The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงงานศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ (IS)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by , 2021-10-26 03:15:55

โครงงานศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ (IS)

โครงงานศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ (IS)

เคา้ โครงการศึกษาคน้ คว้า และสรา้ งองค์ความรู้
(Independent Study : IS)
รายวิชา I30202

การส่อื สารและการนาเสนอช้ันมัธยมปีที่ ๖/๑
๑)ชอ่ื เรอื่ ง ศึกษาปจั จัยทท่ี าให้ขา้ วหอมในอาเภอเสนางคนิคม
๒)ชื่อกลมุ่ ขา้ วหอมแท้ จานวน 6 คน

1) นางสาว ณัฐกานต์ จมู ดอก เลขที่ 6
2) นายก้องภพ พุทธขันธ์ เลขท่ี 18
3) นาย วศนิ ทองคา เลขที่ 20
4) นาย จิรพนั ธ์ พมิ เสน เลขที่ 5
5) นาย จกั รกฤษ์ กัลยาพนั ธ์ เลขที่ 19
6) นาย ไชวฒั น์ ทพิ นา เลขท่ี 10
คติประจาใจ ผับไม่เข้า เหลา้ ไมก่ นิ เชค็ อนิ แต่บริเวณวดั
๓)ชอ่ื ครูทปี่ รึกษา

นาง จนั ทา ทองนอ้ ย
๔)ระยะเวลาและสถานท่ี โรงเรียนเสนางคนิคม

วันท่ี 25 มิถนุ ายน พ.ศ.2564-วันที่ 30 กนั ยายน พ.ศ.2564
๕)ความเปน็ มาและความสาคัญของเรื่องทเ่ี คยศึกษาหรือประเด็นปญั หา(ความสาคัญ และเหตผุ ลในการศึกษา)
ขา้ วเป็นอาหารหลกั ของพลโลกมานานนับพันปี บางภูมิภาคนาขา้ วไปแปรรปู เป็นแปง้ เพอ่ื ปรุงแตง่ เปน็ อาหาร
สาหรับภูมิภาคเอเชียบริโภคข้าวในรปู ลกั ษณะด่งั เดิมและมีขา้ วหลากหลายพันธใุ์ หเ้ ลอื กสาหรบั ประเทศแล้ว
ข้าวหอมมะลถิ ือวา่ เป็นสดุ ยอดของขา้ วและกาลงั เป็นท่ตี ้องการของผนู้ ิยมบรโิ ภคขา้ วทวั่ โลกในชือ่ Jasmine
Rice

๖)วัตถปุ ระสงค์ของการศึกษา(ศกึ ษาเรอ่ื งหรือประเด็นปญั หา)
1.ดนิ

2.สภาพอากาศ
3.น้า

4.ปุ๋ยอินทรีย์
5.พนั ธ์ุข้าว
6.การเก็บเก่ียว
7.คณุ ธรรมจรยิ ธรรมท่เี ก่ียวข้อง
๗)สมมตฐิ านการศกึ ษา(ถ้ามี:การคาดว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้นบ้างเม่ือศึกษาเร่ืองหรือประเด็นปัญหานี้)
-ข้าวในเขตอาเภอเสนางคนคิ ม
๘)ขอบเขตการศึกษา ศึกษาเร่ืองหรอื ประเด็นปัญหาทจี่ ะศึกษาหรอื ปฎิบตั ิอะไรบา้ ง
-ศกึ ษาเกย่ี วกบั ขนั้ ตอนการปลูกข้าว
-ศกึ ษาโดยลงมือทา
๙)วธิ ีการดาเนนิ งาน (มีขน้ั ตอนการดาเนินงานศกึ ษาเอกสาร ทฤษฎีท่เี กีย่ วข้องอย่างไรบ้าง)
ข้ันตอนการดาเนินงาน
1)สารวจขอ้ มูลจากสอื่ สารมวลชน
2)ลงสารวจขอ้ มูลในพ้ืนท่ีและสัมภาษณ์บุคคลทีเ่ กีย่ วข้อง
3)วเิ คราะหป์ ระมวลผลการศึกษา
4)เรยี บเรียงเขยี นเป็นรูปเลม่ รายงาน
5)นาเสนอผลการศึกษาคน้ คว้า

๑๐)ประโยชนท์ ีค่ าดว่าจะได้รับ(การศึกษาหรือประเดน็ ปัญหานี้ แล้วคาดว่าจะได้เกดิ ประโยชนอ์ ย่างไร)
1)การแปลรูปขา้ ว

2)ได้เรียนรูผ้ ลิตภัณฑ์สนิ ค้าการจาหนา่ ยสนิ ค้า
๑๑)แหลง่ อา้ งอิง(หาขอ้ มลู มาจากไหนบ้าง)

1)สื่อสารมวลชน
2)บทสัมภาษณบ์ ุคคล

3)ที่เกษตรอาเภอ

ลงช่ือ นางสาว ณฐั กานต์ จูมดอก ผเู้ สนอโครงงาน
ลงช่อื นาย กอ้ งภพ พทุ ธขันธ์ ผเู้ สนอโครงงาน
ลงช่ือ นาย จิรพนั ธ์ พิมเสน ผเู้ สนอโครงงาน
ลงชอื่ นาย วศนิ ทองคา ผู้เสนอโครงงาน
ลงช่ือ นาย จักรกฤษ์ กัลยาพนั ธ์ ผู้เสนอโครงงาน
ลงช่ือ นาย ไชวัฒน์ ทิพนา ผู้เสนอโครงงาน

ขอ้ เสนอแนะครูท่ีปรึกษา
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................

ลงชอื่ .............................ครทู ี่ปรกึ ษา
( นาง จันทา ทองน้อง )

บทท่ี ๑
บทนา
โครงงานเรอ่ื ง ศึกษาปจั จยั ทที่ าให้ขา้ วหอมในเขตอาเภอเสนางคนคิ ม

ท่มี าและความสาคัญของโครงงาน
ขา้ วเป็นอาหารหลักของพลโลกมานานนับพันปี บางภูมภิ าคนาขา้ วไปแปรรปู เป็นแปง้ เพ่ือปรงุ แต่งเป็นอาหาร
สาหรบั ภมู ิภาคเอเชยี บริโภคข้าวในรปู ลักษณะด่ังเดิมและมีข้าวหลากหลายพนั ธ์ุให้เลอื กสาหรบั ประเทศแลว้
ขา้ วหอมมะลถิ ือว่าเปน็ สดุ ยอดของข้าวและกาลงั เปน็ ท่ตี ้องการของผู้นยิ มบรโิ ภคขา้ วทวั่ โลกในช่อื Jasmine
Rice

วัตถุประสงค์
-ศกึ ษาปจั จัยท่ีทาให้ข้าวหอมในเขตอาเภอเสนางคนิคม

ขอบเขตของโครงงาน
1.ดนิ

2.สภาพอากาศ
3.นา้

4.ปุย๋ อนิ ทรีย์
5.พันธ์ุขา้ ว
6.การเก็บเกี่ยว
7.คณุ ธรรมจรยิ ธรรมที่เก่ยี วข้อง
ประโยชน์ทีค่ าดว่าจะได้รบั จากการทาโครงงาน
1.การแปรรูปขา้ ว
2.ไดเ้ รียนรผู้ ลติ ภัณฑ์ สนิ ค้าการจาหนา่ ยสินคา้

บทที่ ๒
เอกสารท่เี ก่ียวข้อง

โครงงานเร่ือง ศึกษาปจั จยั ที่ทาให้ขา้ วหอมในเขตอาเภอเสนางคนคิ ม

เอกสารท่เี ก่ียวข้องกบั การทาโครงงานมดี ังน้ี
๑. บทสัมภาษณ์เรื่อง ศึกษาปัจจยั ทที่ าใหข้ า้ วหอมในเขตอาเภอเสนางคนิคม

๒. เอกสารเร่อื ง

บทท่ี ๓
ขนั้ ตอนการดาเนนิ งาน
โครงงาน เรอ่ื งศึกษาปัจจยั ที่ทาใหข้ ้าวหอมในเขตอาเภอเสนางคนคิ ม

ข้นั ตอนการดาเนนิ โครงงาน เรอื่ งศึกษาปจั จัยท่ีทาให้ข้าวหอมในเขตอาเภอเสนางคนคิ ม
มดี ังนี้

ขั้นที่ 1 หว่านถัว่ พรา้ กบไถตอฟาง
ไมเ่ ผานา เปน็ มติ รกบั ส่ิงแวดล้อม
ขนั้ ที่ 2 ทาปยุ๋ หมักข้ีอ้อย+ขไี้ ก+่ กากน้าตาลและนา้ หอมมัก คลมุ ดว้ ยผา้ ใบ2เดือน

ขน้ั ท่ี 3 หว่านปยุ๋ หมัก
ขั้นที่ 4 ไถกบปยุ๋ พืชสดถ่ัวรา้ หมัดจนเปื่อย แลว้ จงึ หว่านข้าว /ปกั ดา

ข้ันที่ 5 ดูแลตน้ ข้าว ดว้ ยการถอนหญา้
ข้ันท่ี 6 เกบ็ เกยี่ วระยะพลับพลงึ เพอ่ื รกั ษาแรธ่ าตุและวติ ามนิ อยา่ งดี

ขัน้ ที่ 7 นาขา้ วทเี่ กย่ี วเสรจ็ มาตากใหแ้ หง้ สนทิ
ขั้นท่ี 8 เก็บใส่กระสอบใหเ้ รียบรอ้ ย

ข้ันที่ 9 นามาข้าวมาแปรรปู มี 2 ชนิด คอื

1. ข้าวสารขาวขัดสีหอมมะลนิ าข้าวเปลือกประเภทข้าวจา้ วหอมมะลิไปสีแลว้ เกบ็ กากขา้ วออก แพ็คใสถ่ งุ
สญุ ญากาศ +ถุงกันชื้น ตดิ สต๊ิกเกอร์ตราขา้ ว

2.ข้าวกลอ้ งหอมไตรลกั ษณ์ โดยนาข้าวเปลอื ก 4 สายพันธุ์(ข้าวสดี า+แดง+สที อง+สขี าว) ไปสโี ดยใชโ้ รงสีขา้ ว
กลอ้ ง กระเทาะเปลือกออกไม่ขดั สี จะเหลอื กากเสน้ ใยหุ้มเมลด็ ขา้ วอดุ มดว้ ยวติ ามิน แรธ่ าตจุ ากธรรมชาตคิ รบ
สมบูรณ์ แลว้ เก็บกากข้าวออก แพ็คใสถ่ งุ สญุ ญากาศ +ถุงกนั ช้ืน ตดิ สติก๊ เกอรต์ ราขา้ ว บรรจลุ งั ข้าวสง่ ให้
ลกู ค้า

ทาไมจงึ ต้งั ราคาขา้ วขายปลีกสูงกวา่ ท้องตลาด

1. จดุ เดน่ ของข้าวอนิ ทรยี ไ์ ตรลกั ษณ์ คือเปน็ ข้าวหอมสตู รพเิ ศษ

คาวา่ ข้าวหอมอนิ ทรยี ์ หมายถึง ข้าวอนิ ทรยี ์ทีป่ ลูกในเขตตาบลหนองสามสีและตาบลนาเวยี ง อาเภอเสนางค
นคิ ม จงั หวัดอานาจเจริญ เป็นเขตขา้ วหอมโดยใชอ้ นิ ทรยี วัตถุ เป็นข้าวหอมพิเศษเกดิ จากปจั จัยหลายอยา่ งคือ
ดฉิ นั นางจันทา ทองน้อย ผ้ผู ลิตข้าวหอมอนิ ทรยี ์ไตรลักษณ์ตราธาตสุ ี่ เป็นสมาชิกโครงการ นาแปลงใหญบ่ ้าน
หนองสามสี มคี วามสงสัยว่าขา้ วที่ปลูกในทน่ี าตนเองทาไมจึงหอมนุ่มอร่อย จึงไปหาคาตอบโดยการสัมภาษณ์
นางสาวศศฉิ าย มลีรตั น์ เจา้ หนา้ ทโ่ี ครงการนาแปลงใหญแ่ ละนายธวชั ชัย พรมรกั ษา เจ้าพนักงานธุรการ
อาวโุ ส ศูนย์วจิ ยั ข้าวอุบลราชธานี ทงั้ สองทา่ นใหข้ ้อมูลว่า สาเหตุทท่ี าให้ข้าวในเขตอาเภอเสนางคนิคม หอม มี
๖ ปัจจัยหลกั คอื

๑) อาเภอเสนางคนคิ มเปน็ เขตพ้ืนท่ีพเิ ศษคือ พน้ื ดินเปน็ แอง่ กะทะ ดนิ รว่ นปนทรายและหนิ ลูกรัง จะมี
แร่ธาตสุ าหรับเปน็ อาหารตน้ ข้าวสูง โดยเฉพาะ ธาตฟุ อสฟอรสั จะทาให้ขา้ วหอม

๒) อาเภอเสนางคนคิ มเปน็ เขตท่เี สน้ รงุ้ เสน้ แวงทามุมพอดีเหมาะสาหรับการเจริญเติบโตของตน้ ข้าว
โดยเฉพาะในฤดูข้าวต้งั ท้องจะมีแสงแดดทามุมสังเคราะห์แสงกับต้นข้าวพอดีทาใหต้ ้นข้าวมีการเจริญเติบโตได้
ดีหลั่งสารหอมออกมาเคลือบเมลด็ ขา้ ว ทาใหเ้ มลด็ ข้าวนัน้ หอมต่างจากเขตพนื้ ท่อี น่ื แต่ควรสีเปน็ ขา้ วกล้อง
เพราะขา้ วกลอ้ งไมไ่ ด้ขดั เสน้ ใยทม่ี คี ณุ ค่าออกจากเมลด็ ซึง่ จะรักษาคุณค่าทางอาหารได้ดี

๓)พืน้ ทอ่ี าเภอเสนางคนคิ มเป็นเขตแห้งแล้ง แม้จะมีฤดูฝนกต็ าม ฝนจะท้งิ ชว่ ง ทาให้ตน้ ขา้ วรับนา้ ได้ไม่
เต็มท่ีจึงเปน็ ลักษณะแห้งสลับเปยี ก ช่วงน้าแหง้ ฝนท้งิ ชว่ งทาใหต้ น้ ข้าวเครียด ตน้ ขา้ วจะหลั่งสารชนิดหนึง่
ออกมาหมุ้ เมล็ดข้าวทาให้ขา้ วหอม

๔)เสนห่ ข์ องความหอมอีกวธิ หี นึง่ คือต้องเกีย่ วในระยะพลับพลงึ ขา้ วจะมเี ส้นใยสเี ขยี วมรกตสวยมากหุ้ม
เมล็ดข้าวทาให้ มีสารกาบา วิตามนิ และแรธ่ าตทุ เี่ ป็นแระโยชน์ตอ่ รา่ งกายสงู มาก.

๕)ขา้ วจะหอมไดด้ ตี ้องเป็นข้าวปลูกด้วยอินทรยี ์วตั ถุเพราะถา้ ใส่ ป๋ยุ เคมี ป๋ยุ ยเู รีย ยาฆ่าแมลงและยาฆา่
หญ้าจะ ไปทาลายความหอมของขา้ วลดลง และเปน็ อันตรายต่อสุขภาพผ้บู ริโภคด้วย ในเขตพืน้ ทอ่ี าเภอเส
นางคนิคมจึงควรปลูกข้าวอนิ ทรยี ์เป็นหลัก เพื่อรักษาความหอมของข้าวไดด้ ี ให้สมกับได้ชือ่ ว่าเป็นดนิ แดนขา้ ว
หอม นมุ่ หวานอร่อย ดว้ ยเหตุนี้ผู้ผลิตจงึ ไดห้ นั มาปลูกขา้ วอินทรยี ์ โดยใช้อนิ ทรยี ์วัตถุ เช่น ทาปุ๋ยพืชสด ปลกู
ถ่วั พรา้ ไถกบตอฟาง ใช้น้าหมักชีวภาพทาปยุ๋ หมักและใชป้ ุ๋ยอนิ ทรยี ์ตรางอกงามผ่านมาตรฐาน อมก.เปน็ หลัก
เพอ่ื เสรมิ แร่ธาตุในดิน

๖) คัดเลอื กพันธ์ุดี รสชาตินมุ่ กล่นิ หอม
อดุ มดว้ ยวติ ามิน แรธ่ าตุสงู มี ๔ สายพันธ์ุ
๗) ผูผ้ ลิตใชศ้ ลี ๕ เป็นหลักในการดาเนนิ ขวี ิต รักษาสจั จะในการผลติ ขา้ วอนิ ทรีย์

๒.คา่ ตน้ ทนุ การผลิตดงั น้ี
๑) ค่าอดั แพ็คถงุ สญู ญากาศ แบบดมี ีมาตรฐาน ความหนา150 ไมครอน

(4-5บาท/กก.)
๒)คา่ ตีตราข้าว(3-5บาท/กก.)

๓)ค่าสีขา้ ว(4-5บาท/กก.)
๔)คา่ สารกนั ความช้ืน(2-3บาท/กก.)
๕)ค่าเกบ็ สง่ิ ปฏิกูลออกจากขา้ ว ใหส้ ะอาด กก.ละ 3 -5 บาท
๖) ค่าเสีย่ งการเกบ็ ข้าวไว้รอลูกคา้
เส่ียงตอ่ มอด +หน+ู นกกนิ ไม่ใชย้ าฆา่ แมลงพ่นกนั สตั ว์กินข้าว+คา่ เสี่ยงตอ่ ข้าวหกตกหล่น +ค่าเสี่ยงแยก
เมลด็ ข้าวหกั กับปลายขา้ วออกจากกันทาให้น้าหนักลด

๗)คา่ ตน้ ทุนการผลิตขา้ ว
-คา่ ปุ๋ยอินทรยี ง์ อมงามไร่ละ๒-๓ กระสอบๆละ ๒๒๐ บาท=๖๖๐/ไร่

-คา่ จา้ งหวา่ นป๋ยุ กระสอบละ๑๐๐ บาท
-คา่ ปุย๋ หมกั ไรล่ ะ ๑,๐๐๐ บาท

-ค่าถว่ั พร้าสากรบั ทาปยุ๋ พชื สด กก.ละ๑๘ บาทไรล่ ะ๔ กก.= ๙๐
-จา้ งไถกบ ไร่๕๐๐ บาท

-ค่าจ้างหวา่ นถัว่ พร้า ไรล่ ะ๓๕ บาท
-ค่าจ้างไถกบต้นถัว่ พร้าเพ่อื เป็นปุ๋ยพขื สด ไรล่ ะ ๒๐๐-๓๐๐ บาท

-ค่าจ้างไถทวนไร่ละ ๒๐๐-๓๐๐ บาท
-คา่ จา้ งไถหวา่ นไร่ละ๒๐๐-๓๐๐ บาท
-ค่าจา้ งหวา่ นข้าวไร่ละ ๑๐๐ บาท

-ค่าจ้างไถดา ๒๐๐-๓๐๐ บาท
-คา่ จา้ งถอนกลา้ มัดละ ๕-,๑๐ บาท
-ค่าจา้ งดา มัดละ๗ -๑๐ บาทหรอื วีนละ๓๐๐-๔๕๐ บาท
-คา่ จา้ ง ถอนหญ้าวันละ๓๐๐ บาท
-ค่าจา้ งอัดคนั นา ถ้าคันนาขาด จุดละ ๑๐๐-๒๐๐บาท
-ปไี หนแลง้ จดั ต้องเสียคา่ น้ามันเขื้อเพลิงสูบนา้ ใสข่ ้าว อย่างปี๒๕๖๓ สูบน้าเกือบ๒ เดอื นใส่นาขา้ ว

-ค่าเกย่ี วไร่ละ๗๐๐ บาท
-ค่าขนข้าวเทีย่ วละ ๑๐๐ บาท
-ค่าตากข้าว กระสอบละ๒๐ บาท
-คา่ วัสดอุ ุปกรณ์ตากขา้ วผ้าลาน+คราดกวาดขา้ ว+กระสอบ+บรรจุข้าวเปลือก

๓.ค่าจา้ งโปรโมทโฆษณา+ให้ทดลองทานข้าวฟรีระยะเวลาใด สรปุ ผล

บทที่ ๔
เนอ้ื หาโครงงาน
เร่อื ง ศึกษาปัจจยั ท่ีใหข้ ้าวหอมในเขตอาเภอเสนางคนคิ ม

ทม่ี าและความสาคัญของโครงงาน
ข้าวเปน็ อาหารหลักของพลโลกมานานนบั พันปี บางภมู ภิ าคนาข้าวไปแปรรปู เป็นแปง้ เพ่ือปรุงแต่งเป็นอาหาร
สาหรบั ภูมภิ าคเอเชียบริโภคข้าวในรูปลกั ษณะดง่ั เดิมและมีขา้ วหลากหลายพันธุใ์ หเ้ ลอื กสาหรับประเทศแลว้
ข้าวหอมมะลถิ ือว่าเป็นสดุ ยอดของข้าวและกาลงั เป็นที่ต้องการของผนู้ ิยมบรโิ ภคข้าวทว่ั โลกในช่อื Jasmine
Rice

วตั ถุประสงค์
-ศึกษาปจั จัยท่ีทาให้ข้าวหอมในเขตอาเภอเสนางคนิคม

ขอบเขตของโครงงาน
1.ดนิ

2.สภาพอากาศ
3.นา้

4.ป๋ยุ อินทรยี ์
5.พนั ธขุ์ ้าว
6.การเก็บเกยี่ ว
7.คณุ ธรรมจริยธรรมทีเ่ กย่ี วข้อง
ประโยชนท์ ่คี าดว่าจะไดร้ ับจากการทาโครงงาน
1.การแปรรปู ขา้ ว
2.ไดเ้ รียนรู้ผลติ ภัณฑ์ สินค้าการจาหนา่ ยสนิ คา้

ขนั้ ตอนการดาเนินโครงงาน เรื่องศึกษาปจั จยั ที่ทาให้ข้าวหอมในเขตอาเภอเสนางคนคิ ม
มดี ังนี้

ขนั้ ที่ 1 หว่านถ่วั พร้ากบไถตอฟาง
ไม่เผานา เป็นมติ รกบั สิ่งแวดล้อม
ขน้ั ท่ี 2 ทาปุย๋ หมักขี้อ้อย+ขไ้ี ก+่ กากน้าตาลและนา้ หอมิ ัก คลุมดว้ ยผ้าใบ2เดือน

ขั่นที่ 3 หวา่ นป๋ยุ หมัก
ขนั้ ที่ 4 ไถกบป๋ยุ พืชสดถวั่ ะรา้ หมดั จนเปอ่ื ย แล้วจึงหว่านข้าว /ปักดา

ขน้ั ทั่ 5 ดแู ลต้นข้าว ดว้ ยการถอนหญา้
ข้ันท่ี 6 เก็บเกยี่ วระยะพลบั พลึง เพอ่ื รักษาแรธ่ าตุและวติ ามนิ อยา่ งดี

ขน้ั ท่ี 7 นาขา้ วที่เก่ียวเสรจ็ มาตากใหแ้ หง้ สนิท
ข้นั ท่ี 8 เกบ็ ใส่กระสอบให้เรียบรอ้ ย

ขั้นที่ 9 นามาข้าวมาแปรรปู มี 2 ชนดิ คอื

1. ข้าวสารขาวขัดสหี อมมะลินาขา้ วเปลอื กประเภทข้าวจ้าวหอมมะลิไปสแี ล้วเกบ็ กากขา้ วออก แพค็ ใส่ถุง
สุญญากาศ +ถุงกนั ชื้น ติดสต๊ิกเกอรต์ ราข้าว

2.ข้าวกลอ้ งหอมไตรลักษณ์ โดยนาขา้ วเปลอื ก 4 สายพนั ธ(์ุ ข้าวสดี า+แดง+สีทอง+สขี าว) ไปสีโดยใช้โรงสีข้าว
กลอ้ ง กระเทาะเปลือกออกไม่ขัดสี จะเหลอื กากเส้นใยหุ้มเมลด็ ข้าวอุดมด้วยวติ ามนิ แรธ่ าตุจากธรรมชาตคิ รบ
สมบรู ณ์ แล้วเกบ็ กากข้าวออก แพ็คใสถ่ ุงสุญญากาศ +ถุงกันช้นื ติดสต๊กิ เกอรต์ ราขา้ ว บรรจุลังข้าวสง่ ให้
ลูกค้า

ทาไมจึงต้งั ราคาขา้ วขายปลีกสูงกว่าท้องตลาด

1. จดุ เด่นของข้าวอนิ ทรีย์ไตรลกั ษณ์ คือเป็นขา้ วหอมสูตรพิเศษ

คาวา่ ขา้ วหอมอินทรีย์ หมายถึง ข้าวอินทรยี ์ทีป่ ลูกในเขตตาบลหนองสามสีและตาบลนาเวียง อาเภอเสนางค
นิคม จังหวัดอานาจเจรญิ เป็นเขตขา้ วหอมโดยใช้อนิ ทรยี วัตถุ เป็นข้าวหอมพิเศษเกดิ จากปจั จัยหลายอย่างคอื
ดฉิ นั นางจนั ทา ทองน้อย ผผู้ ลติ ข้าวหอมอนิ ทรยี ์ไตรลกั ษณต์ ราธาตุสี่ เป็นสมาชิกโครงการ นาแปลงใหญ่บ้าน
หนองสามสี มคี วามสงสัยวา่ ข้าวที่ปลกู ในท่ีนาตนเองทาไมจงึ หอมนุม่ อรอ่ ย จงึ ไปหาคาตอบโดยการสัมภาษณ์
นางสาวศศิฉาย มลรี ตั น์ เจา้ หน้าท่โี ครงการนาแปลงใหญ่และนายธวชั ชยั พรมรักษา เจ้าพนักงานธรุ การ
อาวโุ ส ศนู ย์วจิ ัยขา้ วอบุ ลราชธานี ท้ังสองทา่ นให้ขอ้ มูลว่า สาเหตทุ ่ที าใหข้ ้าวในเขตอาเภอเสนางคนิคม หอม มี
๖ ปัจจัยหลักคือ

๑) อาเภอเสนางคนคิ มเป็นเขตพน้ื ที่พเิ ศษคือ พื้นดินเป็นแอ่งกะทะ ดินรว่ นปนทรายและหินลูกรัง จะมี
แรธ่ าตุสาหรบั เปน็ อาหารตน้ ข้าวสงู โดยเฉพาะ ธาตุฟอสฟอรัสจะทาใหข้ ้าวหอม

๒) อาเภอเสนางคนิคมเป็นเขตท่เี สน้ รงุ้ เสน้ แวงทามุมพอดเี หมาะสาหรับการเจรญิ เติบโตของต้นขา้ ว
โดยเฉพาะในฤดูขา้ วตงั้ ท้องจะมีแสงแดดทามมุ สังเคราะห์แสงกบั ตน้ ข้าวพอดีทาให้ต้นข้าวมกี ารเจริญเตบิ โตได้
ดีหลั่งสารหอมออกมาเคลือบเมลด็ ข้าว ทาใหเ้ มลด็ ข้าวนน้ั หอมต่างจากเขตพ้นื ทอ่ี ่นื แต่ควรสีเป็นขา้ วกลอ้ ง
เพราะขา้ วกล้องไม่ได้ขัดเสน้ ใยที่มีคุณคา่ ออกจากเมล็ดซ่ึงจะรกั ษาคุณคา่ ทางอาหารได้ดี

๓)พ้นื ท่ีอาเภอเสนางคนคิ มเป็นเขตแห้งแล้ง แมจ้ ะมีฤดูฝนก็ตาม ฝนจะทง้ิ ชว่ ง ทาให้ตน้ ขา้ วรบั น้าได้ไม่
เต็มท่ีจึงเปน็ ลักษณะแหง้ สลับเปยี ก ชว่ งนา้ แห้งฝนทงิ้ ช่วงทาให้ต้นข้าวเครยี ด ตน้ ขา้ วจะหลง่ั สารชนดิ หนง่ึ
ออกมาหุม้ เมล็ดขา้ วทาใหข้ า้ วหอม

๔)เสน่ห์ของความหอมอกี วิธีหนงึ่ คือต้องเก่ียวในระยะพลับพลึงข้าวจะมเี สน้ ใยสีเขยี วมรกตสวยมากหุ้ม
เมลด็ ข้าวทาให้ มสี ารกาบา วิตามินและแร่ธาตุทเ่ี ป็นแระโยชน์ต่อร่างกายสูงมาก.

๕)ข้าวจะหอมได้ดตี ้องเปน็ ขา้ วปลูกด้วยอินทรยี ์วัตถเุ พราะถ้าใส่ ปยุ๋ เคมี ปยุ๋ ยเู รีย ยาฆ่าแมลงและยาฆ่าหญ้าจะ
ไปทาลายความหอมของขา้ วลดลง และเปน็ อันตรายตอ่ สุขภาพผ้บู ริโภคด้วย ในเขตพนื้ ทอ่ี าเภอเสนางคนิคมจงึ
ควรปลูกขา้ วอินทรียเ์ ปน็ หลัก เพอ่ื รักษาความหอมของขา้ วไดด้ ี ให้สมกับได้ช่อื วา่ เป็นดินแดนขา้ วหอม นมุ่
หวานอร่อย ดว้ ยเหตุนผ้ี ผู้ ลิตจงึ ไดห้ ันมาปลูกขา้ วอนิ ทรีย์ โดยใช้อินทรยี ว์ ัตถุ เชน่ ทาป๋ยุ พืชสด ปลูกถ่วั พร้า ไถ
กบตอฟาง ใช้นา้ หมักชีวภาพทาปุย๋ หมกั และใชป้ ุ๋ยอนิ ทรยี ต์ รางอกงามผา่ นมาตรฐาน อมก.เปน็ หลกั เพ่อื เสริม
แรธ่ าตใุ นดิน

๖) คัดเลือกพันธุด์ ี รสชาตินุม่ กล่ินหอม
อดุ มดว้ ยวติ ามิน แรธ่ าตุสงู มี ๔ สายพนั ธุ์
๗) ผูผ้ ลิตใช้ศลี ๕ เป็นหลกั ในการดาเนินขีวติ รกั ษาสัจจะในการผลติ ขา้ วอนิ ทรีย์

๒.ค่าต้นทุนการผลติ ดังน้ี
๑) คา่ อัดแพ็คถุงสญู ญากาศ แบบดีมมี าตรฐาน ความหนา150 ไมครอน

(4-5บาท/กก.)
๒)คา่ ตีตราข้าว(3-5บาท/กก.)

๓)คา่ สขี า้ ว(4-5บาท/กก.)
๔)ค่าสารกันความชื้น(2-3บาท/กก.)
๕)คา่ เกบ็ สิง่ ปฏิกลู ออกจากขา้ ว ใหส้ ะอาด กก.ละ 3 -5 บาท
๖) คา่ เสย่ี งการเกบ็ ข้าวไวร้ อลูกค้า
เส่ยี งตอ่ มอด +หนู+นกกนิ ไม่ใชย้ าฆา่ แมลงพน่ กันสัตว์กินขา้ ว+คา่ เส่ียงต่อข้าวหกตกหลน่ +คา่ เส่ยี งแยก
เมล็ดขา้ วหกั กบั ปลายขา้ วออกจก่ กนั ทาให้น้าหนักลด

๗)ค่า ต้นทุนการผลติ ขา้ ว
-ค่าปุย๋ อินทรียง์ อมงามไรล่ ะ๒-๓ กระสอบๆละ ๒๒๐ บาท=๖๖๐/ไร่
-คา่ จา้ งหว่านปุ๋ยกระสอบละ๑๐๐ บาท
-คา่ ป๋ยุ หมกั ไรล่ ะ ๑,๐๐๐ บาท
-คา่ ถัว่ พร้าสากรับทาปุย๋ พชื สด กก.ละ๑๘ บาทไรล่ ะ๔ กก.= ๙๐
-จ้างไถกบ ไร่๕๐๐ บาท
-ค่าจ้างหว่านถัว่ พร้า ไร่ละ๓๕ บาท
-ค่าจ้างไถกบตน้ ถ่วั พร้าเพ่ือเป็นปยุ๋ พืชสด ไร่ละ ๒๐๐-๓๐๐ บาท
-คา่ จ้างไถทวนไรล่ ะ ๒๐๐-๓๐๐ บาท
-คา่ จ้างไถหว่านไร่ละ๒๐๐-๓๐๐ บาท
-คา่ จา้ งหวา่ นข้าวไร่ละ ๑๐๐ บาท
-ค่าจา้ งไถดา ๒๐๐-๓๐๐ บาท
-ค่าจา้ งถอนกล้ามัดละ ๕-,๑๐ บาท
-ค่าจา้ งดา มดั ละ๗ -๑๐ บาทหรือวันละ๓๐๐-๔๕๐ บาท
-คา่ จา้ ง ถอนหญา้ วนั ละ๓๐๐ บาท
-คา่ จ้างอดั คนั นา ถ้าคนั นาขาด จุดละ ๑๐๐-๒๐๐บาท
-ปีไหนแลง้ จดั ต้องเสยี ค่านา้ มันเช้ือเพลิงสบู น้าใส่ขา้ ว อยา่ งปี๒๕๖๓ สบู น้าเกือบ๒ เดอื นใสน่ าขา้ ว
-คา่ เก่ยี วไร่ละ๗๐๐ บาท
-คา่ ขนข้าวเทยี่ วละ ๑๐๐ บาท
-ค่าตากข้าว กระสอบละ๒๐ บาท
-ค่าวัสดุอปุ กรณ์ตากขา้ วผา้ ลาน+คราดกวาดข้าว+กระสอบ+บรรจุข้าวเปลือก

๓.คา่ จ้างโปรโมทโฆษณา+ให้ทดลองทานข้าวฟรีระยะเวลาใด สรปุ ผล

ขา้ วเป็นอาหารหลกั ของพลโลกมานานนับพันปี บางภมู ภิ าคนาขา้ วไปแปรรปู เปน็ แป้งเพ่ือปรงุ แต่งเปน็
อาหารสาหรับภมู ิภาคเอเชียบริโภคข้าวในรูปลักษณะดัง่ เดิมและมขี ้าวหลากหลายพนั ธุ์ใหเ้ ลอื กสาหรับประเทศ
แล้วขา้ วหอมมะลถิ ือวา่ เป็นสดุ ยอดของข้าวและกาลงั เปน็ ท่ีตอ้ งการของผนู้ ยิ มบริโภคขา้ วทัว่ โลกในชือ่
Jasmine Rice การทจี่ ะทาให้ขา้ วคุณภาพดีและหอมน้นั ขึ้นอยูก่ บั วตั ถปุ ระสงค์7ประเภท คอื 1)ดนิ 2)สภาพ
อากาศ 3)น้า 4)ป๋ยุ อนิ ทรยี ์ 5)พนั ธข์ุ า้ ว 6)การเก็บเก่ยี ว 7)คุณธรรมจริยธรรมทเี่ กี่ยวข้อง ข้าวอินทรียท์ ่ปี ลูกใน
เขตตาบลหนองสามสแี ละตาบลนาเวยี ง อาเภอเสนางคนิคม จงั หวัดอานาจเจริญ เป็นเขตข้าวหอมโดยใช้
อินทรียวัตถุ เปน็ ข้าวหอมพเิ ศษเกดิ จากปัจจัยหลายอยา่ งคือ ดฉิ ันนางจนั ทา ทองน้อย ผ้ผู ลติ ขา้ วหอมอินทรยี ์
ไตรลกั ษณ์ตราธาตุสี่ เปน็ สมาชกิ โครงการ นาแปลงใหญ่บ้านหนองสามสี มีความสงสยั ว่าข้าวทป่ี ลูกในที่นา
ตนเองทาไมจงึ หอมนุ่มอร่อย จึงไปหาคาตอบโดยการสัมภาษณ์ นางสาวศศิฉาย มลีรตั น์ เจา้ หน้าที่โครงการนา
แปลงใหญแ่ ละนายธวัชชยั พรมรกั ษา เจ้าพนกั งานธรุ การ อาวโุ ส ศนู ยว์ ิจัยข้าวอบุ ลราชธานี ท้ังสองทา่ นให้
ข้อมลู ว่า สาเหตุที่ทาใหข้ ้าวในเขตอาเภอเสนางคนิคม หอม

บทที่ ๕
บทสรปุ ผลทีไ่ ดจ้ ากการทาโครงงาน
เร่ือง ศกึ ษาปจั จัยท่ีทาใหข้ ้าวหอมในอาเภอเสนางคนิคม
ทม่ี าและความสาคัญของโครงงาน
ขา้ วเป็นอาหารหลกั ของพลโลกมานานนับพันปี บางภูมภิ าคนาขา้ วไปแปรรปู เป็นแป้งเพอ่ื ปรุงแตง่ เป็นอาหาร
สาหรบั ภูมิภาคเอเชียบรโิ ภคข้าวในรูปลักษณะดง่ั เดิมและมีขา้ วหลากหลายพนั ธ์ใุ ห้เลอื กสาหรบั ประเทศแลว้
ขา้ วหอมมะลิถือว่าเปน็ สุดยอดของข้าวและกาลังเป็นที่ต้องการของผ้นู ิยมบริโภคขา้ วทั่วโลกในช่อื Jasmine
Rice

วตั ถปุ ระสงค์
-ศกึ ษาปจั จัยที่ทาให้ขา้ วหอมในเขตอาเภอเสนางคนิคม

ขอบเขตของโครงงาน
1.ดนิ

2.สภาพอากาศ
3.น้า

4.ปุย๋ อนิ ทรีย์
5.พนั ธุ์ขา้ ว
6.การเก็บเก่ียว
7.คุณธรรมจรยิ ธรรมทีเ่ กย่ี วข้อง
ประโยชน์ท่คี าดว่าจะได้รับจากการทาโครงงาน
1.การแปรรปู ข้าว
2.ไดเ้ รียนร้ผู ลติ ภัณฑ์ สินค้าการจาหน่ายสินคา้

ท่ีมาและความสาคัญของโครงงาน
ข้าวเป็นอาหารหลักของพลโลกมานานนับพันปี บางภูมภิ าคนาขา้ วไปแปรรูปเป็นแป้งเพ่อื ปรุงแต่งเป็นอาหาร
สาหรับภมู ภิ าคเอเชยี บรโิ ภคข้าวในรูปลักษณะด่งั เดิมและมีขา้ วหลากหลายพนั ธ์ุให้เลือกสาหรบั ประเทศแล้ว
ข้าวหอมมะลิถือว่าเป็นสดุ ยอดของขา้ วและกาลงั เปน็ ทต่ี ้องการของผ้นู ยิ มบริโภคข้าวท่วั โลกในชื่อ Jasmine
Rice

วตั ถปุ ระสงค์
-ศกึ ษาปัจจัยที่ทาให้ขา้ วหอมในเขตอาเภอเสนางคนิคม

ขอบเขตของโครงงาน
1.ดนิ

2.สภาพอากาศ
3.น้า

4.ปยุ๋ อนิ ทรยี ์
5.พนั ธุ์ข้าว
6.การเก็บเก่ยี ว
7.คณุ ธรรมจริยธรรมท่เี ก่ียวข้อง
ประโยชน์ทคี่ าดวา่ จะได้รับจากการทาโครงงาน
1.การแปรรปู ขา้ ว
2.ไดเ้ รียนร้ผู ลติ ภัณฑ์ สนิ คา้ การจาหนา่ ยสินคา้
ขั้นตอนการดาเนินโครงงาน เร่ืองศึกษาปจั จัยท่ีทาให้ข้าวหอมในเขตอาเภอเสนางคนคิ ม
มีดงั น้ี
ขน้ั ท่ี 1 หวา่ นถ่ัวพร้ากบไถตอฟาง
ไม่เผานา เปน็ มติ รกบั สงิ่ แวดล้อม
ขัน้ ท่ี 2 ทาปยุ๋ หมักขี้อ้อย+ข้ีไก่+กากน้าตาลและนา้ หอิมัก คลุมดว้ ยผา้ ใบ2เดือน

ขนั่ ท่ี 3 หวา่ นปยุ๋ หมัก
ขัน้ ที่ 4 ไถกบปยุ๋ พชื สดถว่ั ะรา้ หมัดจนเปอ่ื ย แล้วจึงหว่านข้าว /ปกั ดา

ข้ันทั่ 5 ดูแลต้นข้าว ด้วยการถอนหญา้
ข้ันที่ 6 เก็บเก่ียวระยะพลับพลงึ เพ่อื รกั ษาแร่ธาตแุ ละวิตามนิ อยา่ งดี

ขัน้ ท่ี 7 นาขา้ วทเ่ี กย่ี วเสร็จมาตากให้แห้งสนทิ
ขน้ั ที่ 8 เก็บใส่กระสอบให้เรียบรอ้ ย

ข้นั ที่ 9 นามาข้าวมาแปรรูป มี 2 ชนิด คือ

1. ขา้ วสารขาวขดั สีหอมมะลินาข้าวเปลอื กประเภทข้าวจ้าวหอมมะลิไปสแี ล้วเก็บกากขา้ วออก แพ็คใส่ถุง
สุญญากาศ +ถุงกนั ชืน้ ตดิ สติ๊กเกอร์ตราข้าว

2.ข้าวกล้องหอมไตรลักษณ์ โดยนาขา้ วเปลือก 4 สายพนั ธ(์ุ ขา้ วสีดา+แดง+สีทอง+สีขาว) ไปสีโดยใช้โรงสขี ้าว
กลอ้ ง กระเทาะเปลือกออกไม่ขัดสี จะเหลอื กากเส้นใยหุ้มเมลด็ ขา้ วอุดมดว้ ยวิตามิน แรธ่ าตุจากธรรมชาติครบ
สมบรู ณ์ แล้วเก็บกากขา้ วออก แพ็คใส่ถงุ สญุ ญากาศ +ถุงกันชื้น ติดสต๊กิ เกอร์ตราข้าว บรรจลุ ังข้าวสง่ ให้
ลูกคา้

ทาไมจึงต้งั ราคาข้าวขายปลีกสูงกว่าท้องตลาด

1. จดุ เดน่ ของข้าวอนิ ทรีย์ไตรลกั ษณ์ คือเป็นขา้ วหอมสตู รพเิ ศษ

คาวา่ ขา้ วหอมอินทรีย์ หมายถึง ข้าวอินทรยี ์ทีป่ ลกู ในเขตตาบลหนองสามสีและตาบลนาเวียง อาเภอเสนางค
นิคม จังหวัดอานาจเจรญิ เป็นเขตขา้ วหอมโดยใช้อินทรยี วัตถุ เป็นขา้ วหอมพิเศษเกดิ จากปจั จัยหลายอยา่ งคอื
ดฉิ นั นางจนั ทา ทองน้อย ผผู้ ลติ ข้าวหอมอนิ ทรยี ์ไตรลกั ษณต์ ราธาตสุ ่ี เป็นสมาชิกโครงการ นาแปลงใหญ่บ้าน
หนองสามสี มคี วามสงสัยวา่ ข้าวที่ปลกู ในท่ีนาตนเองทาไมจงึ หอมนมุ่ อร่อย จงึ ไปหาคาตอบโดยการสัมภาษณ์
นางสาวศศิฉาย มลรี ตั น์ เจา้ หน้าท่โี ครงการนาแปลงใหญ่และนายธวัชชัย พรมรักษา เจ้าพนักงานธรุ การ
อาวโุ ส ศนู ย์วจิ ัยข้าวอบุ ลราชธานี ท้ังสองทา่ นให้ขอ้ มูลว่า สาเหตทุ ่ีทาให้ข้าวในเขตอาเภอเสนางคนิคม หอม มี
๖ ปัจจัยหลักคือ

๑) อาเภอเสนางคนคิ มเป็นเขตพน้ื ที่พเิ ศษคือ พื้นดินเป็นแอง่ กะทะ ดินรว่ นปนทรายและหินลูกรัง จะมี
แรธ่ าตุสาหรบั เป็นอาหารตน้ ข้าวสงู โดยเฉพาะ ธาตฟุ อสฟอรัสจะทาใหข้ ้าวหอม

๒) อาเภอเสนางคนิคมเป็นเขตท่เี สน้ รงุ้ เส้นแวงทามุมพอดีเหมาะสาหรับการเจรญิ เติบโตของต้นข้าว
โดยเฉพาะในฤดูข้าวตงั้ ท้องจะมีแสงแดดทามมุ สังเคราะห์แสงกบั ตน้ ข้าวพอดีทาให้ต้นข้าวมกี ารเจริญเตบิ โตได้
ดีหลั่งสารหอมออกมาเคลือบเมลด็ ข้าว ทาใหเ้ มลด็ ข้าวนน้ั หอมต่างจากเขตพ้ืนทอ่ี ่นื แต่ควรสีเป็นขา้ วกลอ้ ง
เพราะขา้ วกล้องไม่ได้ขัดเสน้ ใยที่มีคุณคา่ ออกจากเมล็ดซ่ึงจะรกั ษาคุณค่าทางอาหารได้ดี

๓)พ้นื ท่ีอาเภอเสนางคนคิ มเป็นเขตแห้งแล้ง แมจ้ ะมีฤดูฝนก็ตาม ฝนจะทง้ิ ชว่ ง ทาให้ตน้ ขา้ วรบั น้าได้ไม่
เต็มท่ีจึงเปน็ ลักษณะแหง้ สลับเปยี ก ชว่ งนา้ แห้งฝนทงิ้ ช่วงทาให้ต้นขา้ วเครียด ตน้ ข้าวจะหลง่ั สารชนดิ หนง่ึ
ออกมาหุม้ เมล็ดข้าวทาใหข้ า้ วหอม

๔)เสน่ห์ของความหอมอกี วิธีหนงึ่ คือต้องเก่ยี วในระยะพลับพลงึ ข้าวจะมเี สน้ ใยสีเขยี วมรกตสวยมากหุ้ม
เมลด็ ข้าวทาให้ มสี ารกาบา วิตามินและแร่ธาตุทเ่ี ป็นแระโยชน์ต่อรา่ งกายสงู มาก.

๕)ข้าวจะหอมได้ดตี ้องเปน็ ขา้ วปลูกด้วยอินทรยี ์วัตถเุ พราะถ้าใส่ ปยุ๋ เคมี ปุย๋ ยเู รีย ยาฆ่าแมลงและยาฆ่าหญ้าจะ
ไปทาลายความหอมของขา้ วลดลง และเปน็ อันตรายตอ่ สุขภาพผ้บู รโิ ภคด้วย ในเขตพนื้ ทอ่ี าเภอเสนางคนิคมจงึ
ควรปลูกขา้ วอินทรียเ์ ปน็ หลัก เพอ่ื รักษาความหอมของขา้ วไดด้ ี ให้สมกับได้ช่อื วา่ เป็นดินแดนขา้ วหอม นมุ่
หวานอร่อย ดว้ ยเหตุนผ้ี ผู้ ลิตจงึ ไดห้ ันมาปลูกขา้ วอินทรีย์ โดยใช้อินทรยี ์วัตถุ เช่น ทาป๋ยุ พืชสด ปลูกถ่วั พร้า ไถ
กบตอฟาง ใช้นา้ หมักชีวภาพทาปุย๋ หมกั และใชป้ ุ๋ยอินทรยี ต์ รางอกงามผ่านมาตรฐาน อมก.เปน็ หลกั เพ่อื เสริม
แรธ่ าตใุ นดิน

๖) คัดเลือกพันธุด์ ี รสชาตินุม่ กล่ินหอม
อดุ มดว้ ยวติ ามิน แร่ธาตุสงู มี ๔ สายพนั ธุ์
๗) ผูผ้ ลิตใช้ศลี ๕ เป็นหลกั ในการดาเนินขีวติ รกั ษาสัจจะในการผลติ ขา้ วอนิ ทรีย์

๒.ค่าต้นทุนการผลติ ดังน้ี
๑) คา่ อัดแพ็คถุงสญู ญากาศ แบบดีมีมาตรฐาน ความหนา150 ไมครอน

(4-5บาท/กก.)
๒)คา่ ตีตราข้าว(3-5บาท/กก.)

๓)คา่ สขี า้ ว(4-5บาท/กก.)
๔)ค่าสารกันความชื้น(2-3บาท/กก.)
๕)คา่ เก็บสิง่ ปฏิกลู ออกจากขา้ ว ใหส้ ะอาด กก.ละ 3 -5 บาท
๖) คา่ เสย่ี งการเกบ็ ข้าวไวร้ อลูกค้า
เส่ยี งตอ่ มอด +หนู+นกกนิ ไม่ใชย้ าฆา่ แมลงพน่ กันสตั ว์กินขา้ ว+คา่ เส่ียงต่อข้าวหกตกหลน่ +คา่ เส่ยี งแยก
เมล็ดขา้ วหกั กบั ปลายข้าวออกจก่ กนั ทาให้น้าหนักลด

๗)คา่ ตน้ ทุนการผลิตขา้ ว
-คา่ ปุ๋ยอินทรยี ง์ อมงามไร่ละ๒-๓ กระสอบๆละ ๒๒๐ บาท=๖๖๐/ไร่

-คา่ จา้ งหวา่ นป๋ยุ กระสอบละ๑๐๐ บาท
-คา่ ปุย๋ หมกั ไรล่ ะ ๑,๐๐๐ บาท

-ค่าถว่ั พร้าสากรบั ทาปยุ๋ พชื สด กก.ละ๑๘ บาทไรล่ ะ๔ กก.= ๙๐
-จา้ งไถกบ ไร่๕๐๐ บาท

-ค่าจ้างหวา่ นถัว่ พร้า ไรล่ ะ๓๕ บาท
-ค่าจ้างไถกบต้นถัว่ พร้าเพ่อื เป็นปุ๋ยพขื สด ไรล่ ะ ๒๐๐-๓๐๐ บาท

-ค่าจ้างไถทวนไร่ละ ๒๐๐-๓๐๐ บาท
-คา่ จา้ งไถหวา่ นไร่ละ๒๐๐-๓๐๐ บาท
-ค่าจา้ งหวา่ นข้าวไร่ละ ๑๐๐ บาท

-ค่าจ้างไถดา ๒๐๐-๓๐๐ บาท
-คา่ จา้ งถอนกลา้ มัดละ ๕-,๑๐ บาท
-ค่าจา้ งดา มัดละ๗ -๑๐ บาทหรอื วีนละ๓๐๐-๔๕๐ บาท
-คา่ จา้ ง ถอนหญ้าวันละ๓๐๐ บาท
-ค่าจา้ งอัดคนั นา ถ้าคันนาขาด จุดละ ๑๐๐-๒๐๐บาท
-ปไี หนแลง้ จดั ต้องเสียคา่ น้ามันเขื้อเพลิงสูบนา้ ใสข่ ้าว อย่างปี๒๕๖๓ สูบน้าเกือบ๒ เดอื นใส่นาขา้ ว

-ค่าเกย่ี วไร่ละ๗๐๐ บาท
-ค่าขนข้าวเทีย่ วละ ๑๐๐ บาท
-ค่าตากข้าว กระสอบละ๒๐ บาท
-คา่ วัสดอุ ุปกรณ์ตากขา้ วผ้าลาน+คราดกวาดขา้ ว+กระสอบ+บรรจุข้าวเปลือก

๓.ค่าจา้ งโปรโมทโฆษณา+ให้ทดลองทานข้าวฟรีระยะเวลาใด สรปุ ผล

ขา้ วเปน็ อาหารหลกั ของพลโลกมานานนบั พนั ปี บางภมู ิภาคนาขา้ วไปแปรรปู เปน็ แป้งเพ่ือปรงุ แต่งเป็น
อาหารสาหรับภมู ิภาคเอเชยี บรโิ ภคขา้ วในรูปลกั ษณะด่งั เดิมและมีข้าวหลากหลายพนั ธ์ุให้เลอื กสาหรับประเทศ
แล้วขา้ วหอมมะลถิ ือวา่ เปน็ สดุ ยอดของข้าวและกาลังเป็นท่ีต้องการของผ้นู ยิ มบริโภคขา้ วทัว่ โลกในช่ือ
Jasmine Rice การทีจ่ ะทาให้ข้าวคุณภาพดีและหอมน้นั ขึ้นอยู่กบั วตั ถปุ ระสงค์7ประเภท คือ 1)ดิน 2)สภาพ
อากาศ 3)น้า 4)ปุ๋ยอนิ ทรีย์ 5)พนั ธข์ุ ้าว 6)การเกบ็ เกี่ยว 7)คุณธรรมจริยธรรมท่เี กีย่ วข้อง ข้าวอนิ ทรีย์ที่ปลูกใน
เขตตาบลหนองสามสีและตาบลนาเวียง อาเภอเสนางคนิคม จงั หวัดอานาจเจรญิ เป็นเขตข้าวหอมโดยใช้
อนิ ทรียวัตถุ เปน็ ข้าวหอมพเิ ศษเกิดจากปัจจยั หลายอยา่ งคือ ดฉิ ันนางจันทา ทองน้อย ผู้ผลิตข้าวหอมอินทรยี ์
ไตรลกั ษณ์ตราธาตสุ ่ี เป็นสมาชกิ โครงการ นาแปลงใหญบ่ า้ นหนองสามสี มคี วามสงสยั ว่าขา้ วทีป่ ลูกในทนี่ า
ตนเองทาไมจงึ หอมนุ่มอร่อย จงึ ไปหาคาตอบโดยการสัมภาษณ์ นางสาวศศิฉาย มลรี ัตน์ เจา้ หน้าท่โี ครงการนา
แปลงใหญแ่ ละนายธวัชชัย พรมรักษา เจา้ พนกั งานธุรการ อาวโุ ส ศนู ยว์ จิ ยั ข้าวอุบลราชธานี ทง้ั สองท่านให้
ขอ้ มูลว่า สาเหตุที่ทาให้ข้าวในเขตอาเภอเสนางคนิคม หอม

ขนั้ ตอนการดาเนนิ โครงงาน เรือ่ งศึกษาปจั จัยที่ทาให้ขา้ วหอมในเขตอาเภอเสนางคนคิ ม

มีดงั นี้

ขน้ั ที่ 1 หว่านถว่ั พร้ากบไถตอฟาง

ไม่เผานา เป็นมิตรกับสง่ิ แวดล้อม

ขนั้ ที่ 2 ทาปุ๋ยหมักขี้อ้อย+ขีไ้ ก่+กากน้าตาลและน้าหอมมกั คลมุ ด้วยผา้ ใบ2เดือน

ขนั้ ท่ี 3 หวา่ นปุ๋ยหมกั

ขนั้ ที่ 4 ไถกบปยุ๋ พชื สดถวั่ รา้ หมดั จนเปือ่ ย แล้วจึงหว่านขา้ ว /ปกั ดา

ขนั้ ท่ี 5 ดูแลต้นข้าว ด้วยการถอนหญา้

ข้ันท่ี 6 เก็บเกยี่ วระยะพลบั พลึง เพอื่ รักษาแรธ่ าตแุ ละวิตามินอยา่ งดี

ขน้ั ท่ี 7 นาขา้ วที่เก่ียวเสรจ็ มาตากใหแ้ ห้งสนทิ

ข้ันท่ี 8 เกบ็ ใส่กระสอบให้เรียบร้อย

ขน้ั ท่ี 9 นามาข้าวมาแปรรปู มี 2 ชนิด คอื

1. ข้าวสารขาวขัดสหี อมมะลินาขา้ วเปลอื กประเภทข้าวจ้าวหอมมะลิไปสแี ลว้ เกบ็ กากข้าวออก แพค็ ใส่ถุง
สุญญากาศ +ถุงกันช้นื ติดสติ๊กเกอร์ตราข้าว

2.ข้าวกลอ้ งหอมไตรลกั ษณ์ โดยนาข้าวเปลอื ก 4 สายพนั ธ์(ุ ขา้ วสดี า+แดง+สที อง+สขี าว) ไปสโี ดยใช้โรงสขี ้าว
กลอ้ ง กระเทาะเปลือกออกไม่ขดั สี จะเหลือกากเส้นใยหุ้มเมลด็ ข้าวอุดมด้วยวติ ามนิ แร่ธาตจุ ากธรรมชาตคิ รบ
สมบูรณ์ แลว้ เกบ็ กากข้าวออก แพ็คใสถ่ ุงสญุ ญากาศ +ถุงกันช้ืน ตดิ สตก๊ิ เกอรต์ ราขา้ ว บรรจุลังข้าวสง่ ให้
ลกู คา้

ทาไมจึงต้ังราคาขา้ วขายปลีกสงู กว่าท้องตลาด
1. จุดเดน่ ของขา้ วอนิ ทรียไ์ ตรลักษณ์ คือเป็นขา้ วหอมสตู รพเิ ศษ

คาวา่ ข้าวหอมอนิ ทรีย์ หมายถงึ ขา้ วอนิ ทรียท์ ปี่ ลูกในเขตตาบลหนองสามสแี ละตาบลนาเวยี ง อาเภอเสนางค
นคิ ม จังหวัดอานาจเจรญิ เป็นเขตข้าวหอมโดยใชอ้ นิ ทรยี วัตถุ เปน็ ขา้ วหอมพิเศษเกิดจากปจั จัยหลายอย่างคอื
ดฉิ ันนางจันทา ทองน้อย ผู้ผลติ ข้าวหอมอนิ ทรยี ์ไตรลักษณต์ ราธาตุสี่ เป็นสมาชกิ โครงการ นาแปลงใหญบ่ า้ น
หนองสามสี มีความสงสยั ว่าขา้ วทีป่ ลกู ในทีน่ าตนเองทาไมจึงหอมนุ่มอร่อย จึงไปหาคาตอบโดยการสมั ภาษณ์
นางสาวศศฉิ าย มลีรัตน์ เจา้ หน้าทโี่ ครงการนาแปลงใหญ่และนายธวชั ชัย พรมรักษา เจา้ พนักงานธรุ การ
อาวโุ ส ศูนยว์ จิ ัยขา้ วอบุ ลราชธานี ทง้ั สองท่านใหข้ อ้ มลู วา่ สาเหตุทท่ี าใหข้ ้าวในเขตอาเภอเสนางคนิคม หอม มี
๖ ปัจจัยหลักคือ

๑) อาเภอเสนางคนคิ มเป็นเขตพนื้ ที่พเิ ศษคือ พ้นื ดินเป็นแอ่งกะทะ ดนิ รว่ นปนทรายและหินลูกรัง จะมี
แร่ธาตสุ าหรับเป็นอาหารตน้ ข้าวสงู โดยเฉพาะ ธาตุฟอสฟอรัสจะทาให้ขา้ วหอม

๒) อาเภอเสนางคนคิ มเปน็ เขตท่เี ส้นร้งุ เสน้ แวงทามุมพอดีเหมาะสาหรับการเจรญิ เตบิ โตของตน้ ขา้ ว
โดยเฉพาะในฤดูข้าวตง้ั ท้องจะมีแสงแดดทามุมสังเคราะห์แสงกบั ต้นข้าวพอดีทาให้ตน้ ข้าวมกี ารเจริญเติบโตได้
ดหี ล่ังสารหอมออกมาเคลือบเมลด็ ขา้ ว ทาให้เมลด็ ขา้ วนนั้ หอมตา่ งจากเขตพ้นื ท่อี ื่น แต่ควรสเี ปน็ ข้าวกลอ้ ง
เพราะข้าวกล้องไม่ได้ขดั เส้นใยท่ีมคี ณุ คา่ ออกจากเมล็ดซง่ึ จะรกั ษาคุณค่าทางอาหารได้ดี

๓)พืน้ ท่ีอาเภอเสนางคนคิ มเป็นเขตแหง้ แล้ง แมจ้ ะมีฤดฝู นก็ตาม ฝนจะทง้ิ ชว่ ง ทาใหต้ น้ ขา้ วรับน้าได้ไม่
เต็มที่จงึ เปน็ ลักษณะแหง้ สลบั เปียก ช่วงน้าแหง้ ฝนท้ิงชว่ งทาให้ตน้ ข้าวเครียด ต้นขา้ วจะหลัง่ สารชนิดหน่งึ
ออกมาหมุ้ เมล็ดขา้ วทาใหข้ า้ วหอม

๔)เสนห่ ์ของความหอมอกี วธิ หี นงึ่ คือต้องเกยี่ วในระยะพลับพลึงข้าวจะมเี สน้ ใยสเี ขียวมรกตสวยมากหุ้ม
เมลด็ ขา้ วทาให้ มีสารกาบา วิตามินและแรธ่ าตทุ ีเ่ ป็นแระโยชน์ตอ่ ร่างกายสูงมาก.

๕)ขา้ วจะหอมได้ดตี ้องเป็นขา้ วปลูกดว้ ยอนิ ทรียว์ ัตถุเพราะถ้าใส่ ปยุ๋ เคมี ปยุ๋ ยูเรีย ยาฆ่าแมลงและยาฆา่ หญ้าจะ
ไปทาลายความหอมของขา้ วลดลง และเปน็ อันตรายตอ่ สุขภาพผูบ้ ริโภคด้วย ในเขตพ้ืนทอี่ าเภอเสนางคนิคมจงึ
ควรปลกู ขา้ วอนิ ทรียเ์ ปน็ หลัก เพ่อื รักษาความหอมของข้าวได้ดี ให้สมกับไดช้ อื่ ว่าเปน็ ดนิ แดนขา้ วหอม น่มุ
หวานอรอ่ ย ด้วยเหตนุ ี้ผผู้ ลติ จงึ ไดห้ นั มาปลูกข้าวอนิ ทรยี ์ โดยใชอ้ ินทรีย์วตั ถุ เชน่ ทาปุ๋ยพืชสด ปลกู ถ่วั พรา้ ไถ
กบตอฟาง ใชน้ ้าหมักชวี ภาพทาปุ๋ยหมกั และใชป้ ุย๋ อินทรีย์ตรางอกงามผ่านมาตรฐาน อมก.เป็นหลัก เพือ่ เสรมิ
แรธ่ าตใุ นดนิ

๖) คดั เลือกพันธ์ดุ ี รสชาตนิ มุ่ กลิ่นหอม
อดุ มดว้ ยวติ ามนิ แร่ธาตุสงู มี ๔ สายพนั ธุ์
๗) ผ้ผู ลิตใชศ้ ลี ๕ เป็นหลักในการดาเนินชีวิต รักษาสจั จะในการผลิตข้าวอินทรยี ์

๒.คา่ ต้นทุนการผลติ ดังน้ี
๑) ค่าอดั แพ็คถุงสญู ญากาศ แบบดีมีมาตรฐาน ความหนา150 ไมครอน
(4-5บาท/กก.)

๒)ค่าตตี ราข้าว(3-5บาท/กก.)
๓)คา่ สีข้าว(4-5บาท/กก.)

๔)คา่ สารกนั ความชืน้ (2-3บาท/กก.)
๕)ค่าเก็บสิ่งปฏิกูลออกจากขา้ ว ให้สะอาด กก.ละ 3 -5 บาท

๖) ค่าเสี่ยงการเก็บข้าวไว้รอลูกคา้
เสยี่ งตอ่ มอด +หน+ู นกกนิ ไม่ใชย้ าฆ่าแมลงพน่ กันสตั วก์ ินข้าว+คา่ เส่ยี งต่อขา้ วหกตกหลน่ +ค่าเส่ยี งแยกเมลด็
ข้าวหกั กบั ปลายขา้ วออกจากกนั ทาใหน้ ้าหนักลด

๗)ค่า ต้นทุนการผลิตขา้ ว
-ค่าปุย๋ อินทรียง์ อมงามไรล่ ะ๒-๓ กระสอบๆละ ๒๒๐ บาท=๖๖๐/ไร่
-คา่ จา้ งหว่านปุ๋ยกระสอบละ๑๐๐ บาท
-คา่ ป๋ยุ หมกั ไรล่ ะ ๑,๐๐๐ บาท
-คา่ ถัว่ พร้าสากรับทาปุย๋ พชื สด กก.ละ๑๘ บาทไรล่ ะ๔ กก.= ๙๐
-จา้ งไถกบ ไร่๕๐๐ บาท
-ค่าจ้างหว่านถัว่ พร้า ไร่ละ๓๕ บาท
-ค่าจ้างไถกบตน้ ถ่วั พร้าเพ่ือเป็นปยุ๋ พืชสด ไร่ละ ๒๐๐-๓๐๐ บาท
-คา่ จ้างไถทวนไรล่ ะ ๒๐๐-๓๐๐ บาท
-คา่ จ้างไถหว่านไร่ละ๒๐๐-๓๐๐ บาท
-คา่ จา้ งหวา่ นข้าวไร่ละ ๑๐๐ บาท
-ค่าจา้ งไถดา ๒๐๐-๓๐๐ บาท
-ค่าจา้ งถอนกล้ามัดละ ๕-,๑๐ บาท
-ค่าจา้ งดา มดั ละ๗ -๑๐ บาทหรือวันละ๓๐๐-๔๕๐ บาท
-คา่ จา้ ง ถอนหญา้ วนั ละ๓๐๐ บาท
-คา่ จ้างอดั คนั นา ถ้าคนั นาขาด จุดละ ๑๐๐-๒๐๐บาท
-ปีไหนแลง้ จดั ต้องเสยี ค่านา้ มันเช้ือเพลิงสบู น้าใส่ขา้ ว อยา่ งปี๒๕๖๓ สบู น้าเกือบ๒ เดอื นใสน่ าขา้ ว
-คา่ เก่ยี วไร่ละ๗๐๐ บาท
-คา่ ขนข้าวเทยี่ วละ ๑๐๐ บาท
-ค่าตากข้าว กระสอบละ๒๐ บาท
-ค่าวัสดุอปุ กรณ์ตากขา้ วผา้ ลาน+คราดกวาดข้าว+กระสอบ+บรรจุข้าวเปลือก

๓.คา่ จ้างโปรโมทโฆษณา+ให้ทดลองทานข้าวฟรีระยะเวลาใด สรปุ ผล

ขา้ วเป็นอาหารหลกั ของพลโลกมานานนับพันปี บางภมู ภิ าคนาขา้ วไปแปรรูปเปน็ แป้งเพ่ือปรุงแต่งเปน็
อาหารสาหรับภมู ิภาคเอเชียบริโภคข้าวในรูปลักษณะดง่ั เดิมและมีข้าวหลากหลายพันธ์ใุ หเ้ ลอื กสาหรับประเทศ
แล้วขา้ วหอมมะลถิ ือวา่ เป็นสดุ ยอดของข้าวและกาลงั เปน็ ที่ตอ้ งการของผนู้ ยิ มบริโภคข้าวทัว่ โลกในชือ่
Jasmine Rice การทจี่ ะทาให้ขา้ วคุณภาพดแี ละหอมนัน้ ขึ้นอยูก่ บั วัตถปุ ระสงค์7ประเภท คือ 1)ดิน 2)สภาพ
อากาศ 3)น้า 4)ป๋ยุ อนิ ทรยี ์ 5)พนั ธข์ุ า้ ว 6)การเก็บเก่ยี ว 7)คุณธรรมจริยธรรมทเี่ กยี่ วข้อง ขา้ วอินทรีย์ที่ปลูกใน
เขตตาบลหนองสามสแี ละตาบลนาเวยี ง อาเภอเสนางคนิคม จงั หวดั อานาจเจริญ เป็นเขตข้าวหอมโดยใช้
อินทรียวัตถุ เปน็ ข้าวหอมพเิ ศษเกดิ จากปัจจัยหลายอยา่ งคือ ดฉิ ันนางจนั ทา ทองน้อย ผูผ้ ลติ ข้าวหอมอนิ ทรีย์
ไตรลกั ษณ์ตราธาตุสี่ เปน็ สมาชกิ โครงการ นาแปลงใหญบ่ ้านหนองสามสี มีความสงสยั ว่าขา้ วท่ีปลกู ในที่นา
ตนเองทาไมจงึ หอมนุ่มอร่อย จึงไปหาคาตอบโดยการสัมภาษณ์ นางสาวศศิฉาย มลีรตั น์ เจ้าหน้าทโี่ ครงการนา
แปลงใหญแ่ ละนายธวัชชยั พรมรกั ษา เจา้ พนกั งานธรุ การ อาวโุ ส ศนู ยว์ ิจัยข้าวอุบลราชธานี ทั้งสองทา่ นให้
ข้อมลู ว่า สาเหตุที่ทาใหข้ ้าวในเขตอาเภอเสนางคนิคม หอม

ผลทไ่ี ด้จากการทาโครงงานคืออะไร
ได้เรียนรู้และศึกษาเก่ยี วกบั การเตรียมที่นาทาขา้ วและการเลือกใชป้ ุ๋ยที่ดีต่อขา้ ว ได้ความรูเ้ กยี่ วกับวิธีการทา
ข้าวหอมโดยวธิ ีถูกคุณธรรมจริยธรรม การเลือกพันธข์ุ ้าวหอมท่ีดีและสามารถนามาใชใ้ นชีวติ จริงได้

ปัญหาและอปุ สรรคในการทาโครงงาน
1.เราไมส่ ามารถไปตรวจสอบพนื้ ทีจ่ รงิ ไดเ้ พราะโควิด19
2.หาข้อมูลเกีย่ วกบั ข้าวหอมไดย้ าก
3.ไม่สามารถไปรวมตัวกนั เพ่ือทางานได้สง่ ผลต่อการทางานอย่างยิ่ง
4.ไมส่ ามารถไปข้อคแนะนาจากคนในหมู่บา้ นไดห้ รือคนทีเ่ คยทาขา้ วหอมเน่ืองจากสถานการณ์โควิด19


Click to View FlipBook Version