การนาเสนอเป็ นรูปแบบหนึ่งของการสอื่ สารเพอื่ สร้างความเข้าใจทชี่ ัดเจนแก่
ผู้ฟังโดยการพูดประกอบสอื่ ในระยะเวลาสั้น ๆ องคป์ ระกอบของการนาเสนอ
ประกอบด้วย ผู้นาเสนอ (Presenter) เนือ้ หา (Content) ผู้ฟัง
(Audlence) ผู้นาเสนอจะต้องมบี ุคลกิ ภาพ ความเชอื่ ม่ัน ประสบการณ์
การเตรียมตวั ความรู้ ความสามารถ สไตลก์ ารนาเสนอ เนือ้ หาการสาเสนอ
จะตอ้ งประกอบดว้ ย วัตถุประสงค์ รูปแบบ ขั้นตอน ความยากงา่ ย ความน่าสนใจ
สอ่ื ประกอบ โสตทัศนูปกรณ์ ผู้ฟัง (Audlence) จะตอ้ งมคี วามสนใจ
ความรู้ ความเข้าใจ ความเกย่ี วข้อง ทศั นคติ การยอมรับ การเรียนรู้
การนาเสนอทดี่ ี จะตอ้ งเรียนรู้จากข้อเทจ็ จริง เรียนรู้จากจานวนตัวเลข เรียนรู้
จากรูปภาพและวดี โี อ เรียนรู้จากคาอธบิ าย เรียนรู้จากการแสดงการสาธติ
เรียนรู้จากตัวอย่างหรือแบบจาลอง เรียนรู้จากการอภปิ รายซักถาม เรียนรู้จาก
การวเิ คราะหด์ ว้ ยตนเอง
1. กาหนดหวั ข้อการนาเสนอ
2. กล่าวความเป็ นมา
3. เนือ้ หาทจี่ ะนาเสนอ
4. นาเสนอข้อมูล
5. ลาดับเหตุการณ์
6. ยกตัวอย่างประกอบ
7. สร้างความเข้าใจแบบง่าย ๆ
8. ใช้โสตทศั นูปกรณป์ ระกอบ
9. สรุปสาระสาคัญ
สอ่ื ประกอบการนาเสนอ ไดแ้ ก่
1. แผ่นใส
เป็ นแผ่นซดี ที ส่ี ามารถบนั ทกึ ได้ แต่ไม่สามารถแก้ไขข้อมูล ลบข้อมูลทงิ้
หรือบนั ทกึ ข้อมูลเดมิ ซา้ ได้ จงึ เหมาะสาหรับการจัดเกบ็ ข้อมูลทไี่ ม่ตอ้ งการแก้ไข
แล้ว อยา่ งไรกต็ าม แผ่น CD-R นี้ ผู้ใช้งานสามารถบันทกึ ข้อมูลเพมิ่ เตมิ ลงไป
ในแผ่นทมี่ ขี ้อมูลอยู่แล้วไดอ้ กี หลายครั้ง จนกว่าพนื้ ทใ่ี นแผ่นจะเตม็
2. สไลด์
ใช้โปรแกรม Power Point ลักษณะการของโปรเเกรม Power
Pointการทางานในรูปของภาพน่ิง (slide) คอื เเผ่นเอกสารเดยี่ วๆทเี่ เสดง
สง่ิ ต่าง ๆ ตัวอักษร กราฟตาราง รูปภาพ หรืออนื่ ๆ เเละสามารถเเสดงไลดล์ งบน
แผ่นกระดาษหรือเคร่ืองฉานข้ามศรี ษะ หรือหน้าจอคอมพวิ เตอร์ หรือเครื่องฉาย
3. วดี โี อเทป
วดิ โี อเทป (Video tape) หรือทภ่ี าษาไทยเรียกว่า วดี ทิ ัศน์ เป็ นมว้ นเทป
แม่เหลก็ ทใ่ี ช้สาหรับในการบนั ทกึ ภาพและเสยี ง ใช้เล่นคู่กับเคร่ืองเล่นวดิ โี อ ซง่ึ จะ
ต่อเข้ากับเครื่องรับโทรทศั นใ์ หแ้ สดงภาพและเสยี งออกมา
4. ภาพยนตร์
คอื กระบวนการบันทกึ ภาพด้วยฟิ ลม์ แล้วนาออกฉายใหเ้ หน็ ภาพเคลอื่ นไหว
ภาพทปี่ รากฏบนฟิ ลม์ ภาพยนตรห์ ลังจากผ่านกระบวนการถา่ ยทาแล้วเป็ นเพยี ง
ภาพนิ่งจานวนมาก ทมี่ อี ริ ิยาบถหรือแสดงอาการเคลอ่ื นไหวเปลย่ี นแปลงไปทลี ะ
น้อยต่อเนื่องกันเป็ นช่วง ๆ ตามเรื่องราวทไ่ี ดร้ ับการถ่ายทาและตัดตอ่ มา ซง่ึ อาจ
เป็ นเรื่องราวหรือเหตุการณท์ เ่ี กดิ ขนึ้ จริง หรือเป็ นการแสดงใหเ้ หมอื นจรงิ หรืออาจ
เป็ นการแสดงและสร้างภาพจากจนิ ตนาการของผู้สร้างกไ็ ด้
5. โปรแกรมคอมพวิ เตอรค์ ู่มอื
คาส่ังหรือชุดคาส่ัง ทเ่ี ขยี นขนึ้ มาเพอื่ ส่ังให้เครื่องคอมพวิ เตอรท์ างานตามทเ่ี รา
ต้องการ เราจะให้คอมพวิ เตอรท์ าอะไรกเ็ ขยี นเป็ นคาส่ัง ซง่ึ ต้องส่ังเป็ นขั้นตอน
และแต่ละขัน้ ตอนต้องทาอยา่ งละเอยี ดและครบถ้วน ซงึ่ จะเกดิ เป็ นงานชนิ้ หน่ึง
ขนึ้ มามชี อื่ เรียกว่า "โปรแกรม"
6. เอกสารประกอบ
คอื การอธิบายรายละเอยี ดของโปรแกรมวา่ จุดประสงคข์ องโปรแกรมคอื อะไร
สามารถทางานอะไรไดบ้ า้ ง และมขี ั้นตอนการทางานของโปรแกรมเป็ นอยา่ งไร
เคร่ืองมอื ทช่ี ่วยในการออกแบบโปรแกรมเช่น ผังงาน หรือรหัสจาลองกส็ ามารถ
นามาประกอบกันเป็ นเอกสารประกอบโปรแกรมไดโ้ ปรแกรมเมอรท์ ด่ี คี วรมกี ารทา
เอกสารประกอบโปรแกรม
7. โปสเตอร์
ภาพขนาดใหญ่ทพ่ี มิ พบ์ นกระดาษ มกี ารออกแบบเพอื่ ใช้ตดิ แขวนบนผนัง หรือ
กาแพง โปสเตอรอ์ าจจะเป็ นภาพพมิ พห์ รือภาพเขยี นกไ็ ด้
8. แผ่นพับ
หนึ่งในสอ่ื สง่ิ พมิ พท์ มี่ รี ูปแบบการออกแบบทหี่ ลากหลาย เน่ืองจากมรี ูปแบบการ
พับทมี่ ากมาย ยกตัวอยา่ งเช่น การพับแบบจดหมาย การพบั แบบซกิ แซก หรือพบั
แบบหน้าตา่ ง เป็ นต้น
9. หุน่ จาลอง
วัสดุสามมติ ทิ สี่ ร้างขนึ้ เพอ่ื เลยี นแบบของจริง เน่ืองจากข้อจากัดบางประการท่ี
ไม่สามารถจะใช้ของจริง ประกอบการเรียนการสอนได้ เช่น การอธิบายลักษณะ
และตาแหน่ง ของอวยั วะภาพในร่างกายของคนหรือสัตว์
10. ตัวอย่างของจรงิ
เป็ นทักษะทม่ี คี วามสาคัญอยา่ งยง่ิ สาหรับพนักงานทุกๆระดบั ในองคก์ ร เช่น
พนักงานขายในบริษัทบางแห่ง ตอ้ งใช้ทกั ษะการนาเสนองานอยเู่ สมอในระหว่าง
ขัน้ ตอนการขาย ไม่ว่าจะเป็ นการนาเสนองานเพอื่ แนะนาองคก์ ร เพอื่ นาเสนอ
คุณลักษณะและคุณประโยชนข์ องสนิ ค้าและบริการ รวมไปถงึ การสาธติ วธิ ีการใช้
งาน นอกจากนั้น การนาเสนองานยังนามาใช้ภายในองคก์ ร เพอื่ แจ้งข้อมูลข่าวสาร
หรือ ขอความร่วมมอื ในโครงการตา่ งๆ
โสตทศั นูปกรณ์ ประกอบดว้ ย
1. โปรเจคเตอร์
อุปกรณฉ์ ายภาพทใี่ ช้ในการนาเสนอข้อมูลต่างๆ โดยสามารถรองรับ
สัญญาณภาพจากคอมพวิ เตอร,์ เครื่องเล่นวซี ดี ,ี เครื่องเล่นดวี ดี ,ี และเคร่ืองกาเนิด
ภาพอน่ื ๆ
2. เคร่ืองฉายสไลด์
เป็ นเครื่องฉายวัสดุโปร่งใสระบบฉายตรง (Direct Projection)
ประกอบด้วย แผ่นสะทอ้ นแสงโค้ง หลอดฉายมกี าลังส่องสว่างประมาณ 150-
500 วัตต์ แผ่นกรองความร้อน เลนสร์ วมแสงกลักใส่สไลดเ์ ลนสฉ์ ายและพดั ลม
ระบายความร้อนดงั ภาพดา้ นล่างแสดงส่วนประกอบต่างๆภายในเคร่ืองฉาย
สไลด์
3. เครื่องฉายวดี โี อเทป
หรือบนั ทกึ วดิ โี อเป็ นไฟฟ้าอุปกรณท์ บ่ี นั ทกึ อนาลอ็ กเสยี งและวดิ โี อแบบอะนาลอ็ ก
จากการออกอากาศโทรทศั นห์ รือแหล่งอน่ื ๆ ในการถอดเทปแม่เหลก็ ตลับและ
สามารถเล่นการบันทกึ การใช้เคร่ืองเล่นวดิ โี อเพอ่ื บันทกึ รายการโทรทศั นจ์ ะกลับไปเ
ในเวลาทสี่ ะดวกมากขนึ้ เป็ นปกตจิ ะเรียกว่าTimeshifting VCR ยังสามา
เล่นเทปทบ่ี ันทกึ ไว้ล่วงหน้าได้ ในช่วงทศวรรษที่ 1980 และ 1990 วดิ โี อเทปทบี่ ันทกึ ไ
ล่วงหน้ามใี หซ้ อื้ และเช่ากันอยา่ งแพร่หลายและมกี ารขายเทปเปล่าเพอ่ื บันทกึ เสยี ง
4. เคร่ืองฉายภาพยนตร์
เป็ นอุปกรณแ์ สง-เชงิ กล สาหรับการฉายภาพยนตร์ จากฟิ ลม์ เป็ น
ภาพเคลอ่ื นไหว ให้ไปปรากฏภาพบนจอฉายภาพ ส่วนประกอบของเคร่ืองฉาย
ภาพยนตรน์ ั้น ส่วนใหญ่แล้วกเ็ หมอื นกับส่วนประกอบในกล้องถ่ายภาพยนตร์
เวน้ แต่อุปกรณใ์ ห้ความสว่าง และอุปกรณด์ ้านเสยี ง
5. เครื่องคอมพวิ เตอร์
อุปกรณท์ างอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (electrinic device) ทม่ี นุษยใ์ ช้เป็ น
เครื่องมอื ช่วยในการจัดการกับข้อมูลทอ่ี าจเป็ นได้ ทัง้ ตัวเลข ตวั อักษร หรือ
สัญลักษณท์ ใ่ี ช้แทนความหมายในสงิ่ ตา่ ง ๆ
6. กระดานข่าว
คอื ลักษณะของเวบ็ ไซตท์ ใี่ ช้สาหรับการแลกเปลยี่ นบทสนทนา การพูดคุย การ
อภปิ รายในสังคมออนไลน์ นอกจากชอ่ื เวบ็ บอรด์ แล้ว ยงั มเี รียกกันหลายชอ่ื ไม่ว่า
กระดานขา่ ว กระดานข่าวสาร กระดานข่าวอเิ ลก็ ทรอนิกส์ กระดานสนทนา
กระดานสนทนาออนไลน์ ฟอรัม เวบ็ ฟอรัม เมสเซจบอรด์ บุลลิทนิ บอรด์ ดสิ คัชชัน
บอรด์ ฯลฯ หรือเรียกอยา่ งสัน้ ว่า บอรด์
7. ฟลปิ ชารท์
เป็ นกระดานมขี าตัง้ ประเภทหน่ึง ใช้ประโยชนใ์ นการประชุม นาเสนอตา่ งๆ
กระดานฟลปิ ชารท์ ใช้งานได้หลากหลาย เช่น เขยี นเป็ นกระดาน white
board, เขยี นบนแผ่นกระดาษฟลปิ ชารท์ , แปะแม่เหลก็ หรือสอ่ื การสอนต่างๆ
8. เครื่องเสยี ง
เคร่ืองใช้ไฟฟ้าหรือเครื่องมอื อเิ ลก็ ทรอนิกสช์ นิดหน่ึง ทที่ าหน้าทขี่ ยาย
สัญญาณเสยี ง หรือเกย่ี วข้องกับกระบวนการขยายเสยี ง ถา่ ยทอดเสยี ง กระจาย
เสยี ง เป็ นตน้ ในภายหลังยังนิยมเรียกรวมถงึ อุปกรณท์ เ่ี กย่ี วกับสัญญาณภาพดว้ ย
ไม่ควรใช้จานวน Slide มากเกนิ ไป ระมัดระวังการใช้ Animation
ใหเ้ หมาะสม ใช้ภาพประกอบหรือ Clip Arts สร้างความน่าสนใจ ไม่ใส่
เนือ้ หาแน่นเกนิ ไป ซ่อนบาง Slide ไว้ เพอื่ ใช้ประกอบเมอ่ื จาเป็ น Slide
Show ใหเ้ ตม็ จอ กด “B” ทา
1. กาหนดวตั ถุประสงค์
2. วเิ คราะห์ผู้ฟังและสถานการณ์
3. กาหนดรูปแบบ (FORMAT)
4. รวบรวมข้อมูลและหลกั ฐานอ้างองิ
5. วางโครงการนาเสนอ
6. เรียบเรียงเนื้อหา
7. จัดทาสื่อประกอบการนาเสนอ
8. เตรียมบท (SCRIPTS)
9. ตรวจสอบโสตทศั นูปกรณ์
10. ซักซ้อมให้จอมืด หรือ “W” ทาให้จอสว่าง
1. ปรากฏตัวบนเวที
2. ตรวจสอบความเรียบร้อย
3. ทกั ทายและเกริ่นนา
4. นาเสนอ
5. เปิ ดโอกาสให้ซักถาม
6. สรุปและจบการนาเสนอ
1. เริ่มตน้ โดยเกร่ินนาถงึ ผลประโยชน์ (Benefits Approach)
2. เริ่มต้นโดยการพดู ถงึ ปัญหาและทางแก้(Problems &
Solutions)
3. เริ่มตน้ โดยกระตุ้นความอยากรู้ (Curiosity Stimulating)
4. เร่ิมตน้ โดยกล่าวถงึ ข้อมูลสาคัญ (Information Giving)
5. เริ่มต้นโดยการสาธติ ทนี่ ่าสนใจ (Dramatic
Demonstration)
เนือ้ หาทนี่ ่าสนใจมีดงั นี้
1. เหน็ ภาพ
2. น่าสนใจ
3. ใกล้ตัว
4. เป็ นไปได้
5. แปลกใหม่
6. มองเหน็ ประโยชน์
7. สร้างอารมณร์ ่วม
8. มหี ลักฐาน
9. ตวั อยา่ ง
10. ข้อมูลชัดเจน
1. สรุปเนือ้ หาสาคัญ
2. เน้นยา้ ประโยชนท์ จ่ี ะไดร้ ับ
3. กระตุ้นการตดั สนิ ใจ
4. สร้างความม่ันใจในการแก้ปัญหา
5. กล่าวถงึ ขัน้ ต่อไป (Next Steps)
คาถามทพี่ บส่วนมากมีดงั นี้
1. สงสัยไม่เข้าใจ
2. เพมิ่ เตมิ รายละเอยี ด
3. เป็ นเรื่องทเี่ กย่ี วข้องกับตนเอง
4. ไม่เหน็ ดว้ ย
5. คาถามเสนอความเหน็
6. ลองภมู ปิ ัญญา
7. จ้องจับผิด
8. ตอ้ งการมสี ่วนร่วม
9. ถามนา
10. สร้างแนวร่วม
11. ถามแบบสนุก ๆ
1. เทคนิคในการตอบถาม
2. จะต้องแสดงความสนใจคาถาม
3. ชมผู้ถามตามความเหมาะสม
4. ทวนคาถามยา้ ประเดน็
5. ตอบคาถามให้ตรงประเดน็
6. ตอบคาถามกับทุกคน
7. ควบคุมอารมณแ์ ละระมัดระวังการใช้คาพดู
8. หากเป็ นคาถามตอบยากและทา้ ทายใหห้ าแนวร่วม
9. ควบคุมสถานการณแ์ ละเวลา
ได้รับความรู้ในเกยี่ วกับรูปแบบ เทคนิค วธิ ีการนาเสนอ การเตรียมความพร้อมใน
การนาเสนอทมี่ ปี ระสทิ ธภิ าพ ซง่ึ ผู้นาเสนอจะต้องมที กั ษะและความเชอ่ื ม่ันในการ
พูดการนาเสนอ โดยมกี ารวเิ คราะหแ์ ละกาหนดประเดน็ ใหส้ อดคล้องความสนใจ
ของผู้ฟัง ประกอบด้วย
1. เตรียมตวั และเตรยี มการให้พร้อม
2. กาหนดรูปแบบ (Format) ทเี่ หมาะสม
3. ใช้หลักฐานอา้ งองิ (Evidence) ทม่ี นี า้ หนัก
4. จัดทาสอ่ื ประกอบการนาเสนออย่างเหมาะสม
5. นาเสนออย่างมรี ูปแบบขั้นตอน ตอบคาถามหรือข้อสงสัยไดอ้ ย่างชัดเจน
http://www.blog.rmutt.ac.th/?p=2129
โครงการนีเ้ ป็ นส่วนหน่ึงของรายวชิ า
การนาเสนองานเลขานุการ รหสั วิชา30203-2104
เสนอ
ครูปรียา ปันธิยะ
จดั ทาโดย
นางสาวเขมมิกา จติ ตม์ ่ัน
เลขท่ี 2 สบล.64.1 สาขาวิชาเลขานุการ
วทิ ยาลัยอาชวี ศึกษาลาปาง