วิเคราะห์หลักสูตร วิทยาศาสตร์ ป.5

ชนั้ ประถมศึกษาปี ท่ี 5

โรงเรียนวดั ดอนขนาก
สานักงานเขตพนื้ ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษานครปฐม เขต 1

ตารางวิเคราะหห์ ลกั สตู ร กล่มุ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปี ท่ี 5 ของ คณุ ครวู ริษา วศินสงั วร

โรงเรียนวดั ดอนขนาก สานักงานเขตพืน้ ท่ีการศึกษานครปฐม เขต 1

สาระท่ี 1 วิทยาศาสตรช์ ีวภาพ

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะ ทกั ษะ สาระการเรียนรู้ หมาย
อนั พึง กระบวนการ แกนกลาง เหตุ
สมรรถนะ (P)
ประสงค์ (A)

มาตรฐานการเรียนรู้ ว 1.1 1 . บ ร ร ย า ย 1.สิ่งมีชีวิต 1.เขา้ ใจโครงสรา้ ง 1. ตงั้ ใจเรยี น 1 . สืบ ค้น ข้อ มูล 1. สิ่งมีชีวิตทัง้

เข้าใจความหลากหลายของ โ ค ร ง ส ร้ า ง ทั้ง พืช แ ล ะ และลักษณะของ 2 . พ อ ใ จ ใ น ดว้ ยตนเอง พืช แ ล ะ สัต ว์ มี
ระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ และลักษณะ
ร ะ ห ว่ า ง ส่ิง ไ ม่ มีชี วิ ต กั บ ของส่ิงมชี ีวิต สตั วม์ ี โครง ส่ิง มีชีวิต มีก า ร ประสบการณ์ 2.เลอื กใชอ้ ุปกรณ์ โครงสร้างและ
ส่ิงมีชีวิตและความสัมพันธ์ ท่ีเ ห ม า ะ ส ม
ระหว่างสง่ิ มชี วี ติ กบั สง่ิ มชี วี ิต กบั การดารง ส ร้ า ง แ ล ะ ป รั บ ตั ว ข อ ง การเรียนรู้ท่ี การทดลองได้ ลกั ษณะทเ่ี หมาะ
ต่าง ๆ ในระบบนิเวศ การ ชีวิต ซ่ึง เ ป็ น
ถ่ายทอดพลงั งาน การเปลย่ี น ผลมาจากการ ลั ก ษ ณ ะ ท่ี สิ่งมชี วี ติ ในแต่ละ เ ก่ี ย ว กั บ 3.นาเสนอหน้ า สมในแต่ละแหล่ง
แปลงแทนท่ีในระบบนิเวศ ปรับตัว ขอ ง
ความหมายของประชากร สิ่ง มีชีวิต ใ น เหมาะสมใน แหลง่ ทอ่ี ยู่ วทิ ยาศาสตร์ ชนั้ เรยี น ท่ีอยู่ซ่ึงเป็ นผล
ปัญหาและผลกระทบท่ีมีต่อ แต่ละแหลง่ ท่ี
แต่ละแหล่ง 2.การปรบั ตวั ของ 4.เขา้ ใจโครง มาจากการปรบั

ท่ีอยู่เพ่ือให้ สง่ิ มชี วี ติ ใหเ้ ขา้ กบั สรา้ งและลกั ษณะ ตัวของสิ่งมชี ีวิต

ด า ร ง ชี วิ ต สภาพแวดลอ้ มได้ ข อ ง ส่ิง มีชีวิต มี เพ่อื ใหด้ ารงชวี ติ

แ ล ะ อ ยู่ ร อ ด การปรับตัวของ และอยรู่ อดไดใ้ น

ได้ ในแต่ละ สง่ิ มชี วี ติ ในแต่ละ แต่ละแหลง่ ทอ่ี ยู่

ทรัพยากรธรรมชาติแ ล ะ อยู่ แหล่งทอ่ี ยู่ แหลง่ ทอ่ี ยู่ เช่น ผกั ตบชวา
มีช่องอากาศใน
ส่งิ แวดล้อม แนวทางในการ (ว.1.1 ป.5/1) ก้านใบช่ว ยให้
ลอยน้าไดต้ น้ โกง
อนุรกั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาติ ก า ง ท่ี ข้ึน อ ยู่ ใ น
ป่ าชายเลนมรี าก
แ ล ะ ก า ร แ ก้ ไ ข ปั ญ ห า ค้ า จุ น ท า ใ ห้ ล า
ต้ น ไ ม่ ล้ ม ป ล า มี
สงิ่ แวดลอ้ ม รวมทงั้ นาความรู้ ครีบช่วยในการ
เคล่อื นทใ่ี นน้า
ไปใชป้ ระโยชน์

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะ ทกั ษะ สาระการเรียนรู้ หมาย
อนั พึง กระบวนการ แกนกลาง เหตุ
สมรรถนะ (P)
ประสงค์ (A)

มาตรฐานการเรยี นรู้ ว 1.1 1 . อ ธิ บ า ย 1.ในแหล่งท่ี 1. อ ธิ บ า ย 1.กระตอื รอื รน้ 1. สารวจ และ 1. ในแหล่งท่ีอยู่

เข้าใจความหลากหลายของ ความสมั พนั ธ์ อ ยู่ ห น่ึ ง ๆ ค ว า ม สั ม พั น ธ์ สนใจ ตงั้ ใจใน สบื คน้ ขอ้ มลู หน่ึงๆ สิ่งมีชีวิต

ระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ ร ะ ห ว่ า ง สง่ิ มชี วี ิตจะมี ระหว่างสิ่งมีชีวิต การสารวจและ 2. นาเสนอหน้า จะมคี วามสมั พนั ธ์

ร ะ ห ว่ า ง สิ่ง ไ ม่ มีชี วิ ต กั บ สิ่งมีชีวิตกับ ความสมั พนั ธ์ กบั สงิ่ มชี วี ติ และ คน้ ควา้ ชนั้ เรยี น ซ่งึ กนั และกนั และ

สิ่งมชี ีวิต และความสัมพันธ์ สิง่ มชี วี ติ และ ซ่ึง กัน แ ล ะ 2. อ ธิ บ า ย สั ม พั น ธ์ กั บ

ระหว่างสงิ่ มชี วี ติ กบั สง่ิ มชี วี ติ ความสมั พนั ธ์ กั น แ ล ะ ค ว า ม สั ม พั น ธ์ ส่ิ ง ไ ม่ มีชี วิ ต เ พ่ื อ

ต่าง ๆ ในระบบนิเวศ การ ร ะ ห ว่ า ง สัม พัน ธ์กับ ระหว่างสิ่งมีชีวิต ประโยชน์ต่อการ

ถ่ า ย ท อ ด พ ลัง ง า น ก า ร ส่ิงมีชีวิตกับ สง่ิ ไมม่ ชี วี ติ กบั สง่ิ ไมม่ ชี วี ติ ด า ร ง ชี วิ ต เ ช่ น

เปล่ยี นแปลงแทนท่ใี นระบบ ส่ิงไม่มีชีวิต ความสมั พันธ์กัน

นิ เ ว ศ ค ว า ม ห ม า ย ข อ ง เ พ่ื อ ด้ า น ก า ร กิ น กั น

ป ร ะ ช า ก ร ปั ญ ห า แ ล ะ ประโยชน์ต่อ เป็ นอาหารเป็ น

ผลกระทบทม่ี ตี ่อทรพั ยากร การดารงชวี ติ แหล่งท่ีอยู่อาศัย

ธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม (ว1.1 ป.5/2) หลบภยั และเล้ยี ง

แ น ว ท า ง ใ น ก า ร อ นุ รัก ษ์ ดู ลู ก อ่ อ น ใ ช้

ทรพั ยากรธรรมชาติและการ อากาศในการ

แ ก้ไ ข ปั ญ ห า สิ่ง แ ว ด ล้อ ม หายใจ

ร ว ม ทั้ง น า ค ว า ม รู้ ไ ป ใ ช้

ประโยชน์

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะ ทกั ษะ สาระการเรยี นรู้ หมาย
อนั พึง กระบวนการ แกนกลาง เหตุ
สมรรถนะ (P)
ประสงค์ (A)

มาตรฐานการเรยี นรู้ ว 1.1 1 . เ ขีย น โ ซ่ 1.สงิ่ มชี วี ติ มี 1.เขยี นโซ่อาหาร 1.ตระหนักใน 1. ส่อื สารและนา 1. สงิ่ มชี วี ติ มกี าร

เข้าใจความหลากหลายของ อ า ห า ร แ ล ะ ก า ร กิน กัน และระบุบทบาท คุ ณ ค่ า ข อ ง ค ว า ม รู้ เ ร่ื อ ง กินกนั เป็นอาหาร

ระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ ระบุบทบาท เป็ นอาหาร ห น้ า ท่ี ข อ ง ส่ิงแวดล้อมท่ีมี ค ว า ม สัม พัน ธ์ โดยกนิ ต่อกนั เป็น

ร ะ ห ว่ า ง ส่ิง ไ ม่ มีชี วิ ต กั บ ห น้ า ท่ี ข อ ง โ ด ย กิ น ต่ อ ส่ิงมีชีวิตท่ีเป็ น ต่ อ ก า ร ระหว่างสงิ่ มชี วี ติ ทอดๆในรูปแบบ

ส่ิงมชี ีวิต และความสมั พันธ์ ส่ิ ง มี ชี วิ ต ท่ี กั น เ ป็ น ผู้ ผ ลิ ต แ ล ะ ดารงชีวิตของ กบั สง่ิ มชี วี ติ ไปใช้ ของโซ่อาหารทา

ระหว่างสง่ิ มชี วี ติ กบั สง่ิ มชี วี ติ เ ป็ น ผู้ ผ ลิ ต ทอดๆ ผู้บริโภคในโซ่ สง่ิ มชี วี ติ ในชวี ติ ประจาวนั ให้สามารถระบุ

ต่างๆ ในระบบนิเวศ การ และผู้บริโภค 2.คุณค่าของ อาหาร 2. ท า ง า น ได้ บ ท บ า ท ห น้ า ท่ี

ถ่ า ย ท อ ด พ ลัง ง า น ก า ร ในโซ่อาหาร ส่ิงแวดล้อม 2.ความสัมพันธ์ ร่ ว ม กั บ ผู้ อ่ื น 2. นาเสนอหน้า ของส่งิ มชี วี ติ เป็น

เปล่ยี นแปลงแทนท่ใี นระบบ (ว1.1 ป.5/3) ท่ีมีต่ อ ก า ร ระหว่างสง่ิ มชี วี ติ อยา่ งสรา้ งสรรค์ ชนั้ เรยี น ผู้ ผ ลิ ต แ ล ะ

นิ เ ว ศ ค ว า ม ห ม า ย ข อ ง 2. ตระหนัก ด า ร ง ชี วิ ต กบั สง่ิ มชี วี ติ ได้ ผบู้ รโิ ภค

ป ร ะ ช า ก ร ปั ญ ห า แ ล ะ ในคุณค่าของ ของสงิ่ มชี วี ติ

ผ ล ก ร ะ ท บ ท่ี มี ต่ อ สิ่งแวดล้อมท่ี 3 . ก า ร ดูแ ล

ทรัพยากรธ รรมชาติแล ะ มตี ่อการดารง รั ก ษ า

สงิ่ แวดล้อม แนวทางในการ ชี วิ ต ข อ ง สง่ิ แวดลอ้ ม

อนุรกั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาติ สิ่งมีชีวิตโดย

แ ล ะ ก า ร แ ก้ ไ ข ปั ญ ห า มีส่วนร่วมใน

สงิ่ แวดลอ้ ม รวมทงั้ นาความรู้ การดูแรกั ษา

ไปใชป้ ระโยชน์ สง่ิ แวดลอ้ ม

(ว1.1 ป.5/4)

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะ ทกั ษะ สาระการเรยี นรู้ หมาย
อนั พึงประสงค์ กระบวนการ แกนกลาง เหตุ
สมรรถนะ (P)
(A)

มาตรฐานการเรยี นรู้ ว 1.3 1 . อ ธิ บ า ย 1. ลักษณะ 1.อธบิ ายลกั ษณะ 1.มีความสนใจ 1.ทางานร่วมกบั 1. สงิ่ มชี วี ติ ทงั้ พชื

เ ข้า ใ จ ก ร ะ บ ว น ก า ร แ ล ะ ลักษณะทาง พนั ธุกรรมท่ี ทางพนั ธุกรรมท่ี ใฝ่ รู้หรอื อยากรู้ ผู้ อ่ื น อ ย่ า ง สัต ว์แล ะมนุ ษ ย์

ความสาคญั ของการถ่ายทอด พนั ธุกรรมท่มี ี มี ก า ร มีการถ่ายทอด อยากเหน็ สรา้ งสรรค์ เม่ือโตเต็มท่ีจะมี

ลักษณะทางพันธุกรรมสาร การถ่ายทอด ถ่ า ย ท อ ด จากพ่อแม่สู่ลูก 2. พ อ ใ จ ใ น 2.ส่ือสารและนา การสืบพันธุ์เพ่ือ

พันธุกรรมการเปล่ียนแปลง จากพ่อแม่สู่ จากพ่อแม่สู่ ของพืชสัตว์และ ประสบการณ์ ความรู้เร่อื งการ เพิ่มจานวนและ

ท า ง พัน ธุ ก ร ร ม ท่ีมีผ ล ต่ อ ลู ก ข อ ง พื ช ลูก ข อ ง พืช มนุษย์ ก า ร เ รี ย น รู้ ท่ี ถ่ายทอดลกั ษณะ ดารงพนั ธุ์โดยลูก

ส่ิงมีชีวิตความหลากหลาย สั ต ว์ แ ล ะ สั ต ว์ แ ล ะ 2.สืบค้นข้อ มูล เ ก่ี ย ว กั บ ทางพันธุกรรม ท่ีเกิดมาจะได้รบั

ทางชวี ภาพและวิวัฒนาการ มนุษย์ มนุษย์ เ ก่ี ย ว กั บ ก า ร วทิ ยาศาสตร์ ของพืชไปใช้ใน ก า ร ถ่ า ย ท อ ด

ข อ ง สิ่ง มีชีวิต ร ว ม ทั้ง น า (ว1.3 ป5/1) 2.ลักษณะท่ี ถ่ายทอดลกั ษณะ ชวี ติ ประจาวนั ได้ ลั ก ษ ณ ะ ท า ง

ความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ 2. แสดงความ ค ล้ า ย ค ลึ ง ทางพันธุกรรม พนั ธุกรรมจากพ่อ

อยากรู้อยาก กั น ข อ ง คลา้ ยคลงึ กนั ของ แ ม่ ท า ใ ห้ มี

เห็นโดยการ ต น เ อ ง กับ ตนเองกบั พอ่ แม่ ลั ก ษ ณ ะ ท า ง

ถามคาถ า ม พอ่ แม่ พั น ธุ ก ร ร ม ท่ี

เ ก่ี ย ว กั บ เ ฉ พ า ะ แ ต ก ต่ า ง

ลั ก ษ ณ ะ ท่ี จากสง่ิ มชี วี ติ ชนิด

คล้ายคลึงกนั อ่นื

ของตนเองกบั 2 . พื ช มี ก า ร

พ่ อ แ ม่ ถ่ายทอดลกั ษณะ

(ว1.3 ป5/2) ท า ง พัน ธุ ก ร ร ม

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะ ทกั ษะ สาระการเรยี นรู้ หมาย
อนั พึงประสงค์ กระบวนการ แกนกลาง เหตุ
สมรรถนะ (P)
(A) เช่นลักษณะของ
ใบสดี อก
3 . สั ต ว์ มี ก า ร
ถ่ายทอดลกั ษณะ
ท า ง พัน ธุ ก ร ร ม
เช่น สขี นลกั ษณะ
ของขนลักษณะ
ของหู
4 . ม นุ ษ ย์ มีก า ร
ถ่ายทอดลกั ษณะ
ท า ง พัน ธุ ก ร ร ม
เ ช่ น เ ชิ ง ผ ม ท่ี
หน้ าผากลัก ย้ิม
ลัก ษ ณ ะ ห นั ง ต า
ก า ร ห่ อ ล้ิ น
ลกั ษณะของตงิ่ หู

สาระท่ี 2 วิทยาศาสตรก์ ายภาพ

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะ ทกั ษะ สาระการเรยี นรู้ หมาย
อนั พึงประสงค์ กระบวนการ แกนกลาง เหตุ
สมรรถนะ (P)
(A)

มาตรฐานการเรียนรู้ ว 2.1 1.อธิบายการ 1. ก า ร 1 . จ า แ น ก ก า ร 1. มคี วามสนใจ 1. ส่อื สารและนา 1 . ก า ร เ ป ล่ีย น

เ ข้ า ใ จ ส ม บั ติ ข อ ง ส ส า ร เ ป ล่ี ย น เ ป ล่ี ย น เปลย่ี นแปลงของ ใฝ่ รู้หรอื อยากรู้ ความรู้เร่อื งการ สถานะของสสาร

อ ง ค์ ป ร ะ ก อ บ ข อ ง ส ส า ร ส ถ า น ะ ข อ ง สถานะของ สสารรอบตวั อยากเหน็ เปลย่ี นแปลงของ เ ป็ น ก า ร

ความสมั พนั ธ์ระหว่างสมบตั ิ สสารเม่ือทา สสารเม่อื ทา 2. อ ธิ บ า ย 2. สังเกตการ ส ส า ร ไ ป ใ ช้ ใ น เปล่ยี นแปลงทาง

ของสสารกับโครงสร้างและ ให้สสารร้อน ให้สสารร้อน ลกั ษณะของการ เ กิ ด ก า ร ชวี ติ ประจาวนั ได้ กายภาพเม่อื เพ่ิม

แรงยดึ เหน่ียวระหว่างอนุภาค ขน้ึ หรอื เยน็ ลง ข้ึนหรือเย็น หลอมเหลว ก ล า ย เ ป็ น ไ อ 2. ทางานรว่ มกบั ความร้อนให้กับ

หลักและธรรมชาติของการ โ ด ย ใ ช้ ลง 3.สงั เกตการเกดิ แ ล ะ ก า ร ผู้ อ่ื น อ ย่ า ง ส ส า ร ถึ ง ร ะ ดั บ

เปลย่ี นแปลงสถานะของสสาร หลักฐานเชิง การหลอมเหลว ควบแน่น สรา้ งสรรค์ หน่ึงจะทาใหส้ สาร

การเกิดสารละลายและการ ประจกั ษ์ 4. อ ธิ บ า ย ท่ีเ ป็ น ข อ ง แ ข็ง

เกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี (ว2.1 ป.5/1) ลกั ษณะของการ เ ป ล่ีย น ส ถ า น ะ

กลายเป็นไอและ เ ป็ น ข อ ง เ ห ล ว

การควบแน่นได้ เ รี ย ก ว่ า ก า ร

หลอมเหลวและ

เมอ่ื เพมิ่ ความรอ้ น

ต่ อ ไ ป จ น ถึง อีก

ร ะ ดั บ ห น่ึ ง

ของเหลวจะ

เปล่ียนเป็ นแก๊ส

เ รี ย ก ว่ า ก า ร

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะ ทกั ษะ สาระการเรียนรู้ หมาย
อนั พึงประสงค์ กระบวนการ แกนกลาง เหตุ
สมรรถนะ (P)
(A) กลายเป็ นไอแต่
เม่อื ลดความร้อน
ล ง ถึ ง ร ะ ดับ ห น่ึ ง
แ ก๊ ส จ ะ เ ป ล่ีย น
สถานะเป็ นของ
เหลวเรยี กว่าการ
ค ว บ แ น่ น แ ล ะ ถ้า
ล ด ค ว า ม ร้ อ น
ต่ อ ไ ป อีก จ น ถึง
ร ะ ดั บ ห น่ึ ง
ของเหลวจะ
เ ป ล่ีย น ส ถ า น ะ
เ ป็ น ข อ ง แ ข็ ง
เ รี ย ก ว่ า ก า ร
แข็งตัวสสารบาง
ช นิ ด ส า ม า ร ถ
เ ป ล่ีย น ส ถ า น ะ
จากของแข็งเป็ น
แ ก๊ ส โ ด ย ไ ม่ ผ่ า น
การเป็นของเหลว

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะ ทกั ษะ สาระการเรยี นรู้ หมาย
อนั พึงประสงค์ กระบวนการ แกนกลาง เหตุ
สมรรถนะ (P)
(A) เรยี กว่าการระเหดิ
ส่วนแก๊สบางชนิด
ส า ม า ร ถ เ ป ล่ี ย น
ส ถ า น ะ เ ป็ น
ข อ ง แ ข็ ง โ ด ย ไ ม่
ผ่ า น ก า ร เ ป็ น
ของเหลวเรยี กว่า
การระเหดิ กลบั

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะ ทกั ษะ สาระการเรยี นรู้ หมาย
อนั พึงประสงค์ กระบวนการ แกนกลาง เหตุ
สมรรถนะ (P)
(A)

มาตรฐานการเรียนรู้ ว 2.1 1. อธบิ ายการ 1.การละลาย 1 . สั ง เ ก ต ก า ร 1. มคี วามสนใจ 1.ส่ือสารและนา 1. เมอ่ื ใสส่ ารลงใน

เ ข้ า ใ จ ส ม บั ติ ข อ ง ส ส า ร ล ะ ล า ย ข อ ง ขอ งสารใน ละลายของสาร ใฝ่ รู้หรอื อยากรู้ ความรู้เร่อื งการ น้ า แ ล้ ว ส า ร นั้น

อ ง ค์ ป ร ะ ก อ บ ข อ ง ส ส า ร สารในน้าโดย น้า ในน้าได้ อยากเหน็ (A) ละลายไปใช้ใน ร ว ม เ ป็ น เ น้ื อ

ความสมั พนั ธ์ระหว่างสมบตั ิ ใ ช้ห ลัก ฐ า น 2.สารละลาย 2 . อ ธิ บ า ย 2 . พ อ ใ จ ใ น ชวี ติ ประจาวนั ได้ เดยี วกนั กบั น้าทวั่

ของสสารกับโครงสร้างและ เชงิ ประจกั ษ์ ประกอบดว้ ย ลั ก ษ ณ ะ ข อ ง ประสบการณ์ ทุกส่วนแสดงว่า

แรงยดึ เหน่ียวระหว่างอนุภาค (ว.2.1 ป.5/2) ตวั ทาละลาย สารละลายได้ ก า ร เ รี ย น รู้ ท่ี ส า ร เ กิ ด ก า ร

หลักและธรรมชาติของการ แ ล ะ ตั ว เ ก่ี ย ว กั บ ละลายเรียกสาร

เปลย่ี นแปลงสถานะของสสาร ละลาย วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ ผ ส ม ท่ี ไ ด้ ว่ า

การเกิดสารละลายและการ (A) สารละลาย

เกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี 3.ทางาน

ร่ ว ม กั บ ผู้ อ่ื น

อยา่ งสรา้ งสรรค์

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะ ทกั ษะ สาระการเรยี นรู้ หมาย
อนั พึง กระบวนการ แกนกลาง เหตุ
สมรรถนะ (P)
ประสงค์ (A)

มาตรฐานการเรยี นรู้ ว2.1 1.วิเคราะห์การ 1. ก า ร 1 . สัง เ ก ต ก า ร 1 . พ อ ใ จ ใ น 1.ส่อื สารและนา 1. เม่อื ผสมสาร2

เ ข้ า ใ จ ส ม บัติ ข อ ง ส ส า ร เปลย่ี นแปลงของ เปลย่ี นแปลง เปล่ียนแปลงท่ี ประสบการณ์ ความรู้เร่อื งการ ชนิดข้นึ ไปแล้วมี

อ ง ค์ป ร ะ ก อ บ ข อ ง ส ส า ร สารเม่อื เกิดการ ของสารเม่ือ ผันกลับได้ของ ก า ร เ รีย น รู้ ท่ี เปล่ียนแปลงท่ี สารใหม่เกิดข้ึน

ความสมั พนั ธ์ระหว่างสมบตั ิ เปลย่ี นแปลงทาง เ กิ ด ก า ร สารละลายได้ เ ก่ี ย ว กั บ ผันกลับได้ของ ซ่ึงมีสมบัติต่ าง

ของสสารกบั โครงสร้างและ เ ค มี โ ด ย ใ ช้ เปลย่ี นแปลง วิทยาศ าสตร์ สารละลายไปใช้ จากสารเดิมหรอื

แ ร ง ยึด เ ห น่ี ย ว ร ะ ห ว่ า ง ห ลั ก ฐ า น เ ชิ ง ทางเคมี (A) ในชวี ติ ประจาวนั เมอ่ื สารชนดิ เดยี ว

อนุภาคหลักและธรรมชาติ ป ร ะ จั ก ษ์ 2.ทางาน เ กิ ด ก า ร

ของการเปลย่ี นแปลงสถานะ (ว2.1 ป.5/3) ร่ ว ม กั บ ผู้ อ่ื น เปล่ยี นแปลงแลว้

ของสสารการเกดิ สารละลาย อยา่ งสรา้ งสรรค์ มสี ารใหม่เกิดข้นึ

และการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี (A) การเปล่ยี นแปลง

น้ี เ รีย ก ว่ า ก า ร

เปล่ยี นแปลงทาง

เคมีซ่ึงสังเกตได้

จากมีสีหรือกลิ่น

ต่างจากสารเดิม

ห รื อ มี ฟ อ ง แ ก๊ ส

ห รือ มีต ะ ก อ น

เกิดข้นึ หรอื มกี าร

เพมิ่ ขน้ึ หรอื ลดลง

ข อ ง อุ ณ ห ภู มิ

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะ ทกั ษะ สาระการเรียนรู้ หมาย
อนั พึง กระบวนการ แกนกลาง เหตุ
สมรรถนะ (P)
ประสงค์ (A) เปลย่ี นแปลงทผ่ี นั
กลบั ไมไ่ ดเ้ ช่น
การเผาไหม้การ
เกดิ สนิม

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะ ทกั ษะ สาระการเรยี นรู้ หมาย
อนั พึง กระบวนการ แกนกลาง เหตุ
สมรรถนะ (P)
ประสงค์ (A)

มาตรฐานการเรียนรู้ ว 2. 1. วิเคราะห์และ 1 . ก า ร 1 . ร ะ บุ ก า ร 1. มคี วามสนใจ 1.ส่อื สารและนา 1. เม่ือสารเกิด

1เข้าใจสมบัติขอ งสสาร ร ะ บุ ก า ร เปลย่ี นแปลง เปล่ียนสถานะ ใฝ่ รู้หรอื อยากรู้ ความรเู้ ร่อื งการ การเปล่ยี นแปลง

อ ง ค์ป ร ะ ก อ บ ข อ ง ส ส า ร เปล่ียนแปลงท่ี ทผ่ี นั กลบั ได้ ข อ ง ส ส า ร เ ป็ น อยากเหน็ เ ป ล่ีย น แ ป ล ง แล้วสารสามารถ

ความสมั พนั ธร์ ะหว่างสมบตั ิ ผันกลับได้และ 2 . ก า ร การเปลย่ี นแปลง 2. พ อ ใ จ ใ น ทางเคมไี ปใชใ้ น เปล่ียนกลับเป็ น

ของสสารกบั โครงสร้างและ การเปลย่ี นแปลง เปลย่ี นแปลง ทผ่ี นั กลบั ประสบการ ณ์ ชวี ติ ประจาวนั สารเดิมได้เ ป็ น

แ ร ง ยึด เ ห น่ี ย ว ร ะ ห ว่ า ง ท่ีผันกลับไม่ได้ ท่ี ผั น ก ลั บ 2 . สัง เ ก ต ก า ร ก า ร เ รีย น รู้ ท่ี 2 . นั ก เ รี ย น การเปล่ยี นแปลง

อนุภาคหลักและธรรมชาติ (ว2.1 ป.5/4) ไมไ่ ด้ เปลย่ี นแปลงทาง เ ก่ี ย ว กั บ สามารถ สบื ค้น ท่ีผันกลับได้เช่น

ของการเปลย่ี นแปลงสถานะ เคมี วทิ ยาศาสตร์ ข้ อ มู ล ด้ ว ย การหลอมเหลว

ของสสารการเกดิ สารละลาย 3. ร ะ บุ ก า ร 3. ท า ง า น ตนเอง การกลายเป็ นไอ

และการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี เปลย่ี นแปลงทาง ร่ ว ม กั บ ผู้ อ่ื น การละลายแต่สาร

เ ค มี เ ป็ น ก า ร อยา่ งสรา้ งสรรค์ บางอย่างเกิดการ

เ ป ล่ีย น แ ป ล ง ท่ี เปล่ยี นแปลงแล้ว

ผนั กลบั ไมไ่ ด้ ไมส่ ามารถเปลย่ี น

กลับเป็ นสารเดิม

ไดเ้ ป็นการ

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะ ทกั ษะ สาระการเรียนรู้ หมาย
อนั พึง กระบวนการ แกนกลาง เหตุ
สมรรถนะ (P)
ประสงค์ (A)

มาตรฐานการเรยี นรู้ ว 2.2 1. อธบิ ายวธิ กี าร 1.วิธีการหา 1 . อ ธิ บ า ย 1 . มี ค ว า ม 1.ส่อื สารและนา 1.แรงลัพธ์เป็ น

เข้าใจธรรมชาติของแรงใน หาแรงลพั ธ์ของ แรงลัพธ์ของ ความหมายของ สนใจใฝ่ รู้หรือ ความรเู้ ร่อื งแรง ผลรวมของแรงท่ี

ชวี ติ ประจาวนั ผลของแรงท่ี แรงหลายแรงใน แรงหลายแรง แรงได้ อยากรู้อยาก ไ ป ใ ช้ ใ น ก ร ะ ท า ต่ อ วัต ถุ

กระทาต่อวตั ถุลักษณะการ แนวเดียวกันท่ี ใ น แ น ว 2 . เ ขี ย น เหน็ ชวี ติ ประจาวนั โดยแรงลพั ธ์ของ

เคลอ่ื นทแ่ี บบต่างๆ ของวตั ถุ กระทาต่อวัตถุ เ ดี ย ว กั น ท่ี แผนภาพแสดง 2 . พ อ ใ จ ใ น 2 . นั ก เ รี ย น แรง๒แรงทก่ี ระทา

ร ว ม ทั้ง น า ค ว า ม รู้ไ ป ใ ช้ ในกรณที ว่ี ตั ถุอยู่ กระทาต่อวตั ถุ แรงท่กี ระทาต่อ ประสบการณ์ สามารถ สบื ค้น ต่อวัตถุเดียวกัน

ประโยชน์ น่ิงจากหลกั ฐาน ในกรณีท่วี ตั ถุ วตั ถุได้ ก า ร เ รีย น รู้ท่ี ข้ อ มู ล ด้ ว ย จะมขี นาดเท่ากบั

เชงิ ประจกั ษ์ อยนู่ ง่ิ 3.อธบิ ายวธิ กี าร เ ก่ี ย ว กั บ ตนเอง ผลรวมของแรงทงั้

(ว2.2 ป5/1) 2 . แ ผ น ภ า พ หาแรงลพั ธ์ของ วทิ ยาศาสตร์ 3 . นั ก เ รี ย น สองเม่ือแรงทั้ง

2. เ ขี ย น แ ส ด ง แ ร ง ท่ี แ ร ง 2 แ ร ง ท่ี 3 . ท า ง า น ส า ม า ร ถ ใ ช้ ส อ ง อ ยู่ ใ น แ น ว

แผนภาพแสดง กระทาต่อวตั ถุ กระทาต่อวัตถุ ร่ ว ม กับ ผู้ อ่ื น อุ ป ก ร ณ์ ก า ร เ ดีย ว กัน แ ล ะ มี

แรงท่ีกระทาต่อ ท่ีอ ยู่ใ น แ น ว เดยี วกนั ในแนว อ ย่ า ง ทดลองได้ ทิศทางเดียวกัน

วตั ถุท่อี ยู่ในแนว เดียวกันและ เดยี วกนั สรา้ งสรรค์ แ ต่ จ ะ มี ข น า ด

เดยี วกนั และแรง แ ร ง ลั พ ธ์ ท่ี 4.อธบิ ายวธิ กี าร เท่ากบั ผลต่างของ

ลพั ธท์ ก่ี ระทาต่อ กระทาต่อวตั ถุ วดั แรง แรงทั้งสองเ ม่ือ

วตั ถุ 3 . เ ค ร่ือ ง ชัง่ 5.อธบิ ายการใช้ แรงทัง้ สองอยู่ใน

(ว2.2 ป5/2) สปริงในการ เคร่ืองชัง่ สปริง แนวเดยี วกนั แต่มี

3. ใช้เคร่ืองชัง่ วั ด แ ร ง ท่ี ในการวดั แรงท่ี ทิศทางตรงข้าม

สปริงในการวัด กระทาต่อวตั ถุ กระทาต่อวตั ถุ กันสาหรบั วัตถุท่ี

แรงทก่ี ระทาต่อ วตั ถุ อยู่นิ่งแรงลัพธ์ท่ี

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะ ทกั ษะ สาระการเรยี นรู้ หมาย
อนั พึง กระบวนการ แกนกลาง เหตุ
วตั ถุ สมรรถนะ (P)
(ว2.2 ป5/3) ประสงค์ (A)

กระทาต่อวัตถุมี

คา่ เป็นศนู ย์

2 . ก า ร เ ขี ย น

แผนภาพของแรง

ท่ีกระทาต่อวัตถุ

สามารถเขียนได้

โดยใช้ลูกศรโดย

หัว ลูก ศ ร แ ส ด ง

ทิศทางของแรง

และความยาวของ

ลูกศรแสดงขนาด

ของแรงท่ีกระทา

ต่อวตั ถุ

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะ ทกั ษะ สาระการเรยี นรู้ หมาย
อนั พึง กระบวนการ แกนกลาง เหตุ
สมรรถนะ (P)
ประสงค์ (A)

มาตรฐานการเรียนรู้ ว 2.2 1. ระบุผลของ 1.ผลของแรง 1 . อ ธิ บ า ย 1 . นั ก เ รี ย น 1.ส่ือสารและนา 1. แรงเสียดทาน

เข้าใจธรรมชาติของแรงใน แรงเสยี ดทานทม่ี ี เสยี ดทานทม่ี ี ความหมายและ ตงั้ ใจเรยี น ความรู้เร่ืองแรง เป็นแรงท่ีเกิดข้ึน

ชวี ิตประจาวนั ผลของแรงท่ี ต่ อ ก า ร ต่อการ ลกั ษณะของแรง 2.นักเรยี นส่ง เสียดทานไปใช้ ระหว่างผิวสัมผสั

กระทาต่อวตั ถุลักษณะการ เปลย่ี นแปลงการ เปลย่ี นแปลง เสยี ดทานได้ งานตรงเวลา ในชวี ติ ประจาวนั ของวตั ถุเพ่อื ต้าน

เคล่อื นท่แี บบต่างๆของวตั ถุ เ ค ล่ื อ น ท่ี ข อ ง การเคลอ่ื นท่ี 2. ระบุปัจจยั ทม่ี ี 3 . ท า ง า น การเคล่ือนท่ีของ

ร ว ม ทั้ง น า ค ว า ม รู้ไ ป ใ ช้ วั ต ถุ จ า ก ของวตั ถุ ผลต่อขนาดของ ร่วมกับผู้อ่ืน วัต ถุ นั้น โ ด ย ถ้ า

ประโยชน์ ห ลั ก ฐ า น เ ชิ ง 2.แผนภาพ แรงเสียดทาน อ ย่ า ง ออกแรงกระทาต่อ

ป ร ะ จั ก ษ์ แสดงแรง ได้ สรา้ งสรรค์ วั ต ถุ ท่ี อ ยู่ น่ิ ง บ น

(ว2.2 ป5/4) เสยี ดทานและ พ้ื น ผิ ว ห น่ึ ง ใ ห้

2.เขยี นแผนภาพ แรงทอ่ี ยใู่ น เคล่อื นทแ่ี รงเสยี ด

แสดงแรงเสียด แนวเดยี วกนั ท า น จ า ก พ้ื น ผิ ว

ทานและแรงทอ่ี ยู่ ทก่ี ระทาต่อ นั้นก็จะต้านการ

ในแนวเดยี วกนั ท่ี วตั ถุ เคล่อื นท่ขี องวตั ถุ

กระทาต่อวตั ถุ แ ต่ ถ้ า ว ัต ถุ ก า ล ัง

(ว2.2 ป5/5) เคล่อื นทแ่ี รงเสยี ด

ท า น ก็จ ะ ท า ใ ห้

วัตถุนั้นเคล่ือนท่ี

ชา้ ลงหรอื หยดุ นง่ิ

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะ ทกั ษะ สาระการเรียนรู้ หมาย
อนั พึง กระบวนการ แกนกลาง เหตุ
สมรรถนะ (P)
ประสงค์ (A)

มาตรฐานการเรยี นรู้ ว 2.3 1. อธิบายการ 1 . ก า ร ไ ด้ยิน 1. อ ธิ บ า ย 1.นักเรยี นตงั้ ใจ 1.ส่ือสารและนา 1.การไดย้ นิ เสยี ง

เ ข้า ใ จ ค ว า ม ห ม า ย ข อ ง ได้ยนิ เสยี งผ่าน เ สี ย ง ผ่ า น ลัก ษ ณ ะ ข อ ง เรยี น ความรู้เร่อื งการ ต้ อ ง อ า ศั ย

พลังงานการเปล่ียนแปลง ตัว ก ล า ง จ า ก ตวั กลาง การไดย้ นิ เสยี ง 2 . ท า ง า น ได้ยนิ เสยี งไปใช้ ตวั กลางโดยอาจ

และการถ่ายโอนพลังงาน ห ลัก ฐ า น เ ชิ ง 2.เสยี งเกดิ จาก ได้ ร่ ว ม กั บ ผู้ อ่ื น ในชวี ติ ประจาวนั เ ป็ น ข อ ง แ ข็ ง

ปฏสิ มั พนั ธร์ ะหวา่ งสสารและ ป ร ะ จั ก ษ์ ก า ร สั่น ข อ ง 2. ระบตุ วั กลาง อยา่ งสรา้ งสรรค์ ข อ ง เ ห ล ว ห รือ

พ ลั ง ง า น พ ลั ง ง า น ใ น (ว2.3 ป5/1) แหล่งกาเนิด ท่ีเ สีย ง ใ ช้ใ น อากาศเสียงจะ

ชวี ติ ประจาวนั ธรรมชาตขิ อง เสียง ซ่ึงเสียง การเคล่ือนท่ี ส่งผ่านตัวกลาง

ค ล่ื น ป ร า ก ฏ ก า ร ณ์ ท่ี ท่เี กิดขน้ึ จะแผ่ ได้ มายงั หู

เก่ียวข้องกับเสียงแสงและ กระจาย

คล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้ ารวมทัง้ ออกไปทุกทิศ

นาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ ทุกทาง โดย

อาศยั ตวั กลาง

ท่เี ป็นของแข็ง

ของเหลว และ

อากาศในการ

เคล่อื นท่มี าถึง

หขู องเรา

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะ ทกั ษะ สาระการเรยี นรู้ หมาย
อนั พึง กระบวนการ แกนกลาง เหตุ
สมรรถนะ (P)
ประสงค์ (A)

มาตรฐานการเรียนรู้ ว 2.3 1. ระบุตัวแปร 1.ระดับเสียง 1 . อ ธิ บ า ย 1. มคี วามสนใจ 1.ส่ือสารและนา 1. เสยี งทไ่ี ดย้ นิ มี

เ ข้า ใ จ ค ว า ม ห ม า ย ข อ ง ท ด ล อ ง แ ล ะ เ ป็ น ลัก ษ ณ ะ ลัก ษ ณ ะ ข อ ง ใฝ่ รู้หรอื อยากรู้ ค ว า ม รู้ เ ร่ื อ ง ระดับสูงต่าของ

พลังงานการเปล่ียนแปลง อธบิ ายลกั ษณะ เ ฉ พ า ะ ท่ี ร ะ ดั บ เ สี ย ง อยากเหน็ ระดบั เสียงไปใช้ เ สี ย ง ต่ า ง กั น

และการถ่ายโอนพลังงาน แ ล ะ ก า ร เ กิ ด เกย่ี วกบั การได้ ต่างๆ 2 . พ อ ใ จ ใ น ในชวี ติ ประจาวนั ข้ึน กับ ค ว า ม ถ่ี

ปฏสิ มั พนั ธร์ ะหว่างสสารและ เสยี งสูงเสยี งต่า ยินเสียงขอ ง 2.ระบุตัวแปร ประสบการณ์ ของการสัน่ ของ

พ ลั ง ง า น พ ลั ง ง า น ใ น (ว2.3 ป5/2) ผู้ฟังทาใหผ้ ฟู้ ัง ท ด ล อ ง แ ล ะ ก า ร เ รี ย น รู้ ท่ี แ ห ล่ ง ก า เ นิ ด

ชวี ติ ประจาวนั ธรรมชาตขิ อง 2. ออกแบบการ ส า ม า ร ถ อ ธิ บ า ย เ ก่ี ย ว กั บ เ สีย ง โ ด ย เ ม่ือ

ค ล่ื น ป ร า ก ฏ ก า ร ณ์ ท่ี ท ด ล อ ง แ ล ะ แยกแยะได้ว่า ลัก ษ ณ ะ แ ล ะ วทิ ยาศาสตร์ แ ห ล่ ง ก า เ นิ ด

เก่ียวข้องกับเสียงแสงและ อธบิ ายลกั ษณะ เสียงท่ีได้ยิน การเกิดเสียง 3 . ท า ง า น เ สี ย ง สั่น ด้ ว ย

คล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้ารวมทัง้ แ ล ะ ก า ร เ กิ ด เ ป็ น เ สีย ง สู ง สงู เสยี งต่า ร่ ว ม กั บ ผู้ อ่ื น ความถ่ตี ่าจะเกดิ

นาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ เ สีย ง ดัง เ สีย ง หรอื เสยี งต่า 3 . อ อ ก แ บ บ อยา่ งสรา้ งสรรค์ เสยี งต่าแต่ถ้าสนั่

ค่อย ก า ร ท ด ล อ ง ดว้ ยความถส่ี ูงจะ

(ว2.3 ป5/3) ลัก ษ ณ ะ แ ล ะ เกิดเสยี งสูงส่วน

การเกิดเสียง เสยี งดงั ค่อยท่ไี ด้

ดงั เสยี งค่อย ยิ น ข้ึ น กั บ

4 . อ ธิ บ า ย พลังงานการสัน่

ปั จ จัย ท่ีมีผ ล ของแหล่งกาเนิด

ต่ อ ก า ร เ กิ ด เ สีย ง โ ด ย เ ม่ือ

เสียงดัง เสียง แ ห ล่ ง ก า เ นิ ด

คอ่ ย เ สี ย ง สั่น ด้ ว ย

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะ ทกั ษะ สาระการเรียนรู้ หมาย
อนั พึง กระบวนการ แกนกลาง เหตุ
สมรรถนะ (P)
ประสงค์ (A) พลังงานมากจะ
เ กิ ด เ สีย ง ดัง แ ต่
ถ้าแหล่งกาเนิด
เ สี ย ง สั่น ด้ ว ย
พลงั งานน้อยจะ
เกดิ เสยี งคอ่ ย

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะ ทกั ษะ สาระการเรียนรู้ หมาย
อนั พึง กระบวนการ แกนกลาง เหตุ
สมรรถนะ (P)
ประสงค์ (A)

มาตรฐานการเรียนรู้ ว 2.3 1. วดั ระดบั เสยี ง 1 . วั ด ร ะ ดั บ 1 . อ ธิ บ า ย 1.มีความสนใจ 1.ส่ือสารและนา 1. เสยี งดงั มากๆ

เ ข้า ใ จ ค ว า ม ห ม า ย ข อ ง โดยใชเ้ คร่อื งมอื เ สีย ง โ ด ย ใ ช้ ลัก ษ ณ ะ ข อ ง ใฝ่ รู้หรอื อยากรู้ ค ว า ม รู้ เ ร่ื อ ง เป็นอันตรายต่อ

พลังงานการเปล่ียนแปลง วดั ระดบั เสยี ง เคร่ือ งมือ วัด เ สี ย ง ใ น อยากเหน็ อันตรายท่ีเกิด การได้ยิน แ ล ะ

และการถ่ายโอนพลังงาน (ว2.3 ป5/4) ร ะ ดั บ เ สี ย ง ชวี ิตประจาวนั 2 . พ อ ใ จ ใ น จากเสยี งดงั ไปใช้ เสยี งท่กี ่อให้เกดิ

ปฏสิ มั พนั ธร์ ะหว่างสสารและ 2. ตระหนักใน ร ว ม ทั้ ง น า ท่เี ป็นอนั ตราย ประสบการณ์ ในชวี ติ ประจาวนั ความราคาญเป็น

พ ลั ง ง า น พ ลั ง ง า น ใ น คุ ณ ค่ า ข อ ง คว ามรู้ไป ใ ช้ ต่อหู ก า ร เ รี ย น รู้ ท่ี 2.ส่ือสารและนา มลพิษทางเสียง

ชวี ติ ประจาวนั ธรรมชาตขิ อง ค ว า ม รู้ เ ร่ื อ ง ประโยชน์ 2 . อ ธิ บ า ย เ ก่ี ย ว กั บ ค ว า ม รู้ เ ร่ื อ ง เ ด ซิ เ บ ล เ ป็ น

ค ล่ื น ป ร า ก ฏ ก า ร ณ์ ท่ี ระดบั เสียงโดย 2.คุณค่าของ อนั ตรายท่เี กิด วทิ ยาศาสตร์ อันตรายท่ีเกิด หน่วยท่ีบอกถึง

เก่ียวข้องกับเสียงแสงและ เ ส น อ แ น ะ ค ว า ม รู้เ ร่ือ ง จากเสยี งดงั 3 . ท า ง า น จากเสยี งดงั ไปใช้ ค ว า ม ดั ง ข อ ง

คล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้ารวมทัง้ แนวทางในการ ระดบั เสยี ง 3 . วั ด ร ะ ดั บ ร่ ว ม กั บ ผู้ อ่ื น ในชวี ติ ประจาวนั เสยี ง

นาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ หลีกเล่ียงและ 3.แนวทางใน เ สีย ง โ ด ย ใ ช้ อยา่ งสรา้ งสรรค์

ลดมลพิษทาง การหลีกเล่ียง เคร่ืองมือ วัด

เสยี ง และลดมลพิษ ระดบั เสยี ง

(ว2.3 ป5/5) ทางเสยี ง 3 . อ ธิ บ า ย

สาเหตุของการ

เกดิ มลพษิ ทาง

เสยี งได้

4 . อ ธิ บ า ย

ผลกระทบของ

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะ ทกั ษะ สาระการเรยี นรู้ หมาย
อนั พึง กระบวนการ แกนกลาง เหตุ
ม ล พิ ษ ท า ง สมรรถนะ (P)
เสยี งได้ ประสงค์ (A)
5. เสนอแนะ
แนวทางการ
ป้องกนั และลด
ปั ญหามลพิษ
ทางเสยี ง

สาระท่ี 3 วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะ ทกั ษะ สาระการเรยี นรู้ หมาย
อนั พึง กระบวนการ แกนกลาง เหตุ
สมรรถนะ (P)
ประสงค์ (A)

มาตรฐานการเรียนรู้ ว 1.เปรียบเทียบ 1. ค ว า ม 1.เปรียบเทียบ 1.มคี วามสนใจ 1.ส่ือสารและนา 1.ดาวทม่ี องเหน็ บน

3.1เข้าใจองค์ประกอบ ความแตกต่าง แตกต่างของ ความแตกต่าง ใฝ่รหู้ รอื อยากรู้ ความรู้เร่ืองการ ท้ อ ง ฟ้ า อ ยู่ ใ น

ลกั ษณะกระบวนการเกิด ของดาวเคราะห์ ดาวเคราะห์ ของดาวเคราะห์ อยากเหน็ มองเหน็ ดาวไปใช้ อวกาศซ่ึงเป็ นบริ

แ ล ะ วิ วั ฒ น า ก า ร ข อ ง แ ล ะ ด า ว ฤ ก ษ์ และดาวฤกษ์ แ ล ะ ด า ว ฤ ก ษ์ 2 . พ อ ใ จ ใ น ในชวี ติ ประจาวนั เ ว ณ ท่ี อ ยู่ น อ ก

เอกภพ กาแล็กซี ดาว จากแบบจาลอง 2. ด า ว ท่ี จากแบบจาลอง ประสบการณ์ บรรยากาศของโลก

ฤ ก ษ์ แ ล ะ ร ะ บ บ สุ ริย ะ (ว3.1 ป.5/1) มองเห็นบน ก า ร เ รี ย น รู้ ท่ี มีทัง้ ดาวฤกษ์และ

รวมทงั้ ปฏสิ มั พนั ธ์ภายใน ท้องฟ้ าอยู่ใน เ ก่ี ย ว กั บ ด า ว เ ค ร า ะ ห์ ด า ว

ระบบสุริยะท่ีส่งผล ต่ อ อ ว ก า ศ ซ่ึ ง วทิ ยาศาสตร์ ฤ ก ษ์ เ ป็ น

ส่ิ ง มี ชี วิ ต แ ล ะ เป็นบรเิ วณท่ี 3.ทางาน แหล่งกาเนิดแสงจงึ

การประยุกตใ์ ชเ้ ทคโนโลยี อ ยู่ น อ ก ร่ ว ม กับ ผู้ อ่ืน สามารถมองเหน็ ได้

อวกาศ บรรยากาศ อ ย่ า ง ส่ ว น ด า ว เ ค ร า ะ ห์

ของโลก มที งั้ สรา้ งสรรค์ ไม่ใช่แหล่งกาเนิด

ดาวฤกษ์และ แ ส ง แ ต่ ส า ม า ร ถ

ดาวเคราะห์ ม อ ง เ ห็ น ไ ด้

เน่ืองจากแสงจาก

ด ว ง อ า ทิต ย์ ต ก

กระทบดาวเคราะห์

แลว้ สะทอ้ นเขา้ สตู่ า

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะ ทกั ษะ สาระการเรยี นรู้ หมาย
อนั พึง กระบวนการ แกนกลาง เหตุ
สมรรถนะ (P)
ประสงค์ (A)

มาตรฐานการเรียนรู้ 3.1 1 . ใ ช้ แ ผ น ท่ี 1.แผนท่ีดาว 1 . สัง เ ก ต แ ล ะ 1.มคี วามสนใจ 1.ส่ือสารและนา 1. การมองเห็นกลุ่ม

เขา้ ใจองค์ประกอบลกั ษณะ ด า ว ร ะ บุ ระบุตาแหน่ง เ ป รีย บ เ ทีย บ ใฝ่รหู้ รอื อยากรู้ ความรูเ้ ร่อื งกลุ่ม ด า ว ฤ ก ษ์ มีรูป ร่า ง

ก ร ะ บ ว น ก า ร เ กิ ด แ ล ะ ตาแหน่ งและ และเส้นทาง กลุ่มดาวฤกษ์ อยากเหน็ ดาวฤกษ์ไปใชใ้ น ต่ า ง ๆ เ กิ ด จ า ก

วิ วั ฒ น า ก า ร ข อ ง เ ส้น ท า ง ก า ร ก า ร ข้ึน แ ล ะ จากจนิ ตนาการ 2 . พ อ ใ จ ใ น ชวี ติ ประจาวนั จิน ต น า ก า ร ข อ ง ผู้

เอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์ ข้นึ และตกของ ตกของกลุ่ม ของแต่ละคนได้ ประสบการณ์ 2.ส่ือสารและนา สงั เกตกลุ่มดาวฤกษ์

แ ล ะ ร ะ บ บ สุ ริย ะ ร ว ม ทั้ง กลุ่มดาวฤกษ์ ดาวฤกษ์บน 2.อธิบายการ ก า ร เ รีย น รู้ท่ี ความรู้เร่อื งการ ต่ างๆท่ีปราก ฏ ใ น

ปฏิสัมพันธ์ภายในระบบ บนทอ้ งฟ้าและ ทอ้ งฟ้า บอกตาแหน่ ง เ ก่ี ย ว กั บ บ อ ก ต า แ ห น่ ง ท้องฟ้ าแต่ละกลุ่มมี

สรุ ยิ ะทส่ี ง่ ผลต่อสง่ิ มชี วี ติ และ อธบิ ายแบบรปู 2.รูปเส้นทาง ข อ ง ก ลุ่ ม ด า ว วทิ ยาศาสตร์ ข อ ง ก ลุ่ ม ด า ว ดาวฤกษ์แต่ละดวง

การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี เ ส้น ท า ง ก า ร ก า ร ข้ึน แ ล ะ ฤกษ์บนทอ้ งฟ้า 3 . ท า ง า น ฤกษ์บนท้องฟ้ า เรียงกันท่ีตาแหน่ ง

อวกาศ ข้นึ และตกของ ตกของกลุ่ม ได้ (K) ร่ ว ม กับ ผู้ อ่ืน ไ ป ใ ช้ ใ น คงท่ีและมีเส้นทาง

กลุ่มดาวฤกษ์ ดาวฤกษ์บน 3. ระบุตาแหน่ง อ ย่ า ง ชวี ติ ประจาวนั การข้ึนและตกตาม

บนท้องฟ้ าใน ท้ อ ง ฟ้ า ใ น เส้นขอบฟ้าและ สรา้ งสรรค์ เสน้ ทางเดมิ ทุกคนื ซ่งึ

ร อ บ ปี รอบปี จุดเหนือศีรษะ จะปรากฏตาแหน่ ง

(ว3.1 ป.5/2) ได้ (K) เ ดิ ม ก า ร สั ง เ ก ต

4. ระบุมุมทิศ ตาแหน่งและการข้นึ

และมมุ เงยได้ และตกของดาวฤกษ์

แ ล ะ ก ลุ่ ม ด า ว ฤ ก ษ์

สามารถทาไดโ้ ดยใช้

แผนท่ดี าวซ่งึ ระบุมุม

ทศิ และมุมเงยท่กี ลุ่ม

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะ ทกั ษะ สาระการเรยี นรู้ หมาย
อนั พึง กระบวนการ แกนกลาง เหตุ
สมรรถนะ (P)
ประสงค์ (A) ด า ว นั้น ป ร า ก ฏ ผู้
สงั เกตสามารถใชม้ อื
ในการประมาณค่า
ของมมุ เงยเมอ่ื สงั เกต
ดาวในทอ้ งฟ้า

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะ ทกั ษะ สาระการ หมาย
อนั พึง กระบวนการ เรียนรู้ เหตุ
แกนกลาง
ประสงค์ (A) สมรรถนะ (P)

มาตรฐานการเรียนรู้ ว 1 . 1.ปริมาณน้าในแต่ 1.บอกความสาคญั 1.มคี วามสนใจ 1.ส่อื สารและนา • โลกมที งั้ น้าจดื

3.2 เปรียบเทียบ ละแหล่งและระบุ ของน้าได้ ใฝ่ รู้หรอื อยาก ค ว า ม รู้ เ ร่ื อ ง และน้ าเค็มซ่ึง

เข้าใจองค์ประกอบและ ปริมาณน้าใน ปรมิ าณน้าท่มี นุษย์ 2 . บ อ ก สัด ส่ ว น รู้ อ ย า ก เ ห็ น ค ว า ม ส า คั ญ อยู่ในแหล่งน้า

ความสัมพันธ์ของระบบ แ ต่ ล ะ แ ห ล่ ง สามารถนามาใช้ พ้ืนดินและพ้ืนน้า (A) ของน้าไปใช้ใน ต่ า ง ๆ ท่ี มี ทั้ง

โ ล ก ก ร ะ บ ว น ก า ร แ ล ะ ร ะ บุ ประโยชน์ บนพน้ื ผวิ โลก 2 . พ อ ใ จ ใ น ชวี ติ ประจาวนั แหล่งน้าผิวดิน

เปล่ียนแปลงภายในโลก ปริมาณน้ า ท่ี 2. น้ า เ ป็ น 3.บอกร้อยละของ ประสบการณ์ เ ช่ น ท ะ เ ล

และบนผิวโลกธรณีพิบัติ มนุษยส์ ามารถ ทรพั ยากรธรรมชาติ น้าเคม็ และน้าจดื การเรียนรู้ท่ี มหาสมุท รบึง

ภั ย ก ร ะ บ ว น ก า ร น า ม า ใ ช้ ท่สี าคญั โดยพน้ื น้า เ ก่ี ย ว กั บ แม่น้าและแหล่ง

เปล่ยี นแปลงลมฟ้าอากาศ ประโยชน์ ได้ มีอยู่ 3 ใน 4 ส่วน วิทยาศาสตร์ น้าใต้ดนิ เช่นน้า

และภูมอิ ากาศโลกรวมทงั้ จ า ก ข้อ มู ล ท่ี ข อ ง พ้ื น ผิ ว โ ล ก (A) ใ น ดิน แ ล ะ น้ า

ผ ล ต่ อ สิ่ ง มี ชี วิ ต แ ล ะ รวบรวมได้ ทงั้ หมด 3. ทางาน บ า ด า ล น้ า

สง่ิ แวดลอ้ ม (ว3.2 ป5/1) ร่ ว ม กับ ผู้อ่ืน ทงั้ หมดของโลก
อ ย่ า ง แบ่งเป็ นน้ าเคม็

สรา้ งสรรค์ ประมาณรอ้ ยละ

97.5 ซ่ึงอยู่ใน

มหาสมุทรและ

แหล่งน้าอ่ืน ๆ

และท่ีเหลืออีก

ประมาณรอ้ ยละ

2.5 เป็ นน้าจืด

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะ ทกั ษะ สาระการ หมาย
อนั พึง กระบวนการ เรียนรู้ เหตุ
สมรรถนะ (P) แกนกลาง
ประสงค์ (A)

ถ้ า เ รีย ง ล า ดั บ

ปริมาณน้ าจืด

จากมากไปน้อย

จ ะ อ ยู่ ท่ี ธ า ร

น้ า แ ข็ง แ ล ะ พืด

น้าแขง็ น้าใต้ดนิ

ชนั้ ดนิ เยอื กแขง็

ค ง ตั ว แ ล ะ

น้ า แ ข็ง ใ ต้ ดิน

ทะเลสาบ

ความช้ืนในดิน

ค ว า ม ช้ื น ใ น

บรรยากาศบึง

แม่น้าและน้าใน

สง่ิ มชี วี ติ

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะ ทกั ษะ สาระการ หมาย
อนั พึง กระบวนการ เรียนรู้ เหตุ
แกนกลาง
ประสงค์ (A) สมรรถนะ (P)

มาตรฐานการเรยี นรู้ ว3.2 1. ตระหนักถึง 1.แหล่งน้าต่างๆ มี 1.บอกวิธีสังเกต 1 . พ อ ใ จ ใ น 1.ส่อื สารและนา 1.น้าจดื ทม่ี นุษย์

เข้าใจองค์ประกอ บแล ะ คุณค่าขอ งน้ า สิ่งเจือปน ดังนั้น คณุ ภาพของน้า ประสบการณ์ ค ว า ม รู้ เ ร่ื อ ง น า ม า ใ ช้ ไ ด้ มี

ความสมั พนั ธ์ของระบบโลก โ ด ย น า เ ส น อ ก่อนการนาไปใช้ ก า ร เ รีย น รู้ท่ี คุณภาพของน้า ป ริ ม า ณ น้ อ ย

กระบวนการเปล่ียนแปลง แนวทางการใช้ ป ร ะ โ ย ช น์ ค ว ร เ ก่ี ย ว กั บ ไ ป ใ ช้ ใ น มากจึงควรใช้

ภายในโลกและบนผิวโลก น้ า อ ย่ า ง สงั เกตคณุ ภาพของ วิทยาศาสตร์ ชวี ติ ประจาวนั น้ า อ ย่ า ง

ธรณีพิบัติภัยกระบวนการ ป ร ะ ห ยัด แ ล ะ น้า (A) ป ร ะ ห ยัด แ ล ะ

เปล่ียนแปลงลมฟ้ าอากาศ การอนุรักษ์น้า 2 . คุ ณ ค่ า ข อ งน้ า 2. ทางาน ร่วมกันอนุรกั ษ์

และภูมิอากาศโลกรวมทัง้ (ว3.2 ป5/2) โดยนาเสนอแนว ร่ ว ม กับ ผู้ อ่ืน น้า

ผ ล ต่ อ ส่ิ ง มี ชี วิ ต แ ล ะ ทางการใชน้ ้าอย่าง อ ย่ า ง

สงิ่ แวดลอ้ ม ประหยัดและการ สรา้ งสรรค์

อนุรกั ษ์น้า

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะ ทกั ษะ สาระการเรียนรู้ หมาย
อนั พึง กระบวนการ แกนกลาง เหตุ
สมรรถนะ (P)
ประสงค์ (A)

มาตรฐานการเรียนรู้ ว 3.2 1 . ส ร้ า ง 1 . แ บ บ จ า ล อ ง ท่ี 1 . บ อ ก ค ว า ม 1 . นั ก เ รี ย น 1.ส่ือสารและนา 1. วฏั จกั รน้าเป็น

เข้าใจอ งค์ประกอ บแล ะ แ บ บ จ า ล อ ง ท่ี อ ธิ บ า ย ก า ร แตกต่างของเมฆ ตงั้ ใจเรยี น ความรเู้ รอ่ื งไอน้า การหมุนเวียน

ความสมั พนั ธข์ องระบบโลก อ ธิ บ า ย ก า ร หมุนเวียนของน้า ห ม อ ก แ ล ะ 2 . ท า ง า น ในอากาศไปใช้ ของน้าท่ีมีแบบ

กระบวนการเปล่ียนแปลง หมุนเวียนของ ในวฏั จกั รน้า น้าคา้ ง ร่ ว ม กับ ผู้ อ่ืน ในชวี ติ ประจาวนั รูป ซ้ า เ ดิม แ ล ะ

ภายในโลกและบนผิวโลก น้าในวัฏจกั รน้า 2.ความร้อนจาก อ ย่ า ง ต่อเน่ืองระหว่าง

ธรณีพิบัติภัยกระบวนการ (ว3.2 ป5/3) ดวงอาทิตย์ทาให้ สรา้ งสรรค์ น้าในบรรยากาศ

เปล่ียนแปลงลมฟ้ าอากาศ น้าในแหล่งน้าเกิด น้าผิวดินและน้า

และภมู อิ ากาศโลกรวมทงั้ ผล การเปล่ยี นสถานะ ใ ต้ ดิ น โ ด ย

ต่อสงิ่ มชี วี ติ และสงิ่ แวดลอ้ ม เป็นไอน้า ไอน้าใน พฤติกรรมการ

อ า ก า ศ มี ก า ร ดารงชวี ติ ของพชื

เปล่ียนสถานะอยู่ แ ล ะ สั ต ว์ ส่ ง ผ ล

ตลอดเวลา ทาให้ ต่อวฏั จกั รน้า

เกิดปรากฏการณ์

ต่างๆ เช่น เมฆ

หมอก และน้าคา้ ง

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะ ทกั ษะ สาระการเรยี นรู้ หมาย
อนั พึง กระบวนการ แกนกลาง เหตุ
สมรรถนะ (P)
ประสงค์ (A)

มาตรฐานการเรียนรู้ ว 3.2 1. เปรยี บเทียบ 1.ลกั ษณะของเมฆ 1.บอกช่ือของ 1.มคี วามสนใจ 1.ส่อื สารและนา 1.ไอน้าในอากาศ

เข้าใจอ งค์ปร ะ กอ บ แ ล ะ กระบวนการเกดิ ส า ม า ร ถ ใ ช้ เมฆ ใฝ่ รู้หรอื อยากรู้ ความรเู้ รอ่ื งเมฆ จะควบแน่นเป็ น

ความสมั พนั ธ์ของระบบโลก เ ม ฆ ห ม อ ก พ ย า ก ร ณ์ ส ภ า พ 2.เปรียบเทียบ อยากเหน็ (A) ไ ป ใ ช้ ใ น ละอองน้ าเล็กๆ

กระบวนการเปล่ียนแปลง น้ า ค้ า ง แ ล ะ อากาศเบ้อื งต้นได้ ก ร ะ บ ว น ก า ร 2 . พ อ ใ จ ใ น ชวี ติ ประจาวนั โดยมีละอองลอย

ภายในโลกและบนผิวโลก น้าค้างแข็งจาก โดยจาแนก เ ม ฆ เกิดเมฆหมอก ประสบการณ์ 2.ส่อื สารและนา เ ช่ น เ ก ลื อ ฝ่ ุ น

ธรณีพิบัติภัยกระบวนการ แบบจาลอง ตามรูปร่างและสี น้ า ค้ า ง แ ล ะ ก า ร เ รี ย น รู้ ท่ี ค ว า ม รู้ เ ร่ื อ ง ละอองละอองเรณู
เปล่ียนแปลงลมฟ้ าอากาศ (ว3.2 ป5/4)
และภมู อิ ากาศโลกรวมทงั้ ผล ของท้องฟ้าได้เป็น น้าคา้ งแขง็ เ ก่ี ย ว กั บ ค ว า ม สัม พัน ธ์ ของดอกไม้เป็ น
เมฆควิ มูลสั เมฆส 3. ส ร้ า ง วิท ย า ศ า สต ร์ ของเมฆ หมอก อนุภาคแกนกลาง
ต่อสงิ่ มชี วี ติ และสงิ่ แวดลอ้ ม และน้าคา้ งไปใช้ เ ม่ื อ ล ะ อ อ ง น้ า
เตรตสั และเมฆซรี ์ แ บ บ จ า ล อ ง (A)
รสั เ ป รีย บ เ ทีย บ 3 . ท า ง า น ในชวี ติ ประจาวนั จานวนมากเกาะ

2.หมอกเกดิ จากไอ ก ร ะ บ ว น ก า ร ร่ ว ม กั บ ผู้ อ่ื น กลุ่มรวมกันลอย

น้าจากแหล่งต่างๆ เกิดเมฆหมอก อยา่ งสรา้ งสรรค์ อยู่สูงจากพ้ืนดิน

ถูกลมพดั ลอยขน้ึ สู่ น้ า ค้ า ง แ ล ะ มากเรียกว่าเมฆ

บรรยากาศดา้ นบน น้าคา้ งแขง็ แ ต่ ล ะ อ อ ง น้ า ท่ี

และควบแน่นเป็น 4. เ ข้ า ใ จ เกาะกลุ่มรวมกัน

ล ะ อ อ ง น้ า เ ล็ก ๆ ก ร ะ บ ว น ก า ร อ ยู่ ใ ก ล้ พ้ื น ดิ น

ลอยอย่บู รเิ วณใกล้ เกิดหมอกและ เ รีย ก ว่ า ห ม อ ก

พ้ื น โ ล ก ส่ ว น น้าคา้ ง ส่ ว น ไ อ น้ า ท่ี

น้าค้างเกิดจากไอ ค ว บ แ น่ น เ ป็ น

น้าในอากาศสมั ผสั ละอองน้าเกาะอยู่

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะ ทกั ษะ สาระการเรยี นรู้ หมาย
อนั พึง กระบวนการ แกนกลาง เหตุ
กบั พ้นื ดนิ หรอื วตั ถุ สมรรถนะ (P)
ทม่ี คี วามเยน็ ประสงค์ (A)

บนพน้ื ผวิ วตั ถุใกล้

พ้ืน ดิน เ รีย ก ว่ า

น้าคา้ ง

ถ้ า อุ ณ ห ภู มิ ใ ก ล้

พ้ืน ดิน ต่ า ก ว่ า จุ ด

เยอื กแขง็ น้าค้างก็

จ ะ ก ล า ย เ ป็ น

น้าคา้ งแขง็

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะ ทกั ษะ สาระการเรยี นรู้ หมาย
อนั พึง กระบวนการ แกนกลาง เหตุ
สมรรถนะ (P)
ประสงค์ (A)

มาตรฐานการเรยี นรู้ ว 3.2 1. เปรียบเทียบ 1.กระบวนการเกิด 1.อธิบายการ 1.มคี วามสนใจ 1.ส่ือสารและนา 1. ฝนหมิ ะลูกเหบ็

เข้าใจอ งค์ประกอ บแล ะ กระบวนการเกิด ฝนหมิ ะและลกู เหบ็ เ กิ ด ฝ น หิม ะ ใฝ่รหู้ รอื อยากรู้ ค ว า ม รู้ เ ร่ื อ ง เป็ นหยาดน้าฟ้ า

ความสมั พนั ธข์ องระบบโลก ฝ น หิ ม ะ แ ล ะ และลกู เหบ็ อยากเหน็ หยาดน้าฟ้าไปใช้ ซ่ึ ง เ ป็ น น้ า ท่ี มี

กระบวนการเปล่ียนแปลง ลู ก เ ห็ บ จ า ก 2. เปรยี บเทยี บ 2 . พ อ ใ จ ใ น ในชวี ติ ประจาวนั สถานะต่างๆทต่ี ก

ภายในโลกและบนผิวโลก ข้อมูลท่รี วบรวม กระบวน การ ประสบการณ์ 2 . ร ว บ ร ว ม จากฟ้ าถึงพ้ืนดิน

ธรณีพิบัติภัยกระบวนการ ได้ เ กิ ด ฝ น หิม ะ ก า ร เ รีย น รู้ท่ี กระบวน การเกดิ ฝนเกดิ จากละออง

เปล่ียนแปลงลมฟ้ าอากาศ (ว3.2 ป5/5) และลกู เหบ็ จาก เ ก่ี ย ว กั บ ฝ น หิม ะ แ ล ะ น้ า ใ น เ ม ฆ ท่ี

และภมู อิ ากาศโลกรวมทงั้ ผล ขอ้ มลู ทร่ี วบรวม วทิ ยาศาสตร์ ลกู เหบ็ ร ว ม ตั ว กั น จ น

ต่อสงิ่ มชี วี ติ และสง่ิ แวดลอ้ ม 3. ท า ง า น อากาศไม่สามารถ

ร่ ว ม กับ ผู้ อ่ืน พยุงไวไ้ ดจ้ งึ ตกลง

อ ย่ า ง มาหมิ ะเกดิ จากไอ

สรา้ งสรรค์ น้ า ใ น อ า ก า ศ

ระเหิดกลับเป็ น

ผ ลึ ก น้ า แ ข็ ง

ร ว ม ตั ว กั น จ น มี

น้ าหนักมากข้ึน

จนเกนิ กว่าอากาศ

จะพยงุ ไวจ้ งึ ตกลง

มาลกู เหบ็ เกดิ จาก

ห ย ด น้ า ท่ีเ ป ล่ีย น

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะ ทกั ษะ สาระการเรียนรู้ หมาย
อนั พึง กระบวนการ แกนกลาง เหตุ
สมรรถนะ (P)
ประสงค์ (A) ส ถ า น ะ เ ป็ น
น้ า แ ข็ง แ ล้ ว ถู ก
พายุพัดวนซ้าไป
ซ้ า ม า ใ น เ ม ฆ ฝ น
ฟ้ า ค ะ น อ ง ท่ี มี
ขนาดใหญ่และอยู่
ในระดบั สงู จนเป็น
ก้อนน้าแขง็ ขนาด
ใหญ่ขน้ึ แลว้ ตกลง
มา

สาระท่ี 4 เทคโนโลยี

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะ ทกั ษะ สาระการเรยี นรู้ หมาย
อนั พึง ประสงค์ กระบวนการ แกนกลาง เหตุ
สมรรถนะ (P)
(A)

มาตรฐานการเรียนรู้ ว 4.2 1. ใชเ้ หตุผลเชงิ 1. รหสั ลาลองเป็น 1. อ ธิ บ า ย 1. เหน็ คณุ ค่า การ 1. ฝึ ก ก า ร ใ ช้ 1. การใช้เหตุผล

เข้าใจและใช้แนวคิดเชิง ต รรกะใน ก า ร การเขยี นขอ้ ความ เ ก่ี ย ว กั บ ใ ช้ เ ห ตุ ผ ล เ ชิ ง เ ห ตุ ผ ล เ ชิ ง เชิงตรรกะเป็ น

คานวณในการแก้ปัญหาท่ี แก้ปั ญห า ก า ร เป็นขนั้ ตอนเพ่ือแ วิ ธี ก า ร ตรรกะ ตรรกะ การนากฎเกณฑ์

พบในชีวิตจริงอย่างเ ป็ น อ ธิ บ า ย ก า ร สดงอัลกอริทึมใน แกป้ ัญหา 2.เหน็ ความสาคญั 2. ปฏบิ ตั งิ านใน ห รือ เ ง่ือ น ไ ขท่ี

ขัน้ ตอนและเป็ นระบบใช้ ท า ง า น ก า ร การทางานหรอื กา 2.อธิบายการ ของการทางานท่ี สถานะ เรมิ่ ต้น ค ร อ บ ค ลุ ม ทุ ก

เทคโนโลยีสารสนเทศและ ค า ด ก า ร ณ์ รแกป้ ัญหารหสั เลข ใช้เหตุผลเชิง แตกต่างกนั จะ ให้ ท่ี แตกต่างกัน ก ร ณี ม า ใ ช้

การส่อื สารในการเรยี นรูก้ าร ผ ล ลั พ ธ์ จ า ก จาล อ งท่ีดีค ว ร มี ตรรกะ ผ ล ลั พ ธ์ ท่ี จะให้ผลลัพธ์ท่ี พิจารณาในการ

ทางานและการแก้ปัญหาได้ ปัญหาอย่างง่าย ความชดั เจนทุกคน 3.อธิบายการ แตกต่างกนั แตกต่างกนั แ ก้ ปั ญ ห า ก า ร

อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพรเู้ ท่าทนั (ว.4.2 ป5/1) สามารถเข้าใจได้ ทางานในการ 3.เห็นประโยชน์ 3. ฝึ ก เ ก ม อ ธิ บ า ย ก า ร

และมจี รยิ ธรรม ตรงกนั เราสามารถ เร่ิมสถานะท่ี ของการเล่นเกม Sudoku ทางานหรือการ

นาคว่ามรูเ้ ก่ยี วกบั แตกต่างกันจะ Sudoku 4.ฝึกปฏบิ ตั กิ าร ค า ด ก า ร ณ์

ก า ร เ ขี ย น ร หั ส ใ ห้ผ ล ลัพ ธ์ท่ี 4.เห็นประโยชน์ ใ ช้ โ ป ร แ ก ร ม ผลลพั ธ์

ลาลองไปประยุกต์ แตกต่างกนั ข อ ง ก า ร ใ ช้ ทานายตวั เลข 2. สถานะเรม่ิ ต้น

ใ ช้ ใ น ก า ร แ ส ด ง 4. อธิบายการ โปรแกรมทานาย 5.ฝึกปฏบิ ตั กิ าร ของการทางานท่ี

ขนั้ ตอนการทางาน เ ล่ น เ ก ม ตวั เลข ใ ช้ โ ป ร แ ก ร ม แตกต่างกนั จะให้

ต่ างๆ เช่น การ Sudoku 6.เห็นประโยชน์ ส ร้ า ง รู ป ผ ล ลั พ ธ์ ท่ี

ประดิษฐ์ดอกไม้ 5. อ ธิ บ า ย ข อ ง ก า ร ใ ช้ เรขาคณิตตาม แตกต่างกนั

ก ร ะ ด า ษ ก า ร โ ป ร แ ก ร ม โปรแกรมสรา้ งรูป ค่าขอ้ มลู เขา้ 3.ตวั อย่างปัญหา

ทาอาหารการยืม ทานายตัวเลข เช่นเกม Sudoku

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะ ทกั ษะ สาระการเรยี นรู้ หมาย
อนั พึง ประสงค์ กระบวนการ แกนกลาง เหตุ
สมรรถนะ (P)
(A)

คื น ห นั ง สื อ ใ น 6. อ ธิ บ า ย เรขาคณติ ตาม ค่า 6.ฝึกปฏบิ ตั กิ าร โปรแกรมทานาย

ห้ อ ง ส มุ ด โปรแกรมสรา้ ง ขอ้ มลู เขา้ จัด ล า ดับ ก า ร ตวั เลขโปรแกรม

อัลกอริทึมสามา รูปเรขาคณิต 7.เห็นประโยชน์ ท า ง า น บ้ า น ส ร้ า ง รู ป

ร ถ แ ส ด ง ไ ด้ ใ น ตามค่าข้อมูล ของการจดั ลาดับ ในชว่ งวนั หยดุ เรขาคณิตตาม

รูปแบบของรหัส เขา้ การทางานบ้าน 7.ฝึกปฏบิ ตั กิ าร ค่าข้อมูลเข้าการ

ลาลองหรอื ผงั งาน 7. อธิบายการ ในช่วงวนั หยดุ จัดวางของใน จั ด ล า ดั บ ก า ร

จัดลาดับการ ครวั ท า ง า น บ้ า น

ท า ง า น บ้ า น ใ น ช่ ว ง วัน ห ยุ ด

ในช่วงวนั หยดุ จัด ว า ง ข อ ง ใ น

ครวั

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะอนั ทกั ษะ สาระการเรยี นรู้ หมาย
พึง ประสงค์ (A) กระบวนการ แกนกลาง เหตุ
สมรรถนะ (P)

มาตรฐานการเรียนรู้ ว 4.2 1. ออกแบบและ 1 . เ ร า ส า ม า ร ถ 1. อธบิ ายการ 1. เ ห็ น 1. เ ขี ย น 1. การออกแบบ

เข้าใจแล ะใช้แนว คิดเชิง เขยี นโปรแกรม ว า ง แ ผ น เ ขี ย น อ อ ก แ บ บ ความสาคญั ของ อ อ ก แ บ บ โ ป ร แ ก ร ม

คานวณในการแก้ปัญหาทพ่ี บ ท่ี มี ก า ร ใ ช้ โปรแกรมโดย เขยี น โปรแกรมท่ีมี ก า ร อ อ ก แ บ บ โปรแกรมทงั้ เป็น สามารถท า ไ ด้

ในชวี ติ จรงิ อย่างเป็นขนั้ ตอน เ ห ตุ ผ ล เ ชิ ง ร หั ส ล า ล อ ง เ พ่ื อ การตรวจสอบ โปรแกรม แ บ บ ข้ อ ค ว า ม โ ด ย เ ขีย น เ ป็ น

และเป็นระบบใช้เทคโนโลยี ตรรกะอยา่ งง่าย แสดงขนั้ ตอน การ เ ง่ื อ น ไ ข ท่ี 2. เ ห็ น คุ ณ ค่ า หรอื ผงั งาน ข้อความหรอื ผัง

สารสนเทศและการส่อื สารใน ต ร ว จ ห า ทางานบล็อกค สัง่ ครอบคลุมทุก ข อ ง ก า ร 2. เ ขี ย น งาน

การเรยี นรกู้ ารทางานและการ ข้ อ ผิ ด พ ล า ด repeat ในโปรแกรม กรณี ตรวจสอบ โปรแกรมทม่ี กี าร 2. การออกแบบ

แ ก้ ปั ญ ห า ไ ด้ อ ย่ า ง มี แ ล ะ แ ก้ ไ ข Scratch ใ ช้ใ น ก าร 2. อธิบายการ 3. เหน็ ประโยชน์ ต ร ว จ ส อ บ แ ล ะ เ ขี ย น

ประสิทธิภาพรู้เท่าทนั และมี (ว.4.2 ป.5/2) ทางานแบบวนซ้า ท า ง า น ที ล ะ ข อ ง ก า ร เง่ือนไขเพ่ือให้ โปรแกรมทม่ี กี าร

จรยิ ธรรม บลอ็ กคาสงั่ forever คาสงั่ ตรวจสอบการ ไ ด้ ผ ล ลั พ ธ์ ท่ี ต ร ว จ ส อ บ

ใช้ครอบชุดคาสัง่ ท่ี 3. อธิบายข้อ ท า ง า น ที ล ะ ถูกตอ้ ง เ ง่ื อ น ไ ข ท่ี

ต้องการทาซ้าไป ผิด พลากจาก คาสงั่ 4. เหน็ ประ 3. ฝึกตรวจสอบ ค ร อ บ ค ลุ ม ทุ ก

เรอ่ื ย ๆ ไมส่ น้ิ สุด โ ป ร แ ก ร ม โยขน์ของการฝึก การทางานทีละ กรณีเพ่ือให้ได้

พ ร้ อ ม ทั้ ง ต ร ว จ ห า คาสงั่ ผลลพั ธ์ทถ่ี ูกต้อง

ส า เ ห ตุ ข อ ง ขอ้ ผดิ พลาด 4. ฝึกการแก้ไข ต รงต ามคว าม

ปัญหา 5. เหน็ ประโยชน์ จ น ก ว่ า จ ะ ไ ด้ ตอ้ งการ

4. อ ธิ บ า ย ข อ ง ก า ร ใ ช้ ผลลพั ธท์ ถ่ี ูกตอ้ ง 3. ห า ก มี

โ ป ร แ ก ร ม โปรแกรมต่างๆ 5. ฝึ ก ใ ช้ ข้อผิดพลาดให้

ต่างๆ โปรแกรมต่างๆ ต รว จสอ บการ

ทางาน

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะอนั ทกั ษะ สาระการเรียนรู้ หมาย
พึง ประสงค์ (A) กระบวนการ แกนกลาง เหตุ
สมรรถนะ (P)
ทลี ะคาสงั่ เมอ่ื พบ
จุ ด ท่ี ท า ใ ห้ ผ ล
ล ัพ ธ์ ไ ม่ ถู ก ต้ อ ง
ให้ทาการแก้ไข
จ น ก ว่ า จ ะ ไ ด้
ผลลพั ธท์ ถ่ี กู ตอ้ ง
4 . ก า ร ฝึ ก
ตรวจหา
ขอ้ ผดิ พลาดจาก
โปรแกรมของ
ผู้ อ่ื น จ ะ ช่ ว ย
พฒั นาทกั ษะการ
ห า ส า เ ห ตุ ขอ ง
ปัญหาไดด้ ยี ง่ิ ขน้ึ
5 . ตั ว อ ย่ า ง
โ ป ร แ ก ร ม เ ช่ น
โปรแกรม
ตรวจสอบเลขคู่
เลขค่ีโปรแกรม
รบั ขอ้ มลู น้าหนัก

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะอนั ทกั ษะ สาระการเรยี นรู้ หมาย
พึง ประสงค์ (A) กระบวนการ แกนกลาง เหตุ
สมรรถนะ (P)
หรือส่วนสูงแล้ว
แสดงผลความ
สมสว่ นของ
6.ซอฟต์แวรท์ ่ใี ช้
ใ น ก า ร เ ขี ย น
โ ป ร แ ก ร ม เ ช่ น
Scratch, logo

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะ ทกั ษะ สาระการเรยี นรู้ หมาย
อนั พึงประสงค์ กระบวนการ แกนกลาง เหตุ
สมรรถนะ (P)
(A)

มาตรฐานการเรียนรู้ ว 4.2 1.ใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ต 1. การประเมิน 1. อ ธิบ า ย ก า ร 1.เห็นประโยชน์ 1. ปฏบิ ตั งิ าน การ 1 . ก า ร ค้ น ห า

เข้าใจแล ะใช้แนว คิดเชิง ค้ น ห า ข้ อ มู ล ความน่าเช่อื ถือ ค้นหาข้อมูลใน ข อ ง ก า ร ค้ น ห า ค้ น ห า ข้อ มู ล ใ น ข้ อ มู ล ใ น

คานวณในการแกป้ ัญหาทพ่ี บ ตดิ ต่อส่อื สารและ ของข้อมูลอาจ อินเทอร์เน็ต 2. ข้ อ มู ล ใ น อินเทอร์เน็ต และ อินเทอร์เน็ตและ

ในชวี ติ จรงิ อย่างเป็นขนั้ ตอน ทางานร่วมกัน ทาได้จากการ อ ธิ บ า ย ก า ร อนิ เทอรเ์ น็ต การจิ ารณาผลการ การพิจารณาผล

และเป็นระบบใช้เทคโนโลยี ป ร ะ เ มิน ค ว าม ตรวจสอบต้นตอ ตดิ ต่อส่อื สารผ่าน 2.เห็นประโยชน์ คน้ หา การคน้ หา

สารสนเทศและการส่อื สารใน น่ าเช่ือ ถือ ข อ ง ของแหล่งขอ้ มูล อนิ เทอรเ์ น็ต ข อ ง ก า ร 2. ฝึ ก ก า ร เ ขีย น 2. ก า ร

การเรยี นรกู้ ารทางานและการ ข้ อ มู ล ซ่ึ ง ข้ อ มู ล ท มี 3. อ ธิบ า ย ก า ร ตดิ ต่อส่อื สาร และ จดหมาย ตดิ ต่อส่อื สารผ่าน

แ ก้ ปั ญ ห า ไ ด้ อ ย่ า ง มี (ว.4.2 ป.5/3) ความน่าเช่อื ถือ เขยี นจดหมาย ก า ร ท า ง า น 3. ฝึ ก ก า ร ใ ช้ อินเทอร์เน็ตเช่น

ประสิทธิภาพรู้เท่าทนั และมี ค ว ร ม า จ า ก 4. อธบิ ายการ ใช้ รว่ มกนั อินเทอ ร์เน็ ต ใ น อี เ ม ล บ ล็ อ ก

จรยิ ธรรม ผู้ เ ช่ี ย ว ช า ญ อินเทอร์เน็ต ใน 3.เหน็ ความสาคญั การ ตดิ ต่อส่อื สาร โปรแกรมสนทนา

หรอื หน่วยงาน การ ตดิ ต่อส่อื สาร ของ การประเมนิ แ ล ะ ท า ง า น 3 . ก า ร เ ขี ย น

ท่ีเก่ียวข้อง กับ แ ล ะ ท า ง า น ความน่ าเช่ือถือ รว่ มกนั จดหมาย (บูรณา

เร่อื งนัน้ โดยตรง รว่ มกนั ของขอ้ มลู 4.ฝึกเปรยี บเทยี บ ก า ร กั บ วิ ช า

ถ้าคาค้นท่ใี ช้ใน 5. อ ธิบ า ย ก า ร 4.เหน็ ความสาคญั ป ร ะ เ มิ น ค ว า ม ภาษาไทย)

การคน้ หาขอ้ มลู ป ร ะ เ มิน ค ว า ม ของขอ้ มลู ทด่ี ี น่ า เ ช่ื อ ถื อ ข อ ง 4 . ก า ร ใ ช้

เป็นคา ทบั ศพั ท์ น่ า เ ช่ือ ถือ ข อ ง ขอ้ มลู อินเทอร์เน็ตใน

จ า ก ขอ้ มลู 5. ฝึ ก ก า ร ห า การตดิ ต่อส่อื สาร

ภาษ าอัง ก ฤ ษ 6. อ ธิ บ า ย ถึ ง ขอ้ มลู ทด่ี ี และทางาน

อาจพมิ พ์ คาคน้ ข้อมูลท่ีดีต้องมี ร่วมกนั เช่นใช้นัด

เ ป็ น รายละเอยี ดครบ หมายในการ

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะ ทกั ษะ สาระการเรยี นรู้ หมาย
อนั พึงประสงค์ กระบวนการ แกนกลาง เหตุ
ภาษ าอัง ก ฤ ษ ทุกดา้ น สมรรถนะ (P)
เ พ่ื อ ใ ห้ ไ ด้ (A) ป ร ะ ชุ ม ก ลุ่ ม
ผลลัพธ์ท่ีต รง ป ร ะ ช า สั ม พั น ธ์
ตามความ กิ จ ก ร ร ม ใ น
ต้ อ ง ก า ร ห้อ ง เ รีย น ก า ร
น อ ก จ า ก จ ะ ใ ช้ แ ล ก เ ป ล่ี ย น
โปรแกรม คน้ หา ค ว า ม รู้ ค ว า ม
ในการหาข้อมูล คิดเห็นในกา ร
จากแหล่งข้อมูล เรยี นภายใต้การ
ต่างๆ แล้วยัง ดแู ลของครู
ส า ม า ร ถ ใ ช้ ห า 5 . ก า ร ป ร ะ เ มิ น
คาตอบอ่นื ๆ ได้ ค ว า ม น่ า เ ช่ือ ถือ
เ ช่ น แ ป ล ข อ ง ข้อ มูล เ ช่ น
ค า ศั พ ท์ เ ป็ น เ ป รี ย บ เ ที ย บ
ภาษาต่างๆ หา ความสอดคล้อง
ขอ้ มลู พยากรณ์ ส ม บู ร ณ์ ข อ ง
อากาศ คานวณ ข้อมูลจากหลาย
อั ต ร า แหลง่ แหลง่ ตน้ ตอ
แลกเปล่ียนเงิน ของขอ้ มูลผูเ้ ขยี น
แปลง ค่าหน่วย วั น ท่ี เ ผ ย แ พ ร่
ขอ้ มลู

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะ ทกั ษะ สาระการเรยี นรู้ หมาย
อนั พึงประสงค์ กระบวนการ แกนกลาง เหตุ
วดั คานวณทาง สมรรถนะ (P)
ค ณิ ต ศ า ส ต ร์ (A) 6. ขอ้ มลู ทด่ี ตี อ้ งมี
ข้อมูลท่ีปรากฏ รายละเอียดครบ
ในบางเว็บไซต์ ทุกด้านเช่นข้อดี
อ า จ ก ล่ า ว ถึ ง แ ล ะ ข้ อ เ สี ย
เฉพาะข้อดีหรอื ป ร ะ โ ย ช น์ แ ล ะ
ข้อเสยี ของเร่อื ง โทษ
นั้นๆ เราค ว ร 7. การรวบรวม
พจิ ารณาและหา ขอ้ มลู ประมวลผล
ข้ อ มู ล ใ ห้ ส ร้ า ง ท า ง เ ลื อ ก
ครบรอบดา้ น ประเมนิ ผลจะทา
ให้ได้สารสนเทศ
เ พ่ื อ ใ ช้ ใ น ก า ร
แ ก้ ปั ญ ห า ห รือ
การตัดสินใจได้
อ ย่ า ง มี
ประสทิ ธภิ าพ
8 . ก า ร ใ ช้
ซ อ ฟ ต์ แ ว ร์ ห รื อ
บ ริ ก า ร บ น
อิน เ ท อ ร์เ น็ ต ท่ี

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะ ทกั ษะ สาระการเรยี นรู้ หมาย
อนั พึงประสงค์ กระบวนการ แกนกลาง เหตุ
สมรรถนะ (P)
(A) หลากหลายใน
การรวบรวม
ประมวลผลสร้าง
ท า ง เ ลื อ ก
ป ร ะ เ มิ น ผ ล
น า เ ส น อ จ ะ ช่ ว ย
ใ ห้ก ารแ ก้ปั ญ หา
ท า ไ ด้ อ ย่ า ง
ร ว ด เ ร็ ว ถู ก ต้ อ ง
และแมน่ ยา
9. ตวั อยา่ งปัญหา
เช่นถ่ายภาพและ
สารวจแผนท่ีใน
ท้ อ ง ถ่ิ น เ พ่ื อ
นาเสนอแนวทาง
ในการจัดก าร
พ้ืนท่ีว่างให้เกิด
ประโยชน์ทาแบบ
สารวจความคิด
เห็นออนไลน์และ

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะ ทกั ษะ สาระการเรียนรู้ หมาย
อนั พึงประสงค์ กระบวนการ แกนกลาง เหตุ
สมรรถนะ (P)
(A) วิเ ค ร า ะ ห์ ข้ อ มู ล
นาเสนอ ข้อ มูล
โดยการใช้ blog
หรอื web page

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะอนั ทกั ษะ สาระการเรยี นรู้ หมาย
พึง ประสงค์ (A) กระบวนการ แกนกลาง เหตุ
สมรรถนะ (P)

มาตรฐานการเรียนรู้ ว 4.2 1 . ร ว บ ร ว ม 1 . ก า ร ป ร ะ เ มิ น 1. อธิบายการ 1.เหน็ ความสาคญั 1. ป ฏิบัติ ง า น 1. การรว บรว ม

เข้าใจและใช้แนวคิดเชิง ประเมนิ นาเสนอ คว ามน่ าเช่ือ ถือ รวบรวมข้อมูล ของการรวบรวม รวบรวมข้อมูล ข้อมูลประมวลผล

คานวณในการแก้ปัญหาท่ี ข้ อ มู ล แ ล ะ ของข้อมูลอาจทา ป ร ะ ม ว ล ผ ล ขอ้ มลู ป ร ะ ม ว ล ผ ล ส ร้า ง ท า ง เ ลือ ก

พบในชีวิตจริงอย่างเป็ น สารสนเทศตาม ไ ด้ จ า ก ก า ร สร้างทางเลือก 2.เห็นประโยชน์ สร้างทางเลือก ประเมินผลจะทา

ขัน้ ตอนและเป็ นระบบใช้ วตั ถุประสงคโ์ ดย ตรวจสอบต้นตอ ประเมินผลจะ ข อ ง ก า ร ใ ช้ ประเมนิ ผล ให้ได้สารสนเทศ

เทคโนโลยีสารสนเทศและ ใ ช้ ซ อ ฟ ต์ แ ว ร์ ของแหล่งข้อมูล ท า ใ ห้ ไ ด้ ซ อ ฟ ต์ แ ว ร์ ห รือ 2. ฝึ ก ก า ร ใ ช้ เ พ่ื อ ใ ช้ ใ น ก า ร

การส่อื สารในการเรยี นรู้การ หรือบริการบน ซ่งึ ข้อมูลท่มี คี วาม สารสนเทศเพ่อื บ ริ ก า ร บ น ซอฟต์แวร์ หรือ แก้ปัญหาหรอื การ

ทางานและการแก้ปัญหาได้ อินเทอ ร์เน็ ต ท่ี น่าเช่ือถือควรมา ใ ช้ ใ น ก า ร อนิ เทอรเ์ น็ต บ ริ ก า ร บ น ตดั สนิ ใจได้อย่างมี

อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพรเู้ ท่าทนั หลากหลายเพ่ือ จากผู้เช่ียวชาญ แก้ปั ญหาหรือ 3. เห็นคุณค่าของ อินเทอร์เน็ตท่ี ประสทิ ธภิ าพ

และมจี รยิ ธรรม แ ก้ ปั ญ ห า ใ น หรือหน่ วยงานท่ี การตดั สนิ ใจ การประมว ล ผ ล หลากหลายใน 2.การใชซ้ อฟตแ์ วร์

ชีวิต ประจาวัน เก่ียวข้องกับเร่ือง 2. อธิบายการ ส ร้ า ง ท า ง เ ลือ ก ก า ร ร ว บ ร ว ม ห รือ บ ริก า ร บ น

(ว.4.2 ป.5/4) นั้น โ ด ย ต ร ง ถ้ า ใช้ซอฟต์แว ร์ ประเมนิ ผล ป ร ะ ม ว ล ผ ล อิ น เ ท อ ร์ เ น็ ต ท่ี

คาค้นท่ีใช้ในการ หรอื บรกิ ารทาง สร้างทางเลือก หลากหลายในการ

คน้ หาขอ้ มลู เป็นคา อินเทอร์เน็ตท่ี ป ร ะ เ มิ น ผ ล ร ว บ ร ว ม

ทั บ ศั พ ท์ จ า ก หลากหลาย นาเสนอ ประมวลผลสร้าง

ภาษาอังกฤษอาจ 3. อ ธิ บ า ย ท า ง เ ลื อ ก

พิมพ์ คาค้นเป็ น ปัญหาต่างๆ ป ร ะ เ มิ น ผ ล

ภ า ษ า อั ง ก ฤ ษ นาเสนอจะช่วยให้

เพ่อื ใหไ้ ดผ้ ลลพั ธท์ ่ี การแก้ปั ญหาทา

ตรงตามความต้อง

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะอนั ทกั ษะ สาระการเรยี นรู้ หมาย
พึง ประสงค์ (A) กระบวนการ แกนกลาง เหตุ
การนอกจากจะใช้ สมรรถนะ (P)
โปรแกรม ค้นหา ไ ด้ อ ย่ า ง ร ว ด เ ร็ ว
ใ น ก า ร ห า ข้ อ มู ล ถูกตอ้ งและแมน่ ยา
จากแหล่งข้อ มูล 3. ตวั อย่างปัญหา
ต่ า ง ๆ แ ล้ ว ยัง เช่นถ่ายภาพและ
ส า ม า ร ถ ใ ช้ ห า ส า ร ว จ แ ผ น ท่ี ใ น
คาตอบอ่ืนๆ ได้ ท้ อ ง ถิ่ น เ พ่ื อ
เช่น แปลคาศัพท์ นาเสนอแนวทาง
เป็ นภาษาต่าง ๆ ในการจดั การพ้นื ท่ี
หาขอ้ มูลพยากรณ์ ว่ า ง ใ ห้ เ กิ ด
อากาศคานวณ ประโยชน์ทาแบบ
อัตราแลกเปล่ียน สารวจความคิด
เงนิ แปลงค่าหน่วย เห็นออนไลน์และ
วัด คานวณ ทาง วิเ ค ราะห์ข้อมูล
คณิตศาสตรข์ อ้ มูล นาเสนอขอ้ มลู โดย
ท่ี ป ร า ก ฏ ใ น บ า ง การใช้ blog หรือ
เ ว็ บ ไ ซ ต์ อ า จ web page
ก ล่ า ว ถึง เ ฉ พ า ะ
ข้อดี หรือข้อเสีย
ของเร่อื ง นนั้ ๆ เรา

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะอนั ทกั ษะ สาระการเรียนรู้ หมาย
พึง ประสงค์ (A) กระบวนการ แกนกลาง เหตุ
ควรพิจารณาและ สมรรถนะ (P)
ห า ข้ อ มู ล ใ ห้
ครบรอบดา้ น

มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระสาคญั ความรู้ (K) คณุ ลกั ษณะ ทกั ษะ สาระการเรียนรู้ หมาย
อนั พึงประสงค์ กระบวนการ แกนกลาง เหตุ
สมรรถนะ (P)
(A)

มาตรฐานการเรยี นรู้ ว 4.2 1. ใช้เทคโนโลยี 1.การตดิ ต่อส่อื สาร 1. อ ธิ บ า ย ถึ ง 1. เ ห็ น ค ว า ม 1. ฝึ ก ก า ร ใ ช้ 1. อันตรายจาก

เข้าใจและใช้แนวคิดเชิง สารสนเทศอย่าง ผ่านอินเทอร์เน็ต อนั ตรายจาก การ อันตรายจากการ มารยาทใน การ การใช้งานและ

คานวณในการแก้ปัญหาท่ี ป ล อ ด ภั ย มี ค ว ร ใ ช้ ภ า ษ า ท่ี ใ ช้ ง า น แ ล ะ ใชง้ าน ติดต่อส่อื สารผ่าน อาชญากรรม

พบในชีวิตจริงอย่างเป็ น มารยาทเข้าใจ สุ ภ า พ ผู้ ใ ช้ อาชญากรรมทาง 2.เหน็ ความสาคญั อนิ เทอรเ์ น็ต ทางอนิ เทอรเ์ น็ต

ขัน้ ตอนและเป็ นระบบใช้ สิทธิและหน้าท่ี อินเทอร์เน็ตควร อนิ เทอรเ์ น็ต ข อ ง ม า ร ย า ท ใ น 2.มารยาทในการ

เทคโนโลยีสารสนเทศและ ของตนเคารพใน ระมัดระวังใช้งาน 2. อ ธิ บ า ย การ ติดต่อส่อื สาร ติ ด ต่ อ ส่ื อ ส า ร

การส่อื สารในการเรยี นรกู้ าร สิท ธิข อ ง ผู้ อ่ื น อย่างรู้เท่าทนั และ มารยาทในการ ผา่ น อนิ เทอรเ์ น็ต ผ่านอนิ เทอรเ์ น็ต

ทางานและการแก้ปัญหาได้ แจ้งผู้เก่ียวข้อง ไม่สร้างความเสีย ตดิ ต่อส่อื สารผ่าน ( บู ร ณ า ก า ร กั บ

อย่างมีประสิทธิภาพรู้เท่า เ ม่ือ พ บ ข้ อ มู ล ห า ย ห รื อ ค ว า ม อนิ เทอรเ์ น็ต วชิ าทเ่ี กย่ี วขอ้ ง)

ทนั และมจี รยิ ธรรม หรือบุคคลท่ีไม่ เดอื ดรอ้ นแก่ผอู้ ่นื

เหมาะสม เ ม่ือ โ ป ร แ ก ร ม ไ ม่

(ว.4.2 ป.5/5) ตอบสนองต่อการ

ใ ช้ ง า น อ า จ

แก้ปัญหา เบอ้ื งตน้

โดยใช้คาสัง่ เพ่ือ

ปิดโปรแกรม

ลงช่อื ผวู้ เิ คราะหห์ ลกั สตู ร
(นางสาววรษิ า วศนิ สงั วร)

ครู ……………………………………………