แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 1 สำคัญ
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 2 สำคัญ คำชี้แจง แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้ กลุ่มร่วมมือ Co – op Co – op กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ประกอบด้วยแบบฝึกทักษะทั้งหมด 7 เล่ม ดังต่อไปนี้ แบบฝึกทักษะเล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ แบบฝึกทักษะเล่มที่ 2 เรื่อง วิเคราะห์ใจความสำคัญ แบบฝึกทักษะเล่มที่ 3 เรื่อง วิเคราะห์วรรณคดี แบบฝึกทักษะเล่มที่ 4 เรื่อง ข้อคิดมีคุณค่าเด่น แบบฝึกทักษะเล่มที่ 5 เรื่อง เขียนประเด็นบรรยายและพรรณนา แบบฝึกทักษะเล่มที่ 6 เรื่อง วิเคราะห์คุณค่าเรื่องที่ฟังและดู แบบฝึกทักษะเล่มที่ 7 เรื่อง เรียนรู้ราชาศัพท์ แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้ กลุ่มร่วมมือ Co – op Co – op กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เล่มนี้ เป็นแบบฝึกทักษะเล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ ประกอบด้วย คำชี้แจง คำแนะนำการใช้ แบบฝึกทักษะสำหรับครูคำแนะนำการใช้แบบฝึกทักษะสำหรับนักเรียน ตัวชี้วัด จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระสำคัญ แบบทดสอบก่อนเรียน ใบความรู้ที่ ๑ เรื่อง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการอ่าน แบบฝึกทักษะ ที่ ๑ เรื่อง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการอ่าน ใบความรู้ที่ 2 เรื่อง การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง แบบฝึก ทักษะที่ 2 เรื่อง การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง แบบฝึกทักษะที่ 3 เรื่อง อ่านกาพย์และโคลง แบบฝึก ทักษะที่ 4 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน เฉลยแบบฝึกทักษะที่ ๑ เฉลยแบบฝึกทักษะที่ 2 เฉลยแบบฝึกทักษะที่ 3 เฉลยแบบฝึกทักษะที่ 4 และตารางบันทึกแบบฝึกทักษะ ครูผู้สอนควรชี้แจงให้นักเรียนเข้าใจวิธีการเรียน และดูแลให้นักเรียนได้ปฏิบัติตามขั้นตอน อย่างครบถ้วน
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 3 สำคัญ คำแนะนำในการใช้แบบฝึกทักษะ สำหรับครู บทบาทของครูในการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะ การคิดวิเคราะห์ โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้กลุ่มร่วมมือ Co – op Co – op กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีดังนี้ ๑. ครูแนะนำการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ Co – op Co – op ๒. จัดแบ่งกลุ่มนักเรียนกลุ่มละ ๔ คน โดยกำหนดให้กลุ่มประกอบด้วยสมาชิกคละกัน ในด้านเพศ ความสามารถ ความถนัด เช่น บทบาทผู้นำกลุ่ม เลขานุการ ผู้เสนอผลงาน ผู้ตรวจสอบ สมาชิกกลุ่มที่มีความสามารถแตกต่างกันจะแบ่งหน้าที่รับผิดชอบไปศึกษาหัวข้อย่อยทีได้รับมอบหมาย แล้วนำงานจากการศึกษาค้นคว้ามารวมกันเป็นงานกลุ่ม ปรับปรุงให้ต่อเนื่องเชื่อมโยง มีความสละสลวย 3. จัดสถานที่ให้เหมาะสมเอื้อต่อการทำงาน และการมีปฏิสัมพันธ์กัน 4. จัดเตรียมใบความรู้ แบบฝึกทักษะ แบบทดสอบ ให้เพียงพอ 5. ด้านการสอนครูครูสอนเนื้อหาบทเรียน และควรอธิบายชี้แจงเกี่ยวกับงานของกลุ่ม จุดมุ่งหมายของบทเรียน เหตุผลในการดำเนินการต่าง ๆ รายละเอียดและขั้นตอนในการทำงาน อธิบาย เกณฑ์การประเมินผลงาน อธิบายถึงความสำคัญและวิธีการของการพึ่งพาและการเกื้อกูลกัน อธิบาย กฎเกณฑ์ ระเบียบ กติกา บทบาทหน้าที่ ระยะเวลา การให้รางวัลหรือประโยชน์ที่กลุ่มจะได้รับ อธิบาย การช่วยเหลือกันระหว่างกลุ่ม อธิบายความสำคัญ และวิธีการในการตรวจสอบความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ที่แต่ละคนได้รับมอบหมาย 6. ดูแลให้สมาชิกกลุ่มมีการปรึกษาหารือกันอย่างใกล้ชิด 7. สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่ม 8. เข้าไปช่วยเหลือแต่ละกลุ่มตามความเหมาะสม 9. ดูแลให้นักเรียนสรุปการเรียนรู้เพื่อช่วยให้การเรียนรู้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น 10. ครูประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียน จากแบบบันทึกคะแนนการทำแบบฝึกทักษะ ผลการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน ตลอดจนบันทึกผลการสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่ม ของนักเรียนทุกคน
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 4 สำคัญ คำแนะนำในการใช้แบบฝึกทักษะ สำหรับนักเรียน การใช้แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ โดยใช้เทคนิคการ เรียนรู้กลุ่มร่วมมือ Co – op Co – op กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 2 ให้นักเรียนปฏิบัติดังนี้ ๑. นักเรียนทุกคนทำแบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง วิเคราะห์ใจความสำคัญ ๒. สมาชิกในกลุ่มแบ่งหน้าที่กัน และกำหนดบทบาทการทำงาน เช่น ผู้นำกลุ่ม เลขานุการ ผู้เสนอผลงาน ผู้ตรวจสอบผลงาน ๓. นักเรียนในกลุ่มร่วมกันศึกษาเนื้อหาจากใบความรู้ที่ ๑-๒ โดยช่วยเหลือสมาชิกใน กลุ่มให้เรียนรู้เนื้อหาที่เรียนให้เข้าใจอย่างชัดเจน ๔. นักเรียนทำแบบฝึกทักษะที่ ๑-๔ โดยแบ่งหัวข้อย่อยออกเป็นหัวข้อเล็ก ๆ เพื่อให้ นักเรียนแต่ละคนในกลุ่มเลือกไปศึกษา และนำเสนอต่อกลุ่ม กลุ่มรวบรวมหัวข้อต่าง ๆ จากนักเรียนทุกคน ภายในกลุ่ม แล้วร่วมกันอภิปรายเพื่อหาข้อสรุป 5. ตรวจความถูกต้องและอธิบายข้อสงสัยและข้อผิดพลาดในกลุ่มของตนเอง ถ้าสมาชิก ในกลุ่มทำแบบฝึกทักษะได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด คือ คะแนนน้อยกว่าร้อยละ ๘๐ สมาชิกในกลุ่มต้องอธิบาย และให้ความรู้จนสมาชิกในกลุ่มทุกคนทำแบบฝึกทักษะผ่านเกณฑ์ ๕. นักเรียนทุกคนทำการทดสอบหลังเรียน เรื่อง วิเคราะห์ใจความสำคัญ ๖. บันทึกคะแนนสอบของตนเองลงในแบบบันทึก ๗. นักเรียนนำคะแนนผลการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนของแบบฝึกทักษะแต่ละชุด เป็นรายบุคคลมาคิดคะแนนความก้าวหน้า โดยคิดเป็นคะแนนความก้าวหน้าของกลุ่ม กลุ่มที่มีคะแนน ความก้าวหน้าสูงจะได้รับรางวัลตามเกณฑ์ ๘. ใช้เวลาในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนจำนวน ๒ ชั่วโมง
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 5 สำคัญ ตัวชี้วัด สาระที่ ๑ การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน ม.2/1 อ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว และบทร้อยกรองได้ถูกต้อง ม.2/8 มีมารยาทในการอ่าน จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. อธิบายหลักการอ่านออกเสียงบทร้อยกรองประเภทกาพย์ยานี 11 ได้ ๒. อธิบายหลักการอ่านออกเสียงบทร้อยกรองประเภทโคลงสี่สุภาพได้ 3. เห็นประโยชน์ของการอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง สาระสำคัญ การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง เป็นการอ่านออกเสียงงานเขียนร้อยกรองประเภทต่าง ๆ เพื่อสื่อเนื้อหาและอารมณ์ความรู้สึกที่ปรากฏไปสู่ผู้รับสาร ด้วยท่วงทำนองที่แตกต่างกัน ตามทำนอง ลีลา และจังหวะของบทประพันธ์ เพื่อให้ผู้อ่าน ผู้ฟัง เข้าถึงความงดงามของภาษา การอ่านทำนองเสนาะ บทร้อยกรอง จะมีความแตกต่างกัน ตามทำนอง ลีลา การทอดเสียง และความสามารถของผู้อ่าน
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 6 สำคัญ ก่อนทำแบบฝึกทักษะ เรามาทำแบบทดสอบก่อนเรียนกันก่อนนะคะ
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 7 สำคัญ แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ คำชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว แล้วทำเครื่องหมาย × ลงในกระดาษคำตอบ ตัวอย่าง ถ้าเลือก ค เป็นคำตอบที่ถูกต้อง ให้ทำดังนี้ ข้อ ก ข ค ง ๑ × 1. การอ่านบทร้อยกรองที่ถูกต้องควรอ่านแบบใด ก. ผู้อ่านต้องออกเสียงปกติเหมือนกับการอ่านร้อยแก้วทั่วไป ข. ผู้อ่านต้องอ่านแบบทำนองเสนาะ ตามลักษณะที่ตนเองถนัดและชื่นชอบ ค. อ่านต้องแทรกอารมณ์ความรู้สึกของตนเอง ในแต่ละวรรคตามลักษณะคำประพันธ์นั้น ๆ ง. ผู้อ่านต้องศึกษาหลักการอ่าน และฝึกการใช้น้ำเสียง เพื่อให้ผู้ฟังเกิดอารมณ์ตามเนื้อเรื่อง 2. วิธีการอ่านแบบทอดเสียงในการอ่านบทร้อยกรองใช้เมื่อใด ก. เมื่อต้องการลากเสียงให้เข้ากับจังหวะในวรรคต่อไป ข. เมื่อต้องการรวบเสียงคำหลายพยางค์ให้สั้นเพื่อให้ลงตรงจังหวะ ค. เมื่อต้องการยืดคำให้ยาวออกไปในตอนท้ายวรรคหรือใกล้จะจบ ง. เมื่อต้องการปรับระดับเสียงให้เข้ากับจังหวะระดับเสียงของผู้อ่าน 3. การทำเครื่องหมายในบทอ่าน ถ้าใช้เครื่องหมาย / หมายความว่าอย่างไร ก. หยุดอ่าน ข. หยุดหายใจ ค. เว้นวรรคเล็กน้อยเพื่อหยุดหายใจ ง. ให้สังเกตข้อความที่จะอ่านต่อไปข้างหน้า ข้อใดกล่าวถึงคณะของกลอนสุภาพได้ถูกต้องที่สุด 4. ทอดหางเสียง ต้องใช้เครื่องหมายใด ก. // ข. ............... ค. -------- ง. ****
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 8 สำคัญ 5. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของร้อยแก้ว ก. บังคับสัมผัส ข. ใช้ในชีวิตประจำวัน ค. ไพเราะ ง. ใช้คำเหมาะสม 6. สิ่งใดสำคัญที่สุดในการอ่านออกเสียง ก. มีสมาธิ ข. อ่านให้เป็นเสียงพูด ค. อ่านให้ดัง ง. อ่านให้ถูกอักขรวิธี 7. ธารไหลใสสะอาด มัจฉาชาติดาษนานา หวั่นว่ายกินไคลคลา ตามกันมาให้เห็นตัว บทร้อยกรองนี้เป็นคำประพันธ์ประเภทใด ก. โคลง ข. ฉันท์ ค. กาพย์ ง. กลอน 8. ข้อใดแบ่งจังหวะไม่ถูกต้อง ก. วิชาเหมือน/สินค้า// อันมีค่า/อยู่เมืองไกล// ข. ต้องยาก/ลำบากไป// จึงจะได้/สินค้ามา// ค. จงตั้ง/เอากายเจ้า// เป็นสำเภา/อันโสภา// ง. ความเพียร/เป็นโยธา// แขนซ้ายขวา/เป็นเสาใบ// 9. ธารไหลใสสะอาดน้ำ รินมา มัจฉาชาตินานา หวั่นหว้าย จอกสร่ายกินไคลคลา เชยหมู่ ตามคู่มาคล้ายคล้าย ผุดให้เห็นตัว บทร้อยกรองนี้เป็นคำประพันธ์ประเภทใด ก. โคลง ข. ฉันท์ ค. กาพย์ ง. กลอน 10. ข้อใดแบ่งจังหวะไม่ถูกต้อง ก. หัวลิง/หมากเรียกไม้// ลางลิง// ข. ลางลิง/หูลิงลิง// หลอกขู้// ค. ลิงไต่/กระไดลิง// ลิงห่ม// ง. ลิงโลดฉวย/ชมผู้// ฉีกคว้า/ประสาลิง
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 9 สำคัญ ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการอ่าน ใบความรู้ที่ ๑ เรื่อง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการอ่าน การอ่านออกเสียง เป็นวิธีการอ่านที่ควรใช้น้ำเสียงให้ถูกต้อง สอดคล้อง และมีความเหมาะสม กับเนื้อเรื่องแต่ละประเภท รวมถึงการรู้จักฝึกฝนการอ่านอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยทำให้มีพื้นฐานการอ่านที่ดี เกิดความชำนาญในการอ่าน รวมถึงการรู้จักมารยาทในการอ่าน และปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม จึงจะได้รับการยอมรับนับถือจากบุคคลอื่น ทักษะการสื่อสารของมนุษย์ ประกอบไปด้วย การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน การฟัง และการอ่านเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับมนุษย์ในการสื่อสารเพื่อศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม การฟังเป็นทักษะ ซึ่งอาจมีข้อจำกัดเรื่องเวลา สถานที่ และความคงทนของสาร ส่วนการอ่านเป็นทักษะที่สำคัญในการแสวงหา ความรู้ ทั้งนี้ด้วยสื่อที่ใช้สำหรับการอ่านมีความคงทนมากกว่า ไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลาและสถานที่ ดังนั้นจึงถือได้ว่า ทักษะการอ่านมีความจำเป็น และมีความสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการแสวงหา ความรู้และเพิ่มพูนประสบการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักเรียน นักศึกษา เพราะความสำเร็จทางการ ศึกษาย่อมขึ้นอยู่กับความสามารถ และพื้นฐานทางการอ่านที่ดี การอ่าน คือ กระบวนการรับรู้และเข้าใจสารที่เป็นลายลักษณ์อักษร จากนั้นจึงแปลสัญลักษณ์ อักษรเหล่านั้นเป็นความรู้ โดยอาศัยทักษะการอ่าน กระบวนการคิด ประสบการณ์และความรู้ของผู้อ่าน รวมถึงเมื่ออ่านจบแล้ว ผู้อ่านสามารถแสดงความคิดเห็นที่มีต่อเรื่องที่อ่าน ทั้งในลักษณะเห็นด้วย คล้อยตาม หรือโต้แย้ง ในการอ่านแต่ละครั้ง ไม่เพียงแต่ผู้อ่านจะได้รับสาระ หรือเรื่องราวที่ผู้เขียนต้องการนำเสนอ เท่านั้น แต่ผู้อ่านยังสามารถรับรู้ทรรศนะ เจตนา อารมณ์และความรู้สึกที่ผู้เขียนถ่ายทอดมาในสาร ซึ่งสิ่งที่ได้รับจากการอ่านในแต่ละครั้ง จึงมีทั้งส่วนที่เป็นเนื้อหาสาระ คือ ข้อเท็จจริง และส่วนที่เป็นอารมณ์ ความรู้สึก หรือทรรศนะของผู้เขียน ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยการฝึกฝนทักษะ และประสบการณ์ในการตีความ ให้ตรงตามวัตถุประสงค์ที่แท้จริง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องฝึกทักษะการอ่าน เพื่อให้เข้าใจได้ตรงตามวัตถุประสงค์ ของผู้เขียน ความหมายและความสำคัญ
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 10 สำคัญ ระดับของการอ่าน จุดประสงค์ของการอ่าน ระดับของการอ่านแบ่งเป็น 2 ระดับคือ อ่านได้และอ่านเป็น การรับรู้จากการอ่านโดยทั่วไปเริ่มจาก ระดับที่เรียกว่า อ่านได้ คือ สามารถแปลความหมาย รับรู้สารผ่านตัวอักษร ส่วนในระดับ อ่านเป็น ผู้อ่าน จะสามารถจับใจความสำคัญ แนวคิดของเรื่อง รวมถึงความหมายแฝง หรือความหมายที่ได้จากการตีความ สามารถประเมินค่าของสารที่อ่านได้ ซึ่งจะต้องขึ้นอยู่กับความรู้และประสบการณ์ของผู้อ่านแต่ละคน การอ่านหนังสือ มีจุดประสงค์สำคัญ ดังนี้ 1)อ่านเพื่อการเขียน คือ การอ่านเพื่อนำความรู้มาใช้ในการเขียน เช่น เรียงความ บทความ สารคดี ฯลฯ ซึ่งผู้อ่านควรวิเคราะห์ความถูกต้องของข้อมูล คัดเลือกข้อมูลที่เหมาะสม นำไปใช้เขียน หรืออ้างอิง เช่น การอ่านหนังสือ เรื่อง วัฏจักรชีวิตของกบ เพื่อนำข้อมูลมาเขียนรายงานวิชาวิทยาศาสตร์ 2)อ่านเพื่อหาคำตอบ คือ การอ่านเพื่อต้องการคำตอบสำหรับประเด็นคำถามหนึ่ง ๆ จากแหล่งค้นคว้าและเอกสารประเภทต่าง ๆ เพิ่มพูนความรู้ให้แก่ตนเอง เช่น การอ่านหนังสือวิชาฟิสิกส์ เพื่อหาคำตอบเกี่ยวกับสาเหตุการเกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติ 3)อ่านเพื่อปฏิบัติตาม คือ การอ่านเพื่อทำตามคำแนะนำในข้อความหรือหนังสือที่อ่าน เช่น การอ่านตำราอาหารที่มีการอธิบายขั้นตอนวิธีการทำ รวมถึงเครื่องปรุง ส่วนผสมโดยละเอียด ซึ่งการอ่าน ด้วยวัตถุประสงค์ดังกล่าว ผู้อ่านจะต้องทำความเข้าใจรายละเอียดทุกขั้นตอน เพื่อสามารถปฏิบัติตามได้ 4)อ่านเพื่อหาความรู้หรือสะสมความรู้คือ การอ่านเพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ความรู้โดยทำได้ ทั้งผู้อ่านที่เป็นนักเรียน นักศึกษา หรือบุคคลทั่วไป และไม่จำเป็นต้องมีโอกาส หรือกาลเทศะมากำหนด ให้ต้องอ่าน ซึ่งการอ่านในแต่ละครั้ง ควรเก็บและเรียบเรียงประเด็นสำคัญของเรื่องที่อ่านไว้เป็นคลังความรู้ สำหรับนำมาใช้อ้างอิงในภายหลัง เช่น การอ่านหนังสือทางวิชาการ 5)อ่านเพื่อความบันเทิง คือ การอ่านตามความพอใจของผู้อ่าน ซึ่งผู้อ่านจะได้รับความ เพลิดเพลิน นอกจากนี้ยังสามารถช่วยยกระดับจิตใจ ช่วยให้เกิดความสุข ผ่อนคลาย คลายความทุกข์ใจ และบางครั้งผู้อ่านอาจได้ข้อคิด หรือแนวทางการใช้ชีวิต เช่น การอ่านนวนิยาย นิตยสาร วารสาร เป็นต้น 6)อ่านเพื่อรู้ข่าวสาร คือ การอ่านเพื่อศึกษา รับรู้ความเป็นไปของโลก และพัฒนาความรู้ ของตนเอง เช่น การอ่านข่าว นิตยสาร วารสาร เป็นต้น 7)อ่านเพื่อแก้ปัญหา คือ การอ่านเพื่อหาแนวทางการแก้ปัญหาเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เช่น การอ่านพจนานุกรม เพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับคำศัพท์ ความหมาย การสะกดการันต์ที่ถูกต้อง หรือการอ่านหนังสือแนะนำการเดินทาง แผนที่ เป็นต้น
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 11 สำคัญ ประเภทของการอ่าน ตารางแสดงขั้นตอนการอ่านออกเสียงและการอ่านในใจ โดยทั่วไปการอ่านแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือการอ่านออกเสียงและการอ่านในใจ ดังนี้ 1)การอ่านออกเสียง คือ การอ่านหนังสือโดยที่ผู้อ่านเปล่งเสียงออกมาดัง ๆ ในขณะที่อ่าน โดยมีจุดมุ่งหมายต่าง ๆ เช่น เพื่อสร้างความบันเทิง เพื่อถ่ายทอดข่าวสาร เพื่อประกาศ เพื่อรายงาน หรือเพื่อแถลงนโยบาย ดังนั้น การอ่านออกเสียงจึงเป็นการแปลรูปสัญลักษณ์หรืออักษรออกเป็นเสียง จากนั้นจึงแปลสัญญาณเสียงเป็นความหมาย ผู้อ่านต้องระมัดระวังการออกเสียงทั้งเสียง “ร” “ล” คำควบกล้ำ การสะกดคำ จังหวะ ลีลา และการเว้นวรรคตอนให้ถูกต้องเหมาะสม 2)การอ่านในใจ คือ การทำความเข้าใจสัญลักษณ์ที่บันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร รวมถึง รูปภาพและเครื่องหมายต่าง ๆ ออกเป็นความหมาย โดยใช้สายตาทอดไปตามตัวอักษรหรือสัญลักษณ์ แล้วจึงใช้กระบวนการคิด แปลความหมาย ตีความ เพื่อรับสารของเรื่องนั้น ๆ ขั้นตอน วิธีการ 1 2 3 การอ่านออกเสียง รับรู้ตัวหนังสือ แปลสัญลักษณ์ ตัวอักษรเป็นเสียง => การพูด แปลเสียงเป็น ความหมาย => รับรู้ความหมาย การอ่านในใจ รับรู้ตัวหนังสือ แปลสัญลักษณ์ ตัวอักษรเป็น ความหมาย => รับรู้ความหมาย
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 12 สำคัญ มารยาทในการอ่านออกเสียง การอ่าน คือ เครื่องมือสำคัญในการศึกษาหาความรู้และเพิ่มพูนประสบการณ์ในด้านต่าง ๆ ให้แก่ผู้อ่าน จึงถือได้ว่าทักษะการอ่าน เป็นทักษะที่มีความจำเป็น ผู้อ่านที่ดีต้องมีมารยาท หรือข้อควร ประพฤติปฏิบัติในการอ่านออกเสียง ดังนี้ 1) การใช้น้ำเสียง คือ ควรพิจารณาใช้น้ำเสียงให้สอดคล้อง เหมาะสมกับเนื้อหา ไม่ควร ดัดเสียงจนฟังไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งอาจทำให้ผู้ฟังทำความเข้าใจเนื้อหาไม่ตรงกับเจตนาของผู้อ่าน รวมถึง การดัดเสียงจนเกินงาม ก็อาจสร้างความรำคาญแก่ผู้ฟังได้ 2) มีบุคลิกภาพที่ดี คือ การจัดระเบียบท่ายืน หรือนั่งให้เหมาะสม ไม่หลุกหลิก และไม่ควร ยกร่างข้อความขึ้นมาให้ผู้ฟังเห็น หรือก้มหน้าก้มตาอ่านจนไม่สนใจผู้ฟัง 3) ควรสังเกตปฏิกิริยาของผู้ฟัง คือ การสังเกตดูว่า ผู้ฟังสามารถทำความเข้าใจเรื่องราว ตามผู้อ่านทันหรือไม่ รวมถึงสังเกตว่า ผู้ฟังให้ความสนใจมากน้อยเพียงใด แล้วจึงปรับเพิ่มหรือลดความเร็ว ในการอ่าน ลีลา น้ำเสียง เป็นต้น เพื่อดึงให้ผู้ฟังกลับมามีส่วนร่วมกับผู้อ่าน 4) ไม่ควรแสดงอารมณ์โมโห หงุดหงิด ฉุนเฉียว หรือใช้ถ้อยคำไม่สุภาพ ว่ากล่าวตักเตือน เมื่อเห็นว่าผู้ฟังไม่สนใจ หรือพูดคุยเสียงดัง หากแต่ควรรู้จักระงับอารมณ์ และอาจถามผู้ฟังเพื่อ ปรับปรุงต่อไป
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 13 สำคัญ การอ่าน การอ่านออกเสียง ระดับของการอ่าน จุดประสงค์ของการอ่าน ประเภทของการอ่าน มารยาทในการอ่าน ออกเสียง แบบฝึกทักษะที่ ๑ เรื่อง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการอ่าน คำชี้แจง ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเลือกคำตอบข้างล่างนี้ไปเติมในช่องว่างให้สัมพันธ์ กับข้อความที่กำหนดให้ในแต่ละข้อ (10 คะแนน) 1. อ่านได้ คือ สามารถแปลความหมาย รับรู้สารผ่านตัวอักษร 2. ไม่ควรแสดงอารมณ์โมโห หงุดหงิด ฉุนเฉียว หรือใช้ถ้อยคำไม่สุภาพ ว่ากล่าวตักเตือนเมื่อเห็นว่าผู้ฟังไม่สนใจ หรือพูดคุยเสียงดัง หากแต่ ควรรู้จักระงับอารมณ์ และอาจถามผู้ฟังเพื่อปรับปรุงต่อไป ............................... ............................... .. 3. อ่านเพื่อรู้ข่าวสาร คือ การอ่านเพื่อศึกษา รับรู้ความเป็นไปของโลก และพัฒนาความรู้ของตนเอง 4. วิธีการอ่านที่ควรใช้น้ำเสียงให้ถูกต้อง สอดคล้องและมีความเหมาะสม กับเนื้อเรื่องแต่ละประเภท รวมถึงการรู้จักฝึกฝนการอ่าน อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยทำให้มีพื้นฐานการอ่านที่ดี 5. การอ่านในใจ คือ การทำความเข้าใจสัญลักษณ์ที่บันทึกไว้เป็น ลายลักษณ์อักษร รวมถึงรูปภาพและเครื่องหมายต่าง ๆ ออกเป็น ความหมาย ............................... ............................... .. ............................... ............................... .. ............................... ............................... .. ............................... ............................... ..
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 14 สำคัญ กลุ่มที่..................... รายชื่อสมาชิกในกลุ่ม ๑................................................... ๒............................................................ ๓.................................................... ๔............................................................ เกณฑ์การให้คะแนน คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน นักเรียนต้องทำได้ ๘ คะแนนขึ้นไปจึงผ่าน คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน ผ่าน ลงชื่อ.................ผู้ประเมิน ทำได้…………..คะแนน ไม่ผ่าน (นางสุภาพร มาศงามเมือง) 6. อ่านเพื่อแก้ปัญหา คือการอ่านเพื่อหาคำตอบ หรือแนวทาง การแก้ปัญหาเรื่องใดเรื่องหนึ่ง 7. กระบวนการรับรู้และเข้าใจสารที่เป็นลายลักษณ์อักษร จากนั้นจึงแปล สัญลักษณ์อักษรเหล่านั้นเป็นความรู้ โดยอาศัยทักษะการอ่าน กระบวนการคิด ประสบการณ์และความรู้ของผู้อ่าน 8. มีบุคลิกภาพที่ดี คือการจัดระเบียบท่ายืน หรือนั่งให้เหมาะสม ไม่หลุกหลิก และไม่ควรยกร่างข้อความขึ้นมาให้ผู้ฟังเห็น หรือก้มหน้าก้มตาอ่าน จนไม่ สนใจผู้ฟัง 9. อ่านเพื่อหาความรู้หรือสะสมความรู้ คือ การอ่านเพื่อเพิ่มพูน ประสบการณ์ ความรู้โดยทำได้ทั้งผู้อ่านที่เป็นนักเรียน นักศึกษา หรือบุคคลทั่วไป 10. อ่านเป็น ผู้อ่านจะสามารถจับใจความสำคัญ แนวคิดของเรื่อง รวมถึงความหมายแฝง หรือความหมายที่ได้จากการตีความ สามารถประเมินค่าของสาร ............................... ............................... .. ............................... ............................... .. ............................... ............................... .. ............................... ............................... .. ............................... ............................... ..
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 15 สำคัญ ใบความรู้ที่ 2 เรื่อง การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง ร้อยกรอง หมายถึง คำประพันธ์ที่แต่งโดยมีการบังคับจำนวนคำ สัมผัส ฉันทลักษณ์ ตามแบบแผน ของร้อยกรองแต่ละประเภท ได้แก่ โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน ร่าย เป็นต้น การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง หมายถึง การอ่านออกเสียงงานเขียนร้อยกรองประเภทต่าง ๆ เพื่อสื่อเนื้อหา และอารมณ์ความรู้สึกที่ปรากฏไปสู่ผู้รับสาร ด้วยท่วงทำนองที่แตกต่างกัน การอ่านทำนองเสนาะ หมายถึง การอ่านออกเสียงบทร้อยกรองประเภทต่าง ๆ ตามทำนอง ลีลา และจังหวะของบทประพันธ์ เพื่อให้ผู้อ่าน ผู้ฟัง เข้าถึงความงดงามของภาษา การอ่านทำนองเสนาะ บทร้อยกรอง จะมีความแตกต่างกันตามทำนอง ลีลา การทอดเสียง และความสามารถของผู้อ่าน 1) ต้องรู้จักฉันทลักษณ์หรือลักษณะบังคับของร้อยกรองประเภทต่าง ๆ ที่จะอ่าน เช่น การบังคับเอก โท ครุ ลหุ เสียงวรรณยุกต์ท้ายวรรค และพยางค์หรือคำที่บรรจุลงในวรรคหนึ่ง ๆ 2) ต้องรู้จักทำนอง ลีลา และการเอื้อนเสียงของบทร้อยกรองแต่ละประเภท ให้ถูกต้อง รวมถึงต้องรู้จักวางจังหวะ สัมผัสที่คล้องจองกันของบทกวีให้ถูกต้องตามตำแหน่ง ให้ลงสัมผัส และรู้ จังหวะการเอื้อนเสียงเพื่อทอดจังหวะสำหรับอ่านในบทถัดไป 3) ต้องรู้จักเอื้อนเสียง ตามชนิดของคำประพันธ์นั้น ๆ โดยลากเสียงช้า ๆ เพื่อให้เข้าจังหวะ และไว้หางเสียงให้ไพเราะ แต่ทั้งนี้ต้องไม่เอื้อนเสียงที่คำลหุ เนื่องจากเป็นคำที่มีเสียงสั้นและเบา 4) ต้องรู้จักอ่านรวบคำ หรือพยางค์ที่เกินจากที่กำหนดไว้ในฉันทลักษณ์ โดยอ่านให้เร็วขึ้น และเสียงให้เบาลงกว่าปกติจนกว่าจะถึงคำหรือพยางค์ที่ต้องการจึงลงเสียงหนัก 5) ต้องรู้จักอ่านคำ ให้ถูกต้องตามอักขรวิธี ไม่ผิดสระ ผิดพยัญชนะ หรือวรรณยุกต์ เช่น ไก่ เป็น ก่าย, ครู เป็น คู, ข่อน เป็น ค้อน นอกจากนี้ ควรอ่านออกเสียงพยัญชนะ /จ/ฉ/ช/ถ/ท/ธ/ศ/ษ/ส เป็นต้น ให้ชัดเจน ถูกต้องตามอักขรวิธีในภาษาไทย โดยไม่อ่านเป็นเสียงเสียดแทรกมากเกินไป ตาม ภาษาอังกฤษ และควรอ่านออกเสียงพยัญชนะ /ร/ล/ คำควบกล้ำ ร/ล/ว ให้ชัดเจน เพราะอาจทำให้ผู้ฟัง เข้าใจความหมายคลาดเคลื่อน และไม่ไพเราะ 6) รู้จักใส่อารมณ์ความรู้สึกลงในคำประพันธ์ที่อ่าน ซึ่งหมายความว่า ผู้อ่านต้องทำความเข้าใจ ความหมายที่แท้จริงของบทประพันธ์และสื่อไปยังผู้ฟังให้ตรงตามเจตนาที่แท้จริง 7) พยายามไม่อ่านฉีกคำ หรือฉีกความ โดยใส่ใจเฉพาะเป็นตำแหน่งคำสัมผัสแต่ประการเดียว เพราะหากอ่านฉีกคำหรือฉีกข้อความแล้ว อาจทำให้เนื้อความเสียไป หรือเข้าใจความหมายคลาดเคลื่อนได้ การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง แนวทางการอ่านบทร้อยกรองเบื้องต้น
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 16 สำคัญ กาพย์ยานี 11 ม่านนี้/ ฝีมือ/ วันทองทำ จำได้/ ไม่ผิด/ นัยน์ตาพี่ เส้นไหม/ แม้นเขียน/ แนบเนียนดี สิ้นฝีมือ/ แล้ว/ แต่นางเดียว (ขุนช้างขุนแผน) กาพย์ยานีลำนำ สิบเอ็ดคำจำอย่าคลาย วรรคหน้าห้าคำหมาย วรรคหลังหกยกแสดง ครุลหุนั้น ไม่สำคัญอย่าระแวง สัมผัสต้องจัดแจง ให้ถูกต้องตามวิธี หลักภาษาไทย : กำชัย ทองหล่อ) ตัวอย่าง วรรคสุดท้ายของคำประพันธ์ที่ยกมาข้างต้น ถ้าอ่านแบบยึดตำแหน่งคำสัมผัสเป็นสำคัญ จะอ่านเป็น “สิ้นฝี/มือแล้ว/แต่นางเดียว” โดยอาศัยคำว่า “ฝี” รับสัมผัสจากคำว่า “ดี” ซึ่งจะเห็นได้ว่าการอ่านลักษณะนี้ ทำให้ความหมายของคำประพันธ์คลาดเคลื่อนไป จากความหมายว่า “ฝีมือ” กลายเป็น “ฝี” ที่มือ นอกจากนี้ ในวรรคสุดท้ายยังสามารถแบ่งจังหวะการอ่านได้เป็น “สิ้น/ฝีมือแล้ว/แต่นางเดียว” จากตัวอย่างที่นำมาแสดง จะไม่แบ่งจังหวะอ่านคำ “ฝีมือ” แยกหรืออกจากกันแต่ให้อ่านรวบคำ โดยอ่านออกเสียงเบาที่คำ “ฝี” และลง น้ำหนักเสียงที่คำ “มือ” ทั้งนี้เพื่อให้ได้ใจความสำคัญครบถ้วนไม่เสียรสความ ในแบบฝึกทักษะนี้ให้นักเรียน ศึกษาการอ่านกาพย์ยานี 11 และโคลงสี่สุภาพ จากเรื่องกาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง กาพย์ยานี ๑๑ มีฉันทลักษณ์ ดังนี้ ตัวอย่าง
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 17 สำคัญ ลักษณะบังคับ บทร้อยกรองกาพย์ยานี ๑๑ เรื่อยเรื่อยมารอนรอน ทิพากรจะตกต่ำ สนธยาจะใกล้ค่ำ คำนึงหน้าเจ้าตราตรู เรื่อยเรื่อยมาเรียงเรียง นกบินเฉียงไปทั้งหมู่ ตัวเดียวมาพลัดคู่ เหมือนพี่อยู่ผู้เดียวดาย (กาพย์เห่เรือ : เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร) ๑. บทหนึ่งมี ๒ บาท บาทหนึ่งมี ๒ วรรค วรรคแรกมี ๕ คำ วรรคหลังมี ๖ คำ รวมเป็น ๑๑ คำ จึงเรียกว่ากาพย์ยานี ๑๑ ๒. สัมผัสของกาพย์ยานี ๑๑ มีดังนี้ คำสุดท้ายของวรรคที่ ๑ สัมผัสกับคำที่ ๓ ของวรรคที่ ๒ (หรือคำที่ ๑ หรือ ๒ ก็ได้) คำสุดท้ายของวรรคที่ ๒ สัมผัสกับคำสุดท้ายของวรรคที่ ๓ ถ้าจะแต่งบทต่อไป จะต้องให้ คำสุดท้ายของบทต้น สัมผัสกับคำสุดท้ายของวรรคที่ ๒ ของบทต่อไปซึ่งถือเป็นสัมผัสระหว่างบท ในการแต่งกาพย์ยานี ๑๑ นั้น ถ้าจะให้คำสุดท้ายของวรรคที่ ๓ สัมผัสกับคำที่ ๑ หรือ ๒ หรือ ๓ ของวรรคที่ ๔ ด้วย ก็จะเป็นการเพิ่มความไพเราะยิ่งขึ้นซึ่งในปัจจุบันนี้นิยมให้สัมผัสกันด้วย ๓. ถ้อยคำที่ใช้ในวรรคเดียวกัน นิยมให้มีสัมผัสในเหมือนกลอนจึงจะไพเราะ ๔. คำสุดท้ายของบท ห้ามใช้คำตาย หรือคำที่มีรูปวรรณยุกต์ และนิยมใช้เสียงวรรณยุกต์ สามัญหรือจัตวา ๕. กาพย์ยานีนั้น อาจเรียกว่า กาพย์ยานีลำนำหรือกาพย์ยานี๑๑ ก็ได้ เหตุที่เรียกว่ากาพย์ยานี นั้นเข้าใจว่าเป็นกาพย์ที่แปลงมาจากฉันท์บาลีใน “รตนสูตร” ซึ่งขึ้นต้นด้วยคำว่า “ยานี” ซึ่งเรียกชื่อตาม คำขึ้นต้นนั้น กาพย์ยานีมักนิยมแต่งเป็นบทสวด บทเห่เรือ บทพากย์โขน และบทสรภัญญะ ที่ใช้ในบทละคร และมักนิยมแต่งเกี่ยวกับตอนที่เป็นบทพรรณนาโวหาร หรือตอนที่ชมสิ่งต่าง ๆ หรือตอนที่โศกเศร้าคร่ำครวญ ตัวอย่าง 1. การแบ่งช่วงเสียง หรือจังหวะของกาพย์ยานี 11 วรรคหน้า 5 คำ อ่านแบ่งเสียง 2 ช่วง เป็น 00/000 วรรคหลัง 6 คำ อ่านแบ่งเสียง 2 ช่วง เป็น 000/000 การอ่านกาพย์ยานี 11
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 18 สำคัญ โคลงสี่สุภาพ ( ) ( ) เรื่อยเรื่อย/มารอนรอน// ทิพากร/จะตกต่ำ// สนธยา/จะใกล้ค่ำ// คำนึงหน้า/เจ้าตาตรู// เรื่อยเรื่อย/มาเรียงเรียง// นกบินเฉียง/ไปทั้งหมู่// ตัวเดียว/มาพลัดคู่// เหมือนพี่อยู่/ผู้เดียวดาย// (กาพย์เห่เรือ : เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร) เสียงลือเสียงเล่าอ้าง อันใด พี่เอย เสียงย่อมยอยศใคร ทั่วหล้า สองเขือพี่หลับใหล ลืมตื่น ฤๅพี่ สองพี่คิดเองอ้า อย่าได้ถามเผือ (ลิลิตพระลอ) ตัวอย่าง 2. การเอื้อนเสียงทอดเสียง การอ่านนิยมอ่านทอดเสียง ตามตำแหน่งที่ส่งรับสัมผัส และเอื้อนระหว่างท้ายวรรค โคลงสี่สุภาพ มีฉันทลักษณ์ ดังนี้ ตัวอย่าง
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 19 สำคัญ สัมผัสอักษร วรรณยุกต์ โคลงสี่สุภาพหนึ่งบทจะมี ๔ บรรทัด บรรทัดหนึ่งเรียกว่า "บาท" เพราะฉะนั้นโคลงสี่สุภาพหนึ่งบท จะมี ๔ บาท ในบาทหนึ่งจะมี๒ วรรค วรรคหน้าจะมี ๕ คำ วรรคหลังของบาทที่ ๑ บาทที่ ๒ และบาทที่ ๓ จะมี ๒ คำ ส่วนวรรคหลังของบาทที่ ๔ จะมี ๔ คำ ซึ่งรวมแล้วโคลงสี่สุภาพหนึ่งบทจะมีจำนวนคำทั้งสิ้น ๓๐ คำ จำนวนพยางค์ต้องมีตามหน่วยที่ได้เขียนไว้ในแผนผัง ถ้าหากเป็นพยางค์ลักษณะของลหุอาจจะ มีได้มากเกินกว่าที่แผนผังได้กำหนดไว้ก็ได้ แต่จะต้องไม่ยาวจนมีความรู้สึกว่าเยิ่นเย้อ จนทําให้อ่านให้ ถูกทํานองและจังหวะไม่ได้ การสัมผัสโคลงสี่สุภาพ มีรูปแบบการสัมผัสดังแผนผัง นอกเหนือจากการสัมผัสบังคับตามแผนผัง แล้วนั้น ยังมีการสัมผัสอีก ๒ รูปแบบ ที่ช่วยเพิ่มความไพเราะให้กับคำประพันธ์ที่เป็นโคลงสี่สุภาพ ยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งได้แก่ สัมผัสใน คือ คำที่คล้องจองกันและอยู่ในวรรคเดียวกัน จะเป็นสัมผัสคู่เรียงคำไว้ติดต่อกัน หรือจะ เป็นสัมผัสสลับ คือเรียงคำอื่นแทรกคั่นไว้ระหว่างคำสัมผัสก็ได้ สุดแต่จะเหมาะ ทั้งไม่มีกฎเกณฑ์จํากัดไว้ว่า จะต้องมีอยู่ตรงนั้นตรงนี้เหมือนอย่างสัมผัสนอก และไม่จำเป็นจะต้องใช้สระอย่างเดียวกันด้วย เพียงแต่ให้ อักษรเหมือนกันหรือเป็นอักษรประเภทเดียวกัน หรืออักษรที่มีเสียงคู่กันก็สามารถนำมาใช้ได้ สัมผัสใน สามารถแบ่งออกได้เป็น ๒ ชนิด ได้แก่ สัมผัสสระ และสัมผัสอักษร การสัมผัสอักษรระหว่างวรรค คือ การให้คำสุดท้ายของวรรคหน้า สัมผัสอักษรกับคำหน้า ของวรรคหลัง เช่น ขึ้น กับ เคียง , กา กับ กู่ , ตา กับ ตาม , จ้อง กับ จึ่ง - โคลงหนึ่งบทจะมีวรรณยุกต์เอก ๗ ตำแหน่ง และวรรณยุกต์โท ๔ ตำแหน่ง ดังที่แสดงไว้ในแผนผัง - ตำแหน่งวรรณยุกต์เอก และวรรณยุกต์โทในบาทที่ ๑ สามารถที่จะวางสลับตำแหน่งกันได้ คือ เอาวรรณยุกต์ที่เป็นเอกไปวางไว้ในคำที่ ๕ และเอาวรรณยุกต์ที่เป็นโทมาไว้เป็นคำที่ ๔ ก็ได้ ในบรรดาโคลง ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นโคลงสี่สุภาพ หรือโคลงดั้น สามารถนํามาสลับกันได้เสมอ - คำที่ ๗ ของบาทที่ ๑ และคำที่ ๕ ของบาทที่ ๒ และบาทที่ ๓ ห้ามใช้คำที่มีรูปวรรณยุกต์ - ห้ามใช้คำตายที่ผันด้วยวรรณยุกต์โท ในตำแหน่งโท - คำสุดท้ายของบท ห้ามใช้คำตายและคำที่มีรูปวรรณยุกต์อื่น ๆ หากแต่ว่ากันว่า การลงท้ายบท การใช้เสียงจัตวาที่ไม่ปรากฏรูป จะเป็นที่นิยมและไพเราะยิ่ง
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 20 สำคัญ คำเป็นคำตาย คำสร้อย เสียงฦๅ/เสียงเล่าอ้าง// อันใด/ พี่เอย// (คำสร้อย) บาทที่ 1 เสียงย่อม/ยอยศใคร// ทั่วหล้า// บาทที่ 2 สองเขือ/พี่หลับใหล// ลืมตื่น/ ฤๅพี่// (คำสร้อย) บาทที่ 3 สองพี่/คิดเองอ้า// อย่าได้/ถามเผือ// บาทที่ 4 (ลิลิตพระลอ) - คำที่เป็นเอกโทษ คือ คำที่ใช้ไม้โทโดยปกติแต่เปลี่ยนใช้ไม้เอกเสียงเดียวกันในบทร้อยกรอง ประเภทโคลงที่บังคับใช้ไม้เอก เช่น หน้า เป็น น่า , ถ้า เป็น ท่า ฯลฯ และโทโทษ คือ คำที่ใช้ไม้เอกโดยปกติ แต่เปลี่ยนใช้ไม้โทเสียงเดียวกันในบทร้อยกรองประเภทโคลงที่บังคับใช้ไม้โท เช่น เล่น เป็น เหล้น , ว่าย เป็น หว้าย ฯลฯ คําตายห้ามนํามาใช้เป็นคำสุดท้ายของบท ถ้าเนื้อความยังไม่สิ้นกระแส จะเติมสร้อยลงในท้ายบาทที่ ๑ บาทที่ ๒ บาทที่ ๓ และบาทที่ ๔ ก็ได้ แต่ในปัจจุบันไม่นิยมที่จะเติมสร้อยในบาทที่ ๔ จึงไม่ใคร่จะได้เห็นในการแต่งโคลงสี่สุภาพทั่ว ๆ ไป 1. การแบ่งช่วงเสียง หรือจังหวะของโคลงสี่สุภาพ วรรคหน้า 5 คำ อ่านแบ่งเสียง 2 ช่วง เป็น 00/000 หรือ 000/00 วรรคหลัง 2 คำ อ่าน 1 ช่วง ถ้ามีคำสร้อยอ่านเพิ่มอีก 1 ช่วง เป็น 2 ช่วง วรรคหลังบาทที่ 4 มี 4 คำ อ่านแบ่งเสียง 2 ช่วง เป็น 00/00 ตัวอย่าง 2. การเอื้อนเสียงทอดเสียง นิยมอ่านเอื้อนเสียงท้ายวรรคแรกของแต่ละบาท และในบทที่ 2 อาจ เอื้อนเสียงได้ถึงคำที่ 1 คำที่ 2 ของวรรคที่ 2 และบาทที่ 4 ระหว่างคำที่ 2 กับคำที่ 3 ของวรรคที่ 2 และ ทอดเสียงตามตำแหน่งรับสัมผัส การอ่านโคลงสี่สุภาพ
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 21 สำคัญ การเพิ่มประสิทธิภาพการอ่าน แบบฝึกทักษะที่ 2 เรื่อง การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง คำชี้แจง ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเลือกคำตอบข้างล่างนี้ไปเติมในช่องว่างให้สัมพันธ์ กับข้อความที่กำหนดให้ในแต่ละข้อ (10 คะแนน) ............................... ............................... . 1. คำประพันธ์ที่แต่งโดยมีการบังคับจำนวนคำ สัมผัส ฉันทลักษณ์ ตามแบบแผนของร้อยกรองแต่ละประเภท ได้แก่ โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน ร่าย ๒. กวางทรายร่ายกินหญ้า สุกรป่าพาพวกจร สุนัขในไล่เห่าหอน ตามเปนหมู่พรูเพรียกเสียง 3. ต้องรู้จักอ่านรวบคำ หรือพยางค์ที่เกินจากที่กำหนดไว้ ในฉันทลักษณ์ โดยอ่านให้เร็วขึ้นและเสียงให้เบาลงกว่าปกติ จนกว่าจะถึงคำหรือพยางค์ที่ต้องการ จึงลงเสียงหนัก 4. การอ่านออกเสียงงานเขียนร้อยกรองประเภทต่าง ๆ เพื่อสื่อเนื้อหา อารมณ์ ที่ปรากฏไปสู่ผู้รับสารด้วยท่วงทำนองที่แตกต่างกัน การอ่านทำนองเสนาะ การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง โคลงสี่สุภาพ แนวทางการอ่านบทร้อยกรอง กาพย์ยานี 11 ร้อยกรอง ............................... ............................... . ............................... ............................... . ............................... ............................... .
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 22 สำคัญ กลุ่มที่..................... รายชื่อสมาชิกในกลุ่ม ๑................................................... ๒............................................................ ๓.................................................. ๔............................................................ เกณฑ์การให้คะแนน คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน นักเรียนต้องทำได้ ๘ คะแนนขึ้นไปจึงผ่าน คะแนนเต็ม ๑o คะแนน ผ่าน ลงชื่อ.................ผู้ประเมิน ทำได้…………..คะแนน ไม่ผ่าน (นางสุภาพร มาศงามเมือง) ๕. เลียงผาอยู่พ่างพื้น ภูเขา หนวดภู่ดูเพราเขา ไปล่ท้าย รูปร่างอย่างแพะเอา มาเปรียบ ขนเหม็นสาบหยาบร้าย กลิ่นกล้าเหมือนกัน 6. ต้องรู้จักเอื้อนเสียง ตามชนิดของคำประพันธ์นั้น ๆ โดยลากเสียง ช้า ๆ เพื่อให้เข้าจังหวะและไว้หางเสียงให้ไพเราะ แต่ทั้งนี้ต้อง ไม่เอื้อนเสียงที่คำลหุ เนื่องจากเป็นคำที่มีเสียงสั้นและเบา 7. กระจงกระจิดเตี้ย วิ่งเรี่ยเรี่ยน่าเอ็นดู เหมือนกวางอย่างตาหู มีเขี้ยวน้อยสร้อยแนมสอง 8. รู้จักใส่อารมณ์ ความรู้สึกลงในคำประพันธ์ที่อ่าน ซึ่งหมายความว่า ผู้อ่านต้องทำความเข้าใจความหมายที่แท้จริงของบทประพันธ์ และสื่อไปยังผู้ฟัง ให้ตรงตามเจตนาที่แท้จริง 9. ขี้เกียจคือปลาร้าย จะทำลายให้เรือจม เอาใจเป็นปืนคม ยิงระดมให้จมไป 10. การอ่านออกเสียงบทร้อยกรองประเภทต่าง ๆ ตามทำนองลีลา และจังหวะของบทประพันธ์ ............................... ............................... . ............................... ............................... . ............................... ............................... . ............................... ............................... . ............................... ............................... . ............................... ............................... .
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 23 สำคัญ เกลื่อนกรู/หมู่จัตุรงค์// เป็นกันกง/เรียบเรียงไป// ทรงช้าง/ระวางใน// เทพลีลา/หลังคาทอง// เกลื่อนกรู/หมู่แห่ห้อม// เรียงไสว// เสด็จพุดตาน/ทองไคล// หว่างเขรื้อง// ทรงช้าง/ระวางใน// มีชื่อ// เทพ/ลีลาเยื้อง// ย่างแหน้/หลังดี// แบบฝึกทักษะที่ 3 เรื่อง อ่านกาพย์และโคลง คำชี้แจง ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มอ่านกาพย์และโคลง โดยใช้เครื่องหมายแบ่งวรรคตอนในการอ่าน เพื่อเป็นการเว้นช่วงจังหวะการอ่านให้เหมาะสม (10 คะแนน) ตัวอย่าง การอ่านกาพย์ห่อโคลง 1. ธารไหลใสสะอาด มัจฉาชาติดาษนานา หวั่นว่ายกินไคลคลา ตามกันมาให้เห็นตัว (กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง) 2. หัวลิงหมากลางลิง ต้นลางลิงแลหูลิง ลิงไต่กระไดลิง ลิงโลดคว้าประสาลิง (กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง) 3. ประกอบชอบเป็นผิด กลับจริตผิดโบราณ สามัญอันธพาล ผลาญคนซื่อถือสัตย์ธรรม์ (กาพย์พระไชยสุริยา)
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 24 สำคัญ 4. ลูกศิษย์คิดล้างครู ลูกไม่รู้คุณพ่อมัน ส่อเสียดเบียดเบียนกัน ลอบฆ่าฟันคือตัณหา (กาพย์เรื่องพระไชยสุริยา) 5. วิชาเหมือนสินค้า อันมีค่าอยู่เมืองไกล ต้องยากลำบากไป จึงจะได้สินค้ามา (ดรุณศึกษา เล่ม 2) 6. เสียงลือเสียงเล่าอ้าง อันใด พี่เอย เสียงย่องยอยศใคร ทั่วหล้า สองเขือพี่หลับใหล ลืมตื่น ฤๅพี่ สองพี่คิดเองอ้า อย่าได้ถามเผือ (ลิลิตพระลอ) ๗. นาคีมีพิษเพี้ยง สุริโย เลื้อยบ่ทำเดโช แช่มช้า พิษน้อยหยิ่งโยโส แมลงป่อง ชูแต่หางเองอ้า อวดอ้างฤทธี (โคลงโลกนิติ) 8. ห้ามเพลิงไว้อย่าให้ มีควัน ห้ามสุริยแสงจันทร์ ส่องไซร้ ห้ามอายุให้หัน คืนเล่า ห้ามดังนี้ไว้ได้ จึ่งห้ามนินทา (โคลงโลกนิติ)
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 25 สำคัญ ๙. ธารไหลใสสะอาดน้ำ รินมา มัจฉาชาตินานา หวั่นหว้าย จอกสร่ายกินไคลคลา เชยหมู่ ตามคู่มาคล้ายคล้าย ผุดให้เห็นตัว (กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง) 10. หัวลิงหมากเรียกไม้ ลางลิง ลางลิงหูลิงลิง หลอกขู้ ลิงไต่กระไดลิง ลิงห่ม ลิงโลดฉวยชมผู้ ฉีกคว้าประสาลิง (กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง) กลุ่มที่..................... รายชื่อสมาชิกในกลุ่ม ๑................................................... ๒............................................................ ๓.................................................. ๔............................................................ เกณฑ์การให้คะแนน คะแนนเต็ม ๑o คะแนน นักเรียนต้องทำได้ ๘ คะแนนขึ้นไปจึงผ่าน คะแนนเต็ม ๑o คะแนน ผ่าน ลงชื่อ.................ผู้ประเมิน ทำได้…………..คะแนน ไม่ผ่าน (นางสุภาพร มาศงามเมือง)
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 26 สำคัญ เกลื่อนกรู/หมู่จัตุรงค์// เป็นกันกง/เรียบเรียงไป// ทรงช้าง/ระวางใน// เทพลีลา/หลังคาทอง// เกลื่อนกรู/หมู่แห่ห้อม// เรียงไสว// เสด็จพุดตาน/ทองไคล// หว่างเขรื้อง// ทรงช้าง/ระวางใน// มีชื่อ// เทพ/ลีลาเยื้อง// ย่างแหน้/หลังดี// แบบฝึกทักษะที่ 4 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ คำชี้แจง ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มอ่านบทร้อยกรองที่กำหนดให้แล้วใช้เครื่องหมาย แบ่งวรรคตอนในการอ่าน เพื่อเป็นการเว้นช่วงจังหวะการอ่านให้เหมาะสม (10 คะแนน) ตัวอย่าง การอ่านกาพย์ห่อโคลง
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 27 สำคัญ กวางทรายร่ายกินหญ้า สุกรป่าพาพวกจร สุนัขในไล่เห่าหอน ตามเปนหมู่พรูเพรียกเสียง กวางทรายร่ายเสพหญ้า ดงดอน หมูป่าพาเพื่อนจร ลูกล้อม สุนัขจิ้งจอกหอน หลายเหล่า เป็นหมู่พรูเพรียกห้อม เห่าอื้ออึงเสียง มีหมีพีดำขลับ ขึ้นไม้ผับฉับไวถึง เรี่ยวแรงแขงขังขึง กัดโพรงไม้ได้ผึ้งกิน มีหมีดำขลับหน้า เป็นมัน ขึ้นไม้ผับฉับพลัน ขบขึ้ง เรี่ยวแรงแขงข้างขยัน สามารถ กัดฉีกไม้ได้ผึ้ง คาบเคี้ยวพลางหวาน เลียงผาอยู่ภูเขา หนวดพรายเพราเขาแปล้ปลาย รูปร่างอย่างแพะหมาย ขนเหม็นสาบหยาบเหมือนกัน เลียงผาอยู่พ่างพื้น ภูเขา หนวดภู่ดูเพราเขา ไปล่ท้าย รูปร่างอย่างแพะเอา มาเปรียบ ขนเหม็นสาบหยาบร้าย กลิ่นกล้าเหมือนกัน กลุ่ม ๑ กลุ่มที่..................... รายชื่อสมาชิกในกลุ่ม ๑................................................... ๒............................................................ ๓.................................................. ๔............................................................ เกณฑ์การให้คะแนน คะแนนเต็ม ๑o คะแนน นักเรียนต้องทำได้ ๘ คะแนนขึ้นไปจึงผ่าน คะแนนเต็ม ๑o คะแนน ผ่าน ลงชื่อ.................ผู้ประเมิน ทำได้…………..คะแนน ไม่ผ่าน (นางสุภาพร มาศงามเมือง)
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 28 สำคัญ กระจงกระจิดเตี้ย วิ่งเรี่ยเรี่ยน่าเอ็นดู เหมือนกวางอย่างตาหู มีเขี้ยวน้อยสร้อยแนมสอง กระจงกระจิดหน้า เอ็นดู เดินร่อยเรี่ยงามตรู กระจ้อย เหมือนกวางอย่างตาหู ตีนกีบ มีเคี่ยวขาวน้อยช้อย แนบข้างเคียงสอง ฝูงลิงใหญ่น้อยกระจุ้ย ชะนีอุ่ยอุ้ยร้องหา ฝูงค่างหว่างพฤกษา ค่างโจนไล่ไขว่ปลายยาง ฝูงลิงยวบยาบต้น พวาหนา ฝูงชะนีมี่กู่หา เปล่าข้าง ฝูงค่างหว่างพฤกษา มาสู่ ครอกแครกไล่ไขว่คว้าง โลดเลี้ยวโจนปลิว งูเขียวรัดตุ๊กแก ตุ๊กแกแก่คางแข็งขยัน กัดงูงูยิ่งพัน อ้าปากง่วงล้วงตับกิน งูเขียวแลเหลื้อมพ่น พิษพลัน ตุ๊กแกคางแข็งขยัน คาบไว้ กัดงูงูเร่งพัน ขนดเครียด ปากอ้างูจึงได้ ลากล้วงตับกิน กลุ่ม 2 กลุ่มที่..................... รายชื่อสมาชิกในกลุ่ม ๑................................................... ๒............................................................ ๓.................................................. ๔............................................................ เกณฑ์การให้คะแนน คะแนนเต็ม ๑o คะแนน นักเรียนต้องทำได้ ๘ คะแนนขึ้นไปจึงผ่าน คะแนนเต็ม ๑o คะแนน ผ่าน ลงชื่อ.................ผู้ประเมิน ทำได้…………..คะแนน ไม่ผ่าน (นางสุภาพร มาศงามเมือง)
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 29 สำคัญ ยูงทองย่องเยื้องย่าง รำรางชางช่างฟ่ายหาง ปากหงอนอ่อนสำอาง ช่างรำเล่นเต้นตามกัน ยูงทองย่องย่างเยื้อง รำฉวาง รายร่ายฟายเฟื่องหาง เฉิดหน้า ปากหงอนอ่อนสำอาง ลายเลิศ รำเล่นเต้นงามหง้า ปีกป้องเป็นเพลง ไก่ฟ้าอ้าสดแสง หัวสุกแดงแทงเดือยแนม ปีกหางต่างสีแกม สีแต้มต่างอย่างวาดเขียน ไก่ฟ้าหน้าก่ำกล้า ปากแหลม หัวแดงแฝงเดือยแนม เนื่องแข้ง ปีกหางต่างสีแกม ลายลวด ตัวด่างอย่างคนแกล้ง แต่งแต้มขีดเขียน นกกดอดอาจสู้ พบงูเห่าเอาปีกบัง งูโพนพังพานหวัง จะขบตอด บ รอดเลย นกกดอดอาจสู้ งูขลัง งูขบเอาปีกบัง เข็ดเขี้ยว งูเลิกพังพานหวัง ขบตอด ตอด บ รอดเลยเลี้ยว หลีกเลี้ยวสูดหนี กลุ่ม 3 กลุ่มที่..................... รายชื่อสมาชิกในกลุ่ม ๑................................................... ๒............................................................ ๓................................................... ๔........................................................... เกณฑ์การให้คะแนน คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน นักเรียนต้องทำได้ ๘ คะแนนขึ้นไปจึงผ่าน คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน ผ่าน ลงชื่อ.................ผู้ประเมิน ทำได้…………..คะแนน ไม่ผ่าน (นางสุภาพร มาศงามเมือง)
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 30 สำคัญ ดูหนูสู่รูงู งูสุดสู้หนูสู้งู หนูงูสู้ดูอยู่ รูปงูทู่หนูมูทู ดูงูขู่ฝูดฝู้ พรูพรู หนูสู่รูงูงู สุดสู้ งูสู้หนูหนูสู้ งูอยู่ หนูรู้งูงูรู้ รูปถู้มูทู นกแก้วแจ้วเสียงใส คลอไคล้คู่หมู่สาลิกา นกตั้วผัวเมียคลา ฝ่าแขกเต้าเหล่าโนรี นกแก้วแจ้วรี่ร้อง เร่หา ใกล้คู่หมู่สาลิกา แวดเคล้า นกตั้วผัวเมียมา สมสู่ สัตวาฝ่าแขกเต้า พวกพ้องโนรี กระจายสยายซร้องนาง ผ้าสไบบางนางสีดา ห่อห้อยย้อยลงมา แต่ค่าไม้ใหญ่สูงงาม กระจายสยายคลี่ซร้อง นงพงา สไบบางนางสีดา ห่อห้อย ยื่นเลื้อยเฟื้อยลงมา โบยโบก แต่ค่าไม้ใหญ่น้อย แกว่งเยื้องไปมา กลุ่ม 4 กลุ่มที่..................... รายชื่อสมาชิกในกลุ่ม ๑................................................... ๒............................................................ ๓.................................................... ๔............................................................ เกณฑ์การให้คะแนน คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน นักเรียนต้องทำได้ ๘ คะแนนขึ้นไปจึงผ่าน คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน ผ่าน ลงชื่อ.................ผู้ประเมิน ทำได้…………..คะแนน ไม่ผ่าน (นางสุภาพร มาศงามเมือง)
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 31 สำคัญ หัวลิงหมากลางลิง ต้นลางลิงแลหูลิง ลิงไต่กะไดลิง ลิงโลดคว้าประสาลิง หัวลิงหมากเรียกไม้ ลางลิง ลางลิงหูลิงลิง หลอกขู้ ลิงไต่กระไดลิง ลิงห่ม ลิงโลดฉวยชมผู้ ฉีกคว้าประสาลิง ธารไหลใสสะอาด มัจฉาชาติดาษนานา หวั่นว่ายกินไคลคลา ตามกันมาให้เห็นตัว ธารไหลใสสะอาดน้ำ รินมา มัจฉาชาตินานา หวั่นหว้าย จอกสร่ายกินไคลคลา เชยหมู่ ตามคู่มาคล้ายคล้าย ผุดให้เห็นตัว เทโพแลเทพา ตะเพียนกาพาพวกจร ไอ้บ้าปลาสลุมพอน ผักพร้าเพรี้ยแลหนวดพราม เทโพพาพวกพ้อง เทพา ปลาตะเพียนปลากาพา คู่เคี้ย สลุมพรไอ้บ้าปลา หลายหมู่ ปลาผักพร้าม้าเพรี้ย ว่ายไหล้หนวดพราม กลุ่ม 5 กลุ่มที่..................... รายชื่อสมาชิกในกลุ่ม ๑................................................... ๒............................................................ ๓.................................................. ๔............................................................ เกณฑ์การให้คะแนน คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน นักเรียนต้องทำได้ ๘ คะแนนขึ้นไปจึงผ่าน คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน ผ่าน ลงชื่อ.................ผู้ประเมิน ทำได้…………..คะแนน ไม่ผ่าน (นางสุภาพร มาศงามเมือง)
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 32 สำคัญ งูเหลือมคอกระหวัดไม้ หางกระหวัดไว้ใฝ่อาหาร วิดน้ำในห้วยธาร โพงไปมาเอาปลากิน งูเหลือมแบนท้องแผ่ คือกระดาน วิดน้ำหาอาหาร ใฝ่กล้ำ โครมครุ่นในห้วยธาร เสียงฉ่า โพงสาดไปให้น้ำ ซ่านสิ้นกินปลา เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร ไชยเชษฐสุริยวงศ์เพียร แต่งไว้ให้สถิตเสถียร จำเนียรกาลนานสืบไป เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรเจ้า ทรงเขียน ไชยเชษฐสุริยวงศ์เพียร เลิศหล้า แต่งไว้ให้สถิตเสถียร ในโลก จำเนียรกาลนานช้า อ่านอ้างสรรเสริญ จบ จนจอมโลกย์เจ้า คืนวัง บ พิตรสถิตบัลลังก์ เลิศหล้า ริ ร่างกาพย์โคลงหวัง ชนโลก อ่านนา บูรณ์ พระโคลงเจ้าฟ้า ธิเบศรเจ้าจงสงวน อักษรเรียบเรียยถ้อย คำเพราะ ผู้รู้อ่านสารเสนาะ เรื่อยหรี้ บ รู้อ่านไม่เหมาะ ตรงเทิ่ง ไปนา ทำให้โคลงทั้งนี้ ชั่วช้าเสียไป กลุ่ม 6 กลุ่มที่..................... รายชื่อสมาชิกในกลุ่ม ๑................................................... ๒............................................................ ๓.................................................... ๔............................................................ เกณฑ์การให้คะแนน คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน นักเรียนต้องทำได้ ๘ คะแนนขึ้นไปจึงผ่าน คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน ผ่าน ลงชื่อ.................ผู้ประเมิน ทำได้…………..คะแนน ไม่ผ่าน (นางสุภาพร มาศงามเมือง)
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 33 สำคัญ แบบทดสอบหลังเรียน เรื่องธารทองแดงแสนเสนาะ คำชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว แล้วทำเครื่องหมาย × ลงในกระดาษคำตอบ ตัวอย่าง ถ้าเลือก ค เป็นคำตอบที่ถูกต้อง ให้ทำดังนี้ ข้อ ก ข ค ง ๑ × 1. วิธีการอ่านแบบทอดเสียงในการอ่านบทร้อยกรองใช้เมื่อใด ก. เมื่อต้องการยืดคำให้ยาวออกไปในตอนท้ายวรรคหรือใกล้จะจบ ข. เมื่อต้องการรวบเสียงคำหลายพยางค์ให้สั้นเพื่อให้ลงตรงจังหวะ ค. เมื่อต้องการลากเสียงให้เข้ากับจังหวะในวรรคต่อไป ง. เมื่อต้องการปรับระดับเสียงให้เข้ากับจังหวะระดับเสียงของผู้อ่าน 2. การอ่านบทร้อยกรองที่ถูกต้องควรอ่านแบบใด ก. ผู้อ่านต้องออกเสียงปกติเหมือนกับการอ่านร้อยแก้วทั่วไป ข. ผู้อ่านต้องอ่านแบบทำนองเสนาะตามลักษณะที่ตนเองถนัดและชื่นชอบ ค. ผู้อ่านต้องศึกษาหลักการอ่านและฝึกการใช้น้ำเสียงเพื่อให้ผู้ฟังเกิดอารมณ์ตามเนื้อเรื่อง ง. อ่านต้องแทรกอารมณ์ความรู้สึกของตนเองในแต่ละวรรคตามลักษณะคำประพันธ์นั้น ๆ 3. การทำเครื่องหมายในบทอ่าน ถ้าใช้เครื่องหมาย / หมายความว่าอย่างไร ก. หยุดอ่าน ข. หยุดหายใจ ค. เว้นวรรคเล็กน้อยเพื่อหยุดหายใจ ง. ให้สังเกตข้อความที่จะอ่านต่อไปข้างหน้า ข้อใดกล่าวถึงคณะของกลอนสุภาพได้ถูกต้องที่สุด 4. ทอดหางเสียง ต้องใช้เครื่องหมายใด ก. // ข. ............... ค. -------- ง. ****
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 34 สำคัญ 5. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของร้อยแก้ว ก. บังคับสัมผัส ข. ใช้ในชีวิตประจำวัน ค. ไพเราะ ง. ใช้คำเหมาะสม 6. ธารไหลใสสะอาด มัจฉาชาติดาษนานา หวั่นว่ายกินไคลคลา ตามกันมาให้เห็นตัว บทร้อยกรองนี้เป็นคำประพันธ์ประเภทใด ก. โคลง ข. ฉันท์ ค. กาพย์ ง. กลอน 7. สิ่งใดสำคัญที่สุดในการอ่านออกเสียง ก. มีสมาธิ ข. อ่านให้เป็นเสียงพูด ค. อ่านให้ดัง ง. อ่านให้ถูกอักขรวิธี 8. ข้อใดแบ่งจังหวะไม่ถูกต้อง ก. วิชาเหมือน/สินค้า// อันมีค่า/อยู่เมืองไกล// ข. ต้องยาก/ลำบากไป// จึงจะได้/สินค้ามา// ค. จงตั้ง/เอากายเจ้า// เป็นสำเภา/อันโสภา// ง. ความเพียร/เป็นโยธา// แขนซ้ายขวา/เป็นเสาใบ// 9. ธารไหลใสสะอาดน้ำ รินมา มัจฉาชาตินานา หวั่นหว้าย จอกสร่ายกินไคลคลา เชยหมู่ ตามคู่มาคล้ายคล้าย ผุดให้เห็นตัว บทร้อยกรองนี้เป็นคำประพันธ์ประเภทใด ก. โคลง ข. ฉันท์ ค. กาพย์ ง. กลอน 10. ข้อใดแบ่งจังหวะไม่ถูกต้อง ก. หัวลิง/หมากเรียกไม้// ลางลิง// ข. ลางลิง/หูลิงลิง// หลอกขู้// ค. ลิงไต่/กระไดลิง// ลิงห่ม// ง. ลิงโลดฉวย/ชมผู้// ฉีกคว้า/ประสาลิง
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 35 สำคัญ ภาคผนวก
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 36 สำคัญ . เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ ก่อนเรียน หลังเรียน ข้อ 1 ง ข้อ 2 ค ข้อ 3 ค ข้อ 4 ก ข้อ 5 ข ข้อ 6 ง ข้อ 7 ค ข้อ 8 ก ข้อ 9 ก ข้อ 10 ง ข้อ 1 ก ข้อ 2 ค ข้อ 3 ค ข้อ 4 ก ข้อ 5 ข ข้อ 6 ค ข้อ 7 ง ข้อ 8 ก ข้อ 9 ก ข้อ 10 ง
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 37 สำคัญ การอ่าน การอ่านออกเสียง ระดับของการอ่าน จุดประสงค์ของการอ่าน ประเภทของการอ่าน มารยาทในการอ่าน ออกเสียง เฉลยแบบฝึกทักษะที่ ๑ ระดับของการอ่าน .. 1. อ่านได้ คือ สามารถแปลความหมาย รับรู้สารผ่านตัวอักษร มารยาทในการอ่าน . ๒. ไม่ควรแสดงอารมณ์โมโห หงุดหงิด ฉุนเฉียว หรือใช้ถ้อยคำไม่สุภาพ ว่ากล่าวตักเตือน เมื่อเห็นว่าผู้ฟังไม่สนใจ หรือพูดคุยเสียงดัง หากแต่ควรรู้จักระงับอารมณ์ และอาจถามผู้ฟังเพื่อปรับปรุงต่อไป 2. จุดประสงค์ ของการอ่าน . 3. อ่านเพื่อรู้ข่าวสาร คือ การอ่านเพื่อศึกษา รับรู้ความเป็นไปของโลก และพัฒนาความรู้ของตนเอง การอ่านออกเสียง .. 4. วิธีการอ่านที่ควรใช้น้ำเสียงให้ถูกต้อง สอดคล้อง และมี ความเหมาะสมกับเนื้อเรื่องแต่ละประเภท รวมถึงการรู้จักฝึกฝน การอ่านอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยทำให้มีพื้นฐานการอ่านที่ดี ประเภทของการอ่าน 5. การอ่านในใจ คือ การทำความเข้าใจสัญลักษณ์ที่บันทึกไว้เป็น ลายลักษณอักษร รวมถึงรูปภาพและเครื่องหมายต่าง ๆ ออกเป็น ความหมาย
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 38 สำคัญ จุดประสงค์ ของการอ่าน .. 6. อ่านเพื่อแก้ปัญหา คือ การอ่านเพื่อหาคำตอบ หรือแนวทางการ แก้ปัญหาเรื่องใดเรื่องหนึ่ง การอ่าน .. 7. กระบวนการรับรู้และเข้าใจสารที่เป็นลายลักษณ์อักษร จากนั้นจึง แปลสัญลักษณ์อักษรเหล่านั้นเป็นความรู้ โดยอาศัยทักษะการอ่าน กระบวนการคิด ประสบการณ์และความรู้ของผู้อ่าน มารยาทในการอ่าน .. 8. มีบุคลิกภาพที่ดี คือการจัดระเบียบท่ายืน หรือนั่งให้เหมาะสม ไม่หลุกหลิก และไม่ควรยกร่างข้อความขึ้นมาให้ผู้ฟังเห็น หรือ ก้มหน้าก้มตาอ่าน จนไม่สนใจผู้ฟัง จุดประสงค์ ของการอ่าน 9. อ่านเพื่อหาความรู้หรือสะสมความรู้ คือการอ่านเพื่อเพิ่มพูน ประสบการณ์ความรู้โดยทำได้ทั้งผู้อ่านที่เป็นนักเรียน นักศึกษา หรือบุคคลทั่วไป ระดับของการอ่าน .. 10. อ่านเป็น ผู้อ่านจะสามารถจับใจความสำคัญ แนวคิดของเรื่อง รวมถึงความหมายแฝง หรือความหมายที่ได้จากการตีความ สามารถประเมินค่าของสาร
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 39 สำคัญ การเพิ่มประสิทธิภาพการอ่าน เฉลยแบบฝึกทักษะที่ 2 การอ่านทำนองเสนาะ การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง โคลงสี่สุภาพ แนวทางการอ่านบทร้อยกรอง ร้อยกรอง ร้อยกรอง .. 1. คำประพันธ์ที่แต่งโดยมีการบังคับจำนวนคำ สัมผัส ฉันทลักษณ์ ตามแบบแผนของร้อยกรองแต่ละประเภท ได้แก่ โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน ร่าย กาพย์ยานี 11 2. กวางทรายร่ายกินหญ้า สุกรป่าพาพวกจร สุนัขในไล่เห่าหอน ตามเปนหมู่พรูเพรียกเสียง แนวทางการอ่าน บทร้อยกรอง . 3. ต้องรู้จักอ่านรวบคำ หรือพยางค์ที่เกินจากที่กำหนดไว้ใน ฉันทลักษณ์โดยอ่านให้เร็วขึ้นและเสียงให้เบาลงกว่าปกติจนกว่า จะถึงคำหรือพยางค์ที่ต้องการจึงลงเสียงหนัก การอ่านออกเสียง บทร้อยกรอง .. 4. การอ่านออกเสียงงานเขียนร้อยกรองประเภทต่างๆ เพื่อสื่อเนื้อหา อารมณ์ที่ปรากฏไปสู่ผู้รับสาร ด้วยท่วงทำนองที่แตกต่างกัน 5. เลียงผาอยู่พ่างพื้น ภูเขา หนวดภู่ดูเพราเขา ไปล่ท้าย รูปร่างอย่างแพะเอา มาเปรียบ ขนเหม็นสาบหยาบร้าย กลิ่นกล้าเหมือนกัน โคลงสี่สุภาพ กาพย์ยานี 11
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 40 สำคัญ แนวทางการอ่าน บทร้อยกรอง .. 6. ต้องรู้จักเอื้อนเสียง ตามชนิดของคำประพันธ์นั้น ๆ โดยลากเสียง ช้า ๆ เพื่อให้เข้าจังหวะและไว้หางเสียงให้ไพเราะ แต่ทั้งนี้ต้อง ไม่เอื้อนเสียงที่คำลหุ เนื่องจากเป็นคำที่มีเสียงสั้นและเบา กาพย์ยานี 11 7. กระจงกระจิดเตี้ย วิ่งเรี่ยเรี่ยน่าเอ็นดู เหมือนกวางอย่างตาหู มีเขี้ยวน้อยสร้อยแนมสอง แนวทางการอ่าน บทร้อยกรอง .. 8. รู้จักใส่อารมณ์ ความรู้สึกลงในคำประพันธ์ที่อ่าน ซึ่งหมายความว่า ผู้อ่านต้องทำความเข้าใจความหมายที่แท้จริงของบทประพันธ์ และสื่อไปยังผู้ฟังให้ตรงตามเจตนาที่แท้จริง กาพย์ยานี 11 9. ขี้เกียจคือปลาร้าย จะทำลายให้เรือจม เอาใจเป็นปืนคม ยิงระดมให้จมไป การอ่าน ทำนองเสนาะ 10. การอ่านออกเสียงบทร้อยกรองประเภทต่าง ๆ ตามทำนอง ลีลา และจังหวะของบทประพันธ์
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 41 สำคัญ เฉลยแบบฝึกทักษะที่ 3 1. ธารไหล/ใสสะอาด// มัจฉาชาติ/ดาษนานา// หวั่นว่าย/กินไคลคลา// ตามกันมา/ให้เห็นตัว// (กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง) ๒. หัวลิง/หมากลางลิง// ต้นลางลิง/แลหูลิง// ลิงไต่/กระไดลิง// ลิงโลด/คว้าประสาลิง// (กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง) ๓. ประกอบ/ชอบเป็นผิด// กลับจริต/ผิดโบราณ// สามัญ/อันธพาล// ผลาญคนซื่อ/ถือสัตย์ธรรม์// (กาพย์พระไชยสุริยา) ๔. ลูกศิษย์/คิดล้างครู// ลูกไม่รู้/คุณพ่อมัน// ส่อเสียด/เบียดเบียนกัน// ลอบฆ่า/ฟันคือตัณหา// (กาพย์เรื่องพระไชยสุริยา) ๕. วิชา/เหมือนสินค้า// อันมีค่า/อยู่เมืองไกล// ต้องยาก/ลำบากไป// จึงจะได้/สินค้ามา// (ดรุณศึกษา เล่ม 2)
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 42 สำคัญ ๗. นาคี/มีพิษเพี้ยง// สุริโย// เลื้อยบ่/ทำเดโช// แช่มช้า// พิษน้อย/หยิ่งโยโส// แมลงป่อง// ชูแต่/หางเองอ้า// อวดอ้าง/ฤทธี// (โคลงโลกนิติ) 6. เสียงลือ/เสียงเล่าอ้าง// อันใด/ พี่เอย// เสียงย่อง/ยอยศใคร// ทั่วหล้า// สองเขือ/พี่หลับใหล// ลืมตื่น/ ฤๅพี่// สองพี่/คิดเองอ้า// อย่าได้/ถามเผือ// (ลิลิตพระลอ) 8. ห้ามเพลิง/ไว้อย่าให้// มี/ควัน// ห้ามสุริย/แสงจันทร์// ส่องไซร้// ห้ามอายุ/ให้หัน// คืนเล่า// ห้ามดัง/นี้ไว้ได้// จึ่งห้าม/นินทา// (โคลงโลกนิติ) ๙. ธารไหล/ใสสะอาดน้ำ// รินมา// มัจฉา/ชาตินานา// หวั่นหว้าย// จอกสร่าย/กินไคลคลา// เชยหมู่// ตามคู่/มาคล้ายคล้าย// ผุดให้/เห็นตัว// (กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง) 10. หัวลิง/หมากเรียกไม้// ลางลิง// ลางลิง/หูลิงลิง// หลอกขู้// ลิงไต่/กระไดลิง// ลิงห่ม// ลิงโลด/ฉวยชมผู้// ฉีกคว้า/ประสาลิง// (กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง)
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 43 สำคัญ กวางทราย/ร่ายกินหญ้า// สุกรป่า/พาพวกจร// สุนัขใน/ไล่เห่าหอน// ตามเปนหมู่/พรูเพรียกเสียง// กวางทราย/ร่ายเสพหญ้า// ดงดอน// หมูป่า/พาเพื่อนจร// ลูกล้อม// สุนัข/จิ้งจอกหอน// หลายเหล่า// เป็นหมู่/พรูเพรียกห้อม// เห่าอื้อ/อึงเสียง// มีหมี/พีดำขลับ// ขึ้นไม้ผับ/ฉับไวถึง// เรี่ยวแรง/แขงขังขึง// กัดโพรงไม้/ได้ผึ้งกิน// มีหมี/ดำขลับหน้า เป็นมัน// ขึ้นไม้/ผับฉับพลัน// ขบขึ้ง// เรี่ยวแรง/แขงข้างขยัน// สามารถ// กัดฉีก/ไม้ได้ผึ้ง// คาบเคี้ยว/พลางหวาน // เลียงผา/อยู่ภูเขา// หนวดพรายเพรา/เขาแปล้ปลาย// รูปร่าง/อย่างแพะหมาย// ขนเหม็นสาบ/หยาบเหมือนกัน// เลียงผา/อยู่พ่างพื้น// ภูเขา// หนวดภู่/ดูเพราเขา// ไปล่ท้าย// รูปร่าง/อย่างแพะเอา// มาเปรียบ// ขนเหม็น/สาบหยาบร้าย// กลิ่นกล้า/เหมือนกัน// เฉลยแบบฝึกทักษะที่ 4 กลุ่ม ๑
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 44 สำคัญ กระจง/กระจิดเตี้ย// วิ่งเรี่ยเรี่ย/น่าเอ็นดู// เหมือนกวาง/อย่างตาหู// มีเขี้ยวน้อย//สร้อยแนมสอง// กระจง/กระจิดหน้า// เอ็นดู// เดินร่อย/เรี่ยงามตรู// กระจ้อย// เหมือนกวาง/อย่างตาหู// ตีนกีบ// มีเคี่ยว/ขาวน้อยช้อย// แนบข้าง/เคียงสอง// ฝูงลิงใหญ่/น้อยกระจุ้ย// ชะนีอุ่ย/อุ้ยร้องหา// ฝูงค่าง/หว่างพฤกษา// ค่างโจนไล่/ไขว่ปลายยาง// ฝูงลิง/ยวบยาบต้น// พวาหนา// ฝูงชะนี/มี่กู่หา// เปล่าข้าง// ฝูงค่าง/หว่างพฤกษา// มาสู่// ครอกแครก/ไล่ไขว่คว้าง// โลดเลี้ยว/โจนปลิว// งูเขียว/รัดตุ๊กแก// ตุ๊กแกแก่/คางแข็งขยัน// กัดงู/งูยิ่งพัน// อ้าปากง่วง/ล้วงตับกิน// งูเขียว/แลเหลื้อมพ่น// พิษพลัน// ตุ๊กแก/คางแข็งขยัน// คาบไว้// กัดงู/งูเร่งพัน// ขนดเครียด// ปากอ้า/งูจึงได้// ลากล้วง/ตับกิน// กลุ่ม 2
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 45 สำคัญ ยูงทอง/ย่องเยื้องย่าง// รำรางชาง/ช่างฟ่ายหาง// ปากหงอน/อ่อนสำอาง// ช่างรำเล่น/เต้นตามกัน// ยูงทอง/ย่องย่างเยื้อง// รำฉวาง// รายร่าย/ฟายเฟื่องหาง// เฉิดหน้า// ปากหงอน/อ่อนสำอาง// ลายเลิศ// รำเล่น/เต้นงามหง้า// ปีกป้อง/เป็นเพลง// ไก่ฟ้า/อ้าสดแสง// หัวสุกแดง/แทงเดือยแนม// ปีกหาง/ต่างสีแกม// สีแต้มต่าง/อย่างวาดเขียน// ไก่ฟ้า/หน้าก่ำกล้า// ปากแหลม// หัวแดง/แฝงเดือยแนม// เนื่องแข้ง// ปีกหาง/ต่างสีแกม// ลายลวด// ตัวด่าง/อย่างคนแกล้ง// แต่งแต้ม/ขีดเขียน// นกกด/อดอาจสู้// พบงูเห่า/เอาปีกบัง// งูโพน/พังพานหวัง// จะขบตอด/ บ รอดเลย// นกกด/อดอาจสู้// งูขลัง// งูขบ/เอาปีกบัง// เข็ดเขี้ยว// งูเลิก/พังพานหวัง// ขบตอด// ตอด บ รอด/เลยเลี้ยว// หลีกเลี้ยว/สูดหนี// กลุ่ม 3
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 46 สำคัญ ดูหนู/สู่รูงู// งูสุดสู้/หนูสู้งู// หนูงู/สู้ดูอยู่// รูปงูทู่/หนูมูทู// ดูงู/ขู่ฝูดฝู้// พรูพรู// หนูสู่/รูงูงู// สุดสู้// งูสู้/หนูหนูสู้// งูอยู่// หนูรู้/งูงูรู้// รูปถู้/มูทู// นกแก้ว/แจ้วเสียงใส// คลอไคล้คู่/หมู่สาลิกา// นกตั้ว/ผัวเมียคลา// ฝ่าแขกเต้า/เหล่าโนรี// นกแก้ว/แจ้วรี่ร้อง// เร่หา// ใกล้คู่/หมู่สาลิกา// แวดเคล้า// นกตั้ว/ผัวเมียมา// สมสู่// สัตวา/ฝ่าแขกเต้า// พวกพ้อง/โนรี// กระจาย/สยายซร้องนาง// ผ้าสไบบาง/นางสีดา// ห่อห้อย/ย้อยลงมา// แต่ค่าไม้/ใหญ่สูงงาม// กระจาย/สยายคลี่ซร้อง// นงพงา// สไบบาง/นางสีดา// ห่อห้อย// ยื่นเลื้อย/เฟื้อยลงมา// โบยโบก// แต่ค่า/ไม้ใหญ่น้อย// แกว่งเยื้อง/ไปมา// กลุ่ม 4
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 47 สำคัญ หัวลิง/หมากลางลิง// ต้นลางลิง/แลหูลิง// ลิงไต่/กะไดลิง// ลิงโลดคว้า/ประสาลิง// หัวลิง/หมากเรียกไม้// ลางลิง// ลางลิง/หูลิงลิง// หลอกขู้// ลิงไต่/กระไดลิง// ลิงห่ม// ลิงโลด/ฉวยชมผู้// ฉีกคว้า/ประสาลิง// ธารไหล/ใสสะอาด// มัจฉาชาติ/ดาษนานา// หวั่นว่าย/กินไคลคลา// ตามกันมา/ให้เห็นตัว// ธารไหล/ใสสะอาดน้ำ// รินมา// มัจฉา/ชาตินานา// หวั่นหว้าย// จอกสร่าย/กินไคลคลา// เชยหมู่// ตามคู่/มาคล้ายคล้าย// ผุดให้/เห็นตัว// เทโพ/แลเทพา// ตะเพียนกา/พาพวกจร// ไอ้บ้า/ปลาสลุมพอน// ผักพร้าเพรี้ย/แลหนวดพราม// เทโพ/พาพวกพ้อง// เทพา// ปลาตะเพียน/ปลากาพา// คู่เคี้ย// สลุมพร/ไอ้บ้าปลา// หลายหมู่// ปลาผัก/พร้าม้าเพรี้ย// ว่ายไหล้/หนวดพราม// กลุ่ม 5
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 48 สำคัญ งูเหลือม/คอกระหวัดไม้// หางกระหวัด/ไว้ใฝ่อาหาร// วิดน้ำ/ในห้วยธาร// โพงไปมา/เอาปลากิน// งูเหลือม/แบนท้องแผ่// คือ/กระดาน// วิดน้ำ/หาอาหาร// ใฝ่กล้ำ// โครมครุ่น/ในห้วยธาร// เสียงฉ่า// โพงสาด/ไปให้น้ำ// ซ่านสิ้น/กินปลา// เจ้าฟ้า/ธรรมธิเบศร// ไชยเชษฐ/สุริยวงศ์เพียร// แต่งไว้/ให้สถิตเสถียร// จำเนียรกาล/นานสืบไป// เจ้าฟ้า/ธรรมธิเบศรเจ้า// ทรงเขียน// ไชยเชษฐ/สุริยวงศ์เพียร// เลิศหล้า// แต่งไว้/ให้สถิตเสถียร// ในโลก// จำเนียร/กาลนานช้า// อ่านอ้าง/สรรเสริญ// จบ จน/จอมโลกย์เจ้า// คืนวัง// บ พิตร/สถิตบัลลังก์// เลิศหล้า// ริ ร่าง/กาพย์โคลงหวัง// ชนโลก/ อ่านนา// บูรณ์ พระ/โคลงเจ้าฟ้า// ธิเบศรเจ้า/จงสงวน// อักษร/เรียบเรียยถ้อย// คำเพราะ// ผู้รู้อ่าน/สารเสนาะ// เรื่อยหรี้// บ รู้/อ่านไม่เหมาะ// ตรงเทิ่ง/ ไปนา// ทำให้/โคลงทั้งนี้/ ชั่วช้า/เสียไป// กลุ่ม 6
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 49 สำคัญ ตารางบันทึกแบบฝึกทักษะธารทองแดงแสนเสนาะ เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ แบบบันทึกคะแนนรายบุคคล ชื่อ ด.ช../ด.ญ................................................................. ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/........... เลขที่.......... รายการที่บันทึกคะแนน คะแนนเต็ม คะแนนที่ได้ ผลการประเมิน ผ่าน ไม่ผ่าน แบบทดสอบก่อนเรียน แบบฝึกทักษะที่ 1 แบบฝึกทักษะที่ 2 แบบฝึกทักษะที่ 3 แบบฝึกทักษะที่ 4 แบบทดสอบหลังเรียน รวม แบบบันทึกคะแนนความก้าวหน้ารายกลุ่ม กลุ่มที่....................... ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/......... สมาชิกในกลุ่ม คะแนนก่อนเรียน คะแนนหลังเรียน ผลการพัฒนา รวมคะแนน
แบบฝึกทักษะการเรียนรู้แบบบูรณาการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เล่มที่ 1 เรื่อง ธารทองแดงแสนเสนาะ 50 สำคัญ บรรณานุกรม กนกพรรณ ภูกองพลอย. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการคิดวิเคราะห์และความพึงพอใจ ในการเรียนรู้กลุ่มสาระภาษาต่างประเทศของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่จัดการเรียนรู้แบบ CO - OP CO - OP กับการจัดการเรียนรู้แบบตั้งคำถาม. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาการวิจัยการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 2552. กระทรวงศึกษาธิการ. หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด, 2552. จรรยา โคตรชัย. รายงานผลการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การสื่อสารข้อมูลและเครือข่าย คอมพิวเตอร์ โดยการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิคการเรียนรู้แบบ CO – OP CO – OP สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2. สุรินทร์: โรงเรียนสุรพินท์พิทยา, 2561. นพดล จันทร์เพ็ญ. การใช้ภาษาไทย. กรุงเทพฯ : ต้นอ้อ, 2542. บันลือ พฤกษะวัน. มิติใหม่ในการสอนอ่าน. กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานิช, 2532. ประนอม พงษ์เผือก และจินตนา วีรเกียรติสุนทร. แบบวัดและบันทึกผลการเรียนรู้ ภาษาไทย ม.2. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : อักษรเจริญทัศน์, ม.ป.ป. ฟองจันทร์สุขยิ่ง และคณะ. ภาษาไทยหลักภาษาและการใช้ภาษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2. พิมพ์ครั้งที่ 8. กรุงเทพฯ : อักษรเจริญทัศน์, 2552. . วรรณคดีไทยและวรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2. พิมพ์ครั้งที่ 7. กรุงเทพฯ : อักษรเจริญทัศน์, 2558. วิเชียร เกษประทุม. คู่มือภาษาไทย ม. ๑-๒-๓ และ O-NET ม. ๓. กรุงเทพฯ : เพิ่มทรัพย์การพิมพ์, 2555. เว็บไซต์. https://www.google.co.th/search?q=การ์ตูนไทย. สืบค้นเมื่อวันที่ 11 เดือน ตุลาคม พ.ศ. ๒๕62. เว็บไซต์. http://academic.obec.go.th/textbook/web/images/book/1004193_example.pdf =การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง. สืบค้นเมื่อวันที่ 11 เดือน ตุลาคม พ.ศ. ๒๕62. สนิท ตั้งทวี. ความรู้และทักษะทางภาษา. กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตร์, 2536. สมศักดิ์อัมพรวิสิทธิ์โสภา. การใช้ภาษาไทย ม. ๑-๒-๓ ฉบับรวม ม.ต้น. กรุงเทพฯ : ภูมิบัณฑิต, 2537. สอางค์ ดำเนินสวัสดิ์. คู่มือครูใช้คู่กับชุดกิจกรรมการเรียนรู้พัฒนาการคิดภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 2. กรุงเทพฯ : พัฒนาคุณภาพวิชาการ, 2559. . ชุดกิจกรรมการเรียนรู้พัฒนาการคิดภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2. กรุงเทพฯ : พัฒนาคุณภาพวิชาการ, 2559. สุวิทย์มูลคำ. ครบเครื่องเรื่องการคิด. พิมพ์ครั้งที่ 12. กรุงเทพฯ : ภาพพิมพ์, 2554.