การประมวลผลกลุ่มเมฆ : Cloud Computing
เป็ นแนวคดิ สาหรับ Platform ของระบบคอมพวิ เตอร์ เพอื่ เป็ นทางเลอื ก
ใหแ้ กผ่ ู้ใชใ้ นการลดภาระดา้ นการลงทนุ ดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศ (Information
Technology: IT) ทงั้ การใชง้ านในระดบั องคก์ รธุรกจิ (Corporate
Users) และ ผูใ้ ชร้ ะดบั สว่ นบุคคล (Individual Users) โดยเป็ น
หลักการนาทรัพยากรของระบบไอที ทงั้ ฮารด์ แวร์ และซอฟตแ์ วรม์ าแบง่ ปันใน
รูปแบบการใหบ้ ริการ (Software As A Services: SAAS) ในระดับ
การประมวลผลผา่ นเครือขา่ ยอนิ เตอรเ์ น็ต โดยผู้ใช้ไมจ่ าเป็ นตอ้ งมเี ครื่องคอมพวิ เตอร์
ประสทิ ธิภาพสงู หรือตดิ ตงั้ ซอฟตแ์ วรร์ ะบบ ตลอดจนซอฟตแ์ วรแ์ อพพลเิ คช่ัน
จานวนมากๆ เพอ่ื การทางานทซี่ ับซอ้ น แตส่ ามารถใชบ้ ริการประมวลผล และ
แอพพลเิ คช่ันตา่ งๆ จากผูใ้ หบ้ ริการระบบประมวลผลกลุม่ เมฆ โดยชาระคา่ บริการ
ตามการใช้งานที่ เกดิ ขนึ้ จริง
นิยามของ Cloud Computing หรือ การประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ
คาว่า Cloud Computing มผี ู้ไดใ้ หค้ านิยามไวห้ ลากหลาย เชน่
· บรษิ ัทการต์ เนอร์ ไดใ้ หน้ ิยามว่า “Cloud computing is a style of
computing where massively scalable IT-related
capabilities are provided ‘as a service’ across the
Internet to multiple external customers” หรือ ระบบการ
ประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ คอื แนวทางการประมวลผลทพ่ี ลงั ของโครงสร้างทางไอที
ขนาดใหญ่ทข่ี ยายตวั ไดถ้ กู นาเสนอยงั ลกู คา้ ภายนอกจานวนมหาศาลในรูปแบบของบริการ
นิยามของ Cloud Computing หรือ การประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ (ตอ่ )
ฟอเรสเตอรก์ รุ๊ป ไดน้ ิยามว่า cloud computing: A pool of
abstracted, highly scalable, and managed
infrastructure capable of hosting end-customer
applications and billed by consumption หรือกลุม่ ของโครงสร้าง
พนื้ ฐานทถี่ กู บริหารจดั การและขยายตวั ไดอ้ ยา่ งมาก ซงึ่ มขี ดี ความสามารถในการรองรับ
โปรแกรมประยุกตต์ า่ งๆของผใู้ ช้ และเกบ็ คา่ บริการตามการใช้งาน
นิยามของ Cloud Computing หรือ การประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ (ต่อ)
JavaBoom Collection” ไดน้ ิยามวา่ เป็ น การประมวลผลทอ่ี งิ กับความ
ตอ้ งการของผใู้ ช้ โดยผใู้ ชส้ ามารถระบุความตอ้ งการไปยงั ซอฟตแ์ วรข์ องระบบ Cloud
Computing จากนั้นซอฟตแ์ วรจ์ ะร้องขอให้ ระบบ จดั สรรทรัพยากรและบริการให้
ตรงกบั ความตอ้ งการของผู้ใชโ้ ดยระบบสามารถเพม่ิ หรือลดจานวนทรัพยากรใหพ้ อเหมาะ
กบั ความตอ้ งการของผู้ใช้ โดยทผี่ ใู้ ชไ้ มต่ อ้ งทราบการทางานเบอื้ งหลงั วา่ เป็ นอยา่ งไร”
คาทเี่ กย่ี วข้อง เชน่
· Cloud Provider หมายถงึ ผใู้ หบ้ ริการระบบ Cloud
· Cloud Storage คอื สถานทเี่ กบ็ ทรัพยากรสาหรับระบบ Cloud
องคป์ ระกอบของระบบประมวลผลกลุ่มเมฆ
ระบบประมวลผลกลุม่ เมฆ จาเป็ นตอ้ งอาศยั องคป์ ระกอบทสี่ าคญั คอื
3.1 อนิ เตอรเ์ น็ตทม่ี ชี อ่ งสญั ญาณสงู จนเกอื บจะไมม่ จี ากัด (Nearly unlimited
bandwidth)
3.2 เทคโนโลยรี ะบบเสมอื นจริง (Increasingly sophisticated
virtualization technologies)
3.3 สถาปัตยกรรมเครือข่ายทร่ี องรับการเข้าถงึ พร้อมกันจานวนมาก(Multitenant
Architectures)
3.4 ลกั ษณะการใชง้ านไดข้ องเซริ ฟ์ เวอรป์ ระสทิ ธิภาพสงู (Availability of
extremely powerful servers)สามเหลย่ี มกลุ่มเมฆ
- ระบบปฏบิ ตั กิ ารกลุ่มเมฆประกอบดว้ ยบริการทสี่ าคญั 3 สว่ นคอื โครงสร้างพนื้ ฐาน
Platform และแอพพลเิ คช่นั
โครงสร้างการประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ
การประมวลผลแบบกลุ่มเมฆจะมโี ครงสร้างดงั นี้
· กลุม่ เมฆของเซริ ฟ์ เวอร(์ cloud server) ซง่ึ เป็ นเซริ ฟ์ เวอรจ์ านวนมหาศาลนับหมน่ื
นับแสนเครื่องทตี่ งั้ อยใู่ นทเ่ี ดยี วกัน กลุม่ เมฆนีต้ อ่ เชอ่ื มเขา้ หากันดว้ ยเครือขา่ ยเป็ นระบบ
Grid ในระบบนีจ้ ะใชซ้ อฟตแ์ วรV์ itualizationในการทางานเพอ่ื ใหโ้ ปรแกรม
ประยุกต์ ขนึ้ กบั ระบบน้อยทส่ี ุด
· ส่วนตดิ ตอ่ กับผู้ใช้(User interaction interface) ทาหน้าทร่ี ับคาขอบริการ
จากผู้ใชใ้ นรูปแบบเวบ็ โปรโตคอล · สว่ นจดั เกบ็ รายการบริการ (Services
Catalog) เกบ็ และบริหารรายการของบริการ ผู้ใชส้ ามารถค้นดบู ริการทม่ี จี ากทน่ี ่ี
· ส่วนบริหารงาน (system management) ทาหน้าทกี่ าหนดทรัพยากรท่ี
เหมาะสม เมอื่ ผู้ใชเ้ รียกใช้บริการเมอื่ มกี ารขอใช้บริการ ข้อมลู การขอ request จะถกู
ส่งผา่ นใหส้ ว่ นนี้
โครงสร้างการประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ(ตอ่ )
· ส่วนจดั หาทรัพยากร (provisioning services) จากนั้นสว่ นบริหารงานจะ
ตดิ ตอ่ กบั ส่วนนี้ เพอ่ื จองทรัพยากรจากกลุม่ เมฆ และเรียกใช้โปรแกรมประยกุ ตแ์ บบเวบ็ ที่
เหมาะสมให้ เมอ่ื โปรแกรมประยุกตท์ างานแล้วกจ็ ะสง่ ผลทไ่ี ดใ้ หผ้ ใู้ ช้ทเ่ี รียกใชบ้ ริการตอ่ ไป
· ส่วนตรวจสอบขอ้ มลู การใช้งาน (Minitoring and Metering) เพอ่ื ใช้ในการ
เกบ็ ค่าบริการหรือเกบ็ ขอ้ มลู สถติ เิ พอ่ื ปรับปรุงระบบตอ่ ไป
ลักษณะของระบบประมวลผลกลุ่มเมฆ
1. ลดค่าใช้จา่ ยดา้ นการลงทนุ ในระบบไอที โดยผใู้ หบ้ ริการจะเป็ นผู้ลงทนุ ในโครงสร้าง
พนื้ ฐานของระบบไอที และผ้ใู ชไ้ ม่จาเป็ นตอ้ งลงทนุ ตดิ ตงั้ หรือซอื้ ไลเซนสข์ องซอฟตแ์ วร์
ซงึ่ จะมคี ่าใช้จา่ ยเพม่ิ ขนึ้ หากองคก์ รธุรกจิ จะเพม่ิ จานวนพนักงาน (ผ้ใู ช้) หรอื ตอ้ งการ
อพั เกรดซอฟตแ์ วร์
2. เพมิ่ ความสามารถในการแบง่ ปันทรัพยากรแบบ Multitenancy เป็ นการรวมศนู ย์
ของโครงสร้างพนื้ ฐานเพอื่ ลดตน้ ทนุ ทงั้ คา่ เช่าสถานที่ และคา่ ใชจ้ า่ ยอน่ื ๆ และเพมิ่
ความสามารถรองรับชว่ งเวลาทางานหนัก (Peak-load capacity) รวมทงั้ ชว่ ย
ปรับปรุงประโยชนใ์ ช้สอยและประสทิ ธภิ าพ (Utilization and efficiency)
ของทรัพยากรไอที
3. ความสามารถในการปรับเปลย่ี นขนาด(Scalability)สามารถเลอื กใช้ทรัพยากรได้
อยา่ งยดื หยุ่นตามความตอ้ งการใช้งานจริงในแตล่ ะชว่ งเวลา
4. ความเชอ่ื ถอื ได้ (Reliability)
ลักษณะของระบบประมวลผลกลุ่มเมฆ(ต่อ)
5. ความปลอดภยั (Security)สาหรับขอ้ มลู และทรัพยากรของระบบ อยา่ งไรกต็ ามยงั มี
ความกังวลเกย่ี วกบั การสูญเสยี ความสามารถในการกากบั ดแู ลการเขา้ ถงึ และความ
ปลอดภยั ของข้อมูลอ่อนไหว
6. ประสทิ ธิภาพ (Performance) สามารถกากบั ดแู ลและมคี วามเสถยี ร
แตอ่ าจไดร้ ับผลกระทบจากการสอื่ สารบนอนิ เตอรเ์ น็ตทไี่ มม่ ปี ระสทิ ธิภาพ หรือชว่ งเวลาทมี่ ี
การใชง้ านพร้อมกันจานวนมาก
7. อุปกรณแ์ ละสถานทตี่ งั้ ไมข่ นึ้ ตอ่ กนั (Device and location
independence) ผ้ใู ช้สามารถเขา้ ถงึ ระบบจากสถานทใี่ ดกต็ าม และสามารถใช้
อุปกรณไ์ ดห้ ลากหลายรูปแบบ (คอมพวิ เตอร์ หรือโทรศัพทเ์ คลอ่ื นท)ี่
ประโยชนข์ องระบบประมวลผลกลุ่มเมฆ
1. ทรัพยากรไอทถี กู ใช้อย่างคุม้ คา่ เนื่องจากเป็ นการแบง่ ปัน (Share) ทรัพยากรทงั้ ส่วนจดั เกบ็
ข้อมูล แอพพลิเคช่ัน และการประมวลผลบนเครือข่ายอนิ เตอรเ์ น็ต จงึ เกดิ การประหยดั ต่อขนาด
(Economies of scale) กล่าวคอื ผู้ใหบ้ ริการสามารถนาเสนอบริการแอพพลิเคช่ันใน
ราคาทต่ี ่า กว่ากรณีทผี่ ู้ใช้จะลงทนุ ตดิ ตงั้ แอพพลิเคช่ันเพอ่ื ใช้งานนอกจากนีย้ ังมคี วามสามารถใน
การปรับลด/ขยายขนาดของประสิทธิภาพของระบบประมวลผลได้ตามลักษณะการใช้งานจรงิ
ผู้ใช้จงึ ไมจ่ าเป็ นตอ้ งลงทนุ เพอื่ ตดิ ตัง้ ระบบไอทเี พอื่ สารองการใช้งานในบางช่วงเวลา แต่สามารถ
เรียกใช้ความสามารถจากผู้ใหบ้ ริการ สาหรับผู้ใหบ้ ริการการสารองความสามารถไว้ใหบ้ ริการจะ
สามารถแบง่ ปันความสามารถดังกล่าวใหแ้ ก่ลูกค้าหลายราย จงึ เกดิ การใช้ทรัพยากรอย่าง
เหมาะสม
2. ผู้ใช้มีโอกาสเข้าถงึ เทคโนโลยไี ดม้ ากขนึ้ โดยอตั ราค่าบริการดา้ นไอทผี ่านสภาพแวดลอ้ มกลุ่มเมฆ
จะต่ากว่าการลงทุนตดิ ตัง้ ระบบไอทเี องทงั้ หมด จงึ มโี อกาสทจ่ี ะเข้าถงึ เทคโนโลยที หี่ ลากหลาย
ตลอดจนเทคโนโลยใี หม่ๆ ได้มากกว่าในสภาพแวดล้อมแบบเดมิ ทงั้ นีใ้ นกรณีทม่ี กี ารพฒั นา
เทคโนโลยใี หม่ ผู้ใหบ้ ริการมคี วามยดื หยุ่นทจี่ ะนาเทคโนโลยใี หม่มาใหบ้ ริการบนสถาปัตยกรรม
ประโยชนข์ องระบบประมวลผลกลุ่มเมฆ(ตอ่ )
3. ผู้พฒั นาเทคโนโลยไี อทมี โี อกาสใหน้ าผลงานออกสู่ตลาดได้มากขนึ้ บนสถาปัตยกรรมทแี่ ยก
เซริ ฟ์ เวอรใ์ นส่วนของแอพพลเิ คช่ัน ทาใหแ้ อพพลเิ คช่ันบนเครือข่ายมคี วามยดื หยุน่ สูง สามารถ
ปรับเปลย่ี นบนเครือข่าย ผู้ใหบ้ ริการจะกาหนด Platformของแอพพลิเคช่ันบนกลุ่มเมฆ
ของตน เช่นPlatformสาหรับ Google App Engine เพอื่ เป็ นมาตรฐานสาหรับ
ผู้พฒั นาแอพพลเิ คช่ันสามารถนาผลงานไปใหบ้ ริการบนกลุ่มเมฆ โดยการเพม่ิ บริการแอพพลิเคช่ัน
จะไมก่ ระทบในส่วนของผู้ใช้
4. ผู้ใหบ้ ริการสามารถบริหารจดั การได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ บริการถกู นาเสนอบนเครือข่าย
อนิ เตอรเ์ น็ต ดังนั้น ผู้ใหบ้ ริการสามารถตดิ ตัง้ อุปกรณใ์ นทาเลทตี่ งั้ ทหี่ า่ งไกลซง่ึ มตี น้ ทนุ ต่ากว่าการ
ตัง้ กจิ การในยา่ นธุรกจิ แตส่ ามารถนาเสนอบริการใหแ้ กล่ ูกค้าได้ท่วั โลก อกี ทงั้ หน่วยจดั เกบ็ ข้อมูล
ส่วนประมวลผล และแอพพลเิ คช่ัน ถกู แยกออกจากส่วนผู้ใช้ ดงั นั้นผู้ใหบ้ ริการจงึ สามารถดแู ล
รักษาระบบไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ
ข้อจากัดของระบบประมวลผลกลุ่มเมฆ
1. ความปลอดภยั และความเป็ นสว่ นตวั เมอ่ื ขอ้ มูลและแอพพลเิ คช่ันถกู สง่ ไปยงั กลุม่ เมฆ
ผา่ นเครือขา่ ยอนิ เตอรเ์ น็ต อกี ทงั้ สภาพแวดล้อมทกี่ ระบวนการทางานตอ้ งอาศัย
ความสามารถของกลุ่มเมฆเซริ ฟ์ เวอรห์ ลายกลุม่ บนเครือข่าย องคก์ รธุรกจิ และผ้ใู ชร้ ะดบั
บุคคลอาจไมม่ ่นั ใจและกงั วลเกยี่ วกบั มาตรฐานความปลอดภยั ของขอ้ มูลบนเครือข่าย
อนิ เตอรเ์ น็ต นอกจากนีโ้ ดยสภาพแวดล้อมของกลุม่ เมฆทข่ี อ้ มูลการสนทนา และประวัติ
การเขา้ ใช้บริการเครอื ขา่ ย (Log) จะไมไ่ ดถ้ กู จดั เกบ็ บนระบบไอทขี ององคก์ ร แตก่ ระจาย
ไปบนเครือขา่ ยอนิ เตอรเ์ น็ต จงึ มคี วามเสย่ี ง หากข้อมลู การตดิ ตอ่ สอ่ื สารระหว่างองคก์ ร
ธุรกจิ ซงึ่ เป็ นความลับทางการค้าอาจถกู จารกรรมจากเครือขา่ ย
ข้อจากดั ของระบบประมวลผลกลุ่มเมฆ(ตอ่ )
2. ไมม่ มี าตรฐานของ Platform ผู้ใหบ้ ริการกลุม่ เมฆมมี าตรฐานแพลทฟอรม์ ท่ี
แตกตา่ งกนั โดยอะเมซอน เวบ็ เซอรว์ สิ เป็ นแบบซอฟตแ์ วรฟ์ รีโปรแกรม (Linux,
Apache, MySQL, Perl/PHP : LAMP) ขณะที่ Google App
Engine เป็ นแบบมาตรฐานเฉพาะผลติ ภัณฑ์ (Proprietary Formats) และ
ผ้ใู ช้วนิ โดวม์ กั จะใชบ้ ริการจาก GoGrid ดงั นั้นสาหรับผพู้ ฒั นาแอพพลเิ คช่ัน หาก
ตอ้ งการใหผ้ ลงานครอบคลุมตลาดผ้ใู ช้หลาย ๆ กลุม่ กต็ อ้ งพฒั นาแอพพลเิ คช่ันบนหลาย
แพลทฟอรม์ ซง่ึ เป็ นเรื่องยุง่ ยาก
3. ความเชอื่ ถอื ได้ (Reliability) โอกาสทบ่ี ริการกลุ่มเมฆจะล่มหรือไม่สามารถ
ใหบ้ ริการไดใ้ นบางขณะจะสง่ ผลกระทบอยา่ งมากตอ่ ผู้ใช้ในระบบ
ข้อจากดั ของระบบประมวลผลกลุ่มเมฆ(ต่อ)
4. คุณสมบัตดิ า้ นการเคลอื่ นยา้ ยขอ้ มูล (Portabilitiy)
ตามหลกั การทางานแบบแบง่ ปันประสทิ ธิภาพของระบบไอทบี นกลุม่ เมฆหลาย ๆ กลุม่
หมายถงึ กระบวนการ ประมวลผลแตล่ ะชนิ้ งานอาจเร่ิมตน้ และสนิ้ สุดลงโดยผ่านการทางาน
บนกลุม่ เมฆ (เซริ ฟ์ เวอร)์ มากกว่า 1 กลุม่ ในขนั้ ตอนการเคลอื่ นยา้ ยขอ้ มูลจากกลมุ่ เมฆ
หน่ึงไปยงั อกี กลุ่มเมฆหนึ่ง แมจ้ ะเกดิ ความคุ้มค่าของการใชป้ ระสทิ ธิภาพของคอมพวิ เตอร์
แตอ่ าจสนิ้ เปลอื งทรัพยากรดา้ นการสอื่ สาร (Bandwidth) บนเครอื ข่ายอนิ เตอรเ์ น็ต
ในมลู คา่ ทสี่ งู กวา่
5. เซริ ฟ์ เวอรท์ างกายภาพ ระบบประมวลกลุ่มเมฆใหบ้ ริการดว้ ยเทคโนโลยเี สมือนจริง
(Virtualization) อยา่ งไรกต็ ามในความเป็ นจริงอุปกรณฮ์ ารด์ แวรท์ ที่ าหน้าท่ี
เซริ ฟ์ เวอรท์ างกายภาพยงั คงมอี ยจู่ ริง ซง่ึ มโี อกาสทต่ี ดิ ตงั้ กระจายอยใู่ นประเทศตา่ ง ๆ ท่วั
ทกุ มุมโลก ประเดน็ ทย่ี งั คงเป็ นกังวลคอื ขอ้ มูลทางธุรกจิ และข้อมูลทม่ี ผี ลตอ่ ความม่นั คงของ
ประเทศ อาจถกู จดั เกบ็ บนเซริ ฟ์ เวอรใ์ นประเทศอน่ื และมคี วามเสย่ี งทรี่ ัฐบาล
ข้อดี ข้อเสยี ของ Cloud Computing
ขอ้ ดี ข้อเสยี
1.ลดตน้ ทุนคา่ ดแู ลบารุงรักษาเน่ืองจาก 1.เนื่องจากเป็ นการใชท้ รัพยากรทม่ี าจาก
ค่าบริการไดร้ วมคา่ ใชจ้ ่ายตามทใี่ ชง้ านจริง เชน่ หลายทห่ี ลายแหง่ ทาใหอ้ าจมีปัญหาในเรื่อง
ค่าจา้ งพนักงาน คา่ ซ่อมแซม ค่าลิขสทิ ธิ์ คา่ ของความตอ่ เนื่องและความเร็วในการเข้า
ไฟฟ้า ค่าน้า คา่ นา้ มันเชอื้ เพลงิ ค่าอัพเกรด และ ทรัพยากรมากกว่าการใชบ้ รกิ าร Host ที่
คา่ เช่าคู่สาย เป็ นตน้ Local หรืออยู่ภายในองคก์ าร
2.ลดความเสีย่ งจากการเริ่มต้นหรอื ทดลอง 2.ยงั ไม่มกี ารรับประกันในการทางานอยา่ ง
โครงการ ต่อเน่ืองของระบบและความปลอดภยั ของ
3.มคี วามยดื หยุ่นในการเพม่ิ หรือลดระบบตาม ขอ้ มูล
ความตอ้ งการ 3.ความไม่มมี าตรฐานของ Platformทาให้
4.ไดเ้ ครื่องแม่ข่ายทม่ี ีประสทิ ธิภาพ มีระบบ ลูกคา้ มขี อ้ จากัดสาหรับตัวเลือกในการพฒั นา
สารองข้อมูลทด่ี ี มเี ครือข่ายความเร็วสูง หรือตดิ ตัง้ ระบบ
5.มีผู้เชยี่ วชาญดแู ลระบบและพร้อมใหบ้ ริการ
ช่วยเหลือ 24 ช่วั โมง
อา้ งองิ
https://sites.google.com/site/kornkanok551/khaw/khaw
หนังสอื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ เร่ือง การประมวลผลกลุ่มเมฆ Cloud Computing
เล่มนีเ้ ป็ นส่วนหนึ่งของวชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศ รหสั วิชา 30203-2002
เสนอ
ครูปรียา ปันธิยะ
จัดทาโดย
นางสาวเขมมกิ า จติ ตม์ ่นั
เลขท่ี 2 สบล.64.1 สาขาวชิ าเลขานุการ
วิทยาลัยอาชวี ศึกษาลาปาง