The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือการปฏิบัติงานรายบุคคลของศึกษานิเทศก์จันจิรา เผือกจีน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Jan_Jira, 2022-10-24 10:55:34

คู่มือการปฏิบัติงานรายบุคคลของศึกษานิเทศก์จันจิรา เผือกจีน

คู่มือการปฏิบัติงานรายบุคคลของศึกษานิเทศก์จันจิรา เผือกจีน

ค่มู ือการปฏิบัตงิ านรายบคุ คลของศกึ ษานเิ ทศก์

นางจันจิรา เผือกจีน
ตาแหน่ง ศกึ ษานิเทศก์
วิทยฐานะศึกษานเิ ทศก์ชานาญการ

กลุม่ นเิ ทศ ติดตามและประเมินผลการจดั การศึกษา
สานกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษานครสวรรค์ เขต 2

สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน
กระทรวงศกึ ษาธิการ

คานา

การจัดทาคู่มือการปฏิบัติงานรายบุคคลของ นางจันจิรา เผือกจีน ศึกษานิเทศก์ชานาญการ กลุ่มนิเทศ
ติดตาม และประเมนิ ผลการจดั การศกึ ษา สานกั งานเขตพนื้ ท่ีการศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 2 ฉบบั น้ี
มีรายละเอียดของภารกิจ ขอบข่าย หน้าที่ กระบวนการขั้นตอนการปฏิบัติงาน ตามขอบข่ายภารกิจหน้าท่ีที่
รับผิดชอบท่ีได้รับมอบหมาย และนโยบาย ตามจุดเน้นสานักงาน/จุดเน้นของสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา
ประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 2 และ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานรวมทั้งร่วมสนับสนุนการ
ปฏิบตั ิงานกับหน่วยงานอื่นที่เก่ยี วข้องบทบาทจากการวเิ คราะห์ อานาจ หน้าที่ตามประกาศกระทรวงศึกษาธกิ าร
เพ่อื ให้เกดิ เปน็ ภาระงานของรายบคุ คล กลุ่มงานนเิ ทศติดตาม และประเมนิ ผลการจัดการศกึ ษา

ขอขอบคุณผู้อานวยการสานักงานเขตพน้ื ที่การศึกษาประถมศึกษา รองผู้อานวยการสานักงานเขตพื้นท่ี
การศึกษาประถมศึกษา ผู้อานวยการกลมุ่ นิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจดั การศึกษา รวมท้ังผู้มีสว่ นสาคัญ
และทาให้เกิดคมู่ ือปฏิบัตงิ าน เล่มน้ใี ห้สมบรู ณส์ ามารถนาไปปฏบิ ัติงานไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ และเกดิ ประสทิ ธผิ ล

นางจันจิรา เผือกจนี
ศึกษานเิ ทศก์ชานาญการ

สารบญั หนา้

คานา ก

สารบัญ ข

ตอนที่ 1 คู่มือการปฏิบตั งิ านของ กลมุ่ นเิ ทศ ตดิ ตาม และประเมนิ ผลการจดั การศกึ ษา 1

แนวคิด 1
วตั ถุประสงค์ 1
บทบาท หนา้ ที่และความรบั ผิดชอบของศึกษานิเทศก์ 1
งานตามหนา้ ท่ีความรบั ผิดชอบตามมาตรฐานตาแหน่ง 2
งานตามขอบข่าย ภารกจิ ของกลุ่มนิเทศ ตดิ ตาม และประเมินผลการจดั การศึกษา 3
ภารกจิ สาระความรู้ และลกั ษณะงานท่ปี ฏบิ ตั ิ 3
ประโยชนท์ ีค่ าดว่าจะไดร้ ับ 4

ตอนท่ี 2 ขอบขา่ ยภารกจิ กลมุ่ งานทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย 5

รายละเอยี ดขน้ั ตอนการดาเนนิ งาน 6

ตอนที่ 3 ข้อมูลกลุ่มโรงเรยี นที่รบั ผดิ ชอบ 7

ตอนท่ี 4 ทิศทางการนิเทศ 8

วิสยั ทัศน์ 8
หลักการ 8
วัตถุประสงค์ 8
เป้าหมาย 9
รปู แบบการนเิ ทศ 9
กระบวนการนิเทศ 15

ตอนที่ 5 กรอบการนเิ ทศตดิ ตามประเมนิ ผลและพฒั นาระบบบริหารและการจดั การศกึ ษา 19

งานท่ีศึกษานิเทศกท์ ุกคนต้องนิเทศ 19
งานนเิ ทศตามนโยบาย/จดุ เน้น/งานอื่น ๆ 22
การสรปุ ผลการนเิ ทศ 30
การรายงานผลการปฏบิ ัตกิ ารนิเทศ 31

ภาคผนวก 32

มาตรฐานวิชาชีพศกึ ษานิเทศก์ 32

1

ตอนที่ 1

การปฏบิ ัตงิ านของ กลุ่มนเิ ทศ ติดตาม และประเมินผลการจดั การศกึ ษา

แนวคดิ

กลมุ่ นเิ ทศ ติดตามและประเมินผลการจดั การศึกษา สานกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์
เขต 2 เป็นกลุ่มงานดาเนินการเกยี่ วกับการนเิ ทศการศึกษา วิเคราะห์ วิจัย ติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการ
พฒั นาระบบการบริหารและการจดั การศึกษา เพอ่ื ให้สถานศกึ ษามีความเขม้ แขง็ ในการบรหิ ารและการจดั การเรยี น
การสอนได้อยา่ งมคี ณุ ภาพเทา่ เทยี มกนั โดยยึดโรงเรยี นเปน็ ฐาน สง่ ผลใหผ้ เู้ รียนเกดิ การเรียนรตู้ ามวตั ถุประสงคแ์ ละ
เปา้ หมายของการศกึ ษาในงานตามภารกิจของกลุ่มนิเทศตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษาทีม่ ีศึกษานิเทศก์
แตล่ ะคนรบั ผิดชอบตามกรอบงานทไี่ ด้รบั มอบหมายจึงต้องมีคมู่ อื การปฏิบตั งิ านของศกึ ษานิเทศก์แต่ละบคุ คล

วตั ถปุ ระสงค์
1. เพื่อใช้เปน็ ค่มู ือในการปฏบิ ตั งิ านของศึกษานเิ ทศก์ในการปฏบิ ัตริ าชการในฐานะของบคุ ลากรกล่มุ

นิเทศ ติดตามและประเมินผลการ จัดการศึกษา
2. เพื่อสรา้ งวฒั นธรรมคุณภาพของตนเองและของกลุม่ นเิ ทศ ตดิ ตามและประเมินผลการจัดการศึกษา
3. เพอ่ื ประชาสมั พนั ธ์และสร้างความเข้าใจแก่ครแู ละบุคลากรทางการศึกษาในบทบาท

หนา้ ท่ี และภารกิจของศึกษานิเทศก์
บทบาท หนา้ ที่และความรับผิดชอบของศกึ ษานเิ ทศก์
1. งานตามหน้าท่ี ความรับผิดชอบตามมาตรฐานตาแหน่งศึกษานิเทศก์ทุกคน ในสานักงานเขตพื้นที่

การศึกษาประถมศกึ ษานครสวรรค์ เขต 2 ปฏิบตั ิหน้าท่ี เกี่ยวกบั งานวิชาการและงานนิเทศการศกึ ษาเพื่อปรับปรุง
การเรียนการสอนใหไ้ ดม้ าตรฐาน ดงั นี้

1.1 งานนเิ ทศการศกึ ษา โดยส่งเสริมให้สถานศกึ ษาบริหารหลักสูตรสถานศึกษาจัด
กระบวนการเรียนรู้ มรี ะบบการประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษาตามมาตรฐานการศึกษาพฒั นาการวัดและ
ประเมนิ ผลการศึกษา พัฒนาส่ือนวัตกรรมและเทคโนโลยที างการศกึ ษาได้อย่างมีคุณภาพ

1.2 การศึกษา ค้นคว้าทางวชิ าการ เพ่อื จดั ทาเป็นเอกสาร คูม่ ือและสือ่ ใช้ในการปฏิบตั ิงาน
และเผยแพรใ่ ห้ครูได้ใชใ้ นการพัฒนาการจดั กระบวนการเรียนการสอน

1.3 การวเิ คราะห์ วจิ ัยเกยี่ วกับการพัฒนาหลกั สตู รและกระบวนการเรยี นรสู้ อื่ นวตั กรรมและ
เทคโนโลยีทางการศึกษา พัฒนาระบบการบริหารงานวชิ าการ พฒั นามาตรฐานและการประกนั คุณภาพการศกึ ษา
เพื่อใชใ้ นการปฏิบตั งิ านและเผยแพร่แก่ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา ครแู ละผสู้ นใจท่วั ไป

1.4 การติดตาม ตรวจสอบและประเมินผล เพื่อเป็นขอ้ มลู และสารสนเทศในการวางแผนการ
นิเทศและการพัฒนางานวชิ าการ

1.5 ปฏบิ ัติงานอืน่ ๆ ทผ่ี ู้บงั คับบัญชามอบหมาย
2. งานตามขอบข่าย ภารกิจของกลมุ่ นิเทศ ตดิ ตาม และประเมินผลการจดั การศึกษากลมุ่ นิเทศติดตาม และ
ประเมนิ ผลการจัดการศึกษา สานักงานเขตพื้นท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษานครสวรรค์ เขต 2 เปน็ กลุ่มงานท่ีดาเนิน
การเก่ียวกับการนิเทศการศึกษา วเิ คราะห์วิจยั ติดตาม ตรวจสอบ และประเมนิ ผลการพัฒนาระบบบรหิ ารและจัด
การศกึ ษาเพ่อื ให้สถานศกึ ษามีความเขม้ แขง็ ในการบรหิ ารและจดั การเรยี นการสอนไดอ้ ยา่ งมีคุณภาพมาตรฐาน

2
เท่าเทยี มกัน โดยยึดโรงเรยี นเปน็ ฐาน ส่งผลให้ผู้เรียน ทงั้ ในระบบนอกระบบ และตามอธั ยาศยั เกิดการเรยี นรตู้ าม
วัตถุประสงค์และเป้าหมายของการศึกษา โดยปฏิบัติหน้าท่ีเกี่ยวกับงานวิชาการและงานนิเทศการศึกษาเพื่อ
ปรับปรุงการเรียนการสอนให้ได้มาตรฐาน ศึกษา ค้าคว้าทางวิชาการและวิเคราะห์ วิจัย ติดตามตรวจสอบและ
ประเมินผลเพื่อพัฒนาการจดั การเรียนการสอนใหม้ ปี ระสิทธภิ าพย่ิงขึ้น และปฏิบัตหิ น้าท่ีอืน่ ตามท่ไี ดร้ ับมอบหมาย
โดยให้มีความรู้ ความเข้าใจในหลักการนิเทศการศึกษา หลักสูตร กระบวนการเรียนรู้ การวัด การประเมินผล
การศึกษา การประกันคณุ ภาพการศกึ ษา ระบบดแู ลช่วยเหลอื ครแู ละผู้เรียนในระดบั สงู มคี วามสามารถในการวาง
แผนการนิเทศการศึกษางานวิชาการ งานติดตาม ตรวจสอบประเมินผลการจัดการศึกษา และจัดทารายงานโดย
แสดงให้เหน็ ว่ามีการวิจัยและพฒั นา สรา้ งองคค์ วามรู้ใหม่ เพื่อนาผลไปใชใ้ นการพัฒนาการ นเิ ทศการศกึ ษา มีการ
เผยแพรอ่ ย่างกว้างขวาง มีการถ่ายทอดและไดร้ ับการยอมรบั และมีการพัฒนาตน และพัฒนาวชิ าชีพมเี ทคนิคชน้ั สูง
ในการนิเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล สามารถพัฒนา นวัตกรรมการนเิ ทศการศกึ ษาจนเป็นแบบอย่างแก่
วชิ าชีพส่งผลให้ครูและบุคลากรในเขตพื้นที่การศึกษา สามารถจดั กระบวนการเรียนรบู้ รรลเุ ปา้ หมายของหลกั สูตร
มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของเขตพื้นท่ีการศึกษาและกระทรวงศึกษาธิการ เป็นผู้มีวินัยคุณธรรม
จริยธรรมและจรรยาบรรณวชิ าชพี

งานตามหน้าท่ีความรบั ผิดชอบตามมาตรฐานตาแหน่ง

ศึกษานิเทศก์ทุกคน ในสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ 2 ปฏิบัติหน้าที่ เกี่ยวกับ
งานวชิ าการและงานนเิ ทศการศึกษา เพอื่ ปรบั ปรุงการเรียนการสอนให้ไดม้ าตรฐานดงั น้ี

1. งานนิเทศการศกึ ษา โดยส่งเสรมิ ให้สถานศึกษาบริหารหลักสูตรสถานศึกษา จัดกระบวนการเรียนรู้ มี
ระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาตามมาตรฐานการศึกษาพัฒนาการวัดและประเมินผลการศึกษา
พฒั นาสื่อนวตั กรรมและเทคโนโลยีทางการศกึ ษาไดอ้ ยา่ งมีคณุ ภาพ

2. การศึกษาค้นคว้าทางวิชาการ เพื่อจดั ทาเปน็ เอกสารคู่มอื และสื่อใช้ในการปฏิบัติงานและเผยแพร่ให้
ครูไดใ้ ช้ในการพฒั นาการจดั กระบวนการเรียนการสอน

3. การวเิ คราะห์ วิจัยเกี่ยวกับการพฒั นาหลักสูตรและกระบวนการเรียนร้สู ่อื นวัตกรรมและเทคโนโลยี
ทางการศึกษา พัฒนาระบบการบริหารงานวิชาการ พัฒนามาตรฐานและการประกันคณุ ภาพ การศกึ ษา เพือ่ ใช้ใน
การปฏบิ ตั ิงานและเผยแพร่แก่ผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษา ครแู ละผู้สนใจท่วั ไป

4. การติดตาม ตรวจสอบและประเมินผล เพ่ือเป็นข้อมูลและสารสนเทศในการวางแผนการนิเทศและ
การพฒั นางานวชิ าการ

5. ปฏิบตั ิงานอืน่ ๆ ท่ผี ู้บังคับบญั ชามอบหมาย

งานตามขอบขา่ ย ภารกจิ ของกลมุ่ นเิ ทศ ติดตาม และประเมินผลการจดั การศึกษา
กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจดั การศึกษา สานกั งานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 2
เปน็ กลมุ่ งานทด่ี าเนินการเก่ียวกับการนิเทศการศึกษา วิเคราะห์ วจิ ยั ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการพฒั นา
ระบบบรหิ ารและจัดการศกึ ษาเพอ่ื ให้สถานศกึ ษามีความเข้มแข็งในการบริหาร และจัดการเรียนการสอนได้อย่างมี
คุณภาพมาตรฐานเท่าเทียมกันโดยยึดโรงเรียนเป็นฐาน ส่งผลให้ผู้เรียนท้ังในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย
เกิดการเรยี นรู้ตามวตั ถปุ ระสงคแ์ ละเปา้ หมายของการศึกษา โดยปฏบิ ตั ิหน้าท่ีเกีย่ วกับ

3
งานวิชาการและงานนิเทศการศึกษาเพ่ือปรับปรงุ การเรียนการสอนให้ได้มาตรฐาน ศึกษาค้นควา้ ทางวิชาการและ
วิเคราะห์ วิจัย ติดตาม ตรวจสอบและประเมินผล เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพย่ิงขึ้น
และปฏิบัติหน้าที่อ่ืนตามท่ีได้รับมอบหมาย โดยให้มีความรู้ความเข้าใจในหลักการนิเทศการศึกษาหลักสูตร
กระบวนการเรียนรู้ การวัด การประเมินผลการศกึ ษา การประกันคุณภาพการศึกษา ระบบดูแลช่วยเหลือครแู ละ
ผู้เรียนในระดับสูง มีความสามารถในการวางแผนการนิเทศการศึกษา งานวิชาการ งานติดตาม ตรวจสอบ
ประเมินผลการจัดการศึกษา และจดั ทารายงานโดยแสดงใหเ้ ห็นว่ามกี ารวิจัยและพัฒนา สรา้ งองค์ความร้ใู หม่ เพ่ือ
นาผลไปใชใ้ นการพัฒนาการนิเทศการศึกษา มีการเผยแพร่อยา่ งกว้างขวาง มีการถ่ายทอดและได้รับการยอมรับ
และมีการพัฒนาตน และพัฒนาวชิ าชพี มเี ทคนคิ ช้ันสูงในการนิเทศอยา่ งมีประสทิ ธิภาพประสิทธผิ ล สามารถพัฒนา
นวัตกรรมการนิเทศการศึกษาจนเป็นแบบอย่างแกว่ ิชาชีพ สง่ ผลใหค้ รูและบคุ ลากรในเขตพื้นทก่ี ารศกึ ษา สามารถ
จัดกระบวนการเรียนร้บู รรลุเป้าหมายของหลักสูตรมีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของเขตพื้นที่การศกึ ษาและ
กระทรวงศึกษาธกิ ารเป็นผู้มวี นิ ยั คุณธรรม จรยิ ธรรมและ จรรยาบรรณวชิ าชพี

ภารกจิ สาระความรู้ และลกั ษณะงานที่ปฏบิ ตั ิ
1. การนิเทศการศึกษา ได้แก่ หลักการและรูปแบบการนิเทศ วิธีการและกระบวนการนิเทศ กลยทุ ธ์การ

นิเทศการศึกษาในเรื่องการวิเคราะหพ์ ฤตกิ รรมการนเิ ทศการศกึ ษา การสร้างทักษะในการนิเทศ การใช้
กลยุทธ์ในการนิเทศ การนานวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ในการนิเทศ การควบคุมและการประเมินเพื่อการพัฒนา
คณุ ภาพการศึกษา การนิเทศภายในโดยสามารถวิเคราะหว์ ิจัย สง่ เสริมให้ขอ้ เสนอแนะเพ่อื พัฒนาระบบการนิเทศ
ภายในสถานศึกษาได้ติดตาม ประเมินผล และรายงานผลการจัดกระบวนการเรียนรู้การสอนและการบริหาร
จัดการการศึกษา ประสาน สนับสนุนและเผยแพร่ผลงานด้านการนิเทศ การศึกษาแก่หน่วยงานท่ีเก่ียวข้องใช้
เทคนิคการนิเทศไดอ้ ยา่ งหลากหลายดา้ นดว้ ยความเปน็ กลั ยาณมิตร

2. นโยบายและการวางแผนการศึกษา ไดแ้ ก่ ระบบและทฤษฎีการวางแผนบริบททางเศรษฐกจิ สังคม
และการเมืองไทยที่มีอิทธิพลต่อการศึกษา แผนการศึกษาระดับชาติและระดับต่าง ๆ การวิเคราะห์และกาหนด
นโยบายการศึกษา การวางแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา การพัฒนาและประเมนิ นโยบายการศึกษา โดยสามารถ
ให้คาแนะนาปรึกษาเก่ียวกับการวิเคราะห์ข้อมูล และรายงานผลเพ่ือจัดทานโยบาย แผนและการติดตาม
ประเมินผลด้านการศึกษา ให้คาแนะนาปรึกษาเกี่ยวกับการกาหนดนโยบายและการวางแผนดาเนินงานและการ
ประเมินคุณภาพการจัดการศึกษา ให้คาแนะนาปรึกษาเกี่ยวกับการจัดทาแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาที่มุ่งให้
เกดิ ผลดี คุม้ ค่าตอ่ การพฒั นาคุณภาพการศึกษา สังคม และส่ิงแวดล้อม

3. การพัฒนาหลักสูตรและการสอน ได้แก่ ความรู้เก่ียวกับหลักสูตร การสร้างหลักสูตรสถานศึกษา
หลกั การพัฒนาหลกั สูตร การจดั การเรียนรู้ จติ วิทยาการศกึ ษา การวัดและการประเมนิ ผล การจัดการศึกษาพเิ ศษ
โดยสามารถให้คาแนะนาคาปรกึ ษา เกี่ยวกบั การพฒั นาหลกั สูตรและการจัดทาหลกั สูตรสถานศึกษา สาธติ แนะนา
ครูใหจ้ ดั กิจกรรมทสี่ ่งเสรมิ การเรียนรูไ้ ด้เต็มศกั ยภาพของผเู้ รยี น ประเมนิ หลกั สูตรและการนาหลักสูตรไปใช้

4. การประกันคุณภาพการศึกษา ได้แก่ การบริหารคุณภาพ การประกันคุณภาพการศึกษามาตรฐาน
คุณภาพการศึกษา กระบวนการประเมินคุณภาพภายในและภายนอกสถานศกึ ษา สามารถศึกษา วิเคราะห์ วิจัย
การจัดทามาตรฐาน และการพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา โดยนิเทศ กากับ ติดตามและ
ประเมินผลการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา ให้คาปรึกษาข้อเสนอแนะและ การวางระบบการจัดทา
รายงานผลการประเมินตนเองของสถานศกึ ษาเพอื่ การพัฒนาอย่างต่อเนื่องและพร้อมรบั การประเมนิ ภายนอก

4
5. การบริหารจดั การการศึกษา ได้แก่ หลักและระบบขอบข่ายการจัดการศึกษา หลกั การบริหารจัดการ
การศึกษาโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน การปฏริ ูปการศึกษากฎหมายและระเบียบท่ีเกี่ยวขอ้ งกับการจัดการศึกษาโดย
สามารถให้คาปรึกษาแนะนาการจัดการศึกษาให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามเจตนารมณ์ของการศึกษานิเทศก์การ
บรหิ ารจัดการสถานศึกษาไปส่อู งค์กรแห่งการเรยี นรู้ บริหารจดั การศึกษาโดยใชโ้ รงเรยี นเป็นฐาน
6. การวิจัยทางการศกึ ษา ได้แก่ ระเบียบวธิ ีวจิ ัย กระบวนการวจิ ัย การนาผลการวิจัยไปใช้โดย สามารถ
ให้คาแนะนาปรึกษาเก่ียวกับการนากระบวนการวิจัยไปใช้ในการแก้ปัญหาและพัฒนาการเรียนการสอน ให้
คาแนะนาปรึกษาเกี่ยวกับการนาผลการวิจัยไปใช้ในการพัฒนาการจัดการเรียนการสอน ดาเนินการวิจยั เพ่ือสรา้ ง
องค์ความรูใ้ หม่ๆ ดา้ นการเรยี นรูแ้ ละการจดั การศกึ ษา
7. กลวิธกี ารถา่ ยทอดความรู้ แนวคดิ ทฤษฎี และผลงานทางวิชาการ ไดแ้ ก่ กลวิธีการนาเสนอความรู้
แนวคิดทฤษฎีที่เหมาะสมกับการเรียนรู้ การเขียนรายงาน บทความ ผลงาน ผลการศึกษา ค้นคว้า ฯลฯ การ
วเิ คราะห์วจิ ารณ์ผลงานวชิ าการอยา่ งสรา้ งสรรค์โดยสามารถเขียนเอกสารทางวชิ าการ ประเภทต่างๆ แนะนาและ
ให้คาปรึกษาการเขียนเอกสารทางวิชาการแก่คุณครูและบุคลากรทางการศึกษา นาเสนอความรู้ แนวคิด ทฤษฎี
ดว้ ยวธิ กี ารท่หี ลากหลาย และเหมาะสมต่อการเรียนรู้
8. การบริหารจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้แก่ หลักการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ อินเทอร์เน็ต
คอมพิวเตอร์ช่วยสอน ระบบมัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ์ สานักงานอัตโนมัติ โดยสามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
เพ่ือการพัฒนาตนและการพัฒนางานได้อย่างเหมาะสม ให้คาปรึกษาแนะนาการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศเพ่ือ
พฒั นาการจัดการศกึ ษาแกส่ ถานศกึ ษา
9. คุณธรรมและจริยธรรมสาหรับศึกษานิเทศก์ ได้แก่ คุณธรรมและจริยธรรมสาหรับศึกษานิเทศก์
จรรยาบรรณของวิชาชีพศึกษานเิ ทศก์ การบริหารจดั การบ้านเมืองที่ดี ( Good Governance) โดยปฏิบัติตนตาม
จรรยาบรรณของวชิ าชีพศกึ ษานเิ ทศก์ มีหลักธรรมในการนิเทศและประพฤตเิ ปน็ แบบอยา่ งท่ดี ี

ประโยชนท์ ค่ี าดว่าจะได้รบั
ผู้ปฏิบัติมีแนวทางในการปฏิบัตงิ านดา้ นการนิเทศ ติดตามประเมินผลการจัดการศึกษา ในส่วนท่ี ตนเอง

รับผิดชอบและสามารถดาเนินการเกี่ยวกับการนิเทศการศึกษาหลักสูตร กระบวนการเรียนรู้ การวัดและ
ประเมินผลการศึกษา การประกันคุณภาพการศกึ ษา ระบบดูแลช่วยเหลือครูและผู้เรียนอยา่ งเป็นระบบ เข้าใจใน
ภาพรวมของงานที่จะต้องปฏบิ ัติ ตลอดจนสามารถนาไปปฏบิ ัตจิ ริงไดข้ อบเขตหรือขอ้ จากดั ของ คู่มอื เนอ่ื งจากการ
ปฏิบัติงาน ในตาแหน่งศึกษานิเทศก์ในปัจจุบัน มีหน้าท่ีความรับผิดชอบท่ีหลากหลาย ล้วนเกยี่ วข้องกับกลุ่มงาน
และบุคคลต่าง ๆ ในทุกด้าน ซ่ึงคู่มือการปฏิบัติงานตาแหน่งศึกษานิเทศก์ฉบับน้ี จะเน้นเฉพาะในส่วนที่มีหน้าท่ี
ความรับผดิ ชอบ ให้เกดิ ประสทิ ธภิ าพตามวัตถุประสงคข์ ององค์กรเทา่ นนั้

5

ตอนท่ี 2
ขอบข่ายภารกจิ กลมุ่ งานทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย

1. ขอบข่ายภารกจิ กลุม่ งานท่ไี ด้รบั มอบหมาย
ข้าพเจ้า นางจันจริ า เผอื กจนี ตาแหน่ง ศกึ ษานเิ ทศก์ วิทยฐานะศึกษานเิ ทศกช์ านาญการ

สังกัดสานักงานเขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษานครสวรรค์ เขต 2 มีหนา้ ที่รับผิดชอบงาน ดงั ต่อไปน้ี
กลุ่มงานวัดและประเมินผลการศกึ ษา
1. ส่งเสรมิ การวัดและประเมินผลการศกึ ษา
1.1) ส่งเสริมให้ครูพัฒนาตนเอง โดยศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับวิธีการวัดผล และ

ประเมินผลการศึกษาในระบบ การศกึ ษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอธั ยาศยั
1.2) ส่งเสรมิ และพัฒนาผูบ้ ริหาร ครใู ห้ใช้วิธีการทหี่ ลากหลายในการวดั และ ประเมินผล

ในสถานศกึ ษาท้งั การศกึ ษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอธั ยาศัย
1.3) ศึกษา วิเคราะห์ รูปแบบ วธิ ีการในการพัฒนาแนวทางการวัดผลและ ประเมินผล

ในสถานศกึ ษาทัง้ การศกึ ษาในระบบ การศกึ ษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศยั
1.4) จัดทาคู่มือการวัดผล เทียบโอนผลการศึกษาสาหรับการศึกษาในระบบ การศึกษา

นอกระบบ และการศกึ ษาตามอธั ยาศัย
2. สง่ เสริมและพฒั นาเคร่อื งมอื วดั และประเมินผลการศกึ ษา
2.1) รวบรวมเครื่องมือการวดั และประเมนิ ผลการศึกษา
2.2) ศึกษา วิเคราะห์ เคร่ืองมือวัดผลและประเมินผลท่ีมีผู้จัดทาแล้ว คัดเลือกให้

เหมาะสมกับเขตพื้นทกี่ ารศึกษาและสถานศกึ ษา
2.3) จัดประชุมเชิงปฏิบัติการการจัดทาและพัฒนาเคร่ืองมือวัดและประเมินผลให้

ครอบคลุมด้านตอ่ ไปน้ี
2.3.1 เครอ่ื งมอื วัดและประเมนิ ผลตามกลมุ่ สาระการเรียนรู้ 8 กลุ่มสาระ
2.3.2 เครื่องมือวัดผลและประเมนิ ผลตามประเภทของกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน
2.3.3 เครื่องมอื วดั ผลและประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ
2.3.4 เครื่องมือวดั ผลและประเมินผลคณุ ลกั ษณะที่พงึ ประสงค์
2.3.5 เครื่องมือวัดผลและประเมินผลความสามารถในการอ่าน คิด วิเคราะห์

และการเขยี นสื่อความ
2.4) บรกิ ารเคร่อื งมือวดั และประเมนิ ผลทางการศึกษาแกส่ ถานศกึ ษา

3. ตดิ ตาม ตรวจสอบ และประเมนิ ผล การวดั และประเมินผลการศกึ ษา
3.1) ศกึ ษา วเิ คราะห์ แนวทาง ในการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผล การศึกษา
3.2) ดาเนนิ การ ตดิ ตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการศกึ ษา
3.3) จดั ทารายงาน การติดตาม ตรวจสอบ และประเมนิ ผลการศกึ ษา
3.4) เผยแพร่ผล การตดิ ตาม ตรวจสอบ และประเมนิ ผลการศึกษา

4. ทดสอบทางการศึกษา (การทดสอบความสามารถด้านการอ่าน (RT) ช้ัน ป.1 และการทดสอบ
ความสามารถพน้ื ฐานผู้เรยี นระดับชาติ (NT) ชัน้ ป.3)

6
4.1) ศกึ ษา วเิ คราะห์ วจิ ยั เกีย่ วกับระบบ วิธีการ เครือ่ งมือวดั และประเมนิ ผล การศึกษา
4.2) วางแผนการทดสอบทางการศึกษา ให้ครอบคลมุ สาระการเรียนรู้ทงั้ 8 กลุ่ม สาระ
ของหลกั สูตรการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน
4.3) กาหนดแนวทางในการทดสอบทางการศึกษา ให้สอดคล้องตามท่ีกระทรวง
ศกึ ษาธกิ าร และสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติกาหนด
4.4) ประสานความรว่ มมอื กับสถาบันทดสอบทางการศกึ ษาแห่งชาติ
4.5) ดาเนินการทดสอบทางการศกึ ษาและใหบ้ รกิ ารสอบวัดความรู้ ความสามารถ ให้กับ
นักเรยี น
4.6) พัฒนาคลงั ขอ้ สอบมาตรฐานการศึกษา
4.7) จดั สร้างโปรแกรมเก็บขอ้ มลู คุณภาพการศกึ ษาของผู้เรยี นทกุ กลมุ่ สาระการเรียนรู้
ผลสาเร็จท่ีคาดหวัง
1. ครูและผเู้ กีย่ วข้องมคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกับการวัดผลการเรียนรู้ของนกั เรยี นท้งั การ
วัดผลการศกึ ษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอธั ยาศยั
2. การวัดผลและประเมนิ ผลสอดคลอ้ งตามแนวทางการจดั การศึกษาตามพระราชบญั ญัติ
การศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542 และทแี่ ก้ไขเพ่ิมเตมิ และตามสาระการเรียนรขู้ องหลักสตู รสถานศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน
3. ครูและผู้ทเี่ กี่ยวขอ้ งใชว้ ิธกี ารท่หี ลากหลายในการวดั และประเมนิ ผล และนาผลการวดั
และประเมินผลไปพฒั นาศักยภาพของผูเ้ รยี นแตล่ ะบุคคล

กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
1) ศกึ ษา วเิ คราะห์ วจิ ัยการพฒั นาปรบั ปรงุ คณุ ภาพการจดั การเรียนการสอนใน

กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย
2) พฒั นาบุคลากรทเ่ี กย่ี วข้องกับการจดั การศกึ ษาในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
3) ส่งเสรมิ การจัดกจิ กรรมที่ส่งเสริมคณุ ภาพผู้เรยี นในกลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย
4) กิจกรรมการอา่ นออก เขียนได้

งานตามนโยบาย ดงั น้ี
1. การนิเทศ ได้แก่ 1) Active Learning 2) เดก็ ไทยวถิ ีใหม่ อา่ นออกเขียนได้ ลายมอื สวย
2. การติดตาม ไดแ้ ก่ 1) กจิ กรรมบ้านวิทย์ปฐมวยั 2) การยกระดบั ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียน 3)

การจดั การเรยี นการสอน โดยใช้ DLTV (ขนาดเล็ก)
3. ติดตาม ตรวจสอบ ประเมนิ ผลและนิเทศการศกึ ษา วเิ คราะห์ วจิ ยั เพอื่ พัฒนาการนเิ ทศ

และพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาของโรงเรียนในกล่มุ แม่บรรพตบรู พา อาเภอบรรพตพสิ ัย จานวน 12 โรงเรียน ได้แก่
1.โรงเรียนวัดหนองกรด 2.โรงเรยี นบ้านคลองเคียน(ประชาสามัคคี) 3.โรงเรียนวัดธรรมจริยาวาส 4.โรงเรียนบ้าน
บงึ ราษฎร์ 5.โรงเรียนวดั มงคลสถิตย์ 6.โรงเรยี นบ้านใหม่(ราษฎร์บูรณะ) 7.โรงเรยี นบ้านหนองเสือ 8.โรงเรยี นวัด
คลองธรรม 9.โรงเรียนวัดเจรญิ ผล 10.โรงเรยี นวัดมาบมะขาม 11.โรงเรยี นวัดบา้ นพลัง 12.โรงเรียนวดั วิวติ ตาราม

4. ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นที่เก่ียวข้องหรือที่ได้รับ
มอบหมาย

7

ท่ี โรงเรยี น สว่ นที่ 3 จานวน จานวน เปิดสอน
ขอ้ มลู กลมุ่ โรงเรียนทร่ี ับผดิ ชอบ ครูผู้สอน นักเรยี น ระดบั

ชื่อ – สกุล ผู้บริหาร เบอร์โทร 13 206 อ.1 – ป.6
10 224 อ.1 – ป.6
1 วดั หนองกรด นายพิษณวุ ชั ร์ พรพนม 0861199267
8 81 อ.2 – ป.6
2 ชุมชนบา้ นคลองเคยี น นายธรรมนญู ปรดี าธวชั 0637327593 15 186 อ.2 – ม.3
16 252 อ.1 – ม.3
(ประชาสามัคค)ี 6 61 อ.2 – ป.6

3 วดั ธรรมจริยาวาส นางสาวกรรณพร กอ้ นทอง 0625636247 3 44 อ.1 – ป.6
13 132 อ.1 – ป.6
4 บ้านบงึ ราษฎร์ นายไชยรัตน์ พันธ์มา 0625636247 7 85 อ.1 – ป.6
10 153 อ.1 – ป.6
5 วัดมงคลสถิตย์ นางกลั ยา ทองนุช 0613571129 10 157 อ.1 – ป.6
4 80 อ.1 – ป.6
6 บ้านใหม่(ราษฎร์ นายสมเกยี รติ บญุ แจด 0637327593

บูรณะ)

7 บา้ นหนองเสอื นายพิษณุวชั ร์ พรพนม 0819718159

8 วัดคลองธรรม นายสมเกยี รติ บุญเเจด 0924476624

9 วัดเจริญผล นางกนกรตั น์ อนุพนั ธ์ 0924476624

10 วดั มาบมะขาม นายฉตั รชยั เตนุ วม 0828819459

11 วัดบา้ นพลงั นางจฑุ ารัตน์ ไวทยกลุ 0861199267

12 วัดววิ ิตตาราม นางอารมณ์ องอาจ 0924476624

ประธานกลุ่มบรรพตบรู พา
นายพิษณุวัชร์ พรพนม

ศึกษานเิ ทศกป์ ระจากล่มุ บรรพตบูรพา
นางรุจิรา มธุรส และ นางจันจริ า เผือกจนี

รองผอู้ านวยการสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 2 ท่ีรบั ผิดชอบกลุ่มบรรพตบูรพา
นายรังสรร เกดิ ศรี

8

สว่ นที่ 4
ทิศทางการนเิ ทศ

กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษา
นครสวรรค์ เขต 2 เป็นกลุ่มที่ดาเนินการเก่ียวกับการนิเทศการศึกษา วิเคราะห์ วิจัย ติดตาม ตรวจสอบ และ
ประเมนิ ผลการพัฒนาระบบการบริหารและการจัดการศึกษาเพอ่ื ให้สถานศึกษามีความเข้มแข็งในการบริหารและ
การจัดการเรียนการสอนได้อย่างมีคุณภาพได้มาตรฐานเท่าเทียมกันโดยยึดโรงเรียนเป็นฐาน ส่งผลให้ผู้เรียนเกิด
การเรียนรู้ตามวัตถปุ ระสงค์และเป้าหมายของการศึกษา

วิสยั ทศั น์
ศกึ ษานเิ ทศก์นเิ ทศการศึกษาดว้ ยกระบวนการนเิ ทศและรปู แบบการนเิ ทศท่ีหลากหลาย ส่งเสรมิ

และพัฒนาคุณภาพการบริหารการจัดการศึกษาและการจัดการเรียนรู้ในสถานศึกษาให้มีคุณภาพตา มมาตรฐาน
การศกึ ษา

หลักการ
1. การนิเทศโดยใชโ้ รงเรยี นและหอ้ งเรยี นเป็นฐาน (School and Classroom based

Supervision)
2. ยดึ หลักกลั ยาณมติ รนิเทศ
3. การสร้างองค์ความรแู้ ห่งการเรียนรู้ (Learning Organization) และการพฒั นาวชิ าชีพครูใน

ลกั ษณะ Professional learning community (PLC)
4. ยดึ หลักบรู ณาการและการทางานเป็นทีม
5. การประกนั คุณภาพทัง้ ระบบ ประกอบด้วย ระบบการบริหารจดั การ ระบบการเรยี นการสอน

และระบบการนิเทศ

วัตถปุ ระสงค์
เพ่ือนเิ ทศ ติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผล และพัฒนาคุณภาพการจดั การศึกษาของสถานศึกษา

ดังนี้
1. คณุ ภาพการศกึ ษาระดับปฐมวัย
1.1 คณุ ภาพของเดก็
1.2 คณุ ภาพกระบวนการบรหิ ารและการจดั การ
1.3 คุณภาพการจดั ประสบการณ์ท่เี น้นเดก็ เป็นสาคญั
2. คุณภาพการศึกษาระดบั การศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน
2.1 คณุ ภาพของผู้เรียน
2.1.1 ผลสมั ฤทธิท์ างวิชาการของผเู้ รยี น
2.1.2 คณุ ลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ของผู้เรียน
2.2 คณุ ภาพกระบวนการบริหารและการจัดการ
2.3 คณุ ภาพกระบวนการจัดการเรียนการสอนทีเ่ นน้ ผูเ้ รียนเป็นสาคญั

9

เปา้ หมาย
เชงิ ปริมาณ
ทุกโรงเรยี นในสังกัดได้รับการนิเทศไมน่ ้อยกว่า 1 ครั้ง / ภาคเรยี น
เชิงคุณภาพ
ทุกโรงเรียนสามารถจัดการศึกษาให้มคี ุณภาพการศึกษาตามมาตรฐานการศึกษาขั้น

พืน้ ฐาน เพอื่ การประกันคณุ ภาพภายในสถานศึกษาตั้งแตร่ ะดบั ดเี ลิศขึน้ ไป

รูปแบบการนเิ ทศ
สานกั งานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 2 กาหนดใหม้ กี ารนิเทศตามโครงการ

การนิเทศพัฒนาคุณภาพการศึกษา (นิเทศปกติ) โดยศึกษานิเทศก์สามารถเลือกใช้รูปแบบหรือเทคนิคการนิเทศ
ตามดุลพินจิ ของตนอยา่ งอสิ ระรปู แบบการนิเทศทศ่ี ึกษานเิ ทศก์นยิ มใชม้ ี ดังนี้

1. การนิเทศรายบุคคล
การแนะนาเป็นรายบคุ คล (Individual Conference) การพบปะกันระหว่างครแู ละศึกษานิเทศก์

เป็นวิธีหน่ึงท่ีให้โอกาสศึกษานิเทศก์ได้ทางานเป็นรายบุคคลกับครูในเร่ืองปัญหาทางวิชาการของแต่ละคนเป็น
วธิ กี ารท่ีทั้งสองคนไดท้ างานร่วมกนั กิจกรรมการนเิ ทศรายบุคคล ได้แก่

1.1 การเยยี่ มชน้ั เรยี นและสังเกตการสอน
วธิ ีการนิเทศการศกึ ษาวธิ ีหน่งึ ทจ่ี าเป็นอย่างยิ่งก็คือการไปเย่ียมชน้ั เรียนในขณะทคี่ รกู าลังสอน
การไปเยยี่ มชนั้ จะทาให้เห็นสภาพทเี่ ปน็ จรงิ ตลอดจนปัญหาต่าง ๆ ท่ีครูประสบอยเู่ พ่ือร่วมมอื กับครหู าทางปรับปรุง
แก้ไขให้การเรียนการสอนมปี ระสิทธิภาพยิ่งขนึ้ การไปเย่ียมช้ันเรียนควรจะไปต่อเม่ือได้สร้างความสมั พันธก์ ับครู
เป็นอย่างดีแลว้ เพราะครจู ะไดไ้ ม่มองศึกษานิเทศก์ ด้วยความหวาดกลวั ระแวงสงสยั คิดวา่ ศึกษานิเทศก์จะมาจับผิด
การไปเยี่ยมชั้นเรียน หากศึกษานิเทศก์ได้แจ้งวัตถุประสงค์ให้ครูทราบว่า การมาน้ันไม่ใช่มาเพื่อจับผิดหรือเพื่อ
รายงานการปฏบิ ตั ิงานของครูแต่มาเพ่ือให้คาแนะนาปรึกษาชว่ ยเหลือครู เป็นพ่ีเลี้ยงครูเกี่ยวกับการเรียนการสอน
นอกจากนี้ควรเปดิ โอกาสให้ครูมีส่วนร่วมในการวางแผนงานกาหนดวัตถปุ ระสงค์ของการเย่ยี มช้นั เรียน ตลอดจน
ได้แสดงความคิดเห็นและปรึกษาหารือในรายละเอียดต่าง ๆ สาหรับศึกษานิเทศก์นั้น มีแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการ
เยี่ยมชน้ั เรยี นทีด่ ีดังน้ี

1) ศกึ ษานิเทศกค์ วรเขา้ ไปสงั เกตการสอนของครใู นช้ันเรียน ไม่ใชไ่ ปจบั ผิดพึงใหค้ รู
ยอมรบั วา่ ศกึ ษานเิ ทศกม์ าเพอ่ื ช่วยเหลือครู

2) ศึกษานิเทศก์ควรจะเขา้ ไปพรอ้ มกับครูผสู้ อนหรอื ภายหลงั เล็กน้อยก่อนที่ครจู ะเร่ิม
บทเรยี นศึกษานเิ ทศกไ์ มค่ วรจะแอบเดนิ ยอ่ ง ๆ เขา้ ไปหลงั ชนั้ เพอื่ สงั เกตการสอนของครู

3) ศกึ ษานเิ ทศกค์ วรเขา้ ไปน่ังอยู่ข้างหลังหอ้ งเรียน ซง่ึ สามารถมองเหน็ ช้นั เรยี นได้
ท่ัวถงึ นั่งฟงั อยา่ งเงียบ ๆ ด้วยท่าทีเต็มไปดว้ ยความสนใจยง่ิ และดูจนจบช่วั โมง

4) ศกึ ษานิเทศกไ์ ม่ควรจะเข้ารว่ มบทเรียนเปน็ อันขาดนอกจากจะได้รบั เชญิ จากครู
และนักเรยี นใหเ้ ข้าร่วมด้วยเทา่ นัน้

5) ศกึ ษานเิ ทศกค์ วรจะต้องมบี นั ทกึ เกี่ยวกับการสอนของครู ซึ่งจะเป็นแนวทางให้
คาแนะนาปรึกษาแก่ครูภายหลัง

10
6) ศกึ ษานเิ ทศก์ควรจะไปเย่ียมชัน้ เรยี น เพอื่ สงั เกตการสอนมากกว่าหนง่ึ คร้ัง ในหน่งึ

ภาคเรียน เพอ่ื จะไดส้ งั เกตดคู วามเจรญิ งอกงามของครูในด้านการสอนและดูผลงานการนเิ ทศของศึกษานิเทศกเ์ อง
ตอ่ ครผู ูส้ อน

หลังจากได้มกี ารเยย่ี มช้นั เรียนแลว้ ศกึ ษานเิ ทศกค์ วรจะไดพ้ บปะกบั ครเู ป็นส่วนตวั เพือ่ ชีแ้ จง
ความคิดเห็นให้ครูฟังเปดิ โอกาสให้ครชู ้ีแจงเหตผุ ลในการกระทาของครู แล้วร่วมกันปรึกษาหารือความคดิ ที่ดีกว่า
ถกู ตอ้ งกว่าเหมาะสมกวา่ การให้คาปรกึ ษาแนะนาชแ้ี จงน้ัน ไมค่ วรใหเ้ นน่ิ นานนักควรจะเปน็ ภายในวนั เดยี วกัน
หรอื ถา้ เปน็ ไปได้ภายหลงั จากทีค่ รูสอนเสรจ็ กจ็ ะดยี งิ่ ขึ้น เพราะทั้งสองฝา่ ยผ่านเหตกุ ารณ์นน้ั มาใหม่ ๆ วธิ ีการ
ทดี่ ีศึกษานิเทศกไ์ ม่ควรพดู ถึงเฉพาะข้อบกพรอ่ งของครูแต่อยา่ งเดยี วหากมีข้อใดควรชมกห็ ยิบยกข้นึ มาชม
พรอ้ มทงั้ ให้กาลงั ใจทีจ่ ะทาเช่นนนั้ อีกในการสอนครัง้ ตอ่ ไป

ข้อควรระวงั สาหรับศึกษานเิ ทศก์ในการไปเยี่ยมชั้นเรียน ก็คืออย่าไปเย่ียมช้ันเรียนมากจนเกินไป
จะทาให้ความสาคัญของการเยี่ยมชั้นเรียนลดน้อยลงไป และจะทาให้ครเู บื่อหน่ายผลท่ีสุดครูก็จะหลบหลีกแทนที่
จะใหค้ วามร่วมมือ

1.2 การสาธิตการสอน
การสาธิตการสอนคือการแสดงวธิ กี ารเป็นตัวอย่างใหด้ ผู ู้แสดงอาจจะเป็นศกึ ษานเิ ทศก์เองหรอื
วิทยากรที่ไดร้ ับเชญิ ผ้ชู มการสาธติ คอื ครูซ่งึ จัดได้เปน็ กลุม่ โดยทางโรงเรียนเป็นผ้จู ดั ไว้ หรือในการประชมุ อ่ืน ๆ อาจ
นาวิธีการสาธิตไปใช้ได้การสาธิตการสอนมีจุดมุ่งหมายเพ่อื ให้ครไู ดเ้ ห็นตัวอย่างท่ดี ีและถกู ต้องเกี่ยวกับวธิ กี ารสอน
วิชาต่าง ๆ นอกจากน้ียังเป็นการสร้างทัศนคติท่ีดีและศรัทธาต่องานของศึกษานิเทศก์ด้วยการสาธิตการสอนไม่
จาเป็นวา่ ศกึ ษานิเทศก์จะตอ้ งทาการสาธิตเอง อาจให้ครหู รือผู้อื่นที่เชีย่ วชาญทาการสาธิตแทนก็ได้ นอกจากนีอ้ าจ
ใช้ภาพยนตรท์ ีแ่ สดงการสอนหรือการทดลองแทนกไ็ ดเ้ ชน่ กนั การสาธิตการสอนควรมีจุดประสงค์ดงั น้ี
1) ส่งเสรมิ ความเจริญงอกงามทางวชิ าชีพแก่ครูการสาธิตการสอนควรส่งเสรมิ ความต้องการและ
ความกระตือรือร้นของครูต่อการใช้ความคิดที่เขามีไว้ในใจ ในระหว่างการสังเกตของเขาการสาธิตจะมีประโยชน์
ต่อเมื่อสนองความต้องการก่อให้เกิดความมั่นใจในตัวครู และแก่ความต้องการของนักเรียนในการแก้ปัญหาการ
สาธิตการสอนเปน็ การแสดงวิธสี อนใหม่ ๆ ในการแกป้ ัญหาการเรียนการสอนมันจะเปน็ ประโยชนต์ ่อผู้สงั เกตและผู้
สาธติ ท้ังกอ่ ใหเ้ กดิ มนุษยสัมพันธอ์ ันดดี ้วย
2) ช่วยแกป้ ญั หาครเู ปน็ การชว่ ยสาธติ ใหด้ ูเพ่อื ชว่ ยเหลอื ครเู มอ่ื แกป้ ญั หาเองไม่ไดศ้ กึ ษานเิ ทศก์
จะช่วยสาธิตให้ดกู ารสาธิต จงึ เปน็ การเกีย่ วข้องกับการใช้อุปกรณ์และทรัพยากรตา่ ง ๆ เพื่อชว่ ยเหลอื ครนู ักเรยี นใน
การแก้ปัญหาหากมปี ัญหาเกิดขึน้ ในช่วงการสาธติ ศึกษานิเทศก์จะต้องเป็นฝ่ายช่วยเหลือครูจะจับตาดูผู้สาธิตการ
สอนแก้ไขปญั หา ซึง่ ครสู ามารถนามาใช้แก้ปัญหาของตนเมือ่ เกิดสถานการณด์ ังกล่าวข้นึ กบั ตนเอง
3) เปน็ การผสมผสานทฤษฎแี ละแนวปฏิบตั ิทางการศึกษาเขา้ ด้วยกัน วิธกี ารผสมผสานทฤษฎี
และแนวปฏิบัติเข้าด้วยกันได้อย่างดีได้แก่ การสาธิตการสอนเป็นการแปลทฤษฎีออกมาเป็นแนวปฏิบัติโดยผ่าน
ทางการสาธติ การสอน
4) ช่วยในการอบรมครูการสาธิตการสอนจะชว่ ยใหค้ รูไดร้ บั ความรเู้ พ่มิ เตมิ จากบทเรียนทท่ี า
การสาธติ ครูได้ศกึ ษา และเข้าใจในเนอื้ หาวิชาใหม่ ๆ อยเู่ สมอการสาธติ การสอนจะชว่ ยใหค้ รูสามารถเข้าใจถึง
กระบวนการและการนาไปใชก้ บั สถานการณ์ของตนเองได้

11

1.3 การให้คาปรึกษาแนะนา/เสนอแนะ (Coaching)

ความหมาย การให้คาปรึกษาแนะนาเปน็ การพบปะกนั ระหวา่ งผ้นู ิเทศกับผู้รับการนิเทศคือการนเิ ทศแบบ
เสนอแนะ Coaching Technique (Modern Business : Reports : ๑๙๗๗) เป็นวิธีการพัฒนาบุคลากรให้
สามารถปฏบิ ตั ิงานได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ โดยการแนะนาหรอื เรียนร้จู ากเทคนคิ การนิเทศแบบเสนอแนะ
Coaching Technique เป็นวิธีการพัฒนาบุคลากรให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการแนะนา
หรือเรยี นรู้จากผชู้ านาญ (Coach) ในลักษณะท่ีได้รบั คาแนะนาหรือเรียนรู้ไปพรอ้ ม ๆ กบั การปฏิบตั ิงาน

ัวัตถุประสงค์
เพ่ือช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานก้าวไปถึงจุดหมายปลายทางได้ เช่นความก้าวหน้าทางวิชาชีพความสามารถท่ีจะ
รบั ผิดชอบในหน้าท่สี งู ข้นึ (เชน่ ในกรณแี ตง่ ต้งั ใหเ้ ป็นผู้นิเทศ) หรอื เปน็ ทีย่ อมรบั ของเพอ่ื นร่วมงานมากขึน้
ขน้ั ตอนการนิเทศแบบโคช้ ช่งิ
การนเิ ทศแบบการใหค้ าปรกึ ษาแนะนา/เสนอแนะ (Coaching) มี 4 ข้ันตอนเขียนเปน็ สญั ลกั ษณ์
คอื CQCD มรี ายละเอยี ดดงั น้ี
C - Compliment หมายถึง การสร้างสัมพันธภาพท่ีดีระหว่างผู้ท่ีทาหน้าที่เป็น Coach และผู้ให้
คาแนะนาซึ่งเป็นสัมพันธภาพท่ีสรา้ งความไวว้ างใจความสบายใจยินดีร่วมในแนวทางของ Coaching Techniques
นบั เป็นบทบาทสาคญั ของ Coach ทจ่ี ะต้องดาเนินการ ดงั นนั้ ควรดาเนนิ การ ดงั นี้

1. ศึกษาข้อมูลของผทู้ รี่ ับการแนะนาเช่นจดุ เด่นผลงานเด่นความชอบอัธยาศัยจุดอ่อนจดุ ที่ต้อง
ปรบั ปรุงข้อมลู ต่าง ๆ ควรบนั ทึกไวอ้ ย่างเปน็ ระบบมีความเหมาะสม

2. นาขอ้ มลู มาเป็นแนวทางในการสร้างสมั พนั ธภาพได้แกก่ ารชมเชยหรอื การสร้างบรรยากาศ
เพ่ือการเชื่อมโยงไปส่ขู ้ันต่อไป

Q - Question หมายถึง การถามเน้นการถามในเชิงขอความคิดเห็นไม่ให้ผู้ตอบจนมุมหรือเกิดความไม่
สบายใจที่จะตอบคาถามซง่ึ ผเู้ ปน็ Coach อาจจะใช้ความเหมาะสมของผรู้ บั คาแนะนาและสภาพปญั หา เชน่

- คณุ คิดว่าผมจะช่วยอะไรได้บา้ ง
- คณุ คิดวา่ มีวธิ กี ารอะไรบา้ งทแี่ กป้ ัญหานี้
- คุณคิดว่าถ้าใชว้ ิธีการนี้แล้วจะเกิดอะไรข้ึน
- ทกุ อยา่ งจะต้องมขี อ้ ดแี ละขอ้ จากดั
- คณุ คดิ ว่าวิธีน้อี ะไรคอื ข้อดอี ะไรคือข้อจากัด
- คณุ คิดว่าขอ้ จากัดนั้น ๆ จะมที างแก้ไขหรอื ควรทาอย่างไรหรอื จะหาทางออกอย่างไรใน
สภาวะหรือในสภาพเชน่ น้ี
- คณุ คดิ วา่ ถ้าคุณจะพัฒนางานให้ดยี ่ิงขึน้ มอี ะไรบา้ งทีเ่ ราควรทา
- ทค่ี ณุ คดิ วา่ “ไม่ดี, ยังไม่ดคี ืออะไรบา้ ง” “คณุ คิดวา่ มีอะไรบา้ งทค่ี ณุ ตอ้ งการเสริมเพิม่ เติม”
C - Correct หมายถึง การเสนอแนะแนวทางแก้ไขในข้ันตอนน้ีผู้เป็น Coach ควรให้ความสาคัญใน
ขนั้ ตอนที่สืบเนื่องจากขั้น Question นาคาตอบของผู้รับคาแนะนามาวิเคราะห์และนาเสนอในส่วนท่ียังบกพร่อง
และสังเคราะห์เป็นแนวการปฏิบัติหรือการพัฒนางานในลักษณะแลกเปล่ียนเรียนรู้ร่วมกัน และในขั้นตอนนี้ควร
กาหนดบทบาทในการปฏิบตั แิ ตล่ ะเร่อื งชดั เจน
D - Demonstrate หมายถึง การนาข้อเสนอหรือแนวทางทต่ี กลงกันไว้ในข้นั ตอนของ

12

C - Correct หรือแผนการใช้นวัตกรรมซ่ึงผู้รับคาแนะนาเป็นผู้ปฏิบัติผู้เป็น Coach เป็นผู้แนะนาอย่าง
ใกล้ชิดบางครั้ง Coach อาจต้องสาธิตการนิเทศแบบ Coaching Techniques ประสบผลสาเร็จได้เป็นอย่างดีก็
ขน้ึ อย่กู ับปจั จยั ดงั น้ี

1) ผู้เปน็ Coach ต้องเป็นผู้เช่ยี วชาญและเป็นผู้ทีผ่ ู้รบั คาแนะนายอมรับ
2) มีความเหมาะสมกับการสอนแนะเป็นรายบคุ คลหรอื กลุ่มย่อยใช้ไดก้ ับบคุ คลทกุ กลุ่มทง้ั การ
พฒั นาศึกษานเิ ทศก์ พฒั นาผบู้ ริหารและพัฒนาครู
1.4 เทคนคิ การให้คาปรึกษา
การให้คาปรึกษาเป็นการนเิ ทศตัวตอ่ ตวั ระหว่างศึกษานิเทศกก์ ับครผู ้สู อนมี 3 ลักษณะ ดังน้ี
1) การใหค้ าปรกึ ษาทางตรง (directive counseling) มลี าดบั ขน้ั ตอนการนิเทศ ดังน้ี

(1.1) ขอใหค้ รใู ห้ขอ้ มลู ให้กระจา่ งท่จี าเป็นต้องแก้
(1.2) ผ้นู เิ ทศสรปุ ปญั หา - สาเหตคุ รเู ห็นดว้ ยหรอื ไม่
(1.3) ผูน้ ิเทศเสนอวธิ ีแก้ - ทางเลอื กให้พิจารณา
(1.4) ใหค้ รูแสดงความคิดเหน็ พจิ ารณาทางเลือก
(1.5) กาหนดขั้นตอนการแกป้ ญั หาทช่ี ัดเจน
(1.6) ให้ครูตกลงแนวปฏบิ ัตกิ าหนดระยะเวลาดาเนินการ
(1.7) ตดิ ตามประเมินผล
2) การให้คาปรกึ ษาทางออ้ ม (non-directive counseling)
(1) ฟังปัญหาครูอยา่ งต้ังใจ
(2) ผูน้ เิ ทศพูดทบทวนปัญหาเป็นระยะเมื่อครูพดู จบ
(3) ผูน้ เิ ทศซักถามครูรปู้ ัญหาใหล้ กึ
(4) ใหค้ รคู ดิ หาทางแก้ปญั หากระตุ้นทางเลือกหลายทาง
(5) ครูพจิ ารณาทางเลอื กทีด่ ีทสี่ ดุ
(6) ให้ครวู างแผนดาเนนิ การแก้ปัญหากาหนดระยะเวลาดาเนินการและทรพั ยากร
(7) ผู้นเิ ทศทบทวนแผนงานท่คี รูวางไวส้ ร้างข้อตกลงในการปฏิบตั ิ
3) การใหค้ าปรกึ ษาแบบผสมผสาน
เป็นการใหค้ าปรกึ ษาลักษณะปัญหาและลักษณะบคุ คลผสมผสานตามสถานการณผ์ ู้นเิ ทศร้จู ักรับ
ฟังช่วยให้ครูสามารถหาแนวทางแก้ปัญหาได้เอง ครูมีความภูมิใจมั่นใจตนเอง แต่ครูต้องการคาแนะนาความรู้
ประสบการณจ์ ากผ้นู ิเทศผ้นู เิ ทศจึงใชแ้ บบผสมผสาน

2. การนเิ ทศรายกล่มุ
ในการนเิ ทศการศึกษาน้ันบางคร้งั จาเป็นตอ้ งให้ความร้แู ก่ครูคราวละมาก ๆ เนือ่ งจากมขี อ้ จากัดด้านเวลา
งบประมาณ จานวนผู้นเิ ทศ ทีไ่ ม่เพียงพอหรือความเรง่ ดว่ นของการดาเนินงาน ดงั นนั้ ศกึ ษานิเทศก์จึงจาเปน็ ตอ้ งใช้
การนเิ ทศรายกล่มุ กิจกรรมการนิเทศรายกลุ่มทใี่ ชอ้ ยู่เสมอ ไดแ้ ก่

2.1 การประชุมการอบรมและการอบรมเชิงปฏิบัติการเป็นนิเทศรายกลุ่มท่ีศึกษานิเทศก์ใช้กัน
มากทสี่ ดุ มขี อ้ ควรคานึงดงั นี้

13

1) การอบรมข้อควรคานึงคือเตรียมการให้พร้อมตั้งแต่กาหนดการบุคคลท่ีเก่ียวข้อง
สถานท่ีสิ่งอานวยบริการบรรยากาศส่ิงแวดลอ้ มระหวา่ งอบรมสร้างความประทบั ใจ รักษาเวลาให้ข้อมูลท่ีรวดเร็ว
เทย่ี งตรง
ประเมนิ ผลการอบรม

2) การประชมุ เชิงปฏบิ ตั ิการมีสง่ิ ทีต่ อ้ งคานึง คือ
(1) เตรียมการใหพ้ รอ้ มทกุ ดา้ น
(2) ชักจูงผ้รู ว่ มใหส้ นใจประชมุ อย่างตอ่ เนอ่ื ง
(3) กระตุ้นสง่ เสรมิ ผเู้ ข้ารว่ มแสดงศักยภาพ
(4) ตาราง/กาหนดการยืดหย่นุ ตามสภาพกจิ กรรม
(5) สรา้ งบรรยากาศเป็นกนั เอง

2.2 การประชมุ ปรกึ ษากบั คณะครู
2.3 การสนทนาทางวชิ าการ

3. การนเิ ทศแบบกัลยาณมติ ร
เป็นการช้ีแนะและชว่ ยเหลือดา้ นการเรยี นการสอน มหี ลกั การนิเทศที่เน้นประเดน็ สาคัญ 4 ประการ คอื

1) การสร้างศรัทธาผนู้ เิ ทศจะตอ้ งสรา้ งศรทั ธาเพ่ือใหค้ รูยอมรับ และเกิดความสนใจทจ่ี ะใฝ่รู้ ใฝ่
ปรบั ปรุงการจัดกระบวนการเรียนรู้ มีการสร้างความสัมพนั ธ์แจง้ ภารกิจและความมุ่งหมายจดั เวลา กาหนดวธิ ีการ
ทางาน

2) การสาธิตรปู แบบการสอน ผใู้ หก้ ารนเิ ทศจะตอ้ งแสดงให้เป็นท่ีประจกั ษช์ ดั ว่าการสอนท่เี น้น
ผู้เรียนเป็นสาคญั นั้น สามารถปฏบิ ัติและทาได้จริง ๆ และครสู ามารถนารปู แบบไปประยุกต์ในชัน้ เรียนได้ โดยอาจ
จดั นิทรรศการทางวิชาการและสาธติ รปู แบบการสอน

3 ) การร่วมคิดแลกเปล่ยี นเรียนรู้ผ้นู ิเทศและผู้รับการนิเทศจะต้องมีการพบปะกนั อย่างสม่าเสมอ
แลกเปลย่ี นเรียนรู้จากประสบการณจ์ ริง มีการร่วมคดิ แก้ปัญหาและแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ในการจัดกระบวนการเรยี นรู้
ซ่ึงกันและกัน จัดบริการเอกสารทางวิชาการวางแผนร่วมกันเพื่อศึกษาดูงาน แนะนาให้ปฏิบัติตามสภาพจริง
พบปะแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากผลการปฏิบตั ิหาทางแกไ้ ขปรับปรุงเข้าร่วมประชุม สัมมนา การฝึกอบรมตามโอกาส
และนาเสนอผลงานในการประชุมปฏิบตั กิ าร

4) การตดิ ตามประเมนิ ผลตลอดกระบวนการผู้นเิ ทศจะตอ้ งบันทกึ การนิเทศอย่างสม่าเสมอสงั เกต
และรับฟังขอ้ มูลป้อนกลับจากผู้รับการนิเทศ การศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขเพ่ือสร้างสังคมแห่งการเรียนร้ขู ้ึน
ใหม่อยา่ งเป็นระบบและตอ่ เนอื่ งสบื ไป

กล่าวโดยสรุปกค็ ือ กระบวนการนิเทศแบบกลั ยาณมติ รนิเทศเปน็ การปฏบิ ัติจริงในสภาพที่เป็น
จริงผ้นู เิ ทศกับผรู้ ับการนเิ ทศตอ้ งมกี ารปรกึ ษาหารือตดิ ตอ่ สอื่ สาร เยีย่ มเยยี นแลกเปลีย่ นเรียนรู้ชว่ ยแกป้ ญั หาและ
ให้กาลังใจกันร่วมคิดร่วมทาบอกวิธีให้รู้ สาธิตให้ดูและช่วยแก้ไขข้อบกพร่องที่พบ มีการพบปะสนทนาเพื่อจะได้
ทราบทุกข์สุข และก่อให้เกิดความเข้าใจในปัญหาพื้นฐานเพ่ือกาหนดจุดมุ่งหมายในการท างานทั้งนี้ ผู้นิเทศ
จาเป็นต้องเร่ิมงานดว้ ยความสัมพันธ์ที่ดีให้ครรู ู้สึกไว้วางใจ พร้อมกบั นากระบวนการนิเทศสอดแทรกกลมกลืนเข้า
ไปกับภาระงานปกติของครูการเยี่ยมเยียน การติดต่อสื่อสารกับครูควรหลีกเลย่ี งการใช้อานาจของการตรวจสอบ
แตค่ วรเป็นการให้กาลังใจ ใช้วิธกี ารพูดทางบวก มีการแลกเปล่ียนความคิดและปรึกษาหารอื ซง่ึ ผนู้ ิเทศพงึ ตระหนกั

14

ว่าการนิเทศน้ันมิใช่การส่ังการ ตรวจสอบ บังคับบัญชามิใช่การนิเทศกระดาษแต่เป็นการนิเทศคนกระดาษ เป็น
เพยี งองค์ประกอบท่ีแสดงร่องรอย การเรียนรู้ส่วนหนง่ึ เท่านัน้ แต่ที่สาคัญท่ีสุดผ้นู ิเทศต้องนเิ ทศคน พูดคุยกับครู ดู
พฤติกรรมของนักเรียนสังเกตบรรยากาศ และความสัมพันธ์ในสังคมเรียนรู้น้ัน เพ่ือเข้าถึงสถานภาพ และปัญหา
โดยเริ่มตน้ จากศรทั ธาทค่ี รูมคี วามตัง้ ใจทีจ่ ะไปปรบั ปรุงวิธีการสอนของตนเอง ผ้บู ริหารและศกึ ษานเิ ทศก์เป็นบุคคล
กลุ่มหนึ่งท่ีช่วยส่งเสริมแนะแนววิธีการต่าง ๆ ด้านการเรียนการสอน ท้ังน้ี หากได้แรงหนุนอีกด้านหนึ่ง คือ การ
แนะนาช่วยเหลอื ให้แบบอย่างจากเพื่อนครูด้วยกันในรูปแบบกัลยาณมิตรนิเทศกจ็ ะช่วยเป็นพลังผลักดันให้ครูได้
ตระหนัก และมองเห็นข้ันตอนการสอนที่เป็นจริงชัดเจน สามารถนาไปประยุกต์ใช้ในชั้นเรียนของตนได้ดีขึ้น
นาไปสแู่ นวทางการนิเทศท่ีถกู ต้อง

4. การนเิ ทศแบบช้ีแนะทางปัญญา (cognitive coaching)
เป็นกระบวนการทไ่ี ม่เน้นการตัดสินความถูกผิดแต่จะใชก้ ารประชุมวางแผน การสังเกต และการประชุม
เพื่อสะท้อนพฤติกรรมการสอน และยังใช้ในการวางกลยุทธ์ที่มีลักษณะเฉพาะ เพ่ือจะเสริมสร้างการรับรู้ การ
ตัดสินใจเกี่ยวกับการพัฒนาการเรียนของนักเรียน เป็นการพัฒนาปรับปรุงกระบวนการคิดของครู จุดมุ่งหมาย
สาคัญของรูปแบบการนิเทศแบบชแ้ี นะทางปัญญา คือ 1) การพัฒนาและรักษาความไว้วางใจ 2) การสนับสนนุ ให้
เกิดการเรยี นรู้ 3) การสง่ เสรมิ ความงอกงามในพฤตกิ รรมทีเ่ ปน็ อิสระและพึ่งพาอาศัยกัน
การนเิ ทศแบบชี้แนะทางปัญญามีองค์ประกอบ 3 ประการ คอื

1. การประชุมวางแผนซงึ่ เปน็ การเปิดโอกาสให้มกี ารสรา้ งความไวว้ างใจระหวา่ งสมาชกิ ในกลุ่ม
มุง่ เน้นเป้าหมายเพือ่ การเตรยี มการสอน และสรา้ งตัวช้ีวดั เพ่อื สะทอ้ นพฤติกรรมการสอน

2. การสังเกตการสอน เปน็ การใหบ้ ริบทสาหรับการสอนแนะ เพอื่ นาไปใชใ้ นการกาหนดกลยุทธ์
การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลทีส่ อดคลอ้ งกบั สิ่งท่ีกาหนดไว้ในแผน

3. การประชุมเพอ่ื สะทอ้ นพฤติกรรมการสอน เกิดข้ึนภายหลงั การสังเกตพฤตกิ รรมการสอน
เพอื่ ให้ครูสามารถพิจารณาบทเรียน และพฤตกิ รรมกอ่ นเข้ามามีส่วนร่วมในการประชุม การสอนแนะจะช่วยใหค้ รู
ไดบ้ อกถงึ ความรสู้ ึกประทบั ใจในการสอนของตนเอง โดยนาพฤตกิ รรมการสอนท่กี าหนดใหไ้ ปสังเกตในขน้ั ตอนการ
วางแผนและการสังเกตการสอนให้มาอภิปรายร่วมกัน รูปแบบน้ีจะประสบความสาเร็จก็ต่อเม่ือผู้นิเทศมีเวลา
เพยี งพอให้สมาชกิ ในกลุ่มได้ทางานร่วมกนั ด้วยบรรยากาศที่มอี ิสระในการพิจารณาประเด็นทไ่ี มค่ นุ้ เคยและทาการ
สงั เกตซ่ึงกนั และกนั จึงเป็นรปู แบบทอ่ี ยู่บนพ้นื ฐานของความไว้ วางใจ ผลของการนิเทศแบบนีท้ าให้ครมู คี วามเป็น
ตัวของตัวเอง มั่นใจในตนเอง และมีการปรบั เปล่ยี นพฤตกิ รรมการสอน

5. การนเิ ทศโดยพี่เล้ยี ง (Mentoring)
เป็นรูปแบบที่ใช้วิธีการร่วมมือกัน โดยมีการช่วยเหลือเพ่ือจะถ่ายโอนบทเรียนของประสบการณ์วิชาชีพ
โดยเน้นความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลสาคัญว่าจะมีบทบาท 5 บทบาท คือ บทบาทการสอน การสนับสนุน การให้
กาลงั ใจ การให้คาปรึกษา และการสรา้ งสัมพันธภาพ และผทู้ ่ีทาหน้าทเ่ี ปน็ ครูพ่ีเลยี้ ง ควรมีบทบาท ดงั น้ี

1. การให้ขอ้ เสนอแนะโดยช่วยให้ผรู้ ับการนเิ ทศไดเ้ ขา้ ใจวัฒนธรรมของสถานศกึ ษา และเข้าใจ
นโยบายและแนวทางการปฏบิ ตั งิ านภายในสถานศกึ ษา

2. การใหก้ ารสอนแนะในการฝกึ ฝนเพอ่ื ช่วยใหเ้ กิดการพัฒนาวิชาชพี โดยใช้รูปแบบการชว่ ยเหลอื

15

3. ในบทบาทน้ีครูพี่เล้ียงจะเป็นเพอื่ นหรือที่ปรกึ ษาทจ่ี ะให้ความสนใจในการที่จะระบุ วิเคราะห์
และแก้ปญั หาการเรียนการสอนใหก้ ับผู้รบั การนเิ ทศ

4. ครูพ่ีเลยี้ งจะเป็นผ้ใู หก้ าลังใจและพฒั นา โดยใหก้ ารยกยอ่ งและรว่ มฉลองความสาเร็จ

6. การนิเทศแบบออนไลน์
กิจกรรมนิเทศการศึกษา หมายถึงกิจกรรมท่ีดาเนินไปอย่างเป็นระบบและรองรับด้วยข้อมูลสารสนเทศ
เป็นกิจกรรมที่อยู่ในบรรยากาศของความร่วมมือร่วมใจเข้าใจอันดีต่อกันระหว่างผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศ การ
นิเทศทางไกลเป็นหนึ่งรูปแบบของการนิเทศในอดีตใช้วิธีการส่งจดหมาย ส่งข่าว ผู้รับการนิเทศเป็นเพียงผู้รับสาร
ฝา่ ยเดียวเทา่ น้นั ไม่มกี ารปฏิสมั พันธ์กบั ผู้นิเทศ แตป่ จั จุบันในยคุ เทคโนโลยีขา่ วสาร การใชอ้ ินเทอร์เน็ต (Internet)
มาเป็นเคร่ืองมือสื่อสารระหว่างผนู้ ิเทศกับผู้รับการนิเทศได้เปน็ อย่างดี และมีประสิทธิภาพ สามารถตอบข้อสงสัย
สอบถามได้ พูดคุยได้ แลกเปล่ียนความคดิ เห็นกันได้ ระยะทางไม่เป็นอปุ สรรคปญั หาและเข้าถงึ ได้ทุกแห่ง ดังน้ัน
รปู แบบการนเิ ทศทางไกลจงึ เปล่ยี นรูปแบบไป เปน็ “นเิ ทศออนไลน์”

กระบวนการนิเทศ
กระบวนการนิเทศจะมีความสอดคลอ้ งกบั รูปแบบของการนเิ ทศจึงขอกลา่ วถงึ กระบวนการทเี่ ป็นสากลซ่ึง

ประเทศไทยได้นามาประยุกต์ใช้และพัฒนาเขา้ กับกระบวนการการนิเทศของไทยเองควบคูก่ ับกระบวนการนเิ ทศที่
ไทยคิดและพัฒนาข้ึนดังรายละเอียดต่อไปนี้กระบวนการนิเทศของแฮริส (Harris, ๑๙๘๕) เดิมแฮริสแบ่ง
กระบวนการไว้ 5 ข้ัน คือ กระบวนการวางแผน, กระบวนการจดั ระเบียบงาน, กระบวนการนา, การควบคุมและ
การประเมินผลต่อมาไดพ้ ัฒนาให้มีความสมบูรณเ์ หมาะสมกับการนิเทศมากข้นึ โดยเน้นการวางแผนการปฏบิ ัตงิ าน
มากกว่าการควบคุมงานเหมือนท่ีเคยแบ่งไว้ทาให้มขี ้ันตอนเพิม่ ขึ้นเปน็ 6 ข้ันตอน ดังนี้ (ปรียาพร วงศอ์ นตุ รโรจน์,
2548, หนา้ 41 - 43)

1. การประเมินสภาพการทางาน (Assessing) เปน็ กระบวนการศกึ ษาถงึ สภาพตา่ ง ๆ เพอื่ ใหไ้ ด้ขอ้ มูลเพื่อ
เป็นตวั กาหนดการเปลยี่ นแปลงมีกระบวนการย่อย ๆ ดงั นี้

- การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อจะศกึ ษาถงึ ธรรมชาติและความสมั พนั ธ์ของเรือ่ งต่าง ๆ
- การสงั เกตเป็นการมองสงิ่ รอบตัวดว้ ยความละเอียดถ่ีถ้วน
- การทบทวนเป็นการตรวจสอบส่งิ รอบตวั อย่างตัง้ ใจ
- การวัดพฤติกรรมการทางาน
- การเปรียบเทยี บพฤติกรรมการทางาน
2. การจัดลาดับความสาคัญของงาน (Prioritizing) เป็นกระบวนการกาหนดความสาคัญของงานตาม
เป้าหมายวัตถุประสงคแ์ ละกิจกรรมตามลาดับความสาคญั ซึง่ ประกอบด้วยหวั ข้อต่อไปน้ี
- การกาหนดเปา้ หมาย
- การกาหนดวตั ถปุ ระสงคเ์ ฉพาะ
- การกาหนดทางเลอื ก
- การจดั ลาดบั ความสาคัญของงาน
3. การออกแบบวิธีการทางาน (Designing) เป็นกระบวนการวางแผนหรือกาหนดโครงการต่าง ๆ เพื่อ
ก่อใหเ้ กิดการเปลีย่ นแปลงโดยประกอบด้วยกระบวนการยอ่ ย ๆ ดงั น้ี

16

- การจัดสายงานเป็นการจัดส่วนประกอบต่าง ๆ ของงานใหส้ ัมพนั ธ์กนั
- การหาวธิ กี ารนาเอาทฤษฎีหรอื หลักการไปสูก่ ารปฏบิ ตั ิ
- การเตรียมการตา่ ง ๆ ใหพ้ ร้อมทจ่ี ะทางาน
- การจัดระบบการทางาน
- การกาหนดแผนในการทางาน
4. การจัดสรรทรัพยากร (Allocating Resources) เป็นกระบวนการกาหนดทรัพยากรต่าง ๆ ให้เกิด
ประโยชน์สูงสดุ ในการทางานซึ่งประกอบด้วยกระบวนการยอ่ ย ๆ ดงั นี้
- การกาหนดทรัพยากรท่ีตอ้ งใช้ความตอ้ งการของหน่วยงานต่าง ๆ
- การจดั สรรทรัพยากรไปให้หนว่ ยงานต่าง ๆ
- การกาหนดทรพั ยากรทจี่ าเปน็ จะต้องใช้สาหรบั ความมุ่งหมายเฉพาะอย่าง
- การมอบหมายบุคลากรให้ทางานในแตล่ ะโครงการหรือแตล่ ะเป้าหมาย
5. การประสานงาน (Coordination) เป็นกระบวนการทีเ่ กี่ยวข้องกับงานเวลาวสั ดอุ ปุ กรณ์และสิง่ อานวย
ความสะดวกทุกๆอย่างเพื่อให้การเปลีย่ นแปลงบรรลผุ ลซงึ่ ประกอบดว้ ยกระบวนการยอ่ ย ๆ ดงั น้ี
- การประสานการปฏิบตั ิงานในฝา่ ยตา่ ง ๆ ใหด้ าเนนิ การไปดว้ ยความราบรืน่
- การสรา้ งความกลมกลนื และความพรอ้ มเพรียงกัน
- การปรับการทางานในสว่ นตา่ ง ๆ ใหม้ ีประสิทธิภาพใหม้ ากท่สี ุด
- การกาหนดเวลาในการทางานในแต่ละชว่ ง
- การสร้างความสัมพนั ธใ์ หเ้ กดิ ข้นึ
6. การอานวยการ (Directing) เป็นกระบวนการที่มีอิทธพิ ลต่อการปฏิบัติเพื่อให้เกิดสภาพท่ีเหมาะสมที่
จะสามารถบรรลผุ ลแหง่ การเปลย่ี นแปลงใหม้ ากท่สี ดุ มีกระบวนการยอ่ ย ๆ ดังนี้
- การแต่งตงั้ บุคลากร
- การกาหนดแนวทางหรือกฎเกณฑใ์ นการทางาน
- การกาหนดระเบียบแบบแผนเก่ียวกับเวลาปรมิ าณหรืออัตราเรง่ ในการทางาน
- การแนะนาการปฏิบัตงิ าน
- การตัดสินใจเก่ียวกับทางเลอื กในการปฏิบัตงิ าน
เนื่องจากกระบวนการนิเทศของไทยมีลักษณะท่ีคล้ายคลึงกันจึงขอกล่าวเฉพาะกระบวนการที่มีลักษณะ
เดน่ บางกระบวนการดังน้ี

1. กระบวนการนเิ ทศการสอนแบบค่สู ัญญา
กระบวนการนเิ ทศการสอนแบบคสู่ ัญญา (บูรชัย ศิรมิ หาสาคร, 2552, Online) มี 4 ขัน้ ตอน ดังนี้
ขนั้ ท่ี 1 การเสนอนแนวคดิ
1. ผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษาเสนอแนวคิดเกีย่ วกับการนิเทศการสอนแบบคู่สัญญาให้ครูในโรงเรยี น

ทดลองนาไปปฏิบัติภายใต้การสนบั สนนุ ทุกรปู แบบ
2. เม่อื ครูยอมรับหลกั การแล้วใหค้ รูจบั คู่สัญญาที่มีปัญหาการเรยี นการสอนในวิชาเดยี วกนั

หรือช้ันเดียวกันเพื่อร่วมกันวางแผนการนิเทศเช่นสังเกตการสอนเขียนแผนการจัดการเรียนรู้และเตรียมส่ือการ
สอนเปน็ ต้น

17

3. คู่สัญญาแตล่ ะคนเขยี นแผนการจดั การเรียนรใู้ นวิชาท่ีมปี ญั หาโดยต่างฝา่ ยต่างเขยี นแผนการ
จัดการเรยี นรตู้ ามแนวคดิ ของตน

ขน้ั ท่ี 2 การสาธิต (สมมตวิ ่าครู A เป็นคูส่ ญั ญากบั ครู B)
1. ครู A สาธติ การสอนตามแผนการสอนของตนโดยมคี รู B เปน็ ผูส้ งั เกตการสอนและบนั ทกึ

จุดเดน่ จดุ ด้อยของครู A ตามแบบสงั เกตการสอน
2. ครู B สาธติ การสอนตามแผนการสอนของตนในวชิ าทีม่ ีปัญหาเดียวกับครู A โดยมีครู A เป็นผู้

สงั เกตการสอนและบนั ทึกจุดเด่นจุดดอ้ ยตามแบบสังเกตการสอนเช่นเดยี วกัน
3. ครู A และครู B รว่ มกันวิเคราะห์วจิ ารณจ์ ุดเดน่ จดุ ดอ้ ยของกนั และกนั เพอื่ นาจุดเดน่ ของแตล่ ะ

คนมาพฒั นาให้ดยี งิ่ ข้นึ และช่วยกันปรบั ปรงุ แก้ไขจุดด้อย
4. ครู A และครู B นาจุดเดน่ ของแต่ละคนมาบูรณาการเพอ่ื สรา้ งนวตั กรรมหรอื แนวทาง

แกป้ ัญหาในรูปแบบใหม่ทน่ี าเอาสว่ นดขี องแต่ละคนมาผสมผสานกนั

ขั้นที่ 3 การปฏบิ ตั ิ
1. ครู A และครู B น าวิธีการสอนทไี่ ด้รับการปรบั ปรงุ ตามขั้นที่ 2 ข้อท่ี 4 มาใช้ปฏบิ ัตกิ ารสอน

ในวิชาเดิมหรือในบทเรียนตอ่ ไป
2. ครู A และครู B นเิ ทศการสอนซ่ึงกันและกนั อกี ครง้ั หน่ึงแล้วสรปุ ผลการนเิ ทศการสอน

ข้ันที่ 4 การวดั และประเมนิ ผล
1. ครู A และครู B รว่ มกนั วดั และประเมนิ ผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนของผู้เรยี นหากยังไมบ่ รรลุ

จุดประสงค์การเรียนร้คู ู่สัญญาต้องกลับไปค้นควา้ หาความรูห้ รือแนวคิดทฤษฎที เ่ี กี่ยวข้องกับปัญหานนั้ เพิม่ เติมเพ่ือ
นามาแลกเปล่ียนเรยี นรู้และใช้แกป้ ญั หาร่วมกนั อนั จะจาไปสู่วธิ ีการแก้ปัญหาใหม่

2. ถ้าผู้เรียนมผี ลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นบรรลุตามวตั ถปุ ระสงคแ์ ล้วค่สู ญั ญาควรแสดงความยนิ ดี
รว่ มกันเพอื่ เป็นขวัญกาลังใจและเปน็ แรงจูงใจใฝส่ มั ฤทธใิ์ นการทางาน

2. กระบวนการของการนิเทศแบบกัลยาณมติ ร
กระบวนการของการนิเทศแบบกัลยาณมติ รมกี ระบวนการดงั นี้ (อญั ชลี ธรรมะวธิ ีกลุ , 2009,Online)

1. ไม่มุง่ เนน้ ปรมิ าณ – เน้นความชดั เจนของขน้ั ตอนวธิ กี าร
2. สานพลังอาสา - เร่มิ ทีศ่ รทั ธา / อาสาสมคั ร / ไมใ่ ช่การสงั่ การ
3. เสวนารว่ มกัน – ใชอ้ ปรหิ านยิ ธรรม 7 ดงั น้ี

– หมัน่ ประชมุ เปน็ เนืองนิตย์
- พรอ้ มเพรียงทากิจทีพ่ ึงทา
- ปฏิบตั ิตามหลกั การที่วางไว้/สิง่ ใดดีอยู่รู้รกั ษา
- ศรัทธายอมรบั นบั ถือกนั และกัน
- ไม่บงั คับ /ไมห่ า้ หัน่ /ลแุ ก่อานาจบงั คบั บญั ชา
- พฒั นาไปตามสภาพจริงของสถานศกึ ษาท่เี ป็นเรื่องชดั แจ้ง
– คุม้ ครองเสริมแรงใหก้ าลงั ใจ

18

4. สร้างสรรค์ความเปน็ มิตร
– ชักชวนให้ร่วมกนั พฒั นา

5. ฝกึ คดิ ม่งุ มัน่
– มคี วามเพยี รอดทนร้จู กั ใชเ้ หตุผล

6. ทุกวนั ปฏิบัติ
- ทาอยา่ งตอ่ เน่อื ง

7. จดั ทาบันทึกแนวทาง
- รูจ้ กั สังเกตแล้วบนั ทกึ

3. กระบวนการนิเทศการสอนแบบรว่ มพฒั นา
กระบวนการนิเทศการสอนแบบร่วมพัฒนามีลักษณะคล้ายกระบวนการของการนิเทศแบบอื่น ๆ แต่มี
ข้ันตอนมากกวา่ ดังน้ี (ศิริวรรณ์ ฉายะเกษริน, 2542, Online)

1. คสู่ ัญญาตกลงร่วมกัน
2. วิเคราะหป์ ญั หาการเรยี นการสอนรว่ มกัน
3. กาหนดวัตถปุ ระสงค์ในการแกป้ ัญหาหรอื พฒั นา
4. วางแผนการสอนและผลติ สื่อ
5. วางแผนการนิเทศการสอน
6. สอนและสงั เกตการณ์สอน
7. วิเคราะห์ผลการสอนและผลการสังเกตการสอน
8. ใหข้ อ้ มลู ปอ้ นกลับซงึ่ กันและกนั
9. วางแผนการสอนและการนเิ ทศการสอนตอ่ เนื่อง

4. กระบวนการติดตามแบบ PDCA มขี นั้ ตอนสาคัญในการนเิ ทศ 5 ขน้ั ตอนดงั นี้
ข้นั ท่ี 1 วางแผนการนเิ ทศ (Plan – P)
ขั้นท่ี 2 การปฏิบัตงิ าน (Do - D)
ขน้ั ที่ 3 การตรวจสอบ (Check – C)
ขั้นที่ ๔ ดาเนนิ งานให้เหมาะสม (Act – A)

ส่วนที่ 5 19
ผู้นิเทศ
กรอบการนเิ ทศตดิ ตามประเมินผลและพัฒนาระบบบริหารและการจัดการศกึ ษา ศึกษานเิ ทศก์
ทุกคน
งานทศ่ี ึกษานเิ ทศก์ทุกคนตอ้ งนเิ ทศ : การพฒั นาคุณภาพการศึกษาตามมาตรฐานการ
ศึกษานิเทศก์
ประการประกันคณุ ภาพการศึกษา พ.ศ. 2561 ทกุ คน

มฐ. เร่อื ง เป้าหมาย ผู้รับผิดชอบ ศึกษานิเทศก์
ทกุ คน
ท่ี งาน/โครงการ

ระดับปฐมวยั

1 การสง่ เสรมิ และพัฒนาคุณภาพของเด็ก

1.1 มีพฒั นาการด้านร่างกายแขง็ แรง มีสขุ ทกุ โรงเรยี นมผี ลการ กลมุ่ งานประกนั ฯ

นสิ ัยทีด่ ี และดแู ลความปลอดภัยของตนเองได้ ประเมนิ ตง้ั แตร่ ะดับ และกลุม่ งานนิเทศฯ

1.2 มีพัฒนาการด้านอารมณ์ จติ ใจ ควบคุม ดเี ลิศ ขึน้ ไป

และแสดงออกทางอารมณ์ได้

1.3 พฒั นาการด้านสงั คม ชว่ ยเหลือตนเอง

และเปน็ สมาชิกทดี่ ีของสงั คม

1.4 พฒั นาการดา้ นสติปัญญา ส่อื สารได้ มี

ทกั ษะการคิดพ้นื ฐาน และแสวงหาความรไู้ ด้

2 การสง่ เสริมและพัฒนาคุณภาพกระบวนการ

บรหิ ารและการจดั การ ทุกโรงเรยี นมผี ลการ กลมุ่ งานประกนั ฯ

2.1 มีหลกั สตู รครอบคลมุ พฒั นาการท้ัง ประเมินต้ังแต่ระดับ และกลุ่มงานนิเทศฯ

4 ดา้ น สอดคลอ้ งกบั บรบิ ทของท้องถ่นิ ดีเลิศ ข้ึนไป

2.2 จดั ครูให้เพยี งพอกับห้องเรียน

2.3 สง่ เสริมให้ครูมีความเช่ียวชาญดา้ นการ

จัดประสบการณ์

2.4 จดั สภาพแวดลอ้ มและสื่อเพ่อื การเรยี นรู้

อย่างปลอดภัย และเพียงพอ

2.5 ให้บรกิ ารสื่อเทคโนโลยสี ารสนเทศและ

สื่อการเรียนรู้เพือ่ สนับสนนุ การจัด

ประสบการณ์

2.6 มรี ะบบบริหารคุณภาพทเี่ ปดิ โอกาสให้

ผเู้ ก่ียวข้องทุกฝ่ายมีส่วนรว่ ม

3 การสง่ เสรมิ และพัฒนาคุณภาพกระบวนการ

จดั การเรียนการสอนทเี่ นน้ ผเู้ รียนเปน็ สาคัญ ทกุ โรงเรยี นมผี ลการ กล่มุ งานประกนั ฯ

3.1 จัดประสบการณท์ ่ีส่งเสริมให้เดก็ มี ประเมินตัง้ แต่ระดบั และกลุ่มงานนเิ ทศฯ

พฒั นาการทุกดา้ นอยา่ งสมดุลเต็มศักยภาพ ดเี ลศิ ข้นึ ไป

3.2 สรา้ งโอกาสให้เดก็ ไดร้ ับประสบการณ์

ตรง เล่นและปฏิบัตอิ ย่างมคี วามสขุ

20

มฐ. เรอื่ ง เปา้ หมาย ผ้รู บั ผดิ ชอบ ผ้นู เิ ทศ

ท่ี งาน/โครงการ

ระดับปฐมวัย

3 3.3 จัดบรรยากาศท่ีเออ้ื ต่อการเรยี นรู้ ใช้ส่ือ

และเทคโนโลยีทเ่ี หมาะสมกับวยั ทุกโรงเรียนมผี ลการ กล่มุ งานประกันฯ ศกึ ษานเิ ทศก์

3.4 ประเมนิ พัฒนาการเดก็ ตามสภาพจริง ประเมนิ ต้ังแตร่ ะดับ และกลุ่มงานนิเทศฯ ทกุ คน

และนาผลการประเมินพัฒนาการเด็กไป ดเี ลศิ ขึ้นไป

ปรับปรงุ การจดั ประสบการณ์และพฒั นาเดก็

ระดบั การศึกษาข้ันพื้นฐาน

1 การส่งเสรมิ และพฒั นาคณุ ภาพคุณภาพ

ผเู้ รยี น

1.1 ผลสัมฤทธท์ิ างวชิ าการของผู้เรียน ทกุ โรงเรยี นมีผลการ กลุ่มงานประกนั ฯ ศกึ ษานเิ ทศก์

1) มีความสามารถในการอ่าน การเขยี น ประเมนิ ตงั้ แตร่ ะดับ และกลมุ่ งานนเิ ทศฯ ทกุ คน

การส่ือสาร และการคิดคานวณ ดีเลศิ ขึ้นไป

2) มีความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ คิด

อย่างมีวจิ ารณญาณ อภปิ รายแลกเปลี่ยน

ความคิดเหน็ และแก้ปญั หา

3) มีความสามารถในการสร้างนวัตกรรม

4) มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

สารสนเทศและการสื่อสาร

5) มผี ลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นตามหลักสตู ร

สถานศึกษา

6) มคี วามรู้ ทกั ษะพนื้ ฐานและเจตคตทิ ี่ดี

ต่องานอาชีพ

1.2 คุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงคข์ องผู้เรียน

1) การมีคุณลักษณะและคา่ นยิ มท่ดี ีตามท่ี

สถานศึกษากาหนด

2) ความภูมิใจในท้องถิ่นและความเป็นไทย

3) การยอมรับท่ีจะอยู่ร่วมกันบนความ

แตกต่างและหลากหลาย

4) สุขภาวะทางรา่ งกาย และจิตสงั คม

21

มฐ. เร่อื ง เปา้ หมาย ผรู้ ับผดิ ชอบ ผ้นู เิ ทศ

ท่ี งาน/โครงการ

ระดบั การศึกษาขั้นพ้นื ฐาน

2 2.3 ดาเนนิ งานพฒั นาวิชาการท่เี นน้

คุณภาพผู้เรียนรอบดา้ นตามหลักสูตร ทุกโรงเรยี นมผี ลการ กลมุ่ งานประกนั ฯ ศึกษานเิ ทศก์

สถานศกึ ษาและทุกกล่มุ เปา้ หมาย ประเมนิ ตง้ั แต่ระดบั และกลุ่มงานนเิ ทศฯ ทกุ คน

2.4 พัฒนาครูและบคุ ลากรใหม้ ีความ ดเี ลศิ ขน้ึ ไป

เชี่ยวชาญทางวชิ าชพี

2.5 จดั สภาพแวดล้อมทางกายภาพและ

สงั คมทีเ่ อ้อื ต่อการจัดการเรยี นรู้อยา่ งมี

คณุ ภาพ

2.6จดั ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศเพอื่

สนับสนุนการบริหารจดั การและการจัดการ

เรียนรู้

3 การส่งเสรมิ และพฒั นาคณุ ภาพ

กระบวนการจดั การเรียนการสอนที่เน้น

ผ้เู รยี นเปน็ สาคญั

3.1 จัดการเรยี นรูผ้ า่ นกระบวนการคิดและ ทุกโรงเรียนมีผลการ กลมุ่ งานประกนั ฯ ศกึ ษานเิ ทศก์

ปฏิบัติจรงิ และสามารถนาไปประยุกต์ใชใ้ น ประเมนิ ตง้ั แตร่ ะดบั และกล่มุ งานนิเทศฯ ทุกคน

ชีวิตได้ ดีเลิศ ขึน้ ไป

3.2 ใช้สอ่ื เทคโนโลยีสารสนเทศและแหลง่

เรยี นรู้ท่ีเอื้อตอ่ การเรยี นรู้

3.3 มีการบรหิ ารจดั การชั้นเรยี นเชงิ บวก

3.4 ตรวจสอบและประเมินผเู้ รยี นอยา่ ง

เปน็ ระบบและนาผลมาพฒั นาผเู้ รยี น

3.5 มีการแลกเปล่ียนเรยี นรู้และให้ข้อมลู

สะท้อนกลับเพ่ือพัฒนาและปรับปรุงการ

จดั การเรียนรู้

งานนเิ ทศตามนโยบาย/จุดเนน้ /งานอนื่ ๆ

ท่ี รายการทจี่ ะนิเทศ ตดิ ตาม ปฏิทินการนิเทศ วตั ถุประสงค์การน

1. เดก็ ไทยวถิ ใี หม่ อา่ นออกเขียน ภาคเรยี นท่ี 1 1. นิเทศ ติดตามการคดั ก
ความสามารถในการอ่าน
ได้ ลายมอื สวย ภาคเรียนที่ 2 เขียนนักเรยี น ชน้ั ป.1 –
คร้ังที่ 1 (มกราคม)
2. การยกระดบั ผลสัมฤทธ์ิ ภาคเรียนท่ี 1 ครงั้ ที่ 2 (มีนาคม)
ทางการเรยี น ภาคเรยี นที่ 2 2. ตดิ ตามการอา่ นการเข
ประจกั ษ์ (ทา้ การอ่านออ
ลายมือสวย)

เพื่อการพัฒนาคณุ ภาพกา
และยกระดับผลสัมฤทธิ์ท
เรยี น สานกั งานเขตพ้นื ท
ประถมศึกษานครสวรรค์

3. การนเิ ทศภายในโรงเรียน ๑.นเิ ทศ ตดิ ตาม 1.เพอ่ื สร้างความเขา้ ใจแก
และประเมนิ ผลการ
จดั การศกึ ษา ภาค ในโรงเรยี นด้านระบบการ
เรยี นท่ี 1 คุณภาพภายในสถานศึกษ
การดาเนนิ การพัฒนางาน

22

นิเทศ เปา้ หมายการนิเทศ วิธกี ารนเิ ทศ เคร่ืองมือการนเิ ทศ

กรอง สถานศึกษาในสงั กดั สพป. 1) สังเกต 1. แบบนิเทศ
น การ
นครสวรรค์ เขต 2 2) สมั ภาษณผ์ ู้บริหาร ตดิ ตาม
ชน้ั ม. 6 จานวน 145 แห่ง ครู และนักเรยี น 2. เคร่อื งมอื

ขียนเชงิ 3) ตรวจสอบเอกสาร ทดสอบการอ่าน
อกเขียนได้ หลกั ฐาน รายละเอยี ด การเขียน
ตามแบบนิเทศ ติดตาม เชิงประจักษ์

(ดาเนินการแจง้
ภายหลัง)

ารศกึ ษา เชงิ ปรมิ าณ : ทุกโรงเรยี น วธิ ีการนิเทศและบันทกึ แบบนิเทศยกระดับ

ทางการ เชิงคณุ ภาพ:ระดบั คณุ ภาพ ผลการนิเทศเชิงคุณภาพ ผลสมั ฤทธิ์

ท่ีการศึกษา ดี ข้นึ ไป โดยการสัมภาษณ์

เขต 2 สอบถาม ดูร่องรอย/

หลักฐาน สงั เกต การ

สอนสะทอ้ นผลและ

แลกเปลี่ยนเรียนรู้

กบ่ ุคลากร 1. รอ้ ยละ 100 ของ 1. ผู้นเิ ทศตรวจสอบ แบบนิเทศการ

รประกัน โรงเรยี นในสงั กดั จานวน ข้อมลู วา่ โรงเรียนมกี าร นิเทศภายใน

ษาและ 145 โรงเรียน ไดร้ บั การ วเิ คราะห์ข้อมูล

นดา้ น นิเทศ ตดิ ตามดา้ นระบบ สารสนเทศเพือ่ ใช้ในการ

ท่ี รายการที่จะนเิ ทศ ติดตาม ปฏทิ ินการนเิ ทศ วัตถปุ ระสงคก์ ารน

ภาคเรยี นที่ 2 วชิ าการของโรงเรยี นในส

2.ประชมุ เชิง รองรับการประเมนิ จากห

ปฏบิ ตั ิการการการ ทีเ่ กี่ยวขอ้ งทกุ สว่ น
พัฒนากระบวนการ 2.เพือ่ พฒั นาประสิทธิภาพ
นิเทศ (การนเิ ทศ นิเทศการศกึ ษา โดยเนน้
ภายใน) สาหรบั วิธกี ารนเิ ทศท่ีหลากหลาย
เป็นระบบ
ผบู้ ริหารสถานศึกษา 3.เพ่อื นเิ ทศ ติดตามอยา่
จานวน 145 คน ใหส้ อดคลอ้ งกับนโยบายก
(กลุ่มเปา้ หมาย) และการดาเนนิ งานตามจ
กุมภาพันธ์ นโยบายของหน่วยงานตน้

4. เพอ่ื ใหส้ านักงานเขตพ

ปฏบิ ตั ทิ เ่ี ปน็ เลศิ (Best P

ด้านการนิเทศ ติดตามแล

ประเมนิ ผลการจดั การศึก

แบบอย่างและเผยแพรไ่ ด

นิเทศ เป้าหมายการนิเทศ วธิ ีการนิเทศ เคร่ืองมือการนเิ ทศ

สงั กัด เพื่อ การประกนั คุณภาพภายใน วางแผนการจดั ทา

หนว่ ยงาน สถานศกึ ษาและการ แผนการนิเทศภายใน

ดาเนนิ การพฒั นางานดา้ น ของโรงเรียนและมีการ

พในการ วชิ าการของโรงเรียนใน บันทึกการประชมุ ช้แี จง

นการใช้ สังกดั เพ่ือรองรับการ การดาเนนิ การนเิ ทศ

ย และ ประเมินจากหน่วยงานที่ ภายในของโรงเรียน

เกยี่ วขอ้ งทุกส่วน จานวน 2. ผนู้ ิเทศตรวจสอบว่า

างต่อเนื่อง 1 ครัง้ / ภาคเรยี น โรงเรยี นมแี ผนการนเิ ทศ

การนเิ ทศ 2. ร้อยละ 100 ของ และคาสง่ั การนิเทศ

จุดเน้นและ โรงเรยี นในสังกดั จานวน ภายในของโรงเรยี น

นสงั กดั 145 โรงเรียน ได้รับการ 3. ผู้นเิ ทศตรวจสอบ

พื้นทฯ่ี มีวธิ ี นิเทศ ติดตามการ บนั ทกึ การนิเทศภายใน

Practice) ดาเนินงานตามจุดเนน้ ของโรงเรยี นและการ

ละ และนโยบายหน่วยงานตน้ ดาเนินการปฏทิ นิ การ

กษาท่ีเป็น สงั กัด อย่างน้อย จานวน นเิ ทศภายในของ

ด้ 1 ครั้ง / ภาคเรียน โรงเรยี น

3. รอ้ ยละ 100 ของ

ผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา

กลุ่มเปา้ หมายเข้าใจระบบ

การนเิ ทศและสามารถนา

ความรทู้ ไี่ ดไ้ ปดาเนนิ การ

นเิ ทศไดอ้ ยา่ งเปน็ ระบบ

และต่อเนอ่ื งและสามารถ

ท่ี รายการที่จะนเิ ทศ ติดตาม ปฏิทนิ การนิเทศ วัตถุประสงคก์ ารน

4. โรงเรียนคณุ ธรรม สพฐ. ภาคเรียนที่ 1 นิเทศ กากับ ตดิ ตาม
ภาคเรยี นท่ี 2 การดาเนนิ งานโครงการโ
คณุ ธรรม สพฐ. โครงงาน
ระดบั โรงเรยี นและโครงง

คณุ ธรรม ระดบั ห้องเรยี น

นเิ ทศ เป้าหมายการนเิ ทศ วิธกี ารนิเทศ เครือ่ งมอื การนิเทศ

โรงเรยี น ดาเนินการถ่ายทอดความรู้ 1.ตรวจสอบโครงงาน แบบนิเทศติดตาม
นคณุ ธรรม ได้ โรงเรยี นคุณธรรม ระดบั เพื่อยกระดับการ
งาน 4.สานกั งานเขตพนื้ ทฯ่ี มี
น วิธปี ฏิบัติทเี่ ปน็ เลศิ (Best โรงเรียน ดาเนนิ โรงเรียน
Practice) ด้านการนเิ ทศ 2.สอบถามโครงงาน คณุ ธรรม
ตดิ ตามและประเมินผล
การจดั การศึกษาทเ่ี ป็น คณุ ธรรมระดบั หอ้ งเรียน
แบบอยา่ งและเผยแพร่ได้ 3.สอบถามคุณธรรมอัต-
อยา่ งน้อย จานวน 1 เรอื่ ง ลกั ษณ์ของโรงเรียน

สถานศกึ ษาในสงั กดั สพป. 4.สอบถามการ
นครสวรรค์ เขต 2 จานวน ดาเนินงานสอ่ื สารความ
145 แหง่
เข้าใจระดับโรงเรียน
5.สอบถามการ
ดาเนนิ งานสชู่ ุมชน

ท่ี รายการทจี่ ะนเิ ทศ ตดิ ตาม ปฏทิ นิ การนิเทศ วัตถุประสงคก์ ารน

5. โรงเรยี นวิถพี ุทธ ภาคเรียนที่ 2 สรา้ งความรูความเขาใจเก
การดาเนนิ งานโครงการโ

วถิ ีพทุ ธ ในการสรางและพ
เด็กและเยาวชนไทยให้
เปนคนดี มีศีลธรรม มีคณุ

อันพงึ ประสงคและ เปนไ
หลกั สูตรแกนกลางการศึก

พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 255
ลกั ษณของโรงเรียนวิถีพทุ
กาหนดไว

6. โรงเรียนสุจรติ ภาคเรยี นท่ี 2 1. เพ่อื กากับ ติดตามการ

“การนาหลักสูตรต้านทุจริต หลักสูตรต้านทุจรติ ศกึ ษา
เพม่ิ เตมิ “การปอ้ งกันการ
ศึกษาไปใช้ในสถานศึกษา”
ของ สถานศกึ ษาในสงั กดั
2 เพอื่ ใหค้ วามช่วยเหลอื
คาแนะนา ใหค้ าปรึกษาแ

ผบู้ รหิ าร ครูผูส้ อนและผู้เ
กับ การนาหลักสตู รต้านท

นเิ ทศ เปา้ หมายการนเิ ทศ วธิ กี ารนเิ ทศ เครอ่ื งมือการนิเทศ

ก่ียวกบั สถานศึกษาในสงั กัด สพป. 1.ประสานสถานศึกษา แบบนเิ ทศ ติดตาม

โรงเรียน นครสวรรค์ เขต 2 จานวน แจง้ วนั ในการนิเทศ การดาเนนิ งาน

พฒั นา 145 โรงเรียน 2.นิเทศแบบเผชิญหน้า โรงเรียนในโครงการ

ณ สถานศึกษาเป้าหมาย วถิ พี ุทธ

ณลักษณะ โดยแลกเปล่ียนเรียนรู้

ไปตามท่ี กั บ ผู้ บ ริ ห า ร / ค รู

กษาขน้ั ผู้รับผิดชอบงานประกัน

51 และอตั คุ ณ ภ า พ ภ า ย ใ น

ทธ ได ส ถ า น ศึ ก ษ า เ ป็ น

รายบคุ คล และรายกลุม่

3. นิเทศทางไกล ผา่ น

เครือขา่ ย network :

line / zoom/ Google

meet(กรณไี ม่สามารถ

ลงพ้นื ท่ไี ด)้

รใช้ สถานศึกษาในสังกดั สพป. 1.ประสานสถานศึกษา แบบนเิ ทศ ติดตาม

า รายวชิ า นครสวรรค์ เขต 2 จานวน แจ้งกาหนดวันในการ การนาหลกั สตู ร

รทุจริต” 145 โรงเรียน นเิ ทศ ตา้ นทุจริตศึกษาไป

ด 2.นิเทศแบบเผชิญหน้า ใช้ในสถานศกึ ษา

ให้ ณ สถานศึกษาเป้าหมาย

แก่ โดยแลกเปล่ียนเรียนรู้

เกีย่ วข้อง กั บ ผู้ บ ริ ห า ร / ค รู

ทจุ ริต

ท่ี รายการทจ่ี ะนเิ ทศ ตดิ ตาม ปฏทิ ินการนิเทศ วตั ถุประสงคก์ ารน

ศกึ ษา รายวิชาเพ่ิมเตมิ “
ป้องกนั การทจุ รติ ” ไปใช

สถานศึกษา

7. การจดั กระบวนการเรยี นรูเ้ พศ ภาคเรียนที่ 2 1.เพื่อนิเทศ กากับ ตดิ ตา
วิถีศึกษา
การดาเนินการจัดการเรยี
สอนเพศวิถีศกึ ษา
2 เพ่ือให้ความชว่ ยเหลือ

คาแนะนา ให้คาปรกึ ษาแ
ผบู้ ริหาร ครูผูส้ อนและผู้เ

กบั การการจัดการเรียนก
เพศวิถศี กึ ษา

นิเทศ เป้าหมายการนเิ ทศ วธิ ีการนิเทศ เครอื่ งมือการนิเทศ

“การ ผู้ รั บ ผิ ด ช อ บ โ ค ร ง ก า ร
ชใ้ น
โรงเรียนสจุ ริต
าม
ยนการ 2. นเิ ทศทางไกล ผ่าน
ให้
แก่ เครือข่าย network :
เก่ยี วข้อง
การสอน line / zoom/ Google

meet(กรณไี ม่สามารถ

ลงพืน้ ทีไ่ ด)้

สถานศึกษาในสังกัด สพป. 1.ประสานสถานศึกษา แบบนเิ ทศ ติดตาม

นครสวรรค์ เขต 2 จานวน แจ้งกาหนดวันในการ การจัดการเรยี นรู้

145 โรงเรียน ออกนิเทศ เพศวิถศี ึกษา

2.นิเทศ ตดิ ตาม การ

จดั การเรียนการสอน

เพศวถิ ีศึกษา กับ

ผูบ้ ริหาร/ ครู /

ผู้รับผดิ ชอบและ

ตรวจสอบจากสภาพ

จรงิ / การสอบถามจาก

คณะครแู ละนักเรยี น

3. นิเทศทางไกล ผ่าน

เครือข่าย network :

line / zoom/ Google

ท่ี รายการท่จี ะนิเทศ ตดิ ตาม ปฏทิ นิ การนเิ ทศ วตั ถปุ ระสงคก์ ารน

8 การขับเคล่อื นคุณภาพการ ภาคเรยี นที่ 2 เพอ่ื นเิ ทศ ตดิ ตามการจัด
สอนภาษาองั กฤษ การเรียนการสอนวชิ า
ภาษาอังกฤษ ใน ๓ ด้าน
9 การศกึ ษาปฐมวยั ภาคเรียนท่ี 2 การสง่ เสริมการใชภ้ าษาอ
ของโรงเรยี น , ด้านกระบ
10 โรงเรียนปลอดขยะ (Zero ภาคเรียนที่ 2 สอนของครผู ู้สอนภาษาอ
waste school) และ ด้านผลลติ :ผเู้ รียน โ
กระบวนการนเิ ทศการสอ
กัลยาณมติ ร

เพื่อนเิ ทศ ตดิ ตามการดาเ
จดั ประสบการณ์ ให้สอดค
หลักสูตรการศึกษาปฐมว
พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ และ
กจิ กรรมตามรปู แบบโครง
นักวทิ ยาศาสตร์นอ้ ย ประ
รองรับการเสนอขอรบั ตร
พระราชทาน

1. เพือ่ กากบั ติดตามการ
ดาเนนิ งานโรงเรยี นปลอด
(Zero waste school)

นเิ ทศ เป้าหมายการนเิ ทศ วิธกี ารนิเทศ เคร่อื งมือการนเิ ทศ

meet(กรณีไมส่ ามารถ
ลงพนื้ ที่ได)้

ดกิจกรรม ทุกโรงเรยี นในสงั กดั การรายงานขอ้ มลู ใน แบบนเิ ทศ ตดิ ตาม
สพป.นว. 2
คอื ด้าน แบบติดตามการ การจดั การเรียน
อังกฤษ ดาเนนิ งาน ผ่านลิงก์ การสอน
บวนการ google Form ภาษาองั กฤษ
อังกฤษ
โดยใช้ โรงเรียนในสังกดั
อนแบบ สพป. นครสวรรค์

เขต 2 ภาคเรยี นที่
2

าเนินการ ทกุ โรงเรียนในสงั กัด การรายงานขอ้ มลู ใน แบบนเิ ทศการจัด
สพป.นว. 2 แบบติดตามการ
คลอ้ งกบั ดาเนนิ งาน ผา่ นลงิ ก์ ประสบการตาม
วยั google Form หลักสตู รการศึกษา
ะการจดั ปฐมวยั โรงเรียน
งการบา้ น ในสังกัด สพป.
ะเทศไทย นครสวรรค์ เขต ๒2

รา ภาคเรียนท่ี 2

ร ทกุ โรงเรียนในสังกดั สพป. 1.ประสานสถานศึกษา แบบนเิ ทศ ตดิ ตาม

ดขยะ นครสวรรค์ เขต 2 แจง้ กาหนดวนั ในการ การดาเนินงาน

ออกนเิ ทศ โรงเรียนปลอดขยะ

ท่ี รายการท่จี ะนิเทศ ติดตาม ปฏทิ นิ การนิเทศ วตั ถปุ ระสงค์การน

2 เพื่อใหค้ วามช่วยเหลือ
คาแนะนา ใหค้ าปรึกษาแ

ผูบ้ ริหาร ครูผู้สอนและผู้เ
กับการดาเนินงานโรงเรีย
ขยะ (Zero waste scho

11. การจัดการเรยี นการสอน ภาคเรยี นที่ 2 1. นเิ ทศ กากับ ติดตาม
Active Learning การสอนของครู โดยการ

เรยี นการสอน Active Le
2. เพ่ือยกระดับคุณภาพค

ในการจดั การเรียนรู้ในสถ
๓.รายงานผลการดาเนนิ ง

นิเทศ เป้าหมายการนเิ ทศ วธิ ีการนิเทศ เครอ่ื งมือการนเิ ทศ

ให้ 2.นเิ ทศ ตดิ ตาม การ (Zero waste

แก่ ดาเนินงานโรงเรยี น school)
ปลอดขยะ (Zero
เกย่ี วข้อง waste school) กับ
ยนปลอด ผู้บรหิ าร/ ครู /
ool)

ผูร้ บั ผดิ ชอบและ

ตรวจสอบจากสภาพ

จริง / การสอบถามจาก

คณะครูและนกั เรียน

3. นิเทศทางไกล ผา่ น

เครือขา่ ย network :

line / zoom/ Google

meet(กรณีไมส่ ามารถ

ลงพ้ืนท่ีได้)

สถานศกึ ษาในสังกดั สพป. 1) สังเกตการณ์สอน/ - แบบนิเทศชั้น

รจัดการ นครสวรรค์ เขต 2 จานวน ผลงาน เรียน

earning 145 โรงเรยี น 2) สมั ภาษณผ์ ู้บรหิ าร -แบบตรวจแผนการ

ครผู ู้สอน ครู และนกั เรยี น จดั การเรียนรู้

ถานศกึ ษา 3) ตรวจสอบเอกสาร

งาน หลกั ฐาน

- แผนการจัดการ

เรยี นรู้

ท่ี รายการท่จี ะนเิ ทศ ติดตาม ปฏิทนิ การนิเทศ วตั ถปุ ระสงคก์ ารน

นเิ ทศ เปา้ หมายการนเิ ทศ วธิ กี ารนเิ ทศ เครอ่ื งมอื การนเิ ทศ

- การจัดบรรยากาศ
ห้องเรียน และการใช้สอ่ื
ประกอบการจดั การ
เรยี นรู้

- ผลงานนักเรียน
ผลการจัดกจิ กรรม

30

การสรปุ ผลการนิเทศ

ในการนเิ ทศแต่ละคร้ังให้สรุปผลการนิเทศ ดงั น้ี
1. สะทอ้ นผลการนิเทศให้ผรู้ บั การนเิ ทศทราบ
2. บันทกึ สมดุ นเิ ทศเชงิ สร้างสรรค์ค้นหาจุดเด่นกอ่ นจึงเสนอแนะในข้อท่ีควรพัฒนา (ไมน่ าสมดุ

นเิ ทศกลับมาสานักงานเนือ่ งจากสมดุ นเิ ทศควรอยปู่ ระจาโรงเรียน)
3. สาเนาการนเิ ทศเพ่อื เกบ็ เป็นหลักฐานการนเิ ทศ และการเบกิ จ่ายคา่ ใช้สอยการเดนิ ทางไป

ราชการ
4. สรปุ ผลการนเิ ทศสง่ กลมุ่ งานนเิ ทศตามแบบทก่ี าหนด 1 ครั้ง/เดือน ส่งทกุ สนิ้ เดอื นเพ่ือกลุ่ม

งานนิเทศจะได้บันทกึ เสนอผ้บู ังคบั บัญชาตอ่ ไป

ตัวอย่างแบบรายงานผลการนิเทศ

ของ............…………………….........................…… เดือน…………....………... ปีงบประมาณ....................

วนั ที่ โรงเรียนท่รี บั การนิเทศ รายการ/เรื่องท่นี เิ ทศ วิธกี ารนิเทศ/ผลการนิเทศ

ตวั อยา่ ง โรงเรียน ก ภาษาไทย 1. สังเกตการสอน
วันที่ 1 มกราคม - การอ่าน 2. สะทอ้ นผล
- การเขยี น 3. แจง้ ผลผูบ้ ริหาร
2566
4. ผลปรากฏวา่ ครู….....
...................................

5. ขอ้ เสนอแนะ

ลงชือ่ ……………………ผรู้ ายงาน
(………………………………)

ตาแหน่ง…………………………

31
การรายงานผลการปฏิบัตกิ ารนิเทศ

กลมุ่ นิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจัดการศึกษา กาหนดให้ศกึ ษานิเทศกท์ ุกคนตอ้ งรายงานผล
การปฏิบตั ิการนเิ ทศ ดงั น้ี

1. รายงานผลการปฏิบตั ิการนิเทศประจาเดอื นศกึ ษานเิ ทศก์แต่ละคนต้องทาบันทึกการปฏบิ ัตกิ าร
นเิ ทศตามภารกิจ / กิจกรรมรายเดอื นตามแบบฟอร์มที่กลมุ่ นิเทศ ติดตามและประเมนิ ผลการจัดการศึกษารว่ มกัน
จดั ทาขนึ้ จากนัน้ นาส่งผู้อานวยการกลมุ่ นเิ ทศ ติดตามและประเมนิ ผลการจัดการศึกษา

2. รายงานการปฏิบตั ิราชการ 6 เดือน ศกึ ษานิเทศก์ต้องทารายงานการปฏบิ ตั ริ าชการตามบทบาท
หนา้ ท่ี ปีงบประมาณละ 2 ครั้ง ตามประเดน็ ทกี่ าหนดจดั ทาเปน็ เอกสารรายงานรปู เล่มพร้อมร่องรอยหลักฐานการ
ปฏิบัติงานโดยมีกรอบการเขยี นรายงานการปฏบิ ัติงานดงั น้ี

กรอบการเขียนรายงานการปฏบิ ัติงาน
1. ขอ้ มลู ผรู้ ายงาน
2. หน้าท่ี ความรับผิดชอบที่ไดร้ ับมอบหมาย (ตามคาสัง่ สพป.นครสวรรค์ เขต2)
3. ผลการปฏิบตั ิงาน
3.1 งานตามมาตรฐานตาแหน่ง
(1) งานนิเทศ
(2) งานศกึ ษาคน้ ควา้ ทางวชิ าการ
(3) งานวิจยั
(4) งานติดตาม ตรวจสอบและประเมนิ ผล
3.2 งานตามกลมุ่ ภารกจิ
3.3 งานกลมุ่ สาระการเรียนรู้
3.4 งานอืน่ ๆ (งานพิเศษ งานโครงการ ฯลฯ)
4. แนวทางการพฒั นางานในรอบตอ่ ไป

ภาคผนวก

32

33

34

35

36

37

38


Click to View FlipBook Version