แบบฝกึ ทกั ษะ การปฏบิ ัตกิ ารแพทยฉ์ กุ เฉิน
สาหรับการฝกึ อบรมปฏิบตั กิ ารแพทย์ขัน้ พนื้ ฐานและชว่ ยปฏิบตั กิ ารแพทยข์ ้นั สงู
แบบฝึกทักษะเร่ือง การใส่อุปกรณ์ปูองกันตนเอง สาหรับ พฉพ.
ชอ่ื -นามสกลุ ……………………………………………………………………………………..หนว่ ยงาน……………………………………………..วันที่…………………………………………
คาช้ีแจง กรณุ าทาเครื่องหมาย ในช่องผลการฝกึ ปฏิบัติ
ลาดบั กจิ กรรม ผลการฝกึ ปฏบิ ตั ิ ไม่
ปฏิบตั ไิ ด้ ปฏิบตั ไิ ด้ ปฏบิ ตั ิ
1 บอกวตั ถุประสงคข์ องการปฏิบัติ / เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม / เลือกขนาดให้เหมาะสมกับตนเอง ถกู ตอ้ ง ไมค่ รบถว้ น
การสวมหมวก และ ผูกผ้าปิดปากและจมูก (Mask Disposable) ครบถว้ น
ขน้ั ตอนการใส่
2 หยบิ หมวกใส่โดยใช้มอื 2 ขา้ งสอดเขา้ ไปในหมวกกางน้วิ มือ ทัง้ สองขา้ งออก สวมหมวกลงบนศีรษะ
ขยับหมวกใหก้ ระชับ เกบ็ ผมเขา้ ไปในหมวกให้มิดชิด
3 หยิบผ้าปิดปากและจมูก จากกล่องที่ใส่ไว้ จบั ท่ีหว่ ง 2 ข้างคลอ้ งหู 2 ข้าง เอาสเี ข้มออกดา้ นนอก
4 คลี่ผา้ ปดิ ปากและจมกู ออก วางแนบให้คลุมทั้งปากจมกู ใหแ้ ถบลวดอยู่ด้านบนแนบกับสันจมกู
5 ดึงหน้ากากขอบล่างให้คลุมคางถงึ ใต้คาง
6 กรณที สี่ วมแว่นตา ขอบของแว่นตาด้านล่างทับอยบู่ นสว่ นบนของผ้าปิดปากและจมูก
ขั้นตอนการถอด
7 ถอดหมวก โดยใช้มือทัง้ 2 สอดเข้าไปใต้หมวกบรเิ วณขา้ งหูทัง้ 2 ขา้ ง กางนว้ิ ออกให้หมวกยืดขยายแล้ว
ยกหมวกใหพ้ ้นศีรษะ
8 กลับด้านนอกของหมวกพบั เกบ็ เข้าด้านใน แล้วท้งิ ใส่ภาชนะ/ถังขยะติดเช้ือ ท่ีเตรยี มไว้
9 ถอด Mask โดยจบั ทห่ี ่วง 2 ข้าง พร้อมกับดงึ Mask ออกจากปากและจมกู
10 พบั ดา้ นนอกของMask เขา้ หากัน แล้วทงิ้ ใสภ่ าชนะ/ถงั ขยะติดเช้อื ทีเ่ ตรยี มไว้
การสวมถุงมอื Disposable
ขน้ั ตอนการใสถ่ ุงมือ
11 หยบิ ถงุ มอื ออกจากภาชนะ/กลอ่ งท่ใี ส่ไว้ ดงึ ออกโดยไมใ่ ห้สัมผัสกับส่งิ ใด
12 มือซา้ ยถอื ขอบถงุ มอื ขวาไว้ เหยยี ดมอื ขวาให้ตรงแล้วสอดนว้ิ เขา้ ไปในถงุ มอื ให้นว้ิ มือทุกนวิ้ อยูใ่ นตาแหนง่
ท่ีถูกตอ้ ง
13 ใชม้ ือขวาท่ใี ส่ถุงมือเรยี บร้อย หยบิ ถุงมือข้างซา้ ยออกมา ถอื ขอบถุงมือซ้ายไว้
14 สวมถุงมอื ด้านซา้ ย โดยเหยียดมอื ซ้ายใหต้ รงแล้วสอดน้วิ เขา้ ไปในถงุ มอื
15 ใช้ทั้ง 2 มอื ช่วยกันขยับนว้ิ มือที่ยังไม่กระชบั กบั ถุงมือทง้ั สองขา้ ง ใหก้ ระชบั และพรอ้ มทจ่ี ะปฏบิ ัติงาน
ขั้นตอนการถอดถุงมอื
16 ถอดถุงมือทีละข้าง โดยใชม้ อื ขวาดงึ ด้านนอกของถงุ มอื ขา้ งซา้ ยออกจนพ้นปลายน้วิ
17 ใช้มอื ซา้ ยสอดเข้าไปในถุงมือขวา ระวังไม่ให้มือสัมผัสดา้ นนอก ดึงถุงมอื ขวาออกจนพ้นปลายน้ิว
18 จับดา้ นในของถุงมอื ทง้ั 2 ข้าง ท้ิงใส่ภาชนะ/ถงั ขยะติดเชอื้ ท่เี ตรียมไว้
19 ลาดบั การใส่และการถอดอุปกรณ์ PPE แต่ละชนิดถกู ต้อง (ตามโจทย์ท่อี าจารยก์ าหนด)
ข้อคดิ เห็นโดยภาพรวมของอาจารยเ์ กีย่ วกบั ผลการฝึกปฏบิ ัติ
ปฏิบัติได้ถกู ต้องในทกุ ข้ันตอน
ปฏบิ ตั ิได้ไม่ครบถว้ นทกุ ขน้ั ตอนหรอื ไมไ่ ด้ปฏิบัติ ต้องฝึกปฏบิ ัติเพ่ิมเติม (ระบกุ ารปฏบิ ัตทิ ่ีตอ้ งฝกึ เพม่ิ เติม)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….……
ลงช่ือ ……………………………………………อาจารยผ์ ้ปู ระเมิน
แบบฝึกทักษะเรอื่ ง การประเมนิ สญั ญาณชพี (VITAL SIGNS)
ชื่อ-สกลุ ผูเ้ ข้ารับการอบรม……………………………………………………………………………….หนว่ ยงาน……………………………….
คาชีแ้ จงให้อาจารย์ผู้ควบคมุ การฝกึ ปฏบิ ัติ ทาเครื่องหมายในชอ่ งผลการฝกึ ปฏิบัติ
กจิ กรรม ผลการฝึกปฏบิ ตั ิ
การวัดอุณหภูมิกายด้วยเทอโ์ มมเิ ตอร์ชนดิ แก้ว ปฏบิ ัตไิ ดถ้ ูกต้อง ปฏิบตั ิได้ ไม่ปฏบิ ัติ
ทางรักแร้ ครบถว้ น ไม่ครบถว้ น
1.เตรยี มอุปกรณ์
2.อธบิ ายให้ผปู้ วุ ยรับทราบวตั ถปุ ระสงค์
3.สลัดปรอทให้ตา่ กวา่ ระดบั ๓๕ องศาเซลเซียล
4.ให้ผปู้ วุ ยหนีบปรอทไว้นาน ๖-๘ นาที
5.ใชส้ าลีเชด็ ปรอท
6.อา่ นคา่ อณุ หภูมิในระดับสายตา
7.ทาความสะอาดดว้ ยนา้ สบู่ แลว้ ใช้ผา้ แห้งเชด็ ให้สะอาด
การจบั ชีพจร
1.จัดท่าผปู้ วุ ยใหอ้ ยูใ่ นท่าสุขสบาย
2. ใชน้ ิ้วชีแ้ ละนิ้วกลางจบั ชพี จรบริเวณข้อมือ (อาจจับในช่วงเวลาระหว่างการวดั
อณุ หภูมกิ าย)
3.ระหว่างการจบั ใหน้ บั อัตราการเตน้ ของชีพจร ตามจงั หวะการเตน้ ทมี่ ากระทบกับ
นวิ้ มือของผ้จู ับ
4.ใหน้ บั อตั ราการเต้นของชีพจรเตม็ เวลา ๑ นาที
การนบั อตั ราการหายใจ
1.ใหส้ ังเกตลักษณะ จงั หวะ และอัตราการหายใจ จากการกระเพ่ือมข้ึนลงของทรวง
อก (อาจนับในชว่ งท่ีกาลังจบั ชีพจรอยู่ เพื่อมิใหผ้ ูป้ วุ ยรสู้ ึกว่ากาลงั ประเมนิ ดูการ
กระเพือ่ มขนึ้ -ลง ของทรวงอก)
2.นับอตั ราการหายใจเต็มเวลา ๑ นาที
การวดั ความดันโลหิต
1.พัน Cuff เครอ่ื งวดั ความดนั โลหติ เหนือข้อพับแขนขา้ งใดข้างหน่งึ ใหพ้ อดี ไม่คบั
หรือหลวมจนเกนิ ไป โดยให้ตาแหน่งของสายยางของ Cuff อยตู่ รงกลางของข้อ
พับแขน
2.จับชีพจรบรเิ วณขอ้ พับแขน แลว้ วางหฟู งั ตรงตาแหนง่ ทีค่ ลาชีพจรได้
กจิ กรรม ผลการฝึกปฏิบัติ
ปฏิบตั ไิ ด้ถกู ตอ้ ง ปฏบิ ัติได้ ไม่
ครบถว้ น ไม่ครบถ้วน ปฏบิ ตั ิ
3.หมนุ ปมุ ตรงลกู บบี เพื่อคลายเกลยี วให้สดุ แลว้ ค่อยๆ บีบลูกยางท่ีอย่ปู ลายสายของ
Cuff ให้สงู กว่าค่าความดันโลหติ ตวั บนทเี่ ปน็ คา่ ปกติ ประมาณ ๓๐-๕๐ มลิ ลิเมตร
ปรอท แลว้ ค่อยๆ หมุนเกลียวปมุ เข้าเพ่ือปลอ่ ยลมออกช้าๆ พรอ้ มกับฟังเสียงการเต้น
ของชีพจรจากหูฟังว่า เสยี งตุ๊บแรกที่เร่ิมไดย้ นิ อยูท่ คี่ ่าเท่าไร และเม่อื ปล่อยมาเรื่อยๆ
เสยี งเต้นตบุ๊ ๆ จะค่อยๆ เบาลง จนหายไป ให้สงั เกตวา่ เสียงตุ๊บทเี่ ริม่ หายไป อยู่ท่ีคา่
เทา่ ไร
4.อ่านคา่ ความดันโลหติ ท่ีวดั ได้ คอื เสียงตบุ๊ แรกท่ีได้ยนิ เป็นคา่ ความดันซสิ โตลิก
(ค่าตัวบน) ส่วนเสียงตุ๊บท่ีเรมิ่ หายไป เปน็ คา่ ความดนั ไดแอสโตลกิ (ค่าตวั ลา่ ง)
การตรวจวัดการไหลกลับของเลือดฝอย
1.ใชน้ ิ้วของผตู้ รวจกดลงบนเล็บของผปู้ วุ ย แล้วปลอ่ ย
2.สังเกตสขี องเลบ็ ในชว่ งเวลากดแล้วปล่อยวา่ สขี องเลบ็ ของผ้ปู ุวยกลบั มามีสี
เหมือนเดมิ ภายในเวลาเทา่ ใด (ปกติไมค่ วรเกนิ ๒ วนิ าท)ี
การตรวจวัดความอ่ิมตัวของออกซิเจนในกระแสเลือด
1.เชด็ ทาความนว้ิ ให้สะอาดและแหง้
2.หนบี โดยใหต้ eแหน่ง Sensor อยบู่ รเิ วณ บนเล็บ
3.อ่านค่าและแปรผล
ขอ้ คดิ เห็นโดยภาพรวมของอาจารย์เกีย่ วกบั ผลการฝกึ ปฏิบตั ิ
ปฏบิ ตั ไิ ดถ้ ูกต้องครบถว้ นในทกุ ขนั้ ตอน
ปฏิบัตไิ ดไ้ ม่ครบถ้วนทุกขน้ั ตอนหรือไม่ได้ปฏิบตั ิ ต้องฝกึ ปฏิบตั เิ พิม่ เติม (ระบุการปฏบิ ตั ทิ ี่ตอ้ งฝกึ เพ่มิ เตมิ )
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอื่ …………………………………………อาจารย์ผู้ประเมนิ
แบบฝึกทกั ษะเรื่อง การให้ยาตามหลักเภสชั วทิ ยา
ชอื่ -นามสกุล……………………………………………………………………………………..หน่วยงาน…………………………..วนั ท่ี………………………
คาชีแ้ จง กรุณาทาเครือ่ งหมาย ในชอ่ งผลการฝึกปฏิบัติ
กจิ กรรม ผลการฝึกปฏบิ ตั ิ
1.การอ่านฉลากยา ปฏิบัตไิ ด้ถกู ตอ้ ง ปฏบิ ตั ไิ ด้ ไม่ปฏิบตั ิ
2.การตรวจสอบวันหมดอายุ ครบถ้วน ไมค่ รบถ้วน
3.การบอกชนิดยา
4.การบอกขนาดและวิธกี ารบริหารยา
5.การบอกข้อบ่งช้ี ขอ้ ห้ามใช้และผลขา้ งเคียงของยา
ข้อคิดเห็นโดยภาพรวมของอาจารย์เกี่ยวกับผลการฝกึ ปฏิบัติ
ปฏิบัติได้ถูกตอ้ งครบถว้ นในทกุ ขัน้ ตอน
ปฏิบตั ไิ ดไ้ มค่ รบถ้วนทุกขน้ั ตอนหรือไม่ไดป้ ฏิบตั ิ ต้องฝึกปฏิบตั ิเพมิ่ เติม (ระบุการปฏิบัติทตี่ ้องฝกึ เพมิ่ เตมิ )
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ลงชื่อ ……………………………………………อาจารย์ผปู้ ระเมิน
แบบฝึกทักษะเรอ่ื ง การส่ือสารในระบบการแพทย์ฉกุ เฉนิ
ชือ่ -นามสกลุ ..........................................................หน่วยงาน..............................................................วนั ท.ี่ ...............................
คาช้ีแจง กรุณาทาเครื่องหมาย ในชอ่ งผลการฝกึ ปฏบิ ตั ิ
ผลการฝกึ ปฏิบตั ิ
กิจกรรม ปฏิบัติได้ถูกต้อง ปฏบิ ัติไดไ้ ม่ ไม่ปฏบิ ตั ิ
1บอกชนิดของเครื่องวิทยุคมนาคม ครบถว้ น ครบถว้ น
2. สามารถใช้เคร่ืองวิทยุคมนาคมได้
3. ทราบรหสั วิทยุ
4. สามารถใช้รหัสวทิ ยไุ ด้
ข้อคดิ เห็นโดยภาพรวมของอาจารย์เกีย่ วกับผลการปฏบิ ตั ิ
ปฏบิ ัตไิ ดถ้ ูกต้องครบถ้วนในทกุ ขั้นตอน
ปฏบิ ตั ิได้ไม่ครบถว้ นทุกขนั้ ตอนหรอื ไมไ่ ด้ปฏิบัติ ต้องฝึกปฏบิ ัตเิ พมิ่ เติม (ระบกุ ารปฏบิ ัตทิ ีต่ อ้ งฝกึ เพมิ่ เตมิ )
...........................................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................................
ลงช่อื ....................................................................อาจารยผ์ ูป้ ระเมิน
แบบฝกึ ทักษะเร่ือง การเอาสง่ิ แปลกปลอมออกจากทางเดนิ หายใจ
สว่ นบน
ชือ่ - สกลุ ...............................................................หนว่ ยงาน.......................................วนั ที.่ ............................
คาชีแ้ จง กรณุ าทาเครอ่ื งหมาย ในช่องผลการฝกึ ปฏบิ ตั ิ
กจิ กรรม ผลการปฏบิ ัติ
ปฏิบตั ิได้ ปฏิบัติได้
1.ประเมนิ สถานการณ์ ( scene size up ) ถกู ต้อง ไม่ ไม่ปฏบิ ตั ิ
1.1 ใช้อปุ กรณ์ปูองกันตนเองอยา่ งเหมาะสม ครบถ้วน ครบถว้ น
1.2 ประเมินความปลอดภัยของสถานการณ์
1.3 ประเมนิ กลไกการบาดเจ็บ
1.4 ประเมนิ จานวนผู้บาดเจ็บ
1.5 ประเมินเพือ่ ขอความช่วยเหลือ
2.ประเมินสภาพผู้ปวุ ยเบื้องต้น(Primary Assessment)
3.ผูป้ วุ ยผูใ้ หญ่ ( กรณีร้สู กึ ตวั )
ท่ารัดกระตุกที่หน้าท้องเหนือสะดือใต้ลิ้นปี่ (Heimlich maneuver)
หรือรดั กระตุกที่หน้าอก (Chest Thrust)
3.1ผู้ปฏิบัตกิ ารยนื ดา้ นหลงั ผูป้ วุ ยโดยใชแ้ ขนทงั้ สองข้างโอบรอบตัว
ผปู้ วุ ย
3.2 กามอื ขา้ งหน่ึงเปน็ หมดั และมอื อีกขา้ งหน่งึ กุมไว้ วางในแนว
กลางลาตวั บริเวณใตล้ ิน้ ปีเ่ หนือสะดือโดยหวั แมม่ ืออยดู่ ้านในชดิ ตัว
ผูป้ วุ ย
3.3 ออกแรงกระแทกดนั เขา้ หาผ้ปู ฏบิ ตั กิ ารโดยมีทศิ ทางที่เฉียงขนึ้
3.4 ทาตดิ ต่อกัน 5 ครงั้ จนกระท้ังสงิ่ แปลกปลอมหลุดออก
3.5 ผปู้ วุ ยเด็กเล็กอายไุ ม่เกนิ 1 ปี (กรณีรสู้ ึกตวั )
3.6 ตรวจดอู าการอดุ กัน้ ของทางเดินหายใจ เช่น หายใจลาบาก ไอ
ไมอ่ อก รอ้ งไม่มีเสียง
3.7จบั ตัวคว่า ใชม้ อื และแขนของผูป้ ฏบิ ตั ิการรองรบั นา้ หนักตัวของ
ผ้ปู วุ ยแลว้ ตบหลัง 5 ครงั้ สลบั กบั พลกิ ให้นอนหงาย แล้วกดหนา้ อก
ดว้ ยน้ิวมอื 2 นวิ้ กดกระแทก 5 ครัง้ (ภายใตก้ ารขอคาสั่งจากศนู ย์ )
4.การทา finger sweep
4.1 ใช้นิว้ หัวแมม่ ือข้างหนึ่งสอดเขา้ ในปากผู้ปุวย โดยวางบนล้ินและ
ใชน้ ้วิ ท่ีเหลอื แนบทีบ่ ริเวณคาง ดึงขากรรไกรลา่ งยกขึ้นมา
กิจกรรม ผลการปฏิบัติ
ปฏบิ ตั ไิ ด้ ปฏบิ ัติได้
4.2 ใช้ของมืออีกขา้ ง งอนว้ิ ลักษณะเปน็ ตะขอ และสอดนิ้วทีง่ อเขา้ ถูกตอ้ ง ไม่ ไมป่ ฏบิ ตั ิ
ไปในปากเพ่ือล้วงสงิ่ แปลกปลอมออกมาจนหมด ครบถ้วน ครบถ้วน
5.การดดู สารคัดหลงั่
5.1 ประสานศนู ย์สง่ั การก่อนปฏิบัตกิ ารดดู สารคัดหลง่ั (ค)
5.2 เปิดเคร่อื งดูดสารคดั หลั่งและตัง้ ความแรงของการดดู สารคดั หลงั่
ให้เหมาะสมกบั ผู้ปุวย
5.3 ตรวจสอบดูเสมอวา่ เคร่ืองอย่ใู นสภาพพร้อมใชง้ านได้ เครอื่ ง ที่
จะใช้งานได้ต้องมแี รงดูดสุญญากาศอย่างน้อย 30 มม.ปรอท
5.4 ตอ่ สายดูด
5.5 เปดิ ปากผูป้ ุวยดว้ ยวธิ ี cross finger ใส่สายดดู สารคัดหลั่งเข้า
ไปในปากโดยไม่ต้องดดู จนปลายสายถึงโคนลน้ิ จงึ เริ่มดูด
5.6 วนสายดดู เสมหะให้สามารถดดู ได้ทกุ ดา้ นของชอ่ งปาก
5.7การดดู เสมหะแต่ละครัง้ ไม่ควรเกิน 15 วนิ าที
5.8 ในกรณที ี่จาเปน็ ใหด้ ดู นา้ ผ่านสายดูดเสมหะเพอ่ื ปูองกันการอดุ
ตนั ในสายดดู เสมหะ
ขอ้ คดิ เห็นโดยภาพรวมของอาจารย์เกี่ยวกับผลการปฏบิ ตั ิ
ปฏบิ ตั ิได้ถูกต้องครบถ้วนในทุกขั้นตอน
ปฏิบตั ิไดไ้ มค่ รบถว้ นทกุ ขน้ั ตอนหรอื ไม่ไดป้ ฏบิ ัติ ตอ้ งฝกึ ปฏิบตั เิ พ่มิ เตมิ (ระบุการปฏบิ ตั ทิ ี่ต้องฝกึ เพม่ิ เตมิ )
...........................................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................................
ลงชื่อ....................................................................อาจารยผ์ ู้ประเมนิ
แบบฝกึ ทกั ษะเร่อื ง การให้ออกซเิ จน
ชอ่ื - สกลุ ...............................................................หน่วยงาน.......................................วันท.่ี ............................
คาชแี้ จง กรุณาทาเครือ่ งหมาย ในช่องผลการฝกึ ปฏบิ ัติ
ผลการปฏบิ ตั ิ
กจิ กรรม ปฏบิ ตั ไิ ด้ ปฏิบัตไิ ด้
ถูกตอ้ ง ไมค่ รบถ้วน ไม่ปฏบิ ตั ิ
ครบถว้ น
1.ประเมนิ สถานการณ์ ( scene size up )
1.1 ใชอ้ ุปกรณ์ปูองกันตนเองอย่างเหมาะสม
1.2 ประเมนิ ความปลอดภัยของสถานการณ์
1.3 ประเมินกลไกการบาดเจ็บ
1.4 ประเมนิ จานวนผู้บาดเจบ็
1.5 ประเมินเพ่อื ขอความช่วยเหลือ
2.ประเมินสภาพผูป้ ุวยเบื้องต้น
3.เตรยี มอปุ กรณใ์ ห้ออกซเิ จนชนดิ ต่างๆ
4.ประกอบชุดควบคมุ การไหลออกซิเจนกับถงั ออกซเิ จน
(Regulator)
5.อ่านปริมาตรของออกซิเจนในถังได้
6.การปรบั เปล่ยี น flow ออกซเิ จนได้
7.สามารถใหอ้ อกซเิ จนชนิด cannula ได้อย่างถูกต้องตาม
เทคนิคและสามารถบอกปริมาณออกซเิ จนที่ได้รับอย่างถูกตอ้ ง
8.สามารถใหอ้ อกซเิ จนชนดิ Simple facemask ได้อย่าง
ถกู ต้องตามเทคนิคและสามารถบอกออกซิเจนทไ่ี ด้รับ
9.สามารถให้ออกซิเจนชนดิ mask with bag ไดอ้ ย่างถูกต้อง
ตามเทคนิคและสามารถบอกปรมิ าณออกซิเจนที่ได้รับอย่าง
ถูกต้อง
10.สามารถคานวณปริมาณออกซเิ จน สาหรับวางแผนการใช้
ออกซเิ จนอย่างเพียงพอระหว่างการลาเลียงผู้ปวุ ย
ข้อคิดเหน็ โดยภาพรวมของอาจารยเ์ กยี่ วกับผลการปฏิบตั ิ
ปฏบิ ัติได้ถูกต้องครบถว้ นในทุกขน้ั ตอน
ปฏบิ ตั ิไดไ้ มค่ รบถว้ นทุกข้ันตอนหรอื ไมไ่ ด้ปฏบิ ตั ิ ต้องฝึกปฏิบัติเพ่มิ เตมิ (ระบกุ ารปฏบิ ตั ิที่ต้องฝกึ เพ่ิมเติม)
...........................................................................................................................................................................................
ลงชอ่ื ....................................................................อาจารยผ์ ้ปู ระเมิน
แบบฝึกทกั ษะเรื่อง การเปดิ ทางเดินหายใจ
ชอื่ - สกลุ ...............................................................หนว่ ยงาน.......................................วันท่.ี ............................
คาชีแ้ จง กรุณาทาเครอื่ งหมาย ในชอ่ งผลการฝกึ ปฏบิ ัติ
กิจกรรม ผลการปฏบิ ตั ิ ไมป่ ฏบิ ัติ
ปฏบิ ัติได้ ปฏิบตั ิได้
1.ประเมินสถานการณ์ ( scene size up ) ถกู ต้อง ไม่ครบถว้ น
1.1 ใชอ้ ุปกรณ์ปอู งกันตนเองอยา่ งเหมาะสม ครบถว้ น
1.2 ประเมนิ ความปลอดภยั ของสถานการณ์
1.3 ประเมินกลไกการบาดเจบ็
1.4 ประเมนิ จานวนผู้บาดเจบ็
1.5 ประเมนิ เพอื่ ขอความช่วยเหลอื
2.ประเมนิ สภาพผปู้ ุวยเบอ้ื งตน้
3.เปดิ ทางเดนิ หายใจโดยวิธี Head tilt – chin lift (กดหนา้ ผากเชย
คาง)
3.1ผปู้ ฏบิ ตั กิ ารอยู่ดา้ นขา้ ง ขา้ งใดขา้ งหนงึ่ ด้านศีรษะผปู้ วุ ย
3.2วางมือขา้ งหนง่ึ บรเิ วณหนา้ ผากผู้ปุวยและกดหน้าผากลงให้ศรี ษะแหงน
ขน้ึ และใชน้ ิ้วกลางและน้ิวชีข้ องมืออีกข้างเชยบรเิ วณปลายคางข้นึ (โดย
ปลายนิ้วไม่กดบนเนือ้ ออ่ นใตค้ าง)
4.เปดิ ทางเดนิ หายใจโดยวธิ Jี aw thrust
4.1ผู้ปฏบิ ตั ิการอยดู่ า้ นเหนอื ศรี ษะผู้ปวุ ย
4.2วางมือท้ังสองขา้ งบรเิ วณแกม้ ผู้ปวุ ยทง้ั สองข้าง ใชน้ ้วิ หวั แมม่ ือทงั้ สอง
ข้างวางตรงมมุ ปากดา้ นบนพรอ้ มออกแรงกดลงขณะเดียวกนั ใช้นว้ิ ที่เหลือ
วางตามแนวกระดูกขากรรไกรลา่ ง
4.3ออกแรงบรเิ วณนิว้ หัวแม่มอื ดันปากลง ขณะเดียวกนั ใช้นิ้วมอื ทัง้ สี่ดนั
กระดกู ขากรรไกรลา่ งขึน้ เพอ่ื ใหป้ ากเปิดออก
5เปิดทางเดินหายใจโดยวิธี chin lift (เชยคาง).
5.1ผูป้ ฏิบตั กิ ารคนท่ี 1 อย่ดู ้านบนศีรษะของผบู้ าดเจบ็ ทาManual in-line
stabilization
5.2ผู้ปฏิบตั ิการคนท่ี 2 ใชม้ อื ขา้ งทีใ่ กลศ้ รี ษะทส่ี ดุ จบั บรเิ วณหนา้ ผากของ
ผ้บู าดเจบ็
5.3ใช้มอื อีกข้างจับบรเิ วณฟันลา่ งและกระดูกขากรรไกรลา่ งส่วนล่าง
5.4 ดงึ ขากรรไกรลา่ งขนึ้ ด้านหนา้ และลงไปทางขาของผบู้ าดเจ็บและเปดิ
ปากผบู้ าดเจ็บ
ผลการปฏิบัติ ไมป่ ฏบิ ัติ
ปฏิบัติได้ ปฏิบตั ไิ ด้
ถูกต้อง ไมค่ รบถ้วน
ครบถว้ น
6.การใสO่ ropharyngeal airway
6.1ประสานศนู ย์ส่ังการก่อนใส่ Oropharyngeal airway(ค)
6.2ผ้ปู ฏบิ ตั กิ ารคนท่ี 1 ทาการ Manual in-line stabilization(กรณผี ู้ปวุ ย
Trauma)
6.3ทาการวัดและเลอื กขนาดของ Oropharyngeal airway ให้เหมาะกบั
ผู้ปวุ ยโดยวัดระยะจากมุมปากของผู้บาดเจบ็ จนถึงตง่ิ หู (ear lobe)
6.4เปิดปากของผบู้ าดเจบ็ โดยใช้มอื ขา้ งท่ไี ม่ถนัดเปิดปากผปู้ ุวย
ขอ้ คดิ เห็นโดยภาพรวมของอาจารย์เก่ยี วกบั ผลการปฏบิ ัติ
ปฏบิ ัติไดถ้ กู ต้องครบถ้วนในทุกขน้ั ตอน
ปฏบิ ตั ไิ ดไ้ ม่ครบถ้วนทุกขน้ั ตอนหรอื ไมไ่ ดป้ ฏบิ ตั ิ ตอ้ งฝึกปฏบิ ัติเพ่ิมเติม (ระบกุ ารปฏบิ ัติท่ีตอ้ งฝกึ เพิ่มเตมิ )
...........................................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................................
ลงชื่อ....................................................................อาจารยผ์ ปู้ ระเมิน
แบบฝึกทักษะเร่อื ง การช่วยหายใจโดยใชอ้ ุปกรณ์
ช่ือ - สกุล...............................................................หน่วยงาน.......................................วันท.ี่ ............................
คาชี้แจง กรณุ าทาเครือ่ งหมาย ในช่องผลการฝึกปฏิบัติ
ผลการปฏิบตั ิ
กจิ กรรม ปฏบิ ตั ิได้ ปฏบิ ัตไิ ด้ ไม่ปฏิบัติ
ถูกต้องครบถว้ น ไมค่ รบถว้ น
1.ประเมินสถานการณ์ ( scene size up )
1.1 ใช้อปุ กรณ์ปูองกนั ตนเองอย่างเหมาะสม
1.2 ประเมนิ ความปลอดภยั ของสถานการณ์
1.3 ประเมินกลไกการบาดเจบ็
1.4 ประเมินจานวนผ้บู าดเจ็บ
1.5 ประเมนิ เพือ่ ขอความชว่ ยเหลือ
2.ประเมนิ สภาพผู้ปุวยเบอื้ งต้น
3.การใช้ Mouth to mask
3.1 คกุ เขา่ ด้านข้างบรเิ วณไหลผ่ ู้ปวุ ย
3.2จัดท่าผู้ปุวยเพือ่ เปดิ ทางเดนิ หายใจให้โลง่
3.3ครอบวาง Mask ครอบปากและจมกู ผ้ปู ุวยวางหวั แมม่ ือและนวิ้ ช้บี น
Mask เปน็ รปู ตัว C พร้อมทงั้ กดให้ Mask แนบกบั หนา้ ผู้ปุวยนว้ิ ท่เี หลอื
จบั ทีม่ ุมขากรรไกรลา่ งเปน็ รูปตัว E พร้อมออกแรงเพอ่ื ยกขากรรไกรล่าง
ขึน้ (แบบ E-C clamp technique)
3.4เปาุ ปากช้าๆครงั้ ละไมน่ ้อยกว่า 1วินาที 2 คร้ัง สังเกตการขยบั ของ
ทรวงอก
4.การใช้ self Inflating Bag
4.1 คุกเขา่ ดา้ นขา้ งบริเวณไหล่ผูป้ วุ ย
4.2จดั ทา่ ผูป้ วุ ยเพือ่ เปดิ ทางเดนิ หายใจใหโ้ ลง่
4.3ครอบวาง Mask ครอบปากและจมูกผ้ปู ุวยวางหวั แม่มอื และนว้ิ ช้ีบน
Mask เป็นรูปตัว C พรอ้ มทงั้ กดให้ Mask แนบกับหน้าผู้ปุวยนวิ้ ทเี่ หลอื
จบั ทีม่ มุ ขากรรไกรล่างเป็นรูปตัว E พร้อมออกแรงเพื่อยกขากรรไกรล่าง
ขึ้น (แบบ E-C clamp technique)
4.บบี Ambu bag ครัง้ ละไมน่ อ้ ยกว่า 1วินาที 2 ครงั้ สังเกตการขยับของ
ทรวงอก
ขอ้ คิดเห็นโดยภาพรวมของอาจารย์เกย่ี วกับผลการปฏิบัติ
ปฏบิ ัตไิ ด้ถูกต้องครบถว้ นในทกุ ขน้ั ตอน
ปฏบิ ตั ิไดไ้ มค่ รบถว้ นทุกข้นั ตอนหรือไมไ่ ด้ปฏบิ ัติ ต้องฝึกปฏบิ ัตเิ พม่ิ เตมิ (ระบุการปฏบิ ตั ิท่ตี อ้ งฝกึ เพ่ิมเตมิ )
...........................................................................................................................................................................................
ลงชื่อ....................................................................อาจารยผ์ ้ปู ระเมนิ
แบบฝกึ ทักษะเรอ่ื ง การประเมินสภาพผ้ปู ุวยฉุกเฉนิ (MEDICAL) สาหรบั พฉพ.
ชือ่ -สกลุ …………………………………………………………………….………………..…….…………. วนั ท่ี…………….…………………………………………………………… Scenario ท…ี่ …………
ลาดับ รายการ คะแนน
เตม็ ได้ ซอ่ ม
1 Scene size up (ขอ้ ละ 1 คะแนน)
1.1 ใสอ่ ปุ กรณป์ อู งกนั ตนเอง1.2 ความปลอดภัยสถานทเี่ กดิ เหตุ1.3 กลไกการบาดเจบ็ /เจ็บปวุ ย1.4 จานวนผูป้ วุ ย1.5 ความต้องการกาลังสนบั สนุน 5
2 Primary assessment
2.1 General Impression 1
2.2 Level of consciousness 1
2.3 ประเมนิ Airway (1 คะแนน) 3
- แก้ไขปญั หา Airway (1 คะแนน) - เลอื กวิธีและอุปกรณใ์ นการแก้ปญั หา Airway เหมาะสม (1 คะแนน) 3
5
2.4 ประเมนิ Breathing (1 คะแนน) 1
- แก้ไขปญั หา Breathing (1 คะแนน) - เลือกวิธแี ละอปุ กรณใ์ นการแกป้ ญั หา Breathing เหมาะสม (1 คะแนน)
2.5 ประเมนิ Circulation - ชีพจร(1 คะแนน) - สีผวิ อุณหภมู ิ ความชน้ื (1 คะแนน) - Capillary refill (1 คะแนน)
- Major bleeding (1 คะแนน ) - เลอื กวธิ ีและอปุ กรณใ์ นการแก้ปญั หา Circulation เหมาะสม (1 คะแนน )
บอกวา่ ผปู้ ุวยอยใู่ นความเสี่ยงตอ่ ภาวะ shock /มีภาวะคุกคามชีวติ หรอื ไม่
พจิ ารณาและตัดสนิ ใจในการดาเนินการช่วยเหลอื ต่ออยา่ งเหมาะสม (แจง้ ศูนย์/นาส่ง/รอการสนบั สนุน) 1
3 History taking , Vital Signs and Performs secondary assessment
History of the present illness 7
5
- Onset (1คะแนน) Provocation (1คะแนน) Quality (1คะแนน) Radiation (1คะแนน) Severity (1คะแนน) Time (1คะแนน) 7
- การต้ังคาถามทเี่ กี่ยวขอ้ งกบั อาการและอาการแสดงของผู้ปุวยมคี วามเชื่อมโยงสอดคล้องตาม OPQRST (1คะแนน)
Allergies (1คะแนน), Medications (1คะแนน), Past pertinent history (1คะแนน), Last meal (1คะแนน) 4
Events leading to present illness (1คะแนน)
Vital signs : pulse (1 คะแนน), RR and Quality (1คะแนน), Blood pressure (1 คะแนน), O2 sat (1 คะแนน)
- ใหก้ ารชว่ ยเหลอื ตามปญั หาทีเ่ หมาะสม (3 คะแนน)
Performs secondary assessment (Assesses affected body part / system or, if indicated, completes a rapid
assessment) : -Cardiovascular -Neurological - Pulmonary - Musculoskeletal - GI/GU – Reproductive -Endocrine
- Integumentary -Psychological - Allergic reaction
4 Reassess and Ongoing assessment
LOC (1 คะแนน), A-B-C (1 คะแนน), Vital signs (1คะแนน), interventions (2 คะแนน) 5
แสดงให้เหน็ หรอื บอกว่าจะทาอยา่ งไรเมื่อพบวา่ ผ้ปู วุ ยมอี าการเปล่ยี นแปลงไปจากเดิม 1
5 ใช้เวลาในการประเมนิ และการบริหารจดั การทมี เหมาะสม 1
คะแนนเตม็ /คะแนนท่ไี ด้ 50
หมายเหตุ ใชแ้ บบฟอร์มนส้ี าหรับการฝกึ ทกั ษะการประเมนิ ผู้ปวุ ยฉกุ เฉนิ ที่เปน็ ผปู้ ุวย Medical ในระหวา่ งการฝึกอบรม และใช้ในการสอบภาคปฏิบัติสถานการณจ์ าลองก่อนจบ
ลงชือ่ ....................................................................อาจารยผ์ ้ปู ระเมนิ
แบบฝกึ ทักษะเร่อื ง การประเมนิ สภาพผู้ปุวยฉกุ เฉิน (TRAUMA) สาหรับ พฉพ.
ช่อื -สกลุ …………………………………………………………………….………………..…….…………. วนั ที่…………….…………………………………………………………… Scenario ท…่ี …………
ลาดับ รายการ คะแนน
เตม็ ได้ ซอ่ ม
1 Scene size up (ข้อละ 1 คะแนน)
1.1 ใส่อปุ กรณ์ปอู งกันตนเอง1.2 ความปลอดภัยสถานทีเ่ กิดเหตุ1.3 กลไกการบาดเจ็บ/เจ็บปวุ ย1.4 จานวนผูป้ วุ ย1.5 ความตอ้ งการกาลงั สนับสนุน 5
2 Primary assessment
2.1 General Impression (1 คะแนน) / C- spine protection (1 คะแนน) 2
2.2 Level of consciousness 1
2.3 ประเมนิ Airway (1 คะแนน) 3
- แกไ้ ขปัญหา Airway เหมาะสม (1 คะแนน) - เลือกวิธีและอปุ กรณใ์ นการแกป้ ัญหา Airwayเหมาะสม (1คะแนน) 3
2.4 ประเมิน Breathing (1 คะแนน) - แกไ้ ขปัญหา Breathing (1 คะแนน)
5
- เลอื กวธิ แี ละอุปกรณใ์ นการแก้ปัญหา Breathing เหมาะสม (1คะแนน)
2.5 ประเมนิ Circulation – ชีพจร (1 คะแนน) - สีผวิ อณุ หภมู ิ ความชื้น (1 คะแนน) - Capillary refill (1 คะแนน) 1
1
- Major bleeding (1คะแนน) - เลอื กวธิ ีและอปุ กรณใ์ นการแก้ปัญหา Circulation เหมาะสม (1 คะแนน )
บอกวา่ ผู้ปุวยอย่ใู นความเสย่ี งตอ่ ภาวะshock/ภาวะคุกคามต่อชวี ิตหรอื ไม่
พจิ ารณาและตัดสินใจในการดาเนินการชว่ ยเหลอื ตอ่ อยา่ งเหมาะสม (แจง้ ศูนย์/นาส่ง/รอการสนบั สนนุ )
3 Secondary assessment (Scenario-Unstable) – Rapid scan assessment
Head, Face: ดแู ละคลา Head (1 คะแนน), Face (1 คะแนน) 2
Neck: ดู และคลาTrachea (1 คะแนน), JVD (1 คะแนน), คอดา้ นหนา้ -หลงั (1คะแนน)และ บอกวา่ ใส่ cervical collar (1คะแนน) 4
Chest : ดู (1 คะแนน), คลา (1 คะแนน), ฟงั (1 คะแนน) 3
Abdomen/pelvis: ดู และคลา Abdomen (1คะแนน) ,ประเมนิ pelvis (1 คะแนน), ประเมิน perineum/Genitaria (1คะแนน) 3
Lower extremities : ดู คลา (1คะแนน) และประเมิน PMS (1คะแนน) 2
Upper extremities : ดู คลา (1คะแนน) และประเมนิ PMS (1คะแนน) 2
Posterior thorax,Lumbar,buttocks : ดแู ละคลาหลังสว่ น thorax(1คะแนน),ดูและคลาหลังส่วน Lumbar(1คะแนน),buttocks (1คะแนน) 3
4 ซักประวตั ิ และตรวจวดั สญั ญาณชพี : SAMPLE (1 คะแนน), Vital signs(1คะแนน), O2 sat(1คะแนน) 3
5 บอกการดแู ลสว่ นที่บาดเจบ็ และบาดแผลได้เหมาะสม (1 คะแนน) 1
6 Reassess and Ongoing assessment
LOC (1 คะแนน), A-B-C(1คะแนน), Vital signs (1คะแนน), intervention(1คะแนน), Detailed assessment (ถา้ มเี วลา) 4
แสดงให้เห็นหรือบอกวา่ จะทาอยา่ งไรเมือ่ พบวา่ ผูป้ ุวยมีอาการเปลีย่ นแปลงไปจากเดิม 1
7 ใชเ้ วลาในการประเมิน และบรหิ ารจัดการทมี เหมาะสม 1
คะแนนเต็ม/คะแนนที่ได้ 50
หมายเหตุ ใช้แบบฟอรม์ นสี้ าหรับการฝกึ ทักษะการประเมนิ ผู้ปุวยฉกุ เฉนิ ที่เป็นผ้ปู ุวย Traumaในระหวา่ งการฝกึ อบรม และใชใ้ นการสอบภาคปฏิบัตสิ ถานการณจ์ าลอง
ลงชอ่ื ....................................................................อาจารยผ์ ู้ประเมนิ
แบบฝึกทักษะเรือ่ ง การเจาะน้าตาลปลายน้ิว
()
ชอ่ื -นามสกลุ ……………………………………………………………………………………..หน่วยงาน……………………………………...วนั ท่ี……………………………………….
คาช้แี จง กรุณาทาเคร่ืองหมาย ในชอ่ งผลการฝึกปฏบิ ัติ
กิจกรรม ผลการฝึกปฏิบัติ
1.ประเมนิ สถานการณ์ (scene size up) ปฏบิ ัตไิ ด้ถกู ต้อง ปฏิบัตไิ ด้ ไมป่ ฏบิ ัติ
1.1 ใช้อุปกรณป์ ูองกนั ตนเองอยา่ งเหมาะสม ครบถว้ น ไม่ครบถ้วน
1.2 ประเมนิ ความปลอดภัยของสถานการณ์
1.3 ประเมนิ กลไกการบาดเจบ็ /เจ็บปวุ ย
1.4 ประเมินจานวนผบู้ าดเจ็บ
1.5 ประเมนิ เพื่อขอความช่วยเหลือ
1.ประเมินสภาพผปู้ ุวยเบอ้ื งต้น (Primary Assessment)
2.แจ้งผ้ปู ุวยรบั ทราบ
3.เตรยี มอปุ กรณ์
- 3.1เคร่ืองเจาะน้าตาลในเลือด (Glucometer)พร้อม Code DTX Strip
- 3.2 DTX Strip
- 3.3 เขม็ สาหรบั เจาะปลายน้ิว
3.4 สาลีแอลกอฮอล์
4.เตรียมเจาะนา้ ตาลผู้ปุวย
- 4.1 เปิดเคร่ืองเจาะนา้ ตาลในเลือด
- 4.2 ตรวจสอบ code DTX Strip กับเคร่ืองตรวจนา้ ตาลในเลอื ดใหต้ รงกัน
- 4.3 เลอื กตาแหนง่ ทีจ่ ะทาการเจาะ (ส่วนใหญเ่ ป็นน้วิ มอื นิว้ นางหรอื นว้ิ กลาง)
- 4.4 ทาความสะอาดผวิ หนงั บรเิ วณทีจ่ ะเจาะด้วยสาลชี ุบแอลกอฮอล์ ๗๐%
- 4.5 ใชเ้ ข็มเจาะในตาแหน่งทีไ่ ด้ทาความสะอาดไว้ แล้วหยดเลือดลงบนแผ่น DTX Strip
ในชอ่ งที่กาหนดไว้
- 4.6 ทาความสะอาดผวิ หนังหลงั เจาะพร้อมกดไวส้ ักครู่ จนเลือดหยดุ
- 4.7 รอให้เคร่อื งประมวลผลและอา่ นคา่
5.รายงานผลการตรวจนา้ ตาลในเลือดแก่ศนู ยร์ ับแจง้ เหตแุ ละสง่ั การรับทราบ
6.ใหก้ ารดูแลผูป้ ุวยตามปญั หา
ข้อคดิ เหน็ โดยภาพรวมของวิทยากรเก่ียวกบั ผลการฝกึ ปฏิบตั ิ
ปฏบิ ัติได้ถกู ต้องในทกุ ขั้นตอน
ปฏิบัตไิ ด้ไมค่ รบถ้วนทกุ ข้ันตอนหรือไมไ่ ดป้ ฏบิ ตั ิ ต้องฝกึ ปฏบิ ตั เิ พม่ิ เตมิ (ระบุการปฏบิ ัติทต่ี อ้ งฝึกเพ่มิ เตมิ )
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ลงชื่อ ……………………………………………วิทยากรผ้ปู ระเมนิ
แบบฝกึ ทักษะเรอ่ื ง การหา้ มเลือดและทาแผล
ชอ่ื -นามสกลุ ……………………………………………………………………………………..หน่วยงาน……………………………………………..วนั ท่ี…………………………………………
คาช้ีแจง กรณุ าทาเครื่องหมาย ในช่องผลการฝึกปฏบิ ัติ
กิจกรรม ผลการฝึกปฏิบตั ิ
1.ประเมนิ สถานการณ์ (scene size up) ปฏิบัตไิ ดถ้ กู ตอ้ ง ปฏิบัติได้ ไม่ปฏบิ ตั ิ
1.1 ใชอ้ ุปกรณ์ปูองกันตนเองอยา่ งเหมาะสม ครบถ้วน ไมค่ รบถว้ น
1.2 ประเมินความปลอดภัยของสถานการณ์
1.3 ประเมินกลไกการบาดเจ็บ/เจบ็ ปุวย
1.4 ประเมนิ จานวนผ้บู าดเจบ็
1.5 ประเมนิ เพือ่ ขอความชว่ ยเหลอื
2.ประเมนิ สภาพผูป้ ุวยเบอื้ งต้น (Primary assessment)
3.แจง้ ผปู้ ุวยรบั ทราบ
4.เตรียมอุปกรณ์สาหรบั การห้ามเลอื ดและทาแผล
5.เตรียมอปุ กรณป์ ูองกันตนเอง
6.ปฏบิ ัตกิ ารห้ามเลือด
6.1 ห้ามเลอื ดโดยวิธกี ดท่ีแผลโดยตรง
6.2 หา้ มเลอื ดโดยใชว้ ัสดรุ ดั แนน่ (Pressure)
7.การดูแลบาดแผลเฉพาะ
7.1 แผลเปดิ บรเิ วณทรวงอก
7.2 แผลเปิดบรเิ วณช่องท้อง
7.3 แผลวัสดหุ ักคา
7.4 แผลอวยั วะตดั ขาด
7.5 แผลถูกความร้อน ไฟไหม้
7.6 แผลบริเวณศีรษะ
ข้อคดิ เห็นโดยภาพรวมของอาจารย์เกีย่ วกบั ผลการฝึกปฏิบตั ิ
ปฏบิ ตั ิได้ถูกต้องครบถว้ นในทกุ ข้นั ตอน
ปฏบิ ัตไิ ดไ้ ม่ครบถว้ นทุกข้นั ตอนหรือไม่ไดป้ ฏิบตั ิ ต้องฝกึ ปฏบิ ัติเพิม่ เติม (ระบุการปฏบิ ตั ทิ ตี่ ้องฝึกเพม่ิ เติม
............................................................................................................................. .......................................................................
........................................................................................................................................................................................ ............
ลงช่ือ ……………………………………………อาจารย์ผ้ปู ระเมิน
แบบฝึกประสบการณ์เร่ือง การรบั แจ้งเหตุ (สาหรับการฝึกงานระหว่างการฝึกอบรม)
ชอื่ -สกลุ ……………………………………………………………หน่วยงานตน้ สงั กดั …………………………………………ช่อื ศูนยร์ ับแจง้ เหต…ุ ………………………….
คาชแ้ี จง ให้ผ้ปู ระเมินทาเคร่ืองหมาย ในกจิ กรรมที่ปฏิบตั ิ และ ทาเครอ่ื งหมาย ในกิจกรรมทไี่ มป่ ฏบิ ตั ิ ในชอ่ งคร้งั ท่ี…ทีท่ าการฝกึ รับแจง้
ลาดบั กิจกรรม ผลการปฏบิ ตั ิ
1 ทดสอบสญั ญาณวิทยุส่อื สารในเครอื ขา่ ย คร้งั ท่ี…… ครง้ั ท่ี……. ครัง้ ที่……… ครงั้ ที่ ………
2 รบั แจ้งเหตดุ ว้ ยวิทยุส่อื สาร
2.1 ใช้วทิ ยสุ อ่ื สารอยา่ งถูกวิธี
2.2 ใช้รหัสวิทยุในการสอ่ื สารอยา่ งเหมาะสม
3 รบั แจ้งเหตดุ ว้ ยโทรศัพท์โดยใช้คาพดู และนา้ เสียงทีส่ ภุ าพ
4 สอบถามข้อมลู การรบั แจ้งอยา่ งถกู ตอ้ ง ครบถ้วน
4.1 สอบถามเหตกุ ารณ/์ อาการผปู้ ุวย
4.2 สอบถามสถานทเ่ี กดิ เหต/ุ สถานทีใ่ กล้เคยี ง
4.3 สอบถามจานวนผปู้ ุวย
4.4 สอบถามเบอร์โทรศพั ท/์ ช่อื สกุล ผแู้ จ้งเหตุ
5 การให้คาแนะนาหรือการปฐมพยาบาลก่อนรถพยาบาลไปถึง
6 การสอื่ สารกับชดุ ปฏบิ ัติการ
7 การประสานกับชุดปฏบิ ัตกิ าร ระหว่างออกเหตุ
8 การสอื่ สารกับหน่วยงานอ่ืนทเ่ี กี่ยวข้อง เพ่ือการชว่ ยเหลอื
9 บนั ทึกการรับแจ้งเหตุอย่างถกู ตอ้ ง ครบถว้ น
10 การรับ ว 8 จากชดุ ปฏบิ ตั กิ าร
11 การบนั ทกึ ข้อมูลรบั แจง้ เหตทุ างอนิ เตอร์เนต็
12 สรปุ caseทร่ี ับแจง้ โดยย่อ
พยาบาลผู้ควบคุม
วันท่ี
ขอ้ คิดเหน็ โดยภาพรวมของอาจารย์เกี่ยวกบั ผลการฝึกปฏิบัติ
ปฏบิ ัติได้ถูกตอ้ งครบถว้ นในทกุ ขน้ั ตอน
ปฏบิ ตั ไิ ดไ้ ม่ครบถว้ นทุกขัน้ ตอนหรือไม่ไดป้ ฏบิ ตั ิ ต้องฝกึ ปฏบิ ตั เิ พ่มิ เติม (ระบุการปฏบิ ัตทิ ต่ี อ้ งฝกึ เพ่มิ เติม)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ลงชือ่ ……………………………………………อาจารย์ผู้ประเมิน
แบบฝึกประสบการณ์ ณ ห้องฉกุ เฉนิ (สาหรบั การฝกึ งานระหว่างการฝึกอบรม)
ช่ือ-สกุล……………………………………………………………หน่วยงานตน้ สงั กดั …………………………………………ช่อื ศูนยร์ บั แจง้ เหต…ุ ………………………….
ลาดับ กิจกรรม วดป วดป
ผู้ควบคมุ /ตาแหน่ง
ผคู้ วบคุม/ตาแหนง่
ณ ห้องฉกุ เฉนิ
1 การเจาะเลือดตรวจนา้ ตาลในเลอื ดจากปลาย
นิ้ว(DTX)
2 การตรวจวดั ความอิ่มตัวของออกซิเจน
(O2sat)ด้วยเครื่อง pulse oxymeter
3 การติด Lead EKG (3lead)
4 การวดั สัญญาณชพี
5 การตรวจ neurological sign, pupils
6 การใส่ถุงมือ sterile
7 การเปิด set sterile
8 การทาแผล
9 การดามกระดูก
10 การใส่ oral airway
11 การบีบ Ambu bag
12 การให้ออกซิเจน
13 การดดู เสมหะ
14 การควบคุมหยดการไหลของสารนา้
ณ หอ้ งฉุกเฉนิ หรือห้องคลอด
15 การ clamp cord
16 การดูแลมารดาหลงั คลอด
17 การดแู ลใหค้ วามอบอุ่นทารกหลงั คลอด
หมายเหตุ การฝึกปฏบิ ัติ ขอ้ ๑๔-๑๖ ขึน้ อยูก่ บั ความพรอ้ มของแหลง่ ฝึกอบรม
ขอ้ เสนอแนะเพิม่ เติม จากอาจารยผ์ ู้ควบคุม
………………………………………………………………………………………………………………………….......................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
แบบทดสอบการช่วยฟ้ืนคนื ชีพขั้นพ้ืนฐานและการใชเ้ ครื่องช็อกไฟฟาู หัวใจแบบอัตโนมัติ(Basic CPR & AED)
ชอ่ื -สกลุ …………………………………………………………………….………………..…….…………. วนั ท่ี…………….…………………………………………………………… Scenario ท…่ี …………
ผลการทดสอบ
ลาดบั กจิ กรรม คะแนนเต็ม คะแนนท่ไี ด้ ซอ่ ม
Scenario : non trauma
1 SCENE SIZE UP (ข้อละ 1 คะแนน)
- ใส่อุปกรณ์ปูองกนั ตนเอง - ประเมินความปลอดภัยท่ีเกิดเหตุ - กลไกการบาดเจ็บ 5
- จานวนผบู้ าดเจบ็ - การขอความช่วยเหลอื เพิ่มเติม
PRIMARY ASSESSMENT
2 บอกลกั ษณะท่ัวไปของผู้ปุวยท่ีพบเห็น (general impression) (1 คะแนน) 1
3 ประเมนิ ความรู้สกึ ตวั ( Level of consciousness: LOC ) (1 คะแนน) 1
4 แจง้ ศูนยส์ ัง่ การเพื่อเรียกชดุ ปฏบิ ัตกิ ารฉุกเฉินระดบั สงู และตามเคร่อื ง AED 1
( ภายใต้การขอคาสัง่ จากศนู ย์ )
5 ตรวจชีพจรท่ีคอ( 1 คะแนน) พรอ้ มกับการประเมนิ การหายใจอยา่ งรวดเร็ว (ไม่ตอ้ งทา ตาดู หฟู ัง 2
แก้มสมั ผสั ) (ไม่เกนิ 10 วนิ าท)ี (1คะแนน) (โจทย์กาหนด :ไม่หายใจหรือ หายใจเฮือก )
6 ทาการกดหนา้ อก 30 ครง้ั (อัตรา 100-120 ครง้ั /นาที)
- วาง 2 มือลงบนครงึ่ ลา่ งของกระดกู หน้าอก (lower half of the sternum) (1คะแนน) 4
- ทา่ ทางในการวางเขา่ เหยียดแขนตงึ ตรง ในลักษณะตัง้ ฉากกบั ลาตัวผปู้ ุวย (1คะแนน) 2
- ความลกึ ในการกด 2-2.4 นิ้ว (5-6 ซม.) (1คะแนน)
- ปลอ่ ยให้มกี ารขยายของทรวงอกกลับคนื จนสดุ (Fully recoil) (1คะแนน)
7 จดั ท่าเปิดทางเดินหายใจ (1 คะแนน) และทาทางเดินหายใจให้โล่ง (1คะแนน)
8 ช่วยหายใจ 2 คร้ัง (2 คะแนน) -เลือกวิธแี ละอปุ กรณ์ในการชว่ ยหายใจเหมาะสม (1คะแนน) 3
โจทย์กาหนด : ให้ AED มาถงึ ณ จุดเกดิ เหตุ
9 เตรยี มความพรอ้ มในการใช้อุปกรณ์เครื่อง AED – pads (ทาตามข้นั ตอน ขอ้ ละ 1 คะแนน กรณีปฏิบตั ิครบแตส่ ลบั ขั้นตอน หกั 1 คะแนน)
- เตรียมผูป้ ุวย 1
- เปิดเครือ่ ง 1
- แปะ Electrode pads ในตาแหน่งที่ถูกต้อง (ที่ sternum และ apex โดยที่ paddle 1
ไม่เหลื่อมกัน) * ขณะทเ่ี พื่อนในทีมทาการ CPR อย่างต่อเนือ่ ง 1
- เสียบสาย Electrode 1
8 รอเครอื่ งทาการวิเคราะห์และแปลผลคลื่นไฟฟาู หัวใจและปฏบิ ัตติ ามคาแนะนาของเคร่อื ง
9 ไม่สมั ผสั ตัวผปู้ ุวยถา้ เคร่อื งบอก “shock advice” ให้สญั ญาณ บอกทกุ คน clear แล้วกดปมุ shock” 2
10 หลงั shock 1 ครั้ง ทา CPR ตอ่ ทันที (อัตราการกดหน้าอกต่อการช่วยหายใจ 30 : 2) 1
5 รอบ หรือ 2 นาที
11 ขณะทาการ shock ห้ามหยดุ กดหน้าอก นานเกิน 10 วินาที 1
12 ปฏิบัติตามคาแนะนาของเครอื่ ง ตามโจทยท์ ่ีอาจารย์กาหนด 1
13 หากผูป้ วุ ยฉุกเฉินกลับมามีชีพจรและหายใจเองได้ ใหจ้ ดั ท่าพกั ฟ้ืน 1
คะแนนเต็ม / คะแนนที่ได้ 30
**แบบฟอรม์ นใ้ี ชส้ าหรบั ฝกึ ปฏบิ ัตแิ ละสอบหัวขอ้ CPR & AED โดยใหท้ าการสอบหลังฝกึ ปฏิบัติเสรจ็ ในช่ัวโมงเรียน**
ลงช่อื ........................................................อาจารย์ผ้ปู ระเมนิ
แบบประเมินทักษะ เร่ือง การช่วยฟื้นคืนชีพขัน้ พนื้ ฐาน โดยผชู้ ่วยเหลือคนเดียว (พฉพ.)
ช่ือ-สกลุ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….….วนั ท…ี่ ……………………………………………………………………………………………
คาชี้แจง กรุณาทาเครื่องหมาย √ ในช่องผลการปฏิบตั กิ จิ กรรม
ลาดับ กจิ กรรม ผลการฝกึ ปฏิบตั ิ ไมป่ ฏบิ ัติ
ปฏิบตั ิถกู ต้อง ปฏบิ ตั ไิ ด้
1 SCENE SIZE UP
ครบถว้ น ไม่ครบถ้วน
- ใสอ่ ปุ กรณ์ปูองกันตนเอง
- ประเมนิ ความปลอดภยั ของสถานการณ์
- ประเมนิ กลไกการบาดเจ็บ
- ประเมนิ จานวนผบู้ าดเจบ็
- ประเมินเพอ่ื ขอความชว่ ยเหลอื เพมิ่ เตมิ
PRIMARY ASSESSMENT
2 บอกลกั ษณะทั่วไปของผู้ปุวยทพี่ บเหน็ (general impression)
3 ยึดตรงึ ศรี ษะ (manual in line)ในกรณีทีส่ งสยั มีการบาดเจ็บที่กระดูกคอ
4 ประเมินความรสู้ ึกตวั (Level of consciousness: LOC )
5 แจ้งศูนยส์ ่งั การเพอ่ื เรยี กชุดปฏบิ ตั กิ ารระดับสงู และตามเครอื่ ง AED( ภายใตก้ ารขอคาส่ังจากศนู ย์ )
6 ตรวจชพี จรทีค่ อ พรอ้ มกบั การประเมินการหายใจอย่างรวดเร็ว (ไมต่ ้องทา ตาดู หูฟงั แก้มสมั ผัส)
(ไมเ่ กนิ 10 วินาที) โจทย์กาหนด: ไม่หายใจหรอื หายใจเฮือก
7 ทาการกดหน้าอก 30 ครัง้ (อัตรา 100-120 ครง้ั /นาที)
- วาง 2 มือลงบนครงึ่ ล่างของกระดกู หน้าอก (lower half of the sternum)
- ทา่ ทางในการวางเข่า เหยยี ดแขนตึง ตรง ในลักษณะตง้ั ฉากกบั ลาตัวผูป้ ุวย
- ความลึกในการกด 2-2.4 น้ิว (5-6 ซม.)
- ปล่อยให้มกี ารขยายของทรวงอกกลับคืนจนสุด (Fully recoil)
8 จดั ท่าเปดิ ทางเดินหายใจและดแู ลทางเดินหายใจให้โลง่
9 ช่วยหายใจโดยปากเปุาผา่ นหนา้ กาก (mouth to mask include mouth to mouth ,
pocket mask) หรอื ชว่ ยหายใจโดยใช้ self inflating bag ติดตอ่ กนั 2 ครง้ั (คร้ังละ 1 วินาท)ี
10 สงั เกตการเคล่ือนไหวของหน้าอกขณะช่วยหายใจ
11 ทาการกดหนา้ อกตอ่ (อตั ราการกดหน้าอกต่อการช่วยหายใจ 30 : 2)
12 เม่อื กดหนา้ อกและช่วยหายใจครบ 5 รอบ ทาการตรวจชีพจรที่คอ ถ้าไมม่ ชี ีพจรหรือไม่แนใ่ จ
ใหก้ ดหน้าอกเพอ่ื ช่วยฟื้นคนื ชีพรอบตอ่ ไป
13 หากผ้ปู วุ ยฉุกเฉินกลบั มามชี ีพจรและหายใจเองได้ ให้จดั ท่าพกั ฟื้น (ไมม่ สี าเหตจุ ากอุบัตเิ หต)ุ
ขอ้ คดิ เห็นโดยภาพรวมของอาจารย์เกย่ี วกับผลการปฏบิ ัติ
ปฏิบัตไิ ด้ถกู ต้องครบถ้วนในทกุ ขั้นตอน
ปฏบิ ตั ิได้ไมค่ รบทกุ ข้ันตอนหรอื ไม่ไดป้ ฏบิ ตั ิ ตอ้ งฝึกปฏบิ ตั เิ พิม่ เติม
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชือ่ ........................................................ผ้ปู ระเมนิ
แบบประเมินทักษะ เร่ือง การชว่ ยฟืน้ คืนชพี ข้ันพนื้ ฐาน โดยผู้ช่วยเหลือสองคน (พฉพ.)
ช่ือ-สกุล……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….วนั ท…ี่ ……………………………………………………………………………………………
คาช้แี จง กรณุ าทาเคร่ืองหมาย √ ในชอ่ งผลการปฏิบตั กิ จิ กรรม
ผลการฝกึ ปฏบิ ตั ิ
ลาดบั กจิ กรรม ปฏบิ ตั ิถกู ต้อง ปฏบิ ตั ไิ ด้ ไม่ปฏบิ ตั ิ
1 ครบถว้ น ไมค่ รบถว้ น
SCENE SIZE UP
- ใสอ่ ปุ กรณ์ปูองกนั ตนเอง
- ประเมนิ ความปลอดภยั ของสถานการณ์
- ประเมินกลไกการบาดเจบ็
- ประเมินจานวนผบู้ าดเจ็บ
- ประเมนิ เพอื่ ขอความชว่ ยเหลือเพมิ่ เติม
PRIMARY ASSESSMENT
ผู้ชว่ ยเหลอื คนท่ี 1
2 บอกลักษณะท่วั ไปของผปู้ วุ ยทพี่ บเห็น (general impression)
3 ยึดตรึงศีรษะ (manual in line)ในกรณีท่ีสงสัยมีการบาดเจบ็ ทกี่ ระดูกคอ
4 ประเมินความรสู้ กึ ตวั ( Level of consciousness: LOC )
5 แจง้ ศูนย์ส่งั การเพื่อเรียกชดุ ปฏบิ ัติการระดบั สงู และตามเครือ่ ง AED
( ภายใตก้ ารขอคาส่ังจากศูนย์ )
6 ตรวจชีพจรที่คอ พร้อมกบั การประเมินการหายใจอย่างรวดเรว็
(ไม่ตอ้ งทา ตาดู หูฟงั แก้มสมั ผสั ) (ไม่เกิน 10 วนิ าท)ี
โจทย์กาหนด: ไม่หายใจหรือหายใจเฮอื ก
7 ทาการกดหนา้ อก 30 ครัง้ (อตั รา 100-120 ครั้ง/นาท)ี
- วาง 2 มอื ลงบนครง่ึ ลา่ งของกระดกู หน้าอก (lower half of the sternum)
- ท่าทางในการวางเข่า เหยียดแขนตงึ ตรง ในลกั ษณะตัง้ ฉากกบั ลาตัวผู้ปุวย
- ความลึกในการกด 2-2.4 น้ิว (5-6 ซม.)
- ปลอ่ ยให้มีการขยายของทรวงอกกลับคนื จนสดุ (Fully recoil)
ผูช้ ว่ ยเหลือคนท่ี 2 มาถงึ จุดเกิดเหตุ
8 จัดท่าเปดิ ทางเดนิ หายใจและดแู ลทางเดินหายใจให้โลง่
9 ชว่ ยหายใจโดยปากเปุาผา่ นหนา้ กาก (mouth to mask include mouth to mouth ,
pocket mask) หรือช่วยหายใจโดยใช้ self inflating bag ติดตอ่ กนั 2 ครง้ั (ครัง้ ละ 1 วนิ าท)ี
เม่ือผู้ชว่ ยเหลือคนที่ 1 กดหน้าอกครบ 30 คร้ัง ทางานประสานกบั ผชู้ ว่ ยเหลือคนท่ี 1
(อัตรา 30:2)
10 สังเกตการเคล่อื นไหวของหน้าอกขณะช่วยหายใจ
ผลการฝึกปฏิบตั ิ
ลาดับ กจิ กรรม ปฏบิ ัติ ปฏิบัตไิ ด้ ไม่
ถกู ตอ้ ง ไม่ครบถว้ น ปฏบิ ัติ
ครบถ้วน
11 เมือ่ กดหนา้ อกและชว่ ยหายใจ ครบ 5 รอบ ผู้ช่วยเหลอื คนท่ี 1 ทาการตรวจชีพจรท่คี อ ถ้า
ไมม่ ีชพี จรหรอื ไมแ่ น่ใจ ให้บอกผู้ช่วยเหลอื คนที่ 2 เตรยี มกดหนา้ อกรอบตอ่ ไป
12 ผูช้ ว่ ยเหลือคนที่ 2 กดหนา้ อกตอ่
13 ผชู้ ่วยเหลือคนที่ 1 ทาการชว่ ยหายใจ ตดิ ต่อกนั 2 คร้ัง (ครัง้ ละ 1 วินาท)ี ประสานกับผู้
ชว่ ยเหลอื คนท่ี 2 ด้วยอตั รา 30:2
14 ตรวจชีพจรที่คอและเปลย่ี นสลบั ตาแหนง่ ทุก 2 นาที หรอื 5 รอบ
15 หากผูป้ วุ ยฉุกเฉินกลับมามชี พี จรและหายใจเองได้ ให้จดั ท่าพกั ฟื้น (ไมม่ ีสาเหตจุ ากอุบัติเหตุ)
ข้อคิดเหน็ โดยภาพรวมของอาจารยเ์ กี่ยวกบั ผลการปฏบิ ตั ิ
ปฏบิ ตั ไิ ดถ้ กู ตอ้ งครบถว้ นในทกุ ข้นั ตอน
ปฏิบตั ิได้ไม่ครบทกุ ข้ันตอนหรอื ไม่ไดป้ ฏบิ ตั ิ ต้องฝึกปฏิบตั ิเพ่มิ ระบุ………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชือ่ ........................................................อาจารย์ผปู้ ระเมิน
แบบฝึกทกั ษะ การชว่ ยฟนื้ คืนชพี ขั้นพื้นฐานเดก็ 1-8 ปี ผู้ชว่ ยเหลือคนเดียว (สาหรบั พฉพ.)
ชือ่ -สกลุ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….วันท…ี่ ……………………………………………………………………………………………
คาชีแ้ จง กรณุ าทาเคร่ืองหมาย √ ในชอ่ งผลการปฏบิ ัติกิจกรรม
ลาดบั กิจกรรม ผลการฝกึ ปฏบิ ตั ิ ไม่ปฏิบตั ิ
ปฏบิ ตั ถิ กู ตอ้ ง ปฏบิ ตั ิได้
1 SCENE SIZE-UP
ครบถว้ น ไมค่ รบถว้ น
- ใสอ่ ุปกรณป์ อู งกันตนเอง
- ประเมนิ ความปลอดภยั ของสถานการณ์
- ประเมนิ กลไกการบาดเจบ็
- ประเมนิ จานวนผู้บาดเจ็บ
- ประเมนิ เพอื่ ขอความชว่ ยเหลือเพม่ิ เตมิ
PRIMARY ASSESSMENT
2 บอกลกั ษณะทวั่ ไปของผปู้ วุ ยท่ีพบเห็น (general impression)
3 ยึดตรึงศรี ษะ (manual in line)ในกรณที ส่ี งสยั มีการบาดเจ็บที่กระดกู คอ
4 ประเมนิ ความรสู้ กึ ตวั (Level of consciousness: LOC )
5 แจง้ ศนู ยส์ งั่ การเพอื่ เรยี กชดุ ปฏบิ ตั กิ ารระดบั สงู และตามเคร่อื ง AED (ภายใตก้ ารขอคาสงั่ จากศนู ย์ )
6 ตรวจชีพจรทคี่ อพรอ้ มกบั การประเมนิ การหายใจอยา่ งรวดเรว็ (ไมต่ อ้ งทา ตาดู หฟู งั แก้มสัมผสั )
(ไมเ่ กิน 10 วินาที) โจทย์กาหนด : ไม่หายใจหรอื หายใจเฮอื ก
7 ทาการกดหนา้ อก 30 ครั้ง (อตั รา 100-120 ครง้ั /นาท)ี
- วาง 1 มอื ลงบนครง่ึ ล่างของกระดูกหน้าอก (lower half of the sternum)
- ทา่ ทางในการวางเข่า เหยยี ดแขนตงึ ตรง ในลกั ษณะตั้งฉากกับลาตัวผปู้ ุวย
- ความลกึ ในการกด 2 น้วิ (5 ซม.) หรอื อย่างน้อย 1/3 ของความหนาทรวงอก
- ปลอ่ ยให้มีการขยายของทรวงอกกลับคืนจนสุด (Fully recoil)
8 จัดทา่ เปดิ ทางเดินหายใจและดูแลทางเดินหายใจใหโ้ ลง่
9 ช่วยหายใจโดยปากเปาุ ผา่ นหนา้ กาก (mouth to mask include mouth to mouth ,
pocket mask) หรือชว่ ยหายใจโดยใช้ self inflating bag ตดิ ต่อกนั 2 คร้งั (ครั้งละ 1 วินาที)
10 สังเกตการเคล่อื นไหวของหนา้ อกขณะช่วยหายใจ
11 ทาการกดหน้าอกต่อ (อัตราการกดหนา้ อกตอ่ การช่วยหายใจ 30 : 2)
12 เมอื่ กดหนา้ อกและชว่ ยหายใจครบ 5 รอบ ทาการตรวจชพี จรที่คอ ถ้าไม่มีชีพจรหรือไม่แนใ่ จ
ใหก้ ดหน้าอกเพ่ือชว่ ยฟนื้ คนื ชีพรอบต่อไป
13 หากผู้ปวุ ยฉุกเฉนิ กลบั มามชี ีพจรและหายใจเองได้ ให้จดั ท่าพักฟน้ื (ไมม่ ีสาเหตจุ ากอุบัตเิ หต)ุ
ข้อคดิ เหน็ โดยภาพรวมของอาจารย์เกย่ี วกบั ผลการปฏิบัติ
ปฏิบตั ไิ ด้ถูกต้องครบถว้ นในทุกข้นั ตอน
ปฏบิ ัตไิ ด้ไม่ครบทุกข้นั ตอนหรอื ไมไ่ ดป้ ฏบิ ตั ิ ต้องฝกึ ปฏิบตั ิ
เพ่ิมเตมิ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..………………………
ลงชอ่ื ........................................................ผู้ประเมิน
แบบฝึกทกั ษะ การช่วยฟื้นคืนชพี ขั้นพนื้ ฐานเดก็ 1-8 ปี ผชู้ ่วยเหลือสองคน (สาหรบั พฉพ.)
ชอ่ื -สกลุ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….วนั ท…ี่ ……………………………………………………………………………………………
คาชี้แจง กรุณาทาเครื่องหมาย √ ในชอ่ งผลการปฏิบตั ิกิจกรรม
ลาดบั กิจกรรม ผลการฝึกปฏิบตั ิ
1 SCENE SIZE-UP ปฏบิ ตั ิถกู ตอ้ ง ปฏบิ ตั ไิ ด้ ไมป่ ฏบิ ัติ
ครบถว้ น ไมค่ รบถว้ น
- ใสอ่ ปุ กรณ์ปูองกันตนเอง
- ประเมินความปลอดภยั ของสถานการณ์
- ประเมนิ กลไกการบาดเจ็บ
- ประเมินจานวนผบู้ าดเจบ็
- ประเมินเพ่ือขอความช่วยเหลือเพ่ิมเตมิ
PRIMARY ASSESSMENT
ผู้ช่วยเหลือคนท่ี 1
2 บอกลกั ษณะทัว่ ไปของผปู้ วุ ยทพี่ บเหน็ (general impression)
3 ยึดตรึงศรี ษะ (manual in line)ในกรณที ส่ี งสยั มีการบาดเจบ็ ทก่ี ระดกู คอ
4 ประเมนิ ความรสู้ ึกตวั ( Level of consciousness: LOC )
5 แจง้ ศนู ยส์ ่งั การเพือ่ เรยี กชดุ ปฏบิ ัตกิ ารระดบั สูงและตามเครอ่ื ง AED
( ภายใต้การขอคาสง่ั จากศูนย์ )
6 ตรวจชีพจรที่คอ พรอ้ มกบั การประเมนิ การหายใจอยา่ งรวดเร็ว
(ไมต่ อ้ งทา ตาดู หูฟงั แก้มสมั ผสั ) (ไมเ่ กนิ 10 วินาที) โจทย์กาหนด:ไมห่ ายใจหรือหายใจเฮอื ก
7 ทาการกดหนา้ อก 15 คร้ัง (อัตรา 100-120 คร้งั /นาที)
- วาง 1 มือลงบนครึ่งลา่ งของกระดกู หนา้ อก (lower half of the sternum)
- ทา่ ทางในการวางเขา่ เหยยี ดแขนตึง ตรง ในลักษณะตั้งฉากกบั ลาตัวผปู้ ุวย
- ความลกึ ในการกด 2 นวิ้ (5 ซม.) หรืออย่างน้อย 1/3 ของความหนาทรวงอก
- ปล่อยให้มกี ารขยายของทรวงอกกลับคนื จนสุด (Fully recoil)
ผู้ช่วยเหลอื คนท่ี 2 มาถึง จุดเกิดเหตุ
8 จดั ท่าเปิดทางเดินหายใจและดแู ลทางเดนิ หายใจให้โล่ง
9 ชว่ ยหายใจโดยปากเปุาผา่ นหนา้ กาก (mouth to mask include mouth to mouth ,
pocket mask) หรอื ชว่ ยหายใจโดยใช้ self inflating bag ตดิ ต่อกนั 2 ครัง้ (ครั้งละ 1 วินาท)ี
เมอื่ ผูช้ ว่ ยเหลอื คนท่ี 1 กดหนา้ อกครบ 15 คร้ัง ทางานประสานกับผชู้ ่วยเหลอื คนที่ 1
(อัตรา 15:2)
10 สังเกตการเคลอ่ื นไหวของหนา้ อกขณะชว่ ยหายใจ
ผลการฝึกปฏบิ ตั ิ
ลาดับ กจิ กรรม ปฏิบัติ ปฏบิ ัติได้ ไม่
ถูกต้อง ไม่ครบถว้ น ปฏบิ ตั ิ
ครบถ้วน
11 เมือ่ กดหนา้ อกและช่วยหายใจ ครบ 10 รอบ ผู้ช่วยเหลือคนที่ 1 ทาการตรวจชพี จรท่คี อ
ถ้าไม่มีชพี จรหรอื ไมแ่ นใ่ จ ให้บอกผชู้ ่วยเหลือคนท่ี 2 เตรยี มกดหนา้ อกรอบต่อไป
12 ผู้ชว่ ยเหลอื คนที่ 2 กดหนา้ อกตอ่
13 ผ้ชู ว่ ยเหลอื คนที่ 1 ทาการชว่ ยหายใจ ตดิ ต่อกัน 2 ครั้ง (คร้งั ละ 1 วนิ าท)ี ประสานกบั
ผชู้ ่วยเหลือคนท่ี 2 ด้วยอตั รา 15:2
14 ตรวจชพี จรท่ีคอและเปลย่ี นสลบั ตาแหน่งทุก 2 นาที หรอื 10 รอบ
15 หากผู้ปวุ ยฉกุ เฉนิ กลบั มามีชีพจรและหายใจเองได้ ใหจ้ ัดท่าพกั ฟนื้ (ไมม่ สี าเหตุจากอุบัติเหตุ)
ข้อคดิ เห็นโดยภาพรวมของอาจารย์เกย่ี วกับผลการปฏบิ ัติ
ปฏิบัตไิ ดถ้ ูกต้องครบถว้ นในทกุ ข้นั ตอน
ปฏบิ ัติไดไ้ มค่ รบทุกขัน้ ตอนหรือไม่ได้ปฏบิ ัติ ต้องฝึกปฏบิ ตั ิเพม่ิ ระบุ…………………………………………………………………………………………………..….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่ือ ........................................................อาจารยผ์ ู้ประเมนิ
แบบฝกึ ทกั ษะการเชด็ ตัวลดไข้
ชือ่ -นามสกุล……………………………………………………………………………………..หนว่ ยงาน……………………………………………..วนั ท่ี…………………………………………
คาช้ีแจง กรุณาทาเครื่องหมาย ในชอ่ งผลการฝึกปฏบิ ัติ
กจิ กรรม ผลการฝกึ ปฏิบัติ
1.ประเมนิ สถานการณ์ (scene size up) ปฏิบัตไิ ดถ้ ูกตอ้ ง ปฏิบัตไิ ด้ ไม่ปฏิบตั ิ
1.1 ใช้อุปกรณ์ปูองกันตนเองอยา่ งเหมาะสม ครบถ้วน ไมค่ รบถ้วน
1.2 ประเมนิ ความปลอดภยั ของสถานการณ์
1.3 ประเมินกลไกการบาดเจ็บ/เจบ็ ปวุ ย
1.4 ประเมินจานวนผูบ้ าดเจ็บ
1.5 ประเมินเพ่ือขอความช่วยเหลือ
2.ประเมนิ สภาพผูป้ ุวยเบอื้ งต้น (primary assessment)
3.การเตรยี มอุปกรณ์ กะละมังใสน่ ้า ผา้ เช็ดตวั ผนื เล็ก 2-4 ผนื
4.วดั อุณหภมู กิ ่อนเช็ดตวั
5.เชด็ ตวั จากส่วนท่ปี ลายอวัยวะเข้าสรู่ ่างกาย
6.วางผา้ ไวต้ ามข้อพบั ไดแ้ ก่ ซอกคอ รกั แร้ ขาหนีบ ข้อพับแขน และบริเวณ
ศีรษะ
7.ก่อนเชด็ ตัว ระหว่างเชด็ ตวั และหลงั การเชด็ ตัว ควรกระตุ้นใหด้ ่มื นา้ บอ่ ยๆ
8.เช็ดตวั ลดไข้ไม่ควรนานเกิน 15-20 นาที
9.วัดไขซ้ ้าหลงั เช็ดตวั 30 นาที ถา้ ไข้ไมล่ ดเชด็ ตัวซา้
10.เก็บอุปกรณ์ทาความสะอาด
ข้อคิดเห็นโดยภาพรวมของอาจารย์เกี่ยวกับผลการฝึกปฏิบตั ิ
ปฏิบตั ไิ ดถ้ ูกตอ้ งในทุกข้ันตอน
ปฏิบตั ิไดไ้ ม่ครบถว้ นทุกขั้นตอนหรือไม่ไดป้ ฏบิ ัติ ต้องฝกึ ปฏบิ ตั เิ พม่ิ เติม (ระบกุ ารปฏิบัตทิ ่ตี ้องฝึกเพิ่มเตมิ )
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอ่ื ……………………………………………อาจารย์ผู้ประเมนิ
แบบฝกึ ทกั ษะ การเคลื่อนยา้ ยแบบฉุกเฉนิ
ชื่อ-นามสกลุ ……………………………………………………………………………………..หนว่ ยงาน……………………………………………..วนั ที่…………………………………………
คาช้แี จง กรุณาทาเคร่ืองหมาย ในช่องผลการฝึกปฏบิ ตั ิ ผลการฝึกปฏบิ ตั ิ
กจิ กรรม ปฏบิ ตั ิได้ ปฏบิ ัตไิ ด้ ไมป่ ฏบิ ัติ
ถูกตอ้ ง ไมค่ รบถว้ น
1.ประเมนิ สถานการณ์ (scene size up)
1.1ใช้อปุ กรณป์ อู งกันตนเองอย่างเหมาะสม
1.2ประเมินความปลอดภัยของสถานการณ์
1.3ประเมินกลไกการบาดเจ็บ/เจ็บปุวย
1.4ประเมินจานวนผ้บู าดเจบ็
1.5ประเมนิ เพอ่ื ขอความช่วยเหลอื
2.ประเมนิ สภาพผ้ปู วุ ยเบือ้ งต้น (primary assessment)
ผู้ช่วยเหลือประเมินแล้วสถานการณไ์ มป่ ลอดภยั จาเป็นต้องเคล่อื นย้ายแบบฉุกเฉิน
(Emergency Moves)
วธิ ีที่ 1การลากทร่ี กั แร้ (Axillary Drag)
1.1ผู้ช่วยเหลอื ยนื ด้านศรี ษะผปู้ ุวยฉกุ เฉนิ สอดมอื ท้ังสองข้างเข้าบริเวณใต้รักแร้
1.21.2 โอบแขนผูป้ วุ ยฉกุ เฉินเข้าหาลาตวั โดยจบั บรเิ วณข้อมือ และออกแรงลากไปตาม
แนวราบ
1.3 ผู้ช่วยเหลอื คอยสังเกตอาการผปู้ ุวยฉกุ เฉินอย่างต่อเนื่อง
วิธที ี่ 2การลากเส้ือ (Clothing Drag)
2.1 มัดมือของผู้ปุวยเข้าด้วยกันถ้าสามารถทาได้ อาจใช้ผ้าสามเหลี่ยม ผ้า เชือก แต่
ถ้าไม่วัสดุใดๆใหว้ างแขนขา้ งๆ ตวั ระวังการบาดเจ็บขณะทาการลาก
2.2 ผู้ช่วยเหลืออยู่ด้านศีรษะ สอดมือเข้าบริเวณใต้ลาคอ อาจมาจนถึงซอกรักแร้
และจับเส้ือผ้าบริเวณคอทั้งสองข้างให้แน่น ดึงให้ผ้ารองรับศีรษะผู้ปุวย หรือใช้ท่อน
แขนรองรับศรี ษะไว้
2.3 ผู้ชว่ ยเหลือดึงเสอื้ ผ้าบริเวณคอท้ังสองข้างของผูป้ ุวย ระวังการรัดบริเวณคอ
2.4 การลากจะต้องไม่ดึงตัวผปู้ วุ ยขึน้ สงู มากนัก ควรลากในแนวราบใกลพ้ นื้ เทา่ น้นั
กิจกรรม ผลการฝกึ ปฏบิ ตั ิ
วธิ ีที่ 3 การข้อเท้า (Bent Arm Drag) ปฏบิ ัตไิ ด้ ปฏบิ ัตไิ ด้ ไมป่ ฏบิ ตั ิ
3.1 ผ้ชู ่วยเหลือจดั ให้ผูป้ ุวยอยู่ในทา่ นอนหงายราบกบั พน้ื ให้แขนทั้งสองขา้ งยกขึน้ ถูกตอ้ ง ไม่ครบถว้ น
ไปทางศีรษะและวางแนบไปตามด้านศีรษะ
3.2ผูช้ ่วยเหลือยอ่ เขา่ ลงจบั บริเวณข้อเทา้ ท้ังสองข้าง
3.3 ลากโดยไมง่ อหลัง พยายามใหห้ ลงั ตรง ย่อตวั และเดนิ สลบั เทา้ ลากผูป้ วุ ยออกมา
วิธีที่ 4การลากด้วยผ้าห่ม (Blanket Drag)
4.1 ผชู้ ่วยเหลอื วางผา้ ห่มตามยาวกับตวั ผู้ปุวย
4.2 ผู้ชว่ ยเหลอื คกุ เขา่ ดา้ นตรงข้ามกับผา้ แลว้ พลิกตวั ผู้ปุวยเขา้ หาตวั ผ้ชู ่วยเหลอื
ห่มผา้ ให้รอบตัวและศรี ษะผูป้ ุวย
4.3 เมอ่ื หม่ ผ้ารอบตวั แลว้ ผูช้ ว่ ยเหลอื เตรยี มทาการลากถอยหลงั หันหน้าเข้าผปู้ วุ ย
เพ่อื สงั เกตอาการอาจย่อตัวลากหรือยนื ขน้ึ โดยต้องไมล่ ากในแนวทส่ี ูงเกนิ ไป
4.4 สงั เกตอาการของผู้ปวุ ยตลอดเวลาท่ลี ากผู้ปวุ ย
4.5 จดั ให้ผปู้ วุ ยอยู่ในทา่ นอนหงายราบกบั พนื้ ให้แขนท้ังสองขา้ งยกขึน้ ไปทางศีรษะ
และวางแนบไปตามด้านศีรษะ
วิธีที่ 5การลากแบบพนักงานผจญเพลงิ (Firefighter’s Drag)
5.1 ผู้ช่วยเหลอื มดั มือผูป้ วุ ยตดิ กนั แล้วผชู้ ่วยเหลือนั่งครอ่ มตวั ผู้ปวุ ยและสอดคอเขา้
ระหว่างขอ้ มอื ที่มดั ติดกนั ของผ้ปู วุ ย แล้วผูช้ ว่ ยเหลอื คลานลากไปขา้ งหนา้ เรื่อยๆ
5.2 ผู้ช่วยเหลือน่งั คร่อมตวั ผปู้ วุ ยและสอดคอเข้าระหว่างข้อมือ
5.3 ผู้ช่วยเหลอื ลากผูป้ ุวยตามแนวยาวของลาตัว
กจิ กรรม ผลการฝึกปฏบิ ตั ิ
วิธีท่ี 6 การอุ้มแบบพนกั งานผจญเพลิง (Firefighter’s Carry) ปฏบิ ตั ไิ ด้ ปฏบิ ัตไิ ด้ ไม่ปฏบิ ัติ
ถูกต้อง ไมค่ รบถ้วน
6.1 ผชู้ ่วยเหลือจัดให้ผ้ปู ุวยนอนหงายและชันเข่าทงั้ สองข้างขนึ้
6.2 ผชู้ ว่ ยเหลือ วางเท้ายนั เทา้ ของผ้ปู ุวยฉุกเฉนิ ให้ดนั กนั แลว้ ผชู้ ่วยเหลือเออ้ื มจบั
ที่ข้อมอื ผปู้ วุ ย เกร็งหลงั และกล้ามเน้ือหนา้ ท้อง ดงึ แขนแลว้ ยกตวั ผ้ปู ุวยข้ึนมา
6.3ผชู้ ่วยเหลือโน้มตัวและหลังไปด้านหนา้ ให้น้าหนักตัวช่วยดงึ ผ้ปู วุ ยขึน้ ผชู้ ว่ ย
ยอ่ ตัวและค่อยๆ ดงึ ผู้ปวุ ยข้ึนแบกที่ไหลด่ ้านใดดา้ นหน่ึง
6.4 ผู้ชว่ ยเหลือยืนขนึ้ ใชม้ อื จับมอื ผู้ปวุ ยไว้ มืออีกข้างสอดที่บรเิ วณเข่าผปู้ ุวย ยดึ
ไว้
6.5 ขณะช่วยระวังการบาดเจ็บของกระดูกสันหลงั ของผ้ปู ุวยเสมอ
วิธีท่ี 7การลากถอยหลงั (ลากออกจากรถแบบฉุกเฉนิ )
7.1 ผชู้ ว่ ยเหลือเขา้ ด้านข้าง สอดมือจบั ทีบ่ ริเวณสะโพกและแขนด้านใกลต้ วั ของ
ผูป้ ุวยแล้วลากออกมาท่ีขอบหรอื บริเวณประตรู ถ
7.2 ผู้ช่วยเหลอื สอดมือเข้าใต้รักแร้และจับมอื ด้านไกลตัวผ้บู าดเจ็บวางพาด
หน้าอก แล้วจบั ข้อมือผูป้ ุวย สลับข้างกันกบั ผู้ปวุ ย โดยมอื ขวาจับท่ขี ้อมือซ้ายและ
มอื ซา้ ยจบั ทข่ี ้อมือขวา
7.3 ผู้ชว่ ยเหลือลากผ้บู าดเจบ็ ออกมาจากตวั รถ ใชล้ าตัวผู้ช่วยเหลอื ประคองตวั
ผบู้ าดเจบ็ ไว้ ไมใ่ หโ้ งนเงน ขณะจะวางลงพยายามใช้ต้นขารับน้าหนักผบู้ าดเจบ็ ไว้
แลว้ วางผูบ้ าดเจ็บลงบนพ้ืนอยา่ งนิม่ นวล
ข้อคิดเห็นโดยภาพรวมของอาจารย์เกย่ี วกับผลการฝกึ ปฏิบตั ิ
ปฏบิ ัตไิ ดถ้ ูกต้องในทุกขั้นตอน
ปฏิบัติไดไ้ ม่ครบถ้วนทุกขัน้ ตอนหรือไม่ไดป้ ฏบิ ตั ิ ต้องฝกึ ปฏบิ ัตเิ พม่ิ เติม (ระบุการปฏิบตั ทิ ่ตี ้องฝึกเพิ่มเติม)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชือ่ ……………………………………………………………………………………อาจารย์ผู้ประเมนิ
แบบฝกึ ทักษะ การเคล่ือนยา้ ยแบบไม่ฉกุ เฉิน
ชอื่ -นามสกุล……………………………………………………………………………………..หน่วยงาน……………………………………………..วนั ท่ี…………………………………………
คาชี้แจง กรุณาทาเครื่องหมาย ในช่องผลการฝึกปฏิบัติ ผลการฝึกปฏิบัติ
กิจกรรม ปฏิบตั ิได้ ปฏบิ ตั ิได้ ไมป่ ฏบิ ตั ิ
ถกู ต้อง ไมค่ รบถ้วน
1.ประเมนิ สถานการณ์ (scene size up)
ใช้อปุ กรณป์ ูองกนั ตนเองอย่างเหมาะสม
ประเมินความปลอดภัยของสถานการณ์
ประเมินกลไกการบาดเจ็บ/เจบ็ ปุวย
ประเมินจานวนผ้บู าดเจบ็
ประเมินเพื่อขอความชว่ ยเหลอื
2.ประเมินสภาพผู้ปวุ ยเบื้องต้น (primary assessment)
ผู้ชว่ ยเหลอื ประเมนิ แลว้ พิจารณาให้เคลอ่ื นยา้ ยแบบไม่ฉุกเฉิน
(Non Urgent Moves)
วิธีท่ี 1การพยงุ เดินโดยผชู้ ว่ ยเหลือคนเดียว
1.1 ผชู้ ว่ ยเหลือเข้าประชิดตวั ผู้ปุวยด้านท่ไี ดร้ ับบาดเจ็บ
1.2ผู้ช่วยเหลือจบั ขอ้ มือผู้ปวุ ยมาคล้องคอของผู้ชว่ ยเหลอื พร้อมกับผู้ชว่ ยเหลือใชข้ า
ของตนองล็อคขาของผู้ปุวยข้างที่ไดร้ บั บาดเจ็บ
1.3 ผู้ชว่ ยเหลอื บอกให้ผ้ปู ุวยเดิน โดยใช้ขาของผู้ช่วยเหลือเป็นตวั ช่วยในการนาเดนิ
วิธีที่ 2การพยุงเดินโดยผชู้ ่วยเหลือสองคน
2.1 ผู้ชว่ ยเหลือทัง้ สองคนเขา้ ประคองผปู้ ุวยคนละขา้ ง
2.2 ผชู้ ว่ ยเหลือแต่ละคน จบั ข้อมือผู้ปุวยคนละข้างมาคลอ้ งคอตนเอง
2.3 ผู้ช่วยเหลือท้ังสองคนค่อยๆ พยุงเดิน และบอกทิศทางการเดินกับผู้ปุวยว่าจะ
เดินไปทางไหน
กิจกรรม ผลการฝึกปฏิบัติ
วิธีที่ 3 การอุ้มหน้าหลังสองคน(การอมุ้ ทีแ่ ขนและขา )(Extremity Lift) ปฏบิ ตั ิได้ ปฏบิ ัตไิ ด้ ไม่ปฏบิ ัติ
ถูกต้อง ไมค่ รบถว้ น
3.1 ผู้ชว่ ยเหลือคนท่ีหน่ึงอยูด่ ้านศรี ษะย่อเข่าลง ใหศ้ รี ษะผู้ปุวยอยรู่ ะหวา่ งเขา่ จัด ให้
ผบู้ าดเจ็บกอดอกไว้ และผชู้ ว่ ยเหลือคนท่สี องคุกเข่าอยู่ด้านขา้ งของผปู้ ุวย
3.1ผู้ช่วยเหลือคนทีห่ นึ่ง สอดแขนจากด้านหลงั ใต้รักแรแ้ ละจบั ขอ้ มือผปู้ ุวยโดยสลับ
ข้างระหวา่ งผูป้ ุวยและผู้ช่วยเหลือและหากว่าผูไ้ ม่รู้สกึ ตวั ให้ผู้ช่วยเหลือคนทสี่ องชว่ ย
จับข้อมือผปู้ ุวยให้อยู่ในมือผ้ชู ่วยเหลอื คนทีห่ น่งึ โดยใหล้ าตัวของผูป้ ุวยพิงท่หี นา้ อกผู้
ชว่ ยเหลอื คนทห่ี นึ่ง ไม่ให้โงนเงนเพือ่ ความปลอดภยั
3.3 ผู้ช่วยเหลอื คนที่สองใชแ้ ขนด้านหน่ึงสอดใต้ตน้ ขา และแขนอีกดา้ นหนงึ่ สอดใต้
เขา่ ผู้ปวุ ย ประคองขาไว้
3.4 ผู้ช่วยคนที่หนง่ึ ให้จงั หวะการยก และต้องยกขึ้นตรงๆ เพือ่ ออกเดินเพือ่ นาผปู้ ุวย
ไปสู่เปลนอน
วิธีที่ 4การอุ้มสองคนแบบเก้าอสี้ องมือ
4.1ผชู้ ่วยเหลอื ทั้งสองคนหันหนา้ เขา้ หาผูป้ ุวย ย่อตัวและตั้งเข่าคนละด้าน ใหผ้ ปู้ วุ ยอยู่
ตรงกลาง
4.2 ผชู้ ว่ ยเหลือทงั้ สองคนไขว้แขนทดี่ ้านหลงั ผบู้ าดเจ็บ จบั บริเวณเอวเพ่ือจบั ขอบ
กางเกงหรือเข็มขัดของผู้ปวุ ย
4.3 ผู้ชว่ ยเหลือทั้งสองคนสอดมอื ข้างที่ใตเ้ ข่าผู้ปวุ ยและจับข้อมือกันใหแ้ น่น แล้ว
เลือ่ นขอ้ มือท่ีจับกลับมาทต่ี ้นขาของผ้ปู วุ ย ให้เขา่ ผชู้ ่วยเหลือทั้งสองคนชิดกับตัวผปู้ ุวย
4.4 ผูช้ ่วยเหลอื ทั้งสองคนให้จงั หวะการลุก และขณะลุกต้องทาหลงั ตรงลุกช้าๆ
พร้อมกนั และก้าวเดิน
ข้อคิดเหน็ โดยภาพรวมของวิทยากรเกย่ี วกบั ผลการฝกึ ปฏิบตั ิ
ปฏบิ ตั ไิ ด้ถูกตอ้ งในทุกขั้นตอน
ปฏบิ ตั ไิ ดไ้ ม่ครบถ้วนทุกขั้นตอนหรือไม่ได้ปฏิบัติ ต้องฝกึ ปฏบิ ัตเิ พ่ิมเติม (ระบกุ ารปฏิบตั ิทต่ี อ้ งฝึกเพิ่มเติม)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่ือ ……………………………………………………………………………………วทิ ยากรผู้ประเมนิ
แบบฝึกทักษะ RAPID EXTRICATION
ชอื่ -นามสกุล………………………………………………………….หนว่ ยงาน……………………………………วันที่…………………………………………
คาช้แี จง กรุณาทาเครื่องหมาย ในช่องผลการฝึกปฏิบัติ
กจิ กรรม ผลการฝึกปฏบิ ัติ
1.ประเมนิ สถานการณ์ (scene size up) ปฏบิ ตั ิได้ ปฏบิ ัติได้ ไมป่ ฏิบัติ
ถกู ตอ้ ง ไม่ครบถว้ น
1.1 ใช้อปุ กรณ์ปูองกนั ตนเองอย่างเหมาะสม
1.2 ประเมินความปลอดภยั ของสถานการณ์
1.3 ประเมนิ กลไกการบาดเจ็บ/เจ็บปวุ ย
1.4 ประเมินจานวนผูบ้ าดเจบ็
1.5 ประเมินเพ่ือขอความชว่ ยเหลือ
2.ประเมินสภาพผูป้ วุ ยเบ้ืองต้น (primary assessment)
3.หัวหน้าทมี แจง้ ให้ทมี ทราบถึงแผนการทา Rapid Extrication
4.การทา Rapid Extrication
4.1 ผชู้ ่วยเหลือคนท่ี 1 เดนิ เข้าหาผบู้ าดเจ็บทางด้านรถเพ่ือพดู เบย่ี งเบนความสนใจ
4.2 ผชู้ ว่ ยเหลือคนที่ 2 เข้าประคองศีรษะและคอ ทา manual in-line (เขา้ ทางประตู
หลัง)
4.3 ผชู้ ่วยเหลือคนที่ 1 เปิดประตู้หน้าเพ่ือปลดเข็มขัดนริ ภัย ประคองผบู้ าดเจบ็ หน้า –
หลงั ดว้ ยทอ่ นแขนทั้ง 2 ข้าง
4.4 ผชู้ ่วยเหลอื คนท่ี 2 จับศีรษะผบู้ าดเจ็บให้อยูใ่ น Neutral position
4.5 ผู้ช่วยเหลือคนที่ 1 ประเมนิ อาการผู้บาดเจบ็ ด้วยสายตาอยา่ งรวดเรว็ (อาการไม่
คงที่ พิจารณาทา Rapid Extrication)
4.6 ผชู้ ่วยเหลอื คนท่ี 3 อ้อมไปประคองศีรษะ และคอทางประตดู า้ นข้างคนนงั่
4.7 ผ้ชู ว่ ยเหลอื คนที่ 1 ทาการวัดและสวม Collar เลื่อนเบาะ และทา chin grip –
neck grip
4.8 ผชู้ ว่ ยเหลือคนที่ 2 ทาการประคองศีรษะและคอจากด้านขา้ งรถ
4.9 เปลย่ี นให้ผชู้ ว่ ยเหลอื คนที่ 1 เปน็ ผู้ประคองศรี ษะและคอ เตรียมหมนุ ตัวผ้บู าดเจบ็ ที
ละ 45 องศา โดยให้ผู้ช่วยเหลอื คนท่ี 3 ยกขาผา่ นคอนโซลกลาง
4.10 ผูช้ ว่ ยเหลอื คนท่ี 4 สอด long spinal board ตั้งให้สงู ท่ีสดุ เพื่อรองรบั หลัง
4.11 ผู้ช่วยเหลอื คนท่ี 1 เอนตวั ผูบ้ าดเจ็บลงบน long spinal board
4.12 ผชู้ ว่ ยเหลือคนที่1 จับบริเวณใตร้ กั แร้ ผชู้ ่วยเหลอื คนที่ 3 จบั บรเิ วณบ้นั เอว เพื่อ
เลื่อนตวั ผูบ้ าดเจบ็ ภายใต้การสงั่ การของผูช้ ่วยเหลือคนที่ 2 (หา้ มกาหรือขยาเสื้อผ้า)
กิจกรรม ผลการฝกึ ปฏิบัติ
4.13 ผู้ช่วยเหลอื คนที่ 2 ให้สญั ญาณเลอื่ นตัวจนไหล่ชดิ เบาะรองศีรษะ ผู้ชว่ ยเหลอื คนท่ี ปฏิบัตไิ ด้ ปฏบิ ตั ิได้ ไมป่ ฏบิ ตั ิ
4 ค่อยๆ ลด long spinal board ตา่ ลง นั่งคกุ เข่าวาง long spinal board ลงบนหนา้ ถูกต้อง ไม่ครบถ้วน
ขา
4.14 ผูช้ ว่ ยเหลอื คนท่ี 4 เบี่ยงตวั ไปทางด้านขา้ ง ผูช้ ว่ ยเหลือคนท่ี 1 และ 3 ชว่ ยจับ
long spinal board คนละข้าง
4.15 ผชู้ ว่ ยเหลือคนท่ี 2 ส่งั ใหย้ ก long spinal board ข้ึนและหยดุ น่งิ อยกู่ บั ท่ี ส่งั
เดนิ หนา้ และวางลง
4.16 ผู้ชว่ ยเหลอื คนที่ 2 ทาการประคองศีรษะและคอพร้อมวางศอกใหม้ น่ั คงผู้ช่วย
เหลือคนที่ 1 ปลด Collar เพ่ือประเมิน ABC (ถา้ ไม่มีคนทา Manual in line ห้าม
ปลด Collar)
4.17 ทาการรดั สายรดั สามเส้น และตดิ หมอนประคองศีรษะ
5. ซกั ประวัตแิ ละตรวจสัญญาณชีพ : Sample ,Vital signs, O2 sat
6. สังเกตอาการผู้บาดเจ็บขณะเคล่ือนย้าย
ข้อคิดเหน็ โดยภาพรวมของอาจารย์เกย่ี วกบั ผลการฝกึ ปฏิบัติ
ปฏิบตั ิได้ถูกตอ้ งในทุกขั้นตอน
ปฏิบตั ิไดไ้ ม่ครบถว้ นทุกขน้ั ตอนหรือไม่ได้ปฏิบัติ ต้องฝกึ ปฏิบตั เิ พมิ่ เติม (ระบกุ ารปฏบิ ัติท่ตี ้องฝกึ เพ่ิมเตมิ )
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่ือ ……………………………………………………………………………………อาจารย์ผู้ประเมนิ
แบบประเมินทักษะการยกและเคลอ่ื นย้ายผู้บาดเจ็บโดยไมใ่ ช้อุปกรณ์การอมุ้ แบบท่อนซงุ (LOG ROLL) 3 คน
ชอื่ -นามสกุล……………………………………………………………………………………..หนว่ ยงาน……………………………………………..วนั ท่ี…………………………………………
คาชแี้ จง กรณุ าทาเครื่องหมาย ในช่องผลการฝึกปฏบิ ตั ิ
กิจกรรม ผลการฝกึ ปฏิบัติ
ปฏบิ ัติได้ ปฏบิ ตั ไิ ด้ ไม่
ถกู ตอ้ ง ไม่ ปฏิบตั ิ
ครบถว้ น
1.ประเมนิ สถานการณ์ (scene size up)
1.1 ใช้อปุ กรณป์ ูองกันตนเองอย่างเหมาะสม
1.2 ประเมนิ ความปลอดภยั ของสถานการณ์
1.3 ประเมินกลไกการบาดเจ็บ/เจ็บปุวย
1.4 ประเมนิ จานวนผู้บาดเจ็บ
1.5 ประเมินเพอื่ ขอความชว่ ยเหลือ
2.ประเมนิ สภาพผู้ปวุ ยเบ้อื งตน้ (primary assessment)
3.หวั หน้าทีมแจ้งผบู้ าดเจบ็ และอธบิ ายใหท้ ีมทราบถงึ แผนการอมุ้ แบกแบบทอ่ นซุง
4.จดั ท่าใหผ้ ้บู าดเจบ็ ในท่านอนหงายกอดหนา้ อก
5ผู้ช่วยเหลือทงั้ สามคนนั่งคกุ เข่าด้านเดยี วกนั โดยใหแ้ ขนอยู่ในช่วงเขา่ ตนเอง
5.1 คนที่ 1 สอดมอื รองศรี ษะและไหล่
5.2 คนที่ 2 รองเหนือเอวและหนา้ ขา
5.3 คนที่ 3 รองเหนอื เขา่ และนอ่ งผู้บาดเจ็บ
6.หวั หนา้ ทีมสงั่ การใหย้ กผบู้ าดเจบ็ ขึ้นพักเขา่ ยนื ขนึ้ พับผบู้ าดเจบ็ แนบ
เขา้ หาตวั เองก่อนการเคลอ่ื นย้าย
7.ขณะยก support บริเวณคอและหลังให้ตรง ไม่บดิ งอ
8.จดั ตาแหนง่ การยนื ถ่ายน้าหนกั แกผ่ ูช้ ว่ ยเหลืออยา่ งสมดลุ
9.วางโดยเหยียดแขนผชู้ ่วยเหลือออก ยอ่ ตวั วางพับเขา่ และวางลงพน้ื
อย่างนมุ่ นวล
10.จดั ผ้บู าดเจ็บลงนอน จดั ท่าใหเ้ รียบรอ้ ยพร้อมทัง้ สงั เกตอาการ
ของผบู้ าดเจบ็ ขณะเคลือ่ นยา้ ย
ขอ้ คิดเห็นโดยภาพรวมของอาจารย์เกีย่ วกับผลการฝึกปฏิบตั ิ
ปฏิบตั ไิ ด้ถูกตอ้ งในทุกขั้นตอน
ปฏบิ ตั ิไดไ้ ม่ครบถว้ นทุกขน้ั ตอนหรือไม่ไดป้ ฏิบัติ ต้องฝกึ ปฏบิ ตั เิ พิม่ เติม (ระบุการปฏิบตั ทิ ต่ี อ้ งฝกึ เพิ่มเติม)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………...............
ลงชื่อ …………………………………………………………อาจารย์ผ้ปู ระเมิน
แบบฝึกทักษะ การใช้ LONG SPINAL BOARD
ช่ือ-นามสกลุ ……………………………………………………………………………………..หน่วยงาน……………………………………………..วันที่…………………………………………
คาชแ้ี จง กรณุ าทาเคร่ืองหมาย ในช่องผลการฝึกปฏบิ ัติ
กจิ กรรม ผลการฝึกปฏิบัติ
1.ประเมินสถานการณ์ (scene size up) ปฏิบัตไิ ดถ้ ูกต้อง ปฏิบตั ิได้ ไมป่ ฏบิ ตั ิ
1.1 ใช้อุปกรณ์ปูองกนั ตนเองอยา่ งเหมาะสม ไม่ครบถ้วน
1.2 ประเมินความปลอดภัยของสถานการณ์
1.3 ประเมินกลไกการบาดเจ็บ/เจ็บปวุ ย
1.4 ประเมนิ จานวนผบู้ าดเจ็บ
1.5 ประเมินเพอ่ื ขอความช่วยเหลือ
2.ประเมินสภาพผปู้ ุวยเบื้องตน้ (primary assessment)
3.หวั หน้าทมี แจ้งผบู้ าดเจบ็ และอธบิ ายให้ทมี ทราบถึงแผนการใช้ Long Spinal Bord
4.ผู้ช่วยเหลอื คนท่ี 1 เปน็ หัวหน้าในการสงั่ การเคล่ือนยา้ ย
และต้องทา (manual in line stabilization) การประคองศีรษะ
ไวต้ ลอดหลงั จากผา่ นขนั้ ตอนของการประเมินผ้ปู วุ ยเบื้องต้น
และมีข้อบ่งชใ้ี นการประคองศรี ษะ
5.ผู้ช่วยเหลือคนที่ 2 ใส่ hard collar ใหก้ ับผปู้ ุวย
6. ผู้ช่วยเหลอื คนที่ 2จะคุกเขา่ ขา้ งบรเิ วณกึ่งกลางของหนา้ อก (midthorax) จะใชม้ ือขา้ ง
หนงึ่ จับทีห่ วั ไหล่ (shoulder) และมือขา้ งหน่ึงจบั ทสี่ ะโพก (hip) ของผปู้ วุ ย (มอื ขา้ งนต้ี ้อง
วางหน้ามอื ของผชู้ ่วยเหลือท่านท่ี 3 เสมอ)
7. ผชู้ ่วยเหลอื คนท่ี ๓ จะคุกเข่าอยบู่ ริเวณสะโพกและเข่าของผปู้ ุวย ใช้มือข้างหนึ่งจบั ท่ี
ทรวงอกตอนล่าง (lower chest) และมืออีกข้างจบั ท่ีกระดกู ตน้ ขา
ไขว้มอื กับผ้ชู ว่ ยเหลอื คนที่ 2
8.ผูช้ ว่ ยเหลือคนท่ี ๑ สัง่ การเพ่อื ให้พลกิ ตวั ผปู้ ุวยตะแคง 90 องศา โดยเปล่ยี นมอื ข้างท่ี
ประคองศีรษะทางดา้ นที่จะพลกิ ไป เปน็ การจบั ที่ไหล่
และใชท้ ่อนแขนประคองศรี ษะของผู้ปุวยแทน ผู้ชว่ ยเหลอื คนที่ 2 และ 3 ใช้เข่าคา้ ตัวผปู้ วุ ย
ไมใ่ ห้เล่อื นเขา้ หาผ้ชู ว่ ยเหลอื ขณะทาการพลิกตัวผู้ปุวย
โดยต้องให้ลาตัวของผู้ปวุ ยเป็นแนวตรงเสมอ
9. ผู้ช่วยเหลอื คนที่ ๒ ใช้มอื ข้างทจ่ี ับสะโพกของผู้ปวุ ย มาตรวจแผ่นหลงั แล้วเอ้อื มไปดึง
spinal board ใหต้ งั้ รบั หลังผู้ปวุ ย โดยใหส้ ่วนปลาย
ของ spinal board อยูร่ ะหวา่ งหวั เข่าและส้นเทา้ ของผู้ปุวย
กิจกรรม ผลการฝกึ ปฏิบตั ิ
10. ผชู้ ่วยเหลอื คนท่ี 1 สง่ั การให้วางผู้ปุวยลงบน spinal board ปฏบิ ตั ิได้ ปฏบิ ัติได้ ไม่
ผู้ชว่ ยเหลือคนที่ 2 และ 3คอ่ ยๆวางตัวผู้ปวุ ยลงบน spinal board ถกู ต้อง ไม่ ปฏิบัติ
11. ผ้ชู ว่ ยเหลือคนท่ี 1ส่ังการเล่อื นตวั ผู้ปุวยมาตรงกลาง Spinal board โดยตอ้ งทา Head grip
change แล้วเลื่อนมือท้งั 2ขา้ งมาจบั ทไ่ี หลแ่ ละใช้ท่อนแขนประคองศรี ษะ ก่อนท่จี ะทาการเลอ่ื นตัว ครบถ้วน
ผูป้ ุวย
ผู้ช่วยเหลือคนท่ี 2 จับบรเิ วณใตร้ กั แร้ ท้ังสองข้าง
ผู้ช่วยเหลอื คนท่ี 3จับบริเวณสะโพก (ไมจ่ ับเส้อื ผ้า)
12. ผู้ช่วยเหลอื คนท่ี 2และ 3เลื่อนผปู้ ุวยตามแนวทะแยงให้ไหลช่ ิดส่วนรอง Head Immobilizer
13.ทา Head grip change แลว้ รดั ตัวผบู้ าดเจ็บตดิ กบั Spinal board ด้วยสายรัดอยา่ งน้อย ๓เส้น
เหนืออก เหนือหวั หน่าว และเหนอื เขา่
14. ผูกแขนข้างท่ีบาดเจบ็ ติดกับสายรดั เส้นที่คาดเหนอื หวั หน่าวและเหนือเข่า
15. ทา Head grip change ติดหมอนประคองศีรษะแล้วคาดสายรดั หนา้ ผาก
และสายรดั ใต้คาง
16.จดั ทา่ ผู้บาดเจ็บให้เหมาะสมคลมุ ผา้ ให้เรยี บรอ้ ยกอ่ นการเคลอ่ื นยา้ ย
17.ผูช้ ่วยเหลอื ทงั้ หมดหนั หน้าไปในทศิ ทางเดยี วกันพร้อมทัง้ ตั้งเข่าขา้ งเดยี วกันข้ึนทง้ั สามคนแลว้ ทา
การยกผปู้ ุวยข้นึ โดยใหผ้ ู้ชว่ ยเหลืออยูด่ ้านหน้าสองคนและอยดู่ ้านหลงั หน่งึ คน
18.ผู้ช่วยเหลอื คนท่ีหนงึ่ สัง่ การ เพ่อื ยก เดนิ วาง หรือเคลอื่ นยา้ ยผู้ปวุ ยไปยัง
เปลนอนต่อไป
19. ขณะยกไมง่ อหลังหรือเอว
20.สงั เกตอาการผู้ปวุ ยขณะทาการเคลอื่ นย้าย
ขอ้ คิดเห็นโดยภาพรวมของอาจารย์เกีย่ วกบั ผลการฝกึ ปฏบิ ตั ิ
ปฏิบัติได้ถูกต้องในทุกขนั้ ตอน
ปฏบิ ตั ิไดไ้ มค่ รบถ้วนทุกขน้ั ตอนหรอื ไมไ่ ด้ปฏิบตั ิ ตอ้ งฝึกปฏบิ ตั เิ พมิ่ เตมิ (ระบกุ ารปฏบิ ัตทิ ตี่ อ้ งฝกึ เพมิ่ เติม)
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชือ่ ……………………………………………………………………………………อาจารยผ์ ปู้ ระเมนิ
แบบฝกึ ทักษะ การใช้ KENDRICK EXTRICATION DEVICE (KED)
ชือ่ -นามสกุล……………………………………………………………………………………..หน่วยงาน……………………………………………..วันท่ี…………………………………………
คาชี้แจง กรณุ าทาเคร่ืองหมาย ในชอ่ งผลการฝึกปฏบิ ตั ิ
กจิ กรรม ผลการฝึกปฏิบตั ิ
1.ประเมินสถานการณ์ (scene size up) ปฏบิ ัตไิ ด้ ปฏบิ ัตไิ ด้ ไมป่ ฏบิ ตั ิ
ถกู ต้อง ไม่ครบถว้ น
1.1 ใช้อปุ กรณ์ปอู งกนั ตนเองอยา่ งเหมาะสม
1.2 ประเมนิ ความปลอดภยั ของสถานการณ์
1.3 ประเมนิ กลไกการบาดเจ็บ/เจบ็ ปุวย
1.4 ประเมนิ จานวนผบู้ าดเจบ็
1.5 ประเมินเพอ่ื ขอความช่วยเหลือ
2.ประเมนิ สภาพผู้ปวุ ยเบื้องต้น (primary assessment) โดยหวั หนา้ ทีม
2.1 ผู้ชว่ ยเหลือคนทห่ี น่ึงยดึ ตรึงศรี ษะและคอ (ตามสภาพของยานพาหนะ)
2.2ประเมินทางเดนิ หายใจ (ถามชอื่ ผู้บาดเจบ็ ประเมินวา่ มีการอดุ กนั้ ทางเดนิ หายใจส่วนบน
เช่น เสมหะ หรือส่ิงแปลกปลอม)
2.3 ประเมินการหายใจ
2.4ประเมนิ ระบบไหลเวียนโลหิต คลาชีพจรท่ีข้อมือและข้อพบั ดสู ปี ลายมอื -เทา้ อุณหภูมิ
อุณหภูมิปลายมือ-เทา้ เพ่ือประเมนิ ภาวะชอ็ ค
3. หัวหน้าทมี อธบิ ายให้ผ้บู าดเจบ็ และทมี ทราบถึงแผนการเคลื่อนย้าย หลังประเมิน
และพิจารณาวา่ จาเปน็ ต้องใช้ KED
4. ผูช้ ่วยเหลือคนท่ี 2เปดิ ประตูหลงั ถอดหมอนรองคอของเบาะรถออก(ตามสภาพของ
พาหนะ) ประคองศีรษะและคอ Manual in line จากด้านหลงั
5. ผู้ช่วยเหลอื คนที่ 1เปิดประตูหน้าตรวจสอบความปลอดภัยอีกคร้ัง ปลดเข็มขัดนิรภัย
ประคองตวั ผูบ้ าดเจ็บหน้า – หลัง ตามแนวกระดูกสนั อกและกระดูกสนั หลัง
โดยใช้ท่อนแขนทง้ั 2 ข้างของตนเพอ่ื เอนผบู้ าดเจ็บพิงเบาะ
6. ผู้ช่วยเหลอื คนที่ 2ให้สัญญาณเพื่อเอนผบู้ าดเจ็บจากทา่ น่ังฟุบมาจนลาตัวตั้งตรง
7. ผ้ชู ่วยเหลือคนที่ 1ทาการประเมินผู้บาดเจ็บด้วยสายตาอย่างรวดเร็ว ผู้บาดเจ็บต้อง
ร้สู ึกตัวดี มีอาการคงทีจ่ ึงพิจารณาใส่ KEDภายใต้การอานวยการทางการแพทย์ (ค)
8. ผู้ชว่ ยเหลือคนที่ 3ออ้ มไปทางหลงั รถ เปดิ ประตูด้านข้างคนนงั่ และเขา้ มาเพื่อช่วย
ประคองลาตัว เมอื่ ประคองมั่นคง ให้สัญญาณผู้ชว่ ยเหลือคนท่ี 1สามารถปล่อยมือได้
9. ผชู้ ว่ ยเหลอื คนที่ 1ทาการวัดและสวมเฝือกดามคอ ขนาดเหมาะสม
10.ผู้ชว่ ยเหลอื คนที่ 1 เล่ือนเบาะโดยปรบั พนักพิงให้ต้งั ตรงและปรับพวงมาลยั
11. ผชู้ ่วยเหลอื คนท่ี 3 เอนตัวผบู้ าดเจบ็ มาด้านหนา้ เล็กน้อย พอที่จะสอด KED ภายใต้
การประคองศีรษะและคอ และประคองกระดูกสนั หลังสว่ นลาตวั
กจิ กรรม ผลการฝึกปฏบิ ัติ
12. ผชู้ ่วยเหลอื คนท่ี 1 ตรวจสอบบริเวณด้านหลังของผบู้ าดเจบ็ การใส่ KED เชน่ ปฏบิ ตั ไิ ด้ ปฏบิ ตั ไิ ด้ ไม่
กระเป๋าเงิน เขม็ ขัด ถูกตอ้ ง ไม่ ปฏิบตั ิ
13. ผชู้ ่วยเหลอื คนท่ี 1 สอด KED เขา้ ด้านหลังของผู้บาดเจบ็ สง่ สายรดั ขาด้านซ้าย
ไปท่ีเบาะนงั่ ดา้ นซ้าย ระวังอย่าใหส้ ายรดั ขาถูกทับอยดู่ ้านหลัง KEDหรืออยู่ระหว่างตวั ครบถว้ น
ผบู้ าดเจบ็ กับ KED
14. ผชู้ ว่ ยเหลือคนท่ี 3 เอนตวั ผ้บู าดเจ็บใหห้ ลงั พงิ อยบู่ น KED
ผชู้ ว่ ยเหลือคนที่ 1 และ 3 จดั ใหข้ อบบนของสว่ นรัดลาตวั ชดิ รกั แร้ของผู้บาดเจ็บ ดึงหูหิ้ว
อนั บนเพอื่ จะให้ KED อยูใ่ นแนวกง่ึ กลางลาตวั
15. ผู้ช่วยเหลือคนที่ 1 และ 3 ช่วยกันพันส่วนรัดลาตัว ติดหัวเข็มขัดสายรัดตัวดึงให้
กระชับ โดยใชม้ ือขา้ งหนง่ึ ช่วยสง่ กลางสาย และมอื อีกข้างดึงปลายสาย การติดสายรัดตัว
ใหเ้ รม่ิ สายกลาง และสายล่างตามลาดับ ม้วนเก็บปลายสายให้เรียบร้อย ส่วนสายบนสุด
จะรัดเมอ่ื พร้อมทีจ่ ะเล่อื นผบู้ าดเจ็บ
ออกจากรถยนต์ เพ่อื ไม่ใหก้ ดรดั บริเวณหนา้ อก ทาให้หายใจไม่สะดวก
16.ผูช้ ว่ ยเหลือคนที่ 1 ตรวจสอบระบบประสาทและการไหลเวียนโลหิตของขา ก่อนรัด
สายรดั ขา
17. ผชู้ ่วยเหลอื คนท่ี 1 และ 3 รดั สายรดั ขาคนละขา้ ง สายรดั ขามกั จะติดตรง
บริเวณก้น หรือเบาะ ให้รัดสายรัดขาให้ตรงและกระชับ ค่อยๆขยับสายเข้าไปจนชิดขา
หนบี แล้วติดลอ็ คกบั หวั เข็มขดั ข้างเดียวกนั และรดั ให้กระชับ
18. ผู้ช่วยเหลือคนที่ 1 ตรวจสอบระยะระหว่างศีรษะบริเวณท้ายทอยกับ KED ถ้ามี
ชอ่ งว่างกวา้ งขนาดนิ้วมอื สอดผา่ นได้ (finger base) ใหใ้ ช้หมอนสอด หรืออาจจะ
ตอ้ งพบั หมอนเป็นทบ เพอื่ ใหไ้ ด้ขนาดทีเ่ หมาะสม ใหส้ อดหมอนจากด้านบนเพือ่ รองรับ
บริเวณทา้ ยทอย
19. ผู้ช่วยเหลือคนที่ 1 ทา head grip change ตรงึ ศรี ษะผบู้ าดเจ็บตดิ กับหมอน
20.ผูช้ ว่ ยเหลือคนท่ี 2 โอบแผน่ ประคองศีรษะ (head flaps)
21. ผู้ช่วยเหลอื คนที่ 3 ติดสายรดั คาดผา่ นหน้าผากและคางใหก้ ระชับ สายรดั หน้าผาก
ให้รัดเหนือค้ิวอย่าให้เข้าตาผู้บาดเจ็บ สายรัดใต้คางให้รัดท่ีขอบบนของ collar ติดไขว้
บนลงลา่ งและสายลา่ งขึน้ บน
22. ผ้ชู ว่ ยเหลอื คนที่ 1 จบั ทีห่ หู ้ิวดา้ นข้าง เอนผบู้ าดเจบ็ เอยี งเปิดแก้มกันดา้ นขวา
23. ผู้ชว่ ยเหลอื คนที่ 2 สอด spinal board เขา้ มาใตก้ น้ จัดให้ผบู้ าดเจ็บนง่ั ทบั ส่วน
ปลายหัว spinal board แล้วน่ังคุกเข่าลง วาง spinal board บนหน้าขา จัดให้ปลาย
spinal board ดา้ นศีรษะใหต้ า่ กวา่ ขอบเบาะรถ
กจิ กรรม ผลการฝึกปฏบิ ตั ิ
24. ผู้ชว่ ยเหลือคนที่ 1 คอ่ ยๆหมุนและเอนลาตวั ผู้บาดเจ็บลง spinal board ปฏบิ ตั ไิ ด้ ปฏบิ ตั ิได้ ไม่
25. ผู้ช่วยเหลือคนที่ 3 ยกขาผู้บาดเจ็บข้ามคอนโซลกลาง ให้ยกหมุนตัวทีละ 45 องศา ถูกตอ้ ง ไม่ ปฏิบตั ิ
พร้อมยกขาข้ามคอนโซลกลางทีละขา ให้ยกทีใ่ ต้ข้อพบั เข่า เรมิ่ จากขาซา้ ยก่อนสาหรับ
รถพวงมาลยั ขวา เมื่อหลังผบู้ าดเจ็บสัมผสั spinal board ใหผ้ ู้ช่วยเหลือคนที่ 1 ติดและ ครบถ้วน
ปรับสายรัดลาตัวเสน้ บนให้กระชบั
26. ผ้ชู ว่ ยเหลอื คนท่ี 1 เลอื่ นผู้บาดเจ็บด้วยหูหวิ้ ด้านขา้ งตามแนว spinal board
ผู้ชว่ ยเหลอื คนท่ี 3 คอยประคองขาไม่ให้ติดกบั กา้ นเกยี ร์เล่ือนผู้บาดเจ็บจนไหล่ชิด
เบาะรองตดิ หมอนประคองศรี ษะ
27. ผู้ช่วยเหลอื ทุกคนประจาอยู่ 2 ข้างของแผน่ spinal board เพ่ือเตรียมยก โดยผู้ช่วย
เหลือคนที่อยู่ใกล้ศีรษะผู้บาดเจ็บ สั่งการให้ยก spinal board ขึ้น แล้วหยุดน่ิงอยู่กับท่ี
ก่อน เพ่ือปูองกันไม่ให้ผู้บาดเจ็บตกจาก spinal board เนื่องจากยังไม่ได้รัดสายรัดตัว
และสั่งการให้เดินไปข้างหน้าตามจานวนก้าวที่กาหนด นับก้าวไปพร้อมๆกัน ให้ทราบ
จงั หวะ และสั่งการให้วาง spinal board ลงบนพ้นื
28. ผู้ชว่ ยเหลือคนท่ี 1 ปลดเฝือกดามคอดา้ นหน้าออก ภายใต้การประคองศีรษะและคอ
เพ่ือประเมินการหายใจของผู้บาดเจ็บ ปลดสายรัดตัวทุกเส้นออกเพื่อประเมินทรวงอก
และการหายใจ อาจพิจารณาพลกิ ตวั เพ่อื ประเมินหลัง
29. หากจะเคล่ือนย้ายผู้บาดเจ็บไปยังรถพยาบาล ให้สวมเฝือกดามคอกลับเข้าท่ี คาด
สายรัดตัวและสวมหมอนประคองศีรษะเข้าที่ให้เรียบร้อยโดยไม่ต้องคาดสายรัดอกเส้น
บนสุดและคลายสายรัดขา คาดสายรัดตัวผู้บาดเจ็บเข้ากับ spinal board แล้วจึงจะ
สามารถเคล่อื นย้ายได้ โดยไมต่ ้องตดิ หมอนประคองศรี ษะ
ข้อคดิ เหน็ โดยภาพรวมของอาจารย์เก่ยี วกับผลการฝึกปฏิบัติ
ปฏิบตั ิไดถ้ ูกต้องในทุกข้ันตอน
ปฏบิ ตั ไิ ดไ้ มค่ รบถ้วนทุกขนั้ ตอนหรือไม่ไดป้ ฏบิ ัติ ต้องฝึกปฏิบตั เิ พิ่มเติม (ระบกุ ารปฏิบัตทิ ตี่ ้องฝึกเพิ่มเตมิ )
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่ือ ……………………………………………………………………………………อาจารย์ผู้ประเมนิ
แบบฝึกทักษะ ถอดหมวกนิรภัย(HELMET REMOVAL)
ช่ือ-นามสกลุ ……………………………………………………………………………………..หนว่ ยงาน……………………………………………..วันที่…………………………………………
คาชี้แจง กรณุ าทาเคร่ืองหมาย ในชอ่ งผลการฝึกปฏบิ ตั ิ
กจิ กรรม ผลการฝกึ ปฏบิ ตั ิ
ปฏบิ ัตไิ ด้ ปฏบิ ัตไิ ด้ ไม่ปฏบิ ตั ิ
1.ประเมินสถานการณ์ (scene size up) ถกู ต้อง ไม่ครบถ้วน
1.1 ใช้อปุ กรณป์ ูองกนั ตนเองอย่างเหมาะสม
1.2 ประเมนิ ความปลอดภัยของสถานการณ์
1.3 ประเมนิ กลไกการบาดเจบ็ /เจ็บปวุ ย
1.4 ประเมนิ จานวนผบู้ าดเจ็บ
1.5 ประเมนิ เพือ่ ขอความช่วยเหลือ
2.ประเมินสภาพผปู้ ุวยเบือ้ งตน้ (primary assessment)
3.หัวหน้าทีมอธิบายใหผ้ บู้ าดเจบ็ และทมี ทราบถงึ แผนการเคลือ่ นยา้ ย หลังประเมินและพจิ ารณาวา่
จาเป็นตอ้ งใช้ ทา HELMET REMOVALภายใต้การอานวยการทางการแพทย์(ค)
4.ผู้ชว่ ยเหลือคนท่ี 1 ทาการยึดตรึงศีรษะโดยใชฝ้ ุามอื จบั ประคองดา้ นขา้ งของ
หมวกนริ ภัย และวางศอก 2 ขา้ งบนพน้ื
5.หวั หนา้ ทมี อธบิ ายให้ผูบ้ าดเจบ็ และทมี ทราบถงึ แนวทางการถอดหมวกนิรภัย
6.ผชู้ ว่ ยเหลอื คนทส่ี องเข้าดา้ นขวามือผูบ้ าดเจบ็ เปดิ แผน่ บงั ลมของหมวกออก และเรยี ก
ผู้บาดเจบ็ เพอ่ื ประเมนิ ระดบั ความรู้สึกตวั
7.แจ้งให้ผู้บาดเจบ็ ทราบ วา่ จะถอดหมวกนิรภัย บอกผู้บาดเจ็บวา่ อย่าขยบั ศรี ษะ และคอ
8.ผชู้ ่วยเหลอื คนที่ 2 ปลดสายรดั คาง แลว้ วางมอื ดา้ นขวาจบั ตามแนวกระดกู
ขากรรไกรล่าง chin grip สว่ นมอื ข้างซา้ ยจับประคองศรี ษะส่วนทา้ ยทอย
เพ่อื ยึดตรงึ ไม่ใหม้ กี ารเคลือ่ นไหวระหว่างการถอดหมวก
9.ผชู้ ่วยเหลอื คนทหี่ นงึ่ เปล่ยี นมอื ที่จบั ประคองดา้ นขา้ งของหมวก มาจบั ทข่ี อบลา่ งของหมวก
นิรภยั แลว้ ทาการถอดหมวกโดยการ ดงึ ถา่ งออกแล้วค่อยๆขยับและดึงหมวกข้ึนดา้ นศรี ษะอย่าง
น่มุ นวล โดยเมอื่ ขอบบนของหมวกผา่ นปลายคาง และจมกู ให้ดงึ หมวกออกในแนวตรง
10.ระหว่างที่ถอดหมวก ผชู้ ่วยเหลอื คนท่สี อง คอ่ ยๆเลื่อนมอื ท่ีประคองบรเิ วณท้ายทอยตาม
หมวกท่ีถอด ระวังอยา่ ใหศ้ รี ษะตกลงจากแนวเดิมหรือตกกระแทกพ้นื
11.ผู้ชว่ ยเหลอื คนทหี่ นง่ึ ทาการยึดตรงึ ศีรษะทันที
12.หากศรี ษะลอยให้ผู้ช่วยเหลอื คนที่ 2 สอดผ้าท่ีมขี นาดเหมาะสมกับ
ช่องว่างบรเิ วณใต้ทา้ ยทอยเพอ่ื ปูองกันไมใ่ หศ้ รี ษะเคลื่อนออกจากแนวเดมิ
13.ผูช้ ว่ ยเหลือคนทส่ี อง ใส่ Hard Collar จนเรยี บร้อย
ขอ้ คดิ เห็นโดยภาพรวมของอาจารย์เก่ยี วกบั ผลการฝกึ ปฏิบัติ
ปฏบิ ัตไิ ด้ถูกต้องในทุกขั้นตอน
ปฏิบตั ิได้ไม่ครบถ้วนทกุ ขนั้ ตอนหรอื ไมไ่ ดป้ ฏบิ ตั ิ ตอ้ งฝกึ ปฏบิ ัตเิ พมิ่ เตมิ (ระบกุ ารปฏบิ ตั ทิ ต่ี อ้ งฝกึ เพมิ่ เตมิ )
ลงช่ือ ……………………………………………………………………………….……อาจารยผ์ ู้ประเมนิ
แบบฝกึ ทักษะ การใช้ CERVICAL COLLAR
ชื่อ-นามสกุล……………………………………………………………………………………..หนว่ ยงาน……………………………………………..วนั ที่…………………………………………
คาชแ้ี จง กรณุ าทาเครื่องหมาย ในช่องผลการฝึกปฏิบัติ
กิจกรรม ผลการฝึกปฏิบัติ
1.ประเมนิ สถานการณ์ (scene size up) ปฏบิ ตั ิไดถ้ ูกตอ้ ง ปฏบิ ตั ิได้ ไมป่ ฏิบตั ิ
ไม่ครบถว้ น
1.1 ใชอ้ ปุ กรณ์ปอู งกนั ตนเองอย่างเหมาะสม
1.2 ประเมนิ ความปลอดภัยของสถานการณ์
1.3 ประเมนิ กลไกการบาดเจ็บ/เจบ็ ปวุ ย
1.4 ประเมินจานวนผบู้ าดเจบ็
1.5 ประเมนิ เพอ่ื ขอความช่วยเหลือ
2.ประเมินสภาพผปู้ ุวยเบอื้ งต้น (primary assessment)
3.หวั หน้าทีมแจง้ ผบู้ าดเจ็บและลกู ทีมรับทราบการใส่ Cervical Collar
4.หวั หน้าทมี สง่ั ผชู้ ว่ ยเหลอื คนท่ี 1จดั ศรีษะผบู้ าดเจบ็ ให้อยใู่ นท่า Neutral
position
5.ผู้ชว่ ยเหลอื คนที่๒ วัดระยะคอผ้บู าดเจบ็ อย่างถกู วิธี โดยลากเส้นสมมุติ
เส้นท่ี 1 จากปลายคาง มาท่ีคอ
เส้นท่ี 2 Root of neck
โดยให้สองเสน้ ขนานกัน
6. วดั ขนาด Cervical collar โดยวัดจาก Marker จนถึงขอบล่างของ
Cervical collar
7. สวม Cervical collar จากด้านขวา ปรบั ให้ได้ Midline โดยดจู ากปุม
พลาสตกิ ตรงกบั กึ่งกลางคาง และปลายจมกู สวมให้กระชับ
8.มกี ารประคองศีรษะและคอดว้ ย Manual In Line และไม่มกี ารเคลื่อนไหว
องคอตลอดการสวม Cervical Collar
ขอ้ คิดเหน็ โดยภาพรวมของอาจารย์เกยี่ วกบั ผลการฝึกปฏิบตั ิ
ปฏิบัติไดถ้ ูกต้องในทุกขั้นตอน
ปฏบิ ตั ิไดไ้ มค่ รบถว้ นทุกข้ันตอนหรือไม่ไดป้ ฏิบตั ิ ต้องฝกึ ปฏิบตั ิเพมิ่ เติม (ระบกุ ารปฏบิ ตั ิทต่ี อ้ งฝึกเพม่ิ เติม)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชือ่ ……………………………………………………………………………….…อาจารย์ผปู้ ระเมนิ
แบบฝึกทักษะ การคลอดและการดูแลทารก
ช่อื -นามสกลุ ………………………………….......................... หน่วยงาน…………………………วันท่ี…………………………………………
คาชแี้ จง กรุณาทาเคร่อื งหมาย ในช่องผลการปฏบิ ัติ
ลาดับ กิจกรรม ผลการประเมนิ
ปฏบิ ัตถิ กู ต้อง ปฏบิ ตั ไิ ม่ ไมป่ ฏิบัติ
ถกู ต้อง
1. ประเมนิ สถานการณ์ (scene size up)
- ใชอ้ ุปกรณ์ปอู งกนั ตนเองอย่างเหมาะสม
- ประเมินความปลอดภัยของสถานการณ์
- ประเมนิ กลไกการบาดเจบ็ /เจบ็ ปวุ ย
- ประเมนิ จานวนผ้บู าดเจบ็
- ประเมินเพ่ือขอความช่วยเหลือ
2 ประเมินสภาพผู้บาดเจบ็ เบือ้ งตน้ (primary assessment)
3. โจทยก์ าหนด มารดาปวดเบ่งมากสว่ นนาโผล่
ประสานศนู ย์สง่ั การเพ่อื ขอความชว่ ยเหลอื จากหนว่ ยปฏบิ ตั ิการระดบั สงู
4. การเตรียมอปุ กรณ์ ผ้าสะอาด ทห่ี นบี สายสะดอื ลกู สบู ยาง อุปกรณ์
ปูองกันการติดเชือ้
5. การจัดท่ามารดาขณะคลอด
6. การรบั เด็ก
- การขานเวลาคลอดและเพศเดก็ พรอ้ มจดบนั ทึก
- การหนบี สายสะดอื
- การแจง้ เพศเดก็ แกม่ ารดา
7. การช่วยการหายใจ
- ใช้ลูกสบู ยางดดู เสมหะ
- การกระตนุ้ หายใจ ด้วยการลบู หลัง
8. การหอ่ เด็กดว้ ยผ้าทเ่ี ตรยี มไว้
9. การสงั เกตรกคลอด
- ดูเวลารกคลอด
- การเกบ็ รก
10. การดูแลมารดาหลังคลอด
- การจดั ทา่ มารดา
- การตรวจชีพจร การหายใจ และวดั ความดนั โลหติ
- ประเมนิ อาการทัว่ ไปของมารดา
- ประเมนิ การเสียเลอื ดและการตกเลอื ดหลงั คลอด
- การใหค้ าแนะนาแกม่ ารดาหลังคลอด
- การเตรยี มมารดาเพือ่ เคลอ่ื นยา้ ย
ขอ้ คดิ เห็นโดยภาพรวมของอาจารย์เกยี่ วกบั ผลการฝึกปฏิบัติ
ปฏบิ ตั ไิ ดถ้ ูกตอ้ งในทกุ ขน้ั ตอน
ปฏิบัติได้ไม่ครบถ้วนทกุ ขนั้ ตอนหรอื ไมไ่ ด้ปฏิบัติ ต้องฝกึ ปฏบิ ัตเิ พิม่ เตมิ (ระบุการปฏิบตั ทิ ตี่ อ้ งฝึกเพิม่ เติม)
ลงชอื่ ……………………………………………อาจารยผ์ ปู้ ระเมนิ
แบบฝึกทักษะเรื่องการจดั การทางการแพทยใ์ นสถานการณส์ าธารณภยั
ช่ือ-นามสกุล……………………………………………………………………………………..หน่วยงาน……………………………………………..วันท่ี…………………………………………
คาช้ีแจง กรุณาทาเครื่องหมาย ในชอ่ งผลการฝึกปฏบิ ตั ิ
ผลการฝึกปฏบิ ัติ
กจิ กรรม ปฏิบตั ิได้ถูกต้อง ปฏิบัติได้ ไมป่ ฏบิ ตั ิ
ครบถว้ น ไม่ครบถ้วน
1.ประเมินสถานการณ์ (scene size up)
1.1 ใชอ้ ปุ กรณป์ อู งกนั ตนเองอย่างเหมาะสม
1.2 ประเมินความปลอดภัยของสถานการณ์
1.3 ประเมนิ กลไกการบาดเจบ็ /เจบ็ ปุวย
1.4 ประเมินจานวนผบู้ าดเจบ็
1.5 ประเมินเพือ่ ขอความช่วยเหลอื
2.รายงานเหตุการณ์มาท่ศี ูนยร์ บั แจง้ เหตุด้วย METHANE
3.รายงานตัวกับ Filed Commander
4.ปฏบิ ัติหน้าท่ตี ามการมอบหมาย
4.1จัดโซนพนื้ ที(่ Zoning)และกาหนดพน้ื ที่รักษาพยาบาล
4.2 เตรยี มจดุ จอดรถ (Parking)
4.3 ทา Triage Sieve
4.4 ช่วยทา Triage Sort
4.5 ช่วยในการ Loading
4.6 นาสง่ ผูบ้ าดเจ็บ
หมายเหตุ : ฝกึ ปฏบิ ตั ริ วมกัน ประเมนิ ผลในภาพรวม
ขอ้ คดิ เหน็ โดยภาพรวมของอาจารย์เกี่ยวกับผลการฝึกปฏิบัติ
ปฏิบัตไิ ดถ้ ูกตอ้ งในทุกข้นั ตอน
ปฏบิ ัตไิ ด้ไม่ครบถว้ นทุกข้ันตอนหรือไมไ่ ดป้ ฏิบตั ิ ตอ้ งฝกึ ปฏบิ ตั เิ พ่ิมเตมิ (ระบกุ ารปฏิบัตทิ ต่ี อ้ งฝกึ เพิ่มเตมิ )
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื ……………………………………………อาจารยผ์ ปู้ ระเมนิ
แบบฝกึ ทักษะเรือ่ ง การออกปฏบิ ตั ิงาน ณ จดุ เกดิ เหตุ ครง้ั ท่ี .................
ช่ือ-นามสกลุ …………………………………………………………………………..หน่วยงาน……………………………………………..วันท่ี…………………………………………
ช่อื -นามสกลุ ผปู้ ุวย………………………………………………………………………..HN…………………………………………….Diag……………………………………………....
คาชี้แจง กรณุ าทาเครอ่ื งหมาย ในชอ่ งผลการฝกึ ปฏิบตั ิ
กิจกรรม ปฏิบตั ิได้ ผลการฝกึ ปฏิบตั ิ ไมจ่ าเป็น
ถกู ตอ้ ง ปฏิบัติได้ ไม่ปฏิบัติ
1.เตรยี มความพร้อมของอปุ กรณ์ กอ่ นออกเหตุ ไมค่ รบถ้วน
2.รับคาสงั่ จากศูนย์รับแจ้งเหตุ
3.ออกปฏิบตั กิ ารดว้ ยความรวดเรว็ ภายใน 2 นาทีหลงั จากรบั คาสัง่
4.เตรยี มอุปกรณบ์ นรถพยาบาลใหส้ อดคล้องกับอาการผู้ปวุ ยฉกุ เฉนิ
5.ประเมินสถานการณ์ (scene size up)
5.1 ใช้อปุ กรณป์ ูองกนั ตนเองอยา่ งเหมาะสม
5.2 ประเมินความปลอดภยั ของสถานการณ์
5.3 ประเมินกลไกการบาดเจ็บ/เจบ็ ปวุ ย
5.4 ประเมินจานวนผูบ้ าดเจบ็
5.5 ประเมินเพ่อื ขอความช่วยเหลอื
6.พิจารณาความเหมาะสมในการจอดรถพยาบาลฉกุ เฉิน
7.ประเมินสภาพผปู้ ุวยเบอื้ งต้น (primary assessment)
7.1General impression
7.2Level of consciousness
7.3Airway และแกไ้ ขตามความเหมาะสม
7.4Breathing และแกไ้ ขตามความเหมาะสม
7.5Circulation และแก้ไขตามความเหมาะสม
8.ตรวจร่างกายตามระบบอย่างรวดเรว็
-ตรวจ DCAP-BTLS ศีรษะ
-ตรวจ DCAP-BTLS บริเวณใบหนา้
-ตรวจ DCAP-BTLSลาคอดา้ นหนา้ -หลังและใส่ cervical collar
-ตรวจ DCAP-BTLS บรเิ วณทรวงอก และฟงั ปอด 4 จุด
-ตรวจ DCAP-BTLS บรเิ วณช่องทอ้ ง
-ตรวจ DCAP-BTLS บรเิ วณเชิงกราน
-ตรวจ DCAP-BTLS บรเิ วณขาสองขา้ ง + PMS
-ตรวจ DCAP-BTLS บริเวณแขนสองขา้ ง+ PMS
-ตรวจ DCAP-BTLS บรเิ วณหลัง
9.ให้การช่วยเหลือผ้บู าดเจ็บหรือผปู้ วุ ยฉุกเฉิน ณ จุดเกดิ เหตุ
9.1 จดั ทา่ เปดิ ทางเดินหายใจ
9.2 ใส่ Oro-pharyngeal airway
9.3 Pocket mask บบี Ambu bag
9.4 กดหน้าอก+ AED
กิจกรรม ปฏิบัตไิ ดถ้ กู ตอ้ ง ผลการฝกึ ปฏบิ ัติ ไม่จาเปน็
ครบถ้วน ปฏิบัตไิ ด้ ไม่ปฏบิ ตั ิ
9.5 ห้ามเลอื ด ไมค่ รบถว้ น
9.6 ดามกระดกู
10 .สื่อสารรายงานศนู ยร์ ับแจง้ เหตุ ระหว่างปฏิบตั กิ าร ตามความ
จาเปน็
11.ตรวจพิเศษท่จี าเป็น
11.1Blood glucose testing
11.2 Pulse Oximetry
12.ยกและเคลือ่ นยา้ ยผู้ปุวยโดยใชอ้ ปุ กรณ์
12.1Long Spinal Board with head immobilizer
12.2KED
12.3Stair chair หรอื เก้าอี้
13.ยกและเคลือ่ นย้ายแบบไมใ่ ช้อปุ กรณ์
14.ซักประวตั ิ (SAMPLE)
15. Vital signs
16.ประเมินสภาพผปู้ วุ ยลาดับต่อมา Reassessment and
ongoing assessment
17.ประสานงานกับศนู ยร์ บั แจง้ เหตุ
18.สง่ มอบผปู้ ุวยใหก้ ับโรงพยาบาล
19.ทาความสะอาดและเกบ็ เคร่อื งมอื อปุ กรณแ์ ละเตรยี มเครอื่ งมือ
ใหพ้ รอ้ มใช้ครง้ั ตอ่ ไป
20.บันทึกรายงานออกปฏบิ ตั กิ าร
ขอ้ คิดเห็นโดยภาพรวมและข้อเสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ลงชื่อ ……………………………………………ผปู้ ระเมนิ
(…………………………………………………..)
ตาแหน่ง……………………………………………………….
วนั ท…ี่ ……………………………………………………………………….
การประเมนิ การบริหารจดั การประชุม(คุณภาพการฝกึ อบรม)
คาชี้แจง โปรดทาเคร่อื งหมาย ในช่องที่กาหนดใหต้ รงกบั ความคิดเห็นของท่านมากท่สี ดุ โดยขอให้ทา่ นได้พจิ ารณาในภาพรวม
ตลอดระยะเวลาการอบรม กรณุ าประเมนิ ผลการบรหิ ารจัดการการอบรมตามความคดิ เหน็ ของท่านดงั นี้
5 = ดีมาก 4 = ดี 3 = พอใช้ 2 = ควรปรบั ปรงุ 1 = ควรปรับปรงุ มาก
รายการประเมนิ ระดบั ความคดิ เหน็ ขอ้ เสนอแนะ
54321
1. เนอ้ื หาการอบรม
2. กจิ กรรมการอบรม
3. เอกสารประกอบการอบรม
3. สือ่ และอปุ กรณ์ประกอบการ
ฝึกอบรม
6 การอานวยความสะดวก
7. อาหารและอาหารวา่ ง
8. สถานทอ่ี บรม
4. โสตทัศนูปกรณ์
9. ระยะเวลาในการอบรม
10. ผลการประเมินโดยภาพรวม
ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ
............................................................................................................................... ....................................................................................
............................................................................................................................................................................ .......................................
............................................................................................ .......................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ......................................................................................
............................................................................................................................. .....................................................................................
กรุณาส่งคนื เจ้าหนา้ ทฝ่ี ึกอบรมด้วย
ขอขอบคณุ
แบบประเมนิ ความพึงพอใจต่อทรัพยากรสนับสนุนการฝกึ อบรม
คาชีแ้ จง โปรดทาเครอ่ื งหมาย ในชอ่ งทีก่ าหนดให้ตรงกบั ความคิดเห็นของท่านมากทส่ี ดุ
กรุณาประเมินความพึงพอใจต่อคุณภาพของทรพั ยากรสนับสนุนการฝกึ อบรมตามความคิดเหน็ ของทา่ นในดา้ น สภาพการใชง้ าน
จานวนเพยี งพอในการฝึก การดูแลรักษาให้พร้อมใช้ การบารุงรักษาเมอื่ เกิดการชารดุ ความเหมาะสมของอปุ กรณก์ ับการฝกึ ในแต่
ละเรอ่ื งดังน้ี5 = ดมี าก 4 = ดี 3 = พอใช้ 2 = ควรปรับปรงุ 1 = ควรปรบั ปรงุ มาก
สถานะผูป้ ระเมิน
อาจารยฝ์ กึ อบรมและอาจารยช์ ว่ ยฝึกอบรม ผู้เข้ารับการฝกึ อบรม
รายการประเมิน ระดบั ความคดิ เหน็ ข้อเสนอแนะ
5 43
1.อปุ กรณ์การฝึกเร่ืองการประเมนิ สถานการณ์ 2 1
2.อุปกรณ์การฝกึ เร่ืองการประเมนิ สภาพผู้ปุวยผูป้ ุวย
3.อุปกรณ์การฝกึ เร่ืองการห้ามเลือดชนดิ ต่างๆ
4.อุปกรณ์การฝกึ การดามชนิดต่างๆ
5.อปุ กรณ์การฝกึ เร่ืองการวัดสญั ญาณชีพ
6.อุปกรณ์การฝกึ เร่ืองการดแู ลทางเดินหายใจ
7.อปุ กรณ์การฝึกเร่ือง CPR และ AED
8.อุปกรณ์การฝึกเร่ืองการใชย้ าเบื้องตน้
9.อปุ กรณ์การฝกึ เรื่องการสอื่ สาร
10.อปุ กรณ์การฝกึ เรอ่ื งการให้ออกซเิ จน
11.อุปกรณ์การฝึกยกและเคล่ือนยา้ ยผ้ปู ุวย
12.อุปกรณก์ ารฝึกดา้ นสาธารณภยั
13.อุปกรณ์การฝึกเรือ่ งการช่วยคลอด
14.อปุ กรณพ์ เิ ศษตา่ งๆเช่น O2 sat เครื่องเจาะนา้ ตาล
ปลายนิว้
15.อปุ กรณ์การฝกึ เรอื่ งสถานการณ์จาลอง
ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ
............................................................................................................................. ............................................................................
................................................................................................................................................................................... ......................
............................................................................................................ .............................................................................................
............................................................................................................................. .............................................................................
กรุณาส่งคนื เจ้าหน้าท่ฝี ึ กอบรมด้วย
ขอขอบคุณ
แบบประเมินผลรายวิชา(คุณภาพการสอน)
หลักสูตร ………………………………………
หวั ข้อวิชา ............................................ วนั ท่ี .....................................................
ช่ืออาจารย์ฝกึ อบรม/ อาจารย์ชว่ ยฝึกอบรม.(กรณีเปน็ วิทยากรกลุ่ม)....................................................
โปรดทาเครื่องหมาย หรอื เติมขอ้ ความลงในช่องวา่ งให้ครบทกุ ชอ่ งตามความเป็นจริง
หัวขอ้ ๕ ระดบั ความคดิ เหน็ ๑
๔๓๒
1. ความคิดเห็นเกยี่ วกบั หวั ข้อวิชา
1.1 ความรูท้ ีม่ ีอยู่ก่อนการอบรม
1.2 ความรทู้ ่ไี ด้หลังการอบรม
1.3 เนื้อหาทีน่ าเสนอครอบคลมุ หวั เรอ่ื งทบ่ี รรยาย
1.4ความเหมาะสมของเวลาท่ใี ช้ในการอบรม
1.5 การนาความร้ไู ปใช้ในการปฏิบัติงาน
2. ความคิดเห็นเก่ยี วกบั วิทยากร
2.1 บุคลิกภาพเหมาะสม
2.2 การเรา้ ความสนใจและการสร้างบรรยากาศ
2.3 ความสามารถและเทคนิคในการถ่ายทอดความรู้
2.4 ส่อื ประกอบการบรรยายเหมาะสมกบั เนื้อหาและกจิ กรรม
2.5 การเปดิ โอกาสซกั ถามและแสดงความคดิ เห็น
ส่ิงที่วิทยากรควรปรับปรุง
............................................................................................................................. ......................................................................................
.......................................................................................................................................................................... .........................................
.......................................................................................... .................................................... ....................................................................
ขอ้ เสนอแนะ
........................................................................................................................... ........................................................................................
............................................................................................................................. ......................................................................................
............................................................................................................................. .....................................................................................
กรณุ าส่งคืนเจา้ หน้าท่ฝี ึกอบรมดว้ ย
ขอขอบคณุ