วิชาภาษาไทย | วันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๖๕
ผู้เเต่งเเละประวัติผู้เเต่ง
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกา
ที่๖)แห่งพระบรมราชวงศ์จักรีตลอดระยะเวลา๑๕ปี
ที่ทรงครองราชย์(พ.ศ.๒๔๕๓-๒๔๖๘)ทรงประกอบ
พระราชกรณียกิจเป็ นอเนกประการ ทรงพระปรีชา
สามารถทั้งด้านการทหาร
การปกครองการต่างประเทศและโดยเฉพาะด้านอักษรศาสตร์
พระองค์ทรงพระราชนิพนธ์งานหลายประเภท เช่น บทละคร
บทความ สารคดี นิทาน นิยาย เรื่องสั้น พระบรมราโชวาท พระ
ราชหัตถเลขา และทรงใช้พระราชนิพนธ์เป็ นสื่อแสดงแนวพระ
ราชดำริในเรื่องต่างๆ บทพระราชนิพนธ์หลายเรื่องได้รับการ
ยกย่องจากวรรณคดีสโมสรว่าเป็ นยอดของวรรณคดีหรือเป็ น
หนังสือที่แต่งดี อาทิ หัวใจนักรบ เป็ นยอดของบทละครพูดร้อย
แก้ว มัทนะพาธา เป็ นยอดของบทละครพูดคำฉันท์ พระบาท
สมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรงได้รับการถวายพระราช
สมัญญาว่า “สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า” ซึ่งมีความหมายว่า
นักปราชญ์ปู้ ยิ่งใหญ่ และใน พ.ศ.๒๔๑๕ พระองค์ยังได้รับการ
ประกาศยกย่องจากองการการศึกษาวิทยาศาสตร์และ
วัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ(UNESCO) ให้ทรงเป็ น ๑ ใน ๕
ของนักปราชญ์ไทย
ที่มาของเรื่อง
หัวใจชายหนุ่ม เป็ นบทพระราชนิพนธ์ในพระบาท
สมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยใช้พระนามแฝงว่า
“รามจิตติ” เพื่อพระราชทานลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์
“ดุสิตสมิต” เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๔ ลักษณะการพระราช
นิพนธ์เป็ นรูปแบบของจดหมาย มีจำนวน ๑๘ ฉบับ รวม
ระยะเวลาที่ปรากฏตามจดหมายทั้งหมด ๑ ปี ๗ เดือน
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงสร้าง
ตัวละครเอกขึ้นโดยสมมติให้มีตัวตนจริง คือ “ประพันธ์
ประยูรสิริ” เป็ นผู้ถ่ายทอดความนึกคิดและสภาพของ
สังคมของไทยผ่านมุมมองของ “ชายหนุ่ม” (นักเรียน
นอก) ในรูปแบบจดหมายที่ส่งถึงเพื่อนชื่อ “ประเสริฐ สุ
วัฒน์” โดยทรงพระราชนิพนธ์ชี้แจงไว้ในคำนำนวนิยาย
เรื่องนี้
ลักษณะคำประพันธ์
หัวใจชายหนุ่ม เป็ นนวนิยายร้อยแก้วในรูปแบบของ
จดหมาย โดยมีข้อควรสังเกตสำหรับรูปแบบจดหมาย
ทั้ง ๑๘ ฉบับในเรื่อง ดังนี้
๑) หัวจดหมาย ตั้งแต่ฉบับที่ ๑ วันที่ ๒๓ กันยายน
พ.ศ. ๒๔๖- จนถึงฉบับสุดท้าย วันที่ ๓๐ มีนาคม พ.ศ.
๒๔๖- จะเห็นว่ามีการเว้นเลขท้ายปี พ.ศ. ไว้
๒) คำขึ้นต้นจดหมาย ทั้ง ๑๘ ฉบับ ใช้คำขึ้นต้นเหมือน
กันหมด คือ “ถึงพ่อประเสริฐเพื่อนรัก”
๓)คำลงท้าย จะใช้คำว่า “จากเพื่อน....” “แต่เพื่อน...”
แล้วตามด้วยความรู้สึกของนายประพันธ์ เช่น “แต่
เพื่อนที่ใจคอออกจะยุ่งเหยิง” (ฉบับที่ ๑๐) มีเพียง ๙
ฉบับเท่านั้น ที่ไม่มีคำลงท้าย
๔) การลงชื่อ ตั้งแต่ฉบับที่ ๑๔ เป็ นต้นไป ใช้
บรรดาศักดิ์ที่ได้รับพระราชทาน คือ “บริบาลบรม
ศักดิ์” โดยตลอด แต่ฉบับที่ ๑-๑๓ ใช้ชื่อ “ประพันธ์”
๕) ความสั้นยาวของจดหมาย มีเพียงฉบับที่ ๑๔
เท่านั้นที่มีขนาดสั้นที่สุด เพราะเป็ นเพียงจดหมายที่
แจ้งไปยังเพื่อนว่าตนได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์
จะเขียนเป็ นนวนิยายแบบสั้น รูปแบบจดหมาย (ฝ่ าย
เดียว)
จุดประสงค์ในการแต่ง
1.เพื่อสะท้อนให้ผู้อ่านเห็นภาพสังคมไทยในขณะ
นั้น
2. เพื่อสะท้อนมุมมองความรู้สึกนึกคิดของคนรุ่น
ใหม่ (นักเรียนนอก) ที่มีต่อวัฒนธรรมและสังคม
ไทยในด้านต่าง ๆ นอกจากนี้พระบาทสมเด็จ
พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวยังสอดแทรก “ความ
เห็นส่วนพระองค์” ในกรณีต่าง ๆ ลงไปใน
นวนิยายเรื่องนี้ด้วย โดยเฉพาะแนวคิดเกี่ยวกับ
การรับเอาวัฒนธรรมตะวันตกมาปรับใช้ในสังคม
ไทย ยกตัวอย่างเช่นเรื่องธรรมเนียม ‘ผัวเดียว
เมียเดียว’ ซึ่งปกติชายไทยสมัยก่อน ๆ จะนิยมมี
ภรรยาหลายคน แต่เมื่อมีการรับแนวคิดแบบคู่
สมรสคนเดียว (Monogamy) มาปรับใช้ในไทย
มากขึ้นและไม่ค่อยประสบความสำเร็จ
เนื้อเรื่องย่อในแต่ละฉบับ
ฉบับที่ 1: ประพันธ์เขียนจดหมายกลางทะเล อาลัยอาวรณ์
ถึงเพื่อน คนรัก และความเจริญต่าง ๆ ที่เคยได้รับเมื่อตอน
ศึกษาอยู่ ณ ต่างประเทศ
ฉบับที่ 4: เรื่องราวอนาคตที่ทางบ้านวางไว้ให้ ทั้งการใช้
เส้นสายเพื่อเข้ารับราชการ และการแต่งงานแบบคลุมถุง
ชน (ประพันธ์เบื่อเมืองไทยมาก)
ฉบับที่ 5:ประพันธ์เข้ารับราชการ ได้ดูตัวกิมเน้ยแต่ก็รู้สึก
เฉย ๆ และได้รู้จัก ‘อุไร’ หญิงสาวผู้ทำให้การอยู่เมืองไทย
เป็ นเรื่องเพลิดเพลินสำหรับประพันธ์
ฉบับที่ 6: ประพันธ์พัฒนาความสัมพันธ์กับอุไรโดยมี
ประไพ (น้องสาว) เป็ นแม่
ฉบับที่ 9: ประพันธ์แต่งงานกับอุไรและได้ไปฮันนีมูนกันที่
หัวหิน
ฉบับที่ 11: ชีวิตคู่ของประพันธ์เริ่มไม่ราบรื่น กลับจากฮันนี
มูน ย้ายเข้าเข้าบ้านใหม่ แต่ก็ไร้ซึ่งความสุข
ฉบับที่ 12: อุไรแท้งลูกและเมื่อหายดีก็เริ่มมีพฤติกรรมที่
เปลี่ยนแปลงไปเหมือนมีคนอื่น เริ่มเห็นนิสัยที่แท้จริง เช่น
ความเอาแต่ใจ การใช้จ่ายที่สิ้นเปลือง เมื่อได้ข่าวแน่นอน
ว่าอุไรคบหาอยู่กับพระยาตระเวนนคร ประพันธ์และอุไรจึง
หย่ากัน
เนื้อเรื่องย่อในแต่ละฉบับ
ฉบับที่ 13: ประพันธ์เป็ นห่วงว่าอุไรจะเป็ นเพียงของเล่น
ชั่วคราวของพระยาตระเวนนคร ส่วนตัวประพันธ์เองก็มี
ความก้าวหน้าในหน้าที่การงานขึ้นเรื่อย ๆ (มีการกล่าวถึง
กรมเสือป่ าที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็ น
ผู้ก่อตั้งด้วย)
ฉบับที่ 15: ความสัมพันธ์ของอุไรและพระยาตระเวนนคร
เริ่มระหองระแหงเพราะพระยาตระเวนนครมีผู้หญิงคน
ใหม่ ประพันธ์แสดงความไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับวัฒนธรรม
การ ‘มีเมียครั้งละมาก ๆ’ ของพระยาตระเวนนคร
ฉบับที่ 17: พระยาตระเวนนครไล่อุไรออกจากบ้านเพราะ
ต้องการบ้านให้ภรรยาคนใหม่ อุไรจึงมาขอคืนดีกับ
ประพันธ์แต่ไม่สำเร็จ จึงกลับไปอยู่กับพ่อ
ฉบับที่ 18: ตอนจบแบบแฮปปี้ อุไรแต่งงานใหม่กับหลวง
พิเศษผลพานิชซึ่งเป็ นพ่อค้าร่ำรวย ส่วนประพันธ์พบรักกับ
นางสาวศรีสมาน และวางแผนจะแต่งงานกันในอนาคต
คําทับศัพท์ที่ปรากฏ
แบชะเล่อร์ (Bachelor) หมายถึง ชายโสด
ปอปูลาร์ (Popular) หมายถึง ได้รับความนิยม
ฟรี (Free) หมายถึง เป็ นอิสระจากกฏเกณฑ์
หรือการควบคลุม
เร็สตอรังต์ (Restaurant) หมายถึง ภัตตาคาร
ร้านอาหาร
เล็กเช่อร์ (Lecture) หมายถึง บรรยาย
ศิวิไลซ์ (Clivilize) หมายถึง เจริญ มี
อารยธรรม
อินเตอเร้สต์ (Interest) หมายถึง ความสนใจ
เอดูเคชั่น (Education) หมายถึง การศึกษา
ฮันนี่มูน (Honeymoon) หมายถึง การไปเที่ยว
ด้วยกันของคู่แต่งงาน
ความรู้ประกอบเรื่อง
คุณค่าด้านวรรณศิลป์
สำนวนภาษาในการเขียนจดหมายและการเลือกใช้คำทับ
ศัพท์ภาษาอังกฤษ รวมทั้งคำแสลงมากมาย นอกจากนั้น
เนื้อความของจดหมายก็เป็ นมุมมองหรือทัศนะที่ตรงไป
ตรงมาเหมือนจดหมายส่วนตัวทั่วๆ
คุณค่าด้านสังคม
บทกวีสะท้อนสภาพสังคมของกวีตามมุมมองของกวี
ซึ่งจากเรื่องหัวใจชายหนุ่มจะสะท้อนสภาพสังคมไทยใน
สมัย รัชกาลที่ ๖ ซึ่งแตกต่างกับสังคมยุคปั จจุบันอย่าง
มาก ทั้งในด้านของการเมืองการปกครอง วัฒนธรรม
ต่างๆ การแต่งกาย การไว้ผมยาวของสตรี การเห็น
ความสำคัญของการศึกษา ชีวิตการแต่งงาน
พฤติกรรมของคน
คุณค่าด้านเนื้อหา
มีการสร้างตัวละครได้อย่างสมจริง แสดงให้เห็น
ถึงพฤติกรรมของปุถุชนที่มีทั้งสิ่งที่ถูกต้องและ
ผิดพลาด และมีทั้งความสมควรและไม่สมควร
โดยมีลักษณะที่สมจริงสมเหตุสมผล โดย
ประพันธ์ถือเป็ นคนที่มีแนวคิดสมัยใหม่ซึ่งบาง
ครั้งตรงกันข้ามกับ
ความเป็ นไทยที่เหมาะสม แต่ยังสามารถกลับตัว
กลับใจมาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมได้จึงมีความ
สมบูรณ์ทั้งตัวละคร และเนื้อหาของ ตัวละคร
ด้วย
คําศัพท์สําคัญที่ปรากฏ
กรมท่าซ้าย หมายถึง ส่วนราชการในสมัยก่อนซึ่งสังกัด
กรมพระคลัง
คลุมถุงชน หมายถึง การแต่งงานที่ผู้ใหญ่จัดหาให้
หมายว่า หมายถึง คาดว่า
หัวเมือง หมายถึง ต่างจังหวัด
หมอบราบ หมายถึง ยอมตามโดยไม่ขัดขืน
หดหู่ หมายถึง หอเหี่ยวไม่ชื่นบาน
สิ้นพูด หมายถึง หมดคำพูดที่จะกล่าว
ลอยนวล หมายถึง ตามสบาย
พื้นเสีย หมายถึง โกรธ
วิจารณ์ตัวละคร
-แม่อุไร สาวฮอตประจำเมืองลูกสาวของคุณพระพินิฐ
พัฒนากร อุไรเป็ นคนสวยและเป็ นผู้หญิงอย่างสมัยใหม่ได้
รับการศึกษา อ่านเขียนภาษาไทยและภาษาอังกฤษได้ ด้วย
เหตุนี้เธอจึงเป็ นที่หมายปองของชายหนุ่มมากหน้าหลาย
ตาและขึ้นชื่อว่าเป็ น ‘โรงเรียนฝึ กหัดเจ้าชู้’
-เเม่กิมเน้ย หญิงสาวเชื้อสายไทยจีน ลูกสาวของอากรเพ้ง
โดยพ่อของประพันธ์หวังจะให้กิมเน้ยหมั้นหมายกับ
ประพันธ์ แต่ประพันธ์ไม่ค่อยชอบกิมเน้ยนัก เพราะเธอใส่
เครื่องเพชรรุงรัง และมีหน้าตาแบบสาวหมวย และ
ประพันธ์ก็ไม่ชอบการคลุมถุงชนแบบธรรมเนียมโบราณ
ของไทย จึงไม่ยอมรับการแต่งงานครั้งนี้เด็ดขาด
-พระพินิฐ พ่อค้าซึ่งมีฐานะดี แม้จะบุคลิกลักษณะไม่ดีนัก
แต่ก็มีจิตใจที่ดีและได้แต่งงานกับอุไรในภายหลัง
-พระยาตะเวนนคร เสือผู้หญิงและเพลย์บอยประจำเมือง
เป็ นคนมีฐานะร่ำรวยและมีชื่อเสียง พระยาตระเวนนครถือ
เป็ นตัวแทนของความนิยม
-ประพันธ์ หนุ่มไทยดีกรีนักเรียนนอกจากอังกฤษที่เดิน
ทางกลับไทย ประพันธ์เป็ นคน ‘หัวนอก’ คือมีความคิด
ก้าวหน้าอย่างคนหนุ่ม และด้วยความที่เพิ่งกลับจากเมือง
นอก จดหมายของประพันธ์จะติดการใช้สแลงและคำทับ
ศัพท์ภาษาอังกฤษอยู่เสมอ ๆ
-ประเสริฐ เพื่อนของนายประพันธ์ที่ยังศึกษาอยู่ที่อังกฤษ
ข้อคิดที่ได้
1.พฤติกรรมของนายประพันธ์เป็ น
พฤติกรรมที่เลียนแบบพฤติกรรมของ
ปุถุชนที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ทั้งความ
ถูกต้องและผิดพลาด เปรียบเสมือน
กับมนุษย์ที่สามารถผิดพลาดได้ตลอด
เวลา
2.อย่าหลงวัฒนธรรมตะวันตกจนลืมจิตสำนึก
แห่งความเป็ นไทย ควรเก็บสิ่งที่ดีมาปฏิบัติ
3.การแต่งงานของหนุ่มสาวที่มาจากการ
ชอบพอกันแค่เพียงเปลือกนอก ขาดการรู้จัก
และเข้าใจกันอย่างแท้จริง
4.คนเราควรดำเนินชีวิตในทางยุติธรรมดัง
เช่น ประพันธ์เขาไม่ชอบการใช้เส้นสายแต่
ไม่สามารถหางานได้ด้วยตนเองจึงต้อง
ยอมรับงานที่ผู้ใหญ่ฝากฝั งให้แต่ก็ได้ใช้ความ
สามารถของตนเองทำให้ได้รับพระราชทาน
บรรดาศักดิ์
บรรณานุกรม
คําศัพท์และคําทับศัพท์ สืบค้นเมื่อ 15 ก.ค. 2565 จาก
http://thn21679-01.blogspot.com/p/blog-
page_2581.html
ที่มาของเรื่อง สืบค้นเมื่อ 15 ก.ค. 2565 จาก
http://thn239011thai.blogspot.com/2016/02/blog
-post_8.html
ความรู้ประกอบเรื่อง สืบค้นเมื่อ 15 ก.ค. 2565 จาก
https://sites.google.com/a/skburana.ac.th/krume
en/khunkha-thi-di-rab-cak-reuxng
ผู้แต่งและประวัติผู้แต่ง สืบค้นเมื่อ 15 ก.ค.2565
https://sites.google.com/site/akanimart123/wrrnk
hdi-laea-wrrnkrrm-2/10-prawati-khwam-pen-
ma-laea-cud-prasngkh-khxng-kar-taeng-
reuxng-hawci-chay-hnum
ข้อคิด สืบค้นเมื่อ 15 ก.ค. 2565
http://www.satriwit3.ac.th/files/111006121244305
8_12083116162416.pdf
ผลงานนี้เป็ นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้รายวิชา
ท๓๑๑o๑ ภาษาไทย ๑
เสนอ ครูสุชาติ พิบูลย์วรศักดิ์ ครูประจําวิชา
จัดทําโดย
นาย ยศพร สินสืบผล เลขที่ ๙
นาย กฤษวัฒน์ ชูรัตน์ เลขที่ ๔
นาย ณพกร แจ่มจิรารักษ์ เลขที่ ๖
นาย สิทธินนท์ อร่ามศรี เลขที่ ๕
นาย สรวิชญ์ เดชมนตรี เลขที่ ๘
นางสาว มัทนา จันทะแสน เลขที่ ๑๕
นางสาว นันท์นภัส คําทอง เลขที่ ๑๔