พระราชบัญญัติ ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
2 มาตรา 77 ▪ มีกฎหมายเท่าที่จ าเป็น ▪ ยกเลิกกฎหมายที่ล้าสมัย เป็นอุปสรรคต่อการด ารงชีพ หรือประกอบอาชีพของประชาชน ▪ ในการตรากฎหมายพึงใช้ระบบอนุญาต คณะกรรมการ เท่าที่จ าเป็น มีหลักเกณฑ์การใช้ดุลพินิจ และก าหนดโทษทางอาญาเฉพาะความผิดที่ร้ายแรง
มาตรา 258 3 มีกลไกในการด าเนินการปรับปรุงกฎหมาย ให้สอดคล้องกับมาตรา 77 และพัฒนาให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล
แผนปฏิรูปประเทศด้านกฎหมาย ▪ มีกลไกในการออกกฎหมายที่ดีเท่าที่จ าเป็น ▪ มีกลไกในการทบทวนกฎหมายที่มีผลบังคับแล้ว ให้สอดคล้องกับมาตรา 77 ▪ จัดท ากฎหมายที่สามารถเปลี่ยนโทษทางอาญา ที่สามารถเปรียบเทียบปรับได้เป็นโทษปรับทางพินัย
6 โทษอาญาที่สามารถ เปรียบเทียบได้
โทษอาญาที่สามารถ เปรียบเทียบได้ 7 ปัญหาของโทษปรับ ทางปกครอง แนวทางของต่างประเทศ การจด ั ทา กฎหมายเพอ ่ ื เปล ่ ย ี นโทษทางอาญา ที่สามารถเปรียบเทียบได้เป็นโทษปรับทางพินัย
8 ปัญหาของโทษปรับ ทางปกครอง ▪ เม ่ ื อม ี คา สง ั ่ หากผ ู ก ้ ระทา ความผ ิ ดไม ่ ยน ิ ยอมช าระค่าปรับ หน่วยงานต้องด าเนินการบังคับทางปกครอง ▪ หลักเกณฑ์การบังคับช าระค่าปรับ อนุโลม พรบ. วิธีปฏิบัติราชการทางปกครองมาใช้บังคับ ▪ ศาลปกครองพิจารณาความชอบด้วยกฎหมาย ของค าสั่งปรับทางปกครอง ▪ กฎหมายบางฉบับเริ่มก าหนดให้น าคดีไปฟ้ องต่อ ศาลอาญาเพอ ่ ืใหม ้ี คา พพ ิ ากษาและออกหมายบง ั คบคดี ั
9 แนวทางของต่างประเทศ ฝรั่งเศส ▪ เป็นค าสั่งทางปกครอง ▪ อยู่ในอ านาจของศาลปกครอง เยอรมนี ▪ ไม่เป็นค าสั่งทางปกครอง ก าหนดหลักเกณฑ์เป็นการเฉพาะ ACT ON REGULATORY OFFENCE 1952 (2495) แก้ไข 1968 (2511) ▪ อยู่ในอ านาจของศาลอาญา (ศาลแขวง)
10 โปรตุเกส ▪ ค.ศ. 1979 ตรารัฐก าหนด ฉบับที่ 232/79 ก าหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการลงโทษทางปกครองไว้โดยเฉพาะ ▪ ค.ศ. 1982 ตรารัฐก าหนด ฉบับที่ 433/82 ลงวันที่ 27 ตุลาคม “โทษปรับทางปกครอง” (COIMA) ▪ ค.ศ. 2006 ตรารัฐบัญญัติ ฉบับที่ 30/2006 ปรับเปลี่ยนความผิดลหุโทษ ในความผิดในกฎหมายหลายฉบับมาเป็นความผิดทางปกครอง ที่ต้องรับโทษปรับทางปกครอง
11 อิตาลี ▪ ค.ศ. 1960 เริ่มใช้โทษปรับทางปกครอง กับกฎหมายจราจร และการฝ่ าฝืนข้อบัญญัติท้องถิ่น ▪ ค.ศ. 1975 มีการเปลี่ยนความผิดลหุโทษที่มีโทษปรับสถานเดียว ตามกฎหมายต่าง ๆ มาเป็นโทษปรับทางปกครอง ▪ ค.ศ. 1981 ตรารัฐบัญญัติ ฉบับที่ 689 กฎหมายกลางเกี่ยวกับการลงโทษทางปกครอง ▪ ค.ศ. 1999 ตรารัฐก าหนด เปลี่ยนความผิดอาญาที่ไม่ร้ายแรงเป็นความผิดทางปกครอง
12
หลักการ ของพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 13 1. เป็นกฎหมายกลางในการปรับเป็นพินัย 2. เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียว และความผิดที่มีโทษปรับทางปกครองบางฉบับเป็นความผิด ทางพินัย
14 หลักการ ของพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 ▪ หมวด 1 บททั่วไป ▪ หมวด 2 กระบวนการพิจารณาคดีความผิดทางพินัย ▪ บทเฉพาะกาล
หมวด 1 15 บททั่วไป ▪ ก าหนดหลักเกณฑ์การเป็นกฎหมายกลางในการปรับเป็นพินัย ▪ ก าหนดให้ปรับเป็นพินัย ไม่เป็นค าสั่งทางปกครอง หรือการกระท า ทางปกครอง และไม่เป็นโทษอาญา (ม.5) ▪ ก าหนดให้ผู้กระท าความผิดต้องช าระค่าปรับเป็นพินัยตามที่ เจ้าหน้าที่ของรัฐหรือศาลก าหนด โดยต้องไม่เกินจ านวนสูงสุด ที่กฎหมายซึ่งบัญญัติความผิดทางพินัยก าหนดไว้ (ม.7) ▪ หลักเกณฑ์ในการพิจารณาการกระท าความผิด ให้น าป.อาญา ภาค ๑ บทบัญญัติทั่วไป ลักษณะ ๑ทั่วไป เฉพาะ หมวด ๒ การใช้กฎหมายอาญาหมวด ๔ ความรับผิดในทางอาญา หมวด ๕ การพยายามกระท าความผิด และหมวด ๖ ตัวการและผู้สนับสนุน มาใช้บังคับโดยอนุโลม (ม.8)
หลักเกณฑ์ 16 ในการก าหนด ค่าปรับเป็นพินัย ม.9 ม.10 ▪ ระดับความรุนแรงของผลกระทบที่เกิดกับชุมชนหรือสังคม และพฤต ิ การณ ์ อน ่ ื ท ่ ี เก ่ ย ี วกบ ั สภาพความผ ิ ด ▪ ความรู้สึกผิดชอบ อายุ ประวัติ ความประพฤติ การศึกษา อาชีพ การกระทา ความผ ิ ดซ ้ า และส ่ ง ิ ท ่ ี เก ่ ย ี วกบ ั ผ ู ก ้ ระทา ความผ ิ ด ▪ ผลประโยชนท ์ ่ ี ผ ู ก ้ ระทา ความผ ิ ดหรอ ื บค ุ คลอน ่ ืไดร ้ บ ั จากการกระทา ความผ ิ ด ▪ สถานะทางเศรษฐกิจของผู้กระท าความผิด ▪ ผ่อนช าระได้ ▪ กรณีกระท าความผิดเพราะยากจนเหลือทนทาน หรือจ าเป็นอย่างแสนสาหัส ในการด ารงชีพ ศาลสามารถก าหนดค่าปรับต ่ากว่าที่กฎหมายบัญญัติ หรือจะตักเตือนโดยไม่ก าหนดค่าปรับได้ หรือให้ท างานบริการสังคม ▪ กรณีไม่มีเงินช าระค่าปรับศาลสามารถสั่งให้ท างานบริการสังคม
อายุความ 17 และระยะเวลา ในการบังคับ ช าระค่าปรับ ม.11 ม.12 ▪ อายุความ 2 ปี นับแต่วันกระท าความผิด เว้นแต่กฎหมายซึ่งบัญญัติความผิดทางพินัยจะก าหนดไว้เป็นอย่างอน ่ ื ▪ ระยะเวลาในการบังคับ 5 ปี นับแต่มีค าสั่งหรือค าพิพากษา แต่ถ้ายึดหรืออายัดทรัพย์สินหรือสิทธิเรียกร้องไว้แล้ว สามารถด าเนินการต่อได้
การจัดท ารายงาน เจ้าหน้าที่ ของรัฐ จัดท ารายงานหัวหน้าหน่วยงานของรัฐที่ตนสังกัด หน่วยงาน ของรัฐ จัดท ารายงานสรุปผลการปรับเป็นพินัยของหน่วยงาน เปิดเผยผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศทุกปี 18 การรายงาน ผลการสั่งปรับ เป็นพินัย ม.13
หมวด 2 19 กระบวนการ พิจารณาคดี ความผิดทางพินัย ม.14 ▪ เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้มีอ านาจปรับเป็นไปตามที่กฎหมายซึ่งบัญญัติ ความผิดเป็นพินัยก าหนดไว้ ▪ ถ้ากฎหมายเฉพาะซึ่งบัญญัติความผิดทางพินัยไม่ก าหนดไว้ เป็นไปตามที่รัฐมนตรีประกาศก าหนด ▪ รัฐมนตรีต้องก าหนดเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งรับผิดชอบในการปฏิบัติ ตามกฎหมายน ้ น ั เวน ้ แต ่ กรณ ี ความผ ิ ดทางพน ิ ย ั หลายกรรมตาม มาตรา 17 วรรคสาม ▪ เจ้าหน้าที่คนเดียว มีอ านาจปรับได้ส าหรับอัตราโทษอย่างสูง ไม ่ เกน ิ หน ่ ึ งหม ่ ื น ▪ อต ั ราโทษอย ่ างส ู งเกน ิ หน ่ ึ งหม ่ ื น ตอ ้ งทา เป็ นองคค ์ ณะ ไม่น้อยกว่าสามคน
กรรมเดียว 20 เป็นความผิด ทางพินัย หลายบท ม.15 ▪ หากการกระท าใดเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดทางพินัย หลายบท ให้ปรับโดยใช้กฎหมายที่ก าหนดค่าปรับสูงสุด ▪ ก่อนที่ผู้กระท าความผิดช าระค่าปรับ หากพบว่ามีกฎหมาย ของหน ่ วยงานอน ่ ื ม ี ค ่ าปรบ ั ส ู งกว ่ า ใหร ้ ะงบ ั การปรบ ั และสง ่ สา นวนใหเ ้ จา ้ หนา ้ ท ่ ข ี องหน ่ วยงานน ้ น ั ▪ กรณีที่ได้มีค าสั่งปรับและผู้กระท าความผิดได้ช าระค่าปรับแล้ว ไม ่ ว ่ าทง ้ ั หมดหรอ ื บางสว ่ น ใหค ้ วามผ ิ ดทางพน ิ ย ั สา หรบ ั การกระทา ความผ ิ ดในบทอน ่ ื เป็ นอน ั ยต ุ ิ
กรรมเดียว 21 เป็นความผิด ทางพินัย และอาญา ม.16 ▪ อาญาไม่อาจเปรียบเทียบได้ ให้ระงับการด าเนินการ ปรับเป็นพินัย และแจ้งพนักงานสอบสวนด าเนินคดีอาญาต่อไป ▪ สั่งปรับเป็นพินัยไปแล้วไม่ตัดอ านาจพนักงานสอบสวน และอัยการในการด าเนินคดีอาญา หากศาลในคดีอาญา มีค าพิพากษาสั่งลงโทษให้ความผิดทางพินัยเป็นอันยุติ และน าค่าปรับเป็นพินัยที่ช าระแล้วมาหักลบกับโทษปรับอาญา
กรรมเดียว 22 เป็นความผิด ทางพินัย และอาญา (ต่อ) ▪ อาญาเปรียบเทียบได้ และผู้กระท าความผิดช าระค่าปรับเป็น พน ิ ย ัใหค ้ ด ี อาญาน ้ น ั เลก ิ กน ั ไม่ตัดสิทธิผู้เสียหายในคดีอาญาในการเรียกร้องค่าเสียหาย ▪ อาญาเปรียบเทียบได้และผู้กระท าความผิดช าระค่าปรับอาญา ตามที่มีการเปรียบเทียบ ให้ความผิดทางพินัยเป็นอันยุติ
การกระท า 23 ความผิด ทางพินัย หลายกรรม ม.17 ▪ กระท าความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ปรับทุกกรรมเรียงกระทง ▪ กรณ ี ความผ ิ ดกรรมใดอย ู ่ในอา นาจหน ่ วยงานอน ่ ื ใหแ ้ จง ้ หน ่ วยงานน ้ น ั ด าเน ิ นการต ่ อไป ▪ นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบคณะรัฐมนตรี จะวางระเบียบให้เจ้าหน้าที่ของรัฐร่วมกันหรือปรับแทนกันได้
กระท าความผิด 24 หลายกรรม บางกรรมเป็นพินัย บางกรรมเป็นอาญา ม.18 ▪ ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐสั่งปรับเป็นพินัย ▪ อาญาสง ่ พนก ั งานสอบสวนเพอ ่ ื ด าเน ิ นคด ี อาญา ▪ กรณีสืบสวนและสอบสวนคดีอาญา หากพบว่ากระท าความผิด เป็นพินัย ให้พนักงานสอบสวน/พนักงานอัยการ แจง ้ เจา ้ หนา ้ ท ่ ข ี องรฐ ั เพอ ่ ื พจ ิ ารณาด าเน ิ นการปรบ ัเป็นพินัย
กระบวนการ 25 พิจารณาคดี ความผิด ทางพินัย (ต่อ) ม.19 ม.20 ▪ เม ่ ื อพบการกระทา ความผ ิ ด ใหเ ้ จา ้ หนา ้ ท ่ ข ี องรฐ ั รวบรวมขอ ้ เทจจริงและ ็ หลก ั ฐาน และใหโ้ อกาสผ ู ก ้ ระทา ความผ ิ ดไดช ้ ้ ี แจงตามสมควร ▪ เจ้าหน้าที่ของรัฐมีอ านาจพิจารณาและสั่งปรับได้ ไม่ว่าความผ ิ ดเกด ิ ข ้ ึ น ในท้องที่ใด ▪ หากเช ่ ื อว ่ ากระทา ความผ ิ ด (มีพยานหลักฐานเพียงพอ) ให้มีค าสั่งปรับ เป็นพินัย และส่งค าสั่งเป็นหนังสือไปทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ ตามที่อยู่ในทะเบียนราษฎร หรือที่แจ้งไว้กับหน่วยงานของรัฐ ▪ ใหถ ้ อ ื ว ่ าผ ู น ้ ้ น ัไดร ้ บ ั แจง ้ ตง ้ ั แตว ่ น ัครบสิบห้าวันนับแต่วันที่ปรากฏ ในทะเบียนตอบรับ
ค าสั่งเป็นพินัย 26 อย่างน้อย ต้องประกอบด้วย ม.21 ▪ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระท าความผิด ▪ อัตราค่าปรับที่กฎหมายบัญญัติไว้ และจ านวนค่าปรับ ที่เจ้าหน้าที่ก าหนด ▪ ระยะเวลาในการช าระ ซึ่งต้องไม่น้อยกว่า 15 วัน แต่ไม่เกิน 30 วัน ▪ กระบวนการที่จะด าเนินการต่อไปหากผู้กระท าความผิด ปฏิเสธหรือไม่ช าระค่าปรับ ▪ สท ิ ธ ิในการขอผ ่ อนช าระ หรอ ื การย ่ น ื คา รอ ้ งต ่ อศาลเพอลดค่าปรับ ่ ื หรือขอท างานบริการสังคม ▪ รายละเอย ี ดอน ่ ื ตามท ่ เ ี หน ็สมควรเพอ ่ ืใหผ ้ ู ก ้ ระทา ความผิดเข้าใจ
พรบ.จราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ม. ๑๔๐ เมื่อปรากฎแก่เจ้าพนักงานจราจรไม่ว่าพบด้วยตนเอง หร ื อโดยการใช ้ เคร ื่องอุปกรณ ์ หร ื อโดยวธิี การอื่นใดว่า ผ ู้ขบัขผ ีู่้ใดฝ่าฝื นหร ื อไม่ปฏิบัตติามบทบัญญัติแห่ง พระราชบัญญัตินี้หรือตามกฎหมายอื่นเกี่ยวกับรถหรือ การใช้ทาง ที่เป็ นความผิดที่มีโทษปรับสถานเดียว หร ื อม ีโทษจา คุกไม่เกนิหน ึ่งเด ื อนและม ีโทษปรับ เจ้าพนักงานจราจรจะว่ากล่าวตักเตือนหรือ ออกใบสั่งให ้ ผ ู้ขบัขผ ีู่้น้ันช าระค่าปรับตามที่ได้ เปรียบเทียบก็ได้ ในกรณีเจ้าพนักงานจราจรที่ออก ใบสั่งไม่พบตวัผ ู้ขบัข ี่ให ้ ตดิผูก หร ื อแสดงใบสั่งไว้ที่รถ ท ี่ผ ู้ขบัขส ี่ามารถเห็นได ้ ง่าย หากไม่สามารถผูก หร ื อ แสดงใบสั่งไว ้ ท ี่รถไม่ว่าด ้ วยเหตุใด ให ้ ส่งใบสั่งพร้อม พยานหลักฐานโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับไป ยงัภูมิลา นาของเจ ้ าของรถหร ื อผ ู้ครอบครองรถเพื่อให้ ช าระค่าปรับภายในเวาลาที่ก าหนดไว้ในใบสั่งนั้น ทั้งนี้ ตามระเบ ี ยบท ี่ผ ู้บัญชาการตา รวจแห่งชาตกิา หนด ม.๑๔๐/๑ เม ื่อเจ ้ าพนักงานจราจรได ้ ตดิผูก หร ื อแสดงใบสั่งไว้ที่ รถหรือส่งใบสั่งทางไปรษณีย์ตามมาตรา ๑๔๐ ว.สอง หรือ ว.สาม ให ้ ถ ื อว่าเจ ้ าของรถหร ื อผ ู้ครอบครองรถ ได้รับใบสั่งเมื่อพ้นก าหนดสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้ติด ผูก หร ื อแสดงใบสั่งไว ้ ท ี่รถหร ื อส่งใบสั่งทางไปรษณีย์ ดงักล่าวเว ้ นแต่จะพสิูจน ์ได ้ ว่าได ้ ม ี การรับหรือได้รับ หลงัจากวนัน้ัน เม ื่อเจ ้ าของรถหร ื อผ ู้ครอบครองรถ ได้รับใบสั่งดังกล่าวแล้ว ให้สันนิษฐานว่าเจ้าของรถ หร ื อผ ู้ครอบครองรถน้ันเป็นผ ู้กระท าความผดตามที่ ิ ระบุไว ้ในใบสั่งเว ้ นแต่เจ ้ าของรถหร ื อผ ู้ครอบครองรถ จะได้แจ้งแต่อพนักงานสอบสวนภายในสามสิบวันนับ แต่วนัท ี่ได ้ รับใบสั่งว่าผ ู้อ ื่นเป็นผ ู้ขบัขแ ี่ละผ ู้น้ันยอมรับ ว่าเป็นผ ู้ขบัข ี่หร ื อกรณท ีี่ไม่ม ี ผ ู้ใดยอมรับว่าเป็นผ ู้ขบัข ี่ เจ ้ าของหร ื อผ ู้ครอบครองรถซ ึ่งไม่ใช่นิตบิุคคลจะต้อง แสดงหลักฐานให้พนักงานสอบสวนเชื่อว่าตนเองมได้ เป็นผ ู้ขบัขน ี่ ้ัน 27 ม.๒๒ข้อยกเว้นการแสวงหา ข้อเท็จจริง การให้โอกาสผู้ถูก กลา ่ วหาช ้ ี แจง การสง ่ คา สั่ง ปรับ และรายละเอียดค าสั่ง ปรับ
ขน ้ ั ตอนหลง ั จาก 28 ออกค าสั่งปรับ ม.23 ม.24 ม.27 ▪ หากผู้กระท าความผิดปฏิเสธหรือไม่ช าระค่าปรับ ภายในเวลาที่ก าหนด ให้เจ้าหน้าที่สรุปส านวนส่งอัยการ เพ ่ อ ืฟ้ องคด ี ต ่ อศาลต ่ อไป เว้นแต่กฎหมายที่บัญญัติความผิด เป็นพินัยก าหนดให้เจ้าหน้าที่ของรัฐฟ้ องคดีต่อศาลได้เอง ▪ หากอัยการสั่งไม่ฟ้ อง ให้แจ้งหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ หากหัวหน้าหน่วยงานของรัฐมีความเห็นแย้ง ใหผ ้ ู บ ้ ง ั คบ ั บญ ั ชาชน ้ ั เหน ื อกว ่ าของอย ั การเป็ นผ ู ว ้ น ิิ จฉย ั ช ้ ี ขาด ▪ หากผู้กระท าความผิดยินยอมช าระค่าปรับ ก่อนอัยการส่งฟ้ อง หรือศาลมีค าพิพากษา ความผิดทางพินัยเป็นอันยุติ
การด าเนินคดี 29 ในชน ้ ั ศาล ม.28 ม.29 ▪ ศาลแขวง จังหวัดหรือศาลอาญาที่มีเขตอ านาจ หรือศาลช านัญพิเศษ มีอ านาจพิจารณาคดีความผิดทางพินัย ▪ การกระทา ความผ ิ ดเกด ิ ข ้ ึ นท ่ใี ดใหฟ้้ องศาลน ้ น ั หากเกด ิหลายท้องที่ ฟ้ องศาลทอ ้ งท ่ ห ี น ่ ึ งทอ ้ งท ่ใี ดท ่ ค ี วามผ ิ ดเกด ิ ข ้ ึ น ▪ ถา ้ไม ่ปรากฎชด ั วา ่ ความผ ิ ดเกด ิ ข ้ ึ นท ่ใี ด ฟ้ องท ่ ศี าลท ่ ผู้กระท าความผิ ี ด มีที่อยู่ ถ้าไม่ทราบที่อยู่ให้ถือที่อยู่ตามทะเบียนราษฎร ▪ ถ้ามีผู้กระท าความผิดหลายคน ให้ฟ้ องต่อศาลที่ผู้กระท าความผิด คนใดคนหนึ่งมีที่อยู่ ▪ การพิจารณาคดีของศาล ให้เป็นไปตามข้อบังคับของประธาน ศาลฎีกาโดยความเห็นชอบของที่ประชุมใหญ่
การบังคับ 30 ช าระค่าปรับ ม.30 ม.31 ม.32 ▪ หากไม่ช าระค่าปรับภายในเวลาที่ศาลก าหนด ใหศ ้ าลม ี อา นาจออกหมายบง ั คบ ั คด ี เพ ่ อ ื ยด ึ ทรพ ั ยส์ น ิ ช าระค่าปรับ ▪ การบังคับคดีน ามาตรา 29/1 วรรคสองและวรรคสามป.อาญา มาใช้ บังคับโดยอนุโลม (ไม่รวมการกักขังแทนค่าปรับ) ▪ ห้ามอุทธรณ์ค าพิพากษาของศาลในปัญหาข้อเท็จจริง และจ านวนค่าปรับ ▪ ผู้กระท าความผิดอท ุ ธรณ ์ปญ ั หาขอ ้ กฎหมายไดต ้ ามเงอ ่ ื นไขใน ข้อบังคับของประธานศาลฎีกา (ต้องค านึงถึงความเป็นธรรมของผู้ อุทธรณ์และภาระค่าใช้จ่ายของสังคม) ▪ ค าพิพากษาของศาลอุทธรณ์เป็นที่สุด
คดีความ 31 ทางพินัยยุติ ม.33 ▪ มีการช าระค่าปรับหรือท างานบริการสังคมแทนค่าปรับครบถ้วน ▪ ความตายของผู้กระท าความผิด ▪ มีการเปรียบเทียบความผิดอาญาโดยชอบ ▪ ขาดอายุความ (ไม่มีค าสั่งปรับหรือฟ้ องคดีภายในสองปี นับแต่วันกระท าความผิด) ▪ พ้นระยะเวลาบังคับค่าปรับ (ภายในห้าปีนับแต่มีค าสั่งปรับ หรือค าพิพากษาถึงที่สุด)
การบันทึกประวัติ 32 ม.34 ▪ ห้ามหน่วยงานของรัฐบันทึกการกระท าความผิดทางพินัย ไว้ในบันทึกอาชญากรรม ▪ บน ั ทก ึไวเ ้ป็ นขอ ้ ม ู ลเพ ่ อ ืใชใ้ นการกา หนดค ่ าปรบ ั กรณ ี กระทา ความผ ิ ดซ ้ า ไดห ้ รอ ื การจด ั ทา รายงานตาม ม. 13 ได้
การช าระค่าปรับ 33 ม.35 ม.36 ▪ ก าหนดให้ช าระผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ ▪ ค่าปรับเป็นพินัยต้องน าส่งคลังเป็นรายได้ของแผ่นดิน ▪ เว้นแต่กฎหมายซึ่งบัญญัติความผิดทางพินัยหรือกฎหมายอน ่ ื จะกา หนดไวเ ้ป็ นอย ่ างอน ่ ื
34 บทเฉพาะกาล ม.37 ม.38 ▪ พระราชบญ ั ญต ั น ิ ้ ี ม ี ผลใชบ ้ ง ั คบ ั เม่ื อพน ้ 240 วัน นับแต่วันประกาศ ในราชกจ ิ จาน ุ เบกษา ยกเวน ้ การตง ้ ั และปฏบ ิ ต ั ห ิ นา ้ ท่ข ี องคณะกรรมการ ▪ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกกฎหมายล าดับรองให้แล้วเสร็จและประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาภายใน 240 วัน นับแต่วันที่กฎหมายประกาศ ในราชกิจจานุเบกษา ▪ การออกกฎหมายล าดับรองสามารถด าเนินการและประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาได้ก่อนกฎหมายมีผลใช้บังคับ แต่ต้องไม่ใช้บังคับ ก่อนวันที่กฎหมายมีผลใช้บังคับ ▪ กา หนดใหม ้ี คณะกรรมการเพอ่ื ทา หนา ้ ท่ใี หค ้ า ปรก ึ ษาแก ่ เจา ้ หนา ้ ท่ข ี องรฐ ั และเสนอการออกกฎหมายล าดับรอง ▪ เม่ื อครบ 5 ปี ให้สคก. พิจารณาความจ าเป็นและเสนอ ครม. ว่าจะให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อหรือไม่ โดยจะให้อยู่ต่อตามเวลาที่ก าหนด หรือจะอยู่ตลอดไปก็ได้
35 บทเฉพาะกาล เปลี่ยนโทษอาญา 201 ฉบับ เป็นความผิด ทางพินัย ม.39 ม.40 ม.42 ▪ ให้เปลี่ยนโทษทางอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวตามบัญชี1 เป็นปรับเป็นพินัย (จ านวน 168 ฉบับ) ▪ โทษทางอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวตามบัญชี 2 ให้สามารถตรา พรฎ. เพ ่ อ ื เปล ่ ย ี นเป็ นปรบ ั เป็ นพน ิ ย ัได ้ โดยจะเปล ่ ย ี นบางมาตราหรอ ื ทง ้ ั ฉบบ ั กไ็ ด ้(33 ฉบับ) ▪ พรฎ .ต้องน าไปเสนอต่อสภาผู้แทนและวุฒิสภา เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 60 วัน หากแต่ละสภามิได้มีมติ ไม่เห็นชอบ ให้น าความกราบบังคมทูลต่อไป
ความผิดอาญา 36 ที่มีโทษปรับสถานเดียว ที่ไม่เปลี่ยนเป็น ความผิดทางพินัย ม.41 ▪ ความผิดที่มีโทษจ าคุกหรือสูงกว่ากรณีบุคคลธรรมดา เป็นผู้กระท าความผิด แต่มีโทษปรับสถานเดียวส าหรับนิติบุคคล ▪ ความผ ิ ดท ่ ม ีีโทษปรบ ั สถานเดย ี วแตม ่ ี เงอ ่ ื นไขใหร ้ บ ัโทษส ู งกว่าโทษ ปรบ ั เม ่ ื อกระทา ความผ ิ ดซ ้ า หรอ ื ม ี เหตอ ุ น ่ ื ตามท ่ ก ี ฎหมายก าหนด ▪ โทษสูงกว่าโทษปรับต้องเป็นโทษอาญา ▪ ไม่รวมมาตรการทางปกครอง หรือค่าปรับบังคับการ ▪ การกระทา ความผ ิ ดซ ้ า ตอ ้ งเป็ นการกระทา ของบค ุ คลเดย ี วกน ั ▪ เหตอ ุ น ่ ื ตามท ่ ก ี ฎหมายกา หนดตอ ้ งเป็ นองคป์ ระกอบความผ ิ ดเดียวกัน และเป็นการกระท าของบุคคลเดียวกัน ▪ ไม่รวมกรณีกฎหมายก าหนดโทษจ าคุก แต่ก าหนดให้รับโทษปรบ ั เม ่ อ ื มีเหตุลดโทษ
พระราชบญ ั ญต ั ล ิ ข ิสท ิ ธ ์ ิ พ.ศ. 2537 มาตรา 69 ผ ู ใ้ ดกระท าการละเม ิ ดล ิ ขสิ ทธ ์ ิ หร ือสิทธิ ของนักแสดงตามมาตรา 27 มาตรา 28 มาตรา 29 มาตรา 30 หรือมาตรา 52 ตอ ้ งระวางโทษปรบ ั ต ้ ั งแต ่สองหม ่ ื นบาท ถึงสองแสนบาท ถ้าการกระท าความผิดตามวรรคหนึ่งเป็ นการกระท า เพ ่ ื อการคา ้ ผ ู ก ้ ระท าตอ ้ งระวางโทษจ าค ุ กต ้ ง ั แต ่หกเดือน ถ ึ งส ่ ปีี หร ื อปรบ ั ตง ้ ั แต ่ หน ่ ึ งแสนบาทถ ึ งแปดแสนบาท หร ื อทง ้ ั จา ทง ้ ัปรบ ั ตัวอย่างบทบัญญัติที่ 37 เข้าข้อยกเว้นมีเหตุ อน ่ ื ตามท ่ ก ี ฎหมาย ก าหนด ตามมาตรา 41 (2)
พรบ.การขนส่งทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ม.127 ทวิ ผู้ได้รับใบอนุญาตปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ประจ ารถ ผู้ใดฝ่ าฝืนมาตรา 102 (3) มีความผิดทางพินัยต้องช าระ ค่าปรับเป็นพินัยไม่เกินห้าพันบาท แต่ถ้าผู้น ้ น ั เป็ นผ ู ไ้ ดร ้ บ ั ใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถ ต้องระวางโทษจ าคุกไม่เกินสาม เดือน หรอ ืปรบ ั ตง ้ ั แต ่สองพน ั บาทถง ึ หน ่ ึ งหม ่ ื นบาท หรอ ื ทง ้ ั จา ทง ้ ัปรบ ั 38 ตัวอย่างบทบัญญัติที่ เข้าข้อยกเว้นมี เหตอ ุ น ่ ื ตามท ่ ี กฎหมายก าหนด ตามมาตรา 41 (2)
▪ กฎหมายที่ให้อ านาจองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นออกข้อบัญญัติ ก าหนดโทษอาญา ให้เปลี่ยนอ านาจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการกา หนดโทษปรบ ั อาญาเป็ นการปรบ ั เป็ นพน ิ ย ั เม ่ ื อพน ้ 365 วัน นับแต่วันที่ พ.ร.บ.น ้ ีประกาศในราชกจ ิ จาน ุ เบกษา ▪ บรรดาข้อบัญญัติท้องถิ่นที่ใช้บังคับอยู่ก่อนการเปลี่ยนอ านาจของ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่มีโทษปรับอาญาสถานเดียวให้ เปลี่ยนเป็นความผิดทางปรับเป็นพินัย 39 การเปลี่ยนอ านาจในการ ออกข้อบัญญัติขององค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นและ การเปลี่ยนโทษในการ ฝ่ าฝืนข้อข้อบัญญัติของ องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่นม. 42
บทเฉพาะกาล 40 เปลี่ยนโทษปรับ ทางปกครอง เป็นปรับเป็นพินัย ม.43 ม.48 ▪ ให้เปลี่ยนโทษปรับทางปกครอง ตามบัญชี 3 (3 ฉบับ) ▪ เจา ้ หนา ้ ท ่ ท ี ่ ม ีี อา นาจปรบ ั เป็ นพน ิ ย ัใหเ ้ป็ นไปตามท ่ ก ี ฎหมายน ้ นก าหนด ั หากไม่ก าหนดให้ รมต. ออกประกาศก าหนด ▪ การกระทา ความผ ิ ดท ่ เ ี กด ิ ข ้ ึ นกอ ่ นเปล ่ ย ี นโทษ หากเจ้าหน้าที่ออกค าสั่งปรับแล้ว ให้ด าเนินการต่อไป ตามหลก ั เกณฑท ์ ่ ก ี ฎหมายน ้ น ั กา หนดไว ้ ▪ การกระทา ความผ ิ ดท ่ เ ี กด ิ ข ้ ึ นกอ ่ นเปล ่ ย ี นโทษ ถ้าเจ้าหน้าที่ยังไม่มีค าสั่งปรับ ให้ด าเนินการตามพระราชบัญญัตน ิ ้ ี
บทเฉพาะกาล 41 (ต่อ) ม.44 ▪ อายุความการกระทา ความผ ิ ดท ่ เ ี กด ิ ข ้ ึ น ก่อนเปลี่ยนเป็นการปรับเป็นพินัย ให้เป็นไปตามกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในวันก่อนเปลี่ยน เว้นแต่กฎหมายที่ก าหนดโทษปรับทางปกครองใด ไม ่ กา หนดอายค ุ วามไว ้ใหเ ้ป็ นไปตามพระราชบญ ั ญต ั น ิ ้ ี
ความผิดอาญา 42 ท ่ เ ี กด ิ ข ้ ึ นกอ ่ น วันที่มีการเปลี่ยน เป็นการปรับ เป็นพินัย ม.45 ▪ หากอย ู ่ในชน ้ ั การเปรย ี บเทย ี บ ใหเ ้ จา ้ หนา ้ ท ่ ท ี ่ ม ีี อา นาจเปรย ี บเทียบ ด าเนินการปรับเป็นพินัย ▪ หากอย ู ่ในชน ้ ั พนก ั งานสอบสวนหรอ ื อย ั การ ใหพ ้ นก ั งานสอบสวน หรอ ื อย ั การสง ่ เร ่ อ ื งใหเ ้ จา ้ หนา ้ ท ่ ข ี องรฐ ั ดา เน ิ นการปรบ ั เป็ นพน ิ ย ั ▪ หากอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล ให้ศาลพิจารณาปรับเป็นพินัย ▪ ให้ผู้กระท าความผิดที่ต้องค าพิพากษาว่ากระท าความผิดทางอาญา ที่เปลี่ยนเป็นการปรับเป็นพินัย พ้นจากการเป็นผู้กระท าความผิด และไม่ถือว่าเคยต้องค าพิพากษาว่ากระท าความผิด ถ้าถูกกักขัง แทนค ่ าปรบ ัใหก ้ ารกก ั ขง ั ส ้ น ิสด ุ ลง ค ่ าปรบ ั ท ่ ย ี ง ัไม ่ ช าระใหเ ้ป็นอันพับไป
บทเฉพาะกาล 43 การลบประวัติ อาชญากรรม ม.47 ▪ เม ่ ื อไดเ ้ปล ่ ย ี นความผ ิ ดอาญาเป็ นความผ ิ ดทางพน ิ ย ั แลว ้ ให้ประวัติอาชญากรรมในฐานความผิดทางอาญาที่เปลี่ยนเป็น ความผ ิ ดทางพน ิ ย ั เป็ นอน ั ส ้ น ิ ผล และจะน าไปใช้ยันบุคคลในทางที่เป็นโทษมิได้ ▪ ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ ลบข้อมูลความผิดทางอาญา ที่เปลี่ยนเป็นความผิดทางพินัยในประวัติอาชญากรรมของแต่ละบุคคล ให้แล้วเสร็จภายใน 365 วัน นบ ั แต ่ วน ั ท ่ ค ี วามผ ิ ดอาญาน ้ น ั เปลี่ยนเป็นความผิดทางพินัย
พรบ.จราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ม.๔/๑ เพื่อประโยช์ในการควบคุมดูแลบังคับใช้กฎหมายให้ เป็ นไปตามบทบญ ั ญต ัิ แห ่ งพระราชบญ ั ญต ัิ ฉบบ ั น ้ ี หร ื อกฎหมายอื่น อน ั เก ี ่ ยวกบ ั การจราจรใหส้ า นก ั งานตา รวจแห ่ งชาต ิ และกรมขนส ่ ง ทางบกจด ัใหม ้ี ขอ ้ ม ู ลทางอ ิ เลก ็ ทรอน ิ กส ์ เก ี ่ ยวกบ ั ประวติและการ ั กระท าความผิดตามกฎหมายของผู้รับใบอนุญาตขับขี่ ทะเบียนรถ และขอ ้ ม ู ลอ ื ่ นท ี ่ เก ี ่ ยวขอ ้ ง รวมท ้ ง ัใหม ้ี การประสานขอ ้ ม ู ลดง ั กล ่ าว ท ้ ง ั น ้ ี ตามระเบ ี ยบท ี ่ ผบ ู ้ ญ ั ชาการตา รวจแห ่ งชาต ิ และอธิบดีกรมการ ขนส ่ งทางบกร ่ วมกน ั กา หนด 44
พระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เม ่ ื อวน ั ท ่ ี 25 ตุลาคม 2565 ม ี ผลใชบ ้ ง ั คบ ั ตง ้ ั แต ่ วน ั ท ่ ี 22 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป 45
46 ความผิดอาญา ที่มีโทษปรับสถานเดียว ตามกฎหมายในบัญชี 1 168 ฉบับ - ให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญาในกฎหมายดังกล่าว เป็นอัตราค่าปรับเป็นพินัย - ข้อควรระวัง : ความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวที่จะเปลี่ยนเป็น ความผิดทางพินัย ไม่รวมถึง (1) ความผิดที่มีโทษจ าคุกหรือโทษที่สูงกว่าส าหรับกรณีที่ บุคคลธรรมดาเป็นผู้กระท าความผิด แต่มีโทษปรับสถานเดียว ส าหรับกรณีที่นิติบุคคลเป็นผู้กระท าความผิดเดียวกนัน ้ัน (2) ความผิดท่ม ีีโทษปรบัสถานเด ี ยวแต่ม ี เงอ่ื นไขไวเ ้ป็ นการเฉพาะ ใหร ้ บัโทษส ู งกว่าโทษปรบัเม่ื อกระทา ความผิดอก ี หรอ ื เม่ื อม ี เหตอ ุ น่ื ตามที่กฎหมายก าหนดด้วย ความผิดอาญา ที่มีโทษปรับสถานเดียว ตามกฎหมายในบัญชี 2 33 ฉบับ เปลี่ยนเป็นความผิด ทางพินัย ในวันที่ 25 ตุลาคม 2566 จะเปลี่ยนเป็นความผิด ทางพินัย เม่ื อม ี การตราพระราชกฤษฎก ี า
47 ความผิดอาญา ที่มีโทษปรับสถานเดียว ตามข้อบัญญัติท้องถิ่น - ให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญาในข้อบัญญัติท้องถิ่นดังกล่าว เป็นอัตราค่าปรับ เป็นพินัย - อ านาจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการออกข้อบัญญัติท้องถิ่น ก าหนดโทษปรับอาญาเปลี่ยนเป็นอ านาจในการก าหนดค่าปรับเป็นพินัย ในวันที่ 25 ตุลาคม ๒๕๖๖ ความผิดอาญา ที่มีโทษปรับทางปกครอง ตามกฎหมายในบัญชี 3 3 ฉบับ เปลี่ยนเป็นความผิด ทางพินัย ในวันที่ 25 ตุลาคม 2566 เปลี่ยนเป็นความผิด ทางพินัย ในวันที่ 25 ตุลาคม 2566 - ให้ถือว่าอัตราโทษปรับทางปกครองในกฎหมายดังกล่าว เป็นอัตราค่าปรับเป็นพินัย และให้ถือว่าเจ้าหน้าที่ผู้มีอ านาจปรับทางปกครอง ตามกฎหมายดังกล่าวเป็นผู้มีอ านาจปรับเป็นพินัยตามพระราชบัญญตันิ้ ี
พรบ.การขนส่งทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ 48 ม.๑๒๗ ม. ๑๒๗ ตรี ม. ๑๓๔ ม. ๑๓๗ เจ้าหน้าที่ของรัฐ ผู้มีอ านาจปรับ เป็นพินัย ผู้รับใบอนุญาตปฏิบัติหน้าที่ เป็นผู้ประจ ารถผู้ใดฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตาม ม. ๑๖ ว.สอง ม. ๑๐๑ ม.๑๐๒(๑) (๒) หรือ (๔) ม.๑๐๓ ม.๑๐๓ ทวิ ม.๑๐๔ ม.๑๐๕ ม.๑๐๖ หรือ ม.๑๐๗ มีความผิดทางพินัย ต้องช าระค่าปรับเป็นพินัย ไม่เกินห้าพันบาท ผู้รับใบอนุญาตปฏิบัติหน้าที่ เป็นผู้ประจ ารถผู้ใด ฝ่ าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม ค าสั่งของผู้ตรวจการ พนักงานฝ่ ายปกครอง หรือต ารวจ ตามม.๑๐๒ ทวิ มีความผิดเป็นพินัย ต้องช าระค่าปรับเป็นพินัย ไม่เกินหนึ่งพันบาท ผู้รับใบอนุญาต ประกอบการขนส่งประจ า ทางผู้ใดไม่ปฏิบัติตาม มาตรา ๓๗ มีความผิด ทางพินัยต้องช าระค่าปรับ เป็นพินัยไม่เกิน หา ้ หม่ื นบาท ผู้รับใบอนุญาต ประกอบการขนส่ง ประจ าทางผู้ใดฝ่ าฝืน มาตรา ๓๙ มีความผิด ทางพินัยตามจ านวนรถ ที่ใช้ท าการขนส่ง นอกเส้นทางหรือนอก ท้องที่ที่ได้รับอนุญาต คันละไม่เกินห้าพันบาท ต่อหนึ่งวันจนกว่าจะปฏิบัติ ให้ถูกต้อง รมต.ต้องออกประกาศ ตามม.๑๔
พรบ.จราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ 49 ม. ๑๔๙ ม. ๑๕๓ ม. ๑๕๖ ม. ๑๕๗/๑ ว.หนึ่ง เจ้าหน้าที่ของรัฐ ผู้มีอ านาจปรับ เป็นพินัย ผู้ใดไม่ปฏิบัติตาม มาตรา ๙๘ วรรคสอง หรือวรรคสาม มีความผิดทางพินัย ต้องช าระค่าปรับเป็นพินัยไม่ เกินห้าร้อยบาท ผู้ประกอบการรับจ้าง บรรทุกคนโดยสาร โดยใช้รถแท็กซี่ผู้ใด ไม่จอดรถ ณ สถานที่ ที่ก าหนดตาม พระราชกฤษฎีกา ซึ่งออกตามมาตรา ๑๐๒ มีความผิดทางพินัย ต้องช าระค่าปรับเป็นพินัย ไม่เกินหนึ่งพันบาท ผู้ใดน ารถที่หัวหน้าเจ้าพนักงาน จราจร เจ้าพนักงานจราจร หรือผู้ตรวจการได้สั่งให้ เจ้าของรถหรือผู้ขับขี่ซ่อมหรือ แก้ไขตามมาตรา ๑๔๓ หรือ มาตรา ๑๔๓ ทวิ ไปใช้ในทาง โดยยังมิได้รับใบตรวจรับรอง ตามมาตรา ๑๔๔ มีความผิด ทางพินัยต้องช าระค่าปรับ เป็นพินัยไม่เกินหนึ่งพันบาท และช าระค่าปรับเป็นพินัย รายวันอีกวันละห้าร้อยบาท จนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง ผู้ขับขี่ผู้ใดฝ่ าฝืนหรือ ไม่ปฏิบัติตามค าสั่งของหัวหน้า เจ้าพนักงานจราจร พนักงาน สอบสวน เจ้าพนักงานจราจร หรือผู้ตรวจการ ที่ให้มีการตรวจสอบผู้ขับขี่ ตามมาตรา ๔๓ ทวิ หรือฝ่ าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามค าสั่งของ ผู้ตรวจการที่ให้มีการทดสอบ ผู้ขับขี่ตามมาตรา ๔๓ ตรี มีความผิดทางพินัย ต้องช าระค่าปรับเป็นพินัย ไม่เกินสี่พันบาท รมต.ต้องออกประกาศ ตามม.๑๔
พรบ.ทางหลวง พ.ศ. ๒๕๕ 50 ม. ๖๙ เจ้าหน้าที่ของรัฐ ผู้มีอ านาจปรับเป็นพินัย ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา ๕ หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๔๒ มีความผิดทางพินัยต้องช าระค่าปรับเป็นพินัยไม่เกินห้าพันบาท รมต.ต้องออกประกาศ ตามม.๑๔