โครงงานคุณธรรม ครูปรัชวัน

โครงงานคุณธรรม โดย นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2566 ครูที่ปรึกษา ครูปรัชวัน คงแก้ว โรงเรียนบ้านเกาะปุด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 1

กิตติกรรมประกาศ โครงงานคุณธรรม วิชาใจ : รู้ รัก สามัคคี พี่สอนน้อง เป็นความภาคภูมิใจในชีวิตของนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2566 เพราะการทำโครงงานได้นั้นต้องผ่านปัญหาและการหาทางก้าวข้าม ปัญหาด้วยวิธีการต่าง ๆร่วมกันของหลายฝ่าย ขอขอบคุณ นางวารัตดา อินนุรักษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเกาะปุด หรือ “คุณครู ผอ.” ที่ให้ ความสำคัญและสนับสนุนเป็นอย่างดีเพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยกระบวนการเรียนรู้แบบโครงงาน ขอขอบคุณผู้ปกครองของนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย ที่เข้าใจ และสนับสนุนกิจกรรมของเด็ก ๆ ให้ความ ร่วมมือช่วยฝึกฝนบุตรหลานของตนที่บ้าน ส่งคลิปความก้าวหน้ามาให้ดูเป็นระยะ และมีรอยยิ้มเป็นกำลังใจมอบ ให้เสมอ ขอขอบคุณครูพวงผกา หวานพูล ครูประจำชั้นของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2566 ที่คอยช่วยเป็นกองทัพเสริมและอำนวยความสะดวกในการทำกิจกรรมกับนักเรียนชั้นปอหนึ่ง ขอขอบคุณนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2566 ที่ทำกิจกรรมด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ จน สามารถร้องเพลงชาติได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ

บทคัดย่อ โครงงานคุณธรรม วิชาใจ : รู้ รัก สามัคคี พี่สอนน้อง จัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้1) เพื่อให้ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 อ่านเนื้อร้องเพลงชาติไทยได้ถูกต้อง 2) เพื่อให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ร้องเพลงชาติไทยได้ถูกต้อง 3) ให้นักเรียนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีความรู้สึกที่ดีต่อการร้องเพลงชาติ ไทย และ 4) มีความรักความสามัคคีเกิดขึ้นในหมู่คณะ กลุ่มตัวอย่างของโครงงาน คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 15 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บ รวบรวมข้อมูลประกอบด้วย 1) เครื่องมืออ่านคำยากให้ง่าย 2) แบบบันทึกการอ่านคำ 3) แบบบันทึกการร้อง เพลงชาติไทย และ 4) แบบบันทึกความรู้สึก โครงงานเริ่มดำเนินการระหว่าง วันที่ 1 สิงหาคม 2566 - 1 สิงหาคม 2566 ผลการดำเนินงานโครงงานคุณธรรม วิชาใจ : รู้ รัก สามัคคี พี่สอนน้อง พบว่า 1) นักเรียน ป.1 อ่านเนื้อเพลงชาติไทยได้ถูกต้อง จำนวน 15 คน คิดเป็นร้อยละ 100 2) นักเรียน ป.1 ร้องเพลงชาติได้ถูกต้อง จำนวน 13 คน คิดเป็นร้อยละ 86.67 3) นักเรียน ป.1 มีความกระตือรือร้นในการร่วมทำกิจกรรม จำนวน 15 คน คิดเป็นร้อยละ 100 4) มีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง นักเรียน ป.1 และ รุ่นพี่ ป.2 และ ป.3 นักเรียนชั้นแระถมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2567 ผู้รับผิดชอบโครงการได้เรียนรู้วิธีการแก้ปัญหาอย่าง เป็นระบบ เป็นขั้นตอน และกระบวนการทำงานเป็นกลุ่ม ครูและผู้ปกครองมีความพึงพอใจในระดับสูงต่อโครงงาน เพราะช่วยให้นักเรียนได้ฝึกอ่านฝึกร้องเพลงชาติไทยได้ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย และนักเรียนต้องร้อง อยู่ในชีวิตประจำวันทุกวัน โดยหลักธรรมและคุณธรรมที่ได้นำมาใช้จนกระทั่งโครงงานประสบความสำเร็จ คือ หลักการทรงงานของในหลวงรัชกาลที่ 9 รู้ รัก สามัคคี

บทที่ 1 บทนำ ที่มาและความสำคัญ เด็กและเยาวชนเป็นทรัพยากรอันมีค่าของสังคมที่ต้องได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด ต้องสร้างโอกาสในด้าน การพัฒนาร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา ให้สมบูรณ์ ตลอดจนคุณธรรมจริยธรรม หลักพัฒนาคนที่สำคัญอย่างหนึ่งที่สามารถสร้างคนให้มีคุณลักษณะและคุณธรรมจริยธรรมที่ดีได้ คือ หลัก คิดแบบเศรษฐกิจพอเพียงของพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงเน้นย้ำแนวทางการพัฒนาอย่างเป็น ขั้นเป็นตอนบนหลักแนวคิดพึ่งตนเองเพื่อให้เกิดความพอมี พอกิน พอใช้ และมีความสุข “รู้ รัก สามัคคี” เป็นหนึ่งหลักการทรงงานของในหลวง รัชกาลที่ ๙ ที่มีค่าและมีความหมายลึกซึ้ง รู้คือการที่เราจะลงมือทำสิ่งใดนั้น จะต้องรู้เสียก่อน รู้ถึงปัญหา และรู้ถึงวิธีการแก้ปัญหา รัก คือความรัก อยากให้ผู้อื่นมีความสุข เมื่อรู้กระบวนการแล้ว ต้องใช้ความรักเป็นพลังผลักดันลงมือ แก้ไขปัญหานั้น ๆ ถ้าเรามีความรักเป็นสารตั้งต้น จะมีแรงกระตุ้นให้ทำงานด้วยความเต็มใจ ด้วยความสุข ด้วย ความสนุก สามัคคีคือ เราต้องทำงานร่วมกัน ต้องทำงานร่วมมือร่วมใจ เป็นหมู่คณะ จึงจะมีพลังเข้าไปแก้ปัญหาให้ ลุล่วงไปได้ด้วยดี จากการดำเนินชีวิตประจำวันของนักเรียนโรงเรียนบ้านเกาะปุด ในทุกวันตอนเช้าจะมีกิจกรรมที่ต้องทำ ร่วมกันหน้าเสาธง ชื่อ กิจกรรมการเริ่มต้นวันอย่างมีความหมาย ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวนั้นทำเพื่อ การเห็นคุณค่าและ เคารพสิ่งต่าง ๆ ร่วมกัน รวมถึงการฝึกฝนผู้เรียนให้เป็นผู้นำผู้ตามที่ดี มีความมั่นใจในตนเอง มีความกล้าแสดงออก ในสิ่งที่สร้างสรรค์ กิจกรรมการเริ่มต้นวันอย่างมีความหมายประกอบไปด้วย การเคารพธงชาติ การสวดมนต์ การแผ่เมตตา และการกล่าวคำปฏิญาณตน จากกิจกรรมดังกล่าวนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่า นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ยังร้องเพลง ชาติด้วยเนื้อร้องที่ไม่ถูกต้อง เมื่อทดลองให้มาร้องให้ฟัง ปรากฏว่า นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ร้องเพลงชาติ ด้วยเนื้อเพลงที่ผิดทุกคน ซึ่งเมื่อรวบรวมคำที่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ร้องโดยใช้คำผิด มีทั้งหมดจำนวน 9 คำ ดังภาพที่ 1.1 ภาพที่ 1.1 แสดงค าที่นักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 1 ใช้ค าร้องผิด

นักเรีนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีความสนใจเป็นอย่างมากในเหตุการณ์นี้ เนื่องจากเพลงชาตินั้นเป็นเพลงที่ มีความสำคัญเชิงสัญลักษณ์ของชาติและบ้านเมือง เป็นเพลงที่เปิดให้ฟังทุก 8 โมงเช้า และ 6 โมงเย็น เป็นเพลงที่ นักเรียนทุกคนได้ร้องทุกวันด้วยความภาคภูมิใจ แต่น่าประหลาดใจที่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ร้อยละ 100 ยังร้องเพลงชาติด้วยเนื้อเพลงที่ผิด จึงรู้สึกอยากให้น้องร้องเพลงชาติเป็น จึงได้จัดทำโครงงานคุณธรรมวิชา ใจ รู้ รัก สามัคคี พี่สอนน้องขึ้น วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 อ่านเนื้อร้องเพลงชาติได้ถูกต้อง 2. เพื่อให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ร้องเพลงชาติได้ถูกต้อง 3. เพื่อให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีความรู้สึกที่ดีต่อการร้องเพลงชาติและรู้สึกรักชาติ 4. เพื่อให้มีความรักความสามัคคีเกิดขึ้นในหมู่คณะ ขอบเขตการศึกษา เป้าหมาย 1) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 15 คน ระยะเวลาดำเนินงาน ระหว่าง วันที่ 1 สิงหาคม 2566 - 31 สิงหาคม 2566 สถานที่ โรงเรียนบ้านเกาะปุด ตำบลนาข้าวเสีย อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง

บทที่ 2 การดำเนินการโครงงาน การดำเนินการโครงงานคุณธรรมวิชาใจ รู้ รัก สามัคคี พี่สอนน้อง มีลำดับขั้นตอนดังนี้ วิธีการดำเนินงาน 1. เลือกปัญหาที่สมาชิกในกลุ่มสนใจร่วมกัน 2. วางแผนกิจกรรม เช่น นัดครูที่ปรึกษา กำหนดเวลาสอน 3. สร้างสื่อและแบบบันทึกต่าง ๆ ดังนี้ 3.1 เครื่องมืออ่านคำยากให้ง่าย โดยรวมเอาคำที่ยากและคำที่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ร้องผิดหรือร้องไม่ชัดจากเพลงชาติเพื่อ มาฝึกออกเสียง

3.2 แบบบันทึกการอ่านคำ เพื่อบันทึกคำที่อ่านได้ในแต่ละครั้ง 3.3 เนื้อเพลงชาติที่ถูกต้องและแบบบันทึกการร้องเพลงชาติ เพื่อบันทึกว่าคนไหนร้องเพลงชาติได้ ถูกต้อง 3.4 บันทึกความรู้สึก (Post -it Feedback)

4. ทำกิจกรรมตามแผนที่กำหนดไว้ 5. สรุปและรายงานผลโครงการ งบประมาณ 1. กระดาษ A4 1 ห่อ 35 บาท ค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 35 บาท หมายเหตุ ใช้งบพอเพียงจากห้อง ป.3 อุปสรรคความผิดพลาดและการแก้ปัญหา 1. ช่วงเวลาที่ฝึกน้องบางช่วงเป็นเวลาพักเที่ยง รอบข้างเสียงดัง ทำให้น้องเสียสมาธิ บางทีต้องนัดเวลา ฝึกกันใหม่เปลี่ยนเป็นหลังเลิกเรียน 2. น้องมีความสนใจไม่นาน พี่ต้องปล่อยให้น้องเล่นบ้างแล้วค่อยมาฝึกใหม่ แต่ต้องกำหนดเวลาให้ชัด เช่น พักแค่ 5 นาที 3. บางวันพี่นัดน้องไว้ แต่พี่เองกลับไม่ว่าง เพราะต้องไปทำกิจกรรมอย่างอื่น พี่ ๆ เลยต้องไปประสาน ครูประจำชั้นให้น้องฝึกอ่านเอง

บทที่ 3 ผลการดำเนินงาน การดำเนินการโครงงานคุณธรรมวิชาใจ รู้ รัก สามัคคี พี่สอนน้องมีผลการดำเนินงานดังนี้ ผลที่เกิดขึ้นกับนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย 2. นักเรียน ป.1 อ่านเนื้อเพลงชาติไทยได้ถูกต้องทุกคำ จำนวน 13 คน คิดเป็นร้อยละ 86.67 3. นักเรียน ป.1 ร้องเพลงชาติได้ถูกต้อง จำนวน 13 คน คิดเป็นร้อยละ 86.67 3) นักเรียน ป.1 มีความกระตือรือร้นในการร่วมทำกิจกรรม จำนวน 15 คน คิดเป็นร้อยละ 100 ผลที่เกิดขึ้นกับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 1. ได้เรียนรู้วิธีการแก้ปัญหา การช่วยกันคิด การรับฟังผู้อื่น 2. ได้เรียนรู้ว่าการลงมือทำงานที่ยาก ต้องอดทน ต้องมีความตั้งใจจริงและรวมพลังกันทำก็จะทำได้ 3. ได้รู้จักเห็นอกเห็นใจผู้อื่น 4. มีความภาคภูมิใจในตนเองที่ได้ทำอะไรเป็นประโยชน์ต่อคนอื่น ผลที่เกิดขึ้นกับโรงเรียนและผู้ปกครอง 1) โรงเรียนน่าอยู่มีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพี่และน้อง 2) ผู้ปกครองดีใจที่มีรุ่นพี่ช่วยดูแลลูก ๆ ของตัวเองในทางที่สร้างสรรค์ 3) โรงเรียนมีภาพลักษณ์ที่ดีเกี่ยวกับการร้องเพลงชาติของนักเรียน 0 2 4 6 8 10 12 14 อ่านเนื้อเพลง ร้องเพลง ได้ ไม่ได้

บทที่ 4 การศึกษาวิเคราะห์ ปัญหาและสาเหตุ กิจกรรมการเริ่มต้นวันอย่างมีความหมายประกอบไปด้วย การเคารพธงชาติ การสวดมนต์ การแผ่เมตตา และการกล่าวคำปฏิญาณตน จากกิจกรรมดังกล่าวนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่า นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ยังร้องเพลง ชาติด้วยเนื้อร้องที่ไม่ถูกต้อง เมื่อทดลองให้มาร้องให้ฟัง ปรากฏว่า นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ร้องเพลงชาติ ด้วยเนื้อเพลงที่ผิดทุกคน ซึ่งเมื่อรวบรวมคำที่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ร้องโดยใช้คำผิด มีทั้งหมดจำนวน 9 คำ ด้วยเหตุนี้ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีความสนใจอยากให้น้องร้องเพลงชาติเป็น เป้าหมายและทางแก้ เป้าหมายในการทำโครงงานคุณธรรมวิชาใจ รู้ รัก สามัคคี พี่สอนน้องนั้น เพื่อให้นักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 1 อ่านเนื้อร้องเพลงชาติได้ถูกต้อง ร้องเพลงชาติได้ถูกต้อง มีความรู้สึกที่ดีต่อการร้องเพลงชาติและรู้สึกรัก ชาติรวมถึงให้มีความรักความสามัคคีกันในหมู่คณะ ทางแก้ จากการสอบถามรายบุคคลและวิเคราะห์ปัญหาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่ไม่สามารถอ่านเนื้อ เพลงชาติได้ เนื่องมาจาก 1) ปัญหา 1 ไม่เคยได้รับการฝึกอ่านเนื้อเพลงชาติมาก่อน วิธีแก้ คือ เครื่องมืออ่านคำยากให้ง่าย โดยทำเลือกคำที่อ่านยากมาเขียนคำอ่าน และคำที่นักเรียนร้อง เพลงผิดบ่อย ๆ มาให้นักเรียนฝึกออกเสียง

2. คำร้องที่นักเรียนร้องผิด วิธีแก้ เอาคำที่นักเรียนร้องผิดมาเขียนกำกับไว้ให้เห็นความแตกต่าง และฝึกร้องทีละวรรค 3. ยังมีนักเรียน 2 คน ที่อ่านคำได้ แต่พอตอนร้องเพลงก็ยังร้องโดยใช้คำเดิมที่ผิดอยู่ทุกครั้ง วิธีแก้ คือ ต้องเข้าใจน้อง น้องร้องแบบผิดมานานจนเคยชิน อาจจะต้องใช้เวลานานกว่าคนอื่นในการ ฝึก

หลักการและหลักธรรมที่นำมาใช้ หลักการและหลักธรรมที่นำมาใช้โครงงานคุณธรรมวิชาใจ รู้ รัก สามัคคี พี่สอนน้องประกอบด้วย 1. “รู้ รัก สามัคคี” หลักการทรงงานของเป็นหลักการทรงงานของในหลวง รัชกาลที่ ๙ รู้คือการที่จะลงมือทำสิ่งใดนั้น จะต้องรู้เสียก่อน รู้ถึงปัญหา และรู้ถึงวิธีการแก้ปัญหา รัก คือความรัก อยากให้ผู้อื่นมีความสุข เมื่อรู้กระบวนการแล้ว ต้องใช้ความรักเป็นพลังผลักดันลง มือแก้ไขปัญหานั้น ๆ ถ้าเรามีความรักเป็นสารตั้งต้น จะมีแรงกระตุ้นให้ทำงานด้วยความเต็มใจ ด้วยความสุข ด้วย ความสนุก สามัคคีคือ เราต้องทำงานร่วมกัน ต้องทำงานร่วมมือร่วมใจ เป็นหมู่คณะ จึงจะมีพลังเข้าไป แก้ปัญหาให้ลุล่วงไปได้ด้วยดี

“รู้ รัก สามัคคี” นั้นยังเป็นธรรมะที่อยู่ในพรหมวิหาร 4 ของชาวพุทธ อันเป็นหลักธรรมประจำใจเพื่อให้ ตนดำรงชีวิตได้อย่างประเสริฐ จะเห็นได้ว่า ดังกล่าวนั้น เป็นหลักธรรมฐานใจ ใจที่เป็นบ่อเกิดของพลัง ใจที่เป็นฐานของทุก ความสำเร็จทั้งภายในและภายนอก หากใจมีฐานดีที่มั่นคง ใจที่รู้จักรัก รู้จักให้ รู้จักเมตตา รู้จักเข้าอกเข้าใจ ผู้อื่น เห็นอกเห็นใจคนอื่น ผลที่ได้ก็คือ ความสุขความอิ่มเอิบที่เกิดขึ้นในใจของตนเอง การเติบโตจากข้างในของ ตนเอง และการแผ่กระจายความสุขไปยังผู้คนรอบข้าง สังคมรอบตัว โลกของเราจะเป็นโลกที่มีภูมิคุ้มกันและ ยั่งยืน ประเมินผลการดำเนินงาน จากแบบบันทึกทบทวนความรู้สึกหลังทำกิจกรรมรายสัปดาห์ของน้อง ป.1 พบว่า น้อง ๆ ทุกคนรู้สึกดี มี ความสุข รู้สึกไม่เครียดกับสิ่งที่พี่สอน รู้สึกว่าพี่ใจดี รู้สึกว่าทำผิดพลาดได้ รู้สึกรักพี่ๆ พี่พูดเพราะและไม่โกรธ การประเมินตนเองของกลุ่มมะลิขี้หนู 1. “ผมเริ่มพูดต่อหน้าคนอื่นได้แล้วครับ” -- เด็กชายสุรัตนติกานต์ รักภักดี- 2. “หนูคิดไม่ออกว่าจะช่วยเหลือคนอื่นได้ยังไง เพราะหนูก็ตัวเล็กเหมือนกัน และหนูก็ขี้กลัว แต่พอทำกับ เพื่อน ๆ มันก็ทำได้เรื่อย ๆไป เอง” --เด็กหญิงปพิชญา รัมนา – 3. “เป็นครั้งแรกที่ได้ทำโครงงานที่คิดช่วยเหลือคนอื่น ๆ ผมได้รู้ว่าผมก็ทำได้เหมือนกันนะครับ” --เด็กชายกวิน นวลนิ่ม – 4. “ตอนคุยกับน้องครั้งแรกมือเย็น คิดว่าจะสอนน้องได้ไหม น้องจะฟังไหม แต่พอสอนจริง ๆน้องตั้งใจดีมาก ค่ะ” -- เด็กหญิงรัตน์ธธาวดี เยาว์ดำ – 5. “ ผมดีใจที่ได้มาทำโครงงานนี้ ผมพยายามมากเลยครับ” --เด็กชายศักดิภัทร

การประเมินและวิจารณ์โดยผู้อื่น การประเมินโดยกลุ่มเป้าหมาย นักเรียนชั้น ป.1 น้องส่วนใหญ่จะบอกว่าพี่ใจดี ดีใจที่มีพี่มาสอน บางคนกล่าวขอบคุณที่พี่มาสอนให้อ่านคำยากให้ การประเมินโดยครูในโรงเรียน จากการสัมภาษณ์บุคลากร จำนวน 9 คน ในโรงเรียน เรื่องความคิดเห็นต่อโครงงานวิชาใจ รู้ รัก สามัคคี พี่สอนน้อง มีความเห็นต่าง ๆในภาพรวม ดังนี้ - เป็นโครงการที่ดีมาก ตรงกับพระราโชบายของในหลวงรัชกาลที่ 10 ข้อที่ให้มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อ บ้านเมือง โดยเริ่มจากเรื่องง่าย ๆ - เป็นเรื่องที่ครูเองก็ต้องสะท้อนตัวเองเหมือนกันว่า เราได้ละเลยเรื่องนี้ไปหรือเปล่า อาจจะไม่ละเลยหรอก แต่ปัญหาดังกล่าวทำให้เห็นว่า ครูต้องจริงจังกับเรื่องนี้ให้มากกว่าเดิม - ไม่น่าเชื่อเลยจริง ๆ นั่นแหละ ว่าเด็กร้องเพลงนี้มาเป็นปีที่ 4 แล้ว แต่พวกเขาก็ยังร้องผิดอยู่ - เป็นเรื่องที่ดีมากเลยนะ เพราะเป็นเรื่องใกล้ตัว เราปลูกฝังเด็กให้รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แต่หาก เด็กร้องเพลงชาติไม่ได้ หรือปล่อยให้เด็กร้องแบบผิด ๆ ใครได้ยินก็ดูไม่ค่อยดีเหมือนกัน - มันก็แปลกดีที่ไม่ได้ฉุกคิดเรื่องนี้มาก่อน ทั้งที่มันก็เป็นเรื่องสำคัญไม่น้อย - ดีนะ นักเรียนได้เรียนรู้กระบวนการการทำงานแบบโครงงาน การทำงานเป็นกลุ่ม การช่วยดูแลนักเรียน รุ่นน้อง และกิจกรรมของโรงเรียนให้เรียบร้อย รวมทั้งได้เรียนรู้การเป็นคนมีจิตอาสาโดยไม่หวัง ผลตอบแทน

บทที่ 5 บทสรุปและข้อเสนอแนะ สรุปผลการดำเนินการโครงงาน โครงงานคุณธรรมวิชาใจ รู้ รัก สามัคคี พี่สอนน้องเป็นโครงการที่เกิดจากการนำแนวคิด รู้-รัก-สามัคคีไป แก้ปัญหาที่พบเจอในวิถีชีวิตประวัน จัดทำขึ้นเพื่อสร้างน้อง ๆ ชั้น ป.1 โรงเรียนบ้านเกาะปุด ร้องเพลงชาติได้ ถูกต้อง ทำให้วิถีของโรงเรียนดำเนินไปได้อย่างปกติไม่ติดขัด ส่งเสริมให้นักเรียนทั้งกลุ่มเป้าหมายและเจ้าของ โครงงานเองเรียนรู้กระบวนการทำงานเป็นกลุ่ม หลักการทำงาน การอยู่ร่วมกันในสังคม การเข้าใจตนเอง เข้าใจ ผู้อื่น การแบ่งหน้าที่รับผิดชอบ และทำงานด้วยความรักความสามัคคี รู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ สร้างสาย สัมพันธ์ที่ดีกับนักเรียนโรงเรียนเดียวกัน สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับโรงเรียน สร้างพื้นฐานการรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ให้กับสังคม ความคิดต่อยอด จัดการประกวดเกี่ยวกับเพลงชาติเช่น คัดลายมือเพลงชาติ ร้องเพลงชาติ วาดภาพเนื้อหาเกี่ยวกับเพลง ชาติปั้นเรื่องราวในเพลงชาติ ข้อเสนอแนะ • หากมีน้อง ๆที่รู้สึกว่าตัวเองทำไม่ได้ ขอให้พี่ให้กำลังใจน้อง จับมือน้อง และบอกว่า น้องทำได้ • หากน้อง ๆ ลืมที่พี่สอนไปแล้ว ไม่ต่อว่ากัน แค่บอกว่า เรามาลองพยายามกันใหม่ • พื้นที่ฝึกซ้อมควรเป็นที่โล่ง อากาศปลอดโปร่ง และให้น้องมีโอกาสได้เลือกสถานที่ฝึกตนด้วยตัวเองบ้าง • ควรประเมินน้องเป็นระยะ เพื่อที่น้องได้รู้ความก้าวหน้าของตัวเอง • ควรจะประเมินตัวเองทุกครั้งที่ทำงานเสร็จในแต่ละวัน เพื่อจะได้เรียนรู้ข้อที่ต้องปรับปรุงและข้อดี