The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

E-Book ให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทยในสมัยรัชกาลที่ ๕ ประกอบไปด้วยพระราชประวัติส่วนพระองค์ พระราชกรณียกิจที่สำคัญ ประเด็นประวัติศาสตร์ที่สำคัญ และบุคคลสำคัญที่มีส่วนสร้างสรรค์ประวัติศาสตร์ไทยในสมัยรัชกาลที่ ๕

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by tongtongcil, 2021-06-27 21:59:06

ประเด็นสำคัญในรัชสมัยรัชกาลที่5

E-Book ให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทยในสมัยรัชกาลที่ ๕ ประกอบไปด้วยพระราชประวัติส่วนพระองค์ พระราชกรณียกิจที่สำคัญ ประเด็นประวัติศาสตร์ที่สำคัญ และบุคคลสำคัญที่มีส่วนสร้างสรรค์ประวัติศาสตร์ไทยในสมัยรัชกาลที่ ๕



คำนำ

E-Book เล่มนี้เกิดจากความสนใจประวัติศาสตร์ไทย ในช่วงรัชสมัย
รัชกาลที่ ๕ เป็นยุคสมัยแห่งการปฏิรูปประเทศไทยในหลากหลายด้าน
ส่งผลให้ประเทศไทยมคี วามเจริญร่งุ เรืองเรอื่ ยมาจนถึงปัจจุบัน

พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ
อันหาที่สุดไม่ได้แก่ปวงชนชาวไทย ทรงมีพระราชกรณียกิจใน
หลากหลายด้าน ส่งผลให้ประเทศไทยมีการพัฒนาจากอดีตมหาศาล E-
Book เล่มนี้จึงจัดทำพระราชประวัติส่วนพระองค์ พระราชกรณียกิจที่
สำคัญ ประเด็นประวัติศาสตร์ท่ีสำคัญในสมัยรัชกาลที่ ๕ และบุคคล
สำคัญที่มีส่วนสร้างสรรค์ประวัติศาสตร์ไทยในสมัยรัชกาลที่ ๕ ทาง
ผู้จัดทำคาดหวังเป็นอย่างสูงท่ีว่า E-Book เล่มนี้จะมีประโยชน์ต่อคนรุ่น
หลังหรือผู้ที่สนใจศึกษาประวัติศาสตร์ไทย หากมีข้อผิดพลาดประการใด
ขออภยั มา ณ ทน่ี ด้ี ว้ ย

นางสาวลักษิกานต์ สังข์สวัสดิ์ เลขท่ี ๒๓
นางสาววริศรา องคเ์ จริญวุฒิ เลขท่ี ๒๕

มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๕/๓

คณะผู้จัดทำ



สารบัญ หน้า

เรื่อง ข
คำนำ ๑
สารบัญ ๒
พระราชประวัตสิ ่วนพระองค์ ๒
พระราชกรณียกจิ ๔

ดา้ นการเมอื งการปกครอง ๗
ดา้ นการป้องกนั ประเทศ ๑๐
ด้านสงั คม ๑๓
ด้านเศรษฐกิจ ๑๓
ด้านศาสนา วัฒนธรรม และภูมิปัญญาไทย ๑๔
ประเด็นประวัติศาสตร์ทส่ี ำคัญ ๑๔
วิกฤตการณ์ ร.ศ.๑๑๒ ๑๕
การเลกิ ทาส ๑๖
เลิกประเพณีหมอบคลาน ๑๖
การสรา้ งทางรถไฟ
การจัดตั้งโรงพยาบาล ๑๗
ใช้ศกั ราชใหม่
บุคคลสำคัญทมี่ ีส่วนสรา้ งสรรคป์ ระวัตศิ าสตรไ์ ทย ๑๗
ในสมัยรชั กาลที่ ๕
สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศ์เธอ ๑๙
กรมพระยาดำรงราชานภุ าพ ๒๑
สมเดจ็ เจา้ พระยาบรมมหาศรีสุรยิ วงศ์ (ช่วง บุนนาค)
บรรณานุกรม





พระราชกรณียกิจ

๑.ด้านการเมืองการปกครอง

๑.๑ การปรับปรุงการปกครองส่วนกลาง
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พ.ศ.๒๔๓๕ ได้
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ตราระเบียบการปกครองขึ้นใหม่ แยก
หน่วยราชการออกเป็นกรมกองต่างๆมีหนา้ ที่รับผดิ ชอบเฉพาะ

กระทรวงมหาดไทย บังคบั บัญชาหวั เมืองฝา่ ยเหนอื และ
ลาว
กระทรวงกลาโหม บงั คับบัญชาหวั เมอื งฝ่งั ตะวันตก/
ออกและมลายู
กระทรวงนครบาล ดูแลกิจการตำรวจ นกั โทษ
กระทรวงวัง ดูแลพระราชวังและเกี่ยวกับ
ตา่ งประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศ ดแู ลเกย่ี วกบั ตา่ งประเทศ
กระทรวงเกษตราธิการ ดูแลด้านการเพาะปลกู คา้ ขาย
ปา่ ไม้
กระทรวงธรรมการ ดแู ลกจิ การของสงฆ์และ
การศกึ ษา
กระทรวงยุติธรรม ดูแลเกยี่ วกับคดคี วามท่ตี ้องตดั สิน
กระทรวงโยธาธิการ ดูแลการก่อสร้าง การทำถนน ขุด
ลอกคคู ลอง
กระทรวงยุทธนาธิการ ดูแลทหารบก ทหารเรือ
กระทรวงพระคลงั มหาสมบัติ ดแู ลภาษีอากร รายรับ รายจ่าย
ของแผ่นดิน
กระทรวงมรุ ธาธิการ ดูแลพระราชลัญกจร กฎหมาย
หนังสือราชการ



๑.๒ การปรับปรุงการปกครองส่วนภูมิภาค
การปกครองแบบเทศาภิบาล มีหลักการและสาระสำคัญ คือ
รัฐบาลทำการปกครองหัวเมืองตั้งแต่ชั้นต่ำสุดถึงชั้นสูงสุด เริ่มต้นด้วย
พลเมืองมีสิทธิที่จะเลือก “ผู้ใหญ่บ้าน” ผู้ใหญ่บ้านประมาณ ๑๐ หมู่มีสิทธิ
เลือกตั้ง “กำนันของตำบล” ตำบลหลายๆ ตำบลมีพลเมืองประมาณ
๑๐,๐๐๐คน รวมกันเป็น “อำเภอ” มีนายอำเภอเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด
หลายอำเภอรวมกนั เปน็ “เมอื ง” มี “ผ้วู า่ ราชการเมือง” เปน็ ผู้ดูแล หลาย
เมอื งรวมกันเป็น “มณฑล”
การปกครองท้องท่ี นอกจากปกครองแบบเทศาภิบาลแล้ว ใน
พ.ศ.๒๔๔๐ รัชกาลที่ ๕ ยังได้ทรงตราพระราชบัญญัติลักษณะการ
ปกครองท้องถิ่นสำหรับการจัดการปกครองระดับอำเภอ ตำบล และ
หมู่บา้ น เพ่มิ ข้นึ ดว้ ย

๑.๓ การปรับปรุงการปกครองส่วนท้องถิ่น
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงได้ริเริ่มจัดการ
“สุขภิบาล” ในเขตกรุงเทพฯ และตำบลท่าฉลอม จังหวัดสมุทรสาคร เพ่ือ
ทดลองใหป้ ระชาชนร้จู กั การปกครองตนเองในระดบั ทอ้ งถ่ินอกี ดว้ ย

ทีม่ า : Facebook สมทุ รสาครพัฒนาเมอื ง -วสิ าหกิจเพื่อสังคม



๒.ด้านการป้องกันประเทศ
นบั แตป่ ระเทศไทยเริม่ เปิดความสัมพันธ์กบั ชาติมหาอำนาจตะวันตก

ประเทศไทยก็เริ่มประสบภัยคุกคาม จากนานาประเทศตะวันตก ทั้งใน
ด้านการทหารและเศรษฐกิจ ทำให้ต้องเสียสิทธิในการเรียกเก็บภาษี
อากร และจำต้องเสียดินแดนบางส่วน เพื่อรักษาเอกราชของชาติไว้ ก็
เพราะการขาดความพรอ้ มดา้ นกำลังทหาร

ภายหลังจากเหตุการณ์ ร.ศ. ๑๑๒ พระบาทสมเด็จพระ
จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงได้ทรงพระราชดำริที่จะเร่งรัดปฏิรูปกองทัพ
สยาม ให้ทันสมัยทัดเทียมชาติมหาอำนาจ เริ่มจากทรงส่งพระราชโอรส
และนักเรียนไทยไปศึกษาวชิ าการทหารในประเทศยุโรป พร้อมกับได้ทรง
ดำเนินพระบรมราชวิเทโศบายทางการเมืองระหว่างประเทศด้วย การ
ผูกมิตรกบั ประเทศรัสเซีย เพ่ือเปน็ การถว่ งดลุ อำนาจอังกฤษและฝร่ังเศส
ซึ่งกำลังแผ่อิทธิพลเข้ามาทั้งทางด้านตะวันตกและตะวันออกของประเทศ
ไทย

ทม่ี า : https://www.thaipost.net/main/detail/35003



๓.ด้านสังคม
๓.๑ การเลิกทาส
เป็นพระราชกรณียกิจอันสำคัญยิ่ง ด้วยพระองค์ทรงเห็นว่ามีทาส

ในแผ่นดินเป็นจำนวนมากและลูกทาสในเรือนเบี้ยจะสืบต่อการเป็นทาสไป
จนรุ่นลูกรุ่นหลานอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ถ้าไม่มีเงินมาไถ่ตัวเองแล้วต้องเป็น
ทาสไปตลอดชีวิต จงึ ประกาศเลกิ ทาสใหท้ าสเปน็ ไท ห้ามคนไทขายตัวเป้น
ทาส ส่วนผู้ที่ยังเป็นทาสให้ลดค่าตัวลงเหลือ ๔ บาทต่อเดือน จนหมด
คา่ ตัวหรือหน้ี

ท่มี า : https://www.springnews.co.th/news/688947
๓.๒ การเลิกไพร่
ในระบบไพร่ทำให้ไม่มีอิสระในการประกอบอาชีพ การโยกย้าย
การตั้งถิ่นฐาน เพราะต้องอยู่ตามสังกัด และเข้าตามเดือนกำหนด ทรง
เริ่มผ่อนคลายจากเข้าเดือนเหลือปีละ ๑ เดือน หรือเสียเงิน ๖ บาท ถ้ามี
การเกณฑ์แรงงานให้ใช้การจ้าง และผู้ชายจะต้องเกณฑ์ทหาร ๒ ปี
ระบบไพร่จงึ สิ้นสดุ ลง



๓.๓ ด้านการศึกษา
โปรดเกล้าฯ ให้มีการตั้งโรงเรียนขึ้นเพื่อให้ประชาชนได้รับ
การศึกษาทั่วกัน เพราะการศึกษาสมัยนั้นส่วนใหญ่ยังศึกษาอยู่ในวัด
เมื่อมีการสร้างโรงเรียนและการศึกษาเจริญก้าวหน้าขึ้นเท่ากับเป็นการ
บ่งบอกถึงความเจริญทางด้านวัฒนธรรมอย่างหนึ่ง จึงโปรดเกล้าฯ ให้
สร้างโรงเรียนหลวงแห่งแรกเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๔๔ และ โปรดเกล้าฯ ให้มี
การสอบไล่สามัญศึกษาขึ้นอีกด้วย เพื่อเป็นการทดสอบความรู้ที่ได้
ศึกษาเล่าเรียนมา นอกจากนี้พระองค์ยังทรงโปรดเกล้าฯ ให้จัดสร้าง
โรงเรียนหลวงขึ้นอีกหลายแห่ง กระจัดกระจายไปตามวัดต่าง ๆ ทั้งใน
ส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โรงเรียนหลวงแห่งแรกที่สร้างขึ้นในวัด คือ
โรงเรียนวดั มหรรณพาราม โรงเรียนหลวงท่ตี ้ังข้ึนมาน้ีเพอ่ื ใหบ้ ุตรหลาน
ของประชาชนทั่วไปได้มีโอกาสศึกษาหาความรู้กัน การศึกษาขยายตัว
เจริญขึ้นตามลำดับด้วยความสนใจของประชาชนที่ต้องการมีความรู้
มากขึ้น จึงโปรดเกล้าฯ ให้โอนโรงเรียนเหล่านี้อยู่ภายใต้การควบคุมของ
กระทรวงศึกษาธิการ มีการพิมพ์ตำราพระราชทาน เพื่อเป็นตำราใน
การเรียนการสอนด้วย

ที่มา : https://siriwarin.wordpress.com



๔.ด้านเศรษฐกิจ
๔.๑ การปรับปรุงระบบการคลัง
แยกการคลังออกจากกรมท่า ให้กรมท่ามีหน้าที่ทางด้านการ

ต่างประเทศเพียงอย่างเดียว ทรงตั้ง หอรัษฎากรพิพัฒน์ ขึ้นเมื่อ พ.ศ.
๒๔๑๖ ขึ้นตรงต่อพระมหากษัตริย์เพื่อเป็น สำนักงานกลางเก็บ
ผลประโยชน์ รายได้ภาษีอากรของแผ่นดินมารวมไว้ทีแ่ ห่งเดียว ต่อมาได้
ยกฐานะหอรัษฎากรพิพัฒน์ ขึ้นเป็น กระทรวงพระคลังมหาสมบัติ เมื่อ
พ.ศ. ๒๔๓๕

ทีม่ า : https://thairevenuestamps.com
๔.๒ ตรากฎหมายกวดขันภาษีอากร
โปรด ฯ ให้ตราพระราชบัญญตั ิสำหรับ หอรษั ฎากรพิพฒั น์ ข้นึ เมื่อ
๔ มถิ นุ ายน ๒๔๑๖ โดยวางหลกั เกณฑ์การเรยี กเกบ็ ภาษอี ากรให้ทันสมัย
ตามแบบสากล



๔.๓ ยกเลิกระบบเจ้าภาษีนายอากร
เปลยี่ นใหเ้ ทศาภบิ าลเก็บภาษเี องเหมอื นกนั หมดทกุ มณฑล
๔.๔ จัดระบบเงินตราใหม่
โดยยกเลิกระบบเงินพดด้วง หน่วยเงิน เฟื้อง ซีก เสี้ยว อัฐ โสลฬ
ตำลึง ชั่ง โดยสร้างหน่วยเงินขึ้นใหม่ ให้ใช้ เหรียญบาท เหรียญสลึง
เหรียญสตางค์ กำหนดให้ ๑๐๐ สตางค์ เท่ากับ ๑ บาท พร้อมทั้งผลิต
เหรียญสตางค์ทำด้วยทองคำขาวมี ๔ ราคา ได้แก่ ๒๐ สตางค์ ๑๐
สตางค์ ๕ สตางคแ์ ละ ๒ สตางค์ครึง่
๔.๕ ตราพระราชบัญญัติธนบัตร
ร.ศ. ๑๒๑ จัดพิมพ์ธนบัตรรุ่นแรก มีราคา ๕ บาท ๑๐ บาท ๒๐
บาท ๑๐๐ บาทและ ๑,๐๐๐ บาท ต่อมาเพม่ิ ชนิด ๑ บาท

ที่มา : http://www.siambanknote.com/banknote-appraisal/th-1st-
series-thaibanknote-price.htm



๔.๖ เปลี่ยนมาตราฐานเงินมาเป็นมาตรฐานทองคำ
ร.ศ. ๑๒๗ เมื่อ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๔๕๑ เพอื่ รกั ษาอตั ราแลกเปลี่ยน
เงนิ ตราไทยให้สอดคลอ้ งกับหลกั สากลทั่วไป
๔.๗ กำเนิดธนาคารแห่งแรก
เดิมเรียกว่า บุคคลัภย์ Book Clup แล้วขอพระราชทานพระบรา
ราชานุญาตจดทะเบียนเปน็ บรษิ ัทให้ถูกต้องตามกฎหมาย มีชอ่ื วา่ บริษัท
แบงค์สยามกัมมาจล ทุนจำกัด ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น ธนาคารไทย
พาณิชย์ จำกัด เม่อื พ.ศ.๒๔๘๒

ทม่ี า : Facebook สาระดีมอี ยู่
๔.๘ สร้างทำนบและประตูน้ำโดยบริษัทเอกชน
ชื่อ บริษัทขุดคลองแลคูนาสยาม รับสัมปทานขุดคลองทั่วประเทศ
และบุกเบิกที่รกร้างบริเวณคลองรังสิตให้เป็นที่เพาะปลูก ส่งเสริมการ
คดั เลอื กพนั ธขุ์ ้าว ตั้งกรมเลย้ี งไหม ตง้ั โรงเรียนช่างไหม

๑๐

๕.ด้านศาสนา วัฒนธรรมไทย ภูมิปัญญาไทย
๕.๑ ชำระและพิมพ์พระไตรปิฎกเป็นอักษรไทย
พ.ศ. ๒๔๓๑ นับเป็นครั้งแรกที่พระไตรปิฎก ได้รับการจัดพิมพ์

ขึ้น ด้วยทรงพระราชดำริว่า เดิมพระไตรปิฎกเขียนด้วยอักษรขอมในใบ
ลาน อ่านยาก ทำได้ช้า สิ้นเปลืองเงินทองและไม่ถูกต้องตรงกันทุกฉบับ
ด้วยเหตุนี้จึงโปรดเกล้าฯ ให้ทั้งฝ่ายพระสงฆ์และฆราวาสร่วมดำเนินการ
ชำระและจัดพิมพ์พระไตรปิฎกฉบับอักษรไทยขึ้น ให้ทันวันฉลองราช
สมบัติครบ ๒๕ ปี ใน พ.ศ. ๒๔๓๖

ท่มี า : https://www.dmc.tv/pages
๕.๒ ให้แต่งหนังสือที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา
ในหลายลักษณะด้วยกัน ได้แก่ หนังสือเบญจศีลและเบญจธรรม
หนังสือเทศนา หนังสือสวดมนต์ หนังสือธรรมจักษุ และหนังสือชาดก
ต่าง ๆ เป็นผลให้ประชาชนได้เรียนรู้หลักธรรมในพระพุทธศาสนาเป็น
หลักปฏิบัติในการดำเนินชีวิต ส่วนพระสงฆ์และสามเณรก็มีคู่มือสำหรับ
ใช้เทศนาและบทสวดมนต์ที่เป็นแบบฉบับเดียวกัน จึงทำให้ประชาชน
เล่อื มใสศรัทธาในพระพุทธศาสนามากขนึ้

๑๑

๕.๓ ด้านการส่งเสริมการศึกษาของพระสงฆ์
รัชกาลที่ ๕ โปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งโรงเรียนสอนพระปริยัติธรรมขึ้น
ตามวัดต่างๆ เพื่อเป็นสถานที่ศึกษาเล่าเรียนของพระภิกษุและสามเณร
ได้ทรงกำหนดให้มีการสอบไล่พระปริยัติธรรมเป็นประจำทุกปี ทรง
ส่งเสริมการศึกษาของพระสงฆ์ทั้งฝ่ายมหานิกายและธรรมยุตินิกาย
โดยโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งสถาบันการศึกษาชั้นสูงขึ้นสองแห่ง คือ มหา
จุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และ มหามกุฎราชวิทยาลัย เพื่อเป็น
สถานศึกษาของพระสงฆ์ฝา่ ยมหานิกายและธรรมยุตนิ ิกายตามลำดบั

๕.๔ การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมการแต่งกาย ทรงผม
- รัชกาลที่ ๕ โปรดใหช้ ายไทยในราชสานัก เลกิ ไว้ผมทรง
มหาดไทย เปล่ยี นเปน็ ไวผ้ มตัดยาวทง้ั ศีรษะอยา่ งฝรั่ง ผู้หญงิ โปรดใหเ้ ลิก
ไว้ผมปกี ให้ไวผ้ มยาว ทรงดอกกระทุ่ม
- รัชกาลที่ ๕ โปรดให้ชายไทยในราชสานกั นุ่งผ้าม่วงสีต่างๆสวม
เสื้อราชปะแตน สวมหมวกอย่างยุโรป
- รัชกาลท่ี ๕ โปรดให้ขา้ ราชการทกุ กรมกองแต่งเคร่ืองแบบ นุ่ง
กางเกงอย่างทหารในยุโรปแทนโจงกระเบน
- การแตง่ กายสตรเี รม่ิ เปล่ยี นแปลงหลังจากรัชกาลที่ ๕ กลับจาก
ประพาสยุโรป ครัง้ ที่๒ โดยสตรีไทยนยิ มสวมเส้ือขององั กฤษ คือ เสอื้ คอ
ตงั้ แขนยาว ต้นแขนพองคล้ายขาหมูแฮม

ท่ีมา : https://www.silpa-mag.com/culture/article_3551

๑๒

๕.๕ การเปลี่ยนแปลงประเพณีการเข้าเฝ้า
รชั กาลท่ี ๕ โปรดเกลา้ ฯให้ยกเลิกประเพณกี ารหมอบคลานใน
เวลาเข้าเฝ้า แต่ใหใ้ ชว้ ิธีถวายคานบั แทนและให้นงั่ เก้าอี้ ไม่ต้องน่งั กับพ้ืน

ท่ีมา : https://www.silpa-mag.com/history/article_39522

๑๓

ประเด็นประวัติศาสตร์ที่สำคัญ

๑. วิกฤติการณ์ ร.ศ.๑๑๒
เกิดขึ้นเมื่อวันท่ี ๑๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๓๖ เกิด “การรบที่ปาก

แม่น้ำเจ้าพระยา” ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของ“กรณีพิพาทไทย-ฝรั่งเศส ร.
ศ. ๑๑๒” เมื่อกองทัพฝรั่งเศสส่งเรือรบ ๒ ลำ คือ เรือแองกองสตองต์
และ เรือโกแมต์ โดยมีเรือสินค้า “เจ. เบ. เซย์” เป็นเรือนำร่อง รุกล้ำฝ่า
สันดอนปากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้ามา หมู่ปืนใหญ่ที่ป้อมพระจุลจอมเกล้า
และหมู่เรือรบซึ่งเป็นแนวป้องกันของไทยได้ยิงสกัดถูกเรือสินค้าเสียหาย
เรือรบของฝรั่งเศสจึงยิงตอบโต้ โดนเรือมกุฎราชกุมารของไทยเสียหาย
จากนั้นเรอื รบฝร่ังเศสท้ังสองก็แล่นฝ่าเข้ามาทีส่ ถานกงสุลฝร่ังเศส ถนน
เจริญกรุง ผลจากการปะทะกันครั้งนี้ ฝรั่งเศสได้บังคับให้สยามลงนาม
ใน “สนธิสัญญาสันติภาพ” สนธิสัญญาฉบับดังกล่าวกำหนดให้สยาม
ชดใช้ค่าเสียหายให้ฝรั่งเศสเป็นเงินจำนวน ๓ ล้านฟรังก์ ตีเป็นเงินไทย
ประมาณ ๑,๕๖๐,๐๐๐ บาท รวมทั้งบังคับให้รัฐบาลสยามยอมสละ
ดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ตลอดถึงเกาะแก่งในแม่น้ำโขงทั้งหมด เป็น
พื้นที่ ๑๔๓,๐๐๐ ตารางกิโลเมตร และฝรั่งเศสได้ยึดเมืองจันทบุรีไว้ใน
อารักขานานกว่า ๑๐ ปี (ระหว่างปี ๒๔๓๖-๒๔๔๗) จนกว่าสยามจะ
ชดใช้ค่าเสียหายจนครบผลจากกรณีพิพาทกับฝรั่งเศสครั้งนี้ทำให้สยาม
ต้อง เสียดินแดนเป็นครงั้ ท่ี ๒ ซ่ึงนบั เป็นการเสยี เน้ือท่ีคร้ังใหญ่ท่ีสุด

ทม่ี า : https://www.silpa-mag.com/this-day-in-history/article_871

๑๔

๒. การเลิกทาส
เกิดขึ้นเมื่อในปี พุทธศักราช ๒๔๑๗ โปรดให้ตราพระราชบัญญัติ

พิกัดเกษียณอายุของลูกทาสตลอด รัชกาลได้ทรงพระราชกาลได้ทรง
ตราพระราชบัญญัติลกั ษณะทาสหลายฉบับ ออกบังคับใช้ในมณฑลต่างๆ
ให้ลูกทาสเป็นไท ประกาศประมวลกฎหมายลักษณะอาญากำหนด
บทลงโทษแก่ผู้ซื้อขายทาสใหม้ ีความผิดเช่น เดียวกับโจรปล้นทรัพย์ ทรง
กระทำเป็นแบบอย่างแก่บรรดาเจ้านายและขุนนางในการบำเพ็ญกุศล
ด้วยการบริจาค พระราชทรัพย์ไถ่ถอนทาสพร้อม พระราชทานที่ทำกิน
เป็นผลให้ระบบทาสที่อยู่คู่กับสังคมไทยมาหลายร้อยปี ก็ได้ถูกยกเลิกไป
จนหมดส้ิน ดว้ ยพระราชหฤทัยแน่วแน่และทรงพระราชอุตสาหะ เป็นเวลา
ถึง ๓๐ ปีก็ทรง ก็ทรงเลิกทาสสำเร็จในพุทธศักราช ๒๔๔๘ สมตามพระ
ราชปณธิ านที่ได้ทรงตัง้ ไว้

๓.เลิกประเพณีหมอบคลาน
เกดิ ข้นึ เมอื่ ในวนั พระราชพิธีราชาภเิ ษก (พ.ศ.๒๔๑๖) เมอื่ เสด็จออก

มหาสมาคมในพระทีน่ ั่งอมรินทรวนิ ิจฉยั หลงั จากเสนาบดีทูลเกลา้ ฯถวาย
ราชสมบัติตามประเพณีแล้ว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อาลักษณ์
อ่านประกาศเลิกประเพณีหมอบคลานเปลี่ยนเป็นยืนเฝ้าทูลละอองธุลีพระ
บาทและถวายความเคารพโดยการถวายคำนับและยกเลิกระเบียบการ
เขา้ เฝ้าอยา่ งเกา่ ที่ใช้มาแตก่ อ่ น

ทมี่ า : https://hilight.kapook.com/view/151260

๑๕

๔. การสร้างทางรถไฟ
เกิดขึ้นเมื่อพ.ศ.๒๔๓๙ รถไฟพาหนะสมัยใหม่อำนวยความสะดวกใน

การเดินทางไปยังหัวเมืองต่างๆในพระราชอาณาเขต รถไฟสายแรก คือ
สายเมืองสมุทรปราการ และทางรถไฟสายแรกไปยังหัวเมืองคือ ทาง
รถไฟสายนครราชสีมา เปิดรับคนโดยสารถึงกรุงเก่าในร.ศ. ๑๑๕ (พ.ศ.
๒๔๓๙) ถึงปากช่องเมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๒ และถึงมณฑลนครราชสีมา ใน ร.
ศ. ๑๑๙ (พ.ศ. ๒๔๔๓) “เราไดร้ ูส้ ึกแน่อยู่วา่ ธรรมดาความเจริญรุ่งเรือง
ของชุมชนย่อมอาศัยถนนหนทางไปมาหากันเป็นใหญ่เป็นสำคัญเมื่อมี
หนทางคนจะได้ไปมาได้ง่าย ได้ไกล ได้เร็วขึ้นเพียงใด ก็เป็นการขยาย
ชุมชนให้ไพศาลยิ่งขึ้นเพียงนั้น...” (พระราชดำรัสตอบในการเริ่มทำทาง
รถไฟสายนครราชสมี า)

ท่มี า : https://www.tnews.co.th/

๑๖

๕. การจัดตั้งโรงพยาบาล
พ.ศ. ๒๔๒๙ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ตั้งคณะกรรมการ

เรียกว่า “คอมมิตตี” จัดการโรงพยาบาลจัดตั้งโรงพยาบาลตามพระ
ราชประสงค์แห่งแรกที่บริเวณวังหลังตอนใต้ เดิมเรียกว่า โรงพยาบาล
วังหลัง ระหว่างที่สร้างโรงพยาบาลมีงานพระเมรุสมเด็จพระเจ้าลูกยา
เธอเจ้าฟ้าสิริราชกกุธภัณฑ์ ทรงแนะนำผู้ประสงค์ช่วยงานพระเมรุช่วย
ในการตั้งโรงพยาบาลเป็นการบำเพ็ญพระราชกุศล แล้วเสร็จทรงพระ
กรุณาโปรดเกลา้ ฯพระราชทานนามวา่ ศริ ิราชพยาบาล

ท่ีมา : https://www.terrabkk.com/articles/

6. ใช้ศักราชใหม่
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ใช้ศักราชใหม่ คือ รัตนโกสินทรศก

ใช้อักษรย่อว่า ร.ศ. แทนการใช้จุลศักราช โดยเริ่มนับรัตนโกสินทร์ศก ๑
ตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน พ.ศ.๒๓๒๕ ซึ่งเป็นเดือนปีที่สถาปนากรุง
รัตนโกสินทร์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน
พ.ศ. ๒๔๓๒ วันขึ้นปีใหม่และเปลี่ยนศักราช จึงถือวันที่ ๑ เมษายน ตั้งแต่
พ.ศ.๒๔๓๒ เป็นต้นมาจนถึงรัชกาลที่ ๖ จึงให้ใช้พุทธศักราชแทน
รัตนโกสนิ ทร์ศก

๑๗

บุคคลสำคัญที่มีส่วนสร้างสรรค์ประวัติศาสตร์ไทย
ในสมัยรัชกาลที่ ๕

๑.สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ

ที่มา : https://www.wikiwand.com/th/%
ประวัติ

พลเอกสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
ประสูติเ มื่อวันที่ ๒๑ มิถุนายน พ. ศ. ๒๔๐๕ พระราชบิดา คือ
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระราชมารดา คือ เจ้าจอม
มารดาชุม่ ท.จ.ว. ทรงดำรงตำแหน่งที่สำคัญทางการทหารและพลเรือน
เช่น ผู้บัญชาการทหารบก อธิบดีกรมศึกษาธิการ องคมนตรีใน
พระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยู่หัว พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า
เจ้าอยู่หัวและพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และอภิรัฐมนตรีใน
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ ๑ ธันวาคม
พ.ศ.๒๔๘๖ รวม ๘๑ ปี

๑๘

ผลงาน
- ทรงบำเพ็ญพระกรณียกิจทั้งทางด้านการเมือง การปกครอง

วฒั นธรรม และประวตั ศิ าสตร์
- ทรงดำรงตำแหนง่ เสนาบดีกระทรวงมหาดไทยคนแรก
- ทรงเปน็ กำลงั สำคัญในการปฏิรูปการปกครองสมยั รัชกาลที่ ๕
- ทรงมีผลงานด้านประวัติศาสตร์ โบราณคดี ศิลปวัฒนธรรม

จำนวนมาก
- ทรงไดร้ บั การยกย่องวา่ เปน็ “ พระบิดาแห่งประวตั ศิ าสตร์ไทย ”

ท่ีมา : http://www.thebookbun.com

๑๙

๒. สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค)

ท่มี า : https://www.baanjomyut.com/library_2/extension

ประวัติ
สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีวงศ์มีนามเดิมว่า ช่วง บุนนาค เป็น

บุตรชายคนใหญ่ของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ กับท่าน
ผู้หญิงจันทร์ เกิดเมื่อวันที่ ๒๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๓๕๑ มีพี่น้องร่วมบิดา
มารดาเดียวกัน ๙ คน แต่ในสุดเหลือท่านกับน้องอีก ๔ คน คือ เจ้า
คุณหญิงแข เจ้าคุณหญิงปุก เจ้าคุณหญิงหรุ่น และพระยามนตรีสุริ
ยวงศ์ (ชุ่ม) เท่านั้นที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่มาด้วยกัน เข้ารับราชการแผ่นดนิ
ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๒ จนถึงรัชกาลที่ ๕ สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ ๑๙
มกราคม ๒๔๒๖ รวม ๗๕ ปี

๒๐

ผลงาน
ท่านมีบทบาทในการอัญเชิญพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า

เจ้าอยู่หัว ขึ้นครองสิริราชสมบัติและได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้สำเร็จ
ราชการแทนพระองค์ นอกจากด้านการปกครองแล้ว ท่านยังมีบทบาท
สำคัญในด้านวรรณกรรม การละคร และดนตรี รวมถึงเป็นแม่กองใน
การก่อสร้าง บูรณะ ซ่อมแซม สถานที่ต่าง ๆ มากมาย เช่น พระนครคีรี
พระอภเิ นาวน์ เิ วศน์ คลองผดงุ กรุงเกษม เปน็ ตน้

ด้านกฎหมายและขนมธรรมเนียม ได้มีการออกพระราชบัญญัติ
ต่าง ๆ ให้การพิจารณาคดีในศาลรวดเร็วขึ้น เช่น กฎหมายลงทะเบียน
ที่ดิน ร่วมกับคณะเสนาบดีร่างถวายทรงทราบเพื่อลงพระปรมาภิไธย
ด้านขนบธรรมเนียมประเพณีได้ริเริ่มประเพณีทำบุญวันเกิดเป็นครั้งแรก
เมื่ออายุครบ ๕๐ ปี คงเริ่มมาจากคำแนะนำของชาวจีน ต่อมา ประเพณี
นีก้ ไ็ ด้แพร่หลายไปในหมู่พระบรมวงศานวุ งศแ์ ละขนุ นาง

ทม่ี า : https://th.wikipedia.org/wiki/%

๒๑

บรรณานุกรม

เนื้อหานำมาจาก
๑. หนังสอื ประวัติศาสตร์ไทย ม.๔-ม.๖. รศ.ณรงค์ พ่วงพิศ และ ร.

ศ.วุฒชิ ัย มูลศลิ ป์. พมิ พ์คร้ังท่ี ๑๖. กรุงเทพมหานคร : อักษรเจรญิ ทัศน์,
๒๕๖๒.

๒. Prasit007. (๒๕๖๒). รัตนโกสินทร์ในชว่ งปรับปรุงประเทศให้
ทนั สมยั . สืบค้นเมื่อ ๒๕ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๔. จาก
https://sarunpongtoppsite.wordpress.com/category/.

๓. Revs. (๒๕๖๔). ส่งิ สะสมไปรษณีย์ อากรแสตมป์ เอกสารเกา่
ของประเทศไทยในอดตี . สืบค้นเมอ่ื ๒๕ มถิ ุนายน พ.ศ.๒๕๖๔. จาก
https://thairevenuestamps.com/.

๔. ไมป่ รากฏชอื่ ผแู้ ตง่ . (๒๕๖๑). รัชกาลท่ี ๕. สืบคน้ เม่ือ ๒๕
มิถนุ ายน พ.ศ.๒๕๖๔. จาก https://sites.google.com/site/konozuba
๑๑๒๓/bthna/rach-kal-thi๕.

๕. หอจดหมายเหตุ. (๒๕๕๙). รชั กาลที่ ๕ พระบาทสมเด็จพระ
จลุ จอมเกลา้ เจา้ อยู่หวั . สบื คน้ เมือ่ ๒๕ มถิ นุ ายน พ.ศ.๒๕๖๔. จาก
http://catholichaab.com/main/index.php/research-and-study/
๒๗๑๕-๑๐-๐๕-๐๒-๔๒-๕๕/๙๔๓-king-๕.

๖. มตชิ นออนไลน.์ (๒๕๖๔). สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสรุ ิ
ยวงศ์ (ชว่ ง บุนนาค) ขนุ นางผู้ ‘ทรงอทิ ธิพล’ แหง่ รัตนโกสนิ ทร์. สืบคน้
เม่ือ ๒๕ มิถนุ ายน พ.ศ.๒๕๖๔. จาก
https://www.matichon.co.th/prachachuen/prachachuen-
scoop/news_๒๕๒๓๘๑๘.


Click to View FlipBook Version