คมู ือการจัดกิจกรรมลกู เสอื เสรมิ สรา งทกั ษะชวี ิต
ประเภทลกู เสอื สามัญรุนใหญ
ชั้นมัธยมศกึ ษาปท ี่ 1
คํานาํ
สมาคมวางแผนครอบครัวแหงประเทศไทย ในพระราชูปถัมภสมเด็จพระศรีนครินทราบรม
ราชชนนี ไดรับการสนับสนุนงบประมาณจากสํานักงานกองทุนสนับสนุนการสรางเสริมสุขภาพ
(สสส.) เพื่อจดั ทําโครงการลกู เสอื เสริมสรางทักษะชีวติ มีวตั ถปุ ระสงคเพอ่ื เสรมิ สรา งทกั ษะชวี ติ ใหเดก็
และเยาวชนในสถานศึกษาดวยกระบวนการลูกเสือ โดยใหเด็กและเยาวชนลงมือปฏิบัติดวยตนเอง
ในการทาํ กจิ กรรมอยางครบวงจร ตั้งแตการศึกษา วิเคราะห วางแผน ปฏิบัติตามแผน ประเมิน และ
ปรับปรงุ การจัดกจิ กรรม รวมถงึ การทํางานเปนระบบหมูตามกระบวนการลูกเสือ ซึ่งกิจกรรมดังกลาว
เปนการพัฒนาความเปนมนุษยแบบองครวม ท้ังดานรางกาย จิตใจ สังคม และสติปญญา ทําใหเด็ก
และเยาวชนมีระเบียบวินัย มีจิตสํานึกในการทําความดี เพ่ือทําประโยชนใหกับครอบครัว ชุมชน
สงั คม และประเทศชาติ ตอ ไป
เริ่มจากการศึกษาความเปนไปได ศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เก่ียวของทั้งในและ
ตางประเทศ จัดประชุมผูเช่ียวชาญท้ังดานลูกเสือ ดานทักษะชีวิต รวมทั้งดานการพัฒนาเด็กและ
เยาวชน เพื่อกําหนดกรอบโครงสรางหลักสูตรลูกเสือเสริมสรางทักษะชีวิต ที่สอดคลองกับปญหา
ตามวยั และพัฒนาการดา นตา ง ๆ ของลูกเสือแตล ะประเภท
คูมือการจัดกิจกรรมลูกเสือเสริมสรางทักษะชีวิต ฉบับทดลอง ไดเร่ิมใชในป พ.ศ. 2553
มโี รงเรยี นจากทกุ ภูมิภาคของประเทศเขารวมโครงการ จํานวน 26 โรงเรียน โดยไดดําเนินการควบคู
ไปกับการวิจัยและประเมินผลการใชคูมือ และทําการปรับปรุงคูมือครั้งแรกเมื่อ เมษายน พ.ศ.2554
โดยไดเพิ่มเติม เพลง เกม นิทาน เรอื่ งส้นั และเนอ้ื หาใหครบถวนย่ิงข้ึน
การปรับปรุงคร้ังท่ีสอง มิถุนายน พ.ศ. 2559 เกิดข้ึนตามขอเสนอแนะจากการประชุม
ปฏิบตั กิ าร “การขับเคลอื่ นกิจกรรมพัฒนาผูเรียนดวยกระบวนการลูกเสือ” ซึ่งจัดโดยสํานักการลูกเสือ
ยุวกาชาดและกิจการนักเรียน สํานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ โดยยึดขอบังคับคณะลูกเสือ
แหงชาติวาดวยการปกครอง หลักสูตรและวิชาพิเศษลูกเสือ และเพ่ิมจํานวนแผนการจัดกิจกรรมให
ครบ 40 ช่ัวโมง เพ่ือครอบคลุมสาระท่ีจําเปนอยางครบถวน เปนการเตรียมการขยายผลในโรงเรียน
สังกัดสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน (สพฐ.) ท่ัวประเทศ และไดแบงคูมือออกเปน
11 เลม สาํ หรบั ลูกเสือแตละชั้นป เพ่ือความสะดวกของผสู อน
สมาคมวางแผนครอบครวั แหง ประเทศไทยฯ ขอขอบพระคุณหนวยงานและบุคลากรทุกทาน
ทมี่ สี ว นรวมในโครง ตง้ั แตการริเรมิ่ โครงการและสนบั สนนุ งบประมาณจากสาํ นักงานกองทุนสนับสนุน
การสรางเสริมสขุ ภาพ (สสส.) การจัดทําหลักสตู รและคูม อื การทดลองวิจัยและประเมินผลการใชคูมือ
การปรบั ปรงุ คมู ือทงั้ 2 คร้ัง ใหส าํ เรจ็ ลุลว งไว ณ โอกาสนี้ หวังเปนอยา งยง่ิ วาคูมอื ชุดนี้จะชวยสงเสริม
ใหกิจการลูกเสือของประเทศไทย ซึ่งดําเนินมาครบวาระ 105 ป ในป พ.ศ. 2559 นี้ ไดเปนเครื่องมือ
สําคญั และกอใหเ กิดประโยชนส ูงสุดตอ การพัฒนาเดก็ และเยาวชนของชาติตอ ไป
สมาคมวางแผนครอบครัวแหง ประเทศไทย
ในพระราชปู ถัมภสมเดจ็ พระศรนี ครนิ ทราบรมราชชนนี
กรกฎาคม 2559
สารบัญ
คาํ ชีแ้ จงการใชคูม ือ หนา
1
แผนการจดั กจิ กรรมลูกเสือสามญั รุนใหญชัน้ มธั ยมศึกษาปท่ี 1 5
หนว ยที่ 1 ปฐมนเิ ทศ 7
แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 1 การปฐมนิเทศ
13
หนว ยท่ี 2 สาระสําคญั ของการลกู เสอื 27
แผนการจัดกจิ กรรมที่ 2 ความเขาใจในเรอ่ื งกจิ การของลกู เสือ 29
แผนการจดั กจิ กรรมที่ 3 ดีติดดาว 32
แผนการจัดกิจกรรมที่ 4 การคบเพือ่ น 32
แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 5 วถิ ไี ทยและภูมิปญ ญาทองถนิ่
แผนการจัดกิจกรรมท่ี 6 เดก็ ตดิ เกม 39
44
หนวยที่ 3 คาํ ปฏญิ าณและกฎของลูกเสือ 48
แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 7 คาํ ปฏิญาณและกฎของลูกเสอื 50
แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 8 ความซอ่ื สตั ยส จุ รติ
แผนการจัดกิจกรรมท่ี 9 ความเปนสุภาพบรุ ษุ และสภุ าพสตรี 57
แผนการจดั กจิ กรรมที่ 10 ขยะนีม้ มี ลู คา
91
หนว ยที่ 4 ระเบยี บแถว
แผนการจัดกจิ กรรมท่ี 11 ระเบยี บแถวลกู เสือ 97
หนวยที่ 5 กางเต็นทและร้ือเตน็ ทท่ีพกั แรม 102
แผนการจัดกจิ กรรมที่ 12 การกางเต็นทแ ละรอื้ เตน็ ทท พี่ ักแรม
106
หนว ยที่ 6 การบรรจเุ ครอื่ งหลงั
แผนการจดั กจิ กรรมที่ 13 การบรรจเุ ครอื่ งหลงั สําหรับเดินทางไกลไปพักแรม 122
หนว ยท่ี 7 กอและจุดไฟกลางแจง
แผนการจดั กจิ กรรมที่ 14 การกอ และจดุ ไฟกลางแจง และปรงุ อาหาร
หนวยท่ี 8 แผนท่ี เขม็ ทศิ
แผนการจัดกิจกรรมท่ี 15 การอานและใชแ ผนที่ เขม็ ทศิ
หนว ยท่ี 9 ทกั ษะเงอ่ื นเชอื ก
แผนการจดั กิจกรรมที่ 16 เง่ือนเชือกลกู เสอื สามญั รุน ใหญ
สารบัญ(ตอ )
หนวยท่ี 10 การปฐมพยาบาล หนา
แผนการจัดกจิ กรรมที่ 17 การปฐมพยาบาล
131
หนว ยท่ี 11 ความปลอดภยั
แผนการจดั กิจกรรมท่ี 18 ภยั สงั คมจากอนิ เตอรเนต็ 135
แผนการจัดกจิ กรรมท่ี 19 เบื้องหลงั กวยเตยี๋ ว 139
แผนการจดั กิจกรรมที่ 20 รเู ทา ทนั สื่อ 143
แผนการจัดกิจกรรมท่ี 21 โฆษณาเปน พษิ 146
หนวยที่ 12 ประเมนิ ผล 151
แผนการจดั กิจกรรมท่ี 22 การประเมนิ ผล
161
หนว ยที่ 13 พิธกี าร
แผนการจัดกจิ กรรมที่ 23 พธิ เี ขา ประจํากองและประดบั เครือ่ งหมายลกู เสอื โลก 164
175
ภาคผนวก 178
ภาคผนวก ก แนวคดิ เรื่องทกั ษะชีวติ
ภาคผนวก ข กิจกรรมลกู เสือเสรมิ สรา งทักษะชีวติ
บรรณานกุ รม
คาํ ชีแ้ จงการใชคูมือ
คูมือการจัดกิจกรรมลูกเสือเสริมสรางทักษะชีวิตชุดนี้ จัดทําข้ึนสําหรับผูกํากับลูกเสือใชเปน
แนวทางในการจัดกิจกรรมลูกเสือ มีจํานวน 11 เลม แยกตามชั้นป สําหรับลูกเสือ 4 ประเภท คือ
ลูกเสือสํารอง ลูกเสือสามญั ลูกเสือสามัญรนุ ใหญ และลกู เสือวสิ ามญั
หลักสูตรลูกเสือเสริมสรางทักษะชีวิต มีเนื้อหาท่ีสอดคลองกับปญหาตามวัยและพัฒนาการ
ดานตาง ๆ ของลูกเสือแตละประเภท นอกจากน้ียังมีเน้ือหาครบถวน เปนไปตามขอบังคับคณะ
ลูกเสอื แหงชาติ วา ดว ยการปกครองหลักสูตรและวิชาพิเศษลูกเสือสํารอง ลูกเสือสามัญ ลูกเสือสามัญ
รุนใหญ และลูกเสือวิสามญั อีกดว ย
แผนการจัดกิจกรรมลูกเสือเสริมสรางทักษะชีวิตในคูมือชุดน้ี ไดออกแบบโดยบูรณาการ
กิจกรรมท่ีเสริมสรางทักษะชีวิตเขากับวิธีการลูกเสือ คือการใชระบบหมูหรือกลุมยอย โดยใหเด็กเปน
ศนู ยก ลาง และมีผใู หญทําหนาที่ชวยเหลือและสงเสริมใหเกิดกระบวนการเรียนรูในกลุม แนะนํา สั่งสอน
และฝกอบรมใหสามารถพึ่งตนเองได มีจิตอาสา รับผิดชอบตอสวนรวม ยึดม่ันในคําปฏิญาณและกฎของ
ลูกเสอื เสรมิ สรางคุณคาในตนเอง รวมทั้งใชระบบเคร่ืองหมายหรือสัญลักษณทางลูกเสือและเครื่องหมาย
วิชาพเิ ศษ เปน แรงกระตนุ ไปสเู ปาหมายในการพฒั นาตนเอง
การเรียงลําดับแผนการจัดกิจกรรม จัดเรียงลําดับเนื้อหาสาระตามหลักสูตรในขอบังคับคณะ
ลกู เสือแหง ชาติ วาดวยการปกครองหลักสูตรและวิชาพิเศษลูกเสือสํารอง ลูกเสือสามัญ ลูกเสือสามัญ
รุนใหญ และลูกเสือวิสามัญ การนําไปใชขึ้นกับดุลยพินิจของสถานศึกษาในการเลือกวาแผนการจัด
กิจกรรมใดควรใชเมอื่ ใด
องคประกอบในการประชุมกอง เนนการใชชีวิตกลางแจง นอกหองเรียน ใกลชิดธรรมชาติ
เรียนรูจากการลงมือปฏิบัติดวยตนเอง เกม และการบริการผูอื่น ซึ่งถือเปนหัวใจของกิจกรรมลูกเสือ
ทกุ ประเภท โดยกจิ กรรมท่ใี ช แบง ออกเปน 5 ประเภท คือ การแสดงออก การสํารวจและการรายงาน
การวิเคราะหและการประเมิน เกมและการแขงขัน การบําเพ็ญประโยชน มีการออกแบบกิจกรรม
เพ่ือใหลูกเสือไดใชกระบวนการกลุมในการแลกเปล่ียนประสบการณ แลกเปล่ียนความคิดความเช่ือ
สรางองคความรูและสรุปความคิดรวบยอด รวมทั้งเปดโอกาสใหลูกเสือไดประยุกตใชสิ่งท่ีไดเรียนรู
ในชีวติ จรงิ อกี ดวย
เนือ้ หาสาระในแผนการจัดกจิ กรรมประกอบดว ย
1. กิจกรรมตามขอบังคับของคณะลูกเสือแหงชาติ (ไมรวมกิจกรรมทดสอบเพื่อรับ
เคร่ืองหมายหรอื สัญลกั ษณทางลกู เสอื และเครอื่ งหมายวิชาพิเศษ)
2. กิจกรรมตามขอบังคับของคณะลูกเสือแหงชาติที่ชวยเสริมสรางทักษะชีวิตดานคุณธรรม
จรยิ ธรรม ความภาคภมู ิใจในตนเอง ความรับผิดชอบตอสวนรวม
3. กิจกรรมเสริมสรางทกั ษะชีวิต เพอ่ื สรางภูมิคุมกันทางสังคมตอเหตุการณและสภาพปญหา
ของเดก็ แตล ะวยั
คูม อื การจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสริมสรา งทักษะชวี ิต ช้นั มัธยมศกึ ษาปที่ 1 1
คูมือแตละเลม ไดจดั ทําตารางหนว ยกิจกรรม และแผนการจดั กิจกรรม 40 ชั่วโมง เพ่ือใหเห็น
ภาพรวมของการจดั กจิ กรรมลูกเสอื เสริมสรางทกั ษะชีวติ ของลูกเสอื ในแตละระดบั ช้นั และมหี มายเหตุ
บอกไวในตารางชองขวาสดุ วาเปนแผนการจดั กจิ กรรมเสริมสรางทกั ษะชีวติ
แผนการจดั กิจกรรมประกอบดวย จุดประสงคก ารเรยี นรู เนือ้ หา สื่อการเรียนรู กิจกรรม การ
ประเมินผล องคประกอบทักษะชีวิตสําคัญท่ีเกิดจากกิจกรรม และภาคผนวกประกอบแผนการจัด
กิจกรรม (เพลง เกม ใบงาน ใบความรู เร่ืองท่เี ปนประโยชน)
จุดประสงคการเรียนรู
ผูสอนควรทําความเขาใจใหชัดเจนวาเปนจุดประสงคการเรียนรูดานความรู เจตคติ หรือ
ทกั ษะ เพอื่ จดั กิจกรรมไดต รงตามจดุ ประสงคก ารเรียนรแู ตละดาน
จุดประสงคการเรียนรูดานความรู มีจุดเนนที่การตั้งประเด็นใหวิเคราะห สังเคราะหเนื้อหา
ความรู ใหเขาใจอยางถองแท และสามารถนาํ ไปใชไดในชวี ติ จริง
จุดประสงคการเรียนรูดานเจตคติ มีจุดเนนท่ีอารมณความรูสึก และการตั้งประเด็นใหผูเรียน
ไดแ ลกเปล่ยี นและตรวจสอบความคิดความเชอ่ื ของตนเองกบั สมาชกิ กลุมคนอน่ื ๆ
จดุ ประสงคการเรียนรูดานทักษะ เนนท่ีการทําความเขาใจในข้ันตอนการลงมือทําทักษะ และ
ไดท ดลองและฝก ฝนจนชาํ นาญ
บางแผนการจัดกิจกรรมมีจุดประสงคการเรียนรูซอนกันมากกวา 1 ดาน ใหเนนดานท่ีเปน
จดุ ประสงคหลักของแผนการจดั กจิ กรรม
เนื้อหา
เปนผลการเรียนรูที่เกิดข้ึนหลังการสอน ผูสอนควรตรวจสอบวาผูเรียนไดเน้ือหาครบถวน
หรือไม
ส่ือการเรียนรู
เปนสอื่ อปุ กรณ ท่ีใชใ นการจดั กิจกรรม เชน แผนภูมิเพลง เกม ใบงาน ใบความรู และเร่ืองที่
เปนประโยชน ซึ่งมรี ายละเอยี ดอยใู นภาคผนวกประกอบแผนการจดั กจิ กรรม
กิจกรรม
กิจกรรมลูกเสือยังคงแบบแผนของลูกเสือไว คือ การเปดประชุมกอง/ปดประชุมกอง และ
เพลง เกม นิทาน เรอื่ งท่เี ปน ประโยชน ซง่ึ ใสไ วใ นทุกแผนการจัดกิจกรรม โดยผูกํากับลูกเสือสามารถ
ปรบั เปลยี่ นไดตามความเหมาะสม ผูสอนควรจัดกิจกรรมตามท่ีไดออกแบบไวเรียงตามลําดับข้ันตอน
การจัดกิจกรรม นอกจากนี้กอนการจัดกิจกรรมควรศึกษาแผนการจัดกิจกรรมใหเขาใจอยางถองแท
ทกุ ข้ันตอน ศึกษาใบความรูสําหรับผูสอน และใบงานสําหรับผูเรียน เพ่ือท่ีผูสอนจะไดจัดกิจกรรมการ
เรยี นการสอนใหไดเนือ้ หาตรงตามจดุ ประสงคการเรยี นรมู ากท่สี ดุ
ทงั้ นีผ้ กู ํากับควรทาํ ความเขาใจแนวคิดเรื่องทักษะชีวติ และกิจกรรมลูกเสือเสรมิ สรา งทักษะชวี ติ
ใหถ อ งแทดว ย โดยศึกษาไดจากภาคผนวก ก และภาคผนวก ข
2 คูมือการจดั กจิ กรรมลกู เสือสามัญรุนใหญเสรมิ สรา งทกั ษะชวี ติ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที่ 1
การประเมนิ ผล
สามารถประเมินไดท ้งั ระหวา งการจัดกิจกรรม และหลงั การสอนจบแลว ตามแนวทางท่ีไดใหไวใน
แตล ะแผนการจัดกจิ กรรม
องคประกอบทกั ษะชีวิตสําคัญทเ่ี กิดจากกจิ กรรม
ทักษะชีวิตเกิดข้ึนไดหลายองคประกอบในการจัดกิจกรรมแตละครั้ง ในที่น้ีไดระบุเพียง
องคประกอบทักษะชวี ติ สาํ คัญที่เกดิ ขน้ึ เทา นัน้
ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกิจกรรม
เปนส่ือ อุปกรณ ตามรายการที่ระบุไวในสื่อการเรียนรู เชน เพลง เกม บัตรคํา ใบงาน ใบความรู
และเรือ่ งทเ่ี ปน ประโยชน ฯลฯ หากมีขอ เสนอแนะเพอ่ื การปรบั ปรงุ คมู อื ชุดนี้ กรณุ าติดตอท่ี
สมาคมวางแผนครอบครัวแหง ประเทศไทย ฯ
เลขท่ี 8 วิภาวดีรงั สิต 44 แขวงลาดยาว เขตจตุจกั ร กรุงเทพฯ 10900
โทรศัพท 0-2941-2320 ตอ 151 โทรสาร 0-2561-5130
คูมอื การจดั กจิ กรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสรมิ สรา งทักษะชวี ติ ช้นั มัธยมศกึ ษาปท่ี 1 3
แผนการจัดกจิ กรรม
ลกู เสือสามัญรุนใหญ
ชนั้ มัธยมศกึ ษาปท ่ี 1
คมู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสริมสรางทกั ษะชวี ิต ชนั้ มัธยมศึกษาปท่ี 1 5
แผนการจัดกิจกรรมลูกเสอื สามัญรนุ ใหญ ชน้ั มธั ยมศึกษาปท ่ี 1
ช่อื หนว ยกจิ กรรมตามขอบงั คับ แผนการจัดกิจกรรม จํานวน หมายเหตุ
คณะลูกเสอื แหงชาติ เร่อื ง ช่ัวโมง
ทกั ษะชวี ติ
1. ปฐมนเิ ทศ 1. ปฐมนิเทศ 1 ทักษะชวี ติ
2. สาระสําคญั ของการลกู เสือ ทักษะชีวติ
2. ความเขา ใจในเรือ่ งกิจการของลกู เสือ 2 ทกั ษะชวี ติ
3. คําปฏิญาณและกฎของลูกเสือ 3. ดีตดิ ดาว 1
4. การคบเพอ่ื น 1 ทักษะชวี ติ
4. ระเบียบแถว 5. วถิ ไี ทยและภมู ิปญ ญาทองถ่ิน 1 ทักษะชีวติ
5. กางเต็นทแ ละรือ้ เตน็ ทท พี่ ักแรม 6. เด็กติดเกม 2 ทักษะชวี ติ
6. การบรรจุเครื่องหลงั 7. คาํ ปฏญิ าณและกฎของลูกเสอื 2
7. กอ และจุดไฟกลางแจง 8. ความซ่อื สัตยสจุ รติ 2
8. แผนที่ เข็มทิศ 9. ความเปนสภุ าพบุรุษ และสุภาพสตรี 1
9. ทกั ษะเงื่อนเชอื ก 10. ขยะนี้มมี ูลคา 3
10. การปฐมพยาบาล 11. ระเบียบแถวลกู เสอื 3
11. ความปลอดภัย
12. การกางเต็นทและรอ้ื เตน็ ทที่พักแรม 2
12. ประเมินผล
13. พิธกี าร 13. การบรรจเุ ครอ่ื งหลังสาํ หรับเดิน 2
ทางไกลไปพกั แรม
รวม 13 หนวยกิจกรรม 2
14. การกอและจดุ ไฟกลางแจง และปรงุ
อาหาร 3
3
15. การอา นและใชแ ผนท่เี ขม็ ทศิ
2
16. เงอื่ นเชือกลูกเสือสามัญรนุ ใหญ 1 ทักษะชวี ติ
1 ทกั ษะชีวติ
17. การปฐมพยาบาล 1 ทกั ษะชวี ติ
2 ทกั ษะชวี ติ
18. ภัยสังคมจากอินเตอรเ นต็ 1
19. เบ้อื งหลงั กว ยเตี๋ยว 1
20. รเู ทาทนั สอ่ื
21. โฆษณาเปน พิษ 40
22. การประเมนิ ผล
23. พิธเี ขา ประจํากองและประดบั
เคร่ืองหมายลูกเสือโลก
รวม 23 แผนการจดั กิจกรรม
6 คมู ือการจัดกจิ กรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสรมิ สรางทกั ษะชวี ติ ช้ันมัธยมศกึ ษาปท ี่ 1
แผนการจัดกจิ กรรมลกู เสือสามญั รนุ ใหญ (เครือ่ งหมายลูกเสือโลก) ชนั้ มธั ยมศึกษาปท ่ี 1
หนวยท่ี 1 ปฐมนเิ ทศ เวลา 1 ชวั่ โมง
แผนการจัดกจิ กรรมที่ 1 ปฐมนเิ ทศ
1. จุดประสงคก ารเรยี นรู
1.1 แตง เครอื่ งแบบลกู เสอื ตามกฎกระทรวงวาดวยเครื่องแบบไดอ ยา งถูกตอ ง
1.2 ปฏบิ ตั ิตนในการเขา รว มกจิ กรรมตามหลกั สูตรได
2. เน้อื หา
2.1 การแตง กาย
2.2 การเรยี นตามหลกั สตู ร
3. ส่ือการเรียนรู
3.1 แผนภมู ิเพลง
3.2 ใบความรู
1) เคร่อื งหมายลูกเสอื โลก / หลกั สตู รลูกเสอื สามัญรนุ ใหญ
2) เครื่องแบบลูกเสอื สามญั รนุ ใหญ
3.3 เร่ืองทีเ่ ปน ประโยชน
4. กจิ กรรม
4.1 พิธเี ปด (ชักธง สวดมนต สงบนิง่ ตรวจ แยก)
4.2 เพลง หรอื เกม
4.3 กิจกรรมตามจดุ ประสงคก ารเรียนรู
1) ผูกํากบั ลูกเสือนาํ สนทนาถงึ ความหมายและประโยชนของ “เครื่องแบบลกู เสือ”
แนะนําการแตง เครื่องแบบ การตดิ เครอ่ื งหมายตา ง ๆ ประกอบเครื่องแบบลูกเสอื
2) ผกู าํ กับลูกเสือแนะนําขน้ั ตอนและวิธกี ารจัดกจิ กรรมลกู เสอื ตามหลักสูตร
เคร่ืองหมายวิชาพิเศษ การวัดและประเมนิ ผล ใหลูกเสอื รแู ละเขา ใจ และสามารถเขารวม
กิจกรรมตามหลกั สูตรได
3) ผูกาํ กบั ลูกเสือและลกู เสอื รว มกนั สรุปความรแู ละแนวทางในการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม
ตามหลกั สูตร
4.4 ผูกาํ กบั ลกู เสอื เลาเร่อื งท่ีเปนประโยชน
4.5 พิธปี ด ประชุมกอง (นัดหมาย ตรวจเครือ่ งแบบ ชักธง เลิก)
5. การประเมินผล
สงั เกต การมีสวนรว มในการทํากิจกรรม การแสดงออก การแสดงความคดิ เห็น และประเมนิ
ความถูกตอ งของการแตง เครือ่ งแบบและการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม
คูมอื การจัดกิจกรรมลกู เสือสามัญรุนใหญเสริมสรา งทักษะชวี ิต ชัน้ มธั ยมศึกษาปท่ี 1 7
ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกจิ กรรมท่ี 1
เพลง
คําขวัญลกู เสอื
เกยี รตคิ ุณลูกเสอื เราจะเทิดเหนอื ดวงฤทัยเราน้นั
เราม่นั ใจในคําขวญั “เสียชพี อยา เสียสัตย” ไวจนตาย เราน้นั
ประพฤติตนสมกับที่เราเปนลกู ผูช าย ไวล าย ไวล าย ลูกเสอื ไทย
กลา หาญการชว ยเหลอื นาๆ เมตตาโดยมิเลือกวาใคร
เปน มติ รทดี่ ีของคนท่วั ไป รวมจติ รว มใจ สามัคคมี ีวัฒนธรรม
ลกู เสอื ของชาติ
ชาตติ องการชายฉกรรจ จรรโลงชาติ เอกราชคงอยูศ ัตรขู าม
เกดิ เปนไทยฟนฝา พยายาม รกั ษาความเกง กลาสามัคคี
ตอ งรอบรูท ุกอยางทางไลห นี
เหลา ลกู เสอื เช้อื ไทยใจนักสู เพ่อื ศกั ดิศ์ รีลกู เสือเช้อื ชาตไิ ทย
มีความสัตยส จุ ริตมติ รไมตรี
ใบความรู
เคร่ืองหมายลูกเสือโลก
ลักษณะเครื่องหมาย
เปนรูปวงกลม ขนาดเสน ผา ศูนยกลาง ๔.๓ ซม. ตามแบบ มตี ราเครอื่ งหมายหวั ลูกศรสีขาว
บนพน้ื สมี ว ง ลอมรอบดว ยเชอื กสขี าวเปน รปู วงกลมผกู เปนเงื่อนพริ อดอยเู บื้องลา ง
ที่มารูปภาพ : http://www.prc.ac.th/scout/sc08.jpg
เครือ่ งหมายน้ีเปน เครือ่ งหมายลูกเสอื สามญั รุนใหญท่ีไดเขาพิธีประจํากองแลว และติดที่กึ่งกลาง
กระเปา เสอื้ ขา งซาย
8 คูมือการจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสรมิ สรางทักษะชีวิต ชั้นมัธยมศกึ ษาปที่ 1
หลกั สูตร
1. แสดงวาเขาใจเร่อื งราวตอ ไปน้พี อสมควร :
1.1 กจิ การของคณะลูกเสือแหง ชาติ
1.2 กิจการของคณะลูกเสอื โลกและความสมั พนั ธร ะหวา งลูกเสือนานาชาติ
1.3 บทบาทของตนเองในฐานะทเ่ี ปนลกู เสือสามัญรุนใหญ
2. ยอมรับและปฏิบตั ิตามคําปฏญิ าณและกฎของลูกเสอื
3. เขาใจเรอื่ งระเบยี บแถวและปฏิบตั ติ ามหนงั สอื คมู ือการฝก ระเบียบแถวลูกเสือของสํานกั งาน
คณะกรรมการบริหารลกู เสอื แหง ชาติ
4. กางและร้อื เต็นททพ่ี กั แรมในเวลากลางคนื กับลกู เสือสามัญรนุ ใหญอกี คนหนึ่ง
5. สาธติ การบรรจุเครือ่ งหลังอยา งถูกตอ ง สาํ หรับการเดนิ ทางไกลไปพักแรมคา งคืน
6. กอ และจดุ ไฟกลางแจง แลวปรงุ อาหารอยางเพยี งพอสําหรบั 2 คน
7. สามารถอา นและใชแผนที่ เขม็ ทศิ และรูจักบรเิ วณทตี่ นอยู โดยพจิ ารณาจากเข็มทิศ
และสง่ิ แวดลอมท่มี องเห็นดวยตาเปลา
8. สามารถผูกและรจู กั ประโยชนเ งอื่ น 10 เงือ่ น ตอไปนี้ คือ เง่ือนพริ อด เงือ่ นขดั สมาธิ
เงอื่ นผูกกระหวดั ไม เง่อื นบว งสายธนู เง่อื นตะกรดุ เบด็ เง่อื นประมง เงือ่ นผูกซุง เงื่อนผูกร้ัง
เง่อื นปมตาไก และการผกู แนน (ผกู ทแยง ผกู กากบาท ผกู ประกบ)
9. รูวธิ ีปฏิบัตเิ กยี่ วกบั การปฐมพยาบาลในเรอื่ งตอ ไปนี้ คือ บาดแผลธรรมดา ถูกไฟไหม น้าํ รอ นลวก
เปนลม งูกัด แมงมมุ กดั แมลงกดั ตอย ผวิ หนังถลอก และเทา แพลง
10. รูเ รื่องท่ีพงึ ระมัดระวงั เพือ่ ความปลอดภัยท่วั ไป เก่ยี วกับกจิ กรรมของลกู เสอื สามญั รนุ ใหญ
เคร่ืองแบบลกู เสอื สามัญรนุ ใหญ
เครื่องแบบลกู เสือสามัญรุน ใหญ
หมวก ทรงออน ( เบเรห ) มีตราหนาหมวกรูปตราคณะลูกเสือแหงชาติ ทําดวยโลหะสีทอง เวลา
สวมใหต ราหนา หมวกอยเู หนอื คว้ิ ซาย
เสื้อ คอพับสีกากี แขนสั้นเหนือศอก ผาอกตลอด อกเส้ือทําเปนสาบกวาง 3.5 ซ.ม. มีดุมเหนือเข็ม
ขดั 4 ดุม อกมีกระเปาขา งละ 1 กระเปา มีแถบตรงกลางตามทางด่ิง ปกรูปมน ชายกลางแหลม เจาะรังดุม
ก่งึ กลางกระเปา 1 ดุม มีอินทรธนูสีเดียวกับเสื้อ ดานคอกวาง 2.5 ซม. ปลายมน มีดุมที่ปลายอินทรธนู
ทางดานคอดานละ 1 ดมุ ดมุ ลกั ษณะกลมแบนทาํ ดวยวัตถสุ นี ํา้ ตาลแก ใหชายเส้อื อยูภ ายในกางเกง
ผาผูกคอ รูปสามเหล่ียมหนาจั่ว ดานฐาน 100 ซ.ม. ดานต้ัง 75 ซ.ม. สีตามสีประจําภาค
การศึกษา และมีหวงซ่งึ ไมใ ชห วงกลิ เวลลสวมผาผูกคอ
กางเกง สีกากี ขาสั้นเหนือเขาประมาณ 5 ซ.ม. สวนกวางของกางเกงเม่ือยืนตรง หางจากขา
ตัง้ แต 8 - 12 ซ.ม. ปลายขาพบั เขา กวาง 5 ซ.ม. ผา ตรงสว นหนามีกระเปาตามแนวตะเขบ็ ขา งละ
1 กระเปา และมีหรู อ ยเข็มขัดยาวไมเ กิน 6 ซ.ม. กวาง 1 ซ.ม.
เข็มขัด หนังสีน้ําตาล กวางไมเกิน 3 ซ.ม. หัวชนิดหัวขัด ทําดวยโลหะสีทอง มีลายดุนรูปตรา
คณะลูกเสอื แหงชาติภายในกรอบชอชัยพฤกษ
คมู ือการจัดกจิ กรรมลกู เสือสามัญรุนใหญเสรมิ สรางทักษะชวี ติ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปท ี่ 1 9
ถุงเทา ยาว สีกากี พับซอนไวใตเขา ติดพูสีเลือดหมูขางละ 2 พู โผลออกมาจากขอบถุงเทา
ประมาณ 1/2 น้วิ หรอื 1 ซ.ม.
รองเทา หนังหรอื ผาใบสีนา้ํ ตาลแกไ มม ลี วดลาย หุมสน ชนิดผกู เชอื ก
เคร่ืองหมายประกอบเครอื่ งแบบลูกเสอื
เครอื่ งหมายจงั หวัด ทําดว ยผา มีขนาด รูป และสี ตามกฎกระทรวง วาดวยเครอื่ งแบบกาํ หนด
ติดทม่ี มุ ผาผกู คอตรงขามกบั ดานฐาน
เครื่องหมายสังกัด ทําดว ยผา สีแดงรปู ส่ีเหลีย่ มผืนผา ยาว 7 ซ.ม. กวาง 1.5 ซ.ม. ขลบิ รมิ สขี าว
มีช่อื กลมุ หรือกอง (ชอ่ื โรงเรยี น) สีขาวตดิ โคงตามไหลเสอ้ื ขา งขวา
เลขกลุม และเลขกอง ทําดว ยผา สีแดง รปู สีเ่ หล่ียมจตุรสั ยาวดา นละ 3.5 ซ.ม. ขลบิ รมิ สีขาว
มีตัวเลขอารบคิ เลขกลุมสีขาวสงู 1.5 ซ.ม. อยูข างบน และเลขกองสขี าวสงู 1 ซ.ม. อยูข า งลาง
ตดิ ใตเ ครอื่ งหมายชอื่ กลมุ หรือกอง
กองลูกเสอื ทจี่ ดั เปนกลมุ ไมไดใ หมีเลขกองอยา งเดยี ว
เครอ่ื งหมายหมู ทําดว ยผา รปู ส่เี หลยี่ มจตั รุ สั ยาวดา นละ 3.5 ซ.ม. มีรปู สามเหล่ียม 2 รปู
สีตามสีประจําหมูลูกเสือสามญั รนุ ใหญ ขลบิ ริมสเี ลือกหมู ตดิ ทไ่ี หลเสือ้ ขางซายใตต ะเข็บ
ประมาณ 1 ซ.ม.
อนิ ทรธนูสเี ลอื ดหมู ปลายอนิ ทรธนูมอี กั ษร “ ล.ญ. ” ปกดวยดา ยหรือไหมสีทอง
ปลาย อนิ ทรธนูมดี มุ เชนเดยี วกบั ดุมเส้อื ( ดุมทองไมถกู ตอ ง )
หมายเหตุ
1. ถาเปน นายหมูหรอื รองนายหมใู หส วมสายนกหวดี เหลอื งทบั ผา ผกู คอ นกหวีดใสก ระเปาเสอ้ื ขางซาย
2. ถาสอบเคร่อื งหมายวชิ าพเิ ศษไดใ หต ดิ แขนเส้ือขางขวาเรียงเปน สามแถว ถาเกิน 9 วิชา
ใหติดทส่ี ายสะพายสเี หลอื งขลบิ สีนํา้ เงิน
เครื่องแบบลูกเสอื สามญั รนุ ใหญเหลา เสนา
10 คูม ือการจัดกจิ กรรมลกู เสือสามัญรุนใหญเสรมิ สรา งทักษะชวี ิต ช้ันมัธยมศึกษาปท่ี 1
ตวั อยา งเครอ่ื งหมายหมลู ูกเสือสามญั รนุ ใหญเหลา เสนา
เคร่อื งแบบเนตรนารีสามัญรนุ ใหญเหลา เสนา
ตัวอยา งเครอ่ื งหมายหมเู นตรนารีสามัญรนุ ใหญเหลาเสนา
คมู อื การจดั กิจกรรมลูกเสือสามัญรุนใหญเสรมิ สรางทกั ษะชวี ติ ชั้นมัธยมศกึ ษาปท ่ี 1 11
เร่ืองทเ่ี ปน ประโยชน
ราชสหี กับหมาปา
หมาปา ตัวหน่ึงออกลาลกู แกะมาได และกาํ ลังพยายามท่จี ะนําซากลูกแกะผนู าสงสารนนั้
กลบั ไปท่รี ัง แตโชครายทมี่ นั ไปพบกบั ราชสหี อ ดโซเขา ตัวหนึ่ง ราชสีหตรงเขามาแยง ลกู แกะนั้นทนั ที
ซึ่งสรางความขนุ เคืองใหก บั หมาปามากมันตะโกนบอกราชสหี ว า “ทานไมนกึ ละอายใจบางหรอื อยา งไร
ทที่ ําตัวเปน เหมือนโจรราย เขา แยง อาหารของขา แบบน้ี” ราชสหี ไดฟง ดังนน้ั กห็ ัวเราะรา แลว ตอบ
กลับไปวา “ตัวขานะรึ ที่เจาประณามวาเปนไอโจรราย ฮะ...ฮะ...แลวส่ิงท่ีเจากระทํามาน้ันเลาเรียกวา
ความสุจรติ หรอกรึ ขา ไมเช่อื หรอกวา คนเลีย้ งแกะจะคิดวาเจาเปนผูบริสุทธิ์ ทั้งๆ ที่เจาขโมยเอาลูกแกะ
ของเขามาเชนน!ี้ ”
เรื่องน้ีสอนใหร ูวา คนท่ที จุ ริต ยากจะหาความยตุ ิธรรมจากผูอ ่นื ได
นกกา
รูกันทั่วไปวา นกกาเปน นกขข้ี โมย โดยเฉพาะอาหารแลว นกกาขโมยไดเกง นกั นอกจากน้ี
นกกายงั ขีอ้ จิ ฉา เห็นนกตวั อืน่ สวยกวาตน จะเกิดความไมพ อใจ โดยเฉพาะนกยงู นกกาไมชอบหนา เลย
วันหน่งึ นกกาสาํ รวจดขู นของตวั เองแลว รสู กึ ไมพ อใจขนสีดําของตน จงึ ไปเที่ยวหาขนนกยูง
มาแซมขนของตน เสร็จแลวก็เที่ยวโฆษณาวาตัวเองเปนนกท่ีสวยงามกวานกใดๆ ในโลก จนเปนที่
สังเวชของนกทั่วไป เพราะนกทั้งหลายเหน็ แลว ก็รวู ามใิ ชข นของนกกาจริงๆ แตเปนขนของนกยูง จึงพา
กันมารุมจิกขนท่ีแซมออกจนหมด มิหนําซํ้ายังจิกขนดําของนกกาออกอีกดวย นกกาจึงเหลือแตตัว
ลอนจอนนาเวทนาย่งิ นกั
เรือ่ งนีส้ อนใหร วู า จงพอใจในสงิ่ ที่ตนมีอยู ไมฉ กฉวยของผูอื่น
12 คมู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสรมิ สรา งทกั ษะชีวิต ช้ันมัธยมศกึ ษาปท ่ี 1
แผนการจัดกิจกรรมลูกเสอื สามญั รนุ ใหญ(เครอื่ งหมายลูกเสอื โลก) ชนั้ มธั ยมศึกษาปที่ 1
หนวยท่ี 2 สาระสาํ คัญของการลกู เสอื เวลา 2 ชัว่ โมง
แผนการจัดกิจกรรมท่ี 2 ความเขา ใจในเรอ่ื งกจิ การของลกู เสอื
1. จุดประสงคก ารเรยี นรู
มีความรูและเขา ใจเกี่ยวกับกจิ การของลูกเสอื โลก กจิ การของคณะลกู เสือแหงชาติ
และบทบาทของตนเองในฐานะลูกเสือสามญั รุนใหญ
2. เนอื้ หา
2.1 กจิ การของลูกเสอื โลกและความสมั พันธระหวา งลูกเสอื นานาชาติ
2.2 โครงสรางการบริหารงานของคณะลกู เสอื แหงชาติ
2.3 บทบาทของลูกเสอื สามัญรุนใหญ
3. สอ่ื การเรยี นรู
3.1 แผนภูมเิ พลง
3.2 ใบความรู
1) เรือ่ ง การลกู เสอื โลกและความสมั พนั ธระหวา งลูกเสอื นานาชาติ
2) เรื่อง โครงสรางการบรหิ ารงานของคณะลูกเสอื แหงชาติ
3) เรอ่ื ง บทบาทของลกู เสือสามัญรนุ ใหญ
3.3 เรอ่ื งทีเ่ ปนประโยชน
4. กจิ กรรม
4.1 กจิ กรรมคร้งั ท่ี 1
1) พิธเี ปด ประชุมกอง (ชักธง สวดมนต สงบน่ิง ตรวจ แยก)
2) เพลง หรอื เกม
3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก ารเรียนรู
(1) ผูกํากับลกู เสือนาํ สนทนาดว ยคําถาม ตอ ไปนี้
- การลกู เสอื เรมิ่ ตน มาจากประเทศใด
- ลูกเสอื ไทยกับลกู เสือตา งประเทศมีความสัมพันธก นั อยางไร
(2) ผกู าํ กับลกู เสอื แบง งานใหห มูลูกเสือศกึ ษาใบความรตู อ ไปนี้ แลวสง ตัวแทนรายงานสรปุ
ในกองลูกเสอื
- กจิ การของลูกเสอื โลกและความสัมพันธร ะหวา งลกู เสอื นานาชาติ
- โครงสรา งการบริหารงานของคณะลูกเสอื แหงชาติ
(3) ตัวแทนหมูล กู เสอื นาํ เสนอ กองลูกเสอื ซกั ถามเพอ่ื ความเขา ใจ และผกู าํ กับลูกเสอื ชว ย
เพ่ิมเตมิ
คมู ือการจัดกจิ กรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสริมสรา งทักษะชวี ติ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท ี่ 1 13
(4) ผูก ํากับลูกเสือและลูกเสือรวมกนั วเิ คราะหบ ทบาทของตนเอง ทจี่ ะสามารถมี
สวนรวมในกจิ การลูกเสอื ไทยและลูกเสือโลก เชน การรว มกิจกรรมกับลกู เสือตางโรงเรยี น
การรวมกจิ กรรมและการประชุมกบั ลกู เสอื นานาชาติ การรวมงานชมุ นมุ ลกู เสอื โลก เปนตน
4) ผูกาํ กบั ลกู เสอื เลา เร่ืองท่ีมีเปนประโยชน เรอ่ื งสมญานามของ B.P.
- “คนั ตาไก” แปลวาคนสวมหมวกปกกวาง
- “อิมปซ า ” แปลวา หมาปา ทไ่ี มเ คยนอนหลบั
- วรี บรุ ุษแหง เมอื งมฟั ฟค ิง
5) พธิ ปี ดประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจเคร่ืองแบบ ชักธง เลกิ )
- ผูก ํากบั ลูกเสือนัดหมายลูกเสือเขียนบนั ทึกความจาํ ประสบการณข องตนเองใน
บทบาทหนาทจี่ ากการที่เคยเปนลูกเสอื สาํ รอง ลกู เสอื สามัญ เนตรนารสี ามัญ ยุวกาชาด หรือผูบ ําเพ็ญ
ประโยชน
4.2 กจิ กรรมครัง้ ที่ 2
1) พธิ ีเปดประชมุ กอง (ชกั ธง สวดมนต สงบนง่ิ ตรวจ แยก)
2) เพลง หรอื เกม
3) กจิ กรรมตามจุดประสงคการเรียนรู
(1) ผูกาํ กบั ลกู เสือสุมใหลูกเสือเลาประสบการณของตนเอง 2 – 3 คน ที่เคยปฏบิ ตั ิ
หนาท่ีในฐานะลูกเสือสํารอง ลูกเสอื สามญั เนตรนารีสามญั ยุวกาชาด หรอื ผบู าํ เพ็ญประโยชน
โดยเปด โอกาสใหเ พือ่ นลูกเสือซักถามและเลาประสบการณเ พ่ิมเติมได
(2) ผูกํากับลกู เสือสรปุ วา “ในฐานะลูกเสอื สามญั รุนใหญ ลกู เสือทกุ คนกจ็ ะตองมี
บทบาทหนา ที่ ทตี่ อ งรับผดิ ชอบเชน กัน”
(3) ผูกํากับลูกเสอื มอบหมายใหห มลู กู เสือรว มกันศกึ ษาใบความรูเร่ือง “บทบาทของ
ลูกเสอื สามัญรุนใหญ” และอภปิ รายหาขอสรปุ ในเรื่อง “บทบาทหนา ทขี่ องตนเองในฐานะเปน ลกู เสอื
สามญั รุน ใหญ” ในประเด็นตอ ไปน้ี และสง ตัวแทนรายงานในกองลูกเสอื
- บทบาทหนา ที่ในการพฒั นากจิ กรรมลูกเสือในโรงเรยี น
- การบริการชว ยเหลอื โรงเรยี นและชมุ ชน
- การบาํ เพญ็ ตนใหเปน ประโยชน
- การปฏบิ ตั ติ นเปนผมู เี กยี รติ เชื่อถอื ได
(4) ผกู ํากบั ลกู เสอื สมุ ใหลูกเสอื สง ตัวแทนรายงานหมลู ะ 1 ประเด็น ผกู ํากบั ลูกเสือ
นําอภปิ รายใหห มูอ นื่ เพิม่ เตมิ ทีละประเดน็ จนครบ
(5) ผูกํากบั ลกู เสอื และลกู เสอื รว มกนั สรุปและวางแผนการปฏิบตั งิ านในกองลูกเสือ
ตามบทบาทหนาทใ่ี นฐานะเปนลูกเสือสามญั รุนใหญ และสง เสรมิ ใหล กู เสอื นาํ ไปปฏิบตั จิ ริงใน
ชวี ติ ประจําวนั
14 คมู ือการจัดกิจกรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสรมิ สรางทกั ษะชีวติ ชัน้ มัธยมศึกษาปท ่ี 1
4) ผูกํากบั ลกู เสือเลาเรอ่ื งทเี่ ปนประโยชน
5) พธิ ีปดประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจเครอื่ งแบบ ชักธง เลกิ )
ขอเสนอแนะเพ่ิมเติมในการจัดกิจกรรม ผูกํากับลูกเสืออาจมอบหมายใหหมูลูกเสืออภิปราย
หรือศึกษาคนควาเพ่ิม และนําเสนอในรูปแบบแผนที่ความคิด (Mind Mapping) หรือใชวิธีการนําเสนอ
อ่ืนๆ
5.การประเมนิ ผล
5.1 ประเมินจากการมสี วนรว มของลกู เสือในการทาํ กิจกรรมตามทผ่ี ูกาํ กบั ลูกเสอื วางแผน
ครบทกุ กิจกรรม และการเสนอความคิดเห็นในหมูและกองลกู เสอื
5.2 ประเมินจากลูกเสอื มผี ลการจัดกจิ กรรมผานเกณฑระดับดี มคี วามรูค วามเขา ใจในเนอ้ื หา
และมีพฤตกิ รรมตามจดุ ประสงค รวมทั้งมีเจตคตทิ ีด่ ตี อ กจิ การลกู เสอื
ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมท่ี 2
เพลง
ลูกเสอื ธรี ราช
เหลา ลกู เสือของธีรราช ทะนงองอาจสืบชาตเิ ชือ้ พงศพ นั ธ
สมคั รสมานโดยมีสามคั คมี ัน่ พวกเราจะรกั รว มกนั จะผกู สมั พนั ธต ลอดกาล
มีจรรยา รักษาช่ือ สรางเกยี รติระบอื เลอื่ งลอื ตอไปชานาน
ราเรงิ แจม ใสใฝใ จรกั ใหยนื นาน พวกเราลวนชื่นบานเพราะกิจการลูกเสอื ไทย
เกียรติศกั ดลิ์ กู เสอื
ลกู เสอื ลูกเสอื ไวศ ักดิ์ซลิ กู ผชู าย ลกู เสือ ลกู เสอื ไวล าย ซิลกู เสือไทย
รกั เกียรติ รักวนิ ยั แข็งแรงและอดทน เราจะบําเพญ็ ตนใหเ ปนประโยชนตอผอู ื่น
แมลาํ บากตรากตรํา ก็จะทําใหส าํ เรจ็ ทํา ทํา ทํา ขา สัญญาวา จะทํา
เสียชพี อยาเสยี สตั ย รักชาตใิ หม ่ันไว ดงั นามอนั เกรียงไกร พระมงกุฎทรงประทาน
คมู อื การจัดกิจกรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสริมสรา งทกั ษะชีวิต ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปท่ี 1 15
ใบความรู
การลูกเสอื โลกและความความสมั พนั ธระหวา งลกู เสือนานาชาติ
ภูมิหลัง
การลูกเสือเร่ิมตนท่ีประเทศอังกฤษ เม่ือ พ.ศ. 2450 (ค.ศ.1907) จากแนวคิดของลอรดเบเดน
เพาเวลล และหนังสือเร่ือง “การลูกเสือสําหรับเด็กชาย” (Lord Baden Powell – “Scouting for Boys)
ซึ่งประกอบดวยเร่ืองราวที่ชวนใหเด็กๆเกิดความคิดสรางสรรค รวมกันทํากิจกรรมตามอุดมการณ
และวิธีการของลูกเสือ กอใหเ กิดสันติภาพความเขาใจอนั ดี และภราดรภาพแหงโลก
วตั ถุประสงค หลักการและวิธกี ารลูกเสอื
การลูกเสือเปนขบวนการทางการศึกษาสําหรับเยาวชน มีวัตถุประสงคในการสรางบุคลิกภาพ
และพัฒนาการทางสังคมใหกับเยาวชน เพ่ือใหเปนพลเมืองดีของประเทศ โดยใชวิธีการลูกเสือซ่ึง
ประกอบดวย การยึดมั่นในกฎและคําปฏิญาณ (Scout Promise and Laws) การเรียนรูโดยการกระทํา
(Learning by Doing) เนนการปฏิบัติกิจกรรมกลางแจง (Outdoor Activities) การใชระบบหมู
(Patrol System) และการสงเสริมความกาวหนาตามวิถีทางของลูกเสือ ดวยหลักสูตรและวิชาพิเศษ
ลูกเสือ (Proficiency Badges)
การลูกเสือเปนการอาสาสมัครทํางาน ใหการศึกษาและพัฒนาเยาวชน โดยไมมีการแบงแยก
กีดกันในเร่ืองเชื้อชาติ ผิวพรรณ วรรณะ ลัทธิทางศาสนาใด ๆ และไมอยูภายใตอิทธิพลหรือเกี่ยวของ
กับการเมือง ยึดถอื และปฏิบตั ิตามอดุ มการณข องผใู หกาํ เนิดลูกเสอื โลกอยา งมั่นคง
พันธกจิ หลกั (Mission)
พนั ธกจิ หลกั ของการลกู เสอื ในการฝก อบรมเยาวชน มี 3 ประการ คือ
1. ใหเดก็ ไดเปน ลกู เสอื แตเ ยาวว ยั โดยจดั ในรปู กจิ กรรมอาสาสมัครหรือกจิ กรรมเสริมหลกั สตู ร
2. ใชว ธิ กี ารลกู เสือในการพฒั นาเยาวชน ใหม ีคณุ สมบัตทิ ่ีพึงประสงค 4 ประการ คือ
2.1 เปนผทู เ่ี ชอ่ื ถือได
2.2 สามารถพึง่ ตนเองได
2.3 มคี วามรับผดิ ชอบ
2.4 กลา สูงานหนกั
3. พฒั นาระบบการฝกอบรมใหม ปี ระสิทธิภาพ ในการขดั เกลาคุณธรรม จรยิ ธรรมของเยาวชน
โดยใชก ฎลูกเสือเปนหลัก
จากพนั ธกิจหลกั (Mission) ทงั้ 3 ประการน้ี นําไปสูยุทธศาสตรหลัก (Strategy) ทใ่ี ชในการ
พัฒนาการลกู เสือใหตอบสนองสอดคลองกบั พนั ธกจิ
ยุทธศาสตร (Strategy)
1. ใหเยาวชนไดมีสว นรว มคิด รว มทํา และรวมตดั สินใจ
2. มผี ูใ หญเ ปน ผูใหก ารสนับสนนุ กิจกรรมลูกเสอื
3. ฝก อบรมลูกเสือชาย-หญงิ อยา งเสมอภาค ใหเขา ใจในสทิ ธแิ ละหนา ที่ ท้ังตอ ตนเองและผอู ่ืน
16 คมู ือการจัดกิจกรรมลกู เสือสามัญรุนใหญเสรมิ สรา งทักษะชวี ติ ชั้นมธั ยมศึกษาปท ่ี 1
4. ใหทมุ เทงานหนกั
5. ใชระบบอาสาสมคั ร
6. องคกรลกู เสือตองปรบั ตวั ใหม คี วามยดื หยุน สอดคลองกบั กระแสโลกาภิวัตน
7. ปรบั ระบบลูกเสอื ใหเ ขมแขง็
8. ใชเ ทคโนโลยกี ารสือ่ สารอยา งมปี ระสทิ ธภิ าพ เพอ่ื ใหก ารทํางานทันสมัย ทันคน
และทนั ตอ เหตกุ ารณ
9. สงเสริมการเผยแพรประชาสัมพันธผลงาน เพอื่ รายงานความกา วหนา ใหสงั คมรับรู
10. สรางเครือขายการทาํ งานรว มกนั ในองคกรลูกเสอื ทัง้ ในระดบั ประเทศและระหวา งประเทศ
11. สรา งเครอื ขา ยการทํางานรว มกบั องคกรเอกชนและองคก รเยาวชนอ่นื ๆ
12. สนับสนุนใหม ปี ระเทศสมาชิกใหม เขารวมองคก ารลูกเสือโลก และสงเสรมิ การเพิ่มจาํ นวน
สมาชิกลกู เสอื ในประเทศ
13. จัดตง้ั กองทุนเพอ่ื หาเงินสนับสนนุ กิจการลกู เสืออยา งเปน ระบบและม่นั คง
องคก ารลูกเสือโลก (WOSM: World Organization of the Scout Movement)
การลูกเสือไดเจริญเติบโตและแพรขยายไปท่ัวโลก มีสมาชิกกวา 28 ลานคน ใน 160 ประเทศ
และเขตปกครอง อาณานิคม แควนตา ง ๆ ท่วั โลก (ขอมลู พ.ศ.2553)
คณะกรรมการลูกเสือโลกประกอบดวยบุคคล 12 คน จากประเทศสมาชิก 12 ประเทศ เลือกตั้ง
โดยที่ประชุมสมัชชาลูกเสือโลก กรรมการลูกเสือโลกอยูในตําแหนงคนละ 6 ป และเลือกตั้งกันเอง
เปนประธานและรองประธาน กรรมการจะพนจากตําแหนง 6 คน ทุกๆ 3 ป และเลือกคนใหมเขาแทนท่ี
โดยวิธีลงคะแนนลับในการประชุมสมัชชาลูกเสือโลก ซ่ึงมีผูแทนมาจาก 160 ประเทศทั่วโลก โดยปกติ
คณะกรรมการลกู เสอื โลกจะมกี ารประชุมอยางนอ ยปละ 1 ครั้ง ณ เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอรแลนด
อาํ นาจและหนาที่ของคณะกรรมการลูกเสือโลก มีดงั น้ี
1. สง เสรมิ กิจการลกู เสือทวั่ โลก
2. แตง ต้งั เลขาธกิ ารของสํานักงานลูกเสอื โลก
3. ควบคมุ การปฏิบตั งิ านของสํานกั งานลูกเสอื โลก
4. จัดหาเงินทุนสําหรับสงเสริมกิจการลูกเสอื โลก
5. พจิ ารณามอบเครอ่ื งหมายลกู เสือสดุดใี หแกผ ูทไี่ ดม ีสว นชว ยเหลอื กจิ การลูกเสอื อยา งดีเดน
สมชั ชาลกู เสอื โลก (World Scout Conference)
สมัชชาลูกเสือโลก คือที่ประชุมของผูแทนคณะลูกเสือประเทศตาง ๆ (พ.ศ.2553 มี 160
ประเทศ) เปนผูแทนของลูกเสือท่ัวโลกประมาณ 28 ลานคน ประเทศสมาชิกสงผูแทนเขารวมประชุม
ไดไมเ กนิ ประเทศละ 6 คน และตองมาจากองคก ารเดยี วทเี่ ปนผูแทนของแตล ะประเทศ
สมัชชาลูกเสือโลกมีอํานาจและหนาที่ในการรับสมาชิกใหม ซึ่งตองย่ืนใบสมัครและรับรองวา
จะปฏิบัติตามวัตถุประสงค และหลักการสําคัญของลูกเสือโลก เปนอิสระไมเกี่ยวของกับลัทธิการเมือง
ใดๆ
คูมอื การจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสริมสรา งทกั ษะชีวิต ช้ันมัธยมศึกษาปที่ 1 17
การประชุมสมัชชาลูกเสือโลก จัดใหม ีขึน้ ทุก 3 ป ในแตละครงั้ จะมปี ระเทศตางๆ ขอเปนเจาภาพ
จดั การประชมุ และสมชั ชาลกู เสือโลกเปน ผคู ัดเลือกวา จะจัดประชมุ ทปี่ ระเทศใด ประเทศไทยเคยเปน เจา ภาพ
การประชุมคร้ังท่ี 33 ป พ.ศ. 2536 คร้ังลาสุดเปนการประชุมครั้งท่ี 40 จัดท่ีประเทศสโลวีเนีย เมื่อวันท่ี 11 –
15 สิงหาคม 2557 ครง้ั ตอ ไปเปนครงั้ ท่ี 41 จดั ท่ี ประเทศอาเซอรไ บจาน ป พ.ศ. 2560
สาํ นกั งานลูกเสอื โลก (World Scout Bureau)
ตั้งอยูที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิสเซอรแลนด ทําหนาท่ีเปนสํานักงานเลขาธิการฯ ดูแลการดําเนินงาน
ของประเทศสมาชิก ใหพัฒนาไปตามกรอบนโยบายขององคการลูกเสือโลก และตามมติของที่ประชุม
สมชั ชาลูกเสือโลก งานของสํานกั งานลกู เสอื โลกอาจจาํ แนกไดดังน้ี
1. ใหค าํ ช้ีแจงแนะนาํ แกประเทศสมาชกิ และองคการท่ีเก่ียวขอ ง
2. ชวยเหลอื การฝกอบรมผูบงั คบั บัญชาลกู เสอื ในประเทศสมาชิก
3. จัดการประชมุ สมัชชาลูกเสอื โลกและการชมุ นุมลูกเสอื โลก
4. การเย่ียมเยอี น และการชว ยเหลอื โดยตรง
5. การจดั พิมพเ อกสารและการคนควา
นอกจากสาํ นกั งานลูกเสอื โลกแลว ยังมีสาํ นกั งานลกู เสอื ภาคพน้ื ในภมู ภิ าคทวั่ โลก อีก 6 แหง
ไดแ ก
1. ภาคพ้นื ยุโรป (Europe) สาํ นักงานใหญตัง้ อยทู ีก่ รงุ เจนวี า ประเทศสวติ เซอรแลนด
และกรุงบรสั เซลส ประเทศเบลเย่ียม
2. ภาคพื้น ยูเรเชยี (Eurasia) สํานกั งานใหญต ัง้ อยูทส่ี าธารณรัฐยูเครน และสํานกั งานสาขา
ท่ีกรงุ มอสโคว ประเทศรสั เซีย
3. ภาคพ้นื อินเตอรอเมรกิ า (Interamerica) สาํ นักงานใหญต ั้งอยทู กี่ รุงซานดเิ อโก ประเทศชลิ ี
4. ภาคพืน้ อาหรับ (Arab) สํานกั งานใหญตงั้ อยทู ่กี รุงไคโร ประเทศอียปิ ต
5. ภาคพ้ืนอาฟริกา (Africa) สํานักงานใหญตง้ั อยูทกี่ รุงไนโรบี ประเทศเคนยา
6. ภาคพน้ื เอเชยี -แปซิฟก (Asia-Pacific) สาํ นกั งานใหญต้ังอยูทกี่ รุงมนิลา ประเทศฟล ิปปน ส
ความสัมพนั ธร ะหวางลูกเสอื นานาชาติ
กิจการลูกเสือของทุกประเทศยึดมั่นในวัตถุประสงค หลักการสําคัญ และวิธีการของลูกเสือ
เหมือนกันทั่วโลก ทุกประเทศเขาเปนสมาชิกโดยสมัครใจ และเปนอิสระจากอิทธิพลการเมือง
มงุ พัฒนาเยาวชนดวยรากฐานของอุดมการณล ูกเสอื ซงึ่ มีคาํ ปฏญิ าณและกฎลูกเสอื เปน พืน้ ฐาน
การชมุ นุมลกู เสอื โลก (World Scout Jamboree)
ริเร่ิมโดยลอรดเบเดน เพาเวลล วัตถุประสงคเพื่อใหลูกเสือนานาชาติไดมาทํากิจกรรมรวมกัน
การประชุมคร้ังแรกจัดท่ีโอลิมเปย กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ พ.ศ. 2463 มีลูกเสือรวมประชุม
จํานวน 8,000 คน จาก 34 ประเทศ จากน้ันไดมีการประชุมทุก 4 ป โดยเปล่ียนสถานท่ีประชุม
ไปตามประเทศสมาชกิ มสี ํานักงานลูกเสือโลกเปนผูรบั ผิดชอบดําเนนิ การ
18 คูมือการจัดกิจกรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสรมิ สรา งทักษะชีวิต ช้ันมัธยมศึกษาปท่ี 1
การชุมนุมลูกเสือโลกคร้ังท่ี 20 วันท่ี 28 ธันวาคม 2545 ถึง 7 มกราคม 2546 ประเทศไทย
เปนเจาภาพ จัดประชุมที่ชายทะเลอําเภอสัตหีบ จังหวัดระยอง มีลูกเสือชาย–หญิง เขารวมประชุม
รวม 24,000 คน จาก 147 ประเทศ คร้ังที่ 21 เปนปฉลองอายุ 150 ปของลอรดเบเดน เพาเวลล จัด
ประชุมที่ Hylands Park เมือง Chelmsford ประเทศอังกฤษ เมื่อ พ.ศ. 2550 มีลูกเสือชาย – หญิงจาก
ทั่วโลก เขารวมประชุมกวา 40,000 คน ครั้งลาสุดจัดท่ีประเทศญ่ีปุน เมื่อ 28 กค. – 8 สค. 2558 เปน
ครัง้ ที่ 23 ครงั้ ตอไปกาํ หนดจัดท่ปี ระเทศสหรฐั อเมรกิ า 22 กค. – 2 สค. 2562 นับเปน คร้งั ที่ 24
สมัชชาลกู เสอื ภาคพ้ืนเอเชยี – แปซฟิ ค
เดิมเรียกวา Far East Scout Conference เปลี่ยนชื่อเรียกเปน Asia – Pacific Regional
Scout Conference เม่ือพ.ศ. 2513 จัดประชุมคร้ังแรกเม่ือ พ.ศ. 2501 ที่ประเทศฟลิปปนส ระยะแรก
มีการประชมุ ทกุ 2 ป ตอ มาเปลี่ยนเปน ประชุมทุก 3 ป ตง้ั แต พ.ศ. 2532
คณะกรรมการประกอบดวย ผูแทนจากประเทศสมาชิกลูกเสือภาคพื้นเอเชีย – แปซิฟค
ที่มาจากการคัดเลือกจํานวน 10 คน อยูในตําแหนงคราวละ 6 ป ท้ัง 10 คน จะคัดเลือกประธาน
และรองประธานกันเอง ในการประชุมทุก 3 ป จะมีกรรมการครบวาระ 5 คน และจะมีการเลือก
กรรมการใหมเ ขามาทดแทน โดยมคี นไทยหลายทานทเ่ี คยไดรับคดั เลอื กเขา เปน กรรมการ
โครงสรางการบรหิ ารงานของคณะลกู เสือแหง ชาติ
คณะลูกเสือแหง ชาติ
ตามพระราชบญั ญัติ ลกู เสอื พ.ศ.2551 ประกอบดวย บรรดาลกู เสอื ทั้งปวงและบคุ ลากรทาง
การลกู เสอื มีพระมหากษัตรยิ ทรงเปน ประมุขของคณะลูกเสอื แหง ชาติ
มวี ตั ถุประสงคเ พอื่ พัฒนาลูกเสือท้งั ทางกาย สตปิ ญ ญา จิตใจ และศีลธรรม ใหเปนพลเมืองดี
มคี วามรับผิดชอบ และชว ยสรา งสรรคสังคมใหเกดิ ความสามัคคี และมีความเจริญกา วหนา
ท้ังนเ้ี พือ่ ความสงบสุข และความม่ันคงของประเทศชาตติ ามแนวทาง ดังตอไปนี้
1. ใหม ีนิสัยในการสงั เกต จดจํา เชอ่ื ฟง และพ่ึงตนเอง
2. ใหซ ่ือสตั ยส ุจรติ มรี ะเบยี บวินยั และเห็นอกเห็นใจผอู ่นื
3. ใหรจู กั บาํ เพ็ญตนเพื่อสาธารณประโยชน
4. ใหรจู กั ทําการฝม ือ และฝกฝนใหทาํ กจิ การตาง ๆ ตามความเหมาะสม
5. ใหรูจกั รกั ษาและสง เสรมิ จารีตประเพณี วฒั นธรรม และความมนั่ คงของประเทศชาติ
กระทรวงศึกษาธิการมหี นาที่สงเสริมและสนบั สนุนงานของคณะลูกเสือแหง ชาติ รวมทงั้ สงเสรมิ
และสนับสนุนการดาํ เนินการของสํานักงานลกู เสอื แหงชาติ สาํ นกั งานลูกเสือจงั หวัด สาํ นกั งานลูกเสือ
เขตพื้นทกี่ ารศกึ ษาสถานศึกษาและหนว ยงานอน่ื ท่เี ก่ยี วขอ ง เพือ่ ใหการจดั กจิ กรรมลูกเสือเปน ไป
อยางทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ
คมู ือการจัดกิจกรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสริมสรา งทักษะชวี ติ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปท ี่ 1 19
สภาลกู เสือไทย
มนี ายกรฐั มนตรี เปน สภานายก และเลขาธิการสาํ นักงานลกู เสอื แหงชาติ เปนกรรมการ
และเลขานกุ าร มีอํานาจหนา ท่ี ดังตอ ไปน้ี
(1) วางนโยบายเพอ่ื ความม่นั คงและความเจริญกาวหนาของคณะลกู เสือแหงชาติ
(2) ใหค ําแนะนาํ ในการปฏบิ ตั งิ านของคณะกรรมการบรหิ ารลูกเสอื แหง ชาติ
(3) พจิ ารณารายงานประจาํ ปข องคณะกรรมการบรหิ ารลกู เสือแหงชาติ
(4) มวี าระการดํารงตาํ แหนง คราวละสป่ี
คณะกรรมการบรหิ ารลูกเสือแหงชาติ
เปนองคกรบรหิ ารของคณะลูกเสือแหง ชาติ มรี ฐั มนตรวี า การกระทรวงศกึ ษาธิการ
เปนประธานกรรมการ และเลขาธกิ ารสาํ นกั งานลูกเสือแหงชาตเิ ปนกรรมการและเลขานุการ
มอี ํานาจหนาที่ ดังตอ ไปนี้
(1) ดาํ เนินการตามวตั ถุประสงคข องคณะลกู เสือแหงชาตแิ ละตามนโยบายของสภาลูกเสอื ไทย
(2) สงเสรมิ ความสมั พนั ธกบั คณะลูกเสอื นานาชาติ
(3) สนบั สนุนและสง เสรมิ ใหมีการพฒั นาบุคลากรทางการลกู เสอื
(4) สนบั สนนุ ใหมกี ารจัดกิจกรรมอยางตอเนือ่ ง
(5) จัดการทรัพยส ินของสาํ นกั งานลูกเสือแหงชาติ
20 คูม อื การจดั กจิ กรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสริมสรางทักษะชีวติ ชั้นมัธยมศกึ ษาปท ี่ 1
(6) ใหความเห็นชอบในการลงทนุ เพ่ือประโยชนข องสํานกั งานลกู เสือแหงชาติ
(7) ออกขอบังคับของคณะกรรมการบริหารลูกเสอื แหง ชาตติ ามทรี่ ะบไุ วใ นพระราชบญั ญัตนิ ี้
โดยประกาศในราชกิจจานเุ บกษา
(8) วางระเบยี บและแนวทางปฏิบัติเกยี่ วกับกิจการลูกเสอื
(9) จัดทํารายงานประจําปเสนอสภาลกู เสอื ไทยพจิ ารณา
(10) แตง ต้ังทปี่ รกึ ษาคณะกรรมการบรหิ ารลูกเสอื แหง ชาติ
(11) แตง ตง้ั คณะอนกุ รรมการเพ่อื พิจารณาหรือปฏิบตั กิ ารตามทค่ี ณะกรรมการบริหาร
ลกู เสือแหง ชาติมอบหมาย
(12) กาํ กับดแู ล สนับสนนุ และสงเสรมิ กจิ การลกู เสอื ชาวบาน
(13) จดั ต้งั ตาํ แหนงกิตติมศกั ด์แิ ละตาํ แหนง อื่นใดทมี่ ิไดร ะบไุ วใ นพระราชบญั ญตั นิ ้ี
(14) ปฏิบตั ิการอ่ืนใดตามทีก่ ฎหมายกําหนด ใหเ ปนอํานาจหนา ทขี่ องคณะกรรมการบริหาร
ลูกเสอื แหง ชาตหิ รือตามทีค่ ณะรฐั มนตรีมอบหมาย
สาํ นกั งานลกู เสือแหง ชาติ
เปนหนว ยงานของรัฐที่มฐี านะเปน นิตบิ คุ คลและอยูใ นกํากบั ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร
รัฐมนตรีแตงตัง้ รองปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ ารคนหนึง่ ทําหนาทเ่ี ลขาธกิ ารสํานักงาน
ลกู เสอื แหงชาติ
มีหนา ทดี่ าํ เนินการตามวตั ถปุ ระสงคข องคณะลกู เสอื แหงชาติและตามนโยบายของ
สภาลกู เสือไทย รวมทัง้ ใหม ีอาํ นาจหนา ทด่ี ังตอไปนี้
1. ถือกรรมสิทธิ์หรือสิทธคิ รอบครองในทรพั ยสินของคณะลูกเสอื แหง ชาติหรือดาํ เนนิ การใดๆ
เกี่ยวกบั ทรพั ยส ิน
2. ทาํ นติ ิกรรมสญั ญาหรือขอ ตกลงอ่ืน
3. รับผดิ ชอบการดําเนินงานของคณะกรรมการบริหารลกู เสอื แหงชาติ
4.ควบคมุ ดูแลกจิ การลูกเสือใหเปน ไปตามกฎหมาย ขอ บงั คับ และระเบียบของ
ทางราชการ และคณะกรรมการบริหารลกู เสอื แหง ชาติ รวมท้งั ถกู ตองตามแบบธรรมเนยี มของลกู เสือ
5. จดั ใหม กี ารฝก อบรมหรือการชมุ นมุ ลูกเสือ ผูบังคบั บญั ชาลกู เสือและเจา หนาท่ลี กู เสอื
6. จดั ทํารายงานประจาํ ปพรอ มงบดลุ เสนอคณะกรรมการบริหารลูกเสือแหง ชาติ
7. จัดใหมีทะเบียนและสถติ ติ าง ๆ เก่ยี วกบั ลูกเสือ
8. ประสานและสง เสรมิ สาํ นกั งานลูกเสอื จงั หวัด และสาํ นักงานลูกเสอื เขตพื้นที่การศกึ ษา
9. ปฏิบัตหิ นา ทีต่ ามที่กาํ หนดไวในขอบงั คบั และตามมตขิ องคณะกรรมการบริหารลกู เสอื แหง ชาติ
คณะกรรมการลูกเสอื จังหวัด
แตล ะจงั หวดั จดั ระเบียบการปกครองลกู เสอื ตามเขตจังหวดั สําหรับการจดั ระเบียบการปกครอง
ลูกเสือในกรงุ เทพมหานครและองคกรปกครองสว นทองถ่ิน ทมี่ กี ฎหมายจัดตง้ั เปน รปู แบบพเิ ศษ
ใหเ ปน ไปตามทีก่ ําหนดในกฎกระทรวง
คูมอื การจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสริมสรางทักษะชีวติ ช้นั มัธยมศกึ ษาปท ่ี 1 21
คณะกรรมการลกู เสือจงั หวดั มผี ูว า ราชการจังหวดั เปน ประธานกรรมการ และผูอ าํ นวยการ
สาํ นกั งานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษาเขต 1 เปนกรรมการและเลขานุการ
มีอํานาจหนา ท่ภี ายในเขตจงั หวดั ดังตอ ไปน้ี
(1) ควบคมุ ดแู ลกจิ การลูกเสือใหเ ปน ไปตามกฎหมาย ขอบังคับ และระเบียบของทางราชการ
และคณะกรรมการบรหิ ารลกู เสือแหง ชาติ
(2) สงเสรมิ และสนับสนนุ ความมั่นคงและความเจรญิ กา วหนาของกิจการลูกเสอื
(3) สนบั สนุนและสง เสรมิ ใหมีการพฒั นาบุคลากรทางการลกู เสือ
(4) ควบคุมดแู ลทรัพยสนิ ในกจิ การของลูกเสอื จังหวัด
(5) พิจารณาคําขอการจัดตง้ั คายลกู เสอื ตามมาตรา 32
(6) พิจารณารายงานประจําปข องสํานักงานลูกเสือจงั หวดั
(7) ใหค วามเห็นชอบแผนปฏิบตั กิ ารประจําป
(8) ใหค ําแนะนําผูอ าํ นวยการลกู เสือเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษาในการปฏบิ ตั งิ านลกู เสอื
(9) จดั ใหม ีทะเบียนและสถติ ิตา ง ๆ เกีย่ วกบั การดาํ เนนิ กิจการลกู เสอื
(10) ออกระเบยี บปฏบิ ัตเิ กย่ี วกบั กิจการลกู เสือ เพือ่ ความเหมาะสมแกการปกครองในจังหวดั
ซึง่ จะตอ งไมขดั หรอื แยงกบั กฎหมาย ขอ บงั คบั และระเบียบของทางราชการและคณะกรรมการ
บริหารลูกเสอื แหงชาติ
(11) จัดทาํ รายงานประจาํ ปและรายงานทเี่ กีย่ วของกบั กจิ การลูกเสอื ในจงั หวดั เสนอตอ
คณะกรรมการบรหิ ารลกู เสอื แหง ชาติ
(12) แตง ต้งั คณะอนุกรรมการเพ่อื ดาํ เนนิ การอยา งหน่งึ อยางใด ตามทคี่ ณะกรรมการลูกเสือ
จังหวัดมอบหมาย
(13) ปฏบิ ตั งิ านอนื่ ตามทค่ี ณะกรรมการบรหิ ารลกู เสอื แหง ชาติมอบหมาย ใหม สี ํานกั งานลกู เสอื
จงั หวดั อยใู นสาํ นกั งานเขตพน้ื ที่การศกึ ษาเขต1 โดยมผี อู ํานวยการ สาํ นักงานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษาเขต 1
เปนหวั หนา สาํ นักงานลกู เสอื จงั หวดั บงั คบั บญั ชาและรบั ผิดชอบการดาํ เนนิ งานของสํานักงานลูกเสือ
จงั หวัด
คณะกรรมการลกู เสือเขตพ้นื ทกี่ ารศกึ ษา
มีผอู ํานวยการสาํ นักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา เปนประธานกรรมการ และรองผอู าํ นวยการ
สํานกั งานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาทไ่ี ดรบั มอบหมายเปนกรรมการและเลขานุการ
มอี ํานาจหนาทีภ่ ายในเขตพ้นื ท่กี ารศึกษา ดังตอ ไปน้ี
(1) ควบคุมดแู ลกิจการลูกเสอื ใหเ ปนไปตามกฎหมาย ขอบังคับ และระเบยี บของ
ทางราชการ และคณะกรรมการบริหารลกู เสอื แหงชาติ
(2) สง เสริมและสนับสนนุ ความมน่ั คงและความเจริญกา วหนา ของกจิ การลกู เสอื
(3) สงเสริมและสนับสนนุ ใหม กี ารจัดกจิ กรรมลกู เสือทง้ั ในและนอกสถานศกึ ษา
(4) ควบคมุ ดูแลทรัพยส นิ ในกิจการของลูกเสอื เขตพน้ื ท่ีการศึกษา
22 คมู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสรมิ สรา งทกั ษะชวี ิต ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปท่ี 1
(5) พจิ ารณารายงานประจาํ ปข องสํานักงานลกู เสือเขตพนื้ ท่กี ารศึกษาและรายงานให
คณะกรรมการลกู เสอื จงั หวดั ทราบ
(6) ใหความเหน็ ชอบในแผนปฏบิ ัตกิ ารประจาํ ป
(7) ใหค ําแนะนําแกผอู าํ นวยการสถานศกึ ษาในการปฏบิ ัติงานหรอื จดั กจิ กรรมลูกเสอื
(8) จดั ใหม ที ะเบยี นและสถติ ิตาง ๆ เกยี่ วกบั ลกู เสอื
(9) กํากบั ดูแล สนบั สนุนและสงเสรมิ กจิ การลกู เสือชาวบานในเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษา
(10) ออกระเบียบปฏบิ ัตเิ กยี่ วกบั กิจการลูกเสอื เพอ่ื ความเหมาะสมแกการปกครองในเขตพนื้ ที่
การศกึ ษา ซ่ึงจะตอ งไมข ัดแยง กับกฎหมาย ขอบังคับ และระเบียบของทางราชการและคณะกรรมการ
บริหารลกู เสอื แหง ชาติ
มีสํานกั งานลกู เสอื เขตพนื้ ท่ีการศกึ ษาอยูในสํานักงานเขตพืน้ ทีก่ ารศกึ ษานั้น โดยมีผอู าํ นวยการ
สํานกั งานเขตพ้นื ทีก่ ารศึกษาเปนหวั หนาสํานกั งานลกู เสือเขตพ้นื ท่กี ารศึกษา บงั คับบญั ชา
และรบั ผิดชอบ
ตําแหนงลูกเสือ
ตําแหนงผูบงั คับบัญชาลูกเสอื มีลาํ ดับ ดังตอไปน้ี
(1) ผูอ าํ นวยการใหญ (รมต.กระทรวงศกึ ษาธกิ าร)
(2) รองผูอํานวยการใหญ (ปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร/เลขาธกิ าร สพฐ. / เลขาธิการ
คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา)
(3) ผูชวยผูอ าํ นวยการใหญ (รองปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร)
(4) ผอู าํ นวยการลกู เสอื จงั หวัด (ผูวา ราชการจังหวดั )
(5) รองผูอาํ นวยการลกู เสอื จงั หวดั (รองผวู าราชการจงั หวัด)
(6) ผูช ว ยผอู าํ นวยการลูกเสอื จงั หวัด (ปลดั จังหวดั )
(7) ผอู ํานวยการลูกเสือเขตพน้ื ที่การศกึ ษา (ผอู ํานวยการเขตพืน้ ที่การศึกษา)
(8) รองผูอํานวยการลูกเสอื เขตพนื้ ที่การศึกษา (รองผูอํานวยการเขตพ้นื ทีก่ ารศกึ ษา)
(9) ผูอาํ นวยการลกู เสอื โรงเรียน (ผูอํานวยการโรงเรียน)
(10) รองผูอาํ นวยการลกู เสอื โรงเรยี น
(11) ผูก าํ กับลกู เสอื กลมุ ลกู เสือ
(12) รองผูกํากับลูกเสอื กลมุ ลกู เสอื
(13) ผกู ํากบั ลกู เสือกองลกู เสือ
(14) รองผูกํากบั ลูกเสอื กองลูกเสือ
(15) นายหมลู ูกเสอื
(16) รองนายหมูลูกเสอื
การแตง ตง้ั ผบู งั คบั บญั ชาลกู เสือใหเปนไปตามขอ บังคบั คณะกรรมการบริหารลูกเสอื แหง ชาติ
ตาํ แหนง ผตู รวจการลูกเสอื มลี าํ ดับดงั ตอ ไปน้ี
(1) ผูตรวจการใหญพเิ ศษ (นายกรัฐมนตรี)
คมู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือสามัญรุนใหญเสริมสรางทกั ษะชีวติ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท่ี 1 23
(2) ผูตรวจการใหญ (รองนายกรฐั มนตรี และรัฐมนตรีวา การกระทรวงมหาดไทย)
(3) รองผตู รวจการใหญ (ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผตู รวจราชการกระทรวงศกึ ษาธกิ าร
อธบิ ดีกรมการปกครอง และอธิบดีกรมสง เสรมิ การปกครองทอ งถิ่น)
(4) ผูตรวจการลูกเสือประจาํ สาํ นกั งานลกู เสอื แหง ชาติ
(5) รองผูตรวจการลูกเสอื ประจําสาํ นักงานลูกเสอื แหง ชาติ
(6) ผูชวยผตู รวจการลกู เสอื ประจาํ สาํ นักงานลกู เสือแหงชาติ
(7) ผูตรวจการลูกเสือจงั หวดั
(8) รองผูตรวจการลูกเสือจังหวดั
(9) ผูชว ยผตู รวจการลูกเสือจังหวดั
(10) ผตู รวจการลกู เสือเขตพน้ื ที่การศกึ ษา
(11) รองผตู รวจการลกู เสือเขตพ้นื ท่ีการศึกษา
การแตง ต้ังผูตรวจการลกู เสอื และการกาํ หนดหนาท่ีของผตู รวจการลูกเสอื ใหเปน ไป
ตามขอ บงั คบั คณะกรรมการบรหิ ารลูกเสอื แหง ชาติ
ผูตรวจการลกู เสอื มหี นาทต่ี รวจตรา แนะนํา ช้ีแจง และรายงานเพ่ือใหการบริหารงาลูกเสือ
เปนไปตามนโยบาย ขอบงั คับ ระเบียบ และแบบธรรมเนียมของลกู เสือ
สภาลูกเสือแหงชาติ คณะกรรมการบริหารลูกเสือแหงชาติ คณะกรรมการลูกเสือจังหวัด
คณะกรรมการลกู เสอื อาํ เภอ ตามพระราชบัญญตั ลิ กู เสอื พ.ศ. 2507 ปฏิบตั ิหนา ที่ตอไปจนกวา
จะไดมีสภาลูกเสอื ไทย คณะกรรมการบรหิ ารลูกเสือแหงชาติ คณะกรรมการลกู เสือจงั หวัด
และคณะกรรมการลูกเสือเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษา ตามพระราชบญั ญตั ลิ กู เสือ พ.ศ. 2551
ใหนํากฎกระทรวง ขอบงั คบั คณะลูกเสือแหงชาติ ระเบียบ ประกาศ หรือคําสงั่ ที่ออก
ตามพระราชบญั ญตั ลิ ูกเสือ พ.ศ. 2507 ทใี่ ชอ ยูใ นวันทพี่ ระราชบัญญัตลิ กู เสือ พ.ศ. 2551 ประกาศใช
มาใชบ ังคบั โดยอนุโลมในระหวา งทย่ี ังมิไดออกกฎกระทรวง ขอบังคับคณะกรรมการบริหารลูกเสือแหงชาติ
ระเบียบ ประกาศ คําส่งั เพ่อื ปฏิบัตกิ ารตามพระราชบัญญัตลิ ูกเสือ พ.ศ. 2551
ในฐานะท่คี ณะลูกเสอื แหง ชาติ (The National Scout Organization of Thailand: NSOT)
เปน สมาชกิ ขององคก ารลูกเสอื โลก (World Organization of the Scout Movement: WOSM)
นอกจากจะปฏบิ ตั ิตามวตั ถปุ ระสงค หลกั การ และวธิ กี ารของการลกู เสือ ตามที่องคการลูกเสอื โลก
ไดกําหนดไวอยางเครงครัดแลว คณะลูกเสือแหงชาติยังยึดมั่นในวัตถุประสงคของคณะลูกเสือแหงชาติ
ตามพระราชบัญญัติลูกเสือ พ.ศ. 2551 และปฏิบัติตามขอบังคับคณะลูกเสือแหงชาติวาดวยการปกครอง
หลกั สูตรและวชิ าพิเศษ พ.ศ. 2509 ดว ย
การเรียนการสอนกิจกรรมลูกเสือเดิมเปนกิจกรรมทางเลือก ตอมาในพ.ศ.2544
กระทรวงศึกษาธิการ จึงไดกําหนดใหสถานศึกษาใชหลักสูตรการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2544
เริ่มต้ังแตป พ.ศ. 2546 เปนตนไป โดยกําหนดใหกิจกรรมลูกเสือ ยุวกาชาด และผูบําเพ็ญประโยชน อยู
ในกลุมกิจกรรมพฒั นาผูเรียน
24 คมู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือสามัญรุนใหญเสรมิ สรา งทักษะชีวิต ชั้นมัธยมศกึ ษาปท่ี 1
บทบาทของลูกเสือสามญั รุนใหญ
ผูสมัครเขาเปนลกู เสือสามัญรนุ ใหญตอ งมีอายุระหวาง 14 – 18 ป หรอื กาํ ลังเรยี น
ในชั้นมัธยมศึกษาปที่ 1 – 3 โดยไมจําเปนตองเคยเปนลูกเสือมากอน นักเรียนหญิงท่ีสมัครเขาเปน
ลกู เสือสามัญรุนใหญใ หเ รยี กวา เนตรนารีสามัญรุนใหญ
กิจกรรมลูกเสือสามัญรุนใหญใชการฝกอบรมและกิจกรรมเปนระบบหมู ฝกใหมีความรับผิดชอบ
สูงขึ้น เปนผูนําในระบอบประชาธิปไตย ฝกการใชชีวิตกลางแจง การผจญภัย ทักษะลูกเสือ ฝกอบรมความรู
พ้นื ฐานทางวชิ าชีพตามที่ถนัด รวมทั้งการบาํ เพ็ญประโยชน โดยมุงพัฒนาลูกเสือซ่งึ อยูในวยั รุนดังนี้
1. พฒั นาความคดิ วิเคราะหว จิ ารณ และความคดิ สรา งสรรค ใหเ ปน ผรู จู กั ใชเ หตุผล สังเกต
และสืบคนขอ มลู ความเปนจรงิ และรูเทาทนั ความเปลย่ี นแปลงของโลกปจ จุบัน ตลอดจนมีแนวทาง
ในการแกปญหาทเี่ กิดขึ้นในชีวติ ประจาํ วนั อยางสรา งสรรค
2. พฒั นาความสามารถในการสือ่ สารท้ังภาษาพูดและภาษาทา ทาง
3. กลา แสดงออก รกั ษาสทิ ธขิ องตนเอง ยอมรับสิทธิและคสามคดิ เหน็ ของผูอืน่ ซง่ึ เปน รากฐาน
ของประชาธปิ ไตย
4. แสวงหาเอกลักษณท ดี่ ขี องตนเอง
บทบาทหนา ทข่ี องลกู เสอื สามญั รุน ใหญ อาจสรปุ ได ดังนี้
1. หนา ทใ่ี นการพฒั นาตนเอง
2. หนา ทต่ี อผูอน่ื ทงั้ ในโรงเรยี น และชมุ ชนทล่ี ูกเสอื อาศยั อยู ไดแก
2.1 กิจกรรมบําเพ็ญประโยชนต าง ๆ เชน การทําความสะอาด การดูแลความปลอดภัย
ใหเ ด็กเลก็ ลูกเสือจราจร การกาํ จดั ลูกน้ํายุงลาย ฯลฯ ทง้ั นข้ี น้ึ อยกู ับปญหา และความตอ งการ
ทเ่ี กิดขึน้ ในโรงเรยี นและชมุ ชนในขณะนน้ั ลกู เสอื ตอ งมีใจพรอมอาสาทุกเม่อื
2.2 กจิ กรรมโครงการเพ่อื การพฒั นาดานตางๆ ที่ผูกํากับลูกเสอื และลูกเสอื เห็นควร
จัดใหมีขน้ึ อาจเปนโครงการทีด่ าํ เนินการเอง หรอื รว มมอื กับผูน าํ ชุมชน หรือหนว ยงานราชการ
ซงึ่ เขา มาดาํ เนินโครงการอยูในชุมชนกไ็ ด ข้นั ตอนการดําเนนิ โครงการมีดังนี้
1) ข้ันวางแผน เปน การสํารวจขอมลู เขยี นโครงการ และกําหนดรายละเอยี ด
ทตี่ องปฏิบตั ิ รวมทั้งการประสานงาน งบประมาณและการขอรบั การสนับสนุนจากผเู กี่ยวของ
2) ขัน้ ลงมือปฏบิ ตั ิ เปนการจดั แบงงาน และกําหนดผรู ับผดิ ชอบอยางชดั เจน
มีรายละเอียดในการปฏบิ ัติ กาํ หนดระยะเวลาการทาํ งาน สถานท่ี เครอื่ งมือเครื่องใช และ
งบประมาณ
3) การตดิ ตามและประเมนิ ผลการปฏิบตั ิ เปนการติดตามดูวา มปี ญหา อปุ สรรคใด
ท่ตี อ งแกไ ข ปรับปรุงบา ง /การปฏบิ ัตงิ านถกู ตอง เรยี บรอ ย และเปนไปตามเปาหมาย
หรอื ไม /ทุกฝา ยท่ีเกีย่ วของมคี วามพึงพอใจและใหค วามรว มมือมากนอยเพียงใด / ปรบั ปรงุ
โครงการใหเ หมาะสม / การเขียนบันทกึ และรายงาน
ตัวอยางกจิ กรรมโครงการพัฒนาชุมชน
- ปลูกตน ไม
คูมอื การจัดกิจกรรมลูกเสือสามัญรุนใหญเสรมิ สรางทักษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที่ 1 25
- รณรงคร กั ษาความสะอาด
- ขุดลอกคู คลอง ทางระบายน้าํ และกําจัดแหลงน้าํ ขัง ทีเ่ ปนแหลง เพาะพนั ธยุ งุ
- พฒั นาถนน ทางเขา หมูบาน วดั โรงเรียน และสาธารณสถานอื่น ๆ
- ปลูกพชื สวนครวั สมนุ ไพร
- เพาะพันธุปลา เลีย้ งปลาเพอ่ื เปนแหลง อาหารโปรตีน และเพมิ่ รายได
- เลีย้ งไก เพ่ือกนิ ไข
- การกําจดั ขยะ อยา งครบวงจร
ฯลฯ
เรื่องทเี่ ปน ประโยชน
สัจจะ
ณ ปาใหญแหงหนึ่งเปนท่ีอยูอาศัยของสัตวตางๆ สัตวใหญและแข็งแรงก็ฆาสัตวที่ออนแอกวา
เพื่อกินเปนอาหาร สัตวปาท่ีออนแอก็อยูอยางไมเปนสุข หวาดกลัวอันตรายอยูตลอดเวลา สิงโต
ซ่ึงเปนเจาปาเห็นวาสัตวท้ังหลายตางไมมีความสุข จึงเรียกประชุมและขอใหสัตวปาเลิกฆากัน
กินแตเนอื้ ของสัตวทีต่ ายแลว เทา นนั้ สตั วท้งั หลายตา งเช่ือฟงและทาํ ตามจงึ อยรู ว มกนั อยา งมคี วามสุข
วันหนึ่งมีคนเขามาปลูกบานอยูริมนํ้ากลางปา สัตวปาตางพากันกลัวอีกวาคนจะมาทําราย
สงิ หโ ตจึงเรียกประชมุ เพ่ือชว ยกนั คดิ วาจะทาํ อยา งไรกับคน
“บุกเขา ไปพังบานเสยี ก็หมดเรื่อง” ชางพูดพลางยกงวงชไู ปมา
“อยา เพง่ิ เลยตอนนเ้ี ราตองคอยดูความเคลอ่ื นไหวของเขากอน” มาเสนอความคดิ
“ฉันจะพาพวกบกุ เขา ไปกนิ คนพวกนัน้ ใหส าสมกับท่ีเขามาบกุ รุกปา ของพวกเรา”
เสอื โครง พดู อยางเดอื ดพลาน
“เรานา จะสง ตวั แทนไปบอกใหเ ขาออกไปเสียจากปา พวกเราจะไดอยอู ยา งสงบสขุ ”
ลิงแนะนาํ ขณะทมี่ ือยงั ถอื กลวยอยู
สตั วท กุ ตวั เหน็ ดวยกบั ขอ เสนอของลงิ สิงหโ ตจึงรบั หนา ที่ไปขอรองใหคนออกจากปา ไป
“เราไมม ที ี่อยู จงึ มาอยูในปา ” ชายคนหนึ่งบอก
“แตสตั วท ง้ั หลายกลวั พวกทานจะทํารา ยเอา” สิงหโ ตบอก
“อยา กลัวพวกเราเลย พวกเรามาอยูใ นปาเพอ่ื ทํามาหากิน เราจะไมรบกวนและทํารา ยสัตว
เราขอใหส ัญญา” ชายคนนน้ั กลา ว
สิงโตเหน็ วาคาํ พูดของคนเหลา น้ันนาเชอ่ื ถอื จงึ ยินยอมใหอ ยใู นปา ตอไป กอนกลบั สิงโต
ไดย ้ํากบั คนเหลา น้นั วา “เราขอใหท า นรกั ษาคาํ พูดตลอดไป ท้งั คนและสตั วจ ะไดอยูรว มกนั อยา งสงบสุข
ปา แหงนก้ี ็จะเปนทร่ี ม เย็นนา อยูต ลอดไป”
เร่ืองนสี้ อนใหรูวา การรักษาคําพดู หรอื สจั จะสญั ญาทใี่ หไวต อ กนั เปน สงิ่ ดี และนาํ มาซึ่งความสงบสขุ
26 คูม ือการจดั กิจกรรมลกู เสือสามัญรุนใหญเสรมิ สรางทักษะชีวติ ชั้นมธั ยมศึกษาปที่ 1
แผนการจัดกิจกรรมลกู เสอื สามัญรุน ใหญ(เคร่อื งหมายลูกเสอื โลก) ช้นั มัธยมศกึ ษาปที่ 1
หนว ยท่ี 2 สาระสําคัญของการลกู เสือ เวลา 1 ช่ัวโมง
แผนการจัดกจิ กรรมที่ 3 ดีตดิ ดาว
1. จุดประสงคก ารเรยี นรู
รจู ักและเขา ใจขอดขี องตนเอง ดว ยการวิเคราะหจากความเหน็ ของเพื่อนๆ
2. เนอื้ หา
การนําเสนอสง่ิ ดี ๆ ลักษณะเดน หรอื ความสามารถพเิ ศษของตนเองโดยมเี พ่อื น
ชวยใหค วามเหน็ จะสรางความมน่ั ใจและรูจ กั ตนเองไดด ีท่ีสุด
3.สื่อการเรียนรู
3.1 แผนภมู ิเพลง
3.2 กระดาษเอ 4, สติ๊กเกอรรปู ดาว
3.3 เร่ืองท่เี ปนประโยชน
4. กจิ กรรม
4.1 พธิ เี ปด ประชุมกอง (ชักธง สวดมนต สงบนิง่ ตรวจ แยก)
4.2 เพลง หรอื เกม
4.3 กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก ารเรยี นรู
1) หมูลกู เสือนง่ั ลอ มวง แจกกระดาษ ขนาด เอ 4 ที่แบงเปน 4 ชอ ง ใหค นละ 1 แผน
2) ลูกเสือแตล ะคนเขียน ขอดขี องตนเอง คนละ 3 ขอ ในกระดาษทีไ่ ดร ับ ชองละ 1 ขอ
ชองทีเ่ หลอื ใหเ ขยี นชือ่ ตนเองลงไป
3) นํากระดาษมาวางเรยี งกัน แจกสต๊ิกเกอรรูปดาวใหล ูกเสอื คนละ 10 ดวง
4) ลกู เสอื เดนิ ดูกระดาษของหมู ถา เห็นดวยกับขอ ดีของเพ่อื นขอใด ใหติดดาวลงในชอ งนน้ั
ตดิ ไดแคชอ งละ 1 ดวง และตอ งใชด าวจนหมด ดงั นัน้ แตละคนตอ งเลอื กใหครบ 10 ชอง
5) เมอ่ื ตดิ เสร็จลกู เสอื แตละคนนาํ กระดาษของตนกลับไปดู แลวเขา รวมในกองลกู เสอื
6) ผกู าํ กับลกู เสอื นําอภิปราย ในประเดน็ “ลกู เสือดูกระดาษของตนเองแลว รสู กึ อยา งไร
และไดข อ คดิ อะไรบา ง” และสรปุ (สงิ่ ทล่ี กู เสอื คิดวาเปน ขอดขี องตนเอง อยา งนอ ยกม็ ีเพื่อนเห็นดว ย
ดังน้นั ลกู เสอื จึงควรภาคภมู ใิ จในตนเอง และพฒั นาขอดีเหลา น้นั ใหม ากขนึ้ )
4.4 ผูกาํ กบั ลกู เสือเลาเร่อื งทีเ่ ปน ประโยชน
4.5 พิธีปดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครื่องแบบ ชักธง เลิก)
5. การประเมินผล
สังเกต การมีสวนรว มในการทาํ กิจกรรม และการแสดงความคิดเหน็ ในหมแู ละกองลกู เสอื
6. องคป ระกอบทกั ษะชีวิตสําคัญทเี่ กิดจากกิจกรรม
องคประกอบทกั ษะชวี ติ สําคัญทเ่ี กิดจากกิจกรรมคอื เขาใจตนเอง และเขาใจผูอื่น
คูมือการจดั กจิ กรรมลูกเสือสามัญรุนใหญเสรมิ สรา งทักษะชวี ติ ชน้ั มัธยมศึกษาปท่ี 1 27
ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กจิ กรรมท่ี 3
เพลง
ดอกบัว
ดอกเอย ดอกบวั ดอกน้เี พอ่ื ตัว แลว อยาลืม (ๆ)
ขอจงเคยี งอยกู บั ใจ ไวใหด ี (ซ้ํา) สดสวยเดน ตา ดอกนแ้ี หละหนา แลวอยา ลมื (ๆ)
ขอจงเคยี งอยคู กู บั ไทย เพือ่ ชาติไทย(ซาํ้ ) เก็บบวั ใสพ าน ตั้งใจอธษิ ฐาน พทุ ธองค พทุ ธองค
ขอจงเคยี งอยคู กู บั เรา ใหเ จริญ (ซาํ้ )
เร่ืองท่เี ปนประโยชน
หานกับนกกระสา
ณ บงึ ใหญแ หงหนง่ึ ใจกลางปา มหี า นและนกกระสาเปน เพอ่ื นกนั มัน 2 ตัวกาํ ลงั เดินทองนํา้
หาปลากินเปนอาหาร โดยไมรูตัวเลยวาภายในพุมไมท่ีอยูเบ้ืองหลังของพวกมันน้ัน มีพรานปาคนหน่ึง
ยืนถอื ปนคอยทา จะยิงพวกมันอยู หา นกมหนากม ตากนิ อยางไมย ้ัง ในขณะทนี่ กกระสาคอ ยๆ กิน
อยางไมรีบรอ นนัก เมื่อมันหนั มาเห็นหานกินเอากนิ เอา มนั ก็พูดเตอื นขึ้นวา “นี่ทาน กินขนาดนี้
ระวังบินไมไ หวนะ” แตห า นไมฟง มนั ยงั คงกินอยางไมคิดถึงอะไรทั้งสิ้น สวนนายพรานพอเห็นนกกระสา
และหานเผลอ เขาก็ยกปน ขน้ึ ตัง้ ทา จะยงิ ทนั ที นกกระสาหันไปเห็นเขา พอดี จึงฉวยโอกาสบนิ หนไี ปได
ในขณะทีห่ านแมจะหนั มาเห็นนายพรานเหมือนกนั แตมนั กห็ นไี มพ น เพราะทองอันหนัก
ของมันนน่ั เอง ทําใหไ มสามารถบินหนไี ด มนั จงึ ตกเปน อาหารของนายพรานในทส่ี ุด
เร่ืองน้สี อนใหรูวา ไมว าจะทาํ อะไร ควรตองคดิ ถงึ และระวงั อันตรายที่อาจเกิดขึ้นไวดว ย
ไมค วรประมาทหรอื พลั้งเผลอ
28 คมู อื การจดั กจิ กรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสริมสรางทกั ษะชวี ติ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที่ 1
แผนการจัดกจิ กรรมลูกเสือสามัญรนุ ใหญ(เครื่องหมายลกู เสือโลก) ชนั้ มัธยมศึกษาปที่ 1
หนว ยที่ 2 สาระสําคัญของการลูกเสอื เวลา 1 ชวั่ โมง
แผนการจัดกิจกรรมท่ี 4 การคบเพอื่ น
1. จุดประสงคก ารเรยี นรู
ตระหนกั ถึงความสาํ คัญของการคบเพื่อน และมแี นวทางในการสรางสัมพันธภาพทีเ่ หมาะสมกบั
เพอื่ น ทัง้ เพื่อนเพศเดยี วกนั และเพอ่ื นตา งเพศ
2. เนอ้ื หา
เพอื่ นมคี วามสําคัญอยางมากกบั คนทุกวยั โดยเฉพาะอยา งยง่ิ วัยรนุ การสรางสัมพนั ธภาพที่
เหมาะสมกบั ท้ังเพ่ือนเพศเดยี วกนั และตา งเพศ จะเปนรากฐานสําคญั ของการพฒั นาทกั ษะทางสงั คม
เพื่อใชในการดําเนนิ ชีวติ ประกอบอาชีพ เลอื กคูค รองและสรางครอบครัวท่ีมน่ั คงในอนาคต
3. ส่ือการเรยี นรู
3.1 แผนภูมิเพลง
3.2 กระดาษแผนเลก็ และกระดาษสําหรบั จดบันทึก
3.3 เร่อื งทเ่ี ปนประโยชน
4. กิจกรรม
4.1 พิธเี ปดประชมุ กอง (ชกั ธง สวดมนต สงบน่งิ ตรวจ แยก)
4.2 เพลง หรอื เกม
4.3 กิจกรรมตามจดุ ประสงคก ารเรียนรู
1) ผูกํากบั ลูกเสือชวนคดิ ชวนคยุ “เพ่อื นสาํ คญั อยางไร”
2) ลกู เสอื นั่งลอมวงเปน หมู แจกกระดาษแผน เลก็ คนละ 3 แผน
3) ลูกเสอื เขยี น “คณุ สมบตั ขิ องเพ่ือนท่ลี กู เสืออยากคบดว ย” คนละ 3 ขอ ลงกระดาษขอละ
1 แผน แลวนาํ ไปจัดประเภทติดบนบอรด โดยไมม ีการพดู กนั เพ่อื ใหเ กิดจากการตัดสินใจของตนเอง
ไมเอนเอียงจากคําพูดคนอน่ื
4) นายหมรู วบรวม และสรปุ ผล นาํ รายงานในกองลูกเสอื
5) ผูก ํากับลกู เสือสุม ใหรายงาน 1 หมู หมูทีเ่ หลือใหเพิ่มเตมิ เฉพาะสว นทไี่ มซ้าํ กนั
6) ผูกาํ กับลูกเสือนําอภปิ รายทีละประเด็น โดยผกู าํ กับลูกเสอื ชว ยเพิม่ เติมและสรปุ วา
เพื่อจะใหไดเพื่อนอยา งที่อยากคบ ลกู เสอื ควรมีแนวทางในการคบเพ่อื นดงั นี้
(1) คบใหห ลากหลายทง้ั ชายและหญงิ เพราะเพ่ือนแตละคนจะมีความแตกตาง
ทัง้ ประสบการณ ความคิด ความสามารถ และนิสยั ใจคอ ทาํ ใหไดม โี อกาสแลกเปลย่ี นเรยี นรกู นั ในทุกดา น
เปน การพฒั นาทักษะทางสังคม และยงั สามารถชว ยเหลอื เก้ือกูลกนั ได
คมู ือการจัดกิจกรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสริมสรา งทกั ษะชีวิต ช้นั มัธยมศึกษาปท ่ี 1 29
(2) เขา ใจ ใหเ กียรติ และยอมรบั เพ่ือนแตล ะคนอยางท่เี ขาเปน
(3) เอาใจเขามาใสใจเรา ไมทําในส่ิงที่เพอ่ื นไมชอบ
(4) ซ่อื สัตย จรงิ ใจ
(5) ใชการสอ่ื สารทางบวก โดยเฉพาะอยา งยิ่งการปฏเิ สธและเตือนเพือ่ น
และถา เปนการคบเพอ่ื นตา งเพศ ลกู เสอื ควรมีแนวทางเพ่มิ เติมดงั นี้
(1) คบอยางมขี อบเขตในฐานะเพอื่ น ใหโ อกาสในการเรียนรูนิสัยใจคอกนั อยาง
เพยี งพอ
(2) ไมค วรสนทิ สนมใกลชิดกับใครเพียงคนเดียวเพราะอาจเกดิ ความเขา ใจผิดและ
ปดก้ัน โอกาสที่จะคน พบคนทีเ่ หมาะสมจรงิ ๆ
(3) หลีกเล่ียงการสัมผสั การอยดู ว ยกนั ตามลําพงั และการอยูในทล่ี บั ตา เพราะ
อาจตกอยูในสถานการณท ท่ี าํ ใหเ กิดอารมณเ พศ และนําไปสูการมีเพศสมั พนั ธโ ดยไมค าดคดิ
4.4 ผกู าํ กับลกู เสือเลา เรอ่ื งเลา ทเ่ี ปนประโยชน
4.5 พธิ ปี ดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอื่ งแบบ ชักธง เลกิ )
5. การประเมินผล
สังเกต การมีสว นรวมในการทํากจิ กรรม และการเสนอความคดิ เหน็ ในหมแู ละกองลกู เสือ
6. องคป ระกอบทกั ษะชวี ติ สําคัญทเี่ กดิ จากกิจกรรม
คือ ความคดิ วเิ คราะห ความคดิ สรา งสรรค เขาใจตนเอง เขาใจเห็นใจผูอ่ืน การสรางสมั พนั ธภาพ
และการสอ่ื สาร
30 คูม อื การจัดกิจกรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสริมสรา งทกั ษะชวี ติ ช้ันมัธยมศกึ ษาปท่ี 1
ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกิจกรรมที่ 4
เพลง
มิตรดี
มติ รดีเปน ที่พง่ึ พา ไดท ุกคราเดือดรอนเศราใจ
หาทางขจดั ปด ภัย ไมล หี้ นไี กลเมอื่ ยามอบั จน
มิตรเลวมแี ตส อพลอ ยกยอเพื่อหวงั ประโยชนต น
หากมีภัยทต่ี ัวผจญ ถงึ คราอบั จนเพอ่ื นลหี้ นีไกล
เรื่องทเ่ี ปนประโยชน
หมีกบั คนเดนิ ทาง
วันหนึ่ง…ชายสองคนอยใู นขณะเดินทาง เมอื่ คนท้งั สองไปพบหมเี ขา หมไี มทนั ไดเห็นชาย
ทง้ั สองแตแรก ชายคนหนึ่ง จงึ รบี วง่ิ หนไี ปขึ้นตนไมอ ยางรวดเร็ว แตช ายอีกคนหนง่ึ วิ่งไมเ รว็
เขาจึงรองขอความชวยเหลือ “ชวยดึงฉันข้ึนไปดวย” แตชายคนแรกไดปนขึ้นไปอยูบนก่ิงไมสูง ท้ิง
เพ่อื นของเขา เอาตัวรอดแตลาํ พัง
“ฉันจะทําอยางไรดี” ชายคนท่ีอยูใตตนไมรําพึง “ถาฉันว่ิงหนี หมีมันก็จะตองเห็นฉัน และถา
มันเห็นฉันเขา มันก็คงกัดกินฉันแน” ดังน้ันเขาจึงลมตัวลงนอนกับพื้นไมไหวติง แลวทําเปนตาย หมี
เดินเขา มาใกลแ ละเดนิ วนเวยี นรอบตวั เขา แลว ในทสี่ ดุ มนั กผ็ ละไปจากท่ีนนั้
ชายคนทปี่ นขน้ึ ไปอยูบนตนไมจึงไตล งมาหาเขา เอยปากถามเพื่อนวา “เมอ่ื กี้ หมีมนั มาอยู
ใกลๆ กับเพ่อื นมาก มันพดู วา อะไรบาง”
“พูดวา ...” เพ่ือนท่ีหนไี มท ันยงั ไมท ันตอบ เจา หมีตวั เดิมกเ็ ดนิ มาใกลแ ลว ตอบแทนวา
“อยาไดรว มทางไปกบั คนทท่ี ิ้งเพือ่ นในยามทเี่ พือ่ นประสบอนั ตรายเปนอันขาด”
เรื่องน้ีสอนใหร ูว า เพ่อื นแทต อ งไมท อดท้งิ กันยามตกทกุ ขไ ดย าก
คูมอื การจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสริมสรางทกั ษะชีวิต ช้ันมัธยมศึกษาปที่ 1 31
แผนการจัดกจิ กรรมลกู เสอื สามญั รุนใหญ(เคร่อื งหมายลูกเสือโลก) ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท ี่ 1
หนวยที่ 2 สาระสาํ คัญของการลกู เสอื เวลา 1 ชั่วโมง
แผนการจดั กิจกรรมที่ 5 วถิ ไี ทยและภมู ิปญ ญาทอ งถน่ิ
1. จดุ ประสงคก ารเรยี นรู
ลกู เสอื มีจิตสาํ นกึ ในการปฏบิ ัตติ ามวิถไี ทยและภูมิปญ ญาทอ งถนิ่
2. เน้อื หา
การปฏบิ ตั ติ นตามวิถีไทยแสดงออกถงึ ความสัมพันธระหวางคนกับคน คนกับธรรมชาติ
และสิง่ แวดลอม รวมทัง้ คนกบั สิง่ เหนือธรรมชาติ ซึง่ เปน ภูมิปญ ญาของบรรพบรุ ุษทล่ี ูกเสอื ควรศกึ ษา
และนาํ ไปปฏบิ ตั ิเพอ่ื ใหเกิดสาํ นึกความเปน ไทย
3. สอ่ื การเรยี นรู
3.1 แผนภมู ิเพลง
3.2 เรือ่ งทเ่ี ปนประโยชน
4. กจิ กรรม
4.1 พธิ ีเปดประชุมกอง (ชักธง สวดมนต สงบนิ่ง ตรวจ แยก)
4.2 เพลง หรอื เกม
4.3 กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก ารเรยี นรู
1) ผกู ํากับลูกเสือใหล กู เสือจัดสถานท่สี ําหรับจดั กิจกรรมการโตว าที
2) ผูดาํ เนินรายการ ดําเนินกจิ กรรมโตวาทีญตั ติ “คนไทยเปน สขุ ไดดว ยวิถีไทย
และภมู ิปญ ญาไทย”
- ฝา ยเสนอและฝา ยคานตางมีหัวหนา 1 คน และมีผูสนับสนุน 3 คน
- ลกู เสอื เลอื กกรรมการตัดสนิ 3 คน
3) หัวหนาฝายเสนอนําเสนอขอ มูล 3 นาที และหวั หนา ฝายคา นนําเสนอขอ มูล 3 นาที
4) ผสู นับสนุนแตละฝายคนละ 2 นาที
5) หวั หนา ฝา ยเสนอและฝายคานสรปุ คนละ1 นาที
6) ผดู าํ เนินรายการใหก รรมการตดั สนิ ผชู นะการโตวาที
7) ผกู าํ กบั ลกู เสอื ใหขอเสนอแนะและกลา วคาํ ชมเชยลกู เสอื
4.4 ผูก ํากับลกู เสอื เลา เรือ่ งที่เปนประโยชน
4.5 พธิ ีปดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครือ่ งแบบ ชักธง เลิก)
32 คมู ือการจัดกจิ กรรมลกู เสือสามัญรุนใหญเสริมสรา งทักษะชีวติ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปท ี่ 1
5. การประเมินผล
สังเกตการมสี ว นรว มทาํ กิจกรรม พฤตกิ รรมการแสดงออก และการแสดงความคิดเหน็ ในหมแู ละ
กองลกู เสอื
6. องคป ระกอบทักษะชวี ติ สาํ คญั ทเ่ี กดิ จากกิจกรรม
คอื ความคดิ วเิ คราะห ความคดิ สรา งสรรค ตระหนกั รถู งึ ความสําคญั ของการปฏบิ ตั ติ ามวิถีไทย
และภมู ปิ ญญาทองถ่ิน
ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกจิ กรรมท่ี 5
เพลง
เมืองกังวล
เมืองใดไมมที หาร เมอื งนั้นไมน านเปน ขา
เมอื งใดไรจ อมพารา เมอื งน้นั ไมช า อับจน
เมอื งใดไมม ีพานิชเลศิ เมืองนั้นยอ มเกิดขดั สน
เมอื งใดไรศลิ ปะโสภณ เมอื งนั้นไมพ นเสื่อมทราม
เมืองใดไมม กี วีแกว เมอื งนน้ั ไมแคลว คนหยาม
เมอื งใดไรนารีงาม เมืองนนั้ ส้ินความภมู ิใจ
เมืองใดไมม ีดนตรีเลศิ เมอื งนัน้ ไมเพริศพศิ มยั
เมืองใดไรธ รรมอาํ ไพ เมอื งน้นั บรรลยั แนเอย
เรื่องท่ีเปน ประโยชน
คาํ บนของนกยูง
กาลครัง้ หนง่ึ มนี กยูงตัวหน่งึ ไมพอใจในนา้ํ เสียงของมันที่ไมไ พเราะเหมือนนกตัวอ่ืนๆ มันจึงบน
กับเทพธิดาจูโนวา “เสียงของขาชางแหบแหงเสียจริงๆ ทานชวยเสกใหขามีน้ําเสียงท่ีไพเราะดวยเถิด
จะไดเหมาะสมกบั ความงามของปก และหางของขา ” มนั พดู พรอ มกับรําแพนขนหางของมัน
ดว ยความภาคภูมใิ จ
เทพธดิ าจโู นไดฟงจงึ ตอบวา “ทา นมขี นสวยเชน น้ีกถ็ อื วา โชคดกี วานกชนิดอื่นๆ อีกมากมาย
ยังมีนกอกี หลายชนิดท่ไี มม ีขนตงั้ แตเกิดแมแตเ สนเดียว ทา นจงจําไวว า ถงึ ทานไมมีน้ําเสยี งทไ่ี พเราะ
แตทานก็มีขนหางท่ีสวยงามมาทดแทน ในขณะที่นกท่ีมีเสียงไพเราะหลายชนิดก็ยังมีขนไมสวยเทาขน
ของทาน ทานกค็ วรจะพอใจในสิ่งทธ่ี รรมชาติไดส รางใหท า นมา”
เรือ่ งนี้สอนใหร วู า จงพอใจในสง่ิ ท่ตี นมีอยู
คูมอื การจดั กิจกรรมลูกเสือสามัญรุนใหญเสรมิ สรา งทกั ษะชวี ิต ช้ันมัธยมศึกษาปท ่ี 1 33
แผนการจัดกจิ กรรมลกู เสือสามัญรนุ ใหญ(เครื่องหมายลูกเสือโลก) ชน้ั มัธยมศึกษาปท ี่ 1
หนวยที่ 2 สาระสาํ คัญของการลูกเสือ เวลา 2 ช่ัวโมง
แผนการจัดกจิ กรรมที่ 6 เด็กติดเกม
1. จุดประสงคก ารเรียนรู
ตระหนักถึงปญ หาและผลกระทบเนือ่ งจากการติดเกมจากส่อื อีเลคโทรนิกส เชน เกมกด
วิดีโอเกม เกมคอมพวิ เตอร เกมออนไลน เปนตน และมีแนวทางในการปองกนั การติดเกม
2. เนื้อหา
การติดเกมเปนปญหาสําคัญในปจจุบัน นอกจากเสียเวลา เสียเงิน และเสียสุขภาพแลว
ยังนําไปสูปญหาอ่ืนๆ อีก เชน ปลูกฝงใหชินชากับความกาวราวรุนแรงจากเนื้อหาในเกม ซ่ึงนําไปสู
การเลยี นแบบและขาดความยบั ย้งั ชั่งใจใชค วามรุนแรงในการแกป ญ หาโดยไมร ูสกึ วา ผิด นอกจากนคี้ วาม
ตอ งการเงินมาเลน เกม อาจถูกชักนําไปสกู ารกระทาํ ผิดอ่ืน เชน ลักขโมย รีดไถ/ขมขูกรรโชกทรัพยเด็ก
ทเี่ ล็กกวา ขายยาเสพติด ขายบริการทางเพศ เปนตน ความตระหนักในเร่ืองน้ีและหาวิธีปองกันจะชวย
ลดปญหาจากการตดิ เกมลงได
3. สือ่ การเรียนรู
3.1 แผนภมู ิเพลง
3.2 ใบความรเู รือ่ ง เด็กติดเกม
3.3 เร่อื งส้นั ท่ีเปน ประโยชน
4. กิจกรรม
4.1 กจิ กรรมคร้ังท่ี 1
1) พิธีเปดประชุมกอง (ชกั ธง สวดมนต สงบนิ่ง ตรวจ แยก)
2) เพลง หรอื เกม
3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก ารเรยี นรู
(1) ผกู ํากับลูกเสือมอบหมายใหห มูลกู เสอื เตรยี มการแสดงบทบาทสมมติ
อาการของเด็กตดิ เกม หมูล ะ 1 เร่ือง และนาํ เสนอในกองลกู เสือ
(2) ลกู เสือแตล ะหมรู ายงานในกองลูกเสือ
(3) ผกู าํ กับลูกเสอื นําอภปิ ราย สรปุ และเพ่ิมเติมในประเดน็ ตอ ไปน้ี
1) ลักษณะ และพฤติกรรม ของเดก็ ติดเกม มีอะไรบา ง
(ใบความรขู อ 2)
2) คดิ วาจาํ นวนเดก็ ติดเกมในประเทศไทยน้ันมมี ากนอยแคไ หน
(ใบความรขู อ 1)
3) ผลกระทบท่สี าํ คญั ตอ เดก็ ตดิ เกมมีอะไรบาง (ใบความรขู อ 2,4,5)
34 คมู ือการจัดกิจกรรมลกู เสือสามัญรุนใหญเสรมิ สรา งทักษะชวี ติ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท ่ี 1
4) ผูกาํ กบั ลกู เสอื เลาเร่อื งทเี่ ปน ประโยชน
5) พิธปี ดประชมุ กอง (นัดหมาย ตรวจเครื่องแบบ ชักธง เลกิ )
4.2 กจิ กรรมคร้งั ท่ี 2
1) พธิ ีเปดประชุมกอง (ชกั ธง สวดมนต สงบน่งิ ตรวจ แยก)
2) เพลง หรือเกม
3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงคการเรียนรู
(1) ผูกํากบั ลูกเสอื ใหล กู เสือแตล ะหมรู วมกนั อภิปรายในประเด็นตอ ไปนี้
และสง ตวั แทนรายงานในกองลกู เสอื
1) อะไรเปน สาเหตทุ ที่ าํ ใหเ ด็กและเยาวชนคลงั่ ไคลในเกม จนพฒั นาไปสู
การตดิ เกมในทีส่ ดุ (ใบความรูขอ 6)
2) ทําไมจงึ มเี ด็กท่ีลองเลน เกม แตไมต ดิ (ใบความรขู อ 7)
3) ลูกเสอื คิดวาควรมแี นวทางอยางไรในการเลน เกมอยางสรา งสรรค เปน
ประโยชนและไมเกิดปญ หาการติดเกมตามมา (ใบความรขู อ 8)
(2) ผูก ํากับลกู เสือสมุ ตัวแทนหมูลูกเสอื รายงาน หมูละ 1 ประเดน็ ผูก าํ กบั ลูกเสอื
นาํ อภิปรายใหลกู เสอื หมอู ื่น เพมิ่ เติม และสรปุ ทลี ะประเด็นจนครบ
(3) ผูกํากับลกู เสือมอบหมายใหห มูล กู เสอื เขยี นคําขวญั การรณรงคแกป ญ หา
“เด็กติดเกม”ในโรงเรยี น หมูละ 1 คําขวญั เขียนตดิ บอรดในทเ่ี หน็ ไดช ดั เจน
4) ผูกํากบั ลูกเสือเลาเรื่องทมี่ ีประโยชน
5) พิธีปด ประชุมกอง (นัดหมาย ตรวจเคร่ืองแบบ ชักธง เลกิ )
5. การประเมนิ ผล
สังเกตการณม สี วนรวมในการทาํ กิจกรรมและการแสดงความคดิ เหน็ ในหมูและในกองลกู เสือ
6. องคป ระกอบทกั ษะชวี ติ สาํ คญั ทเ่ี กดิ จากกจิ กรรม
คอื ความคดิ วเิ คราะห ความคดิ สรา งสรรค ตระหนักถึงปญหาและผลกระทบเนอ่ื งจากการติดเกม
คูมือการจดั กจิ กรรมลกู เสือสามัญรุนใหญเสรมิ สรางทกั ษะชวี ิต ชั้นมัธยมศกึ ษาปท่ี 1 35
ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมที่ 6
เพลง
กฎลูกเสือ
นํ้าคางพรมลมเย็นในยามดกึ คนงึ นึก กฎลูกเสือเพอื่ ปรุงสมอง
หน่งึ มเี กยี รติ สองจงรัก ภักดปี อง สามประคองหนา ท่ี สมี่ ติ รคน
หาสภุ าพไมง ันงก หกเมตตา เจ็ดเช่ือฟง แปดเรงิ ราอยาสบั สน
เกาเปนผมู ัธยสั ไมอ บั จน สบิ กายตน ประพฤตชิ อบวาจาใจ
ชอมาลี
เจา ชอ มาลคี นดีของพกี่ ม็ า สวยจริงหนาเวลาคํ่าคนื (ซ้ํา)
โอจ ันทรไ ปไหน ทําไมถงึ ไมสองแสง เดอื นมาแฝงแสงสวา ง
เมฆนอ ยลอยมาบงั (ซํา้ ) แสงสวา งก็จางหายไป (ซ้าํ )
ดอกฟาจะรว งพวงพะยอมโรยรา ดอกฟา จะโรยเมอื่ ลมโชยมาถลาลงดิน
แมร ักเราจะสนั้ ไมมเี ยื่อใย ดอกฟาพลดั ถิน่
ยามสงกลิ่นหอมสลกั ตรงึ ใจ ยงั ไมท นั ไรกร็ วงโรยรา
ใบความรู
เดก็ ติดเกม
1. ขอมลู ของศนู ยปอ งกันและแกไ ขปญ หาเด็กติดเกม ระบุวาวยั รุนทมี่ ีอายุ 12 ปขึน้ ไป
ราว 1,500,000 คนนยิ มเลน เกมออนไลนใชเ วลาเลน เกมเฉลย่ี 4.5 ชม.ตอวัน เสียเงินกวา 50-300 บาท
ตอคร้งั หรอื เฉลี่ยประมาณ 1,114 บาทตอ เดอื น บรเิ วณใกลบา นมีรา นเลน เกมเฉลย่ี 5 รา น ใชเ วลา
เดนิ ทางจากบา นไปรานเกมไมถงึ 10 นาที
2. การเลนเกมจงึ เปนกิจกรรมทั้งยามวา งและไมว า งของเดก็ เปนผลใหไมม กี ิจกรรมอืน่
ขาดการออกกาํ ลงั กาย ไมกินหรอื กินอาหารไมเ ปนเวลา อดนอน ขาดการปฏิสมั พนั ธกบั ผูอ น่ื
หนีเรยี นไปม่ัวสุมตามรานเกม มีผลกระทบตอการเรียนรู และพัฒนาการในดา นตา งๆ ทั้งทางรางกาย
อารมณ สงั คม ความคิด การตดั สินใจ เจตคติ และการแสดงออกทางพฤตกิ รรม ทาํ ใหเ กดิ ปญหา
ตา งๆ ตามมา เชน การคดิ /การตัดสินใจโดยขาดเหตุผล ไมม กี ารยับย้งั ช่งั ใจ ขาดการควบคมุ ตนเอง
และอาจนําไปสูการใชส ารเสพติด มเี พศสมั พนั ธก อ นวยั อันควร หรอื เลียนแบบพฤติกรรมกา วรา ว
จากเกมทีม่ เี น้อื หารุนแรง อาทิ การตอสู เตะ ตอย ฆา ฟน ขม ขืน และการทําลายลา งคูตอ สู
เนื่องจากความชนิ ชา และรสู กึ วา ความรุนแรงเปนเรอื่ งปกติ ไมผดิ เปนตน มผี ลกระทบทําให
เสยี การเรยี นและเสยี อนาคตในทีส่ ุด
3. ความนิยมอยา งมาก ทาํ ใหเ ว็บไซตเ กมออนไลนเปดตวั เพม่ิ ขน้ึ จาํ นวนมาก ป 2547
มีประมาณ 10,000,000, เว็บไซตพ ุงสงู ขึน้ เปน 75,500,000 เวบ็ ไซตในป 2548
36 คมู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสรมิ สรา งทักษะชีวติ ช้นั มธั ยมศึกษาปท ี่ 1
4. ตวั เลขทน่ี า ตกใจกค็ อื ในผูท ไี่ ปขอรับคําปรกึ ษาทางโทรศัพทก ับสถาบนั สุขภาพจิตเด็ก
และวยั รุน ราชนครินทร กรมสุขภาพจิตในระหวางเดือน พ.ย.2547 – เดอื น มี.ค.2548 พบวา
จํานวนเกนิ ครงึ่ เกิดจากปญ หาเดก็ ประถมและมัธยมทตี่ ดิ เกม
5. สถติ จิ ํานวนเดก็ และวยั รนุ ทีเ่ คยประสบปญหาในรา นอนิ เตอรเนต็ คาเฟ เคยถูกรดี ไถ
มถี งึ 60,560 คน/เคยถกู ทาํ รายรา งกาย 57,606 คน/เปนหน้รี านอนิ เตอรเน็ต 53,175 คน และถกู บังคับ
ใหท ําส่ิงที่ไมอยากทาํ เดก็ ในสถานพนิ จิ จํานวนมากทาํ ผิดกฎหมายดวยสาเหตุตอ งการเงนิ มาเลน เกม
6. ระดบั การติดเกม ของเด็กมกี ารพฒั นาแบงเปน 3 ระดับคือ
6.1 เริม่ ชอบ แรกๆ มักเลน ตามเพื่อน อยากรูอยากเห็นตามวัย เลนเพ่ือสนกุ
ระยะน้กี ารเรยี นและการดาํ รงชวี ติ ยงั เปน ปกติ ถาไมไ ดเ ลนก็ไมเปนไร เด็กบางคนเมือ่ หมดความสนใจ
หรอื มสี ิ่งใหมทสี่ นใจกวา กจ็ ะเลกิ เลน ไป
6.2 หลงใหลหรือคลั่งไคล เลน แลว สนุกเพลดิ เพลิน เกิดความพงึ พอใจ ภมู ิใจท่ี
ชนะเกมได มเี พือ่ นที่เลน ดว ยกัน คยุ เร่ืองเดยี วกนั และเปรยี บเทียบกนั ได เกดิ แรงจงู ใจใหอยากเลน
ตอ ไปเร่ือยๆระดบั นี้ยังเลน ยามวา งเปนงานอดิเรก การเรียนไมเสยี และชวี ติ ประจาํ วนั ยงั เปนปกติ
เดก็ กลมุ นมี้ ีจํานวน รอ ยละ 10 ของเด็กท่วั ไป
6.3 ติดเกม เปน ระยะท่พี ฒั นาจากเลนเร่อื ยๆ เปน เลน ประจํา จนเปน ความเคยชนิ
ปลีกตวั ไดเมื่อไหรก ็จะเลน เกมในท่ีสดุ ก็เลน เกมไมสนใจอยา งอน่ื หมกมุนอยกู บั เกมทัง้ วัน หนีเรยี น
และมผี ลกระทบตอ รา ยกาย และจติ ใจ ไดแก กนิ ขา วไมเปนเวลา ขาดการออกกาํ ลังกาย นอนดกึ
หรอื นอนไมห ลบั เลย ในความคิดจะมแี ตเรือ่ งเกม มองเหน็ ภาพในสมองของตนเอง พยายามเลน พนัน
ในเกม กา วรา วกบั พอ แม เปนตน ระดบั น้มี ีจํานวนรอ ยละ 5 ของเด็กท่วั ไป พบวา เด็กติดเกมอายุ
นอ ยท่ีสุดคอื 6 ป
7. อยา งไรก็ตามยงั มีเด็กทเี่ ลนเกมแตไมติด เปน เพราะเด็กเหลาน้ัน เปน ผมู วี นิ ยั คือ การไมทาํ
ในส่งิ ทไ่ี มควรทาํ และเปน ผมู คี วามรบั ผดิ ชอบ คอื การทําในส่งิ ทีค่ วรทํา ซง่ึ มีรากฐานมาจากการคดิ
และตัดสินใจอยา งมเี หตผุ ล การรจู กั ยับยง้ั ชง่ั ใจและควบคมุ ตนเอง รวมทง้ั การจดั การเวลาอยา งเหมาะสม
และใชเ วลาวา งใหเปน ประโยชน
8. แนวทางการเลนเกมอยา งสรางสรรค
8.1 กําหนดเวลาทเ่ี หมาะสมจํากัดเวลาในการเลน และตองไมเกนิ เวลาทตี่ ั้งใจไว
8.2 เลอื กเลนเกมท่สี รา งสรรคไ ดฝ กประสาทสัมผัสหลายดา น ฝกสมอง ฝกการแกไข
ปญหาทเ่ี ปนขน้ั ตอน เกมฝกฝนความรูและคณุ ธรรม เกมท่ตี องเคลอ่ื นไหวเนนการออกกาํ ลงั เนอ้ื หา
และรายละเอยี ดของเกมเหมาะสมกบั วัยไมม ีเน้อื หาท่ีรุนแรง
8.3 ใหความรสู ึกผอ นคลาย สนกุ สนาน ไมเ ครียดหรอื หมกมนุ กบั การเอาชนะ
8.4 เกมท่ีเลน พรอมกนั 2 คนขึ้นไป จะชว ยใหม ปี ฏสิ มั พนั ธก ับผูอ่ืน ไมแ ยกตัว
และชว ยกันควบคมุ เวลาได
คมู ือการจดั กจิ กรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสริมสรา งทกั ษะชีวติ ช้นั มธั ยมศึกษาปที่ 1 37
เรื่องที่เปนประโยชน
คาํ แนะนําประหลาด !!!
ชายเรรอ นคนหนึ่ง เดนิ ทางไปเร่ือย ๆ ตามเมอื งตาง ๆ เมื่อผา นมาถงึ เมืองหนึง่ จึงเขาไป
ในตลาดเพอ่ื หาซ้ือขา วของ เขาไมท นั เห็นสุนัขทเ่ี รรอ นอยูใ นตลาดและถกู สุนขั กดั ท่นี อ งจนเปน เเผล
ขนาดใหญ พอ คาขายขนมปงเห็นเขาจงึ ใหค ําแนะนําวา “ทานตองเอาขนมปงชบุ เลอื ดจากเเผล
เเลว นําไปใหส นุ ัขตวั นนั้ กนิ เเผลของทา นจงึ จะหายไดเเละไมเ ปน พษิ ”
เเตช ายเรรอ นกลบั ยมิ้ เเลว กลา ววา “ถา ทาํ เชน น้ัน สนุ ขั ทุกตวั ในเมอื งก็จะมากัดขา เปนเเน
เพราะรูวา เมอ่ื กัดขา เเลว จะไดก นิ ขนมปง ”
เรื่องน้ีสอนใหรูว า ถา ใชเงนิ ซือ้ ศตั รู มเี เตจะไดศตั รมู ากขน้ึ เร่ือยๆ
นกั โทษประหารกบั มารดา
กาลคร้งั หน่ึงนานมาแลว มเี ดก็ คนหนึ่งขโมยหนังสอื ของเพื่อนกลบั มาบาน แมข องเขาเห็นเขา
แทนที่จะหามปรามและส่ังใหนาํ ไปคนื กลบั กลา วชมเชยวา ลกู ของตนน้ันเกง
เดก็ คนนั้นจึงรสู ึกภมู ใิ จ และคอยลักเลก็ ขโมยนอยเอาของ ของผูอน่ื มาใหแมอยเู ร่อื ยๆ
แมของเขาก็แสดงความพอใจทกุ คร้งั
คร้นั โตเปน หนุมเขาไดเ ขา ไปขโมยของในบานหลังหน่งึ และพล้ังมอื ฆา ผเู ปน เจาของบา นตาย
เมื่อเจา หนา ท่ีบา นเมืองจบั ตวั ไดจ งึ ถูกตดั สนิ ใหป ระหารชวี ิต ขณะทีก่ าํ ลังถกู นาํ ตัวไปประหาร
ผูเ ปน แมไดร องไหฟ ูมฟายว่ิงตามลกู ไปอยขู างๆ พรอมกับครา่ํ ครวญวา
“โธลกู เอย ทาํ ไมเจาถงึ ทาํ ผดิ คิดรา ยถึงเพยี งน”ี้
นักโทษผูเปน ลกู ชายจงึ กลาวกบั แมวา “แมอ ยา รอ งไหเ ลย ตอนทผี่ มเปนเดก็ เทย่ี วลกั ขโมย
ของผูอนื่ มาให ถา แมดดุ า ส่ังสอนแทนท่ีจะชมเชยใหท าย วนั นผี้ มกค็ งไมต อ งถกู ประหาร”
เรือ่ งนี้สอนใหร วู า รักววั ใหผูก รกั ลกู ใหต ี อยากใหล กู ใหด ี ตอ งอบรมสั่งสอน
38 คมู ือการจัดกจิ กรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสรมิ สรา งทักษะชวี ติ ช้นั มธั ยมศึกษาปท ี่ 1
แผนการจัดกิจกรรมลูกเสือสามญั รุนใหญ(เคร่อื งหมายลูกเสือโลก) ชน้ั มัธยมศึกษาปท่ี 1
หนวยท่ี 3 คาํ ปฏญิ าณและกฎของลกู เสอื เวลา 2 ชวั่ โมง
แผนการจดั กิจกรรมที่ 7 ปฏิบตั ติ ามคําปฏญิ าณ และกฎของลูกเสอื
1. จดุ ประสงคก ารเรยี นรู
ยอมรบั และปฏิบัตติ าม คาํ ปฏิญาณ และกฎของลูกเสอื และนําไปปฏบิ ัตใิ นชีวติ ประจาํ วนั
2. เนอ้ื หา
2.1 ความหมายของคาํ ปฏญิ าณ และกฎของลกู เสอื
2.2 วางแผนนาํ คําปฏญิ าณ และกฎของลูกเสอื ไปใชใ นชวี ติ ประจาํ วัน
2.3 การปฏบิ ัติตนตามคําปฏญิ าณ และกฎของลกู เสอื
3. ส่ือการเรยี นรู
3.1 แผนภูมิเพลง, เกม
3.2 ใบความรู เร่อื ง คาํ ปฏิญาณ กฎ และคติพจนลกู เสือสามัญรนุ ใหญ
3.3 เร่อื งทเี่ ปน ประโยชน
4. กิจกรรม
4.1 กจิ กรรมครั้งที่ 1
1) พธิ เี ปดประชมุ กอง (ชกั ธง สวดมนต สงบนง่ิ ตรวจ แยก)
2) เพลง หรอื เกม
3) กจิ กรรมตามจุดประสงคก ารเรยี นรู
(1) ผกู าํ กับลกู เสอื ใหล กู เสอื ทบทวนคําปฏิญาณ และกฎของลกู เสอื
(2) ผูกาํ กบั ลกู เสือแจกใบความรู และแบงงานใหห มูลกู เสือวเิ คราะห ความหมาย
การกระทาํ ทีแ่ สดงออกถงึ การยอมรบั และปฏบิ ตั ติ ามคําปฏญิ าณและกฎของลูกเสอื ในเรอื่ งตอ ไปน้ี
1) ความจงรักภักดตี อ ชาติ
2) ความรักและศรทั ธาในศาสนา
3) ความจงรกั ภักดีตอ สถาบนั พระมหากษตั ริย
4) การชว ยเหลือผอู ื่นทกุ เมื่อ
(3) ผกู าํ กับลกู เสอื ใหหมลู ูกเสือรายงาน ผกู ํากับลูกเสอื นําอภปิ รายใหหมูอนื่ ๆเพิ่มเติม
ผกู ํากบั ลกู เสอื ชว ยเพิ่มเตมิ จนครบ
(4) ผกู ํากับลกู เสอื ใหก องลกู เสอื รว มกันจัดทาํ ตารางกิจกรรมวันสําคญั ของ ชาติ ศาสนา
พระมหากษตั ริย และกาํ หนดเปนแผนงานของกองลูกเสอื วาจะทาํ กจิ กรรมอะไรบา งในวนั สําคญั แตละวนั
4) ผกู ํากบั ลูกเสอื เลาเร่ืองทเี่ ปน ประโยชน
5) พธิ ีปดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครือ่ งแบบ ชกั ธง เลกิ )
คูมือการจัดกิจกรรมลกู เสือสามัญรุนใหญเสริมสรางทกั ษะชีวิต ชัน้ มธั ยมศึกษาปท่ี 1 39
4.2 กิจกรรมครัง้ ที่ 2
1) พธิ เี ปด ประชุมกอง (ชกั ธง สวดมนต สงบนงิ่ ตรวจ แยก)
2) เพลง หรือเกม
3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก ารเรียนรู
(1) ผกู าํ กบั ลูกเสอื ใหก องลกู เสอื กําหนดการปฏิบัตใิ นวนั สาํ คญั ตามแผนงาน
ท่ีไดก าํ หนดไวในกจิ กรรมครั้งที่ 1 และบนั ทึกไวเ ปนหลกั ฐาน
(2) ผกู ํากบั ลูกเสอื ใหกองลูกเสือรวบรวมผลการปฏิบตั ิ แลวนําออกเผยแพร
ตามสอ่ื ตางๆ ของโรงเรียน หรือในโอกาสทเ่ี หมาะสม
4) ผูก าํ กับลูกเสอื เลา เรอ่ื งทเี่ ปนประโยชน
5) พิธีปด ประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอื่ งแบบ ชกั ธง เลิก)
5. การประเมนิ ผล
สังเกต การมสี วนรวมทาํ กจิ กรรม และการแสดงความคิดเห็นในหมู และกองลูกเสอื
ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กจิ กรรมท่ี 7
เพลง
กฎลูกเสอื
กฎทีห่ นงึ่ พึงจําใหดี ลกู เสอื ตอ งมี เกียรตเิ ชอ่ื ถือได
กฎทีส่ อง นน้ั รองลงไป ตอ งภกั ดี ในผูมีพระคณุ
กฎที่สาม น้ันบาํ เพ็ญบญุ ชว ยเหลอื เก้อื กลู ผูอื่นเรอื่ ยไป นะเธอ อยา ลมื ๆ (ซํ้า)
กฎทส่ี ี่ ทนี่ ้ีนาคิดน้ีจะเปน มิตรกบั คนท่วั ไป
กฎทห่ี า ทา นวาเอาไว มารยาทนัน้ ไซรด ดั ใหงามๆ
กฎที่หก นรกไมตามเพราะน้าํ ใจงามกรณุ าสัตวมนั นะเธอ อยาลมื ๆ (ซาํ้ )
กฎทเี่ จ็ด จงเช่ือฟง ในคาํ สั่งโดยดษุ ฎี
กฎท่ีแปด ยม้ิ ๆไวซี ลูกเสอื ไมห นีตอความลําบาก
กฎทเ่ี กา ออมไวยามยาก จะไมล าํ บาก เงนิ ทองมากมี
กฎที่สบิ ประพฤตคิ วามดที งั้ กาย วจี มโน พรอมกัน นะเธอ อยาลมื ๆ (ซ้ํา)
40 คมู อื การจดั กจิ กรรมลูกเสือสามัญรุนใหญเสริมสรา งทกั ษะชีวิต ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 1
คําขวญั ลูกเสือ เราจะเทิดเหนอื ดวงฤทยั เรานัน่
เสียชีพอยาเสยี สัตยไ วจ นวนั ตาย
เกียรติคณุ ลูกเสอื ไวลาย ไวล าย ลูกเสอื ไทย
เรามั่นในคําขวญั เมตตาโดยไมเ ลอื กวา ใคร
เรานัน้ ประพฤตติ นสมกบั ทเ่ี ราเปนลูกผูชาย รวมจติ รวมใจสามคั คีมีวฒั นธรรม
กลา หาญ การชว ยเหลอื นานา
เปน มติ รเปน มิตรทด่ี ีของคนทวั่ ไป
เกม
สงไมง าม
วิธีเลน
1) ลูกเสือแตล ะหมูเขา แถวตอน โดยมจี าํ นวนคนในแตล ะหมเู ทากนั แตละแถวใหอ ยหู างกัน
ประมาณ 2 เมตร แจกไมงามใหค นอยูหัวแถว โดยวางไวท ่ดี านหนา
2) ลูกเสอื ทกุ คนนั่งลง เมอ่ื ไดย นิ สญั ญาณ ใหค นแรกสงไมง า มขามศรี ษะของตนเอง
ใหค นท่ีอยูดา นหลังรับและสง ตอไปเร่อื ย ๆ จนถึงคนสดุ ทา ย
3) คนสุดทายเมอื่ ไดรบั ไมงา มแลว ใหถือไมงามตงั้ ขึ้น หมูใดเสร็จกอ นจะเปน ผูช นะ
ใบความรู
คําปฏญิ าณ กฎ และคตพิ จนล กู เสือสามญั รุนใหญ
คาํ ปฏิญาณ คอื การใหคาํ มน่ั สัญญาวาจะประพฤติปฏบิ ตั ติ ามส่งิ ทพี่ ดู ดวยความเตม็ ใจ กอนทลี่ ูกเสอื
จะกลาวคาํ ปฏญิ าณตองขน้ึ ตน วา "ขาสัญญาวา" แลวจงึ ตามดว ยคาํ ปฏญิ าณ
กฎ คอื หลักเกณฑท่ีลูกเสือตองยึดเปน หลักปฏบิ ตั ิอยเู สมอ
คาํ ปฏญิ าณลกู เสอื สามญั รุนใหญ มี 3 ขอ ดงั น้ี
ดว ยเกียรติของขา ขาสัญญาวา
ขอ 1 ขา จะจงรกั ภกั ดตี อ ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ (ลกู เสอื จะตอ งมคี วามศรัทธา เชื่อมัน่ ใน
ชาติ ศาสนา และพระมหากษตั รยิ ข องตน เคารพเทิดทูนทงั้ 3 สถาบนั ดว ยความซอ่ื สตั ย)
ขอ 2 ขาจะชว ยเหลอื ผูอื่นทกุ เมือ่ (ลูกเสอื จะตองประพฤตปิ ฏิบตั ติ นใหเปน ประโยชนตอผูอ ื่น
ในทกุ โอกาส ทกุ สถานการณ เทา ที่จะทาํ ได โดยเร่มิ ตั้งแตค รอบครัวจนถงึ สงั คมภายนอก)
ขอ 3 ขา จะปฏบิ ัตติ ามกฎของลกู เสอื (ลูกเสอื ตอ งปฏิบัตติ นตามกฎ 10 ขอ ของลกู เสอื ซ่ึงเปน
หลกั ยดึ เหน่ยี วใหลกู เสอื ปฏบิ ตั แิ ตสิง่ ดีงาม)
ลกู เสอื ควรปฏิบัตติ อชาติ ดังนี้
1) ประพฤตติ นเปน พลเมืองดหี มนั่ ศึกษาหาความรใู สต วั
2) ไมป ระพฤติตนผดิ ตอ ขนบธรรมเนียมประเพณี วฒั นธรรม และกฎหมายของบานเมือง
3) เปน ผปู ระกอบอาชพี สุจรติ มีความซอ่ื สตั ย
คูมอื การจัดกจิ กรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสรมิ สรางทักษะชวี ิต ช้นั มธั ยมศึกษาปท ี่ 1 41
4) รักและหวงแหนแผน ดินถน่ิ เกิดของตน เปน ผูเ สยี สละและกลา หาญ
ลูกเสอื ควรปฏบิ ัตติ อศาสนา ดงั นี้
1) ปฏิบัติกิจทางศาสนาตามจารีตประเพณที ีต่ นนับถือดวยใจบรสิ ทุ ธิ์
2) ปฏิบัตติ ามคาํ สอนของศาสนาทต่ี นนบั ถือ
3) ไมแ สดงอาการลบหลศู าสนาอ่นื
4) ละเวนการประพฤตชิ ว่ั กระทําแตความดี
5) เขารวมพธิ ีทางศาสนาตามเวลาและโอกาสอันควร
ลูกเสือควรปฏบิ ัตติ อพระมหากษัตริย ดงั น้ี
1) แสดงความเคารพตอพระมหากษัตรยิ แ ละพระบรมฉายาลกั ษณ
2) ไมก ระทาํ การใดๆ ท่ีจะสงผลใหเ ส่ือมเสยี พระเกียรตคิ ุณ และตองชวยปอ งกัน ไมใ หคนอ่นื
กระทําดวยเชน กัน
กฎของลูกเสอื สามัญรนุ ใหญ มี 10 ขอ ดังนี้
ขอ 1 ลกู เสอื มีเกียรติเชื่อถอื ได (ยดึ มน่ั ในความซื่อสัตย ปฏบิ ตั ติ ามคาํ ม่ันสัญญา กระทําตนให
เปนท่เี ชอื่ ถือและไวว างใจได)
ขอ 2 ลกู เสือมคี วามจงรกั ภักดตี อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริยและซอ่ื ตรงตอ ผมู ีพระคุณ
(ปกปองสถาบนั ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย และยึดมน่ั ในความซอื่ สัตย กตญั ูตอ ผูมีพระคณุ ทุกทา น)
ขอ 3 ลกู เสอื มหี นาท่ีกระทาํ ตนใหเ ปนประโยชนและชวยเหลอื ผูอ นื่ (พรอมอยเู สมอทีจ่ ะบาํ เพญ็
ประโยชน และเปน ท่พี งึ่ แกผ ูอื่นได)
ขอ 4 ลูกเสือเปน มิตรของคนทกุ คน และเปน พน่ี อ งกบั ลกู เสอื อื่นทว่ั โลก (มีใจโอบออ มอารี มคี วาม
เอื้อเฟอเผอื่ แผแ กท ุกคน โดยไมเลือกเชอ้ื ชาติ ศาสนา และปฏบิ ตั ติ อ เขาเหมือนญาติพี่นอง)
ขอ 5 ลกู เสือเปนผสู ุภาพเรยี บรอ ย (เปนผูมกี ิริยาวาจาสุภาพ ออนโยน ออ นนอม มีความสัมมาคา
ราวะตอ บคุ คลท่ัวไป)
ขอ 6 ลูกเสือมคี วามเมตตากรณุ าตอ สัตว (มีใจเมตตากรณุ า สงสารสตั ว ไมรงั แกหรอื ทรมาน
สัตว หรือเม่ือพบสัตวบ าดเจบ็ ตองใหก ารชว ยเหลือ )
ขอ 7 ลกู เสอื เช่ือฟงคําส่งั ของบดิ า มารดา และผบู งั คบั บญั ชาดว ยความเคารพ (ปฏิบตั ติ าม
คาํ สง่ั สอน คาํ ชแี้ นะของบดิ ามารดา ครูอาจารย และผบู ังคับบญั ชาดวยความเต็มใจ และเคารพ)
ขอ 8 ลูกเสือมีใจราเรงิ และไมย อ ทอ ตอความยากลาํ บาก (มีความรา เริง ยมิ้ แยม แจมใสอยูเสมอ
ถึงแมจะตกอยใู นความยากลําบาก กจ็ ะไมแสดงอาการยอทอ ใหเ หน็ )
ขอ 9 ลูกเสอื เปน ผมู ธั ยัสถ (รจู ักประหยัดทรัพยทง้ั ของตนเองและผูอนื่ ไมส ุรุย สรุ าย)
ขอ 10 ลกู เสอื ประพฤตชิ อบดว ยกาย วาจา ใจ (รจู กั สํารวม และระวงั กาย วาจา ใจ ไมใ หม ี
ความอิจฉาริษยา มคี วามบรสิ ทุ ธใิ์ จตอทุกคน)
คตพิ จนแ ละคําขวญั ของลกู เสอื
คติพจน และคําขวญั เปน คําพดู หรอื ขอความท่ีเปน คตสิ อนใจใหย ดึ ถอื ปฏิบัติ เพอ่ื ประโยชน
ของตนเองและสวนรวม
42 คูม ือการจดั กจิ กรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสรมิ สรางทกั ษะชีวิต ชัน้ มัธยมศึกษาปท ี่ 1
คําขวัญลกู เสอื
"เสยี ชีพอยาเสยี สัตย" มคี วามหมายวา ใหลูกเสอื รกั ษาความซอื่ สัตย จะไมย อมละความสตั ย
ถึงแมจ ะถูกบบี บังคับจนเปน อนั ตรายถึงแกช วี ติ กต็ าม
คตพิ จนล ูกเสือสามัญรุนใหญ
มองไกล (Look wide) หมายถงึ การมองใหกวางและไกล ฉลาดท่จี ะมองเหน็ ความจรงิ ของสงิ่
ตางๆ วา ผลจากการกระทําภารกิจของตน อาจสงผลกระทบถึงภารกิจอ่นื บคุ คลอน่ื จะประสบผลดี
ผลเสียตอองคก รสวนรวมหรือไมอ ยา งไร วิเคราะหแ ละสามารถกาํ หนดทิศทางเปา หมาย วางแผนได
อยา งถกู ตอ ง ชัดเจน
เรอื่ งท่เี ปนประโยชน
เพ่อื นทรยศ
สุนขั จ้งิ จอกกบั ลาเปนเพือ่ นกัน มันสัญญากนั วา จะคอยชว ยเหลอื ซง่ึ กันและกนั เมือ่ ยามมภี ัย
วันหน่ึงขณะท่ีสัตวท้ังสองตัวออกไปลาเหยื่อดวยกัน สุนัขจ้ิงจอกเหลือบไปเห็นสิงโตตัวหน่ึงกําลังเดินตรงมา
มันรีบบอกลาวา “ลาเพ่ือนรัก ทานรออยูท่ีน่ีกอนนะ ขาจะอาสาเดินไปเจรจาผูกมิตรกับสิงหโตตัวนั้นเสียกอน
พวกเราจะไดปลอดภัย” วา แลวสนุ ขั จิ้งจอกกเ็ ดนิ ตรงเขาไปหาสิงหโต มนั บอกกบั สงิ โตวาถาสงิ โต
ปลอ ยมันไป มนั จะลอลวงลามาใหก นิ อยางสะดวกสบาย ไมต อ งวง่ิ ไลจ บั ใหเหนื่อย
ในท่ีสุดลาก็ตกเปนเหยื่อของสิงหโต พอกินเสร็จ สิงโตก็หันมาตะปบสุนัขจ้ิงจอกกิน
เปนอาหารอีกตัวหนึ่ง กอนตายสุนัขจิ้งจอกก็พูดเปนเชิงตัดพอวา “ทานไมนาทรยศกับขาเลย”
สิงหโตหัวเราะกอ นจะตอบวา
“ทีเจายงั ทรยศกบั ลาท่ีเปนเพื่อนของเจา ได ทาํ ไมขาจะทรยศตอ เจา ไมไ ด”
เรอ่ื งนี้สอนใหรวู า บุคคลที่ไรส ัจจะ อยาพึงหวังสจั จะจากผูอ ื่น
เร่อื ง ลงิ กับสุนขั จ้ิงจอก
มีลิงหางดวนตัวหน่ึง เหน็ สนุ ขั จิง้ จอกมีหางเปน พวงสวยกน็ กึ อยากจะมหี างสวยงามบา ง จึงไปถาม
สนุ ัขจ้งิ จอกวา “ขา อยากมหี างสวยเชนทา นบาง ทา นจะมีวธิ แี นะนําขา บางไหม” สุนัขจงิ้ จอกไดยนิ ลงิ หางดว น
พดู เชนนัน้ ก็นกึ ขําในความไมเจียมตัวของลิง มันจงึ แกลง บอกลิงวา “ไมย ากหรอก เพียงแตทา นใหเพ่ือนๆ ลงิ
ของทานชวยกนั ดึงหางใหทานทกุ วนั ไมน านหางของทานกย็ าวสวยเองแหละ”
ลงิ หางดว นผโู งเขลาไดยินกด็ ีใจ มนั รีบระดมเพอื่ น ๆ ลิงจาํ นวนมากใหม าชว ยกนั ดึงหางของมัน
พรอมกับบอกวา “ดงึ ใหเต็มแรงเลยนะ พรรคพวก” บรรดาเพื่อนลิงจงึ พากนั ดงึ หางทีม่ อี ยเู พียงนอยนิด
ของลิงโงสุดแรงเกดิ ทําใหห างของลงิ ผูไมเจยี มตวั ขาดออกทันที สรางความเจบ็ ปวดใหมนั อยางแสนสาหัส
เรื่องน้สี อนใหร วู า จงพอใจในส่งิ ท่ตี นมอี ยู
คูมอื การจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสริมสรางทกั ษะชวี ิต ช้นั มัธยมศึกษาปที่ 1 43
แผนการจัดกิจกรรมลกู เสือสามญั รุนใหญ(เคร่ืองหมายลูกเสือโลก) ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปท ี่ 1
หนวยที่ 3 คําปฏิญาณและกฎของลกู เสือ เวลา 2 ช่ัวโมง
แผนการจัดกิจกรรมที่ 8 ความซ่ือสตั ยสุจรติ
1. จุดประสงคก ารเรียนรู
ลูกเสือแสดงออกถงึ ความเปน ผมู ีความซื่อสตั ยสจุ ริต
2. เนอื้ หา
ความซ่อื สตั ยสุจรติ เปนพน้ื ฐานของความดที ุกอยาง ลกู เสือจงึ ตองหมั่นอบรมและฝกฝน ใหเกิดมี
ข้ึนในตนเอง ตามคําขวัญที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกลาเจาอยูหัว รัชกาลท่ี 6 ทรงพระราชทานให
ลูกเสอื วา “เสยี ชพี อยาเสยี สตั ย”
3. ส่อื การเรียนรู
3.1 แผนภูมเิ พลง
3.2 เรอ่ื งท่ีเปน ประโยชน
4. กิจกรรม
4.1 กจิ กรรมครงั้ ที่ 1
1) พิธีเปด ประชมุ กอง (ชกั ธง สวดมนต สงบน่งิ ตรวจ แยก)
2) เพลง หรอื เกม
3) กิจกรรมตามจุดประสงคก ารเรยี นรู
ผูกํากับลูกเสือมอบหมายใหลูกเสือแตละหมูเขียนบทละครส้ัน ท่ีแสดงออกถึง
ความซอื่ สัตยส จุ รติ หมลู ะ 1 เรอ่ื ง ทาํ การซอ มเพื่อแสดงในกองลูกเสอื คาบตอไป โดยใหเวลาเตรียม
ประมาณ 30 นาที และเวลาในการแสดงหมูละไมเกิน 5 นาที (ตัวอยางเชน เก็บกระเปาสตางคได
แลวคืนเจา ของ การรกั ษาคาํ พดู /คาํ มั่นสัญญา ไมโ กหกหลอกลวง การไมเ อาเปรยี บคดโกงผูอน่ื การ
ตรงตอเวลา การรักษาระเบีบบวินัย ไมลอกขอสอบ ไมรับเงินสินบน และประกอบอาชีพสุจริต เปน
ตน)
4) ผกู าํ กบั ลกู เสือเลาเรื่องท่ีมปี ระโยชน
5) พิธีปดประชุมกอง (นัดหมาย ตรวจเคร่อื งแบบ ชักธง เลิก)
44 คูม ือการจัดกิจกรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสริมสรา งทกั ษะชวี ิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปท่ี 1
4.2 กิจกรรมครัง้ ท่ี 2
1) พธิ ีเปด ประชมุ กอง (ชักธง สวดมนต สงบน่งิ ตรวจ แยก)
2) เพลง หรือเกม
3) กิจกรรมตามจดุ ประสงคก ารเรียนรู
(1) หมูลูกเสอื ใชเ วลาแสดงหมูล ะไมเกิน 5 นาที
(2) ผกู าํ กับลกู เสอื นาํ อภปิ รายในประเดน็ ตอ ไปนี้ และสรปุ วา
- จากละครส้ันท้ัง 4 เร่ือง ลกู เสือคิดวา คําวา “ซอ่ื สตั ยส จุ รติ “ มคี วามหมายอยางไร
(การประพฤตปิ ฏบิ ตั ใิ นทางที่ถกู ตอ งตามความเปนจริง ท้งั กาย วาจา และใจ ทั้งตอตนเอง ผูอน่ื
และหนาที่การงาน)
- เหตุใดพระบาทสมเดจ็ พระมงกฏุ เกลา เจาอยหู ัว รชั กาลที่ 6 จึงใหค วามสําคัญกับ
ความซ่ือสัตยม ากโดยถึงกบั พระราชทานคาํ ขวัญลูกเสือไทยวา “เสียชีพอยา เสียสตั ย” (ความซอื่ สตั ย
สุจริตเปนรากฐานของความดีทกุ อยาง เราจะทาํ ดไี มไดเ ลยถาปราศจากความซอ่ื สัตยสุจรติ )
- ถาสมาชกิ ในหมลู ูกเสือเปน คนไมซอ่ื สตั ย โกหกหลอกลวงไมร กั ษาสญั ญา
ไมรักษากฏระเบียบ หมูลูกเสอื น้จี ะเปน อยา งไร (จะขาดความสัมพันธทดี่ ใี นหมู ทํางานหมไู มสําเรจ็ ไม
เปน ท่ยี อมรบั ของลกู เสอื หมูอน่ื และครูอาจารย)
- ลูกเสอื ไดขอ คิดอะไรบางจากกจิ กรรม และจะนาํ ไปใชใ นชวี ิตประจําวันอยา งไร (ควร
เปด กวางใหล กู เสือออกความเหน็ )
4) ผกู ํากับลูกเสือเลา เร่อื งทม่ี ปี ระโยชน
5) พธิ ีปด ประชมุ กอง (นัดหมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธง เลกิ )
5. การประเมนิ ผล
สงั เกต การมสี ว นรวมในการทํากจิ กรรม และการแสดงความคิดเหน็ ในหมแู ละกองลกู เสอื
6. องคประกอบทักษะชวี ติ สําคัญทเี่ กดิ จากกจิ กรรม
คือ ความคิดวเิ คราะห ความคิดสรา งสรรค รบั ผดิ ชอบตอ ตนเองลสงั คม ตระหนักถงึ ความสําคญั
ของความซื่อสตั ยสจุ ริต
คมู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสริมสรางทักษะชีวติ ชน้ั มธั ยมศึกษาปท่ี 1 45