ฉลามยักษ์นักล่าเมกาโลดอน
จัดทำโดย
นางสาวพรพิมล นาทองคำ
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/4 เลขที่ 37
รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษา
วิชาห้องสมุดและการเรียนรู้สารสนเทศ
ภาคเรียนที่ 2 / 2564
โรงเรียนสงวนหญิง
ฉลามยักษ์นักล่าเมกาโลดอน
จัดทำโดย
นางสาวพรพิมล นาทองคำ
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/4 เลขที่ 37
รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาวิชาห้องสมุดและการเรียนรู้สารสนเทศ
ภาคเรียนที่ 2 / 2564
โรงเรียนสงวนหญิง
คำนำ
รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาห้องสมุดกับการเรียนรู้สาระสนเทศ มัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยมีจุดประสงค์เพื่อ
ศึกษาความรู้ที่ได้จากเรื่อง ฉลามยักษ์เมกาโลดอน ซึ่งรายงานนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับประวัติของเมกาโลดอน ลักษณะ
ระยะ แหล่งอาการ กลยุทธ์ในการล่า ข้อสันนิษฐาน สาเหตุการสูญพันธุ์ และเกร็ดความรู้ต่าง ๆ
เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่านผู้จัดทำได้เลือกหัวข้อนี้ในการทำรายงานเนื่องมาจากเป็นเรื่องที่สนใจผู้จัดทำต้องขอขอบคุณ
คุณครู สิริลักษณ์ แสงศิลา ผู้ให้ความรู้ และแนวทางการศึกษาเพื่อน ๆ ทุกคนที่ให้ความช่วยเหลือมาโดยตลอด ผู้จัด
ทำหวังว่ารายงานฉบับนี้จะเป็นให้จะให้ความรู้ และเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านทุก ๆ ท่าน
ก
คำนำ สารบัญ
สารบัญ
บทนำ
ประวัติทั่วไปของฉลาม ก
-ประวัติเมกาโลดอน ข
-ลักษณะ 1
-ประมาณโดยเฉลี่ย 2
-ขนาดตัว 3
ระยะและแหล่งอาหาร 4
-กลยุทธ์ในการล่า 5
-ข้อสันนิษฐาน 6
8 -สาเหตุการสูญพันธุ์ 7
-เกร็ดความรู้ 8
บทสรุป
บรรณานุกรม 10
10
12 ข
13
บทนำ
เรื่องราวความเชื่อเกี่ยวกับสัตว์ในตำนานไม่ได้มีแต่แค่ในนิทานเท่านั้น ความเชื่อเหล่านี้ยังมีผลทางด้าน
วิทยาศาสตร์ บางคนเชื่อว่าสัตว์ในตำนาน หรือ สัตว์ที่น่าจะสูญพันธุ์ไปแล้วยังไม่ได้สูญพันธ์ไปอย่างแท้จริง มันอาจจะ
ยังมีชีวิตอยู่ แต่อาจจะหายากถึงยาก เมกะโลดอน ปลาฉลามยักษ์ก็เป็นอีกหนึ่งความเชื่อที่ยังมีอยู่ เมกาโลดอนอาจ
จะมีผลกระทบสำคัญในโครงสร้างของชุมชนทางทะเล ซากดึกดำบรรพ์แสดงให้เห็นว่ามันมีการจัดจำหน่ายทั่วโลก
Megalodon ( Otodus Megalodon ) ความหมาย "ฟันใหญ่" เป็นสายพันธุ์ของปลาฉลามที่อาศัยอยู่ประมาณ 3.6
ไป 23 ล้านปีที่ผ่านมา ในช่วงก่อนยุค Pliocene ก่อนหน้านี้เคยคิดว่าเป็นสมาชิกในครอบครัว Lamnidae และเป็น
ญาติสนิทของฉลามขาวผู้ยิ่งใหญ่
1
ประวัติทั่วไปของฉลาม
ฉลามเป็นปลากระดูกอ่อนที่มีความหลากหลายสูงมาก ทั่วโลกมีฉลามมากกว่า 500 ชนิด แบ่งได้เป็น 8 กลุ่ม
ใหญ่ๆ ตามลักษณะทางกายภาพ ฉลามมีความหลากหลายของรูปทรง สีสัน และขนาด มีตั้งแต่ฉลามวาฬที่เป็นปลาที่
ใหญ่ที่สุดในโลก ตัวใหญ่ที่สุดมีรายงานว่ามีความยาวถึง 20 เมตร หนักถึง 42 ตันจากไต้หวัน จนถึงฉลาม dwarf
lanternshark ปลาฉลามหายากมากในกลุ่มปลาฉลามหลังหนาม ที่โตเต็มที่มีความยาวไม่ถึง 20 เซนติเมตร พบ
เฉพาะแถบอเมริกากลางฉลามบาสกิ้นเป็นปลาขนาดใหญ่รองจากฉลามวาฬ พวกมันมีความยาวได้ถึง 6 – 8 เมตร
และหนักได้ถึง 5.2 ตัน
ฉลามแต่ละชนิดยังมีลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันไป และพบได้ในทุกมหาสมุทรทั่วโลก แม้แต่ในแม่น้ำ ลำคลอง ปาก
แม่น้ำ ป่าชายเลน บางชนิดอาศัยเฉพาะในน้ำเย็น บางชนิดชอบอาศัยในน้ำอุ่น บางตัวเดินทางท่องไปทั่วโลก แต่บาง
ตัวก็อาศัยอยู่ไม่ไกลจากบริเวณที่ตัวเองเกิด ลักษณะเฉพาะทางชีววิทยาของฉลามที่แตกต่างจากปลากลุ่มอื่นๆ ส่วน
ใหญ่ คือพวกมันโตช้า กว่าจะเจริญเติบโตจนเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์อาจต้องใช้หลายปี ฉลามหัวบาตรใช้เวลา 15-20 ปีก
ว่าจะพร้อมผสมพันธุ์และในขณะที่ปลาส่วนใหญ่วางไข่กันนับหมื่นนับแสนฟอง ฉลามออกลูกคราวละไม่กี่ตัว ฉลาม
หัวบาตรออกลูกคราวละ 6-8 ตัวเท่านั้นและใช้เวลาอุ้มท้อง 10-11 เดือน ยาวนานกว่าคนเสียอีก
การมีอยู่ของฉลามคือหลักประกันความสมดุลของโครงสร้างประชากรปลาทะเลเพราะในฐานะนักล่าลำดับสูงสุด
ฉลามทำหน้าที่กำจัดปลาที่เชื่องช้า ป่วย หรือใกล้หมดอายุตามวัย ช่วยคัดสรรสายพันธุ์ปลาอื่นๆให้แข็งแรง รักษา
สมดุลประชากรปลากินพืชให้อยู่ในระดับพอเหมาะไม่สร้างความเสียหายให้กับถิ่นที่อยู่อาศัย ขณะเดียวกันยังควบคุม
พฤติกรรมของปลากินเหยื่อขนาดรองๆลงมาให้อยู่กับร่องกับรอย ทำให้แบ่งสรรกันใช้ทรัพยากรได้อย่างพอเหมาะพอ
เจาะ ฉลามจึงมีความสำคัญต่อระบบนิเวศทางทะเลอย่างยิ่ง ไม่ต่างอะไรกับความสำคัญของการมีอยู่ของเสือในป่า
การที่ฉลามหมดไปจากระบบนิเวศจะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อห่วงโซ่อาหาร งานศึกษาความสำคัญของฉลามต่อ
แนวปะการังในคาริบเบียน พบว่าเมื่อผู้ล่าสูงสุดอย่างฉลามหายไปจำนวนผู้ล่าระดับรองๆ ลงมาเช่นปลาหมอทะเล จะ
เพิ่มปริมาณมากขึ้นจนผิดปกติ ทำให้เกิดการล่าปลากินพืชมากตามไปด้วย เมื่อปลากินพืชอย่างเช่นปลานกแก้วลด
จำนวนลงมากๆ ก็จะส่งผลต่อการควบคุมปริมาณสาหร่าย ทำให้สาหร่ายในระบบนิเวศขยายตัวแย่งพื้นที่ปะการัง
หรือขึ้นปกคลุมจนปะการังไม่สามารถแข่งขันได้ จนนำไปสู่สภาวะปะการังเสื่อมโทรม และเกิดการเปลี่ยนแปลงระบบ
นิเวศโดยรวม การที่ปลาฉลามครีบดำถูกจับออกมามากเกินไป ได้นำไปสู่การล่มสลายของประมงพื้นบ้านที่ดำรงอยู่
ด้วยการจับหอยเชลล์มากว่าศตวรรษเพราะเมื่อไม่มีฉลาม ปลากระเบนจมูกวัวที่เป็นเหยื่ออันดับหนึ่งของฉลามครีบ
ดำก็เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างผิดปกติ และออกหากินหอยเชลล์อย่างหนัก จนกระทั่งประชากรหอยเชลล์หายไปจากพื้นที่
ไม่เหลือให้ได้ชาวประมงหากินอีกต่อไป ไม่เฉพาะแต่แนวปะการังเท่านั้นที่ต้องการฉลาม เพราะงานศึกษาจากฮาวาย
พบว่าแนวหญ้าทะเลที่มีฉลามเสือ ปรากฏตัวอยู่ ช่วยทำให้เต่าทะเลหากินแบบกระจายตัวกันไปทั่ว เพราะความ
ระแวงฉลามเสือ พวกมันจึงไม่หากินเฉพาะที่ใดที่หนึ่งมากเกินไป ในทางกลับกันเมื่อฉลามเสือหมดไปจากพื้นที่ เต่า
ทะเลหากินในพื้นที่เดิมอย่างสบายใจโดยไม่ต้องระวังตัว จนทำให้แนวหญ้าทะเลบางบริเวณเกิดความเสียหาย
ตแมร้ะมหนุนษักย์แจละ้วเพใิ่นงเเวริ่ลมาเขน้ี้ากใ็คจือคควาวมามสัสมำพัคนัญธ์ทอีั่นขาสดลัไบม่ซไับด้ขซ้อองนฉขลอางมสิ่ใงนมีกชีาวิรตรัใกนษมาหสามสดมุุลทขรองแโตล่สิก่งสทีีค่นรักาวมิทอัยนากศว้าาสงตใหร์ญท่าใบงทนี้ะเล2
ประวัติของเมกาโลดอน
เม็กกาโลดอน ( อังกฤษ : Megalodon ภาษากรีก แปลว่า ฟันใหญ่) หรือเรียกสั้นๆ ว่า เม็ก (Meg) ปลาฉลาม
ขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมา มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Carcharodon megalodon นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่ามีรูปร่าง
และลักษณะรวมทั้งพฤติกรรมคล้ายคลึงกับปลาฉลามขาว (C. carcharias) และได้จัดให้อยู่ในสกุล carcharodon
อันเป็นสกุลเดียวกับฉลามขาว แต่ทว่า เม็กกาโลดอนมีขนาดลำตัวที่ใหญ่กว่ามาก เป็นปลาที่มีขนาดใหญ่สุดเท่าที่เคย
มีมาบนโลก เม็กกาโลดอน มีชีวิตอยู่ในช่วงยุคนีโอจีน (23-1.81 ล้านปีก่อน) โดยมีการค้นพบซากฟอสซิลทั้งในยุโรป
แอฟริกา อเมริกา ออสเตรเลีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อินโดนีเซีย)
นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า เม็กกาโลดอนกินอาหารโดยไม่เลือก และอาจจะกินวาฬได้ด้วย เนื่องจากมีการขุดค้นพบ
กระดูกวาฬที่มีรอบฟันคล้ายรอยฟันของฉลามกัด เชื่อว่าเป็นรอยฟันของเม็กกาโลดอน โดยเหยื่อของเม็กกาโลดอน
ชนิดหนึ่ง คือ ออโดเบ็นออเซ็ทออป ซึ่งเป็นวาฬในยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่มีลักษณะคล้ายนาวาฬในยุคปัจจุบัน ขนาด
ของเม็กกาโลดอน อาจมีความยาวประมาณ 20 เมตรหรือยาวกว่านั้น ฟันของเม็กกาโลดอน มีความยาวประมาณ 21
เซนติเมตร และมีขนาดกรามใหญ่ถึง 2 เมตร นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเม็กกาโลดอนที่ยังอ่อน จะอาศัยอยู่ตามชายฝั่ง
ทะเล และตัวใหญ่จะออกหากินตามทะเลเปิดและก้นมหาสมุทร โดยสามารถว่ายน้ำและโจมตีเหยื่อได้อย่างรวดเร็ว
https://www.oceanlaw.net/ความเชื่อเรื่อง-เมกะโลด/
ปัจจุบัน เม็กกาโลดอนได้สูญพันธุ์ไปหมดแล้วราว 15 ล้านปีก่อน แต่ยังเหลือปลาที่มีความใกล้เคียงกันที่สุดก็คือ
ฉลามขาว ความใหญ่และน่ากลัวของเม็กกาโลดอนทำให้มีผู้นำไปสร้างเป็นนวนิยายและภาพยนตร์หลายต่อหลาย
เรื่อง เช่น shark attack 3: megalodon ในปี ค.ศ. 2002 หรือนวนิยายเรื่อง เม็กกาโลดอน นวนิยายแนว
วิทยาศาสตร์สยองขวัญ โดย ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักเขียนและนักมีนวิทยาชาวไทยนักวิทยาศาสตร์บางคนเชื่อ
ว่า Megalodon สูญพันธุ์เพราะภูมิอากาศของโลกเปลี่ยนแปลง วาฬย้ายถิ่นหาอาหาร จากทะเลเขตร้อนเข้าสู่เขต
หนาวใกล้ขั้วโลก ทำให้ฉลามยักษ์ไม่มีอาหารกิน อย่างไรก็ดี ในปี ค.ศ. 1933 มีชายชาวอเมริกันคนหนึ่งอ้างว่า เขาได้
พบเห็นฉลามตัวหนึ่งที่มีขนาดใหญ่กว่าฉลามปกติทั่วไปหลายเท่า โดยพบที่มหาสมุทรแปซิฟิกนอกชายฝั่งของ
สหรัฐอเมริกา เขาอ้างว่าเฉพาะหัวส่วนของมันมีขนาดใหญ่ราว 10 ฟุต เมื่อไม่นานมานี้ นักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งได้
ติดตั้งกล้องน้ำลึกเพื่อบันทึกภาพการกินเหยื่อของฉลาม และพบฉลามตัวหนึ่งที่มีขนาดใหญ่มาก 3
โดยที่นักวิทยาศาสตร์ไม่รู้ว่า มันคือฉลามชนิดไหน แต่อาจมีความเป็นไปได้ว่า คือ เม็กกาโลดอน (แต่มีผู้สันนิษฐานว่า
คือ ปลาฉลาสลีปเปอร์ แปซิฟิก (Somniosus pacificus) ซึ่งโตเต็มที่ยาวได้ 7 เมตร
ลักษณะ
มหาสมุทรโบราณของโลกของเรามีเมกาโลดอนเป็นนักล่าหลัก ราวกับว่าเราเปรียบเทียบฉลามขาวในปัจจุบันแต่มี
ขนาดที่เกินจริงมาก ราวกับว่ามันสามารถอยู่ในคลาสที่เรียกว่า "ซุปเปอร์นักล่า" ซึ่งเรารวมสายพันธุ์อื่น ๆ เช่น
Mosasaurus และ Pliosaurus สัตว์เหล่านี้ไม่มีผู้ล่าตามธรรมชาติและอยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหารทั้งหมด ปากมี
ความยาว 2 เมตรและประกอบด้วยฟันขนาดมหึมาอย่างน้อย 280 ซี่ ฟันมีรูปร่างเป็นสามเหลี่ยม แข็งแรง และมีรูป
ร่างเหมือนเลื่อย ท้องแต่ละข้างมีความยาวเกิน 13 เซนติเมตร ความแข็งแกร่งที่ท่วมท้นของเมกาโลดอนคือสิ่งที่โดด
เด่นที่สุดเกี่ยวกับฉลามตัวนี้ และการกัดของมันนั้นรุนแรงมากจนสามารถบดขยี้ได้ถึง 18 ตัน ซึ่งเป็นแรงที่มากเกิน
พอที่จะทำลายกระดูกของเหยื่อใดๆ สำหรับครีบนั้นมีครีบหลังที่สามารถมองเห็นได้จากระยะไกลโดยมีสัณฐานวิทยา
คล้ายกับใบเรือ แขนขาทั้งหมดของมันค่อนข้างยาว แต่ก็ไม่ได้ทำให้มันเป็นฉลามที่เชื่องช้า ครีบอกเป็นครีบที่ให้
ความเร็วสูงสุดเนื่องจากสามารถขับเคลื่อนไปพร้อมกับหางได้ เป็นไปได้ว่าพวกมันจะมีครีบหนาและใหญ่กว่าครีบ
ฉลามขาว หางของมันเหมือนกับฉลามขาวผู้ยิ่งใหญ่ทุกประการ มันดูดซับออกซิเจนผ่านเหงือกที่ด้านข้างของร่างกาย
เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้จมน้ำ ทำให้ร่างกายของเขาเคลื่อนไหวตลอดเวลา พื้นเหงือกไม่มีระบบการดูดซึมเหมือนที่ปอด
ของเรามี ดังนั้นเขาจึงต้องเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง
http://www.thaifossil.com/products_detail/view/1630856
4
ประมาณโดยเฉลี่ย
เนื่องจาก
เม็กกาโลดอนเป็น ปลากระดูกอ่อน เวลาที่มันตายจะไม่ลงเหลือมาเป็น ซากดึกดำบรรพ์ จึงมีการประมาณ
ขนาดที่ขัดแย้งกันมากมาย โดยแรกเริ่ม นักวิทยาศาสตร์ได้คาดการณ์ว่าเมกาโลดอนมีขนาด 20-25 เมตร (65-82
ฟุต) ต่อมาได้มีการให้ลดขนาดจากการอิงฟอสซิลส่วนขากรรไกรทำให้มีขนาดราว 18 เมตร (60 ฟุต) แต่การศึกษาใน
ปี 2015 ได้มีการประมาณขนาดที่ประมาณความยาวเฉลี่ย 10.5 เมตร (34 ฟุต) เป็นไปได้ว่าเม็กกาโลดอนทั่วโลก มี
ขนาดร่างกายและพฤติกรรมที่แต่งต่างกันเนื่องความกดดันทางระบบนิเวศที่ต่างกัน และในปี 2020 โดยพิจารณาจาก
ปลาฉลามขาว ปลาฉลามมาโก Lamna ชี้ให้เห็นว่าเม็กกาโลดอน ยาว 11-14 เมตร (34-46 ฟุต) ซึ่งนั่นพิสูจน์ว่า
เมกาโลดอนไม่ใช่ฉลามที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา แต่เป็นเพียงฉลามขนาดใหญ่เท่านั้น ขณะที่ ฉลามวาฬ จะมีขนาด
9-15 เมตร (30-50 ฟุต) จะมีส่วนหัวที่ยาว 4.65 ม. (15.3 ฟุต), 1.41 ม. (4 ฟุต 8 นิ้ว) ร่องเหงือกสูงครีบหลังสูง
1.62 ม. (5 ฟุต 4 นิ้ว) ครีบอกยาว 3.08 ม. (10 ฟุต 1 นิ้ว) และครีบหางสูง 3.85 ม. (12 ฟุต 8 นิ้ว) เม็กกาโลดอน
เพศผู้ที่โตเต็มที่อาจมีมวล 12.6 ถึง 33.9 เมตริกตัน (13.9 ถึง 37.4 ตันสั้น) และตัวเมียที่โตเต็มที่อาจมีน้ำหนัก 27.4
ถึง 59.4 เมตริกตัน (30.2 ถึง 65.5 ตันสั้น)และตัวเมียที่โตเต็มที่อาจมีน้ำหนัก 27.4 ถึง 59.4 เมตริกตัน (30.2 ถึง
65.5 ตันสั้น) ความเร็วในการว่ายน้ำคาดว่าโดยทั่วไปแล้วเม็กกาโลดอนจะว่ายน้ำที่ 18 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (11 ไมล์
ต่อชั่วโมง) - โดยทั่วไปแล้วมวลร่างกายอยู่ที่ 48 เมตริกตัน (สั้น 53 ตัน) ซึ่งสอดคล้องกับสัตว์น้ำอื่น ๆ ที่มีขนาดใหญ่
เช่น วาฬฟิน (Balaenoptera physalus) ซึ่งโดยทั่วไปจะว่ายน้ำด้วยความเร็ว 14.5 ถึง 21.5 กม. / ชม.
https://pantip.com/topic/31424239
5
ขนาดตัวยิ่งใหญ่ยิ่งดีจริงหรือ
พีเมียนโตกล่าวว่า เม็กกาโลดอนสามารถยาวได้ถึง 60 ฟุต (18 เมตร) และมีแรงกัดที่มีพละกำลังมากกว่าไทแร
นโนซอรัส เร็กซ์ มัจจุราแห่งท้องทะเลเหล่านี้ข่มขวัญท้องมหาสมุทรตั้งแต่ประมาณ 16 ถึง 2 ล้านปีที่แล้ว แม้ว่า
นั่นดูเหมือนว่าจะเป็นช่วงเวลาที่ยาวนาน แต่ฉลามสายพันธุ์อื่นๆนั้นอยู่รอดมาแล้ว 50 ล้านปีหรือนานกว่านั้นโดย
ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญในแปลนรูปร่างของมัน “สายพันธุ์นี้ไม่ได้ประสบความสำเร็จอย่างที่พวกเราคิด” พิ
เมียนโตกล่าว “ฉลามหลายชนิดที่มีชีวิตอยู่ในยุคของเม็กกาโลดอนยังคงมีอยู่ทุกวันนี้”
https://pantip.com/topic/31424239
ประวัติศาสตร์อันสั้นของเม็กกาโลดอนทำให้พิเมียนโตตั้งคำถามว่าเป็นเพราะขนาดตัวของฉลามชนิดนี้หรือไม่ที่สง
ผลต่อความสำเร็จด้านการวิวัฒนาการของพวกมัน “ขนาดตัวส่งผลกระทบแทบจะทุกแง่มุมของระบบนิเวศน์และ
ชีววิทยาของสิ่งมีชีวิต” พิเมียนโตบอกกับ LiveScience “เมื่อมีสิ่งมีชีวิตที่ใหญ่โตมากอย่างเม็กกาโลดอน นั่นอาจจะ
ดีมากหรือแย่มากก็ได้” พิเมียนโตกล่าวว่า บรรดาสัตว์ใหญ่จะสามารถกินอาหารได้หลากหลายกว่า และเป็นนักล่าที่
ดุร้ายกว่าเหล่าสหายแคระของพวกมัน แต่เพราะว่าพวกมันกินสัตว์หลายชนิดกว่า มันจึงมีการแข่งขันที่มากกว่าเช่น
กันเพื่อจะแย่งชิงสัตว์เหล่านั้น และระบบนิเวศสามารถรองรับความหนาแน่นของประชากรได้ต่ำลง เนื่องจากพวก
มันต้องการทรัพยากรมากกว่า รวมถึงพื้นที่ เพื่อที่จะมีชีวิตรอด เมื่ออาหารค่อยๆลดลง สิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ก็อาจ
ต้องลำบากในการหาอาหารให้เพียงพอ
6
ระยะและแหล่งอาหาร
https://pantip.com/topic/31424239
สำหรับอาหาร มันเป็นหนึ่งในสัตว์กินเนื้อที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ มันสามารถกินสัตว์ได้เกือบทุกชนิดตั้งแต่
เต่าไปจนถึงฉลามประเภทอื่นและแม้แต่ปลาวาฬ ด้วยฟันและความสามารถในการกัดที่ยอดเยี่ยม มันสามารถทำลาย
กระดูกของเหยื่อทุกประเภท ควรคำนึงด้วยว่ามันเป็นขนาดที่ใหญ่และแข็งแรงซึ่งทำให้พวกมันกลัวสัตว์ขนาดเล็กอื่น
ๆ อย่างใหญ่หลวง ด้วยฟันเกือบ 280 ซี่ ทำให้สามารถบดขยี้สิ่งของที่มีน้ำหนักมากถึง 20 ตัน แทบจะเป็นไปไม่ได้
เลยที่เหยื่อตัวใดจะรอดจากฟันของมันได้ อีกลักษณะหนึ่งที่โดดเด่นในเรื่องการให้อาหารคือความคล่องแคล่วอย่าง
มากในการเคลื่อนที่ผ่านน่านน้ำและผ่านสัณฐานวิทยาทางทะเลทุกประเภท ด้วยครีบขนาดมหึมาและความ
คล่องแคล่วในการเคลื่อนย้าย แทบไม่มีเหยื่อใดที่จะหนีมันได้
https://www.blockdit.com/posts/5e395a28365ec7063011588d
และด้วยขนาดตัวที่ใหญ่ “ฟัน” ของมันจึงมีขนาดที่ใหญ่โตไปด้วย ซึ่งฟันของมันนั้นมีความยาวกว่า 10 – 14
เซนติเมตร จากสถิติขนาดของฟันเมกาโลดอนที่ใหญ่ที่สุดที่ค้นพบมาคือ 17 เซนติเมตร
7
กลยุทธ์ในการล่า
https://www.depeces.com/th/tiburon-megalodon.html
ฉลามตัวนี้อยู่ในช่วงโตเต็มวัยหรือสามารถกินสั
ตว์ขนาดใหญ่ได้ทุกชนิดมีความอยากอาหารอย่างตะกละ
ตะกลามซึ่งบังคับให้เขาใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตในการหาอาหาร สามารถกินปลาได้ถึง 2500 ปอนด์ต่อวัน มีกลยุทธ์ที่
หลากหลาย หนึ่งคือลายพรางของเขา สีผิวของมันอาจทำให้ประหลาดใจ ผิวของมันเป็นสีขาวหรือด้านล่างและมีสี
เทาเข้มอยู่ด้านบน ใครเห็นจากล่างขึ้นบน บอกไม่ได้ว่าน้ำใสไหลออกจากฉลามหรือเปล่า ในทางกลับกัน คนที่มอง
เห็นจากบนลงล่างไม่สามารถสังเกตได้ว่ามันอยู่ที่นั่นเพราะความมืดมิดของความลึก นี่คือลายพรางที่เมกาโลดอนมี
และใช้เพื่อจับเหยื่อ กลยุทธ์ของมันขึ้นอยู่กับการโจมตีเป้าหมายจากด้านล่างด้วยความเร็วที่หางของมันมอบให้ มัน
อ้าปากอย่างรวดเร็วและทำให้ส่วนสำคัญเสียหายเพื่อไม่ให้เหยื่อเคลื่อนไหว มันฉีกส่วนสำคัญเหล่านี้ออกด้วยรอย
กัดขนาดใหญ่ ทำให้เกิดแผลเปิดขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถรักษาได้ เขารอให้สัตว์มีเลือดออกจนตายและกินต่อไป
ข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับขนาดของเมกาโลดอน
ฉลามยักษ์ยุคดึกดำบรรพ์ "เม็กกาโลดอน" ที่มีขนาดมหึมาจนกลายเป็นปลานักล่าขนาดใหญ่ที่สุดในท้องทะเลนั้น
อาจเป็นผลมาจากการที่ตัวอ่อนซึ่งกำลังเติบโตอยู่ในมดลูกของแม่ปลามีพฤติกรรมกินไข่ใบอื่น ๆ ที่ยังไม่ฟักในท้องแม่
ทีมนักวิทยาศาสตร์ในสหรัฐฯ สันนิษฐานว่า การที่ฉลามยักษ์ยุคดึกดำบรรพ์ "เม็กกาโลดอน" มีขนาดมหึมาจนกลาย
เป็นปลานักล่าขนาดใหญ่ที่สุดในท้องทะเลนั้น อาจเป็นผลมาจากการที่ตัวอ่อนซึ่งกำลังเติบโตอยู่ในมดลูกของแม่ปลา
มีพฤติกรรมกินไข่ใบอื่น ๆ ที่ยังไม่ฟักในท้องแม่ งานวิจัยชิ้นนี้ตีพิมพ์ในวารสาร Historical Biology โดยทีมนักวิจัย
จากมหาวิทยาลัยเดอโปล ในนครชิคาโก ของสหรัฐฯ ค้นพบเรื่องนี้ระหว่างการศึกษาเรื่องขนาดที่แท้จริงของฉลาม
เม็กกาโลดอน โดยใช้การวิเคราะห์เปรียบเทียบขนาดและรูปทรงฟันของฉลามเม็กกาโลดอน ซึ่งสูญพันธุ์ไปแล้ว กับ
ฉลามที่มีชีวิตอยู่ในปัจจุบันในกลุ่มเดียวกันที่เรียกว่า "อันดับปลาฉลามขาว" (lamniform sharks) อาทิ ฉลามขาว
(Carcharodon carcharias), ฉลามบาสกิน (Cetorhinus maximus), ฉลามเมกาเมาท์ (Megachasma pelagios)
และฉลามมาโก (Isurus spp.) เป็นต้น 8
ทีมนักวิจัยพบว่า ฉลามเม็กกาโลดอน น่าจะมีลำตัวยาวประมาณ 50 ฟุต หรือกว่า 15 เมตรศาสตราจารย์เคนชู ชิมา
ดะ นักบรรพชีวินวิทยาจากมหาวิทยาลัยเดอโปล ศาสตราจารย์ชิมาดะ และคณะยังตั้งข้อสันนิษฐานถึงความเชื่อมโยง
ด้านปัจจัยทางชีวภาพของเม็กกาโลดอน ที่จัดอยู่ในกลุ่มของ "อันดับปลาฉลามขาว" กับพฤติกรรมที่มีลักษณะเฉพาะ
ของตัวอ่อนฉลามชนิดนี้ที่เติบโตในมดลูกแม่ปลาทีมนักวิจัยชี้ว่า ปลาขนาดใหญ่ในอันดับปลาฉลามขาวมักมีระบบเผา
ผลาญพลังงานที่ทำให้ร่างกายอบอุ่นกว่าปลาทั่วไป ทำให้พวกมันว่ายน้ำได้ว่องไวกว่า และสามารถล่าเหยื่อที่ตัวใหญ่
และให้พลังงานได้มากกว่า การที่ฉลามกลุ่มนี้มีระบบสืบพันธุ์แบบออกลูกเป็นตัวที่เรียกว่า ovoviviparity ซึ่งตัวอ่อน
จะพัฒนาขึ้นภายในไข่ที่ยังคงอยู่ในร่างกายของแม่จนกว่าจะพร้อมฟักออกจากไข่แล้วจึงคลอดออกมาเป็นตัว แต่ใน
กรณีของปลาฉลามกลุ่มนี้มักพบว่าลูกปลาที่ฟักออกมาเป็นตัวแรกมักมีพฤติกรรมกินพวกเดียวกันเองภายในมดลูก
(intrauterine cannibalism) โดยจะกินไข่ใบอื่นที่ยังไม่ฟัก หรือแม้แต่ตัวอ่อนที่ฟักออกมาในภายหลังทีมนักวิจัยระบุ
ว่า พฤติกรรมกินพวกเดียวกันทำให้ลูกปลาดังกล่าวมีขนาดใหญ่ตั้งแต่ยังไม่คลอดออกจากท้องแม่ และผลักดันให้แม่
ปลาต้องกินอาหารเพิ่มขึ้นสำหรับลูกในท้องที่หิวโหย ส่งผลให้แม่มีขนาดใหญ่ขึ้น และเมื่อถึงเวลาที่ลูกปลาคลอดออก
มาก็จะมีขนาดใหญ่จนสามารถปกป้องตัวเองจากสัตว์นักล่าชนิดอื่นได้นักวิจัยบอกว่า พฤติกรรมดังกล่าวบวกกับ
สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เช่น การอาศัยอยู่ในน้ำที่มีอุณหภูมิเหมาะสม และความอุดมสมบูรณ์ของอาหาร ก็เป็น
ปัจจัยที่ทำให้ปลาในอันดับปลาฉลามขาว เช่น เม็กกาโลดอน มีขนาดมหึมาได้
http://oknation.nationtv.tv/blog/print.php?id=860913
9
สาเหตุของการสูญพันธุ์
อย่างไรก็ตามแม้จะยิ่งใหญ่ขนาดไหนแต่ทุกสรรพสิ่งก็ต้องมีวันดับสูญไป เมกะโลดอนเองก็เช่นกัน นักวิทยาศาสตร์
เชื่อกันว่ามันได้สูญพันธ์ไปแล้ว สาเหตุการสูญพันธ์แบ่งออกเป็นสองแนวคิด หนึ่งขนาดใหญ่ของมันทำให้ต้องการ
ปริมาณอาหารที่มากขึ้น เมื่อมากขึ้นทำให้อาหารในพื้นที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของทุกตัว ทำให้พวกมันต้อง
ต่อสู้เพื่อแย่งชิงอาหารจนทำให้พวกมันต่อสู้กันเองจนสูญพันธ์ไป สองแนวคิดเป็นเรื่องของระดับน้ำที่เกิดความ
เปลี่ยนแปลงทั้งด้านอุณหภูมิ และปริมาณลดลงจนทำให้พื้นที่การหาอาหารน้อยลง จนทำให้ตัวมันเองปรับตัวไม่ทัน
ล้มตายไปจนสูญพันธุ์
รวมสรุปเกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับฟอสซิล Megalodon
1.) ฟัน Megalodon ใหญ่ที่สุดที่เคยเจอมีความยาวกว่า 7 นิ้ว ซึ่งฟันส่วนมากที่ขนาดมากกว่า 5 นิ้ว
ก็ถือว่าหายากอย่างมากแล้ว
http://oknation.nationtv.tv/blog/print.php?id=860913
ฟัน Megalodon size ขนาดกว่า 7 นิ้วที่หายากมากยิ่งกว่า
ฟอสซิลฟัน Megalodon จากปลาฉลามขนาดตัวแค่ไหน สามมารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่
http://oknation.nationtv.tv/blog/FossilCollector/2013/05/02/entry-1
วิธีวัดขนาดตัวของฉลามยักษ์ Megalodon จากขนาดของฟอสซิลฟัน
10
2.) ปลาฉลามเป็นปลากระดูกอ่อน ซึ่งกระดูกอ่อนมักจะไม่ค่อยคงทนถูกธรรมชาติรักษาได้แบบกระดูกปกติ ดังนั้น
ฟอสซิลของ Megalodon ที่เจอส่วนมากจึงมีแต่ฟันเกือบทั้งหมด แต่ก็เคยมีการค้นพบส่วนกระดูกสันหลังที่ถูกเก็บ
รักษาไว้โดยธรรมชาติ ซึ่งนับว่าเป็นฟอสซิลที่หายากและมีคุณค่าทางบรรพชีวินวิทยาเป็นอย่างมาก
http://oknation.nationtv.tv/blog/print.php?id=860913
หน้าตาโครงกระดูกของ Megalodon ที่ถูกทำจำลองขึ้นมาจากการคาดการณ์โดยนักบรรพชีวินวิทยา
11
สรุป
เมกาโลดอนอยู่ในคลาสที่เรียกว่า "ซุปเปอร์นักล่า" ซึ่งเรารวมสายพันธุ์อื่น ๆ เช่น Mosasaurus
และ Pliosaurus สัตว์เหล่านี้ไม่มีผู้ล่าตามธรรมชาติและอยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหารทั้งหมด การคาดคะเนขนาดและ
รูปร่างของฉลามเม็กกาโลดอนโดยประเมินจากฟอสซิลฟันที่พบ ว่าน่าจะมีลำตัวยาวประมาณ 16-18 เมตร ความ
แข็งแกร่งที่ท่วมท้นของเมกาโลดอนคือสิ่งที่โดดเด่นที่สุด มีความสามรถในการพลางตัวเพื่อล่อเหยื่อมาติดกับง่ายๆ
กลยุทธ์ของมันขึ้นอยู่กับการโจมตีเป้าหมายจากด้านล่างด้วยความเร็วที่หางของมันมอบให้ มันอ้าปากอย่างรวดเร็ว
และทำให้ส่วนสำคัญเสียหายเพื่อไม่ให้เหยื่อเคลื่อนไหว มันฉีกส่วนสำคัญเหล่านี้ออกด้วยรอยกัดขนาดใหญ่ ปัจจุบัน
เม็กกาโลดอนได้สูญพันธุ์ไปหมดแล้วราว 15 ล้านปีก่อน แต่ยังเหลือปลาที่มีความใกล้เคียงกันที่สุดก็คือ ฉลามขาว
12
บรรณานุกรม
admin (2019) ความเชื่อเรื่อง เมกะโลดอน ยังมีอยู่จริงหรือไม่ สืบค้นเมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2565
จาก https://www.oceanlaw.net/ความเชื่อเรื่อง-เมกะโลด/
BBC NEWS (2020) พฤติกรรมกินพี่น้องร่วมท้องของตัวอ่อน อาจทำให้ฉลามยักษ์ "เม็กกาโลดอน"
มีขนาดมหึมา สืบค้นเมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2565
จาก https://www.bbc.com/thai/features-54426447
Peleoplai (2556) Megalodon ปลาฉลามยักษ์ดึกดำบรรพ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
สืบค้นเมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2565
จาก http://oknation.nationtv.tv/blog/print.php?id=860913
Portillo ของเยอรมัน (2017) (ฉลามเมกาโลดอน สืบค้นเมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2565
จาก https://www.depeces.com/th/tiburon-megalodon.html
13