The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ใบงานวิชาสุขศึกษา มัธยมศึกษาปีที่2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by archaphol1107, 2022-09-04 08:45:26

ใบงานวิชาสุขศึกษา มัธยมศึกษาปีที่2

ใบงานวิชาสุขศึกษา มัธยมศึกษาปีที่2

ช่ือ-สกลุ ...................................................................................ชั้น........................เลขที่……………
ใบงาน เรอ่ื ง ความเจรญิ และการเปลี่ยนแปลงทางเพศ

คำชีแ้ จง : ให้นักเรียนบอกความเจรญิ และการเปลยี่ นแปลงทางเพศของวยั รนุ่ ดังน้ี

เพศชาย เพศหญิง

การเปล่ียนแปลงทางดา้ นจติ ใจอารมณข์ องวัยรุ่น มีดังนี้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
การเปล่ียนแปลงทางดา้ นสงั คมของวัยรนุ่ มดี งั นี้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
การเปลี่ยนแปลงทางดา้ นสติปัญญาของวัยรนุ่ มีดังน้ี
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ชื่อ-สกลุ ...................................................................................ชั้น........................เลขที่……………
เฉลย ใบงาน เร่ือง ความเจริญและการเปลย่ี นแปลงทางเพศ

คำชี้แจง : ให้นักเรยี นบอกความเจริญและการเปลี่ยนแปลงทางเพศของวยั รนุ่ ดังน้ี

เพศชาย เพศหญิง

มีความตอ้ งการทางเพศ มคี วามรู้สกึ ตอ้ งการทางเพศ

มีหนวดเครา มเี สยี งเลก็ แหลม

มเี สยี งห้าวหรือเสยี งแตก มีหนา้ อกขยายใหญข่ ้ึน

นมแตกพาน สะโพกขยาย

ขนขนึ้ ตามร่างกาย มีประจำเดอื น

อวยั วะเพศโตขน้ึ มีขนขน้ึ บริเวณอวัยวะเพศ

มกี ารหลง่ั น้ำอสจุ ิ อวยั วะเพศมขี นาดโตขึน้

มกี ล้ามเนื้อเป็นมัด ๆ เริม่ มกี ล่นิ ตัว

การเปลี่ยนแปลงทางด้านจติ ใจอารมณข์ องวัยรนุ่ มีดังน้ี

การมีพฒั นาการทางจิตใจจะช่วยใหว้ ัยรุ่นมกี ารย้งั คิด ควบคุม และปรับตัว (Adjustment) ตอ่

ส่งิ แวดลอ้ มได้ดเี มื่ออายุมากขึ้น เนอ่ื งจากในชว่ งวัยรนุ่ นีย้ ังขาดประสบการณ์ มีความหุนหันพลันแล่น ขาดการ

ย้ังคิดหรอื ไตรต่ รอง ขาดความรอบคอบ ใช้อารมณ์มากกวา่ เหตุผล

การเปลย่ี นแปลงทางอารมณเ์ กดิ จากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงทางรา่ งกาย เนื่องจากมคี วาม

วติ กกงั วลกับสิ่งท่เี กดิ ข้นึ ในสว่ นตา่ ง ๆ ของรา่ งกาย ไม่พึงพอใจในรูปร่างทเี่ ปลยี่ นไป ทำให้เกดิ ความวิตกกังวล

ดังน้ี อารมณ์แปรปรวน เปลี่ยนแปลงง่าย หงดุ หงดิ งา่ ย โกรธง่าย อาจเกิดอารมณซ์ มึ เศรา้ โดยไม่มีสาเหตุไดง้ า่ ย

การเปลี่ยนแปลงทางด้านสังคมของวัยรุ่น มดี งั นี้

ในวัยน้ีจะเรม่ิ มีความคิดและต้องการความเป็นอิสระ วัยรนุ่ มกั จะชอบแยกตัวอย่ตู ามลำพงั เมื่ออยู่ใน

ครอบครัว และต้องการอยกู่ ับกลุ่มเพื่อน ดงั นน้ั จึงเรม่ิ เหินหา่ งจากครอบครวั ให้ความใกลช้ ดิ กับพ่อแม่ พ่นี ้อง

นอ้ ยลง แต่จะให้ความสำคญั กบั กลมุ่ เพ่ือนมากกว่า มกี ิจกรรมนอกบ้านกับเพื่อนมากขึ้น ไม่อยากไปไหนกับ

ครอบครวั บางครั้งมีพฤติกรรมเรียกรอ้ งความสนใจ เรม่ิ สนใจเรอ่ื งความรัก สงั คม ส่ิงแวดล้อม ปรบั ตวั เองให้เขา้

กบั กฎเกณฑ์กติกาของกล่มุ ได้ดขี ้ึน มที ักษะทางสงั คมและทักษะการสื่อสาร

การเปลี่ยนแปลงทางดา้ นสตปิ ญั ญาของวยั รุ่น มีดังนี้

วัยสตปิ ญั ญาในวัยรุ่นจะพัฒนาสูงขน้ึ จนมคี วามคิดเปน็ แบบนามธรรม รู้จักสงั เกตและปรบั ปรุง

ขอ้ บกพร่องของตนเอง สามารถแสดงความคดิ เห็นหรือแสดงความรู้สึกของตนเองให้ผู้อืน่ เขา้ ใจ และเขา้ ใจ

เหตุการณต์ า่ ง ๆ ได้ลึกซึ้งข้ึน มกี ารใชเ้ หตผุ ลในการคดิ วเิ คราะห์ สังเคราะห์ และคดิ รเิ ร่มิ สร้างสรรค์ส่ิงต่าง ๆ

ได้มากข้ึน

ช่อื -สกุล...................................................................................ช้นั ........................เลขที่……………
ใบงาน เร่ือง ปจั จยั ทม่ี ีผลตอ่ การเจรญิ เตบิ โตและพัฒนาการในวยั รุ่น

คำชแ้ี จง : ให้นกั เรยี นยกตัวอยา่ งปจั จัยต่าง ๆ ท่มี ีผลต่อการเจรญิ เติบโตและพฒั นาการในวัยรนุ่
ตอบคำถามลงในชอ่ งวา่ งใหถ้ ูกตอ้ ง

............................................ ............................................ ............................................
............................................ ............................................ ............................................
............................................ ............................................ ............................................
............................................ ............................................ ............................................
............................................ ............................................ ............................................
..........................................
.................... ....................

.................................. ปัจจยั ทีม่ ผี ลตอ่ การเจริญเตบิ โต ..................................
.................................. และพฒั นาการในวัยรุ่น ..................................
.................................. ..................................
.................................. ..................................
.................................. ..................................
.................................. ..................................
.................................. ..................................

............................................ ............................................ ............................................
............................................ ............................................ ............................................
............................................ ............................................ ............................................
............................................ ............................................ ............................................
............................................ ............................................ ............................................
............................................ …………………………………… ............................................
............................................ ………………...................... ............................................

ชอื่ -สกลุ ...................................................................................ช้ัน........................เลขที่……………
เฉลย ใบงาน เรื่อง ปจั จยั ท่มี ีผลต่อการเจรญิ เติบโตและพฒั นาการในวัยรุ่น

คำชแ้ี จง : ใหน้ ักเรยี นยกตัวอยา่ งปัจจัยต่าง ๆ ทม่ี ีผลตอ่ การเจริญเติบโตและพฒั นาการในวัยรนุ่
ตอบคำถามลงในชอ่ งวา่ งใหถ้ กู ต้อง

พนั ธุกรรม ลักษณะต่าง ๆ ท่ี ส่ิงแวดล้อม ได้แก่ สงิ่ ท่ีอยู่ การอบรมเล้ยี งดู เป็นปัจจัย
ถ่ายทอดจากบรรพบุรุษสู่ รอบตวั บุคคลนน้ั ๆ ท้ังส่งิ ท่มี ี สำคัญที่มีผลต่อพฒั นาการของ
ลกู หลาน มีอทิ ธิพลต่อรูปร่าง ชีวติ และสิง่ ทไี่ ม่มชี ีวิต รวมถงึ วยั รุ่น และผทู้ มี่ ีบทบาทสำคัญ
หมโู่ ลหิต สผี ม สีผวิ สตี า เป็น ระบบและโครงสร้างต่าง ๆ ที่ คือ พ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือ
ตน้ และมีอทิ ธิพลต่อลักษณะ มนุษย์ได้กำหนดข้นึ เช่น ระบบ บุคคลในครอบครัว ซงึ่ เปน็ ผู้ท่ี
ทางจิตใจและสตปิ ญั ญา ครอบครัว ระบบสังคม ระบบ ใกลช้ ิด ใหป้ ระสบการณแ์ ละ
.................... วัฒนธรรม เปน็ ตน้ ปลูกฝังสิง่ ดีงามดา้ นต่าง ๆ มา
ตัง้ แต่วยั เดก็

ตอ่ มไร้ท่อ ผลติ ปจั จัยที่มีผลตอ่ การเจรญิ เตบิ โต ภาวะโภชนาการ เปน็ ปจั จัย
ฮอรโ์ มนต่าง ๆ ควบคุม และพฒั นาการในวยั ร่นุ ท่สี ำคญั เพราะวัยรนุ่ เปน็ ช่วง
การเปลยี่ นแปลงเซลล์ ทม่ี ีการเปลี่ยนแปลงของ
ของอวัยวะอน่ื ๆ จงึ ทำ รา่ งกายด้านต่าง ๆ อย่าง
ให้เกดิ การกระตนุ้ หรอื มาก มีการใช้พลงั งานสูง
ยับย้ังการเจรญิ เตบิ โต ดงั นั้นร่างกายจงึ มคี วาม
และพฒั นาการของ จำเป็นในการใช้พลังงานและ
มนุษย์ สารอาหารทม่ี ีประโยชน์ ใน
ปรมิ าณมากพอ

การออกกำลังกาย ฐานะทางเศรษฐกจิ การเจบ็ ปว่ ย
การออกกำลงั กายที่เหมาะสม เดก็ วัยรนุ่ ท่ีมปี ัญหาการ ปัญหาสุขภาพท่ีพบบอ่ ยในวยั
จะช่วยใหเ้ ด็กทีการเจริญเติบโต เจรญิ เติบโตและพฒั นาการส่วน เด็กและวยั รุ่น ไดแ้ ก่
อยา่ งสมวยั ช่วยเสริมสร้าง ใหญ่มาจากครอบครวั ทม่ี ปี ัญหา อบุ ตั เิ หตุ โรคติดเชอื้ ทางเดนิ
กระดูกเพ่ิมความแขง็ แรงของ ทางเศรษฐกิจ ครอบครัวอาจไมม่ ี หายใจ โรคผวิ หนงั ภาวะ
กล้ามเนอ้ื และทำใหร้ า่ งกาย เวลาหรือไมม่ ีเงนิ เพยี งพอในการ โภชนาการตำ่ หรือเกนิ ปญั หา
แขง็ แรงไมเ่ จ็บปว่ ย สร้างเสรมิ เลี้ยงดูเดก็ ให้เจรญิ เติบโตและมี ทางสายตา และปญั หาทาง
จติ ใจท่ีแจม่ ใสร่าเริง พฒั นาการอยา่ งเต็มศักยภาพ สุขภาพจิต สง่ ผลต่อกร
เจริญเตบิ โตและพฒั นาการ

ช่อื -สกลุ ...................................................................................ชนั้ ........................เลขที่……………

เร่อื ง การวางตัวต่อผู้อืน่
คำชแี้ จง : ให้นกั เรยี นยกตัวอยา่ งวิธกี ารวางตวั ตอ่ ผู้อื่น เพอื่ สร้างความสมั พนั ธ์ที่ดีตอ่ กัน

…………………………………………………………………… ……………………………………………………………………
…………………………………………………………………… ……………………………………………………………………
…………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………..

. .

…………………………………………… ……………………………………………
…………………………………………… ……………………………………………
…………………………………………… ……………………………………………
………………………………………….. …………………………………………..

การวางตวั ต่อผอู้ ่ืน
ควรปฏบิ ัติ ดังนี้

…………………………………………… ……………………………………………
…………………………………………… ……………………………………………
…………………………………………… ……………………………………………
………………………………………….. …………………………………………..

…………………………………………………………………… ……………………………………………………………………
…………………………………………………………………… ……………………………………………………………………
…………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………..

. .

ชือ่ -สกลุ ...................................................................................ชัน้ ........................เลขท่ี……………

เฉลย เรือ่ ง การวางตวั ต่อผอู้ ่ืน
คำชแี้ จง : ให้นกั เรียนยกตัวอยา่ งวิธีการวางตวั ตอ่ ผู้อื่น เพอ่ื สร้างความสมั พันธ์ทีด่ ตี ่อกัน

ข้นึ อยู่กับดลุ ยพินิจของผู้ตรวจ มแี นวทางตอบคำถาม ดังนี้

แตง่ กายให้สุภาพสะอาดเรียบร้อย ใช้วาจาสุภาพ ไม่แสดงกริ ยิ าก้าวร้าวหรือ
เหมาะสมกับกาลเทศะ ใชว้ าจาที่หยาบคายกบั ผู้อืน่

แสดงความห่วงใยในเรือ่ ง มนี ้ำใจ ชว่ ยเหลอื ผูอ้ ่ืน
ตา่ ง ๆ ตามสมควร เหน็ ตามความสามารถของ
ใจเมือ่ ผู้อ่นื มีความทุกข์
ตนเอง
ใหเ้ กยี รตผิ อู้ ่ืน ไมค่ วรพดู
หรือแสดงกริ ยิ าล่วงเกิน การวางตวั ตอ่ ผอู้ ่นื
ควรปฏิบัติ ดงั น้ี
นนิ ทาว่ารา้ ยผู้อน่ื
มีมนษุ ยสัมพันธท์ ี่ดตี ่อ
ผู้อืน่ ท้ังท่ีสนทิ และไม่สนทิ

แสดงกิริยาต่างๆ ทง้ั การน่ัง ยนื เดิน ใหค้ วามสนทิ สนมในขอบเขตทพี่ อดี ไม่
อยา่ งสภุ าพเรียบร้อย แสดงถงึ บุคลิกภาค ฉวยโอกาสลวนลาม บังคับ ข่มขู่ ถกู เนอื้

ที่ดี ตอ้ งตวั ผู้อ่ืน

ช่อื -สกุล...................................................................................ชั้น........................เลขที่……………
เร่อื ง เจตคตเิ รอ่ื งเพศ

คำช้ีแจง : ใหน้ กั เรียนตอบคำถามตอ่ ไปน้ี ลงในช่องว่างให้ถูกตอ้ ง
เจตคติในเรอ่ื งเพศ หมายถึง ……………………………………………………………………………................
……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
…….

ปัจจยั ทีม่ อี ิทธิพล
ต่อเจตคติในเรอื่ งเพศ

……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………

จงยกตวั อย่าง คา่ นิยมเกย่ี วกับเรือ่ งเพศของคนไทย

.................................................................................................................................
.................................................................................................................................
.................................................................................................................................

ช่อื -สกลุ ...................................................................................ชัน้ ........................เลขที่……………
เฉลย เรือ่ ง เจตคติเรอื่ งเพศ

คำช้แี จง : ใหน้ กั เรียนตอบคำถามลงในชอ่ งว่างให้ถกู ตอ้ ง
เจตคติในเรอ่ื งเพศ หมายถึง ความรู้สกึ นกึ คดิ ความเช่ือ การใหค้ ุณค่าในเรอ่ื งเพศอันเป็นผลมา
จากการเรียนรู้ ประสบการณ์ และเป็นตวั กระตนุ้ ให้บุคคลแสดงพฤตกิ รรมหรือแนวโน้มที่
ตอบสนองในเรอ่ื งเพศ อาจจะสนับสนนุ ร้สู ึกเหน็ ดีเหน็ ชอบต่อการกระทำนนั้ หรอื ตอ่ ต้าน
ไม่เหน็ ชอบตอ่ การกระทำต่าง ๆ ทเ่ี กย่ี วข้องกบั เร่อื งเพศ

ปัจจยั ที่มีอิทธิพล
ตอ่ เจตคตใิ นเรอ่ื งเพศ

อิทธพิ ลของครอบครัว เจตคตเิ ร่ืองเพศเป็นส่ิงที่ไดร้ ับการปลูกฝงั มาตัง้ แต่วยั เด็ก จากการอบรม
สั่งสอนของพ่อแม่หรือจากทา่ ทขี องพอ่ แมท่ มี่ ตี ่อเรือ่ งเพศ

อิทธิพลของเพ่ือน เพ่ือนท่ีอยใู่ นวยั เดียวกันหรอื ใกล้เคียงกนั มีรสนยิ มและความสนใจเรอื่ งตา่ ง ๆ
เหมือนกนั เพอ่ื นจึงมอี ทิ ธพิ ลอยา่ งมากทงั้ ทางบวกและทางลบ

อิทธพิ ลของสื่อ การได้รับข้อมูลข่าวสารจากสอ่ื ต่าง ๆ ส่งผลทำให้มีทศั นคตแิ ละพฤตกิ รรมทาง
เพศเปลี่ยนแปลงไป เยาวชนส่วนใหญ่ใหค้ วามสนใจสื่อต่าง ๆทีเ่ ผยแพร่ข้อมลู เรือ่ งเพศมากขน้ึ

อทิ ธิพลทางวัฒนธรรม การใหค้ ุณค่าหรือมมุ มองเกีย่ วกบั เรอ่ื งเพศในแต่ละวฒั นธรรมมคี วามแตกต่าง
กนั บางวัฒนธรรมยงั คงให้ความสำคญั กบั การรักนวลสงวนตัวและไมส่ มั ผสั รา่ งกายผอู้ ืน่
บางวฒั นธรรมการโอบกอดหรือทกั ทายดว้ ยการจูบแก้มเป็นเพยี งการทกั ทายทั่วไป

จงยกตวั อยา่ ง คา่ นิยมเก่ียวกบั เรอ่ื งเพศของคนไทย

การรกั นวลสงวนตวั รูจ้ ักคณุ ค่าของตนเอง แตง่ กายใหส้ ภุ าพ ไมป่ ลอ่ ยให้ใครมาสัมผัสไดง้ ่าย
อย่าชิงสุกก่อนห่าม ไม่ควรมเี พศสัมพนั ธเ์ ม่อื ยังไมม่ คี วามพรอ้ ม

ชื่อ-สกลุ ...................................................................................ชัน้ ........................เลขท่ี……………

เรื่อง การป้องกันตนเองจากการตัง้ ครรภ์ไมพ่ รอ้ ม
คำชแ้ี จง : ให้นกั เรยี นอธบิ ายขน้ั ตอนและวธิ ีการใสถ่ ุงยางอนามัย จากรูปภาพท่ีกำหนดให้

...................................................................................................................
...................................................................................................................
...................................................................................................................
......

...................................................................................................................
...................................................................................................................
...................................................................................................................
......

...................................................................................................................
...................................................................................................................
...................................................................................................................
......
...................................................................................................................
...................................................................................................................
...................................................................................................................
......
...................................................................................................................
...................................................................................................................
...................................................................................................................
......
...................................................................................................................
...................................................................................................................
...................................................................................................................
......

...................................................................................................................
...................................................................................................................
...................................................................................................................
......

ชือ่ -สกุล...................................................................................ชน้ั ........................เลขที่……………
เฉลย เร่อื ง การปอ้ งกันตนเองจากการต้งั ครรภไ์ ม่พร้อม

คำชแ้ี จง : ใหน้ กั เรยี นอธิบายข้ันตอนและวิธกี ารใส่ถงุ ยางอนามยั จากรปู ภาพทก่ี ำหนดให้

1. ดู
ก่อนใช้ ควรตรวจสอบซองบรรจภุ ณั ฑ์ทีม่ สี ภาพเรยี บรอ้ ย ดูวันหมดอายุ
ซองไม่มีรอยฉกี ขาด

2. รีด ใช้มือรีดถงุ ยางอนามยั ไปดา้ นใดด้านหน่งึ เพ่ือป้องกันการฉกี ขาด
และบรรจ-ุ ภัณฑ์ไม่รัว่

3. ฉกี ฉีกมมุ ซองอยา่ งระมดั ระวงั ปอ้ งกนั เลบ็ มอื ขว่ น ทำใหเ้ กดิ การฉกี ขาด
ดงึ ถงุ ยางอนามัยออกจากซอง ถงุ ยางอนามัยถูกมว้ นออกในด้านท่ถี กู ต้องจะมี
ขอบอยู่บนปลายเปดิ ของถุงยางอนามยั และพรอ้ มทจ่ี ะรดู ลงได้

4. บีบ บีบปลายถงุ ยางอนามยั แลว้ ครอบไปบนอวัยวะเพศชายขณะ
แขง็ ตัว ถ้าเปน็ แบบปลายมนใหเ้ หลอื ถงุ ยางไว้ประมาณ 1 เซนตเิ มตร เพ่อื
รับน้ำอสจุ ปิ ้องกนั ไม่ใหถ้ ุงยางอนามยั แตก

5. รูด รดู ถุงยางอนามัยไปจนสดุ โคนอวยั วะเพศ

6. ถอด ถอดถุงยางอนามัยหลังจาก มีเพศสัมพันธท์ ันทกี อ่ นท่อี วัยวะเพศ
จะอ่อนตัวป้องกันการหลุด โดยใช้กระดาษทชิ ชูจับทขี่ อบถุงยาง ควรระวัง
ไม่ให้อสจุ ิไหลเปรอะเปอ้ื นชอ่ งคลอดและควรถอยห่างพอสมควร

7. ท้งิ ห่อใหเ้ รยี บรอ้ ยกอ่ นทง้ิ ลงถงั ขยะ

ชอ่ื -สกลุ ...................................................................................ช้ัน........................เลขท่ี……………

เรอ่ื ง โรคตดิ ต่อทางเพศสัมพันธ์
คำช้แี จง : ใหน้ ักเรยี นบอกลักษณะอาการและผลกระทบของโรคติดตอ่ ทางเพศสมั พันธ์

โรค…………………………………………………… โรค……………………………………………………
ลกั ษณะอาการ………………………………........ ลกั ษณะอาการ………………………………........
………………………………………………………… …………………………………………………………
………………………………………………………… …………………………………………………………
………………………………………………………… …………………………………………………………
………………………………………………………… …………………………………………………………
................................................................... ...................................................................
ผลกระทบ................................................... ผลกระทบ...................................................
................................................................... ...................................................................
................................................................... ...................................................................

โรคติดตอ่ ทางเพศสัมพันธ์

โรค…………………………………………………… โรค……………………………………………………
ลักษณะอาการ………………………………........ ลกั ษณะอาการ………………………………........
…………………………………………………………… ……………………………………………………………
…………………………………………………………… ……………………………………………………………
…………………………………………………………… ……………………………………………………………
…………………………………………………………… ……………………………………………………………
................................................................... ...................................................................
ผลกระทบ................................................... ผลกระทบ...................................................
.................................................................... ....................................................................
.................................................................... ....................................................................

ชอ่ื -สกุล...................................................................................ชัน้ ........................เลขที่……………

เฉลย เรอ่ื ง โรคตดิ ต่อทางเพศสัมพนั ธ์
คำชี้แจง : ให้นกั เรียนบอกลักษณะอาการและผลกระทบของโรคติดตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ์

โรค……ซิฟลิ สิ ............…………………………… โรค…………หนองใน..........………………………
ลกั ษณะอาการมีแผลขอบแข็งทีอ่ วยั วะเพศ ไมม่ ี ลักษณะอาการ มีหนองไหลท่ีอวัยวะเพศ ทวาร
อาการเจบ็ แผล และอาจเกิดข้ึนทอ่ี ื่น ๆ ดว้ ย หนกั และชอ่ งปาก มีอาการปัสสาวะขัด แสบ
เช่น ทวารหนกั และปาก ต่อมาอาจมผี ืน่ ขนึ้ ตาม สว่ นใหญใ่ นผู้หญิงมักไมม่ ีอาการ บางคน
ลำตัว ฝา่ มอื ฝ่าเท้า ผมรว่ ง ขนค้วิ รว่ ง แตบ่ าง มตี กขาวผิดปกติ
คนท่ตี ดิ โรคอาจจะไม่แสดงอาการให้เหน็ ก็ได้ ผลกระทบโรคนหี้ ากปล่อยท้ิงไว้ ผ้ชู ายจะมี
ตอ้ งตรวจเลอื ดถึงจะรูว้ า่ ติดโรคหากปลอ่ ยท้งิ ไว้ อาการแทรกซ้อนทำให้อัณฑะอกั เสบและบวมโต
ไม่รบี รกั ษาโรคจะลุกลามทำลายอวัยวะท่สี ำคัญ เป็นหมนั ผู้หญิงจะทำใหม้ ดลูกและปีกมดลูก
เชน่ หัวใจ หลอดเลอื ด สมอง และกระดกู อักเสบ และท่อรังไขต่ ีบตนั กลายเป็นหมัน หรือ
ทำใหร้ า่ งกายพิการและเสยี ชีวิต ทอ้ งนอกมดลูก
ผลกระทบแมท่ ่ตี ิดเชื้อขณะตั้งครรภ์ อาจแทง้
และลูกเสยี ชีวติ ในครรภ์ ให้กำเนดิ เด็กที่เป็นโรค
ซิฟิลสิ แต่กำเนิด เดก็ ทร่ี อดชีวิตอาจจะมดี ั้งจมูก
ยบุ ปาดแหว่ง เพดานโหว่ และตาบอด

โรคตดิ ต่อทางเพศสมั พนั ธ์

โรค…………หนองใน..........……………………… โรค…………เอดส์..........………………………ลกั ษณะ
ลกั ษณะอาการ อาการทวั่ ไปของโรคหดู หงอนไก่ อาการ ระยะที่ 1 เม่อื ไดร้ บั เช้ือใหม่ ๆ จะยังไม่
ทีเ่ หน็ ได้ชดั เจน คือ เปน็ ตง่ิ เน้ือคลา้ ยหงอนไก่ แสดงอาการ จะตรวจพบเช้ือไวรัสในรา่ งกายและ
พบได้ที่ช่องคลอด อวัยวะเพศ ทวารหนกั และ สรา้ งแอนตบิ อดี เพื่อมาทำปฏิกิริยาต่อเชื้อไวรสั
ปาก ระยะที่ 2 มีไข้ตำ่ นานกว่า 3 เดือน นำ้ หนักลด 4-
ผลกระทบเด็กที่คลอดผา่ นทางชอ่ งคลอดของแม่ 5 กิโลกรัม เบ่ืออาหาร ต่อมน้ำเหลืองท่ีคอ รักแร้
ท่ีตดิ เชอื้ หูดหงอนไก่อาจตดิ เชอ้ื จากแม่ ทำใหเ้ ด็ก แขน ขาหนบี โตนานเกนิ 3 เดือน
เปน็ หูดหงอนไกใ่ นคอได้ ระยะท่ี 3 เป็นระยะที่เป็นโรคเอดส์เตม็ ขั้น
ผู้หญงิ ทเี่ ป็นโรคหูดหงอนไก่ จะมโี อกาสเกิด โดยทวั่ ไปภูมคิ ้มุ กนั ของรา่ งกายถูกทำลายจน
โรคมะเร็งปากมดลูกได้มากกว่าคนทว่ั ไปควร ออ่ นแอ ทำใหเ้ กิดการติดเชือ้ ชนดิ ฉวยโอกาสท่ี
ตรวจคดั กรองมะเร็งปากมดลูกทกุ ปี อวัยวะภายใน
ผลกระทบ สง่ ผลต่อระบบเลือด ระบบทางเดนิ
อาหาร ระบบทางเดนิ หายใจ ระบบประสาท
ส่วนกลาง เช่น สมองอกั เสบ แขน ขาไมม่ ีแรง

ชอ่ื -สกลุ ...................................................................................ชนั้ ........................เลขที่……………

เรื่อง การบรกิ ารทางสุขภาพ
คำชี้แจง : ให้นักเรยี นอธิบาย องค์ประกอบของการบริการทางสขุ ภาพ ลงในช่องวา่ งใหถ้ ูกตอ้ ง

………………………….................. …………………………..................

…………………………………………………………… ……………………………………………………………
…………………………………………………………… ……………………………………………………………
…………………………………………………………… ……………………………………………………………
…………………………………………………………… ……………………………………………………………
…………………………………………………………… ……………………………………………………………
…………………………………………………………… ……………………………………………………………
…………………………………………………………… ……………………………………………………………
…………………………………………………………… ……………………………………………………………
…………………………………………………………… ……………………………………………………………

องค์ประกอบ
ของการ

บริการสขุ ภาพ

………………………….................. …………………………..................

…………………………………………………………… ……………………………………………………………
…………………………………………………………… ……………………………………………………………
…………………………………………………………… ……………………………………………………………
…………………………………………………………… ……………………………………………………………
…………………………………………………………… ……………………………………………………………
…………………………………………………………… ……………………………………………………………
…………………………………………………………… ……………………………………………………………
…………………………………………………………… ……………………………………………………………
…………………………………………………………… ……………………………………………………………

ชอ่ื -สกลุ ...................................................................................ชน้ั ........................เลขที่……………

เฉลย เรอื่ ง การบริการทางสขุ ภาพ
คำช้แี จง : ใหน้ กั เรยี นอธบิ าย องคป์ ระกอบของการบริการทางสขุ ภาพ ลงในชอ่ งวา่ งใหถ้ ูกตอ้ ง

การส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค

คอื การดูแลสุขภาพ ลดปจั จัยเส่ียง ปรับปรงุ คือ การจดั บริการด้านสุขภาพเพอ่ื ป้องกันโรคต่าง
สิ่งแวดล้อม พัฒนาสุขภาพให้ดีขนึ้ ทง้ั ทางร่างกาย ๆ เชน่ การสร้างภมู คิ ุม้ กนั โรค การควบคุมโรค
จติ ใจ สงั คม สตปิ ัญญา บรกิ ารให้ความรู้ด้าน เมื่อมีการระบาดของโรค เช่น
สุขภาพและจัดกิจกรรมเพ่ือสุขภาพ เช่น
- การบรกิ ารวางแผนครอบครัว - โรคไข้เลอื ดออก
- การตรวจร่างกาย ทนั ตสุขภาพ
- ให้ความรู้ด้านสขุ ภาพ - โรคไข้หวดั นก
- จดั กจิ กรรมออกกำลงั กายเพื่อสขุ ภาพ
- โรคไข้หวดั ใหญ่

- โรคไวรัสโคโรน่า (Covid19)

องค์ประกอบ
ของการ

บริการสุขภาพ

การรักษาพยาบาล การฟ้นื ฟูสภาพ

การจัดบริการบำบดั รักษาโรคแก่ประชาชน การจัดบริการสุขภาพหลงั การ
เมอ่ื เกดิ การเจบ็ ปว่ ย เชน่ รกั ษาพยาบาลจนหายจากโรคเพอ่ื ใหผ้ ปู้ ว่ ย
- ตรวจรักษาโรคทั่วไป กลับไปสสู่ ภาพปกติก่อนเจ็บป่วย สามารถ
- การผ่าตดั ดำรงชวี ติ ใกลเ้ คียงปกติมากทส่ี ดุ เช่น
- การใช้ยา
- การทำจติ บำบดั - การทำกายภาพบำบัด

- การทำอาชีวบำบัด

ช่อื -สกุล...................................................................................ช้ัน........................เลขที่……………

เรือ่ ง หน่วยงานสาธารณสุขที่เก่ียวข้องกบั ระบบบริการสุขภาพ
คำชีแ้ จง : ให้นกั เรยี นบอกความหมายและยกตัวอย่างหน่วยงานสาธารณสขุ ท่เี ก่ยี วข้องกบั ระบบ

บริการสุขภาพทีก่ ำหนดให้ตอ่ ไปนี้

หน่วยงานระดับจังหวัด

สำนักงานสาธารณสขุ จังหวัด หมายถึง..................................................................................................
..............................................................................................................................................................
โรงพยาบาลศูนย์ หมายถึง ...................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
โรงพยาบาลทั่วไป หมายถึง...................................................................................................................
..............................................................................................................................................................

หนว่ ยงานระดับอำเภอ

สำนกั งานสาธารณสุขอำเภอ หมายถึง..................................................................................................
..............................................................................................................................................................
โรงพยาบาลชุมชน หมายถึง ................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................

หนว่ ยงานระดับตำบลและหมู่บา้ น

โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หมายถึง..........................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
ศนู ย์สาธารณสขุ มลู ฐานชุมชน หมายถึง ..............................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................

ชอื่ -สกุล...................................................................................ช้ัน........................เลขท่ี……………

เฉลย เร่อื ง หน่วยงานสาธารณสขุ ที่เกี่ยวข้องกบั ระบบบรกิ ารสุขภาพ
คำช้แี จง : ใหน้ ักเรียนบอกความหมายและยกตวั อย่างหนว่ ยงานสาธารณสุขทเ่ี กย่ี วขอ้ งกับระบบ

บรกิ ารสุขภาพท่ีกำหนดใหต้ ่อไปน้ี

หนว่ ยงานระดบั จังหวัด

สำนกั งานสาธารณสุขจังหวัด หมายถงึ หน่วยบรกิ ารมหี นา้ ทีใ่ ห้การสง่ เสริมสนับสนนุ ควบคมุ กำกับ
และประสานกจิ การสาธารณสุขของจงั หวดั ในการส่งเสรมิ สขุ ภาพ ป้องกันโรค รักษาและฟื้นฟสู ภาพ
โรงพยาบาลศูนย์ หมายถึง โรงพยาบาลขนาดใหญ่พเิ ศษ มเี ตยี งผูป้ ว่ ยไว้รักษาภายในตงั้ แต่ 500
เตยี งข้นึ ไป ตง้ั อย่ใู นจงั หวัดที่ต้ังของเขตเป็นศนู ย์กลางของจังหวัดต่าง ๆ
โรงพยาบาลท่ัวไป หมายถึง หนว่ ยบรกิ ารสาธารณสุขระดับจังหวัด ตัง้ อยู่ในจงั หวดั หรอื อำเภอใหญ่ ๆ
มขี นาดเตียงผปู้ ว่ ยไวร้ กั ษาภายในตง้ั แต่ 200-500 เตียง

หน่วยงานระดบั อำเภอ

สำนกั งานสาธารณสุขอำเภอ หมายถึง หนว่ ยงานบริการ มีหนา้ ที่สง่ เสริมสนับสนนุ และควบคุมการ
ปฏิบตั งิ านของสถานีอนามัย และการประสานกิจกรรมสาธารณสขุ ในอำเภอ
โรงพยาบาลชุมชน หมายถงึ หน่วยบริการสาธารณสขุ ระดับอำเภอ เป็นสถานบริการที่มเี ตียงผ้ปู ่วยไว้
รักษาจำนวน 10-150 เตยี ง มที ั้งแพทย์และเจ้าหนา้ ที่สาธารณสุขอ่ืนๆ ปฏิบตั งิ านอยู่ใหบ้ ริการดา้ น
การรักษาพยาบาล การป้องกนั และควบคุมโรค การส่งเสรมิ สุขภาพ การรับ-ส่งต่อผปู้ ว่ ยไวร้ กั ษา

หน่วยงานระดับตำบลและหมู่บ้าน

โรงพยาบาลส่งเสรมิ สขุ ภาพตำบล หมายถึงหน่วยงานสาธารณสขุ ระดบั ตำบล สบื เนอื่ งจากนโยบาย
รัฐบาลให้ยกระดับสถานอี นามยั เปน็ โรงพยาบาลส่งเสรมิ สขุ ภาพตำบล โดยการใหบ้ รกิ ารเชงิ รกุ เนน้
การป้องกันโรค ม่งุ จดั การที่ต้นเหตขุ องปัญหาสขุ ภาพ พ้นื ท่บี ริการระดบั ตำบลจงึ เปน็ ด่านแรกและ
พืน้ ฐานสำคัญ โดยเฉพาะการใหบ้ รกิ ารแก่คนยากจนและประชาชนท่ัวไป
ศนู ยส์ าธารณสุขมลู ฐานชมุ ชน หมายถงึ หน่วยงานระดบั หมบู่ ้าน ดำเนนิ การโดยอาสาสมัคร
สาธารณสุข โดยการสนับสนุนวสั ดุอุปกรณ์บางสว่ น และสนับสนุนดา้ นวิชาการต่างๆ จาก
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล มีศูนยส์ าธารณสขุ มูลฐานชมุ ชนกระจายอยใู่ นหม่บู ้านตา่ ง ๆ ทว่ั
ประเทศ เกอื บทกุ หมบู่ ้าน
ลลู ,

ชอ่ื -สกุล...................................................................................ชนั้ ........................เลขท่ี……………

เรอ่ื ง เทคโนโลยีทางการแพทย์ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกับวยั รุ่น

คำชแ้ี จง : ให้นักเรียนยกตัวอย่างเทคโนโลยที างการแพทยท์ เ่ี กีย่ วข้องกับวัยรนุ่ พรอ้ มบอกขอ้ ดีและ

ข้อเสียของเทคโนโลยี ข้อดี…………………………………………………………………

………………………………………………………………………

………………………………………………………………………

……………………………………………………………………..…

........................................................ ขอ้ เสีย………………………………………………………………

………………………………………………………………………

………………………………………………………………………

………………………………………………………………………

…..…

........................................................ ขอ้ ดี…………………………………………………………………
………………………………………………………………………
………………………………………………………………………
……………………………………………………………………..…

ข้อเสยี ………………………………………………………………
………………………………………………………………………
………………………………………………………………………
………………………………………………………………………

…..…

........................................................ ขอ้ ดี…………………………………………………………………
………………………………………………………………………
………………………………………………………………………
……………………………………………………………………..…

ข้อเสยี ………………………………………………………………
………………………………………………………………………
………………………………………………………………………
………………………………………………………………………

…..…

ช่ือ-สกลุ ...................................................................................ชัน้ ........................เลขที่……………

เฉลย เรอ่ื ง เทคโนโลยที างการแพทยท์ ่เี กยี่ วข้องกบั วัยร่นุ
คำชแ้ี จง : ใหน้ กั เรยี นยกตัวอย่างเทคโนโลยที างการแพทยท์ ี่เกี่ยวข้องกับวยั รุ่น พร้อมบอกข้อดีและ
ข้อเสยี ของเทคโนโลยี

ขอ้ ดี ลดปัญหาทางทนั ตกรรม มคี วามสวยงามของ
ฟนั เสรมิ สรา้ งบคุ ลกิ ภาพเพิ่มความม่ันใจ การบด

เคี้ยวอาหารและย่อยอาหารไดด้ ยี ิ่งขน้ึ

การจดั ฟนั

ข้อเสีย ฟันผุ เหงือกอักเสบ เนื่องจากการทำความ
สะอาดยากข้นึ มีอาการแพ้สารท่ีเป็นส่วนประกอบ
ในเคร่อื งมือจัดฟัน มีอาการเจ็บท่เี กดิ จากการเคลื่อน

ตัวของฟนั ในบางชว่ ง ปวดข้อตอ่ ขากรรไกร

การใส่คอนแทกต์เลนส์ ขอ้ ดี ชว่ ยแก้ไขปญั หาสายตาผิดปกติ
การทำศลั ยกรรมเสริมความงาม รักษาโรคของกระจกตาหรือโรคของผิวหนา้ ดวงตา

บางชนิดได้

ข้อเสีย หากดูแลไม่ดีอาจเกดิ ภาวะแทรกซ้อน เชน่ โรคตา
แหง้ เยื่อบตุ าหรือกระจกตาอักเสบ กระจกตาบวมขนุ่ หรือ
มีเส้นเลือกผิดปกตทิ ่ีกระตกตา หากรุนแรงทส่ี ดุ จะทำให้
เกดิ การตดิ เชอื้ ที่กระจกตาและลกุ ลามเขา้ ไปภายในลูกตา

ได้

ขอ้ ดี แก้ไขความพิการบางอยา่ งได้
มรี ปู รา่ งหน้าตาท่ดี ีข้ึนเพ่ิมความม่ันใจและมี

บคุ ลิกภาพทด่ี ีข้นึ

ข้อเสยี มคี ่าใชจ้ ่ายสงู และอาจมภี าวะแทรกซ้อนขณะทำ
และหลงั ทำอวยั วะทที่ ำศลั ยกรรม เกิดความผิดพลาด
ทางด้านเทคนิคต่างๆ บางคนเกิดการเสพติดศลั ยกรรม ทำ
มากเกนิ ต้องแกห้ ลายครง้ั เสียเวลาไปกบั การพกั ฟนื้

ชือ่ -สกุล...................................................................................ชัน้ ........................เลขท่ี……………

เร่ือง ผลของการใชเ้ ทคโนโลยที ี่มตี ่อสขุ ภาพ
คำชแี้ จง : ให้นกั เรียนบอกผลของการใช้เทคโนโลยีทก่ี ำหนดให้ตอ่ ไปน้ี ว่ามผี ลตอ่ สุขภาพรา่ งกาย

ของนักเรียนอย่างไรบ้าง

ผลกระทบจากการดโู ทรทศั น์ ผลกระทบจากการใช้คอมพิวเตอร์

…………………………………………………...………… …………………………………………………...…………
……………………………………………………………… ………………………………………………………………
……………………………………………………………… ………………………………………………………………
…………………………………………………………….… …………………………………………………………….…
……………………………………………………….……… ……………………………………………………….………
….……………………………………………………….…… ….……………………………………………………….……
….……………………………………………………….…… ….……………………………………………………….……
….……………………………………………………….…… ….……………………………………………………….……
….………………………………………….………………… ….………………………………………….…………………
……….………………………………………….…………… ……….………………………………………….……………
…….……………………………………………….………… …….……………………………………………….…………
………….……………………………………………….…… ………….……………………………………………….……

ผลกระทบจากการใช้โทรศัพทม์ ือถอื

…………………………………………………...……………………………………………………………………………………….……
………………………………………………………………………………………………………….………………………………..….…
……………………….………….……………………………………………………….……….…………………………………………….
....…………….……….……………………………………………………….……….………………………………………….……….…
.……………….………………………………………….………………….……………………………………………….…………………
.….……………………………………………….……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………

ชื่อ-สกลุ ...................................................................................ชน้ั ........................เลขที่……………

ใบงาน เรอื่ ง ลกั ษณะของผูท้ ม่ี สี ุขภาพกายและสุขภาพจติ ดี
คำชแี้ จง : ใหน้ ักเรียนบอกลกั ษณะของผทู้ ี่มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตดี พรอ้ มบอกความสมั พนั ธ์

ของสขุ ภาพกายและสขุ ภาพจิตว่ามีความสมั พนั ธ์กันอย่างไร

ลกั ษณะของผู้มสี ุขภาพกายดี ลกั ษณะของผู้มีสขุ ภาพจติ ดี

....................................................................... .......................................................................
....................................................................... .......................................................................
....................................................................... .......................................................................
....................................................................... .......................................................................
....................................................................... .......................................................................
....................................................................... .......................................................................
....................................................................... .......................................................................
....................................................................... .......................................................................
....................................................................... .......................................................................
....................................................................... .......................................................................
....................................................................... .......................................................................
....................................................................... .......................................................................

................................ ................................

ความสัมพันธ์ของสุขภาพกายและสขุ ภาพจิต

.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................

.

ชอ่ื -สกลุ ...................................................................................ชั้น........................เลขที่……………

เฉลย ใบงาน เรอื่ ง ลักษณะของผูท้ ม่ี ีสุขภาพกายและสุขภาพจิตดี
คำช้ีแจง : ให้นกั เรียนบอกลกั ษณะของผ้ทู ม่ี สี ุขภาพกายและสุขภาพจติ ดี พร้อมบอกความสัมพันธ์

ของสุขภาพกายและสขุ ภาพจิตวา่ มีความสัมพันธ์กันอยา่ งไร

ลักษณะของผมู้ ีสขุ ภาพกายดี ลักษณะของผูม้ ีสขุ ภาพจติ ดี

- มกี ารเจริญเตบิ โตทางรา่ งกายท่ีสมวัย - มีความพอใจในตนเอง พอใจในสภาพท่ตี นเอง
นำ้ หนกั และส่วนสงู ตามเกณฑ์ เปน็ อย่แู ละมอี ยู่
- กลา้ มเนื้อสว่ นตา่ ง ๆ ของรา่ งกายมีความ - มีความรกั ในตวั ผอู้ ่ืน คนท่มี ีความรักในตนเองจะ
แข็งแรง สามารถเผอ่ื แผ่ความรักไปให้ผอู้ น่ื
- มสี มรรถภาพทางกายในด้านต่าง ๆ ทดี่ ี - เปน็ คนท่ยี อมรบั และสามารถเผชญิ กบั ปัญหาและ
เชน่ ความอ่อนตวั ความอดทนของระบบ ความจรงิ ในชวี ติ ได้ เขา้ ใจในธรรมชาตขิ องชวี ติ ว่า
ต้องมีความสขุ ความทุกข์ สมหวงั ผิดหวัง

หายใจและระบบไหลเวยี นเลือด ความ - เปน็ คนที่มคี วามเชื่อมนั่ ในตนเอง พยายาม

คล่องแคลว่ วอ่ งไว พึ่งตนเองมากกวา่ ผู้อ่ืน

- กินอาหารไดป้ กติ ไมเ่ บ่ืออาหาร - เป็นคนที่มคี วามรับผิดชอบสูง รู้จักหนา้ ทีข่ อง
- นอนหลับพักผอ่ นได้ตามปกติ ตนเอง
- มภี มู ติ ้านทานโรคดี ไมม่ โี รคภัยไข้เจบ็ ไม่ - เปน็ คนท่ีมีลกั ษณะยืดหยุ่น ไมเ่ จ้าระเบียบ รู้จัก
พิการหรอื มคี วามผดิ ปกตอิ ่นื ๆ ผ่อนส้ันผอ่ นยาว ไมต่ รงจนเกินไป ไม่คิดเล็กคิด
- ร่างกายมคี วามสมบูรณแ์ ข็งแรง น้อย
- เป็นคนท่ีมีความอดทนและกลา้ ยืนยนื ในส่ิงที่

ถกู ต้อง

- เป็นคนท่ีมีมนุษยสมั พนั ธเ์ ข้ากบั คนอ่นื ได้

ความสมั พันธข์ องสขุ ภาพกายแง่าลยะสขุ ภาพจติ

- ยอมรบั ความแตกต่างระหว่างบุคคลได้ดี

จติ ใจมสี ่วนกอ่ นให้เกดิ โรคทางกาย เชน่ เวลาเครียดมาก ๆ จเะอมาีฮใจอเรขโ์ ามมนาคใสวา่ใจมเเรคารียดเกิดขน้ึ และสง่ ผลตอ่ อวยั วะ

ระดับเซลล์ การทำงานของระบบตอ่ มไร้ท่ออนื่ ๆ กจ็ ะไดร้ ับผลกระทบไปด้วย เช่น ทำให้ท้องผกู ระบบขัยถ่ายผิดปกติ

โรคทางกายมีสว่ นทำให้จิตใจหดหู่ ซมึ เศร้าได้ เช่น ท้องอดื อาหารไม่ย่อย จะรู้สึกอึดอดั แน่นท้อง อาจทำให้

นอนไม่หลบั ตนื่ มาไมส่ ดชือ่ อารมณ์แปรปรวน หงดุ หงดิ งา่ ย

ช่ือ-สกุล...................................................................................ชัน้ ........................เลขท่ี……………

เร่ือง การเกิดปัญหาสขุ ภาพกายและสขุ ภาพจติ
คำช้แี จง : ให้นักเรยี นตอบคำถามต่อไปนี้ ลงในชอ่ งว่างใหถ้ กู ตอ้ ง

สาเหตุของปัญหา…………………………………... สาเหตขุ องปญั หา…………………………………...

………………………………………………………………… …………………………………………………………………
………………………………………………………………… …………………………………………………………………
………………………………………………………………… …………………………………………………………………
………………………………………………………………… …………………………………………………………………
………………………………………………………………… …………………………………………………………………
………………………………………………………………… …………………………………………………………………
………………………………………………………………… …………………………………………………………………
………………………………………………………………… …………………………………………………………………

ปญั หาสุขภาพกาย ปญั หาสขุ ภาพกาย ปญั หาสขุ ภาพจิต
และสุขภาพจิต

แนวทางแก้ไขปญั หา……..……………………... แนวทางแกไ้ ขปัญหา……..……………………...

………………………………………………………………… …………………………………………………………………
………………………………………………………………… …………………………………………………………………
………………………………………………………………… …………………………………………………………………
………………………………………………………………… …………………………………………………………………
………………………………………………………………… …………………………………………………………………
………………………………………………………………… …………………………………………………………………
………………………………………………………………… …………………………………………………………………
………………………………………………………………… …………………………………………………………………

ช่ือ-สกลุ ...................................................................................ช้นั ........................เลขท่ี……………

เฉลย คำถามท้ายหนว่ ย เรอ่ื ง ใบงาน การเกิดปัญหาสขุ ภาพกายและสุขภาพจิต
คำช้แี จง : ใหน้ ักเรยี นตอบคำถามตอ่ ไปนี้ ลงในช่องว่างใหถ้ กู ตอ้ ง

สาเหตุของปัญหา -พฤตกิ รรมการใชช้ วี ิตท่ไี ม่ สาเหตุของปญั หา -สาเหตุจากครอบครวั และ

เหมาะสม เช่น รบั ประทานอาหารท่ีไม่มีประโยชน์ มี สมั พันธภาพระหว่างพ่อแม่ ลูก และบคุ คลใน
สารปนเปอ้ื น สง่ ผลตอ่ สขุ ภาพในระยะยาว ครอบครวั การขาดการศึกษาอบรมสั่งสอนที่ดี
-การเสพสารเสพติดตา่ ง ๆ เช่น ด่ืมแอลกอฮอล์ สูบ -สาเหตุจากฐานะเศรษฐกิจ หากครอบครวั ใดไม่
บหุ ร่ี สารระเหย ยาบ้า ลว้ นแตส่ ่งผลเสียต่อรา่ งกาย สามารถแก้ปญั หาเศรษฐกิจให้สมดลุ กบั รายจ่ายได้ จะ
ทั้งสิ้น ทำใหเ้ กดิ หนีส้ นิ กระทบกับสุขภาพจติ ของบุคคลใน
-การใช้ชีวิตบนความประมาท เช่น ขบั รถเร็ว ไมป่ ฏบิ ัติ ครอบครัวได้
ตามกฎจราจรนำมาซ่ึงการเกิดอบุ ัติเหตทุ ำใหส้ ง่ ผลตอ่ -สภาพชีวติ สมรสหรือชีวิตโสด ในชีวิตสมรสมักมี
รา่ งกายอาจจะพกิ ารหรือเสยี ชวี ิต ปัญหาเกิดขึน้ ได้เสมอ
-สาเหตจุ ากสภาพแวดลอ้ มตา่ ง ๆ เหตุการณ์หรือ
กจิ กรรมร้ายแรงกระทบต่อจติ ใจท่ีเกดิ ข้ึนในชว่ งต่างๆ
-ความขดั แยง้ ระหวา่ งวัย อาจมีสาเหตจุ ากวัฒนธรรม

และคา่ นยิ มของสังคม

ปัญหาสขุ ภาพกาย ปญั หาสขุ ภาพกาย ปัญหาสุขภาพจติ
และสุขภาพจติ

แนวทางแกไ้ ขปัญหา แนวทางแกไ้ ขปญั หา มองโลกในแงด่ ี ยอมรบั

–ดื่มน้ำสะอาดและรบั ประทานอาหารทมี่ ีคุณค่า ไร้ ความแตกต่างของแต่ละบคุ คล พยายามมองข้ามส่งิ ไม่
สารปนเป้ือนและ ถกู สขุ ลักษณะ ดขี องผู้อ่ืน ไมจ่ รงิ จังกับชวี ติ เกินไปจนเกิดภาวะของ
-ออกกำลงั กายสม่ำเสมอและพกั ผอ่ นใหเ้ พยี งพอ ความเครยี ด
- รกั ษาความสะอาดทอ่ี ยู่อาศัย กำจัดขยะ ส่ิงปฏิกูล - ไม่ต้งั ความหวังในชวี ิตสงู เกินไป ให้คำนงึ ถงึ ความ
และน้ำเสียอยา่ งถูกวิธี เปน็ ไปได้
- หลกี เลีย่ งการใชย้ าและสารเสพตดิ ให้โทษ -ระบายความทุกขด์ ว้ ยการปรึกษา พูดคุยกบั เพื่อน คน
- ปอ้ งกนั อุบตั ภิ ัยทกุ ประเภท ไมใ่ ช้ชวี ิตบนความ สนทิ หรอื บุคคลท่ีไว้ใจ
ประมาท -มมี นษุ ยสัมพนั ธ์ทีด่ ีกบั ผู้อ่ืน
-ปรบั ตวั เข้ากบั ผู้อื่นและสง่ิ รอบขา้ ง
-สร้างกำลงั ใจให้ตนเองอยเู่ สมอ

ช่ือ-สกุล...................................................................................ชั้น........................เลขท่ี……………

เฉลย เร่อื ง ผลของการใช้เทคโนโลยีทม่ี ีต่อสขุ ภาพ
คำชแ้ี จง : ให้นักเรียนบอกผลของการใช้เทคโนโลยีทกี่ ำหนดใหต้ อ่ ไปนี้ ว่ามีผลตอ่ สุขภาพร่างกาย

ของนักเรียนอย่างไรบ้าง

ผลกระทบจากการดูโทรทศั น์ ผลกระทบจากการใชค้ อมพวิ เตอร์

- สายตา ตาเส่อื มกอ่ นวยั เน่ืองจากโทรทัศนม์ ี - สายตา ทำให้เกิดอาการเมื่อยตา ปวดตา ตา
ภาพเคลอื่ นไหวและมแี สดงจา้ มากการดใู นที่ แหง้ สายตาเส่อื ม ปวดกลา้ มเน้ือและปวด
มืดทำใหส้ ายตาต้องคอยปรบั โฟกัส ส่งผลให้ ศีรษะ คลืน่ ไส้ เปน็ ต้น
ปวดตางา่ ยกวา่ ปกติ
- อาจเป็นสาเหตทุ ำให้เกดิ โรคอ้วนได้ - ระบบประสาท คลนื่ แมเ่ หลก็ ไฟฟ้าของ
เน่อื งจากพฤติกรรมการไมข่ ยับตัว นง่ั อยกู่ ับท่ี คอมพิวเตอรจ์ ะแผร่ งั สเี ป็นเวลานานในขณะใช้
เปน็ เวลานาน พร้อมกบั รบั ประทานอาหาร อาจจะสง่ ผลกระทบถึงระบบประสาท
ขนมขบเคย้ี วระหวา่ งดโู ทรทัศน์
- นสิ ยั เบื่อง่ายและขาดความอดทน การใช้ - มอื ชา การพมิ พ์และการใช้เมาสโ์ ดยวาง
รีโมตคอนโทรลเพือ่ ปรับเปล่ยี นใหร้ วดเรว็ ข้อมอื ในตำแหน่งและท่าเดมิ ตอ่ เนือ่ งกัน เปน็
ทนั ใจเป็นการกระตนุ้ สมองใหเ้ ปลี่ยนความคิด เวลานาน อาจทำใหเ้ ส้นประสาทบริเวณหน้า
อย่างรวดเรว็ จึงอาจทำให้มนี ิสัยเบือ่ ง่าย ขอ้ มือถกู กดทับซำ้ ๆ สง่ ผลให้เลือดไหลเวียนไม่
สะดวก

ผลกระทบจากการใชโ้ ทรศพั ทม์ ือถือ

- ดวงตา การเล่นแอปพลิเคช่ันบนโทรศัพท์มอื ถอื เป็นเวลานาน ทำใหเ้ กิดอาการเม่ือยตา ตาแห้ง สายตาเสื่อม ปวด
กล้ามเน้ือตา สง่ ผลให้เกิดการปวดศีรษะรว่ มดว้ ยในขณะท่ีดวงตาจ้องมองภาพทม่ี ีการเคล่ือนไหวและตัวอักษรในหนา้ จอ
ขนาดเลก็ ทำใหก้ ลไกธรรมชาติของตากะพรบิ น้อยลง ตาแห้งและล้า
- เอน็ ขอ้ มืออกั เสบ เกดิ จากการใช้น้วิ มือในการกดโทรศัพท์มากเกินไป หรือกดซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน ซึง่ ทำใหเ้ อ็นกลา้ มเนอื้
มือเกิดการเคลือ่ นไหวเกนิ ความจำเปน็ อาจจะทำให้เกดิ อาการปวดบรเิ วณฐานหัวแม่มอื และลามถงึ ข้อศอก
- น้วิ มอื ล็อก การเลน่ โทรศพั ท์มือถือเป็นเวลานาน ๆ ทำให้ช่วงเอน็ กลา้ มเนื้อมือของน้วิ เกดิ พงั ผืดหนาตวั จนรดั เอน็ นิว้ มือ
โดยเฉพาะนวิ้ ท่ีใช้งานมาก ทำให้นวิ้ งอยดึ ตดิ ไมส่ ามารถยดื เหยียดได้ ทำใหเ้ คลอื่ นไหวไมส่ ะดวก ปวดนว้ิ และข้อมือ
- ดา้ นสติปญั ญา การติดโทรศัพท์มือถือ เนือ่ งจากการเลน่ เกมและแอปพลิเคชั่นทำให้มีสมาธิในการเรียนลดลง สง่ ผลตอ่
ด้านความจำ และกระบวนการในการคดิ และแกป้ ญั หา

ช่ือ-สกลุ ...................................................................................ช้ัน........................เลขท่ี……………

เร่ือง ปญั หาสุขภาพจิตและการจดั การกบั อารมณ์ ความเครียด
คำชแี้ จง : ให้นกั เรยี นตอบคำถามตอ่ ไปนี้ ลงในชอ่ งว่างให้ถูกต้อง
อารมณ์ หมายถึง ………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………..……………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………

ความเครียด หมายถงึ ……………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………..……………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………

ให้นักเรียนวาดภาพกจิ กรรมท่เี ป็นการจัดการกับอารมณ์และความเครียด

.................................................................... ....................................................................

.................................................................... ....................................................................

ช่ือ-สกุล...................................................................................ชนั้ ........................เลขที่……………

เฉลย เรื่อง ปญั หาสขุ ภาพจิตและการจัดการกบั อารมณ์ ความเครียด
คำช้ีแจง : ใหน้ ักเรยี นตอบคำถามตอ่ ไปน้ี ลงในชอ่ งว่างให้ถกู ตอ้ ง

อารมณ์ หมายถงึ การแสดงออกของภาวะจติ ใจผา่ นทางรา่ งกาย คำพดู และความรู้สึก
อารมณ์มที ัง้ อารมณใ์ นด้านบวกท่ที ำให้เกดิ ความสุข เชน่ ดีใจ พอใจ และอารมณใ์ นดา้ นลบท่ี
ทำให้เกิดความทกุ ข์ เชน่ เศรา้ โกรธ

ความเครียด หมายถงึ ภาวะจิตใจและร่างกายทีเ่ ปลี่ยนแปลงไป เปน็ ผลจากการท่บี คุ คลตอ้ ง
ปรบั ตวั ต่อส่งิ กระตุน้ หรอื สิ่งเร้าต่าง ๆ ในสิง่ แวดล้อมท่ีกดดัน หรือทำใหเ้ กิดความทกุ ข์ ความ
ไม่สบายใจ

ให้นักเรียนวาดภาพกิจกรรมท่เี ป็นการจดั การกับอารมณแ์ ละความเครียด

.........การนัง่ สมาธิ............... ....................................................................

.................................................................... ....................................................................

ช่อื -สกลุ ...................................................................................ชน้ั ........................เลขท่ี……………

เรอ่ื ง การชว่ ยเหลอื ฟืน้ ฟูผ้ตู ดิ สารเสพติด

คำช้แี จง : ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้ ลงในช่องว่างให้ถูกตอ้ ง

....................... .......................
................................................. .................................................

........................................... ...........................................

........................................... ...........................................

.. ปจั จยั ที่ช่วยเหลือ ..
ฟ้ืนฟผู ู้ที่ตดิ
สารเสพตดิ

........................................... .................................................

........................................... .................................................

........................................... .................................................

....................... .. .......................
...... ......
ขน้ั ตอนการบำบัดรักษาและฟ้ืนฟสู มรรถภาพผูต้ ดิ สารเสพตดิ

…………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………

ช่อื -สกุล...................................................................................ช้ัน........................เลขท่ี……………

เฉลย เรือ่ ง การชว่ ยเหลือฟ้นื ฟูผู้ติดสารเสพติด

คำชแ้ี จง : ให้นกั เรยี นตอบคำถามตอ่ ไปน้ี ลงในชอ่ งว่างให้ถูกตอ้ ง

ผตู้ ิดสารเสพตดิ ครอบครวั

ตอ้ งเขา้ ใจและสมัครใจเขา้ รับ ต้องสนบั สนนุ ส่งเสรมิ ให้
การบำบดั รกั ษาใหค้ วาม กำลงั ใจในการบำบดั รักษา
รว่ มมือและไมก่ ลบั เขา้ ไปใช้ เพอื่ ให้มีกำลังใจในการเลกิ ใช้
สารเสพติดนนั้ อกี สารเสพติดอยา่ งเด็ดขาด

ปัจจัยที่ชว่ ยเหลอื
ฟน้ื ฟผู ู้ท่ตี ิด
สารเสพติด

คนในสงั คมตอ้ งเขา้ ใจและให้ มบี ทบาทในการดแู ลบำบดั รักษาและ
อภยั คอยให้กำลังใจไม่ มีความพร้อมในการชว่ ยเหลอื สรา้ ง
รังเกยี จให้โอกาสผ้ตู ดิ สาร จติ สำนกึ ให้ผตู้ ิดสารเสพติดมีความ
เสพติดในการดำเนนิ ชีวติ
ตระหนกั ถึงโทษของสารเสพติด
สังคม
หนว่ ยงานที่เก่ียวขอ้ ง

ข้ันตอนการบำบดั รักษาและฟน้ื ฟูสมรรถภาพผตู้ ดิ สารเสพติด

ข้ันเตรียมการรักษา เตรยี มความพร้อมด้านจิตใจโดยการให้ข้อมูลเก่ียวกบั วธิ กี ารบำบัดรักษา
ยาเสพติดที่ถกู ต้องเพ่อื ให้ผู้ปว่ ยและญาติเขา้ ใจและยอมรบั การบำบดั รกั ษา

ขัน้ บำบัดดว้ ยยา เปน็ การรักษาทางยาเพ่อื ทดแทนยาหรือสารเสพตดิ เพ่ือลดอาการจากการชาดสาร
เสพติดหรือที่เรียกว่า การถอนพิษยา จะเน้นให้การดูแลทางร่างกาย แต่กม็ ีการจัดกิจกรรมเสรมิ
สรา้ งกำลังใจใหแ้ กผ่ ู้ป่วยและญาตผิ ูป้ ่วยด้วย

ขั้นฟ้นื ฟสู มรรถภาพ มงุ่ เน้นให้ผูต้ ดิ สารเสพตดิ ฝกึ การคดิ แบบใช้เหตุผลใหม้ ีปญั ญาร้เู ท่าทันสง่ิ
ชักนำใหก้ ลับไปเสพสารเสพติด ชว่ ยให้สขุ ภาพท่แี ข็งแรงและมีจิตใจท่ีเขม้ แขง็ สามารถทำงานได้

อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ แก้ไขปัญหาด้วยตนเอง ยอมรับและเข้าใจตนเอง ผู้อน่ื

ขั้นตดิ ตามการรกั ษา เป็นขั้นท่ีชว่ ยประคบั ประคองและสง่ เสรมิ กำลงั ใจแนะแนวทางในการเผชญิ ปัญหา
ทเ่ี หมาะสมเมื่อกลับไปใชช้ วี ติ ในสังคมเดิม ขั้นตอนการติดตามการรักษานมี้ ีระยะเวลา 1 ปี

ช่อื -สกุล...................................................................................ช้นั ........................เลขท่ี……………

ชอ่ื -สกลุ ...................................................................................ช้นั ........................เลขที่……………

เรื่อง การหลกี เล่ยี งพฤตกิ รรมและสถานการณเ์ สยี่ ง
คำชี้แจง : ใหน้ ักเรยี นบอกวิธกี ารหลีกเลยี่ งและป้องกันตนเองจากสถานการณ์เสี่ยงท่กี ำหนดให้

ตอ่ ไปนี้ ตอบคำถามลงในชอ่ งว่างใหถ้ กู ตอ้ ง

สถานการณ์เสย่ี งตอ่ การตดิ สารเสพติด

วธิ หี ลีกเลยี่ งและปอ้ งกัน.................................................................
.......................................................................................................
.......................................................................................................

.....................................

สถานการณ์เสี่ยงตอ่ การถูกล่วงละเมดิ ทางเพศ

วธิ หี ลกี เลีย่ งและป้องกัน.................................................................
.......................................................................................................
.......................................................................................................

.....................................

สถานการณ์เสี่ยงตอ่ การเกิดความรนุ แรงและการทะเลาะววิ าท

วธิ หี ลีกเลีย่ งและปอ้ งกนั .................................................................
.......................................................................................................
.......................................................................................................

.....................................

สถานการณ์เส่ยี งต่อการเกิดอุบตั ิเหตุ

วธิ หี ลกี เลีย่ งและปอ้ งกนั .................................................................
.......................................................................................................
.......................................................................................................

.....................................

ชอื่ -สกุล...................................................................................ชั้น........................เลขที่……………
เฉลย เรอ่ื ง การหลีกเลย่ี งพฤติกรรมและสถานการณ์เส่ยี ง

คำชแ้ี จง : ใหน้ ักเรยี นบอกวิธกี ารหลกี เลย่ี งและป้องกันตนเองจากสถานการณเ์ สี่ยงที่กำหนดให้
ต่อไปน้ี ตอบคำถามลงในชอ่ งว่างใหถ้ ูกตอ้ ง
สถานการณ์เสย่ี งต่อการติดสารเสพตดิ
วิธหี ลกี เล่ยี งและปอ้ งกนั ไมห่ ลงเช่ือเมื่อเพื่อนชวนไปทดลองสารเสพตดิ

เช่น บุหรี่ หรือเครอ่ื งดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ไม่คบคนที่ตดิ สารเสพติดเพราะ
ไมห่ ลงเชอ่ื คนแปลกหน้าทเ่ี ข้ามาพูดคยุ กบั เราไม่ทดลองเสพสารเสพติด

เพราะอาจทำให้เกิดการติดได้

สถานการณ์เสี่ยงตอ่ การถกู ล่วงละเมดิ ทางเพศ
วิธีหลกี เล่ยี งและปอ้ งกัน ไมส่ มั ผัสร่างกายกันเพราะถือว่าไม่สภุ าพ

ไม่อยู่ในบ้านตามลำพัง ไม่ดูสื่อยัว่ ยุอารมณ์ทางเพศกบั ผู้อื่น ไม่เสพของ
มนึ เมาหรอื สารเสพตดิ เพราะจะนำไปสู่การมีเพศสมั พนั ธ์ได้

สถานการณ์เสีย่ งตอ่ การเกิดความรุนแรงและการทะเลาะววิ าท
วิธหี ลีกเลยี่ งและปอ้ งกันมีสติ อดทน อดกลัน้ ไม่พดู จายั่วยใุ ห้เกิดความ

รุนแรงขึ้น มีปัญหาปรึกษาพอ่ แม่ ผู้ปกครอง ครูอาจารย์ เข้าร่วมกจิ กรรม
ท่เี ปน็ ประโยชนไ์ ม่เขา้ ไปอยูใ่ นสถานที่ท่ีก่อใหเ้ กิดอนั ตราย เชน่ สถานทที่ ่ี
คนกำลงั ทะเลาะวิวาทกนั

สถานการณ์เสี่ยงตอ่ การเกิดอบุ ัติเหตุ
วิธีหลีกเล่ยี งและปอ้ งกันปฏบิ ตั ติ ามกฎจราจร มีระเบียบวินัย ไมเ่ ห็นแก่

ตวั ไมป่ ระมาท ไม่ขบั รถเรว็ ทำอะไรต้องมสี ติอยู่ตลอดเวลาเพราะ
อบุ ัติเหตุเกิดข้ึนไดเ้ สมอ

ช่อื -สกลุ ...................................................................................ชัน้ ........................เลขท่ี……………

เรื่อง พฤตกิ รรมเสี่ยงตอ่ สขุ ภาพ
คำช้ีแจง : ใหน้ ักเรียนบอกพฤตกิ รรมเสี่ยงตอ่ สุขภาพในวัยรุ่นและเยาวชน ใหส้ ัมพันธ์กบั รูปภาพที่

กำหนดให้

พฤตกิ รรมเสยี่ งตอ่ สุขภาพในวยั รุน่ และเยาวชน

……………………………………..………

……………………………………..……… ……………………………………..………

……………………………………..……… ……………………………………..………

ชอ่ื -สกุล...................................................................................ชั้น........................เลขท่ี……………

เฉลย เรอ่ื ง พฤติกรรมเสี่ยงต่อสขุ ภาพ
คำชี้แจง : ให้นกั เรียนบอกพฤตกิ รรมเสี่ยงต่อสขุ ภาพในวัยรุ่นและเยาวชน ให้สัมพันธ์กบั รปู ภาพท่ี

กำหนดให้

พฤตกิ รรมเสี่ยงตอ่ สุขภาพในวยั ร่นุ และเยาวชน

การ ูสบ ุบหรี่ต้ังแต่อายุ ัยง ้นอย
ของ ัวย ุ่รน

พฤติกรรมการขบั ขี่ การด่ืมเครือ่ งดืม่ ที่มีแอลกอฮอล์
รถจกั รยานยนตห์ รอื รถยนตท์ ี่ไม่
ปลอดภัย ไมป่ ฏิบตั ิตามกฎจราจร

การ ่ืดมนมต่ำก ่วาเกณ ์ฑ ื่ดมน้ำหวาน พฤตกิ รรมเส่ียงและไมพ่ งึ
้นำ ัอดลมเ ็ปนจำนวนมาก ประสงค์ทางเพศและเพศสัมพนั ธ์

ชือ่ -สกุล...................................................................................ช้นั ........................เลขที่……………

เรอ่ื ง ทกั ษะการสอ่ื สาร การปฏเิ สธ และการต่อรอง

คำชีแ้ จง : ใหน้ กั เรียนยกตวั อยา่ งคำพูดจากการใชท้ ักษะการส่ือสาร การปฏิเสธ และการตอ่ รอง

เพือ่ ปอ้ งกนั ตนเองจากสถานการณท์ ีอ่ าจนำไปสอู่ ันตราย พร้อมรกั ษาสมั พันธภาพอนั ดี

ตัวอยา่ งสถานการณต์ า่ งๆ ตัวอยา่ ง ทักษะการสื่อสาร
1. เพื่อนชวนไปสูบบหุ ร่ีหลังห้องน้ำโรงเรียน การปฏิเสธ และ การต่อรอง
...............................................................................

2. เพื่อนชวนไปเท่ียวสถานบันเทิง ...............................................................................
...............................................................................

3. เพื่อนชวนดื่มเครอื่ งด่มื แอลกอฮอล์ ...............................................................................
...............................................................................

4. เพอ่ื นชวนไปแข่งรถหลังเลกิ เรียน ...............................................................................
...............................................................................

...............................................................................
5. มีคนแปลกหนา้ ชวนไปเท่ยี วห้างสรรพสนิ ค้า ...............................................................................

...............................................................................
6. ชายหนุ่มข้างบ้านชวนมาเล่นทบ่ี ้านสองตอ่ สอง ...............................................................................

7. ลูกพ่ีลกู น้องชวนไปเสพสารเสพตดิ ...............................................................................
...............................................................................

8. แฟนหนุ่มชวนไปนอนท่ีโรงเรยี นหลังงานวัน ...............................................................................
ลอยกระทง ...............................................................................
...............................................................................
9. แฟนหนุ่มชวนไปดูหนังรอบดึก ...............................................................................

10. เพอ่ื นชวนไปเลน่ การพนนั ท่ีบ้าน ...............................................................................
...............................................................................

...............................................................................

ช่อื -สกลุ ...................................................................................ชน้ั ........................เลขที่……………

เฉลย เรอื่ ง ทักษะการสื่อสาร การปฏเิ สธ และการตอ่ รอง

คำช้แี จง : ใหน้ ักเรยี นยกตวั อยา่ งคำพูดจากการใช้ทกั ษะการส่ือสาร การปฏเิ สธ และการตอ่ รอง

เพอ่ื ป้องกันตนเองจากสถานการณ์ที่อาจนำไปสอู่ นั ตราย พรอ้ มรกั ษาสัมพนั ธภาพอนั ดี

ตวั อย่างสถานการณ์ต่างๆ ตวั อยา่ ง ทกั ษะการสื่อสาร
1. เพื่อนชวนไปสูบบหุ รหี่ ลังหอ้ งนำ้ โรงเรียน การปฏเิ สธ และ การตอ่ รอง
“ไม่ล่ะ” บหุ รีม่ นั ทำลายสุขภาพและทำใหก้ ลิ่นตัว

2. เพอ่ื นชวนไปเที่ยวสถานบนั เทงิ เหมน็ เดย๋ี วครูจะรู้วา่ เราสบู บหุ รี่
“ขอโทษด้วยนะ” พ่อกับแมเ่ ราไม่ใหอ้ อกจากบ้าน

3. เพอื่ นชวนด่ืมเคร่ืองดม่ื แอลกอฮอล์ ตอนคำ่ เดีย๋ วทานเปน็ ห่วง
“ไมล่ ่ะ ขอบคณุ มากนะ” เราด่มื ไมเ่ ปน็ และพอ่ กับ

4. เพ่ือนชวนไปแขง่ รถหลงั เลกิ เรียน แมก่ ห็ า้ มไมใ่ ห้เราด่มื ด้วย
“ขอบคุณที่ชวนนะ” วันนแี้ มเ่ ราใหร้ ีบกลบั บา้ น ไป

ช่วยดูแลน้อง
5. มีคนแปลกหน้าชวนไปเทีย่ วห้างสรรพสนิ ค้า ...............................................................................

...............................................................................
6. ชายหนุ่มข้างบ้านชวนมาเลน่ ที่บ้านสองตอ่ สอง ...............................................................................

7. ลกู พ่ีลกู น้องชวนไปเสพสารเสพติด ...............................................................................
...............................................................................

8. แฟนหนมุ่ ชวนไปนอนทโี่ รงเรยี นหลงั งานวนั ...............................................................................
ลอยกระทง ...............................................................................
...............................................................................
9. แฟนหน่มุ ชวนไปดหู นงั รอบดกึ ...............................................................................

10. เพือ่ นชวนไปเล่นการพนันทบ่ี า้ น ...............................................................................
...............................................................................

...............................................................................

ช่อื -สกุล...................................................................................ช้นั ........................เลขท่ี……………

ชอ่ื -สกุล...................................................................................ชนั้ ........................เลขที่……………

เรอื่ ง การเลอื กทกั ษะในการป้องกนั ตนเองจากภัยอันตราย
คำชี้แจง : ให้นกั เรยี นเลือกใชท้ กั ษะให้เหมาะสมกับสถานการณท์ ก่ี ำหนดให้ พร้อมยกตัวอย่าง

สถานการณ์ ทกั ษะในการป้องกันตนเอง

อคั คภี ยั ตวั อย่าง

ทกั ษะการตดั สินใจ ควบคมุ สติ โดยไม่ใหต้ กใจมากจนเกินไป และ
ตัดสนิ ใจเลอื กวธิ ีการแก้ปัญหา โทรศพั ท์เรยี กรถดับเพลิงให้เร็วทส่ี ุด
ไมเ่ ข้าไปใกลบ้ ริเวณท่ีเกิดอคั คภี ยั เพอ่ื ปอ้ งกันอนั ตรายทจ่ี ะเกิดขนึ้

การขับขี่ยานพาหนะ ทักษะ..............................................................................................
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………

คนแปลกหนา้ ให้ของ ทักษะ..............................................................................................
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………

เพือ่ นชวนสบู บุหรี่ ทักษะ..............................................................................................
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………

ทักษะ...............................................................................................
……………………………………………………………………………………………
แฟนหนุ่มชวนไปดหู นังที่บา้ น ……………………………………………………………………………………………

การอ่านขอ้ มลู ขา่ วสารใน ทักษะ...............................................................................................
อนิ เทอร์เนต็ ……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………

ชอ่ื -สกุล...................................................................................ช้ัน........................เลขที่……………

เฉลย เร่อื ง การเลือกทกั ษะในการป้องกันตนเองจากภยั อันตราย
คำชแ้ี จง : ใหน้ ักเรียนเลือกใช้ทกั ษะใหเ้ หมาะสมกบั สถานการณ์ที่กำหนดให้ พร้อมยกตัวอยา่ ง

สถานการณ์ ทักษะในการปอ้ งกนั ตนเอง

อัคคภี ยั ตัวอย่าง
การขับขยี่ านพาหนะ
ทักษะการตัดสินใจ ควบคุมสติ โดยไมใ่ หต้ กใจมากจนเกนิ ไป และ
ตดั สินใจเลอื กวิธกี ารแก้ปัญหา โทรศพั ท์เรยี กรถดบั เพลิงใหเ้ ร็วทส่ี ุด
ไม่เขา้ ไปใกลบ้ ริเวณทเ่ี กดิ อคั คีภยั เพื่อปอ้ งกันอันตรายท่จี ะเกดิ ขน้ึ
ทกั ษะการตัดสนิ ใจ การขบั ข่ียานพาหนะจะต้องมกี ารตัดสนิ ใจที่
รวดเร็วแม่นยำ เพราะอุบัติเหตุเกดิ ขึ้นได้เพียงเสย้ี ววินาที หาก
ตัดสินใจผดิ พลาดอาจจะต้องสญู เสียชีวติ และทรัพย์สิน

ทักษะการปฏิเสธ ปฏเิ สธด้วยทา่ ทางและคำพูดที่จริงจงั น้ำเสยี ง

ชดั เจน การแสดงกิริยาทา่ ทาง คำพูดท่ีเป็นมิตร การแสดงความ

คนแปลกหน้าใหข้ อง ขอบคุณเม่อื ผู้ชวนยอมรบั

ทักษะการปฏิเสธ ปฏิเสธดว้ ยท่าทางและคำพูดที่จริงจัง นำ้ เสียงชดั เจน

เลอื กใชค้ วามรู้สึกเพื่อแสดงเป็นขอ้ อา้ งประกอบ เพราะการใช้เหตุผลเพยี ง

อยา่ งเดยี วมักจะถกู โต้แย้งด้วยการขอความคิดเห็น ความเหน็ ชอบ เช่น “เรา

เพ่อื นชวนสบู บหุ รี่ รูส้ กึ ไม่สบายใจเพราะถ้าแม่รู้ จะต้องดเุ ราและลงโทษเราแน่ๆ”

ทกั ษะการตอ่ รอง ไมป่ ฏิเสธผชู้ วนไปโดยตรงแตเ่ ป็นการตอ่ รองเพอื่

เสนอแนวทางอ่ืน ๆ ทด่ี แี ละไม่เส่ียงต่อสถานการณท์ างเพศ เช่น “ไป

ดทู บี่ ้านเรามั๊ย ชวนเพ่อื นไปด้วยหลาย ๆ คน สนุกดี แม่เรา

แฟนหนุ่มชวนไปดหู นังที่บา้ น ทำกบั ข้าวอรอ่ ยมากนะ”

ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ ปจั จุบนั ข้อมูลขา่ วสารในอนิ เทอร์เน็ตหรอื ส่อื

ออนไลน์ตา่ ง ๆ มีมากมายหลากหลาย ทง้ั ท่ีเป็นความจริงและไมเ่ ปน็ ความ

จรงิ การมีทักษะการคดิ วเิ คราะหเ์ ป็นการใช้กระบวนการคดิ ในการตัดสินใจ

การอ่านขอ้ มูลขา่ วสารใน เร่อื งตา่ ง ๆ โดยการศึกษาข้อมลู วิเคราะหเ์ หตแุ ละผลทเ่ี กดิ ขน้ึ เพื่อเป็นการ
อินเทอร์เน็ต ป้องกันตนเองท่อี าจจะเกิดข้ึนจากการถูกหลอกลวงบนโลกออนไลน์

ชื่อ-สกลุ ...................................................................................ชั้น........................เลขที่……………

คำถามทา้ ยหน่วย เรือ่ ง ทดสอบสมรรถภาพทางกาย
คำช้ีแจง : ให้นกั เรยี นยกตัวอยา่ งวิธกี ารทดสอบสมรรถภาพทางกาย พร้อมแสดงให้เห็นวา่

เป็นการทดสอบสมรรถภาพทางกายในดา้ นใด

สมรรถภาพทางกายเพื่อสุขภาพ

วธิ ีทดสอบ วิธที ดสอบ
...................................................................... ......................................................................
เปน็ การทดสอบสมรรถภาพทางกายในดา้ น เปน็ การทดสอบสมรรถภาพทางกายในดา้ น
...................................................................... ......................................................................

.......... ..........
วธิ ที ดสอบ วิธที ดสอบ
...................................................................... ......................................................................
เปน็ การทดสอบสมรรถภาพทางกายในดา้ น เป็นการทดสอบสมรรถภาพทางกายในด้าน
...................................................................... ......................................................................

.......... ..........

สมรรถภาพทางกายท่สี ัมพนั ธ์กับทักษะ

วิธีทดสอบ วธิ ที ดสอบ
...................................................................... ......................................................................
เปน็ การทดสอบสมรรถภาพทางกายในดา้ น เปน็ การทดสอบสมรรถภาพทางกายในด้าน
...................................................................... ......................................................................

.......... ..........
วธิ ีทดสอบ วิธที ดสอบ
...................................................................... ......................................................................
เป็นการทดสอบสมรรถภาพทางกายในดา้ น เปน็ การทดสอบสมรรถภาพทางกายในดา้ น
...................................................................... ......................................................................

.......... ..........

ชอ่ื -สกลุ ...................................................................................ชัน้ ........................เลขท่ี……………

เฉลย คำถามท้ายหนว่ ย เรอื่ ง ทดสอบสมรรถภาพทางกาย
คำชแ้ี จง : ให้นักเรยี นยกตัวอย่างวิธีการทดสอบสมรรถภาพทางกาย พร้อมแสดงใหเ้ หน็ วา่

เปน็ การทดสอบสมรรถภาพทางกายในดา้ นใด

สมรรถภาพทางกายเพื่อสขุ ภาพ

วธิ ีทดสอบ วิธีทดสอบ
ลุกนง่ั 30 วนิ าที น่ังงอตัวไปข้างหน้า
เปน็ การทดสอบสมรรถภาพทางกายในด้าน เป็นการทดสอบสมรรถภาพทางกายในด้าน
ความแขง็ แรงและความอดทนของกลา้ มเน้ือ
ความออ่ นตัว
วธิ ีทดสอบ
วิ่งระยะไกล วธิ ีทดสอบ
เป็นการทดสอบสมรรถภาพทางกายในด้าน ชง่ั นำ้ หนกั และวดั ส่วนสงู หาคา่ BMI
เปน็ การทดสอบสมรรถภาพทางกายในด้าน
ความอดทนของระบบไหลเวยี นเลอื ดและหายใจ
.......... องคป์ ระกอบของรา่ งกาย

สมรรถภาพทางกายทสี่ มั พันธก์ ับทกั ษะ

วธิ ีทดสอบ วธิ ที ดสอบ
วง่ิ เกบ็ ของ การยืนกระโดดไกล
เปน็ การทดสอบสมรรถภาพทางกายในดา้ น เป็นการทดสอบสมรรถภาพทางกายในด้าน
ความคล่องแคลว่ วอ่ งไว กำลงั ของกลา้ มเนอ้ื

วธิ ที ดสอบ วิธีทดสอบ
วง่ิ 50 เมตร วง่ิ ซกิ แซก
เป็นการทดสอบสมรรถภาพทางกายในดา้ น เปน็ การทดสอบสมรรถภาพทางกายในดา้ น
ความเร็ว ความคลอ่ งแคลว่ ว่องไว

ชอื่ -สกลุ ...................................................................................ชน้ั ........................เลขท่ี……………

ใบงาน เร่อื ง ขน้ั ตอนการออกกำลังกายเพ่ือเสริมสรา้ งสมรรถภาพ

คำชแ้ี จง : ให้นกั เรียนบอกขัน้ ตอนการออกกำลังกายเพื่อเสรมิ รา้ งสมรรถภาพ พรอ้ มอธบิ าย

มาพอสงั เขป ขั้นตอนการออกกำลังกาย

…1.………….…...…...…...…...…..…...…...…...….......…...........................................................................
.......................................................................................................
.......................................................................................................

…2…. ………………………………..….

......................................................................................................
......................................................................................................
......................................................................................................

...

…3…. ………………………………..….

.....................................................................................................
.....................................................................................................
.....................................................................................................

......

ออกกำลังกายตามหลกั F I T T

F คือ ............................................................................................................
I คือ ............................................................................................................
T คือ ............................................................................................................
T คือ ............................................................................................................

ชือ่ -สกลุ ...................................................................................ชั้น........................เลขท่ี……………

เฉลย ใบงาน เร่ือง ข้ันตอนการออกกำลังกายเพอ่ื เสรมิ สรา้ งสมรรถภาพ

คำชี้แจง : ใหน้ กั เรยี นบอกข้ันตอนการออกกำลังกายเพอื่ เสรมิ รา้ งสมรรถภาพ พรอ้ มอธบิ าย

มาพอสงั เขป ขั้นตอนการออกกำลังกาย

1. การอบอุ่นร่างกาย ยดื เหยยี ดกล้ามเน้ือ ให้กลา้ มเนอื้ และเอน็

ต่างๆ ได้ถูกยดื ออกให้เต็มท่ีมากท่สี ุด เพื่อป้องกนั การบาดเจ็บ เพ่มิ
อณุ หภูมิในรา่ งกาย ประกอบด้วยการเคลื่อนไหวร่างกายแบบชา้ ๆ เชน่

การเดนิ การวงิ่ เพ่ือเตรยี มร่างกายให้พรอ้ มก่อนการออกกำลงั กาย

2. การออกกำลงั กาย

ออกกำลงั กายตามรูปแบบกิจกรรมที่เหมาะสมกบั ตอนเอง เช่น ออกกำลัง
กายแบบไมใ่ ชอ้ อกซิเจน และออกกำลังกายแบบใช้ออกซิเจน การออก
กำลงั กายท่ีหัวใจเตน้ ประมาณ 60-80 % ของชีพจรสูงสุด ซ่ึงจะเป็นชว่ งท่ี

มีผลตอ่ การฝึกปอดและหวั ใจโดยท่ไี ม่มีอนั ตรายต่อร่างกาย

3. การคลายอ่นุ

หลงั การออกกำลงั กายเป็นการปรับสภาพรา่ งกายจากการออกกำลังกาย
มาเปน็ สภาพปกติ โดยการเคลอ่ื นไหวช้า ๆ ปอ้ งกนั การเกดิ การเมื่อยลา้

และอาการปวดของกลา้ มเนือ้ ได้

ออกกำลังกายตามหลัก F I T T

F คอื FREQUENCY ความบอ่ ยในการออกกำลังกาย
I คือ INTENSITY ความหนักในการออกกำลังกาย
T คือ TIME ช่วงระยะเวลาในการออกกำลงั กาย
T คือ TYPE รูปแบบของกิจกรรมการออกกำลังกาย


Click to View FlipBook Version