The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานผลการปฏิบัติงาน เลื่อนเงินเดือน ครั้งที่ 2- 1ตค.64.ครูฉวีวรรณ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ooinuntipon, 2021-09-21 05:30:56

รายงานผลการปฏิบัติงาน เลื่อนเงินเดือน ครั้งที่ 2- 1ตค.64.ครูฉวีวรรณ

รายงานผลการปฏิบัติงาน เลื่อนเงินเดือน ครั้งที่ 2- 1ตค.64.ครูฉวีวรรณ



รายงานการปฏิบัติงานของข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา
(สายงานการสอน)

ประกอบการพจิ ารณาเลื่อนเงินเดือน
ครง้ั ที่ 2 (1 เมษายน ๒๕๖๔ – 30 กนั ยายน ๒๕๖๔ )

ผูร้ ายงาน
นางฉวีวรรณ ไชยรถ
ตาแหน่ง ครูชานาญการพเิ ศษ

โรงเรยี นบ้านแก้งยาง อาเภอนาเยีย จังหวัดอุบลราชธานี
สานักงานเขตพื้นท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาอบุ ลราชธานี เขต ๔



บนั ทึกข้อความ

ส่วนราชการ โรงเรยี นบ้านแก้งยาง สานกั งานเขตพื้นท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาอุบลราชธานี เขต 4

ท่ี ................................ วันที่ 6 กนั ยายน 2564

เรอ่ื ง รายงานผลการปฏิบตั ิงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เรียน ผู้อานวยการโรงเรียนบา้ นแกง้ ยาง

สงิ่ ทส่ี ง่ มาด้วย รายงานผลการปฏิบัติงานของขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา จานวน 1 เลม่

ขา้ พเจ้า นางฉวีวรรณ ไชยรถ ตาแหนง่ ครูชานาญการพิเศษ ไดร้ ายงานผลการปฏิบตั ิงาน
ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อประกอบการพจิ ารณาเลอื่ นเงินเดือน คร้ังที่ 2 (1 เมษายน
2564 ถงึ วันที่ 30 กนั ยายน 2564) ดงั ได้แนบรายละเอียดมาพร้อมน้ี

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพจิ ารณา

ลงชื่อ...........................................
(นางฉววี รรณ ไชยรถ)

ตาแหน่ง ครชู านาญการพิเศษ

ข้อเสนอแนะ/ ความเหน็ ของผ้บู ริหาร
…..……………………………………………………………….……………………………………………………………………..…………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………..……………………………………………………………………………………..…………………………

ลงชือ่ ...........................................
(นางสาวอรสิ รา ชดั เจน)

ผู้อานวยการโรงเรียนบ้านแกง้ ยาง



คานา

รายงานผลการปฏิบัติงานข้าราชการครู สายครผู ู้สอนฉบับนี้ จัดทาขึ้นเพ่ือประกอบการพิจารณา
ประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลการปฏิบัติงาน เพื่อการเลื่อนเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการ
ศกึ ษา สายงานครผู ู้สอน ตามหลักเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ. กาหนด ซง่ึ ผู้ขอรับการประเมนิ ได้เรียบเรียงและรวบรวมข้อมูล
นาเสนอผลการปฏิบัติงานตามหน้าท่ีและความรับผิดชอบและผลงานตามลักษณะงานท่ีปฏิบัติตามมาตรฐาน
ตาแหน่งและมาตรฐานวิทยฐานะ รวมทั้งงานหน้าที่อ่ืนท่ีได้รับมอบหมายในด้านปริมาณงานและคุณภาพของงาน
รวมทง้ั ผลงานท่ีปรากฏตอ่ การจดั การศึกษา

ขอขอบคุณ ผู้อานวยการโรงเรียนบ้านแก้งยาง คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียน
บ้านแก้งยาง คณะครูและนักเรียน ที่ได้ร่วมกันรับผิดชอบในงานหน้าท่ีของตนและได้ร่วมคิด ร่วมปรึกษาหารือ
ร่วมตัดสินใจ ร่วมดาเนินการและร่วมประเมินผล เพื่อพัฒนางานอย่างต่อเน่ือง ทาให้การดาเนินงานในโรงเรียน
ประสบผลสาเรจ็ ตามเป้าหมายและขอขอบคุณผเู้ กีย่ วข้องทุกคนท่ีทาให้เอกสารฉบบั น้สี าเร็จเรียบร้อยด้วยดี

นางฉวีวรรณ ไชยรถ
ตาแหน่ง ครูชานาญการพิเศษ



สารบญั

เร่ือง หน้า
คานา
สารบญั 1
สว่ นที่ 1 ข้อมูลท่ัวไป 5
สว่ นที่ 2 ข้อมูลการปฏบิ ตั หิ น้าที่ 6
6
1. ด้านการจดั การเรียนการสอน 8
2. ดา้ นการบรหิ ารจดั การชนั้ เรียน 17
3. ด้านการพฒั นาตนเองและพฒั นาวชิ าชพี
4. งานอืน่ ๆ ที่ไดร้ ับมอบหมาย 21
ส่วนท่ี ๓ ตอนที่ 2 การประเมินการปฏิบตั ิตนในการรกั ษาวนิ ยั คณุ ธรรม จรยิ ธรรม
และจรรยาบรรณวชิ าชีพ 26
ภาคผนวก 28
- คาสง่ั ปฏิบตั หิ น้าที่ไดร้ ับมอบหมาย 36
- เกยี รติบัตร
- ภาพกิจกรรม



รายงานการปฏิบตั งิ านของข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา (สายงานการสอน)

ประกอบการพิจารณาเลือ่ นเงินเดือน

 ครง้ั ท่ี 1 (1 ตลุ าคม ……………………… - 31 มีนาคม …………….. )
 ครั้งที่ 2 (1 เมษายน 2564 - 30 กนั ยายน 2564)

1.1 ข้อมูลทว่ั ไป

ชอื่ นางฉวีวรรณ ไชยรถ

วุฒกิ ารศกึ ษา

ปรญิ ญาตรี ค.บ. วิชาเอก การประถมศึกษา จาก วทิ ยาลัยครูพระนคร

ปริญญาโท................ วชิ าเอก จาก....................................

อ่นื ๆ ระบุ................. วิชาเอก จาก...................................

ตาแหนง่ ครู ชานาญการพเิ ศษ อายุ 58 ปี ๗ เดอื น ปฏบิ ตั ริ าชการ 29 ปี

เลขท่ีตาแหน่ง 11458 เงนิ เดือน 56,060 บาท เงนิ วทิ ยฐานะ.........11,200...........บาท

วนั / เดอื น / ปี เกดิ 10 มีนาคม 2506

วนั / เดอื น / ปี บรรจุเข้ารบั ราชการ 25 ธันวาคม 2534

ปฏบิ ัตกิ ารสอน ระดบั ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 และ 2 ทกุ กลมุ่ สาระการเรียนรู้

ปฏิบตั ิงานพิเศษ งานบริหารงบประมาณ

โรงเรียนบา้ นแกง้ ยาง สานักงานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษาอบุ ลราชธานี เขต 4

แสดงจานวนวันลา ในรอบที่ผ่ามา (1 เมษายน 2564 – 30 กันยายน 2564)

วนั เดือน ปี ลาปว่ ย ลากิจ ลาอุปสมบท ลาคลอด มาสาย
ครั้ง วนั
ทล่ี า คร้งั วัน ครัง้ วนั ครัง้ วัน ครง้ั วนั --
--
- -------- --

- -------- --

- --------

รวม - - - - - - - -

รวมทง้ั สนิ้ จานวน........-........คร้ัง จานวน.......-.........วัน



1.2 ข้อมูลการปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ี
1.2.1 ปฏิบตั กิ ารสอนตลอดปีการศึกษา 2564

ประจาปกี ารศึกษา 2564

ท่ี กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ระดบั ช้ัน จานวน หมายเหตุ
นักเรียน คาบ/สปั ดาห์

1 ภาษาไทย ป.1,2 12 5

2 คณิตศาสตร์ ป.1,2 12 5

3 วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ป.1,2 12 2

4 สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ป.1,2 12 2

5 ประวัติศาสตร์ ป.1,2 12 1

6 สขุ ศึกษาและพลศึกษา ป.1,2 12 1

7 ศลิ ปะ ป.1,2 12 1

8 การงานอาชีพ ป.1,2 12 1

9 ภาษาต่างประเทศ ป.1,2 12 3

10 วิทยาการคานวณ ป.1,2 12 0

รายวิชาเพม่ิ เติม

1 การปอ้ งกันการทจุ ริต ป.1,2 12 1

2 ภาษาองั กฤษเพิ่มเตมิ ป.1,2 12 2

กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน ป.1,2 12 3

รวม 12 27

1.2.2 ปฏิบตั ิหนา้ ทค่ี รทู ี่ปรึกษา จานวนนกั เรยี น รวมท้ังสน้ิ
(คน)
ชน้ั / หอ้ ง ชาย (คน) หญงิ (คน)
ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 1 และ 2 12
10 2

1.2.3 งานพิเศษ ในโรงเรียน ไดแ้ ก่
- งานบรหิ ารงานงบประมาณ
- งานการเงนิ
- เจ้าหน้าท่ีโครงการอาหารกลางวนั /เสริม (นม)

1.3 การจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน
1.3.1 จดั ทาแผนการจัดการเรียนรู้ ดงั น้ี

ที่ รหสั วิชา สาระการเรยี นร/ู้ รายวิชา ระดบั ชั้น จานวน/แผน
ป. 1 - 2
1 ท11101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ป. 1 - 2

2 ค11101 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์



1.3.2 ผลติ สอื่ / นวตั กรรม 1 ชิน้ ไดแ้ ก่

ที่ ชอ่ื สื่อ/นวตั กรรม จานวน (ชิ้น)
1 Weevan Model แกป้ ัญหาการจัดการเรียนการสอนสถานการณ์โควดิ ระบาด 1


1.3.3 รูปแบบ/ วิธีการจดั กิจกรรมการเรียนการสอนทีค่ รใู ช้ คอื ขอ้ ใดบา้ ง (ตอบไดม้ ากกวา่ 1 ขอ้ )

การอธบิ าย การสืบสวนสอบสวน

การสาธติ / ทดลอง กลุม่ สืบค้นความรู้

การใช้เกมประกอบ กลุ่มสมั พนั ธ์

สถานการณ์จาลอง การเรยี นรูแ้ บบรว่ มมือ

กรณตี วั อยา่ ง ความคิดรวบยอด

บทบาทสมมุติ อรยิ สจั 4

การแก้ไขสถานการณ์ การศกึ ษาคน้ ควา้ ด้วยตนเอง

โปรแกรมสาเรจ็ รูป การทศั นะศึกษานอกสถานท่ี

ศนู ย์การเรยี น การเรียนรจู้ ากห้องสมุด

ชุดการสอน การพัฒนากระบวนการคดิ

คอมพิวเตอร์ชว่ ยสอน การใช้ภูมิปญั ญาท้องถิ่น

โครงงาน การอภิปรายกลุ่มยอ่ ย

การถามตอบ การแกป้ ญั หา

อืน่ ๆ ระบุ............ อ่ืน ๆ ระบุ……………………...…

สรปุ จานวนรปู แบบ / วิธกี ารจดั กิจกรรมการเรียนการสอนท่คี รูใช้ 11 วิธี



1.3.4 การพัฒนาตนเอง (การเข้าร่วมกิจกรรมทางวิชาการ/ การเขา้ ร่วมอบรม / ประชมุ สัมมนา /
ศึกษาดงู าน ฯลฯ)

ที่ วัน /เดือน/ ปี เรอ่ื ง สถานท่ี หน่วยงานทีจ่ ัด หลกั ฐาน
สานกั งานเลขาธิการ เกียรตบิ ตั ร
1. 5 เม.ย. 64 คณุ ภาพการศึกษาไทย สู่การ ออนไลน์
สภาการศกึ ษา เกยี รตบิ ตั ร
เปลยี่ นแปลงในอนาคต
สพป.อุบลราชธานี เกียรติบตั ร
2 ๙ เม.ย.๖๔ กจิ กรรมการจดั การเรยี นการ โรงเรียนบา้ นแกง้ ยาง เขต ๔
เกียรตบิ ตั ร
สอนตามแนวทาง Active สพป.อบุ ลราชธานี เกียรตบิ ตั ร
เขต ๔ เกยี รติบตั ร
learning ตามโครงการ เกยี รติบัตร
โรงเรยี นบ้านแก้งยาง เกยี รตบิ ตั ร
ขบั เคลอ่ื นคณุ ภาพการศกึ ษา โรงเรยี นบา้ นแก้งยาง

ดว้ ยนวตั กรรมการบริหาร ชมรมพทุ ธศาสตร์
สากล ในอุปถัมภ์
เขตก้าวหนา้ สร้างคุณภาพ สมเด็จพระมหารชั
มังคลาจารย์
การศกึ ษาอย่างย่ังยนื ปี สพป.อบ.4
หอ้ งสมดุ ประชาชน
การศึกษา ๒๕๖๓ ปที องของ จังหวัดราชบุรี

การพัฒนาคุณภาพ

3 ๙ เม.ย.๖๔ มีผลการประเมินผ่านเกณฑ์ โรงเรียนบ้านแก้งยาง

กจิ กรรมห้องเรยี นคุณภาพ

ตามโครงการขบั เคล่ือน

คุณภาพ การศกึ ษาดว้ ย

นวตั กรรมการบริหารเขต

กา้ วหนา้ สรา้ งคณุ ภาพ

การศกึ ษาย่งั ยนื ปีการศกึ ษา

๒๕๖๓

4 26 เม.ย. 64 การพฒั นาตนเองด้วยการ โรงเรียนบ้านแกง้ ยาง

เรียนดา้ นวิทยาการคานวณ

5 19 พ.ค. 64 การอบรมเชงิ ปฏิบตั กิ าร โรงเรยี นบา้ นแก้งยาง

ขา้ ราชการครูและบคุ ลากร

ทางการศึกษา การใช้

โปรแกรม Zoom Cloud

Meetings

6 26 พ.ค. 64 ร่วมกิจกรรมเยาวชนอาสาทว่ั ออนไลน์

ไทย ร่วมใจสร้างสรรค์ทา

ความดี (ออนไลน)์

7 21 พ.ค. 64 ประชุมเตรียมความพร้อม ออนไลน์
กอ่ นเปิดภาคเรยี น ออนไลน์

๘ ๑๙ ม.ิ ย.๖๔ ผ่านการเขา้ รว่ มกจิ กรรม
ส่งเสรมิ การอา่ นออนไลน์
เรอื่ ง “สัตวโ์ ลกน่ารัก”



ที่ วัน /เดอื น/ ปี เร่อื ง สถานที่ หน่วยงานที่จัด หลกั ฐาน
เกยี รตบิ ัตร
๙ ๑ ก.ค.๖๔ ได้ผา่ นการทาแบบทดสอบ ออนไลน์ โรงเรียนโพธนิ มิ ติ
วิทยาคม
ออนไลน์ เน่ืองในวันสถาปนา

คณะลูกเสือแห่งชาติ

๑๐ ๙ ก.ค.๖๔ ผ่านการอบรมตามกจิ กรรม โรงเรียนบ้านแก้งยาง โรงเรียนบ้านแก้งยาง
เกียรติบัตร
การพัฒนา ICT เพือ่ จัดการ

เรยี นการสอนด้วยเทคโนโลยี

ช่วยสอน

๑๑ ๙ ก.ค.๖๔ ได้รับรางวลั เหรียญทองการ โรงเรียนบา้ นแก้งยาง เกยี รตบิ ตั ร
โรงเรยี นบา้ นแกง้ ยาง
ประกวดกิจกรรมการพฒั นา

ICT

๑๒ ๙ ก.ค.๖๔ ผา่ นการเรยี นรู้และทดสอบ ออนไลน์ ศนู ยก์ ารศึกษานอก เกียรตบิ ตั ร
ระบบและการศึกษา ภาพถ่าย
ความร้ดู ้วยระบบ ตามอธั ยาศยั เมือง
อานาจเจริญ
อิเล็กทรอนิกส์
โรงเรยี นบ้านแกง้ ยาง
๑๓ 13 ก.ค. – 7 อบรมพฒั นาตนเองดา้ น หอ้ งคอมพิวเตอร์
ก.ย. 64 เทคโนโลยีในชว่ งสถานการณ์ สมาพันธอ์ งค์กรวิชาชีพ
โควิด - 19 ครูไทย เกียรตบิ ตั ร
14 15 ก.ค. 64
15 15 ก.ค. 64 เข้ารว่ มเป็นสมาชกิ สมาพันธ์ ออนไลน์ ศูนย์วทิ ยาศาสตรแ์ ละ เกยี รติบตั ร
16 16 ก.ค.๖๔ องค์กรวชิ าชพี ครไู ทย วัฒนธรรมเพอ่ื เกยี รติบตั ร
(ส.อ.ท.) ประเภทบุคคล การศกึ ษา
17 ๑๙ ก.ค.๖๔
18 ๒๒ ก.ค.๖๔ ผ่านการทดสอบความรู้ ออนไลน์ ศนู ยว์ ิทยาศาสตร์และ
เกีย่ วกับ “ครไู ทยยุคโควิด - วฒั นธรรมเพอ่ื
19 ๒๕ ก.ค.๖๔ 19 ” การศึกษา

ผ่านการทดสอบความเข้าใจ ออนไลน์ โรงเรยี นสวนศรีวทิ ยา
เกี่ยวกับ “รูปแบบของการ
เขียนโครงงานวิทยาศาสตรท์ ี่ จ.ชุมพร เกียรตบิ ตั ร
ด”ี
โรงเรียนเบญจมราชูทศิ
ผา่ นการทดสอบความรูใ้ น ออนไลน์ จันทบรุ ี เกียรติบัตร
กิจกรรม “จากวนั สุนทรภสู่ ู่
วันภาษาไทย” โรงเรยี นบรรพตพสิ ยั

ได้ผา่ นการอบรมออนไลน์ ออนไลน์ พิทยาคม เกียรติบัตร
หลักสตู รการเสรมิ สรา้ งวินัย
คณุ ธรรมและจรรยาบรรณ
วชิ าชพี ครู

ได้เข้ารว่ มกิจกรรมสง่ เสรมิ ออนไลน์
วถิ พี ทุ ธออนไลน์ เน่ืองในวนั
อาสาฬหบูชาและวัน
เข้าพรรษา ปี๒๕๖๔

๑๐

ท่ี วัน /เดือน/ ปี เรอื่ ง สถานท่ี หนว่ ยงานทจ่ี ัด หลกั ฐาน

20 ๒๙ ก.ค.๖๔ ผา่ นการทดสอบความรู้ ออนไลน์ โรงเรียนฤทธิยวรรณาลยั

พน้ื ฐานภาษาไทย เนื่องในวนั สพม.กทม.เขต ๒ เกียรตบิ ตั ร

ภาษาไทยแห่งชาติ

21 ๘ ส.ค.๖๔ ผ่านการทดสอบด้วยระบบ ออนไลน์ โรงเรยี นวิทยาศาสตรจ์ ุฬา
อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ กิจกรรมที่ ๒ ภรณร์ าชวิทยาลยั
“คาไวพจน์ในนิราศเขา
เพชรบุรี เกยี รติบตั ร

ลกู ชา้ ง(จากหนงั สือประชมุ

นิราศเมอื งเพชร)”

22 ๘ ส.ค.๖๔ ผ่านการอบรมออนไลนเ์ ชิง ออนไลน์ บ.เอสพี รีเสริ ์ช จากดั
ปฏบิ ัตกิ าร หลกั สูตรการ ชมรมขอนแกน่ โรบอท

สรา้ งกระดาษสง่ งาน เกียรติบัตร
ออนไลน์ด้วย Padlet

จานวน

3 ชั่วโมง

23 ๘ ส.ค.๖๔ ผ่านการทดสอบวัดความรู้ ออนไลน์ โรงเรยี นธญั บุรี เกียรตบิ ัตร
ออนไลน์เรือ่ ง “วนั อาเซียน” สพม.ปทมุ ธานี

๒๔ ๑๔-๑๕ ส.ค. อบรมปฏิบัตกิ ารเชงิ พัฒนา ออนไลน์ สพฐ.

๖๔ ทกั ษะการเรยี นรู้แบบ เกยี รติบัตร

ออนไลน์

25 ๑๕ ส.ค.๖๔ ผา่ นการอบรมออนไลน์เชงิ จานวน 3 ชั่วโมง สานักงานศึกษาธกิ าร
ปฏบิ ัตกิ าร หลกั สตู รการ จงั หวัดขอนแก่น สพม.
สรา้ งเกณฑ์การศึกษาด้วย ขอนแกน่ รว่ มกับชมรม เกียรติบตั ร
Gamilab ขอนแก่นโรบอท และเพจ
ครูสายบัว

26 ๗-๑๔ ส.ค. ไดผ้ า่ นการทดสอบออนไลน์ ออนไลน์ โรงเรียนวทิ ยาศาสตร์

๖๔ “กฎหมายในชวี ิตประจาวนั จฬุ าภรณร์ าชวิทยาลยั เกยี รติบัตร

เน่อื งในวันรพี 7 สิงหาคม ตรงั กลุ่มสังคมศึกษาฯ

27 21 ส.ค. 64 ได้ผา่ นการอบรมเชิง ออนไลน์ อบจ.ขอนแกน่ /

ปฏบิ ตั กิ าร เร่อื ง การ คณะครุศาสตร์ ม.ราช

ออกแบบสอ่ื สารการสอนให้ ภัฏเลย รว่ มกับ สนง.

โดนใจด้วย CANVA ศึกษาธิการจงั หวดั

ขอนแกน่ สนง.เขต เกยี รติบตั ร

พื้นทกี่ ารศกึ ษา

ขอนแก่น

ชมรมขอนแก่นโรบอท

และ รร.สชี มพูศึกษา

(หลกั ฐานปรากฏภาคผนวก หนา้ : 26)

๑๑

ส่วนท่ี 2 รายงานผลการปฏิบัตงิ าน

ตอนที่ 1 การประเมินประสิทธภิ าพและประสทิ ธิผลการปฏบิ ตั งิ าน
1.ดา้ นการจดั การเรยี นการสอน

1.1 การสร้างและหรือพฒั นาหลกั สตู ร
ข้าพเจ้ามีความมุ่งม่ันในการปฏิบัติงานในหน้าที่ให้มีคุณภาพ ครบถ้วนสมบูรณ์ มีความคิดสร้างสรรค์
และมีการพัฒนาผลงานให้มีคุณภาพ เกิดประสิทธิภาพ เม่ือได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าท่ีครูผู้สอนวิชาทุก
รายวิชา ในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ซ่ึงเป็นระดับชั้นเรียนที่ต่อเนื่องกัน และเป็นวิชาท่ีมีเนื้อหาสาระที่ต่อเนื่องกัน
จึงทาให้ข้าพเจ้าใช้วิธีการสอนแบบบูรณาการในการจัดทาแผนการจัดการเรียนรู้ ให้มีความต่อเน่ืองสอดคล้องกัน
ตามขัน้ ตอนดังน้ี

1) การศึกษาหลกั สตู ร
ข้าพเจ้าศึกษาเอกสารทางวิชาการ หลักสูตร เอกสารท่ีเกี่ยวข้องกับแนวคิด ทฤษฎีการศึกษา

จิตวิทยาการศึกษา รฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
พ.ศ.2542 หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 หลักสูตรสถานศึกษาข้ันพื้นฐาน
โรงเรยี นบ้านแกง้ ยาง คู่มือการจัดสาระการเรียนรู้กลมุ่ สาระการเรียนรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และกจิ กรรมพฒั นา
ผูเ้ รียน โดยนาสาระและมาตรฐานการเรียนรขู้ องสถานศึกษามาจัดทามาตรฐานช่วงชน้ั มาตรฐานการเรียนรู้รายปี
ในแต่ละชั้น จัดทาตารางวิเคราะห์ผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวัง สาระการเรียนรู้และกิจกรรม และจัดทาคาอธิบาย
รายวิชาหลักสูตรของสถานศึกษา สู่แผนการจัดการเรยี นรู้ เอกสารประกอบการเรยี นการสอน และผลการเรียนรู้ที่
คาดหวัง

2) การวเิ คราะหห์ ลกั สูตร
ข้าพเจ้าได้ทาการวิเคราะห์มาตรฐานการศึกษาแห่งชาติ และมาตรฐานการเรียนรู้ในหลักสูตร

แกนกลางการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 และจัดทาหลกั สตู รสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรยี นบ้านแก้ง
ยาง ทกุ กลุ่มสาระการเรียนรู้ และกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน ศกึ ษาหลักสูตรของสถานศกึ ษา และปรับใช้ให้สอดคลอ้ ง
กบั ผลการเรยี นรู้ทค่ี าดหวังรายวิชา มาตรฐานรายวิชา ทกุ กลุ่มสาระการเรียนรู้ และกิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน เพื่อให้
สอดคล้องกับความตอ้ งการของนักเรียน และม่งุ เน้นการพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียน

ขา้ พเจ้าได้ศึกษาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 และหลักสูตรโรงเรียนบ้าน
แก้งยาง พุทธศักราช 2562 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2562) ในการบูรณาการการจัดการเรียนรู้ ให้สอดคล้องกับ
ความต้องการของชุมชนและท้องถ่ิน โดยใช้แนวคิดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ให้ผู้เรียนมีความรู้และ
ทักษะขั้นพื้นฐานท่ีจาเป็นต่อการศึกษาตลอดชีวิต มุ่งเน้นให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตนเองได้เต็มศักยภาพ และ
เสริมสร้างสร้างคุณลักษณะอยู่อย่างพอเพียง โดยจัดทาหน่วยการเรียนรู้และแผนการจัดการเรียนรู้เป็นลาดับ
ขน้ั ตอน ดังนี้

- วเิ คราะหต์ วั ชี้วัดสู่มาตรฐานการเรยี นรู้
- กาหนดสาระสาคัญ ว่าผ้เู รียนร้อู ะไร ทาอะไรได้
- จดั ทาโครงสร้างรายวชิ า
- วเิ คราะหม์ าตรฐานสู่สมรรถนะและคณุ ลกั ษณะ
- วเิ คราะห์หลักฐานการเรยี นรู้
- วางแผนกาหนดหลกั ฐานการเรยี นรู้
- ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้
- ตรวจสอบกจิ กรรมการเรียนรู้
- ศึกษาองค์ประกอบของหนว่ ยการเรยี นรู้

๑๒

มกี ารนาหลกั สูตรสถานศึกษาของโรงเรียน ท่ีมีการบูรณาการให้สอดคล้องกับความต้องการของชุมชนและ
ท้องถ่ิน โดยใช้แนวคิดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงบูรณาการเข้าสู่การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ มีการจัดทา
หน่วยการเรียนรู้ในรายวิชาท่ีสอน และมีแผนการจัดการเรียนรู้ที่ชัดเจน โดยมีการกาหนดสาระสาคัญ ว่าผู้เรียนรู้
อะไร ทาอะไรได้ จดั ทาโครงสร้างรายวชิ า วเิ คราะหม์ าตรฐานสู่สมรรถนะและคณุ ลักษณะ ออกแบบกจิ กรรมการ
เรยี นรู้ อย่างครบถว้ น

1.2.1 การออกแบบหน่วยการเรียนรู้
ขา้ พเจ้าได้ออกแบบหน่วยการเรยี นรโู้ ดยใชห้ ลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐานพุทธศักราช
2551 หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านแก้งยาง และหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ ของ โรงเรียนบ้าน
แก้งยางเป็นแนวทางและข้อสารสนเทศในการออกแบบหน่วยการเรยี นรู้ การปรับประยุกต์ ใหส้ อดคล้องกับบริบท
ของโรงเรยี นบา้ นแก้งยาง และเหมาะสมกับผเู้ รียน ในปีการศกึ ษา 2563
ซงึ่ หน่วยการเรยี นรูท้ ขี่ ้าพเจา้ ออกแบบข้ึน ทุกหนว่ ยการเรียนรู้ ทุกรายวชิ าท่สี อน มกี ิจกรรมการ
เรียนรู้ด้วยวิธีการปฏิบัติที่สอดคล้อง กับธรรมชาติของสาระการเรียนรู้ในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ที่ข้าพเจ้าได้รับ
มอบหมายในการสอน และสามารถนาไปปฏิบัติได้จริง ตลอดจนมกี ารประเมินผลการใช้หน่วยการเรยี นรู้ทกุ หน่วย
การเรียนรู้ และได้นาผลการประเมินหน่วยการเรียนรู้มาปรับปรุงให้มีคุณภาพสูงขึ้นทุกปีการศึกษา ดังปรากฏ
หลักฐานร่องรอย คือ 1.หน่วยการเรียนรู้ของรายวิชาที่ข้าพเจ้าปฏิบัติการสอน 2.หลักฐานการประเมินผลการใช้
หนว่ ยการเรียนรู้
1.2.2 การจดั ทาแผนการจัดการเรียนรู้
การจดั ทาแผนการจดั การเรียนรู้ ขา้ พเจ้าไดจ้ ดั ทา กาหนดหนว่ ยการเรียนรู้ สาระสาคญั ชอื่ เรื่อง
หัวเร่ือง จัดทากาหนดการสอน และกาหนดวิธกี ารวัดผลประเมินผล ดังนี้
1.2.2.1 ศกึ ษาสาระและมาตรฐานการเรยี นรู้
1.2.2.2 ศึกษาวิเคราะห์คาอธิบายรายวิชา เนือ้ หา องค์ประกอบสาคัญ คือ ผลการเรยี นรู้ทีค่ าดหวัง
สาระการเรยี นรู้ และกจิ กรรมการเรียนการสอน
1.2.2.3 นาสาระการเรียนรู้มาจัดทากรอบเน้ือหา เพ่ือแบ่งสาระการเรียนรู้ออกเป็นรายแผนการ
จัดการเรยี นรู้ เพ่ือประโยชน์ในการเขียนผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง
1.2.2.4 นาชอ่ื เรือ่ ง และหัวขอ้ เรื่องของแผนการจัดการเรยี นรู้ โดยพจิ ารณาจานวนแผนการจัดการ
เรียนรู้ ขอบข่าย เนื้อหา และเวลาในการจัดการเรียนการสอนตามท่ีหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน
พทุ ธศกั ราช 2551 กาหนดไว้
1.2.2.5 จัดทาแผนการจัดการเรียนรู้ โดยมสี ่วนประกอบ ดงั นี้

1. เร่อื ง
2. เวลา
3. ผลการเรียนร้ทู ค่ี าดหวัง
4. สาระสาคญั
5. หนว่ ยการเรียนรู้
6. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
7. กระบวนการจัดการเรยี นรู้
8. ส่อื /แหล่งการเรียนรู้
9. การวัดและประเมนิ ผล
10. กิจกรรมที่เสนอแนะ
11. ความคดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะของผ้บู ริหาร

๑๓

12. บันทึกผลหลังการสอน
13. เคร่ืองมอื วดั ผลการจดั ทาแผนการจดั การเรียนรู้
1.2.2.6 เลือกใช้เอกสาร สื่อ วัสดุ อุปกรณ์ในการจัดการเรียนการสอน จัดสภาพแวดล้อมและ
บรรยากาศในหอ้ งเรียนและตามแหล่งการเรยี นรู้ใหเ้ ออื้ ต่อการจัดการเรยี นการสอน
1.2.2.7 จัดทาเคร่ืองมือวัดผลและประเมินผล ตามแผนการจัดการเรียนรู้ โดยวิธีการสังเกต
การใชแ้ บบทดสอบ และการประเมนิ ผลงานในแผนการจัดการเรยี นรู้ แตล่ ะแผนการจดั การเรยี นรู้
ไดน้ าจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ วิธกี ารวดั ผลด้วยวธิ ที ่ีหลากหลาย มคี วามเหมาะสมกับเน้อื หาและกิจกรรมการเรยี นรู้
1.2.2.8 การสรุปผลการประเมินหลังการเรยี นทุกแผนการจดั การเรยี นรู้ เพ่ือนาจุดบกพรอ่ งและจดุ ท่ี
เปน็ ปญั หาตอ่ การเรียนรขู้ องนกั เรียน แจ้งให้นักเรียนทราบเพ่ือนามาปรับปรงุ แกไ้ ขและพฒั นาให้ดขี ้ึน ผลสมั ฤทธิ์
ทางการเรียนของนักเรียนจึงพัฒนาขึ้นตามลาดับ บรรลุผลสาเร็จตามวัตถุประสงค์การเรียนรู้ ผู้เรียนจึงเกิด
ประสทิ ธภิ าพและประสิทธิผล
1.2.2.9 นาผลการประเมินไปปรับปรุงแก้ไข และพัฒนาต่อไป ผลท่ีได้จากการเตรียมการสอน มี
ดงั น้ี
1. ทาให้ครูมีความม่ันใจในการจัดการเรียนการสอน และสามารถถ่ายทอดความรู้ให้แกน่ ักเรียน
ได้อย่างเต็มทแ่ี ละมีประสทิ ธภิ าพ
2. สามารถสอนได้ตามลาดับขั้นตอน การสอนดาเนินการไปอย่างราบรื่น ครบทุกกระบวนการ
และบรรลุตามแผนการจัดการเรยี นรู้ทตี่ ง้ั ไว้
3. นักเรียนมีความตั้งใจเรียน และมีความกระตือรือร้นในการเรียน ตระหนักและมีทัศนคติ
ทีด่ ตี ่อการเรยี นทกุ รายวิชา ทุกกลมุ่ สาระการเรียนรู้
4. นกั เรยี นไมเ่ กดิ ความเบ่ือหน่ายในการเรียน
5. ผลสัมฤทธ์ขิ องนกั เรียนสูงข้ึน
6. สามารถถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ในการจัดทาแผนการจัดการเรียนรู้ แก่ครูผู้สอน
คนอน่ื ๆ ได้อยา่ งถกู ต้อง
7. เปน็ ตวั อยา่ งทด่ี แี ก่ครูผสู้ อนคนอน่ื ๆ
8. เกิดผลดีแก่สถานศึกษา คือ คุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาสูงขึ้นเป็นที่ยอมรับ
ของผู้ปกครองและชมุ ชน
1.2.3 กลยุทธใ์ นการจดั การเรียนรู้
ข้าพเจ้า ได้จัดการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบ เทคนิค และวิธีการ ที่เน้นการปฏิบัติ ดังปรากฏหลักฐาน
ร่องรอย ใน 1.แผนการจัดการเรียนรู้ นอกจากน้ี ยังมีความหลากหลายในการใช้สื่อนวัตกรรม เทคโนโลยีการ
จัดการเรียนรู้ มีการวัดและการประเมนิ ผล ตามแผนการจัดการเรียนรู้ ท่ีสอดคล้องกับมาตรฐานการจัดการเรียนรู้
ตัวชี้วัด จดุ ประสงค์การเรียนรู้ และสอดคล้องกับธรรมชาติ ของผู้เรียนโรงเรียนบา้ นแก้งยาง และทุกกลุ่มสาระการ
เรียนรู้ การเรียนการสอนในยุคปฏิรูปการศึกษาหรือยุคโลกาภิวัฒน์ ครูผู้สอนต้องศึกษาค้นคว้าหาวิธีการสอนท่ี
ทันสมัย เพ่ือให้ทนั ต่อเหตุการณ์ของโลก สามารถจัดกิจกรรมการเรียนการสอนไปส่เู ป้าหมายของหลกั สตู รได้
ในฐานะเป็นครูผู้สอน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้ศึกษาหาวิธีสอนแบบใหม่ๆมาถ่ายทอดความรู้และ
ประสบการณ์ให้นักเรียนได้เข้าใจย่ิงข้ึน จากการจัดทาแผนการจดั การเรยี นรู้และส่อื การสอนท่ีเตรียมไว้ นามาจัด
กจิ กรรมการเรียนการสอน เพ่อื ถ่ายทอดความร้ใู หแ้ กน่ ักเรยี นได้ปฏิบัตดิ ังนี้
1) ศกึ ษาแผนการจัดการเรยี นรู้ก่อนนามาจดั กจิ กรรมทกุ ครั้ง
2) นาเขา้ สู่บทเรยี นดว้ ยวิธีการท่หี ลากหลายแตกต่างกันไป เชน่ การสนทนา ซักถาม
การสงั เกตภาพ การรอ้ งเพลง เปน็ ตน้ เพอ่ื เร้าความสนใจให้นักเรยี นอยากเข้าร่วมกิจกรรม

๑๔

3) แจง้ จดุ ประสงค์ให้นกั เรยี นทราบ
4) ใช้วิธีการสอนท่ีเหมาะสมกับเนื้อหาวิชาและวัยของผู้เรียน โดยเน้นกระบวนการกลุ่ม
และเนน้ ผู้เรยี นเป็นสาคัญ การจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนได้ใชว้ ธิ ีการหลาย ๆ วิธี เชน่

- ทากจิ กรรมนอกสถานท่ีหรอื นอกห้องเรยี น
- ร่วมกนั คดิ วิเคราะหป์ ญั หา
- ร่วมกันต้ังคาถาม
- อาสานักเรยี นที่สมคั รใจ
- แบ่งกลุ่มตามความสมัครใจ
- คน้ ควา้ จากแหลง่ เรียนรู้ตา่ ง ๆ
- สนทนาซักถามและตอบปญั หา
- การใหน้ กั เรยี นมีสว่ นรว่ มในการแสดงความคิดเห็น
- ศึกษาจากเอกสารประกอบการเรยี น
- ให้นักเรยี นร่วมกนั สรปุ สาระสาคัญ เพอ่ื ทบทวนให้นักเรียนเขา้ ใจอกี ครั้ง
- วดั ผลและประเมนิ ผลตามเกณฑท์ ีก่ าหนดไว้
ผลทีไ่ ดร้ บั จากการถา่ ยทอดความรู้
1. นกั เรียนสามารถทางานร่วมกบั ผอู้ ื่นได้ ร้จู ักช่วยเหลอื ซึ่งกนั และกนั
2. นักเรยี นรู้จกั บทบาทหนา้ ที่ของตนเองในการเปน็ ผนู้ าและผู้ตาม
3. นักเรียนมีความรคู้ วามเข้าใจในเน้ือหาทเ่ี รยี น สามารถนาความรไู้ ปใช้ในชีวติ ประจาวันได้
4. นกั เรียนมที ศั นคตทิ ดี่ ตี ่อการเรยี น
5. นักเรยี นผ่านจุดประสงค์และมผี ลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นสูงขน้ึ
6. นักเรียนชอบเรียนในทกุ รายวิชามากข้ึน
7 . นั กเรียน ได้ แสด งออกและร่วมกิจกรรม เช่น การอภิ ป รายป ระเด็น คาถาม
การแสดงความคิดเหน็ เปน็ ต้น
8. การนาเทคนิควิธีการสอนและนวัตกรรมต่าง ๆ มาใช้ ช่วยแก้ปัญหาในการเรียนรู้
ทแี่ ตกต่างกนั ของนกั เรยี น
1.2.4 คณุ ภาพผเู้ รยี น
1.2.4.1 ผลสมั ฤทธทิ์ างวิชาการของผูเ้ รยี น
ขา้ พเจา้ ได้จัดกิจกรรมการเรยี นรู้สาหรบั ผเู้ รยี นสาระการเรยี นรู้ โดยไดว้ ิเคราะหห์ ลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน มาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัด แล้วนาไปจัดทาคาอธิบายรายวิชา หน่วยการเรียนรู้ ให้
สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวช้ีวัด จนเกิดผลการจัดการเรียนรู้ใน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี โรงเรยี นบ้านแก้งยาง และกิจกรรมพฒั นาผู้เรยี นลกู เสอื แนะแนว ลดเวลาเรียนเพมิ่ เวลารู้
1.2.4.2 คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ของผู้เรยี น
ขา้ พเจ้า ไดจ้ ัดกิจกรรมการเรียนรู้สาหรับผู้เรียนใน รายวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยได้
วิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน มาตรฐานการเรียนรู้ และตัวช้ีวัด แล้วนาไปจัดทา
คาอธิบายรายวิชา หน่วยการเรียนรู้ ให้สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวช้ีวัด จนเกิดผลการจัดการ
เรยี นรู้ รายวิชาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนบ้านแก้งยาง และเกิดการประเมินคณุ ลักษณะอันพึง
ประสงค์

๑๕

1.3 การสรา้ งและหรือพฒั นาสอ่ื นวตั กรรม เทคโนโลยที างการศึกษาและ แหล่งเรียนรู้
ข้าพเจ้าได้มีการสร้างและพัฒนา ส่ือนวัตกรรมเทคโนโลยีทางการศึกษาและแหล่งเรียนรู้นาไปใช้ในการ
จดั การเรียนรู้เหมาะสมกับผู้เรียนหรือผู้เข้ารบั การฝึกอบรมสอดคล้องกับเนื้อหาสาระรายวิชา และจุดประสงค์การ
เรียนรู้ประเมินผลการใช้สื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยีทางการศึกษาและแหล่งเรียนรู้ และนาผลการประเมินไป
ปรับปรุงพัฒนาให้มีคุณภาพสูงข้ึน สามารถนาสื่อนวัตกรรม เทคโนโลยี ทางการศึกษาและแหล่งเรียนรู้ไปปรับ
ประยกุ ต์ ใชใ้ นสถานศกึ ษาทม่ี บี ริบทใกลเ้ คียง

จดั ทาสื่อและการใช้สื่อการสอนจากการจัดทาแผนการจัดการเรียนรู้ไว้ล่วงหน้า ทาให้ทราบว่าแผนการ
จัดการเรียนรู้ แตล่ ะคร้ังจะต้องใช้สื่ออะไรในการสอน ซึ่งมีท้ังสอื่ ท่ีผู้สอนผลิตขนึ้ เอง จัดซ้อื มาขอยืมจากหอ้ งสมุด
ของโรงเรียนบา้ นค้อ ในการจัดทา จัดหาและใชส้ อื่ การสอนไดด้ าเนนิ การดงั น้ี

1) ศกึ ษาแผนการจดั การเรยี นรู้ท่ไี ดจ้ ัดเตรยี มไว้
2) จัดเตรียมส่อื การเรียนการสอนตามท่ีกาหนดไวใ้ นแผนการจดั การเรยี นรู้ ศึกษาวิธใี ช้
เมื่อผู้เรียน นาสื่อการเรียนไปใช้ สามารถทากิจกรรมด้วยตนเองได้อย่างถูกต้อง การทากิจกรรมก็จะสาเร็ จ
ตามเวลาท่ีกาหนด
3) ผลิตสื่อการสอนท่ีสามารถผลิตได้ด้วยตนเอง โดยยึดหลักประหยัดและมีคุณภาพมากท่ีสุด
เชน่ เอกสารประกอบการเรียนการสอน ใบงาน ใบความรู้ ได้จดั ส่งใหผ้ ู้ทรงคุณวฒุ ิและผู้เชย่ี วชาญตรวจสอบและ
ประเมินคณุ ภาพ ก่อนนามาใชป้ ระกอบการเรียน
4) พยายามใหผ้ ้เู รยี นมสี ว่ นร่วมในการผลติ ส่อื การเรยี นการ
ผลทีไ่ ดจ้ ากการเตรยี มและการใชส้ อ่ื การเรียนการสอน

1. ผู้เรียนมีความเข้าใจเนื้อหาที่เรียนเป็นอย่างดี ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้และไดร้ ับประสบการณ์ตรง
จากสอ่ื ต่าง ๆ

2. ผู้เรียนสนใจบทเรียนมากขึน้ รู้จกั การแก้ปญั หา และเรียนอยา่ งมีความสุข
3. ผเู้ รยี นมคี วามกระตือรอื ร้นในการเรียน
4. ผ้เู รยี นมีความภาคภมู ิใจในผลงานของตนเองทีไ่ ด้รว่ มผลติ ส่อื และนามาใช้ประโยชน์
5. สือ่ การเรยี นการสอน เป็นเครอ่ื งผอ่ นแรงครูผ้สู อนไดเ้ ปน็ อยา่ งดี
6. เปน็ การช่วยเหลือเพือ่ นครทู ่ีต้องการใช้สื่อการเรยี นการสอนประเภทเดยี วกัน
7. ครูผู้สอนเกิดความม่ันใจ สามารถจัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้ตามลาดับขั้นตอนอย่าง
ตอ่ เนื่องตามกระบวนการเรียนทีก่ าหนดไว้
1.4 การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้
ข้าพเจา้ ไดด้ าเนินการวดั ผลและประเมินผล โดยปฏบิ ตั ดิ ังน้ี

1) ศึกษาจดุ มุ่งหมายของหลักสตู ร
2) ศกึ ษาจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ทกุ กลุ่มสาระการเรยี นรู้
3) ศึกษาระเบยี บกระทรวงศกึ ษาธิการว่าดว้ ยการวดั ผลและการประเมนิ ผล การเรยี น
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ซึ่งเป็นการวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้ใน
ด้านพทุ ธิพสิ ยั จิตพิสัย และทักษะพิสัย
4) จัดทาเคร่อื งมอื วดั ผลและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ซึง่ ประกอบด้วย

- เครื่องมือวัดผลเพื่อปรับปรุงการเรียน ประกอบด้วย แบบทดสอบก่อนเรียน
และหลงั เรียน แบบทดสอบปลายภาคเรียน

- เคร่อื งมือวัดผลเพ่ือประเมินผลการเรียน ประกอบด้วย แบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธท์ิ างการ
เรยี น

๑๖

- เครื่องมือประเมินพฤติกรรมและจิตพิสัยของนักเรียนประกอบด้วย แบบสังเกตพฤติกรรม

การเรียน การช่วยกันสรุปเน้ือหาสาระการเรียน รู้ และแบบประเมินการตรวจผลงานการทากิจกรรม

ซึง่ เปน็ การประเมินผูเ้ รียนดา้ นจิตพิสัย เปน็ รายบุคคล

5) ดาเนินการวดั ผลและประเมินผล ดังนี้

ประเมินผลกอ่ นเรียน

ได้ทาการวดั ผลและประเมินผลการเรยี นการสอนทุกคร้ัง เพ่อื ตรวจสอบว่านกั เรยี นมีความรู้

พื้นฐานเบ้ืองต้น โดยใช้วิธีการสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน เช่น การทางานอย่างมีข้ันตอน ปฏิบัติ กิจวัตร

ประจาวัน ร่วมกิจกรรมด้วยความร่าเริง รับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ใช้เวลาทากิจกรรมที่เป็นประโยชน์

ใช้วธิ ีการสัมภาษณ์ การสอบถามเพ่ือให้ทราบข้อมูลเก่ียวกับนักเรียนและสามารถจัดกจิ กรรมการเรียนการสอนให้

สอดคล้องกบั นักเรยี น

ประเมินผลระหว่างทาการสอน

เพ่ือเปน็ การปรับปรุงการเรยี นการสอน และทาให้ทราบว่านักเรยี นมคี วามกา้ วหนา้ ใน

การเรียนมากน้อยเพียงใด มีความเข้าใจในเรื่องทส่ี อนไปแล้วมากน้อยเพียงใด นกั เรียนพบปัญหาในการเรียนวิชา

ตา่ งๆ อย่างไร โดยถือเกณฑ์ท่ีนักเรยี นผ่านได้คะแนนจากการทากิจกรรมร้อยละ 80 ขึ้นไป ในการวัดผลระหว่าง

เรียนแต่ละครั้ง จะวัดผลครอบคลุมทั้งด้านพุทธิพิสัย ทักษะพิสัย และจิตพิสัย โดยใช้แบบทดสอบวัดราย

จุดประสงค์ ตรวจผลงาน ความสนใจและต้ังใจเรียน และเจตคติต่อการเรียน วิชาต่างๆ และรวบรวมผลการ

ประเมินลงในจุดประสงค์ยอ่ ย ปพ.5

ประเมนิ ผลปลายภาคเรยี น

ใช้แบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ทิ างการทกุ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้

- กาหนดอัตราสว่ นของคะแนน กาหนดตามท่ีหลักสูตรของโรงเรียนไดก้ าหนดไว้ ดงั นี้

1. คะแนนสอบระหวา่ งภาค

- สอบรายจดุ ประสงค์กอ่ นกลางภาค 25 คะแนน

- สอบกลางภาค 20 คะแนน

- สอบรายจุดประสงคห์ ลังกลางภาค 25 คะแนน

2. คะแนนสอบปลายภาค 30 คะแนน

1.5 ศึกษาวิเคราะห์ สังเคราะห์ และหรือวิจัยเพ่ือแก้ปัญหาหรือพัฒนาการเรียนรู้เพ่ือส่งผลต่อ

คณุ ภาพผู้เรียน

การวิจัยในชั้นเรียน การวิจัยในชั้นเรียนจะเกิดข้ึนหลังจากครูสรุปได้ว่าปัญหาคืออะไร เกิดท่ีไหนและมี

แนวทางจะแก้ปัญหาน้ันได้อย่างไร กล่าวคือ ครูคิดหาวิธีการแก้ปัญหาแล้วได้นาไปทดลองใช้จนได้ผลแล้วพัฒนา

เปน็ นวตั กรรม

2. ด้านการบริหารจดั การชน้ั เรียน

2.1 การบริหารจัดการชัน้ เรียนและขอ้ มลู สารสนเทศ

ความสามารถในการอบรม ปกครอง และดแู ลนกั เรียน

1) การอบรมนอกช้ันเรยี น ไดป้ ฏบิ ตั ิดังน้ี

1.1 อบรมคุณธรรม และจริยธรรม การตรงต่อเวลา การมาเข้าแถวหน้าเสาธง ระเบียบแถว

ขณะเข้าแถวเคารพธงชาติ ชี้แจงเร่ืองการเรียน การแต่งกาย ความสะอาดของร่างกาย เช่น เล็บ ผม เส้ือผ้า

ถงุ เท้า รองเท้า เป็นต้น ให้ความรู้ ประชาสัมพันธ์ แจ้งข่าวสารนักเรียน โดยใช้เวลาช่วง 08.20 น.- 08.40 น.

หลงั กิจกรรมหนา้ เสาธงตอนเช้าทกุ วนั

๑๗

1.2 ร่วมกับคณะครูฝึกฝนด้านวินับ และกิจการนักเรียน ส่งเสริมนักเรียนด้านประชาธิปไตยใน
โรงเรียน ได้ส่งเสริมประชาธิปไตยให้กับนักเรียน ในช้ันเรียน และกรรมการสภานักเรียน สอดแทรกกิจกรรมจิต
อาสา การทาความดี การบันทกึ ความดี ในขณะประชุมนักเรียน ฝึกฝนให้นักเรยี นสามารถปกครองดูแลกันเองได้
ฝึกการเป็นผู้นา ผู้ตามท่ีดี รู้จักและปฏิบัติตนตามวิถีทางของประชาธิปไตย เป็นผู้มีคารวะธรรม ปัญญาธรรม
และสามคั คีธรรม บาเพญ็ ตนใหเ้ ป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคมได้

1.3 ให้ความรู้และอบรมนักเรียนเป็นรายบุคคล เม่ือพบว่านักเรียนไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบ
ของโรงเรียน การแต่งกาย การพูดจา กิริยามารยาทท่ีไม่เหมาะสม การทาความเคารพ การท้ิงขยะไม่เป็นท่ี
การรักษาความสะอาด การประหยดั น้า ไฟฟ้า และการอนรุ ักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เปน็ ต้น

1.4 ส่งเสริมให้นักเรียนมีสุขนิสัยที่ดี เช่น การเลือกรับประทานอาหารท่ีมีประโยชน์ต่อ
รา่ งกายและการรับประทานอาหารให้ตรงเวลา ออกกาลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอ รู้จักพัฒนาบุคลิกภาพของ
ตนเอง

1.5 ให้ความรู้และแนะนานักเรียนเก่ียวกับการดูแลระวังตนเองในการป้องกันโรคระบาดโดย
การให้ปฏิบัติตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข คือ กินรอ้ น ช้อนกลาง ล้างมือ และใช้หน้ากากอนามัยปิด
จมกู และปากเวลาจาม ไอหรอื เมือ่ มีไข้หวดั น้ามกู ไหล และการระมัดระวงั ตนเอง

1.6 การสร้างเสริมสุขภาพนักเรียน โดยการสนับสนุนให้นักเรียนรักการออกกาลังกาย เข้าร่วม
กิจกรรมการแข่งกฬี าภายในโรงเรยี นบ้านแก้งยาง ทาให้ผ้เู รียนมสี ขุ ภาพแขง็ แรง มกี ารขาดเรียนน้อยมาก

2) การอบรมในช้นั เรยี นทั้งภาคทฤษฎแี ละภาคปฏิบตั ิ ไดป้ ฏบิ ตั ิดังนี้
2.1 อบรมให้นักเรียนมีคุณ ธรรมและจริยธรรมอันดีงาม โดยให้นักเรียนปฏิบัติตน

ให้มีคุณธรรม 4 ประการ และมีค่านิยมพ้นื ฐาน 5 ประการ อบรมเกย่ี วกับประชาธิปไตย
เช่น การเลือกตั้งคณะกรรมการนักเรียน การปฏิบัติตามมติของเพื่อนร่วมชั้นและการรู้จักรับฟังความคิดเห็นของ
ผ้อู ื่น

2.2 ขณะสอนในชั้นเรียน ไดอ้ บรมในเรอ่ื ง
- การใช้ภาษา ทง้ั การพดู และการเขยี นในการตอบคาถาม
- การรกั ษาระเบยี บวินยั ของการอยู่รว่ มกันในชัน้ เรียน ด้วยการไมส่ ่งเสยี ง
ดงั เปน็ ทรี่ บกวนผูอ้ ่ืน
- การตรงตอ่ เวลา เช่น การไมเ่ ขา้ ห้องช้า การส่งงานตามเวลาทก่ี าหนด
- ความซอื่ สัตย์ตอ่ ตนเอง เช่น การตอบคาถามในกจิ กรรม เป็นต้น

ความสามารถในการอบรมความประพฤตขิ องนักเรยี น ได้แก่
1) การอบรมให้นักเรียนมีความประพฤติดี สุภาพเรียบร้อย อ่อนน้อมถ่อมตน การพูดจาไพเราะ การ

ร้จู ักกาลเทศะ การควรหรอื ไม่ควรกระทา
2) การปลกู ฝังค่านิยมพ้นื ฐาน 5 ประการ อันไดแ้ ก่
- การพึง่ ตนเอง ขยนั หม่ันเพยี ร และความรับผิดชอบ
- การประหยดั และออม
- การมรี ะเบียบวนิ ยั และเคารพกฎหมาย
- การปฏบิ ัตติ ามคณุ ธรรมของศาสนา
- ความรกั ชาติ ศาสนา และพระมหากษตั รยิ ์
3) การอบรมนกั เรยี นให้มีคุณธรรม 4 ประการ คือ
- การรักษาความสัตย์ ความจริงใจตอ่ ตนเองทจี่ ะประพฤตปิ ฏิบัตใิ นสิง่ ทีม่ ีประโยชน์
- การรจู้ ักขม่ ใจตนเองให้ประพฤติอยใู่ นความสัตย์ ความดี

๑๘

- ความอดกล้ันและอดออม ทงั้ ไม่ประพฤติลว่ งความสัตย์ สุจรติ ไมว่ ่าประการใด
- รู้จักละวางความชั่วความทุจริต และรู้จักสละประโยชน์ส่วนตนเพื่อประโยชน์ส่วนใหญ่ของ
บา้ นเมือง
4) หากพบนักเรียนใช้ถ้อยคา ภาษาที่ไม่สุภาพ กิริยามารยาทไม่เหมาะสม ได้ว่ากล่าวตักเตือน
ถา้ ยังพบวา่ ยงั ไม่แก้ไข ทาผดิ ซ้าอกี กจ็ ะรายงานใหฝ้ ่ายบรหิ ารกจิ การนักเรยี นทราบเพ่ือชว่ ยกันแก้ไขตักเตือน
5) การอบรมเก่ียวกบั การแต่งกาย ได้อบรมให้นักเรียนแตง่ กายใหถ้ ูกระเบยี บของโรงเรียนทั้งเครอ่ื งแบบ
นักเรียน เครื่องแบบลูกเสือ – เนตรนารี ชุดพละ หากพบนักเรียนที่แต่งกายผิดระเบียบ ได้ว่ากล่าวตักเตือนให้
แก้ไข และถ้าทาผิดซ้าอีกก็จะรายงานให้ฝ่ายบริหารกิจการนักเรียนทราบเพ่ือช่วยกันแก้ไขพฤติกรรมไปในทางท่ี
พงึ ประสงคต์ ่อไป
ผลทีไ่ ด้จากการอบรม ปกครอง ดูแลนักเรยี น
1. นกั เรยี นรสู้ ึกอบอนุ่ และนักเรียนมคี วามสัมพันธ์ตอ่ กนั เปน็ อย่างดี
2. นกั เรียนแต่งกายถกู ต้องตามระเบยี บ มีความประพฤตเิ รยี บรอ้ ย
3. นกั เรยี นมีความสามัคคใี นหมู่คณะ ไม่มกี ารทะเลาะววิ าทกัน
4. อาคารเรียน ห้องเรียนและบริเวณโรงเรียนสะอาด มีความเป็นระเบี ยบเรียบร้อย
มีบรรยากาศร่มร่นื และมีสิ่งแวดล้อมท่ีดี
5. ผ้ปู กครอง ชุมชน ใหค้ วามเชอ่ื ถอื และยกย่องชมเชยนกั เรียนและครู
6. นักเรียนได้ปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ท่ีครูกระตุ้นและส่งเสริมด้วยความรู้สึกตระหนักและ
รบั ผิดชอบดว้ ยตนเอง
ความสามารถในการพฒั นาผ้เู รยี น ได้ปฏบิ ัติดังนี้
1) สารวจความต้องการของนักเรียน ผู้ปกครอง เพื่อนามาเป็นแนวทางในการจัดการเรียน
การสอน ให้สอดคล้องและตอบสนองความต้องการของนักเรียน ผู้ปกครอง ชุมชน และท้องถ่ิน ส่งผลให้
นักเรียนได้เรียนรู้อย่างมีความสุข เม่ือนักเรียนมีทุนความรู้เดิมอยู่แล้ว จะส่งผลให้ประสบความสาเร็จใน
การเรียนร้สู ิง่ ใหม่ ๆ ไดง้ า่ ย
2) ให้คาแนะนาเกี่ยวกับการแก้ปัญหาการเรียน ปัญหาสุขภาพ ปัญหาทางด้านพฤติกรรมของ
นักเรียน และช้ีแจงทาความเข้าใจ ขอความร่วมมือจากผู้ปกครอง เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน
การสร้างความเข้าใจท่ดี ีมี ความเปน็ กัลยาณมติ ร ทาให้ผู้รับบริการมีความมัน่ ใจ
มกี าลังใจในการแก้ปญั หาและพัฒนาตนเองให้ดขี ้ึน มีความสขุ ในการดารงชีวติ และอย่รู ่วมกับผู้อ่นื ในสังคมไดอ้ ย่าง
ราบร่นื สงบสขุ
3) แนะนาการใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์ เช่น
- การปรบั ปรงุ หอ้ งเรียนใหน้ า่ อยู่ นา่ เรยี น
- การจัดกิจกรรมอิสระ เช่น การทาแบบฝึกหัดแบบเพื่อนสอนเพื่อน ฝึกการอ่านให้มีนิสัยรัก
การอา่ น หรือการทางานทค่ี ้างคาอยู่ให้เสรจ็ สิ้น เปน็ การฝึกความรับผดิ ชอบในงานที่ได้รบั มอบหมายใหป้ ฏิบัติ
4) การปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมให้แก่นักเรียน ในการจัดกิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ทุกคร้ัง
ได้สอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และมารยาทสังคมที่ดีท่ีควรปฏิบัติให้กับนักเรียนอย่างสม่าเสมอ
ไม่เคยปล่อยปละละเลยพฤติกรรมท่ีไม่พึงประสงค์ หรือ พฤติกรรมที่บกพร่องของนักเรียน จะตักเตือน แนะนา
ดว้ ยคาพูดท่ีสุภาพและเป็นกัลยาณมิตรกับนักเรียน แล้วหาแนวทางแก้ไขและนาไปปฏิบัติให้ถูกต้อง เพื่อลดความ
ขัดแย้ง ลดความตึงเครียด ให้นักเรียนได้เรียนร้เู ก่ียวกับการได้รับฟังพระธรรมเทศนาจากพระสงฆ์ การทาบุญ การ
ให้ส่ิงของเป็นทาน การแบ่งปัน และการลดความอยากของตนลง และเป็นการสืบสาน ทานุบารุงพระพุทธศาสนา
ให้เจรญิ ร่งุ เรอื งและคงอย่สู ืบไป

๑๙

5) การพัฒนาทักษะชีวิต สุขภาพกาย และสุขภาพจิตของผู้เรียน นานักเรียนเขา้ รับการอบรม
คุณธรรม จรยิ ธรรม “คา่ ยพทุ ธบุตร พุทธธรรม” เพื่อสรา้ งคนดีให้เปน็ ศรีสถาบัน เพือ่ สร้างหลกั ยึดเหนย่ี วทีม่ ่ันคงให้
เกิดข้ึนในใจของนักเรียน เพ่ือพัฒนาทักษะการดารงชีวิตของนักเรียน มีแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องอยู่ในครอบครัว
ในโรงเรยี น ในสงั คมได้อย่างมีความสุข

6) การจัดระบบดูแลช่วยเหลือผเู้ รียน ได้ศึกษาขอ้ มูลนกั เรียนเปน็ รายบคุ คล เพอ่ื นาข้อมูลไปใช้
ในการดูแลช่วยเหลือนักเรียนหลายด้าน ด้านการเรียนจะสานต่อการเรียนรู้ สอนซ่อมเสริม หรือ ทาการวิจัยใน
ช้ันเรียน ด้านความประพฤติก้าวร้าวให้ความรัก ความเมตตา ดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ ให้กาลังใจแนะนาการทา
ความเขา้ ใจตนเอง อบรมกล่อมเกลาจิตใจด้วยความละมุนละมอ่ ม ดแู ลเอาใจใสใ่ ห้กาลังใจ แนะนาแนวทางท่ีถกู ที่
ควรอย่างสม่าเสมอและใกลช้ ิด

ผลท่เี กิดกับผูเ้ รยี น
ผลจากการปฏิบัติหน้าที่ในการจัดการเรียนการสอนที่มีการเตรียมการ และดาเนินการอย่างมี

ข้ันตอนส่งผลใหน้ ักเรยี นประสบความสาเร็จในดา้ นตา่ ง ๆ ดังน้ี
- ด้านสติปัญญา เป็นผู้มีปัญญาสามารถเรียนรู้ทางานตามที่มอบหมายได้สาเร็จ รู้จัก

การวเิ คราะห์ปญั หา แกป้ ัญหาได้และมีผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนผ่านเกณฑท์ ก่ี าหนดไว้
- ด้านอารมณ์ เป็นผู้ท่ีมีความสามารถในการเรียนรู้ มีสุขภาพทางกาย ทางใจ ยอมรับฟัง

ความคดิ เหน็ ของผ้อู นื่ และมคี วามสุขกบั การเรยี น
- ด้านสังคม เปน็ ผ้มู คี วามสามารถในการปรับตัวใหเ้ ขา้ กับเพื่อน ๆ สามารถร่วมกิจกรรมกลมุ่ ได้
- ด้านคุณธรรม จริยธรรม เป็นผู้ที่มีคุณธรรมและจริยธรรมท่ีดีงามสามารถปฏิบัติตนตามแนว

วถิ พี ทุ ธ และศาสนาท่ตี นเองนับถอื ไดอ้ ย่างมคี วามสขุ
นอกจากน้ี นักเรียนทุกคนจะถูกปลูกฝังให้มีนิสัยรักความสะอาด รู้จักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

ปลูกฝังให้รู้จักใช้/ประหยัดทรัพยากรทางธรรมชาติ เช่น น้า ไฟฟ้า เน้นให้ผู้เรียนนาไปปฏิบัติจริงท่ีบ้าน
ตลอดจนการรกั ษาขนบธรรมเนยี มประเพณี กริ ิยา มารยาทที่ดีงามของไทย

ผลจากการปฏิบัติงานในด้านต่าง ๆ อย่างเต็มความสามารถ ทาให้นักเรียนในความรับผิดชอบ
ของข้าพเจ้า ปฏิบัติตนเป็นคนดี คนเก่ง และเรียนรู้อย่างมีความสุข ซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งหวังของ
พระราชบัญญัติการศึกษา พุทธศักราช 2542 ท่ีว่าเป็นการจัดการเรียนการสอนท่ีมุ่งเน้นให้ผู้เรียน
เป็นคนดี คนเก่ง และมีความสุข

2.2 การจัดการระบบดูแลชว่ ยเหลอื นักเรียน
- จัดกิจกรรม ให้ความรู้กับนักเรียนในเรื่องการอยู่ร่วมกันในโรงเรียน ห้องเรียน ความสมัครสมาน

สามัคคี ความมีนา้ ใจ ความช่วยเหลอื ซ่ึงกันและกันในหอ้ งเรียน
- จัดกิจกรรมประชุมผู้ปกครอง ประชุมชี้แจงทาความเข้าใจระหว่างครูประจาช้ันและผู้ปกครอง

รายการพฤติกรรมของนักเรียนให้ผู้ปกครองเป็นรายบุคคลเฉพาะนักเรียนที่มีพฤติกรรมท่ีน่าห่วงเพ่ือช่วยกันดูแล
นักเรียนให้มพี ฤตกิ รรมท่ดี ีขึน้

- โรงเรียนจัดให้มีการประชุมผู้ปกครองภาคเรียนละ 1 คร้ัง โดยให้ผู้ปกครองพบครูที่ปรึกษา / ครู
ประจาช้ัน และผู้ปกครองได้ทาความรู้จักเป็นกันเองกับครูประจาช้ัน และตัวแทนผู้ปกครองทาความรู้จักกันเพื่อ
ดาเนินการคัดเลอื กผู้ปกครองหรือเสนอช่ือเพื่อคดั เลือกเป็นเครือขา่ ยผู้ปกครองของนักเรยี นได้แลกเปล่ียนความคิด
และเสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของนักเรียน ประจาปีการศึกษา 2563 และในปีการศึกษา
2563 ไดม้ ีการประชมุ ผู้ปกครองจานวน 2 ครง้ั โดยจดั ประชุมผู้ปกครองภาคเรยี นละ 1 ครั้ง

๒๐

แกป้ ัญหานักเรียนท่ีส่งงานไม่ตรงต่อเวลา โดยใหน้ ักเรียนท่ีทาการบา้ นในแต่ละวันไม่เสร็จให้นักเรยี นอยู่
ทาการบ้านที่ห้องเรียนให้เสร็จและส่งก่อนเป็นประจาทุกวันก่อนกลับบ้าน โดยได้รับความร่วมมือจากหัวหน้างาน
กจิ การนักเรียน หัวหน้าห้องรับผิดชอบดูแลแทนครูที่ปรึกษาเป็นประจาและรายงานผลการปฏิบัติงานของตนเอง
กับครูท่ปี รึกษาในตอนเช้าของวันรุง่ ขึ้น

ผลท่ีเกิดขึ้นกับนกั เรียน
1. นกั เรยี นและผู้ปกครองเกดิ ความภาคภูมใิ จ
2. นักเรยี นร้จู ักหน้าทขี่ องตัวเองดขี นึ้ กวา่ เดิม มคี วามรบั ผิดชอบ ส่งงานตรงเวลาและส่งงานครบทุกชัว่ โมง
3. นกั เรียนมพี ฤติกรรมท่ีดขี ้ึน
2.3 การจดั ทาข้อมลู สารสนเทศประจาชน้ั เรียน
เอกสาร ปพ. ตา่ งๆ
3. ดา้ นการพัฒนาตนเองและพัฒนาวิชาชพี
3.1 การพัฒนาตนเอง
พัฒนาตนเองโดยยึดหลักการประเมินสมรรถนะ (Competency Based Approach) จะทาให้
ผู้ปฏิบัติงานสามารถรู้จุดเด่น จุดด้อยของความสามารถในการปฏิบัติงานของตน และสามารถพัฒนาตนเองให้
สอดคล้องกบั ความตอ้ งการจาเปน็ ของของหนว่ ยงาน และของตนเองอย่างแท้จริง
ท้ังน้ี ครูจึงต้องมีการวางแผนการพัฒนาตนเองในการจัดห้องเรียนท่ีมีคุณ ภาพ (Individual
Development Planning : IDP) เพื่อเป็นการพัฒนาที่สนองตอบความต้องการแต่ละบุคคล สนองความสนใจ
ในรูปแบบวิธกี ารพฒั นา ก็จะสง่ ผลต่อสมรรถนะในการปฏบิ ัติหนา้ ที่ท่ีมีประสิทธิภาพต่อไป และ เป็นการพัฒนาที่
ต่อเน่ืองจนทาให้การปฏิบัติหน้าที่มีความสมบูรณ์ มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล ในการปฏิบัติงาน อัน
นาไปสู่การพัฒนาตนเองให้เป็นครูมืออาชีพที่มีมาตรฐานในการปฏิบัติงานอย่างแท้จริงสามารถตรวจสอบได้ และ
พัฒนาสู่ความเป็นวชิ าชีพต่อไป
3.2 การพัฒนาวิชาชีพ
ข้าพเจ้าเข้าร่วมกจิ กรรมชุมชนการเรยี นรู้ทางวิชาชีพ ซง่ึ ทาให้
1. เกดิ จากการประยุกตแ์ นวคดิ องค์กรแห่งการเรียนรู้สโู่ รงเรยี นแหง่ การเรยี นรู้
2. เป็นนวตั กรรมใหมท่ ีช่ ่วยให้ครแู สวงหาวธิ กี ารทจี่ ะชว่ ยให้นักเรยี นสามารถเรียนรแู้ ละพัฒนาตนเอง ได้
3. ครู นักการศึกษา ชุมชนและผู้มีส่วนเก่ียวข้องรวมกลุ่มกัน เรียนรู้ร่วมกันและสะท้อนการปฏิบัติ อย่าง
เปน็ ระบบและตอ่ เนอื่ ง
4. เปน็ การท างานกลุม่ หรอื เป็นทีม การแลกเปล่ียนเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง
5. เป็นการรวมตัวกันไปพร้อมกบั การพฒั นาทกั ษะและการเรยี นรู้เพื่อปฏบิ ตั ิหน้าท่ี "ครูเพื่อศิษย"์
6. เป็นสถานที่สาหรับ "ปฏสิ มั พันธ์" ลดความ "โดดเดย่ี ว"
7. สง่ิ สาคัญที่สุดของ PLC คือ การทางานท่ีม่งุ ไปท่กี ารเรยี นรู้ ของเดก็ แตล่ ะคนเปน็ สาคัญ 8. PLC มุ่งการ
ปฏิบตั กิ ารสอนและผลสมั ฤทธ์ิของนักเรียน
4.งานอน่ื ๆ ที่ได้รับมอบหมาย
ขา้ พเจ้าไดร้ ับมอบหมายให้ทาหน้าท่ีทีไ่ ด้รบั มอบหมายอ่นื ๆ ดงั น้ี
งานบริหารของสถานศกึ ษา
1. ครูประจาชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 1 และ 2
2. หัวหนา้ งานบริหารงานงบประมาณ
3. เจ้าหนา้ ทกี่ ารเงนิ

๒๑

โครงการทีร่ ับผิดชอบ ปีการศึกษา 2564

๑.งานวิชาการ

-กิจกรรมจดั ซื้อวัสดสุ านักงาน -กิจกรรมวดั ผลและประเมนิ ผล

-กิจกรรมสง่ เสรมิ คุณธรรมและจริยธรรม –กจิ กรรมสง่ เสรมิ สถาบนั ชาติ ศาสนาและพระมหากษตั รยิ ์

-กจิ กรรมการประกันคุณภาพภายในศกึ ษา -กจิ กรรมเรียนฟรี ๑๕ ปี

-กิจกรรมศึกษาแหลง่ เรยี นร้ภู ายในและภายนอกสถานศกึ ษา

2.โครงการบรหิ ารงบประมาณ

-กจิ กรรมสาธารณูปโภค

-กิจกรรมจดั ทาแผนปฏิบัติการการ

๓.โครงการบรหิ ารจัดการทั่วไป

-กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน -กจิ กรรมส่งเสริมอาชีพในโรงเรียน

-กิจกรรมพฒั นาอาคารสถานทแี่ ละส่ิงแวดลอ้ ม -กจิ กรรมอาหารกลางวัน

-กจิ กรรมอาหารเสรมิ (นม) -กจิ กรรมพฒั นาโรงเรยี นสุจรติ

-กจิ กรรมปรบั ปรุงระบบไฟฟา้

ตอนท่ี 2 การประเมนิ การปฏบิ ตั ติ นในการรกั ษาวนิ ยั คุณธรรม จรยิ ธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ
1. มคี วามซอื่ สตั ยส์ จุ ริต รกั ษาประโยชน์ส่วนรวม ไม่อาศยั หรอื ยนิ ยอมใหผ้ ู้อื่นใชอ้ านาจและหนา้ ที่ของตนเพื่อ
แสวงหาประโยชน์

ขา้ พเจ้า เปน็ ผูป้ ระพฤติปฏบิ ตั ิตนตามจรรยาบรรณของวิชาชพี ครูดว้ ยความมุ่งม่ันศรัทธาในวชิ าชีพ เป็น
สมาชกิ ทด่ี ีขององค์กรวชิ าชีพ ขยนั อดทน เสยี สละ ปฏิบตั งิ านดว้ ยความเต็มใจมุ่งม่ัน ดว้ ยความซื่อตรง รบั ผดิ ชอบ
ตอ่ หนา้ ท่ีอยา่ งเครง่ ครัด รกั ษาชือ่ เสียงและปกป้องศักด์ศิ รีแหง่ วิชาชพี ครู อกี ท้งั รว่ มเปน็ วิทยากรในการพัฒนา
ซอ่ื สตั ย์สจุ ริต มีวนิ ัย ปกป้องและรกั ษาชื่อเสยี งของตนเองและหมู่คณะมาโดยตลอด ไม่เคยถูกลงโทษทางวินัยหรอื
ถกู ว่ากล่าวตกั เตือนใดๆ ได้รบั ความไว้วางใจจาก ชมุ ชนผู้ปกครองเกิดความพอใจและมัน่ ใจในการพัฒนาผ้เู รยี น
อยา่ งมีคุณภาพ ปฏิบัตติ นเปน็ แบบอย่างทีด่ ีแกเ่ พ่ือนรว่ มวงวชิ าชพี ครู

2. การปฏิบัติตามระเบยี บ กฎหมาย นโยบายและคาสง่ั ของผบู้ ังคับบัญชา

ข้าพเจ้ามีการรักษาและเสริมสร้างวินัยในตาแหน่งหน้าท่ีราชการ รักษามาตรฐานในการปฏิบัติงาน
ปฏิบตั ิตนตามกฎหมาย และกฎระเบียบของโรงเรียนอย่างเคร่งครัด มาปฏิบตั ิราชการตรงเวลา ปฏบิ ัติหน้าที่เวร
รักษาการณ์ ปฏิบัติหน้าที่เวรประจาวัน ตามคาส่ังอย่างเคร่งครัด มีจิตสานึกสาธารณะ นานักเรียนเข้าร่วม
กิจกรรมและการแข่งขันต่างๆ มีความรับผิดชอบต่อสังคม เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของสังคม บาเพ็ญตนให้เป็น
ประโยชน์แก่สังคม มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีต่อผู้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงาน และบุคคลท่ัวไป ประพฤติตนตาม
ครรลองของวัฒนธรรม มีความซ่อื สตั ย์ สจุ ริต และยุตธิ รรม และยดึ ม่ันในคณุ ธรรมและจรยิ ธรรม
3. มคี วามวิริยะ อุตสาหะ ตรงตอ่ เวลา และอทุ ิศเวลาให้แก่ทางราชการ

ขา้ พเจา้ เป็นครผู ู้มวี ินัย มีวิสยั ทัศน์ ตั้งเป้าหมายการทางาน ออกแบบวางแผนพฒั นาตนเองโดยเข้ารว่ ม
เรียนรู้ ประชุม อบรมสมั มนาอยเู่ สมอ เพือ่ นาความร้มู าพัฒนางานให้บรรลุเป้าหมาย มีความตระหนักในหน้าท่ีอยู่
เสมอวา่ เป็นครทู ี่ดีนน้ั ต้องสง่ เสรมิ ผ้เู รียนใหเ้ กดิ การเรียนรู้ได้ ทกุ ที่ ทุกเวลา มีทักษะชวี ิต มีคุณธรรมจริยธรรมทดี่ ี
งาม ประพฤตติ นอยู่ในระเบียบวนิ ัยมีคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ตามค่านยิ มไทย และเป็นครผู ูม้ คี วามวริ ยิ ะ
อตุ สาหะ รับผดิ ชอบต่อหนา้ ท่ีทไี่ ด้รบั มอบหมายอยา่ งดยี ิ่ง มีบคุ ลกิ และมนษุ ยสมั พันธด์ ี เอื้อเฟ้ือเก้ือกลู ต่อเพอ่ื น
ร่วมงานและคนรอบข้างเปน็ แบบอยา่ งที่ดแี ก่บุคคลทัว่ ไป ดงั นี้

๒๒

1.คน้ ควา้ แสวงหาความรู้ นาเทคนิคทางด้านวชิ าชพี ทพี่ ัฒนาและก้าวหน้ามาใช้กบั ศิษย์หรือผรู้ ับบริการสู่
ผลสมั ฤทธิท์ พี่ งึ ประสงค์

ข้าพเจ้ามีการพัฒนาสื่อการสอนให้มีประสิทธิวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาพอยู่เสมอ ด้วยการมุ่งมั่น
คดิ ค้น ค้นคว้าองค์ความรู้ต่างๆ ทั้งในหลักวิชา และความรู้เพิ่มเตมิ อยู่ตลอดเวลา และสร้างองค์ความรูแ้ ละจดั การ
เรยี นการสอนสอดคล้องกบั ความต้องการของนักเรยี น และบรบิ ทของทอ้ งถิ่น ชมุ ชน
4. การมีจติ สานึกทด่ี ี มุ่งบรกิ ารตอ่ กลุ่มเปา้ หมาย ผรู้ ับบริการโดยไมเ่ ลอื กปฏบิ ัติ

ข้าพเจ้า เป็นครผู ู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ไมแ่ สวงหาผลประโยชน์อันเป็นอามสิ สินจา้ งจากนกั เรยี น
ในการปฏิบัติตามปกติและไม่ใช้นักเรียนกระทาการใดๆ อันเป็นการแสวงหาประโยชน์ให้แก่ตนโดยมิชอบ
ดงั ต่อไปนี้

7.1 ขา้ พเจ้าเป็นครูไม่รับหรอื แสวงหาอามสิ สนิ จา้ งหรอื ผลประโยชนอ์ นั มคิ วรจากนักเรยี นไดแ้ ก่
7.2 ข้าพเจ้าไม่ใช้นักเรียนเป็นเครื่องมือเพ่ือหาผลประโยชน์ให้กับตนโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
ขนบธรรมเนียมประเพณีหรอื ความรสู้ กึ ทางสังคม

5. การรักษาคุณภาพตามมาตรฐานวชิ าชีพและจรรยาบรรณวชิ าชพี

หมวดท่ี 1 จรรยาบรรณตอ่ ตนเอง

ข้อท่ี 1. ผปู้ ระกอบวชิ าชพี ทางการศึกษา ต้องมวี ินยั ในตนเอง พัฒนาตนเองด้านวชิ าชพี บคุ ลกิ ภาพและ
วสิ ยั ทศั น์ใหท้ นั ต่อการพฒั นาทางวิทยาการเศรษฐกิจและการเมืองอยเู่ สมอ

ขา้ พเจ้าเปน็ ครผู ู้มีวินัย มีวสิ ยั ทัศน์ ต้งั เป้าหมายการทางาน ออกแบบวางแผนพัฒนาตนเองโดยเข้ารว่ ม
เรียนรู้ ประชุม อบรมสัมมนาอยู่เสมอ เพ่อื นาความรมู้ าพฒั นางานใหบ้ รรลเุ ปา้ หมาย มีความตระหนักในหน้าที่อยู่
เสมอวา่ เป็นครทู ่ีดนี ้นั ต้องสง่ เสริมผู้เรยี นใหเ้ กิดการเรยี นรู้ได้ ทกุ ที่ ทุกเวลา มที ักษะชวี ิต มีคุณธรรมจริยธรรมท่ีดี
งาม ประพฤติตนอย่ใู นระเบียบวนิ ยั มคี ุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามค่านยิ มไทย และเป็นครูผู้มคี วามวิรยิ ะ
อุตสาหะ รบั ผิดชอบต่อหน้าท่ีท่ไี ด้รบั มอบหมายอยา่ งดียิง่ มีบุคลกิ และมนุษยสัมพันธ์ดี เอ้ือเฟื้อเก้ือกูลต่อเพือ่ น
รว่ มงานและคนรอบข้างเป็นแบบอย่างที่ดีแกบ่ ุคคลทวั่ ไป

หมวดที่ 2 จรรยาบรรณต่อวิชาชพี

ข้อที่ 2. ผูป้ ระกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องรกั ศรัทธา ซื่อสัตยส์ ุจรติ และรบั ผิดชอบเปน็ สมาชิกท่ดี ีขององค์กร
วิชาชพี

ขา้ พเจ้า เปน็ ผปู้ ระพฤตปิ ฏิบตั ิตนตามจรรยาบรรณของวชิ าชพี ครูด้วยความมุ่งมน่ั ศรัทธาในวิชาชีพ เปน็
สมาชกิ ท่ีดขี ององค์กรวชิ าชพี ขยันอดทน เสยี สละ ปฏิบตั งิ านดว้ ยความเตม็ ใจม่งุ ม่ัน ดว้ ยความซ่อื ตรง รบั ผดิ ชอบ
ตอ่ หนา้ ท่ีอย่างเคร่งครดั รกั ษาชอ่ื เสยี งและปกป้องศักดศ์ิ รแี หง่ วชิ าชพี ครู อีกทั้งร่วมเป็นวิทยากรในการพัฒนา
ซ่ือสตั ยส์ จุ รติ มีวินัย ปกป้องและรักษาช่ือเสยี งของตนเองและหมู่คณะมาโดยตลอด ไมเ่ คยถูกลงโทษทางวนิ ยั หรือ
ถูกวา่ กล่าวตกั เตือนใดๆ ได้รับความไว้วางใจ ชมุ ชนผ้ปู กครองเกดิ ความพอใจและม่ันใจในการพฒั นาผู้เรยี นอยา่ งมี
คณุ ภาพ ปฏบิ ัตติ นเป็นแบบอย่างท่ดี แี กเ่ พื่อนรว่ ม วงวชิ าชพี ครู

หมวดท่ี 3 จรรยาบรรณต่อผูร้ บั บรกิ าร

ขอ้ ที่ 3 ผู้ประกอบวชิ าชีพทางการศึกษาต้องรกั เมตตา เอาใจใส่ ช่วยเหลือ สง่ เสรมิ ให้กาลังใจแก่ศษิ ย์และ
ผูร้ บั บริการตามบทบาทหนา้ ท่ีโดยเสมอหนา้

๒๓

ข้าพเจ้า เป็นครูผู้ปฏิบัติหน้าท่ีด้วยความรัก ความเมตตา เอาใจใส่ ช่วยเหลือ ส่งเสริม ให้กาลังใจแก่
ศิษย์และผู้รับบรกิ ารตามบทบาทหนา้ ท่โี ดยเสมอหนา้ ดังน้ี

3.1 แสดงความรสู้ กึ ให้ความเปน็ กันเอง เป็นมิตร ใหค้ วามรกั ใหค้ วามเอาใจใส่ ใหค้ วามช่วยเหลอื
ส่งเสรมิ กบั ตวั นกั เรยี นในทุกๆเร่ืองๆทุกๆดา้ นและจะชว่ ยรักษาความลบั ของนักเรยี นเปน็ ที่ไวว้ างใจจากนกั เรยี น
ทกุ ๆรนุ่
ขอ้ ที่ 4 ผู้ประกอบวิชาชพี ทางการศึกษาตอ้ งส่งเสรมิ ให้เกิดการเรียนรู้ ทกั ษะ และนสิ ยั ทีถ่ กู ต้องดงี ามแกศ่ ิษย์
และผู้รับบรกิ าร ตามบทบาทหน้าที่ อย่างเต็มความสามารถดว้ ยความบรสิ ุทธใ์ิ จ

ข้าพเจา้ เปน็ ครูผปู้ ระกอบวชิ าชพี ทางการศกึ ษา ได้อบรมสง่ั สอน ผเู้ รียนเสริมสร้างทักษะใหผ้ ูเ้ รยี นเกดิ
การเรยี นรูแ้ ละนสิ ัยที่ถกู ต้องดีงามใหก้ บั ผเู้ รยี นอย่างเต็มกาลัง และความสามารถดว้ ยความบรสิ ทุ ธ์ใิ จและมีความ
มงุ่ มน่ั เพ่ือพัฒนาผู้เรยี น
ข้อท่ี 5 ผูป้ ระกอบอาชพี ทางการศึกษาต้องประพฤติ ปฏิบัตติ นเป็นแบบอยา่ งทดี่ ีแกศ่ ิษยท์ งั้ กายวาจาและจติ ใจ

ขา้ พเจ้า เป็น ข้าราชการครูผปู้ ระพฤตปิ ฏิบัติตนเป็นแบบอย่างทด่ี ีมีคุณธรรมจรยิ ธรรม เป็นแบบอยา่ งแก่
นักเรยี นและเพ่ือนครูตลอดจนบคุ คลท่ัวไป ดังนี้

ขา้ พเจ้าเป็นแบบอยา่ งที่ดีในด้านต่างๆ การปฏิบัติงานตรงเวลา ตั้งใจทางานจนสาเร็จ มีคุณภาพ มุ่งม่ัน
ขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัดใช้จ่ายในสิ่งท่ีจาเป็น นาของใช้เก่ามาปรับใช้ใหม่ให้ผลคุ้มค่า เป็นผู้มีสุขภาพแข็งแรง ไม่
เคยเป็นอุปสรรคในการปฏิบัติงาน เป็นผู้ที่มีการแต่งกาย กิริยา มารยาท เรียบร้อยเสมอ เป็นผู้ร่วมรักษาสมบัติ
ของสาธารณประโยชน์ท่ีเปน้ ของส่วนรวมเปน็ เรื่องสาคญั

ข้อที่ 6 ผู้ประกอบอาชีพทางการศึกษา ต้องไม่กระทาตนเป็นปฏิปักษ์ต่อความเจริญทางกาย สติปัญญา
จิตใจ อารมณแ์ ละสงั คมของศิษยแ์ ละผ้รู บั บริการ

ข้าพเจ้า เป็นครูผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ไม่กระทาตนเป็นปฏิปักษ์ต่อความเจริญทางกาย
สติปัญญา อารมณแ์ ละสังคมของศิษยแ์ ละผู้รับบริการ ดังนี้

6.1 ข้าพเจ้าละเว้นจากการกระทาที่จะทาให้นักเรียนเกิดการกระทบกระเทือนต่อจิตใจ สติปัญญ า
อารมณแ์ ละสงั คมของนักเรียน

6.2 ขา้ พเจ้าเป็นครูทีล่ ะเวน้ จากการกระทาท่เี ปน็ อนั ตรายต่อสุขภาพและรา่ งกายของนักเรียน
6.3 ข้าพเจา้ เป็นครผู ลู้ ะเว้นการกระทาที่สกดั กน้ั การพัฒนาการทางสตปิ ัญญา จิตใจ อารมณ์และสงั คม
ของนักเรยี น
ข้อที่ 7 ผู้ประกอบอาชีพทางการศึกษา ต้องให้บริการด้วยความจริงใจและเสมอภาค โดยไม่เรียกรับหรือ
ยอมรับผลประโยชนจ์ ากการใช้ตาแหน่งหนา้ ที่โดยมิชอบ
ข้าพเจ้า เป็นครูผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ไม่แสวงหาผลประโยชน์อันเป็นอามิสสินจ้างจาก
นักเรียนในการปฏิบัติตามปกติและไม่ใช้นักเรียนกระทาการใดๆอันเป็นการแสวงหาประโยชน์ให้แก่ตนโดยมิชอบ
ดังต่อไปน้ี
7.1 ขา้ พเจ้าเป็นครูไม่รบั หรอื แสวงหาอามิสสนิ จ้างหรอื ผลประโยชนอ์ ันมคิ วรจากนกั เรียนไดแ้ ก่
7.2 ข้าพเจ้าไม่ใช้นักเรียนเป็นเคร่ืองมือเพ่ือหาผลประโยชน์ให้กับตนโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
ขนบธรรมเนียมประเพณหี รือความรู้สกึ ทางสงั คม

หมวดที่ 4 จรรยาบรรณต่อผรู้ ่วมประกอบวิชาชพี
ขอ้ ที่ 8 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศกึ ษาพึงชว่ ยเหลอื เก้ือกูลซ่งึ กันและกันอย่างสรา้ งสรรคโ์ ดยยดึ ม่นั ใน
ระบบคณุ ธรรมสร้างความสามัคคีในหมู่คณะ
ข้าพเจ้า ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาการศึกษาโดยถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ รวมท้ังฝึกฝนนักเรียน
ใหเ้ ปน็ ผู้มคี วามรู้ความสามารถกลา้ แสดงออกในเชงิ สรา้ งสรรค์

๒๔

หมวดที่ 5 จรรยาบรรณต่อสงั คม

ข้อท่ี 9 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา พึงประพฤติปฏิบัติตนเป็นผู้นาในการอนุรักษ์ และพัฒนา
เศรษฐกจิ สังคม ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปญั ญา ส่ิงแวดล้อม รักษาผลประโยชนข์ องส่วนรวมและยึด
มน่ั ในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษตั ริยท์ รงเปน็ ประมุข

ข้าพเจ้า เป็นผู้ประกอบอาชีพทางการศึกษาท่ีประพฤติปฏิบัติตนเป็นผู้นาในการอนุรักษ์ และพัฒนา
เศรษฐกิจ สังคม ศาสนา ศิลปวฒั นธรรม ภมู ิปัญญา ส่งิ แวดลอ้ ม รักษาผลประโยชน์ของส่วนรวมและยึดม่นั ใน
การปกครองระบอบประชาธิปไตย ดงั ต่อไปนี้

1.เปน็ ครูผูป้ ฏิบัตหิ น้าท่เี ป็นพลเมืองท่ีดสี ง่ เสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มี
พระมหากษัตริยท์ รงเปน็ ประมุข

2.จดั กจิ กรรมการเรียนรทู้ ่ีก่อใหเ้ กดิ การปอ้ งกันและแก้ไขปญั หาทางเศรษฐกิจ สงั คม
3.จดั กจิ กรรมการเรยี นรโู้ ดยการสอดแทรกการอนรุ กั ษแ์ ละการพฒั นาส่งิ แวดล้อมในเนื้อหาวชิ า
4. ได้รณรงค์จัดกิจกรรมการส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น
พระประมุข มพี ฤติกรรมแสดงถงึ ประชาธิปไตยท่แี ทจ้ รงิ ดังต่อไปนี้
5.จัดกจิ กรรมส่งเสริมให้ศิษยเ์ กิดการเรยี นรู้และดาเนนิ ชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพยี ง
6. เป็นผนู้ าในการส่งเสริมศลิ ปวัฒนธรรม ภูมิปญั ญาและการอนรุ กั ษ์ส่งิ แวดล้อม
7.นาเอาภูมิปัญญาท้องถิ่น ศาสนา วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อมมาพัฒนาก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ
สังคมและสว่ นรวมเปน็ สาคญั

6. การรกั ษาภาพลกั ษณแ์ ละความสามคั คีในองค์กร ชุมชน และสังคม

ข้าพเจ้า ได้มสี ่วนร่วมในการพฒั นาการศกึ ษาโดยถ่ายทอดความรูแ้ ละประสบการณ์ รวมท้ังฝกึ ฝนนักเรียน
ใหเ้ ปน็ ผมู้ คี วามรูค้ วามสามารถกลา้ แสดงออกในเชิงสร้างสรรค์

ขา้ พเจ้า ไดร้ ับความไวว้ างใจจากผู้บงั คบั บญั ชาแต่งต้ังรับผิดชอบงานนอกเหนือจากการเรียนการสอน
และขา้ พเจา้ ได้ปฏบิ ตั ิหนา้ ที่ด้วยความมานะ พยายาม วิริยะ อุตสาหะ ดว้ ยความมุ่งมั่นตลอดระยะเวลาท่ีปฏบิ ตั ิ
หนา้ ทรี่ าชการ

ข้าพเจา้ ขอรบั รองวา่ ข้อความดังกล่าวข้างตน้ นี้ เป็นความสตั ยจ์ รงิ ทุกประการจึงลงลายมือชื่อไวเ้ ปน็
หลกั ฐาน

ลงชอื่ .............................................. ผรู้ ายงาน
(นางฉวีวรรณ ไชยรถ)

ตาแหน่ง ครชู านาญการพเิ ศษ

ลงชื่อ ....................................................... ผู้รับรอง
(นางสาวอริสรา ชัดเจน)

ตาแหนง่ ผอู้ านวยการโรงเรียนบา้ นแก้งยาง

๒๕

ภาคผนวก

๒๖

คาสงั่ แตง่ ตง้ั ปฏบิ ตั หิ น้าที่

ลำดับท่ี เลขทค่ี ำสัง่ เรื่อง หน้ำที่
๑ ๑๙/๒๕๖๔
๒ ๒๑/๒๕๖๔ แต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากร ปฏิบัตหิ นา้ ท่ดี ว้ ยความเรียบร้อย โดยยึดถือ
๓ ๒๒/๒๕๖๔
๔ ๒๓/๒๕๖๔ ทางการศกึ ษา ปฏบิ ตั ิหนา้ ทเ่ี วร ระเบียบวา่ ดว้ ยการปฏิบัติหน้าที่ รักษาเวร
๕ ๒๕/๒๕๖๔
๖ ๓๒/๒๕๖๔ วันเสาร์ วันอาทติ ย์ ยามอยา่ งเคร่งครัด ไม่ใหเ้ กดิ ความเสยี หาย
๗ ๒๘/๒๕๖๔
๘ ๓๐/๒๕๖๔ แกท่ างราชการได้

แตง่ ตั้งข้าราชการครแู ละบคุ ลากร ปฏบิ ัติหนา้ ท่ดี ว้ ยความเรยี บร้อย โดยยดึ ถือ

ทางการศกึ ษา ปฏบิ ตั ิหน้าที่เวร ระเบียบว่าด้วยการปฏบิ ัติหน้าท่ี รักษาเวร

วนั เสาร์ วันอาทติ ย์ ยามอยา่ งเคร่งครัด ไม่ใหเ้ กดิ ความเสียหาย

แก่ทางราชการได้

แตง่ ตง้ั ขา้ ราชการครูและบุคลากร ปฏบิ ตั หิ น้าที่ด้วยความเรียบร้อย โดยยึดถอื

ทางการศึกษา ปฏิบตั หิ นา้ ทเ่ี วร ระเบียบว่าดว้ ยการปฏิบตั หิ น้าท่ี รกั ษาเวร

วันเสาร์ วันอาทติ ย์ ยามอยา่ งเครง่ ครัด ไมใ่ ห้เกิดความเสยี หาย

แก่ทางราชการได้

แตง่ ตัง้ ขา้ ราชการครูและบคุ ลากร ปฏบิ ัติหน้าที่ด้วยความเรยี บร้อย โดยยดึ ถอื

ทางการศกึ ษา ปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ีเวร ระเบยี บว่าด้วยการปฏบิ ตั ิหน้าท่ี รักษาเวร

วนั เสาร์ วนั อาทิตย์ ยามอย่างเคร่งครัด ไมใ่ ห้เกดิ ความเสียหาย

แกท่ างราชการได้

แต่งตง้ั ครูประจาชัน้ ระดับกอ่ น ครปู ระจาช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๑-๒

ประถมศกึ ษาและระดบั ชน้ั

ประถมศกึ ษา ประจาปีการศึกษา

๒๕๖๔

แต่งตั้งมอบหมายงานในหน้าท่ี - หวั หน้างานบรหิ ารงบประมาณ

ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๔ - สอนลูกเสือสามัญ - เนตรนารี ช้ัน

ประถมศึกษาปีที่ ๑-๓

แต่งตั้งข้าราชการครแู ละบุคลากร ปฏบิ ตั หิ นา้ ทด่ี ว้ ยความเรยี บร้อย โดยยดึ ถอื

ทางการศกึ ษา ปฏบิ ัติหนา้ ทีเ่ วร ระเบียบวา่ ด้วยการปฏิบัติหน้าที่ รักษาเวร

วนั เสาร์ วนั อาทิตย์ ยามอย่างเคร่งครัด ไมใ่ หเ้ กิดความเสียหาย

แกท่ างราชการได้

แต่งต้ังครูและบุคลากรทางการศึกษา หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์

ปฏบิ ัตหิ น้าท่ีหัวหนา้ กล่มุ สาระการ และเทคโนโลยีและคณติ ศาสตร์

เรียนรู้ ประจาปกี ารศึกษา ๒๕๖๔

๒๗

ลำดับท่ี เลขทีค่ ำสั่ง เรอื่ ง หนำ้ ท่ี
๙ ๓๔/๒๕๖๔ แต่งตงั้ คณะครูและบุคลากรทางการ รบั ผดิ ชอบนานักเรยี นเข้าร่วมจัดนิทรรศการ
ศกึ ษาปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ีรบั ผิดชอบนา แสดงผลงานสถานศึกษาพอเพยี ง
๑๐ ๓๓/๒๕๖๔ นักเรยี นเขา้ ร่วมจัดนทิ รรศการ
๑๑ ๓๕/๒๕๖๔ แสดงผลงานสถานศึกษาพอเพยี ง ทกุ กลมุ่ สาระ ชน้ั ป.๖/แนะแนว/ชมุ นมุ /
แต่งตง้ั ครูสอนประจาวิชา ลูกเสือสามัญ/ยกเว้นภาษาอังกฤษและ
ปีการศึกษา ๒๕๖๔ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
- คณะกรรมการฝา่ ยจดั สถานที่
แต่งตั้งคณะกรรมการจัดงานวันไหว้ - คณะกรรมการฝา่ ยแสงและสียง
ครู ประจาปีการศกึ ษา ๒๕๖๔ - ฝ่ายฝกึ ซ้อมพิธีไหวค้ รู

๒๘

เกียรติบัตร

๒๙

๓๐

๓๑

๓๒

๓๓

๓๔

๓๕

๓๖

ภำพกจิ กรรม

๓๗

๓๘

ภำพกิจกรรม

เยยี่ มบ้านนักเรยี นและแจกใบงาน

๓๙

ภำพกจิ กรรม

๔๐

ภำพกจิ กรรม

๔๑


Click to View FlipBook Version