รายงานโครงงาน ม.2.2

1

รายงานโครงงาน

เรื่อง สีท่ีนักเรยี นชนั้ ม.๒/๒ ชอบ

จดั ทำโดย

๑. เด็กชายจติ รนิ ภูพ้นื ประธาน

๒. เดก็ หญิงอาภาภทั ร แสวงนาม รองประธาน

๓. เด็กชายอนุชาติ โพธริ าชา กรรมการ

๔. เด็กชายอภชิ ัย สงวนนาม กรรมการ

๕. เดก็ หญิงรตั นาภรณ์ สุทธาวาศ กรรมการ

๖. เดก็ หญงิ สุรตั นด์ า ดวงใจ เลขานุการ

ครทู ป่ี รึกษาโครงงาน

คุณครูปานใจ หมู่สูงเนนิ

รายวชิ าภาษาไทย รหัสวิชา ท๒๒๑๐๑
ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๕

โรงเรียนไชยวานวิทยา สำนกั งานเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษามัธยมศึกษา อุดรธานี

2

บทคัดยอ่

เร่ือง สที น่ี กั เรียนชั้น ม.๒/๒ ชอบ

วัตถปุ ระสงค์
๑. เพ่ือสำรวจสีที่นกั เรยี นชน้ั ม.๒/๒ ชอบ
๒. เพื่อนำข้อมูลทไี่ ดจ้ ากการสำรวจมาวิเคราะห์

๓. เพ่ือศกึ ษาคน้ คว้าความรู้เก่ยี วกับสีท่ีนกั เรียนชนั้ ม.๒/๒ ชอบ
๔. เพอ่ื เช่อื มโยงความรไู้ ปส่วู ชิ าภาษาไทย

วิธกี ารศกึ ษา
๑. สำรวจสีท่นี กั เรยี นหอ้ ง ม.๒/๒ ชอบ
๒. นำข้อมลู ทีไ่ ดจ้ ากการสำรวจมาวิเคราะหข์ ้อมลู

๓. ศกึ ษาเอกสารท่เี ก่ยี วขอ้ ง
๔. รวบรวมข้อมูลทีไ่ ด้จากการศกึ ษาค้นควา้

๕. เขียนรายงาน และจัดทำรูปเลม่ ใหถ้ กู ต้อง
๖. นำเสนอผลงาน
๗. ประเมินผลโครงงาน

สรปุ ผลการศกึ ษา

๑. สามารถสำรวจสที ่นี กั เรยี นชน้ั ม.๒/๒ ชอบมากทส่ี ุด คอื สีฟ้า
๓. สามารถศึกษาคน้ ควา้ ความรู้เก่ยี วกบั สีได้
๔. เช่ือมโยงความรู้ไปส่วู ชิ าภาษาไทย ไดแ้ ก่ สำนวนไทยเกีย่ วกบั คำว่า ฟา้

3

คำนำ

รายงานโครงงาน เร่ือง สที ี่นกั เรียนชน้ั ม.๒/๒ ชอบ จัดทำขนึ้ เพื่อประกอบการเรยี นรายวชิ าภาษาไทย
รหัสวิชา ท๒๒๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๒/๒
ซึ่งผู้จดั ทำไดร้ วบรวมเนอ้ื หาและนำเสนอ เพอื่ แลกเปลี่ยนเรยี นรู้ ในระดับช้ันเรยี นไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพ
โดยแบ่งเน้อื หาสาระ ๕ บท ดงั น้ี

บทท่ี ๑ บทนำ ประกอบด้วย ทม่ี าและความสำคัญ วตั ถปุ ระสงค์ ขอบเขตของการศกึ ษา
และประโยชน์ท่คี าดว่าจะไดร้ ับ

บทท่ี ๒ เอกสารทีเ่ กี่ยวขอ้ ง
บทที่ ๓ วธิ ีดำเนนิ การศึกษา
บทท่ี ๔ ผลการศึกษาค้นควา้
บทท่ี ๕ บทสรุป และขอ้ เสนอแนะ
คณะผ้จู ัดทำหวงั วา่ รายงานโครงงานเลม่ น้ี จะมปี ระโยชนส์ ำหรับผทู้ ี่สนใจศึกษารูปแบบการทำโครงงาน
สำหรับนักเรียนในระดบั ชั้นน้ไี ดต้ ามสมควร หากโครงงานนี้มขี ้อบกพรอ่ งในส่วนใด คณะผ้จู ัดทำขอนอ้ มรับ-
คำแนะนำเพอื่ ปรับปรุงให้สมบรู ณ์ยง่ิ ขึ้นในโอกาสต่อไป

คณะผจู้ ัดทำ
ปีการศึกษา ๒๕๖๕

4

กิตติกรรมประกาศ

คณะผู้จัดทำขอขอบคุณ ผูอ้ ำนวยการประภสั สร ทามาลี ผู้อำนวยการโรงเรียนไชยวานวิทยา
ทใ่ี หก้ ารสนับสนนุ ดา้ นงบประมาณ และสอื่ อนิ เทอรเ์ นต็ ในการค้นคว้าขอ้ มลู ทำโครงงาน

ขอขอบคุณ คุณครูปานใจ หมู่สงู เนิน ครูผสู้ อนและครูท่ีปรึกษาโครงงาน ทใี่ หค้ วามรแู้ ละใหค้ ำปรกึ ษา
ท้ังรูปแบบ วิธีดำเนนิ งาน และการนำเสนอโครงงาน จนสามารถจัดทำโครงงานไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพ

ขอขอบคุณผู้ปกครองทกุ ทา่ น ทีใ่ หก้ ารสนบั สนุนงบประมาณเพ่มิ เตมิ ในการจัดทำ ใหข้ วญั กำลังใจ

และดา้ นอื่นๆ จนเสรจ็ สิ้นการดำเนนิ งาน
ขอบคุณเพ่ือนๆ ในกลุ่มทใี่ หก้ ำลังใจ และชว่ ยกนั ทำงานจนสำเร็จลุลว่ งไปด้วยดี

สารบญั 5

เรือ่ ง หน้า

บทที่ ๑ บทนำ 6
ท่มี าและความสำคญั 6
วัตถุประสงค์ 6
ขอบเขตของการศึกษา 6
ประโยชนท์ ี่คาดวา่ จะได้รบั
7
บทท่ี ๒ เอกสารทเ่ี ก่ียวขอ้ ง 9
ความรเู้ รือ่ งการเขยี นโครงงาน 9
10
บทท่ี ๓ วธิ ดี ำเนนิ การศึกษา 11
บทท่ี ๔ ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มลู /สรปุ ผลการศกึ ษาคน้ คว้า
บทที่ ๕ บทสรุป และขอ้ เสนอแนะ 13
บรรณานกุ รม 14
ภาคผนวก

ภาพกจิ กรรม
แบบสำรวจ

6

บทท่ี ๑ บทนำ

ท่มี าและความสำคญั ของโครงงาน
คนเราแตล่ ะคนย่อมมคี วามชอบในเรอื่ งต่างๆ ท่ไี ม่เหมอื นกัน โดยเฉพาะวยั รุ่นสมัยนม้ี กั จะมคี วามชอบ

ทแ่ี ตกต่างจากผใู้ หญ่หรอื คนทว่ั ไป อาจมสี าเหตุมาจากสภาพแวดลอ้ มหรอื สภาพสงั คมท่ีเปลีย่ นแปลงไปจากเดมิ
ดังน้ันผู้จัดทำจงึ ไดส้ ำรวจความชอบในสงิ่ ท่ีใกล้ตวั ของเพือ่ นในชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ ๒/๒ โดยความเห็นของ

สมาชกิ ในกล่มุ ตกลงกนั ว่าจะสำรวจสีทน่ี ักเรยี นชั้น ม.๒/๒ ชอบ ต่อจากนั้นจึงนำข้อมลู มาวิเคราะหค์ วามชอบมาก
ทส่ี ุด ค้นควา้ ความรู้เกย่ี วกับสงิ่ ท่ชี อบ ตลอดจนเชื่อมโยงความรู้เกย่ี วกับรายวชิ าท่ที ำโครงงานคอื วิชาภาษาไทย
นอกจากนี้ผจู้ ดั ทำได้ศกึ ษาหลกั การเขียนรายงานโครงงาน มกี ารคิดวเิ คราะห์ และสรา้ งสรรค์ผลงานรายกลมุ่
ซ่ึงเป็นการพัฒนาความคดิ และเขยี นโครงงานไดต้ รงตามมาตรฐานการเรียนรใู้ นระดบั ชนั้ นี้

วตั ถปุ ระสงค์
๑. เพื่อสำรวจสีท่ีนกั เรยี นชนั้ ม.๒/๒ ชอบ
๒. เพือ่ นำขอ้ มลู ทีไ่ ด้จากการสำรวจมาวิเคราะห์
๓. เพื่อศึกษาค้นควา้ ความรู้เก่ียวกบั สีทนี่ ักเรยี นชนั้ ม.๒/๒ ชอบมากท่ีสดุ
๔. เพอ่ื เชือ่ มโยงความรู้ไปสูว่ ชิ าภาษาไทย

ขอบเขตของการศึกษา
การเขยี นโครงงาน จากหนังสืออา่ นเพม่ิ เตมิ ระดับช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ ๒ กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ชิ า-

ภาษาไทย เรอ่ื งพัฒนาการคิดเพื่อพิชติ โครงงาน จัดทำโดยครปู านใจ หมู่สงู เนิน และความรเู้ กี่ยวกบั สที ่ีนกั เรยี น-
ช้ัน ม.๒/๒ ชอบมากท่ีสดุ และเช่ือมโยงความร้ใู ห้สัมพนั ธ์กบั รายวิชาภาษาไทย

ประโยชนท์ ่ีคาดวา่ จะไดร้ ับ
๑. ไดท้ ราบสีที่นักเรยี นชน้ั ม.๒/๒ ชอบมากทีส่ ดุ
๒. ได้ความรู้เกีย่ วกับข้อมลู ทวี่ เิ คราะห์
๓. ได้ความรเู้ กย่ี วกบั การเชือ่ มโยงไปส่วู ิชาภาษาไทย

7

บทที่ ๒ เอกสารท่ีเกย่ี วข้อง

ความร้เู รอ่ื งการเขียนโครงงาน จากหนังสอื อา่ นเพม่ิ เตมิ ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ ๒ กลุม่ สาระการเรียนรู้
วชิ าภาษาไทย เรือ่ งพัฒนาการคดิ เพ่อื พชิ ติ โครงงาน จัดทำโดยครูปานใจ หม่สู งู เนิน สรปุ ยอ่ ๆ ได้ดงั น้ี

ความหมายของโครงงาน
นกั วิชาการไดใ้ หค้ วามหมายของคำว่า “โครงงาน” (Project Work หรือProject Approach)

ไวห้ ลายความหมาย เช่น
โครงงาน คือ กิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ ผเู้ รียนได้ทำการศกึ ษาคน้ ควา้ และฝกึ ปฏิบัติด้วยตนเองตาม

ความสามารถ ความถนดั และความสนใจ
โครงงาน คือ การศกึ ษาค้นควา้ เกยี่ วกบั ส่ิงใดสง่ิ หนง่ึ หรือหลายๆส่ิงท่ีอยากรูค้ ำตอบให้ลึกซงึ้ หรือเรียนรู้

ในเรอ่ื งนน้ั ๆให้มากขึ้น โดยใชก้ ระบวนการ วธิ กี ารทศ่ี กึ ษาอย่างมีระบบ
โครงงาน คอื งานวิจัยเล็กๆ สำหรบั เปน็ การแก้ปัญหาหรอื ข้อสงสัยโดยใช้ทกั ษะกระบวนการ

ทางวิทยาศาสตร์ หากเนอ้ื หาเป็นไปตามกล่มุ สาระการเรียนรู้ใดจะเรยี กวา่ โครงงานกล่มุ สาระการเรียนร้นู ัน้ ๆ

จดุ ม่งุ หมายในการทำโครงงาน
๑. เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนไดศ้ ึกษาขอ้ มูลจากแหลง่ ความรู้ต่าง ๆ ด้วยตนเอง
๒. เพ่ือให้ผู้เรยี นไดแ้ สดงออกซึ่งความคดิ รเิ ริม่ สร้างสรรค์
๓. เพอื่ ใหผ้ ้เู รยี นเกดิ คณุ ลักษณะท่ีพึงประสงค์ เช่น รู้จักทำงานรว่ มกบั บุคคลอื่น มีความเชื่อมัน่ ในตนเอง

มคี วามรับผิดชอบ เป็นตน้
๔. เพื่อใหผ้ เู้ รยี นใช้ความรแู้ ละประสบการณ์เลอื กทำโครงงานตามความสนใจ

ประโยชนท์ ่ไี ด้รับจากการทำโครงงาน
๑. ได้ความสามัคคีภายในหมคู่ ณะ
๒. ได้ฝกึ ทำงานเป็นกลุ่ม
๓. ได้ความคิดสร้างสรรค์
๔. ไดแ้ ลกเปลย่ี นความรกู้ ับเพือ่ นตา่ งกล่มุ

ประเภทของโครงงาน
แบ่งตามลกั ษณะการเรยี นรู้ เป็น ๒ ประเภทใหญ่ๆ ได้ดงั นี้
๑. โครงงานตามสาระการเรยี นรู้ เป็นโครงงานท่ีบรู ณาการความรู้ หรอื ทกั ษะในการปฏิบัติ

ทอี่ ยูใ่ นกล่มุ สาระเดยี วกนั
๒. โครงงานตามความสนใจ เป็นโครงงานทีผ่ ้เู รียนกำหนดขัน้ ตอน ความถนดั ความสนใจ ความตอ้ งการ

โดยใช้ทักษะความรู้ จากกลุ่มสาระการเรยี นรู้ต่างๆมาบรู ณาการเป็นโครงงาน
แบ่งตามวตั ถปุ ระสงค์ จะแบง่ ได้ ๔ รปู แบบ ดังนี้
๑. โครงงานทเ่ี ป็นการสำรวจ
๒. โครงงานท่ีเปน็ การศกึ ษาคน้ ควา้ ทดลองเพื่อการศึกษาเร่อื งใดเรือ่ งหนง่ึ โดยเฉพาะ
๓. โครงงานทเี่ ป็นการศึกษาทฤษฎี หลกั การ หรอื แนวคดิ ใหม่ ๆ
๔. โครงงานท่เี ปน็ การสร้างส่งิ ประดษิ ฐ์ คิดคน้ เปน็ โครงงานที่มวี ตั ถปุ ระสงค์เพอ่ื นำเอาความร้ทู ฤษฎี

หลักการ มาประยุกตใ์ ช้

8

ข้นั ตอนการจดั ทำโครงงานโดยทว่ั ไป

๑. ขนั้ นำเสนอ เสนอแนวคิด เพ่ือเลือกหรือกำหนดหัวข้อโครงงานตามทต่ี นเองหรอื กลุ่มสนใจ

๒. ขนั้ วางแผน ผเู้ รยี นจะต้องวางแผนการดำเนนิ งาน ออกแบบการทำโครงงาน

๓. ขั้นปฏบิ ัติ ผเู้ รียนจะตอ้ งลงมือปฏิบัตโิ ครงงานตามแผนทีว่ างไว้

๔. ขน้ั ประเมินผล ผู้เรยี นจะประเมินผลโครงงานของตนเอง โดยประเมินร่วมกับเพื่อนและครผู สู้ อน

ขั้นตอนการทำโครงงานอย่างละเอยี ด เป็น ๖ ข้ันตอน

ขั้นตอนท่ี ๑ การคดิ และเลือกหวั ขอ้ เร่ืองการตั้งช่ือโครงงาน

ขั้นตอนที่ ๒ การออกแบบการทำโครงงาน การวางแผนรูปแบบโครงงานทีท่ ำประกอบด้วยหัวข้อสำคัญ

ไดแ้ ก่ - การตัง้ ชอ่ื โครงงาน - การเขียนความเปน็ มาของโครงงาน

- วตั ถุประสงคข์ องโครงงาน - ขน้ั ตอนการดำเนนิ การ - ผลการศึกษา

- ประโยชน์ท่ีไดร้ ับ - วิธกี ารนำเสนอผลการศึกษา - แหลง่ อ้างองิ

ขนั้ ตอนที่ ๓ การลงมือทำโครงงาน

ขน้ั ตอนท่ี ๔ การเขียนรายงานโครงงาน

ขน้ั ตอนท่ี ๕ การนำเสนอผลงาน

ขน้ั ตอนท่ี ๖ การวัดผลประเมนิ ผล อาจมีการแลกเปล่ยี นประเมินร่วมกับเพอ่ื น ผ้ปู กครอง และครู

สว่ นประกอบของการเขยี นรายงานโครงงาน
การเขียนรายงานโครงงานโดยทว่ั ไปแบ่งเป็น ๓ ส่วน ดังน้ี

๑. สว่ นนำ ประกอบดว้ ย ปก บทคดั ย่อ คำนำ กิตติกรรมประกาศ และสารบญั

๒. สว่ นของเนอ้ื หา มักเขียนเป็นบท โดยทว่ั ไปแบ่งเป็น ๕ บท
บทที่ ๑ บทนำ ประกอบดว้ ย ทีม่ าและความสำคัญของโครงงาน วตั ถุประสงคข์ องการจัดทำโครงงาน

ขอบเขตของการจัดทำโครงงาน สมมตุ ฐิ านของการศึกษาค้นควา้ (ถ้าม)ี คำนยิ ามศัพท์เฉพาะ(อาจมีหรือไมม่ ีกไ็ ด้)
และประโยชนท์ ีค่ าดวา่ จะได้รบั

บทท่ี ๒ เอกสารทเี่ กีย่ วขอ้ ง เปน็ การศึกษาเอกสารที่ตรงกบั กรอบความคิด หรอื ขอบเขตการจัดทำ

บทท่ี ๓ วธิ ีดำเนนิ การศกึ ษา บอกวิธกี ารและขัน้ ตอนของการทำงาน
บทที่ ๔ ผลการวเิ คราะหข์ ้อมูล หรอื สรปุ ผลการศึกษาค้นคว้า ควรอธบิ ายผลที่ไดจ้ ากการทำ

อย่างละเอยี ดและสมบูรณ์ อาจสรปุ เชิงพรรณนา เชิงปรมิ าณ ตาราง แผนภมู ิ ตามความเหมาะสม
บทที่ ๕ บทสรุป และขอ้ เสนอแนะ โดยอภปิ รายผลใหส้ ัมพนั ธก์ บั วัตถุประสงค์ และเพิม่ ขอ้ เสนอแนะ

๓. สว่ นทา้ ย ประกอบดว้ ย เอกสารอ้างองิ หรือแหลง่ คน้ ควา้ และภาคผนวก (ถ้าม)ี

9

บทที่ ๓ วิธีดำเนนิ การศกึ ษา

๑. สำรวจสีที่นกั เรยี นชัน้ ม.๒/๒ ชอบ
๒. นำข้อมลู ที่ได้จากการสำรวจมาวเิ คราะห์ขอ้ มูล โดยจัดลำดบั ความชอบมากทส่ี ุด
๓. ศกึ ษาเอกสารทเี่ กีย่ วข้องกบั ประเพณที ่ชี อบมากที่สุด และคน้ คว้าความร้เู พอื่ เชื่อมโยงกบั

วชิ าภาษาไทย
๔. รวบรวมขอ้ มลู ทไี่ ด้จากการศกึ ษาค้นควา้

๕. เขียนรายงาน และจัดทำรปู เล่มให้ถูกต้อง
๖. นำเสนอผลงาน
๗. ประเมินผลโครงงาน

บทที่ ๔ ผลการวเิ คราะหข์ ้อมูล/สรุปผลการศึกษาค้นคว้า

๑. ผลสำรวจสีที่นักเรยี นช้ัน ม.๒/๒ ชอบมากทีส่ ุด คอื สีฟ้า
๒. ศกึ ษาคน้ ควา้ ความรทู้ ี่ได้จากการวิเคราะห์ คือสฟี า้ ไดด้ งั น้ี

สีฟ้า (sky blue) คือสีที่คลา้ ยสขี องท้องฟา้ ไร้เมฆตอนเทีย่ งทไ่ี ม่สะทอ้ นโลหะ ในภาษาอังกฤษ
คำวา่ "sky-blue" บรรจอุ ยู่ใน New English Dictionary (1919) โดยเขยี นวา่ มใี ช้ครง้ั แรกในบทความ "silver"
ใน Cyclopaedia แตง่ โดย Ephraim Chambers ปี 1728 อยา่ งไรกด็ ีมีการใช้คำวา่ "sky blue" เป็นชื่อสีกอ่ น
Chambers เชน่ มีคำว่า "sky blue" ใน A Collection of Voyages and Travels (London: Awnsham and
John Churchill, 1704), vol. 2, p. 322 โดยอธิบายสนี ี้กบั ดอกไม้ ชอ่ื ของสนี ้นี า่ จะมีการใช้ครั้งแรกเม่ือปี 1585
ในหนงั สือของ Nicolas de Nicolay ทเ่ี ขยี นว่า "the tulbant of the merchant must be skie coloured

สีน้ำเงิน และสฟี ้า
เป็นหนึ่งในแม่สี ทงั้ แม่สที างแสง และทางวตั ถธุ าตุ เปน็ แม่สีท่มี ีความยาวคลื่นต่ำที่สุด แสงสีน้ำเงนิ
มบี ริเวณช่วงคล่ืนระหวา่ ง 440-490 นาโนเมตร เป็นสีทใี่ กล้เคยี งกบั สฟี ้าและสีกรมทา่ และถือเป็น 1 ในแม่สี
ร่วมกบั สแี ดง และสีเหลือง
สนี ำ้ เงิน เป็นสีในกล่มุ สโี ทนเยน็ สนี ้ำเงินเป็นสที ี่สรา้ งความสุขุมเยอื กเย็น หนกั แน่นและละเอยี ดรอบคอบ
ใชใ้ นการสร้างแรงบันดาลใจและการแสดงออกทางศิลปะไดด้ ีอกี ดว้ ย ขณะท่ีสีฟ้าให้ความรู้สึกแบบเดยี วกบั -
สีเขยี ว คือ สบายตา ให้ความรสู้ ึกเป็นอิสระ ปลอดโปร่ง โลง่ ใจ ลดความร้อนรุม่ กระวนกระวายใจลงได้

สญั ลกั ษณส์ ีน้ำเงินทนี่ า่ รู้
สนี ้ำเงนิ เปน็ สีแทนสัญลักษณ์ของความสุขุม ความรอบคอบ และมติ รภาพ
สนี ้ำเงนิ เปน็ สีแทนสญั ลักษณข์ องความเป็นผู้ชาย แต่ในทางลบ สนี ้ำเงินเปน็ สญั ลกั ษณข์ องบาปราคะ
เปน็ สญั ลกั ษณ์สีของวนั ศุกร์
ในประเทศไทย สีนำ้ เงนิ ปรากฏเป็นสีตรงกลางในธงไตรรงค์ มีความหมายถงึ สถาบนั พระมหากษัตรยิ ์
สีฟ้าหม่น เปน็ สปี ระจำทหารบก เหลา่ ทหารมา้
สีนำ้ เงิน เปน็ สีประจำของธนาคารกรุงเทพ
สฟี ้าอ่อน เปน็ สีประจำของธนาคารกรงุ ไทย
สีนำ้ เงนิ ออ่ น เปน็ สีประจำของธนาคารทหารไทย
สีน้ำเงิน เปน็ สปี ระจำของกองทัพอากาศ

10

ความหมายและพลงั ของสีฟา้ (ปัญญา ความร้)ู
ความหมาย
ความสงบ ความเงียบ ความมน่ั คง ความศรทั ธา ความมรี ะเบยี บ ความจริง ความสุขุม ความเชอ่ื ถอื ความ
จงรกั ภักดี ความเยอื กเย็น ความราบรน่ื ความเป็นเอกภาพ ความเป็นอนุรกั ษน์ ิยม แรงบันดาลใจ
พลงั ของสีนำ้ เงิน - สีฟา้
โทนสีนจ้ี ะให้ความร้สู ึกสงบเยน็ ที่สุด ช่วยทำให้ผ่อนคลายและทำให้จิตใจรู้สกึ สงบ เนอ่ื งจากเปน็ สที ่ีช่วย
กระต้นุ ปฏกิ ริ ยิ าเคมีในรา่ งกาย นอกจากน้ันยังเปน็ สีโปรดของผคู้ นทวั่ โลกมากกว่าคร่ึง และยังถกู เลือกให้เปน็ ‘สีท่ี
ปลอดภยั ’ ที่สุดในกรณีที่คณุ ไม่แนใ่ จว่าจะใช้สีอะไรดีอีกด้วย โทนสีฟา้ จะกระตนุ้ ความคิดสรา้ งสรรคแ์ ละอสิ ระ
สว่ นโทนสนี ำ้ เงินนั้นจะสือ่ ถงึ ฐานะของสังคมช้ันสูง และความร่ำรวย สีน้ำเงนิ เข้มแสดงออกถึงความรู้
ความเฉลียวฉลาด ตรรกะเหตุผล และความไวเ้ นือ้ เช่อื ใจ จงึ เหมาะมากๆเลยคะ่ หากจะนำมาใชเ้ ก่ยี วกบั งาน
หรอื ในสถานที่ทำงาน เพราะจะช่วยสร้างบรรยากาศสุขมุ และเป็นมืออาชพี
๓. เชอ่ื มโยงความร้ไู ปสู่วิชาภาษาไทย โดยวเิ คราะห์คำวา่ ฟา้ ทเี่ ปน็ คำสภุ าษิต สำนวนไทย
คำอุปมาอุปไมย ได้ดงั นี้
๑. ถม่ นำ้ ลายรดฟา้ เปน็ สำนวนไทย หมายถึง ประทุษร้ายตอ่ ส่ิงที่สงู กว่าตน ตวั เองยอ่ มไดร้ บั ผลรา้ ย
๒. ฟา้ สูงแผน่ ดินตำ่ เป็นสุภาษิต หมายถึง ให้รจู้ ักกาลเทศะ มีความเจยี มตัว รจู้ ักที่ตำ่ ท่ีสงู
๓. สุดหล้าฟา้ เขียว หมายถึง ไกลที่สดุ เปรยี บเหมือนขอบฟา้
๔. ฝนสัง่ ฟา้ ปลาส่ังหนอง เป็นสำนวนไทย หมายถึง สง่ั เสยี เปน็ ครงั้ สุดท้าย ทำการอนั ใดที่เปน็ เรอื่ งสำคัญ
เพ่อื ไวอ้ าลยั ก่อนจากไป
๕. พลอยฟ้าพลอยฝน เป็นสำนวนไทย หมายถึง ไมไ่ ด้เก่ยี วขอ้ งก็เป็นตามไปดว้ ย หรอื ไมไ่ ด้เกีย่ วข้องแตก่ ็
รบั เคราะหไ์ ปกับเขาดว้ ย
๖. มาเหนอื เมฆ เป็นสำนวนไทย หมายถึง มคี วามคิดหรือชัน้ เชิงเหนือผู้อืน่ หรอื ปรากฏขึน้ โดยไมค่ าดหมาย
หรอื คดิ หรือทำด้วยชน้ั เชงิ เหนือผอู้ ืน่
๗. ดอกฟา้ เปน็ สำนวนไทย หมายถึง หญิงท่ีมฐี านะสูงส่งเหนือกวา่ ชายทีม่ าหมายปอง
๘. มืดฟา้ มัวดิน เป็นสำนวนไทย หมายถึง มากมายนบั ไมถ่ ว้ น
๙. ฟ้ารวั่ เปน็ ภาษาปาก หมายถงึ อาการท่ีฝนตกหนักตดิ ต่อกนั นานๆ
๑๐. แหงนดูฟา้ อย่าให้อายเทวดา เปน็ สำนวนจากวรรณคดี หมายถึง อยา่ ทำในส่งิ ท่ผี ดิ กฎหมายหรือทำชว่ั
จงทำความดีไว้เถดิ เวลาท่ีแหงนดูฟา้ จะได้ไมอ่ ายเทวดา

บทที่ ๕ บทสรปุ และข้อเสนอแนะ

ข้อเสนอแนะ
คุณครูควรใหเ้ วลาในการทำมากกว่านี้ เพราะเวลาไม่เพียงพอทำให้ผลงานไมด่ เี ทา่ ท่ีควร

ปญั หา/อปุ สรรค
เพื่อนในกลุ่มบางคน ชอบเลน่ และวุ่นวาย ไมช่ ่วยงาน บางคนเขยี นไมส่ วย วาดภาพและระบายสีไมส่ วย

แนวทางแก้ไข
คนท่ีทำงานดีทำงานแทนเพ่ือนบางคน ให้ประธานกลุ่มว่ากลา่ วตกั เตือน คุณครชู ่วยตกั เตือนและตัด

คะแนนคนท่ไี ม่ช่วยทำงาน
ความรู้สกึ /ความภูมิใจ

ภูมิใจที่สามารถทำโครงงานวิชาภาษาไทยสำเรจ็ สามารถสืบคน้ ขอ้ มลู จากอนิ เทอร์เน็ตเพอ่ื ประกอบใน
รายงานโครงงาน และได้รบั คำชมจากครูผู้สอนและเพ่ือนในช้นั เรยี นใหเ้ ปน็ แบบอย่างได้

11

บรรณานุกรม

ปานใจ หมู่สงู เนนิ . ใบความรเู้ รอ่ื งการเขียนโครงงาน. อัดสำเนา, ๒๕๖๕.
---------------------. ใบความรเู้ รอื่ งการสงั เกตคำไทยแท้และคำทม่ี าจากภาษาต่างประเทศ. อัดสำเนา, ๒๕๖๕.
วกิ ิพเี ดีย สารานุกรมเสรี. “สีฟา้ ”. [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ได้จาก https://th.wikipedia.org/wiki.

สบื คน้ ๕ กนั ยายน ๒๕๖๕.
สเี บเยอร์. “ความหมายและพลังของแต่ละสี”. [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ไดจ้ าก

https://www.beger.co.th ๒๕๖๕. สืบค้น ๕ กนั ยายน ๒๕๖๕.
Sanook. “พจนานกุ รมไทย ราชบณั ฑิตยสถาน”. [ออนไลน]์ . เข้าถึงไดจ้ าก https://dictionary.sanook.com

สบื คน้ ๕ กนั ยายน ๒๕๖๕.

12

ภาคผนวก

13

ภาพกจิ กรรม

14

แบบสำรวจสีท่นี ักเรียนชนั้ ม. ๒/๒ ชอบ

เลขท่ี ชือ่ -นามสกุล สที ช่ี อบ
1 ด.ช.กิตติกรณ์ นามมูลตรี ฟา้ นำ้ เงิน
2 ด.ช.จติ รนิ ภูพืน้
3 ด.ช.ชลันธร เศษเลิศ เขียว
4 ด.ช.ทรพั ยอ์ ดุ ร พระสว่าง เขียว
5 ด.ช.ทนิ วรรณ สาธพุ นั ธ์ เทา
6 ด.ช.ธนโชติ ลือชาพนั ธ์ ดำ
7 ด.ช.ธนภณ คำวิเชยี ร ฟ้า
8 ด.ช.นราวชิ ณ์ ดีมิตร แดง
9 ด.ช.ปรญิ ญา ศรสี ุขา ขาว
10 ด.ช.ปาณัสม์ สที องษา แดง
11 ด.ช.พริ เดช ภานนท์ ฟา้
12 ด.ช.วงศกร ท้าวเนาว์ ดำ
13 ด.ช.วราวุฒิ กองแสน เขยี ว
14 ด.ช.ศักด์ดิ า ประชาแปง ฟ้า
15 ด.ช.ศิริมงคล ศรีออ่ น ฟา้
16 ด.ช.สาธวี ขนั ดี ดำ
17 ด.ช.สทิ ธิพงษ์ พละศักด์ิ เขยี ว
18 ด.ช.สทิ ธิศกั ด์ิ เติบกายา ขาว
19 ด.ช.สรุ ศักด์ิ พรมแพง ฟา้
20 ด.ช.อนุชยั คยุ บตุ ร ดำ
21 ด.ช.อนชุ าติ โพธิราชา ดำ
22 ด.ช.อภชิ ัย สงวนนาม น้ำเงิน
23 ด.ช.เอกสิทธ์ิ พศิ งาม ฟา้
24 ด.ญ.กาญจนา เชญิ ชม ฟา้
25 ด.ญ.กุลจรี า จันทร์สุข ดำ
26 ด.ญ.ธญั พชิ ชา เดอื นจันทร์ ม่วง
27 ด.ญ.ธดิ ารัตน์ ฉิมพลี ฟา้
28 ด.ญ.ปริดิรญ์ าพร สมแวง ดำ
29 ด.ญ.พรนัชชา คันทะราช ขาว
30 ด.ญ.พินภา คำศิริ ฟ้า
ดำ

15

แบบสำรวจสีทนี่ กั เรียนช้นั ม. ๒/๒ ชอบ (ต่อ)

เลขท่ี ชื่อ-นามสกลุ สที ชี่ อบ
31 ด.ญ.พมิ พช์ นก เขม็ บบุ ผา ฟ้า
32 ด.ญ.ภัทรธิดา สนทาธร ฟา้
33 ด.ญ.ภสั สร บรรณทพิ ย์ ฟ้า
34 ด.ญ.มินตรา ประสมศรี ขาว
35 ด.ญ.รุ่งรวี นาถมทอง ดำ
36 ด.ญ.วรนุช วรยศ ฟ้า
37 ด.ญ.วิชญาดา จันทรแ์ กว้ มว่ ง
38 ด.ญ.ศภุ ธดิ า เจริญผล ดำ
39 ด.ญ.สุรัตน์ดา ดวงใจ ดำ
40 ด.ญ.อาภาภัทร แสวงนาม ชมพู

เด็กชายอนชุ าติ โพธิราชา ผู้สำรวจ