แบบฝึกทักษะการวิเคราะห์โวหารภาพพจน์ในวรรณคดีและวรรณกรรม
แบบฝึกทักษะการวิเคราะห์โวหารภาพพจน์ในวรรณคดีและวรรณกรรม
2
ก
คำนำ
แบบฝึกทักษะการวิเคราะห์โวหารภาพพจน์ในวรรณคดีและวรรณกรรม กลุ่มสาระการเรียนร
ู้
1. ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จัดทำขึ้นเพื่อใช้ในการฝึกทักษะการวิเคราะห์ความ
งามด้านวรรณศิลป์ของวรรณคดีและวรรณกรรม โดยจัดทำขึ้นตามแนวทางการจัดการเรียนการสอนที่เน้น
ผู้เรียนเป็นสำคัญ และ มุ่งให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะการวิเคราะห์ด้วยแบบฝึกทักษะ
ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า แบบฝึกทักษะการวิเคราะห์โวหารภาพพจน์ในวรรณคดีและ
วรรณกรรม กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จะช่วยพัฒนาทักษะการ
คิดวิเคราะห์ให้กับผู้เรียนเป็นอย่างดี และจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้สอน ในการนำไปปรับใช้ในกิจกรรมการ
เรียนการสอนได้ตามความเหมาะสม
อนรรฆมณี พรมเพชร
แบบฝึกทักษะการวิเคราะห์โวหารภาพพจน์ในวรรณคดีและวรรณกรรม
ข
สารบัญ
เรื่อง หน้า
คำนำ ก
สารบัญ ข
คำแนะนำการใช้แบบฝึกทักษะ 1
มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด 2
จุดประสงค์การเรียนร ู้ 3
สาระสำคัญ 4
แบบทดสอบก่อนเรียน 5
ใบความรู้และแบบฝึกทักษะ
ใบความรู้ 7
แบบฝึกทักษะที่ 1.1 13
แบบฝึกทักษะที่ 1.2 14
แบบฝึกทักษะที่ 1.3 16
แบบฝึกทักษะที่ 1.4 18
แบบฝึกทักษะที่ 1.5 19
แบบฝึกทักษะที่ 1.๖ ๒๒
แบบทดสอบหลังเรียน 2๓
บรรณานุกรม 2๕
ภาคผนวก 2๖
เฉลยแบบฝึกทักษะ 2๗
แบบฝึกทักษะการวิเคราะห์โวหารภาพพจน์ในวรรณคดีและวรรณกรรม
1
คำแนะนำการใชแบบฝึกทักษะ
้
แบบฝึกทักษะเล่มนี้ใช้ประกอบการเรียนการสอน เพื่อฝึกทักษะการวิเคราะห์ ความงาม
ทางด้านวรรณศิลป์ เรื่องการใช้โวหารภาพพจน์ นักเรียนสามารถศึกษาได้ด้วยตนเอง โดยให้นักเรียนอ่าน
คำแนะนำและปฏิบัติตามขั้นตอนดังต่อไปน
ี้
1. ศึกษาจุดประสงค์การเรียนรู้ เพื่อให้ทราบว่าเมื่อศึกษาจบแล้ว สามารถเรียนรู้อะไรได้บ้าง
2. ทำแบบทดสอบก่อนเรียน แล้วตรวจคำตอบที่เฉลยไว้ท้ายแบบทดสอบ เพื่อประเมินความรู้
พื้นฐานเกี่ยวกับเรื่องที่จะศึกษา
3. ศึกษาเอกสารและทำแบบฝึกทักษะตามที่กำหนดไว้ พร้อมทั้งตรวจคำตอบ เพื่อประเมิน
ตนเอง
4. ทำแบบทดสอบหลังเรียน เพื่อวัดความรู้ความเข้าใจอีกครั้งหนึ่ง
5. นักเรียนแต่ละคนต้องมีความซื่อสัตย์ต่อตนเอง ไม่เปิดดูเฉลยก่อนเรียน - หลังเรียนและดูเฉลย
แบบฝึกทักษะทุกแบบฝึก
่
6. นักเรียนและผู้สนใจที่ต้องการเนื้อหาเพิมเติมจากแบบฝึกทักษะ สามารถค้นคว้าได้จาก
บรรณนานุกรม
แบบฝึกทักษะการวิเคราะห์โวหารภาพพจน์ในวรรณคดีและวรรณกรรม
2
ี้
มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชวัด
สาระที่ 1 การอ่าน
มาตรฐาน ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาใน
การดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน
ท 1.1 ม.4- 6/3 วิเคราะห์และวิจารณ์เรืองที่อ่านในทุก ๆ ด้านอย่างมีเหตุผล
่
สาระที่ 2 การเขียน
่
มาตรฐาน ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรืองราวใน
รูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพใช้
กระบวนการเขียน สื่อสาร
ท 2.1 ม.4-6/1 เขียนสื่อสารในรูปแบบต่าง ๆ ได้ตรงตามวัตถุประสงค์ โดยใช้ภาษาเรียบเรียง
ถูกต้องมีข้อมูลและสาระสำคัญชัดเจน
สาระที่ 5 วรรณคดีและวรรณกรรม
มาตรฐาน ท 5.1 เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทย อย่างเห็น
คุณค่าและนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
ท 5.1 ม.4-6/3 วิเคราะห์และประเมินคุณค่าด้านวรรณศิลป์ของวรรณคดีและวรรณกรรมในฐานะ
ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ
แบบฝึกทักษะการวิเคราะห์โวหารภาพพจน์ในวรรณคดีและวรรณกรรม
3
จุดประสงค์การเรียนรู้
ด้านความรู้ (K)
1. อธิบายความหมายและลักษณะของโวหารภาพพจน์ได้
์
2. บอกคุณค่าและความสำคัญของการใช้โวหารภาพพจนในวรรณคดี และวรรณกรรมได ้
ด้านทักษะ/กระบวนการ (P)
3. มีทักษะในการวิเคราะห์ข้อมูล การคิดหาคำตอบ และการเขียนสื่อความ เพื่ออธิบาย
เรื่องการวิเคราะห์โวหารภาพพจน ์
4. มีทักษะการทำงานกลุ่ม
ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A)
ิ
5. มีมารยาทในการอ่าน การเขียน มีความซื่อสัตย์สุจรต มีวินัย และมุ่งมั่นในการทำงาน
แบบฝึกทักษะการวิเคราะห์โวหารภาพพจน์ในวรรณคดีและวรรณกรรม 4
สาระสำคัญ
โวหารภาพพจน์ (Figures Of Speech) คือ การใช้ถ้อยคำสำนวนที่ทำให้ผู้รับสารเกิด
มโนภาพหรือเกิดจินตนาการจากการอ่าน วรรณคดีและวรรณกรรมที่ดีจะมีลักษณะ
ี่
การใช้โวหารภาพพจน์ทหลากหลาย ทั้งนี้เพื่อให้ผู้รับสารเกิดความซาบซึ้ง เกิดจินตภาพ
และมีความรู้สึกร่วมตรงตามความปรารถนาของผู้ส่งสารที่ต้องการสื่อออกมาทาง
วรรณคดีและวรรณกรรมเรื่องนั้น
แบบฝึกทักษะการวิเคราะห์โวหารภาพพจน์ในวรรณคดีและวรรณกรรม
5
แบบทดสอบก่อนเรียน
แบบฝึกทักษะการวิเคราะห์โวหารภาพพจน์ในวรรณคดีและวรรณกรรม
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
เรื่อง โวหารภาพพจน ์
คำชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว แล้วทำเครื่องหมาย X ลงในกระดาษคำตอบ
1. ข้อใดกล่าวถึงโวหารภาพพจน์ได้ถูกต้อง
ก. การใช้ภาษาเพื่ออธิบายเรื่องราวอย่างตรงไปตรงมา
ข. การใช้ถ้อยคำที่ทำให้ผู้รับสารเกิดมโนภาพหรือเกิดจินตนาการถ่ายทอดอารมณ์
ค. การยกตัวอย่างเหตุการณ์ประกอบเพื่อให้มีความเข้าใจเรื่องราวต่าง ๆ มากขึ้น
ง. การเปรียบเทียบที่เรียกสิ่งหนึ่งสิ่งใดโดยใช้คำอื่นแทนเพื่อให้เกิดความหลากหลาย
2. เหตุใดจึงต้องมีการใช้โวหารภาพพจน์ในวรรณคดีและวรรณกรรม
ก. เพื่อบอกเล่าเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ไดอย่างถูกต้อง
้
ข. เพื่อทดสอบความรู้ความเข้าใจในการอ่านวรรณคดีและวรรณกรรม
ค. เพื่อให้ผู้รับสารซาบซึ้งและมีความรู้สึกร่วมตรงตามความปรารถนาของผู้ส่งสาร
ง. เพื่อให้ผู้รับสารได้รับความรู้ที่แฝงอยู่ในวรรณคดีและวรรณกรรมอย่างแท้จริง
3. ข้อใดคือความหมายของโวหารภาพพจน์แบบสัทพจน์
ื
ก. การใช้ถ้อยคำที่มีความหมายตรงกันข้ามหรอขัดแย้งกันมากล่าวร่วมกันได้อย่างกลมกลืน
ิ
ข. การใช้ถ้อยคำที่เลียนเสียงธรรมชาติ เพื่อช่วยสื่อให้ผู้รับสารรู้สึกเหมือนได้ยนเสียงโดยธรรมชาติ
ของสิ่งนั้น ๆ
ค. การเปรียบเทียบโดยการนำเอาสิ่งที่ไม่มีชีวิตหรือมีชีวิต แต่ไม่ใช่คนมากล่าวถึง ราวกับเป็นคนหรือ
ทำกิริยาอาการอย่างคน
้
ง. การเปรียบเทียบที่เรียกสิ่งหนึ่งสิ่งใด โดยใชคำอื่นแทนคำที่ใช้เรียกนั้นเกิดจาก การเปรียบเทียบ
และตีความซึ่งใช้กันมานานจนเป็นที่เข้าใจกันโดยทั่วไป
4. ข้อใดคือความหมายของโวหารภาพพจน์แบบบุคลาธิษฐาน
ื
ก. การใช้ถ้อยคำที่มีความหมายตรงกันข้ามหรอขัดแย้งกันมากล่าวร่วมกันได้อย่างกลมกลืน
ิ
ข. การใช้ถ้อยคำที่เลียนเสียงธรรมชาติ เพื่อช่วยสื่อให้ผู้รับสารรู้สึกเหมือนได้ยนเสียงโดยธรรมชาติของสิ่ง
นั้น ๆ
ค. การเปรียบเทียบโดยการนำเอาสิ่งที่ไม่มีชีวิตหรือมีชีวิต แต่ไม่ใช่คนมากล่าวถึง ราวกับเป็นคนหรือทำ
กิริยาอาการอย่างคน
ง. การเปรียบเทียบที่เรียกสิ่งหนึ่งสิ่งใด โดยใชคำอื่นแทนคำที่ใช้เรียกนั้นเกิดจาก การเปรียบเทียบ และ
้
ตีความซึ่งใช้กันมานานจนเป็นที่เข้าใจกันโดยทั่วไป
แบบฝึกทักษะการวิเคราะห์โวหารภาพพจน์ในวรรณคดีและวรรณกรรม
6
5. “การเปรียบด้วยการกล่าวว่าสิ่งหนึ่งเป็นอีกสิ่งหนึ่ง เป็นการเปรียบเทียบที่ไม่กล่าวตรง ๆ แต่ใช้
การกล่าวเป็นนัยให้เข้าใจเอง” คือโวหารภาพพจน์แบบใด
ก. สัทพจน ์
ข. อธิพจน ์
ค. บุคลาธิษฐาน
ง. อุปลักษณ์
6. “การใช้ถ้อยคำที่มีความหมายตรงกันข้ามหรือขัดแย้งกันมากล่าวร่วมกันได้อย่างกลมกลืน” คือ
โวหารภาพพจน์แบบใด
์
ก. ปรพากย
ข. สัญลักษณ์
ค. อุปมา
ง. นามนัย
7. ข้อใดมีการใช้โวหารภาพพจน์แบบอุปมาอุปไมย
ก. เจ้าจะเอาป่าชัฏนี่หรือมาเป็นป่าช้า
ข. จะเอาพระบรรณศาลานี่หรือเป็นบริเวณพระเมรุทอง
ค. พระโสตฟังใหวาดแว่วว่าสำเนียงเสียงพระแก้วเจ้าบ่นอยู่งึม ๆ
ี
ง. เมื่อสมเด็จพระมัทรีกำสรดแสนกัมปนาทเพยงพระสันดานจะขาดจะดับสูญ
8. ข้อใดมีการใช้โวหารภาพพจน์แบบอติพจน ์
ก. พระกายนางให้เสียวสั่นหวั่นไหวไปทั้งองค์ ดุจชายธงอันต้องกำลังลมอยลิ่ว ๆ
ู่
ข. นางจึ่งเซซังเข้าไปสู่พระอาศรมบังคมบาทพระภัสดา ประหนึ่งว่าชีวาจะวางวายทำลายล่วง
ค. ถ้าพี่มิได้ให้ด้วยเสื่อมใสศรัทธาแท้แล้ว ที่ไหนเลยแผ่นดินดานจะกัมปนาทหวาดหวั่นไหวจลาจล
ง. ปานประหนึ่งว่าพุ่มฉัตรทองอันต้องสายอัสนีฟาดขาดระเนนเอนแล้วก็ล้มลงตรงหน้าพระที่นั่งเจ้า
9. ข้อใดไม่มีการใช้โวหารภาพพจน ์
ก. อุปมาเหมือนคนไข้หนักแล้วมิหนำยังแพทย์เอายาพิษมาวางซ้ำให้เวทนา
ข. รัศมีพระจันทร์ก็มัวหมองเหมือนหนึ่งจะเศร้าโศกแสนวิปโยคเมื่อยามปัจจุสมัย
ั
ค. สมเด็จอรไทเธอเที่ยวตะโกนกู่กู๋ก้อง พระพกตร์เธอฟูมฟองนองไปด้วยน้ำพระเนตรเธอโศกา
ง. จึ่งตรัสว่าโอ้โอ๋เวลาปานฉะนเอ่ยมิดึกดื่น จวนจะสิ้นคืนค่อนรุ่งเสียแล้วกระไรไม่รู้เลย พระพายรำเพยพด
ี้
ั
มารี่เรื่อยอยู่เฉื่อยฉิว
10. ข้อใดมีการใช้สัทพจน์โวหาร
ก. นางเสด็จจรลีไปหยุดยืนในภาคพนปริมณฑลใต้ต้นหว้า
ื้
ข. พระพายรำเพยพัดมารี่เรื่อยอยู่เฉื่อยฉิว อกแม่นี้ให้อ่อนหิวสุดล่ะห้อย
ค. สมเด็จอรไทเธอเที่ยวตะโกนกู่กู๋ก้อง พระพกตร์เธอฟูมฟองนองไปด้วยน้ำพระเนตรเธอโศกา
ั
ง. เจ้าเคยมาห้อยโหนโยนชิงช้าชวนกันแกว่งไกว แล้วเล่นไล่ปิดตาเร้นแทบหลังบริเวณพระอาวาส
แบบฝึกทักษะการวิเคราะห์โวหารภาพพจน์ในวรรณคดีและวรรณกรรม
7
ใบความรู้
เรื่อง การวิเคราะห์โวหารภาพพจน์
การคิดวิเคราะห ์
ความหมายของการคิดวิเคราะห์
การคิดวิเคราะห์ หมายถึง ความสามารถในการจำแนกองค์ประกอบต่าง ๆ ของเรื่องราว
หรือเหตุการณ์ หาความสัมพันธ์เชิงเหตุผลขององค์ประกอบเหล่านั้น เพื่อค้นหาสภาพความ
เป็นจริงหรือสิ่งสำคัญของสิ่งที่กำหนดให้
ลักษณะของการคิดวิเคราะห์
ลักษณะการคิดวิเคราะห์ คือ การแสดงออกให้เห็นถึงวิธีคิดโดยคิดอย่างลึกซึ้ง เพื่อให้เกิด
ความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในสิ่งที่วิเคราะห์ ทั้งโครงสร้างความสัมพันธ์เชิงสาเหตุ กระบวนการ
ผลลัพธ์ รวมทั้งคุณค่า เป็นความสามารถในการหาส่วนประกอบที่สำคัญของสิ่งของหรือเรื่องราว
ต่าง ๆ การหาความสัมพันธ์ของส่วนประกอบสำคัญต่าง ๆ และเป็นความสามารถในการ
หาหลักความสัมพันธ์ส่วนสำคัญในเรื่องนั้น
ประโยชน์ของการคิดวิเคราะห์
การคิดวิเคราะห์ช่วยให้เรารู้ข้อเท็จจริง รู้เหตุผลของสิ่งที่เกิดขึ้น ช่วยในการสำรวจ
ความสมเหตุสมผลของข้อมูลที่ปรากฏ ไม่ด่วนสรุปสิ่งใดง่าย ๆ แต่สื่อสารตามความเป็นจริง
โดยพิจารณาสาระสำคัญอื่น ๆ ที่ถูกบิดเบือน ช่วยพัฒนาความเป็นคนช่างสังเกต รู้จักหาเหตุผล
ที่สมเหตุสมผลให้กับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง และช่วยประมาณการความน่าจะเป็น
แบบฝึกทักษะการวิเคราะห์โวหารภาพพจน์ในวรรณคดีและวรรณกรรม
8
โวหารภาพพจน์
โวหารภาพพจน์ ((Figures Of Speech) คือ
การใช้ถ้อยคำสำนวนที่ทำให้ผู้รับสาร เกิดมโนภาพ หรือเกิดจินตนาการจากการอ่าน
ี้
วรรณคดีและวรรณกรรมที่ดีจะมีลักษณะการใช้โวหารภาพพจน์ที่หลากหลาย ทั้งนเพื่อให้ผู้รับสาร
เกิดความซาบซึ้ง เกิดจินตภาพและมีความรู้สึกร่วมตรงตามความปรารถนาของผู้ส่งสาร
ที่ต้องการสื่อออกมาทางวรรณคดีและวรรณกรรม
ลักษณะของโวหารภาพพจน ์
่
เป็นการใช้ถ้อยคำสำนวนในการสือสารอย่างมีศิลปะ
เป็นการสื่อให้ผู้รับสารเกิดมโนภาพ หรือเกิดจินตนาการจากการอ่าน
ผู้อ่านมีความซาบซึ้งและมีความรู้สึกร่วมตรงตามความปรารถนาของผู้ส่งสาร
ที่ต้องการสื่อออกมาทางวรรณคดีและวรรณกรรมเรื่องนั้น
ก่อให้เกิดความงามในการใช้ภาษา ทำให้วรรณคดีและวรรณกรรมนั้นเป็นงานเขียน
ที่มีคุณค่าและมีความงามด้านวรรณศิลป์
แบบฝึกทักษะการวิเคราะห์โวหารภาพพจน์ในวรรณคดีและวรรณกรรม
9
...โวหารภาพพจน์...
๑. อุปลักษณ์ คือ การเปรียบเทียบโยงความคิดอย่างหนึ่งไปสู่ความคิดหนึ่ง โดยใช้คำ
ว่า "คือ" "เป็น" อยู่ในประโยค
ตัวอย่าง
มันก็เป็นช้างงาอันกล้าหาญ เราก็เป็นช้างสารอันสูงใหญ่
จะอยู่ป่าเดียวกันนั้นฉันใด นานไปก็จะยับอัปมาน
(ขุนช้างขุนแผน)
๒. อุปมาอุปไมย คือ การกล่าวเปรียบเทียบความเหมือนกันสิ่งหนึ่งกับอีกสิ่งหนึ่ง โดย
ใช้คำเชื่อมว่า ดุจ เหมือน เฉก ดัง เหมือนกับว่า ราวกับ ประหนึ่ง คล้าย กล ถนัด
เพียง แม้ ย่อม เปรียบ อย่าง ฯลฯ
ตัวอย่าง
สูงระหงทรงเพรียวเรียวรูด งามละม้ายคล้ายอูฐกะหลาป๋า
พิศแต่หัวตลอดเท้าขาวแต่ตา ทั้งสองแก้มกัลยาดังลูกยอ
คิ้วก่ง เหมือน กงเขาดีดฝ้าย จมูกละม้ายคล้ายพร้าขอ
หูกลวงดวงพักตร์หักงอ ลำคอโตตันสั้นกลม
(ระเด่นลันได : พระมหามนตรี (ทรัพย์))
แบบฝึกทักษะการวิเคราะห์โวหารภาพพจน์ในวรรณคดีและวรรณกรรม
10
๓. อธิพจน / อติพจน์ คือ โวหารซึ่งกวีบรรยายออกมาแล้วจะนำเอาความจริงมาจับไม่ได้
์
เพราะเกินความจริง
ตัวอย่าง
มาดแม้จะหาดวง วิเชียรช่วงเท่าคีร ี
ี
หาดวงสุริย์ศร ก็จะได้ดุจดังใจ
จะหาโฉมให้เหมือนนุช จนสุดฟ้าสราลัย
ุ
ตายแล้วและเกิดใหม่ ไม่เหมือนเจ้านฤมล
(กาพย์นางลอย : รัชกาลที่ 2)
*อวพจน์ คือ โวหารซึ่งกวีบรรยายออกมาแล้วจะนำเอาความจริงมาจับไม่ได้ เพราะต่ำ
กว่าจริง
4.
ตัวอย่าง
สัญลักษณ์ คือ การนำคำหนึ่ง ๆ มาหมายความแทนอีกคำหนึ่ง โดยคำที่นำมานั้นเป็นที่
ิ้
เล็กเท่าขี้ตาแมว, รออึดใจเดียว, เพียงชั่วลัดนวมือเดียว
รู้จัก
และเข้าใจกันทั่วไป เช่น สีทอง หมายถึง นิมิตหมายที่ดี ฤกษ์ดี หรือสง่างาม, สีชมพู
หมายถึง ความรัก ความสุข ความปลาบปลื้ม, ดอกหญ้า หมายถึง ความต่ำศักดิ์
ตัวอย่าง
ดอกหญ้าต้นข้างกายปลายหักพับ ซบยอดกับโคนต้นคอยคนย่ำ
เพราะอ่อนแอจึงเข็ญเป็นประจำ ค่าความช้ำระหว่างเรามีเท่ากัน
(ดอกหญ้า : เกษม บุณยมาลิก)
แบบฝึกทักษะการวิเคราะห์โวหารภาพพจน์ในวรรณคดีและวรรณกรรม
11
5. บุคลาธิษฐาน บุคคลวัต (Personification) คือ การเปรียบเทียบโดยการนำเอา
สิ่งไม่มีชีวิต หรือมีชีวิต แต่ไม่ใช่คนมากล่าวถึงราวกับเป็นคนหรือทำกิริยาอาการอย่าง
คน
ตัวอย่าง
“ลมหนาวเริ่มล่องมาจากฟ้าแล้ว พรมจูบแผ่วเจ้าพระยาโรยฝ้าฝัน
คลื่นคลี่เกลียวแก้วม้วนกับนวลจันทร์ กระซิบสั่นซ่านกระเซ็นเป็นลำนำ”
(ลมหนาว : เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์)
6. ปรพากย์ ปฏิทรรศน์ ปฏิพากย์ หรือ ปฏิพจน์ (Paradox) คือ การใช้ถ้อยคำที่มี
ความหมายตรงกันข้ามหรือขัดแย้งกัน มากล่าวร่วมกันได้อย่างกลมกลืนกัน
ตัวอย่าง
จะตึงจะตัง ขึงขัง หรือโอนอ่อนแล้วแต่ทำเพื่อใคร
จะดีจะเลว เธอก็ยืนเคียงข้างจะจำไม่จาง ยังซึ้งใจ
จะเป็นจะตาย ดีร้ายสักเพียงใดฉันทำได้ เพื่อเธอ
๗. นามนัย (Metonymy) คือ การเปรียบเทียบโดยการใช้คำหรือวลีซึ่งบ่งบอกลักษณะ
(รักเธอประเทศไทย)
หรือ
คุณสมบัติที่เป็นจุดเด่นหรือลักษณะสำคัญของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
ตัวอย่าง
ซึ่งพระองค์จะพาสองหลาน ออกไปสังหารยักษา
ก็ต้องความตาม ไวกูณฐ์ มา สุดแต่พระมหามุนี
(รามเกียรติ์ : รัชกาลที่ ๑)
ไวกูณฐ์ เป็นที่ประทับขององค์พระนารายณ์ในที่นี้ใช้เป็นนามนัยที่หมายถึงองค์พระ
นารายณ์อวตาร
แบบฝึกทักษะการวิเคราะห์โวหารภาพพจน์ในวรรณคดีและวรรณกรรม
12
8. สัทพจน์ (Onomatopoeia) คือ การใช้ถ้อยคำที่เลียนเสียงธรรมชาติ เพื่อช่วยสื่อให้
ผู้รับสารรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงโดยธรรมชาติของสิ่งนั้น ๆ
ตัวอย่าง
ณ ยามสายัณห์ตะวันยิ่งย้อย แนะเร่งเท้าหน่อยทยอยเหยียบหนา
ตะแล้กแต้กแต้กจะแหลกแล้วจ้า กระด้งรีบมาเถอะรับข้าวไป
(ณ ยามสายัณห์ – สุภร ผลชีวิน)
ศึกษาใบความรู้เข้าใจแล้ว
ลองทำแบบฝึกทักษะดูนะ
จ๊ะ
แบบฝึกทักษะการวิเคราะห์โวหารภาพพจน์ในวรรณคดีและวรรณกรรม
13
แบบฝึกทักษะที่ ๑.๑
ค้นคำ
ุ่
์
คำชแจง ให้นักเรียนพิจารณาคำศัพทในกรอบ แล้วทำเครื่องหมาย O ล้อมคำที่อยู่ในกลม
ี้
ประเภท ของโวหารภาพพจน์
ศฤางคารรส อัพภูตรส รุทรรส ภยานกรส
บุคคลาธิษฐาน รูปธรรม พิโรธวาทัง ปรพากย์
์
การถ่ายทอดอารมณ์ นามธรรม นามนัย คำไวพจน
สัญลักษณ์ การตีความ วรรณศิลป์ มโนภาพ จินตภาพ
วรรณคดี อุปมา ความรู้สึก การวิเคราะห์ สำนวน การใช้คำซ้ำ
อวพจน์ นารีปราโมทย์ อุปลักษณ์ การหลากคำ เสาวรจน
ี
สัทพจน์ สัลลาปังคพิสัย คติธรรม การเล่นคำ อติพจน์
การเล่นเสียงสัมผัส ลักษณะคำประพันธ์ วีรรส
แบบฝึกทักษะการวิเคราะห์โวหารภาพพจน์ในวรรณคดีและวรรณกรรม
14
แบบฝึกทักษะที่ 1.2
ผิด หรือ ถูก
ี้
้
ี่
คำชแจง ให้นักเรียนพิจารณาข้อความแลวทำเครื่องหมาย หน้าข้อความทถูก
้
และทำเครื่องหมาย X หน้าขอความที่ผิด
_______________๑. การใช้โวหารภาพพจน์ทำให้ผู้รับสารเกิดมโนภาพหรือเกิดจินตนาการ
____________๒. วรรณคดีและวรรณกรรมที่ดีเรื่องหนึ่งควรมีลักษณะการใช้โวหารภาพพจน์
เพียงประเภทเดียวเท่านั้น
____________๓. อุปมา (Simile) คือ การนำสิ่งที่เป็นรูปธรรมที่มีลักษณะหรือคุณสมบัติ
เหมือนกัน หรือคล้ายคลึงกันมาเปรียบเทียบกัน
____________๔. นามนัย (Metonymy) คือ การเปรียบเทียบด้วยการกล่าวว่าสิ่งนั้นเป็นอีกสิ่ง
หนึ่ง เป็นการเปรียบเทียบที่ไม่กล่าวตรง ๆ แต่ใช้เป็นการกล่าวเป็นนัย ให้เข้าใจเอง
____________๕. บุคลาธิษฐาน (Personification) คือ การเปรียบเทียบโดยการนำเอา
สิ่งไม่มีชีวิตหรือมีชีวิตที่ไม่ใช่คนมากล่าวถึงราวกับเป็นคนหรือทำกริยาอาการอย่างคน
____________๖. สัทพจน์ (Onomatopoeia) คือ การกล่าวเกินจริงซึ่งเป็นความรู้สึกหรือ
ความคิดของผู้กล่าวที่ต้องการย้ำความหมายให้ผู้ฟังรู้สึกว่าหนักแน่น
____________๗. อุปลักษณ์ (Metaphor) คือ การเปรียบเทียบโดยการใช้คำหรือวลีซึ่งบ่งลักษณะ
หรือคุณสมบัติที่เป็นจุดเด่นหรือลักษณะสำคัญของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
แบบฝึกทักษะการวิเคราะห์โวหารภาพพจน์ในวรรณคดีและวรรณกรรม
15
____________๘. ปรพากษ์ (Paradox) คือ การใช้ถ้อยคำที่มีความหมายตรงกันข้ามหรือขัดแย้งกันมา
กล่าวร่วมกันได้อย่างกลมกลืน
____________๙. อติพจน์ (Hyperbole) คือ การใช้ถ้อยคำที่เลียนเสียงธรรมชาติ เพื่อช่วยสื่อให้ผู้รับสาร
ได้ยินเสียงโดยธรรมชาติของเสียงนั้น ๆ
___________๑๐. สัญลักษณ์ (Symbol) คือ การเปรียบเทียบที่เรียกสิ่งหนึ่งสิ่งใด โดยใช้คำอื่นแทนคำ
ที่ใช้เรียกนั้น เกิดจากการเปรียบเทียบและตีความซึ่งใช้กันมานานจนเป็นที่เข้าใจโดยทั่วไป
เกณฑ์การให้คะแนน (คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน)
๑. ตอบถูกต้องตรงตามเฉลย ๑ คะแนน
๒. ตอบผิดไม่ตรงตามเฉลย ๐ คะแนน
แบบฝึกทักษะการวิเคราะห์โวหารภาพพจน์ในวรรณคดีและวรรณกรรม
16
แบบฝึกทักษะที่ 1.3
จับคู่เติมตัวอักษร
คำชแจง ให้นักเรียนจับคู่คำกับความหมายให้ถูกต้อง แล้วเติมอักษรลงในช่องว่าง
ี้
ก. โวหารภาพพจน์ (Figures Of Speech)
ข. มโนภาพ (Imagination)
ค. อุปมาอุปไมย (Simile)
ง. อุปลักษณ์ (Metaphor)
จ. บุคลาธิษฐาน (Personifiication)
ฉ. อติพจน์ (Hyperbole)
ช. นามนัย (Metonymy)
ซ. ปรพากย์ (Paradox)
ฌ. สัทพจน์ (Onomatopoeia)
ญ. สัญลักษณ์ (Symbol)
ี
่
ี
๑. การเปรียบเทียบโดยการนำเอาสิ่งไม่มชีวิตหรือมชีวิตที่ไม่ใชคนมากล่าวถึง
ราวกับเป็นคนหรือทำกริยาอาการอย่างคน
๒. การเปรียบเทียบที่เรียกสิ่งหนึ่งสิ่งใด โดยใช้คำอื่นแทนคำที่ใช้เรียกนั้น
ึ่
้
เกิดจากการเปรียบเทียบและตีความซงใช้กันมานานจนเป็นที่เขาใจโดยทั่วไป
้
3. การใชโวหารภาพพจน์ทำให้ผู้รับสารเกิดมโนภาพหรือเกิดจินตนาการ
๔. การนำสิ่งที่เป็นรูปธรรมที่มลักษณะหรือคุณสมบัติเหมือนกันหรือ
ี
คลายคลึงกัมาเปรียบเทียบกัน
้
17
แบบฝึกทักษะการวิเคราะห์โวหารภาพพจน์ในวรรณคดีและวรรณกรรม
๕. การเปรียบเทียบด้วยการกล่าววาสิ่งนั้นเป็นอีกสิ่งหนึ่ง เป็นการเปรียบเทียบท ี่
่
ไม่กล่าวตรง ๆ แต่ใช้เป็นการกล่าวเป็นนัย ให้เข้าใจเอง
6. การกล่าวเกินจริงซึ่งเป็นความรู้สึกหรือความคิดของผู้กล่าวที่ต้องการย้ำ
ความหมายให้ผู้ฟังรู้สึกวาหนักแน่น
่
ี่
๗. การใช้ถ้อยคำทมีความหมายตรงกันข้ามหรือขัดแย้งกันมากล่าวร่วมกันได้
อย่างกลมกลืน
8. การใช้ถ้อยคำที่เลียนเสียงธรรมชาติ เพื่อช่วยสื่อให้ผู้รับสารได้ยินเสียง
โดยธรรมชาติของเสียงนั้น ๆ
๙. ภาพที่เกิดจากความคิดและจินตนาการ ซึ่งถูกกระตุ้นจากข้อมลหรือสารท ี่
ู
ได้รับ
10. การเปรียบเทียบโดยการใช้คำหรือวลีซึ่งบ่งลักษณะหรือคุณสมบัติที่เป็น
จุดเด่นหรือลักษณะสำคัญของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
เกณฑ์การให้คะแนน (คะแนนเต็ม ๑๐
คะแนน)
๑. ตอบถูกต้องตรงตามเฉลย ๑
คะแนน
๒. ตอบผิดไม่ตรงตามเฉลย ๐
คะแนน
แบบฝึกทักษะการวิเคราะห์โวหารภาพพจน์ในวรรณคดีและวรรณกรรม
18
แบบฝึกหัดที่ 1.4
ปริศนาอักษรไขว้
ี้
คำชแจง ให้นักเรียนเขียนคำศัพท์ลงในตารางปริศนาอักษรไขว้ให้สอดคล้องกับความหมาย
ของคำทั้งแนวตั้งและแนวนอน
๒
1 1
3 4/2
3
5
4
5
แนวตั้ง แนวนอน
1. ถ้อยคำสำนวนที่ทำให้เกิดจินตนาการ 1. การเลียนแบบกิริยาอาการของมนุษย ์
2. การจำแนกองค์ประอบต่าง ๆ 2. การกล่าวว่าสิ่งนั้นเป็นอีกสิ่งหนึ่ง
3. การเลียนแบบกิริยาอาการของมนุษย ์ 3. การใช้คำหรือวลีซึ่งบ่งลักษณะสำคัญ
4. การนำสิ่งที่คล้ายกันมาเปรียบเทียบ ของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
5. การเรียกสิ่งหนึ่งสิ่งใดโดยใช้คำอื่นแทน 4. การใช้ถ้อยคำที่เลียนเสียงธรรมชาติ
5. การใช้ถ้อยคำที่มีความหมายตรงกันข้าม
เกณฑ์การให้คะแนน (คะแนนเต็ม ๑๐
คะแนน)
๑. ตอบถูกต้องตรงตามเฉลย ๑
คะแนน
๒. ตอบผิดไม่ตรงตามเฉลย ๐
แบบฝึกทักษะการวิเคราะห์โวหารภาพพจน์ในวรรณคดีและวรรณกรรม
19
แบบฝึกทักษะที่ 1.๕
วิเคราะห์ความคิด
ี้
้
คำชแจง ให้นักเรียนพิจารณาบทร้อยกรองที่กำหนดใหว่ามีการใช้ภาพพจน์ชนิดใด แล้วเขียน
้
ตอบ ลงในช่องว่างใหถูกต้อง
ิ
์
อตพจน สัญลักษณ์ ปรพากย์ อุปมาอุปไมย
อุปลักษณ์ บุคลาธิษฐาน นามนัย สัทพจน์
... ดูกรนางนาฏ พระน้องรัก (ภทฺเท) เจ้าผู้มีพักตร์อันผุดผ่องเสมือนหนึ่งเอาน้ำทองเข้ามาทาบทับ
ประเทืองผิว ราวกะว่าจะลอยลิ่วเลื่อนลงจากฟ้า ใครได้เห็นเป็นขวัญตาเต็มหลงละลายทุกข์
ปลุกเปลื้องอารมณ์ชายให้เชยชื่น...
(ร่ายยาวมหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี : เจ้าพระยาพระคลัง (หน))
๑.ตอบ.............................
...เจ้าจะเอาป่าชัฏนี่หรือมาเป็นป่าช้า จะเอาพระบรรณศาลานี่หรือเป็นบริเวณพระเมรุทอง จะเอาแต ่
ั้
เสียงสาลิกาอันร่ำร้องนนหรือมาเป็นกลองประโคมใน จะเอาแต่เสียงจักจั่นและเรไรอันร่ำร้องนั่นหรือมา
ต่างแตรสังข์และพิณพาทย์ จะเอาแต่เมฆหมอกในอากาศนั่นหรือมากั่นเป็นเพดาน จะเอาแต่ยูงยางในป่า
พระหิมพานต์มาต่างฉัตรเงินและฉัตรทอง จะเอาแต่แสงพระจันทร์อันผุดผ่องมาต่างประทีปแก้วโอภาส
อนิจจามัทรีเอ่ยมาตายอเนจอนาถไร้ญาติที่กลางดง...
(ร่ายยาวมหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี : เจ้าพระยาพระคลัง (หน))
๒.ตอบ..............................
แบบฝึกทักษะการวิเคราะห์โวหารภาพพจน์ในวรรณคดีและวรรณกรรม
๒๐
...โอ พระอาศรมเจ้าเอ๋ยน่าอัศจรรย์ใจ แต่ก่อนดูนี่สุกใสด้วยสีทอง เสียงเนื้อนกนี่ร่ำร้องสำราญ
รังเรียกคู่คูขยับขัน ทั้งจักจั่นพรรณลองไนเรไรร้องอยู่หริ่ง ๆ ระเรื่อยโรย...
(ร่ายยาวมหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี : เจ้าพระยาพระคลัง (หน))
๓.ตอบ..............................
...ทั้งแปดทิศก็มืดมนทุกหนแห่ง ทั้งขอบฟ้าก็ดาษแดงเป็นสายเลือดไม่วนวายหายเหือดเป็นลาง
ร้ายไปรอบข้าง...
(ร่ายยาวมหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี : เจ้าพระยาพระคลัง (หน))
๔.ตอบ..............................
ี้
...เหตุไฉนเหงาเงียบเมื่อยามน ทั้งอาศรมก็หมองศรีเสมือนหนึ่งว่าจะเศร้าโศก เออ ชะรอยว่า
ั
ี้
พระเจ้าลูกจะวิโยคพลดพรากไปจากอกพระมารดาเสียจริงแล้วกระมังในครั้งน...
(ร่ายยาวมหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี : เจ้าพระยาพระคลัง (หน))
๕.ตอบ..............................
...โอ พระอาศรมเจ้าเอ๋ยน่าอัศจรรย์ใจ แต่ก่อนดูนี่สุกใสด้วยสีทอง เสียงเนื้อนกนี่ร่ำร้องสำราญ
รังเรียกคู่คูขยับขัน...
(ร่ายยาวมหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี : เจ้าพระยาพระคลัง (หน))
๖.ตอบ..............................
แบบฝึกทักษะการวิเคราะห์โวหารภาพพจน์ในวรรณคดีและวรรณกรรม
๒๑
...นางก็ถึงวิสัญญีสลบลงตรงหน้าฉาน ปานประหนึ่งว่าพุ่มฉัตรทองอันต้องสายอัสนีฟาดระเนนเอนก็
ล้มลงตรงหน้าพระที่นั่งเจ้า นั้นแล...
(ร่ายยาวมหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี : เจ้าพระยาพระคลัง (หน))
๗.ตอบ..............................
้
...อกแม่นีให้อ่อนหิวสุดละห้อย ทั้งดาวเดือนก็เคลื่อนคล้อยลงลับไม้ สุดที่แม่จะติดตามเจ้าไปในยามนี้
ิ้
ี้
ฝูงลิงค่างบ่างชะนีที่นอนหลับ ก็กลงกลับเกลือกตัวอยู่ยั้วเยย...
(ร่ายยาวมหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี : เจ้าพระยาพระคลัง (หน))
๘.ตอบ..............................
ิ
...อันพระมหาบุรุษราชชาติอาชาไนยเชื้อชนวงศ์ ทรงบำเพ็ญเพิ่มโพธิสมภาร ด้วยเดชอำนวยทาน
โพธิสัตว์ เป็นปัจฉิมปรมัตถบารมีอันหมายมั่น...
(ร่ายยาวมหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี : เจ้าพระยาพระคลัง (หน))
๙.ตอบ..............................
......ท้าวเธอจึ่งตรัสว่าพระน้องเอ่ย ถ้าพี่มิได้ให้ด้วยเลื่อมใสศรัทธาแล้ว ที่ไหนเลยแผ่นดินจะ
กัมปนาทหวาดหวั่นไหวจลาจล ท้าวเธอเล่านุสนธิ์มหัศจรรย์ อันมีอยู่ในกัณฑ์กุมารบรรพกลับมาเล่า
ให้พระมัทรีฟังแต่ในกาลหนหลังนแล้วแล...
ี้
(ร่ายยาวมหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี : เจ้าพระยาพระคลัง (หน))
เกณฑ์การให้คะแนน (คะแนนเต็ม ๑๐
๑๐.ตอบ............................
คะแนน)
๑. ตอบถูกต้องตรงตามเฉลย ๑ คะแนน
๒. ตอบผิดไม่ตรงตามเฉลย ๐
คะแนน
แบบฝึกทักษะการวิเคราะห์โวหารภาพพจน์ในวรรณคดีและวรรณกรรม
๒๒
แบบฝึกทักษะที่ 1.6
สะท้อนความคิด
คำชแจง ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง
ี้
1. อธิบายความหมายของคำว่า “การคิดวิเคราะห์” ตามความเข้าใจของนักเรียน
.................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
2. ทักษะการคิดวิเคราะห์มีประโยชน์ต่อชีวิตประจำวันของนักเรียนอย่างไร
................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
3. โวหารภาพพจน์ คือ
.................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
4. โวหารภาพพจน์มีกี่ประเภท อะไรบ้าง
.................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
5. การใช้โวหารภาพพจน์มีความสำคัญและจำเป็นต่องานเขียนหรือไม่ อย่างไร
.................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
เกณฑ์การให้คะแนน (คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน)
๑. ตอบคำถามตรงตามประเด็น มีการแสดงความ
คิดเห็น
หรือยกตัวอย่างประกอบอย่างละเอียดชัดเจน 2
คะแนน
๒. ตอบคำถามตรงตามประเด็น แต่ไม่มีการแสดงความ
คิดเห็นเพิ่มเติม 1 คะแนน
แบบฝึกทักษะการวิเคราะห์โวหารภาพพจน์ในวรรณคดีและวรรณกรรม
2๓
แบบทดสอบหลังเรียน
แบบฝึกทักษะการวิเคราะห์โวหารภาพพจน์ในวรรณคดีและวรรณกรรม
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
เรื่อง โวหารภาพพจน ์
คำชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว แล้วทำเครื่องหมาย X ลงในกระดาษคำตอบ
1. ข้อใดคือความหมายของโวหารภาพพจน์แบบสัทพจน์
ื
ก. การใช้ถ้อยคำที่มีความหมายตรงกันข้ามหรอขัดแย้งกันมากล่าวร่วมกันได้อย่างกลมกลืน
ิ
ข. การใช้ถ้อยคำที่เลียนเสียงธรรมชาติ เพื่อช่วยสื่อให้ผู้รับสารรู้สึกเหมือนได้ยนเสียงโดยธรรมชาติ
ของสิ่งนั้น ๆ
ค. การเปรียบเทียบโดยการนำเอาสิ่งที่ไม่มีชีวิตหรือมีชีวิต แต่ไม่ใช่คนมากล่าวถึง ราวกับเป็นคนหรือ
ทำกิริยาอาการอย่างคน
้
ง. การเปรียบเทียบที่เรียกสิ่งหนึ่งสิ่งใด โดยใชคำอื่นแทนคำที่ใช้เรียกนั้นเกิดจาก การเปรียบเทียบ
และตีความซึ่งใช้กันมานานจนเป็นที่เข้าใจกันโดยทั่วไป
2. เหตุใดจึงต้องมีการใช้โวหารภาพพจน์ในวรรณคดีและวรรณกรรม
้
ก. เพื่อบอกเล่าเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ไดอย่างถูกต้อง
ข. เพื่อทดสอบความรู้ความเข้าใจในการอ่านวรรณคดีและวรรณกรรม
ค. เพื่อให้ผู้รับสารซาบซึ้งและมีความรู้สึกร่วมตรงตามความปรารถนาของผู้ส่งสาร
ง. เพื่อให้ผู้รับสารได้รับความรู้ที่แฝงอยู่ในวรรณคดีและวรรณกรรมอย่างแท้จริง
3. ข้อใดกล่าวถึงโวหารภาพพจน์ได้ถูกต้อง
ก. การใช้ภาษาเพื่ออธิบายเรื่องราวอย่างตรงไปตรงมา
ข. การใช้ถ้อยคำที่ทำให้ผู้รับสารเกิดมโนภาพหรือเกิดจินตนาการถ่ายทอดอารมณ์
ค. การยกตัวอย่างเหตุการณ์ประกอบเพื่อให้มีความเข้าใจเรื่องราวต่าง ๆ มากขึ้น
ื่
ง. การเปรียบเทียบที่เรียกสิ่งหนึ่งสิ่งใดโดยใช้คำอื่นแทนเพอให้เกิดความหลากหลาย
4. ข้อใดคือความหมายของโวหารภาพพจน์แบบบุคลาธิษฐาน
ื
ก. การใช้ถ้อยคำที่มีความหมายตรงกันข้ามหรอขัดแย้งกันมากล่าวร่วมกันได้อย่างกลมกลืน
ข. การใช้ถ้อยคำที่เลียนเสียงธรรมชาติ เพื่อช่วยสื่อให้ผู้รับสารรู้สึกเหมือนได้ยนเสียงโดยธรรมชาติ
ิ
ของสิ่งนั้น ๆ
ค. การเปรียบเทียบโดยการนำเอาสิ่งที่ไม่มีชีวิตหรือมีชีวิต แต่ไม่ใช่คนมากล่าวถึง ราวกับเป็นคน
หรือทำกิริยาอาการอย่างคน
้
ง. การเปรียบเทียบที่เรียกสิ่งหนึ่งสิ่งใด โดยใชคำอื่นแทนคำที่ใช้เรียกนั้นเกิดจาก การเปรียบเทียบ
และตีความซึ่งใช้กันมานานจนเป็นที่เข้าใจกันโดยทั่วไป
แบบฝึกทักษะการวิเคราะห์โวหารภาพพจน์ในวรรณคดีและวรรณกรรม
2๔
5. “การเปรียบด้วยการกล่าวว่าสิ่งหนึ่งเป็นอีกสิ่งหนึ่ง เป็นการเปรียบเทียบที่ไม่กล่าวตรง ๆ แต่ใช้การ
กล่าว
เป็นนัยให้เข้าใจเอง” คือโวหารภาพพจน์แบบใด
ก. สัทพจน ์ ข. อธิพจน ์ ค. บุคลาธิษฐาน ง. อุปลักษณ์
6. “การใช้ถ้อยคำที่มีความหมายตรงกันข้ามหรือขัดแย้งกันมากล่าวร่วมกันได้อย่างกลมกลืน” คือโวหาร
ภาพพจน์แบบใด
์
ก. ปรพากย ข. สัญลักษณ์ ค. อุปมา ง. นามนัย
7. ข้อใดมีการใช้โวหารภาพพจน์แบบอุปมาอุปไมย
ก. เจ้าจะเอาป่าชัฏนี่หรือมาเป็นป่าช้า
ข. จะเอาพระบรรณศาลานี่หรือเป็นบริเวณพระเมรุทอง
ค. พระโสตฟังใหวาดแว่วว่าสำเนียงเสียงพระแก้วเจ้าบ่นอยู่งึม ๆ
ง. เมื่อสมเด็จพระมัทรีกำสรดแสนกัมปนาทเพยงพระสันดานจะขาดจะดับสูญ
ี
8. ข้อใดมีการใช้โวหารภาพพจน์แบบอติพจน ์
ก. พระกายนางให้เสียวสั่นหวั่นไหวไปทั้งองค์ ดุจชายธงอันต้องกำลังลมอยลิ่ว ๆ
ู่
ข. นางจึ่งเซซังเข้าไปสู่พระอาศรมบังคมบาทพระภัสดา ประหนึ่งว่าชีวาจะวางวายทำลายล่วง
ค. ถ้าพี่มิได้ให้ด้วยเสื่อมใสศรัทธาแท้แล้ว ที่ไหนเลยแผ่นดินดานจะกัมปนาทหวาดหวั่นไหวจลาจล
ง. ปานประหนึ่งว่าพุ่มฉัตรทองอันต้องสายอัสนีฟาดขาดระเนนเอนแล้วก็ล้มลงตรงหน้าพระที่นั่งเจ้า
9. ข้อใดไม่มีการใช้โวหารภาพพจน ์
ก. อุปมาเหมือนคนไข้หนักแล้วมิหนำยังแพทย์เอายาพิษมาวางซ้ำให้เวทนา
ข. รัศมีพระจันทร์ก็มัวหมองเหมือนหนึ่งจะเศร้าโศกแสนวิปโยคเมื่อยามปัจจุสมัย
ั
ค. สมเด็จอรไทเธอเที่ยวตะโกนกู่กู๋ก้อง พระพกตร์เธอฟูมฟองนองไปด้วยน้ำพระเนตรเธอโศกา
ี้
ั
ง. จึ่งตรัสว่าโอ้โอ๋เวลาปานฉะนเอ่ยมิดึกดื่น จวนจะสิ้นคืนค่อนรุ่งเสียแล้วกระไรไม่รู้เลย พระพายรำเพยพด
มารี่เรื่อยอยู่เฉื่อยฉิว
10. ข้อใดมีการใช้สัทพจน์โวหาร
ื้
ก. นางเสด็จจรลีไปหยุดยืนในภาคพนปริมณฑลใต้ต้นหว้า
ข. พระพายรำเพยพัดมารี่เรื่อยอยู่เฉื่อยฉิว อกแม่นี้ให้อ่อนหิวสุดล่ะห้อย
ั
ค. สมเด็จอรไทเธอเที่ยวตะโกนกู่กู๋ก้อง พระพกตร์เธอฟูมฟองนองไปด้วยน้ำพระเนตรเธอโศกา
่
ง. เจ้าเคยมาห้อยโหนโยนชิงช้าชวนกันแกว่งไกว แล้วเล่นไลปิดตาเร้นแทบหลังบริเวณพระอาวาส
แบบฝึกทักษะการวิเคราะห์โวหารภาพพจน์ในวรรณคดีและวรรณกรรม
2๕
บรรณานุกรม
์
กุหลาบ มัลลิกะมาส (2554). วรรณคดีวิจารณ. พิมพ์ครั้งที่ 15. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
จิราวรรณ หนูฤทธิ์. แบบฝึกทักษะการแต่งบทร้อยกรอง ประเภทโคลงสี่สุภาพ สำหรับนักเรียนชั้น
มัธยมศึกษา
ปีที่ ๓ เล่มที่ ๔. สงขลา : โรงเรียนระโนดวิทยา.
ศิรินทร์วรรณ พันธ์วงษ์. การวิเคราะห์โวหารภาพพจน์ในวรรณคดีและวรรณกรรม. พะเยา : โรงเรียนดอก
้
คำใต
วิทยาคม.
แบบฝึกทักษะการวิเคราะห์โวหารภาพพจน์ในวรรณคดีและวรรณกรรม