The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วิชาสุขศึกษา ป.2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by , 2022-06-16 23:27:32

วิชาสุขศึกษา ป.2

วิชาสุขศึกษา ป.2

หนงั สอื เรียน รายวิชาพ้นื ฐาน สุขศึกษา ป. 2 43

บทสรปุ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3
นักเรียนสามารถสรุปทบทวนความรู้โดยใช้วิธีการจินตภาพจาก

ผงั มโนทศั น์ (concept map) เพ่ือสรปุ องคค์ วามรู้ไดด้ งั นี้

เรียนรเู้ กยี่ วกบั ใส่ใจสุขภาพ

สขุ ภาพดี ประกอบด้วย ความหมายและความส�าคัญ

การมรี ่างกายท่สี มบูรณแ์ ข็งแรง ไม่เป็นโรค มจี ติ ใจและอารมณ์ท่ดี ี
การมสี ุขภาพดี ไม่เจ็บปว่ ยชว่ ยใหเ้ รามีร่างกายท่เี จริญเติบโตสมวัย

ลักษณะของบคุ คลทม่ี ีสุขภาพดี

ร่างกายแขง็ แรง เติบโตตามวัย มีอารมณด์ ี อย่รู ว่ มกบั ผู้อื่นได้
อาหารท่มี ีประโยชน์ ประกอบด้วย ความหมายและความส�าคัญ

สงิ่ ทก่ี ินแลว้ มปี ระโยชน์ ชว่ ยค�า้ จนุ ชวี ิต ทา� ใหม้ สี ขุ ภาพดี
การเลือกกนิ อาหารท่มี ปี ระโยชน์

เลือกกนิ อาหารท่ปี รุงสุกใหม่ ๆ มีคณุ คา่ กนิ อาหารจากร้านคา้
ทสี่ ะอาด ผ้ขู ายแตง่ กายสะอาดเรียบรอ้ ย

การเลือกกนิ อาหารทม่ี ีประโยชน์

หลีกเลีย่ งอาหารหมกั ดอง อาหารสสี นั ฉดู ฉาด ขนมกรุบกรอบ
นา�้ อดั ลม อาหารทมี่ ีแป้งและไขมันมาก

44 หนังสอื เรยี น รายวชิ าพ้นื ฐาน สขุ ศึกษา ป. 2

เรยี นรเู้ กี่ยวกับ (ตอ่ ) ประกอบดว้ ย ความหมายและลกั ษณะของของเล่น

ของเล่นและของใช้ หมายถงึ

เคร่อื งมอื ท่นี �าไปสู่กระบวนการเลน่ มีความสา� คญั โดยช่วย
สง่ เสริมพฒั นาการด้านรา่ งกาย สร้างเสรมิ การเรียนรู้

ลกั ษณะของของเลน่

ของเลน่ ทด่ี ี ตอ้ งเหมาะสมกบั วยั มฉี ลาก มเี ครอื่ งหมายมาตรฐาน
ผลติ ภณั ฑอ์ ตุ สาหกรรม ของเลน่ ทเี่ ปน็ อนั ตราย เชน่ ปนื อดั ลม

ความหมายและลักษณะของของใช้

หมายถงึ

วสั ดุ ส่ิงของทเี่ ราน�ามาใช้ประโยชน์ในการดา� รงชีวติ

ลกั ษณะของของใช้

ของใชท้ ด่ี ตี อ้ งมสี ภาพดี มฉี ลาก มเี ครอื่ งหมาย อย. หรอื มอก.
ของใชท้ ไี่ มด่ ี เชน่ ไมม่ ฉี ลาก เปน็ สนิ คา้ หมดอายุ

การปอ้ งกัน ประกอบด้วย สาเหตุ อาการ
การเจบ็ ป่วย
การเจบ็ ปว่ ยจากไข้หวัด เกิดจากเชื้อไวรัส มีอาการไข้
และการเกดิ การบาดเจบ็ น�้ามูกไหล เจ็บคอ ไอ

การปอ้ งกนั และการดแู ลตนเอง

รักษาร่างกายให้อบอ่นุ ดืม่ น�า้ มาก ๆ
ถ้าไมด่ ีขึ้นควรไปพบแพทย์

การเจ็บป่วยจากอจุ จาระรว่ ง สาเหตุ อาการ เกดิ จากกนิ อาหาร
ที่มเี ชื้อโรค
การปอ้ งกนั และการดแู ลตนเอง

กนิ อาหารสุก สะอาด ดื่มนา�้ ผสมผงน�า้ ตาลเกลอื แร่
ถ้าไมด่ ขี ึน้ ควรไปพบแพทย์

การเจบ็ ปว่ ยจากบาดแผล ลกั ษณะบาดแผล บาดแผลฟกชา�้
บาดแผลตดั และ
การปอ้ งกนั และการดแู ลตนเอง บาดแผลถลอก

ระมัดระวังในการเล่น และการใช้
อปุ กรณ์ และใหผ้ ปู้ กครองทา� แผลให้
ถา้ ไมด่ ขี ้ึนควรไปพบแพทย์

หนังสือเรียน รายวิชาพน้ื ฐาน สุขศกึ ษา ป. 2 45

กิจกรรมเÊนÍáนะ
• เพือ่ ความเขา้ ใจท่ีคงทนใหน้ ักเรียนปฏิบัติกจิ กรรมต่อไปนี้
1. นกั เรยี นจบั คกู่ บั เพอ่ื น แลว้ ผลดั กนั เลา่ อาการเจบ็ ปว่ ยของตนเอง

ทผ่ี ่านมาแล้วช่วยกันหาวธิ ีการป้องกนั อาการเจ็บป่วยดังกล่าว
2. นักเรียนจัดท�าแฟ้มสะสมภาพเก่ียวกับอาหารที่มีประโยชน์

ต่อร่างกาย พร้อมกับเขียนบรรยายความรู้สึกที่มีต่ออาหาร
เหลา่ นั้น

âคร§§าน
• เพ่อื ความเข้าใจทค่ี งทนให้นกั เรยี นปฏบิ ัติกจิ กรรมต่อไปน้ี
เลือกทำโครงงานต่อไปนี้ (เลือก 1 ข้อ) หรืออาจทำโครงงาน
อ่ืนตามความสนใจตามรูปแบบโครงงานท่ีกำหนด (ซ่ึงอย่างน้อยต้อง
มหี ัวขอ้ เหตผุ ลท่ีเลือกโครงงานน้ี จุดประสงค์ แผนการปฏบิ ตั กิ าร)
1. โครงงานสำรวจเรื่อง ลักษณะของเล่นและของใช้ที่จำหน่าย

ในร้านค้าของโรงเรยี นหรือรา้ นค้าใกล้บา้ น
2. โครงงานการศกึ ษาค้นคว้าเร่อื ง แนวทางการป‡องกนั โรคของ

เด็กวยั เรยี น
หมายเหตุ: โครงงานท่ีเลือกตามความสนใจควรได้รับคำแนะนำ
แก้ไขจากผู้สอน เม่ือได้รับความเห็นชอบแล้วจึงดำเนินโครงงานนั้น ๆ
โดยผู้สอน/ผู้ปกครอง/กลุ่มเพ่ือนประเมินลักษณะกระบวนการทำงาน
และนักเรียนควรมีการสรุปแลกเปลี่ยนความรู้ซ่ึงกันและกันก่อน
พจิ ารณาเกบ็ ในแฟม้ สะสมผลงาน

46 หนังสอื เรียน รายวิชาพนื้ ฐาน สขุ ศึกษา ป. 2

การประยกุ ต์ใช้ในชีวิตประจำ�วนั
• เพือ่ ความเขา้ ใจทคี่ งทนให้นักเรียนปฏิบตั กิ จิ กรรมตอ่ ไปน้ี
นักเรียนเลือกกินอาหารท่ีสุก สะอาด และปลอดภัย เม่ือกิน
อาหารนอกบ้าน เลือกของเล่นที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและดูแล
ตนเองไมใ่ หเ้ จบ็ ปว่ ยโดยงา่ ย โดยกนิ อาหารทมี่ ปี ระโยชน์ ออกกา� ลงั กาย
สมา�่ เสมอและพักผ่อนอยา่ งเพยี งพอ

คำ�ถามประจำ�หน่วยการเรยี นรทู้ ี่�3
ตอบคำถามต่อไปนี้
1. นักเรียนมวี ธิ ีการทำใหต้ นเองมสี ุขภาพทดี่ ไี ดอ้ ยา่ งไร
2. ถ้าโลกของเราเกิดภาวะขาดแคลนอาหาร นกั เรยี นคดิ วา่ จะเกดิ

ผลอยา่ งไร แล้วเราจะมีชีวิตอยู่รอดได้หรอื ไม่
3. ถ้านักเรียนพบว่าของใช้หรือของเล่นที่นักเรียนซ้ือมาไม่มี

เครือ่ งหมาย มอก. หรือ อย. จะเกดิ ผลเชน่ ไร
4. การทเี่ ราเจ็บป่วยบ่อย ๆ ส่งผลกระทบอยา่ งไรต่อนักเรยี นบา้ ง

ชีวิตปลอดภัย 4หน�วยการเร�ยนรŒทู ี่

มาตรฐานการเร�ยนรูŒ
พ 5.1 ปองกันและหลีกเลี่ยงปจจัยเส่ียง พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ อุบัติเหตุ
การใชยาสารเสพตดิ และความรนุ แรง

ตัวช ้ วี ดั ชั�นป‚
1. ปฏบิ ตั ติ นในการปอ งกนั อบุ ตั เิ หตทุ อ่ี าจเกดิ ขน้ึ ทางนำ้ และทางบก (พ 5.1 ป. 2/1)
2. บอกชอ่ื ยาสามญั ประจำ บา น และใชยาตามคำ แนะนำ (พ 5.1 ป. 2/2)
3. ระบโุ ทษของสารเสพตดิ สารอนั ตรายใกลต วั และวธิ กี ารปอ งกนั (พ 5.1 ป. 2/3)
4. ปฏิบัติตนตามสัญลักษณและปายเตือนของส่ิงของหรือสถานท่ีท่ีเป็นอันตราย
(พ 5.1 ป. 2/4)
5. อธิบายสาเหตุ อนั ตราย วธิ ีปองกนั อคั คีภัย และแสดงการหนไี ฟ (พ 5.1 ป. 2/5)

สาระการเรย� นรŒู
1. อบุ ัติเหตุทางนำ้ และทางบก 4. เครื่องหมายเตือนอนั ตราย
2. ยาสามญั ประจำ บา น 5. การปอ งกันอัคคีภยั
3. สารเสพตดิ และสารอันตราย

ประโยชนจ ากการเรยี น ค�าถามชวนคิด

เขาใจและสามารถปองกันตนเองให นักเรียนคิดว่าเหตุการณอันตรายหรือ
ปลอดภยั จากอบุ ัตเิ หตทุ างนาำ้ และทางบก ใชย า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำ วันของคนเรา
สามัญประจำาบานไดตามคำาแนะนำา รูวิธีการ มีสาเหตุสำ คัญมาจากปจจัยใด
ปองกันสารเสพติดและสารอันตราย เขาใจ
ความหมายของเครื่องหมายเตือนอันตราย
ตลอดจนรูวิธกี ารหนีไฟท่ถี กู ตอ งได

48 หนังสือเรยี น รายวิชาพน้ื ฐาน สขุ ศึกษา ป. 2

ในชีวิตประจำาวันเราอาจพบกับเหตุการณอันตรายท่ีอาจทำาให
เกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิต ดังน้ันนักเรียนจึงควรเรียนรูถึงสาเหตุ
ผลกระทบ และแนวทางการปองกันอุบัติเหตุทางบก อุบัติเหตุทางนำ้
การใชยาสามัญประจำ�บานที่ถูกตองปลอดภัย การปองกันสารเสพติด�
และสารอันตราย และการเรียนรูเคร่ืองหมายเตือนอันตรายต่าง ๆ
รวมทงั้ การปอ งกนั อคั คภี ยั และการหนไี ฟ เพอื่ ใหก ารดำ รงชวี ติ อยไู่ ดด ว ย
ความปลอดภยั

1. อบุ ตั ิเหตทุ างน�าและทางบก

คำ�ถามนำ�Êู่ºทเรียน

นกั เรยี นเคยเหน็ เหตกุ ารณอ บุ ตั เิ หตใุ นชวี ติ ประจาำ วนั หรอื ไม่

อบุ ตั เิ หต ุ หมายถงึ อนั ตรายจากเหตกุ ารณท เ่ี กดิ ขน้ึ โดยไมค่ าดคดิ
ซึง่ อาจทาำ ใหเ กิดการบาดเจบ็ พกิ าร เสยี ชวี ิต และเสยี ทรพั ยส นิ ได  เช่น
แขนขาหกั มีบาดแผลถลอกและบาดแผลฟกชาำ้ ตามรา่ งกาย เกดิ ความ
พิการไม่สามารถใชอวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกายไดตามปกติ หรือ
บาดเจ็บจนถึงแกช่ วี ติ

1.1 สาเหตขุ องการเกดิ อบุ ตั ิเหตุทางน�า้ และทางบก

สาเหตทุ ่ที ำ ใหเกิดอบุ ตั เิ หตทุ างนำ้ และทางบก มีดงั น้ี
1) สาเหตุจากตัวบุคคล เกิดจากความประมาท ฝ่าฝนกฎจราจร
และความรูเทา่ ไม่ถงึ การณ

หนงั สือเรยี น รายวชิ าพนื้ ฐาน สขุ ศกึ ษา ป. 2 49

2) สาเหตจุ ากยานพาหนะ เชน่
รถยนต รถโดยสารประจำาทาง
เรือโดยสาร หรือรถจักรยานยนต
ท่ีเราโดยสาร อาจเกิดชำารุดก่อให
เกดิ อบุ ตั เิ หตุ

3) สาเหตุจากสภาพแวดลอม การห้อยโหนรถโดยสารหรือยืนท่ี
เช่น ฝนตกหนักทำ ใหถ นนลน่ื ทำ ให ประตขู น้ึ –ลง ทำใหเ้ กดิ อบุ ตั เิ หตไุ ด้
ขับขี่ยานพาหนะลำ บาก ก่อใหเกิด
อุบัติเหตุไดง า่ ย

1.2 การปอ งกนั อบุ ตั ิเหตุทางนา้� ควรเขา้ แถวใหเ้ ปน็ ระเบยี บ
เมื่อขึน้ และลงเรอื
แนวทางปฏบิ ตั เิ พอื่ ความปลอดภยั
ในการเดินทางโดยเรือ ไดแก่ รอเรือ
ทที่ า่ ไมย่ นื รอทโี่ ปะ๊ ไมค่ วรกระโดดลง
เรอื ไม่ยืน่ อวยั วะออกนอกเรือ อย่าลง
เรือท่ีบรรทุกผูโดยสารท่ีแน่นเกินไป
และอย่าวักนำ้าขางเรือเล่น และถาน่ัง
เรอื เปน็ ประจาำ ควรฝกึ หดั วา่ ยนาำ้ ใหเ ปน็
และสวมเส่้อื ชชู พี ทกุ คร้ัง

1.3 การปอ งกนั อุบัติเหตุทางบก

การปอ งกันอบุ ตั ิเหตุทางบกในแตล่ ะสถานการณท สี่ ำ คญั ไดแก่
1) การเดนิ ทางดว ยเทา เมื่อตองเดนิ ทางดวยเทา ควรปฏิบัตดิ งั นี้
(1) ใหเ ดนิ บนทางเทา ถา ไมม่ ที างเทา ใหเ ดนิ ชดิ ขอบถนนทางดา น
ขวามือของตน เพื่อจะไดม องเหน็ รถทแ่ี ล่นสวนมาขา งหนา

50 หนังสอื เรียน รายวิชาพืน้ ฐาน สุขศึกษา ป. 2

(2) ขามถนนโดยข้ึนสะพาน
ลอย หรือขามโดยใชทางมา ลาย และ
ใหสังเกตสัญญาณไฟจราจรสำาหรับ
คนเดินขา มถนน และปฏบิ ัติตามอยา่ ง
เครง่ ครดั
(3) ถา ถนนไมม่ ที างขา มเฉพาะ การข้ามถนนทปี่ ลอดภัย
ก่อนขามใหยืนบนขอบถนนหันหนาไป ตอ้ งขนึ้ สะพานลอย
ทางฝง ตรงขาม มองทางขวา มองทาง
ซา ย และกลบั มามองทางขวาอกี ครง้ั หนง่ึ เมอื่ เหน็ วา่ ปลอดภยั แลว จึงขา ม
(4) เมอ่ื เดนิ ในถนนทมี่ ดื ควรสอ่ งไฟฉายและสวมเสอื้ ผา สอี อ่ น ๆ
เพ่อื ใหผ ขู บั ข่ยี วดยานมองเห็นเรา
2) การเดินทางโดยรถจักรยาน
เม่อื เดนิ ทางโดยใชรถจักรยาน เพ่อื ความปลอดภยั ควรปฏิบตั ิ
ดังนี้ ตรวจสอบความพรอมของรถจักรยานก่อนทุกครั้งก่อนนำ ไปใช
ขี่รถจักรยานดวยความระมัดระวัง ไม่ข่ีเล่นผาดโผน หยุดรถหรือ
ชะลอรถเมื่อถึงทางแยก ขี่รถจักรยานในช่องทางจักรยานที่กำ หนดไว
และใหสัญญาณมอื ก่อนจะเล้ยี วหรือหยดุ รถ ดงั ภาพ

เล้ยี วขวา เล้ียวซ้าย หยุดรถ

หนังสอื เรียน รายวชิ าพน้ื ฐาน สุขศึกษา ป. 2 51

3) การเดินทางโดยรถยนตหรอื รถโดยสารประจำ ทาง
แนวทางปฏิบัติเพ่ือความปลอดภัยในการเดินทางโดยรถยนต
หรือรถโดยสารประจำ ทาง ไดแ ก ่ ขนึ้ และลงเมื่อรถจอดสนิท ไม่แยง่ กัน
ขึ้นและลงรถ ไมย่ น่ื อวัยวะใด ๆ ออกนอกตัวรถ ไม่ควรหอยโหนรถ
และเม่ือลงจากรถแลว อย่ารีบเดินหรือวิ่งตัดหนาหรือทายรถขณะรถ
จอดซอนกันอยู่
4) การเดินทางโดยรถไฟหรอื รถไฟฟา
แนวทางปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยในการเดินทางโดยรถไฟ
หรอื รถไฟฟา ไดแ ก ่ ขน้ึ และลงเมอ่ื รถไฟหรอื รถไฟฟา จอดสนทิ ไมแ่ ยง่ กนั
ขึ้นหรือลง ไม่ยน่ื อวยั วะออกนอกตวั รถ และไม่เดนิ เล่นระหว่างตูรถไฟ
หรอื รถไฟฟา

คำ�ถาม¾²ั นาความคิ´

ถานักเรียนตองขามถนนโดยลำาพัง นักเรียนจะขามอย่างไร
ใหปลอดภยั ที่สุด

กจิ กรรมเรยี นรู.้ ..ส่ปู ฎบิ ตั ิ

• เพอื่ ความเขา ใจทค่ี งทนใหนกั เรยี นปฏิบตั ิกิจกรรมตอ่ ไปนี้
นักเรียนบันทึกแนวทางการปฏิบัติตนเพื่อปองกันอุบัติเหตุจากการ
เดินทางในชีวิตประจำาวันของตนเองใน 1 สัปดาห เช่น การเดินเทา
การขามถนน การขึน้ รถโดยสารประจาำ ทาง หรือการลงเรอื โดยสาร (ให
ผูป กครองช่วยชแี้ นะแนวทางการปฏิบัติและตรวจสอบความถูกตอง)

52 หนงั สอื เรียน รายวิชาพืน้ ฐาน สขุ ศึกษา ป. 2

2. ยาสามัญประจา� บาŒ น

คำ�ถามนำ�Êู่ºทเรยี น

นกั เรียนเคยกนิ หรอื ใชยาอะไรบาง แลวนกั เรียนป่วยเปน็
อะไร

ยาสามัญประจำ�บา น หมายถึง ยาทใี่ ชร กั ษาอาการเจ็บป่วยเลก็ ๆ
นอย ๆ หรอื ใชใ นการปฐมพยาบาลแก่ตนเองและสมาชิกในครอบครัว
ยาสามัญประจำ บานมีความสำ คัญต่อการรักษาอาการเจ็บป่วย
เบื้องตน ทเ่ี ราสามารถดูแลรักษาตนเองได  เช่น อาการไขต ัวรอ น อาการ
ปวดศีรษะ ผ่ืนคันท่ีผิวหนัง มีบาดแผลขนาดเล็ก หรืออาการทองอืด
ทอ งเฟอ

2.1 ตวั อย‹างยาสามัญประจ�าบŒานสา� หรับกิน

ยาสามัญประจำ บานสำ หรับกิน ไดแก่
1) ยาท่ใี ชบรรเทาอาการไขตัวรอนและอาการปวด

ชอื่ ยา สรรพคุณ วิธีการใชและคำ�เตอื น

• ยาพาราเซตามอล ลดไข  บรรเทาปวด – ผใู หญ่กินครงั้ ละ
1 เมด็ หา่ งกนั ทุก 6
(ขนาด 500 มลิ ลิกรัม) ช่ัวโมง

– หา มใชย าเกิน 8 เม็ด
ตอ่ วนั

หนงั สอื เรียน รายวิชาพืน้ ฐาน สขุ ศึกษา ป. 2 53

2) ยาท่ีใชบ รรเทาอาการไอ

ชื่อยา สรรพคณุ วธิ ีการใชและคำ�เตอื น

• ยาแกไอนำ้ ดำ บรรเทาอาการไอ – เขย่าขวดก่อนใช ผูใหญ่
และช่วยขับเสมหะ กินครั้งละ 1–2 ชอนชา
ลเ3ดะ–ก็ 4อ21 าคย–ร ุ1้งั6 –ช1อ 2น ชปา  กวนิ นั คลระง้ั

– หามใชยาน้ีกับเด็กอายุ
ตำ่ กวา่ 6 ป  คนชรา และ
หญิงมคี รรภ

3) ยาที่ใชบรรเทาอาการปวดทอ ง

ชอื่ ยา สรรพคุณ วธิ กี ารใชและคำ�เตือน
• ยาธาตุน้ำ แดง
บรรเทาอาการปวดทอ ง – เขย่าขวดก่อนใช ผูใหญ่
จกุ เสยี ด ทองข้นึ กินครง้ั ละ 1–2 ชอนโตะ๊
ทอ งเฟอ คเกดินรก็ ัง้กอล่อาะนย อ ุ126า–ห–1า1ร 2 ช วอ ปันน  ลโกตะนิ ะ๊

3 คร้ัง
– หา มใชก บั ผทู เ่ี ปน็ โรคหวั ใจ
หรือโรคไต

54 หนงั สอื เรียน รายวิชาพนื้ ฐาน สุขศกึ ษา ป. 2

4) ยาท่ีใชเ ป็นยาระบาย

ชือ่ ยา สรรพคณุ วิธีการใชและคำ�เตอื น
• ยาระบาย ยาระบาย – กินก่อนนอนหรือต่ืนนอน
มะขามแขก
ตอนเชา ผูใหญ่กนิ ครัง้ ละ
3–4 เมด็ เดก็ อาย ุ 6–12 ป 
กนิ คร้งั ละ 1–2 เม็ด
– หา มใชเ มอ่ื มอี าการปวดทอ ง
หรอื มอี าการคลน่ื ไสอ าเจยี น

5) ยาที่ใชบรรเทาอาการแพ
ชื่อยา สรรพคุณ วธิ กี ารใชแ ละคำ�เตือน

• ยาเมด็ แกแ พ  บรรเทาอาการแพ  เชน่ – ผูใหญ่กินครั้งละ 1 เม็ด
คลอรเฟนิรามนี นำ้ มูกไหล ลมพิษ เดก็ อายุ 6–12 ป กนิ ครงั้

ละ 1/2 เมด็ ทุก 4 หรือ
6 ชวั่ โมง เมื่อมีอาการ
– ไมค่ วรใชย าตดิ ตอ่ กนั นาน
เกนิ 7 วนั

6) ยาท่ใี ชบ รรเทาอาการอจุ จาระร่วง

ชือ่ ยา สรรพคุณ วิธีการใชแ ละคำ�เตอื น

• ผงนำ้ ตาลเกลอื แร่ ทดแทนการเสียน้ำ – เดก็ อายุ 7 ปข ้ึนไปจนถึง
เน่ืองจากทอ งรว่ ง ผูใหญ่ใหด่ืมต่างนำ้ วันละ
ทองเสยี หรอื อาเจยี น 2–3 ซอง

– ถา ผปู ว่ ยอาเจยี นและเหงอื่
ออกมากตัวเย็นหรือหมด
สตใิ หร บี นำ สง่ โรงพยาบาล
โดยดว่ น

หนงั สอื เรยี น รายวิชาพ้ืนฐาน สุขศกึ ษา ป. 2 55

2.2 ตวั อย‹างยาสามัญประจา� บŒานสา� หรบั ใชŒภายนอก

ยาสามัญประจำ บา นสำ หรบั ใชภ ายนอก ไดแ ก่

ชือ่ ยา สรรพคุณ วธิ กี ารใชและคำ�เตือน

1. ยาทาแกผดผนื่ คัน บรรเทาอาการคนั – เขยา่ ขวดกอ่ นใช 
เนอื่ งจากผดผ่ืนคนั ใชท าบริเวณผิวหนังที่คัน
ลมพิษ วนั ละ 3–4 ครั้ง

– ใชสำ หรับทาบริเวณ
ผิวหนังเท่าน้นั

2. ยาโพวโิ ดน-ไอโอดนี รกั ษาแผลสด – ใชส ำ ลชี บุ ยาทาท่ีแผล
– หากมีอาการระคายเคอื ง

หรือมีผน่ื แดงเกดิ ข้ึนให
หยุดใชยาและหลกี เลี่ยง
อยา่ ใหยาเขา ตา

3. ข้ผี ้งึ แกปวดบวม บรรเทาอาการปวดบวม – ทาและนวดบริเวณที่มี
อกั เสบเนอ่ื งจาก อาการ
แมลงสตั วกัดตอ่ ย – หามรับประทาน
หรอื ปวดเม่ือย

คำ�ถาม¾ั²นาความค´ิ

“ยามีทง้ั คณุ และโทษ” นักเรียนเขาใจวา่ อยา่ งไร

56 หนังสือเรยี น รายวิชาพน้ื ฐาน สุขศึกษา ป. 2

กจิ กรรมเรียนรู.้ ..สูป่ ฎบิ ัติ

• เพอ่ื ความเขา ใจท่คี งทนใหน ักเรียนปฏบิ ัติกิจกรรมตอ่ ไปนี้
สำารวจตูยาในบานของตนเอง และจดชื่อยา สรรพคุณ และวิธีการ
ใชยาลงในสมดุ บันทกึ (ใหผูป กครองชว่ ยแนะนาำ ) แลว นำาผลการจดบนั ทกึ
มาแลกเปลี่ยนกันอ่านกบั เพอื่ นในช้ันเรยี น

3. สารเสพตดิ และสารอันตราย

คำ�ถามนำ�Ê่ºู ทเรียน

“สารเสพตดิ ปศ าจรา ยทาำ ลายชวี ติ ” นกั เรยี นรสู กึ อยา่ งไร
กับคาำ กลา่ วน้ี

3.1 สารเสพตดิ

� สารเสพติด หมายถึง สิ่งที่เสพโดยการสูบ กิน ฉีด ดม เขาสู่
ร่างกายแลวทำ ใหผูเสพเกิดความตองการอยากเสพอีกจนติด ซึ่งมีโทษ
ตอ่ รา่ งกายและจิตใจ เช่น เฮโรอีน มอรฟน กัญชา ฝน ยาบา ยาอ ี สรุ า
บหุ ร่ี
1) โทษจากการใชสารเสพติดสารเสพติดก่อใหเกิดปญหาต่าง ๆ
มากมาย เชน่ ปญหาครอบครวั ปญหาการปลน จี้ ชงิ ทรัพยส ิน ปญหา
การใชความรุนแรง และปญ หาดานสขุ ภาพ
โทษของการเสพสารเสพตดิ ทำ ใหผ เู สพรา่ งกายทรดุ โทรม สมองฝอ่
ความจำ เส่อื ม มอี ารมณไ มม่ ่นั คง

หนังสือเรียน รายวชิ าพนื้ ฐาน สุขศกึ ษา ป. 2 57

สารเสพตดิ กอ่ ให้เกิดปญ หาการชิงทรัพย

สาเหตขุ องการตดิ สารเสพตดิ มกั เกดิ จากความรเู ทา่ ไมถ่ งึ การณ  เชน่
อยากทดลอง ความคึกคะนอง การถูกคนอ่ืนชักชวน รวมทั้งเกิดจาก
สภาพแวดลอ มซ่ึงกระตนุ ใหเกิดการเสพสารเสพติดได
2) การปอ งกนั สารเสพตดิ วธิ ปี ฏบิ ตั เิ พอ่ื ปอ งกนั สารเสพตดิ ไดแ ก่
ไม่ทดลองใชสารเสพติด ปฏิเสธเมื่อ
ถูกชักชวน ศึกษาหาความรูเก่ียวกับ
สารเสพตดิ ใชเ วลาวา่ งใหเ ปน็ ประโยชน 
ระมดั ระวงั การใชย า เลอื กคบเพอื่ นทด่ี ี
และหากมีปญหาควรปรึกษาพ่อแม่
หรอื ครูอาจารย
ผเู้ สพสารเสพตดิ จะมี
รา่ งกายทรุดโทรม

ไม่ มนั ไมด่ ี
เปน็ อนั ตราย

ปฏเิ สธการใชส้ ารเสพตดิ
ทุกชนิด

58 หนงั สอื เรียน รายวิชาพื้นฐาน สุขศึกษา ป. 2

3.2 สารอันตราย

สารอนั ตราย หมายถงึ ส่ิงทเ่ี ขา สูร่ า่ งกายไมว่ า่ จะโดยกนิ สดู ดม
สัมผัสแลวอาจเกิดอนั ตรายตอ่ สขุ ภาพ ส่งผลใหร่างกายมคี วามผิดปกติ
และเจ็บป่วยได
ตวั อย่างสารอันตรายท่ีพบไดใ นชวี ติ ประจำ วนั

สารอันตรายในยาฆา่ แมลง สารอนั ตรายในควนั บุหร่ี

1) โทษของสารอนั ตราย

การดำารงชีวิตในแต่ละวันมักจะหลีกหนีไม่พนกับสารอันตราย
แมแ ตใ่ นบา นของเราเองกต็ าม โดยสารอนั ตรายภายในบา นมกั เกยี่ วขอ ง
กบั การใชผ ลติ ภณั ฑใ นชวี ติ ประจาำ วนั ตา่ ง ๆ เชน่ ยาฆา่ แมลง ผงซกั ฟอก
นา้ำ ยาลางหอ งน้าำ ซ่ึงผลิตภณั ฑด ังกล่าว
ประกอบไปดวยสารอันตรายที่เป็น
อันตรายต่อสุขภาพ โดยไอระเหยของ
สารอันตรายส่งผลใหอากาศภายใน
บานเป็นพิษ ถาผูอยู่อาศัยสูดดมสาร
อนั ตรายมาก ๆ กอ็ าจทาำ ใหเ กดิ โรคปอด
หรือมีอาการเจ็บป่วยตา่ ง ๆ ขึ้นได  การใชส้ ารอนั ตรายโดย
ไม่ระมัดระวังอาจเกดิ อนั ตรายได้

หนังสอื เรยี น รายวิชาพ้ืนฐาน สุขศกึ ษา ป. 2 59

2) การปองกันสารอันตรายในชีวิตประจำาวัน เราควรปองกันสาร
อันตรายในชีวิตประจำาวันโดยลดการใชผลิตภัณฑที่มีส่วนประกอบของ
สารอันตราย เชน่ กำาจดั ลกู นา้ำ แทนการใชยาฉดี กันยุง ใชผลิตภัณฑทมี่ ี
สารอนั ตรายดว ยความระมดั ระวงั ไมน่ าำ ผลติ ภณั ฑท ม่ี สี ว่ นประกอบของ
สารอันตรายมาเลน่ ไม่อยใู่ กลแ หลง่ ท่มี คี วนั พษิ ควนั บหุ ร ี่ และรว่ มกนั
ดูแลสิง่ แวดลอ มและปลูกตน ไม

คำ�ถาม¾ั²นาความค´ิ

1. “อย่าหลงผิด คิดตดิ ยา” นกั เรยี นอธบิ ายไดอ ยา่ งไร
2. ถาเราลดการใชผลิตภัณฑท่ีมีสารอันตราย นักเรียนคิดว่า
ตวั นกั เรียนจะปลอดภัยจากสารอนั ตรายหรือไม่ อยา่ งไร

กจิ กรรมเรยี นรู้...สปู่ ฎิบัติ

• เพอื่ ความเขาใจทคี่ งทนใหนักเรยี นปฏิบัติกิจกรรมตอ่ ไปนี้
1. นกั เรยี นแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3–4 คน ชว่ ยกนั บอกแนวทางการปองกนั
สารเสพติดมาใหมากที่สุด แลวส่งตัวแทนกลุ่มออกมารายงานผล
หนาช้ันเรยี น
2. นกั เรยี นสำ รวจผลติ ภณั ฑท ม่ี สี ว่ นประกอบของสารอนั ตรายทใ่ี ชใ นบา น
ของตนเอง และขอคำ แนะนำ วิธีการใชอย่างปลอดภัยจากผูปกครอง

60 หนงั สือเรียน รายวชิ าพนื้ ฐาน สขุ ศกึ ษา ป. 2

4. เคร�องหมายเตอื นอนั ตราย

คำ�ถามนำ�ʺู่ ทเรียน

นักเรียนรูจักเคร่ืองหมายเตือนอันตรายในชีวิตประจำาวัน
อะไรบาง

เคร่ืองหมายเตือนอันตราย หมายถึง รูปภาพหรือสัญลักษณ 
ต่าง ๆ ที่แสดงใหผูพบเห็นมีความระมัดระวังในสิ่งท่ีอาจทำ ใหเกิด
อนั ตรายต่อสุขภาพและชวี ติ ได

ตัวอย‹างเครอ� งหมายเตือนอันตราย

เครื่องหมายต่อไปน้ีเป็นเครื่องหมายเตือนอันตรายใหเกิดความ
ระมัดระวัง เม่ือเราเห็นเครื่องหมายหรือปายเตือนอันตรายเหล่านี้
ควรปฏิบตั ิตามคำ เตือน

หา มผา่ นเขา เด็ดขาด ป้ายหามผ่านเขาเด็ดขาด เมื่อเห็นปายหรือ
NO ENTRY เคร่ืองหมายเตือนอันตรายนี้ติดอยู่บริเวณใด
เราไม่ควรเขาไปในบริเวณนั้น เพราะในบริเวณนั้น
อาจมีสงิ่ ท่เี ป็นอนั ตราย

ไฟฟา แรงสูง ปา้ ยไฟฟา้ แรงสงู เมอ่ื เหน็ ปา ยหรอื เครอ่ื งหมาย
HIGH VOLTAGE เตือนอันตรายนี้อยู่ในบริเวณใด บริเวณน้ันเป็น
บริเวณที่มีไฟฟาแรงสูง เราไม่ควรเขาไปเล่นเพราะ
อาจเกดิ อนั ตรายต่อชวี ติ ได

พษิ รายแรง หนงั สอื เรยี น รายวชิ าพื้นฐาน สขุ ศึกษา ป. 2 61

ป้ายวัตถุอันตราย เม่ือเห็นปายนี้หรือ
เคร่ืองหมายเตือนอันตรายนี้อยู่บนฉลากภาชนะ
ของผลิตภณั ฑ เชน่ น้ำายาลางหอ งน้ำา ยาฆา่ แมลง
เราไม่ควรนำาผลิตภัณฑน้ันมาเล่น หรือใชดวย
ตนเอง ควรแจง ใหผ ปู กครองทราบกอ่ นใชท ุกครงั้
เพราะผลติ ภณั ฑด งั กลา่ วมอี นั ตรายมาก อาจทาำ ให
เราบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได เช่น กระเด็นเขาตา
ทาำ ใหตาบอด ถานำามากนิ ก็จะทาำ ใหเสียชีวิต

คำ�ถาม¾²ั นาความค´ิ

หากเราไม่ปฏิบัติตามเคร่ืองหมายเตือนอันตราย จะเกิดผล
อยา่ งไร

5. การปอ งกันอคั คภี ัย

คำ�ถามนำ�Ê่ºู ทเรียน

จะเกิดอะไรข้ึน ถานักเรียนพบว่าไฟไหมในชุมชนของ
นักเรียน

อคั คภี ยั �หมายถงึ ไฟไหมห รอื อนั ตรายทเี่ กดิ จากไฟ เปน็ ภยั รา ยแรง
ทก่ี ่อใหเ กดิ การบาดเจ็บ พิการ สูญเสียชีวติ และทรัพยสนิ

62 หนงั สอื เรียน รายวิชาพน้ื ฐาน สุขศกึ ษา ป. 2

5.1 สาเหตขุ องการเกิดอคั คีภัย

การกระทาำ ทน่ี าำ ไปสกู่ ารเกดิ ไฟไหม  ไดแ ก ่ การเลน่ ไมข ดี ไฟ ไมค่ วร
เล่นไมข ดี ไฟ โดยเฉพาะเด็ก ๆ เพราะอาจทำาใหไ ฟไหมบ า นได การเล่น
ประทัด ดอกไมไฟ หรือโคมลอย และการใชอุปกรณไ ฟฟา แลว เสยี บ
ท้งิ ไว

ไมค่ วรจุดไมข้ ีดไฟเล่นเพราะทำให้ไฟไหม้บา้ นได้

5.2 การปอ งกนั อคั คภี ัยและการหนีไฟ

เราสามารถปองกันอัคคีภัยไดโดยไม่เล่นซุกซน เช่น ไม่เล่น
ไมขีดไฟ สังเกตอปุ กรณไ ฟฟาในบา น ถา เราเหน็ ว่าเสยี หรอื ชำ รดุ ใหร บี
บอกพอ่ แมห่ รือผใู หญ่ใหท ราบ เพ่อื จะไดแ กไขใหม ีสภาพท่ีดตี อ่ ไป

การหนีไฟ
เมอื่ ตกอยใู่ นสถานการณเ พลงิ ไหม  เราตอ งรวู ธิ กี ารหนอี อกมาจาก
บริเวณทีเ่ กดิ เหตเุ พลิงไหมไ ดอยา่ งปลอดภยั ดังน้ี
1) ตง้ั สตแิ ละพยายามหาทางออกจากสถานทเี่ กดิ เหต ุ โดยเดนิ หรอื
คลานเขา แถวอยา่ งเปน็ ระเบยี บ ไมค่ วรใชล ฟิ ต  ควรใชบ นั ไดแทน เพราะ
ลิฟตอ าจตดิ คา งเนื่องจากกระแสไฟฟาถูกตดั
2) เอาผาชุบนำ้ บดิ พอหมาด แลวนำ มาปด จมูก เพอ่ื ลดการสดู ดม
ควันพษิ จากเพลิงไหม

หนงั สอื เรยี น รายวชิ าพ้ืนฐาน สุขศึกษา ป. 2 63

ปิดจมูกด้วยผา้ ชุบนำ้ ชว่ ยลดการสูดดมควนั พิษ

3) ถาพบว่าระหว่างทางมีควันมากใหหมอบคลานกับพ้ืนหอง
เพ่ือหาทางออก เพราะบริเวณเหนอื พื้นหองนนั้ ยังมีอากาศดีใหหายใจ

ถา้ มีควนั มากให้หมอบคลานกับพนื้ หอ้ ง

4) เมื่อหนีไฟมาถึงประตูที่ปดอยู่ อย่าเพิ่งรีบรอนเปดประต ู
ใหใ ชห ลงั มือแตะที่ลกู บิดหรือขอบประตเู สยี ก่อนว่ารอนหรือไม ่ ถา รอน
อย่าเปดเด็ดขาด เนื่องจากไฟกำาลังลุกไหมอยู่อีกดานหนึ่งของประต ู
ใหหนไี ปทางอ่นื

64 หนงั สอื เรยี น รายวิชาพ้ืนฐาน สุขศึกษา ป. 2

5) ถา เปลวเพลงิ รนุ แรงและควนั ไฟหนาทบึ มาก จนไมส่ ามารถ
วิ่งออกมาได  ใหอยใู่ นหองโดยพยายามอยใู่ นหองทมี่ ีหนา ต่างทสี่ ามารถ
รอ งขอความชว่ ยเหลือจากผอู ื่นได  ต่อจากน้ันใหป ด ประตู ใชผาขนหนู
ชุบน้ำาใหเปยกชุ่มอุดตามรอยร่ัวของขอบประตูเอาไว และตะโกนรอง
ขอความช่วยเหลอื
6) ถา ไฟไหมต ดิ เสอื้ ผา ทส่ี วมใส่ ใหร บี ใชผ าหนา ๆ เชน่ ผา ห่ม
ผา มา่ น (ชนดิ ทไี่ มใ่ ชผ่ า ไนลอน) ชบุ นา้ำ คลมุ ตวั แลว นอนลงกบั พน้ื กลงิ้ ตวั
ไป–มา เพอ่ื ใหไฟดบั

ถา้ ไม่สามารถวงิ่ หนีออกมาไดใ้ ห้ร้องตะโกน
ขอความช่วยเหลอื ในหอ้ งทมี่ ีหนา้ ต่าง

นานา นา่ รู้

การฝึกซอมหนีไฟมีความสำาคัญอย่างยิ่ง เราจะเห็นว่าตามสถานท่ี
ราชการ สถานท่ีทำางาน หรือโรงเรียน มีการฝึกซอมหนีไฟของบุคคลใน
สถานทีด่ งั กลา่ วปล ะอย่างนอย 1 ครงั้ เพ่ือเป็นการเตรียมความพรอมกับ
เหตุการณอคั คภี ัยทอี่ าจจะเกิดขน้ึ ได

หนังสือเรียน รายวชิ าพืน้ ฐาน สขุ ศึกษา ป. 2 65

คำ�ถาม¾²ั นาความค´ิ

นักเรียนควรใหความร่วมมือในการฝึกซอมหนีไฟกับโรงเรียน
หรือชุมชนหรอื ไม่ เพราะอะไร

กจิ กรรมเรยี นร้.ู ..สปู่ ฎบิ ัติ

• เพอ่ื ความเขาใจที่คงทนใหนกั เรียนปฏิบัตกิ ิจกรรมต่อไปน้ี
1. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3–4 คน ช่วยกันวิเคราะหเร่ือง การเล่น
ซกุ ซนเป็นสาเหตขุ องการเกดิ อคั คภี ัยไดอ ย่างไร
2. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3–5 คน แสดงบทบาทสมมุติการหนีไฟ
โดยใชข อมูลเรอ่ื ง การหนีไฟ จากบทเรียนประกอบการแสดง

แหลง่ สืบคน้ ความรู้

นักเรียนสามารถคนควาความรูเพ่ิมเติมเรื่อง อุบัติเหตุทางนำ้ และ
ทางบก ยาสามญั ประจำ บาน สารเสพติดและสารอันตราย เคร่อื งหมาย
เตือนอันตราย และการปองกันอัคคีภัย ไดจากการสอบถามครู พ่อแม่
ผูป กครอง หรอื สอื่ การเรยี นรจู ากหองสมดุ โรงเรยี น

66 หนังสอื เรียน รายวชิ าพื้นฐาน สขุ ศึกษา ป. 2

บทสรุปหนว่ ยการเรียนรูท �่ี 4�
� นักเรียนสามารถสรุปทบทวนความรูโดยใชวิธีการจินตภาพจาก
ผงั มโนทศั น  (concept map) เพ่ือสรปุ องคค วามรไู ดดังนี้

เรียนรเู ก่ยี วกบั ชวี ติ ปลอดภยั

อบุ ตั เิ หตทุ างน�้า ประกอบดวย สาเหตขุ องการเกิดอบุ ตั เิ หตุ จากตวั บคุ คล จากยานพาหนะ
และทางบก การป้องกันอุบตั เิ หตทุ างนา้� และจากสภาพแวดลอ ม
การปอ้ งกันอบุ ตั ิเหตุทางบก รอเรอื ทที่ า่ สวมใสเ่ สอื้ ชชู พี
ขา มถนนทท่ี างมาลาย
ขึ้นและลงเมื่อรถจอดสนิท
ไมเ่ ดินเลน่ ระหว่างตูรถไฟ

ยาสามญั ประจา� บา้ น ประกอบดวย ตัวอยา่ งยาสามัญประจ�าบา นส�าหรับกนิ

พาราเซตามอล สรรพคุณใชลดไข บรรเทาปวด ยาธาตุน�้าแดง
สรรพคณุ ใชบรรเทาอาการปวดทอ ง จกุ เสยี ด ทองข้นึ ทอ งเฟอ

ตวั อย่างยาสามัญประจ�าบา นสา� หรับใชภายนอก

ยาทาแก้ผดผื่นคนั สรรพคณุ ใชบรรเทาอาการลมพษิ
ยาโพวิโดน–ไอโอดนี สรรพคุณใชร ักษาแผลสด

สารเสพตดิ และสารอนั ตราย ประกอบดวย สารเสพติด

หมายถึง

สงิ่ ทเ่ี สพแลว ทาำ ใหผ เู สพเกดิ ความตอ งการอยากเสพ
อีกจนติด

โทษ

ทาำ ใหส ขุ ภาพทรดุ โทรม เกดิ ปญ หาครอบครวั ปญ หา
การปลน

การปอ งกนั

ไม่ทดลองใชสารเสพติด ปฏิเสธเมื่อถูกชักชวน
ใชเวลาว่างใหเ ปน็ ประโยชน 

หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน สุขศึกษา ป. 2 67

เรยี นรูเกี่ยวกับ (ต่อ) ประกอบดว ย (ตอ่ ) สารอนั ตราย

เครื่องหมายเตือน หมายถงึ
อันตราย
ส่ิงท่ีเขาสู่ร่างกายแลวอาจเกิดอันตรายต่อสุขภาพ
การปอ้ งกนั อคั คภี ัย ทาำ ใหเกดิ การเจ็บป่วยได

โทษ

ทำาอันตรายต่อสุขภาพ เช่น การสูดดมไอระเหยของ
สารเคมที าำ ใหเ กดิ โรคปอดหรอื มอี าการเจบ็ ปว่ ยตา่ ง ๆ ได

การปอ งกนั

ลดการใชส ารอันตราย ใชอยา่ งระมดั ระวัง ร่วมกนั
ดแู ลสงิ่ แวดลอม

ประกอบดวย ตวั อยา่ งเครอ่ื งหมายเตือนอันตราย

หมายถงึ

รปู ภาพหรอื สญั ลกั ษณต า่ ง ๆ ทแ่ี สดงใหผ พู บเหน็ มคี วาม
ระมัดระวังในส่ิงท่ีอาจทำาใหเกิดอันตรายต่อสุขภาพ
และชวี ิต

ตัวอยา่ ง

ป้ายห้ามผ่านเข้าเด็ดขาด เมื่อเห็นปายน้ีไม่ควรเขาไปใน
บริเวณนั้น เพราะบรเิ วณน้นั อาจมีสง่ิ ทเ่ี ปน็ อนั ตราย

ประกอบดวย ความหมายของอคั คีภัย

ไฟไหมห รอื อนั ตรายท่เี กดิ จากไฟ ก่อใหเ กิดการบาดเจ็บ
พกิ าร สูญเสยี ชวี ติ และทรัพยสิน

สาเหตขุ องการเกิดอคั คภี ยั

การเล่นไมขีดไฟ การเล่นประทัด การใชอุปกรณไฟฟา
แลว เสียบไฟทง้ิ ไว

สาเหตุของการเกิดอัคคีภัย

การปองกนั อัคคีภัย

ไมเ่ ล่นไมขีดไฟ ไม่ใชอ ปุ กรณไฟฟา ที่ชำารดุ

การหนีไฟ

พยายามหาทางออกจากท่ีเกดิ เหตุ ไมใ่ ชล ิฟต  มอบคลาน
กับพื้นหอง ถาไม่สามารถว่ิงหนีออกมาไดใหรองตะโกน
ขอความช่วยเหลอื ในหอ งทีม่ หี นา ต่าง

68 หนงั สอื เรียน รายวิชาพื้นฐาน สุขศกึ ษา ป. 2

กิจกรรมเÊนÍáนะ
• เพอ่ื ความเขาใจทีค่ งทนใหน กั เรียนปฏบิ ัตกิ จิ กรรมตอ่ ไปนี้
1. นกั เรยี นจดั ทาำ สมดุ บนั ทกึ ชอ่ื ยาสามญั ประจาำ บา น บอกสรรพคณุ
และวิธกี ารใชพรอ มกบั ติดภาพประกอบใหส วยงาม
2. นักเรียนจับคู่กับเพื่อนคิดประโยคปฏิเสธการใชสารเสพติด
และนำามาฝึกพดู ใหเกิดความคล่องแคลว่
3. นักเรียนจัดทำาสมุดภาพเร่ือง เคร่ืองหมายเตือนอันตราย
โดยวาดภาพและระบายสีใหส วยงาม

âคร§§าน
• เพื่อความเขา ใจทคี่ งทนใหนกั เรียนปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตอ่ ไปนี้
เลือกทำาโครงงานต่อไปนี้ (เลือก 1 ขอ) หรืออาจทำาโครงงาน
อื่นตามความสนใจตามรูปแบบโครงงานท่ีกำาหนด (ซ่ึงอย่างนอยตอง
มีหัวขอ เหตผุ ลท่ีเลอื กโครงงานน้ี จุดประสงค  แผนการปฏิบัตกิ าร)

1.�โครงงานศึกษาคนควาเรื่อง� อันตรายของสารเสพติดท่ีมีต่อ
สุขภาพและอนาคตทางการเรยี น

� 2.�โครงงานการส�ารวจเร่ือง� ความรูและความเขาใจเกี่ยวกับ
การใชย าสามญั ประจา� บานในครอบครวั

หมายเหตุ: โครงงานท่ีเลือกตามความสนใจควรไดรับคำาแนะนำาแกไข
จากผูสอน เม่ือไดรับความเห็นชอบแลวจงึ ดำาเนนิ โครงงานน้ัน ๆ โดยผูสอน/
ผูปกครอง/กลุ่มเพื่อนประเมินลักษณะกระบวนการทำางานและนักเรียนควรมี
การสรปุ แลกเปลย่ี นความรซู งึ่ กนั และกนั กอ่ นพจิ ารณาเกบ็ ในแฟม สะสมผลงาน

หนังสือเรยี น รายวชิ าพืน้ ฐาน สุขศึกษา ป. 2 69

การประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตประจำ�วนั
• เพอ่ื ความเขา ใจท่คี งทนใหน ักเรยี นปฏิบัติกิจกรรมต่อไปน้ี
1. นักเรียนเดินขามถนนโดยใชสะพานลอยหรือทางมาลาย
ในการเดนิ ทางในชวี ิตประจำาวัน
2. เมอ่ื เจบ็ ปว่ ยเลก็ นอ ย นกั เรยี นบอกอาการทเี่ กดิ ขน้ึ ใหพ อ่ แมท่ ราบ
และชว่ ยหยบิ ยาสามญั ประจาำ บา นใหก นิ เพอื่ บรรเทาอาการเจบ็ ปว่ ย
3. นักเรียนปฏเิ สธการใชสารเสพตดิ เมื่อมีคนชักชวนใหเ สพสาร-
เสพติด
4. นกั เรียนปฏิบัติตามเครือ่ งหมายเตอื นอนั ตรายเมื่อพบเหน็
5. นกั เรียนปองกันอคั คีภัย โดยไมเ่ ลน่ ไมข ดี ไฟและดอกไมไฟ

คำ�ถามประจำ�หน่วยการเรียนร้ทู ี่�4
� ตอบคำ�ถามตอ่ ไปน้ี

1. อุบัติเหตุจากการเดินทางจะไม่เกิดขึ้นกับนักเรียน ถานักเรียน
ปฏบิ ตั อิ ยา่ งไร

2. เม่ือนักเรียนไม่สบาย สิ่งแรกที่ตองปฏิบัติคืออะไร และ
เพราะเหตใุ ดจึงปฏิบตั ิเชน่ น้ัน
� 3.� ถาเพ่ือนชวนใหนักเรียนสูบบุหร่ี นักเรียนจะปฏิเสธเพ่ือน
คนน้นั วา่ อย่างไร

4.� หากนักเรียนจำ เป็นตองจะใชผลิตภัณฑที่มีส่วนประกอบของ
สารอนั ตรายเพอ่ื ใหป ลอดภยั นกั เรยี นจะมแี นวทางปฏบิ ตั อิ ยา่ งไร
� 5.��หากนกั เรยี นตอ งประสบกบั เหตกุ ารณก ารเกดิ อคั คภี ยั และตอ ง
หนอี อกจากบรเิ วณดงั กลา่ ว นกั เรยี นจะมแี นวทางปฏบิ ตั อิ ยา่ งไร
บาง และเหตุใดในแต่ละแนวทางจงึ ตองปฏบิ ัตเิ ช่นนั้น

บรรณานกุ รม

คํานึง ชัยสุวรรณรักษ. เลือกออกกําลังกายอย‹างไหนดี?. กรุงเทพฯ:
วัฒนาพานชิ , 2550.

เชาวลิต ภมู ภิ าค และคณะ. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน สุขศึกษา
และพลศึกษา ป. 3. กรงุ เทพฯ: วัฒนาพานิช, 2558.

เชาวลติ ภมู ภิ าค และสมาพร ยง่ิ คณุ ธนา. หนงั สอื เรยี น รายวชิ าพนื้ ฐาน
สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ป. 2. กรุงเทพฯ: วฒั นาพานชิ , 2557.

ณฐั วุฒิ รักแควน. ยาสามัญประจาํ บาŒ น. กรงุ เทพฯ: อมรนิ ทรพ ริน้ ตง้ิ
แอนดพับลชิ ช่ิง, 2554.

บังอร ฉางทรัพย. กายวิภาคศาสตร 1. พิมพครั้งที่ 3 กรุงเทพฯ:
สาํ นกั พมิ พจฬุ าลงกรณมหาวิทยาลยั , 2550.

ÈÖ¡ÉÒ¸Ô¡ÒÃ, ¡ÃзÃǧ. ËÅÑ¡ÊÙµÃ᡹¡ÅÒ§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ¢Ñé¹¾×é¹°Ò¹
¾Ø·¸ÈÑ¡ÃÒª 2551. ¡Ã§Ø à·¾Ï: ¡ÃзÃǧÈÖ¡ÉÒ¸¡Ô ÒÃ, 2551.

คาํ อภิธานศพั ท



การออกกาํ ลังกาย (exercise)
การทาํ กจิ กรรมทส่ี ง ผลใหร า งกายมกี ารเคลอื่ นไหว ซง่ึ ชว ยใหร า งกาย

คแข็งแรงและมจี ิตใจแจมใส

เคร่ืองหมายเตือนอนั ตราย (warning sigh)
รปู ภาพหรอื สญั ลกั ษณต า ง ๆ ทแี่ สดงใหผ พู บเหน็ มคี วามระมดั ระวงั

บในสิ่งทีอ่ าจทําใหเกดิ อันตรายตอสุขภาพและชีวิตได

บทบาท (role)
การทาํ ตามหนา ทที่ ีก่ ําหนดไว

บาดแผล (wound)
การเกดิ การฉกี ขาดของผวิ หนงั ซงึ่ อาจเกดิ จากของมคี มบาดหรอื

พการกระแทกกบั วัตถุ จนทําใหมีเลอื ดไหลออกมาดว ย

เพอ่ื น (friend)

ย ผทู ชี่ อบพอรักใครกัน ชวยเหลือซง่ึ กนั และกัน

ยาสามัญประจาํ บาŒ น (household medicine)
ยาที่ใชรกั ษาอาการเจ็บปวยเลก็ ๆ นอ ย ๆ หรือใชในการปฐม-

พยาบาลแกต นเอง และสมาชิกในครอบครัว

ส72 หนังสือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน สุขศกึ ษา ป. 2
สมาชิกในครอบครวั (family members)
บคุ คลทอี่ าศยั อยใู นครอบครวั เดยี วกนั และมสี ว นรว มกบั ครอบครวั
สารเสพติด (narcotic)
ส่งิ ทเ่ี สพโดยการสูบ กิน ฉดี ดม เขาสรู า งกายแลวทําใหผูเสพเกดิ
ความตอ งการอยากเสพอีกจนติด ซงึ่ มีโทษตอรางกายและจติ ใจ
สารอันตราย (hazardous substances)
สง่ิ ทเ่ี ขา สรู า งกายไมว า จะโดยกนิ สดู ดม สมั ผสั แลว อาจเกดิ อนั ตราย
ตอสุขภาพ สงผลใหร า งกายมีความผิดปกติและเจ็บปวยได
สุขภาพ (health)
การมีรางกายท่สี มบรู ณแ ข็งแรง ไมเ ปนโรค มีจิตใจและอารมณท่ดี ี
หและสามารถอยรู ว มกบั ผูอ ่นื ไดอยา งมคี วามสุข
หนŒาท่ี (duty)
อ งานท่จี ะตองทาํ ดว ยความรบั ผิดชอบ
อวัยวะภายใน (internal organ)
อวัยวะทอี่ ยภู ายในรา งกาย ไมส ามารถมองเห็นและจบั ตองได
อัคคีภัย (conflagration of fire)
ไฟไหมหรืออันตรายท่ีเกิดจากไฟ เปนภัยรายแรงที่กอใหเกิดการ
บาดเจบ็ พิการ สญู เสียชีวติ และทรพั ยส นิ
อาหาร (food)
ส่ิงที่กินแลวมีประโยชน ไมเปนพิษตอรางกาย และมีความจําเปน
ตอการดํารงชีวิตของมนุษยทุกคน เนื่องจากชวยใหรางกายเจริญเติบโต
แข็งแรงและทําใหเ ราทํางานไดต ามปกติ
อบุ ตั เิ หตุ (accident)
อนั ตรายจากเหตกุ ารณท เ่ี กดิ ขน้ึ โดยไมค าดคดิ ซง่ึ อาจทาํ ใหเ กดิ การ
บาดเจบ็ พิการ เสียชวี ิต และเสียทรัพยส นิ


Click to View FlipBook Version