน็ คู่ ๆ ลางแหง่ กจ็ ดั
เอาเดก็ ทรี่ นุ่ มาแตง่ ตวั ถอื ผลไมต้ า่ ง ๆ ไปเปน็ อนั มาก ตามแตป่ ญั ญาผใู้ ดจะเหน็ ดี
กท็ าํ ไป มพี ณิ พาทยจ์ นี พณิ พาทยไ์ ทยไปบนเกวยี นบา้ งทกุ ๆ กระบวน ตง้ั กระบวน
ทห่ี นา้ ประตูวเิ ศษชัยศรี ไปเล้ียวป้อมเผด็จดัสกร เดินกระบวนไปวัดพระเชตุพน
คิดกระบวนหน่ึงคนที่อย่างน้อยทั้งหญิงทั้งชายเพียงร้อยเศษ ที่อย่างมากก็ถึง
สองร้อยเศษ แต่ล้วนถือส่ิงของทั้งน้ัน พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
เสด็จขึ้นทอดพระเนตรอยู่บนพระหนึ่งสุทไธศวรรย์” ได้ความจากจดหมาย
เจา้ พระยาทพิ ากรวงศว์ า่ ดงั น้ี ไดค้ วามจากผอู้ นื่ คอื ทา้ วเจา้ จอมมารดาอมิ่ วา่ ตวั เอง
ไดแ้ ตง่ เปน็ คนแก่ คนหาบสลากภตั นนั้ ดวงคาํ เจา้ จอมมารดาหาบทอง จบี หาบถม
แวง้ หาบเงนิ ละครแตง่ เปน็ พราหมณ์ เปน็ ศรี ษะจกุ สวมเกย้ี ว ถอื ดอกไมธ้ ปู เทยี น
นอกนนั้ มลี ะครสวมชฎา เปน็ มนุษยบ์ ้าง ยกั ษบ์ ้าง ขี่มา้ เปน็ คู่ๆ และมีแต่งเปน็
จีนเดินแห่ด้วย น่ีเป็นกระบวนหลวง ได้ความจากผู้อื่นอีก ว่ากระบวน
พระบาทสมเดจ็ พระปน่ิ เกลา้ มแี คนใหญอ่ นั หนงึ่ วางบนลอ้ เลอ่ื นไป มลี าวขบั แคนเดนิ
แวดลอ้ มไปดว้ ย แลว้ จงึ มปี ราสาทผง้ึ ใหญห่ ลงั หนง่ึ วางบนลอ้ เลอื่ นลากไปเหมอื นกนั
ของสมเดจ็ เจา้ พระยาองคน์ อ้ ย มชี า้ งบรรทกุ ทเุ รยี น ของผอู้ น่ื กม็ เี ปน็ ละครบา้ งงวิ้ บา้ ง
มรดกภมู ปิ ัญญาทางวัฒนธรรมจังหวัดนครปฐม 9
อีกกระบวนหนึ่งไม่ทราบว่าของใคร มีทุเรียนประดับ เป็นทุเรียนผลใหญ่ข้ึน
ลอ้ เล่ือน ไดค้ วามเฉยี ด ๆ ไปอยา่ งนี้ แตเ่ รื่องสหัสเดชะของขา้ พเจา้ ยังไม่ไดย้ ิน
ใครเอย่ ถงึ เปน็ แตม่ สี ลากภตั ครง้ั หนงึ่ นน้ั นบั วา่ เปน็ ถกู แนม่ ใิ ชฝ่ นั แตก่ ระบวนนน้ั
บางทคี นอน่ื เขาจะชอบใจอยา่ งอน่ื แตข่ า้ พเจา้ เปน็ เดก็ โคมจะไปชอบใจโคมทเี่ ขา
ไมช่ อบกัน จึงไม่มใี ครจ�ำไว้หรอื อยา่ งไรกไ็ ม่ทราบ แต่สังเกตได้วา่ ถา้ เดก็ เชน่ น้นั
ไม่ชอบใจอย่างยิ่งแล้วไม่จําได้ ถ้าจ�ำได้แล้วไม่ลืมเลย สลากภัตวัดบวรนิเวศ
ซึ่งว่ากันว่ามีคร้ังหนึ่งก่อนหรือภายหลังวัดพระเชตุพน ข้าพเจ้าไม่ได้นึกวี่แวว
ไดเ้ ลยสักนิดเดยี ว ถามใครกด็ รู วม ๆ ไปหมดทั้งสิ้น
การสลากภัตท้ังสองคราว คือวัดพระเชตุพน และวัดบวรนิเวศต้องนับว่า
เป็นการจร สว่ นสลากภตั ทล่ี งเป็นการประจ�ำปนี ัน้ ท่ีวดั พระศรีรตั นศาสดาราม
เป็นการมีในเดือน ๗ แต่จะเปน็ ขึ้นแปดคำ่� หรือขน้ึ สบิ หา้ ค่ำ� จาํ ไมถ่ นัด คงอย่ใู น
วันพระ เป็นแต่สลากภัตของหลวงกับเจ้านายข้าราชการฝ่ายใน แห่ออกทาง
ประตรู าชส�ำราญ ผ่านหนา้ พระทน่ี ัง่ อนันตสมาคมไป เขา้ ประตูหนา้ พระอุโบสถ
ทอดพระเนตรท่ศี าลาบอกหนังสือ สลากภตั เช่นน้ี มีกระบวนแหเ่ ปน็ ผหู้ ญงิ ถอื
ธงชาย ๑๐ ธงตะขาบ ๑๐ มพี ณิ พาทยผ์ หู้ ญงิ ตสี ามหามสไี่ ปในระหวา่ งส�ำรบั หนง่ึ
ตอ่ ไปละครขม่ี า้ บางทกี อ็ ยา่ งละสองคู่ บางทกี อ็ ยา่ งละคู่ คอื ยนื เครอื่ ง พราหมณ์
ลงิ ยักษ์ ในระหว่างละครขีม่ ้านี้ มพี ณิ พาทย์อีกส�ำรบั หน่ึง ตอ่ นน้ั ไปเป็นละคร
เด็ก ๆ ถือดอกไมค้ ู่หนง่ึ ธปู คู่หนึ่ง เทยี นคหู่ น่งึ แต่แต่งตัวนน้ั ยกั เยอ้ื งกันไปเปน็
คราว ๆ บางคราวกแ็ ตง่ ศรี ษะจกุ ทงั้ หกคน บางคราวกแ็ ตง่ เปน็ พราหมณท์ งั้ หกคน
บางคราวกแ็ ตง่ เรยี กวา่ อยา่ งเจา้ หนมุ่ คอื แตง่ เปน็ ละครแตโ่ พกผา้ สที บั ทมิ ตดิ ขลบิ
ต่อนัน้ ลงมาเป็นหาบหลวง ทองหาบหนึ่ง เงนิ หาบหนึง่ กระเชา้ ท่หี าบนน้ั ใช้ไม้
เปน็ แปน้ หกเหลย่ี มปดิ ทองปดิ เงนิ รอ้ ยสายโซโ่ ยงขน้ึ ไปเปน็ สาแหรก ในสาแหรก
นั้น ต้ังพานทองพานเงินข้างหน่ึงเป็นกระทงข้าวเหนียว ข้างหนึ่งเป็นกระทง
สังขยา คนที่หาบแตง่ ตัวนุ่งยกบา้ งสงั เวียนบ้าง ห่มซบั ในแพร ห่มตาดชัน้ นอก
10 สลากภตั ผลไม้
ต่อไปจึงถึงงานกลางเชิญเครื่องโต๊ะเงินผูกถุง ท้ังคาวหวานและเคียง พวกงาน
กลางนงุ่ ผา้ ลาย นงุ่ หยี่ หม่ ซบั ในแพร ขนึ้ นอกอตั ลดั ดอกราย ตอ่ นน้ั ไปจงึ ถงึ หาบ
เจ้านายข้าราชการฝ่ายในเดินเป็นคู่ ๆ กระเช้าที่หาบทําเป็นกระทงเจิม เป็น
เคร่ืองข้ีรักปิดทองบ้าง เครื่องอังกฤษบ้าง ปลายคานที่หาบเป็นศีรษะนาค
หางนาค มีกระทงในกระเช้าทั้งสองข้าง มีซองพลูหมากธูปมัดเทียนมัดอยู่ใน
กระเชา้ แลว้ มธี งกระดาษปกั ฉลากหมายที่ ๑ ท่ี ๒ บอกชอ่ื เจา้ ของ สบงพาดศรี ษะ
คานผนื หนง่ึ คนท่หี าบน้ันแตง่ ตัวนุ่งสงั เวียนบา้ งยกบา้ ง ทเี่ ลว ๆ ลงไปยกไหม
ก็มี ห่มตาดเยียรบับเข้มขาบอัตลัด ตามแต่ผู้ใดจะมีและจะหาได้ จํานวนหาบ
มากและนอ้ ยตามจาํ นวนพระสงฆท์ มี่ าฉนั ปรกตเิ หน็ จะอยใู่ น ๓๐ รปู แตก่ อ่ น ๆ
มาใชท้ เุ รยี นทงั้ ผลกระเชา้ หนง่ึ กระทงขา้ วเหนียวกระเช้าหนึ่ง พึง่ จะมาเกิดกร้วิ
กันข้นึ เมือ่ งานสมโภชช้าง เหน็ จะเปน็ ครงั้ พระเศวตรสุวภาพรรณ ไปเหม็นตลบ
อบอวลขึ้นอย่างไรรับส่ังให้ไปทิ้งเสียทั้งสิ้น ภายหลังจึงได้กลายเป็นสังขยาบ้าง
ผลไม้ต่าง ๆ บา้ ง กระเชา้ หน่ึงบางทีก็มที ้งั สงั ขยาและผลไมด้ ว้ ย หาบหลวงและ
เครอื่ งโตะ๊ เงนิ นนั้ เปน็ ขา้ วพระทง้ั สองส�ำรบั นอกนน้ั กถ็ วายพระสงฆต์ ามที่ ๑ ท่ี ๒
เป็นล�ำดบั กนั เวลาทรงประเคนส�ำรบั ทรงประเคนกระเช้าสลากภัตดว้ ยทีเดียว
การเลีย้ งพระก็ไมแ่ ปลกประหลาดอนั ใด จืด ๆ เหมือนเลย้ี งขนมเบื้อง ถ้ามกี าร
สมโภชบ้าง กเ็ ลิกสสากภตั ตามธรรมเนียมเสีย ไปมีสลากภัตในการสมโภชช้าง
สามวัน พระสงฆ์มากออกไปเป็นร้อยแปดรูป ถ้าเช่นน้ันก็ต้องเกณฑ์เจ้านาย
เจ้าคุณ ทา้ วนาง เจ้าจอมมารดาใหม่ เจ้าจอมมารดาเก่า จนกวา่ จะพอ บางปี
กย็ กไปวัดราชประดษิ ฐ์ก็มี วัดราชบพธิ กม็ ี บางทกี เ็ ลยลมื ๆ ไปเสยี ไม่ไดท้ าํ ก็มี
แตใ่ นแผน่ ดนิ ปจั จบุ นั นี้ สลากภตั ตามธรรมเนยี มวดั พระศรรี ตั นศาสดารามไมไ่ ดม้ ี
มแี ตก่ ารสมโภชชา้ งและไปวดั ราชบพธิ เทา่ นน้ั จะวา่ เปน็ พระราชกศุ ลทเี่ ลกิ แลว้
ทเี ดยี วก็วา่ ไม่ได้ จะวา่ ยงั คงอยกู่ ว็ า่ ไมไ่ ด้ ขยับจะกลายไปเป็นการจร ๚
มรดกภมู ปิ ญั ญาทางวฒั นธรรมจังหวดั นครปฐม 11
สว่ นในอำ� เภอพทุ ธมณฑล จงั หวดั นครปฐมนยิ มปลกู มะมว่ ง รวมถงึ ผลไมอ้ น่ื ๆ
แต่พบว่าบริเวณริมแม่น�้ำและคลองต่าง ๆ มักถูกอุทกภัยอยู่บ่อยคร้ัง ท�ำให้ต้นผลไม ้
ตา่ ง ๆ ตาย แตต่ น้ มะมว่ งรอดจากอทุ กภยั จงึ ทำ� ใหเ้ ปน็ ตน้ ไมท้ มี่ ตี ดิ ประจำ� บา้ นทกุ บา้ น โดยมี
หลากหลายสายพนั ธ์ุ เช่น มะม่วงแก้มแหมม่ มะมว่ งทุเรยี น มะม่วงน�้ำดอกไม้ มะมว่ ง
มันขุนศรี มะม่วงอินทรชิต มะม่วงมันศาลายา มะม่วงหนังกลางวัน มะม่วงขาวนิยม
มะมว่ งพราหมณข์ ายเมยี นอกจากนย้ี งั อาจมขี นนุ กลว้ ย และผลไมอ้ นื่ ๆ ตามแตจ่ ะปลกู
บา้ นทม่ี อี าชพี ทำ� สวนมะมว่ งมกั ปลกู ในสวนทยี่ กรอ่ ง สว่ นบา้ นชาวนามกั ปลกู ไวใ้ กลบ้ า้ น
เพอื่ ใหร้ ม่ รื่น ส่วนท่นี ามักปลูกมะม่วงไว้ตามโคกคันนา เพอื่ ใหร้ ่มและเก็บผลไว้กิน
มะมว่ งพนื้ บา้ นในชุมชนคลองมหาสวัสดิ์ ใกล้วดั สุวรรณาราม
ในภาพได้แก่ มะมว่ งเขยี วเสวย มนั ขุนศรี และศรีสยาม
12 สลากภัตผลไม้
ประเพณีสลากภัตผลไม้ หรือ สลากภัตมะม่วง เป็นประเพณีที่จัดอยู ่
ในประเพณี ๑๒ เดือน ในวันพระชว่ งราวเดอื น ๕ - ๗ หรอื ตามแต่มตขิ องท้องถิน่ น้ัน ๆ
เป็นประเพณีของกลุ่มชน โดยมากมักเป็นฤดูผลไม้เพ่ือน�ำผลไม้ท่ีออกผลมาร่วม
ในประเพณีสลากภัตผลไม้ เม่ือกำ� หนดวันแล้ววดั จะประชาสัมพันธเ์ พือ่ แจ้งให้ชาวบา้ น
ไดท้ ราบ แล้วชาวบ้านจะคดั เลือกมะม่วง และผลไมอ้ ื่นๆ ท่มี ใี นสวนหรือทบี่ ้าน ทม่ี ผี ิว
ขนาด และลกั ษณะดไี ว้ แลว้ หอ่ กนั สตั วต์ า่ งๆ มากนิ เมอ่ื ถงึ วนั จงึ นำ� มาใสก่ ระจาด กระเชา้
ตะกร้า หรือชะลอม นำ� มาที่วัด
ประเพณีสลากภัตผลไม้จะจัดที่วัด เมื่อถึงวันที่ก�ำหนดชาวบ้านจะน�ำผลไม้
ทเี่ ตรยี มมาใสก่ ระจาดหรอื ภาชนะอน่ื ๆ มาทว่ี ดั โดยมะมว่ งทน่ี ำ� มาสว่ นมากเปน็ มะมว่ งสกุ
เชน่ อกรอ่ ง นำ้� ดอกไม้ แกว้ ลมื รงั พรอ้ มกบั นำ� ขา้ วเหนยี วมนู มาถวาย อาจมมี ะมว่ งดบิ บา้ ง
คือพวกมะมว่ งมัน เช่น มันขุนศรี เขยี วเสวย ส่วนผลไม้อน่ื ๆ เช่น ขนุนเหลอื งบางเตย
กลว้ ยตา่ ง ๆ เมอ่ื มาถงึ วดั แลว้ ชาวบา้ นจะนำ� มา “อวด” ผลไมบ้ า้ นของตน รวมถงึ การสนทนา
เพอ่ื แลกเปล่ียนสายพันธท์ุ ่ตี นไม่มี
ชาวบ้านมาร่วมประเพณสี ลากภัตผลไม้ ณ วัดสวุ รรณาราม
มรดกภมู ิปัญญาทางวฒั นธรรมจงั หวัดนครปฐม 13
เม่ือใกล้เวลาประกอบพิธีชาวบ้านและกรรมการวัดที่มีหน้าที่ในการจัดการ
จะทำ� สลาก โดยทำ� ได้ ๒ วิธี คอื
๑. ตดิ สลากท่กี ระจาดผลไม้ แลว้ ให้พระเป็นผูจ้ บั สลาก หรือ
๒. ติดสลากท่ีไม้ปักบนหยวกกล้วย วางไว้ด้านหน้าพระ แล้วให้ชาวบ้าน
เปน็ ผู้จบั สลาก
กอ่ นท่ีจะมีการจับสลาก จะมพี ระธรรมเทศนาอย่างน้อย ๑ กณั ฑ์ ตอ่ จากนั้น
จงึ จบั สลาก กลา่ วคำ� ถวายสลากภตั รและยกของประเคนตามสลาก เมอื่ เสรจ็ แลว้ พระสงฆ์
กจ็ ะอนโุ มทนาและใหพ้ ร เจา้ ภาพกรวดนำ้� อทุ ศิ สว่ นกศุ ลใหแ้ กญ่ าตผิ ทู้ ลี่ ว่ งลบั ไปแลว้ เปน็
อนั เสร็จพธิ ี
การเทศนก์ ่อนจบั สลากภัต ณ วดั สวุ รรณาราม
14 สลากภตั ผลไม้
คำ� ถวายสลากภตั ต์
.เอตานิ มะยัง ภนั เต สะลากะภตั ตานิ สะปะรวิ ารานิ อะสกุ ัฏฐาเนฐะปิตานิ
ภิกขสุ งั ฆะสะ โอโณชะยามะ สาธุ โน ภันเต ภิกขุสังโฆ
เอตานิ สะลากะภัตตานิ สะปะริวารานิ ปะฏคิ คัณหาตุ อมั หากังเจวะ มาตาปติ ุ
อาทีนัญจะ ญาตะกานัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ อาสะวักขะยาวะหัง
นพิ านะปจั จัยโยโหตุ
ค�ำแปล
ขา้ แตพ่ ระสงฆผ์ เู้ จรญิ ขา้ พเจา้ ทง้ั หลาย ขอนอ้ มถวาย ซงึ่ สลากภตั และ
ของอันเป็นบริวารทั้งหลายเหล่านี้ อันตั้งไว้แล้วในที่โน้น แด่พระภิกษุสงฆ ์
ขอพระภกิ ษสุ งฆโ์ ปรดรบั ซง่ึ สลากภตั กบั ทงั้ ของอนั เปน็ บรวิ ารทงั้ หลายเหลา่ นน้ั
ของข้าพเจ้าท้ังหลาย เพื่อประโยชน์ เพ่ือความสุข แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายด้วย
แดญ่ าตทิ งั้ หลาย อนั มมี ารดาบดิ าเปน็ ตน้ ดว้ ย และเปน็ ปจั จยั ใหข้ า้ พเจา้ ทง้ั หลาย
สนิ้ อาสวะทง้ั ปวงจนถงึ ซ่งึ พระนิพพาน ดว้ ย เทอญ ฯ
มธี รรมเนยี มวา่ เมอื่ พระ หรอื ชาวบา้ น จบั สลากไดข้ องผใู้ ด เจา้ ภาพทน่ี ำ� ของมา
ไมค่ วรแสดงความยนิ ดยี นิ รา้ ยในผรู้ บั เพอ่ื แสดงใหเ้ หน็ วา่ ตนมไิ ดเ้ จาะจงถวายพระรปู หนง่ึ รปู ใด
โดยจำ� เพาะ ซงึ่ สอดคลอ้ งกบั สาระสำ� คญั ของประเพณสี ลากภตั คอื เพอ่ื ใหช้ าวบา้ นถวาย
สังฆทานแด่พระภิกษุโดยไม่เจาะจง ไม่ยึดติด เนื่องจากโดยปกติอาจมุ่งสงเคราะห์
พระผ้ใู หญ่ เจ้าอาวาส พระทีเ่ ป็นญาติ เป็นตน้
มรดกภมู ปิ ัญญาทางวัฒนธรรมจังหวัดนครปฐม 15
มีความเช่ือว่าหากน�ำผลไม้มาร่วมประเพณีสลากภัตผลไม้แล้วจะเกิด
ความเปน็ สริ มิ งคลแกช่ าวสวนทน่ี ำ� ผลผลติ แรกไดม้ าถวายและอทุ ศิ สว่ นกศุ ลแดบ่ รรพบรุ ษุ
ที่เคยปลูกไว้ หรือเป็นเจ้าของสวนเดิม เป็นการก�ำจัดกิเลสชนิดหน่ึงเรียกว่าอคติได้
นอกจากนย้ี งั มีต�ำนานท่กี ล่าวถึง อานสิ งส์สลากภัตต์ ด้วย
เนอื้ หากลา่ ววา่ ในอดตี กาลลว่ งมาแลว้ มพี ระพทุ ธเจา้ พระองคห์ นงึ่ ทรงพระนามวา่
ปทุมมุตตระ อาศัยอยู่ในกรุงสาวัตถีนครเป็นที่โคจรบิณฑบาต มีสามีภรรยาคู่หนึ่ง
เป็นคนยากจนอนาถาอยู่ในพระนครนั้น แสวงหาเล้ียงชีพด้วยการรับจ้างหาฟืนขาย
อยู่มาวันหน่ึงบุรุษผู้สามีพิจารณาดูการเลี้ยงชีพท่ีฝืดเคืองนักก็เนื่องมาจากตนมิได ้
บำ� เพญ็ กองการกศุ ลมกี ารใหท้ านรกั ษาศลี สดบั รบั ฟงั พระธรรมเทศนาและเจรญิ เมตตาภาวนา
เป็นต้น ในชาติปางก่อนอย่างแน่นอน มาในชาติน้ีจึงเป็นคนเข็ญใจไร้ทรัพย์อับปัญญา
เมื่อมาพิจารณาดังนี้แล้ว จิตใจก็อยากจะท�ำบุญให้ทานเพื่อจะได้เป็นนิธิขุมทรัพย์
เป็นเสบียงไปในปรภพเบื้องหน้า จึงปรึกษากับภรรยาของตนตามท่ีเจตนาด�ำริไว้นั้น
ฝ่ายภรรยาก็คล้อยตามไปด้วยความยินดี รีบจัดแจงหาเคร่ืองไทยทานท�ำตามสมควร
แกก่ �ำลังของตน แล้วนำ� ไปสูอ่ ารามท�ำเปน็ สลากภัตพรอ้ มกับมหาชนทง้ั หลาย
สามีภรรยาคู่น้ันจับสลากถูกภิกษุรูปหน่ึงจึงน้อมเข้าไปถวายด้วยความปีต ิ
แลว้ ตง้ั ความปรารถนาวา่ เดชะบญุ กศุ ลผลทานน้ี ขอใหข้ า้ พเจา้ บรบิ รู ณด์ ว้ ยยศศกั ดส์ิ มบตั ิ
บริวาร ข้ึนช่ือว่าความตกทุกข์ได้ยากเข็ญใจเหมือนในชาตินี้ อย่าได้พึงมีแก่ข้าพเจ้า
ในภพต่อ ๆ ไปเลย สามีภรรยาคู่น้ันอยู่ต่อมาจนส้ินอายุขัยท�ำกาลกิริยาตายไปแล้วก็
อบุ ตั ใิ นดาวดึงส์สวรรค์สิ้นบญุ แลว้ ก็มาเกิดเปน็ พระเจ้าศรทั ธาตสิ สะ ณ เมอื งพาราณสี
พระเจ้าศรัทธาติสสะนั้นครั้นกลับชาติมาก็คือพระตถาคตน้ีเอง เมื่อส้ินกระแส
พระธรรมเทศนาแลว้ เหล่าพทุ ธบรษิ ัททัง้ หลาย มพี ระเจ้าปัสเสนทิโกศลเปน็ ต้น ก็ชน่ื ชม
ผลทานในการถวายสลากภัตเป็นย่ิงนกั
16 สลากภตั ผลไม้
ภาคผนวก
๑. เอกสารอา้ งองิ
กรมศิลปากร. (๒๕๐๗). ประเพณเี ก่ียวกับชวี ติ . กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร.
จุลจอมเกลา้ เจา้ อย่หู ัว, พระบาทสมเดจ็ พระ. (๒๕๖๐). พระราชพธิ ีสิบสองเดอื น. กรุงเทพฯ :
ไทยควอลิตี้บุ๊คส.์
ฉวงี าม มาเจรญิ . (๒๕๕๘). อาหารท่ีเกี่ยวกับความเชื่อและพธิ กี รรมท่เี กยี่ วเนอื่ ง. กรงุ เทพฯ :
กรมศิลปากร.
บญุ มี แทน่ แกว้ . (๒๕๔๗). ประเพณีและพิธกี รรมพระพุทธศาสนา. กรงุ เทพฯ : โอเดยี นสโตร์.
เบญจมาส แพทอง. (๒๕๕๐). นามานุกรมขนบประเพณีไทย หมวดประเพณีราษฎร์ เลม่ ๒ :
(ประเพณี เทศกาลและวันส�ำคัญทางพุทธศาสนา). กรงุ เทพฯ : กรมศิลปากร.
พระไตรปิฎก เล่มท่ี ๗ พระวินัยปฎิ ก เล่มท่ี ๗ จุลวรรค ภาค ๒. (๒๕๒๕). กรุงเทพฯ :
กรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธกิ าร.
เสฐียรโกเศศ. (๒๕๐๖). ประเพณีเน่ืองในเทศกาล. พระนคร : ส�ำนกั พิมพ์สมาคมสังคมศาสตร์-
แหง่ ประเทศไทย.
๒. บุคคลอ้างองิ
๑)พระปลดั ศลิ าธมั มธโี ร(เจา้ อาวาสวดั สวุ รรณราราม)อายุ๔๘ปีต.ศาลายาอ.พทุ ธมณฑลจ.นครปฐม
๒) นางบำ� รงุ พนิ จิ กลุ (อบุ าสกิ าวดั สวุ รรณาราม) อายุ ๗๘ ปี ต.มหาสวสั ด์ิ อ.พทุ ธมณฑล จ.นครปฐม
๓)นางสาวจงดีเศรษฐอำ� นวย(อบุ าสกิ าวดั สวุ รรณาราม)อายุ๖๕ปีต.ศาลายาอ.พทุ ธมณฑลจ.นครปฐม
๔) นางเลก็ สทุ ธารามงคล (อบุ าสกิ าวดั มะเกลอื ) อายุ ๙๔ ปี ต.คลองโยง อ.พทุ ธมณฑล จ.นครปฐม
๕) นางยพุ นิ ศรนี ลิ พณิ (อบุ าสกิ าวดั มะเกลอื ) อายุ ๖๕ ปี ต.คลองโยง อ.พทุ ธมณฑล จ.นครปฐม
๖) นางพมิ พ์ อาจหยดุ (อบุ าสกิ าวดั มะเกลอื ) อายุ ๗๓ ปี ต.คลองโยง อ.พทุ ธมณฑล จ.นครปฐม
๗) นางสาวแสวง วฒั โน (อบุ าสกิ าวดั มะเกลอื ) อายุ ๖๕ ปี ต.คลองโยง อ.พทุ ธมณฑล จ.นครปฐม
๘) นางวลี สวดมาลยั (อบุ าสกิ าวดั มะเกลอื ) อายุ ๖๗ ปี ต.คลองโยง อ.พทุ ธมณฑล จ.นครปฐม
มรดกภมู ปิ ญั ญาทางวัฒนธรรมจงั หวดั นครปฐม 17
สลากภตั ผลไม้ มรดกภูมปิ ญั ญาทางวฒั นธรรมจงั หวัดนครปฐม
ผู้จัดท�ำ สภาวัฒนธรรมจังหวัดนครปฐม
ปที จ่ี ดั ทำ� พ.ศ. ๒๕๖๕
คณะผจู้ ดั ทำ� ประธานสภาวฒั นธรรมจังหวัดนครปฐม
ที่ปรึกษา วฒั นธรรมจังหวัดนครปฐม
นายสนุ ทร แก้วพจิ ิตร คณะศิลปศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยมหดิ ล
นางฐิติรตั น์ เรอื งสงั ข์ เจ้าหนา้ ท่ีมรดกภมู ปิ ัญญาทางวัฒนธรรม
Graphic design
ผูเ้ รยี บเรยี งข้อมูล นักวิชาการวฒั นธรรมช�ำนาญการพเิ ศษ
ผศ.ดร.อภลิ กั ษณ ์ เกษมผลกูล นกั วิชาการวฒั นธรรมชำ� นาญการ
นกั วชิ าการวฒั นธรรมชำ� นาญการ
ผจู้ ดั ทำ� นักวิชาการวัฒนธรรมชำ� นาญการ
นางสาวดวงฤทยั เนยี มประพันธ ์ นักวชิ าการวฒั นธรรมชำ� นาญการ
นางสาวพรทิพย ์ ชูสวุ รรณ นักวชิ าการวฒั นธรรมปฏิบตั กิ าร
นกั วชิ าการวัฒนธรรมปฏิบตั กิ าร
คณะท�ำงาน นกั วิชาการวฒั นธรรม
นางสาวอรพร คมั ภีรศาสตร ์ เจ้าหน้าทมี่ รดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม
นางลินดา ภถู ุ พนกั งานสภาวฒั นธรรมจงั หวดั
นางสาวชนดิ า พรหมผลนิ
นางสาวศนษิ า ไพบลู ยอ์ ตั ถกิจ
นายศรญั ล้มิ สกุล
นางสาวรัฐพร พวงบปุ ผา
นายวายุ สวา่ งจติ ต์
นายสธุ ี รุ่งรัตนพงษ์พร
นางสาวดวงฤทัย เนียมประพันธ ์
นางสาวอคั รมิ า ภถู ุ
โดยการสนับสนุนงบประมาณจากกรมสง่ เสรมิ วัฒนธรรม กระทรวงวฒั นธรรม
18 สลากภัตผลไม้