The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้บูรณาการแผนเศรษฐกิจพอเพียง (ครูแก่นเผยแพร่)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by krukaen snb, 2021-11-14 04:35:16

แผนการจัดการเรียนรู้บูรณาการแผนเศรษฐกิจพอเพียง (ครูแก่นเผยแพร่)

แผนการจัดการเรียนรู้บูรณาการแผนเศรษฐกิจพอเพียง (ครูแก่นเผยแพร่)

แผนการจัดการเรยี นรู้บรู ณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

รายวิชา วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

หนว่ ยที่ 3 เร่อื ง การเขยี นโปรแกรมอยา่ งง่าย (10 ชัว่ โมง)
ระดับชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2564

จัดทำโดย
นายสมนกึ พงษเ์ ทพิน
ตำแหนง่ ครู วทิ ยฐานะครูชำนาญการพเิ ศษ

โรงเรียนสนามบิน อำเภอเมอื ง จงั หวดั ขอนแก่น
สำนักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาขอนแกน่ เขต 1

สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน
กระทรวงศึกษาธกิ าร

บันทกึ การตรวจ/อนมุ ัติให้ใชแ้ ผนการจัดการเรยี นรู้

บูรณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

โรงเรียนสนามบิน อำเภอเมอื ง จังหวัดขอนแกน่
สำนักงานเขตพืน้ ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาขอนแก่น เขต 1

กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระการเรยี นรู้

รายวิชา วิทยาการคำนวณ รหสั วิชา ว12101 ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 2
ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 จำนวน 10 ชั่วโมง
ครูผสู้ อน นายสมนึก พงษเ์ ทพิน ตำแหนง่ ครู คศ.3

รายการนเิ ทศตดิ ตามผล

ครง้ั ที่ วัน/เดือน/ปี ท่สี ่ง ผูน้ ิเทศตดิ ตาม ลายมือช่ือ หมายเหตุ
หน.กล่มุ สาระ
1 นางรสสคุ นธ์ จำเรญิ สม หน.ระดับชั้น
หน.วชิ าการ
2 นางกหุ ลาบ พงษ์เทพิน

3 นางลำไพพัชร สจี ันทรฮ์ ด

ได้ตรวจสอบแผนการจัดการเรียนรู้แลว้ เสนอเหน็ ควร อนมุ ตั ใิ ห้ใช้แผนการจดั การเรยี นรฉู้ บบั น้ีได้
อนญุ าตให้ใชเ้ ปน็ เอกสารคมู่ ือการสอนได้
ความเห็นเพ่ิมเติม.................................................................... ลงชอื่ ..............................................................
............................................................................................... (นายสมพงษ์ บญุ นาม)
...............................................................................................
รองผูอ้ ำนวยการโรงเรียน รกั ษาการนตำแหนง่
ลงชอ่ื .............................................................. ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นสนามบิน
(นางสาวอินทุอร โควงั ชยั )

รองผูอ้ ำนวยโรงเรียนกลุ่มบริหารงานวิชาการ

คำนำ

กระทรวงศึกษาธกิ ารได้ประกาศใช้หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน
พทุ ธศักราช 2551 และไดก้ ำหนดมาตรฐานการเรียนร้แู ละตวั ชวี้ ดั กลมุ่ สาระการเรียนรู้ตา่ งๆ เพอื่ ให้
สถานศกึ ษานำไปใชเ้ ปน็ กรอบทิศทางในการพฒั นาหลกั สตู รสถานศกึ ษา วางแผนจดั การเรียนการ
สอน และจัดกจิ กรรมการเรียนรเู้ พ่อื พฒั นาผเู้ รียนใหม้ คี วามรู้ความสามารถ และคุณลกั ษณะอนั พึง
ประสงค์ตามมาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชวี้ ดั ท่กี ำหนดให้ พรอ้ มทั้งดำเนนิ การวดั ประเมินผลการ
เรยี นรขู้ องผเู้ รียนใหม้ ีคุณภาพตามหลกั การของหลักสตู ร เพอื่ ให้เกดิ ผลสำเร็จตามเจตนารมณข์ อง
การปฏริ ปู การศึกษาไทย ดังน้นั ขนั้ ตอนการนำหลกั สูตรสถานศกึ ษาไปปฏิบตั ิจรงิ ในช้นั เรียนของ
ครผู ้สู อน จึงจดั เปน็ หวั ใจสำคัญของการพฒั นาคณุ ภาพผเู้ รยี นใหบ้ รรลตุ ามเปา้ หมายของหลกั สูตร

ข้าพเจ้าจึงจัดทำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
(วิทยาการคำนวณ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้
สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ พันธกิจ ซึ่งได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษา ให้
ครผู สู้ อนใชเ้ ปน็ แนวทางวางแผนจดั การเรียนรู้แกผ่ เู้ รียน โดยจดั ทำเป็นหน่วยการเรยี นรอู้ ิงมาตรฐาน
และออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดการออกแบบย้อนกลับ (Backward Design) ที่มุ่งเน้น
กระบวนการคิดและการประกันคุณภาพผู้เรียน ช่วยให้ผู้ปกครองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการ
ประเมินคุณภาพการศึกษา สามารถมั่นใจในผลการเรียนรู้และคุณภาพของผู้เรียนที่มีหลักฐาน
ตรวจสอบผลการเรียนรอู้ ยา่ งเปน็ ระบบ

นายสมนกึ พงษ์เทพนิ
ผู้จัดทำ

สารบญั ก

คำนำ ง
สารบญั จ
บันทึกข้อความ ฉ
คำอธิบายรายวิชา 1-10
โครงสรา้ งรายวชิ า -
โครงสร้างแผนการจดั การเรยี นรู้ -
ผงั โครงสรา้ งหนว่ ยการเรยี นรู้บูรณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง -
ถอดบทเรยี นตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง หนว่ ยท่ี 3 การเขียนโปรแกรมอย่างง่าย -
แผนการเรียนรทู้ ี่ 1 การคน้ พบปัญหา -
แผนการเรียนรู้ที่ 2 ขน้ั ตอนการแก้ปัญหา
แผนการเรียนรทู้ ี่ 3 การใช้ข้ันตอนในการแก้ปัญหา
แผนการเรียนร้ทู ี่ 3 เกมการแก้ปญั หา
เคร่ืองมอื วัดและประเมนิ ผล
แบบประเมนิ แผนการจดั การเรียนรู้

แผ่นที่ 1 ผงั ภาพวิเคราะห์หนว่ ยการเรียนรู้บรู ณ

วิชา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี สาขาวชิ า วทิ ยาการคำนวณ ส
ระดบั ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 2 โรง

แผนที่ 4 ( 3 ชั่วโมง) แผนการจัดการเรียนรูว้ ิช
หนว่ ยท่ี 3 การเขียนโปรแกรมอย่างงา่ ย
สมรรถนะย่อยที่ 4 เกมการแกป้ ญั หา (วิทยาก
สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
หนว่ ยที่ 3 การเขียนโปร
แผนท่ี 3 ( 3 ช่ัวโมง) คำอธบิ ายรายวิชา
หนว่ ยท่ี 3 การเขียนโปรแกรมอย่างงา่ ย
สมรรถนะย่อยที่ 3 การใช้ขั้นตอนในการ แสดงลำดบั ขั้นตอ
อย่างง่ายโดยใชภ้ าพ สญั ลกั
แก้ปญั หา โปรแกรมอยา่ งงา่ ย โดยใชซ้
สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี หาข้อผดิ พลาดของโปรแกร
หมวดหมู่ ค้นหา จัดเก็บ เร
เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่าง
การใช้คอมพวิ เตอร์ร่วมกัน
งานอยา่ งเหมาะสม

สมรรถนะรายวิชา คุณล
การคิด การแกป้ ัญหา การใช้ทักษะชวี ติ มีวินยั ใฝเ่ รียนร

......................................................................................................
...

ณาการเพอ่ื เสรมิ สร้างคณุ ลักษณะอยู่อยา่ งพอเพยี ง

สอนโดย นายสมนึก พงษ์เทพิน ครู วิทยฐาะครชู ำนาญการพเิ ศษ
งเรียนสนามบิน เวลา 10 ช่ัวโมง

ชา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี แผนที่ 1 ( 2 ช่ัวโมง)
หนว่ ยที่ 3 การเขียนโปรแกรมอยา่ งง่าย
การคำนวณ) สมรรถนะย่อยท่ี 1 การค้นพบปัญหา
สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
รแกรมอย่างง่าย (10 ชั่วโมง)
แผนท่ี 2 (3ช่ัวโมง)
อนการทำงานหรือการแกป้ ัญหา หนว่ ยท่ี 3 การเขียนโปรแกรมอย่างงา่ ย
กษณ์ หรอื ข้อความเขยี น สมรรถนะย่อยท่ี 2 ข้นั ตอนการแกป้ ัญหา
ซอฟแวรห์ รอื สือ่ และตรวจสอบ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
รมใช้เทคโนโลยีสร้าง จัด
รยี กใช้ข้อมูลตามวตั ถปุ ระสงคใ์ ช้ ทดสอบก่อนเรยี น (1 ช่ัวโมง)
งปลอดภยั ปฏิบัตติ ามขอ้ ตกลงใน ทดสอบหลังเรียน ( 1 ช่วั โมง)
น ดแู ลรักษาอปุ กรณเ์ บอ้ื งต้น ใช้

ลักษณะท่ีพึงประสงค์ ภาระงาน/ชิ้นงาน
รู้ มงุ่ มั่นในการทำงาน อยู่อยา่ ง
บันทึกขนั้ ตอนการทำงาน เขียนโปรแกรม
พอเพยี ง อยา่ งง่าย

..............................................................

แผน่ ท่ี 2 การออกแบบการเรียนรู้แบบยอ้ นกลบั (BwD)
วิชา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี สาขาวชิ า วิทยาการคำนวณ

แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยที่ 3 เรอื่ ง การเขียนโปรแกรมอย่างงา่ ย ระดับชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 2 เวลา 10 ชวั่ โมง

1. เป้าหมายการเรียนรู้ 2. หลกั ฐานการเรียนรู้
สมรรถนะยอ่ ย การเขียนโปรแกรมอย่างงา่ ย ภาระงาน/ชนิ้ งาน : ขั้นตอนการตรวจสอบและแก้ไข
จุดประสงคส์ าขาวชิ า (ธรรมชาตวิ ิชา) ความผิดพลาดของโปรแกรม/เกม/การเขยี นโปรแกรม
เบื้องต้น
เข้าใจและใช้แนวคิดเชงิ คำนวณในการแก้ปญั หาทีพ่ บใน การวดั และประเมนิ ผล :
ชวี ิตจรงิ อยา่ งเปน็ ขน้ั ตอนและเป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ ประเด็น วิธีการ เครอ่ื งมือ เกณฑ์
และการส่อื สารในการเรยี นรู้ การทำงานและการแกป้ ญั หาไดอ้ ยา่ งมี
ประสิทธภิ าพ ร้เู ท่าทัน และมจี ริยธรรม K ตรวจงาน ใบงาน ร้อยละ 80 ขนึ้ ไป
สาระสำคัญ
P ตรวจงาน แบบตรวจ ร้อยละ 70 ข้ึนไป
ในการเขียนโปรแกรมมเี ครื่องมือในการเขียนโปรแกรมหลาย ผลงาน
รูปแบบ ท้ังการเขียนโปรแกรมโดยใช้บตั รคำสง่ั และการเขยี นโปรแกรม
โดยใชค้ ำสั่งของภาษาโปรแกรม ตามทอี่ อกแบบไว้ โดยทุกครั้งก่อนการ A สังเกต การสงั เกต รอ้ ยละ 70 ขน้ึ ไป
เขยี นโปรแกรมจะต้องมีการออกแบบการทำงานของโปรแกรมให้เป็น
ลำดบั ข้นั ตอนเพือ่ ให้การเขยี นโปรแกรมทำงานได้อย่างเป็นลำดบั อีกท้ัง 
ยงั ใช้ในการตรวจสอบและแก้ไขความผิดพลาดหากโปรแกรมทำงาน
ผดิ พลาด ท้ังน้สี ามารถฝึกเขยี นโปรแกรมอยา่ งง่าย 
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
การเขยี นโปรแกรม
เขยี นโปรแกรมอย่างงา่ ย โดยใช้ซอฟตแ์ วร์หรอื สอื่ และ อย่างง่าย
ตรวจหาขอ้ ผิดพลาดของโปรแกรม
สาระการเรยี นรู้ 

การเขียนโปรแกรมบางครัง้ อาจมขี อ้ ผดิ พลาดเกดิ ขึ้น เชน่ 3. กิจกรรมการเรยี นรู้
การเขียนโปรแกรมด้วยคำสง่ั แล้วเราสะกดผดิ หรือเขียนคำสัง่ ท่ี กจิ กรรรมการเรียนรู้ :
โปรแกรมไมเ่ ข้าใจ หากตรวจสอบทีละคำสงั่ แล้วแกไ้ ขใหถ้ กู ต้อง ช้ินงานท่ี 4 เรอ่ื ง เกมเขาวงกตมหาสนุก
โปรแกรมสามารถทำงานตอ่ ไปได้ ชิ้นงานท่ี 5 เรอื่ ง การตรวจสอบและแกไ้ ขความผดิ พลาดของ
สมรรถนะหลกั และสมรรถนะทั่วไป โปรแกรม
1. ความสามารถในการสื่อสาร ชิ้นงานท่ี 6 เรื่อง การเขยี นโปรแกรมใหแ้ มวเดนิ เป็นรปู สี่เหลีย่ ม
2. ความสามารถในการคดิ จัตุรสั
3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา สอื่ การเรียนร/ู้ แหลง่ เรยี นรู้ :
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต - สอื่ ประเภท unplug coding
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี -ส่อื ออนไลน์ Coding.org
คุณลกั ษณะที่พึงประสงค์
1. ใฝ่เรยี นรู้
2. มุ่งมัน่ ในการทำงาน
3. ทกั ษะทางปญั ญา

แผ่นท่ี 4 ชุดคำถามกระต้นุ เพือ่ ปลูกฝังหลกั คดิ พอเพียงแผนการเรยี นรู้
วชิ า วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี สาขาวิชา วทิ ยาการคำนวณ (ว12101)

แผนการจัดการเรยี นรู้หน่วยที่ 3 เรอื่ ง การเขียนโปรแกรมอยา่ งง่าย
ระดับชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 2 เวลา 10 ชว่ั โมง

คำถามกระต้นุ คิดเพอื่ ปลกู ฝังหลกั คดิ พอเพียงก่อนเรียน
Q1 นักเรยี นคิดวา่ คอมพวิ เตอรม์ ีความสำคญั อยา่ งไร (พอประมาณ)
Q2 ทำไมคนปัจจบุ นั นิยมใช้คอมพวิ เตอร์ (เหตุผล)
Q3 .....................................................................................................

คำถามกระต้นุ คิดเพ่ือปลูกฝังหลักคิดพอเพียงระหว่างเรียน
Q4 ข้อควรระวงั ในการใช้คอมพิวเตอร์ (ภูมิคมุ้ กนั )
Q5 นกั เรียนจะใชค้ อมพิวเตอร์อย่างไรใหป้ ระสบความสำเร็จ (พอประมาณ)
Q6 นักเรียนมีวธิ ีอย่างไรใหเ้ ขยี นโปรแกรมอยา่ งงา่ ยอย่างไรใหร้ วดเร็ว (พอประมาณ เหตผุ ล)
Q7 .............................................................................................................................................................
Q8 .............................................................................................................................................................
Q9 .............................................................................................................................................................
Q10 ..................................................................................................................................................
Q11 ..................................................................................................................................................
Q12 ..................................................................................................................................................
Q13 ..................................................................................................................................................

คำถามกระตนุ้ คดิ เพอ่ื ปลูกฝังหลักคดิ พอเพียงหลังเรยี น
Q14 ..................................................................................................................................................
Q15 ..................................................................................................................................................
Q16 ..................................................................................................................................................

แผน่ ท่ี 5 แนวทางการนำหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใช้ในการจัดการเรียนรู้
วิชา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิชา วิทยาการคำนวณ

แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยท่ี 3 เรื่อง การเขียนโปรแกรมอย่างงา่ ย ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 2 เวลา 10 ชั่วโมง

ผ้สู อนนำหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ ดังนี้

ความรทู้ ี่ครูต้องมกี ่อนสอน คณุ ธรรมของครทู ี่ใชใ้ นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
1. ขน้ั ตอนวธิ กี ารคดิ เชิงระบบ 1. มีระเบียบวนิ ัย มคี วามขยันหมัน่ เพยี ร
2. การออกแบบโดยการเขียนอลั กอรทิ มึ 2. มีความรบั ผิดชอบ
3. การเขยี นโปรแกรมโดยใชบ้ ลอ็ กคำส่ัง 3. มีเสียสละ เอาใจใส่นักเรยี น
4. การเขียนโปรแกรมด้วย Scratch 4. เมตตาต่อศษิ ย์

ประเด็น พอประมาณ มีเหตุผล มีภมู ิคุม้ กนั ในตัวทีด่ ี

การจดั เน้อื หาสาระให้ เลือกเนือ้ หาสาระไดส้ อดคลอ้ ง ครูจัดสาระการเรียนรไู้ ด้

เน้ือหา เหมาะสมกบั เวลาวยั และ ตรงตามมาตรฐานการเรยี นรู้ ตรงตามมาตรฐานของ
ความสามารถของผู้เรยี น
และตวั ชว้ี ดั ท่ีกำหนดไว้ หลกั สูตร สอดคล้องกบั

หลกั สูตร มาตรฐานและตวั ช้วี ดั

จดั เวลาในการเรยี นรไู้ ด้อยา่ ง จัดเวลาให้นักเรยี นสามารถ ครมู เี วลาเพยี งพอในการ

เวลา เหมาะสม เรียนรไู้ ดอ้ ย่างเต็มศักยภาพ เตรยี มความพรอ้ มและ

บรหิ ารจัดการเรื่องเวลาได้

จดั กิจกรรมการเรยี นรู้ให้ จัดกิจกรรมไดส้ อดคลอ้ งกับ ครูมีแนวทางการจัด

การจัด เพยี งพอตอ่ การเรียนรเู้ ร่ืองการ มาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละ กจิ กรรมอย่างเป็นลำดบั
กิจกรรม ใหเ้ หตุผล เหมาะสมกับระดบั ตัวช้ีวดั ทีก่ ำหนดไว้หลกั สตู ร ข้นั ตอน และสามารถแกไ้ ข
ความสามารถของผู้เรยี น ปญั หาในการจัดการเรียน

การสอน

ใชส้ อ่ื อปุ กรณท์ ่ีหาได้งา่ ยมาใช้ใน เลอื กใช้สอื่ ไดเ้ หมาะสมกบั ครมู ีความพรอ้ มในการใชส้ ่อื

สื่อ/ การจดั กจิ กรรมใบงานเพียงพอ เนื้อหาสาระ กิจกรรมและเวลา อปุ กรณแ์ ละใบงานในการจัด
อุปกรณ์
ต่อจำนวนนักเรยี นมคี วาม ในการจัดการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้

เหมาะสมกับเน้อื หากจิ กรรมและ

เวลา

ใชแ้ หลง่ เรยี นรูท้ ี่มอี ยู่ใน ครเู ลือกใช้สื่อจากแหล่งเรยี นรู้ ครูใชแ้ หลงเรียนรูไ้ ด้อย่าง

แหล่ง โรงเรยี น เชน่ ห้องปฏิบัติการ ต่าง ๆ ไดอ้ ย่างเหมาะสม หลากหลาย เหมาะกับ

เรยี นรู้ คอมพวิ เตอร์ อินเตอรเ์ น็ต หรือ รวดเรว็ และอย่างเปน็ ระบบ สภาพแวดลอ้ มในการ

หอ้ งเรียนออนไลน์ ทำงาน

ใช้วธิ กี ารวัดและประเมินผลได้ ใช้วิธกี ารวดั และประเมินผลได้ มีเครอื่ งมือในการวดั และ

ประเมนิ ผล เหมาะสม ตรงตามวัตถุประสงค์ เกณฑ์การประเมินที่

สอดคลอ้ งกับตัวชว้ี ัด

แผน่ ที่ 6 ผลท่ีจะเกดิ ขึ้นกบั ผเู้ รียนจากการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
วชิ า วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (วทิ ยากรคำนวณ) ว12101 ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 2

แผนการจดั การเรยี นรู้ เร่ือง การเขียนโปรแกรมอยา่ งงา่ ย ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 2 เวลา 10 ชว่ั โมง

6.1 ผูเ้ รยี นจะไดฝ้ กึ คิดและฝกึ ปฏบิ ตั ติ ามหลัก ปศพพ. ดังนี้

ความรทู้ ่ีผู้เรยี นตอ้ งมีกอ่ น คุณธรรมของผ้เู รียนท่ีจะทำใหก้ ารเรยี นรสู้ ำเรจ็

1. การใชง้ านคอมพิวเตอรเ์ บอื้ งต้น 1. ความมุง่ ม่นั ตง้ั ใจ

2. การค้นหาข้อมูลในอนิ เตอรเ์ นต็ โดยใช้อปุ กรณ์ 2. การเสียสละ การช่วยเหลอื

ต่างๆ 3. ความรบั ผิดชอบ รูจ้ กั หน้าท่ี

3. ศัพท์พน้ื ฐานทางคอมพวิ เตอร์

พอประมาณ มเี หตผุ ล มีภูมคิ มุ้ กันในตัวทดี่ ี

1. นักเรยี นได้เรียนรู้เนอื้ หาสาระ 1. นกั เรยี นมคี วามร้คู วามเขา้ ใจใน 1. มีความมั่นใจในการเชื่อมโยง
เหมาะสมกับวัย ตามสาระ เรอ่ื งการเช่ือมโยงหนา้ เว็บเพจและ หนา้ เวบ็ เพจและการนำไปใช้
มาตรฐานทกี่ ำหนดไวใ้ นหลกั สตู ร การนำไปใช้ 2. นักเรียนนำความรไู้ ปใชเ้ ปน็
2. นกั เรยี นได้เรยี นรู้จากสอ่ื ใบ 2.นักเรยี นเกิดทกั ษะกระบวนการ พื้นฐานในออกแบบเว็บไซต์ การ
ความรู้ ใบงานอย่างเพียงพอ กลุม่ เกดิ ทักษะกระบวนการเขยี น วางแผน ตดั สนิ ใจ ใน
3. นักเรยี นมีเวลาเพยี งพอและ โปรแกรมเบือ้ งตน้ ชีวติ ประจำวนั
สามารถทำงานทไี่ ดร้ ับมอบหมาย 3. นักเรยี นสามารถบริหารจัดการ 3. นกั เรยี นสามารถคดิ เชอื่ มโยงได้
ทันตามกำหนดเวลา เร่อื งของเวลา

6.2 ผู้เรยี นจะได้เรียนร้กู ารใชช้ วี ิตท่สี มดลุ และพร้อมรับการเปล่ยี นแปลง 4 มติ ติ ามหลัก ปศพพ. ดงั น้ี

ดา้ น สมดลุ และพร้อมรบั การเปลย่ี นแปลงในด้านตา่ ง ๆ
องคป์ ระกอบ
วัตถุ สังคม สงิ่ แวดล้อม วัฒนธรรม
ความรู้ (K) -มีความรคู้ วามเข้าใจ
- นักเรยี นรู้จักใช้สอื่ วสั ดุ - นกั เรียนนำความรเู้ รอื่ ง - นำความรเู้ รอื่ งการ และใชก้ ารให้เหตุผล
เพือ่ สนบั สนนุ ความจริง
อปุ กรณ์ และการใช้ การใหเ้ หตุผลที่ไดไ้ ปใช้ แก้ไขปัญหา และ และความเชอื่ อยา่ งมี
วจิ ารณญาณ
ทรัพยากรได้อยา่ ง ประกอบการตัดสนิ ใจ ตรวจสอบขอ้ ผิดผลาด

เหมาะสม การวางแผน และการ ไปใชใ้ นการคดิ

(ใบความรู้ ใบงาน ทำงานให้เกิดประโยชน์ วเิ คราะหอ์ อกแบบ

คอมพิวเตอร์ เวลา คน) กับตนเอง ครอบครัว การแกไ้ ขปญั หา และ

- นักเรยี นศึกษาใน ชมุ ชนและสงั คม การบริหารจดั การ

เอกสารใบงาน ใบความรู้ ส่งิ แวดล้อมทอ่ี ยู่

รอบตวั โรงเรียน

ชุมชน และสงั คม

ด้าน สมดลุ และพร้อมรบั การเปลี่ยนแปลงในด้านตา่ ง ๆ
องค์ประกอบ
วัตถุ สงั คม ส่ิงแวดลอ้ ม วัฒนธรรม
ทกั ษะ (P) -มที ักษะกระบวนการ
-นกั เรียนปฏิบัตติ าม - มีทักษะการทำงาน -- มที ักษะในการ นำแกไ้ ขปญั หาเบ้ืองต้น
และการใชอ้ นิ เทอร์เน็ต
ขน้ั ตอนท่กี ำหนดไวใ้ นใบ ร่วมกบั ผู้อื่น ปรับตัวใหเ้ ข้ากบั ในชีวิตประจำวนั

งานไดถ้ กู ต้อง - นักเรียนมที ักษะท่ีเกิด ส่ิงแวดล้อม

-นกั เรียนใช้ส่ือ วสั ดุ จากการเรยี นรูแ้ ละ - เกดิ ทกั ษะการ

อปุ กรณก์ ารเรียนได้ สามารถนำไป บริหารจัดการและ

ถูกตอ้ ง ประยกุ ต์ใช้กับตนเอง การดูแลรักษา

-นกั เรยี นสามารถบรหิ าร ครอบครวั ชุมชนและ ส่งิ แวดลอ้ ม

จดั การทรพั ยากรได้อยา่ ง สังคมได้

สมเหตสุ มผล

- นกั เรยี นใชว้ ัสดุ อปุ กรณ์ - เกิดความสามัคคมี ี - ตระหนักและเห็น - ตระหนกั และเห็น
และทรพั ยากรอยา่ ง น้ำใจ รจู้ ักแบ่งปันผอู้ น่ื
ประหยัดและคมุ้ ค่า คุณคา่ ของสงิ่ แวดล้อม คณุ คา่ ของการดำเนนิ
สมเหตุสมผล
- นักเรียนมีระเบียบวนิ ัย และมเี หตุผลในการ ชีวติ อยา่ งรอบคอบ
รักการทำงาน
ค่านิยม (A) - มีความรับผดิ ชอบ อนุรักษ์ไว้ ระมัดระวัง มีเหตผุ ล

-รจู้ ักใช้ทรพั ยากร -ตระหนักถงึ ความ

สิง่ แวดลอ้ มอยา่ ง สมเหตสุ มผลของ

คมุ้ ค่า คำตอบหรอื ผลลพั ธจ์ าก

การตดั สนิ ใจ

คำอธบิ ายรายวชิ า

รายวชิ า วิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว ๑๒๑๐๑ กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒
เวลา ๑๒๐ ช่ัวโมง น้ำหนกั ๓ หน่วยกิต

ศกึ ษาพชื ต้องการแสงและน้ำ เพ่ือการเจรญิ เติบโต โดยใชข้ ้อมูลจากหลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์
เปรียบเทียบสมบตั ทิ ีส่ งั เกตได้ของวัสดุ เพ่ือนำมาทำเป็นวตั ถใุ นการใชง้ านตามวตั ถปุ ระสงคแ์ ละอธบิ ายการ
นำวัสดทุ ใ่ี ชแ้ ล้วกลับมาใช้ใหม่ สรา้ งแบบจำรองท่ีบรรยายวัฏจกั รชีวิตของพืชดอกเปรียบเทียบลกั ษณะของ
สิง่ มชี ีวติ และสิ่งไม่มีชีวติ ด้วยวิธีการสงั เกต ค้นควา้ เปรยี บเทียบสมบตั กิ ารดูดซับน้ำของวัสดโุ ดยใชห้ ลักฐาน
เชงิ ประจกั ษ์ และระบุการนำสมบตั กิ ารดูดซับน้ำของวสั ดไุ ปประยุกต์ใช้ในการทำวัตถุในชีวิตประจำวนั
อธบิ ายสมบัตทิ สี่ ังเกตไดข้ องวสั ดทุ เี่ กิดจากการนำวสั ดมุ าผสมกันเปรยี บเทียบสมบัติทสี่ ังเกตได้ของวสั ดุ
เพือ่ นำมาทำเป็นวัตถใุ นการใช้งานตามวตั ถปุ ระสงค์และอธิบายการนำวสั ดุทใี่ ชแ้ ลว้ กลบั มาใช้ใหม่ตระหนกั
ถึงประโยชนข์ องการนำวัสดุที่ใช้แลว้ กลับมาใช้ใหม่ โดยการนำวัสดุที่ใชแ้ ล้วกลบั มาใชใ้ หม่บรรยายแนวการ
เคลื่อนท่ีของแสงจากแหล่งกำเนดิ แสง และอธิบายการมองเหน็ วตั ถุ มคี วามรู้ของการมองเห็นโดยเสนอแนะ
แนวทางการป้องกันอันตรายจากการมองวตั ถุทีอ่ ยู่ในบรเิ วณทีม่ แี สงสวา่ งไม่เหมาะสมระบุสว่ นประกอบดนิ
และจำแนกชนิดดินโดยใชล้ ักษณะเนื้อดนิ และการจบั ตัวเป็นเกณฑ์อธบิ ายการใชป้ ระโยชนจ์ ากดนิ แสดง
ลำดับขั้นตอนการทำงานหรอื การแก้ปัญหาอยา่ งงา่ ยโดยใช้ภาพ สัญลกั ษณ์ หรือข้อความเขยี นโปรแกรม
อยา่ งงา่ ย โดยใช้ซอฟแวรห์ รือสอ่ื และตรวจสอบหาขอ้ ผิดพลาดของโปรแกรมใช้เทคโนโลยสี ร้าง จัด
หมวดหมู่ ค้นหา จัดเก็บ เรียกใชข้ อ้ มูลตามวัตถุประสงค์ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั ปฏบิ ัตติ าม
ขอ้ ตกลงในการใช้คอมพวิ เตอร์รว่ มกนั ดแู ลรักษาอปุ กรณเ์ บอ้ื งต้น ใช้งานอย่างเหมาะสม

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ทดลอง สังเกต จำแนก ระบุ และจิตวิทยาศาสตร์ในการสืบ
เสาะหาความรู้การแก้ปัญหาโดยตั้งคำถามเกี่ยวกับประเด็นหรือเรื่องหรือสถานการณ์ที่จะศึกษาตามที่
กำหนดให้และตามความสนใจวางแผนการสังเกตเสนอการสำรวจตรวจสอบหรือศึกษาค้นคว้าและ
คาดการณ์สิ่งที่จะพบจากการสำรวจตรวจสอบเลือกอุปกรณ์ที่ถูกต้องเหมาะสมในการสำรวจตรวจสอบให้
ได้ข้อมูลที่เชื่อถือได้บนั ทึกขอ้ มูลในเชิงปรมิ าณและคุณภาพและตรวจสอบผลกับส่ิงท่ีคาดการณ์ไว้นำเสนอ
ผลและข้อสรุปสร้างคำถามใหม่เพื่อการสำรวจตรวจสอบต่อไปแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระอธิบายและ
สรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้บันทึกและอธิบายผลการสำรวจตรวจสอบ ตามความเป็นจริงมีการอ้างอิงนำเสนอจัด
แสดงผลงานโดยอธิบายด้วยวาจาหรือเขยี นอธิบายแสดงกระบวนการและผลของงานใหผ้ ู้อนื่ เข้าใจ

เพ่ือใหผ้ ูเ้ รยี นไดเ้ รียนรู้ความรู้วทิ ยาศาสตร์อยา่ งถูกต้อง มกี ระบวนการทางวิทยาศาสตรใ์ นการ
ค้นหาความรูด้ ว้ ยตนเอง ผเู้ รยี นสามารถคิดวเิ คราะห์ คิดตัดสนิ ใจ และสามารถสอ่ื สารเขา้ ใจตรงกนั รวมทั้ง
มจี ิตวิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และคา่ นยิ มที่เหมาะสม ตลอดเชือ่ มโยงความรู้และนำความรู้ไปใช้
ในชีวติ ประจำวนั ได้

รหัสตัวชี้วดั

ว ๑.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓
ว ๑.๓ ป.๒/๑
ว ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔
ว ๒.๓ ป.๒/๑, ป.๒/๒
ว ๓.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒,
ว ๔.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔

รวมทั้งหมด ๑๖ ตัวชีว้ ัด

ผังมโนทัศนเ์ พื่อการวเิ คราะห์

แผนการจดั การเรยี นรู้เพอื่ เสรมิ สร้างคุณลักษณะอยูอ่ ย่างพอเพยี ง

- การเลอื กใชเ้ ครอ่ื งมอื ต่าง ๆ ในโปรแกรม กิจกรรมการเรยี นรู้ - ขั้นนำ
- คำสั่งในการเช่อื มโยง - ข้ันนำเสนอเนอ้ื หาใหม่
- การเขยี นคำสัง่ วนลปู - ขั้นฝกึ โดยการชแี้ นะ
- ขั้นฝกึ โดยอิสระ
- ขั้นสรุป

สาระการเรยี นรู้

หน่วยเรยี นรทู้ ่ี 3 สอ่ื การเรียนรู้
การเขยี นโปรแกรมอย่างงา่ ย

การวัดผล

- ทดสอบหลงั เรียน บูรณาการเศรษฐกิจ - เครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ , มอื ถือ
- การสังเกตพฤติกรรม พอเพียง - ส่อื unplud
- การบนั ทึกการสงั เกตใบงาน - หนงั สอื เรยี น การเขยี นโปรแกรมดว้ ย Scratch
- ตวั อยา่ งเว็บไซต์
- อนิ เทอรเ์ น็ต
- ใบความรู้
- ใบงาน
- แบบทดสอบกอ่ น-หลงั เรียน

1. ความพอประมาณ

- ใช้ส่อื unplug ได้ตามขนั้ ตอนวธิ คี ดิ เชงิ ระบบ

2. มเี หตผุ ล

- การออกแบบโดยการเขียนอัลกอริทมึ การเลือกใชบ้ ล็อกคำสั่ง

3. มีภมู ิคุม้ กันท่ดี ี

- ประโยชนจ์ ากการเขยี นโปรแกรมด้วย Scratch gyw
- สามารถนำเสนอข้อมูลได้

4. เง่ือนไขความรู้ การใชโ้ ปรแกรม Scratch เบอื้ งตน้

5. เง่อื นไขคุณธรรม ขยนั อดทน ใฝร่ ู้ แบง่ ปนั มีน้ำใจ

6. ดา้ นวัตถุ สอื่ Unplug ,โปรแกรม Scratch, เคร่อื งคอมพวิ เตอร์

7. ด้านสังคม การทำงานร่วมกบั ผูอ้ นื่ ได้อยา่ งมคี วามสุข

8. ด้านสิ่งแวดลอ้ ม การประหยัดพลงั งานในการทำงาน

9. ด้านวฒั นธรรม ความภมู ิใจในผลสำเรจ็ ของงาน

ตวั ชว้ี ัด

ว.4.2 ม.3/2 รวบรวมข้อมลู ประมวลผล ประเมินผล นำเสนอขอ้ มลู และสารสนเทศตาม วตั ถปุ ระสงค์ โดยใช้
ซอฟต์แวร์หรือบรกิ ารบนอินเทอร์เนต็ ทีห่ ลากหลาย

แผนการจดั การเรียนรเู้ พื่อเสริมสร้างคุณลกั ษณะอยู่อยา่ งพอเพียง

รายวชิ า วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2564

กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 3 การเขียนโปรแกรมอยา่ งงา่ ย หนว่ ยยอ่ ยท่ี 1 เรือ่ งการคน้ พบปญั หา

ผสู้ อน นายสมนกึ พงษเ์ ทพิน ครู วิทยฐานะครูชำนาญการพเิ ศษ จำนวน 2 ชว่ั โมง

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

-

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั (มภี ูมิคมุ้ กนั , ความรู้, คุณธรรม ,สงั คม, วฒั นธรรม)

สาระที่ 4 เทคโนโลยี

มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน

และเป็นระบบใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารในการเรียนรู้การทำงาน และ

การแก้ปัญหาไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทนั และมจี ริยธรรม

ตวั ช้ีวัด

ว.4.2 ม.3/2 รวบรวมข้อมูล ประมวลผล ประเมินผล นำเสนอข้อมลู และสารสนเทศตาม

วัตถุประสงค์ โดยใช้ซอฟต์แวรห์ รอื บรกิ ารบนอินเทอรเ์ น็ตที่หลากหลาย

2. ผลการเรยี นรู้ (มีภมู ิคมุ้ กัน , ความรู้ )
2.1 อธิบายเกี่ยวกบั การเขยี นโปรแกรมอยา่ งงา่ ยได้
2.2 วเิ คราะห์เกี่ยวกบั การเขียนโปรแกรมอยา่ งงา่ ยได้

3. สาระสำคญั

ในการเร่ิมเขียนโปรแกรมจะตอ้ งออกแบบการทางานของโปรแกรมข้นึ มาก่อน หรือเรียกวา่
ข้นั ตอนวิธี ซ่ึงทาไดโ้ ดยการสร้างลาดบั ของคาสั่ง เช่น ถา้ ใหห้ ุ่นยนตเ์ ดินไปทางขวา 3 บลอ็ ก แลว้
เดินข้ึนดา้ นบน เราอาจคิดข้นั ตอนวิธีเป็นคาพูดข้ึนมาก่อน แลว้ เปลี่ยนเป็นโปรแกรมโดยใชบ้ ตั ร
คาสัง่

4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ (มีภมู คิ ุม้ กนั , ความรู้, คุณธรรม ,สังคม, วฒั นธรรม)
4.1 อธิบายเกี่ยวกบั การเขียนโปรแกรมอยา่ งง่าย (K)
4.2 วิเคราะหเ์ ก่ียวกบั การเขียนโปรแกรมอยา่ งง่าย (P)
4.3 มีความกระตือรือร้นในการปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้ (A)

5. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น (มีภูมิคุ้มกัน, ความรู้, คุณธรรม ,สังคม, วฒั นธรรม)
ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแก้ปัญหา
ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
ซอื่ สัตยส์ จุ รติ มวี ินัย ใฝเ่ รยี นรู้ อยู่อยา่ งพอเพียง มุ่งม่ันในการทำงาน
มจี ติ สาธารณะ

7. ภาระงาน/ช้ินงาน
- ใบงาน / แบบบนั ทกึ กจิ กรรม

8. กระบวนการจัดการเรยี นรู้
8.1 ข้นั นำ
1. นกั เรียนร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั การเขยี นโปรแกรมอยา่ งง่าย โดยตอบคาถาม ดงั น้ี
• นกั เรียนคิดวา่ การเขยี นโปรแกรมคืออะไร
(ตวั อยา่ งคาตอบ การเขยี นโปรแกรมเป็นการกาหนดใหค้ อมพิวเตอร์ทางานตามท่ีเราตอ้ งการ)
• นกั เรียนเคยเขียนโปรแกรมหรือไม่ (ตวั อยา่ งคาตอบ เคย)
• หากเคยนกั เรียนใชโ้ ปรแกรมใดในการเขียนโปรแกรม
(ตวั อยา่ งคาตอบ โปรแกรม Scratch และ https://code.org)
• นกั เรียนคิดวา่ การเขียนโปรแกรมอยา่ งงา่ ยสามารถเขยี นไดแ้ บบใดบา้ ง
(ตวั อยา่ งคาตอบ เขยี นโดยใชค้ อมพิวเตอร์ หรือเขยี นโปรแกรมโดยใชบ้ ตั รคาสัง่ )
• ก่อนการเขียนโปรแกรมส่ิงแรกที่เราตอ้ งทาก่อนคืออะไร
(ตวั อยา่ งคาตอบ ออกแบบการทางานของโปรแกรม หรือการออกแบบข้นั ตอนวธิ ี ข้ึนมาก่อน)
• ทาไมจึงตอ้ งออกแบบข้นั ตอนวธิ ีก่อนการเขียนโปรแกรม
(ตวั อยา่ งคาตอบ เพือ่ ใชใ้ นการสร้างและออกแบบลาดบั การทางานของโปรแกรมน้นั ๆ)

8.2 ขน้ั นำเสนอเน้อื หาใหม่
นกั เรียนร่วมกนั ศึกษาคน้ ควา้ ขอ้ มลู เกี่ยวกบั การเขยี นโปรแกรมอยา่ งงา่ ย จากแหลง่ การ

เรียนรู้ตา่ ง ๆ อยา่ งหลากหลาย เช่น การสอบถามจากครูหรือผปู้ กครอง และหอ้ งสมุด

8.3 ขั้นฝกึ โดยการชี้แนะและฝึกโดยอสิ ระ (ความรู้ , วัตถุ)
นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน จากนัน้ แตล่ ะกลุม่ รว่ มกันสงั เกตและวเิ คราะห์ภาพการใช้
บัตรคำส่ังใหห้ นุ่ ยนตเ์ ดิน แลว้ เขยี นเปน็ อัลกอริทึม โดยเขียนบนั ทกึ คำตอบของนักเรียนบนกระดาน
ดงั ตวั อย่าง

ภาพที่ 1

เร่ิมตน้
เดินทางขวา
เดินทางขวา
เดินทางขวา
เดินข้ึนดา้ นบน

จบ

ภาพท่ี 2

โปรแกรมที่ 1 โปรแกรมท่ี 2

เร่ิมตน้ เร่ิมตน้
เดินหนา้ เดินหนา้
หมุนซา้ ย เดินหนา้
เดินหนา้ เดินหนา้
เดินหนา้ หมนุ ซา้ ย
หมุนขวา เดินหนา้
เดินหนา้ เดินหนา้
เดินหนา้ หมนุ ขวา
จบ
จบ

ภาพที่ 3

เริ่มตน้
ทาซ้า 4 คร้ัง
เดินหนา้
กลบั หลงั หนั

จบ

กิจกรรมน้ีสร้างเสริมทกั ษะศตวรรษท่ี 21 ดา้ นการคิดสร้างสรรค์
4. นักเรยี นแตล่ ะกล่มุ รว่ มกนั สงั เกตและวิเคราะห์ภาพบตั รคำส่ังท่เี ปน็ ของโปรแกรมและบตั ร
คำสั่งการเขียนโปรแกรม แลว้ จับคู่บัตรคำสงั่ ให้สมั พันธ์กัน ดงั ตวั อยา่ ง

start moveForward turnLeft

turnRight LOOP 2 LOOP 3
end

5. นักเรยี นร่วมกันสังเกตและวิเคราะหภ์ าพเก่ยี วกับสิ่งทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั การใช้ชวี ิตประจำวัน แลว้
เติมเคร่ืองหมาย ลงใน หนา้ ภาพทคี่ วรเป็นข้นั ตอน แลว้ ตอบคำถาม โดยเขยี นบันทกึ คำตอบ
ของนักเรียนบนกระดาน ดังตัวอย่าง







• การเขยี นโปรแกรมด้วย Scratch สามารถสัง่ งานให้ตัวละครทำอะไรไดบ้ ้าง
(ตวั อยา่ งคาตอบ เดินหนา้ หมนุ ซา้ ย หมนุ ขวา และกลบั หลงั หนั )
____________________________________________________________________
_____________________________________________________________________

6. นักเรยี นร่วมกนั สังเกตและวเิ คราะหบ์ ตั รภาพและบัตรคำเก่ยี วกับการใช้คำส่งั ใหต้ ัวละคร
เคลอ่ื นท่ี แล้วจับค่บู ัตรภาพและบัตรคำให้สมั พนั ธก์ นั ดังตัวอยา่ ง

7. นักเรยี นร่วมกันสงั เกตและวเิ คราะหเ์ กีย่ วกบั การเขยี นโปรแกรมให้แมวเดนิ ทางไปกนิ ปลา
แลว้ ตอบคำถาม ดังนี้

• หากต้องการใหแ้ มวไปกนิ ปลาในชอ่ งท่ี 4 ต้องใชค้ ำสั่งกี่คำส่ัง และใชค้ ำสงั่ อะไรบา้ ง

โดยวาดเป็นลูกศร

(ตวั อยา่ งคำตอบ ใช้ท้งั หมด 7 คำส่งั ไดแ้ ก่ )

• ระหวา่ งปลาอยู่ชอ่ งที่ 1 กับช่องที่ 4 ชอ่ งไหนใช้บัตรคำส่ังน้อยกวา่

(ตวั อยา่ งคำตอบ ช่องที่ 1 ใช้บตั รคำส่ังน้อยกวา่ )

• หากมปี ลาอยชู่ ่องที่ 1 และชอ่ งท่ี 4 นกั เรียนจะเขยี นใหแ้ มวเดนิ ไปกนิ ปลาช่องไหน

เพราะเหตุใด

(ตวั อย่างคำตอบ เขยี นให้แมวเดนิ ไปกินปลาช่องที่ 1 เพราะใช้บัตรคำส่งั น้อยกว่าช่องที่ 4)

8.4 ข้ันสรุป (พอประมาณ มีเหตผุ ล มภี ูมคิ ุม้ กัน ความรู้ คณุ ธรรม สังคม วฒั นธรรม)
นกั เรยี นร่วมกันคิดวเิ คราะห์ โดยตอบคำถาม ดงั น้ี

- หากจะเขียนโปรแกรม นักเรียนคิดว่าสิ่งแรกที่จะต้องทำก่อนการเขียนโปรแกรมคืออะไร
(ตวั อย่างคำตอบ ออกแบบการทำงานของโปรแกรมโดยเขียนเปน็ อลั กอรทิ ึมก่อน)

- นักเรียนรว่ มกนั สรปุ ความคิดรวบยอดเกีย่ วกับการเขยี นโปรแกรมอยา่ งงา่ ย ดังนี้
การสั่งงานให้อุปกรณ์หรือสิ่งใดทำงานได้ตามที่เราต้องการ เรียกว่า การเขียนโปรแกรม
ซึ่งทำได้โดยการนำคำสั่งที่อุปกรณ์นั้น ๆ มาต่อเรียงกันนั่นเอง ซึ่งอาจทำได้โดยการเขียนโปรแกรม
บนเครอ่ื งคอมพิวเตอร์ หรือใชเ้ ครื่องมอื อื่น ๆ ในการเขยี นโปรแกรมได้เช่นกัน

9. สื่อการเรยี นรู้/แหลง่ เรียนรู้ (วัตถุ)
9.1 ส่อื การเรยี นรู้
9.1.1 หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ช้ัน

ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
9.1.2 ภาพการใชบ้ ัตรคำสัง่ ใหห้ นุ่ ยนต์เดิน
9.1.3 แบบทดสอบก่อนเรยี น-หลังเรยี น
9.1.4 ภาพภาษาของโปรแกรม และบัตรคำสง่ั การเขียนโปรแกรม
9.1.5 ภาพสง่ิ ทเ่ี ก่ียวขอ้ งกับการใชช้ วี ติ ประจำวัน
9.1.6 ภาพและบตั รคำการใชค้ ำส่ังให้ตัวละครเคลื่อนที่
9.1.7 แหล่งการเรียนร้ทู ้งั ภายในและภายนอกโรงเรยี น

9.2 แหลง่ การเรยี นรู้

9.2.1 หอ้ งปฏิบัตกิ ารคอมพวิ เตอร์
9.2.2 อินเทอร์เน็ต
9.2.3 http://www.google.co.th

10. การวดั และประเมนิ ผล (มีเหตุผล มคี วามรู้ มีคุณธรรม)

รายการวัดและประเมนิ ผล วธิ ีการประเมนิ เคร่ืองมือประเมนิ เกณฑก์ ารประเมนิ

1. อธิบายเกี่ยวกับแก้ปัญหาและ 1. ทำแบบทดสอบ 1. แบบทดสอบ 1. ผ่านเกณฑ์
ร้อยละ 80
ค้นพบปญั หาได้ กอ่ นเรยี น-หลงั เรียน กอ่ นเรยี น- หลงั เรยี น

2. วิเคราะหเ์ กี่ยวกับแกป้ ัญหาและ 2. ตรวจใบงาน/ 2. ใบงาน 2. ผ่านเกณฑ์
3. แบบประเมิน ร้อยละ 80
ค้นพบปัญหาได้ (P) ผลงาน พฤตกิ รรมปฏบิ ัติใบงาน (8 คะแนนขึ้นไป)
4. ใบงาน
3. มีความกระตือรือร้นในการ 3. ตรวจใบงานที่ 2 5. แบบสังเกตพฤติกรรม 3. ปฏบิ ัติกิจกรรมใน
ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมการเรยี นรู้ (A) 4. สงั เกตพฤตกิ รรม คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ใบงานครบทุก
กิจกรรม
การทำงานขณะ
ปฏบิ ัติกจิ กรรม 6. แบบสงั เกตพฤตกิ รรม 4. ผา่ นเกณฑร์ ะดบั ดี
4. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 5. สงั เกตพฤตกิ รรม คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ขน้ึ ไป
การทำงานขณะ
ปฏบิ ตั กิ จิ กรรม

การประเมินผลตามสภาพจริง (P) (Rubrics)

พิจารณาจากเกณฑ์การประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) ดังนี้

ประเด็นการ ระดับคุณภาพ
ประเมิน
4 32 1
(10 คะแนน) (5-6 คะแนน)
(9 คะแนน) (7-8 คะแนน) รวู้ ิธกี ารแกป้ ัญหา
ตามทค่ี รหู รือเพือ่ น
แกป้ ญั หาและ สามารถแก้ปญั หาได้ สามารถแก้ปัญหา แกป้ ญั หาด้วยการ ในชนั้ อธิบาย

คน้ พบปัญหา ดว้ ยเองให้คำแนะนำ โดยการแนะนำจาก แนะนำจากครหู รอื

เพ่ือนได้และสามารถ ครหู รือเพ่ือนบา้ ง เพื่อนในชน้ั

แก้ปัญหาไดอ้ ย่าง บางครงั้

สมเหตุสมผล

หมายเหตุ
4 คือ ระดับดีมาก
3 คือ ระดบั ดี
2 คือ ระดบั พอใช้
1 คอื ระดบั ปรบั ปรุง

**** อยู่ในระดับ 4, 3, 2 ถือว่า ผา่ น
**** อยใู่ นระดบั 1 ถอื วา่ ไม่ผ่าน

11. การนำหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งสู่การจดั การเรยี นรู้

11.1 ผู้สอนนำหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใชใ้ นการจดั การเรยี นรู้อยา่ งไร

3 ห่วง ความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล มภี มู ิค้มุ กันในตวั ท่ดี ี
ประเดน็

เน้ือหาสาระ การจดั เนอ้ื หาสาระให้ เหมาะสม เลือกเนอ้ื หาสาระได้สอดคลอ้ งตรง ครูจดั สาระการเรยี นร้ไู ดต้ รงตาม

กับเวลาวัยและความสามารถของ ตามมาตรฐานการเรยี นรู้และ มาตรฐานของหลักสูตร สอดคล้อง

ผู้เรยี น ตัวชวี้ ัดท่กี ำหนดไว้หลกั สตู ร กับมาตรฐานและตวั ชี้วัด

เวลา จดั เวลาในการเรียนรไู้ ด้อย่าง จดั เวลาใหน้ ักเรียนสามารถเรียนรู้ ครมู ีเวลาเพยี งพอในการเตรียม

เหมาะสม ไดอ้ ย่างเต็มศกั ยภาพ ความพร้อมและบรหิ ารจดั การ

เพอื่ ใหก้ ิจกรรมการเรยี นการสอน เรอื่ งเวลาได้

บรรลตุ ัวช้วี ัดได้ตามเวลาทก่ี ำหนด

ส่อื /อุปกรณ์ ใชส้ ื่อ อปุ กรณท์ ี่หาได้งา่ ยมาใช้ใน เลือกใชส้ อื่ ไดเ้ หมาะสมกบั เนอื้ หา ครมู ีความพรอ้ มในการใช้ส่อื

การจดั กิจกรรมใบงานเพยี งพอตอ่ สาระ กิจกรรมและเวลาในการ อปุ กรณแ์ ละใบงานในการจดั

จำนวนนกั เรยี น จดั การเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้

มีความเหมาะสมกับเนือ้ หา -ตระหนกั ถงึ คณุ ค่าของการใชส้ อ่ื

กิจกรรมและเวลา และทรัพยากรอยา่ งคมุ้ ค่า

การจดั กจิ กรรม จดั กจิ กรรมการเรียนรู้ให้เพยี งพอ จัดกิจกรรมไดส้ อดคลอ้ งกับ ครูมีแนวทางการจดั กจิ กรรมอยา่ ง

การเรยี นรู้ ต่อการเรยี นรู้เร่อื งการให้เหตผุ ล มาตรฐานการเรยี นร้แู ละตัวชวี้ ดั ท่ี เป็นลำดบั ขั้นตอน และสามารถ

เหมาะสมกบั ระดบั ความสามารถ กำหนดไวห้ ลักสตู ร แก้ไขปญั หาในการจัดการเรยี น

ของผเู้ รยี น การสอน

การวัดและ ใชว้ ิธกี ารวัดและประเมนิ ผลได้ ใช้วิธกี ารวัดและประเมินผลไดต้ รง มเี คร่ืองมอื ในการวดั และเกณฑ์

ประเมินผล เหมาะสม ตามวัตถุประสงค์ การประเมินที่สอดคลอ้ งกับ

ตัวช้ีวดั

ความรู้ 1. ครมู คี วามรคู้ วามเข้าใจเกยี่ วกบั การเชือ่ มโยงหนา้ เว็บเพจดว้ ยโปรแกรมตามหลักวชิ าการ

2. รอบรู้เทคนคิ วิธีในการจัดการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ เทคนิควธิ ีการวดั และประเมินผล และใช้สื่อ

เทคโนโลยีไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม ครูสบื ค้นเทคนิควธิ ีการสอน และรปู แบบการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ท่ที นั สมัย

3. ครูมคี วามสามารถในการถ่ายทอดความรสู้ ผู่ เู้ รยี น

คณุ ธรรม

- มคี วามรับผดิ ชอบในการปฏบิ ตั หิ น้าทก่ี ารสอน เขา้ สอนตรงตอ่ เวลา ปฏิบตั หิ นา้ ทีสอนเตม็ เวลา

เตรียมการสอน

- ใฝ่รศู้ กึ ษาหาความรเู้ พิม่ เตมิ จากเอกสารตำรา และจากอินเทอรเ์ น็ต

- มคี วามเมตตา ให้ความเสมอภาค และยตุ ธิ รรมกับผเู้ รยี นทุกคน

- มรี ะเบยี บวนิ ยั มคี วามขยันหมั่นเพยี ร มีความรับผดิ ชอบ ครูมคี วามเมตตา มคี วามอดทน

11.2 ผ้เู รียนเกดิ คุณลักษณะอยอู่ ยา่ งพอเพยี งอยา่ งไร (3 ห่วง 2 เงอ่ื น 4 มติ )ิ

ความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล การมภี ูมคิ ุม้ กันที่ดใี นตัว

1 รูจ้ กั แบ่งเวลาในการเรียนและ 1. นักเรียนมีความรคู้ วามเข้าใจ - ฝึกการเป็นคนที่มีจิตสาธารณะ

ศึกษาคน้ คว้าเพ่มิ เติมจา และการนำไปใช้ เอ้ือเฟื้อเผอ่ื แผผ่ อู้ ่ืน

อนิ เทอรเ์ นต็ เกีย่ วกับเน้ือหาที่เรียน 2.นักเรียนเกิดทักษะ - วางแผนในการทำกิจกรรม

จนเกดิ ความเขา้ ใจ กระบวนการกล่มุ เกิดทักษะ การเรยี นอย่างรอบคอบ สามารถนำไป

2. กำหนดเวลาในการทำกิจกรรม กระบวนการเขยี นโปรแกรม เป็นแนวทางในการทำกิจกรรมอื่นๆ

สืบคน้ ฝึกปฏบิ ัติ และสรา้ งช้ินงาน 3. นกั เรยี นสามารถบรหิ าร ในชีวติ ประจำวนั ได้

ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม จดั การเรือ่ งของเวลา

ความรู้ 1. นักเรียนมีความรู้พื้นฐานเพื่อนำไปสู่การเรียนรู้ เช่น การค้นหาข้อผิดผลาด และการไขข้อผิด
ผลาดในการเขยี นโปรแกรม และสามารถใช้คำส่ังในรปู แบบต่าง ๆ ของโปรแกรม เป็นตน้

2. นักเรียนมคี วามรคู้ วามเข้าใจเรอ่ื งการเขียนโปรแกรมอย่างง่าย และการนำไปใช้
3. นักเรียนมีความรู้ ทักษะการคิดวิเคราะห์ การให้เหตุผล การแก้ปัญหา การสื่อสาร และ
กระบวนการกลุ่ม
คณุ ธรรมทีเ่ กดิ กับผ้เู รียน
- มวี นิ ยั มุ่งมั่นในการทำงานโดยการทำช้ินงานทไ่ี ดรบั มอบหมายไดถ้ ูกต้องและเสร็จตรงเวลา
- มีความซือ่ สัตยส์ จุ ริต โดยช้ินงานทีส่ ง่ เปน็ ฝมี ือที่สรา้ งจากจินตนาการของผเู้ รยี นเอง
- ใฝร่ ูใ้ ฝ่เรียน ใหค้ วามรว่ มมอื ในการทำกิจกรรม ด้วยความกระตือรอื ร้น และสนใจ
- มีจิตสาธารณะเอ้ือเฟ้ือเผ่ือแผโ่ ดยชว่ ยแนะนำและสอนเพือ่ นเก่ียวกับเร่ืองที่เรยี นหากเพ่ือนไม่เข้าใจ

ประเมินผลลพั ธ์ (KPA) ท่เี กดิ กบั ผู้เรยี นจากการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้บูรณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

ด้าน อย่อู ยา่ งพอเพียง --- สมดุลและพร้อมรับการเปลีย่ นแปลงในดา้ นต่างๆ

วัด วตั ถุ สังคม สง่ิ แวดลอ้ ม วัฒนธรรม

ความรู้ - นกั เรียนรู้จักใชส้ ือ่ วสั ดุ - นักเรยี นนำความรู้ - นำความรเู้ รอื่ งการเชือ่ มโยงหน้า -มีความรู้ความเข้าใจ

(K) อปุ กรณ์ และการใช้ทรัพยากร เรื่องการให้เหตุผลท่ีได้ เว็บเพจไปใช้ในการคิดวเิ คราะห์ และใช้การใหเ้ หตผุ ล

ไดอ้ ย่างเหมาะสม ไปใช้ประกอบการ และการบริหารจดั การ เพื่อสนับสนุนความจรงิ

(ใบความรู้ ใบงาน ตัดสินใจ การวางแผน สงิ่ แวดลอ้ มทอี่ ยรู่ อบตวั โรงเรยี น และความเชอื่ อยา่ งมี

คอมพวิ เตอร์ เวลา คน) และการทำงานใหเ้ กดิ ชุมชน และสงั คม วจิ ารณญาณ

- นักเรียนศึกษาในเอกสาร ประโยชนก์ ับตนเอง

ใบงาน ใบความรู้ ครอบครัว ชมุ ชนและ

สงั คม

ทักษะ -นักเรียนปฏบิ ตั ติ ามข้นั ตอนที่ - มีทกั ษะการทำงาน - มีทกั ษะในการปรบั ตัวใหเ้ ขา้ กบั -มที ักษะกระบวนการ

(P) กำหนดไวใ้ นใบงานไดถ้ กู ต้อง ร่วมกบั ผอู้ ื่น สิ่งแวดล้อม นำเอาหลกั การเชื่อมโยง

-นักเรยี นใชส้ อื่ วัสดอุ ุปกรณ์การ - นกั เรียนมีทกั ษะที่เกดิ - เกดิ ทักษะการบรหิ ารจดั การ การแก้ไขปญั หา การ

เรยี นไดถ้ ูกต้อง จากการเรียนรแู้ ละ และการดแู ลรกั ษาสิง่ แวดล้อม คน้ หาบญั หาไปใชใ้ น

-นกั เรียนสามารถบริหารจัดการ สามารถนำไป ชวี ติ ประจำวนั ได้

ทรพั ยากรได้อย่างสมเหตสุ มผล ประยุกตใ์ ช้กบั ตนเอง

ครอบครัว ชุมชนและ

สงั คมได้

ค่านยิ ม - นักเรียนใช้วสั ดุ อุปกรณแ์ ละ - เกดิ ความสามัคคีมี - ตระหนกั และเห็นคณุ ค่าของ --ตระหนกั และเหน็
(A) ทรัพยากรอยา่ งประหยดั และ นำ้ ใจ รจู้ ักแบ่งปนั ผูอ้ นื่
คมุ้ คา่ สมเหตุสมผล ส่ิงแวดล้อม และมเี หตผุ ลในการ คณุ ค่าของการดำเนิน
- นักเรียนมรี ะเบียบวนิ ยั รักการ
ทำงาน อนรุ ักษไ์ ว้ ชีวิตอย่างรอบคอบ
- มีความรบั ผดิ ชอบ
-รูจ้ กั ใชท้ รัพยากรสง่ิ แวดลอ้ ม ระมัดระวัง มีเหตผุ ล

อย่างคมุ้ คา่ -ตระหนกั ถงึ ความ

สมเหตุสมผลของ

คำตอบหรือผลลัพธ์จาก

การตดั สินใจ

12. บันทึกผลการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

บนั ทกึ หลังแผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 3 เร่อื ง เร่ือง การเขยี นโปรแกรมอยา่ งงา่ ย

วชิ า ว12101 วชิ าวทิ ยาการคำนวณ ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 2 ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564

9.1 สรุปผลการเรียนการสอน

9.1.1 นกั เรยี นจำนวน ...........คน

ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ ...........คน คิดเป็นรอ้ ยละ..............................

ไมผ่ ่านจุดประสงค์การเรยี นรู้ ...........คน คดิ เป็นรอ้ ยละ..............................

ได้แก่

1. ............................................................................................................................. ........................

2. .....................................................................................................................................................

นักเรียนทีม่ คี วามสามารถพิเศษไดแ้ ก่

1. ........................................................................................................................... ..........................

2. ................................................................................................................................... ..................

9.2 ปัญหา/อปุ สรรค

(ผลการประเมนิ ทไ่ี มเ่ ป็นไปตามจดุ ประสงค์สู่ตวั ชว้ี ดั คณุ ลกั ษณะหรือสมรรถนะของผเู้ รียน)

.................................................................................................................................... ...................................

................................................................................................ .......................................................................

9.3 แนวทางแก้ไข/แนวทางการพฒั นา
(แนวทางการแกป้ ัญหา/พัฒนานักเรียนใหไ้ ด้ ตามตวั ชวี้ ัด คุณลักษณะ หรอื สมรรถนะของผู้เรียน)
............................................................................................................................. ..........................................
......................................................................................... ..............................................................................
............................................................................................................................. ..........................................

ลงชอื่ ………………………………………………. ครผู ู้สอน
(นายสมนกึ พงษ์เทพนิ )

ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครชู ำนาญการพเิ ศษ
............../.........................../..................

 ความเหน็ ของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผู้ทีไ่ ด้รับมอบหมาย

แผนการจัดการเรยี นรู้ สรปุ ผล ดงั น้ี
1. แผนการจดั การเรยี นรู้

❒ นำไปใชไ้ ดจ้ ริง
❒ ควรปรบั ปรงุ ก่อนนำไปใช้ (ระบุ)
..................................................................................................... ...........................................................
......................................................................................... .......................................................................
............................................................................................................................. ...................................
2. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
❒ มีกิจกรรมการเรยี นรูท้ ี่หลากหลาย สอดคล้องกบั ศักยภาพของผูเ้ รียน
❒ เน้นการคดิ
❒ มกี ารบรู ณาการ
❒ ฝกึ ทกั ษะการปฏิบตั ิจริง
❒ มีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง
3. ข้อเสนอแนะอน่ื ๆ
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
.............................................................................................. ..................................................................

(นางสาวอนิ ทุอร โควังชัย)
ตำแหนง่ รองผอู้ ำนวยโรงเรยี นกลุ่มงานบรหิ ารงานวชิ าการ
ความคิดเหน็ ของผูบ้ ริหารสถานศึกษา
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................

ลงชื่อ..................................................................
( นายสมพงษ์ บญุ นาม )

รองผอู้ ำนวยการโรงเรยี น รักษาการในตำแหนง่
ผอู้ ำนวยการโรงเรียนสนามบิน
…………./……………./…………..

ความถูก ้ตอง แบบประเมนิ พฤติกรรมปฏบิ ตั ิใบงาน
ครบถ้วน หนว่ ยท่ี 3 หนว่ ยย่อยท่ี 1 เรอ่ื ง การค้นพบปญั หา

ความ ัชดเจนเข้าใจชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 2/....... ปกี ารศึกษา .........
่งาย
ปฏบิ ตั ิใบงาน
ความเ ็ปนระเ ีบยบ
เ ีรยบ ้รอย สวยงามเลขท่ี
การ ่สงงานตรงเวลา
22222
ทำงานมีระบบ1
ข้ันตอน2
รวม3
4
5 10
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22

ปฏบิ ตั ิใบงาน

เลขที่ ความถูก ้ตอง
ครบถ้วน

ความ ัชดเจนเข้าใจ
่งาย

ความเ ็ปนระเ ีบยบ
เ ีรยบ ้รอย สวยงาม
การ ่สงงานตรงเวลา

ทำงานมีระบบ
ข้ันตอน
รวม

22222 10
23
24 คะแนน
25
2
เกณฑก์ ารประเมนิ 1
พฤติกรรมปฏิบตั ิใบงาน 0
1. ความถูกตอ้ งครบถ้วน
ลกั ษณะผลงาน/พฤติกรรมบง่ ชี้ คะแนน

ปฏบิ ัติกิจกรรมใบงานถูกตอ้ งครบสมบูรณ์ 2
ปฏบิ ัติกิจกรรมใบงานถูกตอ้ งเป็นส่วนใหญ่ 1
ปฏิบัติกิจกรรมใบงานถูกบา้ งเล็กนอ้ ยหรือไม่ทำเลย 0

2. ความชัดเจนเขา้ ใจง่าย คะแนน
ลักษณะผลงาน/พฤตกิ รรมบง่ ชี้
2
ออกแบบและจัดข้อมูลถูกต้องชัดเจนเข้าใจงา่ ย 1
ออกแบบและจัดข้อมลู ชัดเจนเปน็ บางส่วน 0
ออกแบบและจดั ข้อมลู ไม่ถูกต้อง

3. ความเปน็ ระเบียบเรียบร้อย สวยงาม
ลกั ษณะผลงาน/พฤติกรรมบง่ ช้ี

ผลงานเป็นระเบียบ ประณตี สะอาด เรียบร้อย สวยงาม สมำ่ เสมอ ครบสมบรู ณ์
ผลงานเป็นระเบียบ ประณีต สะอาด เรียบร้อยเป็นสว่ นใหญ่
ผลงานไมเ่ ป็นระเบียบ ไมเ่ รียบร้อย

3. การสง่ งานตรงเวลา คะแนน
ลกั ษณะผลงาน/พฤติกรรมบ่งชี้
2
ทำงานเสร็จก่อนเวลา ส่งงานทันเวลาสม่ำเสมอ 1
ทำงานเสรจ็ แต่ส่งงานไมท่ ันเวลาเปน็ ส่วนใหญ่ 0
ไม่สง่ งาน
คะแนน
4. ทำงานมีระบบขนั้ ตอน
ลกั ษณะผลงาน/พฤตกิ รรมบ่งช้ี 2
1
ทำงานตามระบบเปน็ ขัน้ ตอนสมำ่ เสมอ 0
ทำงานตามระบบเปน็ ขั้นตอนเปน็ ส่วนใหญ่
ไม่ทำงานตามระบบข้ันตอน

เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
ดมี าก
8-10 ดี
พอใช้
6-7 ปรบั ปรุง

4-5

ตำ่ กวา่ 3

แบบสงั เกตพฤติกรรมคุณลักษณะอันพึงประสงค์

ลำ ช่อื – สกุล ความ ความมีวินยั ใฝ่เรยี นรู้ อยอู่ ย่าง ม่งุ ม่นั ในการ จิตสาธารณะ รวม สรุป
ดับ ของผรู้ บั การประเมนิ ซือ่ สัตย์ พอเพียง ทำงาน 20
ท่ี สจุ รติ
คะแนน คุณภาพ

4 32 14 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23

ลำ ช่ือ – สกลุ ความ ความมีวนิ ัย ใฝเ่ รียนรู้ อย่อู ย่าง มงุ่ มัน่ ในการ จิตสาธารณะ รวม สรุป
ดบั ของผรู้ ับการประเมนิ ซ่อื สตั ย์ พอเพียง ทำงาน
ที่ สุจริต 20
คะแนน คุณภาพ

4 3 214 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37

สรุปรวมทัง้ หมด
ค่าเฉลยี่

สรปุ คุณภาพ

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 4 คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยคร้ัง ให้ 2 คะแนน
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมบางครงั้ ให้ 1 คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมน้อยครัง้

เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
18-20 ดมี าก
14-17 ดี
10-13 พอใช้
ปรับปรงุ
ต่ำกว่า 10

แบบเกบ็ คะแนน วชิ าวทิ ยาการคำนวณ (ว12101)

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 การเขียนโปรแกรมอย่างง่าย หนว่ ยยอ่ ยท่ี 1 เรอื่ ง การค้นพบปัญหา

นักเรยี นชน้ั ป.2/........... ปกี ารศึกษา 2564 โรงเรยี นสนามบิน จ.ขอนแกน่

รายการ

ที่ ช่ือ-สกุล (5) (5) (10) (10)

รวม เกณฑ์

(30)

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26

ที่ ชื่อ-สกุล รายการ (10)

(5) (5) (10) รวม เกณฑ์

(30)

27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
44
45
46

หมายเหตุ คะแนนอยู่ในช่วงต้งั แต่รอ้ ยละ 70 ขน้ึ ไป ถือว่า ผา่ นเกณฑ์

แบบประเมนิ แผนการจัดการเรยี นรู้

รายวิชาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

รหสั วิชา ว12101 ช้ัน ประถมศกึ ษาปที ี่ 2 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี

ครูผ้สู อน นายสมนึก พงษ์เทพนิ สอนรายวชิ า วิทยาการคำนวณ

คำช้แี จง : โปรดเขยี นเครื่องหมาย “✓” ลงในชอ่ งใต้ระดบั ความคดิ เหน็ โดยแต่ละช่องมีความหมายดังน้ี

5 หมายถึง เหน็ ด้วยในระดับมากท่สี ดุ 4 หมายถึง เหน็ ดว้ ยในระดับมาก

3 หมายถงึ เห็นด้วยในระดบั ปานกลาง 2 หมายถงึ เหน็ ด้วยในระดบั น้อย

1 หมายถงึ เหน็ ด้วยในระดับนอ้ ยทสี่ ดุ

ข้อ รายการประเมิน ระดับคะแนน 1
ที่ 5432

1 แผนการจดั การเรยี นร้สู อดคล้องสมั พันธก์ ับหนว่ ยการเรียนรทู้ ี่กำหนดไว้

2 แผนการจดั การเรยี นรู้มีองค์ประกอบสำคญั ครบถว้ นร้อยรัดสมั พนั ธก์ ัน

3 การเขียนสาระสำคญั ในแผนถกู ตอ้ ง

4 จดุ ประสงค์การเรียนรมู้ สี อดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรียนร/ู้

ผลการเรยี นรู้

5 กำหนดแผนการจดั การเรียนรเู้ หมาะสมจำนวนช่ัวโมง

6 กำหนดเนื้อหาสาระเหมาะสมกับเวลา

7 กิจกรรมการเรยี นรสู้ อดคลอ้ งกบั จุดประสงค์และเนือ้ หาสาระ

8 กิจกรรมการเรยี นรสู้ อดคลอ้ งกับจุดประสงคแ์ ละระดบั ชัน้ ของนักเรยี น

9 กจิ กรรมการเรยี นรมู้ ีความหลากหลายและสามารถปฏบิ ตั ไิ ด้จรงิ

10 กิจกรรมการเรียนรเู้ ปน็ กจิ กรรมทส่ี ่งเสริมกระบวนการคดิ ของนักเรยี น

11 กิจกรรมเน้นใหน้ กั เรยี นเรยี นรู้จากการปฏิบัตจิ รงิ

12 กจิ กรรมการเรยี นรสู้ อดแทรกคณุ ธรรมและคา่ นยิ มทีด่ ีงาม

13 การจดั การเรยี นการสอนโดยนำแนวคิดตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาใช้

14 กจิ กรรมการเรียนรสู้ ง่ เสรมิ ใหน้ ักเรยี นศึกษาค้นควา้ เรยี นรู้ด้วยตนเอง

15 มีการจัดกจิ กรรมการเรยี นรเู้ พอ่ื เตรยี มนักเรยี นเข้าสกู่ ารเป็นประชาคมอาเซียน

16 วัสดอุ ุปกรณ์ สือ่ และแหล่งเรียนร้เู หมาะสมกบั เนื้อหาสาระ

17 มีการออกแบบกจิ กรรมเพอื่ พฒั นาคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

18 นักเรียนทำช้ินงานทไี่ ด้ใชค้ วามรู้ ความคดิ มากกวา่ การทำตามทีค่ รกู ำหนดหรอื การทำ

แบบฝกึ หัดท่ัวไป

19 มีการวดั และประเมนิ ผลท่ีสอดคลอ้ งกับจดุ ประสงค์การเรียนรู้

20 นักเรยี นได้มสี ว่ นร่วมในการวัดและประเมินผล มกี ารวัดและประเมนิ ผลครบทงั้ K, P, A

รวมคะแนน...............................คะแนน (เต็ม 100 คะแนน)

เกณฑต์ ัดสิน หมายถงึ ระดบั คณุ ภาพดีมาก ลงชื่อ......................................ผปู้ ระเมนิ ตนเอง
80 – 100 หมายถงึ ระดบั คณุ ภาพดี (นายสมนึก พงษเ์ ทพิน)
74 – 79 หมายถงึ ระดบั คณุ ภาพพอใช้ ............./................/..............
68 – 73 หมายถึง ระดับคณุ ภาพควรปรับปรุง
62 – 67 หมายถึง ระดบั คณุ ภาพไมผ่ า่ นเกณฑ์
0 – 61

แบบประเมนิ หน่วยการเรียนรู้

หน่วยการเรียนที่ 3 เรื่อง การเขยี นโปรแกรมอย่างง่าย

วชิ าวิทยาการคานวณ ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 2 ปี การศึกษา

2564
คำชี้แจง โปรดเขยี นเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องที่ตรงกับระดบั การประเมนิ

ระดับการประเมนิ 4 หมายถงึ มีความสอดคลอ้ ง / เช่อื มโยง / เหมาะสม มากท่ีสุด

3 หมายถึง มีความสอดคล้อง / เชอ่ื มโยง / เหมาะสม มาก

2 หมายถึง มีความสอดคล้อง / เชื่อมโยง / เหมาะสม นอ้ ย

1 หมายถึง มคี วามสอดคล้อง / เชอื่ มโยง / เหมาะสม นอ้ ยทสี่ ุด

รายการประเมิน ระดับการประเมนิ
4321

1. หนว่ ยการเรียนรู้ น่าสนใจ กะทัดรัด ชัดเจน ครอบคลมุ เนอ้ื หาสาระ

2. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ดั สมรรถนะสำคญั ของนกั เรยี น และคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ มี
ความเชอ่ื มโยงกนั อย่างเหมาะสม

3. ความสอดคลอ้ งของมาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้วี ดั สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด สาระการ
เรยี นรแู้ ละกิจกรรมการเรียนรู้

4. ความเช่อื มโยงสมั พนั ธ์กันระหวา่ งชอ่ื หนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วัด
สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด สาระการเรยี นร้แู ละกจิ กรรมการเรยี นรู้

5. กิจกรรมการเรยี นรู้ สอดคลอ้ งกับสาระการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้วี ดั

6. กิจกรรมการเรียนรู้มคี วามครอบคลุมการพฒั นาผู้เรียนให้มีความรู้ ทักษะ/กระบวนการ
สมรรถนะท่ีสำคญั ของผูเ้ รียนและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

7. กิจกรรมการเรยี นรมู้ คี วามเหมาะสม สามารถนำพาให้ผ้เู รยี นสรา้ งสรรคช์ ิน้ งานหรือภาระงานได้

8. มกี ารประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ สอดคล้องกับมาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้วี ดั กจิ กรรมการเรยี นรู้

9. ประเด็นและหลักเกณฑก์ ารประเมินสมรรถนะสะท้อนคณุ ภาพผเู้ รียนตามมาตรฐานการเรยี นรู้/
ตัวช้ีวัด

10. สอื่ การเรยี นรู้ในแตล่ ะกจิ กรรมมีความเหมาะสมกบั เวลาและนำไปประยุกต์ใชไ้ ด้จรงิ

รวมสรุปผล

รวม เฉลย่ี สรุปผล

ข้อคิดเห็น/ขอ้ เสนอแนะ .......................................................................................................................................................

(ลงชอื่ ).......................................................ผูป้ ระเมนิ
(......................................................)

ตำแหน่ง......................................................
............/...................../............

การแปลความหมาย การประเมนิ หน่วยการเรียนรู้
เกณฑ์ คา่ เฉลย่ี 1.00 – 1.50 ปรบั ปรุง 1.51 – 2.50 พอใช้ 2.51 – 3.50 ดี 3.51 – 4.00 ดีมาก
หรือ คะแนน 10 – 15 ปรับปรุง 16 – 25 พอใช้ 26 – 35 ดี 36 – 40 ดีมาก


Click to View FlipBook Version