The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by PIMPHAKARN BUSKET, 2023-02-02 08:57:53

วรรณคดีและวรรณกรรม

pdf_20230202_205630_0000

วรรณคดีและวรรณกรรม นาย เจตนิพัทธ์ นามวิชัย เลขที่ 5


วรรณคดี หมายถึง วรรณกรรมหรือหนังสือที่ได้รับการ ยกย่องว่าแต่งดี มีศิลป์ และมีคุณค่าทางอารมณ์และ ความรู้สึกต่อผู้อ่าน สามารถใช้เป็นแบบแผนและอ้างอิง ได้ วรรณกรรม หมายถึง วรรณคดีหรือศิลปะ ที่เป็นผลงาน อันเกิดจากการคิด และจินตนาการ แล้วเรียบเรียง นำ มาบอกเล่า บันทึก ขับร้อง หรือสื่อออกมาด้วยกลวิธี ต่างๆ โดยทั่ว ทั่ ไปแล้ว วรรณกรรมไทย แบ่งออกได้ 2 ชนิด คือ


ร้อยแก้ว เป็นข้อความเรียงที่แสดงเนื้อหา เรื่องราวต่างๆ - ร้อยกรอง เป็นข้อความที่มีการใช้คำ ที่ สัมผัส คล้องจอง ทำ ให้สัมผัสได้ถึงความ งามของภาษาไทย ร้อยกรองมีหลายแบบ คือ โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน และร่าย วรรณกรรมท้องถิ่น หมายถึง วรรณกรรม มุขปาฐะ และวรรณกรรมลายลักษณ์อักษร ที่ถ่ายทอดในกลุ่มชนหนึ่งกลุ่มชนใด ใน ท้องถิ่นใดท้องถิ่นหนึ่งมาเป็นเวลานาน ผู้ เล่าหรือผู้เขียนเป็นคนในท้องถิ่นถ่ายทอด ให้แก่คนในท้องถิ่นเดียวกับตน โดยการ บอกเล่าหรือเขียนบันทึกไว้ ตัวอย่าง วรรณกรรมท้องถิ่น เช่น ไกรทอง


การแปลความ การตีความ และการขยาย ความ การแปลความ หมายถึง การอ่านที่มุ่งให้เกิด ความเข้าใจกับเนื้อหา เริ่มจากการแปลคำ หรือศัพท์ที่ไม่รู้ความหมาย หรือเป็นการ แปลศัพท์จากภาษาหนึ่งไปยังอีกภาษาหนึ่ง การถอดคำ ประพันธ์ แปลความหมาย รูปภาพ เครื่องหมายต่างๆ


การตีความ หมายถึง การอ่านที่พยายามหา สิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ในข้อเขียน หรืออากัปกิริยา ท่าทาง สีหน้า แววตา น้ำ เสียง เพื่อทราบ ความหมายหรือเจตนาที่แท้จริงที่แฝงเร้น อยู่ ถ้าเป็นการสื่อความธรรมดาก็คงไม่ต้อง ตีความ แต่ถ้าอากัปกิริยาท่าทางกับคำ พูด ขัดแย้งกัน ผู้อ่านจะต้องค้นหาความจริงว่า เจตนาที่แท้จริง หมายถึงอะไรแน่ การ ตีความควรจะตีความทั้ง ทั้ ด้านเนื้อหา และ ด้านน้ำ เสียงควบคู่กันไป


การขยายความ คือ การนำ รายละเอียดมาพูด หรืออธิบายเสริมความคิดหลัก หรือประเด็น สำ คัญของเรื่องให้ชัดเจนแจ่มแจ้งขึ้น อาจ เป็นการให้ข้อมูลเพิ่มเติม ให้เหตุผลยกตัวอย่าง ประกอบ หรือมีการอ้างอิงเปรียบเทียบให้ได้เนื้อ ความกว้างขวางออกไป จนเป็นที่เข้าใจชัดเจน ยิ่งขึ้น


การวิเคราะห์คุณค่า และข้อคิด จากวรรณคดีและวรรณกรรม สารที่ได้จากการอ่านมีหลายประเภท เช่น บทความ บทวิจารณ์ข่าว เพลง บทร้อย กรอง เรื่องสั้น สั้ สารคดี นวนิยาย นิทาน วรรณคดี วรรณกรรม ฯลฯ


การพิจารณาสารจึงต้องพิจารณาตามแนวทาง การเขียนสารนั้น นั้ ๆ เช่น บทความ มีลักษณะ การเขียนเป็น คำ นำ เนื้อเรื่อง สรุป ส่วนข่าวมี ลักษณะการเขียนเป็น พาดหัวข่าวหลัก หัวข่าว รอง สรุปข่าว และรายละเอียดของข่าว และที่ สำ คัญที่สุดคือต้องพิจารณาภาษาหรือถ้อยคำ ที่ ใช้ด้วย เพราะงานเขียนแต่ละประเภทจะใช้ ภาษาที่แตกต่างกันไป การวิเคราะห์ วิจารณ์ และประเมินค่าสารจึงควรยึดหลักดังนี้


1. อ่านสารนั้น นั้ อย่างคร่าวครั้ง รั้ หนึ่งก่อน ในครั้ง รั้ ต่อไป่ ควรอ่านสารอย่างละเอียด 2. วิเคราะห์ให้ได้ว่าสารที่อ่านเป็นสารประเภทใด เช่น ข่าว บทวิจารณ์ คำ นำ เพลง บทความ 3. วิจารณ์แนวความคิดและการนำ เสนอของผู้เขียนสาร นั้น นั้ ตามลักษณะการเขียนทั้ง ทั้ รูปแบบ เนื้อหา และการ ใช้ภาษา 4. ตีความและประเมินค่าสารอย่างมีเหตุผล ตาม ลักษณะของสารแต่ละประเภทว่าดี มีคุณค่า มี ประโยชน์เหมาะสมหรือไม่ เพียงใด


ในการวิเคราะห์ วิจารณ์ และประเมินค่าสารเป็นเรื่อง ที่ต้องใช้ความรู้ ความเข้าใจเฉพาะบุคคล รวมทั้ง ทั้ ความรู้สึกนึกคิดของแต่ละบุคคล ประกอบด้วย เหตุผลที่ถูกต้องมาพินิจพิจารณา ดังนั้น นั้ ในการ วิเคราะห์ วิจารณ์ และประเมินค่าสาร จึงควร ระมัดระวังเพื่อมิให้เกิดความขัดแย้งกับความรู้สึก นึกคิดของคนส่วนใหญ่ในสังคม ที่มีทั้ง ทั้ ความถูกต้อง และความไม่ถูกต้อง ประเด็นที่ใช้ในการวิเคราะห์และวิจารณ์คุณค่าของ งานวรรณคดีและวรรณกรรม


การวิเคราะห์และวิจารณ์งานประพันธ์เท่าที่พบเห็นทั่ว ทั่ ๆ ไป นักวิจารณ์นิยมพิจารณากว้างๆ ใน 4 ประเด็นดังนี้ 1. คุณค่าด้านวรรณศิลป์ คือ ความไพเราะของบทประพันธ์ ซึ่งอาจทำ ให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์ ความรู้สึกและจินตนาการ ตามรส ความหมายของถ้อยคำ และภาษาที่ผู้แต่งเลือกใช้ เพื่อให้มีความหมายกระทบใจผู้อ่าน 2. คุณค่าด้านเนื้อหาสาระ อธิบายและยกตัวอย่างประกอบ พอเข้าใจ โดยจะกล่าวควบคู่กันไปทั้ง ทั้ การวิเคราะห์และการ วิจารณ์


3. คุณค่าด้านสังคม วรรณคดีและวรรณกรรม จะสะท้อนให้เห็นสภาพของสังคม วรรณคดีที่ดี ยังสามารถจรรโลงสังคมได้อีกด้วย 4. การนำ ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำ วัน ผู้อ่าน สามารถนำ แนวคิดและประสบการณ์จากเรื่องที่ อ่านไปประยุกต์ใช้หรือแก้ปัญหาในชีวิตประจำ วันได้


ตัวอย่างการวิเคราะห์คุณค่าและข้อคิด จากวรรณคดี ก. “พระสมุทรสุดลึกล้น คณนา สายดิ่งทิ้ง ทิ้ ทอดมา หยั่ง ยั่ ได้ เขาสูงอาจวัดวา กำ หนด จิตมนุษย์นี้ไซร้ ยากแท้หยั่ง ยั่ ถึง” (จาก “โคลงโลกนิติ” สมเด็จพระเจ้า บรมวงศ์เธอ กรมพระยาเดชาดิศร)


มหาสมุทร ต่อให้ลึกสักเพียงใดก็ยังใช้ สายดิ่งวัดความลึกได้ ภูเขา ต่อให้สูง สักเพียงใด ก็ยังอาจกำ หนดรู้ความสูง ได้ แต่จิตใจของคนเรานี้ ช่างลึกลับ ซับซ้อน เกินกว่าจะใช้เครื่องมือใดๆ มาวัดให้หยั่ง ยั่ รู้ได้ แปลความ


จิตใจของคนนั้น นั้ ไม่อาจใช้เครื่องมือใดๆ มา วัดได้ คนเราเห็นกันแต่ภายนอก ยากจะรู้ว่า ในใจคิดอย่างไร ดังนั้น นั้ จึงไม่ควรไว้เนื้อเชื่อ ใจใครง่ายๆ ผู้อ่านจะใช้เป็นเครื่องเตือนสติ เตือนใจในการดำ รงชีวิต ในเรื่องการคบหา มิตรหรือการไว้วางใจคน ข้อคิดที่ได้


ใช้การเปรียบเทียบรูปธรรมกับนามธรรม กวี ใช้การเปรียบเทียบใจมนุษย์ที่เป็นนามธรรม กับความสูงของภูเขาและความลึกของทะเล ได้อย่างสละสลวย ทำ ให้ผู้อ่านเข้าใจได้อย่าง ชัดเจน คุณค่าด้านวรรณศิลป์


ข. “กะละออมเพ็ญเพียบน้ำ ฤๅติง โอ่งอ่างพร่องชลชิง เฟื่องหม้อ ผู้ปราชญ์ห่อนสุงสิง เยียใหญ่ คนโฉดรู้น้อยก้อ พลอดนั้น นั้ ประมาณ” (จาก “โคลงโลกนิติ” สมเด็จพระเจ้าบรม วงศ์เธอ กรมพระยาเดชาดิศร)


หม้อน้ำ ที่มีน้ำ อยู่เต็ม เมื่อถูกเคาะ ก็ ไม่ส่งเสียงดัง แต่หม้อน้ำ ที่พร่องน้ำ เมื่อถูกเคาะจะส่งเสียงดัง เปรียบดัง ผู้ ที่มีความรู้มากย่อมไม่คุยโวอวดรู้ แต่ คนโฉดเขลามักจะเที่ยวอวดฉลาด แปลความ


ความรู้นั้น นั้ ไม่ใช่สิ่งที่ควรโอ้อวด คนยิ่ง รู้มากรู้จริงยิ่งไม่กล้าอวดแสดงความรู้ เพราะรู้ว่ายังรู้ไม่มากพอ แต่คนที่มีความรู้ เพียงน้อยนิด ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตนรู้นั้น นั้ ตื้นเขิน หรืออาจไม่จริง จึงเที่ยวอวดภูมิ ดังนั้น นั้ เราจึงควรหมั่น มั่ ศึกษาเล่าเรียนให้แตกฉาน ไม่รีบด่วนแสดงตนเป็นผู้รู้ จะถูกผู้อื่น ดูแคลนหรือหัวเราะเยาะเอาได้ ข้อคิดที่ได้


มีการใช้อุปมาโวหารอย่างแยบคาย เปรียบเทียบหม้อที่ มีน้ำ อยู่เต็มกับคนที่มีความรู้เต็มเปี่ยม ว่าไม่ส่งเสียงดัง คือไม่อวดภูมิ ส่วนหม้อที่พร่องน้ำ เหมือนคนโง่ ที่ส่ง เสียงดังหรือเที่ยวอวดความรู้ มีการใช้คำ ที่สละสลวย ซึ่งผู้แปลต้องรู้ความหมายจึงจะ เข้าใจใจความได้ เช่น “เพ็ญ” หมายถึง “เต็ม” ล้อและ สัมผัสกับคำ ว่า “พร่อง” คำ ว่า “คนโฉด” ซึ่งแปลว่า “คนโง่” เป็นต้น คุณค่าด้านวรรณศิลป์


เมื่อนั้น นั้ พระสุริย์วงศ์อสัญแดหวา ฟื้นองค์แล้วทรงโศกา โอ้แก้วแววตาของเรียมเอย ป่านฉะนี้จ นี้ ะอยู่แห่งใด ทำ ไฉนจึงจะรู้นะอกเอ๋ย ฤๅเทวาพาน้องไปชมเชย ใครเลยจะบอกเหตุร้ายดี สองกรพระค่อนอุราร่ำ ชะรอยเวรกรรมของพี่ ได้สมน้องแต่สองราตรี ฤๅมิ่งมารศรีมาจากไป พระยิ่งเศร้าสร้อยละห้อยหา จะสรงเสวยโภชนาก็หาไม่ แต่ครวญคร่ำ กำ สรดระทดใจ สะอื้น อื้ ไห้โศกาจาบัลย์


แบบทดสอบ เรื่อง วรรณคดีและวรรณกรรม 1 ข้อใดกล่าวผิดเกี่ยวกับวรรณคดีและวรรณกรรม ก.วรรณคดี คือ วรรณกรรมที่ได้รับยกย่องว่ามีคุณค่าเชิง วรรณศิลป์ ข.วรรณกรรมทุกเรื่องต้องเป็นวรรณคดี ค.วรรณกรรม หมายถึง งานหนังสือ, งานประพันธ์, บท ประพันธ์ ง.ภาษาที่ใช้ในวรรณคดีเป็นภาษาที่ไพเราะ


2.วรรณกรรมและวรรณคดีมีกี่ประเภท ก.2 ประเภท ข.4 ประเภท ค.6 ประเภท ง.7 ประเภท 3.ข้อใดคือลักษณะของวรรณคดีมุขปาฐะ ก.เล่ากันปากต่อปาก ข.มีหลักฐานยืนยันชัดเจน ค.จดบันทึกไว้ ง.อัดวิดิโอไว้


4.เพลงพื้นบ้านจัดเป็นวรรณคดีประเภทใ ก.วรรณคดีมุขปาฐะ ข.วรรณคดีราชสำ นัก ค.วรรณคดีจิปาถะ ง.ถูกทั้ง ทั้ 1. และ 2 5.ข้อใดไม่ใช่วรรณคดีราชสำ นัก ก.พระอภัยมณี ข.อิเหนา ค.สังข์ทอง ง.มานีมานะ


6.ข้อใดไม่ใช่คุณค่าของวรรณคดีไทย ก.ด้านเนื้อหา ข.ด้านวรรณศิลป์ ค.ด้านสังคม ง.ด้านสติปัญญา 7.งานเขียนอย่างสร้างสรรค์มีลักษณะคล้ายบทความ แต่ไม่ใช่บทความ คือข้อใด ก.วรรณคดี ข.บันเทิงคดี ค.บทความ ง.สารคดี


8.เรื่องที่แต่งขึ้นเพื่อมุ่งให้ความบันเทิง คือความหมาย ของข้อใด ก.วรรณคดี ข.บันเทิงคดี ค.บทความ ง.สารคดี 9.ข้อใดไม่ใช่วรรณกรรม ก.นวนิยาย ข.กาพย์ ค.กลอน ง.พระอภัยมณี


10.วรรณคดีราชสำ นักเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าวรรณคดี อะไร ก.วรรณคดีลายลักษณ์ ข.วรรณคดีจิปาถะ ค.วรรณคดีลายสือ ง.วรรณคดีบันเทิงคดี


Click to View FlipBook Version