The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หนังสืออิเล็กทรอนิกส์บนเว็บ เรื่องการออกแบบ Infographic ด้วยการใช้โปรแกรม Canva

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by woranitta Thanusin, 2024-02-12 23:00:55

การออกแบบ Infographic ด้วยการใช้โปรแกรมCanva

หนังสืออิเล็กทรอนิกส์บนเว็บ เรื่องการออกแบบ Infographic ด้วยการใช้โปรแกรม Canva

หนันังนันั สืสือสือิเ อิล็ก ล็ ทรอนิก นิ ส์ อสือิเ อิล็ก ล็ ทรอนิก นิ ส์ บนเว็ว็ ว็ บ ว็ บ การออกแบบ INFOGRAPHIC ด้วยการใช้ โปรแกรม CANVA การออกแบบ INFOGRAPHIC ด้วยการใช้ โปรแกรม CANVA


คำ นำ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง การออกแบบ Infographic สำ หรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ซึ่งมีเนื้อหาทั้งหมด 4 หน่วย ได้แก่ อินโฟกราฟิกคืออะไร? , หลักการออกแบบอินโฟกราฟิก , การเตรียมข้อมูลเพื่อใช้ในงานอินโฟกราฟิก และเครื่องมือที่ใช้ในการสร้างงานอินโฟกราฟิก ซึ่งหนังสืออเล็กทรอนิกส์เล่มนี้ จัดทำ ขึ้นเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนการสอนในรายวิชาการใช้โปรแกรม คอมพิวเตอร์กราฟิกผ่านทางระบบออนไลน์


สารบับัญ บับั หน่น่ น่ ว น่ วยการเรีรี รี ย รี ยนรู้รู้รู้ที่รู้ที่ ที่ที่1 แบบทดสอบก่ก่ ก่ อ ก่ อนเรีรี รี ย รี ยน หน่น่ น่ ว น่ วยการเรีรี รี ย รี ยนรู้รู้รู้ที่รู้ที่ ที่ที่2 หน่น่ น่ ว น่ วยการเรีรี รี ย รี ยนรู้รู้รู้ที่รู้ที่ ที่ที่3 หน่น่ น่ ว น่ วยการเรีรี รี ย รี ยนรู้รู้รู้ที่รู้ที่ ที่ที่4 แบบทดสอบหลัลั ลั ง ลั งเรีรี รี ย รี ยน ผู้ผู้ผู้จัผู้จั จั ด จั ดทำทำทำทำ อินโฟกราฟิกคืออะไร? หลักการออกแบบอินโฟกราฟิก การเตรียมข้อมูลเพื่อใช้ ในงานอินโฟกราฟิก เครื่องมือที่ใช้ในการสร้างงาน อินโฟกราฟิก


แบบทดสอบการใช้ สอบการใช้ โปรแกรม CANVA แบบทดสอบก่ก่ ก่ อ ก่ อนเรีรี รี ย รี ยน


บทที่ที่ ที่ที่ 1 อิอิอินอิโฟกราฟิฟิฟิกฟิ Infographic คืคื คื อ คื ออะไร ? อินโฟกราฟิก (Infographic) หมายถึง การนำ ข้อมูลหรือความรู้มาสรุปให้เป็น “สารสนเทศในลักษณะของข้อมูล” (สัญลักษณ์ ไดอะแกรม แผนที่ กราฟ แผนภูมิ ) เพื่อนำ เสนอข้อมูลให้สามารถเข้าใจได้ง่ายและรวดเร็ว อินโฟกราฟิก (Infographic) ประกอบไปด้วย 2 ส่วนหลักๆ คือ ข้อมูล (Information) หรือตัวหนังสือ และภาพกราฟิก (Graphic) 1


เพื่อให้ผู้ที่พบเห็นเข้าใจในเวลารวดเร็ว เพียงแค่ “ดู” โดยไม่ต้องมีคำ อธิบายเพิ่มเติม ซึ่งอินโฟกราฟิกสามารถนำ ไปใช้ร่วมกับศาสตร์ต่าง ๆ เพื่อใช้ สรุปเนื้อหาที่มีความซับซ้อนและมีจำ นวนมากให้สามารถเข้าใจ ได้ง่าย ๆ และ “จบในภาพเดียว” 2


3 ความเป็นมาของอินโฟกราฟิก สามปี ก่อนคริสต์ศักราชภาพเขียนบนผนังถํ้าสามารถถูกอนุมนุานได้ว่าเป็นอิน โฟกราฟิกชิ้นแรกที่เกิดขึ้น เช่น เดียวกับวัฒนธรรมการใช้อักษรภาพของชาว อียิปต์เพื่อเล่าเรื่องราวชีวิต การทํางานและศาสนาหรือชาวจีนที่มีคําจารึกตาม เศษกระดูกสัตว์หรือกระดองเต่า ที่เรียกกันว่า กระดูกเสี่ยงทาย (Oracle bone) ปี ค.ศ.1786 William Playfair วิศวกร ชาวสกอตแลนด์ เป็นคนแรกที่นําข้อมูลทางสถิติ ปี ค.ศ.1857 พยาบาลชาวอังกฤษ ฟลอเรนซ์ ไนติงเกล (Florence Nightingale) เป็นผู้ออก แบบอินโฟกราฟิก “กุหลาบไนติงเกล” ไดอะแกรมทรงพลัง ระดับเปลี่ยนสังคม ขึ้นมาได้ จากการได้เข้าไปดูแลทหารที่ผ่านสงครามมาในค่าย โดยนําเสนอ ข้อมูล ในรูปแบบที่ทั้งดึงดูดที่สุดและเข้าใจง่ายที่สุดไปพร้อมกัน


4 ปี ค.ศ.1933 ประเทศอังกฤษ เมื่อ Harry Beck ได้สร้างแผนที่การคมนาคม ของกรุงลอนดอนเป็น ครั้งแรก โดยแสดงเส้นทางการขนส่งมวลชน สาธารณะและสถานีเดินรถ เป็นการนําแผนภูมิรูปภาพเข้ามาใช้ใชีวิตประจําวัน ปี ค.ศ.1972 Otl Aicher นักออกแบบชาวเยอรมันได้จัด ทําสัญลักษณ์ภณ์าพ (Pictogram) สําหรับงาน กีฬาโอลิมปิกที่จัดขึ้นที่เมืองมิวนิก ประเทศ เยอรมัน โดยสัญลักษณ์ภณ์าพที่จัดทําขึ้นเป็น รูปร่างท่าทางต่าง ๆ ของมนุษนุย์ ปี ค.ศ.1982 หนังสือพิมพ์ USA TODAY ใช้อินโฟกราฟิกในกา รนําเสนอข่าวสารเปลี่ยนจากการนําเสนอในรูป แบบตัวหนังสือระบบพิมพ์ขาวดํามาเป็นใช้ระบบ พิมพ์แบบสีและใช้การทํางานของภาพอินโฟ กราฟิกในการนําเสนอข่าวสารแทนรูปแบบเดิม


5 ปี ค.ศ.2005 เว็บไซต์ digg และ reddit ที่รวบรวมและเผยแพร่ข่าวสารบทความด้าน เทคโนโลยี ซึ่งทํางานร่วมกับเครือข่ายสังคม โดยเปิดช่องทางให้ใครก็ได้ โพสต์ข้อมูลที่น่าสนใจ โดยคนส่วนมากนำ เสนอข้อมูลโดยใช้อินโฟกราฟิก ปัจจุบัน ปัจจุบันนั้นอินโฟกราฟิกถูกนำ ไปใช้หลากหลายมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่วัตถุประสงค์เพื่อการประชาสัมพันธ์ ไปจนถึงการย่อยข้อมูล ที่ยากๆให้สื่อสารเข้าใจง่าย ซึ่งแนวโน้มน้การใช้อินโฟกราฟิกเริ่ม เห็นได้อย่างชัดเจนในช่วง 5 – 8 ปี ที่ผ่านมา


6 ประโยชน์ข น์ องอินโฟกราฟิก ประโยชน์ข น์ องอินโฟกราฟิกนั้นมีอยู่มากมาย เพราะด้วย แผนภาพสวย ๆ สามารถทำ ให้คนทั่วๆ ไปสามารถเข้าถึง เข้าใจเนื้อหาสาระที่ต้องการสื่อได้ง่ายขึ้นและรวดเร็วขึ้น เพราะ ข้อมูลในอินโฟกราฟิกผ่านการสรุป เรียบเรียงให้สั้น กระชับ เข้าใจง่าย สื่อสารอย่างตรงไปตรงมา นำ เสนอข้อมูล ปริมาณมาก ๆ ด้วยแผนภาพภาพเดียว ด้วยข้อมูลที่ถูกคัด กรองมาเป็นอย่างดีทำ ให้ผู้อ่าน เข้าใจได้ง่าย ซึ่งเราสามารถ หยิบยกเรื่องราวเล็ก ๆ ไปจนถึง เรื่องราวใหญ่โตมานำ เสนอ ในมุมมองที่แปลกตา ทันสมัย ทันต่อเหตุการณ์ใณ์ นโลก ปัจจุบัน


บทที่ที่ ที่ที่2 7 หลัลั ลั ก ลั กการออกแบบอิอิ อิ น อิ นโฟกราฟิฟิฟิ ก ฟิ ก 9 Layout พื้นฐานการทำ งาน Infographic 1.VISUALISED ARTICLE แปลงงานเขียนให้เป็นภาพ การนำ บทความหรือเรื่องเล่ามาแปลงเป็นภาพใส่ได้ทั้งตัวอักษร และรูปหรือถ้าไม่ใส่รูปก็สามารถใส่เป็นตัวเลขกราฟได้แทนเหมาะ กับข้อมูลทั่ว ๆ ไปเชิงให้ความรู้


8 เหมาะกับการเล่าเรื่อง ที่มีหัวข้อหลักเพียงหัวข้อเดียว แต่หลายหัวข้อย่อย 2. LISTED 3. COMPARISON เหมาะกับการใช้เปรียบเทียบให้เห็นซึ่งความแตกต่าง ของสิ่งหนึ่งกับอีกสิ่ง


9 4. STRUCTURE เหมาะกับการใช้อธิบายส่วนประกอบของบาง สิ่งบางอย่าง 5. TIMELINE เหมาะสำ หรับใช้เล่าประวัติความเป็นมา เช่น ประวัติส่วนตัว ประวัติสถานที่


10 6. FLOW CHART 7.ROADMAP เหมาะกับการเสนอคำ ถามที่มีคำ ตอบชัดเจน เช่น ผังบุคลากรโรงเรียน เหมาะกับการเล่ากระบวนการหรือขั้นตอนการทำ งานของบางอย่าง ** สามารถใช้แทน timeline ได้ **


11 8. USEFUL BAIT เหมาะกับการแสดงให้เห็นถึงวิธีทำ บางอย่าง ที่สามารถอ่านแล้วนำ ไปใช้ได้ทันที 9. NUMBERPORN เหมาะกับการเสนอข้อมูลที่มีตัวเลขที่น่าสนใจมากๆ


12 1.แม่สีของแสง เกิดจากการหักเห ของแสงผ่านแท่งแก้วปริซึม มี 3 สี คือ สีแดง สีเหลือง และสีน้ำ เงิน อยู่ในรูปของแสงรังสี ทฤษฎีฎี ฎี สีฎี สี สีสี สี (COLOUR) หมายถึง ลักษณะกระทบ ต่อสายตาให้เห็นเป็นสีมีผลถึงจิตวิทยา คือมีอำ นาจให้เกิดความเข้มของแสงที่ อารมณ์แณ์ละความรู้สึกได้ แม่สี (PRIMARIES) คือ สีที่นำ มาผสมกัน แล้วทำ ให้เกิดสีใหม่ ที่มีลักษณแตกต่าง ไปจากสีเดิมแม่สี มีอยู่ 2 ชนิด คือ 2.แม่สีวัตถุธาตุ เป็นสีที่ได้มาจากธรรมชาติ และจากการสังเคราะห์ ทางเคมี มี 3 สี คือ สีแดง สีเหลือง และสีน้ำ เงิน กว้าง ขวาง ในวงการศิลปะวงการอุตสาหกรรม ฯลฯ


13 โหมดสี (Color Mode) คือ โมเดลสีแบบต่างๆ โดยแต่ละแบบจะมีความเหมาะสม ในการทำ งาน ต่างกันไปซึ่งสามารถเปลี่ยนรูปภาพที่นำ มาแต่ง ให้ไปเป็นโหมดต่างๆ เพื่อความเหมาะสมในการใช้งาน ได้ตามความต้องการโหมดสีที่นิยมใช้กันมา มีอยู่ 2 รูปแบบ งานที่เหมาะสมในการใช้งาน สื่อสิ่งพิมพ์ชนิดต่าง ๆ เช่น โปสเตอร์ นิตยสาร นามบัตร โบรชัวร์ ใบปลิว หนังสือ สมุด แบนเนอร์ นามบัตร ถุงกระดาษ บรรจุภัณฑ์กระดาษ สื่อ POP/POSM Billboards เป็นต้น CMYK คือแม่สีทางการพิมพ์ จะถูกนำ มาใช้สำ หรับงานพิมพ์ โหมดสี CMYK จะไม่มีแสงเข้ามา ในการผสมสี เมื่อทุกสีผสม ในปริมาณที่เท่ากันจึงทำ ให้เกิด สีดำ แต่หากผสมด้วยปริมาณที่ ต่างกันก็จะทำ ให้เกิดสีอื่น ๆ


14 RGB คือชุดสีที่เกิดจากแสงที่มีความยาวคลื่นที่ต่างกันมารวมตัวกัน เกิดเป็นสีต่างๆ เรียกว่า "การผสมสีแบบบวก" (Additive Color) เมื่อเรานำ แม่สี RGB แต่ละสีในปริมาณที่เท่ากันมาผสมกันจะ ได้สีขาว แต่หากผสมกันในปริมาณที่ต่างกัน เราจะได้สีที่หลาก หลายเป็นล้าน ๆ สี เหมือนที่เราเห็นสีต่าง ๆในสื่อดิจิทัล งานที่เหมาะสมในการใช้งาน สื่อดิจิทัลรูปแบบต่า ง ๆ เช่น Website หน้าน้จอคอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ มือถือ E-mail รวมถึง แพลตฟอร์ออนไลน์ที่น์ ที่ได้รับความ นิยมในปัจจุบันอย่าง Facebook Youtube Line Twitter เป็นต้น


15 การเลืลื ลื อ ลื อกใช้ช้ ช้ ภ ช้ ภาพ ภาพไอคอน เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการออกแบบอินโฟกราฟิก การเลือกภาพไอคอนมาใช้ต้องพยายามให้ สอดคล้องกับเนื้อความส่วนนั้น ๆ ภาพการ์ตูน ภาพสัญลักษณ์หณ์รือพิกโตแกรม ภาพถ่าย ภาพกราฟิกทั่วไป


16 เส้นและลูกศร ชาร์ตและไดอะแกรม แผนที่ กราฟิกอื่น ๆ รูปทรงทางเรขาคณิต


17 การเลืลื ลื อ ลื อกใช้ช้ ช้ฟช้ อนต์ต์ ต์ต์ Serif จะมีขีดเล็ก ๆ หรือที่เรียกว่าเชิงที่ปลายตัวอักษร ฟอนต์ ประเภทนี้เป็นฟอนต์ดั้งเดิม นิยมใช้สำ หรับพิมพ์เนื้อความ เพราะมีส่วนช่วยทำ ให้อ่านได้ง่ายขึ้น Sans Serif จะตรงข้ามกับ ฟอนต์ Serif คือไม่มีเชิง เป็นตัวอักษรเรียบ ๆ เหมาะกับการใช้ในส่วนของหัวข้อฟอนต์สไตล์นี้จะทำ ให้งาน ดูทันสมัยขึ้น เพราะความเรียบง่ายของรูปแบบฟอนต์


18 ฟอนต์มีหัว แสดงความเป็นทางการคล้ายๆ กับ Serif ของภาษาอังกฤษ และทำ ให้อ่านง่าย ไม่สับสนในเรื่องของพยัญชนะ ฟอนต์ไม่มีหัว เป็นตัวอักษรที่ให้ความรู้สึกถึงความทันสมัย ซึ่งจะเหมือนกับฟอนต์ แบบ San Serif ของตัวอักษรในภาษาอังกฤษ


19 ฟอนต์แบบปลายหวัด (Script) รูปแบบของฟอนต์ประเภทนี้ทำ ให้งานนำ เสนอดูเคลื่อนไหว ดูมีชีวิต ชีวา อ่อนช้อยและดึงดูดสายตาคนได้ จะนิยมใช้ในงานที่สื่อถึงความ สวยงาม อ่อนหวาน หรูหราแต่จะใช้ในส่วนหัวข้อ หรือส่วนที่เป็นจุด เด่นของงาน ฟอนต์ลายมือ ฟอนต์ประเภทนี้จะเป็นฟอนต์ที่ดูไม่เป็นทางการ ใช้กับงานนำ เสนอที่ ต้องการให้มีความเป็นกันเอง


20 การผสมผสานฟอนต์ ในงานนำ เสนอหนึ่งงาน ไม่ควรจะใช้ฟอนต์ให้หลากหลายจน เกินไปเพราะจะทำ ให้งานดูไม่มี Concept ดูกระจัดกระจาย แต่ ใช่ว่าเราจะไม่สามารถผสมผสานฟอนต์ได้ เพียงแต่ว่าควร เลือกผสมให้เหมาะสมนั่นเอง ควรเลือกที่อ่านง่าย ชัดเจน ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น


21 บทที่ที่ ที่ที่3 การเตรีรี รี ย รี ยมข้ข้ ข้ อ ข้ อมูมู มู ล มู ลเพื่พื่ พื่ อ พื่ อใช้ช้ ช้ช้ งานอิอิอินอิโฟกราฟิฟิฟิกฟิ Hyperakt's Josh Smith ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบได้ค้นพบกระบวนการที่ดี ในการออกแบบอินโฟกราฟิก (Infographic) 10 ขั้นตอน ประกอบด้วย 1. การรวบรวมข้อมูล (Gathering data) 2. การอ่านข้อมูลทั้งหมด Reading everything) 3. การค้นหาวิธีการเล่าเรื่อง (Finding the narrative) 4. การระบุปัญหาและความต้องการ (Identifying problems) 5. การจัดลำ ดับโครงสร้างข้อมูล (Creating a hierarchy) 6. การออกแบบโครงสร้างข้อมูล (Building a wireframe) 7. การเลือกรูปแบบอินโฟกราฟิกส์ (Choosing a format) 8. การกำ หนดภาพให้ตรงกับหัวข้อ (Determining a visual approach) 9. การตรวจสอบข้อมูลและทดลองใช้ (Refinement and testing) 10. การแบ่งปันความรู้ในอินเทอร์เน็ตน็ (Releasing it into the world)


22 1. การรวบรวมข้อมูล (Gathering data) คัดเลือกข้อมูลดิบที่รวบรวมมา แต่ยังไม่เป็นระเบียบ โดยอาจใช้โปรแกรม Microsoft Excel เขียนแหล่งอ้างอิงที่มาของข้อมูลที่เป็นต้นฉบับ บันทึกภาพต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย ไม่ควรแยกภาพหรือแผนภาพกับข้อมูลออกจากกัน 2. การอ่านข้อมูลทั้งหมด (Reading everything) การอ่านข้อมูลเฉพาะจุดเน้นน้หรืออ่านอย่างผิวเผิน ให้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพราะคิดว่าเสียเวลา จะทำ ให้ได้ข้อมูลไม่สมบูรณ์ ข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องจะช่วยให้มองเห็นภาพรวม ของประเด็นสำ คัญ


23 3. การค้นหาวิธีการเล่าเรื่อง (Finding the narrative) อินโฟกราฟิกเริ่มที่จุดมุ่งหมายเดียว ขยายความข้อมูลที่ซับซ้อนอธิบายกระบวนการ เน้นน้ที่แนวโน้มน้หรือสนับสนุนนุข้อโต้แย้ง การหาวิธีการเล่าเรื่องที่น่าสนใจอาจจะยุ่งยากใน ระยะแรกถ้าเราคุ้นเคยกับข้อมูลที่มีอยู่จะทำ ให้ สามารถเล่าเรื่องราวได้การใส่ใจกับเนื้อหาที่ สำ คัญที่จะช่วยให้การนำ เสนอข้อมูลมีคุณค่า 4. การระบุปัญหาและความต้องการ (Identifying problems) เมื่อได้ข้อมูลมา แล้ว นำ มาตรวจสอบความถูกต้องอาจมีข้อมูล ที่ไม่สนับสนุนนุหัวข้อหรือประเด็นที่ต้องการนำ เสนอควรมีการอภิปรายหาข้อสรุปที่แท้จริง เพื่อระบุปัญหา และความต้องการปรับปรุง ข้อมูลและเรื่องราว ให้มีเอกลักษณ์ตณ์รงกับ หัวข้อศึกษา


24 5. การจัดลำ ดับโครงสร้างข้อมูล (Creating a hierarchy) การจัดลำ ดับชั้นของ ข้อมูลเป็นที่นิยมในการสรุปข้อมูลเป็นการนำ ผู้ ชมให้มองเห็นภาพรวมตั้งแต่ต้นจนจบเป็นวิธี การจัดการกับข้อมูลในการสร้างอินโฟกราฟิก ตามโครงสร้างลำ ดับชั้นของข้อมูล 6. การออกแบบโครงสร้างข้อมูล (Building a wireframe) เมื่อพิจารณาตรวจ สอบคัดเลือกข้อมูลอย่างละเอียดแล้วจัดแบ่ง ข้อมูลเป็นลำ ดับชั้น และออกแบบโครงสร้าง ของของข้อมูลผู้ออกแบบควรทำ ความเข้าใจกับ ภาพหรือกราฟิกที่เป็นตัวแทนของข้อมูลสำ คัญ ที่จัดไว้เป็นลำ ดับชั้น


25 7. การเลือกรูปแบบอินโฟกราฟิก (Choosing a format) เมื่อสิ้นสุดการกำ หนดภาพ หรือกราฟิกที่เป็นตัวแทนของข้อมูลแล้ว ในลำ ดับถัดไปจะต้องเลือกรูปแบบ อินโฟกราฟิกที่เหมาะสมกับเนื้อหา อินโฟกราฟิก ที่นิยมใช้งานมีทั้งหมด 9 รูปแบบ 8. การกำ หนดภาพให้ตรงกับหัวข้อ (Determining a visual approach) การเลือก ใช้ภาพในการทำ ให้อินโฟกราฟิกส์ให้ดูดีมีสอง แนวคิด คือ ใช้ข้อมูลดิบมาจัดทำ เป็นกราฟหรือ แผนผังให้น่าสนใจ ใช้สี การพิมพ์ และการจัด โครงสร้างในการออกแบบงานให้มีศิลปะ และใช้ ลายเส้น วาดภาพหรือคำ อุปมาเปรียบเทียบ ไม่ แสดงข้อมูลตัวเลขออกมาอย่างชัดเจน จะเห็น เป็นภาพแสดงแทนข้อมูลคล้าย


26 9. การตรวจสอบข้อมูลและทดลองใช้ (Refinement and testing) ตรวจสอบ ข้อมูลอย่างละเอียดทั้งข้อมูลและภาพที่ใช้ ประกอบเพื่อให้แน่ใจว่าผลงานที่เสร็จแล้วมี คุณภาพตรงกับหัวข้อและเป้าป้หมาย 10. การแบ่งปันความรู้ในอินเทอร์เน็ตน็ (Releasing it into the world) เผยแพร่ผลงาน บนอินเทอร์เน็ตน็ หรือ ช่องทางอื่น ๆ ที่เหมาะสม ติดตาม และ ตรวจสอบ ข้อคิดเห็น ต่าง ๆเพื่อนำ มาพัฒนางาน การวิพากษ์วิจารณ์ จากผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตน็ จะช่วยขยายข้อโต้แย้ง และค้นพบวิธีการนำ เสนอข้อมูลวิธีใหม่ได้


27 บทที่ที่ ที่ที่4 เครื่รื่ รื่ อ รื่ องมืมื มื อ มื อที่ที่ ที่ใที่ ช้ช้ ช้ใช้ นการสร้ร้ ร้ า ร้ างงาน อิอิอินอิโฟกราฟิฟิฟิกฟิ Infographic Draft Infographic Draft Infographic คือ อินโฟ กราฟิกฉบับร่าง ซึ่งจะมีการลดทอนราย ละเอียด ไม่ได้เน้นน้การวาดเสมือนจริง หรือการลงสี เป็นการลำ ดับเรื่องราว กำ หนด Layout รูปแบบการจัดวางข้อ ความ รวมไปถึงการกำ หนดว่าจะให้มี ไอคอนอะไร มีรูปอะไรวางลงไปในงาน บ้าง ซึ่งการ Draft จะมีทั้งแบบวาดมือ หรือการใช้โปรแกรมเพื่อช่วยในการ Draft


28 ขั้ขั้ ขั้ น ขั้ นตอนในการ Draft Infographic ประกอบด้ด้ ด้ วด้ วย 2.กำ หนดขนาด และรูปแบบของตัวอักษร ต้องกำ หนดขนาด และรูปแบบของตัวอักษร ให้ชัดเจนยิ่งตัวใหญ่ สายตาของคนอ่านก็จะ เห็นตรงส่วนนั้น ๆ ได้ก่อน เช่น เลขและ หัวข้อแต่ละข้อ จะมีขนาดใหญ่กว่าเนื้อหา เพื่อเป็นตัวกำ หนดการเล่าเรื่อง 1.กำ หนด Layout เลือก Layout ที่เหมาะสมกับเนื้อหา


29 3.วาดโครงร่างของภาพ วาดโครงร่างของภาพที่ต้องการใช้เป็นภาพประกอบ โดยไม่ต้อง ลงรายละเอียดของภาพ เพียงแค่วาดภาพเพื่อสื่อความหมายให้ เข้าใจได้ว่า คือภาพของอะไร ภาพของใคร และกำ ลังทำ อะไรอยู่ 4.กำ กับข้อความอธิบายสิ่งที่ต้องการ หากมีส่วนของไอคอนต่าง ๆ จะวาด เป็นวงกลม หรือ สี่เหลี่ยมและเขียน ข้อความกำ กับไว้ด้านในว่าต้องการ ไอคอนลักษณะไหน


30 ขั้นตอนการ Draft Infographic สามารถใส่ไอเดียเพื่อ ดึงดูดความสนใจของผู้อ่านได้อย่างเต็มที่ และควรพิจารณา ชิ้นงานอย่างถี่ถ้วน ก่อนที่จะนำ ไปออกแบบในขั้นตอนต่อไป ซึ่งควรพิจารณาทั้งในด้านของข้อมูล และการออกแบบ


31 online www.edrawsoft.com www.easel.ly www.infogram.com www.piktochart.com www.venngage.com www.canva.com


32 offline Photoshop เป็นโปรแกรมที่มีเครื่องมือมากมายเพื่อสนับสนุนนุ การสร้างงานประเภทสิ่งพิมพ์ งานวิดีทัศน์ งน์านนำ เสนอ งานมัลติมีเดียตลอดจนงานออกแบบและ พัฒนาเว็บไซต์ illustrator เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการวาดภาพ โดยจะสร้างภาพที่มี ลักษณะเป็นลายเส้น สามารถทำ งานออกแบบต่าง ๆ ได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นสิ่งพิมพ์ บรรจุภัณฑ์ เว็บไซต์ และภาพเคลื่อนไหวตลอดจนการสร้างภาพ เพื่อใช้เป็นภาพประกอบ ในการทำ งานอื่น ๆ PowerPoint โปรแกรม Microsoft PowerPoint เป็นโปรแกรม หนึ่งในตระกูล Microsoft Office สำ หรับการจัดสร้าง งานนำ เสนอข้อมูล หรือ Presentation สำ หรับนำ ไป ประยุกต์ใช้ในงานได้หลายประเภท เช่น การนำ เสนอ ข้อมูลสินค้าและบริการการจัดทำ Slide Show การ ออกแบบแผ่นพับ


แบบทดสอบการใช้ สอบการใช้ โปรแกรม CANVA แบบทดสอบหลัลั ลั ง ลั งเรีรี รี ย รี ยน


ผู้ผู้ผู้จัผู้จั จั ด จั ดทำทำทำทำ นางสาววรนิษฐา ธนูศิลป์ รหัสนักศึกษา 620113189022 นางสาววรนิษฐา ธนูศิลป์ รหัสนักศึกษา 620113189022 นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู สาขาวิชาเทคโนโลยีและคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู สาขาวิชาเทคโนโลยีและคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ประวัวั วั ติ วั ติติผู้ติผู้ผู้จัผู้จั จั ด จั ดทำทำทำทำวิวิวิจัวิจั จั ย จั ยและสื่สื่ สื่ อ สื่ อนวัวั วั ต วั ตกรรมการเรีรี รี ย รี ยนรู้รู้รู้รู้


Click to View FlipBook Version