The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

บทสวดอานาปานสติสูตร.docx

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Napat Ruangkittikul, 2021-02-19 09:29:39

บทสวดอานาปานสติสูตร.docx

บทสวดอานาปานสติสูตร.docx

อานาปานสติปาฐะ

(หนฺท มยํ อานาปานสตปิ าฐํ ภณาม เส.)

อานาปานสติ ภิกขฺ เว ภาวติ า พหุลีกตา,
ดูก่อนภกิ ษุทั้งหลาย, อานาปานสติ อันบุคคลเจรญิ ทําให้มากแลว้ ,
มหปฺผลา โหติ มหานสิ ํสา, ยอ่ มมผี ลใหญ่ มีอานสิ งสใ์ หญ.่

อานาปานสติ ภิกขฺ เว ภาวติ า พหุลกี ตา,
ดูกอ่ นภกิ ษุทัง้ หลาย, อานาปานสติ อนั บคุ คลเจรญิ ทาํ ใหม้ ากแลว้ ,
จตฺตาโร สตปิ ฏฺฐาเน ปรปิ เู รต,ิ
ยอ่ มทาํ สติปฏั ฐานทงั้ สี่ให้บรบิ รู ณ์;
จตฺตาโร สตปิ ฏฺฐานา ภาวติ า พหลุ กี ตา,
สติปัฏฐานท้งั สี่ อนั บุคคลเจรญิ ทําให้มากแล้ว,
สตตฺ โพชฺฌงฺคา ปารปิ เู รนตฺ ิ ,
ยอ่ มทาํ โพชฌงค์ทงั้ เจด็ ให้บรบิ ูรณ์;
สตฺต โพชณฺ งฺคา ภาวติ า พหุลกี ตา,
โพชฌงค์ท้ังเจด็ อันบคุ คลเจริญ ทําให้มากแลว้ ,
วิชชฺ าวิมุตตฺ ึ ปริปเู รนตฺ ,ิ
ย่อมทําวิชชาและวมิ ุตตใิ ห้บรบิ ูรณ.์

กถํ ภาวติ า จ ภิกขฺ เว อานาปานสต,ิ กถํ พหลุ กี ตา,
ดูกอ่ นภกิ ษทุ งั้ หลาย, ก็อานาปานสตอิ ันบคุ คลเจริญ ทาํ ใหม้ ากแลว้ อย่างไรเล่า,
มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา, จึงมีผลใหญ่ มอี านสิ งส์ใหญ่ ?

อธิ ภิกฺขเว ภิกขฺ ,ุ ดูกอ่ นภิกษทุ ั้งหลาย, ภกิ ษใุ นธรรมวนิ ัยน,ี้
อรญฺญคโต วา, ไปแล้วสู่ป่ากต็ าม;
รุกฺขมลู คโต วา, ไปแล้วสู่โคนไมก้ ต็ าม;
สุญฺญาคารคโต วา, ไปแลว้ สู่เรือนว่างกต็ าม
นสิ ที ติ ปลฺลงฺกํ อาภุชติ ฺวา, นั่งคขู้ าเขา้ มาโดยรอบแลว้ ;
อุ ชํ กายํ ปณิธาย, ปรมิ ุขํ สตึ อปุ ฎฐฺ เปตฺวา,ต้ังกายตรง ดาํ รงสติมั่น;
โส สโต ว อสฺสสต,ิ สโต ปสฺสสต,ิ ภิกษนุ ้ัน เปน็ ผู้มีสตอิ ยู่นั่นเทียว หายใจออก, มสี ตอิ ยู่ หายใจเขา้ .

(๑) ทฆี ํ วา อสฺสสนโฺ ต, ทฆี ํ อสฺสสามีติ ปชานาต,ิ
ภกิ ษนุ น้ั เม่อื หายใจออกยาว, ก็รู้สึกตวั ทว่ั ถึง วา่ เราหายใจออกยาว ดังนี้;
ทฆี ํ วา ปสฺสสนฺโต, ทฆี ํ ปสฺสสามตี ิ ปชานาติฯ
เมอ่ื หายใจเขา้ ยาว, กร็ ู้สึกตัวทว่ั ถึง วา่ เราหายใจเข้ายาว ดงั น.ี้
(๒) รสฺสํ วา อสฺสสนโฺ ต, รสสฺ ํ อสฺสสามีติ ปชานาต,ิ
ภิกษุนน้ั เม่ือหายใจออกสน้ั , กร็ ้สู กึ ตวั ทวั่ ถึง ว่าเราหายใจออกสน้ั ดังนี้;
รสฺสํ วาปสฺสสนฺโต, รสฺสํ ปสฺสสามตี ิ ปชานาติฯ
เม่ือหายใจเขา้ สั้น, กร็ สู้ กึ ตวั ทัว่ ถึง ว่าเราหายใจเขา้ ส้ัน ดังน้.ี
(๓) สพพฺ กายปฏิสเํ วที อสสฺ สิสสฺ ามตี ิ สกิ ฺขต,ิ
ภกิ ษุนนั้ ย่อมทาํ ในบทศกึ ษาวา่ เราเป็นผรู้ ู้พร้อมเฉพาะซง่ึ กายท้งั ปวง จกั หายใจออก ดังน้ี;
สพฺพกายปฏสิ ํเวที ปสฺสสิสฺสามตี ิ สกิ ขฺ ตฯิ
ย่อมทําในบทศกึ ษาวา่ เราเปน็ ผรู้ ูพ้ รอ้ มเฉพาะซ่งึ กายทั้งปวง จกั หายใจเขา้ ดังน้ี.
(๔) ปสฺสมภยํ กายสงขฺ ารํ อสฺสสสิ ฺสามตี ิ สิกฺขต,ิ

ภิกษุน้นั ย่อมทาํ ในบทศึกษาวา่ เราเป็นผูท้ าํ กายสังขารให้รํางับอยู่ จกั หายใจออก ดงั น้.ี
ปสสฺ มภยํ กายสงขฺ ารํ ปสสฺ สสิ ฺสามตี ิ สกิ ขฺ ตฯิ
ย่อมทาํ ในบทศึกษาวา่ เราเป็นผทู้ าํ กายสงั ขารใหร้ าํ งับอยู่ จกั หายใจเขา้ ดงั นี.้

(จบ หมวดกาย)
(๕) ปตี ิปฏิสํเวที อสฺสสสิ ฺสามตี ิ สิกขฺ ต,ิ
ภิกษนุ ้ัน ย่อมทาํ ในบทศกึ ษาวา่ เราเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซ่งึ ปีติ จกั หายใจออก ดงั นี้,
ปตี ปิ ฏสิ ํเวที ปสสสสิ ฺสามตี ิ สกิ ขฺ ตฯิ
ยอ่ มทาํ ในบทศึกษาวา่ เราเป็นผ้รู พู้ ร้อมเฉพาะซง่ึ ปตี ิ จกั หายใจเขา้ ดงั น้ี.
(๖) สขุ ปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามตี ิ สิกฺขต,ิ
ภกิ ษนุ ั้น ยอ่ มทาํ ในบทศกึ ษาวา่ เราเป็นผูร้ พู้ รอ้ มเฉพาะซึ่งสุข จกั หายใจออก ดงั น้ี;
สุขปฏสิ ํเวที ปสฺสสสิ สฺ ามีติ สกิ ฺขติฯ
ยอ่ มทําในบทศึกษาวา่ เราเป็นผ้รู ้พู ร้อมเฉพาะซ่ึงสุข จกั หายใจเข้า ดงั น.ี้
(๗) จติ ตฺ สงขฺ ารปฏิสเํ วที อสฺสสสิ ฺสามตี ิ สิกฺขต,ิ
ภิกษุน้ัน ยอ่ มทาํ ในบทศึกษาว่า เราเปน็ ผรู้ พู้ รอ้ มเฉพาะซ่งึ จิตตสังขาร จกั หายใจออกดังน้ี;
จิตฺตสงขฺ ารปฏสิ เํ วที ปสฺสสสิ ุสามตี ิ สกิ ขฺ ตฯิ
ย่อมทาํ ในบทศึกษาวา่ เราเปน็ ผรู้ พู้ ร้อมเฉพาะซงึ่ จติ ตสังขาร จกั หายใจเขา้ ดังน.้ี
(๘) ปสฺสมฺภยํ จิตตฺ สงขฺ ารํ อสสฺ สิสฺสามตี ิ สิกฺขต,ิ
ภิกษนุ ั้นย่อมทําในบทศกึ ษาว่า เราเป็นผทู้ าํ จิตตสงั ขารใหร้ ํางับอยู่ จักหายใจออกดังน้ี;
ปสฺสมภฺ ยํ จติ ฺตสงขารํ ปสฺสสิสฺสามตี ิ สิกฺขตฯิ
ย่อมทาํ ในบทศกึ ษาวา่ เราเปน็ ผู้ทําจติ ตสังขารให้รํางับอยู่ จกั หายใจเขา้ ดงั น้ี.

(จบ หมวดเวทนา)

(๙) จิตตฺ ปฏิสเํ วที อสสฺ สสิ ฺสามีติ สกิ ขฺ ต,ิ
ภกิ ษนุ น้ั ย่อมทาํ ในบทศกึ ษาว่า เราเป็นผู้รูพ้ ร้อมเฉพาะซงึ่ จติ จกั หายใจออก ดังน้ี;
จติ ฺตปฏิสํเวที ปสฺสสสิ ฺสามตี ิ สิกขฺ ติฯ
ย่อมทําในบทศกึ ษาวา่ เราเปน็ ผรู้ ูพ้ ร้อมเฉพาะซึ่งจิต จกั หายใจเขา้ ดังน้.ี

(๑๐) อภปิ ฺปโมทยํ จติ ตํ อสฺสสสิ สฺ ามตี ิ สกิ ฺขต,ิ
ภกิ ษนุ ้ัน ย่อมทาํ ในบทศึกษาว่า เราเปน็ ผูท้ ําจติ ใหป้ ราโมทย์ย่งิ อยู่ จกั หายใจออก ดงั น้ี;
อภิปฺปโมทยํ จติ ฺตํ ปสฺสสสิ ฺสามตี ิ สิกขฺ ตฯิ
ย่อมทําในบทศกึ ษาวา่ เราเปน็ ผทู้ ําจติ ให้ปราโมทย์ยง่ิ อยู่ จกั หายใจเขา้ ดังน้ี.

(๑๑) สมาทหํ จิตตฺ ํ อสฺสสิสฺสามีติ สกิ ขฺ ต,ิ
ภิกษุนนั้ ยอ่ มทาํ ในบทศึกษาว่า เราเป็นผูท้ าํ จติ ให้ต้งั ม่ันอยู่ จักหายใจออก ดังน้ี;
สมาทหํ จติ ตฺ ํ ปสฺสสิสสุ ามีติ สกิ ฺขติฯ
ยอ่ มทําในบทศกึ ษาวา่ เราเป็นผูท้ าํ จติ ใหต้ ้งั มน่ั อยู่ จักหายใจเขา้ ดงั น้ี.

(๑๒) วโิ มจยํ จติ ฺตํ อสฺสสิสสุ ามตี ิ สิกขฺ ต,ิ
ภิกษุน้ัน ยอ่ มทาํ ในบทศกึ ษาว่า เราเป็นผูท้ าํ จติ ใหป้ ลอ่ ยอยู่ จกั หายใจออก ดังน;้ี
วโิ มจยํ จติ ฺตํ ปสฺสสิสฺสามตี ิ สิกฺขติฯ
ยอ่ มทําในบทศกึ ษาวา่ เราเปน็ ผูท้ าํ จติ ใหป้ ล่อยอยู่ จักหายใจเขา้ ดังน.้ี

(จบ หมวดจิต)

(๑๓) อนิจจฺ านปุ สฺสี อสฺสสิสฺสามตี ิ สิกขฺ ต,ิ
ภกิ ษนุ น้ั ย่อมทาํ ในบทศกึ ษาว่า เราเปน็ ผู้ตามเห็นซ่ึงความไมเ่ ทีย่ งอย่เู ป็นประจาํ จักหายใจออก ดังน;้ี
อนจิ จฺ านปุ สฺสี ปสฺสสิสสฺ ามตี ิ สิกขฺ ติฯ

ย่อมทําในบทศกึ ษาวา่ เราเปน็ ผู้ตามเหน็ ซ่ึงความไม่เทยี่ งอยู่เปน็ ประจํา จักหายใจเข้า ดงั น.้ี
(๑๔) วริ าคานปุ สฺสี อสฺสสสิ ฺสามีติ สกิ ฺขต,ิ

ภกิ ษุนนั้ ย่อมทาํ ในบทศึกษาว่า เราเปน็ ผู้ตามเห็นซงึ่ ความจางคลายอยู่เป็นประจาํ จกั หายใจออก ดังน้ี;
วิราคานุปสฺสี ปสฺสสสิ สฺ ามตี ิ สิกขฺ ติฯ
ย่อมทาํ ในบทศกึ ษาวา่ เราเป็นผตู้ ามเหน็ ซ่ึงความจางคลายอยู่เปน็ ประจํา จกั หายใจเข้า ดังน้.ี

(๑๕) นิโรธานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามตี ิ สกิ ขฺ ต,ิ
ภิกษนุ ้นั ยอ่ มทาํ ในบทศึกษาว่า เราเป็นผู้ตามเห็นซง่ึ ความดับไม่เหลืออยเู่ ป็นประจํา จกั หายใจออก ดงั น้:ี
นโิ รธานปุ สฺสี ปสฺสสสิ ฺสามตี ิ สกิ ฺขติฯ
ยอ่ มทาํ ในบทศกึ ษาวา่ เราเป็นผตู้ ามเหน็ ซง่ึ ความดบั ไม่เหลืออยเู่ ปน็ ประจํา จกั หายใจเขา้ ดังน้.ี

(๑๖) ปฏนิ ิสฺสคคาฺ นปุ สฺสี อสสฺ สสิ ฺสามตี ิ สิกฺขต,ิ
ภิกษุนน้ั ยอ่ มทาํ ในบทศกึ ษาว่า เราเป็นผูต้ ามเหน็ ซึง่ ความสลดั คนื อยูเ่ ป็นประจาํ จักหายใจออก ดังน;ี้
ปฏินสิ ฺสคฺคานุปสฺสี ปสสฺ สิสสฺ ามตี ิ สิกขฺ ตฯิ
ยอ่ มทาํ ในบทศกึ ษาวา่ เราเป็นผู้ตามเหน็ ซึ่งความสลดั คืนอย่เู ป็นประจํา จักหายใจเขา้ ดังน.้ี

(จบ หมวดธรรม)

เอวํ ภาวติ า โข ภกิ ฺขว อานาปานสต,ิ เอวํ พหลุ ีกตา,
ดกู ่อนภกิ ษุท้งั หลาย, อานาปานสติอนั บคุ คลเจริญแล้ว ทําให้มากแล้ว อย่างน้แี ล;
มหปฺผลา โหติ มหานสิ ํสา, ยอ่ มมีผลใหญ่ มีอานสิ งส์ใหญ,่
อิตฯิ ดว้ ยประการฉะนแ้ี ล.


Click to View FlipBook Version