งานวจิ ัยในช้นั เรยี น
เรอ่ื ง การพฒั นาผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์โดยใช้สือ่
เรื่อง ตวั กลางของแสง นกั เรยี นชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 4 โรงเรียนบา้ นหนองไทร
โดย
นางสาวธัชพรรณ โอนสันเทยี ะ
กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์
ครผู ้สู อนระดับช้ันประถมศึกษาปีที่ 4
ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2563
โรงเรียนบา้ นหนองไทร
สำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศกึ ษา ลพบุรี เขต 2
ช่ือเรอื่ ง การพฒั นาผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี นวิชาวิทยาศาสตรโ์ ดยใช้สือ่
ชอื่ ผู้วจิ ยั เร่อื ง ตวั กลางของแสง นักเรยี นชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 4 โรงเรียนบ้านหนองไทร
นางสาวธัชพรรณ โอนสนั เทียะ
ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา
ปัจจุบันน้ีเป็นที่ยอมรับกันว่าเรื่องสำคัญท่ีสุดในแวดวงการศึกษาไทยก็คือ การปฏิรูป
การศึกษา เพราะในอดตี ที่ผ่านมาการเรยี นการสอนของไทยมีอยู่เฉพาะในห้องสี่เหล่ียมแคบๆ มีผ้สู อน
ทำหน้าท่พี ดู ผ้เู รยี น มีหน้าท่ฟี ัง และท่องหนงั สอื หรือยึดตำราเป็นหลกั ไมส่ ามารถเผชญิ และแก้ปญั หา
ได้เพราะโลกแห่งวิชา ในห้องเรียนกับโลกแห่งความเป็นจริงต่างกัน ดังนั้นการปฏิรูปการศึกษาจึงเป็น
ส่ิงสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการ (อนันต์ รัตนภานุศร, 2546:44-45) การศึกษาต้องยึดหลักผู้เรียน ทุก
คนมีความสามารถเรียนรู้ และพัฒนาตนเองได้และถอื ว่าผเู้ รียนสำคัญท่ีสุด กระบวนการจัดการศึกษา
ต้องส่งเสริมให้ผู้เรียน สามารถพัฒนาตามธรรมชาติ และเต็มธรรมชาตินอกจากนั้นควรส่งเสริม
สนับสนุน ให้ผู้สอนสามารถจัดบรรยากาศ สภาพแวดล้อม สื่อการเรียนและอำนวยความสะดวก
เพ่ือให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้และมีความรอบรู้ การที่จะทำให้การปฏิรูปการศึกษาสำเร็จตามความมุ่ง
หมาย ผู้เรียนและผู้จัดการศึกษาจะต้องเปล่ียนแปลงบทบาทจากการเป็นผู้ชี้นำให้จำ ผู้ถ่ายทอด
ความรู้มาเป็นผู้ช่วยเหลือ ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้เรียนแสวงหาความรู้จากส่ือ และแหล่งการเรียนรู้
ต่างๆ และใหข้ อ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ งแกผ่ ู้เรยี น เพ่อื นำไปสรา้ งสรรค์ความร้ขู องตนไปใชป้ ระโยชน์ตอ่ ไป
อย่างไรก็ตามในการจัดการเรียนการสอนก็พบปัญหาและอุปสรรคบางประการที่ทำให้การ
เรียน การสอนยังไม่บรรลุวัตถุประสงค์ท่ีต้ังไว้ โดยส่วนใหญ่รูปแบบการเรียนการสอนเป็นแนว
นามธรรมมากกว่ารูปธรรม คือสอนแบบบรรยายอธิบายความรู้ ขาดสื่อเพ่ือเพ่ิมความชัดเจนและ
กระตุ้นความสนใจของผู้เรียน ส่งผลให้ผู้เรียนมีความรู้ท่ีไม่ยั่งยืน รู้แล้วลืม ทำให้ผู้เรียนไม่สามารถ
สงั เคราะหแ์ ละบรู ณาการความรตู้ ่างๆ ในการทำความเข้าใจธรรมชาติ และสิ่งแวดลอ้ มรอบตัวไว้
ด้วยเหตุนี้ ผู้วิจัยจึงสนใจที่จะพัฒนาสื่อเร่ือง ตัวกลางของแสงขึ้นซึ่งเป็นส่ือนวัตกรรมการ
เรียนรู้อย่างหน่ึงโดยมีจดุ มงุ่ หมายเพื่อศึกษาผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นวิทยาศาสตร์และความพงึ พอใจใน
การจดั การเรียนรูโ้ ดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียน เร่ือง ตัวกลางของแสง ท้ังนี้เพื่อนำผลวิจัยดงั กล่าวมาใช้
เป็นแนวทางในการจัดการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์และนำไปปรับปรุงการเรียนการสอน
วทิ ยาศาสตรใ์ ห้มีประสทิ ธิภาพตอ่ ไป
วัตถุประสงคข์ องการวิจัย
เพื่อสรา้ งสื่อ เรื่องตวั กลางของแสง พฒั นาผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนวชิ าวิทยาศาสตร์ของ
นักเรยี นชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 4 โรงเรียนบา้ นหนองไทร
สมมติฐานของการวจิ ัย
สื่อเร่อื ง ตวั กลางของแสง สามารถพฒั นาผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นรายวิชาวิทยาศาสตรข์ อง
นกั เรียนชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 ใหส้ ูงขึ้น
ขอบเขตการวิจัย
1. ดา้ นประชากร ประชากรท่ีใช้ในการวิจยั ครั้งน้ี คือ นักเรียนช้ันประถมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรียน
ที่ 1 ปีการศึกษา 2565 โรงเรยี นบา้ นหนองไทร ตำบลชอนสมบูรณ์ อำเภอหนองมว่ ง จงั หวดั ลพบรุ ี
2. ดา้ นเน้ือหา เนื้อหาทใ่ี ช้ในการวิจยั คร้ังน้ี คือ หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 4 เเสง หน่วยยอ่ ยท่ี 1
ตัวกลางของแสง
3. ตัวแปรท่ใี ช้ในการศึกษา
3.1 ตวั แปรต้น ได้แก่ สื่อ เรอ่ื งตัวกลางของแสง
3.2 ตัวแปรตาม ได้แก่ ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนรายวิชารายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ของ
นกั เรียนชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 4 โรงเรียนบ้านหนองไทร
นยิ ามเชงิ ปฏบิ ตั ิการ
1. ผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนรายวิชารายวชิ าวิทยาศาสตร์ หมายถึง คะแนนที่ไดจ้ ากการ
ทำแบบทดสอบผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนในรายวชิ ารายวชิ าวิทยาศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 เรอ่ื ง
โลกและอวกาศ หลงั จากทำผังมโนทศั นส์ รุปบทเรยี น
2. สือ่ หมายถึง ตวั กลางทใี่ ช้ถา่ ยทอดหรือนำความรใู้ นลกั ษณะต่าง ๆ จากผู้สง่ ไปยงั ผู้รับ ให้
เขา้ ใจ ความหมายไดต้ รงกัน ในการเรียนการสอน สื่อที่ใชเ้ ป็นตัวกลางนำความรใู้ นกระบวนการสอื่
ความหมาย ระหว่างผ้สู อนกับผู้เรียน เรยี กวา่ สื่อการเรียนการสอน
ประโยชน์ทค่ี าดวา่ จะได้รับ
1. การใช้สอ่ื เร่อื งตวั กลางของแสง จะสามารถพัฒนาผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนรายวิชารายวิชา
วทิ ยาศาสตร์ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ เเสง หน่วยย่อยท่ี 1 ตัวกลางของแสง ของชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 4 ให้
สงู ข้ึนได้
2. นักเรียนมคี วามสนใจในการเรยี นและเขา้ ใจเนอื้ หาในเน้ือหาเรอ่ื ง ตัวกลางของแสง มากขึ้น
เอกสารและงานวจิ ัยทเ่ี ก่ยี วข้อง
ก่ิงแก้ว อารีรักษ์และคณะ (2548) กล่าวว่า ในบรรดาสื่อการสอนที่ได้นำไปใช้เป็นเครื่องช่วย
การเรียนการสอนน้ัน ส่ือวีดิทัศน์เป็นสื่อหนึ่งที่เข้ามามีบทบาท และอิทธิพลต่อการศึกษาเป็นอย่างยิ่ง
เพราะคุณสมบตั ิของวีดทิ ัศน์เออ้ื อำนวยใหเ้ กิดประโยชน์ในการศึกษาหลายประการ คือ สามารถนำสิ่ง
ที่อยู่ภายนอกห้องเรียนเข้ามาสู่นักเรียนในห้องได้ สามารถใช้เทคนิคในการถ่ายทำเพ่ือให้นักเรียนได้
เห็นส่งิ ทเี่ ล็กมาก ๆ ได้อยา่ งชดั เจนดว้ ยตาเปล่า สามารถตัดต่อแก้ไข หรือเพ่ิมเติมเนื้อหาให้ทันสมยั อยู่
เสมอ ทำให้การเรียนการสอนเกิดประโยชน์ตรงกับความต้องการของผู้สอนวีดิทัศน์ยังเอื้ออำนวยให้
การเรียนการสอนเกิดประสิทธภิ าพสูงสุดได้ เพราะสามารถดซู ำ้ ไดห้ ลายคร้ังจนกวา่ จะเขา้ ใจหรือจดจำ
ได้และยังสามารถช่วยครูผู้สอนได้ด้วยการบันทึกภาพการสอนของครูแล้วนำมาเปิดชมเพ่ือตรว จสอบ
ความบกพร่อง และข้อผิดพลาดน้นั ๆ เพือ่ พัฒนาการสอนใหไ้ ดผ้ ลดยี ง่ิ ขึ้นได้ตลอดเวลา
วิธดี ำเนินการวิจยั
การกำหนดประชากรและการเลือกกลุ่มตัวอย่าง
ประชากรท่ีใชใ้ นการวิจัยไดแ้ ก่ นักเรยี นช้ันประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรยี นบ้านหนองไทร
จำนวน 3 คน ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2565
กลุ่มตัวอย่าง
กลุ่มตวั อย่างที่ใช้ในการวิจัย นกั เรียนชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 โรงเรียนบ้านหนองไทร
ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565 จำนวน 1 ห้องเรยี น 3 คน ซ่ึงได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง
เครือ่ งมือท่ีใช้ในการวิจยั
1. สื่อ เร่ืองตวั กลางแสง
2. แบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น ซึ่งเปน็ ข้อสอบปรนยั จำนวน 20 ข้อ คะแนนเต็ม
ทงั้ หมด 20 คะแนน และมีเกณฑ์ผ่านการประเมนิ คอื 10 คะแนน คิดเป็นรอ้ ยละ 50
การเกบ็ รวบรวมข้อมลู
1. นกั เรยี นช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 4 จำนวน 1 ห้องเรยี น จำนวน 3 คน
2. ทดสอบก่อนเรยี นโดยใช้แบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น
3. ดำเนินการสอนแลใช้ สือ่ เรื่องตวั กลางของแสง โดยผวู้ ิจยั เปน็ ผสู้ อนเอง
4. เมอ่ื ส้ินสดุ การสอนตามกำหนดแลว้ จงึ ทำการทดสอบหลงั เรียนโดยใช้แบบทดสอบวดั ผล
สัมฤทธ์ทิ างการเรยี น
5. นำผลคะแนนจากการตรวจสอบวัดผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนมาวิเคราะหโ์ ดยใชว้ ิธีการทาง
สถิติเพ่ือทดสอบสมมตฐิ านต่อไป
ผลการวิเคราะหข์ ้อมลู
ผวู้ จิ ยั รวบรวมคะแนนจากแบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนรายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ เรอ่ื ง
ตัวกลางของแสง ของนกั เรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านหนองไทร จำนวน 3 คน มา
วเิ คราะหร์ ้อยละทางสถติ ิ เพ่ือศกึ ษาเปรยี บเทยี บผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนก่อนและหลงั จากการดำเนนิ การ
วจิ ยั โดยมีขอ้ มลู ดงั น้ี
ตารางที่ 1 ตารางแสดงคะแนนการทดสอบ เรื่อง ตัวกลางของแสง ก่อนและหลงั จากใช้ผัง
มโนทศั นส์ รปุ เน้อื หา โดยแบบสอบมคี ะแนนเต็ม 20 คะแนน
เลขท่ี คะแนนกอ่ นใช้ คะแนนหลงั ใช้ ผลตา่ งคะแนน ร้อยละของคะแนนท่ี
ผงั มโนทัศนส์ รปุ เน้ือหา ผังมโนทัศน์สรุปเนอื้ หา (หลัง – ก่อน) เพิ่มขึ้น
40
1 10 18 8 35
18 7 50
2 11 15 10
35
จากตารางท่ี 1 เม่ือเปรยี บเทียบคะแนนกอ่ นและหลังจากการใช้ส่ือในการเรยี นการสอน
พบว่า นกั เรียนระดับชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 4 โรงเรียนบา้ นหนองไทร นักเรียนจำนวน 3 คน มคี ะแนน
สอบเพม่ิ ขึ้น คดิ เป็นร้อยละ 40 ของนักเรยี นท้ังหมด
ตารางที่ 2 คา่ เฉล่ยี ของคะแนนกอ่ นและหลงั การใช้ส่ือ เรื่องตัวกลางของแสง
ผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี น จำนวน คะแนนเต็ม คะแนนเฉลย่ี ส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐาน
นักเรียน
ก่อนเรยี น 20 8.67 1.92
หลงั เรียน 3 20 17 1.41
3
จากตารางที่ 2 พบว่า นักเรียนระดับช้ันประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 3 คน มีคะแนนเฉลี่ย
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนการใช้สื่อ เรื่อง ตัวกลางของแสง เท่ากับ 8.67 คะแนน ส่วนเบ่ียงเบน
มาตรฐาน 1.92 และคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนหลังการใช้สื่อเท่ากับ 17 คะแนน ส่วน
เบ่ียงเบนมาตรฐานเท่ากับ 1.41 แสดงว่า นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีผลสัมฤทธ์ิทางการ
เรียนเฉล่ียหลังการใช้ผังมโนทัศน์สรุปเน้ือหาสูงกว่าก่อนการใช้ผังมโนทัศน์สรุปเนื้อหาเท่ากับ 8.33
คะแนน
สรุปผลการวจิ ัย
จากการศึกษาผลของการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์โดยใช้ส่ือ เรื่อง
ตัวกลางของแสง นักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านหนองไทร ภาคเรียนที่ 1
ปีการศกึ ษา 2565 สามารถสรุปผลการวิจัยได้ดังน้ี
1. ส่ือ เร่ือง ตัวกลางของแสง ช่วยพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาทางการเรียน
รายวิชาวิทยาศาสตร์ของของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2565
โรงเรียนบ้านหนองไทร ให้ดีข้ึน โดยเม่ือพิจารณาค่าเฉลี่ยของคะแนนก่อนและหลังการใช้ผังมโนทัศน์
สรุปเน้ือหา พบว่า นักเรียนกลุ่มเป้าหมายจำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 67 ของนักเรียนท้ังหมด มี
คะแนนสอบสูงขึ้น โดยคะแนนเฉลย่ี ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนก่อนการใช้ผังมโนทัศน์สรปุ เน้ือหาเท่ากับ
8.67 คะแนน ส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐานเท่ากับ 1.92 และคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนหลังการ
ใช้ผังมโนทัศน์สรุปเน้ือหาเท่ากับ 17 คะแนน ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 1.41 แสดงว่า นักเรียน
ระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี 4 มีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนเฉลี่ยหลังการใช้ผังมโนทัศน์สรุปเนื้อหาสูงกว่า
กอ่ นการใชผ้ ังมโนทศั น์สรุปเนอ้ื หา 8.33 คะแนน และผา่ นเกณฑ์การประเมินทก่ี ำหนด
ข้อเสนอแนะ
1. ข้อเสนอแนะในการนำผลวจิ ยั ไปใช้
-
2. ขอ้ เสนอแนะสาหรบั การวิจยั ครัง้ ตอ่ ไป
1) ควรมกี ารวจิ ยั เปรยี บเทยี บความคงทนของการเรยี นรูร้ ะหวา่ งการจดั การเรียนการสอนโดย
ใช้สื่อกบั การจดั การเรียนการสอนแบบปกติ
ภาคผนวก
ภาพกิจกรรม
ภาพกิจกรรม
ภาพกิจกรรม
ภาพกิจกรรม